Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มรวบรวมบทความ

เล่มรวบรวมบทความ

Published by Umaporn Wongsrikaew, 2021-04-29 05:50:12

Description: โครงการสัมมนาวิชาการทางศิลปศึกษาในหัวข้อ KEY to success of special needs children in Art classroom : ไขกุญแจห้องเรียนรวมศิลปะ
โดย นักศึกษาศิลปศึกษาชั้นปีที่4 คณะศึกษาศาสตร์ มข.

Search

Read the Text Version

ดังน้ันจะเหน็ ไดว้ ่าวิชาศลิ ปะสามารถมีสว่ นสำคญั และบทบาทในศตวรรษท่ี 21 ได้ หากครูผสู้ อนนำ ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ทสี่ อดคล้องกบั การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 มาใช้ในการจดั การเรียนการสอนโดย ใช้หลกั ที่วา่ เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ เพ่ือให้ผเู้ รยี นรู้จักคดิ วิเคราะห์ หรือเรียนรสู้ ่งิ รอบตัวด้วยเหตผุ ลองคค์ วามรู้ท่ผี เู้ รียน สามารถสบื คน้ ดว้ ยตนเอง และใชส้ ง่ิ ท่ีเรียกวา่ สุนทรียศาสตร์ แทนคำวา่ วาดรปู สวย 44

อนาคตทางการศกึ ษาและการจดั การเรยี นการสอนศิลปะในวกิ ฤติการแพรร่ ะบาด ของไวรัสโควดิ -19 จะเป็นอย่างไรต่อไป? พลพจน์ ฉ่วั ตระกูล จากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควดิ -19 เป็นปัจจัยสำคญั ทที่ ำใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงของ การศึกษาทัง้ ในประเทศไทยและท่วั โลก แนวโนม้ ของการศึกษาไทยในอนาคตจะเปลยี่ นไปอยา่ งไรบา้ ง ใน ฐานะนกั ศึกษาครูอย่างเราจะมีแนวทางการต้ังรบั การเปลี่ยนแปลงนีไ้ ด้อยา่ งไร การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกตอ้ งใชม้ าตรการเพม่ิ ระยะหา่ งทางสงั คม ส่งผลกระทบ โดยตรงต่อสถานศกึ ษาทีต่ ้องปดิ ท่ีทำการชัว่ คราว การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ถือเปน็ ทางเลอื กหนงึ่ ท่ี นำมาใชไ้ ด้ในข้อจำกดั ดังกล่าว แต่การสอนออนไลน์ในรายวชิ าศลิ ปะปฏิบัติน้ันมขี ้อจำกัดหลายด้าน เช่น ความ พร้อมของเคร่ืองมือ อปุ กรณ์การปฏิบัติงาน และสถานที่ในการปฏบิ ตั งิ าน ในขณะนท้ี ีส่ ถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 กลับมาสรา้ งความต่นื ตระหนกให้กับ ประชาชนอีกครั้ง พ่วงด้วยผลกระทบทางดา้ นเศรษฐกิจ ความกา้ วหน้าของชวี ติ รวมไปถึงการเปิดภาคเรยี นใหม่ ของปี 2564 ซึง่ การเรียนการสอนจะต้องกลับมาในรูปแบบออนไลนอ์ ีกคร้งั แมว้ า่ ในครัง้ นี้ ความรสู้ กึ ของ โรงเรียน ครู นกั เรียน ผู้ปกครองอาจเร่มิ คนุ้ ชนิ กับสิง่ นี้ แต่เราทเ่ี ป็นนกั ศึกษาครทู ่ีกำลงั จะออกฝึกปฏิบตั ิการ สอนในปีการศกึ ศกึ ษานีก้ ็ยังเหน็ ปัญหาที่เกดิ ข้นึ จากการเรียนออนไลน์มากมายผ่านทางคำบอกเลา่ ของ ผ้ปู กครองและนักเรียนตามโซเชียลมเี ดียทอ่ี อกมาระบาย หรอื จากการบอกเล่าประสบการณก์ ารฝกึ ปฏิบตั ิการ สอนของรุ่นพีท่ ี่ได้ประสบปญั หาการแพรร่ ะบาดของไวรัสโควดิ -19 ในรอบแรก ทำให้เราตระหนกั ไดว้ ่าปัญหาท่ี เกิดข้นึ จากการเรียนออนไลน์กย็ งั คงมีอยู่ บางเรื่องอาจได้รับการแก้ไข บางเรือ่ งอาจเป็นปญั หาใหม่ บางเร่ืองไม่ เคยไดร้ ับการแก้ไขเลย ได้แต่ทน ๆ ทำไปเทา่ ทที่ ำได้ ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึง่ ในอาจารย์มหาวทิ ยาลัยกลุ่มแรก ๆ ทีเ่ ปลีย่ นมาใช้วิธกี ารสอนนกั ศึกษา ออนไลนต์ ้งั แต่กอ่ นท่รี ฐั บาลจะออกประกาศปิดสถานศกึ ษา ได้กลา่ ววา่ ไม่ใชท่ ุกวิชาหรือทกุ คณะจะเปลี่ยนมา สอนออนไลนไ์ ด้ทัง้ หมด เพราะตอ้ งคำนึงถึงความเหมาะสม และประสทิ ธภิ าพของการสอนทีส่ ำคญั ท่ีสุดคอื ห้องเรยี นออนไลนย์ ังทดแทน \"หอ้ งเรียนออฟไลน์\" หรือห้องเรียนจริง ๆ ไม่ได้ คอื \"ปฏิสัมพันธ”์ แนน่ อนวา่ การเปิดเรียนอีกคร้ังกอ็ าจไม่ใช่ตัวเลอื กที่ดนี ัก จากเคสตัวอยา่ งของประเทศเกาหลีใตท้ ี่ พยายามเปดิ เรยี นด้วยมาตรการการรักษาระยะหา่ ง แตเ่ พียงไม่กว่ี ันหลงั เปดิ เรียนก็ต้องยกเลกิ ไปเพราะมีเคส นักเรยี นตดิ เชอ้ื โควดิ -19 จากทีโ่ รงเรยี น เช่นเดียวกับประเทศไทย แนวโนม้ ของการระบาดระลอก 3 อาจไม่ได้ หายไปเรว็ เทา่ ท่เี ราหวังไว้ ดังนั้น เราจงึ ต้องยอมรับสถานการณ์นี้ หันหน้าเขา้ หาปญั หาและพยายามทำให้การ เรยี นออนไลนเ์ กดิ ผลมากทีส่ ดุ เพือ่ ท่ีจะยงั คงมอบโอกาสทางการศึกษาใหแ้ กเ่ ด็กไทย แตจ่ ากการแพร่ระบาดมา 2 รอบแล้วน้นั ทำให้พบว่า การเรียนออนไลน์น้ัน มีข้อจำกัดเรอื่ งความพรอ้ มสว่ นบคุ คลมากมาย โดยเฉพาะใน 45

โรงเรียนท่อี ยู่ตา่ งจังหวดั ท่ีครูก็ยังไมม่ คี วามคุ้นชินกับเทคโนโลยตี ่าง ๆ ปัญหาอีกอยา่ งท่ีสำคัญคือนักเรยี นไม่มี อุปกรณ์ ไม่มีความพร้อมท่ีจะสามารถเรยี นรู้ในรปู แบบออนไลน์ได้ ในการเรยี นการสอนวชิ าศิลปะน้ันโดยหลกั ๆ แล้วจะเน้นไปท่กี ารปฏิบตั คิ วบคู่ไปกบั การเรยี นเนอ้ื หา ทฤษฎี เพื่อฝึกกระบวนการคิดสร้างสรรค์ซ่ึงการเรียนบางครง้ั อาจต้องได้รบั การแนะนำจากครผู ู้สอน ปญั หาที่ เห็นได้ชัดในการเรยี นศลิ ปะในรูปแบบออนไลน์คือ เราไม่สามารถให้คำแนะนำใหก้ ับนักเรยี นได้อยา่ งทวั่ ถึง ซงึ่ เราอาจจะแก้ไขปญั หาโดยมาพูดคยุ แลกเปลีย่ นกนั ในตอนท้ายคาบกับเพื่อนและครวู ่าปัญหาท่ีแตล่ ะคนพบเจอ น้ันมอี ะไรบา้ ง แต่ในความเป็นจรงิ การเรียนออนไลนใ์ นชน้ั เรียนศลิ ปะสามารถทำได้ดใี นระดบั มธั ยมปลายจนถึง อุดมศึกษา เพราะผู้เรียนมีความพร้อมทางเทคโนโลยี มีวุฒภิ าวะและความรับผดิ ชอบมากพอทจี่ ะเรียนแบบไม่มี คนคอยควบคมุ ได้ ในระดบั ทเ่ี ดก็ วา่ น้นั อาจจะเปน็ ไปได้ยากที่จะทำไดถ้ ้าไม่ใชเ่ ดก็ ท่ีครอบครวั มีความพร้อม พอสมควร ความเหลือ่ มลำ้ ที่เกิดจากโอกาสในการเข้าถงึ เทคโนโลยที ี่ไม่เทา่ เทยี มมเี ห็นได้มากมายในประเทศ ไทย การเรยี นออนไลนเ์ ปน็ หน่งึ ในวิธแี กป้ ญั หาอย่างเรว็ แตก่ ารทจ่ี ะทำเชน่ นี้ได้ ประเทศนัน้ ต้องมโี ครงการการ สอื่ สารและอนิ เทอร์เนต็ ท่ดี ีและราคาถกู ทุกคนเขา้ ถงึ ได้ แต่ตอ้ งยอมรับวา่ ในประเทศทยี่ ังไม่พัฒนา และ ประเทศกำลงั พัฒนา เชน่ ประเทศไทยที่ยงั ไม่ได้พฒั นาโครงสรา้ งพื้นฐานตอบรับเทคโนโลยีเหล่านี้ การเขา้ มา ของการเรียนออนไลน์ ยง่ิ ทำให้เดก็ ยากจนและผ้ทู ่ีเข้าไม่ถงึ เทคโนโลยนี ัน้ ถกู ละท้ิงและมองขา้ มไป ท้ังการเรียนออนไลนแ์ ละในการเรียนในช้นั เรียนจริง ต่างก็จะมีข้อดแี ละข้อเสียท่ีต่างกนั ทั้งนีท้ ง้ั นนั้ ก็ ขนึ้ อยู่กับบริบทต่าง ๆ ว่าเหมาะสมกบั สถานการณ์โลกในปัจจุบนั ความพร้อมทางเทคโนโลยี หรอื บรบิ ทของ โรงเรียน ครู นักเรียน และเนื้อในการเรียนการสอนอกี ดว้ ย การเรียนออนไลน์ไม่ใชเ่ รื่องยากถ้าหากเราทุกคน รู้จกั ปรับตัวตามสถานการณ์ท่ีเปลี่ยนไป การระบาดของไวรสั โควดิ -19 นี้ ทำใหเ้ ราได้เตรียมความพร้อมสำหรบั การเรยี นการสอนในอนาคตให้เรว็ ขน้ึ แตก่ ็ปฏเิ สธไม่ไดว้ ่าทั้งครูและนักเรียนนน้ั ลว้ นคดิ ถึงบรรยากาศการเรยี น การสอนแบบเดมิ ที่ทกุ คนมปี ฏสิ ัมพนั ธ์กนั เดก็ ๆได้เติบโตไปพร้อม ๆ กันตามชว่ งวัย ในอนาคตเราอาจจะไดเ้ ห็น รูปแบบห้องเรียนผสมผสาน ท้งั การเรียนแบบดั้งเดิมและการเรียนออนไลนค์ วบคู่กนั ไปอย่างสมบรู ณ์ อ้างอิง AKSON. (ม.ป.ป.). เมื่อเกดิ ความเปล่ียนแปลงของโลกการศึกษาจากวิกฤติ โควดิ -19 แล้วอนาคตทางการศึกษา จะเป็นอย่างไรต่อไป? เรียกใช้เมอ่ื 7 มนี าคม 2564 จาก AKSON:https://ev.turnitin.com/app/ carta/en_us/?u=1116807667&s=&student_user=1&session-id=cb01360965b24ec1acf 47e3715 124ac6&lang=en_us&o=1563544978 gnite thailand. (28 มกราคม 2564). ไขความลับ(ท่ีไม่ลบั )…ทำไมตา่ งประเทศถงึ เรียน ‘ออนไลน์’ ไดส้ ำเร็จ? เรยี กใชเ้ มอ่ื 7 มนี าคม 2564 จาก ignite thailand: https://www.ignitethailand.org/content /6276/ignite?fbclid=IwAR0oG8ZoLHtnGzRQdRGRio3YDq 46

47

การศกึ ษาไทยหรอื ใครกนั ทีท่ ำให้คณุ ภาพเด็กไทยแยล่ ง พมิ ลพรรณ แสนนาม จากการรับฟังข่าวที่เผยแพรท่ างสอื่ มวลชนเกย่ี วกับคุณภาพการศึกษาที่แยล่ งและแยย่ ง่ิ กว่าประเทศ เพอ่ื นบ้านไม่ว่าจะเปน็ วิชาวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ภาษาอังกฤษแมก้ ระท่ังวิชาภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาของเรา เองกย็ ังแย่ และก็ยงั คิดว่าศิลปะเป็นวชิ าทไี่ ร้สาระและไร้ประโยชนท์ ้ังที่ศิลปะสามารถบูรณาการได้กบั ในทุกๆ วิชาก็ตาม ทำใหว้ ชิ าศิลปะอาจจะถกู เบียดบงั จากวิชาอน่ื ตามไปด้วย เมื่อมาวิเคราะห์ดูทำให้ทราบวา่ ครูเอาเวลาส่วนใหญไ่ ปทำงานอยา่ งอืน่ ท้งั ทีเ่ ปน็ งานสว่ นตัวและงาน ราชการและนอกจากนหี้ ลกั สูตรการศึกษาของไทยในบางส่วนนน้ั ยงั มีความลา้ หลงั และไม่มีการอัพเดต ครูไม่ ศกึ ษาและพฒั นาให้ก้าวทนั ต่อโลกในยุคโลกาภวิ ัฒน์ ครเู อาเวลาไปทำผลงานทางวิชาการ เพือ่ เสนอขอตำแหนง่ ทางวชิ าการ เช่นครูคศ.3 หรือ 4 และ 5 ท่สี ูงขน้ึ ไปอีกแต่เราลองมาคดิ และมองดูอีกมุมเป็นเสมือนภาพทย่ี ้อน แย้ง เราคดิ ว่าถ้าโรงเรียนมีครูท่เี ช่ียวชาญมากขึน้ นั้น ความสามารถในการสอนหรอื สอนเก่งก็จะทำให้เด็กเกง่ ตามไปดว้ ย แต่มองอกี มุมในบางโรงเรยี นท่มี าครูคศ.3เยอะ แต่ทำไมเดก็ ยังคณุ ภาพแย่ลงสวนทางกัน เด็กก็ยัง อา่ นไมอ่ อก เขยี นไม่ได้ คดิ เลขไม่เป็น สดุ ท้ายแล้วผลของท่ีทเ่ี ราไดเ้ หน็ น้ันก็ตกลงสนู่ ักเรียนท้ังส้ิน การเปน็ คศ.3 หรือ 4 และ 5 น้ันก็ไม่สาารถเป็นตวั กำหนดไดว้ า่ คุณจะเปน็ ครทู ีม่ คี ุณภาพและพฒั นาเดก็ ได้ และใครเป็นผ้สู รา้ ง กฎเกณข์ ้อบงั คับนขี้ น้ึ มา ถ้าเรายอมรับไดว้ ่าการทำผลงานวิชาการของครูนนั้ ส่งผลเสียไปสตู่ ัวนกั เรยี นกค็ วรท่ีจะ ยกเลิกหรอื ไม่ หรือวิธีใดทีจ่ ะคดิ หาวธิ ีประเมินโดยไมต่ ้องให้ครทู ิง้ ห้องเรียนไปทำงานราชการหรอื งานส่วนตวั แตก่ ลับจะต้องอยูห่ อ้ งเรยี นมากขึน้ ทุ่มเทการสอนเด็กมากย่ิงขน้ึ อย่างต่อมาคอื ครเู อาเวลาไปทำงานท่เี กี่ยวกับการประกนั คุณภาพการศึกษา ครูต้องใชเ้ วลาในการ รวบรวม เอกสาร หลักฐานต่าง ๆ (ทงั้ จริงและสร้างขึ้น) เพื่อจัดทำเปน็ รูปเล่ม เปน็ แฟ้มตามมาตรฐานและตวั บง่ ชต้ี ่าง ๆ มากมาย ถา้ เปน็ โรงเรียนเล็ก ๆ ทม่ี จี ำนวนครูไม่กค่ี น ครูแตล่ ะคนกต็ อ้ งเอาเวลาไปทำตวั บ่งชแี้ ลว้ จะ เอาเวลาทไี่ หนไปสอนนักเรยี นหรอื วนั ไหนย่ิงเข้าใกลว้ นั ประเมินบางโรงเรียนถึงกับต้องหยุดโรงเรยี นหยุดการ เรียนการสอนเพือ่ เตรียมการต่าง ๆ มากมายต้อนรบั กรรมการที่จะมาประเมิน สิ่งท่ีกรรมการสถานศึกษาเห็นแต่ ละคร้งั คือผักชโ้ี รยหน้าการสร้างสรรคป์ ัน้ แตง่ ขึน้ มาทั้งน้ัน นอกจากครตู ้องใช้เวลาในการจัดทำเอกสาร รายงาน ตา่ ง ๆ สำหรบั รอรับการประเมนิ แลว้ ครตู ้องเขา้ ประชมุ อบรมสมั มนาทั้งโรงเรยี นภายในโรงเรียนภายนอกเพ่ือ สรา้ งหลกั ฐานตามตวั บ่งชี้ในมาตราฐานของการประกนั คุณภาพการศึกษา จากท่ีกล่าวมาเราจะเหน็ ได้ว่าครูจะ เอาเวลาท่ไี หนมาอยู่ในหอ้ งเรียนกบั เด็กให้ได้นาน ๆ เพราะได้เอาเวลาไปทำอยา่ งอื่นหมดแล้วจะโทษใคร กฎ ระเบียบ คนออกกฎ ตัวสถานศึกษา หรือเขตพนื้ ท่ีการศึกษาที่มอบภาระงานมาใหค้ รูมากมายขนาดน้ี จนบางที ก็สงสัยว่ามันถกู แล้วหรอื มนั ดีแล้วหรอื กับส่ิงท่ีต้องทำ ซงึ่ ตัวผเู้ ขียนก็ได้เรียนวิชาประกันคุณภาพการศึกษา ก็ได้ 48

คดิ ว่าถ้าครูหรือสถานศึกษาต่าง ๆ เอาเวลาทีท่ ุ่มเท ผักชีโรยหนา้ ไปทุ่มเทในการสอนโดยไม่หวังผลของโรงเรยี น แตเ่ ด็กคือคนทีส่ ำคัญทส่ี ดุ ทค่ี วรพัฒนา ควรใหเ้ วลา ให้ความรู้ คณุ ภาพเด็กไทยจะดีมากข้นึ กวา่ นี้หรือไม่ นอกจากนต้ี วั หลักสูตรยงั ไมม่ ุ่งเน้นการพัฒนาในตวั ผ้เู รียนทำให้ในบางครั้งครูไมท่ ราบว่าแท้จรงิ แลว้ นน้ั เดก็ ตอ้ งการอะไร และในการเรียนในสมยั น้ีหลกั สตู รการศึกษาไทยนั้นยังใชเ้ กณฑค์ ะแนนต่าง ๆ ของนักเรยี นใน การสอบแต่ละคร้งั มาเปน็ ตวั วดั ผลของโรงเรียนวา่ โรงเรียนในมเี ด็ก เกง่ กลาง อ่อน มากกวา่ ทำใหไ้ ม่ทราบได้ แท้จริงวา่ เดก็ แตล่ ะคนต้องการอะไรเพราะนักเรยี นทุกคนไมใ่ ชว่ า่ จะถนดั เหมือนกนั บางคนชอบงานชา่ ง บาง คนชอบวาดรูป บางคนชอบวทิ ยาศาสตร์ แตห่ ลกั สตู รการศึกษาไทยน้นั ใช้มาตรฐานเดยี วมาวดั นักเรยี นทงั้ ประเทศ และในบางครงั้ ก็ยังมีบรรทดั ฐานทางสังคมมาวัดตัวเดก็ อีกที ท่ีใหเ้ ด็กเรยี นสาย วิทยค์ ณิตคอื เก่งแตส่ าย ภาษาคืออ่อน บางที่บอกใหเ้ รยี นสายวิทยค์ ณิตเพื่อจะได้เลือกคณะได้มากมายหลากหลายทั้งที่ในบางคร้งั ตวั เด็ก เองก็อยากท่จี ะเรยี นในสายภาษาและประเทศไทยยังใหค้ ุณค่ากับอาชพี หมอมากกว่าอาชีพอนื่ ๆ หรอื แม้กระท่ัง ศิลปะคนส่วนใหญ่กไ็ มอ่ ยากให้ลกู เรยี นเพราะคิดว่าจะเป็นศิลปินไสแ้ หง้ จบไปแล้วจะทำงานอะไร ทำให้ครหู รอื ผปู้ กครองเหน็ วา่ เด็กทส่ี อบติดคณะสายสุขภาพน้ันถือเป็นสำคญั มากกว่าเด็กท่ีได้คณะอ่ืนอกี ดว้ ยทำให้ไม่มีการ เปดิ กวา้ งและ รบั ฟงั ในหลักสตู รการศึกษาท่นี า่ สนใจอื่น ๆ อกี ด้วย ทำให้ในบางครั้งเด็กก็ไมส่ ามารถเช่อื ม่นั ใน ความคิดตนเองแตเ่ ลือกแต่จะทำตามที่ครูหรอื ผูป้ กครองต้องการแม้จะเปน็ ส่งิ ที่ไม่ถนดั และอาจจะถงึ ขัน้ ท้อและ ไมอ่ ยากท่จี ะเรยี นต่อก็มี จากทีก่ ล่าวมากอ็ ยากจะให้ราบวา่ การศึกษาไทยหรอื ใครกันแนท่ ท่ี ำให้คณุ ภาพของเดก็ ไทยแย่ลง สถานศกึ ษา ครู ผ้ปู กครอง หรือตัวนกั เรียนเองหรือประเทศไทยใหค้ วามสำคัญกับคำว่าการพัฒนาการศึกษา มากกว่าการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน อา้ งอิง บุญมี พันธ์ไุ ทย.2552.ใครทำให้คุณภาพเด็กไทยแย่ลง.[ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ท่มี า https://nawaporn.files.wordpress.com.( 09 เมษายน 2564 ) 49

ปญั หาของหลักสูตรและการจัดห้องเรยี นศิลปะในปจั จุบัน รัตนมณี คงคูณ “การสอนของครผู สู้ อนศลิ ปะส่วนใหญใ่ ชว้ ธิ สี อนทเ่ี คยปฏิบตั ิมา หรือสอนตามประสบการณ์ของ ครูผู้สอนโดยมักจะส่งั ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ติ ามยดึ ครเู ปน็ ศูนย์กลาง นกั เรียนจะไม่มโี อกาสไดแ้ สดงออกท้งั ความคิด และการเร่ิมสรา้ งสรรค์” ในปจั จุบันปฏิเสธไม่ได้เลยวา่ ครผู สู้ อนส่วนใหญย่ ังไมเ่ ปลยี่ นพฤติกรรมการสอนท่ียงั เน้นให้นักเรยี น ปฏิบัตติ ามคำสั่งไมส่ ่งเสรมิ ใหเ้ ด็กสร้างงาน ศลิ ปะตามความรู้สกึ นึกคดิ ของตนเองงานศลิ ปะท่ีแสดงออกจึงมี ลักษณะคล้ายคลึงกนั เปน็ ส่วนใหญ่ เนือ่ งจากครูผู้สอนไมม่ วี ิธกี ารโนม้ นา้ วใหน้ ักเรยี นเกดิ ความคดิ เกิด จนิ ตนาการซง่ึ ในการจัดการเรียนการสอนศิลปะนน้ั วริ ณุ ต้ังเจรญิ (2542: 51) ให้ความเห็นว่า การจดั ประสบการณ์ทางศิลปะใน ระดับประถมศึกษาน้นั นอกจากจะสรา้ งสมรรถภาพทางความคิดและ ทักษะในการ สร้างสรรค์ศลิ ปะตามความสามารถเฉพาะตนแลว้ ยงั จำเปน็ ตอ้ งสรา้ งเสรมิ ทัศนคติอนั ถูกต้องแก่ผ้เู รียนด้วย ศลิ ปวฒั นธรรม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมส่ิงเหลา่ นี้ จะเสรมิ สร้างบุคลิกภาพอันดงี าม เกดิ ผลทางจรยิ ธรรมใน สังคมและเป็นพฤติกรรมที ตอบสนองความ เจรญิ เติบโตทางรา่ งกายและสมองอีกดว้ ย มุง่ เน้นผู้เรยี นเปน็ ศูนยก์ ลางให้ผู้เรยี นไดป้ ฏิบัตจิ ริงจากสื่อและวสั ดกุ ารเรยี นรู้จากสภาพทเี่ ป็นจรงิ มุ่งพัฒนาผเู้ รยี นเต็มตาม ศกั ยภาพใหผ้ เู้ รียนเรียนอย่างมีความสขุ และผูเ้ รยี นเกง่ ดีมีความสขุ ความสำคญั ของหลกั สตู ร หลักสูตรเปรียบเสมอื นตัวแม่บทหรอื หวั ใจของการศึกษาที่ถอื เปน็ แก่นสำคัญในการวางแนวทางการจดั การศึกษา เป็นตวั กำหนดทิศทางของการศกึ ษาในการท่ีจะใหค้ วามรู้ การเสรมิ สรา้ งเจตคติ เพอ่ื ผเู้ รยี นเกิดการ พฒั นารอบด้าน คุณภาพของประชาชนจะดีหรอื ไม่ขึน้ อยู่กับหลักสูตรนน้ั ๆ และหลกั สตู รเป็นโครงการและ แนวทางในการใหก้ ารศึกษาเพราะหลกั สตู รจะบอกให้ทราบวา่ การจกั การศึกษานั้นมวี ตั ถุประสงค์อยา่ งไร จะ จดั การเรียนการสอนอย่างไร หลกั สตู รจะบอกให้ครรู ู้ว่าควรพฒั นาผู้เรยี นด้านใดจะสอนด้วยเนื้อหาสาระอะไร และควรจดั กจิ กรรมหรือประสบการณ์ใดให้บรรลุวตั ถุประสงคท์ ่ีวางไว้ หลักสตู รศลิ ปศึกษา การจดั การเรียนการสอนตามแนวคิดพหศุ ลิ ปศกึ ษาเชิงแบบแผน (DBAE) แนวคิดพหุศิลปศกึ ษาเชงิ แบบแผน (DBAE) วา่ การศึกษาและศลิ ปศึกษากระแสสากลใน สหรัฐอเมรกิ าและยุโรป ช่วงกลางครสิ ต์ศตวรรษ ท่ี 20 เปน็ กระแสของการศกึ ษาแบบพิพฒั นาการนิยม (Progressivism) ท่ีสอดผสานกับกระบวนการเสรีภาพ ลัทธิสมยั ใหมใ่ นสังคมมีการเรียนการสอนแบบยึดเด็กเปน็ ศูนย์กลาง การสอนศลิ ปะในโรงเรยี น ควรเปน็ รปู แบบ บูรณาการเน้ือหา ความรู้ ท้งั 4 แกน ได้แก่ ศลิ ปะปฏบิ ตั ิ (Art Production) สนุ ทรียศาสตร์ (Aesthetics) ศิลปะวิจารณ์ (Art Criticism) ประวัติศาสตร์ศลิ ปะ (Art History) หรอื เรียกว่า การเรยี นการสอน แบบ DBAE 50

(Discipline-Based Art Education) เป็นศาสตรท์ ่ีเกื้อหนุนกนั และกนั Jones and Runyan (1986 : 42-43) กล่าวถงึ การพฒั นาหลกั สูตรศิลปะ สำหรับระดับอนบุ าลถงึ มธั ยมศกึ ษาตอนปลายในโรงเรยี นรัฐบาล ในเมือง เวอรจ์ ิเนียบีช โดยใช้ แนวทางพหศุ ิลปศึกษา (DBAE) มีเปา้ หมาย 5 ประการ ทสี่ ะท้อนให้เหน็ ถงึ การบรู ณาการ ทัง้ 4 แกน คือ 1. การรับรู้และความเฉียบไว (แกนสนุ ทรยี ศาสตร์) 2. การศกึ ษาศลิ ปนิ และผลงานศลิ ปะ (แกนประวตั ิศาสตรศ์ ิลป)์ 3. การทำงานศิลปะ (แกนศลิ ปะปฏิบตั ิ) 4. ศลิ ปะวิจารณ์ (แกนศิลปะวิจารณ์) 5. ส่วนประกอบตา่ ง ๆ และองคป์ ระกอบของการออกแบบ ข้าพเจ้าได้ศึกษาเอกสารงานวจิ ยั ท่ีเกยี่ วขอ้ งในกลุ่ม สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ สาระทัศนศิลป์ ซ่งึ เดิมนน้ั จะเรียกวา่ วิชา ศิลปศกึ ษา และการจดั การเรียนการสอนสาระทัศนศลิ ป์สามารถสรปุ ไดว้ ่า กล่มุ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระทัศนศิลป์ เป็นสาระทมี่ ีบทบาทสำคญั ในการพัฒนารา่ งกายสตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คมแก่เดก็ แต่สภาพการจดั การเรียนการสอนยงั คงมปี ัญหาอยู่มากสว่ นใหญเ่ น่ืองจาก ครผู สู้ อนขาดความร้คู วามสามารถ เฉพาะทาง ไมม่ ีทักษะในการปฏบิ ัติ ไม่นาํ เทคนิคการสอนที แปลกใหม่และเหมาะสมสัมพนั ธ์กบั บทเรียนมาใช้ ไมส่ ามารถสร้างส่อื การสอนท่ีมคี ุณภาพได้ การวดั และประเมนิ ผลไม่ตรงกบั จุดประสงคข์ องหลกั สตู รเปน็ สาเหตุ ใหก้ ารจัดเรียนการสอนศลิ ปะในช้นั เรยี น และปัญหาสว่ นใหญท่ ่ีพบในปัจจบุ นั มดี งั น้ี - ด้านหลักสตู ร โรงเรียนขนาดเล็กมปี ัญหาระดบั มากทสี่ ุด ไดแ้ ก่ ปญั หาของครใู นการปรับหลักสตู รไป ใช้ใหเ้ หมาะสมกับสภาพปจั จุบันไดน้ ้อย ปญั หาครนู ําจุดประสงค์ท่ีกำหนดในหลักสตู รสาระศิลปะไปพฒั นา บคุ ลกิ ภาพ ปัญหาครไู มค่ ่อยเข้าใจการจัดกิจจกรรมกระตนุ้ เรา้ ให้อยากเรยี น ปัญหาโรงเรยี นมีเอกสารหลักสูตร ไมเ่ พยี งพอ และปญั หา ครูไมเ่ ขา้ ใจความมุ่งหมายของหลักสตู ร ซง่ึ ปัญหาทกี่ ล่าวมาอยู่ในระดบั มากที่สุด สว่ น โรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ มีปัญหาอยู่ในระดับมาก - ด้านเนอ้ื หา โรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ มปี ัญหาอยูใ่ นระดบั มาก และพบว่าครไู ม่ เขา้ ใจเน้อื หาการป้นั และการแกะสลักในโรงเรยี นขนาดเล็ก - ด้านการสอนตามแผนการสอนโรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหามากทส่ี ดุ ได้แก่ ปัญหาการกำหนดข้ันตอน ในการปฏบิ ัตเิ พื่อพัฒนาทักษะการทำงานน้อยครูวางแผนการสอนไม่ตรงกบั จดุ ประสงค์ของหลักสตู รกิจกรรม การเรยี นการสอนไม่สอดคล้องกับเนื้อหาและเวลาท่ีกำหนดในโครงสร้างของหลกั สูตรกิจกรรมการเรียนการ สอนไมส่ ่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเรียนรกู้ ระบวนการแกป้ ญั หาการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนไมค่ รบเนอื้ หาสาระตาม หลกั สูตรกำหนดและปญั หาโรงเรียนมีแหล่งคน้ ควา้ ความรู้ด้านศลิ ปะไมเ่ พยี งพอ - ดา้ นสื่อการสอนโรงเรยี นขนาดเล็กมีปญั หามากทสี ดุ ได้แก่ ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นมีสว่ นร่วมในการ เตรยี มสอื่ นอ้ ยครใู ช้สอื่ ไม่สอดคล้องกับเนอ้ื หาและกิจกรรมการสอนครูไม่มีเวลาในการปรับปรุงสอ่ื ใหใ้ ช้ได้อย่าง 51

มปี ระสิทธิภาพ ครูมเี วลาในการผลิตสือ่ การเรยี นการ สอนน้อย และปัญหาส่ือการเรียนการสอนไม่ตรงกับ เนอ้ื หา - ดา้ นการวัดผลและประเมนิ ผลโรงเรียนขนาดเล็กมีปญั หามากที่สุด ไดแ้ ก่ ปัญหาครไู ม่นําผลการ ประเมนิ มาปรับปรงุ การเรียนการ สอน ครูไม่วัดและประเมินผลกอ่ นเรยี นทุกคร้ังผูบ้ รหิ ารให้ความสำคัญเรื่อง การวัดผลและประเมนิ ผลสาระทศั นศลิ ป์น้อยมีการวดั และประเมนิ ผลท้ังภาคความรู้ภาคปฏิบัตแิ ละเจตคตสิ าระ ทศั นศลิ ป์น้อย และปัญหาการสงั เกตตดิ ตามการพัฒนาการทางศลิ ปะของผเู้ รยี นน้อย ส่วนโรงเรยี นขนาดกลาง ปญั หามากทีส่ ุด คือการสงั เกตตดิ ตามการพฒั นาการทางศิลปะของผเู้ รยี นน้อย เช่น เดยี วกันกบั โรงเรยี นขนาด เล็ก วิชาศิลปะเปน็ วิชาที่ปลูกฝังให้ผเู้ รียน มคี ณุ ลักษณะทด่ี งี ามและมจี ุดประสงค์เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นเกิดการ พัฒนาคา่ นยิ ม เจตคติ พฤติกรรมและบุคลิกภาพเนน้ เปน็ คนช่างคดิ ช่างทำปรับตวั เข้ากบั การ กิจกรรมศลิ ปะ นําไปสกู่ ระบวนการเรียนรใู้ ห้เกดิ แก่เดก็ ในด้านตา่ งๆ เช่นการพัฒนาความคดิ สร้างสรรค์การรู้คณุ คา่ ทางศิลปะ รักความสะอาด รักความสวยงามและเป็นผู้มรี สนยิ มท่ีดีศิลปะ ช่วยให้เกดิ การพฒั นาพฤตกิ รรมในการทำงาน สร้างสรรค์ เกดิ ความชาํ นาญในการทำงานมีความคล่องตัวในการคดิ และแสดงออก การจัดกจิ กรรมการเรยี น การสอนกลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะโดยเฉพาะสาระทัศนศิลป์ในโรงเรียน จะสร้างความเช่ือมน่ั ในตนเอง จึงเป็น ลักษณะบูรณาการเขา้ กบั สาระอน่ื ๆ มุ่งสง่ เสริมการแสดงออกทางศิลปะอย่างเสรีเตม็ ความสามารถ มีการ ประยุกต์วัสดุในท้องถน่ิ และธรรมชาติมาใชก้ บั งานศลิ ปะอย่างเหมาะสม ครตู ้องลดบทบาทของการเปน็ ผ้บู อก หรอื ออกคำสัง่ มาเป็นผู้คอยกระตุ้นย่ัวยุและหาทางสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ ทุกคนไดแ้ สดงออกตามระดับอายุและขดี ความสามารถ การสอนทัศน์ศิลป์ จงึ ไมจ่ าํ กัดอยูเ่ ฉพาะการวาดเขยี นและการป้ันสลักเทา่ น้ันหากแตถ่ ือวา่ ทกุ ส่งิ รอบตวั เด็กเปน็ ศิลปะการประเมนิ ผลงานศลิ ปะของนักเรยี นนน้ั จะพิจารณาจากกระบวนการทำงานของแต่ละ คนวา่ สอดคล้องกับการพฒั นาทางศลิ ปะตามอายุเพยี งใด ขณะเดียวกนั ก็ใหน้ ักเรยี นมีโอกาส ประเมนิ ผลงาน ของตนเองดว้ ย ครจู ะไม่นาํ ผลงานของเดก็ แตล่ ะคนไป เปรยี บเทยี บกนั เพือ่ ตัดสนิ หรอื ใหค้ ะแนนตามความ เหมาะสม ดงั น้นั ศลิ ปะจงึ ไม่ใช่เพียงมีเป้าหมายอยทู่ ี่ตวั ผลงานอยา่ งเดียว แต่เปา้ หมายหลกั อยู่ที่กระบวนการ แสดงออกมากกว่า ดงั นั้นการจดั การสอนศิลปะเด็กจงึ เปน็ เพยี งการจดั ให้เดก็ ได้ แสดงออกดว้ ยวัสดุและวธิ กี าร ทหี่ ลากหลายโดยปล่อยให้พวกเขาได้ แสดงออกอยา่ งเสรีมิใชเ่ พียงจัดหุ่นใหเ้ ขาเขยี นหรอื อธิบายหลักการและ ทฤษฎที างศิลปะเพื่อให้เขาปฏิบัตติ ามอยา่ งการเรียนการสอนศลิ ปะของผู้ใหญเ่ พราะโลกในการรบั รขู้ องพวกเขา ในช่วงวัยก่อนเหตผุ ลคือ จนิ ตนาการเท่าน้ัน 52

อา้ งอิง บรรจง บุญการี. สภาพและปัญหาการสอนศิลปศึกษาของครูประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัด สำนักงานการ ประถมศึกษาจังหวัดลพบุร.ี วทิ ยานิพนธ์ ค.ม. สาขาการบริหารการศึกษา. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย กฤตศักดา เรือนนาค. ความคิดเหน็ ของครศู ลิ ปะเกี่ยวกับการสอนศิลปะในโรงเรียนประถมศึกษา ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา. วิทยานพิ นธ์ ค.ม.สาขาการบริหารการศึกษา. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั 53

ศิลปะกับวิชาทถ่ี ูกมองข้าม ศริ ิยากรณ์ ทาทอง คา่ นิยมการศกึ ษาไทยส่วนใหญจ่ ะเหน็ ไดว้ า่ ผู้คนจะให้ความสำคัญกับรายวิชาทเี่ รยี นจบไปแลว้ สามารถ ไปตอ่ ในคณะทเี่ ป็นที่ต้องการอย่างมากของเศรษฐกิจและสังคมได้เช่น แพทย์ วศิ วะ บัญชี นติ ิ ฯลฯ ซ่ึงถา้ พูดถึง รายวชิ าที่ทกุ คนคิดว่าไม่ค่อยมีความสำคญั หรือไมม่ บี ทบาทอะไรมากนกั ในระบบการศึกษาน้ันอาจจะมีหลาย วชิ าทท่ี ุกคนต่างนึกถึง ซึง่ กลา่ วไดว้ า่ รายวชิ าศลิ ปะกเ็ ป็นหนึ่งในรายวิชาที่ถูกลดความสำคัญไปเชน่ กนั โดยส่งผล กระทบหลายด้านท้ังตวั ผู้เรยี นและครผู ้สู อน ปจั จบุ นั สถานศึกษาได้มีการพัฒนาหลกั สตู รและสายการเรียนให้ผ้เู รยี นลงทะเบยี นในสายท่ีตนเอง สนใจในชัน้ มัธยมตอนปลาย จึงมีความจำเป็นในการเตรยี มความพร้อมของผู้เรยี นก่อนแต่ดว้ ยสงั คมไทยและ ระบบการศึกษา เราย่อมให้ความสำคัญกบั วชิ าการอย่างอ่ืนมาก่อนศิลปะอยู่แล้ว เน่ืองจากจำเปน็ ต้องใช้ในการ สอบเขา้ เพ่ือศึกษาต่อ จนกระทง่ั วชิ าย่อย ๆ อย่างศิลปะ และวชิ างานประดิษฐ์ การงานอาชีพ ฯลฯ ถกู ให้ ความสำคัญและมีการจดั ทำหลกั สตู รเพียง 1 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์เท่านัน้ รวมไปถึงการจัดสรรคง์ บประมาณ สนบั สนุนของสถานศึกษาในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทคี่ ่อนข้างน้อย การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ของครทู ่ีไมน่ ่าสนใจ ซึ่งถอื ไดว้ า่ เป็นเรือ่ งสำคัญทก่ี ่อใหเ้ กดิ ปัญหาท่สี ่งผลกระทบกับผูเ้ รียนโดยตรงอาจทำให้ ผูเ้ รยี นเกดิ ทศั นคติท่ีไม่ดีกบั ศิลปะ ไมเ่ ข้าใจในความสำคญั ของศลิ ปะ ขาดความกระตอื รือรน้ ในการเรยี น คดิ ว่า วชิ าศลิ ปะเรียนยาก สำหรบั คนทีว่ าดรปู ไม่สวยมกั จะโดนตำหนิเกีย่ วกบั การวาดภาพจากครอู ยเู่ สมอ ก็มักจะไม่ ชอบการเรยี นวชิ าศลิ ปะ และบางคนท่ีไมช่ อบเรียนศลิ ปะ เน่อื งจากไม่ร้วู า่ เรียนไปแลว้ ได้อะไร มีประโยชน์ อย่างไรกับชวี ติ และไม่รวู้ า่ จะเอาไปทำงานอะไรไดบ้ า้ ง เม่ือศลิ ปะเป็นวชิ าท่ีถูกมองข้ามและไม่คอ่ ยมี ความสำคัญอาจสง่ ผลทำใหผ้ ูเ้ รียนท่มี คี วามชอบความถนัดในศิลปะถูกมองว่าไมม่ คี วามจำเปน็ ถกู ลดคา่ สง่ ผล เสียกับผูเ้ รียนในการคน้ พบความสามารถของตนเองและกลัวทจ่ี ะแสดงออกถึงตัวตนท่ีแท้จริง ท้ังทจ่ี ริงแลว้ วชิ า ศิลปะนน้ั สรา้ งประโยชนม์ ากมายกบั การศกึ ษาโดยจะเกดิ ข้ึนภายในใหก้ ับตวั ผู้เรียน เช่น พฒั นาทางด้าน ความคดิ อารมณ์ สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ และสามารถบูรณาการเขา้ กับวิชาอืน่ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ซ่ึงปัญหา ข้างตน้ สามารถแก้ไขไดโ้ ดยครูและบุคลากรทางการศึกษาร่วมมอื กนั พฒั นาตนเองและผู้เรียน ทำความเขา้ ใจ และยอมรบั ในตวั ผเู้ รียนและปลกู ฝงั คา่ นิยมที่ดกี ับการเรียนศลิ ปะและวชิ าอ่นื ๆให้กวา้ งขวางยิ่งข้ึน ดังนน้ั การทำใหผ้ ้เู รยี นเห็นความสำคัญในทกุ ๆ รายวิชาจึงเป็นส่งิ ที่มคี วามจำเปน็ อยา่ งมากของ ผบู้ รหิ าร บคุ ลากรทางการศึกษา และผ้ปู กครอง เน่ืองจากเดก็ ทกุ คนมีศกั ยภาพท่แี ตกตา่ งกันเพยี งแตค่ ้นใหพ้ บ และพฒั นาต่อในแบบที่เขาเป็น เพื่อเปน็ การทำให้ผเู้ รียนเข้าใจและค้นพบความสามารถของตนเองและกล้าทจี่ ะ แสดงออก ถงึ จะเป็นสิ่งท่สี ำคัญที่สุดกบั ตวั ผเู้ รยี น ซงึ่ ผ้เู รียนจะได้อาศัยประสบการณ์ในการเรียนรู้เหลา่ น้เี พ่อื ใช้ ในการตัดสนิ ใจทีเ่ หมาะสมในอนาคต 54

อา้ งอิง ประโยชน์ของการเรียนศลิ ปะ เสน้ ทางสู่ศลิ ปินดังในอนาคต!. (2563). ค้นเม่ือ 8 เมษายน 2564, จาก https://www.tueetor.com/blog/th/self-development/benefits-of-studying-art-the-path- to-famous-artists-in-the-future/ Marilyn Montgomery. ทำไมเราต้องเรียนศิลปะ. (2562).ค้นเม่ือ 8 เมษายน 2564, จากshorturl.asia/S6pa7 55

หลักสูตรและการจัดการเรยี นการสอนศิลปะกบั ความต้องการของผู้เรยี น นรศิ รา บุญหวา ศิลปะเปน็ กระบวนการการจดั การศึกษาใหแ้ ก่นักเรียนเพื่อชว่ ยส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสประมวลเอา ความคิดสรา้ งสรรค์ จากจินตนาการและประสบการณต์ า่ ง ๆ ที่ได้รบั แสดงออกในรปู แบบของผลงานศิลปะ (วฒุ ิ วัฒนสนิ . 2541) ในปัจจบุ นั สภาพการสอนศิลปะ พบว่าโรงเรียนสว่ นใหญม่ ักจะมีปญั หาหลายอยา่ งในการ จัดหลักสตู รและกิจกรรมการเรียนการสอน หลกั สตู รและกิจกรรมการจดั เรียนการสอนโดยท่ัวไปท่คี รจู ดั ให้ยงั ไม่ เหมาะสมหรือยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของผเู้ รียนอยา่ งแทจ้ รงิ ส่งิ ท่ีผู้เรียนได้รับกลับไม่ใชส่ ง่ิ ทผี่ ู้เรียน ต้องการ ทำใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ ความรูส้ ึกเบ่ือหน่ายและไม่กระตือรอื ร้นในการเรยี นรู้ ในการจัดทำหลักสตู รและออกแบบกิจกรรมการเรยี นการสอนวชิ าศิลปะ ผู้จดั ทำหรือพฒั นาหลักสูตร และครผู สู้ อนวิชาศลิ ปะ ดา้ นทัศนศิลป์ ส่วนใหญ่ยงั ไมค่ ำนึงถึงความต้องการทแี่ ทจ้ รงิ ของผูเ้ รียน และยังไม่มี ความรูห้ รอื ความเขา้ ใจอยา่ งชัดเจนเกย่ี วกบั เรอ่ื งของความคิดสร้างสรรค์ เรือ่ งของแนวทางการส่งเสรมิ และการ จัดกิจกรรมการเรียนรูศ้ ิลปะ ด้านทัศนศิลป์ทจ่ี ะสามารถพัฒนาความคดิ สรา้ งสรรค์อยา่ งไดอ้ ยา่ งเพียงพอ ครผู ้สู อนบางคนเน้นการสอนในเร่ืองของเน้ือหาการบรรยายมากกว่าการใหน้ กั เรียนได้ลงมือทำ ลงมือปฏิบตั ิ และยงั ไมส่ ามารถทำให้ผู้เรยี นเกดิ การเรียนร้ทู ี่แทจ้ รงิ หรือบรรลุวตั ถุประสงค์ตามทม่ี าตรฐานการเรียนร้นู นั้ กำหนดไว้ได้ ผสู้ อนสว่ นใหญ่มักจะใหห้ วั ข้อและให้ผเู้ รยี นสร้างสรรค์ผลงาน ซึง่ ใช้วิธกี ารนที้ กุ ครัง้ ท่สี อน ไม่ได้ใช้ สื่อประกอบ ไมไ่ ด้กระตุน้ การสง่ เสริมให้ผู้เรียนเกิดการคิดสร้างสรรค์หรอื เกดิ การจินตนาการในการสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะ อีกทง้ั ไม่ได้ช้ใี ห้ผเู้ รียนได้เหน็ ถงึ จดุ เด่นและจุดด้อยในผลงานของตนเอง มักจะให้คะแนนจาก ผลงานนกั เรยี นเลย วธิ กี ารเหลา่ นีอ้ าจทำให้ความสามารถทางการคดิ สร้างสรรคข์ องผู้เรยี นลดลงเรือ่ ย ๆ ผลงาน ศลิ ปะของผ้เู รียนสว่ นใหญม่ ักจะมีรูปแบบ วิธีการและเนอื้ หาทีค่ ล้ายคลงึ กนั ผเู้ รยี นมกั จะใช้เทคนิควิธีการทำ อยา่ งเดียวหรอื ประเภทเดียวในการสรา้ งสรรค์ ผลงาน มีการลอกเลียนแบบกนั เกิดข้นึ ผู้เรยี นขาดความมั่นใจ ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ไมก่ ล้าทจี่ ะแสดงออก ไม่กล้าท่จี ะวิพากษว์ ิจารณ์ผลงาน ไมก่ ล้าทีจ่ ะอธิบายผลงาน ตนเอง เกิดความคิดท่วี ่าฉันวาดไม่ได้ วาดได้ไมส่ วย ฉนั ไม่มีพรสวรรค์ วาดแลว้ จะไดค้ ะแนนน้อย และเปน็ ผลให้ ผู้เรยี นล้มเลกิ ละทงิ้ การเรยี นและรู้สกึ กลวั วชิ าทศั นศิลป์ได้ หลักสูตรและการออกแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอนจึงเป็นปัจจยั สำคญั ในการเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น หาก ผู้สอนสามารถจดั หลักสตู รได้ตรงตามความตอ้ งการของผู้เรียนและออกแบบกจิ กรรมการเรยี นที่สามารถดึง ศกั ยภาพและความคดิ สรา้ งสรรค์ของผเู้ รียนแตล่ ะคนออกมาได้อย่างแทจ้ รงิ จะทำใหก้ ารเรียนการสอนนนั้ ๆ บรรลผุ ลไดต้ ามวัตถปุ ระสงคแ์ ละผู้เรยี นเกดิ ความกระตือรือร้นในการเรียนรไู้ ด้ และยงั ต้องมกี ารพัฒนาและ ปรับปรุงหลักสตู รและมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ และสามารถนำไปปรับใช้ได้อยา่ งเป็นระบบ การนำหลักสตู ร ไปใชค้ วรจะมีการเรียงลำดบั เปน็ ข้ันตอน เพ่ือให้มีการจดั ลำดบั ความคดิ เปน็ ขั้น ๆ ไป หลักสูตรถึงแม้จะทำให้ดู 56

เปน็ อิสระในการจัดการเรยี นการสอนแตก่ ย็ ังมขี ้อจำกัดไปตามหลกั สตู รสถานศึกษาและการจดั การเรียนการ สอนในวิชาทศั นศิลป์ของครูท่ีจะต้องดดั แปลงใหต้ รงกับความตอ้ งการและบรบิ ทของผเู้ รียน ทำให้การจัดการ เรียนการสอนท่ัวประเทศไมเ่ หมอื นกนั เพราะฉะน้นั หลักสูตรและออกแบบกิจกรรมการสอนจงึ มีความสำคญั อยา่ งมากต่อการศึกษา อา้ งอิง การจัดการเรียนการสอนเชิงสรา้ งสรรค์ สบื คน้ เมอื่ 8 เม.ย พ.ศ 2564 จากเวบ็ ไซต์ : https://sites.google.com/site/edtechsukm/kar-cadkar-reiyn-kar-sxn-cheing-srangsrrkh ความสัมพันธ์ของหลกั สตู รและการออกแบบการเรยี นการสอน สืบคน้ เม่ือ 8 เม.ย พ.ศ 2564 จากเว็บไซต์ : https://sites.google.com/site/bthreiyn123/khwam-samphanth-khxng-hlaksutr-laea-kar- xxkbaeb-kar-reiyn-kar-sxn 57

58

โครงการสัมมนาวิชาการทางศิลปศกึ ษา โดยนกั ศึกษาชั้นปที ี่ 4 หลักสตู รศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศลิ ปศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1. ชื่อโครงการ โครงการสมั มนาวชิ าการทางศิลปศึกษาในหัวข้อ KEY to success of special needs children in Art classroom : ไขกญุ แจห้องเรยี นรวมศิลปะ 2. หลักการและเหตุผล พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดร้ ะบวุ า่ การจัดการศึกษา ต้องจัดใหบ้ ุคคลมสี ิทธแิ ละโอกาสเสมอ กันในการรับการศึกษาขน้ั พื้นฐานไมน่ ้อยกว่าสิบสองปี รัฐต้องจัดให้อยา่ งท่วั ถึงและมีคณุ ภาพโดยไมเ่ กบ็ คา่ ใชจ้ า่ ย และการจดั การศึกษาสาหรบั บุคคลซ่ึงมีความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ สังคม การสอ่ื สารและการเรียนรู้ หรือมีรา่ งกายพิการ หรอื ทพุ พลภาพหรือบุคคลซง่ึ ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ หรือไมม่ ี ผ้ดู ูแลหรอื ด้อยโอกาส ต้องจัดให้บคุ คลดงั กลา่ วมสี ทิ ธิและโอกาสไดร้ ับการศึกษาขั้นพื้นฐานเปน็ พเิ ศษ จากหลกั การนี้จึง สง่ ผลใหท้ ุกหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้องในการฟ้ืนฟูสมรรถภาพคนพิการให้ความตระหนักต่อ การพัฒนาคนพิการ เปิดโอกาสให้คนพกิ ารได้รบั การศึกษาและมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมทางสังคมมากยิ่งขนึ้ ซึ่ง เป็นสิ่งสาคัญที่จะชว่ ยให้คนพิการพฒั นาความสามารถในการพ่ึงพาตนเองและดาเนินชีวติ ในสงั คมได้อยา่ งมี ศกั ดิ์ศรี (กระทรวงศึกษาธิการ: 2542) และก่อใหเ้ กิดการศึกษาแบบเรยี นรวม ท่ยี ดึ ปรัชญาของการอยูร่ วมกนั (Inclusive) คือ การศกึ ษาสาหรับทุกคน การรับเดก็ เข้ามาเรียนรวมกันตงั้ แตเ่ ร่ิมเข้ารับการศกึ ษา และจดั ให้มี บริการพเิ ศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล (Wilson , Kliewer, East, 2007) หนง่ึ ในองค์ประกอบสาคญั ของหอ้ งเรยี นรวมน้นั คือครซู ่ึงมีหน้าที่ในการจัดการชน้ั เรยี น ไมว่ า่ จะเป็น ด้าน กายภาพ การจดั การศึกษา และดา้ นสงั คม ทจี่ ะต้องมีองค์ความรู้ในการจัดการเรียนการสอน และการใช้ จติ วิทยาการศึกษาสาหรับห้องเรียนรวมเพื่อใหก้ ารจัดการเรยี นการสอนเกิดประสทิ ธิภาพ อีกทั้งมีผลจากการที่นักศึกษาได้ไปสงั เกตหอ้ งเรียนรวมในรายวิชาศิลปะในชน้ั เรยี นระดบั ตา่ งๆพบว่า มี ปญั หาในการจดั การชนั้ เรยี นหลายดา้ นซ่ึงเป็นองคป์ ระกอบที่สาคัญในการจัดการเรียนการสอนศลิ ปะใน ห้องเรยี นรวมให้เกิดประสิทธิภาพ คือ สภาพสังคมภายในหอ้ งเรยี น ได้แก่ ความเข้าใจในความแตกต่างของ ผูเ้ รยี น การดูแลเอาใจใส่เดก็ พิเศษ บรรยากาศภายในห้องเรียน การสร้างกติกาการอยู่ร่วมกนั การยอมรบั และ การมปี ฏิสมั พันธ์ภายในห้องเรียน รวมถงึ สภาพการจดั การเรียนการสอน ได้แก่ ความเขา้ ใจในเรอื่ งของการ 59

จดั การเรียนการสอนรวมถึงการจัดสอื่ การเรียนรู้ท่ีเหมาะสมสอดคล้องสาหรบั เดก็ พเิ ศษ การวดั และ ประเมินผลของผู้เรียน ดังนนั้ นักศึกษาชั้นปที ่ี 4 สาขาศิลปศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น จึงจะจดั ทา โครงการ สมั มนา ในหัวข้อเร่ือง หวั ข้อ KEY to success of special needs children in Art classroom : ไขกุญแจสู่ ห้องเรียนรวมศิลปะ เพ่ือใหผ้ ู้สมั มนามกี ารแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ซง่ึ กนั และกัน สามารถนาไปแกป้ ญั หาและ หาแนวทางปฏิบัตริ ่วมกนั ในการจดั การเรียนร้ใู นหอ้ งเรยี นรวมและเพ่ิมพนู ความรู้ ความเข้าใจ เพ่ือเปน็ กุญแจ ไปสูค่ วามสาเร็จต่อไป 3. ผูร้ บั ผิดชอบโครงการ นกั ศกึ ษาช้ันปที ่ี 4 ปีการศึกษา 2/2562 ในรายวชิ า ED214761 สมั มนาทางศลิ ปศึกษา สาขาวิชา ศิลปศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น จานวน 24 คน 4. อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ 1. อ.ดร. อริยพร คโุ รดะ 2. ผศ.ดร. ปริณ ทนันชัยบุตร 5. ระยะเวลาการจัดสัมมนา วนั ที่ 3 พฤษภาคม 2564 6. สถานท่ใี นการจดั สมั มนา เป็นการจดั สัมมนาแบบออนไลน์ (Webmina) 7. วตั ถุประสงค์ 6.1 เพ่อื ให้ครู ผปู้ กครองและนกั ศึกษาตระหนกั ในการทาหนา้ ท่แี ละเหน็ ความสาคญั ของการจัดกจิ กรรม ศลิ ปะสาหรับเด็กพิเศษในช้ันเรียนรวม 6.2 เพอื่ ให้ครู ผ้ปู กครองและนักศกึ ษาใช้ความรู้ ความเขา้ ใจ ผรู้ ว่ มสัมมนาไดแ้ ลกเปลี่ยนวธิ ีการและ เทคนคิ การจดั การชั้นเรยี นรวมในหอ้ งเรยี น 6.3 เพือ่ ให้ครู ผปู้ กครองและนกั ศึกษามีแนวทางในการเลือกใชก้ ิจกรรมศลิ ปะที่เหมาะสมในการพัฒนา เดก็ พเิ ศษในช้นั เรยี นรวม 8. วทิ ยากร 7.1 พญ. วนาพร วัฒนกลู (เจา้ หน้าที่ศนู ย์แพทยศาสตร)์ โรงพยาบาลขอนแก่น จังหวดั ขอนแก่น 7.2 นายคธาวธุ อักษร (ครูการศกึ ษาพเิ ศษ) ศนู ย์การศึกษาพิเศษเขตการศกึ ษา 9 จังหวดั ขอนแก่น 7.3 นางชลรี ัตน์ เหล่าจูม (ผปู้ กครองเดก็ พเิ ศษ) 60

9. เปา้ หมาย 8.1 ดา้ นเน้ือหา 1. บทบาทหน้าที่และความสาคัญของการจัดกิจกรรมศิลปะเพอื่ สง่ เสริมทกั ษะการอยรู่ ่วมกันในสังคม ระหว่างเดก็ ปกติและเด็กพิเศษ - การจดั การชัน้ เรียนรวมรายวชิ าศลิ ปะโดยพิจารณาองค์ประกอบทาง ด้านการจัดเนื้อหาสาระการ เรยี นรู้และกิจกรรม ให้เหมาะสมตามบริบทของผูเ้ รยี น การนากิจกรรมวิชาศิลปะไปปรับใชใ้ นการจดั การ เรยี นร้ใู หก้ ับเดก็ พิเศษสามารถเรียนรวมกับเด็กปกติไดด้ ียิง่ ขน้ึ - เทคนคิ วธิ ีการของการจดั เรียนรู้ศลิ ปะในชน้ั เรยี นรวม - ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชน้ั เรยี นรวม - ความคาดหวังของผู้ปกครองต่อการจัดการเรียนการสอนศลิ ปะสาหรับเด็กพิเศษในช้ันเรียนปกติ8.2 จานวนคนเข้ารับฟังสมั มนา - นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ จานวน 20 คน - บุคคลทั่วไป จานวน 10 คน - นักศกึ ษาทีร่ ับผดิ ชอบโครงการ จานวน 24 คน รวมผเู้ ขา้ รว่ มสัมมนา จานวนทัง้ ส้นิ 54 คน 10. ระยะเวลาดาเนนิ งาน มีนาคม – พฤษภาคม 2564 11. แผนการดาเนนิ การ วนั ท่ี การปฏบิ ตั งิ าน สถานที่ 10-18 มี.ค. 2564 ประชมุ เพื่อวางแผน เลือกหัวขอ้ ในการสัมมนาและร่างโครงการ คณะศึกษาศาสตร์ สัมมนา 20-30 ม.ี ค. 2564 นาเสนอโครงการและปรบั ปรุงแกไ้ ข คณะศึกษาศาสตร์ 1– 20 เม.ย. 2564 จัดทาบทความ และรวบรวมจัดทาเลม่ บทความทางวิชาการ คณะศึกษาศาสตร์ 16 – 25 เม.ย. 2564 จดั ทาหนังสอื เชญิ ผู้เขา้ รว่ มสัมมนาเชงิ วชิ าการ คณะศึกษาศาสตร์ 25 – 30 เม.ย. 2564 จดั ทาเอกสารประกอบการสมั มนาและดาเนินการประชาสมั พนั ธ์ คณะศกึ ษาศาสตร์ สัมมนาเชงิ วิชาการ (รปู แบบออนไลน)์ 3 พ.ค. 2564 จดั กจิ กรรมสมั มนาวิชาการทางศิลปศกึ ษา (รปู แบบออนไลน์) คณะศึกษาศาสตร์ 3 พ.ค. 2564 สะทอ้ นผลการจดั สมั มนาวชิ าการ คณะศกึ ษาศาสตร์ 4 – 9 พ.ค 2564 จัดทารูปเลม่ สรุปโครงการและนาเสนอผลการจดั ทาโครงการ คณะศึกษาศาสตร์ สมั มนาวิชาการทางศลิ ปศกึ ษา 12. งบประมาณ คา่ ตอบแทนวิทยากร จานวน 3 คน ชัว่ โมงละ 600 บาท จานวน 3 ชวั่ โมง 6,000 บาท 61

งบประมาณค่าใช้จ่ายรวมเปน็ จานวนเงนิ ท้งั ส้นิ 6,000 บาท 13. ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ - ครูผสู้ อน ผปู้ กครอง และนกั ศกึ ษามคี วามตระหนักในบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง ความสาคญั ของการจัด กิจกรรมศิลปะสาหรับเด็กพเิ ศษในชั้นเรยี นรวม - ครผู ู้สอน ผปู้ กครอง และนกั ศึกษา เกิดความเข้าใจ และได้แลกเปลี่ยนวธิ กี ารและเทคนคิ การจดั การช้นั เรียนรวมในหอ้ งเรียน - ครูผู้สอน ผ้ปู กครอง และนกั ศึกษาสามารถนาแนวทางจากการฟงั สัมมนาไปใชใ้ นการเลือกใชก้ จิ กรรม ศลิ ปะทีเหมาะสมในการพัฒนาเด็กพเิ ศษในช้นั เรียนรวม 14. การติดตามและประเมนิ ผล 1. แบบสะทอ้ นผลการเรียนรู้ของตนเองของผเู้ ขา้ ร่วมสัมมนา 2. แบบสงั เกตความสนใจของผ้เู ข้าฟังสัมมนา 3. แบบประเมินความพึงพอใจของผเู้ ข้าร่วมสัมมนา มปี ระเดน็ ความพงึ พอใจต้องมีประเด็นยอ่ ย 62

สมาชิกรบั ผิดชอบโครงการ 1. ประธานโครงการ หน้าที่ ประสานงาน จัดทาโครงการ และติดตามผลการทางานแต่ละฝา่ ย โดย นางสาววลั ลภา เทียนทอง 2. เลขานกุ าร หน้าท่ี ประสานงาน จดั ทาโครงการ ดาเนนิ งานเอกสาร หนงั สอื ราชการ รวมทง้ั การติดตอ่ วิทยากร โดย นางสาวมณนี ุช อุดมลาภ 3. เหรัญญิก หน้าที่ ดูแลค่าใช้จ่ายภายในโครงการ ติดตอ่ ประสานงานกบั วิทยากรและเลขานกุ ารเพอ่ื ทา เอกสารการเบิกค่าใช้จ่าย เอกสารสาคญั ทางการเงิน โดย นางสาวพมิ ลพรรณ แสนนาม 4. ฝ่ายเอกสาร หนา้ ทรี่ วบรวมบทความ จัดทาเอกสารสัมมนาในรปู แบบออนไลน์ (E-book) และจดั ทา เลม่ สรปุ โครงการ โดย นางสาวพนิดา ภทู่ อง นางสาวรัตนมณี คงคูณ นางสาวศริ ิยากรณ์ ทาทอง นางสาวอุมาภรณ์ วงษ์ศรีแก้ว นางสาวสุกลั ยา เกตุธานี 5. ฝา่ ยประเมนิ ผล หนา้ ท่ี จัดทาแบบฟอร์มการประเมินการจดั กจิ กรรมสมั มนา รวบรวมประเด็นปญั หา จากกรรมการเพอ่ื ดาเนินการประเมินผล วเิ คราะห์ผลการประเมนิ การจัดกจิ กรรม จัดทาสถิติ และสรปุ ผล การดาเนนิ งานโครงการ โดย นางสาวกนกพร ไชยสทิ ธางกูร นางสาวฐิติมา ดวงสุวรรณ์ นางสาวณฐั นนั ฑ์ สตุ ะโคตร นายกรวิชญ์ อนั ทรินทร์ 6. ฝ่ายลงทะเบียน หน้าท่ี จัดทาแบบฟอร์มลงทะเบียนเขา้ ร่วมสัมมนา โดย นางสาวอรญั ญา ผิวทอง นายภาสกร กลางเหลือง 7. ฝ่ายประชาสัมพนั ธแ์ ละฝ่ายเทคโนโลยี หนา้ ที่ จดั ทาโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ส่ือนาเสนอประกอบ สัมมนา ดูแลเพจโครงการและจดั ทา link สาหรับการสัมมนา ประชาสัมพันธ์ขา่ วสาร โดย นางสาวนริศรา บญุ หวา นายพลพจน์ ฉ่วั ตระกูล นายภัทรพรรณ ทองแย้ม นายเสาวภาคย์ เพช็ รหงษ์ 63

นางสาวธรี จ์ ฑุ า คิดฉลาด นางสาวจรุ ีรัตน์ โนราช นางสาวปาลติ า วรรณศิริ 8. ฝ่ายพิธกี ร หน้าท่ี ดาเนนิ รายการ ต้ังประเดน็ คาถาม เตรียมเน้อื หา สรุปประเด็นสัมมนา จดบันทึก ประเดน็ การสัมมนา โดย นายอษั ฎาวธุ โคตรมา นางสาวชญามินทร์ เกตุเมฆ นายภูรนิ ท์ กัลยารัตน์ 64

กาหนดการ โครงการสมั มนาวชิ าการศลิ ปศกึ ษา KEY to success of special needs children in Art classroom : ไขกญุ แจห้องเรยี นรวมศิลปะ วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ในรปู แบบออนไลน์ (Zoom) 08.30 – 08.50 น. เริ่มเขา้ โปรแกรม Zoom ตาม link ที่ได้รับจากการประชาสมั พนั ธ์ทางเพจ Facebook และ E-mail ตามที่ได้ลงทะเบยี น 08.50 – 09.00 น. พธิ กี ารเปิด โดย ดร.อรยิ พร คโุ รดะ อาจารย์ทป่ี รึกษาโครงการ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ กล่าวเปดิ โครงการสัมมนาทางวิชาการศลิ ปศกึ ษา ในหวั ขอ้ KEY to success of special needs children in Art classroom : ไข กญุ แจห้องเรียนรวมศลิ ปะ 09.00 – 09.10 น. พิธีกรกลา่ วแนะนาโครงการ วทิ ยากร และพูดคยุ เก่ยี วกบั หวั ข้อทจ่ี ะสมั มนา 09.10 – 11.30 น. การสัมมนาวิชาการ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กนั ในหัวขอ้ หัวข้อ KEY to success of special needs children in Art classroom : ไขกุญแจห้องเรียนรวมศิลปะ โดยวิทยากร พญ. วนาพร วัฒนกูล, ครคู ธาวธุ อกั ษร, นางชลีรัตน์ เหลา่ จูม และ ผ้เู ขา้ รว่ มสมั มนาร่วมกนั เสวนาเพ่มิ เติม 11.30 – 12.00 น. สรุปกจิ กรรม หัวข้อ “KEY to success of special needs children in Art classroom : ไขกญุ แจห้องเรยี นรวมศลิ ปะ” โดยวทิ ยากรและผเู้ ข้ารว่ ม สัมมนา และพธิ กี รกลา่ วปิดงาน 65


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook