1
ก คำนำ กศน.ตำบลหลักสอง สังกัด กศน.อำเภอบ้ำนแพ้ว จังหวัดสมุทรสำคร ได้จัดทำเอกสำร กำรรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนท่ีเป็นเลิศ Best Practices เร่ืองวัสดุเหลือใช้สร้ำงสรรค์ สร้ำงอำชีพ สร้ำงรำยได้ ประจำปีงบประมำณ พ.ศ.2563 ไตรมำส 1-2 (เดือนตุลำคม–เดือนมีนำคม) โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลกำรปฏิบัติงำนของผู้เรียนกำรศึกษำต่อเน่ือง โครงกำรกำรศึกษำอำชีพ เพ่ือกำรมีงำนทำอย่ำงย่ังยืน รูปแบบกลุ่มสนใจ สำมำรถเป็นแบบอย่ำงท่ีดีของผู้ที่ประสบควำมสำเร็จ ในกำรเรียน เพรำะสำมำรถ นำควำมรู้ไปประกอบอำชีพและสร้ำงรำยได้เสริมให้กับตนเองและ ครอบครัวได้ อีกท้งั ยงั สำมำรถนำควำมรู้ท่ไี ดร้ ับไปเผยแพร่และขยำยผลใหก้ บั ผู้อนื่ ตอ่ ได้ ขอขอบคุณนำงวรภร ประสมศรี รองผู้อำนวยกำรสำนักงำน กศน.จังหวัดสมุทรสำคร รักษำกำรในตำแหน่ง ผู้อำนวยกำร กศน.อำเภอบำ้ นแพ้ว ท่ีใหค้ ำแนะนำ คำปรึกษำในกำรในกำรจัดทำ รำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ิงำนทีเ่ ป็นเลิศ Best Practices ในครั้งน้ี หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรรำยงำนรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนท่ีเป็นเลิศ Best Practices ฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชนต์ ่อผ้ปู ฏิบตั ิ ผู้ที่สนใจและเป็นแนวทำงในกำรดำเนินกจิ กรรมต่อไป นำงสำวสุรนิ ธร นำคคุ้ม ครู กศน.ตำบลหลกั สอง
ข สำรบัญ หนำ้ ก เร่ือง ข คำนำ สำรบญั 1 ช่อื ผลงำน 1 ผิดพลำด! ไมไ่ ดก้ ำหนดบุ๊กมำร์ก 2 ชื่อผู้เขยี น/เจ้ำของผลงำน 2 ควำมสอดคลอ้ งกบั นโยบำย 3 ความเป็นมาและความสาคัญของการปฏบิ ตั ิงานท่เี ปน็ เลิศ(Best Practice) 3 4 วตั ถปุ ระสงค์ 5 กระบวนกำร ข้นั ตอนกำรดำเนินกำร วิธกี ำรและนวัตกรรมทเ่ี ป็น Best Practice 5 5 หลักวชิ ำกำรทน่ี ำมำใช้ 5 กำรดำเนินกำร 6 ควำมสำเร็จท่ีเปน็ จดุ เด่นของโครงกำร/หรือกิจกรรมน้ี 6 รำงวลั แหง่ ควำมสำเร็จของโครงกำร ปัจจยั ควำมสำเรจ็ ข้อคิดควรคำนึงในกำรนำไปขยำยผลหรอื นำโครงกำรน้ีไปทำ สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำน ข้อมูลหลกั ฐำนอ้ำงอิง ภาคผนวก
1 แบบรำยงำนสรปุ ผลกำรปฏิบตั งิ ำนท่ดี ี (Best Practice) กศน.ตำบลหลกั สอง …………………………………………………………………… 1. ชอ่ื ผลงำน / กจิ กรรม วัสดุเหลอื ใช้สร้ำงสรรค์ สร้ำงอำชพี สร้ำงรำยได้ 2. ช่ือผู้เขียน/เจ้ำของผลงำน นำงสำวสุรินธร นำคคุ้ม ครู กศน.ตำบลหลักสอง 3. ควำมสอดคลอ้ งกบั นโยบำย - นโยบำยเร่งดว่ นเพอื่ รว่ มขับเคลื่อนยุทธศำสตรก์ ำรพัฒนำประเทศ 1.ยุทธศำสตร์ด้ำนควำมม่ันคง ข้อท่ี 1.4 ยกระดับคุณภำพกำรศึกษำและสร้ำง เสริมโอกำสในกำรเขำ้ ถึงบริกำรกำรศึกษำ กำรพฒั นำทักษะ กำรสร้ำงอำชีพ และกำรใช้ชีวิตในสังคม พหวุ ฒั นธรรม ในเขตพัฒนำพิเศษเฉพำะกจิ จงั หวดั ชำยแดนภำคใต้ และพน้ื ที่ชำยแดนอน่ื ๆ 2. ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน ข้อที่ 2.1 เร่งปรับ หลักสูตรกำรจัดกำรศึกษำอำชีพ กศน.เพ่ือยกระดับทักษะด้ำนอำชีพของประชำชนให้เป็นอำชีพท่ี รองรับอุตสำหกรรมเป้ำหมำยของประเทศ (First S- curve และ New S- curve) โดยบูรณำกำร ควำมร่วมมือในกำรพัฒนำและเสริมทักษะใหม่ด้ำนอำชีพ (Upskill & Reskill ) รวมถึงมุ่งเน้นสร้ำง โอกำสในกำรสร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ และตอบสนองต่อควำมต้องกำรของตลำดแรงงำนทั้ง ภำคอุตสำหกรรมและกำรบริกำร โดยเฉพำะในพื้นท่ีเขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขตพัฒนำพิเศษตำม ภมู ิภำคต่ำง ๆ ของประเทศสำหรับพื้นท่ีปกติให้พัฒนำอำชีพท่ีเน้นกำรต่อยอดศักยภำพและตำมบริบท ของพ้นื ที่ 3. ภำรกิจต่อเน่ือง ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำและเรียนรู้ ข้อที่ 1.3 (1) จัดกำรศึกษำ อำชีพเพื่อกำรมีงำนทำอยำ่ งยั่งยืนโดยให้ควำมสำคญั กับกำรจดั กำรศึกษำอำชีพเพื่อกำรมงี ำนทำในกลุ่ม อำชีพเกษตรกรรม อุตสำหกรรม พำณิชยกรรม คหกรรมและอำชีพเฉพำะทำงหรือกำรบริกำรรวมถึง กำรเน้นอำชีพช่ำงพื้นฐำนที่สอดคล้องกับศักยภำพของผู้เรียน ควำมต้องกำรและศักยภำพของแต่ละ พื้นที่มีคุณภำพได้มำตรฐำนเป็นท่ียอมรับ สอดรับกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน และกำรพัฒนำ ประเทศตลอดจนสร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน โดยจัดให้มีหนึ่งอำชีพเด่นรวมทั้งให้มี กำรกำกับ ตดิ ตำมและรำยงำนผลกำรศกึ ษำอำชพี เพอ่ื กำรมงี ำนทำอย่ำงเป็นระบบและต่อเน่ือง
2 4. ความเปน็ มาและความสาคญั ของการปฏิบตั งิ านทเ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) จำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ก ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ให้แก่กลุ่มเป้ำหมำยในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ ควำมสำคัญของวิธีกำรปฏิบัติงำนท่ีเป็นเลิศในคร้ังนี้ ได้เกดิ จำก สำนักงำน กศน. ได้กำหนดให้ครู กศน.ตำบลได้ปฏิบัติงำนตำมนโยบำยและจุดเน้นสำนักงำน กศน. ในภำรกิจต่อเน่ือง ข้อท่ี 1.ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรียนรู้ ข้อ 1.3 กำรศึกษำต่อเน่ือง (1) จัดกำรศึกษำอำชพี เพื่อกำรมงี ำนทำอย่ำงยงั่ ยนื เน่ืองจำกในปงี บประมำณ 2562 ไตรมำส 1-2 ที่ผ่ำนมำกศน.ตำบลหลักสองไดด้ ำเนินกำรจัด กำรศกึ ษำอำชพี เพ่อื กำรมีงำนทำอย่ำงยง่ั ยืน หลักสูตรกำรทำพรมเช็ดเท้ำ ให้แก่ประชำชนทั่วไปและมีผู้ นำไปปฏิบัติต่อทำให้เกิดมีรำยได้เพ่ิมขึ้น ดังนั้นใน ไตรมำส 3-4 จึงได้ทำกำรพัฒนำอำชีพต่อยอด กำรเรียนรู้จำกอำชีพดังกล่ำว โดยกำรให้ควำมรู้ในเพ่ิมเติมในหลักสูตรกำรทำเปลจำกห่วงผ้ำยืด และหลักสตู รกำรทำผ้ำมัดย้อม โดยใชว้ ิธีกำรย้อมจำกสีเคมีเพ่ือให้ผู้เรียนได้ทำกำรสร้ำงผลิตภัณฑแ์ ละ สินค้ำแบบต่ำง ๆ ให้แก่ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกของสินค้ำให้มำกขึ้น และเป็นกำรสร้ำงรำยได้เพิ่มให้กับ ผู้เรียน ด้วย ท้ังนี้ จำกผล ปรำกฎ ของกำรจัดกิจกรรมดังกล่ ำวได้พบ ว่ำได้พบว่ำผู้เรียน ที่ยังคงปฏิบัติ และเรียนรู้อยู่อย่ำงต่อเนื่องท่ีสำมำรถนำไปปฏิบัติตำมเป็นแบบอย่ำงได้มี จำนวน 2 รำย คือ นำงสำวนันทวรรณ์ เบีย้ วทงุ่ น้อย และนำงนรรัตน์ ชัยวิชิต ดังนั้นในปีงบประมำณ 2563 น้ี กศน.ตำบลหลักสอง ได้ทำกำรติดตำมผลหลังจำกกำรจัด ของกำรจัดกำรศึกษำเพ่ืออำชพี เพ่ือกำรมีงำนทำอยำ่ งยั่งยืน ต่อเนื่องจำกในปีงบประมำณท่ีผ่ำนมำและ ผู้เรียนมีกำรพัฒนำตนเอง พัฒนำผลงำน และสำมำรถนำไปปรับประยุกต์ใช้ เช่นกำรศึกษำเรื่องของสี ที่ได้จำกธรรมชำติ เชน่ เปลือกมะยม ดอกอญั ชัญ ไม้ฝำง และวัสดุธรรมชำติอีกหลำยชนดิ เพื่อนำมำทำ สีย้อมผ้ำ สำหรับนำมำย้อมสีท่ีสำหรับทำผ้ำมัดย้อม และนำไปย้อมห่วงผ้ำยืดให้มีสีสันสดสัน สะดุดตำ จนทำให้ผู้เรียนมีรำยได้เพ่ิมข้ึนจำกท้ังขำยโดยตรงจำกผู้เรียนเองและกำรขำยโดยผ่ำนช่องทำงกำรขำย ออนไลน์จำกช่องทำง Facebook และ OOCC ของ กศน.อำเภอบ้ำนแพ้ว หลังจำกที่เคยได้รับกำร พัฒนำตนเองในโครงกำรอบรมดิจิตอล ของ กศน.ตำบล หลักสองไปเม่ือไตรมำส 1-2 ปีงบประมำณ 2562 ที่ผ่ำนมำ ผู้เรียนจึงนำควำมรู้ทั้งหมดที่ได้รับกำรพัฒนำตนเองไปพัฒนำเพ่ือให้เกิดรำยได้และ ยังนำควำมรู้ที่ได้รับไปถ่ำยทอดให้กับอ่ืนโดยกำรเป็นวิทยำกรให้กับผู้อ่ืนทั้งจำกหน่วยงำน กศน.และ หน่วยงำนอ่ืน ๆ ทำให้ได้รับควำมน่ำเชื่อถือจำกผู้เรียนในเป็นอย่ำงมำก เพรำะเป็นผู้เรียนนั้นเป็น แบบอย่ำงของผทู้ ี่ประสบควำมสำเรจ็ และสำมำรถนำไปประกอบอำชีพได้จริง 5. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรยี นสำมำรถนำควำมรู้ไปประกอบอำชีพและสรำ้ งรำยได้เสริมให้กับตนเอง และครอบครวั ได้ 2. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นสำมำรถเป็นแบบอย่ำงของผทู้ ่ปี ระสบควำมสำเรจ็ ในกำรเรียนกำรศกึ ษำ อำชพี เพอื่ กำรมงี ำนทำอยำ่ งยั่งยนื 3. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นนำควำมรทู้ ่ีไดร้ ับไปเผยแพร่และขยำยผลใหก้ ับผอู้ ื่นได้
3 6. กระบวนกำร ขนั้ ตอนกำรดำเนินกำร วิธีกำรและนวัตกรรมท่เี ป็น Best Practice ขั้นปัญหำ ครูสอบถำมกับผู้เรียนถึงปัญหำท่ีพบ และได้พบว่ำผู้เรียนประกอบอำชีพ เกษตรกรรม แต่ชอบใชเ้ วลำว่ำงเรยี นรใู้ นเร่อื งของศิลปประดิษฐ์ประเภทต่ำง ๆ จึงมีควำมต้องกำรที่จะ พัฒนำตนเองโดยกำรนำวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ในครัวเรือน หรือกำรนำวัสดุธรรมชำติที่มีอยู่ในท้องถ่ิน มำทำประโยชน์เพ่ือสร้ำงรำยไดใ้ หก้ บั ตนเองและครอบครัวให้มีรำยได้เพิม่ ขึน้ ขั้นวิเครำะห์ปัญหำ ครูนำปัญหำท่ีได้รับมำหำวิธีและแนวทำงในกำรออกแบบวิธีกำรจัด กจิ กรรมกำรเรียนรู้ให้กับผเู้ รียน ขั้นสรุปแนวทำงที่จะแก้ปัญหำหรือพัฒนำ ครูดำเนินกำรส่งเสริมและพัฒนำผู้เข้ำรับ กำรอบรม โดยกำรใช้วงจรคุณภำพ PDCA และแนะนำให้เข้ำรับบริกำรในหลักสูตรกำรทำเปลจำกหว่ ง ผ้ำยืด และกำรทำผำ้ มดั ยอ้ ม และทำกำรตดิ ตำมผลของผู้เรยี น 7. หลกั วิชำกำรทนี่ ำมำใช้ หลักกำรดำเนินกำรที่นำมำใช้ในกำรปฏิบัติงำนได้ใช้วงจรเดมมิ่ง PDCA เพื่อให้นำไปสู่ กำรได้ผลกำรปฏิบัตงิ ำนท่ีดแี ละมีระบบ PDCA คือ วงจรกำรบริหำรงำนคุณ ภำพ ย่อมำจำก 4 คำ ได้แก่ Plan (วำงแผน), Do (ปฏิบัติ), Check (ตรวจสอบ) และ Act (กำรดำเนินกำรให้เหมำะสม) ซ่ึงวงจร PDCA สำมำรถ ประยุกต์ใช้ได้กับทุกๆ เรื่อง นับต้ังแต่กิจกรรมส่วนตัว เช่น กำรปรุงอำหำร กำรเดินทำงไปทำงำน ในแต่ละวันกำรตั้งเป้ำหมำยชีวิต และกำรดำเนินงำนในระดับบริษัท ซ่ึงรำยละเอียดในแต่ละข้ันตอน กำรปฏบิ ตั ิงำนมีดงั น้ี 1. P = Plan (ขัน้ ตอนกำรวำงแผน) ขั้นตอนกำรวำงแผนครอบคลุมถึงกำรกำหนดกรอบหัวข้อท่ีต้องกำรปรับปรุงเปล่ียนแปลง ซึ่งรวมถึงกำรพัฒนำส่ิงใหม่ ๆ กำรแก้ปัญหำท่ีเกิดข้ึนจำกกำรปฏิบัติงำน ฯลฯ พร้อมกับพิจำรณำว่ำมี ควำมจำเป็นตอ้ งใช้ข้อมูลใดบ้ำงเพื่อกำรปรบั ปรุงเปล่ียนแปลงนั้น โดยระบุวธิ กี ำรเก็บขอ้ มูลและกำหนด ทำงเลือกในกำรปรับปรุงให้ชัดเจน ซึ่งกำรวำงแผนจะช่วยให้กิจกำรสำมำรถคำดกำรณ์ส่ิงที่เกิดข้ึนใน อนำคต และช่วยลดควำมสูญเสียต่ำง ๆ ท่ีอำจเกิดข้ึนได้ ทั้งในด้ำนแรงงำน วัตถุดิบ ช่ัวโมงกำรทำงำน เงิน และเวลำ
4 2. D = Do (ขั้นตอนกำรปฏบิ ัติ) ข้ันตอนกำรปฏิบัติ คือ กำรลงมือปรับปรุงเปล่ียนแปลงตำมทำงเลือกท่ีได้กำหนดไว้ในข้ันตอน กำรวำงแผน ซึ่งในขนั้ ตอนนี้ต้องมกี ำรตรวจสอบระหว่ำงกำรปฏิบตั ิด้วยว่ำได้ดำเนินไปในทิศทำงทตี่ ้ังใจ หรอื ไม่ เพ่อื ทำกำรปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลงใหเ้ ปน็ ไปตำมแผนกำรที่ได้วำงไว้ 3. C = Check (ข้นั ตอนกำรตรวจสอบ) ข้ันตอนกำรตรวจสอบ คือ กำรประเมินผลท่ีได้รับจำกกำรปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทรำบ ว่ำ ในข้ันตอนกำรปฏิบัติงำนสำมำรถบรรลุเป้ำหมำยหรือวัตถุประสงค์ท่ีได้กำหนดไว้หรือไม่ แต่ส่ิง สำคัญก็คือต้องรูว้ ่ำจะตรวจสอบอะไรบ้ำงและบ่อยคร้ังแค่ไหน เพ่ือให้ข้อมูลท่ีได้จำกกำรตรวจสอบเป็น ประโยชน์สำหรับข้นั ตอนถดั ไป 4. A = Action (ข้ันตอนกำรดำเนินงำนให้เหมำะสม) ข้ันตอนกำรดำเนินงำนให้เหมำะสมจะพิจำรณำผลท่ีได้จำกกำรตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่ 2 กรณี คือ ผลท่ีเกิดข้ึนเป็นไปตำมแผนที่วำงไว้ หรอื ไม่เป็นไปตำมแผนท่ีวำงไว้ หำกเป็นกรณีแรก ก็ให้นำแนวทำง หรือกระบวนกำรปฏิบัตินั้นมำจัดทำให้เป็นมำตรฐำน พร้อมท้ังหำวิธีกำรท่ีจะปรับปรุงให้ดีย่ิงข้ึนไปอีก ซึ่งอำจหมำยถึงสำมำรถบรรลุเป้ำหมำยได้เร็วกว่ำเดิม หรือเสียค่ำใช้จ่ำยน้อยกว่ำเดิม หรือทำให้ คุณภำพดียง่ิ ขึน้ ก็ไดแ้ ต่ถ้ำหำกเป็นกรณีท่ีสอง คือ ผลทไ่ี ดไ้ ม่บรรลุวัตถปุ ระสงค์ตำมแผนที่วำงไว้ ควรนำ ข้อมูลท่ีรวบรวมไว้มำวิเครำะห์และพิจำรณำว่ำควรจะดำเนินกำรอย่ำงไร เช่น มองหำทำงเลือกใหม่ที่ น่ำจะเป็นไปได้ใช้ควำมพยำยำมให้มำกข้ึนกว่ำเดิม ขอควำมช่วยเหลอื จำกผรู้ ู้หรือเปล่ียนเป้ำหมำยใหม่ เปน็ ตน้ 8. กำรดำเนินกำร ใชก้ ระบวนกำรทำงำนแบบวงจรเดมมิ่ง PDCA P = Plan (ขนั้ ตอนกำรวำงแผน) 1. กำรกำหนดกลมุ่ เปำ้ หมำยในกำรส่งเสริมและพัฒนำ 2. กำรวเิ ครำะห์ควำมเป็นไปได้ในกำรสง่ เสรมิ และพัฒนำ 3. วำงแผนร่วมกบั ชุมชน 4. เสนอแผนกำรปฏิบตั งิ ำน Best Practice ให้ผ้บู ริหำรสถำนศึกษำรับทรำบ D = Do (ขั้นตอนกำรปฏบิ ตั ิ) ปงี บประมำณ 2562 1. จดั กจิ กรรมกำรศึกษำอำชพี เพอื่ กำรมีงำนทำอยำ่ งยัง่ ยืน รูปบบกลมุ่ สนใจ จำนวน 2 หลกั สูตร - โครงกำรกำรจดั กำรศึกษำอำชพี เพื่อกำรมีงำนทำอย่ำงยั่งยืน รูปแบบกลมุ่ สนใจ หลักสูตรกำรทำเปลจำกหว่ งผ้ำยดื - โครงกำรกำรจัดกำรศึกษำอำชพี เพื่อกำรมีงำนทำอยำ่ งยัง่ ยืน รปู แบบกลมุ่ สนใจ หลกั สูตรกำรทำผำ้ มัดย้อม
5 ปีงบประมำณ 2563 2. จดั กิจกรรมกำรศึกษำอำชพี เพ่ือกำรมีงำนทำอยำ่ งยั่งยืน รปู แบบกลุ่มสนใจ จำนวน 1 หลักสูตร - โครงกำรกำรจดั กำรศึกษำอำชพี เพ่ือกำรมงี ำนทำอยำ่ งยั่งยนื รปู แบบกล่มุ สนใจ หลกั สูตรกำรทำผ้ำมดั ย้อม โดยให้ผเู้ รยี นเป็นวิทยำกร ถ่ำยทอดให้แก่ประชำชนท่ัวไปที่สนใจ C = Check (ขนั้ ตอนกำรตรวจสอบ) 1. จำนวนและกำรใชป้ ระโยชน์จำกที่ได้รับกำรอบรม 2. สอบถำมปัญหำท่ีพบในระหวำ่ งเข้ำรบั กำรอบรม 3. กำรติดตำมผลผเู้ รียน A = Action (ขน้ั ตอนกำรดำเนินงำนใหเ้ หมำะสม) 1. เผยแพร่ประชำสัมพันธ์ผ่ำนทำงหน่วยงำนภำครัฐ ผู้นำชุมชนและส่ือออนไลน์ ในรปู แบบของช่องทำง Facebook และ Fanpage Facebook และ 2. ประเมินผล และจัดทำเอกสำรสรุปผลกำรดำเนินงำน ในรูปแบบหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic book) 3. ประชุมสรุปผลจำกกำรดำเนินงำน นำผลท่ีได้จำกกำรสอบถำมและติดตำม ร่วมกันแก้ไขและวำงแผนกำรดำเนินงำนในรูปแบบใหม่ๆ เม่ือพบปัญหำหรือ ตอ้ งกำรสง่ เสริมพฒั นำในดำ้ นต่ำงๆ 9. ควำมสำเรจ็ ท่เี ปน็ จุดเดน่ ของโครงกำร/หรือกิจกรรมนี้ ควำมสำเร็จเปน็ ไปตำมวัตถปุ ระสงค์ท่ไี ดต้ ัง้ ไว้เพรำะผลปรำกฎพบว่ำ 1. ผ้เู รยี นสำมำรถนำควำมร้ไู ปประกอบอำชพี และสร้ำงรำยได้เสรมิ ให้กับตนเองและ ครอบครวั ได้ 2. ผู้เรยี นสำมำรถเปน็ แบบอย่ำงของผทู้ ่ีประสบควำมสำเร็จในกำรเรียนกำรศึกษำอำชีพ เพ่ือกำรมีงำนทำอยำ่ งย่งั ยืน 3. ผู้เรยี นนำควำมรู้ท่ไี ด้รบั ไปเผยแพรแ่ ละขยำยผลใหก้ ับผู้อ่ืนได้ 10. รำงวัลแห่งควำมสำเรจ็ ของโครงกำร - 11. ปจั จัยควำมสำเร็จ 1. ผบู้ รหิ ำรให้ควำมสำคญั และสนบั สนนุ ในกำรจัดกจิ กรรม 2. กำรมสี ว่ นรว่ มของบุคลำกรที่มสี ่วนเกีย่ วข้อง 3. กำรประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีทีเ่ หมำะสม 4. ควำมมีสว่ นร่วมของผู้เรียนในกำรพฒั นำตนเอง 12. ขอ้ คดิ ควรคำนงึ ในกำรนำไปขยำยผลหรอื นำโครงกำรนไี้ ปทำ 1. กำรสำรวจควำมตอ้ งกำรของผ้เู รียน 2. ควำมพรอ้ มของผู้เรยี น
6 13. สรุปผลกำรดำเนนิ งำน จำกผลกำรติดตำมผู้เรียนในปีงบประมำณ 2563 ได้พบว่ำผู้เรียนได้มีกำรพัฒนำตนเอง อย่ำงต่อเนื่องจงึ ส่งผลให้ผู้เรียนมีรำยได้เพ่ิมข้ึนจำกกำรขำยผลิตภัณฑ์สินค้ำของตนเอง เช่น ผ้ำมัดย้อม พรมเชด็ เท้ำและเปลจำกห่วงผ้ำยืด จึงทำให้ กศน.ตำบลหลักสองได้เลง็ เห็นควำมสำคัญของกำรพัฒนำ ผู้เรียนอย่ำงต่อเน่ือง จึงได้ส่งเสริมผู้เรียนด้วยกำรให้นำงสำวนันทวรรณ์ เบี้ยวทุ่งน้อย และ นำงนรรัตน์ ชัยวิชิต เป็นวิทยำกร โครงกำรกำรกำรศึกษำอำชีพเพ่ือกำรมีงำนทำอย่ำงย่ังยืน รูปแบบกลุ่มสนใจ หลักสูตรกำรทำผ้ำมัดย้อม ผลปรำกฏพบว่ำผู้เรียนได้มีกำรพัฒนำศักยภำพ กำรเรียนรู้ของตนเองได้ดีอย่ำงต่อเน่ือง เช่น กำรรู้จักกำรประยุกต์ใช้สีท่ีได้จำกธรรมชำติ วิธีกำรออกแบบของช้ินงำน วิธีกำรถ่ำยทอดให้แก่ประชำชนทั่วไปอีกท้ังผู้เรียนยังได้รับเชิญไปเป็น วิทยำกรท้ังจำก กศน.อำเภอบ้ำนแพ้ว กศน.อำเภอเมืองสมุทรสำคร และจำกหน่วยงำนภำยนอกด้วย ทำให้ผู้เรียนได้มีประสบกำรณ์ทำงกำรสอน และยังมีรำยได้เพ่ิมข้ึนนอกเหนือจำกขำยผลิตภัณฑ์ของ ตนเองอีกด้วย 14. ข้อมูลหลกั ฐำนอ้ำงอิง - ภำพประกอบกำรจัดกิจกรรม หลกั สตู รกำรทำผำ้ มัดย้อม - หลักฐำนกำรแสดงยืนยนั ที่มำของรำยได้เพิ่ม - หลักฐำนกำรแสดงกำรตดิ ตำมควำมก้ำวหนำ้ ในกำรพฒั นำตนเองของผูเ้ รียน โดยทำกำร ตดิ ตำมผำ่ นระบบกำรขำยผ่ำนช่องทำงออนไลน์ จำก Facebook
7 กำรติดตำมผู้เรียนที่เปน็ ตน้ แบบนำไปตอ่ ยอดเพ่อื ใหเ้ กิดกำรสร้ำงรำยไดเ้ พิ่มอยำ่ งตอ่ เน่อื ง กศน.ตำบลหลกั สอง ประจำปีงบประมำณ 2563
8
9 กำรติดตำมผู้เรยี นจำกกำรนำไปตอ่ ยอดเพ่ือใหเ้ กดิ กำรสร้ำงรำยไดเ้ พิม่ กศน.ตำบลหลักสอง ประจำปงี บประมำณ 2562 โครงกำรกำรจดั กำรศึกษำอำชพี เพอ่ื กำรมงี ำนทำอย่ำงยั่งยนื รปู แบบกลุ่มสนใจ หลักสตู รกำรทำพรมเชด็ เทำ้ หลกั สูตรกำรทำเปลจำกห่วงผ้ำยืด และหลกั สตู รกำรทำผ้ำมดั ยอ้ ม
10
11
12 กำรนำควำมรู้ไปพฒั นำเพอื่ สรำ้ งรำยไดใ้ หก้ บั ตนเองและต่อยอดเปน็ วิทยำกรให้กบั ผ้อู ่ืน
13 ภำคผนวก รปู ภำพประกอบกำรจดั โครงกำร คำสง่ั แต่งตั้งวิทยำกร ขออนุญำตจดั โครงกำรกำรจัดกำรศกึ ษำอำชพี เพอ่ื กำรมงี ำนทำอย่ำงย่ังยืน ขออนมุ ัติโครงกำรกำรจัดกำรศึกษำอำชีพเพ่ือกำรมงี ำนทำอย่ำงย่งั ยืน
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: