ตำนำน : พระสุธน-มโนรำห์ กาลครงั้ หนงึ่ นานมาแลว้ มีราชอาณาจกั รท่ีอดุ มสมบูรณแ์ หง่ หนง่ึ ชอื่ ว่า \"ปญั จาลนคร\" ปกครองโดยกษตั ริย์ผู้ทรงอยูใ่ น ทศพิธราชธรรมทรงพระนามว่า \"อาทติ ยวงศ\"์ พระองคม์ ีพระมเหสที รงพระนามวา่ \"จันทาเทว\"ี ซึ่งตอ่ มาไดป้ ระสูติพระโอรสพระนามว่า \"พระสุธน\" เม่ือพระกุมารเจรญิ วยั ขึ้นก็มีความเฉลยี วฉลาดและพระรูปโฉมงดงาม ยากทจ่ี ะหาราชกมุ ารในแวน่ แคว้นอนื่ เทียบเคียงได้ ครง้ั นัน้ มีพญานาคราชตนหนง่ึ มีนามวา่ \"ทา้ วชมพูจิต\" มฤี ทธอ์ิ ำนาจมาก สามารถนำความเจรญิ รงุ่ เรืองมาสู่อาณาจักรใดกไ็ ด้ พญานาคราชเห็นพระเจ้าอาทิตยว์ งศเ์ ปน็ พระราชาที่ต้งั อยู่ในทศพิธราชธรรม จงึ บันดาลให้เมอื งปญั จาลนคร อุดมสมบรู ณม์ ฝี นตกต้องตามฤดกู าล หากแตเ่ มอื งทีม่ ีอาณาเขตติดตอ่ กบั ปัญจาลนครคอื เมอื ง “นครมหาปัญจาละ” ซง่ึ ปกครองโดยพระราชาทไ่ี ม่ตัง้ อยใู่ น ทศพิธราชธรรมพระนามว่า \"พระเจา้ นนั ทราช\"
และจากการท่ที รงปกครองดว้ ยการกดขีข่ ่มเหงอาณาประชาราษฏรน์ เี้ องจึงทำใหอ้ าณาจักรของพระองค์ ประสบกบั ความแหง้ แลง้ ขา้ วยากหมากแพง เพอื่ หนจี ากความยากเยน็ แสนเขญ็ นีบ้ รรดาประชาราษฏร์จึงพากันอพยพไปอาศัยอยูใ่ นเมืองปัญจาลนคร พระเจา้ นันทราชมจี ิตริษยาพระเจา้ อาทิตยวงศ์ และในขณะเดียวกนั ก็แค้นเคอื งทา้ วชมพูจิต ผ้ซู ง่ึ ถูกกลา่ วหาว่ามใี จลำเอยี ง ในขณะบนั ดาลให้ฝนฟา้ ตกบนพืน้ โลก เพือ่ ลา้ งแค้นท้าวชมพูจิต พระเจา้ นันทราช จึงทรงปรึกษากับปุโรหิตผู้ซงึ่ รับอาสาไปหาผู้ที่สามารถฆ่าพญานาคได้ และแล้วก็ไดพ้ ราหมณเ์ ฒ่าผู้ซ่ึงมมี นตว์ เิ ศษสงู กว่าพญานาคราช หลงั จากไดร้ บั ทราบพระประสงคข์ องพระราชาแลว้ พราหมณก์ ม็ ุ่งหนา้ ไปยังสระใหญ่ ซง่ึ เปน็ ทอ่ี ยู่ของพญานาคราชแลว้ เป่ามนต์ลงในสระใหญ่ ยงั ผลใหน้ ำ้ ป่นั ป่วน และเกิดเปน็ คลื่นลกู ใหญ่สั่นสะเทือนไปทว่ั ทั้งสระ ในขณะประกอบพิธีอยนู่ น้ั พราหมณต์ ้องเขา้ ไปในปา่ เพอื่ หารากไมม้ าทำเปน็ เชอื กไว้จบั พญานาคราช ดว้ ยอำนาจแห่งมนต์วิเศษของพราหมณ์ ท้าวชมพูจติ เกดิ ความรุ่มรอ้ นเหมือนถกู ไฟเผา จึงต้องข้ึนจากสระมา แล้วแปลงกายเป็นพราหมณ์หนุ่ม
เพราะรตู้ ัวว่าอันตรายไดเ้ ขา้ มาใกล้ตนแลว้ แมต้ วั เองจะมฤี ทธเิ์ ดชแต่กห็ าต้านทานพราหมณ์เฒ่าได้ไม่ ดงั น้นั จงึ คดิ หาทางทำลายพธิ ีของพราหมณ์ผ้มู ีจติ คดิ กำจัดตน ในขณะเดนิ ไปมาอยใู่ นป่า ท้าวชมพจู ติ ในร่างของพราหมณ์หนมุ่ ก็พบกับพรานป่าผู้หนึ่ง ชือ่ พรานบุญ กำลงั ออกป่าลา่ สัตวอ์ ยพู่ อดี จงึ เขา้ ไปทักทายและถามถงึ บา้ นเมอื งของพรานผู้นน้ั พรานปา่ บอกว่าเขาเป็นชาวเมืองปัญจาลนคร ซง่ึ มคี วามอดุ มสมบรู ณ์มากเพรา ไดร้ ับความอนุเคราะห์จากพญานาคราช หากมใี ครคิดจะทำอนั ตรายแก่พญานาคราช พรานป่าสาบานว่าเขาจะฆา่ บคุ คลผนู้ ัน้ เสียโดยไมร่ รี อ ท้าวชมพูจิตดใี จมากท่ไี ด้ยินเชน่ นั้น จงึ แสดงตนเป็นพญานาคราชตนนั้น และเล่าเรือ่ งภยั อนั ใหญ่หลวงใหพ้ รานฟัง เพื่อทำลายพิธีของพราหมณเ์ ฒา่ เสีย พรานบญุ จงึ ยงิ พราหมณเ์ ฒ่าตายดว้ ยลกู ธนู พญานาคราชดใี จมากและขอบคณุ พรานบุญทีไ่ ดช้ ่วยเหลอื เขาไว้ แล้วกช็ วนพรานบญุ ไปเทีย่ วชมนครใต้พิภพของเขา พญานาคราชสญั ญาว่าจะช่วยเหลอื เมือ่ ใดก็ตามท่ีพรานบุญ รอ้ งขอแล้วก็มอบสิง่ มคี า่ ใหพ้ รานบุญไปมากมาย พรานบญุ จงึ อำลาพญา ใช้ชีวิตอยอู่ ย่างสบายแต่ก็ยังชอบลา่ สัตวอ์ ยู่เหมือนเดมิ
วนั หนึ่งในขณะที่เดินทางเข้าไปป่าลึก ไดพ้ บกบั พระฤาษีตนหนงึ่ ช่อื “กัสสปะ” ผซู้ ึง่ เล่าเรอ่ื งกินรใี ห้เขาฟงั โดยปกตหิ มู่กนิ รจี ากเขาไกรลาศ จะบนิ มาลงเล่นนำ้ ในสระโบกขรณที กุ ๆ ๗ วัน เมือ่ พรานบญุ เห็นความงามของกินรี กค็ ดิ จะจบั นางกนิ รสี กั นางหน่ึงไปถวายพระสธุ น เพ่อื เปน็ ของขวัญจากปา่ แต่พระฤาษีก็บอกเขาวา่ ไม่มหี นทางจะจับนางได้นอกจากจะไดบ้ ่วงบาศกข์ องพญานาคราชทา้ วชมพูจิตเท่านั้น เพราะนางกนิ รสี ามารถบินไดเ้ ร็ว พรานบุญจึงเดินทางไปพบทา้ วชมพจู ิตเพื่อขอยืมบ่วงบาศก์ ความจริงแลว้ พญานาคราช ไม่ตอ้ งการให้พรานบุญขอยืมบว่ งบาศกเ์ พราะจะเปน็ บาปแกต่ น แตเ่ พราะพรานบญุ เคยชว่ ยชีวิตตนไว้ให้พน้ ภัยจากพราหมณ์เฒ่า และไดท้ ราบจากการใช้มนตว์ ิเศษของตน ตรวจสอบดูก็พบว่านางกินรที ่ชี อ่ื ว่ามโนหร์ า และพระสธุ นเป็นเนอ้ื คู่กัน พญานาคราชจงึ ยอมมอบใหไ้ ป หลงั จากไดบ้ ว่ งบาศก์จากท้าวชมพูจิตมาแลว้ พรานบุญกส็ ามารถจบั มโนราห์ซึ่งเป็นธิดาองค์หน่งึ ในบรรดาธิดาท้ัง ๗ คน ของท้าวปทมุ ราชได้ (ทา้ วปทุมราชเป็นพระราชาปกครองเขาไกรลาศ) นางมโนหราห์ซึง่ เปน็ น้องสุดทอ้ งไม่สามารถหนีบว่ งบาศก์ ที่พรานบญุ เหว่ยี งมาคล้องได้ พรานบญุ นำนางไปยงั ปัญจาลนครและถวายพระสธุ น ทันทีที่ทัง้ คู่พบกันก็มจี ิตรกั ใคร่ด้วยเคยเปน็ ค่บู ญุ บารมี (บุพเพสันนวิ าส) กนั มาแต่ปางกอ่ น ท้ังพระราชาและพระราชนิ เี อง ก็มีความรักเอ็นดูนางมโนราห์ เพราะนางมีพระสริ โิ ฉมงดงาม และมกี ารอบรมอยา่ งขัตตยิ ะนารี จึงจดั พธิ ีอภเิ ษกสมรสอยา่ งเอิกเกริกใหท้ งั้ สองพระองค์ สว่ นพรานบุญเองกไ็ ด้รบั รางวลั อย่างงามเช่นกนั
ฝ่ายปุโรหิตโกรธนางมโนห์รา เพราะเขาเองต้องการใหบ้ ุตรสาวของตนอภิเษกสมรสกับพระสธุ น แตว่ ่าตอนนม้ี โนราห์ ได้ทำให้ความฝันของเขาสลายเสียแล้ว จงึ คอยโอกาสทจ่ี ะได้แก้แคน้ นาง และแล้วก็แอบไปคบคิดวางแผนกับเจา้ เมอื งปจั จันตนคร ใหย้ กทัพมาตีเมอื งของตน และเพอื่ ขบั ไลผ่ ู้รุกราน ปโุ รหิตจงึ ทูลเสนอใหพ้ ระสธุ น ยกกองทพั ออกปกปอ้ งพระนคร ดว้ ยวิธนี ี้เขาก็จะไดม้ ีโอกาสดกี ำจดั มโนราหอ์ อกไปเสยี ใหพ้ น้ ทาง คืนวนั หน่งึ พระเจา้ อาทิตยวงศท์ รงสุบินว่ามยี ักษ์ตนหนึ่ง เข้ามาในพระราชวังและพยายามจะควกั เอาดวงพระทยั ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงสะดงุ้ ต่นื จากบรรทม ปโุ รหติ เจา้ เล่ห์จงึ ได้โอกาสงามท่ีจะกำจดั มโนราห์ออกไปเสยี ใหพ้ ้นทางของบตุ รสาวตนเอง เขาจึงทำนายวา่ ขา้ ศกึ จะเข้ามาใน พระราชวงั และประหารพระองคเ์ สยี ประชาชนจะพากันเดือดร้อนทุกหยอ่ มหญ้าและเมืองหลวงกจ็ ะถกู เผาผลาญจนหมดสิน้ พระเจา้ อาทิตยวงศท์ รงสดับดังนัน้ ก็ตกพระทยั จึงทรงรับส่ังใหห้ าทางแกไ้ ขโดยดว่ น ปุโรหิตจึงกราบทูลว่า \"ใต้ฝา่ ละอองธุลพี ระบาทดวง ชะตาบา้ นเมอื งไมด่ จี ะตอ้ งใชส้ ตั ว์สองเท้าและส่เี ท้ามาทำพธิ ีสังเวยบชู ายัญ เพื่อ สะเดาะเคราะห์ บ้านเมืองจงึ จะอยู่รอดปลอดภยั พระเจ้าข้า\"
ในขณะเดยี วกันนัน้ เอง คนสนทิ ของปุโรหิตก็เขา้ มากราบทลู ลวงพระราชาวา่ ทัพหลวงท่พี ระสุธนยกไปถกู ขา้ ศกึ ตีพา่ ยแพ้แลว้ เพื่อเป็นการปัดเป่าลางรา้ ยปุโรหติ จงึ กราบทลู วา่ ถา้ จะใหพ้ ธิ ีมีความศกั ด์ิสิทธม์ิ ากย่งิ ขน้ึ จำเปน็ ตอ้ งใชส้ ัตวก์ ึ่งมนษุ ย์กง่ึ นก เช่นนางมโนราห์ ก็จะเป็นการบชู ายญั ที่ดเี ยี่ยม พระราชาและพระราชนิ ีพยายามชกั ชวนให้ปโุ รหติ เปลย่ี นไปใช้สัตว์อน่ื แทนท่จี ะใชม้ โนราห์ แต่เขาก็ยงั ยืนกรานเช่นเดิม ทัง้ สองพระองค์รูส้ กึ สงสารมโนราห์เปน็ อย่างย่ิง และทรงคาดเดาไม่ถกู ว่าพระโอรสจะร้สู กึ เช่นไร เมื่อกลับจากทัพแล้วไม่พบภรรยาสดุ ทีร่ ักของตน ในพิธพี ระราชาทรงใหก้ อ่ ไฟตามทปี่ ุโรหิตเสนอ แล้วให้ทหารไปทลู เชิญนางมโนราหม์ าเข้าพิธีบชู ายัญ นางมโนราหผ์ นู้ ่าสงสารได้แต่รำ่ ไหค้ รำ่ ครวญ ถงึ พระบดิ าพระมารดาของนาง และพระสธุ นสามีของนาง บรรยากาศเตม็ ไปด้วยความโศกเศร้า ในขณะน้ันเองนางมโนราห์ได้สติและเกดิ ความคิดท่ีจะหนี จากการถกู กระทำอย่างไม่ยุติธรรมน้ี ดงั น้นั นางจึงทลู ขอพระราชาขอใหไ้ ดร้ ำถวายเป็นครง้ั สุดทา้ ย เพราะนางเปน็ กินรีผู้ซงึ่ รกั การรา่ ยรำ หลงั จากทพ่ี ระราชาทรงอนุญาตแล้ว นางจงึ ขอปกี และหางมาสวมใส่แล้วนางกอ็ อกรา่ ยรำดว้ ยท่วงทา่ อนั งดงามทา่ มกลาง ฝูงชนอันเนอื งแนน่ ในขณะทท่ี กุ คนกำลงั เพลิดเพลนิ อยกู่ บั การเฝ้าดูการร่ายรำอันงดงามอยนู่ ั้นเอง นางมโนหร์ าก็ได้โอกาสหนีโดยถลาบนิ ขึน้ สู่ทอ้ งฟา้ และบ่ายหนา้ ไปยังภูเขาไกรลาศ ท่ามกลางความตกตะลึงของฝูงชนนน้ั เอง
หลงั จากชนะศกึ แล้วพระสธุ นก็ยกทพั กลบั พระนคร อนิจจา! แต่ก็ตอ้ งมาพบวา่ ภรรยาสุดท่ีรักของพระองค์ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นพระนครอีกตอ่ ไปแล้ว พระองคม์ คี วามเศร้าโศก และทุกขท์ รมานมากยิ่งนกั และหลงั จากพระองคส์ บื ทราบ ความจรงิ แลว้ กส็ ง่ั ให้ประหารชีวติ ปโุ รหิตช่วั นั้นเสียในขอ้ หาทรยศ แลว้ ก็ทูลลาพระบิดาและพระมารดาออกตามหานางมโนราห์ แม้ว่าท้ังสองพระองค์ จะพยายามทัดทานประการใดกไ็ ม่เปน็ ผล พระสธุ นยนื กรานท่ีจะเสด็จไป เพราะตนไมอ่ าจจะมชี วี ิตอยูโ่ ดยปราศจากนางมโนราห์ได้ พระสุธนให้พรานบุญนำทางไปจนถงึ สระโบกขรณี และไดเ้ ขา้ ไปนมัสการพระฤาษกี ัสปะ พระฤาษีทลู ใหพ้ ระองค์ทราบวา่ นางมโนราห์ไดแ้ วะมาหาตนกอ่ นและได้สั่งไว้วา่ หากพระองค์เดินทางออกตามหานางก็ใหล้ ้มเลิกเสีย เพราะว่าหนทางลำบากมากและอันตรายมาก แตพ่ ระสุธนก็ยนื กรานทีจ่ ะตามเมยี รักไป แล้วพระฤาษกี ็มอบผ้ากมั พลกบั แหวนทมี่ โนราห์ฝากคนื ให้พระสธุ นไป ตามทน่ี างมโนราหข์ อร้องไว้ เมอื่ ได้เหน็ ของสองส่ิงน้ันพระสุธนก็โศกเศรา้ เสียพระทยั ถงึ กบั รำ่ ไหอ้ อกมา พระฤาษรี สู้ ึกสงสารพระสุธนและกบ็ อกพระองคว์ า่ น้เี ป็นผลบญุ กรรมแห่งอดตี ชาติ (พระรถเสนกับพระนางเมร)ี จงึ ทำให้ทั้งคู่ต้องพลดั พรากจากกัน แลว้ กม็ อบผลยาวเิ ศษให้พร้อมกบั ชี้ทางใหก้ ับพระสุธนไปตามหามโนราห์
พระสธุ นออกเดินทางเพียงลำพงั โดยไมต่ ้องการความชว่ ยเหลือของพรานบุญ ผ่านปา่ ใหญท่ บึ ซึ่งมนษุ ย์ไมส่ ามารถจะผ่านไปได้ ซ่ึงมผี ลไมม้ ากมาย ซ่งึ ลว้ นแลว้ แต่มีพิษ ด้วยความชว่ ยเหลอื ของลกู ลิง พระสุธนกจ็ ะเสวยผลไม้ท่ลี กู ลงิ กินไดเ้ ทา่ นนั้ จึงปลอดภยั เมอื่ มาถึงปา่ หวายซ่งึ ไม่สามารถจะผา่ นไปไดเ้ พราะล้วนแต่มีหนามพษิ พระสุธนจึงใชผ้ ้ากมั พลห่มแล้วนอนนงิ่ ๆ ขณะนน้ั นกหสั ดลี ิงคเ์ ข้าใจวา่ พระสธุ นเปน็ อาหาร จงึ คาบพระองคไ์ ปไว้ในรงั บนยอดไมก้ ่อนที่จะบ่ายหน้าไปหาอาหารเพ่ิมอีก พระสุธนไดโ้ อกาสหนี แต่ก็หวนั่ พระทยั ว่าจะมอี ะไรรออยเู่ บอื้ งหนา้ อกี หลังจากเดินทางมาพกั หน่งึ ก็ไม่สามารถจะไปตอ่ ไดอ้ ีกเพราะมีภเู ขายนต์สองลูกเคลอื่ นเขา้ กระทบกันอยูต่ ลอดเวลา โดยไมเ่ ปิดช่องวา่ งให้พระองค์ข้ามไปอีกทางหน่งึ ได้ แต่หลงั จากรา่ ยมนต์ทพ่ี ระฤาษใี ห้พระองคม์ า แล้วก็สามารถข้ามไปไดโ้ ดยง่าย จากนัน้ พระองค์กเ็ ดนิ ทางมาถึงอกี ป่าหนึ่งซ่ึงเต็มไปด้วยพชื และสตั วม์ ีพษิ พระองคจ์ ึงใชย้ าผงวิเศษชโลมกาย เมื่อผา่ นปา่ พิษแลว้ ก็มาพบทอ่ี ยู่ของนกยกั ษ์ พระองค์จึงไดแ้ อบอยู่ในโพรงไมใ้ หญต่ น้ หนงึ่ และรอเวลาคำ่ คืนน้ันนกผัวเมียค่หู นึ่งคุยกนั ถงึ เร่ืองการไดร้ บั เชิญใหไ้ ปร่วมพธิ ลี ้างกลน่ิ สาบมนุษย์ใหก้ บั นางมโนราห์ ซ่งึ จะมีขนึ้ ในวนั รุ่งข้ึน โดยพิธนี ี้จัดให้มขี ึน้ หลังจากมโนราห์กลับมาถงึ บ้านเมืองครบ ๗ ปี ๗ เดอื น ๗ วัน หลงั จากไดย้ นิ นกท้งั คูส่ นทนากนั พระสุธนกไ็ ดป้ นี ข้ึนไปในรังนกและซ่อนตัวอยใู่ นขนนกตวั หนง่ึ โดยรอเวลาใหน้ กไปยงั ภเู ขาไกรลาศ คร้ันนกมาถงึ สวนอุทยานกเ็ กาะบนตน้ ไม้ พระสุธนจงึ เรน้ กายออกจากขนนกแล้วซอ่ นตวั อยู่ในพุ่มไม้ พระองค์เหน็ เหลา่ นางกินรกี ำลังนำน้ำจากสระอโนดาต เพอื่ ไปสรงสนานใหก้ บั นางมโนราห์ จงึ แอบเอาแหวนใส่ลงในหม้อนำ้ ในขณะสรงน้ำนางมโนราห์ได้เหน็ แหวนก็จำได้ นางก็รทู้ ันทวี า่ พระสธุ นสามขี องนาง ไดต้ ดิ ตามมาถงึ เขาไกรลาศนี้แล้ว นางมคี วามยนิ ดีย่ิงนัก จงึ ไดอ้ อกตามหาพระองค์ ในทสี่ ดุ ทัง้ คูก่ ็ไดพ้ บกัน มโนราหไ์ ดพ้ าพระสุธนเขา้ มายังปราสาทของนาง ทา้ วปทุมราชและพระมเหสที รงทราบข่าวและทรงเห็นใจ ท่พี ระสธุ นท่มี ีความรักนางมโนราห์อยา่ งมาก มฉิ ะนั้นกค็ งจะไมด่ ้ันดน้ เดนิ ทางมาไกลท่ามกลางอันตรายนานับประการ พระองคค์ ิดว่า เจา้ ชายหนุ่มผู้นีจ้ ะต้องมคี วามเปน็ อจั ฉรยิ ะและมีความสามารถ เปน็ พิเศษแน่ๆ แตถ่ ึงกระนน้ั พระองค์กต็ ้องทดสอบความรักที่พระสธุ นท่ีมตี ่อธิดาของพระองค์กอ่ น
คร้นั ถงึ วนั ทดสอบ ท้าวปทุมราชรับสั่งใหน้ างกนิ รพี ่ีนอ้ งทั้ง ๗ ซงึ่ มรี ปู ร่างสิริโฉมงดงามและคลา้ ยคลึงกนั มากออกรา่ ยรำ ให้พระสุธนหาตวั นางมโนราห์ พระสุธนเองรู้สึกหนักใจมาก เพราะทัง้ หมดดูคล้ายคลงึ กนั มาก เพ่อื ใหค้ วามรกั ของพระองคส์ มหวงั พระอนิ ทรจ์ ึงลงมาช่วยโดยการกระซบิ บอกว่า ถา้ นางใดมีแมลงวันทองบนิ มาจับที่ใบหน้า นางน้ันคือพระชายาของพระองค์ พระสุธนยนิ ดียง่ิ นักและมองเห็นแมลงวันสที องเกาะอย่บู นหน้าของมโนราห์ จงึ รีบดึงพระกรของนางมาทนั ที พระราชาและทกุ ๆ คนตา่ งก็มีความยินดยี ่ิงนัก ทไ่ี ด้เหน็ ท้ังคู่สวมกอดกัน พิธอี ภิเษกสมรสอย่างยง่ิ ใหญจ่ ึงจัดให้ ท้งั สองพระองคอ์ ีกครัง้ หนงึ่ อย่างไรกต็ ามท่มี าบางแหง่ กก็ ล่าววา่ พระสุธนจำนางมโนราหไ์ ด้ กเ็ พราะพระองค์เห็นแหวน ในนว้ิ มือของนาง และไมไ่ ด้กล่าวถงึ พระอนิ ทร์มาช่วยแต่อย่างใดเลย แต่จะอยา่ งไรก็ตามทัง้ สองพระองคก์ ็ได้ อยรู่ ว่ มกันอีกคร้งั หนึ่งหลงั จากทต่ี ้องพลดั พรากจากกันไปนานหลังจากพธิ อี ภิเษกสมรสแล้ว พระสุธนกท็ ูลขอพระราชานุญาตจากทา้ วปทุมราช ให้พระองค์และนางมโนราห์กลับไปเยย่ี มบ้านเมอื งและ บิดามารดาของพระองคบ์ ้าง ทา้ วปทมุ ราชทรงอนุญาตและร่วมเสดจ็ ไปยงั เมอื งปัญจาลนครดว้ ย ทา้ วปทมุ ราชไดพ้ บกบั พระบิดาของพระสุธน โดยกษตั รยิ ท์ งั้ สองทรงแลกเปลย่ี นของขวัญและร่วมเป็นพระสหายกันตงั้ แตบ่ ดั นัน้ หลังจากประทบั อยู่ในพระราชวัง ๗ วนั แล้ว ทา้ วปทุมราชได้ลาธดิ าของพระองค์และทกุ ๆ คน แล้วก็เดินทางกลับพระนครของพระองค์ ภายหลังพระสุธนไดข้ ึ้นครองราชยส์ มบัตแิ ทนพระบดิ า โดยพระองคไ์ ดป้ กครองบา้ นเมืองด้วยทศพธิ ราชธรรมและใชช้ วี ติ ร่วมกบั นางมโนราหอ์ ย่างมคี วามสุข จนกระทงั่ วาระสุดทา้ ยแหง่ พระชนม์ชพี ของพระองค์
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: