ถึงวันน้ีเรามีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองสมองกันมากขึ้น เรารู้แล้วว่าการ พัฒนาสมองด้วยความเข้าใจธรรมชาติของสมองซ่ึงเรียนรู้ไปพร้อมกันทุกระบบ โดยแต่ละระบบมีหน้าท่ีต่างกันและประสานเชื่อมโยงกัน สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ หลายระบบ เรียนรู้ท้ังในขณะรู้ตัวและไม่รู้ตัว และท่ีสำคัญ อารมณ์ความรู้สึกมี บทบาทอย่างมากในการขับเคล่ือนการเรียนรู้ - emotional brain และท้ังยัง สามารถเรียนรไู้ ดอ้ ย่างไมม่ ีขดี จำกดั การนำเอาหลกั การ เรยี นร้ดู ้วยความเพลดิ เพลนิ ในอาณาจักรหนงั สือ ท่ไี ด้ จากผู้จุดคบไฟไว้บนหัวถนนสายนิตยสารเด็กของไทย มาส่องทางที่จะก้าวไป ขา้ งหนา้ นา่ จะใหค้ วามสวา่ งกระจา่ งใจวา่ จะเชญิ ชวนเดก็ ใหห้ นั หนา้ เขา้ หาหนงั สอื ได้อย่างไร.....? | อบุ ตั ิการณน์ ิตยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
ภายหลงั การสอนภูมิศาสตร์ ครจู ึงถามศษิ ย์วา่ “นักเรยี น โลกเรากค็ ือเศษทกี่ ะเด็นมาจากดวงอาทติ ย์ แต่เหตใุ ดจงึ เยน็ กอ่ นดวงอาทิตย์ ไหน, ใครตอบหรอื เปรียบเทียบไดบ้ ้างไหม?” นายคลอ่ ง “โลกเปรียบเหมือนเขา้ ตม้ ชามเล็กทีแ่ บ่งมาจากชามใหญ่ อยา่ งไรละครับ” ครู “ก็พระจันทร์ละ” ศษิ ย์ “กเ็ ขา้ ตม้ ชามนดิ นะซิครบั ” “นกั เรียน” - ปที ่ี ๑ ฉบับท่ี ๑๒ (๑๕ มีนาคม ๒Ù๖๕) แจ้งความในหนงั สอื พิมพ์ฉะบับหน่งึ กลา่ วว่า “ถ้าจะรักษาฟันให้ดีควรใช้กระดาษทราย กับน้ำมันสลัดถูแล้วและ ชะโลมน้ำมันไว้เสมอ” เมื่อแรกเห็นเข้าดูช่างน่ากลัวอันตรายเสียจริง แต่เมื่ออ่านต่อไปอีกจึง เหน็ วา่ น่ีมิใชว่ ธิ ีรกั ษาฟนั มนุษย์หรอก เปน็ วธิ ีรกั ษาฟันเลอ่ื ยจกั รส์ ำหรับเลอ่ื ยไม้ เท่าน้ัน “นักเรยี น” - ปที ่ี ๑ ฉบับที่ ๒๐ (๑๕ กรกÆาคม ๒Ù๖๖)
วนั หนง่ึ นายตรวจแขวงไปตรวจโรงเรยี นแหง่ หนง่ึ กำลงั ครสู อนไวยากรณ์ ไม่เป็นที่พอใจ จึงได้เข้าไปสอนเสียเอง แล้วตั้งกะทู้ถามข้ึนว่า “ช้างแทงเจäก เปน็ ประโยคกส่ี ว่ น?” เงียบกนั อยู่ นายตรวจจึงช้ตี รงไปที่นายพดุ แล้วพูดว่า นายคนนัน้ นายพุด “เปน็ ประโยคสามส่วนครับ” นายตรวจ “น่นั ถกู ดแี ล้ว แล้วอะไรเป็นประธาน” นายพุด “ชา้ งครับ” นายตรวจ “ดีมาก ถกู แลว้ อะไรเปน็ กิรยิ า” นายพดุ “แทง เป็นกริ ยิ าครบั ” นายตรวจ “ถูกแล้วๆ แลว้ อะไรเป็นกรรม” นายพุด “เจäกเปน็ กรรมครบั ” นายตรวจ “นน่ั , เธอตอบถกู เธอจะอธบิ ายไดไ้ หมวา่ ทำไมเจกä จงึ เปน็ กรรม” นายพดุ “การท่ีเจäกถูกช้างแทง เจäกก็ต้องเป็นกรรม ถ้าไม่เป็นก็คงไม่ถูก ช้างแทง เช่นใต้เท้าเป็นต้น ถ้าถูกช้างแทงก็ต้องนับว่าเป็นกรรม ถ้าไม่เปน็ กรรม กค็ งไม่ถกู ช้างแทงเพราะ...” นายตรวจ “พอทๆี ” “นกั เรยี น” - ปที ่ี ๑ ฉบบั ที่ ๑๙ (๑ กรกÆาคม ๒Ù๖๖) | อบุ ตั กิ ารณน์ ิตยสารเด็ก ในเมอื งไทย-ในโลก
ครู “ตัว A ตรงกับสระอะไร ?” นายไว “สระแอครับ” ครู “ดีมาก ตวั B เลา่ นายฝóด ตรงกับตวั อะไร?” นายฝดó “ตวั บ.ขอรับ” ครู “ถูกแลว้ เชน่ น้นั AB จะอ่านว่าอะไร นายไว” นายไว “อ่านวา่ แบ ขอรบั ” “นกั เรียน” - ปที ่ี ๓ ฉบบั ท่ี ๕๑ (๑ พƒศจกิ ายน ๒Ù๖๗) ครผู ู้หญงิ เลา่ นทิ านเร่ืองไกก่ นิ ไสเ้ ดือนให้นกั เรยี นฟัง แล้วถามศิษย์วา่ “เนอื้ ไสเ้ ดอื นนัน้ จะตกอยใู่ นท้องใคร?” ศษิ ยห์ ญงิ “ดิฉันคิดวา่ มนั คงจะมาตกอยู่ในท้องพวกเรา” “นกั เรยี น” - ปีที่ ๑ ฉบบั ท่ี ๒ (๑๕ ตลุ าคม ๒Ù๖๕) บิดาอยากจะทดลองความฉลาดของบตุ ร์ จึงเรียกบุตร์เข้ามาแล้วถามวา่ บดิ า “ถ้ามีใครคน ๑ เขาเอาของมาใหห้ นูๆ จะพูดว่ากะไรกบั เขา” บตุ ร์ “หนูจะสัง่ เขาว่า ทีหลงั ใหเ้ อามาอีกเพราะหนูชอบมาก” “นกั เรยี น” - ปีที่ ๑ ฉบับที่ Ù (๑๕ พƒศจิกายน ๒Ù๖๕)
หนูปานพ่ึงตัง้ ต้นท่องสูตรคูณใหม่ๆ เย็นวนั หนง่ึ จงึ ถามพอ่ ว่า “คณุ พ่อครบั ! คณุ พ่อรูว้ ิธเี ลขมากไม่ใช่หรอื ?” พ่อ “เจ้าติดขัดอะไรละ่ ถามพอ่ ซี พ่อจะบอกให้” หนูปาน “หนอู ยากจะรวู้ ่าอะไรก่หี นจงึ จะเปน็ สูญ” “นักเรียน” - ปีที่ ๑ ฉบบั ที่ ๒๐ (๑๕ กรกÆาคม ๒Ù๖๖) นักเรียนในชั้นประถมของโรงเรียนกำลังน่ังฟังบทเรียนบทหน่ึงอยู่โดย เงยี บเชยี บ เมื่อได้อธิบายข้อวิมุติสงสัยเลอียดลออแล้ว และเพ่ือเปนการประกอบ ความเข้าใจข้ึนอีก ครูจึงให้นักเรียนหยิบสมุดหัดเขียน ซึ่งมีหน้าปกเปนรูปเด็ก ตกปลาข้นึ มาดู แมค่ รูอธิบายว่า “การสนุกทกุ อย่างตอ้ งการกายบริหารแห่งการอดทน ดู เด็กชายตกปลาซิ เขาตอ้ งนัง่ คอย ต้องอดทน” เมื่อได้จ้ำจี้จ้ำไชจนเปนท่ีเข้าใจตลอดแล้ว แม่ครูก็เร่ิมถามเปนข้อง่าย ท่สี ดุ และมีทางตอบถูกได้ง่ายท่ีสุดว่า “ครานนี้ กั เรยี นเล็กๆ คนไหนจะตอบฉนั ได้วา่ เมื่อเวลาเราไปตกปลา เราตอ้ งการอะไรมาก” คำตอบดงั เปนเสยี งเดียวกันว่า “เหยื่อขอรับ” “เดก็ ไทย” - ฉบบั ที่ ๑ (๑๕ สงิ หาคม ๒Ù๖Ù) | อบุ ตั กิ ารณ์นติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
“น่ีแน่ะเจา้ ” บิดากลา่ วแกบ่ ุตร์ “บอกพอ่ ซวิ า่ เหตุไรพอ่ จงึ เฆย่ี นเจ้า” “แลว้ กนั ” เดก็ น้อยพดู ด้วยความเจ็บ “พอ่ เฆีย่ นหนูแลว้ ก็ยังไมร่ ู้วา่ เฆ่ยี น ทำไมอีก” “เด็กไทย” - ฉบับที่ ๑ (๑๕ สิงหาคม ๒Ù๖Ù) “พ่อทำโทษเจ้า ก็เพราะพ่อรักเจ้า” บิดากล่าวแก่บุตร์เม่ือเสร็จจากการ เฆ่ียนส่ังสอนบุตร์แลว้ “ด-ดแี ล้วละพอ่ ” เด็กน้อยสะอืน้ “ด-ด-ดีแล้วละพ่อ ดีว่าฉันไม่โตพอ-พอ-ที่-จะตอบความรักของพ่อ-ท- เท่านน้ั ” “เดก็ ไทย” - ฉบบั ท่ี ๒ (๑๕ กนั ยายน ๒Ù๖Ù) เยมสน์ ้อยเรียนหนงั สืออยู่ช้ันประถมสองของโรงเรยี นไวยากรณ์แหง่ หน่งึ ครูแกลง้ ออกโจทก์เลขวิตถารอย่างยากๆ ให้ เขาคิดไมอ่ อก รูส้ ึกฉงนใจ เปน็ ที่สดุ “แม่จãา” เขาถามมารดา “ถา้ ฉันเอาหมูสามตวั ออกจากม้าสองตวั จะได้ ลัภอยา่ งไรนะแม”่ “ทำไมเล่ายิมมีลูกรัก” มารดาเขาตอบ “เจ้าไม่รู้ดอกหรือว่าเอาจำนวน มากไปลบน้อย มันจะได้อย่างไร และอีกอย่างหน่ึงเจ้าจะเอาจำนวนของชนิด หน่ึงไปลบจำนวนของอีกชนิดหน่ึงไม่ได้ ต่างว่าเจ้ามีลูกหินสองลูก เจ้าจะเอา มนั ลบออกจากลูกหนังสี่ลูกไมไ่ ด้ เข้าใจไหม?” “อา้ ว” ยมิ มวี า่ “ทแี ม่ ทำไมเอานมสองแกว้ ออกจากวัวตวั หน่ึงไดล้ ะ่ ” “เดก็ ไทย” - ฉบับที่ ๓ (๑๕ ตุลาคม ๒Ù๖Ù)
การอา่ นเป็นกระบวนการสะสมความคดิ การอา่ นสง่ิ ใหมๆ่ แตล่ ะครั้งก็คอื การตอ่ ยอดของสงิ่ ทเี่ คยอ่านไปแลว้ ให้เพ่ิมพูนขน้ึ อปุ มาเหมอื นลำดับขน้ั ทางเรขาคณิต ทีจ่ ะสะสมทวีคณู ข้นึ อย่างไม่มที ีส่ น้ิ สดุ ... ถริ นนั ท์ อนวชั ศริ วิ งศ์ - พิรณุ อนวัชศริ ิวงศ์ จาก “ละครสรา้ งนกั อา่ น Readers Theatre”
อบุ ัติการณ นิตยสารเด็กในโลก
โลกยุคใหม่มีความก้าวหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยกี ารพมิ พ์ หนงึ่ ในผลผลิตอัน สำคัญย่ิงของการพิมพ์คือ นิตยสาร หนึ่งในนิตยสารท่ีสำคัญยิ่งของโลกคือ นติ ยสาร (เพ่อื ) เด็กและเยาวชน หรอื อาจจะพดู ไดว้ า่ ควรจะเป็นหนึ่งในนิตยสารท้งั ปวงเสียด้วยซ้ำ ...หากเช่ือม่ันจริงจังว่าเด็กมีความสำคัญ ดังศาสดาเอกของโลกท่านหนึ่ง บอกว่า “ทรพั ยากรท่มี คี ่าทส่ี ดุ ของมนุษยชาติกค็ ือเด็ก” นิตยส ารเดก็ เลม่ แรกของโลก : เบกิ ทางจากวงการศาสนา นิตยสารสำหรับเด็กที่เกิดขึ้นโดยระบบเทคโนโลยีการพิมพ์แบบสมัยใหม่ เร่ิมต้นที่ประเทศอังกฤษ โดยองค์กรของศาสนาคริสเตียน ในช่วงกลางของ ศตวรรษท่ี ๑๙ ชอ่ื นติ ยสาร The Child’s Companion หรอื Sunday Scholar’s Reward เมื่อ ค.ศ. ๑๘๒๔ (พ.ศ. ๒๓๖๗) และมีอายุยนื ยาวไปถงึ ศตวรรษที่ ๒๐ เมอื่ เกดิ นติ ยสารเพอ่ื เดก็ เลม่ แรกของโลกนนั้ ตรงกบั เมอื งไทยสมยั รชั กาลท่ี ๓ ก่อนท่ีจะมีการนำเข้าแท่นพิมพ์อยู่หลายปี คณะผู้จัดทำแม้จะมุ่งหมายในการ ส่ังสอนทางด้านศาสนาและศีลธรรมจรรยาเป็นสำคัญ หากก็ตระหนักถึงตลาด การอ่านและพยายามดึงดูดนักอ่านรุ่นเยาว์ โดยการตีพิมพ์เร่ืองเล่าต่างๆ ทาง ศาสนา มีการพิมพ์ตลอดศตวรรษท่ี ๑๙ ลดราคาสำหรับนักเรียนในโรงเรียนวัน | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมืองไทย-ในโลก
อาทิตย์ โดยเฉพาะสำหรับเด็กจากครอบครัวชนช้ันแรงงานและเด็กท่ีมีฐานะ ยากจน ซึ่งเสมือนได้รับเป็นรางวัล ตามชื่อหนังสือที่ว่า Sunday Scholar’s Reward จนเปล่ียนช่ือใหม่เป็น The Child’s Companion and Juvenile Instructor ในปี ๑๘๔๖ และพมิ พจ์ ำหนา่ ยต่อเน่ืองไปจนถึงปี ๑๙๓๒ จงึ ยุติลง ส่วนอีกฉบบั หน่งึ เร่มิ หลงั ฉบับแรก ๒ ปีตอ่ มา ช่อื The Child’s Friend อยู่ได้ยาวนานถึง ๓๔ ปี แม้เด็กๆ จะไม่ชอบอ่าน เพราะไม่มีเรื่องสนุกสนาน มีแต่เรื่องที่มงุ่ สอนทางด้านศาสนาและศีลธรรม นิตยสารเล่มแรกท่ีสร้างกระแสดึงดูดเด็กได้เป็นอย่างดีคือ The Boys’ and Girls’ Penny Magazine ในปี ๑๘๓๒ สว่ นเล่มแรกทมี่ ีเปÑาหมายเพื่อเดก็ ชายโดยเฉพาะคือ Every Boy’s Magazine ในปี ๑๘๖๓ ต่อมาในปี ๑๘๖๖ Boys of England กเ็ ปดิ ตวั ขน้ึ ในฐานะสงิ่ พมิ พช์ นดิ ใหม่ เป็นนิตยสารแปดหน้า มเี รื่องยาวและบทความ และเรอ่ื งสน้ั ๆ ท่ีน่าสนใจ พิมพข์ ้ึนในราคาถกู เลม่ ทีน่ กั วิชาการดา้ นหนังสอื เด็กยกยอ่ ง คอื The Charm ซึ่งเกดิ ขึ้นเมอ่ื ค.ศ. ๑๘๕๒ ในฐานะที่เป็นนิตยสารสำหรบั เดก็ อยา่ งแท้จรงิ เด็กๆ ช่นื ชอบเพราะ ในเล่มมีพวกเทพนิยาย ตำนาน และเร่ืองสนุกๆ หากแต่ออกมาได้เพียง ๒ ปี ก็ตอ้ งเลิกไป เพราะผใู้ หญ่ในยุคนน้ั ยังมีความเชื่อว่า หนงั สือทสี่ ง่ เสรมิ จินตนาการ หาใช่หนังสือท่ีดีไม่ หนังสือท่ีดีสำหรับเด็กต้องส่งเสริมศีลธรรมจรรยามากกว่า จึงไม่เลือกซ้ือเลือกหานิตยสารแนวนี้ให้เด็ก นิตยสารเล่มนี้จึงต้องอำลาจาก โลกการอา่ นในยคุ นน้ั 9
ครั้นในปี ๑๘๕๕ (ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๔ ในบ้านเรา) นิตยสารท่ีมีชีวิต ชวี าอกี ฉบับของสำนักพมิ พเ์ อกชนกไ็ ด้เกิดขนึ้ ชื่อ The Boy’s Own Magazine เรอื่ งราวในเลม่ มี นิยายผจญภัยต่างๆ ประวัตศิ าสตรท์ น่ี า่ สนใจเกยี่ วกบั พระราชา กับอัศวิน นิทานและเร่ืองสนุกๆ อีกมาก และยังเชิญผู้เชี่ยวชาญในสาขาความรู้ ต่างๆ มาเขียน มีปญั หาใหเ้ ดก็ ไดท้ ายกนั ทายถูกกจ็ ะไดร้ างวัลทถ่ี ูกใจเดก็ ทง้ั ยัง จำหนา่ ยในราคาถูกเพยี งฉบับละไม่ก่ีเพนนี จึงขายได้ถึงเดือนละกวา่ สีห่ ม่นื ฉบับ ตอ่ มาสามภี รรยาแหง่ สกลุ บีทนั (Beeton) ผจู้ ัดทำนิตยสารฉบับนี้ ได้ออก นติ ยสารสำหรบั เดก็ ออกมาอกี ฉบบั หนง่ึ ชอ่ื The Girl’s Own Magazine ซงึ่ กลา่ ว กนั วา่ เป็นนติ ยสารเด็กเลม่ แรกๆ ของโลกทสี่ ร้างแรงกระเพือ่ มไดเ้ ป็นอย่างมาก (ซ้าย) The Boy’s Own Magazine ดำเนนิ การโดยสามี ภรรยาสกุลบีทัน (ขวา) ฉบบั เดอื นกมุ ภาพนั ธ ์ ค.ศ. ๑๘๕๕ | อบุ ัติการณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
ทศวรรษแหง่ บทบาทนติ ยสารเดก็ : เพือ่ เด็กและครอบครวั เดก็ หญงิ เด็กชาย หลังทศวรรษ ๑๘๖๐ เป็นต้นมา นิตยสารสำหรับเด็กมีบทบาทมากยิ่งข้ึน ด้วยการให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และความรอบรู้แก่เด็ก แนวทางในการ ทำกก็ วา้ งขึ้น มีเร่อื งเด่นๆ ทช่ี วนให้เดก็ ตดิ ตาม ซ่ึงมักจะลงในนติ ยสารกอ่ น แล้ว จงึ นำไปรวมเลม่ ทหี ลงั นิตยสารฉบับแรกท่ีมีเปÑาหมายเพื่อเด็กชายโดยเฉพาะคือ Every Boy’s Magazine ในปี ๑๘๖๓ ตอ่ มาในปี ๑๘๖๖ Boys of England กเ็ ปดิ ตัวข้นึ ใน ปีเดียวกันน้ีก็มีนิตยสารสำหรับเด็กท่ีเน้นชีวิตในบ้านและครอบครัว คือ Aunt Judy’s Magazine ซงึ่ ได้รบั ความสนใจเนน้ ไปยงั กลุ่มพ่อแมแ่ ละเดก็ ชนชั้นกลาง Aunt Judy’s Magazine เป็นนติ ยสารเพื่อเดก็ และครอบครวั เรม่ิ ดำเนนิ การในปี ๑๘๖๖ โดยมากาเรต็ แกตตี ในเลม่ มคี อลมั นต์ อบปัญหา และเขยี นเร่อื ง ด้วยนามปากกาติดต่อกนั ทุกฉบบั มีนิทานผลงานบุตรสาวของบรรณาธกิ ารลงเป็น ประจำ ลูกชายดแู ลเน้อื หาด้านโคลงกลอนและดนตรี ส่วน ดร.แกตตี สามกี เ็ ขยี น เร่ืองด้วยเหมือนกันเป็นคร้ังคราว ไม่เท่านั้นคุณปÑาจูด้ี (นามปากกาของ บรรณาธิการ) ยงั ไปนำเรื่องของ ฮันส์ ครสิ เตียน แอนเดอรเ์ ซน ที่เดก็ ๆ ชน่ื ชอบ มาลงพิมพ์ดว้ ย นอกจากนีย้ ังมผี ลงานของ เลวสิ คาร์รอลล์ ผเู้ ขียน อลิสในแดน
มหัศจรรย์ มาลงพิมพด์ ว้ ย ทำใหเ้ ดก็ ๆ ช่นื ชอบ และยงั เปิดคอลมั นใ์ หมค่ อื การ วิจารณห์ นังสอื สำหรบั เดก็ นับเปน็ นิตยสารทบ่ี ุกเบกิ การวจิ ารณว์ รรณกรรมสำหรับ เด็ก ภายหลังคุณปÑาจูด้ี เสียชีวิตในปี ๑๘๗๓ ก็บริหารงานต่อโดยลูกสาว จวบ จนถงึ ปี ๑๙๕๕ เรยี กได้วา่ เปน็ นติ ยสารทม่ี อี ายุยาวนานไม่น้อยเลยทเี ดียว Œันส์ คริสเตยี น แอนเดอรเ์ ซน (Hans Christian Andersen) “รา™า·หง่ เทพนิยาย” ชาวเดนมารก์ เกดิ เมอ่ื ค.ศ. ๑๘๐๕ ทเ่ี มอื งอเู ดนส์ พอ่ เปน็ ชา่ งเยบ็ รองเทา้ ฐานะยากจนและไม่มีการศึกษา แต่ก็รักลูกมาก จึงมัก เล่านิทานให้เด็กชายแอนเดอร์เซนฟัง และพาไปดู ละครในเมืองอยู่เสมอ บางคร้ังก็ทำโรงละครหุ่นเล็กๆ ให้เล่น จึงเป็นการปลูกฝังจินตนาการและทำให้เขา สนใจศิลปะมาต้ังแต่เด็ก แต่พออายุ ๑๑ ขวบ พ่อก็เสยี ชวี ิต แม่ต้องเลี้ยงดูตามลำพงั ดว้ ยฐานะอันยากจน เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนแล้ว เดินทางไปเมืองโคเปนเฮเกน ได้งานเป็นนักแสดงตัวประกอบเล็กๆ ใน คณะละคร และหัดเขียนบทละครไปด้วย | อบุ ตั กิ ารณ์นติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
เขาฝึกการเขียนและได้ตีพิมพ์ผลงานเล่มแรกของตัวเองในช่ือ “The Ghost at Palnatoke’s Grave” เมื่อมีอายุเพียง ๑๙ ปี อีกห้าปีต่อมา ผลงานเร่ืองสน้ั “A Journey on Foot from Holmen’s Canal to the East Point of Amager.” ก็สรา้ งช่อื ให้เขา แอนเดอร์เซนสนใจนทิ านพื้นบ้าน และนำนิทานพืน้ บา้ นมาเลา่ ใหม่ เดนิ ทางไปเล่านิทานทั่วยุโรป พบปะแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักเขียนคนสำคัญ อาทิ พี่นอ้ งตระกลู กริมม์, ชารล์ ส์ ดกิ เกนส์ และ แมรี โฮวิตต์ เป็นตน้ ภายหลังก็เริ่มแต่งเรอ่ื งเอง โดยใสบ่ รรยากาศน่ากลัว เศร้าสลด เพอ้ ฝนั และแฟนตาซีเข้าไป นำเสนอผ่านภาษาเรียบง่ายทว่าลึกซ้ึงคมคายแฝงแง่คิด แม้รูปลักษณ์ของเขาจะข้ีเหร่จนกลายเป็นตัวตลกให้คนอ่ืนหัวเราะเยาะมา ตลอดชีวิต แต่นิทานของเขากลับสวยงามและสร้างจินตนาการให้เด็กๆ มา แล้วทว่ั โลกจนทกุ วนั นี้ ราวกับว่าเขาตอ้ งการจะสะท้อนตัวตนออกมาผา่ นนทิ าน เหล่าน้ัน ตลอดชีวิตแอนเดอร์เซนสร้างผลงานเทพนิยายกว่า ๑๖๐ เรื่อง ผล งานท่ีได้รับความนิยมได้แก่ “ลูกเป็ดข้ีเหร่” (The Ugly Duckling) “เงือก นâอย” (The Little Mermaid) “©ลองพระองค์ใหม่ของพระรา™า” (The Emperor’s New Clothes) “∏ัมเบลินา่ ” (Thumbellina) และ “เดก็ ห≠งิ ไมâ ขดี ไø” (The Little Match Girl) ผลงานของแอนเดอร์เซนไดร้ ับการบนั ทึกไว้ ว่าถูกแปลบ่อยคร้งั ทส่ี ดุ ในประวตั ิศาสตรว์ รรณกรรม
(ซ้าย) หนงั สือรวม เล่ม เทพนิยายของ แอนเดอรเ์ ซน (ขวา) การต์ นู ของ วอลท์ ดสิ นีย์ จาก “เงือกน้อย” ของ แอนเดอรเ์ ซน อนุสาวรีย์ Œนั ส์ ครสิ เตยี น เพื่อเป็นการระลึกถึงเจ้าของแห่งวรรณกรรม แอนเดอร์เสน ในพพิ ิธภัณ±์ อมตะ “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์แอนเดอร์สัน” จึงได้ถูก อนสุ รณแ์ อนเดอรเ์ ซน สร้างขึ้นท่ีบ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเคยอยู่ในเมืองอูเดนส์ และได้ขยายพ้ืนที่ในเวลาต่อมา ผู้คนจากทุกมุมโลก พากันหลั่งไหลไปเยี่ยมเยียนพิพิธภัณฑ์เจ้าของ ตำนานอมตะอยา่ งไมข่ าดสาย | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมืองไทย-ในโลก
ในขณะท่ี Aunt Judy’s Magazine เน้นไปท่ีเร่ืองเกี่ยวกับบ้านและ ครอบครัว และค่อนไปทางเด็กผู้หญิง ในปีเดียวกันน้ีก็มีนิตยสาร Boys of England รายสปั ดาห์สำหรบั เด็กชาย จากปี ๑๘๖๖ ถงึ ปี ๑๘๙๙ เนือ้ หาในเล่ม เน้นหนักไปในเร่ืองชีวิตโลดโผน ปÉาเขาลำเนาไพร กีฬา ประวัติศาสตร์ เรื่อง แปลกประหลาด อาชญากรรม เร่ืองผจญภัยชวนฝันต่างๆ ตลอดจนเร่ืองใน โรงเรียน ได้รับความนิยมสูงมาก ถึงกับมียอดการจำหน่ายสูงได้ถึงสัปดาห์ละ ๑๕๐,๐๐๐ ฉบบั ในปแี รก และในชว่ งทศวรรษ ๑๘๗๐ มจี ำนวนจำหนา่ ยถงึ ฉบบั ละ ๒๕๐,๐๐๐ ฉบบั นบั เปน็ นติ ยสารแถวหนา้ ในโลกหนงั สอื ของเดก็ แหง่ ศตวรรษที่ ๑๙ กลุ่มเปาÑ หมายของ Boys of England คอื เด็กในครอบครวั ชนช้นั แรงงาน นกั เขยี นใหญ่ในนิตยสารเด็ก : ถนนสายจนิ ตนาการขา้ มศตวรรษ Good Words for the Young จดั ทำขนึ้ ในปี ๑๘๖๙ - ๑๘๗๗ เปน็ หนงั สอื ท่ีมีนักเขียนมีช่ือเสียงเด่นๆ หลายคน เช่น ชาร์ลส์ คิงส์ลีย์ (๑๘๑๙-๑๘๗๕) ศาสตราจารย์นักสร้างสรรค์วรรณกรรมเยาวชนที่มีชื่อเสียง เขียนเรื่อง “Madam How and Lady Why” นิตยสารฉบบั น้ีระบชุ ่อื ผเู้ ขียนภาพประกอบไว้ในสารบัญ เร่อื งด้วย เปน็ นิตยสารเด็กท่ีทันสมยั มภี าพประกอบสวยงาม มีคำประพันธโ์ คลง
กลอน มีเร่ืองราวท่ีสนุกสนานโดยนักประพันธ์ท่ีมีชื่อเสียง มีข้อเขียนท่ีให้ความรู้ ด้านต่างๆ แกเ่ ดก็ และมีบรรณาธกิ ารท่เี ขา้ ใจรสนยิ มและความสนใจของเด็ก มนี ติ ยสารอกี ฉบบั หนง่ึ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในปี ๑๘๗๑ คอื Young Folks ซงึ่ ลงพมิ พ์ เรอื่ ง “เกาะมหาสมบัติ” (Treasure Island) ของ โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน (๑๘๕๐-๑๘๙๔ กวีและนักเขียนชาวสก็อต) ติดต่อกันหลายเดือน ทำให้นิตยสาร เลม่ นขี้ ายดมี าก อายขุ อง เกาะมหาสมบตั ิ ทเี่ ขยี นเมอื่ ปี ๑๘๘๑ ถงึ วนั น้ี ๑๓๐ ปแี ลว้ โลกก็ยังยกย่องในฐานะวรรณกรรมคลาสสิคสำหรับเยาวชน มีการแปลงไปเป็น สือ่ อื่นๆ รวมทั้งเป็นภาพยนตร์หลายคร้ัง วรรณกรรมเยาวชนเร่ือง เกาะมหาสมบตั ิ จดั พมิ พเ์ ป็นเล่มภายหลังลงเป็นตอนๆ ในนติ ยสาร เกาะมหาสมบัตอิ ่านไดฟ้ รี ในรปู ของหนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สร้างสรรค์เป็นภาพยนตร ์ โดยวอลท์ ดสิ นีย์ | อบุ ตั ิการณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
นิตยสารเล่มหน่ึงท่ีเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ ๑๘๗๐ และกลายเป็น นติ ยสารท่ีโดดเด่นทส่ี ุด คอื The Boy’s Own Paper เป็นนิตยสารที่ครองตลาด ของผู้อ่านในครอบครัวชนชั้นกลาง นับเป็นนิตยสารท่ีได้รับความนิยมจากเด็กๆ การยอมรับจากพ่อแม่ผู้ปกครอง และมีอายุยืนยาวมากฉบับหน่ึง คือเผยแพร่ตั้ง แตป่ ี ๑๘๗๙ - ๑๙๖๗ The Boy’s Own Paper ดำเนินการโดยการสนับสนุนขององค์กรทาง ศาสนา เปน็ นิตยสารท่ีเด่นมากในยุคนน้ั ในฐานะของนติ ยสารที่มุ่งสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็ก ตระหนักในเรื่องของความดีและความซ่ือสัตย์ ละเว้นการกระทำช่ัว แต่เรื่องราว ในฉบับก็ไม่ได้ตั้งหน้าต้ังตาสั่งสอนอบรมศีลธรรม บรรณาธิการซึ่งรับงานต่อเนื่อง ยาวนานกว่า ๓๐ ปี มีความเห็นว่านิตยสารฉบับนี้จะต้องพยายามรักษาอุดมคติ ของตนเอาไว้ ด้วยการรักษาลักษณะและคุณภาพของหนังสือ โดยมีนโยบาย สำคัญคือ การเน้นหนักในเร่ืองเก่ียวกับธรรมชาติและมนุษยชาติ การรักษา คุณภาพจูงใจเด็กส่วนหนึ่งคือ การเชิญนักเขียนมาเขียนเรื่องในด้านต่างๆ เช่น เกี่ยวกับสัตวศาสตร์ การกีฬาต่างๆ นักเขียนคนหน่ึงท่ีเขียนเร่ืองพิสูจน์ให้เห็น ว่าการผจญภัยทางวิทยาศาสตร์เป็นเร่ืองท่ีน่าสนุกสนานตื่นเต้นยิ่งกว่าเร่ือง ประเภทใดๆ คือ จูลส์ เวิร์น (๑๘๒๘-๑๙๐๕ ชาวฝรั่งเศส) บิดาแห่งนวนิยาย วิทยาศาสตร์ ผลงานทกุ เรอ่ื งของจูลส์ เวริ ์น เขยี นเปน็ ภาษาอังกฤษนำลงพมิ พใ์ น นติ ยสารฉบับน้ีเป็นแหง่ แรก
ภาพปก The Boy’s Own Paper จลู ส์ เวริ น์ (Jules Gabriel Verne) เกดิ ทเ่ี มอื งนอ็ งต์ เมอ่ื ค.ศ. ๑๘๒๘ เป็นนักเขียนชาวฝร่ังเศส ผู้บุกเบิกการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์สมัยแรกๆ เวิร์นมีชื่อเสียงจากการเขียนเร่ืองเก่ียวกับการผจญภัยในอวกาศ ใต้น้ำ และ การเดินทางต่างๆ ก่อนจะมีการประดิษฐ์เรือดำน้ำหรืออากาศยานจริงๆ เป็น เวลานาน นวนิยายของเขามักใส่เนื้อหาวิทยาศาสตร์ท่ีสมจริง ซึ่งยังไม่คุ้นเคย กนั ในสมัยนนั้ แต่ได้รบั การยกย่องเป็นอย่างดีในเวลาต่อมา บทประพนั ธท์ สี่ ำคญั ไดแ้ ก่ “·ปดสบิ วนั รอบโลก” (Around the World in Eighty Days) “ใตâทะเลสองหมืËนโย™น์” (20,000 Leagues Under the Sea) “หâาอาทิตย์ในบอลลูน” (Five Weeks In a Balloon) นิยาย | อบุ ัตกิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมืองไทย-ในโลก
วิทยาศาสตร์ในช่วงหลังๆ จะเริ่ม สะท้อนถึงการมองเห็นด้านมืดของ เทคโนโลยีรวมถึงการนำเทคโนโลยีไป ใชอ้ ยา่ งผดิ ทาง เชน่ The Clipper of the Clouds, The Master of the World เวิร์นเสียชีวิตใน ค.ศ. ๑๙๐๕ ภายหลังเขาได้รับการยกยอ่ งให้เป็น “บดิ าแห่งนิยายวทิ ยาศาสตรโ์ ลก” รว่ มกบั เฮช. จ.ี เวลล์ (๑๘๖๖-๑๙๔๖) นักเขยี นชาวอังกฤษ นักเขียนทง้ั สองคนน้ไี ด้มี อทิ ธิพลตอ่ นยิ ายวทิ ยาศาสตรแ์ ละวงการวทิ ยาศาสตร์มาจนถงึ ปจั จบุ นั ช่ือของจูลส์ เวิร์น ได้รับการยกย่องโดยนำไปต้ังเป็นช่ือของยานขนส่ง อัตโนมตั ิ (Automated Transfer Vehicle - ATV) ลำแรกขององคก์ ารอวกาศ ยโุ รป ซงึ่ ทำหนา้ ท่ีขนสง่ พสั ดรุ วมทั้งต้นฉบบั นิยายวิทยาศาสตรข์ องเขาขึ้นไปยงั สถานอี วกาศนานาชาติเมือ่ สี่ปมี านเี้ อง เมื่อมี The Boy’s Own Paper คณะผ้จู ดั ทำก็ได้ผลิตอกี ฉบับหนึง่ สำหรบั เดก็ ผู้หญิงในปีถดั มา ชื่อ The Girl’s Own Paper แมจ้ ะไม่ไดร้ บั ความนยิ มเทา่ ฉบบั สำหรับเดก็ ผูช้ าย แต่กจ็ ำหนา่ ยไดย้ าวนานถงึ ๗๖ ปี (๑๘๘๐-๑๙๕๖) 9
ภาพปก The Girl’s Own Paper ตวั อย่างคอลัมน์ใน The Girl’s Own Paper นอกจากนีก้ ม็ ี Boys’ Friend จากปี ๑๘๙๕ ถงึ ๑๙๒๗ หนังสอื เลม่ อน่ื ๆ ทมี่ ีอายยุ นื ยาวเช่นกนั ไดแ้ ก่ Chums จากปี ๑๘๙๒ ถงึ ๑๙๓๔ มีเนื้อหาคอื เรอ่ื ง เกี่ยวกับสัตว์และกีฬา และอ่นื ๆ อกี มากเก่ียวกบั เด็กวัยร่นุ ตอ่ มาเน่อื งดว้ ยปัญหา การบรหิ ารขององค์กร Chums จงึ แยกตัวออกมาและเปล่ียนเป็นนติ ยสารเพือ่ การ ขบั เคล่ือนวงการลกู เสือโดยเฉพาะชอื่ British Boy Scouts โลกนิตยสารสำหรับเด็กในอังกฤษยุคน้ัน ประมาณได้เป็นหน่ึงในสามของ นิตยสารท้ังหมด ในจำนวนเหล่าน้ีมีหนังสือการ์ตูน (comics) ซึ่งมีเนื้อหาเป็น การต์ นู ช่อง เรอื่ งสน้ั ๆ แบบตา่ งๆ และมีนติ ยสารราคาถกู (pulp magazines) ซ่ึงออกมาเป็นเล่มเด่ยี วๆ จบในฉบับ เนอื้ หาเปน็ นวนิยายขนาดสนั้ (novella) ตอ่ มานวนิยายขนาดส้ันเหล่านี้มีการพัฒนาไปเป็นเร่ืองสำหรับผู้ใหญ่ มักจะเป็นเรื่อง สบื สวนสอบสวน คาวบอย ออกเป็นรายเดอื น | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเด็ก ในเมอื งไทย-ในโลก
The Juvenile Miscellany ฉบับในชว่ งปี ๑๘๓๘ และฉบบั ในชว่ งปี ๑๘๓๙ นติ ยสารเด็กในสหรฐั อเมริกา : จากแวดวงศาสนามาสู่ภาคเอกชน ในช่วงเวลาท่ีอังกฤษมีนิตยสารสำหรับเด็กออกมามากมายน้ัน อเมริกาก็มี นิตยสารสำหรับเด็กออกมาเกือบจะพร้อมๆ กัน ฉบับแรกเกิดข้ึนที่เมืองบอสตัน ในปี ๑๘๒๖ คอื The Juvenile Miscellany เป็นนิตยสารที่ออกไดไ้ ม่นานนัก เพราะไม่ค่อยได้รับความนิยม ทว่าก็มีส่ิงที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นใน หนงั สอื เลม่ นี้ นน่ั คอื บทกลอนสำหรบั เดก็ ทมี่ ชี อื่ เสยี งและเปน็ ทรี่ จู้ กั กนั มาถงึ ทกุ วนั นี้ คือ “Mary had a Little Lamb” โดย ซาร่า โจเซฟ เฮล ปรากฏสสู่ าธารณชน เป็นครง้ั แรกในนิตยสารฉบับน้ี
บทกลอน “Mary had a Little Lamb - แมรี่มี แกะน้อย” เป็นบทกลอนที่กล่าวถึงเด็กหญิงคนหน่ึงช่ือ แมรี่ ซอเยอร์ วันหน่ึงหนูน้อยตัดสินใจพาแกะตัวน้อย ไปโรงเรียนด้วยทั้งที่รู้ว่าจะไม่ได้รับอนุญาต แต่กลับ เป็นทีพ่ อใจของเพ่อื นๆ เป็นอย่างมาก ประกอบไปด้วย กลอน ๔ บท ใช้เปน็ บทกลอนกล่อมเดก็ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ซารา่ โซเจฟ เฮล (Sarah Joseph Hale) เขยี นข้ึนใน ปี ๑๗๙๘ ต่อมานำไปลงพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในนิตยสาร The Juvenile Miscellany และเปน็ ทแ่ี พรห่ ลายได้รบั ความนยิ มสำหรบั เด็กเล็กมาถงึ ทกุ วนั น้ี Mary had a little lamb, little lamb, little lamb, Mary had a little lamb, its fleece was white as snow. And everywhere that Mary went, Mary went, Mary went, and everywhere that Mary went, the lamb was sure to go. It followed her to school one day school one day, school one day, It followed her to school one day, which was against the rules. It made the children laugh and play, laugh and play, laugh and play, it made the children laugh and play to see a lamb at school. ... | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
เช่นเดียวกับในอังกฤษ นิตยสารสำหรับเด็กของ อเมริกาสมัยแรกๆ เกิดขึ้นเน่ืองมาจากความต่ืนตัว ของโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์ แต่ละนิกายก็มี นิตยสารของตนเองในชว่ งทศวรรษ ๑๘๒๐ - ๑๘๖๘ นิตยสารเด็กท่ีดำเนินการโดยสำนักพิมพ์เอกชน ในยุคน้ีมีหลายฉบับ ที่น่าสนใจได้แก่ The Little Pilgrim (๑๘๕๓-๑๘๖๘) เปน็ นติ ยสารรายเดอื น ที่ได้ นำเอาเร่ืองราวในประวัติศาสตร์ ตลอดจนเรื่องราว ของบุคคลสำคัญมาเขียนให้เด็กอ่าน ทำให้รู้สึกคล้าย นิตยสาร The Little Pilgrim ฉบับในปี ๑๘๖๖ กับว่าบุคคลเหล่านั้นได้กลับฟôóนคืนชีพขึ้นมาอีกคร้ัง หนงึ่ ในช่วงหลังของศตวรรษที่ ๑๙ นิตยสารสำหรับเด็กมีสถานภาพม่ันคงขึ้น มาก เด็กๆ นิยมอ่านกันมากข้ึน ท่ีมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพฉบับหน่ึงคือ The Riverside Magazine (๑๘๖๗-๑๘๗๐) เน่อื งจากมี ฮอเรซ อ.ี สกดั เดอร์ เปน็ บรรณาธิการท่ีเข้มแข็งและมีความเห็นว่าการทำหนังสือสำหรับเด็กต้องทำให้ดี ท่ีสุด มีความพิถีพิถันในด้านการเขียนและศิลปกรรม ต้องคอยนำเอาข้อติชม ต่างๆ มาปรับปรุงให้ดีย่ิงขึ้น และด้วยความท่ีคุ้นเคยกับ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน จึงได้เร่ืองของราชาแห่งเทพนิยายผู้น้ีมาตีพิมพ์อยู่จำนวนมากพอ
นิตยสาร The Riverside สมควร น่าเสียดายที่นิตยสารเล่มน้ีอยู่ในโลก Magazine ฉบบั ในปี ๑๘๖๙ หนังสือได้ไม่ก่ีปีเท่านั้น หากแต่สกัดเดอร์ยัง ทำงานอยู่ในวงการหนังสือสำหรับเด็กต่อไปให้กับ สำนักพิมพ์อื่น เช่น ทำหนังสือชุด จัดพิมพ์ หนังสือที่มีคณุ ค่าเพอ่ื ใหเ้ ดก็ ๆ ไดส้ มั ผสั กับหนังสอื ดี ด้ ว ย ค ว า ม พิ ถี พิ ถั น ทั้ ง ด้ า น เ นื้ อ ห า แ ล ะ ภ า พ ประกอบ Our Young Folks แห่งเมืองบอสตัน ระหว่างปี ๑๘๖๕-๑๘๗๓ เป็นนิตยสารเด็กท่ีมี นักเขียนคนสำคัญๆ เขียนวรรณกรรมลง อาทิ ชาร์ลส์ ดิกเคน เขียนเรื่อง “The Magic Fishbone” ลงพิมพ์ในปี ๑๘๖๘ นอกจากนี้ยังมี คุณภาพสงู เพราะมีนักเขยี นภาพท่ีมฝี มี ือหลายราย ในปี ๑๘๗๔ นิตยสารฉบับนี้ได้ยุบรวมเข้า กับนิตยสารอีกฉบับหนึ่งท่ีมีชื่อเสียงมากในยุคน้ัน คอื St. Nicholas ซ่ึงพมิ พ์ออกมาตงั้ แต่ปี ๑๘๗๓ | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
นติ ยสารเดก็ คุณภาพเตม็ เล่ม บนถนนสายรว่ มศตวรรษ St. Nicholas เป็นนิตยสารท่ีมีชื่อเสียงมากที่สุดในสมัยนั้น เป็นท่ีรู้จักกัน แพร่หลายทั้งในสหรัฐอเมริกาและในต่างประเทศ โดยบรรณาธิการที่มีพรสวรรค์ ทางด้านการส่ือสารกับเด็ก คือ แมรี เมปส์ ดอดจ์ (๑๘๓๑-๑๙๐๕) เนื้อหาใน นติ ยสารเล่มนมี้ ชี ีวติ ชวี า มเี ร่ืองดีๆ สำหรบั เด็ก โคลงกลอน บทความ ท่ใี ห้สาระ ความรู้ และมีมาตรฐานทัดเทียมกับนิตยสารรายเดือนสำหรับผู้ใหญ่ นโยบายที่ ต้ังไว้แต่แรกไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือ จะให้แบบอย่างที่ดีแก่เด็ก ทำให้เด็กรัก สจั จะ ความงาม ความจริงใจ รกั บ้าน รักประเทศ ทำตนมปี ระโยชน์ โดยเสนอ วิทยาการ ข่าวสาร และเหตุการณ์สำคัญๆ และเร่ืองดีๆ ให้เด็กได้อ่านกัน นโยบายสำคัญข้อหน่ึงคือเสนอวทิ ยาการขา่ วสารของโลกใหแ้ กเ่ ดก็ ๆ แตล่ ะฉบบั จะ มีเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่างๆ ชีวประวัติ บุคคลสำคญั ของอเมรกิ า มคี อลัมนท์ ่สี อนใหเ้ ด็กหดั ทำสง่ิ ของงา่ ยๆ ทำครวั งา่ ยๆ มีคอลัมน์วิจารณ์หนังสือ ตอบปัญหา จดหมายฉบับพิเศษก็จะได้ลงพิมพ์ในหน้า กล่องจดหมาย
นติ ยสาร St Nicholas นำเอาชอื่ ของนกั บุญนโิ คลสั (Saint Nicholas) มาใช้เป็นเป็นช่ือของนิตยสารเพื่อดึงดูดใจเด็กๆ เนื่องจากนักบุญนิโคลัสเป็น แรงบันดาลใจให้ชาวคริสต์จินตนาการถึงการมีบุคคลผู้มีความเอื้ออารีต่อเด็กๆ ผ้มู ชี อื่ วา่ ซานตาคลอส (Santa Claus) ซานตาคลอสในความคิดของคนทวั่ ไป เป็นชายแก่รูปร่างอ้วนและดูใจดี เขามักใส่เส้ือโค้ทที่ทำจากขนสัตว์สีแดงสดมี ขลิบสีขาว ที่เอวคาดเข็มขัดหนังและรองเท้าบูทสีดำ ซานตาคลอสอาศัยอยู่ท่ี ข้ัวโลกเหนือโดยมีเอลฟá ซึ่งเป็นมนุษย์ตัวเล็กที่ช่วยผลิตของเล่นให้เขานำไป แจกเด็กที่เป็นเด็กดีในคืนวันคริสต์มาส ซานตาคลอสมีพาหนะเป็นเลื่อนหิมะที่ ลากโดยกวางเรนเดยี รซ์ ง่ึ สามารถบนิ ได้ ในกลางดกึ วนั ครสิ ตม์ าส ซานตาคลอส จะแอบเข้าไปในบ้านที่มีเด็กดีทางปล่องไฟ เพ่ือนำของขวัญไปใส่ในถุงเท้าที่ แขวนรอไวห้ น้าเตาผิง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๑๘๘๕ ถงึ ตุลาคม ๑๘๘๖ มนี ิยายยาวตอ่ เนื่อง ที่ได้รับความสนใจจากนักอ่านรุ่นเยาว์กันเป็นอย่างมาก คือเรื่อง “Little Lord Fauntleroy” (ลอร์ดน้อยฟอนเต้ิลรอย) เขียนโดย ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์ เน็ตต์ นักประพันธ์-นักเขียนบทละครชาวอังกฤษ จนสร้างกระแสเป็นแฟช่ันการ แต่งกายเอาเยี่ยงอย่างกันเลยทีเดียว ย่ิงเม่ือมีการนำไปทำเป็นละครเวที และ ภาพยนตร์ และมกี ารผลิตกันหลายตอ่ หลายครั้ง จนถงึ ยุคหลังๆ น้ี วรรณกรรม | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
สำหรับเด็กเร่ืองนี้ได้กลายเป็นวรรณกรรมระดับโลกท่ีมีการแปลกันในหลาย ประเทศ รวมทง้ั ประเทศไทยเราด้วย ปกหนงั สือที่จัดพิมพ์เป็นเลม่ ฉบับแปลภาษาไทย ภาพยนตร์ในปี ๑๙๒๑ ในยคุ แรก จัดพมิ พไ์ มน่ อ้ ยกว่า นับเป็นครัง้ ท่ีสอง (ครั้งแรก ๑๙๑Ù) ๗ คร้งั โปสเตอรภ์ าพยนตรย์ ุคต่างๆ จากวรรณกรรมเดก็ ลอรด์ น้อยฟอนเติ้ลรอย ผลติ ออกอากาศทาง โทรทัศนแ์ ละเผยแพร่ ในรปู ดวี ีดี โดยบบี ซี ี
เม่ือบรรณาธิการดอดจ์ ถึงแก่กรรมในปี ๑๙๐๕ แต่หนังสือซึ่งวางรากฐาน ไว้เป็นอย่างดีก็ยังสามารถดำเนินไปได้อีกยาวนานถึง ๓๕ ปี รวมเบ็ดเสร็จ นิตยสารเล่มนป้ี รากฏอยูใ่ นโลกหนงั สอื เกือบ ๗๐ ปี ในภายหลัง ฉบบั รวมเล่มนบั เปน็ สิ่งที่มีค่าหายากท่ใี ครๆ กอ็ ยากได้ไวเ้ ป็นสมบตั ิอนั ล้ำค่า แตส่ มบตั ทิ ตี่ กทอดสู่ สงั คมคอื การทนี่ ิตยสารเล่มนม้ี ีอิทธิพลในการสร้างสรรค์การอา่ นของเดก็ ๆ ให้สูง ข้ึนด้วยงานเขียนที่ดีมีคุณค่าในด้านต่างๆ และยังเป็นแรงผลักดันให้สำนักพิมพ์ อน่ื ๆ ไดผ้ ลติ หนงั สอื ขนึ้ มาเพอื่ เขา้ สหู่ วั ใจนกั อา่ นรนุ่ เยาว์ เชน่ นติ ยสาร Harper’s Young People นโยบายของนติ ยสารเล่มนีค้ อื มงุ่ เสรมิ สร้างจนิ ตนาการแก่เดก็ ๆ ในรปู แบบ ของนทิ าน โคลงกลอน และเรื่องขบขันต่างๆ ไมม่ ีเร่อื งราวประเภทสั่งสอนอบรม แตม่ ีเรอ่ื งท่ีนา่ สนใจทางวทิ ยาศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ ชีวประวัติ เทคโนโลยีใหมๆ่ ฯลฯ ในบรรดานิตยสารสำหรับเด็กของอเมริกาทั้งหมด ฉบับท่ีมีอายุยืนยาวกว่า หนงึ่ ร้อยปี คอื The Young’s Companion (๑๘๒๗-๑๙๒๙) ซ่ึงถือว่าเปน็ ฉบับ ท่ีมีอายุยืนยาวทีส่ ุด แทบทุกบา้ นในสมยั นนั้ จะบอกรบั ท้ัง St.Nicholas และ The Young’s Companion (ภายหลงั เข้าร่วมกบั นิตยสาร The American Boy และ เลกิ กจิ การไปในปี ๑๙๔๑) | อบุ ตั กิ ารณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
(ซ้าย) ปกของ St.Nicholas ใน ค.ศ.๑๙๒๑ ซง่ึ เป็นปีท่ี Ù๘ ของนิตยสารเด็กเล่มนี้ (ล่าง) ส่วนหนง่ึ ของภาพประกอบ เรอ่ื ง ใน St.Nicholas นติ ยสารเด็ก คณุ ภาพสงู ของสหร∞ั อเมริกาเกือบ ๗๐ ปี (๑๘๗๓ -๑๙Ù๐) 9
บนเส น้ ทางสองศตวรรษ : มีหลกั ไมลใ์ ห้คนทำนติ ยสารเด็ก โดยภาพรวมของนิตยสารยุคบุกเบิกของโลก ซ่ึงมีอังกฤษและอเมริกาเป็น หัวแถวนั้น จะเห็นกระแสทีน่ ่าสนใจในหลายประการ และเป็น “หลกั ไมล์” อันยดึ เป็นแนวทางไดเ้ พือ่ การกา้ วตอ่ ไป ® ท้ังในสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา มีองค์กรทางศาสนาเป็นผู้ ริเร่ิม และเร่ิมด้วยการทำนิตยสารเด็กเพื่อการอบรมสั่งสอนทางด้าน ศีลธรรมเป็นสำคัญ ในช่วงแรกๆ ของการเขียน (การพิมพ์) เพ่ือให้ เด็กๆ ได้อ่านกันอย่างกว้างขวางนั้น ยังมีความเข้าใจกันอยู่ว่า เร่ือง ของจินตนาการหาใช่ส่ิงท่ีดีสำหรับเด็กไม่ ด้วยเหตุนี้จึงมุ่งใส่เนื้อหา ประเภท “สอนตรง” ทั้งในเร่ืองจรรยาและวิชาความรู้เข้าไปในเนื้อหา ของนิตยสาร ภายหลังจึงพลิกเปลี่ยนความเข้าใจว่า หนังสือที่ดี สำหรับเด็กต้องเป็นหนังสือที่เด็กชอบ สนุก ให้ความเพลิดเพลิน เจรญิ ใจ ไมใ่ ช่ “ยาขม” สำหรบั เดก็ ® หากแต่หนังสือที่ดีสำหรับเด็ก บรรณาธิการผู้จัดทำ ต้องเข้าใจ ธรรมชาตขิ องเด็ก ในแตล่ ะช่วงวยั สำหรบั เด็กชายและเด็กหญงิ ตอ้ ง เรียนรู้ท่ีจะ “ปรับ” และ “ปรุง” หนังสืออย่างต่อเน่ืองตลอดเวลา ทำให้นิตยสารหลายเล่มได้รับความนิยมยาวนานกว่าครึ่งค่อนศตวรรษ เปน็ อย่างนอ้ ย และบางเล่มเกินกวา่ หน่งึ ศตวรรษกย็ ังมี โดยมีการ “ส่ง | อบุ ตั ิการณน์ ติ ยสารเดก็ ในเมอื งไทย-ในโลก
ไม้” ผลัดต่อไปให้กับบรรณาธิการ นักเขียนนักสร้างสรรค์หนังสือเพ่ือ เดก็ และเยาวชนรุ่นใหมท่ กี่ ้าวเขา้ มาแทนที่ ® สิ่งหนึ่งท่ีสำคัญมาก คือมีการลงตีพิมพ์วรรณกรรมสำหรับเด็ก โดย เฉพาะอย่างยิ่งคือ นิยายเป็นตอนๆ ทำให้เด็กๆ ติดตามอย่างจดจ่อ และหลายเรื่องเหล่าน้ันกลายมาเป็นวรรณกรรมช้ันนำของโลก ที่ยัง อา่ นได้อยา่ งบนั เทิงเรงิ ใจในยุคน้ี ทั้งมกี ารดัดแปลงไปสู่ส่ือใหมๆ่ เป็น ภาพยนตร์ เป็นการ์ตูน อยู่ในโลกออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ และยังตี พิมพ์เป็นหนังสือให้นักอ่านได้สัมผัสความเป็นอมตะของจินตนาการอนั แยบยลของนักเขียนผสู้ ามารถ ® ไม่เพียงเท่าน้ัน นิตยสารเด็กที่เป็นท่ีช่ืนชอบของเด็ก ต้องมี “พ้ืนที่” ให้แก่เด็ก เด็กเขียนจดหมายไปพูดคุยแสดงความคิดเห็น ถามปัญหา อยากรู้ เขียนเรอื่ งเขียนรูปไปให้พิจารณาลงตพี มิ พ์ ฯลฯ เด็กมีความปรารถนาทจ่ี ะอา่ นนติ ยสาร จะเปน็ รายสปั ดาห์ รายปกั ษ์ หรอื รายเดอื นกไ็ ด้ ขอแต่ตอ้ งทำให้เขารสู้ ึกไดผ้ ่อนพกั อยา่ งเปน็ สุข ไดส้ ัมผัสกบั เรอื่ งท่ี น่าสนใจ น่ีนิดน่ันหน่อยก็ได้ ได้ก้าวไปสู่โลกของเทพนิยาย ได้ผจญภัยในความ ฝัน ได้ร้ลู ทู่ างของตนวา่ จะมงุ่ ไปทางใด มีพ้ืนท่ที ีร่ ้สู ึกวา่ เป็นของเขาจริงๆ นิตยสารสำหรับเด็กโบกมือลา ความคิดที่จะทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ใหญ่-ท่ี ไมเ่ ขา้ ใจเดก็ ทชี่ อบอบรมสง่ั สอน ทแ่ี ยกโลกของการเรยี นรอู้ อกจากโลกทเี่ ดก็ ดม่ื ดำ่ กบั เรอื่ งใดๆ ดว้ ยความเพลดิ เพลนิ ท่แี ยกโลกของจินตนาการออกจากความรู้...
รายการหนังสอื อา้ งอิง กล่อมจิตต์ พลายเวช. “นิตยสารสำหรับเด็กของต่างประเทศ ในศตวรรษท่ี ๑๙” ใน บรรณารักษ์ ๒๐. กรุงเทพฯ : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ๒๕๑๘. ถริ นันท์ อนวัชศิรวิ งศ,์ พิรณุ อนวชั ศริ ิวงศ.์ การต์ ูน มหศั จรรย์แห่งการพฒั นาสมองและ การอา่ น. สถาบันการ์ตนู ไทย สำนักพิมพ์มูลนิธิเดก็ . ๒๕๕๓. นวลจันทร์ รตั นากร, ชุตมิ า สจั จานันท์ และมารศรี ศิวลกั ษณ์. ปกิณกะเร่ืองหนงั สอื ใน สมัยรัตนโกสินทร์. ม.ป.ท. (พิมพ์เน่ืองในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พ.ศ.๒๕๒๕) นิศา ชโู ต, กลอ่ มจติ ต์ พลายเวช และกานตม์ ณี ศักด์ิเจรญิ . การวิเคราะหเ์ นอื้ หาหนังสือ อ่านสำหรับเด็ก. รายงานการวิจัยเสนอคณะกรรมการอุดมการณ์แห่งชาติ ๓๑ มนี าคม ๒๕๒๔. พรทิพย์ วินิจสาร. “การศึกษารูปแบบและวิเคราะห์เน้ือหาวารสารภาษาไทยสำหรับเด็ก” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชาบรรณารักษ์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั ๒๕๒๓. ระววี รรณ ประกอบผล. “นิตยสารไทย” ใน ววิ ฒั นาการส่อื มวลชนไทย. เอกสารประกอบ การประชุมวิชาการเนื่องในโอกาสปีการสื่อสารสากล คณะนิเทศศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ๒๕๒๖. และเวบ็ ไซต์ต่างๆ ท่เี กยี่ วข้อง
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีบทบาทหน้าท่ีในการประสานกลไก นโยบาย และปัจจัยขยายผล จากท้ังภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ให้เอ้ือต่อการขับ เคลื่อนการสร้างเสริมพฤติกรรมและวัฒนธรรมการอ่าน ให้เข้าถึงเด็ก เยาวชน และ ครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงหนังสือและกลุ่มท่ีมีความต้องการ พเิ ศษ คณะกรรมการกำกับทิศทางแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ประธาน : รศ.นพ.ปญั ญา ไข่มกุ กรรมการ : ดร.อมรา ปฐภญิ โญบูรณ์ กรรมการ : คุณเข็มพร วิรณุ ราพนั ธ์ กรรมการ : รศ.ดร.วลิ าสินี อดลุ ยานนท์ กรรมการและเลขานุการ : คณุ สดุ ใจ พรหมเกิด ร่วมสนบั สนุนการขบั เคลื่อนนโยบาย โครงการ และกจิ กรรมเพ่อื สรา้ งเสริมให้เกิดพฤติกรรม และวฒั นธรรมการอ่านเพ่ือสังคมสขุ ภาวะกบั เราได้ที่ แผนงานสราâ งเสรมิ วั≤นธรรมการอา่ น ๔๒๔ หมู่บา้ นเงาไม้ ซอยจรญั สนิทวงศ์ ๖๗ แยก ๓ ถนนจรัญสนทิ วงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรงุ เทพฯ ๑๐๗๐๐ โทรศัพท์ : ๐-๒๔๒๔-๔๖๑๖-๗ โทรสาร : ๐-๒๔๒๔-๔๖๑๖-๗ กด ๓ Website : www.happyreading.in.th, E-mail : [email protected] Facebook : http://www.facebook.com/happy2reading Twitter : http://www.twitter.com/happy2reading
Search