Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการศึกษาเกาะลิบง

รายงานการศึกษาเกาะลิบง

Published by ae.us778, 2016-12-04 09:02:23

Description: รายงานการศึกษาเกาะลิบง

Keywords: none

Search

Read the Text Version

รายงานการศึกษา ความอุดมสมบูรณ์ ทางทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่งคั่งของชุมชนในเกาะลิบง โดยชุมชนท้องถิ่น พฤศจิกายน 2559

ค าน า เกาะลิบง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ต าบลเกาะลิบง อ าเภอกันตัง ส าหรับพื้นที่ต าบลเกาะลิบง ประกอบด้วยชุมชนจ านวน ๘ หมู่บ้าน อยู่บนแผ่นดินใหญ่จ านวน ๓ หมู่บ้านได้แก่บ้านเจ้าไหม บ้านสุไหงบาตู และบ้านมด ตะนอย โดยมีบ้านเกาะมุกด์เป็น ๑ หมู่บ้านที่แยกอิสระอยู่บนเกาะมุกด์ ส่วนที่เหลือจ านวน ๔ หมู่บ้าน ตั้งอยู่บนเกาะลิบง ได้แก่บ้านโคกสะท้อน บ้านหลังเขา บ้านบาตูปูเต๊ะ และบ้านทรายแก้ว เมื่อเอ่ยเกาะลิบงก็จะมีเป็นที่รู้กันดีของผู้คนทั่วไป เนื่องจากเกาะลิบงมีเสน่ห์และอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย มีทั้งประเภททรัพยากรประมงที่มีคุณค่า และสร้าง อาชีพประมงชายฝั่งแก่ชุมชนบนเกาะลิบงมาอย่างยาวนาน เป็นแหล่งหญ้าทะเลที่สมบูรณ์มากที่สุด มีฝูงพะยูนที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศไทย นอกจากความโดดเด่นในสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น เกาะลิบงยังเป็นสถานที่ซึ่งที่มีความส าคัญทางประวัติศาสตร์ มี บันทึกเรื่องราวมานานนับ ๒๐๐ ปี โดยโครงการนี้ได้มีการจัดท ากิจกรรมขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปศึกษานอกสถานที่และได้รับประสบการณ์จริง โดยกิจกรรม จะมีกิจกรรมศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่จะน ามาใช้ แทนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจ ากัด นักศึกษาร่วมกับสถาบันการศึกษาและชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ณ เกาะลิบง อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตส านึกของการตระหนักถึงความส าคัญของระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อให้รักษาไว้คงอยู่ต่อไป เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ าและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่คู่เมืองไทยตลอดไป ผู้จัดท า นางสาวสิรินาถ งามกาละ

สารบัญ เรื่อง หน้า บทที่ 1 ทรัพยากรบนเกาะลิบง 1 – 4 บทที่ 2 ประวัติศาสตร์เกาะลิบง 5 – 6 บทที่ 3 วิถีชีวิตชุมชน 7 – 8 บทที่ 4 ส่วนที่ไปส ารวจ 9 – 10 บทที่ 5 ยางพาราเกาะลิบง 11 – 17 บทที่ 6 วิถีชีวิตชุมชน 18 – 19 บทที่ 7 พันธุ์ไม้ป่าชายเลน และ ชายหาด 20 - 25 บทที่ 8 การจัดการสิ่งแวดล้อม 26 – 27 บทที่ 9 สรุป 26 – 35 อ้างอิง 36 ภาคผนวก 38 – 76

1 บทที่ 1 ทรัพยากรบนเกาะลิบง ทรัพยากรธรรมชาติ เกาะลิบงมีสภาพพื้นที่ที่ประกอบไปด้วยภูเขา ที่ราบ และฝั่งทะเล ดังนั้นทรัพยากรธรรมชาติของเกาะแห่งนี้จึงมีความ หลากหลาย คือ 1. ป่าบก ที่มีอยู่อย่างแน่หนาบนภูเขา 2. ป่าชายเลน ถัดต่อลงมาจากป่าเขาจะถึงบริเวณพื้นที่ราบ โดยเฉพาะตาม ชายฝั่งคลองที่น้ าทะเลท่วมถึงจะอุดมสมบูรณ์ ไปด้วยป่าชายเลน 3. หญ้าทะเล ริมชายฝั่งทะเลทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเกาะ ซึ่งอยู่ใกล้กับปาก แม่น้ าตรังและแม่น้ าปะเหลียนนั้นเป็นบริเวณที่มีหญ้าทะเลขึ้นงอกงามหนาแน่นมาก 4. สัตว์ป่า ภายป่าในภูเขาทางทิศตะวันตกของเกาะ และตามแนวป่าชายเลนแม้กระทั่งตามแนวชายหาดรอบ ๆ เกาะนั้น พบว่ามีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่ เช่น ชะมด พญากระรอก ลิง ค่าง และนกอีกหลายชนิด ทั้งที่เป็นนกประจ าถิ่น และอพยพมาจากต่างประเทศเช่นทุก ๆ ปี จะพบว่ามีนกหัวโตกินปูได้อพยพมาหากินที่นี่ด้วย ส าหรับในทะเลซึ่งอุดม สมบูรณ์สัตว์น้ าหลายชนิดแล้ว ยังมีพะยูนซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้สูญพันธ์ อาศัยอยู่บริเวณรอบ ๆ เกาะลิบง ด้วยเช่นกัน แหล่งธรรมชาติอื่น ๆ เกาะลิบงมีหาดทรายที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งเช่น หาดแหลมจุโหย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง หาด หลังเขา หาดทุ่งหญ้าคา อ่าวโต๊ะเก อ่าวโต๊ะแซะ และหาดแหละโต๊ะชัย เป็นต้น นอกจากหาดทรายแล้วที่เกาะลิบงยังมีสิ่ง มหัศจรรย์อีกประการหนึ่งนั่นคือ บ่อน้ าจืดในทะเล ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน้ าจืดเช่นเดียวกับแอ่งน้ าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้น เวลามีน้ าทะเลขึ้นสูงน้ าในบ่อก็จะมีความเค็ม แต่พอน้ าลงแอ่งน้ าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้นเวลามีน้ าทะเลขึ้นสูงน้ าในบ่อก็จะ มีความเค็ม แต่พอน้ าลงแอ่งน้ าในบ่อจะมีรสจืดสนิท ดังนั้นบ่อน้ าแห่งนี้จะเป็นแหล่งน้ าจืดส าหรับนกทะเล และชาวบ้านในยาม หน้าแล้ง โบราณสถานที่ส าคัญ โบราณสถานที่ส าคัญและมีความเกี่ยวเนื่องกัน กับประวัติศาสตร์ของชุมชนบนเกาะลิบงนั้นเท่าที่มีเหลืออยู่ในปัจจุบัน คือ 1. ซากก าแพงเมือง ซากก าแพงเมืองเกาะลิบงที่เหลืออยู่นั้นมีสภาพเป็นซากไม้เก่า ๆ ปักเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้างด้าน ละ 4 เมตร โดยใช้ไม้เคี่ยมขนาดใหญ่ปักที่มุมทั้งสี่ด้านระหว่างเสานั้นจะใช้ไม้กระดานเป็นแผ่นหน้าปักเรียงต่อกันทั้ง สี่ ด้าน ซากก าแพงเมืองเกาะลิบงตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหลังเตาเผาถ่านบ้านพร้าว ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่หมู่ที่ 1 ต าบลเกาะลิบง ชาวบ้านเล่าว่าเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แนวซากก าแพงเมืองมีเหลือมากกว่านี้ แต่ต่อมาได้ขุดทิ้งไปเพื่อท าเป็นท่าเทียบเรือ

2 2. หลุมศพอดีตเจ้าเมือง (โต๊ะฮ้าหวา หรือโต๊ะปังกะหวา) หลุมศพของโต๊ะฮ้าหวานั้นปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตท้องที่ หมู่ที่ 1 ซึ่ง เป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน สภาพของหลุมศพเป็นเนินดินขนาดใหญ่ มีไม้แก่น(นาแซ หรือตะหนา) ปักหัวท้ายห่าง กัน 3.2 เมตร ชาวบ้านเล่าว่าทุก ๆ ปีเมื่อถึงวันอารีรายอ โต๊ะอิหม่ามจะมาอ่านอัลกุรอ่านที่หลุมนี้ประจ า 3. คลองขุด ที่บริเวณใกล้ๆกับหลุมศพโต๊ะฮ้าหวา นั้นมีร่องรอยเป็นล าห้วยเล็กๆ กว้าง ประมาณ 4 เมตร เชื่อมต่อระหว่าง คลองบ้านพร้าวซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกกับทะเลด้านตะวันออกของเกาะ ปัจจุบันล าห้วย หรือคลองขุดได้ตื้นเขินไป บางส่วนแล้ว แต่ยังมีสภาพที่มองเห็นเป็นแนวชัดเจน 4. สภาพซากของสระน้ า เป็นสระขุดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างประมาณ 36 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร ตั้งอยู่บน ภูเขาในเขตท้องที่ หมู่ที่ 1 ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า ควนสระ ประชากร ชุมชนบนเกาะลิบงในปัจจุบันมีมากขึ้นจนสามารถแบ่งการปกครองออกได้เป็น 3 หมู่บ้านคือ บริเวณบ้านพร้าว บ้าน โคกท้อน อยู่ในเขตหมู่ที่ 1 บ้านบาตูปูเต๊ะ อยู่ในเขตหมู่ที่ 4 และบ้านหลังเขาอยู่ในเขตหมู่ที่ 5 ซึ่งประชากรทั้ง 3 หมู่บ้านนั้น นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง ติดแผ่นดินใหญ่เป็นที่ราบค่อนข้างสูง มีภูเขาบางส่วน ส่วนที่สอง เป็นเกาะกลาง ทะเลมีภูเขาอยู่ตอนกลาง เขตพื้นที่ ทิศเหนือ ติดกับ ต าบลบางสัก อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทิศใต้ ติดกับ ทะเลอันดาบัน ทิศตะวันออก ติดกับ ต าบลนาเกลือ อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทิศตะวันตก ติดกับ ทะเลอันดามัน อาชีพ อาชีพหลัก การประมง อาชีพเสริม ท าสวนยางพารา ค้าขาย สาธารณูปโภค จ านวนครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใช้ในเขต อบต. 1,076 ครัวเรือน จ านวนบ้านที่มีโทรศัพท์ 15 หลังคาเรือน การเดินทาง หมู่ที่ 3 ,6 เดินทางได้โดยทางรถยนต์และเรือยนต์ ไม่สะดวกในฤดูฝน หมู่ที่ 1,2,4 และ 6 เดินทางโดยเรือยนต์ ไม่สะดวกในฤดูมรสุม

3 แผนที่เกาะลิบง ภาพส ารวจ

4

5 บทที่ 2 ประวัติศาสตร์เกาะลิบง ประวัติศาสตร์เกาะลิบง ชื่อของเกาะนี้มีความเป็นมาคาบเกี่ยวกันระหว่างประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย เกาะลิบงมีชื่อ อยู่ในต านานและเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยก่อนโดยมีชื่อของเกาะและชื่อของบุคคล ส าคัญเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ค าบอกเล่าที่เป็นต านานจากรุ่นสู่รุ่นที่สืบทอดต่อกันมาจนกระทั่งปัจจุบันก็เป็นอีกด้านหนึ่ง ที่มาเสริมต่อให้เราสามารถมองย้อนกลับไปในอดีตได้แจ่มชัดมากขึ้น แรกเริ่มเดิมทีย้อนกลับไปประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา คนในเมืองกันตังซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ยังเรียกคนที่อาศัยอยู่ในเกาะ ต่างๆ เช่นเกาะมุก และเกาะลิบงว่า”โบ๊เล” การเรียกคนเกาะว่าโบ๊เล ที่ใช้เรียกกันในอดีตนั้นเป็นค าเรียกที่ติดปากกันมานาน โบ๊เลไม่ใช่ค าพูดที่ใช้เหยียดหยามหรือใช้ตัดพ้อต่อว่ากันให้เสียใจแต่อย่างใด แต่เป็นการบอกที่มาที่ไปของบุคคลและกลุ่มคน กลุ่มหนึ่งที่ติดต่อสัมพันธ์กันมาช้านานเป็นนัยยะส าคัญที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคน ตรังอีกกลุ่มหนึ่ง จากสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกันของจังหวัดตรังในสามลักษณะใหญ่ๆ นั่นคือ ตรังเขา ตรังนา และ ตรังเล กล่าวคือมีชุมชนและประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นที่ราบสูงและภูเขา(ควน) กลุ่มคนเหล่านี้มีวิถีชีวิตผูกพันและมีความ เชี่ยวชาญในการใช้ชีวิตอยู่กับป่าเขาล าเนาไพร เช่น พื้นที่อ าเภอปะเหลียน อ าเภอนาโยง เป็นต้น กลุ่มตรังนา ได้แก่กลุ่มคนที่มี ถิ่นอาศัยและด ารงชีพโดยการเกษตร เรือกสวนไร่นา เช่น อ าเภอห้วยยอด และพื้นที่ในทุกอ าเภอของตรังพื้นที่อาศัยของคน กลุ่มนี้คือที่ราบหรือที่ราบลุ่มแม่น้ าส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มผู้ที่ด ารงชีวิตและมีความเชี่ยวชาญในการด ารงชีพในเกาะและ ชายทะเล เช่นพื้นที่อ าเภอสิเกา กันตัง ย่านตาขาว ปะเหลียน กลุ่มนี้ได้แก่ เกาะสุกร เกาะมุก และเกาะลิบง เป็นต้น ดังนั้น เรื่องราวของเกาะลิบงซึ่งเป็นแหล่งชุมชนใหญ่ในเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรังจึงมีความน่าสนใจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ สัมภาษณ์ชาวบ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ ของต าบลเกาะลิบงพบว่า คนรุ่นอายุประมาณ 55 ปีขึ้นไปบางท่านยังสามารถ พูดคุยภาษาต้นก าเนิดของตนเองได้ นั่นคือ ส าเนียงมลายูแบบมาเลย์นั้นพบมากในบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน เช่น เกาะลิบง และสิเกาและในต าบลบ่อน้ าร้อน ที่บ้านสิเหร่ ท่าปาบ เป็นต้น ส่วนส าเนียงพูดมลายูแบบชวานั้นใช้กันมากที่เกาะมุกอ าเภอ กันตังจากการสังเกตและสอบถามคนสูงอายุในพื้นที่จึงพอจะท าให้ทราบได้ว่า ความเป็นมาของชุมชนในเกาะและชายฝั่งแห่งนี้ ชุมชนดั้งเดิมในสมัยก่อนน่าจะมีที่มาจากเกาะชวาในอินโดนีเซีย และอีกกลุ่มหนึ่งมาจากส่วนต่าง ๆ ของมาเลย์ สอบถามรุ่น พ่อแม่และรุ่นปู่ย่าหลายคนท าให้ทราบว่า มีบรรพบุรุษเป็นชาวมลายู เนื่องจากในสมัยเรียนอยู่มัธยมต้นเคยพบมีด กริช และ ของใช้ของคนในสมัยก่อนหลายอย่างซึ่งผู้อาวุโสในพื้นที่ต าบลบ่อน้ าร้อนต่างบอกเล่าความตรงกันว่า มีบรรพบุรุษที่กระจาย และเดินทางมาจากเกาะหมากในแหลมมลายู ที่ตั้งชุมชุนแรกนั้นนั้นอยู่ที่บ้านเกาะเคี่ยม

6 เกาะลิบงจากค าบอกเล่าของคนในท้องถิ่น เกาะลิบงและเกาะอื่นๆในอดีตเคยเป็นที่ตั้งรกรากของชุมชนชาวเลก่อนจะมีคนกลุ่มอื่นๆเข้ามาประมาณ 100-180 ปี มีหลักฐานที่เป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่หลายแหล่งที่เคยพบในบริเวณเกาะลิบงและพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดตรัง ได้แก่ เครื่องถ้วยชามโบราณและซากโครงกระดูกภายในถ้ าชาวเลบนเขาบาตูปูเต๊ะ หลุมฝังศพของบุคคลส าคัญของโต๊ะปังกาหวาที่ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่ฝังศพเจ้าพระยาลิบง จากการสังเกตหลุมฝังศพนั้นมีความกว้างและความยาวมากกว่าหลุมฝังศพทั่วไป แม้ว่าจะไม่มีการตกแต่งหรือกั้นแนวรั้วปิดบังไว้ก็ตามแต่ชาวบ้านในท้องที่ก็รู้และเข้าใจตรงกันว่าตรงนั้นเป็นที่ฝังศพของบุคคล ส าคัญยิ่งในอดีต และในศาสนาอิสลามนั้นจะมีการรักษาสถานที่เหล่านั้นไว้แบบเดิมโดยห้ามการปรุงแต่งหรือตั้งโต๊ะหมู่บูชาไว้ เป็นที่สักการะ เช่นเดียวกันกับหลุมฝังศพของเจ้าเมืองไชยา ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นี่จึงอาจเป็นเหตุหนึ่งทีคนรุ่นใหม่ในท้องที่ ไม่มีความรู้และไม่สนใจในความส าคัญทางประวัติศาสตร์เท่าที่ควร โบราณวัตถุและสถานที่อื่นๆที่เคยพบในเกาะลิบงได้แก่ สระน้ าบนภูเขาในเกาะที่ชาวบ้านเรียกว่า “ควนสระ” กะโหลกที่พบได้ทั่วไปที่ทุ่งหัวคนบริเวณชายหาดบ้านโคกสะท้อน ซึ่ง สันนิษฐานว่าเป็นแดนประหารในการปกครองคนสมัยก่อน ท่าเรือสะพานช้างและด่านภาษีบริเวณแหลมจูโหยซึ่งเป็นท่าเรือ เก่าและด่านจัดเก็บภาษีตรงกับหลักฐานเอกสารที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

7 บทที่ 3 วิถีชีวิตชุมชน วิถีชีวิตชุมชน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของเกาะลิบง จึงท าให้พื้นที่ถูกประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หมู่เกาะลิบง ที่ส าคัญคือเกาะลิ บงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ส าคัญของจังหวัดตรัง เพราะมีพื้นที่หญ้าทะเลกว่า 12,000 ไร่ ที่มีความสมบรูณ์และมีจ านวน ชนิดของหญ้าทะเลมากถึง 12 ชนิด ดังนั้นพื้นที่บริเวณนี้จึงมีการพบเห็นพะยูนอยู่บ่อยครั้ง และบริเวณเกาะลิบงยังเป็นแหล่ง อนุบาลสัตว์น้ าวัยอ่อน และที่อยู่อาศัยหากินของสัตว์น้ าในระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น ปลิงทะเล หอยชักตีน หอยกะพง ฯลฯ ด้วยความอุดสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ าเช่นนี้ จึงท าให้เกาะลิบงกลายเป็นฐานทรัพยากรและฐานอาชีพของชุมชน ชายฝั่งทั้งในและนอกต าบลเกาะลิบง ในจังหวัดตรัง รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและรอบๆ เกาะนี้เองจึงมีการใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้ทั้งบนเกาะ และทะเลรอบๆ เกาะลิบง เกิดความเสื่อมโทรม ไม่ว่าจะเป็นป่าบกบนเกาะลิบง หญ้าทะเล ป่าชายเลน และพื้นที่ชายหาด รอบๆ ก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน นี้คือสถานการณ์ด้านทรัพยากรที่ชุมชนเผชิญอยู่ ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่งพบว่าสภาพ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนและฐานทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้เช่นกัน ตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงด้านอาชีพที่เห็นได้ชัดเจน คือ การท าประมงชายฝั่ง หากมีฝนตกหนักติดต่อกันก็ไม่สามารถ ออกทะเลเพื่อจับสัตว์น้ าได้ หรือแม้สามารถออกไปได้แต่ปริมาณสัตว์น้ าที่จับได้จะน้อย เนื่องจากปริมาณน้ าฝนที่มากท าให้ ความเค็มของทะเลเปลี่ยนแปลง สัตว์น้ าจะถอยออกไปไกลจากฝั่งมากขึ้น การออกเรือจะไกลขึ้นท าให้ต้นทุนด้านน้ ามันเพิ่ม สูงขึ้นด้วย หรือกรณีที่มีพายุและฝนตกควบคู่กันยิ่งไม่สามารถออกทะเลได้ เพราะอาจเสี่ยงที่เรือจะล่มได้ ส่วนการท าสวน ยางพาราก็เช่นเดียวกัน หากฝนตกหรือมีพายุก็ท าให้ไม่สามารถกรีดยางได้ เพราะจะท าให้น้ ายางที่ได้เสียหายเนื่องจากน้ าฝน อาจจะตกลงไปผสมกับน้ ายาง และเป็นที่มาของโรคที่เกิดบนหน้ากรีดของต้นยางในช่วงหน้าฝนหลายโรค ที่ส าคัญๆ ได้แก่ โรค เส้นด า และโรคเปลือกเน่า ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียกับผลผลิตและสวนยางได้ จากสถานการณ์ดังกล่าวท าให้ชุมชนบนเกาะลิบง ตกอยู่ในภาวะแนวโน้มที่มีความเสี่ยงในงานอาชีพและชีวิตเพิ่มขึ้น เมื่อมีการพูดคุยร่วมกันใหม่อีกครั้งได้น ามาสู่การรวมตัวกันท างานในลักษณะของเครือข่ายที่มีเป้าหมายร่วมกันคือ “การจัดการระบบนิเวศในเกาะลิบงให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้กลับมาเป็นฐานอาชีพและ ชีวิตของคนในชุมชน รวมทั้งท าหน้าที่เป็นเกราะป้องกันทางธรรมชาติให้กับชุมชนเกาะลิบงให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ”

8 กลุ่มพัฒนาสตรีแปรรูปสัตว์น้ าเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นใหม่สมาชิกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่บ้านในชุมชน เป็นเพราะการ ท าอาหารถือเป็นทักษะและความถนัดของผู้หญิง แต่ถึงกระนั้นงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทางกลุ่มพัฒนาสตรี แปรรูปสัตว์น้ าก็ไม่ได้ละเลยที่จะเข้าร่วมด าเนินงานอื่น ๆ ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่าชายเลน การอนุรักษ์สัตว์น้ า การ ท าฝายชะลอน้ า และงานอื่น ๆ ที่เป็นงานส่วนร่วมของคนในเกาะ เพียงแต่ละมีการจัดวางบทบาทการท างานตามความ รับผิดชอบหลักและรอง รวมกับสมาชิกที่เป็นผู้ชาย เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นระบบและสร้างวัฒนธรรมของการ ท างานร่วมกันระหว่างหญิงชายในเกาะลิบงด้วย ส าหรับกลุ่มงานอาชีพทางเลือกที่กลุ่มพัฒนาสตรีแปรรูปสัตว์น้ าจัดตั้งขึ้นนั้นมีวัตถุประสงค์คือ การสร้างความมั่นคง ด้านอาหารและหารายได้เพิ่มจากอาชีพหลัก เป็นการน าเอาวัตถุต้นทางจากสัตว์น้ าขนาดเล็กที่ชาวประมงในเกาะลิบงจับได้ บริเวณชายฝั่งมาแปรรูป และก่อนที่จะมีการลงมือปฏิบัติงานสมาชิกได้มีโอกาสเพิ่มเติมทักษะความรู้โดยการฝึกปฏิบัติการจริง จากอาจารย์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยต้นทางของวัตถุดิบที่จะใช้ในการผลิตนั้น ได้มาจากการจับสัตว์น้ าบริเวณชายฝั่งซึ่ง สามารถจับได้ทั้งปี ทั้งการจับปลาขนาดเล็ก แต่เพื่อไม่ให้มีการจับสัตว์น้ ามากเกิดปริมาณที่จ าเป็น ผนวกกับเป้าหมายส าคัญ คือการสร้างความยั่งยืนและหลักประกันในการมีอาหารกินอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มได้วางแผนร่วมกันคือ จะท าการจับเฉพาะ เท่าที่จ าเป็นในแต่ละครั้งโดยจะจับประมาณสองเดือนหรือสามเดือนครั้ง นอกเหนือจากนั้นคือการรับซื้อจากเรือประมงใน หมู่บ้านที่สามารถออกทะเลได้และต้องการขายลูกปลาเล็กปลาน้อย เมื่อได้สัตว์น้ ามาสมาชิกจะมาร่วมกันลงแรงในการจัดการ ผลิต สัตว์น้ าที่ได้จะน ามาแปรรูปท าเป็นอาหารว่างส าหรับทานเล่นและมีการเพิ่มคุณค่าทางด้านอาหารเข้าไปด้วยการเสริม อาหารประเภทถั่วลิสง พริก และปรุงรสกลายเป็น ปลาสามรส หอยสามรส ขณะที่เนื้อเนื้อปลาบางส่วนจะถูกน ามาแปรรูป เป็นข้าวเกรียบปลาได้อีกด้วย จากการสัมภาษณ์สมาชิก เกี่ยวกับรายได้ที่ได้รับจากการท าอาหารแปรรูปพบว่า สมาชิกมี รายได้เฉลี่ยเพิ่มต่อเดือนประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเดือนไหนจะมีผลิตภัณฑ์อะไรออกมาจ าหน่าย

9 บทที่ 4 ส่วนที่เราไปส ารวจ ผลส ารวจ ล าดับ ผลไม้และผักที่พบ ที่ บนเกาะลิบง ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. 1 มะพร้าว X X X X X X X X X X X X 2 กล้วยน้ าว้า X X X X 3 ระก า X X 4 ขนุน X X X X 5 มะม่วงหิมพานต์ X X X 6 มะนาว X X X X X X X X X X X X 7 มะขาม X X X X 8 มะละกอ X X X X X X X X X X X X 9 กระเจี๊ยบ X X X X 10 กระท้อน X X X X 11 กล้วยไข่ X X X 12 มะม่วง X X 13 ฝรั่ง X X X 14 ผักบุ้ง X X X X X X X X X X X X 15 พริกขี้หนู X X X 16 ผักหวาน X X X X X X X X X X X X 17 ผักคะน้า X X X X X X X X X X X X 18 ผักกวางตุ้ง X X X X X X X X X X X X 19 พริกไทย X X X X X X X X X 20 หัวหอม X X X X

10 พรรณพืชไม้พื้นที่พบเกาะลิบง ล าดับที่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อภาษาไทย สรรพคุณ/วิธีการใช้ในชุมชน 1 Rhizophora apiculata โกงกางใบเล็ก เปลือกน ามาต้มแก้ท้องล่วง 2 Rhizophora mucronata โกงกางใบใหญ่ เปลือกต้นน ามาต้มน้ า รักษาเรื้อรัง 3 Lumnitzera racemosa ฝาด ดอกขาว ยอดอ่อนแก้ท้องอืด เฟ้อ 4 Cerbera odollam ตีนเป็ดทะเล ผลเผาต าผสมน้ ามันพืช แก้ปวดเมื่อยตามข้อ 5 Nypa fruticans จาก ใบ แก้ลม ขับเสมหะ 6 Phoenir paludosa เป้งทะเล หัวต้มน้ าดื่ม แก้เสียดท้อง 7 Auicennia alva แสมขาว ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น้ าทุกชนิด 8 Auicennia Officinalis แสมด า ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น้ าทุกชนิด 9 Lumnitzera httorea ฝาด ดอกแดง เนื้อไม้ใช้สร้างบ้านเรือน 10 Hibiscus tihiaceus ปอทะเล เปลือกใช้ท าเชือก และ หมันยาเรือ 11 Barringtonia asiatica จิกทะเล เปลือกต้นท าเป็นยาแก้ภายนอก 12 Sonneratia caseolaris ล าพู รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง 13 Sonneratia ovata ล าแพน รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง 14 Clerodendrum inerme ส ามะง่า ใบสด ต้มน้ า นาล้างบาดแผลฆ่าเชื้อ 15 Premna obtusifolid ช้าเลือด ใบน ามาขยี้ มีกลิ่นเหม็นมาก ไว้ป้องกันตัว 16 Solanum trilobaturn มะแว้งเครือ รากใช้เป็นยาแก้ไอ 17 Azima sarmentosa พุงดอ รากแก้ว แก้ลม 18 Ceriops tagal โปรงแดง เปลือกต าให้ละเอียด ฟอกแผล ห้ามเลือด 19 Bruguiera sexangula พังกาหัวสุมดอกขาว ล าต้นใช้ท าฟืน 20 Bruguiera gymnorrhiza พังกาหัวสุมดอกแดง ฝักเชื่อม รับประทานเป็นของหวานคล้ายสาเกเชื่อม

11 บทที่ 5 ยางพาราเกาะลิบง การท ายางแผ่น ยางแผ่นจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต ราคายางในท้องตลาดก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของแผ่นยาง ถ้า หากเกษตรกรเจ้าของสวนยางสามารถผลิตยางแผ่นคุณภาพดีออกจ าหน่าย ก็จะได้ราคาสูงกว่ายางแผ่นที่มีคุณภาพต่ า การท า ยางแผ่นชั้นดีนั้นมีหลักการง่ายๆ คือ ท ายางให้สะอาด รีดยางแผ่นให้บาง สีของแผ่นยางสม่ าเสมอ มีขนาดมาตรฐาน ใช้น้ า และน้ ากรดถูกส่วน ซึ่งมีวิธีการและขั้นตอนการท าดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1 ตัดยาง

12 ขั้นตอนที่ 2 เก็บน้ ายาง ขั้นตอนที่ 3 น าน้ ายางมาขาย

13 ขั้นตอนที่ 4 น ามาขาย ขั้นตอนที่ 5 กรองน้ ายาง

14 ขั้นตอนที่ 6 เทน้ ายาง ผสมกับ น้ ากรด ขั้นตอนที่ 7 เทน้ ายางใส่พิมพ์ยาง

15 ขั้นตอนที่ 8 ดึงยางออกจากพิมพ์ ขั้นตอนที่ 9 ล้างน้ ากรด

16 ขั้นตอนที่ 10 เข้าเครื่องรีดเพื่อให้แผ่นบางขึ้น ขั้นตอนที่ 11 น ายางพารามาตากแห้ง

17 ขั้นตอนที่ 12 ตากทิ้งไว้ 1 วัน ขั้นตอนสุดท้าย น าไปขายต่อที่ท่าเรือ

18 บทที่ 6 วิถีชีวิตชุมชน ลอบดักปลาหมึก ความหมาย ลอบ หมายถึง เครื่องมือประมงที่ใช้ดักจับปลาหมึกหอมหรือหมึกกระดอง จะมีลักษณะเป็นรูปโค้ง คล้ายๆ ครึ่งวงกลม มีความกว้าง 75 ซม. ความยาว 105 ซม. และความสูง 55-60 ซม. ไม้ที่ใช้จะเป็นไม้มะพลาหรือไม้ทุเป็น ไม้เนื้อเหนียว

19 ลักษณะและวิธีการใช้งาน ปลาหมึกเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่พบมากในทะเลจังหวัดชุมพรโดยธรรมชาติ ปลาหมึกกล้วยหรือปลาหมึกหอม มักหา อาหารในที่ที่มีกิ่งไม้ใบหญ้าบริเวณริมฝั่งทะเล การจับปลาหมึกนอกจากจะใช้เรือประมงในการไดปลาหมึกแล้ว ยังสามารถ ใช้ลอบเป็นเครื่องมือจับปลาหมึกที่ท าขึ้นเอง เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน เนื่องจากการไปศึกษาที่เกาะพิทักษ์ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยึดการประกอบอาชีพการท าประมงเป็นหลักและจะเห็นได้ว่าจะ พบเห็นลอบดักปลาหมึกนั้นมีอยู่ทั่วไปหมดเกือบตลอดทางเดินบริเวณชายฝั่ง ซึ่งสิ่งที่พวกข้าพเจ้าได้พบเห็นนั้นท าให้พวก ข้าพเจ้านั้นเกิดความสนใจที่จะศึกษาว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ มีการท าให้ปลากหมึกนั้นมาเข้าอยู่ข้างในได้อย่างไงและมีวิธีการที่จะวาง ตรงไหน เวลาไหนที่จะออกไปวางลอบและมีการท าอย่างไร วิธีการท าลอกดักปลาหมึก การท าลอบนั้นต้องอาศัยความใจเย็นและความพิถีพิถันเป็นอย่างมากและต้องมีความละเอียดรอบคอบเนื่องจากลอบ ดักปลาหมึกนั้นจะต้องมีความสมดุลกันขณะที่เรานั้นต้องเอาไปว่างในทะเล ลอบดักปลาหมึกยังสร้างประโยชน์อีกมากมาย อาทิ เช่น ประหยัดเวลา แค่เราเอาลอบไปวางไว้แล้วค่อยกลับไปดูได้ ท าให้มีเวลาไปท ากิจกรรมอื่นๆได้อีกมากมายและการใช้ ลอบดักปลาหมึกยังท าให้จับ ปลาหมึกได้จ านวนมากมากกว่าการไดปลาหมึกแถมยังรักษาสมดุลของท้องทะเลเนื่องจากลอบดักปลาหมึกจะจับแต่ ปลาหมึกตัวใหญ่ๆท าให้ลูกหมึกมีโอกาสขยายพันธุ์ได้ต่อไปอีก การดักปลาหมึกหมึกนั้นควรมีระยะเวลาห่างในการดัก เพื่อให้ปลาหมึกนั้นมีการขยายพันธุ์และมีการเจริญเติบโตให้ ทันกันเพราะจะเป็นการรักษาสมดุลของทะเลและไม่ให้ปลาหมึกมีจ านวนลดลงอีกด้วย

20 บทที่ 7 พันธุ์ไม้ป่าชายเลน และ ชายหาด พันธุ์ไม้ป่าชายเลน และ ชายหาด ต้นเบญจมาศ ประโยชน์ ต้นต้มน้ ากินแก้ปวดหัว และเป็นไข้ มาลาเรีย ใบ ใช้บดเป็นยาพอกที่ท้องหญิงคลอดบุตร รักษารอยปริตามผิวหนัง แก้หน้าท้องลาย และใช้พอก ตามรอยด่าง แก้ผิวหนังด่าง แผลที่ถูกของมีคมบาด และ แก้เส้นเลือดขอด น้ าที่คั้นจากใบน ามาผสมกับนมวัวดื่ม เป็นยาบ ารุงหลังคลอดบุตร มีสรรพคุณเป็นยาขับ ปัสสาวะ ดอกเป็นยาถ่ายอย่างแรง รากต้มเป็นยาซับระดู ขับปัสสาวะ เป็นยารักษากามโรคชนิดหนองใน และนิ่ว ในกระเพาะปัสสาวะ ต้นปรงหนู ประโยชน์ ปลูกตกแต่งเป็นพืชประดับ สวนหย่อม หน่ออ่อน รับประทานเป็นผักสด เป็นผักสด ในสลัด และปรุงเป็นอาหารต่าง ๆ ใบ ใช้เป็นอาหารสัตว์ ใบแก่ ใช้มุงหลังคา หรือใช้ท ากระดาษ เส้นใยของใบแก่ ใช้ท าเชือก

21 ต้นเหงือกปลาหมอดอกขาว ประโยชน์ รากและต้นต้มอาบแก้พิษไข้ ผื่นคัน โรคผิวหนังทุกชนิด ถ้าใช้รับประทานเป็นยาแก้พิษฝีดาษ และฝีทั้งปวง รากต้นสดต าให้ละเอียดเอาฟอกปิดหัวฝี หรือแผลเรื้อรังถอนพิษได้ ต้นตีนเป็ดทะเล ประโยชน์ ผลเผาต าผสมน้ ามันพืช ทาแก้โรคตา ปลา โรคผิวหนังเรื้อรัง ผลสดขยี้ทาแก้ปวด ตามข้อ แก้ ปวดกล้ามเนื้อ ต้นจาก ประโยชน์ ใบ มีรสฝาดแก้ลมจรต่าง ๆขับเสมหะ ดับพิษทั้งปวง น้ าตาลจาก สมานริดสีดวงทวาร ยอด เคี้ยว แก้เมาเหล้า เมาคลื่น ราก ต้มดื่ม แก้ปัสสาวะขุ่นข้น หัว และรากต้มกับสารส้ม ดื่มเป็นยาแก้นิ่วในไต ขับหินปูน ดอกจาก ผสมดอกระก าและดอกหลุมพี เผาไฟละลายด้วย น้ าอ้อยแก้โรคตานขโมย เนื้อในผล รับประทาน น้ าจาก ดอก ใช้ท าน้ าส้มจาก หรือน้ าตาลจากประกอบอาหารคาว หวาน ใบท าเป็นตับจาก ใช้มุงหลังคาบ้านพัก ที่อยู่อาศัย ยอดอ่อนเรียวแหลม ใช้มวนท าบุหรี่

22 ต้นขลู่ ประโยชน์ ต้น ต้มดื่มแก้โรคปวดเอวปวดหลัง ใช้ บ ารุงยา ขับปัสสาวะแก้ปัสสาวะพิการ แก้วัณโรคที่ต่อม น้ าเหลือง แก้โรคริดสีดวงทวาร เป็นยาช่วยย่อย เปลือกล า ต้น ต้มน้ าเอาไอรมทวารหนัก และรับประทานแก้โรค ริดสีดวงทวาร ใช้สับตากแห้งมวนบุหรี่ สูบดมแก้โพรงจมูก อักเสบ ไซนัส ริดสีดวงจมูก ใบ ต้มน้ าดื่มแทนน้ าชาเพื่อลด น้ าหนัก แก้ปวดเมื่อย ขับระดูขาว ต าพอกแผลแก้แผล อักเสบ ต้นแสมขาว ประโยชน์ ต้นต้มน้ ากินแก้ปวดหัว และเป็นไข้ มาลาเรีย ใบ ใช้บดเป็นยาพอกที่ท้องหญิงคลอดบุตร รักษารอยปริตามผิวหนัง แก้หน้าท้องลาย และใช้พอก ตามรอยด่าง แก้ผิวหนังด่าง แผลที่ถูกของมีคมบาด และ แก้เส้นเลือดขอด น้ าที่คั้นจากใบน ามาผสมกับนมวัวดื่ม เป็นยาบ ารุงหลังคลอดบุตร มีสรรพคุณเป็นยาขับ ปัสสาวะ ดอก เป็นยาถ่ายอย่างแรง ราก ต้มเป็นยาซับ ระดู ขับปัสสาวะ ต้นแสมทะเล ประโยชน์ แก่น รสเค็มกร่อยเฝื่อน แก้เลือดลม แก้ลมในกระดูก แก้กระษัย ฟอกและขับโลหิตระดู ถ่าย ระดูเน่าเสีย แก้ปัสสาวะพิการ

23 ต้นแสมด า ประโยชน์ ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษ จากสัตว์น้ าทุกชนิด โดยเฉพาะปลาทะเลมีพิษทุกชนิด เปลือก เป็นยาบ ารุงก าหนัด แก้ปวดฟัน ต าพอกฝีแตก เปลือกให้สีน้ าตาลแกมแดง กระพี้เป็นยาแก้พิษงูได้ แก่น มีรสเค็มเฝื่อน ต้มน้ าแก้ลมในกระดูก แก้กระษัย โดยมากจะใช้คู่กับแก่นแสมสาน ต้นฝาดดอกแดง ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้สร้างบ้านเรือน ท าฟืน ท า ถ่าน เปลือก น ามาทุบแช่น้ าให้สีฝาด ย้อมผ้า ย้อมจีวร พระสงฆ์ ต้นฝาดดอกขาว ประโยชน์ ล าต้นที่มีขนาดใหญ่เนื้อไม้ใช้สร้าง บ้านเรือน ท าฟืน ท าถ่าน เปลือกน ามาทุบแช่น้ าให้สีฝาด ใช้ย้อมผ้า ย้อมจีวรพระสงฆ์

24 ต้นปอทะเล ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ เปลือกใช้ท าเชือก และหมันยาเรือ ต้นตะบูนขาว ประโยชน์ เปลือกไม้จะมีรสฝาดใช้แก้อาการ ท้องเสีย อาการอักเสบในล าไส้ อาการผิดปกติใน ช่อง ท้อง ใช้เป็นยาลดไข้ รักษาแผลภายใน หรือ ต้มต าให้ ละเอียด พอกแผลสดเป็นหนอง แผลบวม ฟอกช้ าเปลือก และผลน ามาต้มกับน้ าใช้ล้างท าความสะอาดบาดแผล ต้นจิกทะเล ประโยชน์ เปลือกต้มท าเป็นยาทาภายนอก แก้ปวดข้อ รากฝนผสมกับน้ ามะนาว ใช้ปิดปากแผลที่ถูกงูกัด แก้ พิษงู ผลชงน้ าดื่ม แก้ไอ แก้หืด แก้ท้องเสีย เมล็ดทุบให้ แตก ชงน้ าดื่มแก้จุกเสียด บีบให้น้ ามัน ใช้เป็นเชื้อไฟให้ ความสว่าง เปลือกของเมล็ด ทุบให้แตกตีกับน้ าใส่บ่อใช้ เบื่อปลา

25 ต้นโกงกางใบใหญ่ ประโยชน์ ใบชงน้ าดื่มแก้ไข้ ใบอ่อนบดหรือ เคี้ยวให้ละเอียด พอกแผลสด ห้ามเลือดและป้องกัน เชื้อโรค เปลือกล าต้นต้มกับน้ าดื่ม ห้ามโลหิต แก้ อาเจียนเป็นโลหิต สมานแผล แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้ คลื่นเหียนอาเจียน แก้บิดเรื้อรัง บ าบัดเบาหวาน แก้ แผลฟกช้ า บวม

26 บทที่ 8 การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการสิ่งแวดล้อม ในการอนุรักษ์พะยูนนั้น สิ่งส าคัญที่ควรค านึงถึง คือ การสร้างให้เกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ และเห็นความส าคัญของ พะยูนและระบบนิเวศหญ้าทะเล ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือในการอนุรักษ์อย่างเต็มใจ และในการอนุรักษ์ พะยูนนั้นสามารถท าได้หลายวิธี ดังนี้ อนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเลและฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลที่เสื่อมโทรม หญ้าทะเล เป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูน หากมี แหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ พะยูนมีอาหารอย่างเพียงพอก็จะสามารถด ารงชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นหากแหล่งหญ้าใดที่มีความอุดม สมบูรณ์อยู่แล้วก็รักษาให้คงอยู่ และหากแหล่งใดมีความเสื่อมโทรมก็ฟื้นฟูให้กลับคืนมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อีกครั้ง งดการใช้เครื่องมือประมง ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตพะยูนในแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน หรือในแหล่งหญ้าทะเล เช่น อวนลอยและอวนตาถี่ชนิดต่าง ๆ หรือโป๊ะ หรือหากจ าเป็นต้องท าก็ขอให้หมั่นตรวจตราดูแลเครื่องมือประมงอย่างสม่ าเสมอ หากพบพะยูนติดอยู่ต้องรีบปล่อยทันที ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ท าการล่าและบริโภคเนื้อพะยูน รวมทั้งงดการซื้อ-ขายชิ้นส่วนอื่น ๆ ของพะยูน ไม่ใช้เครื่องมือ ประมงที่เป็นอันตรายต่อพะยูน เช่น อวนปิดอ่าว อวนรัง อวนรุน อวนลอยกระเบน และไม่ท าประมงในพื้นที่ที่มีพะยูนอาศัย อยู่ และนอกจากนี้การให้ความส าคัญติดตามข่าวสาร การไม่สนับสนุนการประมงที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งการไม่สร้างมลพิษให้ เกิดขึ้นและไม่ท าลายสิ่งแวดล้อม ก็เป็นการช่วยกันอนุรักษ์ที่ส าคัญอีกทางหนึ่งเช่นกัน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทยมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พะยูน ได้แก่ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชบัญญัติส่งออกไปนอกประเทศและน าเข้ามาในราชอานาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

27 ปลิงทะเล ปลิงทะเล....ทรัพยากรชายฝั่ง ถิ่นพระยาลิบง เอ่ยถึงปลิงทะเล หลายคนบอกว่าไม่รู้จัก ด้วยเป็นสัตว์น้ าที่คนไทยไม่นิยมบริโภค อาจเนื่องมาจากมีราคาแพงหรือยัง ไม่รู้สรรพคุณที่มีอยู่ในปลิงทะเล รู้หรือไม่ว่ามีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบสรรพคุณ ในเนื้อปลิงทะเล ว่ามีการให้คุณค่าทางโปรตีน สูง ส่วนเสริมสร้างกระดูกอ่อน เอ็น และของเหลวที่หล่อลื่นตามข้อต่าง ๆ ของร่างกาย จึงไม่แปลกที่ชาวจีนรู้จักการน า ปลิงทะเลมาปรุงอาหาร จ าพวกซุป ตุ๋นเครื่องจีน ย า หรือทานแบบสด ๆ มารู้จักปลิงทะเลกันให้มากขึ้น ปลิงทะเลที่พบในชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามันบ้านเรานั้น มีหลายชนิด ที่เด่น ๆ พอที่จะน ามาจ าหน่ายได้นั้นคือปลิงด า และปลิงขาว มีชื่อสามัญว่า Sea Cucumber และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Halothuria spp. ถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลที่มีลักษณะโคลนปนทราย พบมากในบริเวณแหล่งหญ้าทะเล บริเวณจังหวัดตรัง แถบเกาะมุกด์ และเกาะลิบง ของอ าเภอกันตัง พบปลิงทะเลแพร่กระจายโดยทั่วไป ชาวประมงจะนิยมลงไปเก็บรวบรวม ปลิงทะเลในช่วงน้ าทะเลลงต่ าสุด จากนั้นน ามาแปรรูปตามขั้นตอนและเทคนิคอย่างมีความช านาญ ก่อนที่จะได้เป็น ปลิงทะเลตากแห้ง ซึ่งมีราคาจ าหน่ายในตลาดของชุมชนราคาประมาณ กิโลกรัมละ 1,000 – 1,500 บาท และมีราคาแพงถึง 3,000 – 4,000 บาทต่อกิโลกรัมในตลาดต่างประเทศได้แก่มาเลเซีย สิงค์โปร์ ฮ่องกง

28 บทที่ 9 สรุป ทรัพยากรทางธรรมชาติ เกาะลิบงมีหาดทรายที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งเช่น หาดแหลมจุโหย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง หาด หลังเขา หาดทุ่งหญ้าคา อ่าวโต๊ะเก อ่าวโต๊ะแซะ และหาดแหละโต๊ะชัย เป็นต้น นอกจากหาดทรายแล้วที่เกาะลิบงยังมีสิ่ง มหัศจรรย์อีกประการหนึ่งนั่นคือ บ่อน้ าจืดในทะเล ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน้ าจืดเช่นเดียวกับแอ่งน้ าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้น เวลามีน้ าทะเลขึ้นสูงน้ าในบ่อก็จะมีความเค็ม แต่พอน้ าลงแอ่งน้ าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้นเวลามีน้ าทะเลขึ้นสูงน้ าในบ่อก็จะ มีความเค็ม แต่พอน้ าลงแอ่งน้ าในบ่อจะมีรสจืดสนิท ดังนั้นบ่อน้ าแห่งนี้จะเป็นแหล่งน้ าจืดส าหรับนกทะเล และชาวบ้านในยาม หน้าแล้ง ประวัติศาสตร์เกาะลิบง ชื่อของเกาะนี้มีความเป็นมาคาบเกี่ยวกันระหว่างประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย เกาะลิบงมีชื่อ อยู่ในต านานและเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยก่อนโดยมีชื่อของเกาะและชื่อของบุคคล ส าคัญเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ค าบอกเล่าที่เป็นต านานจากรุ่นสู่รุ่นที่สืบทอดต่อกันมาจนกระทั่งปัจจุบันก็เป็นอีกด้านหนึ่ง ที่มาเสริมต่อให้เราสามารถมองย้อนกลับไปในอดีตได้แจ่มชัดมากขึ้น เกาะลิบงจากค าบอกเล่าของคนในท้องถิ่น เกาะลิบงและเกาะอื่นๆในอดีตเคยเป็นที่ตั้งรกรากของชุมชนชาวเลก่อนจะมีคนกลุ่มอื่นๆเข้ามาประมาณ 100-180 ปี มีหลักฐานที่เป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่หลายแหล่งที่เคยพบในบริเวณเกาะลิบงและพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดตรัง ได้แก่ เครื่องถ้วยชามโบราณและซากโครงกระดูกภายในถ้ าชาวเลบนเขาบาตูปูเต๊ะ หลุมฝังศพของบุคคลส าคัญของโต๊ะปังกาหวาที่ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่ฝังศพเจ้าพระยาลิบง จากการสังเกตหลุมฝังศพนั้นมีความกว้างและความยาวมากกว่าหลุมฝังศพทั่วไป แม้ว่าจะไม่มีการตกแต่งหรือกั้นแนวรั้วปิดบังไว้ก็ตามแต่ชาวบ้านในท้องที่ก็รู้และเข้าใจตรงกันว่าตรงนั้นเป็นที่ฝังศพของบุคคล ส าคัญยิ่งในอดีต และในศาสนาอิสลามนั้นจะมีการรักษาสถานที่เหล่านั้นไว้แบบเดิมโดยห้ามการปรุงแต่งหรือตั้งโต๊ะหมู่บูชาไว้ เป็นที่สักการะ เช่นเดียวกันกับหลุมฝังศพของเจ้าเมืองไชยา ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นี่จึงอาจเป็นเหตุหนึ่งทีคนรุ่นใหม่ในท้องที่ ไม่มีความรู้และไม่สนใจในความส าคัญทางประวัติศาสตร์เท่าที่ควร โบราณวัตถุและสถานที่อื่นๆที่เคยพบในเกาะลิบงได้แก่ สระน้ าบนภูเขาในเกาะที่ชาวบ้านเรียกว่า “ควนสระ” กะโหลกที่พบได้ทั่วไปที่ทุ่งหัวคนบริเวณชายหาดบ้านโคกสะท้อน ซึ่ง สันนิษฐานว่าเป็นแดนประหารในการปกครองคนสมัยก่อน ท่าเรือสะพานช้างและด่านภาษีบริเวณแหลมจูโหยซึ่งเป็นท่าเรือ เก่าและด่านจัดเก็บภาษีตรงกับหลักฐานเอกสารที่กล่าวมาแล้วข้างต้น วิถีชีวิตชุมชน

29 ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของเกาะลิบง จึงท าให้พื้นที่ถูกประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หมู่เกาะลิบง ที่ส าคัญคือเกาะลิ บงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ส าคัญของจังหวัดตรัง เพราะมีพื้นที่หญ้าทะเลกว่า 12,000 ไร่ ที่มีความสมบรูณ์และมีจ านวน ชนิดของหญ้าทะเลมากถึง 12 ชนิด ดังนั้นพื้นที่บริเวณนี้จึงมีการพบเห็นพะยูนอยู่บ่อยครั้ง และบริเวณเกาะลิบงยังเป็นแหล่ง อนุบาลสัตว์น้ าวัยอ่อน และที่อยู่อาศัยหากินของสัตว์น้ าในระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น ปลิงทะเล หอยชักตีน หอยกะพง ฯลฯ ด้วยความอุดสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ าเช่นนี้ จึงท าให้เกาะลิบงกลายเป็นฐานทรัพยากรและฐานอาชีพของชุมชน ชายฝั่งทั้งในและนอกต าบลเกาะลิบง ในจังหวัดตรัง รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและรอบๆ เกาะนี้เองจึงมีการใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้ทั้งบนเกาะ และทะเลรอบๆ เกาะลิบง เกิดความเสื่อมโทรม ไม่ว่าจะเป็นป่าบกบนเกาะลิบง หญ้าทะเล ป่าชายเลน และพื้นที่ชายหาด รอบๆ ก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน นี้คือสถานการณ์ด้านทรัพยากรที่ชุมชนเผชิญอยู่ ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่งพบว่าสภาพ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนและฐานทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้เช่นกัน ตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงด้านอาชีพที่เห็นได้ชัดเจน คือ การท าประมงชายฝั่ง หากมีฝนตกหนักติดต่อกันก็ไม่สามารถ ออกทะเลเพื่อจับสัตว์น้ าได้ หรือแม้สามารถออกไปได้แต่ปริมาณสัตว์น้ าที่จับได้จะน้อย เนื่องจากปริมาณน้ าฝนที่มากท าให้ ความเค็มของทะเลเปลี่ยนแปลง สัตว์น้ าจะถอยออกไปไกลจากฝั่งมากขึ้น การออกเรือจะไกลขึ้นท าให้ต้นทุนด้านน้ ามันเพิ่ม สูงขึ้นด้วย หรือกรณีที่มีพายุและฝนตกควบคู่กันยิ่งไม่สามารถออกทะเลได้ เพราะอาจเสี่ยงที่เรือจะล่มได้ ส่วนการท าสวน ยางพาราก็เช่นเดียวกัน หากฝนตกหรือมีพายุก็ท าให้ไม่สามารถกรีดยางได้ เพราะจะท าให้น้ ายางที่ได้เสียหายเนื่องจากน้ าฝน อาจจะตกลงไปผสมกับน้ ายาง และเป็นที่มาของโรคที่เกิดบนหน้ากรีดของต้นยางในช่วงหน้าฝนหลายโรค ที่ส าคัญๆ ได้แก่ โรค เส้นด า และโรคเปลือกเน่า ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียกับผลผลิตและสวนยางได้ จากสถานการณ์ดังกล่าวท าให้ชุมชนบนเกาะลิบง ตกอยู่ในภาวะแนวโน้มที่มีความเสี่ยงในงานอาชีพและชีวิตเพิ่มขึ้น

30 ส่วนที่ไปส ารวจ ล าดับ ผลไม้และผักที่พบ ที่ บนเกาะลิบง ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. 1 มะพร้าว X X X X X X X X X X X X 2 กล้วยน้ าว้า X X X X 3 ระก า X X 4 ขนุน X X X X 5 มะม่วงหิมพานต์ X X X 6 มะนาว X X X X X X X X X X X X 7 มะขาม X X X X 8 มะละกอ X X X X X X X X X X X X 9 กระเจี๊ยบ X X X X 10 กระท้อน X X X X 11 กล้วยไข่ X X X 12 มะม่วง X X 13 ฝรั่ง X X X 14 ผักบุ้ง X X X X X X X X X X X X 15 พริกขี้หนู X X X 16 ผักหวาน X X X X X X X X X X X X 17 ผักคะน้า X X X X X X X X X X X X 18 ผักกวางตุ้ง X X X X X X X X X X X X 19 พริกไทย X X X X X X X X X 20 หัวหอม X X X X การท ายางแผ่น ยางแผ่นจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต ราคายางในท้องตลาดก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของแผ่นยาง ถ้า หากเกษตรกรเจ้าของสวนยางสามารถผลิตยางแผ่นคุณภาพดีออกจ าหน่าย ก็จะได้ราคาสูงกว่ายางแผ่นที่มีคุณภาพต่ า การท า ยางแผ่นชั้นดีนั้นมีหลักการง่ายๆ คือ ท ายางให้สะอาด รีดยางแผ่นให้บาง สีของแผ่นยางสม่ าเสมอ มีขนาดมาตรฐาน ใช้น้ า และน้ ากรดถูกส่วน

31 วิถีชีวิตชุมชน ลอบดักปลาหมึก ความหมาย ลอบ หมายถึง เครื่องมือประมงที่ใช้ดักจับปลาหมึกหอมหรือหมึกกระดอง จะมีลักษณะเป็นรูปโค้ง คล้ายๆ ครึ่งวงกลม มีความกว้าง 75 ซม. ความยาว 105 ซม. และความสูง 55-60 ซม. ไม้ที่ใช้จะเป็นไม้มะพลาหรือไม้ทุเป็น ไม้เนื้อเหนียว ลักษณะและวิธีการใช้งาน ปลาหมึกเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่พบมากในแถวชายฝั่งเกาะลิบงโดยธรรมชาติ ปลาหมึกกล้วยหรือปลาหมึกหอม มักหา อาหารในที่ที่มีกิ่งไม้ใบหญ้าบริเวณริมฝั่งทะเล การจับปลาหมึกนอกจากจะใช้เรือประมงในการไดปลาหมึกแล้ว ยังสามารถ ใช้ลอบเป็นเครื่องมือจับปลาหมึกที่ท าขึ้นเอง เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน เนื่องจากการไปศึกษาที่เกาะลิบงซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยึดการประกอบอาชีพการท าประมงเป็นหลักและจะเห็นได้ว่าจะพบ เห็นลอบดักปลาหมึกนั้นมีอยู่ทั่วไปหมดเกือบตลอดทางเดินบริเวณชายฝั่ง ซึ่งสิ่งที่พวกข้าพเจ้าได้พบเห็นนั้นท าให้พวกข้าพเจ้า นั้นเกิดความสนใจที่จะศึกษาว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ มีการท าให้ปลาหมึกนั้นมาเข้าอยู่ข้างในได้อย่างไงและมีวิธีการที่จะวางตรงไหน เวลาไหนที่จะออกไปวางลอบและมีการท าอย่างไร

32 พรรณพืชไม้พื้นที่ป่าชายเลน ล าดับที่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อภาษาไทย สรรพคุณ/วิธีการใช้ในชุมชน 1 Rhizophora apiculata โกงกางใบเล็ก เปลือกน ามาต้มแก้ท้องร่วง 2 Rhizophora mucronata โกงกางใบใหญ่ เปลือกต้นน ามาต้มน้ า รักษาเรื้อรัง 3 Lumnitzera racemosa ฝาด ดอกขาว ยอดอ่อนแก้ท้องอืด เฟ้อ 4 Cerbera odollam ตีนเป็ดทะเล ผลเผาต าผสมน้ ามันพืช แก้ปวดเมื่อยตามข้อ 5 Nypa fruticans จาก ใบ แก้ลม ขับเสมหะ 6 Phoenir paludosa เป้งทะเล หัวต้มน้ าดื่ม แก้เสียดท้อง 7 Auicennia alva แสมขาว ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น้ าทุกชนิด 8 Auicennia Officinalis แสมด า ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น้ าทุกชนิด 9 Lumnitzera httorea ฝาด ดอกแดง เนื้อไม้ใช้สร้างบ้านเรือน 10 Hibiscus tihiaceus ปอทะเล เปลือกใช้ท าเชือก และ หมันยาเรือ 11 Barringtonia asiatica จิกทะเล เปลือกต้นท าเป็นยาแก้ภายนอก 12 Sonneratia caseolaris ล าพู รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง 13 Sonneratia ovata ล าแพน รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง 14 Clerodendrum inerme ส ามะง่า ใบสด ต้มน้ า นาล้างบาดแผลฆ่าเชื้อ 15 Premna obtusifolid ช้าเลือด ใบน ามาขยี้ มีกลิ่นเหม็นมาก ไว้ป้องกันตัว 16 Solanum trilobaturn มะแว้งเครือ รากใช้เป็นยาแก้ไอ 17 Azima sarmentosa พุงดอ รากแก้ว แก้ลม 18 Ceriops tagal โปรงแดง เปลือกต าให้ละเอียด ฟอกแผล ห้ามเลือด พังกาหัวสุมดอก 19 Bruguiera sexangula ล าต้นใช้ท าฟืน ขาว พังกาหัวสุมดอก 20 Bruguiera gymnorrhiza ฝักเชื่อม รับประทานเป็นของหวานคล้ายสาเกเชื่อม แดง

33 ตารางเวลาในการเกี่ยวยางพารา

34 ฤดูกาลการจับสัตว์

35 การเกษตร

36 อ้างอิง เว็บไซต์ค้นหาพะยูน http://guru.sanook.com/2950 เว็บไซต์ค้นหาชื่อวิทยาศาสตร์ของพันธ์พืช http://medplant.mahidol.ac.th/pharm/search.asp เว็บไซต์ค้นหาเรื่องยางพารา http://www.aftc.or.th/itc/products_analyze.php?id=142&fgrp_id=1&fmnu_id=6

37 ภาคผนวก

38

39

40

41

42

43

44 รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม วาราการประชุมที่ 1 - 4

45 ประวัติสมาชิกในกลุ่ม 1. นายพีรวัส สงรักษ์ ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1 2. นายเกียรติวงศ์ สงนพรัตน์ ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1 3. นส.ปาณิตา เพ็ชรศรีเงิน ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1

46 4. นส.ธมลวรรณ แสงจันทร์ ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1 5. นายศักรินทร์ นวลพงศ์ ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1 6. นายทัศนนันท์ ช้างเพชร ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1

47 7. นส.สิรินาถ งามกาละ ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1 8. นายเจษธวัช คชถิ่น ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1 9. นาย ภารุก คาเร็ง ก าลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การเรียนรู้นอกที่ตั้ง ตรัง ชั้นปีที่ 1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook