คำนำ ชุดการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น จัดทำขึ้นเพ่ือประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน รูปแบบ On-site, On-Line, On-hand โดยหน่วยการเรียนรู้เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ ได้รวบรวม เนื้อหาความรู้จากตำราและเอกสารทางวิชาการ มีกิจกรรมการเรียนรู้ ให้นักศึกษา ได้ปฏิบัติ มีข้อคำถามเพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ กอ่ นเรียน และหลังเรียน ชุดการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับ มธั ยมศึกษาตอนต้น มีเนือ้ หาสาระ ดงั นี้ 1. ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ 2. คณุ คา่ และความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ 3. ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. ข้ันตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 5. การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดการเรียนรู้นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา ให้เข้าใจเนอื้ หาได้งา่ ย สามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขนึ้ นิศารศั มิ์ ไตรยวงค์ 16 มิถุนายน 2566
สารบัญ หนา้ 1 คำช้ีแจงในการใชช้ ุดการเรียน 2 องคป์ ระกอบของชุดการเรียน 3 ชดุ การเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ 4 ชุดคำสั่ง 5 กิจกรรมที่ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 6 9 เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ 10 กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน 11 กิจกรรมที่ 2 ศึกษาเนอื้ หาความรู้ 21 เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ 22 กิจกรรมที่ 3 ทำแบบฝกึ หดั 25 เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ 26 กิจกรรมที่ 4 แบบทดสอบหลงั เรียน 29 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ 30 กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน 31 บรรณานุกรม 32 ภาคผนวก 33 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 35 เฉลยแบบฝกึ หัด เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
1 คำชี้แจงในการใช้ชุดการเรียนรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ กอ่ นนำชดุ การเรียนไปใช้ ควรปฏิบัติดงั นี้ 1. ศึกษาวิธกี ารใช้ชดุ การเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษา ตอนตน้ เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ และปฏิบตั ิตามข้ันตอนในการใช้ ชดุ การเรียนให้ถกู ต้อง 2. ศึกษาเนือ้ หา วธิ ีการจดั กิจกรรม การวัดผลและประเมินผล ของชดุ การ เรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น เรือ่ ง โครงงาน วิทยาศาสตร์ 3. เตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมที่จะใช้งานได้
2 องคป์ ระกอบของชดุ การเรียนโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชดุ การเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เรือ่ ง โครงงาน วิทยาศาสตร์ มีองค์ประกอบ ดงั นี้ ชุดคำสงั่ กิจกรรมที่ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น กิจกรรมที่ 2 ศึกษาเนือ้ หาความรู้ เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ กิจกรรมที่ 3 ทำแบบฝกึ หัด เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ กจิ กรรมที่ 4 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน
3 ชุดการเรยี นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สาระสำคัญ โครงงานวิทยาศาสตรเ์ ปน็ กิจกรรมเกี่ยวกบั วิทยาศาสตรท์ ่ีต้องใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในการศึกษาค้นคว้า โดยผู้เรียนจะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ต้ังแต่ เริ่มวางแผนในการศึกษาค้นคว้า การเก็บรวบรวมข้อมูล จนถึงการแปลผล สรุปผล และการเสนอผลการศึกษา โดยมีผู้ชำนาญเป็นผู้ให้คำปรึกษา ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง 1. อธิบายประเภท เลือกหัวข้อ วางแผน วธิ ีนำเสนอ และประโยชนข์ องโครงงานได้ 2. วางแผนและทำโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 3. อธิบายและบอกแนวทางในการนำผลจากโครงงานไปใช้ได้ ขอบขา่ ยเนื้อหา 1. ความหมายโครงงานวิทยาศาสตร์ 2. คุณค่าและความสำคัญโครงงานวิทยาศาสตร์ 3. ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. ข้ันตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 5. การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์
4 ชดุ คำส่ัง คำชี้แจง ให้นักศึกษาศึกษาชุดการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ ตามขั้นตอนตอ่ ไปนี้ 1. ศึกษาชุดการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นรายบุคคล 2. อ่านคำช้ีแจงในการใชช้ ดุ การเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษา ตอนตน้ เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ 3. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเปน็ รายบุคคล 4. ศึกษาเนอื้ หาความรู้ เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ 5. ทำแบบฝกึ หัดเปน็ รายบคุ คล 6. ทำแบบทดสอบหลงั เรียนเปน็ รายบุคคล
5 กิจกรรมที่ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรือ่ ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์
6 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ สาระ ความรู้เบอ้ื งต้น ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น คะแนนเต็ม 10 คะแนน รหสั รายวิชา พว21001 หนว่ ยการเรียนร้เู รอื่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที คำชี้แจง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบทีถ่ กู ต้องที่สดุ และทำเครือ่ งหมาย x ลงในกระดาษ คำตอบ 1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ยี วกบั การทำโครงงาน ก. โครงงานทำเพอื่ ศึกษาเรียนรู้เท่าน้ัน ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชวี ิตประจำวนั ข. ผทู้ ำโครงงานไม่มีสิทธิ์เลือกหวั ข้อในการโครงงานของตนเอง ครูเป็นผู้เลือก หัวข้อให้ ค. ผทู้ ำโครงงานสามารถเลือกดำเนินการได้ตามความสนใจของตนเอง ครเู ปน็ ที่ ปรึกษา ง. โครงงานเปน็ สิง่ ที่ช่วยสร้างความสมั พันธร์ ะหว่างผู้เรียนกับครูทีป่ รึกษาโครงงาน เท่าน้ัน 2. ข้อใดกล่าวถึงความสำคัญของการทำโครงงานได้ถกู ต้อง ก. ทำให้ได้ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ ข. ทำให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ค. ทำให้ได้พฒั นาความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ ง. ถกู ทุกข้อ 3. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของการทำโครงงานที่ผู้เรียนจะได้รับ ก. ทำให้ได้พฒั นาความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ ข. ทำให้มีความสุขและสนกุ กับการทำงาน ค. สามารถนำไปพัฒนาตนเองและสร้างรายได้จำนวนมาก ง. สามารถนำไปพฒั นาตนเองและใช้ได้จริงในชวี ิตประจำวัน
7 4. สิง่ สำคญั ที่สดุ ในการทำโครงงานคอื อะไร ก. ต้องมีงบประมาณ ข. ต้องมีความสวยงาม ค. ต้องมีความปลอดภยั ง. ต้องใช้งานงานได้จริง 5. ข้อใดคอื จดุ มงุ่ หมายของการทำโครงงาน ก. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีความสามัคคี ข. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีความเป็นไทย ค. เพือ่ ให้ผู้เรียนได้ประโยชน์จากการทำโครงงาน ง. เพ่ือให้ผู้เรียนได้แสดงออกซง่ึ ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ 6. หลกั การสำคัญในการจัดการเรียนรู้โครงงานคอื ข้อใด ก. เน้นการทดลอง ข. เน้นการบรรยาย ค. เน้นการบอกของครู ง. เน้นการศึกษาด้วยตนเอง 7. จดุ เนน้ ของการจัดการเรียนรู้โครงงานคอื ข้อใด ก. ยึดเหตผุ ล ข. ยึดกระบวนการคิด ค. ยึดผเู้ รียนเป็นสำคญั ง. ยึดทกั ษะกระบวนการ
8 8. ทกั ษะในข้อใดไมจ่ ำเปน็ ต่อการจดั การเรียนรู้แบบโครงงาน ก. ทักษะการปฏิบตั ิ ข. ทักษะการทำงานรว่ มกนั ค. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ง. ทักษะกระบวนมุ่งเน้นปฏิบตั ิงานเชิงยุทธศาสตร์ 9. การจดั การเรียนรู้โครงงานที่มีประสิทธิภาพขนึ้ อยูก่ ับสิง่ ใด ก. การวางแผน ข. การนำเสนอผลงาน ค. การคิดอย่างสร้างสรรค์ ง. การกำหนดวตั ถปุ ระสงค์อยา่ งชดั เจน 10. การได้มาของหัวเรื่องในการทำโครงงานควรจะได้มาจากทีใ่ ดเป็นอนั ดบั แรก ก. การไปศึกษานอกสถานที่ ข. การสังเกตสำรวจสิง่ แวดล้อมรอบตวั ค. การไปศึกษาแนวคดิ โครงงานของคนอื่น ง. การสอบถามอาจารย์ทีป่ รึกษาในการทำโครงงาน
9 กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน กิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช่อื – สกลุ .......................................ระดับ..................................รหสั ............................. ข้อที่ ก ตัวเลือก ง ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนที่ได.้ ................คะแนน
10 กิจกรรมที่ 2 ศึกษาเนือ้ หาความรู้ เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์
11 ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึง การศึกษาค้นคว้าหาคำตอบ การสำรวจ การทดลอง หรือการประดิษฐ์คิดค้น ในเรื่องที่สนใจหรือเรื่องที่มีข้อสงสัยเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศ าสตร์ มีการ วางแผนการศึกษาค้นคว้าหาคำตอบอย่างเป็นระบบ โดยมีครูเป็นผู้ให้คำปรึกษา อยา่ งใกล้ชิด เพ่อื ให้บรรลจุ ดุ มุง่ หมายในการดำเนินงาน คณุ คา่ และความสำคัญของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1. ช่วยให้ผเู้ รียนเกิดความคดิ ริเริ่มในการพัฒนางาน 2. ช่วยให้มีความรู้ประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ตามวิถีชวี ิต ทำให้เกดิ ความเข้าใจอย่างลึกซ้งึ ในการทำโครงงาน ชิ้นงาน หรือนวตั กรรม 3. ช่วยพฒั นาชุมชน ทอ้ งถิน่ ให้เข้มแขง็ จากการนำผลงานที่ ประสบความสำเร็จไปใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นการดำรงชีวิตและการประกอบอาชพี ในชมุ ชน ท้องถิน่ นอกจากนีโ้ ครงงานยังมีความสำคัญ ดงั นี้ 1) ชว่ ยพฒั นาสมองซีกขวาและซกี ซา้ ย โดยสมองซีกซา้ ยจะเน้นการจดจ่อ วิเคราะห์ แยกแยะ ส่วนสมองซีกขวา เน้นการสงั เคราะห์ สนุ ทรียภาพ ความคดิ สร้างสรรค์ การพัฒนาพหุปญั ญา เป็นการพัฒนาสมองท้ังสองซีก คือ สมองซีกซา้ ยได้รับ การพัฒนาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา เปน็ ต้น สมองซีกขวาได้รับการ พฒั นาการวเิ คราะห์ จดจำเก่ียวกับความคดิ การสังเคราะห์ ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ สนุ ทรียภาพ ซ่งึ เกี่ยวกับวิชาด้านภาษา ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ เป็นต้น การทำโครงงาน เปน็ การพัฒนาพหปุ ัญญา ซึ่งเปน็ การพฒั นาสมองท้ังซกี ซ้ายและซกี ขวา
12 2) พัฒนาผเู้ รียนเชิงรุก เน้นผู้เรียนตามความสนใจ ตามความถนัด ตาม ศักยภาพแห่งตน ทำให้ผเู้ รียนเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น และได้ฝึกทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3) พฒั นาสมรรถนะทางการคดิ ให้เป็นผมู้ ีวิถีการเรียนรู้เปน็ นักวิจัย เป็นผู้ เรียนรู้ตลอดชวี ิต 4) พัฒนาหลักฐานทีแ่ สดงความเข้าใจอย่างคงทน การทำโครงงานเปน็ การ สร้างให้ได้งานและช้ินงานหรือผลผลิต อนั เปน็ หลักฐานทีแ่ สดงความเข้าใจอย่าง คงทน เป็นความเข้าใจอย่างลึกซ้งึ ทีส่ ามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ สรปุ แล้ว เป็นการเรียนรู้อยา่ งมีความหมาย (meaningful learning) 5) สร้างความสำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาหาความรู้ตา่ งๆ ด้วย ตนเอง 6) เปน็ การเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตาม ศักยภาพของตนเอง 7) เปิดโอกาสให้ผเู้ รียนได้ศึกษาคน้ คว้าและได้เรียนรใู้ นเรื่องที่ตนเองสนใจ ได้อย่างลึกซ้งึ มากกว่าหลักสูตรปกติ 8) สร้างเจตคติทด่ี ีต่อวิชาเรียนทำให้ผเู้ รียนอยากเรียนรู้มากขึ้น 9) สร้างความสมั พนั ธ์ทีด่ ีระหว่างครูกับผู้เรียนและชุมชน 10) เปน็ การเปิดโอกาสให้ภูมิปญั ญาท้องถิ่นได้เขา้ มามีสว่ นชว่ ยในการ จัดการเรียนการสอน
13 ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซง่ึ เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาคน้ คว้า โดยผเู้ รียนจะ เป็น ผู้ด ำเนิน การด้วยต นเองท้ังหมด ตั้งแต่ เริ่มวางแผนใน การศึกษาค้น ค ว้า การเก็บรวบรวมข้อมูล จนถึงเรื่องการแปลผล สรุปผล และเสนอผลการศึกษา โดยมี ผชู้ ำนาญการเปน็ ผใู้ ห้คำปรึกษา ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ จำแนกได้เป็น 4 ประเภท ดงั นี้ 1. โครงงานประเภทสำรวจ เปน็ โครงงานที่มีลกั ษณะเป็นการศึกษาเชิงสำรวจ รวบรวมข้อมูลแล้วนำข้อมูลเหล่าน้ันมาจัดกระทำและนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น ลักษณะสำคัญของโครงงานประเภทนี้คือ ไม่มีการจัดทำหรือกำหนดตัวแปรอิสระที่ ต้องการศึกษา 2. โครงงานประเภททดลอง เป็นโครงงานที่มีลักษณะกิจกรรมที่เปน็ การศึกษา หาคำตอบของปัญหาใดปัญหาหนึ่งด้วยวิธีการทดลอง ลักษณะสำคัญของโครงงาน คือ ต้องมีการออกแบบการทดลองและดำเนินการทดลองเพ่ือหาคำตอบของปัญหา ที่ต้องการทราบหรือเพ่ือตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยมีการจัดกระทำกับตัวแปรต้น หรือตัวแปรอิสระ เพ่ือดูผลที่เกิดขึ้นกับตัวแปรตาม และมีการควบคุ มตัวแปรอื่นๆ ที่ไมต่ ้องการศึกษา 3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือประดิษฐ์ เปน็ โครงงานที่มีลกั ษณะกิจกรรม ทีเ่ ป็นการศึกษาเก่ียวกับการประยกุ ต์ ทฤษฎี หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพ่ือประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์เพ่ือประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ ซ่ึงอาจเป็นการประดิษฐ์ ของใหม่ ๆ หรือปรบั ปรุงของเดิมที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะรวมไปถึงการสร้าง แบบจำลองเพ่อื อธิบายแนวคดิ
14 4. โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีหรอื อธิบาย เป็นโครงงานที่มีลักษณะ กิจกรรมที่ผู้ทำจะต้องเสนอแนวคิด หลักการ หรือทฤษฎีใหม่ ๆ อย่างมีหลักการ ทางวิทยาศาสตร์ในรูปของสูตรสมการหรือคำอธิบายอาจเป็นแนวคิดใหม่ที่ยังไม่เคย นำเสนอ หรืออาจเป็นการอธิบายปรากฏการณ์ในแนวใหม่ก็ได้ ลักษณะสำคัญ ของโครงงานประเภทนี้ คือ ผู้ทำจะต้องมีพ้ืนฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี ต้องค้นคว้าศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องอย่างลึกซ้ึง จึงจะสามารถสร้างคำอธิบาย หรือทฤษฎีได้ ขั้นตอนการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การทำกิจกรรมโครงงานเปน็ การทำกิจกรรมที่เกิดจากคำถามหรือความอยากรู้ อยากเหน็ เกย่ี วกบั เรือ่ งตา่ งๆ ดงั น้ันการทำโครงงานจึงมีขั้นตอนดังนี้ 1.สำรวจหรือตัดสินใจเลือกเรือ่ งทจ่ี ะทำ การตัดสินใจเลือกเรือ่ งที่จะทำโครงงานควรพิจารณาถึงความพร้อมในด้านตา่ งๆ เช่นแหล่งความรู้เพียงพอที่จะศึกษาหรือขอคำปรึกษา มีความรู้และทักษะในการใช้ เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการศึกษา มีผู้ทรงคุณวุฒิรับเป็นที่ปรึกษา มีเวลา และ งบประมาณเพยี งพอ 2.ศึกษาข้อมลู ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องท่ตี ดั สินใจทำ การศึกษาข้อมูลทีเ่ กี่ยวข้องกับเรือ่ งทีต่ ัดสินใจทำ จะช่วยให้ผเู้ รียนได้แนวคดิ ที่จะ กำหนดขอบข่ายเรื่องทีจ่ ะศึกษาคน้ คว้าให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้นและยังได้ความรู้เรื่องที่จะ ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจนสามารถออกแบบการศึกษา ทดลอง และวางแผนดำเนินการทำ โครงงานวิทยาศาสตร์อยา่ งเหมาะสม
15 3.วางแผนดำเนินการ การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ไม่ว่าเรื่องใดจะต้องมีการวางแผนอย่างละเอียด รอบคอบ และมีการกำหนดขั้นตอนในการดำเนินงานอย่างรัดกุม ทั้งนี้เพ่ือให้การ ดำเนินงานบรรลุจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ ประเด็นที่ต้องร่วมกนั คดิ วางแผน ในการทำโครงงานมีดังนี้ คือ ปัญหา สาเหตุของปัญหา แนวทาง และวิธีการแก้ปัญหาที่ สามารถปฏิบัติได้ การออกแบบการศึกษาทดลองโดยกำหนดและควบคุมตัวแปร วัสดุ อปุ กรณแ์ ละสารเคมี เวลา และสถานที่จะปฏิบัติงาน 4.เขียนเคา้ โครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนเคา้ โครงของโครงงานวิทยาศาสตร์มีรายละเอียดดังนี้ 4.1 ชอ่ื โครงงาน เปน็ ข้อความส้ัน ๆ กะทัดรัด ชดั เจน สื่อความหมายตรง และมี ความเฉพาะเจาะจงว่าจะศึกษาเรื่องใด 4.2ช่อื ผู้ทำโครงงาน เป็นผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน ซึง่ อาจเป็นรายบุคคลหรือกล่มุ กไ็ ด้ 4.3 ช่อื ท่ปี รึกษาโครงงาน ซ่งึ เป็นอาจารย์หรือผู้ทรงคุณวฒุ ิก็ได้ 4.4 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน เปน็ การอธิบายเหตุผลทีเ่ ลือกทำโครงงาน นี้ ความสำคัญของโครงงาน แนวคิด หลกั การ หรือทฤษฎีทีเ่ กี่ยวกับโครงงาน 4.5 วตั ถปุ ระสงค์โครงงาน เปน็ การบอกจดุ มงุ่ หมายของงานที่จะทำ ซง่ึ ควรมี ความเฉพาะเจาะจงเป็นสิ่งทีส่ ามารถวดั และประเมินผลได้ 4.6 สมมติฐานของโครงงาน(ถ้ามี)สมมติฐานเปน็ คำอธิบายทีค่ าดไวล้ ว่ งหน้า ซง่ึ จะ ผดิ หรือถูกก็ได้ สมมติฐานที่ดีควรมเี หตุผลรองรบั และสามารถทดสอบได้ 4.7 วัสดุอปุ กรณแ์ ละสิ่งทีต่ ้องใช้ เป็นการระบวุ สั ดอุ ุปกรณ์ที่จำเป็นใชใ้ นการ ดำเนินงานวา่ มีอะไรบ้างได้มาจากไหน 4.8 วิธีดำเนินการ เป็นการอธิบายข้ันตอนการดำเนินงานอยา่ งละเอียดทุกข้ันตอน 4.9 แผนปฏิบตั ิการ เปน็ การกำหนดเวลาเริม่ ต้นและเวลาเสรจ็ งานในแต่ละขั้นตอน 4.10 ผลทีค่ าดว่าจะได้รบั เป็นการคาดการณ์ผลทีจ่ ะได้รับจากการดำเนินงานไว้ ลว่ งหน้า ซึ่งอาจได้ผลตามทีค่ าดไวห้ รือไมก่ ไ็ ด้
16 4.11 เอกสารอ้างองิ เป็นการบอกแหล่งขอ้ มลู หรือเอกสารทใ่ี ช้ในการศึกษา คน้ คว้า 5.ลงมือปฏิบัติ การลงมือปฏิบัติเป็นขั้นตอนทีส่ ำคัญตอนหนึ่งในการทำโครงงานเนือ่ งจากเป็นการ ลงมือปฏิบัติจริงตามแผนที่ได้กำหนดไว้ในเค้าโครงของโครงงาน อย่างไรก็ตามการทำ โครงงานาจะสำเร็จได้ด้วยดี ผู้เรียนจะต้องคำนึงถึงเรื่องความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์ และสิ่งอื่น ๆ เช่นสมุดบันทึกกิจกรรมประจำวัน ความละเอียดรอบคอบและความเป็น ระเบียบในการปฏิบัติงาน ความประหยัดและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ความ นา่ เชือ่ ถือของข้อมลู ทีไ่ ด้จากการปฏิบตั ิงาน การเรียงลำดบั ก่อนหลังของงานส่วนย่อย ๆ ซ่ึงต้องทำแต่ละส่วนให้เสร็จก่อนทำส่วนอื่นต่อไปในข้ันล งมือปฏิบัติจะต้องมี การบันทกึ ผล การประเมนิ ผล การวเิ คราะห์ และสรปุ ผลการปฏิบตั ิ 6.เขียนรายงานโครงงาน การเขียนรายงานการดำเนินงานของโครงงาน ผู้เรียนจะต้องเขียนรายงานให้ ชดั เจน ใชศ้ พั ท์เทคนิคทีถ่ กู ต้อง ใชภ้ าษากะทัดรดั ชัดเจน เข้าใจง่าย และต้องครอบคลมุ ประเด็นสำคญั ๆ ทั้งหมดของโครงงานไดแ้ ก่ ชือ่ โครงงาน ชื่อผู้ทำโครงงาน ชื่อที่ปรึกษา บทคัดย่อ ทีม่ าและความสำคัญของโครงงาน จุดหมาย สมมติฐาน วธิ ีดำเนินงาน ผล การศึกษาคน้ คว้า ผลสรปุ ของโครงงาน ข้อเสนอแนะ คำขอบคุณบุคลากรหรือหนว่ ยงาน และเอกสารอ้างองิ 7.เสนอผลงานและจัดแสดงผลงานโครงงาน หลังจากทำโครงงานวิทยาศาสตรเ์ สร็จแล้วจะต้องนำผลงานที่ได้มาเสนอและจดั แสดง ซึง่ อาจทำได้หลายรปู แบบ เชน่ การจดั นิทรรศการ การประชมุ ทางวิชาการ เปน็ ต้น ในการเสนอผลงานและจัดแสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรนำเสนอให้ครอบคลมุ ประเด็นสำคัญ ๆ ทงั้ หมดของโครงงาน
17 การทำแผงสำหรับแสดงโครงงานใหใ้ ช้ไมอ้ ัดมีขนาดดงั รปู 60 ซม. 60 ซม. 120 ซม. ติดบานพับมีห่วงรบั และขอสับทำมุมฉากกบั ตวั แผงกลาง ขนั้ ตอนการเขียนโครงงานวิทยาศาสตร์ 1) ชอ่ื โครงงาน............................................................................................. 2) ผทู้ ำโครงงาน.......................................................................................... 3) ชอ่ื อาจารย์ที่ปรึกษา................................................................................ 4) คำนำ 5) สารบญั 6) บทที่ 1 บทนำ - ทีม่ าและความสำคัญ - วตั ถุประสงค์ - ตัวแปรท่ศี ึกษา - สมมติฐาน - ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รับ 7) บทที่ 2 เอกสารท่ีเกย่ี วข้องกบั การทำโครงงาน
18 8) บทที่ 3 วิธกี ารศึกษา/ทดลอง - วสั ดุอปุ กรณ์ - งบประมาณ - ข้ันตอนการดำเนนิ งาน - แผนปฏิบัติงาน 9) บทที่ 4 ผลการศึกษา/ทดลอง - การทดลองได้ผลอย่างไรบา้ ง 10) บทที่ 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ - ข้อสรปุ ผลการทดลอง - ข้อเสนอแนะ 11) เอกสารอ้างองิ การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ การแสดงผลงานจัดได้ว่าเป็นข้ันตอนสำคัญอีกประการหนึ่งของการทำโครงงาน เรียกได้ว่าเป็นงานข้ันสุดท้ายของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการ แสดงผลิตผลของความคิด และการปฏิบัติการทั้งหมดที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเทเวลาไป และเป็นวิธีการที่จะทำให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจถึงผลงานน้ัน ๆ มีผู้กล่าวว่าการวางแผน ออกแบบเพ่อื จัดแสดงผลงานน้ันมีความสำคัญเทา่ ๆ กับการทำโครงงานนั้นเอง ผลงาน ที่ทำจะดียอดเย่ียมเพียงใด แต่ถ้าการจดั แสดงผลงานทำได้ไม่ดี ก็เท่ากับไมไ่ ด้แสดงความ ดียอดเยย่ี มของผลงานน้ันนนั่ เอง
19 การแสดงผลงานน้ันอาจทำได้ในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น การแสดงในรูป นิทรรศการ ซง่ึ มีท้ังการาจัดแสดงและการอธิบายด้วยคำพูด หรือในรูปแบบของการจัด แสดงโดยไม่มีการอธิบายประกอบหรือในรูปของการรายงานปากเปล่า ไม่ว่าการ แสดงผลงานจะอยใู่ นรปู แบบใด ควรจะจดั ให้ครอบคลมุ ประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้ 1. ชอ่ื โครงงาน ชือ่ ผทู้ ำโครงงาน ช่อื ทป่ี รึกษา 2. คำอธิบายถึงเหตุจูงใจในการทำโครงงาน และความสำคัญของ โครงงาน 3. วิธกี ารดำเนินการ โดยเลือกเฉพาะขั้นตอนที่เด่นและสำคญั 4. การสาธิตหรือแสดงผลทีไ่ ด้จากการทดลอง 5. ผลการสังเกตและข้อมลู เด่น ๆ ทไ่ี ด้จากการทำโครงงาน ในการจดั นิทรรศการโครงงานน้ัน ควรได้คำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ตอ่ ไปนี้ - ความปลอดภัยของการจดั แสดง - ความเหมาะสมกับเนอื้ ท่จี ัดแสดง - คำอธิบายที่เขียนแสดงควรเน้นประเด็นสำคัญ และสิ่งที่น่าสนใจ เท่านั้น โดยใช้ข้อความกะทดั รัด ชัดเจน และเข้าใจง่าย - ดึงดูดความสนใจผู้เข้าชม โดยใชร้ ูปแบบการแสดงที่น่าสนใจ ใช้สีที่ สดใส เน้นจดุ ทีส่ ำคัญหรือใช้วัสดุต่างประเภทในการจดั แสดง - ใช้ตารางและรูปภาพประกอบ โดยจัดวางอยา่ งเหมาะสม - สิ่งที่แสดงทุกอย่างต้องถูกต้อง ไม่มีการสะกดผิดหรืออธิบาย หลกั การทผ่ี ดิ - ในกรณีที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ สิ่งน้ันควรอยู่ในสภาพที่ทำงานได้อย่าง สมบรู ณ์
20 ในการแสดงผลงาน ถ้าผู้นำผลงานมาแสดงจะต้องอธิบายหรือรายงานปากเปล่า หรือคำถามต่าง ๆ จากผู้ชมหรือต่อกรรมการตัดสินโครงงาน การอธิบายตอบคำถาม หรือรายงานปากเปล่านั้น ควรได้คำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ตอ่ ไปนี้ 1. ต้องทำความเข้าใจกบั สิง่ ที่อธิบายเป็นอย่างดี 2. คำนึงถึงความเหมาะสมของภาษาที่ใชก้ ับระดับผู้ฟัง ควรให้ชัดเจนและ เข้าใจง่าย 3. ควรรายงานอยา่ งตรงไปตรงมา ไม่อ้อมคอ้ ม 4. พยายามหลีกเลี่ยงการอ่านรายงาน แต่อาจจดหัวข้อสำคัญ ๆ ไว้เพ่ือ ชว่ ยให้การรายงานเป็นไปตามขั้นตอน 5. อย่าทอ่ งจำรายงานเพราะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ 6. ขณะที่รายงานควรมองตรงไปยงั ผู้ฟัง 7. เตรียมตัวตอบคำถามทีเ่ กี่ยวกับเรือ่ งนั้น ๆ 8. ตอบคำถามอยา่ งตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงสิง่ ทีไ่ ม่ได้ถาม 9. หากติดขัดในการอธิบาย ควรยอมรับโดยดี อย่ากลบเกลื่อน หรือ หาทางหลีกเลี่ยงเปน็ อยา่ งอ่นื 10. ควรรายงานให้เสรจ็ ภายในระยะเวลาทีก่ ำหนด 11. หากเป็นไปได้ควรใช้สื่อประเภทโสตทัศนูปกรณ์ ประกอบการรายงาน ด้วย เชน่ แผ่นใส หรือสไลด์ เป็นต้น ข้อควรพิจารณาและคำนึงถึงประเด็นตา่ ง ๆ ทก่ี ล่าวมาในการแสดงผลงานนั้น จะ คล้ายคลึงกันในการแสดงผลงานทกุ ประเภท แต่อาจแตกตา่ งกันในรายละเอียดปลีกยอ่ ย เพียงเลก็ น้อย สิ่งสำคัญกค็ อื พยายามให้การแสดงผลงานน้ันดึงดดู ความสนใจผู้ชม มี ความชัดเจน เข้าใจงา่ ย และมีความถูกต้องในเนือ้ หา
21 กิจกรรมที่ 3 แบบฝึกหดั เรือ่ ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์
22 แบบฝกึ หัด เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คำสั่ง ใหน้ ักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้ 1. โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึงอะไร ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 2. คุณคา่ และความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ มีอะไรบ้าง ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 3. โครงงานวิทยาศาสตร์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ......................................................................................................................................
23 4. ข้ันตอนของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ มีกีข่ ั้นตอน อะไรบ้าง ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 5. จงอธิบายการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตรม์ าพอสงั เขป ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ......................................................................................................................................
24 6. ให้นกั ศึกษาเขียนเครือ่ งหมาย ลงในชอ่ งประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์ตอ่ ไปนี้ ที่ ชื่อโครงงาน ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 กลอ่ งมหัศจรรย์ สำรวจ ทดลอง ประดิษฐ์ ทฤษฎี 2 ทฤษฎีโลกกลมแบน 3 เปลือกไข่ไลม่ ด 4 การสำรวจหินในท้องถิ่น 5 การประดิษฐเ์ ครือ่ งห่อผลไม้ 6 การสำรวจกล่มุ เมฆบนท้องฟา้ 7 การสำรวจพืชมีพษิ ในท้องถิน่ 8 การทำกระดาษจากกาบกล้วย 9 การประดิษฐเ์ ครือ่ งสบู น้ำพลังงานลม 10 การอธิบายทฤษฎีอวกาศแนวใหม่ 11 การลดปริมาณคารบ์ อนไดออกไซด์ 12 เครือ่ งกล่ันน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ 13 การเปลี่ยนเพศปลาหางนกยงู โดยใช้ไรแดง 14 การศึกษาวัสดุที่ใช้ล่อและไล่แมลงวันทอง 15 โครงงานเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อพอ่ หลวง
25 กิจกรรมที่ 4 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์
26 แบบทดสอบหลังเรยี น เรือ่ ง โครงงานวิทยาศาสตร์ สาระ ความรเู้ บื้องต้น ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น คะแนนเตม็ 10 คะแนน รหัสรายวิชา พว31001 หน่วยการเรียนร้เู รอ่ื ง โครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที คำชี้แจง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องทีส่ ุด และทำเครือ่ งหมาย x ลงในกระดาษ คำตอบ 1. โครงงานวิทยาศาสตร์แบ่งออกเปน็ กี่ประเภท ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 2. การศึกษาวิธีการเพาะถั่วงอกจดั เปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภททฤษฎี ข. โครงงานประเภทสำรวจ ค. โครงงานประเภททดลอง ง. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ 3. เครื่องปลอกเปลือกมะพร้าวจัดเปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภททฤษฎี ข. โครงงานประเภทสำรวจ ค. โครงงานประเภททดลอง ง. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภทใดทีม่ ีการกำหนดตัวแปรท่คี ่อนข้างเดน่ ชัด ก. สิ่งประดิษฐ์ ทฤษฎี ข. สิง่ ประดิษฐ์ ทดลอง ค. ทดลอง สำรวจรวบรวมข้อมูล ง. สำรวจรวบรวมข้อมูล สิง่ ประดิษฐ์
27 5. ทกั ษะใดไม่ใช่ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก. การสังเกต ข. การทดลอง ค. การวางแผน ง. การต้ังสมมติฐาน 6. การจดั ทำโครงงานทีด่ ี ผเู้ รียนต้องทำอย่างไร ก. เป็นโครงงานทีม่ ีครูท่ีปรึกษาเก่ง ๆ ข. เปน็ โครงงานที่ไปดูมาจากโครงงานอื่น ค. เปน็ โครงงานทีส่ ง่ เข้าประกวด ได้รับรางวลั ง. เปน็ โครงงานที่เราคิดเอง ทำเอง แก้ปัญหาเอง นำเสนอเองอยา่ งมีรูปแบบ ขั้นตอน 7. สิ่งทีค่ วรทำเป็นอันอับแรกในการทำโครงงาน คืออะไร ก. คดิ หัวเรื่องทีจ่ ะทำ ข. เตรียมสถานที่ทีจ่ ะทำโครงงาน ค. ศึกษาหาสถานทีท่ ีจ่ ะประกวด ง. สอบถามเรือ่ งที่จะทำจากครูที่ปรึกษา 8. ในการจดั นิทรรศการในการแสดงโครงงานนั้นควรคำนึงถึงสิง่ ใดมากที่สุด ก. ดึงดูดความสนใจผู้เข้าชม ข. ใช้ตารางและรปู ภาพประกอบโดยจดั วางให้เหมาะสม ค. สิ่งประดิษฐ์ควรอยูใ่ นสภาพที่ทำงานได้อย่างสมบรู ณ์ ง. ความปลอดภัยและความเหมาะสมของเนือ้ หาทีจ่ ดั แสดง 9. ขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ก. การแสดงผลงาน ข. การเขียนรายงาน ค. ศึกษาเอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง ง. ขั้นตอนการคิดหวั ข้องของโครงงาน
28 10. ข้อใดเป็นการประเมนิ ผลของโครงงานวิทยาศาสตร์ ก. การเขียนรายงาน ข. การอภปิ รายปากเปล่า ค. การจัดแสดงโครงงาน ง. ถูกทุกข้อ
29 กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน กิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ช่อื – สกลุ .......................................ระดับ..................................รหสั ............................. ขอ้ ที่ ก ตัวเลือก ง ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทีไ่ ด.้ ................คะแนน
30 บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2544). โครงงานวทิ ยาศาสตร.์ กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ครุ ุสภา ลาดพร้าว วมิ ลศรี สุวรรณรตั น์ และ มาฆะ ทิพย์ศร.ี (2544). โครงงานวทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ. สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2536). แบบฝึกกิจกรรมวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ว017 โครงงานวิทยาศาสตรก์ บั คณุ ภาพชวี ติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว
31 ภาคผนวก
32 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ข้อที่ เฉลย 1ค 2ง 3ค 4ง 5ง 6ง 7ค 8ง 9ก 10 ข
33 เฉลยแบบฝกึ หัด เรือ่ ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คำสั่ง ให้นกั ศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้ 1. โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึงอะไร การศึกษาคน้ คว้าหาคำตอบ การสำรวจ การทดลอง หรือการประดิษฐ์คดิ คน้ ในเรื่องทีส่ นใจหรือเรือ่ งทีม่ ีข้อสงสัยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ด้วยวิธกี ารท่หี ลากหลาย โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีการวางแผนการศึกษาคน้ คว้าหาคำตอบอยา่ งเป็นระบบ โดยมีครเู ป็นผใู้ ห้คำปรึกษาอยา่ งใกล้ชิด เพอ่ื ให้บรรลจุ ุดมุ่งหมายในการดำเนินงาน 2. คุณค่าและความสำคญั ของโครงงานวิทยาศาสตร์ มีอะไรบ้าง 1. ชว่ ยให้ผเู้ รียนเกดิ ความคดิ ริเริ่มในการพฒั นางาน 2. ช่วยให้มีความรู้ประสบการณ์จากการปฏิบตั ิจริง ตามวิถีชีวิต ทำให้เกดิ ความเข้าใจอย่างลึกซ้งึ ในการทำโครงงาน ชิ้นงาน หรือนวัตกรรม 3. ชว่ ยพัฒนาชุมชน ทอ้ งถิน่ ให้เข้มแข็ง จากการนำผลงานที่ประสบ ความสำเรจ็ ไปใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นการดำรงชวี ิตและการประกอบอาชีพในชมุ ชนท้องถิ่น 3. โครงงานวิทยาศาสตร์ มีกีป่ ระเภท อะไรบ้าง มี 4 ประเภท ไดแ้ ก่ โครงงานประเภทสำรวจและรวบรวมข้อมลู โครงงาน ประเภททดลอง โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ และโครงงานประเภททฤษฎี 4. ขั้นตอนของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ มีกีข่ ั้นตอน อะไรบ้าง มี 7 ข้ันตอน ได้แก่ 1. ข้ันสำรวจหรือตดั สนิ ใจเลอื กเรื่องทีจ่ ะทำ 2. ข้ันศึกษาข้อมลู ทีเ่ กี่ยวข้องกับเรือ่ งที่ตดั สินใจทำ 3. ขั้นวางแผนดำเนินการ 4. ขั้นเขียนเค้าโครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ 5. ข้ันลงมือปฏิบตั ิ 6. ขั้นเขียนรายงานโครงงาน 7. ขั้นเสนอผลงานและจดั แสดงผลงานโครงงาน
34 5. จงอธิบายการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์มาพอสงั เขป การนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรจะจัดให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ชอ่ื โครงงาน ชื่อผู้ทำโครงงาน ชอ่ื ท่ปี รึกษา 2. คำอธิบายถึงเหตุจูงใจในการทำโครงงาน และความสำคัญของ โครงงาน 3. วิธกี ารดำเนินการ โดยเลือกเฉพาะขั้นตอนทีเ่ ด่นและสำคญั 4. การสาธิตหรือแสดงผลที่ได้จากการทดลอง 5. ผลการสังเกตและข้อมูลเดน่ ๆ ท่ไี ด้จากการทำโครงงาน 6. ให้นกั ศึกษาเขียนเครื่องหมาย ลงในชอ่ งประเภทโครงงานวิทยาศาสตร์ตอ่ ไปนี้ ที่ ชื่อโครงงาน ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 กล่องมหัศจรรย์ 2 ทฤษฎีโลกกลมแบน สำรวจ ทดลอง ประดิษฐ์ ทฤษฎี 3 เปลือกไข่ไลม่ ด 4 การสำรวจหินในท้องถิน่ 5 การประดิษฐเ์ ครือ่ งห่อผลไม้ 6 การสำรวจกลุม่ เมฆบนท้องฟา้ 7 การสำรวจพืชมีพษิ ในท้องถิ่น 8 การทำกระดาษจากกาบกล้วย 9 การประดิษฐ์เครือ่ งสบู น้ำพลังงานลม 10 การอธิบายทฤษฎีอวกาศแนวใหม่ 11 การลดปริมาณคารบ์ อนไดออกไซด์ 12 เครือ่ งกลัน่ น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ 13 การเปลีย่ นเพศปลาหางนกยงู โดยใช้ไรแดง 14 การศึกษาวสั ดุที่ใช้ล่อและไล่แมลงวนั ทอง 15 โครงงานเกษตรทฤษฎีใหม่เพอ่ื พอ่ หลวง
35 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ข้อที่ เฉลย 1ง 2ค 3ง 4ข 5ค 6ง 7ก 8ง 9ข 10 ง
36
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: