โน้ตไทยสากล โดย ส.พิณแก้ว (ฉบับพ้อคเก้ตบุ๊ค) (ไม่มีปก)

โน้ตไทยสากล ทางเลือกใหม่ในการเขียน/อ่านตวั โน้ตดนตรีสากล (สงวนลขิ สิทธ์ิ) โดย ส.พณิ แก้ว วธิ ีการอ่าน/เขียนโนต้ ดนตรีสากลในแนวทางใหม่ท่ีง่าย ต่อการเรียนรู้และเขา้ ใจ.... แจกฟรี (หรือ บริจาคสนบั สนุนมูลนิธิพิณแกว้ ตามกาลงั ศรัทธา)

ขอกราบขอบพระคุณ นายพันโทพระอภัยพลรบ (พลอย เพ็ญกลุ ) ซงึ่ เป็ นผใู ้ หก้ าเนดิ ตวั โนต้ ดนตรไี ทย และ ขออนุญาตนาตวั โนต้ ดนตรไี ทยนัน้ มาดดั แปลงใชเ้ ป็ น \"โนต้ ไทยสากล\" ดว้ ยความสานกึ ในพระคณุ อยา่ งหาทส่ี ดุ มไิ ด ้ นายสขุ สนั ต์ ทองประสทิ ธ์ิ (ส.พณิ แกว้ ) เลขาธกิ ารมลู นธิ พิ ณิ แกว้

คานา เน้ือหาในหนงั สือเล่มน้ีเรียบเรียงข้ึนเพอื่ เป็นอีกทางเลือก หน่ึงสาหรับผทู้ ี่มุ่งหวงั จะเรียนรู้และฝึ กฝนการเล่นดนตรีสากล แต่ กลบั ตอ้ งติดขดั อยกู่ บั ความยากหลายประการของระบบการจด บนั ทึกเสียงดนตรีสากลท่ีบนั ทึกดว้ ยตวั โนต้ บนบรรทดั หา้ เสน้ หนงั สือเล่มน้ีแมจ้ ะมีเน้ือหาที่ส้นั มากๆ แต่กลบั จะเป็น ประโยชนอ์ ยา่ งยงิ่ แก่ผทู้ ่ีสนใจจะศกึ ษาเรียนรู้ฝึ กฝนการเล่นดนตรี สากลใหเ้ ป็นเพลง แต่อยา่ งไรกต็ าม เน้ือหาในหนงั สือเล่มน้ียงั ไม่ใช่ เน้ือหาที่ดีท่ีสุด หากแต่เพียงตอบสนองความตอ้ งการข้นั ตน้ ใหแ้ ก่ ผสู้ นใจเท่าน้นั ส.พณิ แก้ว

การวเิ คราะห์ \"โนต้ ไทยสากล\" จากเวปไซต์ \"สยามบรรเลง\" (อา่ นขอ้ ความตน้ ฉบบั ไดท้ ี่ http://siambanlang.blogspot.com/2013/10 /blog-post.html ) วนั องั คารที่ 29 ตลุ าคม พ.ศ. 2556 รวี วิ โนต้ ไทยสากล โดย ส.พณิ แกว้ โน๊ตเพลงกค็ อื การบนั ทกึ เสยี งดนตรที ปี่ ระกอบดว้ ยปัจจัย หลกั ๆ สอ่ งสว่ นคอื ระดบั เสยี ง และจังหวะ (ความยาว เสยี ง) ลงแผน่ กระดาษดว้ ยสญั ลกั ษณท์ ตี่ กลงกนั ซง่ึ นัก ดนตรที เ่ี ขาใจสญั ลกั ษณ์ทตี่ กลงกนั นกี้ จ็ ะสามารถเลน่ เป็ น เพลงได ้ โน๊ตสากล กเ็ ป็ นการบนั ทกึ รปู แบบหนงึ่ ผา่ น บรรทดั 5 เสน้ และเครอื่ งหมายกาหนดจงั หวะตา่ งๆ เชน่ ตวั ขาว ตวั

ดา ตวั เขบด๊ ฯลฯ และสญั ลกั ษณพ์ เิ ศษอกี มากมาย ทาให ้ เป็ นยาขมสาหรบั นักดนตรหี ลายทา่ น คณุ ส.พณิ แกว้ กเ็ หน็ ปัญหาน้ี โดยลดทอนโน๊ตสากลให ้ เหลอื แตส่ ว่ นสาคญั ทเ่ี พยี งพอจะเลน่ เป็ นเพลงได ้ และนา จดุ เดน่ ของโน๊ตอกั ษรของดนตรไี ทย \"ด ร ม ฟ\" ทเ่ี หน็ \"ด\" กร็ วู ้ า่ เป็ นเสยี ง \"โด\" เขา้ มาเป็ นโน๊ตไทยสากลทท่ี า ใหน้ ักเรยี นสามารถเลน่ เป็ นเพลงไดง้ ายขนึ้ มนั เยยี่ มจรงิ ๆ ตวั อยา่ งการอา่ นโนต๊ เพลงสายฝน ถา้ เรารแู ้ คโ่ น๊ต วรรคแรกทรี่ อ้ งวา่ \"เมอื่ ลมฝนบนฟ้ามาลวิ่ \" โน๊ตคอื \"เร มี ซอล มี ฟา มี เร\" ถา้ โชคดฮี มั ทานองเพลง ไดก้ เ็ ลน่ เป็ นเพลงไดแ้ ตถ่ า้ เป็ นเพลงทไี่ มเ่ คยไดย้ นิ กไ็ มร่ ู ้ ทานองกจ้ ะเลน่ ไมเ่ ป็ นเพลง โน๊ตสากลก็เขา้ มาชว่ ย แกป้ ัญหาตรงนี้ โดยระดบั เสยี งเป็ นสญั ลกั ษณอ์ ยบู่ น บรรทดั 5 เสน้ และความยาวเสยี งเป็ นตวั โน๊ต ตวั กลม ตวั ขาว ตวั ดา ฯลฯ

การอา่ นโนต๊ เพลงสายฝน ในโนต๊ สากล ตวั อยา่ งโน๊ตเพลงพระราชนพิ นธ์ \"สายฝน\" จะยกตวั อยา่ ง วา่ กวา่ จะโน๊ตนเ้ี ป็ นเพลงได ้ 4 หอ้ งตอ้ งรอู ้ ะไรบา้ ง  เครอื่ งหมายกญุ แจซอล บอกวา่ เครอ่ื งหมายโน๊ต อะไรทอ่ี ยบู่ รรทัดที่ 2 นับจากขา้ งลา่ งคอื เสยี ง \"ซอล\" อยากรโู ้ น๊ตตวั อน่ื ก็ไลเ่ สยี งตอ่ เอา  ทฤษฎดี นตรเี บอ้ื งตน้ เรอื่ งคยี ์ และโน๊ตในแตล่ ะคยี ์ วา่ ตวั ไหนตดิ ชา๊ ป แฟลตบา้ ง ในรปู มเี ครอื่ งหมาย # อยตู่ รงเสยี ง \"ฟา\" นักดนตรกี ็จะรทู ้ นั ทวี า่ เพลงนี้

อยคู่ ยี ์ G เวลาเลน่ เพลงเหน็ โน๊ตตวั ฟาตอ้ งเลน่ เป็ น ฟาชา๊ ป (สงู กวา่ เดมิ ครงึ่ เสยี ง)  เครอื่ งหมาย 3/4 บอกวา่ เพลงนี้ 1 หอ้ งเพลงมี 3 จังหวะ โดยโน๊ตตวั ดานับเป็ น 1 จงั หวะ  เรมิ่ เลน่ หอ้ งเพลงที่ 1 o โน๊ตตวั แรกคอื เสยี ง \"เร\" ตวั ขาวยาว 2 จังหวะ ลงจงั หวะท่ี 1 และ 2 ของหอ้ งเพลง o โน๊ตตวั ทสี่ องคอื เสยี ง \"ม\"ี ตวั ดายาว 1 จงั หวะ ลงจงั หวะท่ี 3  เลน่ หอ้ งเพลงท่ี 2 o โน๊ตตวั แรกคอื เสยี ง \"ซอล\" ตวั ขาวยาว 2 จังหวะ ลงจงั หวะท่ี 1 และ 2 ของหอ้ งเพลง o โน๊ตตวั ทสี่ องคอื เสยี ง \"ม\"ี ตวั ดายาว 1 จังหวะ ลงจงั หวะท่ี 3  เลน่ หอ้ งเพลงที่ 3 o โน๊ตตวั แรกคอื เสยี ง \"ฟา\" ตวั ขาวยาว 2 จงั หวะ ลงจงั หวะที่ 1 และ 2 ของหอ้ งเพลง o โน๊ตตวั ทส่ี องคอื เสยี ง \"ม\"ี ตวั ดายาว 1 จังหวะ ลงจงั หวะท่ี 3  เลน่ หอ้ งเพลงที่ 4 o โน๊ตตวั แรกคอื เสยี ง \"เร\" ตวั ขาวประจดุ ยาว 2 จงั หวะบวกอกี ครง่ึ ของตวั เองคอื 1 จังหวะ รวมเป็ น 3 จงั หวะ ลงจังหวะท่ี 1, 2 และ 3 ของหอ้ งเพลง o โนต้ ไทยสากล โดย ส.พณิ แกว้ เลน่ แคส่ ห่ี อ้ งตอ้ งใชค้ วามรเู ้ ยอะพอสมควรเลยทเี ดยี ว คณุ ส.พณิ แกว้ กไ็ ดป้ ระยกุ ตโ์ น๊ตสากลใหอ้ า่ นงา่ ยขนึ้ เหลอื

แตจ่ ดุ สาคญั และเอา วธิ บี นั ทกึ โน๊ตแบบไทยแบบ \"ดรมฟ\" ทเ่ี สยี ง \"โด\" กเ็ ป็ น \"ด\", \"เร\" เป็ น \"ร\" ฯลฯ มา ประยกุ ต์ กลายเป็ นโนต้ ไทยสากล ดงั ภาพ โดยวธิ อี า่ นก็ เหมอื นโน๊ตสากลขา้ งบน โดยสรปุ โนต้ ไทยสากล โดย ส.พณิ แกว้ กเ็ ป็ นวธิ หี นง่ึ ที่ ชว่ ยใหก้ ารสอนดนตรเี ป็ นเรอ่ื งง่ายขน้ึ เลน่ เป็ นเพลงโดย ไมต่ อ้ งบนั ทกึ โน๊ตบนบรรทดั 5 เสน้ และเป็ นพน้ื ฐานทใี่ ช ้ ตอ่ ยอดไปอา่ นโน๊ตสากลไดค้ รบั มนั เยยี่ มจรงิ ๆ

บทนา ก่อนจะมาเป็ น “โน้ตไทยสากล มีเร่ืองราวปัญหาต่างๆ มากมายเก่ียวกบั กระบวนการศึกษา เรียนรู้วชิ าดนตรีสากลของประเทศไทยที่ใชเ้ วลาเดินทางผา่ นมา เกือบร้อยปี เตม็ น้นั เล่ากนั สามวนั เจด็ วนั กย็ งั ไม่จบ ท่านสามารถติดตามศกึ ษาเรื่องราวต่างๆ เหล่าน้นั ไดจ้ าก หวั ขอ้ ต่างๆ เหล่าน้ีได้ ดงั น้ีครับ มูลนิธิพณิ แกว้ การก่อต้งั มูลนิธิพิณแกว้ วกิ ฤตการณ์ท่ีมองไม่เห็น ท่านสามารถเขา้ ร่วมเป็นส่วนหน่ึงของขบวนการเพ่ือ ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกนั ในการช่วยแกไ้ ขปัญหาของประเทศไทย ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งออกแรง โดยการบริจาคสนบั สนุนมูลนิธิพิณแกว้ ได้ เลยครับ....

บทท่ี 1 กระดาษสาหรับบันทกึ ตัวโน้ต รูปที่ 1 : องค์ประกอบของบรรทัดสาหรับจด บนั ทกึ จากรูปที่ 1 แสดงใหเ้ ห็นถึงองคป์ ระกอบของบรรทดั สาหรับจด บนั ทึกตวั โนต้ ดนตรีสากลตามแนวทางของ ส.พิณแกว้ น้นั มี องคป์ ระกอบอะไรอยา่ งไรบา้ ง ดงั จะไดแ้ สดงตวั อยา่ งตาม รูปท่ี 2

รูปที่ 2 : บรรทดั สาหรับจดบันทึกตวั โน้ตไทยสากล โดยปกติทว่ั ไปแลว้ บทเพลงจะมีสามประเภทดว้ ยกนั กล่าวคือ บทเพลง 2 จงั หวะ บทเพลง 3 จงั หวะ และ บทเพลง 4 จงั หวะ แต่ที่ไดแ้ สดงตวั อยา่ งไวใ้ นรูปท่ี 2 น้นั จะขออนุญาต กล่าวถึงแค่เพยี งบทเพลง 3 จงั หวะ และ บทเพลง 4 จงั หวะ พอให้ เขา้ ใจเป็นสังเขปเท่าน้นั

ภายในแต่ละหอ้ งน้นั จะประกอบดว้ ยเสน้ ขีดนอนกบั เสน้ ขีด ต้งั จานวนเท่ากบั จานวนจงั หวะในแต่ละหอ้ งของเพลงน้นั ๆ โดย ในเพลงท่ีมีจานวนจงั หวะหอ้ งละ 3 จงั หวะ กจ็ ะประกอบดว้ ยเสน้ ขีดนอนกบั เส้นขีดต้งั จานวน 3 ชุด ส่วนในเพลงที่มีจานวนจงั หวะ หอ้ งละ 4 จงั หวะ กจ็ ะประกอบดว้ ยเสน้ ขีดนอนกบั เส้นขีดต้งั จานวน 4 ชุด จากคาอธิบายในหอ้ งท่ี 2 ของแต่ละบรรทดั น้นั แสดงให้ เห็นวา่ เสน้ ท่ีเป็นขีดนอนน้นั มีไวส้ าหรับตวั โนต้ ที่ตรงกบั จงั หวะตก ส่วนเสน้ ขีดต้งั ที่ตามมาน้นั กม็ ีไวส้ าหรับตวั โนต้ ที่ตรงกบั จงั หวะยก คงจะไม่ตอ้ งถามเลยวา่ แลว้ สาหรับบทเพลงที่มีหอ้ งละ 2 จงั หวะล่ะ คาตอบกค็ ือจะมีจานวนเสน้ ขีดนอนกบั เส้นขีดต้งั หอ้ งละ 2 ชุดนนั่ เอง เส้นขีดนอนกบั เสน้ ขีดต้งั แต่ละชุดน้นั วางตวั อยตู่ รงกบั จงั หวะลาดบั ที่น้นั ๆ ในหอ้ งเพลงนน่ั เอง กล่าวคือ ชุดที่หน่ึงกจ็ ะ ตรงกบั จงั หวะลาดบั ที่หน่ึง ชุดที่สองกจ็ ะตรงกบั จงั หวะลาดบั ท่ีสอง และชุดถดั ๆ ไป กจ็ ะตรงกบั จงั หวะถดั ๆ ไป สาหรับเสน้ ขีดนอนท่ีตรงกบั จงั หวะที่ 1 และ จงั หวะท่ี 3 น้นั เป็ นเส้นขดี นอนหนา ซ่ึงระบุไวว้ า่ เป็นจงั หวะคี่ ส่วนเสน้ ขีด

นอนท่ีตรงกบั จงั หวะท่ี 2 และ จงั หวะที่ 4 (กรณีของบทเพลง 4 จงั หวะ) น้นั เป็ นเส้นขดี นอนบาง ซ่ึงระบุไวว้ า่ เป็นจงั หวะคู่ เร่ืองของจงั หวะที่ 3 น้นั มีความสาคญั พอสมควรซ่ึงควรจะ ไดร้ ู้และเขา้ ใจ กล่าวคือ เป็นจงั หวะท่ีอาจจะเรียกได้ (ตามความ เขา้ ใจของผเู้ ขียนเอง) วา่ เป็น จังหวะเฝ้ามอง หรือ จงั หวะครึ่งห้อง ในเวลาเล่นดนตรีจริงๆ น้นั ผเู้ ล่นอาจจะไม่มีเวลาไปนงั่ นบั จงั หวะไปซะทุกจงั หวะ กอ็ าศยั การมองหา จงั หวะเฝ้ามอง หรือ จังหวะครึ่งห้อง ที่วา่ น้ีเป็นตวั ช่วยนนั่ เอง เรื่องน้ีจะแจ่งแจง้ กระจ่าง ใจต่อผเู้ รียนกต็ ่อเมื่อไดป้ ฏิบตั ิจริงแลว้ เท่าน้นั สาหรับคาวา่ “จงั หวะตก” กบั “จังหวะยก” น้นั อธิบายได้ ดงั ต่อไปน้ีคือ (ตรงนีถ้ ้าไม่เข้าใจให้ลองอ่านกลบั ไปกลบั มาหลายๆ เทยี่ ว พร้อมกบั ปฏิบตั ิตามคาแนะนาไปด้วย คงจะพอช่วยได้) ถา้ เราเคาะพ้นื โต๊ะเป็นจงั หวะ (ตอ้ งทาอยา่ งชา้ ๆ (ตอ้ งชา้ ๆ จริงๆ นะ อยา่ งใจร้อน...) เพื่อจะไดส้ งั เกตเห็นได)้ โดยสมมุติวา่ เรา จะนบั หอ้ งละ 4 จงั หวะ โดยการนบั หน่ึงเม่ือมือกระทบพ้นื โตะ๊ คร้ัง ท่ีหน่ึง แลว้ ยกมือข้ึนเพือ่ เคาะลงอีกคร้ังกจ็ ะไดจ้ งั หวะท่ีสอง และ จงั หวะท่ีสาม และจงั หวะท่ีส่ี เม่ือครบสี่แลว้ การเคาะคร้ังต่อไปกจ็ ะ เป็นจงั หวะท่ีหน่ึงของหอ้ งถดั ไป

ทุกคร้ังท่ีมือกระทบพ้นื โตะ๊ เพอื่ ใหเ้ รานบั จงั หวะน้นั ณ ตรง จุดน้นั เรียกวา่ “จงั หวะตก” ทุกคร้ังที่เรายกมือข้ึนเพื่อจะเคาะคร้ังต่อไปน้นั ในขณะท่ีมือ เรายกสูงสุดเพอ่ื เตรียมท่ีจะเคาะคร้ังต่อไปน้นั ณ ตรงจุดน้นั เรียกวา่ “จังหวะยก” ซ่ึงเป็นจุดท่ีตรงกบั คร่ึงหน่ึงของจงั หวะลาดบั ท่ีท่ีเรา เพิ่งจะนบั ไปนน่ั เอง ศพั ทท์ างวชิ าการกเ็ รียกวา่ “เศษหน่ึงส่วนสองของจงั หวะ” ส่วนศพั ทช์ าวบา้ นกจ็ ะเรียกอยา่ งง่ายๆ วา่ “คร่ึงจงั หวะ” ถา้ เราเคาะโดยไม่นบั ลาดบั ที่เลย (เคาะไปเรื่อยๆ ใหเ้ ป็น จงั หวะเท่าๆ กนั ) เราสามารถขานออกเสียงเมื่อมือกระทบพ้นื วา่ “ตก” และขานออกเสียงเม่ือยกมือข้ึนสูงสุดวา่ “ยก” กจ็ ะไดย้ นิ เสียง ที่ตวั เราเอง (หรือคนอ่ืนๆ กไ็ ด)้ ออกเสียงขานเป็นจงั หวะวา่ ตก.... ยก.... ตก.... ยก.... ตก.... ยก... ตก.... ยก... (คลา้ ยๆ กบั เสียงนาฬิกา ท่ีเรามกั ออกเสียงขานกนั วา่ “ต่อก... ติ๊ก... ต่อก... ต๊ิก... ต่อก... ต๊ิก ... ต่อก... ติ๊ก...” นน่ั แหละ) คราวน้ีลองเปล่ียนเป็นการนบั สี่ (นบั หน่ึง สอง สาม สี่ แลว้ กอ้ เริ่มตน้ นบั หน่ึงใหม่ เหมือนตอนที่คุณครูจะจบั เราแบ่งกลุ่มยงั ไง

กอ้ ยงั ง้นั นน่ั แหละ...) โดยขณะที่มือกระทบพ้ืนใหเ้ ราออกขานออก เสียงเป็นตวั เลข และในขณะท่ียกมือข้ึนกใ็ หข้ านออกเสียงวา่ “ยก” กจ็ ะไดย้ นิ เสียงที่ตวั เราเอง (หรือคนอ่ืนๆ กไ็ ด)้ ออกเสียงขานเป็น จงั หวะวา่ หน่ึง.... ยก.... สอง.... ยก.... สาม.... ยก... สี่.... ยก.... หวงั วา่ คงจะพอมองเห็นภาพ รู้ และ เขา้ ใจ กนั นะครบั ..... แลว้ ท่ีตอ้ งมาเสียเวลาอธิบายตรงน้ีกนั ซะยดื ยาวน้นั กเ็ ผอื่ สาหรับท่านผอู้ ่านที่ไม่เคยเรียนรู้การเล่นดนตรีมาก่อนเลยนนั่ แหละ ส่วนท่านที่เคยเล่นดนตรีกนั มาบา้ งแลว้ ไม่เก่ียว.... นอกจากจะอยาก ตอกย้าซ้าซากใหก้ บั ตวั เองกอ้ แลว้ ไป....

บทท่ี 2 เรื่องต่างๆ เกย่ี วกบั ช่ือของเสียง รูปที่ 3 : ชื่อของเสียง ช่ือของเสียงที่เป็นอกั ษรไทยน้นั กน็ ามาจากระบบ อกั ษรไทย

ส่วนชื่อของเสียงท่ีเป็นอกั ษรองั กฤษน้นั นามาจากระบบ ซอล-ฟา โดยเอามาเฉพาะอกั ษรตวั แรกของชื่อของเสียงเท่าน้นั ผเู้ ขียนเคยถูกต้งั คาถาม (แลว้ กเ็ ชื่อวา่ จะตอ้ งมีผตู้ ้งั คาถาม อีก) วา่ ทาไมไม่ใชอ้ กั ษรภาษาองั กฤษตวั ใหญ่ นน่ั คือ C D E F G AB คาตอบแรก : ผเู้ ขียนเห็นวา่ การเรียบเรียงเน้ือหาน้ีข้ึนมาก็ เพื่อแกห้ รือขจดั ปัญหาการเปลืองเวลาและเปลืองสมองในการแปล ความจากสิ่งหน่ึงไปเป็ นอีกส่ิงหน่ึงโดยไม่มีความจาเป็ น ปัญหาเดิมของการอ่านตวั โนต้ จากบรรทดั หา้ เส้นกค็ ือการ ตอ้ งแปลความวา่ ตวั โนต้ ใดๆ ซ่ึงต้งั อยคู่ าบเส้นใดหรืออยใู่ นช่องใด ในกญุ แจเสียงใด น้นั มีช่ือวา่ อะไร ใช่หรือไม่?.... เพอ่ื หลีกเลี่ยงหรือขจดั ปัญหาดงั กล่าวน้นั ทิ้งไปเสีย วธิ ีที่ง่าย ที่สุดกค็ ือ โนต้ น้นั ชื่อใดกเ็ ขียนชื่อโนต้ น้นั ไวเ้ สียเลย เม่ือผอู้ ่านเห็น ช่ือใดกช็ ื่อน้นั นนั่ แหละ ไม่ตอ้ งไปนงั่ นึกนงั่ แปลใหเ้ สียเวลาเปลือง สมองเสียความรู้สึกแต่อยา่ งใด

ถา้ จะใชต้ วั อกั ษรภาษาองั กฤษตวั ใหญ่ชุดท่ีวา่ น้นั กห็ นีไม่ พน้ ท่ีจะตอ้ งมานงั่ แปลมนั อีกวา่ ถา้ เห็นตวั “C” ใหแ้ ปลวา่ หรืออ่าน วา่ “โด” ผเู้ ขียนเห็นวา่ มนั จะเขา้ ทานอง “หนีเสือปะจระเข”้ คาตอบทสี่ อง : อกั ษรองั กฤษตวั ใหญ่น้นั ควรสงวนไว้ เรียกชื่อกลุ่มของเสียง ซ่ึงมีอยสู่ องสามประเภทดว้ ยกนั คือ คีย์ โหมด และ คอร์ด กลุ่มเสียงใดๆ กต็ าม จะมีช่ือใดน้นั ท่านวา่ ใหน้ ามาจากช่ือ อกั ษรองั กฤษตวั ใหญ่ของสมาชิกตวั แรกของกลุ่มเสียงน้นั อาทิเช่น คีย์ (ผเู้ ขียนมกั จะเรียกใหม้ นั ยาวๆ โกๆ้ วา่ “แถวลาดบั ของ เสียง” ) ที่มีสมาชิกลาดบั ท่ี 1 วา่ “โด” ช่ือของคียน์ ้นั กค็ ือ C ถา้ จะ เรียกใหเ้ ตม็ ยศกเ็ รียกวา่ “คีย์ C” เช่นกนั ชื่อของโหมด และ ช่ือของคอร์ด กใ็ ชห้ ลกั การ เดียวกนั นนั่ แหละครับ เอาแค่สองคาตอบน้ีก่อนกพ็ อนะครับ

รูปท่ี 4 : ความยาวของเสียง จากรูปท่ี 4 น้ีกค็ งจะไม่ตอ้ งอธิบายอะไรอีกแลว้ เช่นกนั นะครับ ง้นั เราไปกนั ต่อเลยกแ็ ลว้ กนั ...

รูปท่ี 5 : เครื่องหมายแปลงเสียง จากรูปท่ี 5 น้ีกค็ งจะไม่ตอ้ งอธิบายอะไรอีกแลว้ เช่นกนั นะ ครับ ง้นั เราไปกนั ต่อเลยกแ็ ลว้ กนั นะครับ...

รูปที่ 6 : เคร่ืองหมายบอกระดบั ช่วงเสียง จากรูปที่ 6 น้ีกค็ งจะไม่ตอ้ งอธิบายอะไรอีกแลว้ เช่นกนั นะครับ

รูปท่ี 7 : การเรียงตวั ของตวั โน้ตในแต่ละระดบั ช่วงเสียง

บทท่ี 3 การจดบันทึกช่ือของเสียง รูปที่ 8 : การจดบนั ทกึ ชื่อของเสียง จากรูปท่ี 8 กไ็ ม่รู้จะอธิบายอะไรอีก เอาง้ีละกนั ไวท้ ่าน ตามไปฟังคลิปอธิบายใน YouTube กแ็ ลว้ กนั ตามลิงคเ์ พอ่ื เขา้ ไปดู คลิปใน YouTube ไดท้ ่ีนี่ครับ.... (ยงั ไม่ไดว้ าง.... วางเมื่อไรกจ็ ะ บอกครับ....)

บทท่ี 4 เพลงตวั อย่าง รูปที่ 9 : เพลงตวั อย่าง

รูปที่ 10 : เพลงตวั อย่าง

รูปที่ 11 : เพลงตวั อย่าง

รูปที่ 12 : เพลงตวั อย่าง

รูปที่ 13 : เพลงตวั อย่าง

รูปที่ 14 : เพลงตวั อย่าง

รูปที่ 15 : ตวั อย่างการจดบันทกึ โน้ตแบบคอร์ด (โน้ตพวง)

รูปที่ 16 : ตวั อย่างการจดบันทกึ โน้ตแบบคอร์ด (โน้ตพวง)

บทส่ งท้าย อยา่ งท่ีไดก้ ล่าวไวใ้ นคานานนั่ แหละครับ เน้ือหาของ “การ บนั ทึกโนต้ ดนตรีสากล ตามแนวทางของ ส.พณิ แกว้ ” มีเน้ือหาท่ี ส้ันมาก (แต่สาระไม่ส้ันเลยนะครับ) อยา่ งไรกด็ ี ถา้ จะใหล้ ะเอียดลึกซ้ืง กค็ งหนีไม่พน้ ท่ีตอ้ งตาม ไปฟังอธิบายจากคลิปที่วางไวบ้ น YouTube แลว้ ถา้ จะแน่น ยงิ่ ข้ึนไปกวา่ น้นั อีก กป็ ระสานติดต่อเขา้ มาไดเ้ ลยนะครับ ออ้ .... สาหรับเครื่องหมายต่างๆ อื่นใดท่ีไม่ไดก้ ล่าวถึง ซ่ึง ใชก้ นั อยใู่ นการจดบนั ทึกโนต้ ดนตรีสากลแบบสากล (การจดดว้ ย ตวั โนต้ บนบรรทดั หา้ เส้นนน่ั แหละครับ) ท่านสามารถนามา ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดท้ ้งั หมด ไม่วา่ จะเป็นเคร่ืองหมายยอ้ น เคร่ืองหมาย ประทุน เคร่ืองหมายกากบั ความดงั /ค่อย ชา้ /เร็ว ฯลฯ หลกั การหรือแนวคดิ ที่สาคญั ของการจดบนั ทึกโนต้ ดนตรี สากลตามแนวทางของ ส.พิณแกว้ กค็ ือ ข้อหนึ่ง การขจดั ปัญหา เร่ืองช่ือของตวั โนต้ ข้อสอง การขจดั ปัญหาเรื่องเคร่ืองหมายแปลง เสียงต่างๆ (รวมถึงคียซ์ ิกเนเจอร์ดว้ ย) และข้อสาม การขจดั ปัญหา เรื่องอตั ราส่วนโนต้ (ลกั ษณะโนต้ ) ซ่ึงท้งั สามปัญหาท่ีวา่ น้ีเมื่อถูก

ขจดั ออกไปไดแ้ ลว้ กจ็ ะช่วยยน่ เวลาในการฝึ กฝนการเล่นดนตรี สากลใหเ้ ป็นเพลงโดยการอ่านเอาจากตวั โนต้ ลงไปไดห้ ลายสิบ เปอร์เซ็นตเ์ ลยทีเดียว ไม่แน่นกั วา่ อีกไม่นานเกินรอ เราคงจะไดเ้ ห็นนกั ดนตรี หนา้ ใหม่ๆ จานวนมากที่ถือกาเนิดเกิดมาในถนนสายดนตรีสากล ดว้ ยวธิ ีการอ่านโนต้ ตามแนวทางของ ส.พิณแกว้ น้ีกเ็ ป็นได้ รวมไป ถึงการนาเขา้ ไปสอนนาเขา้ ไปถ่ายทอดในโรงเรียนประถมศึกษาทว่ั ประเทศอีกดว้ ย อยา่ งไรกด็ ี ผเู้ ขียนไดก้ ล่าวไวต้ ้งั แต่คานาแลว้ วา่ เรียบเรียง เน้ือหาน้ีข้ึนมาเพอื่ เป็นเครื่องมือสาหรับผทู้ ี่สนใจจะศึกษาเรียนรู้ ฝึ กฝนการเล่นดนตรีสากลใหเ้ ป็นเพลงเท่าน้นั ไม่ไดม้ ุ่งหมายท่ีจะ ลบลา้ งยกเลิกการจดบนั ทึกเสียงดนตรีดว้ ยตวั โนต้ บนบรรทดั หา้ เส้นท่ีมีมาแต่เดิมน้นั แต่ประการใดไม่ เวน้ ไวเ้ สียแต่วา่ วธิ ีการที่วา่ น่ี เกิดไดร้ ับความนิยมอยา่ งแพร่หลายไปทว่ั ประเทศ (หรือวา่ ทวั่ โลก) กเ็ ป็นเรื่องท่ีเกินคาดหรือไม่อยากจะคาดเดาเอาไวล้ ่วงหนา้ เท่าน้นั การจดบนั ทึกเสียงดนตรีดว้ ยตวั โนต้ บนบรรทดั หา้ เส้นท่ีมี มาแต่เดิมน้นั เป็นกระบวนการท่ีสุดยอดมาก ผทู้ ่ีสามารถจดบนั ทึก หรือผทู้ ่ีสามารถเล่นตามส่ิงที่จดบนั ทึกดว้ ยวธิ ีการน้นั นบั ไดว้ า่ เป็น

“บุคคลพิเศษ” เป็นอยา่ งยงิ่ (โดยเฉพาะนกั เปี ยโน) เพราะไหน จะตอ้ งจดจาตวั โนต้ ในแต่ละกญุ แจเสียงไดอ้ ยา่ งแม่นยาแลว้ ยงั ตอ้ ง รบกบั เครื่องหมายแปลงเสียงต่างๆ รวมไปถึงตอ้ งรบกบั อตั ราส่วน โนต้ ต่างๆ ซ่ึงดูราวกบั ถว่ั งอกดาพรืดเตม็ ไปท้งั หนา้ กระดาษกไ็ ม่ ปาน..... แน่นอนวา่ ผทู้ ่ีเพิ่งจะเร่ิมสนใจเรียนรู้ฝึ กฝนดนตรีสากลน้นั เมื่อมาเจอกบั “ยาขม” จึงปรากฎผลอยา่ งที่เห็นเป็นมาโดยตลอดนนั่ แหละครับ กล่าวคือ จะมีผเู้ หลือรอดกา้ วข้ึนไปเป็นนกั ดนตรีไดไ้ ม่ ถึงร้อยละหน่ึง เผลอๆ กพ็ นั ละหน่ึงเสียดว้ ยซ้า ผเู้ ขียนเองกเ็ ป็นคนหน่ึงที่ประสบพบพานกบั ความยากของ ตวั โนต้ บนบรรทดั หา้ เส้นมาเหมือนกนั แต่ดว้ ยแรงกดดนั ในเร่ือง ต่างๆ รวมเขา้ กบั ความพยายามที่จะเอาชนะกบั “ยาขม” ท่ีวา่ น้นั ใน ท่ีสุดกต็ กผลึกออกมาเป็น “ขนมหวาน” เพ่ือเป็นของกานลั ท่ีจะได้ มอบใหก้ บั มนุษยร์ ่วมชาติร่วมโลกทุกผคู้ นท่ีเพงิ่ จะเริ่มสนใจเรียนรู้ ฝึ กฝนการเล่นดนตรีสากล รวมตลอดไปถึงบรรดาท่านท่ีเป็น “ไม้ แก่” ดว้ ย

ทา้ ยท่ีสุดน้ี กข็ อยนื ยนั กบั ทุกท่านวา่ ถา้ ท่านตอ้ งการจะเป็น นกั ดนตรีสากลที่เป็นสากล (งงมะ?) ท่านยงั คงตอ้ งกา้ วข้ึนไปเรียนรู้ รบรากบั ตวั โนต้ สากลบนบรรทดั หา้ เส้นแบบเดิมน้นั อยดู่ ี ขอใหท้ ุกท่านมีความสุขกบั การเล่นดนตรีสากลนะครับ....

ประวตั ผิ ู้เขียน ช่ือตัว นาย สุขสันต์ ทองประสิทธ์ิ ช่ือเล่น สนั ต์ ช่ือฉายา/นามปากกา ส.พณิ แกว้ โทรศัพท์ 081-8805869, 086-3377824 วนั เดือนปี เกดิ 18 สิงหาคม 2501 บดิ า : นายชาญ ทองประสิทธ์ิ (ปัจจุบนั ยงั มีชีวติ อย)ู่ มารดา : นางอานวยพร ทองประสิทธ์ิ (ถึงแก่กรรม) อาชีพหลกั : - ขา้ ราชการบานาญ (อดีตขา้ ราชการ สังกดั โรงพยาบาล ศูนยน์ ครปฐม) - เลขาธิการมูลนิธิพณิ แกว้ ประวตั ิการรับราชการ - บรรจุคร้ังแรก (ดว้ ยการสอบ) กรมอุตุนิยมวทิ ยา พ.ศ. 2522 ลาออกไปประกอบอาชีพอ่ืน พ.ศ. 5258 - บรรจุกลบั เขา้ รับราชการ (คร้ังที่ 1) ท่ีโรงพยาบาลหาดใหญ่ พ.ศ. 2534 ลาออกไปประกอบอาชีพอ่ืน พ.ศ. 2535 - บรรจุกลบั เขา้ รับราชการ (คร้ังที่ 2) ท่ีโรงพยาบาลนครปฐม พ.ศ.

2536 – 2554 (เกษียณอายรุ าชการก่อนกาหนด) *** การบรรจุกลบั เขา้ รับราชการท้งั สองคร้ัง ไดร้ ับความเมตตาจาก ท่าน นพ.มนตรี เศรษฐบุตร อดีตผอู้ านวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ และอดีตผอู้ านวยการโรงพยาบาลนครปฐม (ปัจจุบนั : ประธาน มูลนิธิพณิ แกว้ ) การศึกษา อวท.คอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั นครปฐม (กศ.บป.รุ่น 9.1) คบ.คอมพวิ เตอร์ศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั นครปฐม (กศ.บป.รุ่น 11) การศึกษาทางดนตรี ทฤษฎดี นตรีเบื้องต้น : โรงเรียนดนตรีสยามกลการ สาขาบางพลดั ผสู้ อน : อาจารยบ์ ุญเสริม ชา้ งใหญ่ ทฤษฎดี นตรีช้ันกลาง :โรงเรียนดนตรีสยามกลการ สาขาปทุมวนั ผสู้ อน : อาจารยต์ รอง ทิพยว์ ฒั น์ เรียบเรียงเสียงประสาน : โรงเรียนดนตรีสยามกลการ สาขาปทุมวนั (รุ่น 33) ผสู้ อน : อาจารยแ์ มนรัตน์ ศรีกรานนท์