Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แก้คิวอาร์โค้ชแล้ว

แก้คิวอาร์โค้ชแล้ว

Description: แก้คิวอาร์โค้ชแล้ว

Search

Read the Text Version

คู่มอื ครูวิทยาลัยเทคโนโลยที กั ษิณอาชีวศกึ ษา Thaksin Vocational Technological College วทิ ยาลยั แห่งรอยยม้ิ ツ สงั กดั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร

ปรารภ เอกสารประกอบคู่มือการปฏิบัติงานครู และบุคลากรทางการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณ อาชีวศึกษา ฉบับนี้ได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานโรงเรียนในรูปแบบของการบริหารสถานศึกษาเอกชน สังกดั สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา จัดทำข้นึ เพ่อื เปน็ คู่มือในการปฏบิ ัตงิ านในหน้าท่ีของบุคลากรใน สังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณอาชีวศึกษา ซึ่งได้กำหนดอำนาจหน้าที่ลักษณะงาน และความรับผิดชอบไว้ให้ ถือเปน็ หลกั ปฏบิ ตั ิจะไดท้ ราบว่างานในหนา้ ท่ใี ดมีขอบข่ายความรับผิดชอบในการปฏบิ ัตงิ านเพียงใด หน่วยงาน นั้น ๆ มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบงานจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้องครบถ้วน นอกจากนั้นก็เป็นการกระจายอำนาจในการปฏิบัติงาน และความรับผิดชอบได้ทั่วถึง บุคลากรทุกคนได้มี บทบาทร่วมกันบริหารงาน และร่วมกันแก้ปัญหางานโรงเรียนตามกำลังความคิด ความสามารถของตนอย่าง เต็มที่และมีความเป็นอิสระในด้านการหาวิธีดำเนินงานในหน้าที่ของตนให้มีความเจริญก้าวหน้าตามที่ เห็นสมควร โดยไมต่ อ้ งรอรบั คำส่ังอย่ทู ุก ๆ โอกาส ทำให้เกดิ ความสะดวกและมคี วามคลอ่ งตวั ข้นึ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และได้ดำเนินงานโดยวิธีการจัดทำเอกสารประกอบคูม่ ือการปฏิบัติงานครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็นแนวทางในการดำเนินงานน้ัน ปรากฏว่า ครูและเจ้าหน้าที่ได้ให้ความร่วมมือ ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย บุคลากรมีความเข้าใจลักษณะงาน ขอบข่ายงาน บทบาทหน้าที่ของตน อำนาจ หน้าที่ของตนดีขึ้น เพราะมีความรู้ความเข้าใจงานชัดเจนขึ้น จึงปฏิบัติงานด้วยความมั่นใจและงานเป็นระบบ ชัดเจน ฉะนั้น จึงมีความเชื่อว่าเอกสารฉบับนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้การบริหารงานของวิทยาลัยเทคโนโลยี ทกั ษณิ อาชีวศึกษา ใหเ้ กดิ ผลดียงิ่ ขึน้ และหวังวา่ ครูและเจ้าหนา้ ทอ่ี ืน่ ๆ ทุกคนจะไดน้ ำเอกสารน้ีไปเปน็ คู่มือใน การปฏิบัติหน้าทีข่ องตนให้เกิดผลดี มีประสิทธิภาพอย่างเต็มกำลงั ความสามารถ เพ่ือคุณประโยชนข์ องสถาบัน และสังคมส่วนรวม คือ ชาติบา้ นเมอื งของเรา (นางสาวทักษณา ทิพย์มาศ) ผ้อู ำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณอาชวี ศึกษา

คำนำ วิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณอาชีวศึกษา ได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ทป่ี ฏบิ ัตหิ นา้ ทีใ่ นการจดั การเรยี นการสอน โดยผปู้ ฏิบตั หิ น้าท่ีครจู ะต้องจดั ใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนรู้จากประสบการณ์ กิจกรรม และการทำงาน อันนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา ซึ่งรวมไปถึงพัฒนาการทางจิตวิญญาณด้วย เพื่อให้การปฏิบัติงานของครูพัฒนาไปสู่ครูอาชีพที่มี ความมุง่ มนั่ ในการ จัดกิจกรรมการเรยี นการสอน เพอ่ื สง่ เสริมให้ผเู้ รยี นเกิดการพฒั นาให้ครบทกุ ดา้ น ท้ังความดี ความเก่ง สุขภาพร่างกาย แข็งแรง มีความมั่นคงทางอารมณ์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ครูจึงควรมีคู่มือ มีแนวทางในการ ปฏิบัติงาน จึงได้จัดทำคู่มือการปฏิบตั ิงานขน้ึ วิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณอาชีวศึกษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร ทางการศึกษา ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เกีย่ วข้องทุกฝ่ายในการปฏิบัติงานใหเ้ กิดประสิทธิภาพ และถูกต้อง ตามระเบยี บ และกฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งตอ่ ไป วิทยาลยั เทคโนโลยที ักษณิ อาชวี ศกึ ษา

สารบญั หนา้ หมวดที่ 1 ขอ้ มลู ท่ัวไปวิทยาลัย 4 หมวดท่ี 2 โครงการบรหิ ารสถานศึกษา 7 หมวดที่ 3 แผนงานและความร่วมมอื 8 หมวดท่ี 4 การปฏิบตั หิ น้าทขี่ องครู และบคุ ลากรทางการศึกษา 10 หมวดท่ี 5 สิทธิและสวสั ดกิ าร 12 หมวดท่ี 6 คณุ ลักษณะของครแู ละบุคลากร 13 หมวดที่ 7 คณุ ลักษณะของครทู ่ีดี 14 หมวดที่ 8 เรอื่ งอื่น ๆ 24 ภาคผนวก 25

หมวดท่ี ๑ ขอ้ มลู ทว่ั ไปของวทิ ยาลยั ขอ้ ๑ วิทยาลัยมีช่ือวา่ วิทยาลัยเทคโนโลยที กั ษณิ อาชวี ศึกษา อักษรยอ่ วทอ. ขอ้ 2 สถานท่ีตั้ง 146 ถนนสุนอนันต์ ตำบลปากพนังฝ่งั ตะวันตก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรธี รรมราช รหสั ไปรษณีย์ 80370 โทรศัพท์ 075-370027 โทรสาร 075-370661 ขอ้ 3 สีประจำวิทยาลยั นำ้ เงิน ขาว ข้อ 4 เครื่องหมายวิทยาลัย รูปวงกลม มีฟันเฟืองล้อมรอบ ภายในมีวงกลมซ้อนกัน มีชื่อวิทยาลัยอยู่ระหว่าง วงกลมใหญร่ อบนอก และในวงกลมเล็กมีรูปเรือสำเภา 1 ลำ ข้อ 5 ผู้ก่อตั้งคือ จ่าเอกประทีป ทิพย์มาศ ก่อตั้งเมื่อวันท่ี 16 พฤษภาคม 2524 ตั้งอยู่ เลขท่ี 146 ถนนสุ นอนันต์ ตำบลปากพนงั ฝัง่ ตะวนั ตก อำเภอปากพนงั จังหวัดนครศรีธรรมราช ในชอ่ื โรงเรียนทักษิณพณิชยการ ปี พ.ศ. 2527 เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเทคโนโลยีทักษิณพณิชยการ ใช้อักษรย่อว่า ท.ษ.พ. ปี พ.ศ. 2554 ไดร้ ับอนุญาตให้เปลี่ยนชือ่ จากโรงเรยี นเทคโนโลยที ักษิณพณชิ ยการ เปน็ วทิ ยาลัยเทคโนโลยีทักษณิ อาชวี ศึกษา ข้อ 6 วิทยาลัยเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) โดยแบ่งเปน็ 2 ประเภท ๖ สาขาวิชา ดังนี้ 6.1 ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) 6.1.1 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม 6.1.1.1 สาขาวิชาการบญั ชี 6.1.1.2 สาขาวิชาการตลาด 6.1.1.3 สาขาวชิ าคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ 6.1.1.4 สาขาวชิ าภาษาตา่ งประเทศธรุ กิจ 6.1.2 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเทย่ี ว 6.1.2.1 สาขาวิชาการโรงแรม 6.1.2.2 สาขาวชิ าการท่องเท่ียว

6.2 ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี ช้นั สูง (ปวส.) 6.1.1 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ 6.1.1.1 สาขาวิชาการบญั ชี 6.1.1.๒ สาขาวชิ าการตลาด 6.1.1.๓ สาขาวชิ าเทคโนโลยีธรุ กิจดิจทิ ลั 6.1.1.4 สาขาวิชาภาษาต่างประเทศธุรกิจ 6.1.2 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเทีย่ ว 6.1.2.1 สาขาวชิ าการโรงแรม 6.1.2.2 สาขาวชิ าการทอ่ งเท่ยี ว ข้อ 7 วิทยาลยั เปิดสอนท้ังภาคปกติ ในระดับปวช. และหลกั สูตรทวภิ าคี ในระดบั ปวส. ประเภทวชิ า อุตสาหกรรมทอ่ งเทีย่ ว 2 สาขาวชิ า ไดแ้ ก่ สาขาวชิ าการโรงแรม และสาขาวิชาการท่องเท่ยี ว ขอ้ 8 สังกดั สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ข้อ 9 วิสยั ทศั น์ ในการจัดการศกึ ษาของวิทยาลยั เทคโนโลยที กั ษณิ อาชวี ศึกษา ไดม้ ีการจดั การเรียนการสอนทท่ี ันสมัย โดยมงุ่ เนน้ ใหน้ ักเรยี น นักศึกษาค้นหาความรู้ โดยผา่ นระบบอนิ เทอรเ์ นต็ มกี ารฝึกใหน้ กั เรียน นักศกึ ษาใช้ คอมพวิ เตอร์ และฝกึ ทกั ษะทางด้านภาษาอังกฤษ รวมทงั้ มุง่ เน้นให้นกั เรยี น นกั ศกึ ษามรี ะเบยี บวนิ ยั มีคณุ ธรรม จริยธรรม เพือ่ เปน็ ที่ยอมรับของสังคม ขอ้ 10 พนั ธกจิ 10.1 ผลติ ผ้เู รยี นท่ีมีคณุ ธรรม และมีความเชย่ี วชาญในวชิ าชีพ 10.2 พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการให้เปน็ องคก์ รแหง่ การเรยี นรู้ 10.3 จัดการศกึ ษาแบบบรู ณาการ 10.4 พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สารให้ทนั สมยั 10.5 สร้างทักษะวชิ าชีพ โดยการฝกึ ปฏิบตั ิจรงิ จากสถานประกอบการ และสถานการณจ์ ริงเพอื่ เปน็ การบรกิ ารวชิ าชพี สชู่ มุ ชน ขอ้ 11 ปรชั ญา สร้างคน สรา้ งงาน สรา้ งคุณภาพทางวิชาการ ค่คู ณุ ธรรม ขอ้ 12 เอกลกั ษณ์ วิทยาลยั สะอาด ข้อ 13 อัตลกั ษณ์ วิชาการดี มคี ุณธรรม ขอ้ 14 อาคารสถานที่ 14.1 อาคาร 1 อาคารทักษณิ (อาคาร 3 ช้ัน) 14.2 อาคาร 2 อาคารฉตั รทพิ ย์ (อาคาร 3 ช้นั ) (ห้องประชมุ ทกั ษณิ คอนแวนชนั่ ) 14.3 อาคาร 3 อาคารเรือนแกว้ (อาคาร ชนั้ เดียว) 14.5 อาคาร 4 อาคารทักษณิ า (อาคาร 2 ชั้น) 14.6 อาคาร 5 อาคารองั ศณา (อาคาร 5 ชัน้ ) 14.7 อาคาร 6 อาคารเทพรักษ์ (อาคาร ชน้ั เดยี ว) (ห้องอวท., ห้องสถานศึกษาคุณธรรม)

ขอ้ 15 แผนผังวทิ ยาลยั ทางเขา้ โรงเรยี น ป้อมยาม ถนนสนุ อนันต์ ลานจอดรถ ศาลาอเนก ประสงค์ ศาลาอเนกประสงค์ อาคาร ัทกษิณา ลานจอดรถ (อาคาร 4) สนามกลาง ้หองป ิฏบัติการ อาคาร ัองสนา (อาคาร 5) การโรงแรม อาคารเ ืรอนแ ้กว (อาคาร 3) อาคารฉัตร ิทพย์ โรงอาหาร (อาคาร 2) หอประชุม หาร อาคารทกั ษิณ (อาคาร 1) หอ้ งนำ้ ห้องนำ้ อาคารเทพรักษ์ (อาคาร 6) คลองสุขุม

หมวดท่ี ๒ โครงสรา้ งบริหารสถานศกึ ษา ข้อ 1 การบริหารวิทยาลัยประกอบด้วยคณะบคุ คลโดยมีผรู้ ับใบอนุญาต ผู้จดั การ ผู้อำนวยการ รองผอู้ ำนวยการ และหวั หน้างาน 1.1 ผู้รับใบอนุญาต จา่ เอกประทปี ทิพยม์ าศ 1.2 ผจู้ ัดการ/ผูอ้ ำนวยการ นางสาวทักษณา ทิพย์มาศ 1.3 รองผ้อู ำนวยการ ฝ่ายแผนงานและความรว่ มมอื ดร.วนั ฉตั ร ทิพยม์ าศ ฝา่ ยวิชาการ นายสรุ ิยา ดวงจันทร์ ฝ่ายบริหารทรัพยากร นางชนากานต์ จนั ทร ฝ่ายกจิ การนกั เรียน นักศึกษา นางปรยิ าภทั ร แก้วประจุ 1.4 หัวหน้างาน งานทะเบยี น นายธรี ภทั ร ภักดี งานธุรการ นางสาวพัชรินทร์ ชเู มอื ง งานวดั ผลและประเมนิ ผล นางสาวศุภมาศ กจิ เผดมิ กลุ งานบคุ ลากร นายธีรภทั ร ภกั ดี งานประกนั คณุ ภาพการศึกษา ดร.วนั ฉัตร ทิพยม์ าศ งานการเงนิ นางสาวพชั รนิ ทร์ ชเู มอื ง งานอาคารสถานที่และครภุ ัณฑ์ นายณรงศกั ด์ิ ปุณนุวงศ์ งานกองทุนเงินกยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษา นางสาวรัตตยิ า วรรณทอง งานฝกึ ประสบการณ์การวิชาชีพ นายพีระพงศ์ แซ่จ่ัน งานปกครอง นายทรงวุฒิ เอยี ดเสน งานหอพักวทิ ยาลยั นายธีรภัทร ภกั ดี งานสง่ เสริมการทำงานภาคพเิ ศษ นางสาวศุภมาศ กิจเผดิมกลุ งานประชาสมั พันธ์ นายชาญวทิ ย์ สุขสวัสด์ิ งานโครงการพเิ ศษและบรกิ ารชมุ ชน นางสาวนุชรี ขีท่ อง งานข้อมูลสารสนเทศ นายชาญวิทย์ สุขสวัสดิ์ งานสวสั ดิการนกั เรียน นกั ศกึ ษาและพัสดุ นางสาวเฉลิมขวญั ภมู พิ งศ์ งานศูนยบ์ ม่ เพาะวสิ าหกิจเพื่อการศกึ ษา นางสาววาสิฏฐี ดิษฐสาคร งานกิจกรรมวิทยาลยั นางปริยาภทั ร แก้วประจุ งานสถานศึกษาคุณธรรม นางสาวนสุ รา สงั ห์สิงข์ งานหลักสตู รทวิภาคี นางสาวสุนิษา กาญจนดำรง

ขอ้ 2 ให้รองผอู้ ำนวยการ หวั หน้างานแตล่ ะฝ่าย ร่วมมอื ประสานงานในการปฏิบัติงาน ให้ความราบรน่ื เรียบรอ้ ย ตามวัตถุประสงค์ และใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายในการบริหารงานวิทยาลัยเพอ่ื พัฒนาองค์กรใหม้ ี คุณภาพในการจัดการการศึกษา จา่ เอกประทปี ทิพยม์ าศ (ผู้รบั ใบอนุญาต) นางสาวทกั ษณา ทิพยม์ าศ (ผจู้ ัดการ/ผูอ้ ำนวยการ) ดร.วันฉตั ร ทิพย์มาศ นางปรยิ าภัทร แกว้ ประจุ นายสรุ ิยา ดวงจันทร์ นางชนากานต์ จันทร (รองผ้อู ำนวยการฝา่ ยแผนงาน (ฝา่ ยกิจการนกั เรียน นักศกึ ษา) (ฝ่ายวชิ าการ) (ฝา่ ยบริหารทรพั ยากร) และความร่วมมอื ) นายธรี ภัทร ภักดี นางสาวพัชรนิ ทร์ ชเู มือง นางสาวศภุ มาศ กิจเผดมิ กุล นายธรี ภัทร ภักดี (งานทะเบียน (งานบคุ ลากร) (งานธรุ การ) (งานวดั ผลและประเมนิ ผล) ดร.วนั ฉตั ร ทิพย์มาศ นางสาวพัชรนิ ทร์ ชูเมอื ง นายณรงศักด์ิ ปณุ นุวงศ์ นางสาวรตั ตยิ า วรรณทอง (งานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา) (งานการเงนิ ) (งานอาคารสถานท่ีและครภุ ณั ฑ์) (งานกองทนุ เงินกยู้ ืมเพอื่ การศกึ ษา)

หมวดท่ี ๓ แผนงานและความรว่ มมือ ขอ้ 1 การประชมุ เพอื่ การพัฒนาสถานศกึ ษา 1.1 การประชุมคณะกรรมการบริหารวิทยาลัย อย่างน้อยปีการศึกษาละ ๒ ครั้ง โดยคณะกรรมการ บรหิ ารภาคี 4 ฝ่าย 1.2 การประชุมครู และบุคลากรภายในองค์กร อย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง โดยผู้รับใบอนุญาต ผู้อำนวยการ และฝ่ายบริหารวทิ ยาลยั ขอ้ 2 วิทยาลัยกำหนดให้บุคลากรแต่งกายในเวลาปฏิบตั หิ น้าที่ ดังนี้ 2.1 เครื่องแต่งกายสุภาพสตรี 2.1.1 สวมเครื่องแบบตามทีว่ ิทยาลยั กำหนดในวันเปิดทำการ 2.1.2 สวมรองเทา้ คทั ชู หรือรองเทา้ รดั สน้ สีดำ 2.1.3 บุคลากรทผี่ มยาวเลยบ่าให้รวบผมใหเ้ รยี บร้อย และไมท่ ำสีผม 2.1.4 สวมชุดเคร่อื งแบบผูบ้ งั คบั บัญชาลูกเสอื ในวันท่มี ีการเรยี นการสอนวชิ าลกู เสอื 2.1.5 แต่งชุดเครื่องแบบปฏิบัติการ ในวันจันทร์ โดยยึดระเบียบการแต่งกายที่ถูกต้องตาม ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง การกำหนดลักษณะเครื่องแบบปฏิบัติการและ เครื่องแบบพิธีการ ของผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนในระบบ ประเภทอาชวี ศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ 2.1.6 เคร่ืองแตง่ กายเสอื้ และกระโปรง เนอ้ื ผ้าทีน่ ำมาสวมใส่ตอ้ งเป็นเนอ้ื ผ้าท่ีมใิ ช่ผ้ายืด 2.1.7 เส้ือผา้ ทส่ี วมใส่ตอ้ งไมร่ ดั รปู จนเกนิ ไป 2.1.8 เครื่องแต่งกายตามแบบวิทยาลัย คือเสื้อสีขาวหรือสีกรมท่าไม่มีลวดลาย กระโปรงสี ดำหรือสีกรมทา่ ไม่มีลวดลายและยาวคลมุ เข่า 2.1.9 การแต่งกายตามภาระงาน โอกาส เทศกาล ให้ครูบุคลากรติดตามจากประกาศของ วทิ ยาลัย (การแตง่ กายสภุ าพสตร)ี

2.2 เครื่องแตง่ กายสุภาพบุรษุ 2.2.1 สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวไม่พับแขน หรือเสื้อแขนสั้นไม่มีลวดลาย ติดกระดุมคอผูกเนค ไทน์ทุกครัง้ ในวนั ที่วทิ ยาลยั เปิดทำการสอนตามปกติ 2.2.2 กางเกงสเลค็ ขายาวสดี ำ ไม่สวมผ้ายีนส์ 2.2.3 สวมรองเทา้ คัทชสู ดี ำ มีสาย หรอื ไมม่ สี ายกไ็ ด้ 2.2.4 สวมชดุ เครอ่ื งแบบผู้บังคบั บญั ชาลูกเสือในวนั ท่ีมีการเรียนการสอนวิชาลูกเสือ 2.2.5 แต่งชุดเครื่องแบบปฏิบัติการ ในวันจันทร์ โดยยึดระเบียบการแต่งกายที่ถูกต้องตาม ประกาศสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา เรือ่ ง การกำหนดลกั ษณะเคร่ืองแบบปฏิบัตกิ ารและ เครื่องแบบพิธีการ ของผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๖๒ 2.2.6 การแต่งกายตามภาระงาน โอกาส เทศกาล ให้ครูบุคลากรติดตามจากประกาศของ วิทยาลัย 2.2.7 ทรงผมของสุภาพบุรษุ ตอ้ งตดั ผมให้เรียบร้อย ไม่ไว้หนวด และเครา (การแต่งการสุภาพบรุ ษุ ) ข้อ 3 เวลาการปฏบิ ตั ิหน้าท่คี รูและบุคลากร เวลาปฏิบัติงานก่อน ๐๗.๔๕ น. ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ควบคุมดูแลนักเรียน นักศึกษาในการเขา้ แถวเคารพธงชาติ เวลาเลิกปฏบิ ัติงาน 16.30 น.

หมวดที่ 4 การปฏบิ ตั ิหน้าทข่ี องครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ขอ้ 1 หนา้ ทคี่ รู และบุคลากร 1.1 มหี นา้ ท่ีอบรมสง่ั สอนตักเตือนนักเรียน นักศกึ ษา ใหม้ ีความประพฤตเิ รยี บร้อย 1.2 อบรมสั่งสอนให้นักเรียน นักศึกษาเคารพและปฏิบัติตามกฎระเบียบวินัยของวิทยาลัยอย่าง เคร่งครดั 1.3 ดแู ลความเรยี บร้อย และความสะอาดของวิทยาลยั 1.4 รักษาทรัพย์สินของวิทยาลัย และแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบหากมีเหตุสงสัยหรือทรัพย์สินชำรุด เสียหาย ขอ้ 2 หน้าที่ครูผูส้ อน 2.1 เตรียมการสอนและพฒั นาการเรยี นการสอนอยู่เสมอ 2.2 สำรวจนักเรียน นักศึกษาในห้องทุกคาบก่อนหรือหลังการสอน และบันทึกข้อมูลในระบบ สารสนเทศ ของวิทยาลัย รวมถึงบนั ทกึ ขอ้ มูลในสมุดบนั ทกึ การสอนอย่างละเอยี ด 2.3 ปกครองนกั เรยี น นักศึกษาใหเ้ ป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย 2.4 ดแู ลความสะอาดหอ้ งเรยี น บริเวณห้องเรียน และอาคารเรียน 2.5 เข้าสอนและออกจากห้องสอนใหต้ รงเวลา ไมท่ ำภาระงานอ่ืนในเวลาสอน 2.6 บันทกึ ข้อมลู ในระบบสารสนเทศตามประกาศของฝา่ ยวิชาการ 2.7 ชแี้ จงขอ้ ตกลงกฎกตกิ าก่อนการเรียนการสอน รวมถึงรายละเอียดการเก็บคะแนนการสอบตา่ ง ๆ แก่นักเรยี นนักศกึ ษา 2.8 สำรวจเวลาเรยี นของนักเรียน นักศึกษาอยู่เสมอ หากขาดเรยี นมากเกนิ ไปหรือนักเรียน นักศึกษา หนเี รียนใหแ้ จ้งอาจารย์ที่ปรึกษา 2.9 ถา้ มปี ญั หาดา้ นการสอนใหป้ รกึ ษาหัวหนา้ สาขาหรอื ฝ่ายวิชาการ 2.10 ตรวจการบ้าน งานหรือแบบฝึกหัดและลงคะแนนเก็บในระบบสารสนเทศของวิทยาลัยให้เป็น ปจั จบุ ัน 2.11 ปฏบิ ตั งิ านและรว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทไ่ี ด้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ ขอ้ 3 หน้าที่ครูที่ปรึกษา 3.1 ดูแลอบรมสั่งสอนนักเรียน นักศึกษาในช้ันท่ีได้รับมอบหมาย 3.2 ประสานงานกับฝา่ ยตา่ ง ๆ เพอื่ แก้ปัญหานกั เรียน นกั ศกึ ษา ตามกรณตี ่าง ๆ 3.3 จัดเก็บข้อมูลนักเรียน นักศึกษารวมถึงทำบันทึกต่าง ๆ ของนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือมี ปัญหา 3.4 ดูแลความเรียบร้อยหอ้ งเรยี นที่นักเรยี น นกั ศึกษารับผดิ ชอบ 3.5 สำรวจและบันทึกการเข้าแถว การมาเรียนการลาการขาดของนักเรียน นักศึกษาทุกวันให้เป็น ปจั จุบัน

3.6 การลงโทษหรือข้อควรปฏิบัติสำหรับนักเรียน นักศึกษา ให้ถือตามระเบียบงานปกครองเป็น สำคัญ 3.7 ประสานฝ่ายวิชาการ ฝ่ายทะเบียนเพื่อรวบรวมจัดเก็บเอกสารหลักฐานนักเรียน นักศึกษาในช้ัน เรยี น 3.8 จดั เกบ็ คา่ ใชจ้ ่ายทีเ่ กิดข้นึ กบั นกั เรียน นกั ศึกษาตามประกาศจากฝ่ายการเงินของวิทยาลยั 3.9 มใิ ห้เรยี กเกบ็ คา่ ใชจ้ ่ายอนื่ ๆ นอกเหนือจากฝ่ายการเงนิ ของวิทยาลัยกำหนด 3.10 บนั ทกึ การมาเรียนของนกั เรียน นักศึกษาในระบบสารสนเทศของวิทยาลัยใหเ้ ป็นปจั จุบัน 3.11 เข้าชั้นเรียนคาบ Homeroom และบันทึกลงในระบบสารสนเทศของวิทยาลัย สรุปผลส่งฝ่าย กิจกรรมตามเวลาทก่ี ำหนด 3.12 ไมร่ บั ลานกั เรยี น นกั ศึกษาดว้ ยวาจา หากปว่ ยไข้ให้สง่ ใบลาในวนั แรกท่ีมาเรยี น 3.13 กรณีนักเรียน นักศึกษาอยู่หอพักวิทยาลัยไม่อนุญาตให้รับลาในทุกกรณีและให้แจ้งครูประจำ หอพักหรอื แจ้งห้องธรุ การทันที 3.14 ปฏิบัติงานอ่นื ตามทผ่ี บู้ ังคับบญั ชามอบหมาย ข้อ 4 หน้าทอ่ี ่ืน ๆ 4.1 ทำหนา้ ทีผ่ ู้แนะแนวศกึ ษาตอ่ เพื่อเข้าเรียนในวทิ ยาลยั ตามรปู แบบท่ีฝา่ ยงานแนะแนวกำหนด 4.2 สามารถปฏิบัตหิ นา้ ทนี่ อกเหนอื จากเวลาทำการของวิทยาลัยได้ 4.3 หากไดร้ ับมอบหมายให้เข้ารว่ มประชมุ สมั มนา จะตอ้ งบนั ทกึ รายงานสง่ ฝ่ายบรหิ าร 4.4 ปฏบิ ัตติ ามภาระงานทไี่ ด้รบั มอบหมายและรับผดิ ชอบต่อภาระงาน 4.5 ติดตามประกาศการดำเนินงานของแต่ละฝ่ายหรือแต่ละงานจากหัวหน้างาน และรับผิดชอบการ ส่งงานตามกำหนดอยา่ งเคร่งครดั (การประชมุ คณะครแู ละบุคลากร)

หมวดท่ี 5 สิทธิและสวสั ดิการครู บคุ ลากร ข้อ 1 ครูหรือบุคลากรที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งจะได้รับสิทธิ์ตามรายละเอียดและสาระของกองทุน สงเคราะหค์ รใู หญ่และครูโรงเรยี นเอกชน ดังนี้ 1.1 คา่ รักษาพยาบาล 1.2 ค่าการศึกษาบตุ ร 1.3 ค่าช่วยเหลือบตุ ร 1.4 เงินทดแทน ข้อ 2 ครหู รอื บุคลากรทีท่ ำงานเกิน ๑ ปีการศึกษาจะไดส้ ทิ ธแ์ิ ละสวสั ดิการจากวิทยาลัย ดงั นี้ 2.1 โบนัสปีละ อยา่ งน้อย ๑ ครั้ง 2.2 ประกนั อบุ ัติเหตุของวิทยาลยั 2.3 ได้รบั การเพ่ิมเงนิ เดือนในทกุ ๆ ๑ ปี ข้อ 3 ครูหรือบุคลากรที่ทำงานเกิน ๒ ปีการศึกษาสามารถสอบเพื่อเรียนต่อร ะดับปริญญาโทหรือ ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ครูได้ (มอบโบนสั ใหแ้ กค่ ณะครแู ละบคุ ลากร)

หมวดที่ 6 คุณลักษณะของครบู ุคลากร ขอ้ 1 จรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 1.1 จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพและ วิสยั ทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกจิ สังคม และการเมอื งอยเู่ สมอ 1.2 จรรยาบรรณต่อวชิ าชพี ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต และรับผิดชอบต่อวิชาชีพ เป็น สมาชกิ ทด่ี ีขององคก์ รวชิ าชีพ 1.3 จรรยาบรรณต่อผู้รบั บริการ 1.3.1 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้ กำลงั ใจ แก่ศษิ ย์ และผ้รู บั บรกิ ารตามบทบาทหน้าทโี่ ดยเสมอหน้า 1.3.2 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ ถูกตอ้ งดีงามแกศ่ ษิ ย์และผรู้ บั บรกิ ารตามบทบาทหนา้ ทอ่ี ย่างเตม็ ความสามารถดว้ ยความบริสทุ ธิใ์ จ 1.3.3 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งทางกาย วาจาและจิตใจ 1.3.4 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา ต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ตอ่ ความเจริญทางกาย สติปญั ญา จิตใจ อารมณ์ และสงั คมของศิษย์และผูร้ ับบรกิ าร 1.3.5 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่ เรียกรบั หรือยอมรบั ผลประโยชนจ์ ากการใช้ตำแหนง่ หน้าท่ีโดยมชิ อบ 1.4 จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ ว่ มประกอบวิชาชพี ผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษา พึงชว่ ยเหลอื เกื้อกูลซึ่งกันและกนั อย่างสร้างสรรค์โดย ยึดมนั่ ในระบบคณุ ธรรม สรา้ งความสามัคคีในหม่คู ณะ 1.5 จรรยาบรรณต่อสงั คม ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาพึงปฏิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข ข้อ 2 มีความสามารถในการพัฒนาความรู้ความสามารถ ทักษะและแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ ให้กับนักเรยี นนักศกึ ษาและวทิ ยาลยั เสมอ ข้อ 3 มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองและผู้เรียนโดยเพิ่มศักยภาพด้วยการศึกษาและพัฒนาหลักสูตรการ เรียนการสอน ข้อ 4 มพี ฤตกิ รรมที่ดแี ละสามารถนำเปน็ แบบอยา่ งได้ ข้อ 5 มเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ สถานศึกษา ใหค้ วามรว่ มมอื และสง่ เสริมความสามัคคี

หมวดท่ี 7 คุณลักษณะของครทู ี่ดี ข้อ 1 อุดมการณ์ของครู พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับความหมายและคุณลักษณะของครู พระราชทานแก่ครูอาวุโส เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2523 ดังนี้ “...ครูที่แท้จริงนั้นต้องเป็นผู้ทำแต่ความดีคือ ต้องหมั่นขยันและอุตสาหะพากเพียร ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ต้องหนักแน่น อดทน และอดกล้ัน สำรวมระวังความประพฤติปฏิบัติ ของตน ให้อยู่ในระเบียบ แบบแผนที่ดีงาม รวมทั้งต้องซื่อสัตย์รักษา ความจรงิ ใจวางใจเป็นกลาง ไม่ปล่อยไปตามอำนาจอคต.ิ ..” ครูเป็นบุคคลที่มีความสำคัญที่สุดในวงการศึกษา เพราะเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดองค์ความรู้อันจะ เป็น ประโยชนต์ อ่ สงั คมและโลก นอกจากนนั้ ยังเปน็ ผู้มีอิทธพิ ลต่อการสร้างบณั ฑิตอย่างมาก บณั ฑติ จะมคี วามคิดที่ ดี มีวิธีการวิเคราะห์อย่างถูกต้อง และมีระบบระเบียบในการปฏิบัติงาน ตลอดจน การพัฒนาบุคลิกภาพเชิง วิชาการ เชิงวิชาชีพ ซึ่งควรได้รับการปลูกฝังอบรมจากครูผู้สอน และบุคลิกภาพ ของครูย่อมส่งผลไปสู่บัณฑิต ดังคำกลา่ วท่ีว่า “อยากรู้ว่าตวั ครูเป็นฉันใด จงดูไดจ้ ากศษิ ย์ท่ีสอนมา” (ม.ล.ป่ิน มาลากุล) ครูจึงจำเปน็ ต้องพัฒนาจิตสำนึกของความเป็นครู เพราะครูหรืออาจารย์จำเปน็ ต้องมี ข้อกำหนดอยู่ใน ใจ เพื่อใหม้ ีหลักในการดำรงตนให้เปน็ ครู สิ่งแรกที่ควรจะพัฒนาก็คือ การสร้างคุณธรรมหรือครธุ รรมให้เกดิ ขึน้ ซึ่งความเป็นจริงนั้น “ครุธรรม” คือ ธรรมสำหรับครู เป็นสิ่งที่ครูหลายท่านทราบและได้ปฏิบัติแล้ว แต่ก็มีอกี หลายท่านท่ี ทั้งไมท่ ราบและไมป่ ฏิบตั ิ ครุธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการดำเนินอาชีพครูอันเป็นอาชีพที่มีเกียรติเป็นอาชีพ ที่คนทั่วไป ยกยอ่ ง และถือว่าเปน็ อาชีพทสี่ ำคญั ในการพัฒนาสงั คมหรือประเทศชาตคิ รูทขี่ าดครธุ รรม จะเปรยี บเสมือนเรือ ท่ีขาดหางเสือ ดงั นน้ั การจะพาศิษยไ์ ปสู่จดุ หมายปลายทางอย่างถูกต้อง ยอ่ มเป็นสงิ่ ท่ีทำได้ยากอย่างแน่นอน ท่านพุทธทาสกล่าวอยู่เสมอว่า “ธรรม” คือ หน้าที่ ผู้ที่มีธรรมะคือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีแล้ว ครุ ธรรมจึงเป็น “หน้าที่สำหรับครู” ซึ่งครูส่วนใหญ่ทุกคนย่อมทราบดีว่า “หน้าที่ของครูก็คือ การอบรมสั่งสอน ศิษย์” แตก่ ารอบรมสงั่ สอนศษิ ยข์ องครูแต่ละคนก็มีการปฏิบตั ิที่แตกตา่ งกนั ครูบางคนกอ็ าจจะคิดว่าหนา้ ทข่ี อง ครคู อื สอนวชิ าการท่ตี นได้รบั มอบหมายใหส้ อน แต่อีกหลาย ๆ คน กค็ ดิ วา่ ครูควรทำหนา้ ท่ีสอนคนให้เป็นคนท่ี สมบูรณ์นอกเหนือจากการสอนวิชาการ ความคิดที่ แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมมนุษย์ดังนั้น จึงเป็น หนา้ ท่ีของครทู จ่ี ะต้องพจิ ารณาเลอื กหนา้ ท่ี ที่ตนเห็นว่าถูกต้องสมบูรณ์ที่สุดของการมีอาชีพครู เพราะความเป็นจริงนั้น ครูมิได้สอนแต่หนังสือ อย่างเดียว แต่ต้องสอนคนให้เป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ด้วย การที่ครูจะปฏิบัติหน้าที่ของครูอย่างเต็มศักดิ์ศรีและ เต็มความ ภาคภูมิได้นั้น ครูจำเป็นต้องมี หลักยึดเพื่อนำตนไปสู่สิ่งที่สูงสุดหรือเป็นอุดมคติของอาชีพ นั่นก็คือ การมี อุดมการณ์ครูอุดมการณ์ครู มีหลักการที่จะยึดไว้ประจำใจทุกขณะที่ประกอบภารกิจของครูมีอยู่ 5 ประการ ดงั นี้ 1. เตม็ รู้ 2. เต็มใจ 3. เตม็ เวลา 4. เตม็ คน 5. เตม็ พลัง

1. เต็มรู้ คอื มคี วามรูบ้ ริบรู ณ์ อาชีพครเู ป็นอาชพี ทีต่ อ้ งถ่ายทอด อธิบายใหค้ วามรู้แกค่ น ดังนนั้ ครูทกุ คนจะตอ้ งเปน็ ผ้ทู ่ี ทำใหต้ นเอง นน้ั บรบิ รู ณ์ หรือเต็มไปดว้ ยความรคู้ รูควรจะทำให้บรบิ รู ณ์ในตัวครปู ระกอบด้วยความรู้ 3 ประการ คอื 1. ความรู้ด้านวิชาการและวิชาชีพ ครูควรเสาะแสวงหาความรู้รวบรวมข้อมูลโดยการอ่าน การฟัง และพยายามนำประสบการณใ์ หม่ ๆ เพ่ือมาถ่ายทอดใหผ้ ูเ้ รยี นของตนได้เกดิ ความรู้ทีท่ ันสมัย ดงั นัน้ ครู จะต้องแสวงหาความรู้ที่เปน็ ประโยชน์และเหมาะสมใหผ้ ู้เรียน เรียนอย่างครบถ้วนเหมาะสม ตามระดับความรู้ นน้ั 2. ความรู้เรื่องโลก ครูควรมีความรู้และประสบการณ์ชีวิตอย่างเพียงพอ เพื่อสามารถ อธิบายบอกเล่า ถ่ายทอด ทัศนคติความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของชาติของสังคมไปสู่ศิษย์ ครูควร เข้าใจชีวิตอย่างเพียงพอที่จะให้คำแนะนำ คำสั่งสอน เพื่อให้ศิษย์ได้ดำเนินชีวิตที่ดีในอนาคตได้ ดังนั้น นอกเหนือจากตำราวิชาการ ครูแสวงหาความรู้รอบตัวด้านอื่น ๆ ให้บริบูรณ์ โดยเฉพาะ ความเป็นไปของ ระเบียบ ประเพณีสงั คม วัฒนธรรม 3. ความรู้เรื่องธรรมะ ครูควรมีสิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจ เพื่อที่จะสามารถอบรมสั่งสอนให้ศิษย์ มีความคิดที่ดีมีความประพฤติดีไม่ว่าครูจะนับถือศาสนาใดก็ตาม ทุกศาสนามีจุดหมายเดียวกัน คือ มุ่งให้คน เป็นคนดีครูที่มีความรู้ด้านธรรมะจะสามารถหยิบยกเรื่องธรรมะมาเป็นอุทาหรณ์ สำหรับ สั่งสอนศิษย์ได้ เช่น จะสอนใหศ้ ษิ ย์ประสบผลสำเร็จดา้ นการศึกษา เล่าเรยี นได้ดีกย็ กหัวขอ้ ธรรมะ อยา่ งอทิ ธิบาท 4 คือ 1. พอใจในการศกึ ษา รกั และสนใจในวิชาทต่ี นเรยี น 2. มคี วามเพยี รท่จี ะเรียน ไมย่ อ่ ท้อ 3. เอาใจใส่ในบทเรียน การบา้ น รายงาน 4. หมนั่ ทบทวนอยู่เสมอ ถ้าศิษย์เข้าใจและนำไปปฏิบัติได้ก็ย่อมทำให้ศิษย์ประสบความสำเร็จในการศึกษา นอกจาก ที่ครู จะต้องทำตนให้บริบูรณ์ด้วยธรรมะเพื่อไปสอนศิษย์ครูก็จะได้รับประโยชน์จากการศึกษาธรรมะ เพื่อให้ ครูไม่ หวั่นไหวต่อกิเลส อันทำให้จิตของครูต้องเป็นทุกข์เศร้าหมอง ครูก็ย่อมจะเบิกบาน และได้รับความสุขที่จะได้ สอนคนในเร่ืองตา่ ง ๆ อกี ดว้ ย การศึกษาธรรมะจึงจำเป็นสำหรับอาชีพครู 2. เต็มใจ คือ ความมีใจเป็นครู พุทธศาสนาถือว่า “ใจนั้นแหละเป็นใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากใจทั้งนั้น” ดังนั้น คนจะเป็น ครูที่มี อุดมการณ์จำเป็นต้องสร้างใจให้เป็นใจที่เต็มบริบูรณ์ด้วยการมีใจเป็นครูการทำใจให้เต็มนั้น มีความหมาย 2 ประการ คอื ใจครู การทำใจใหเ้ ต็มบริบูรณ์น้นั จะต้องถงึ พรอ้ มด้วยองคป์ ระกอบ ดงั นี้ 1. รักอาชีพ ครูต้องมีทศั นคติท่ดี ีตอ่ อาชีพ เห็นว่าอาชพี ครมู ปี ระโยชน์ มเี กียรติ มกี ศุ ล ได้บญุ ได้ความ ภมู ิใจ และพอใจท่ีจะสอนอย่เู สมอ พยายามทจี่ ะแสวงหาวิธีสอนทดี่ เี พ่ือศิษย์ 2. รักศิษย์ มีใจคิดอยากให้ศิษย์พ้นจากสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ครูต้องมีใจนึกอยากให้ทุกคน มีความสุข พยายามชี้แนะหนทางสู่ความสำเร็จและความสุขให้แก่ศิษย์ยินดีหรือมีมุทิตาจิต เมื่อเห็น ศิษย์ประสบ ความกา้ วหน้าในชีวติ ความรกั ศษิ ย์ยอ่ มทำให้ครสู ามารถทมุ่ เทและเสียสละเพ่ือศษิ ยไ์ ด้

ใจสูง ครูควรพยายามทำใจให้สูงส่ง มีจิตใจที่ดีงาม การจะวัดใจเราว่าสูงหรือไม่ มีข้อที่ลอง ถามตัวเอง ได้หลายประการ เช่น 1. ทำงานอยทู่ ีใ่ ด ทา่ นมักจะดา่ วา่ นินทาเจา้ นายแหง่ นัน้ หรือดูถูกสถาบันหรอื เปล่า 2. ทา่ นมักจะคดิ วา่ เพือ่ น ๆ ร่วมงานของทา่ นนสิ ยั ไม่ดสี ว่ นใหญ่หรือเปลา่ 3. ทำไมท่านกท็ ำดแี ต่เจา้ นายไมเ่ ห็น 4. ทำไมคนอน่ื ๆ จงึ โงแ่ ละเลว 5. ท่านยอมไมไ่ ด้ที่จะให้คนอ่นื ดกี วา่ เพราะทา่ นคิดว่าท่านดีกวา่ คนอ่ืน 6. ทำไมท่ที ำงานของท่าน จงึ เอาเปรยี บทา่ นและกดี กนั ทา่ นตลอด การทำจิตใจให้สูง ก็คือ การที่มองเห็นคุณค่าของมนุษย์โลกและการคิดที่จะสร้างสรรค์ ให้โลกมีแต่สิ่ง ทดี่ ีงาม มองโลกและคนในแงด่ ีใจกวา้ ง ยอมรับข้อดแี ละข้อเสียของตนเองและคนอน่ื ไมค่ ิดวา่ ตนเองฉลาด หรือ เก่งกว่าผู้ใด ไม่คิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น คิดเสมอว่าจะช่วยให้คนมีความรู้ มีความคิดและความประพฤติปฏิบัติ ท่ีดคี ิดอยา่ งเปน็ ธรรมว่าตนเองมขี อ้ บกพร่องเชน่ กนั 3. เตม็ เวลา คือ การรบั ผิดชอบ การทุม่ เทเพอื่ การสอน ครูที่มีอุดมการณ์จะต้องใชช้ ีวิตครูอย่างเตม็ เวลาทั้ง 3 สว่ น คอื 1. งานสอน ครูต้องใช้เวลาในการเตรียมการสอนอย่างเต็มที่ วางแผนการสอน ค้นคว้า หาวิธีการที่จะ สอนศิษย์ในรูปแบบต่าง ๆ และในขณะที่ดำเนินการสอนต้องสอนให้ครบตามเวลา ที่กำหนด เข้าสอนตรงเวลา เลกิ สอนใหต้ รงเวลา 2. งานครู นอกเหนือไปจากการสอน ครูต้องให้เวลาแก่งานด้านต่าง ๆ เช่น งานธุรการ งานบริหาร บรกิ าร และงานที่จะทำให้สถาบนั กา้ วหน้า 3. งานนักศึกษา ให้เวลา ให้การอบรม แนะนำสั่งสอนศิษย์ เมื่อศิษย์ต้องการคำแนะนำ หรือต้องการ ความช่วยเหลือ ไมว่ ่าในเวลาทำงานหรอื นอกเวลาทำงาน ครูควรมเี วลาให้ศษิ ย์ 4. เตม็ คน คอื การพฒั นาตนเองใหม้ คี วามเป็นมนุษย์ทีส่ มบรู ณ์ การพัฒนาตนเองให้มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์โดยที่ครูเป็นแม่พิมพ์หรือพ่อพิมพ์ที่คน ในสังคม คาดหวังไว้สูง และมีอิทธิพลต่อผู้เรียนมาก ครูจึงจำเป็นที่จะต้องมีความบริบูรณ์ในความเป็น มนุษย์ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์สังคม ครูจึงควรสำรวมกาย วาจา ใจให้มีความมั่นคงเป็นแบบอย่าง ที่ดีงามในการแสดงออกทั้ง ในและนอกห้องเรียน การที่จะทำให้ตนเองเป็นคนที่เต็มบริบูรณ์ได้คนผู้นั้น ควรเป็นคนที่ดีมีความคิดที่ถูกต้อง เห็นสิ่งที่ดีงามถูกต้อง มีการพูดที่ดี มีการงานที่ดี มีการดำเนินชีวิตที่ดี ปฏิบัติงานถูกต้อง หมั่นคิ ด พิจารณา ตนเอง เพ่อื หาทางแก้ไขปรบั ปรุงตนเองให้มคี วามบรบิ รู ณอ์ ยเู่ สมอ 5. เต็มพลงั คอื การทมุ่ เทพลงั สติปัญญาและความสามารถเพอื่ การสอน ครูจะต้องใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ทุ่มเทไปเพื่อการสอน เพื่อวิชาการ เพื่อศิษย์ครูต้อง อุทิศตน อย่างเต็มที่ ทำงานอย่างไม่คิดออมแรง เพื่อผลงานที่สมบูรณ์นั้นก็คือ การปั้นศิษย์ให้มีความรู้ ความประพฤติ งดงาม เป็นที่พึงประสงค์ของสังคม ครูที่มีหลักยึดครบเต็ม 5 ประการนี้ย่อมเป็นครูทีม่ คี รุธรรม ที่พร้อมจะเป็น ผู้ชี้ทางแห่ง ปัญญา ชี้ทางแห่งชีวิต และชี้ทางแห่งสังคมในอนาคตได้เป็นอย่างดีดังนั้น ครูควรสร้างอุดมการณ์ ครู เพอื่ ความก้าวหน้าของสงั คมไทย และการพฒั นาวชิ าชีพครู

คณุ ธรรม 4 ประการ 1. การรกั ษาความสจั ความจริงใจต่อตวั เองทจ่ี ะประพฤตปิ ฏบิ ัติแต่สิ่งทเี่ ป็นประโยชน์และเปน็ ธรรม 2. การร้จู ักข่มใจตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสจั ความดี 3. การอดทน อดกลัน้ และอดออมทจี่ ะไม่ประพฤติลว่ งความสัจสุจรติ ไมว่ ่าจะด้วยเหตปุ ระการใด 4. การรจู้ ักละวางความเชื่อ และรู้จักสละประโยชน์ส่วนนอ้ ยของตนเพ่ือประโยชนส์ ่วนใหญ่ ของ บ้านเมือง คุณธรรมสี่ประการนีถ้ ้าแต่ละคนพยายามปลกู ฝังและบำรงุ ใหม้ คี วามเจรญิ งอกงามข้ึน โดยทวั่ กันแล้ว จะช่วยให้ประเทศชาตบิ ังเกดิ ความสุข ความรม่ เย็น และมโี อกาสทีจ่ ะปรบั ปรงุ พัฒนา ให้ม่นั คงก้าวหน้าต่อไป ไดด้ งั ความประสงค์ครูอาจารย์เป็นคนไทยคนหนึ่งที่ควรถือปฏิบัติตาม หลักคุณธรรมดังกล่าวเพื่อเป็น แบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ สถาบันวิชาชีพครูจะได้มีความเจริญก้าวหน้า สังคมและประเทศไทยจะได้มีความ เจรญิ รงุ่ เรืองตลอดไป ข้อ 2 คุณลกั ษณะของครทู ่ดี ี คณุ ลักษณะของครทู ่ีดี 10 ประการ 1. ความมีระเบียบวินัย หมายถึง ความประพฤติทั้งทางกาย วาจา และใจ ที่แสดงถึง ความเคารพใน กฎหมาย ระเบียบประเพณีของสงั คม และความประพฤตทิ ี่สอดคล้องกบั อุดมคติ หรอื ความหวังของตนเอง โดย ให้ยึดส่วนรวมสำคญั กว่าส่วนตวั 2. ความซื่อสัตย์สุจริตและความยุติธรรม หมายถึง การประพฤติที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่เอา เปรียบ หรือคดโกงผู้อืน่ หรือส่วนรวม ให้ยึดถือหลักเหตุผล ระเบียบ แบบแผน และกฎหมาย ของสังคมเป็น เกณฑ์ 3. ความขยัน ประหยัด และยึดมั่นในสัมมาอาชีพ หมายถึง ความประพฤติที่ไม่ทำให้ เสียเวลาชีวิต และปฏิบตั กิ ิจอนั ควรกระทำใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ตนและสังคม 4. ความสำนึกในหน้าที่และการงานต่าง ๆ รวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ หมายถึง ความประพฤตทิ ่ีไมเ่ อารดั เอาเปรยี บสังคมและไม่ก่อความเสียหายใหเ้ กิดขึน้ แกส่ งั คม 5. ความเป็นผู้มีความคิดริเริ่ม วิจารณ์ และตัดสินอย่างมีเหตุผล หมายถึง ความประพฤติ ในลักษณะ สร้างสรรคแ์ ละปรบั ปรงุ มเี หตุมผี ลในการทำหนา้ ทกี่ ารงาน 6. ความกระตือรือร้นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีความรักและเทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หมายถึง ความประพฤติที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือ ในการอยู่ร่วมกัน โดยยึด ผลประโยชน์ของสงั คมให้มากท่ีสดุ 7. ความเป็นผู้มีพลานามัยที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หมายถึง ความมั่นคงและ จิตใจ รู้จัก บำรุงรักษากายและจิตใจใหส้ มบรู ณม์ ีอารมณ์แจ่มใสมธี รรมะอยูใ่ นจิตใจอยา่ งมน่ั คง 8. ความสามารถในการพึ่งพาตนเองและมีอุดมคติเป็นที่พึ่งไม่ไหว้วานหรือขอความช่วยเหลือ จาก ผ้อู ่ืนโดยไมจ่ ำเปน็ 9. ความภาคภูมิและการรู้จักทำนุบำรุงศิลปะ วัฒนธรรม และทรัพยากรของชาติ หมายถึง ความ ประพฤติที่แสดงออกซึ่งศิลปะและวัฒนธรรมแบบไทย ๆ มีความรักและหวงแหนวัฒนธรรมของ ตนเองและ ทรัพยากรของชาติ 10. ความเสียสละและเมตตาอารีกตัญญูกตเวทีกล้าหาญ และความสามัคคีกัน หมายถึง ความ ประพฤติทีแ่ สดงออกถึงความแบง่ ปัน เกอื้ กลู ผู้อ่ืน ในเรือ่ งของเวลากำลังกายและกำลงั ทรพั ย์

คุณลักษณะ 10 ประการนี้ เป็นทั้งแนวทางและเป้าหมายในการจัดการศึกษาและอบรม สั่งสอน นกั เรยี นของสถานศึกษาทกุ ระดบั และเจา้ หนา้ ท่ีในสถานศกึ ษาตอ้ งถอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ย การกระทำของครทู สี่ งั คมไม่ชอบ เรยี งจากมากไปหานอ้ ย ดงั นี้ 1. ขาดความรับผดิ ชอบ 2. การเป็นคนเจ้าอารมณ์ 3. ขาดความยุติธรรม 4. เห็นแก่ตัว 5. ประจบสอพลอ การกระทำของครทู ี่สังคมชอบ เรียงจากมากไปหาน้อย ดงั นี้ 1. ตงั้ ใจสอนและสอนเข้าใจแจม่ แจ้ง 2. ความเข้าใจและเปน็ กนั เอง 3. ความรบั ผิดชอบ 4. มีความยตุ ธิ รรม 5. ความเมตตา 6. รา่ เริง แจม่ ใส สุภาพ 7. มีวธิ สี อนแปลก ๆ 8. มอี ารมณข์ ัน 9. เอ้ือเฟ้ือเผอ่ื แผ่ ความบกพร่องของครู เรียงจากมากไปหาน้อย ดงั นี้ ครูชาย 1. ความประพฤติไม่เรียบรอ้ ย 2. มัวเมาในอบายมขุ 3. การแต่งกายไม่สุภาพ 4. การพดู จาไมส่ ภุ าพ 5. ไม่รบั ผดิ ชอบการงาน ครหู ญิง 1. การแต่งกายไมส่ ุภาพ 2. ความเปน็ คนเจ้าอารมณ์ 3. ประพฤตไิ ม่เรยี บร้อย 4. ไม่รับผดิ ชอบการงาน 5. ชอบนินทา 6. จู้จี้ขี้บ่น 7. วางตวั ไมเ่ หมาะสม 8. คยุ มากเกินไป

หน้าทข่ี องครทู ่จี ำเปน็ มากทสี่ ดุ คอื 1. สอนและอบรม 2. การเตรยี มการสอน 3. หนา้ ท่ีธุรการ เช่น ทำบัญชเี รียกชอื่ และสมุดประจำวัน 4. การแนะแนว 5. การศกึ ษา ค้นควา้ เพมิ่ เติม 6. ดแู ลอาคารสถานท่ี 7. ทำความเขา้ ใจเดก็ ลักษณะของครูที่ดี เรยี งตามลำดบั คือ 1. ความประพฤติเรียบรอ้ ย 2. ความรดู้ ี 3. บุคลิกการแต่งกายดี 4. สอนดี 5. ตรงเวลา 6. มีความยุตธิ รรม 7. หาความรูอ้ ยเู่ สมอ 8. ร่าเรงิ แจ่มใส 9. ซ่ือสตั ย์ 10. เสยี สละ สงิ่ ท่คี รูไม่ควรกระทำ 1. ครูมาสาย คติประจำใจ คอื สอนน้อยหน่อย สายมากหนอ่ ย อร่อยกำลงั เหมาะ 2. ครูค้าขาย คติประจำใจ คือ ครูที่มีความเพียร ต้องทำโรงเรียนให้เป็นตลาด ครูที่มี ความสามารถ ต้องทำตลาดใหเ้ ปน็ โรงเรยี น 3. ครูคุณนาย คติประจำใจ คือ อยู่อย่างคุณนาย สบายทุกอย่าง หนทางสะดวก พรรคพวก มากมี 4. ครูสุราบาล คติประจำใจ คือ ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์เกียจคร้าน อังคาร หยดุ พธุ ลา พฤหัสมาก้มหนา้ ไม่สู้คน 5. ครเู กยี จครา้ น คตปิ ระจำใจ คือ สอนมง่ั ไมส่ อนม่ัง สตางค์เทา่ เดมิ 6. ครูหัวโบราณ คติประจำใจ คือ คิดเป็นก็คิดไป แก้ปัญหาเป็นก็แก้ปัญหาไป แต่ฉันจะสอน อย่างไร ใครอย่ามายุ่งกับฉนั 7. ครปู ากมา้ คตปิ ระจำใจ คือ นินทาวันละมาก ๆ ปากผอ่ งใส 8. ครูหน้าใหญ่ คติประจำใจ คือ ใหญ่ที่โรงเรียน ไปเป็นเสมียนที่อำเภอ เห่อเจ้านายได้สอง ขน้ั 9. ครูใจยกั ษ์คตปิ ระจำใจ คอื หนา้ ตาขมึงขงึ ขงั ดดุ ่าไมฟ่ งั เหตผุ ล

หลกั สบิ ประการของความเปน็ ครูดี 1. มุ่งมั่นวิชาการ ครูมีบทบาทหน้าที่ในการเสาะแสวงหาความรู้ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ที่ จำเป็นสำหรบั ครู คอื 1.1 ศาสตร์ที่จะสอน ครูต้องติดตามความก้าวหน้าของวิชาที่จะถ่ายทอด จากหนังสือ เอกสาร วารสาร ตามส่ือ ตา่ ง ๆ ตลอดจนเข้าประชุมเพอื่ รับรู้ความคิดใหม่ ๆ ขอ้ คน้ พบท่ีขยายความรู้ ออกไปอยา่ งไมม่ ีที่สนิ้ สดุ จงึ จำเปน็ อย่างย่งิ ทีค่ รจู ะเตรยี มพรอ้ มใหต้ นเองมคี วามรูท้ นั สมยั ต่อเหตกุ ารณ์ 1.2 ศาสตร์การสอน แม้ครูจะมีความรู้ดีในศาสตร์สาขาที่ชำนาญ แต่ความรู้เหล่านั้น จะไม่มี ประโยชน์ต่อ วิชาชีพครูแม้แต่น้อย หากครูยังขาดความรู้เรื่องของการถ่ายทอดวชิ าการเหลา่ นั้น ครูจงึ จำเป็นต้อง ติดตาม ศึกษา ค้นคว้า ให้ทันต่อความก้าวหน้าของศาสตร์การสอนเพื่อค้นหาวิธีการที่จะ อธบิ าย หรอื ถา่ ยทอดใหศ้ ษิ ย์เขา้ ใจสาระตา่ ง ๆ 1.3 ศาสตร์การพัฒนาคน โดยที่อาชีพครูเป็นอาชีพสร้างคนที่มีศักยภาพให้แก่ประเทศชาติ ผู้สร้างจึงจำเป็นต้อง เอาใจใส่ และถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องพัฒนาคนให้มีความพร้อมด้านวิชาการ วิชาชพี และการดำรงตน ให้เปน็ คนดีทส่ี งั คมปรารถนา 2. รักงานสอน ครูต้องมีความศรัทธาต่อวิชาชีพของตน ต้องมีความรักการสอน สนใจที่จะพัฒนาการ สอน ให้น่าสนใจ เปลี่ยนแปลงวิธีการสอนเพื่อให้ได้ผล รู้จักวิธีถ่ายทอดที่ทำให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาการเรียนของตนเอง ให้รู้จักวธิ ีเรียน เรียนด้วยความสุขและรบั รสู้ าระในศาสตร์ ทค่ี รูสอน 3. อาทรศิษย์ ครูต้องเมตตา รัก เข้าใจ และเอาใจใส่ดูแลลูกศิษย์ ห่วงใยว่าจะประสบความสำเร็จ หรือไม่ ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ลูกศิษย์ประสบ ให้เกียรติและยอมรับในความแตกต่าง ไม่ดูถูกหรือเยียบย่ำ ลูกศิษย์ใหก้ ารช่วยเหลือทัง้ ทางดา้ นการเรยี นและชีวิต 4. คิดดี ครูต้องมีความคิดที่ดีความคิดที่เป็นบวกต่อศิษย์ต่อการสอน ต่อวิชาชีพ ต่อสถาบัน และ ต่อ เพื่อนร่วมงาน คิดในสิ่งท่ีดี และให้คิดอยู่เสมอว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่มีคุณค่าที่สุด เป็นต้น ความคิดที่เป็นบวก จะชว่ ยให้ครูทำงานอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 5. มีคุณธรรม ความมีคุณธรรมของครูมีความจำเป็นต่อวิชาชีพครูคุณธรรมที่สำคัญ ได้แก่ ความ ยุติธรรม ด้านการสอน การประเมินผล ความต้องการให้ลูกศิษย์ประสบผลสำเร็จ ครูต้องมีความอดทน ระงับ อารมณ์ได้ดีไม่ทำร้ายคน เสียสละ มีความอายที่จะกระทำผิด และมีหลักศาสนายึดมั่น มีความตั้งใจ แน่วแน่ที่ จะประพฤตติ นให้ถกู ต้องตามระเบียบ ประเพณีและวฒั นธรรมของสงั คมนนั้ ๆ 6. ชี้นำสังคม ครูต้องช่วยชี้นำสังคม นำในสิ่งที่ถูกต้อง ช่วยแก้ปัญหา ทำตนเป็นตัวอย่าง เช่น เรื่อง ของขยะ สิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน ช่วยชุมชนในด้านต่าง ๆ ทั้งการแก้ปัญหาเพ่ือคุณภาพชีวิตที่ดี ของสังคม และการช่วยนำสงั คมใหเ้ ปน็ สังคมท่ีดงี าม 7. อบรมจิตใจ การพัฒนาผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญ ครูจึงต้องช่วยให้ข้อคิดที่ดีอบรม ตักเตือน สั่งสอนให้ ศิษย์ ประพฤติดีดำรงอยู่ในศีลธรรม หน้าที่ของครูจึงไม่ใช่เป็นเรื่องของการสอนหนังสือเท่านั้น แต่จะต้อง อบรมจิตใจให้มีคุณธรรม จรยิ ธรรมอยู่เสมอ 8. ใฝ่ความก้าวหน้า การไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ รักที่จะช่วยให้ประเทศก้าวหน้า เผยแพร่ผลงานวิชาการ ให้แก่ชุมชน ไมห่ ยดุ ยง้ั ครูจะตอ้ งทำให้ชวี ติ ของครูก้าวตอ่ ไปเพื่อทีจ่ ะทำประโยชน์ใหแ้ ก่ตนเอง ศษิ ย์ สงั คม และประเทศชาติ

9. วาจางาม คำพูดเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างประสบความสำเร็จ คำพูดที่ดี ย่อมทำให้ผู้เรียนเกิดกำลังใจ มีความมุมานะ ในทางตรงกันข้าม คำพูดไม่ดีย่อมทำให้ผู้ฟัง เกิดความ ทุกข์ ไม่สบายใจ และทำให้เกิดความท้อถอย ไม่อยากเรียน ครูจึงต้องฝึกการพูดให้ ถูกต้อง ตามกาลเทศะ ฝึก การพูดเพ่อื จงู ใจและส่งเสรมิ ทำให้ศิษยเ์ กิดการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมไปในทาง ท่ีดงี ามและถกู ตอ้ ง 10. รักความเป็นไทย สถาบันการศึกษาเป็นศูนย์กลางการพัฒนาคนให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ ของประเทศชาติ ดังนั้น ครูจึงต้องส่งเสริมพัฒนาเอกลักษณ์ไทย เพ่ือให้ศิษย์เป็นผู้ธำรงรักษาเอกลักษณ์ไทย เอาไว้ โดยเฉพาะในยุคโลกาภิวัตน์ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตนจำเป็นต้องธำรงไว้ให้มั่นคง แม้ว่าเทคโนโลยี จะ พัฒนาไปได้ไกล จนทำให้แต่ละชาติสามารถติดต่อ รับรู้ และถ่ายทอดวัฒนธรรมซึ่งกันและกันได้ ก็ตาม แต่ เอกลักษณ์เฉพาะของคนในชาติเช่น เรื่องของความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ควรช่วยกัน สืบสาน สง่ เสริม และธำรงไว้เพื่อทำให้เยาวชนเกดิ ความรัก ความภาคภูมใิ จในความเปน็ ไทย ขอ้ 3 การประสานงานการสื่อความหมาย มนุษยสัมพันธ์ และการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี การประสานงาน หมายถึง การกระทำหรือการนำ วิธีการต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้บุคคลหรือ หน่วยงานร่วมมือปฏิบัติด้วยความสามัคคี แบ่งหน้าที่กันทำ ไม่มีการก้าว ก่ายซ้ำซ้อนกัน ให้ทุกคน รับผิดชอบ ขจัดความขัดแย้งหรืออุปสรรคต่าง ๆ ในหน่วยงานเพื่อให้การดำเนินงาน เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย ราบรน่ื และบรรลุผลสำเร็จ รูปแบบการประสานงาน มี 2 รปู แบบ คอื 1. การประสานงานแบบเป็นทางการ 2. การประสานงานอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ ลักษณะการประสานงานทด่ี ี คือ 1. การสื่อสารระบบเปดิ เป็นการสอ่ื สารแบบ 2 ทาง 2. บรรยากาศในการทำงานเป็นแบบสมานฉันท์ 3. มลี ักษณะการทำงานทสี่ อดคล้องกนั 4. เปน็ ไปตามเป้าหมายและทนั เวลา วิธีการประสานงาน มขี ั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. จัดให้มีผงั กำหนดหนา้ ทขี่ องคนทกุ คนอย่างชัดเจน 2. จดั ระบบการทำงานคำนงึ ถงึ สายบังคับบญั ชา 3. จัดคูม่ ือการปฏบิ ตั ิงาน 4. กำหนดวธิ ีเลอื กการส่อื สารใหช้ ัดเจน 5. กำหนดงบประมาณไวใ้ ชจ้ ่าย 6. ถ้ามีความจำเปน็ อาจจัดใหม้ ีเจา้ หน้าท่เี ฉพาะขนึ้ ได้ 7. จัดให้มกี ารประชุมปรกึ ษาหารือ 8. จัดให้มกี ารนเิ ทศ กำกบั และติดตามผลในระหวา่ งการปฏิบัตเิ ป็นระยะ ๆ ประโยชน์ของการประสานงาน คอื 1. งานบรรลวุ ัตถุประสงค์ 2. งานไมซ่ ้ำซ้อนกัน 3. ลดความขัดแยง้ ในการทำกจิ กรรม

ขอ้ 4 คณุ ธรรมพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศนโยบายเร่งรัดการปฏิรูปการศึกษา โดยยึดคุณธรรมนำความรู้ สร้าง ความตระหนักสำนึกในคุณค่าของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความสมานฉันท์ สันติวิธี วิถีประชาธิปไตยพัฒนา คนโดยใช้คุณธรรมเป็นพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงความร่วมมือ ของสถาบันครอบครัว ชุมชน สถาบันศาสนา และสถาบันการศึกษา โดยมีจุดเน้นเพื่อพัฒนาเยาวชน ให้เป็นคนดี มีความรู้ และอยู่ดีมีสุข ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนดังกล่าวมีความชัดเจนเกิด ประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ อยา่ งเป็นธรรม “8 คณุ ธรรมพน้ื ฐาน” ท่ีควรเร่ง ปลกู ฝัง ประกอบด้วย 1. ขยนั 2. ประหยัด 3. ซอ่ื สตั ย์ 4. มวี นิ ยั 5. สภุ าพ 6. สะอาด 7. สามัคคี 8. มีนำ้ ใจ 1. ขยัน ขยัน คือ ความตั้งใจเพียรพยายาม ทำหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ อดทน ความ ขยนั ตอ้ งปฏิบัตคิ วบคกู่ บั การใช้สตปิ ญั ญาแก้ปญั หาจนเกดิ ผลสำเร็จ ผู้ทม่ี คี วามขยัน คือ ผ้ทู ่ตี ัง้ ใจทำอย่างจริงจงั ตอ่ เนือ่ งในเร่อื งที่ถูกที่ควร เป็นคนสู้งาน มีความพยายามไม่ ท้อถอย กลา้ เผชญิ อปุ สรรค รักงานท่ีทำ ต้ังใจทำอย่างจริงจงั 2. ประหยัด ประหยัด คือ การรู้จักเก็บออม ถนอมใช้ทรัพย์สินสิ่งของแต่พอควรพอประมาณให้เกิด ประโยชน์คมุ้ คา่ ไม่ฟมุ่ เฟอื ย ฟงุ้ เฟอ้ ผ้ทู ่ีมีความประหยัด คอื ผทู้ ดี่ ำเนนิ ชวี ิตความเป็นอยู่ทเ่ี รยี บง่าย รจู้ กั ฐานะการเงนิ ของตน คิดก่อนใชค้ ดิ ก่อนซื้อ เก็บออม ถนอมใช้ทรัพย์สินสิ่งของอย่างคุ้มค่า รู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่าย รายออมของตนเองอยู่ เสมอ 3. ซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์คือ ประพฤติตรงไม่เอนเอียงไม่มีเล่ห์เหลี่ยม มีความจริงใจ ปลอดจากความรู้สึก ลำเอยี งหรอื อคติ ผู้ที่มีความซื่อสัตย์คือ ผู้ที่มีความประพฤติตรงทั้งต่อหน้าที่ ต่อวิชาชีพ ตรงต่อเวลา ไม่ใช้ เล่ห์กล คดโกง ทั้ง ทางตรงและทางออ้ ม รบั รู้หน้าทีข่ องตนเองและปฏบิ ตั อิ ย่างเต็มท่ีถกู ตอ้ ง 4. มีวินัย มีวินัย คือ การยึดมั่นในระเบียบแบบแผน ข้อบังคับและข้อปฏิบัติ ซึ่งมีทั้งวินัยในตนเอง และวินัยต่อสังคม ผู้ที่มีวินัย คือ ผู้ที่ปฏิบัติตนในขอบเขต กฎ ระเบียบของสถานศึกษา สถาบัน/องค์กร/สังคม และประเทศ โดยทีต่ นเองยินดีปฏิบตั ิตามอย่างเตม็ ใจและต้งั ใจ 5. สภุ าพ สุภาพ คอื เรยี บรอ้ ย อ่อนโยน ละมนุ ละม่อม มกี ริ ยิ ามารยาทที่ดงี าม มีสัมมาคารวะ ผู้ที่มีความสุภาพ คือ ผู้ทีอ่ ่อนน้อมถ่อมตนตามสถานภาพและกาลเทศะ ไม่ก้าวร้าว รุนแรง วางอำนาจ ข่มผู้อื่นทั้งโดยวาจาและท่าทาง แต่ในเวลาเดียวกันยังคงมีความมั่นใจในตนเอง เป็นผู้ที่ มี มารยาท วางตน เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทย

6. สะอาด สะอาด คือ ปราศจากความมัวหมองทั้งกาย ใจ และสภาพแวดล้อม ความผ่องใสเป็นท่ี เจรญิ ตา ทำให้เกดิ ความสบายใจแก่ผู้พบเหน็ ผู้ทม่ี คี วามสะอาด คอื ผู้รักษาร่างกาย ท่อี ยู่อาศยั ส่ิงแวดล้อมถูกตอ้ งตามสุขลกั ษณะ ฝกึ ฝน จิตใจมิให้ ขุ่นมวั จึงมคี วามแจ่มใสอยู่เสมอ 7. สามัคคี สามัคคีคือ ความพร้อมเพรียงกัน ความกลมเกลียวกัน ความปรองดองกัน ร่วมใจกัน ปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามที่ต้องการเกิดงานการอย่างสร้างสรรค์ปราศจากการทะเลาะวิวาท ไม่เอารัด เอา เปรียบกัน เป็นการยอมรับความมีเหตุผล ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ความหลากหลายใน เรือ่ งเช้ือชาติความกลมเกลียวกันในลักษณะเชน่ นี้ เรยี กอกี อย่างวา่ ความสมานฉันท์ผู้ ทีม่ ีความสามคั คีคอื ผู้ท่เี ปิดใจกว้าง รับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน รู้บทบาทของตน ทง้ั ในฐานะผู้นำและ ผู้ตามที่ดี มีความมุ่งมั่นต่อการรวมพลัง ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน เพื่อให้การงาน สำเร็จลุล่วง แก้ปัญหาและขจัด ความขัดแย้งได้ เป็นผู้มีเหตุผล ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ทางวัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ พร้อมท่ี จะปรบั ตัวเพอื่ อยู่ร่วมกนั อยา่ งสันติ 8. มีน้ำใจ มีน้ำใจ คือ ความจริงใจที่ไม่เห็นแก่เพียงตัวเองหรือเรื่องของตัวเอง แต่เห็นอกเห็นใจ เห็น คุณค่าในเพื่อนมนุษย์ มีความเอื้ออาทร เอาใจใส่ ให้ความสนใจในความต้องการ ความจำเป็น ความทุกข์สุข ของผอู้ นื่ และพร้อมท่จี ะใหค้ วามชว่ ยเหลอื เก้อื กูลกนั และกนั ผทู้ ีม่ ีนำ้ ใจ คือ ผู้ให้และผอู้ าสาชว่ ยเหลือสงั คม รูจ้ กั แบ่งปัน เสียสละความสุขส่วนตน เพอ่ื ทำประโยชน์ แก่ผู้อื่น เข้าใจ เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคมด้วยแรงกาย สติปัญญา ลงมือปฏิบัติการเพ่ือ บรรเทาปญั หา หรือรว่ มสรา้ งสรรค์ส่ิงดงี ามใหเ้ กิดขึน้ ในชุมชน (โครงการจติ อาสาสรา้ งสรรค์ ปันสุข)

หมวดท่ี 8 เร่ืองอ่นื ๆ ข้อ 1 ห้ามใช้ภาษาทอ้ งถนิ่ และภาษาไมส่ ภุ าพกับนักเรียน นักศกึ ษา ขอ้ 2 การออกนอกวิทยาลยั ระหวา่ งวนั ตอ้ งแจง้ ผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการที่หอ้ งธุรการ ข้อ 3 ห้ามใช้นักเรียน นกั ศกึ ษาไปทำธุระส่วนตัวในเวลาเรียนหรอื ภายนอกสถานศกึ ษา ข้อ 4 หา้ มใช้ให้นกั เรยี น นักศึกษาจัดทำเอกสารซง่ึ เป็นภาระงานของครูบคุ ลากร ข้อ 5 ไมต่ ดิ สารเสพติด ประพฤตมิ ชิ อบและเลน่ การพนนั หรอื กระทำการอื่นใดทไ่ี มเ่ หมาะสมกบั ความเปน็ ครู ข้อ 6 เขา้ รว่ มกิจกรรมทฝ่ี า่ ยชุมชนสมั พนั ธก์ ำหนดไว้ ขอ้ 7 ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีดว้ ยความซ่อื สัตยส์ จุ ริตและรบั ผดิ ชอบ ข้อ 8 ห้ามมพี ฤติกรรมชู้สาวกบั นกั เรยี น นักศึกษา (กจิ กรรมปฐมนิเทศก่อนออกฝึกงาน)

วิทยาลัยเทคโนโลยีทกั ษณิ อาชีวศึกษา คณะผจู้ ดั ทำช้ินงาน นางสาว ศศธิ ร เส้งตงุ้ นางสาว จฑุ าทพิ ย์ ทองสุวรรณ รหสั นกั ศึกษา 13202 รหัสนกั ศึกษา 12740 ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชัน้ สงู ปที ี่ 2 ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสงู ปที ่ี 2 อาจารย์ประจำรายวิชา / อาจารยท์ ่ีปรึกษาโครงงาน อาจารย์ ธีรภัทร ภักดี

บรรยากาศภายในวทิ ยาลยั เทคโนโลยีทกั ษิณอาชวี ศกึ ษา

การพฒั นาหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ พ่ือการจดั การ คมู่ ือครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา วทิ ยาลยั เทคโนโลยีทกั ษิณอาชีวศกึ ษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook