Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรการทำเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า 1

หลักสูตรการทำเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า 1

Published by jumpajee, 2020-05-09 21:42:55

Description: หลักสูตรการทำเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า 1

Search

Read the Text Version

หลกั สตู รการทาเชอื้ ราไตรโคเดอรม์ ่า โดยนายวงคษ์ กร จาปาจี ครู กศน.ตาบลแม่คามี กศน.อาเภอหนองม่วงไข่

เชอื้ ราไตรโคเดอรม์ ่า จัดเป็นเชอ้ื ราช้ันสงู ที่เจรญิ ได้ดินในดิน เศษซากพืชซากของสง่ิ มชี ีวติ ตา่ งๆรว มทัง้ จลุ ทรยี ์ และวัสดอุ นิ ทรีย์ตามธรรมชาติควบคุมโรคพชื ที่เกิดจากเช้ือราในดนิ วิธีการขยายเช้อื ราไตรโคเดอร์ม่าสด อุปกรณ์ หวั เชอื้ ราไตรโคเดอร์ม่า ข้าวสารเจา้ 3 ส่วน น้าสะอาด ๒ สว่ น ตาชั่ง ถุงขนาด 8x12 น้วิ แอลกอฮอล์ ยางรดั ของ เขม็ หมุด หมอ้ หงุ ขา้ ว กระบอกฉีดน้า

ขน้ั ตอนการทา้ 1. หุงขา้ วโดยใชข้ า้ วสารเจ้า 3 สว่ นตอ่ น้า 2 สว่ น 2. เม่อื ข้าวสกุ คนให้เขา้ กัน แล้วตกั ขา้ วใส่ถงุ พลาสตกิ ขณะยงั ร้อนๆ ปรมิ าณ 250 กรมั เกล่ยี ให้ขา้ วแบน รดี อากาศออกจากถุง พับปากถงุ ไวพ้ ักไว้ให้อนุ่ 3. ใสห่ ัวเชือ้ ลงในถุงข้าวบริเวณท่ีมลี มสงบประมาณ 2 ช้อนชา

4. รัดปากถงุ ให้แนน่ เขย่าให้กระจายทวั่ ถุง 5. ใช้เขม็ หมดุ เจาะรเู พ่อื ให้มีอากาศระบายบรเิ วณใต้ยางรัด ประมาณ 20 – 30 รู 6. วางถงุ ข้าวลักษณะนอนเกลี่ยข้าวให้กระจายตัวบางๆ ดึงบริเวณกลางถงุ ขนึ้ ไมใ่ หต้ ิดกบั ขา้ วให้มีอากาศ ระบายในถุง เก็บในห้องท่ีมีอากาศระบายดี ไมม่ ีแสงแดดสอ่ งถงึ

7. เมื่อครบ 3 วนั เชื้อราไตรโคเดอร์มาเจริญบนขา้ วจบั ตวั กนั เป็นกอ้ น ให้พลกิ ถุงแล้ววางถงุ ในลักษณะ เดมิ ดงึ ตรงกลางถงุ ขนึ้ มาเพ่ือให้มีอากาศเข้าไปบ่มเช้อื ต่ออีก 4 วนั 8. ครบ 7 วนั เช้ือจะมีสปอรส์ ีเขียว สามารถนา้ ไปใชไ้ ด้ทนั ที

วธิ กี ารใช้เช้ือราไตรโคเดอร์มา 1. ผสมปยุ่ คอก ปุ๋ยหมัก รองกน้ หลุม หว่านรอบทรงตน้ ผสมเชอ้ื ราไตรโคเดอรม์ า - เชอ้ื ราไตรโคเดอร์มา 1 กโิ ลกรมั ( 4 ถงุ ) - ร้าออ่ น 5 กิโลกรัม - ป๋ยุ หมัก 40 กิโลกรัม ใชร้ องกน้ หลมุ ปลูก 1 กา้ มอื หรอื หวา่ นรอบโคนต้นหากตอ้ งการนา้ ไปผสมกับวสั ดเุ พาะให้ใช้ เช้อื ราไตรโคเดอร์มาท่ผี สมแล้ว 1 ส่วน ผสมกบั วัสดุเพาะ 4 ส่วน ๒.คลุกเม็ดก่อนปลูกโดยใช้เชือ้ ราไตรโคเดอรม์ า 1 - 2 ช้อนแกง/เมล็ดพนั ธ์ุ ๑ กิโลกรัม น้าไปใสถ่ งุ ใสน่ ้าเล็กน้อย เขยา่ ให้เขา้ กันนา้ ไปผ่ึงสกั ครู่กอ่ นนา้ ไปหว่านป้องกันโรคท่ตี ิดมากบั เมลด็ ได้

๓.ผสมน้าฉดี พ่น เชื้อราไตรโคเดอร์มา 1 กโิ ลกรัม ต่อน้า 100 ลิตร น้าเช้ือราไตรโครเดอร์มา มาผสมกับน้า 2-3 ลติ ร ขยา้ จนสปอร์หลุดออก แล้วใช้ผ้าขาวบางกรองออกเตมิ น้าให้ครบ 100 ลติ ร ผสมสารจับใบน้าไปฉีดพ่นตอนเย็น 4. การใชเ้ ชื้อราไตรโคเดอร์มาในนาข้าว - การน้าเมล็ดข้าวแช่ในไตรโคเดอรม์ า โดยผสมเช้ือราไตรโคเดอรม์ า 1 กิโลกรมั /น้า100 ลิตร ใชแ้ ชพ่ นั ธข์ุ ้าว 24 ชว่ั โมง ยกขึ้นมาบม่ 2 วัน - ระยกลา้ ถึงออกรวง ใชฉ้ ีดพน่ ในเวลาเยน็ 3-5 หลกี เลย่ี งฝนตก แสงแดดจดั

1.ช่วยลดกิจกรรมของเช้ือราสาเหตุโรคพืช ๒.ช่วยลดปริมาณเชือ้ โรคพชื ๓.ชว่ ยเพม่ิ การเจริญเตบิ โต และเพมิ่ ผลผลิตของพชื 4.ชว่ ยเพิ่มความตา้ นทานโรคของพชื เช้อื โรคที่ไตรโคเดอร์มาควบคุมได้ 1.เช้อื ราไรซ็อคโทเนีย (Rhizoctonia spp.) สาเหตุ – โรครากเน่า โรคกล้าเนา่ ๒.เชอื้ ราสเคลอโรเทียม (Sclerotium rolfsii) สาเหตุ – โรคโคนเน่า โรครากเน่า 3. เช้ือราพิเทียม (Pythium spp.) สาเหตุ – โรคเนา่ คอดนิ โรคเมล็ดเน่า โรครากเน่า โรคโคนเนา่ 4. เชือ้ ราไฟทอฟธอร่า (Phytophthora spp) สาเหตุ – โรครากเน่า และโคนเน่า 5.เชื้อราฟวิ ซาเรยี ม (Fusarium spp) สาเหตุ – โรคเหีย่ ว

ข้อควรระวังในการใช้เชื้อราไตรโคเดอรม์ าชนดิ สด  เช้ือชนดิ สดอาจไม่ทนทานต่อสภาพแวดลอ้ มที่เปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็ว เช้อื สดเปน็ เชอื้ ที่ อยใู่ นสภาพพร้อมท่จี ะเจริญอย่างตอ่ เน่อื งตลอดเวลา เม่อื อยู่ในสภาพอณุ หภมู ิปกติ โดยสปอร์ ของเชือ้ ซึ่งมสี ีเขียวเขม้ จะงอกและเจรญิ กลับเปน็ เส้นใยสขี าวใหมอ่ ีกครง้ั เสน้ ใยดงั กล่าวจะ ออ่ นแอต่อสภาพแวดล้อมภายนอกถุงเชอื้ สญู เสียคุณภาพและประสิทธิภาพไดง้ ่ายกวา่ เช้อื ใน รปู สปอร์สีเขียว ดงั นนั้ ข้อจา้ กัดทส่ี า้ คัญประการหน่ึงของเชอื้ สดคอื ต้องนา้ เชื้อสดไปใชท้ ันที อยา่ งไรก็ตาม ถา้ เกษตรกร หรือผใู้ ช้ยังไมพ่ รอ้ มทจี่ ะใช้เชอ้ื สดที่มีอายุครบ 7 วันแลว้ ต้องเก็บ รักษาเช้อื สดไวใ้ นตู้เย็นท่อี ุณหภมู ปิ ระมาณ 8 ถงึ 10 องศาเซลเซียส และไม่ควรเก็บไว้นาน เกินกวา่ 30 วนั  ผใู้ ช้เช้ือสดควรระลกึ ไวเ้ สมอว่า การใช้เชื้อสดใสล่ งไปในดินท่มี สี ภาพแวดล้อมไมเ่ หมาะสม ตอ่ การเจริญและการเพ่มิ ปรมิ าณเชอ้ื เช่น ดนิ เป็นกรดจัดหรอื ดา่ งจัด เกินไป ดนิ มคี วามเค็ม สูง โครงสรา้ งของดนิ หรือเน้อื ดินมีลักษณะแนน่ ทึบ การระบายอากาศและความชนื้ ไมด่ ี ดนิ มี อนิ ทรีย์วตั ถตุ ้า่ อาจท้าให้การใชเ้ ชอ้ื สดไม่ประสบผลสา้ เร็จได้  ควรฉีดพน่ น้าเชือ้ สดในเวลาแดดออ่ น หรอื เวลาเยน็ ในกรณีทไ่ี มม่ ีร่มเงาจากพชื หรอื ไม้ยนื ตน้ บริเวณทีจ่ ะทา้ การฉีดพ่นเลย ควรใช้วัสดอุ ินทรีย์ หรือปุย๋ หมักปยุ๋ คอกหวา่ นปกคลมุ ผิวดิน  ถ้าดนิ บรเิ วณท่จี ะฉีดพ่นน้าเชอ้ื หรือหวา่ นเช้ือแหง้ มาก ควรรดนา้ พอให้ดินมีความชืน้ เสยี ก่อน หรอื รดน้าตามทันทีหลงั ฉีดพน่ หรือหวา่ นเช้ือ เพอื่ ให้น้าพาเชื้อซมึ ลงดินและความชนื้ ในดนิ จะช่วยใหเ้ ชือ้ เจริญได้ดี  ปุ๋ยหมักหรอื ปุ๋ยคอกทเี่ หมาะกบั การใชผ้ สมเช้อื ราไตรโคเดอร์มาชนิดสด ควรเป็นปยุ๋ ท่ีผ่าน กระบวนการหมกั โดยสมบูรณแ์ ล้ว ( เย็นแลว้ ) หรือเปน็ ปุย๋ ทกี่ องทง้ิ ไว้จนเก่าแลว้  ไม่ควรใช้ปุ๋ยหมกั ท่ผี สมด้วยปยุ๋ ยูเรีย  ห้ามใชป้ ยุ๋ เคมแี ละสารเคมีทุกชนิดคลกุ เคล้าหรือผสมร่วมกบั เชื้อสดเพื่อใชพ้ รอ้ มกันทเี ดียว กรณที ตี่ ้องการผสมเชอื้ ราไตรโคเดอร์มาชนดิ สดกับปยุ๋ อินทรีย์- เคมี ( ปยุ๋ อินทรีย์ทผี่ สมดว้ ยปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ) ทั้งชนดิ ผงหรือชนดิ อดั เม็ด ให้ผสมได้ แต่ต้องหว่า นทนั ทีทผ่ี สมเสร็จ ห้ามผสมแลว้ เกบ็ ไว้ในกระสอบ หรอื กองไว้ เพราะเช้ือราไตรโคเดอร์มาอาจไดร้ ั บอนั ตรายจากปุ๋ยเคมี

เกร็ดความรู้เก่ียวกบั เชอื้ ราไตรโคเดอร์มา  ปริมาณเชอื้ ราไตรโคเดอร์มาในดินมหี นว่ ยวัดเป็น หน่วยโคโลนี ต่อกรมั เช่น ตรวจพบเช้อื ราไตรโคเดอรม์ าในดิน 105 หนว่ ยโคโลนี ต่อกรัม หมายความวา่ ในดิน หนัก 1 กรมั มี ปรมิ าณเช้ือราไตรโคเดอร์มาอยู่ 100,000 หนว่ ยชีวติ ( สปอร์ ) ท่จี ะเจรญิ เป็นเส้นใยได้  เชอ้ื ราไตรโคเดอรม์ าที่ใส่ลงดนิ แล้ว จะมีชวี ิตอยู่รอดได้นานหรอื ไม่ ขน้ึ อยูก่ บั สภาพของดิน ดนิ รว่ นซุยดี มีอนิ ทรยี ์วัตถุสูง มใี บไมห้ รอื เศษพชื ปกคลมุ ดินเสมอ เชื้อราไตรโคเดอร์มาจะอยู่ รอดโดยมปี รมิ าณสงู ไดน้ าน 6 เดือน ถึง 1 ปี  เชือ้ ราไตรโคเดอร์มาอยไู่ ด้ในดนิ ลกึ กวา่ 30 เซนตเิ มตรจากผวิ ดนิ แตจ่ ะเจริญสร้างเสน้ ใย เพอื่ ตอ่ สกู้ บั เช้อื โรคพืชได้ดใี นความลึกชว่ ง 5 ถงึ 10 เซนติเมตร จากผิวดนิ  การใช้เชอื้ ราไตรโคเดอร์มาตดิ ต่อกันนานหลายปีไม่ทา้ ให้เช้ือโรคพชื เกิดความต้านทานได้ แตก่ ลับเป็นผลดี คือ จะช่วยปอ้ งกนั โรคพชื ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง  การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาเพียง 1 สายพนั ธ์ุไมไ้ ด้หมายความวา่ จะมีประสิทธิภาพดอ้ ยกว่า การใช้เชอื้ ราไตรโคเดอร์มาหลายสายพันธุ์รว่ มกัน  เชือ้ ราไตรโคเดอร์มาไมเ่ ป็นอันตรายต่อมนษุ ย์ สัตว์ พืชท่ีปลกู และสภาพแวดลอ้ ม  การต่อเชื้อไตรโคเดอรม์ าบ่อย ๆ อาจเกดิ เช้ือกลายพันธท์ุ ีเ่ จริญไดไ้ มด่ ี สร้างเสน้ ใยแตไ่ ม่ สร้างสปอร์สเี ขยี ว และไม่มีประสิทธภิ าพควบคุมโรคได้  กรณีทพ่ี ืชแสดงอาการของโรคข้ันรนุ แรง ควรใชส้ ารเคมี เชน่ เมทาแลกซลิ โฟซีทิลอัล ( อาลีเอท ) กรดฟอสโฟนคิ ( โฟลอี ารฟ์ อส ) แมนโคเซบฯ รว่ มด้วยได้ ถ้าจะใชส้ ารกลุ่มเบโน มลิ หรือคารเ์ บนดาซมิ ควรใชก้ ่อนหรอื หลงั ใส่เช้อื ไตรโคเดอรม์ า 7 วนั  สามารถใช้สารเคมีควบคุมแมลงศัตรพู ชื สารก้าจัดวชั พืช และป๋ยุ เคมี ได้ตามปกติใน ระหว่างการใชเ้ ช้ือราไตรโคเดอรม์ า แตห่ ้ามผสมเชอ้ื กบั สารเคมี  ถ้าดินปลกู พชื เปน็ กรดจัด คือ คา่ pH ต่า้ ( 3.5-4.5 ) จ้าเป็นต้องปรับคา่ pHให้มคี า่ อยู่ ระหว่าง 5.5 – 6.5 กอ่ นการใช้เช้ือราไตรโคเดอรม์ า  เชอื้ ราไตรโคเดอรม์ าพบได้ในดนิ เกษตรกรรมทั้งไป แตไ่ ม่ได้หมายความว่าทุกเชื้อหรอื ทกุ สายพนั ธุ์นน้ั จะมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคได้ ตอ้ งผ่านการวจิ ัยทดสอบเสียก่อน 

ปจั จัยทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ความสาเร็จของการใชเ้ ช้ือราไตรโคเดอรม์ าควบคมุ โรคพืช ประกอบด้วย 1. คณุ ภาพและประสทิ ธิภาพของเชอ้ื ราไตรโคเดอร์มา – ต้องเปน็ เช้อื สายพันธ์ทุ ่ผี ่านการคดั เลือก ศกึ ษาวิจยั ทั้งดา้ นคณุ ภาพ และประสทิ ธิภาพ ควบคมุ โรคมาเปน็ อยา่ งดแี ลว้ – ต้องเปน็ เชอื้ ท่เี จริญสรา้ งสปอร์ได้ดแี ละรวดเรว็ บนวัสดุอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะ อย่างยิง่ วัสดอุ นิ ทรยี ์ทม่ี ีอยู่ในดนิ ตามธรรมชาติ – ต้องสามารถแขง่ ขันและต่อสทู้ า้ ลายเชอ้ื สาเหตโุ รคพชื ได้หลายชนดิ – ต้องดา้ รงชวี ิตอยู่รอดไดด้ ีในสภาพธรรมชาติที่มคี วามแปรผัน – ตอ้ งเปน็ ผลติ ภณั ฑ์เชอื้ ราไตรโคเดอรม์ ามาจากแหล่งผลิตทเี่ ชื่อถือได้ หรอื มหี มายเลข ทะเบียนแสดงการรับรองจากกรมวชิ าการเกษตรบนฉลากและบอกวนั หมดอายุ 2. วิธกี ารใช้ เชื้อราไตรโคเดอรม์ า – ตอ้ งใช้เช้ืออย่างถกู ต้องตามวธิ กี ารปฏิบตั ิและขอ้ ควรระวังท่แี นะนา้ ไว้ – ต้องใช้เชือ้ ตามอัตราทีก่ ้าหนด – ตอ้ งใช้เชือ้ ในช่วงระยะเวลาท่ีเหมาะสมตามค้าแนะนา้ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งใช้เชือ้ เพ่อื ปอ้ งกนั โรค ซ่ึงจะไดผ้ ลดีกว่าการใช้เชือ้ เพ่อื รักษาโรค 3. การจัดการเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม – ปรับปรงุ สภาพดนิ ด้วยอินทรยี ว์ ตั ถุ เชน่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักอย่างสม่้าเสมอ – คลมุ ผวิ ดนิ ด้วยเศษซากพชื เพื่อรกั ษาความชืน้ ในดนิ – ปรบั สภาพความเป็นกรดของดิน ด้วยปูนมารล์ หรือโดโลไมท์ – การขุดดินตากแดด เพอื่ กา้ จดั เชอ้ื โรค – การตัดแตง่ กง่ิ ที่เป็นโรค หรอื แตง่ ให้ทรงพุม่ โปรง่ – การขุดรอ่ งระบายน้า ป้องกนั สภาวะนา้ ขังในพ้ืนท่ีเพาะปลูก สามารถศึกษาผ่านระบบออนไลน์ได้ทีน่ ี่ https://online.pubhtml5.com/vfvp/uyhf/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook