กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครทู บทวนการอ่านแผนภูมิแทง่ โดยข้นึ แผนภมู แิ ท่งแสดงมูลคา่ การส่งออกสนิ ค้า 5 อนั ดบั ของ ประเทศไทย พ.ศ. 2559 บนเพาเวอร์พอยด์ ดังน้ี มูลค่าการส่งออกสนิ ค้า 5 อันดบั ของประเทศไทย พ.ศ. 2559 ทีม่ า : ธนาคารไทยพาณิชย์ - การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่ามากกว่าการส่งออก เม็ดพลาสติก (127,985 ลา้ นบาท หรอื 127,985,000,000 บาท) - การส่งออกสินค้าอันดับที่ 1 กับอันดับที่ 5 มีมูลค่าต่างกันเท่าใด (285,638 ล้านบ้าน หรอื 285,638,000,000 บาท) - สินค้าชนิดใดมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 150,000,000,000 บาท แต่น้อยกว่า 350,000,000,000 บาท (อัญมณีและเครื่องประดับ กับเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ) ข้ันสอน 2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ ครูขึ้นแผนภมู ิแท่งแสดง จำนวนประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2557 - พ.ศ. 2560 บนเพาเวอรพ์ อยด์ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาแผนภูมแิ ท่ง นี้ แลว้ ชว่ ยกนั หาคำตอบ ดงั นี้ จากแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2564) กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ แพทย์ 1 คน ดแู ลประชากร 1,800 คน โดยจำนวนประชากรของประเทศไทย ต้ังแต่ พ.ศ. 2557 - พ.ศ. 2560 เป็นดังน้ี
จำนวนประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2557 - พ.ศ. 2560 และจากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า แพทย์ที่มีอยู่จริงในปี พ.ศ. 2560 มี 27,626 คน อยากทราบว่าในปี พ.ศ. 2560 จำนวนแพทย์ที่มีอยู่จริงเป็นไปตามแผนพัฒนาสุขภาพ แห่งชาติ ฉบับที่ 12 หรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามแผนฯ จำนวนแพทย์ที่มีอยู่จริงมากกว่า หรือ น้อยกว่า จำนวน เเพทย์ตามเเผนฯ เทา่ ใด วธิ คี ิด หาจำนวนแพทย์ตามแผนฯ ในปี พ.ศ. 2560 แล้วนำไปเปรยี บเทยี บกบั จำนวนแพทย์ทม่ี อี ยจู่ ริงในปี พ.ศ. 2560 ตามขอ้ มลู ของกองยุทธศาสตรฯ์ โดย จำนวนแพทย์ตามแผนฯ ในปี พ.ศ. 2560 หาได้จาก นำจำนวนประชากรทัง้ หมดในปี พ.ศ. 2560 หารด้วย 1,800 ซง่ึ จะไดว้ า่ ในปี พ.ศ. 2560 ตามแผนฯ ต้องมแี พทย์ 66,188,503 ÷ 1,800 คน ประมาณ 36,771 คน แสดงว่า จำนวนแพทยท์ มี่ ีอยจู่ รงิ ในปี พ.ศ. 2560 ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนฯ โดยมจี ำนวนแพทย์นอ้ ยกวา่ อยู่ 36,771 − 27,626 = 9,145 คน ดังน้นั ในปี พ.ศ. 2560 จำนวนแพทย์ทีม่ ีอยจู่ รงิ ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนฯ โดยมีจำนวนนอ้ ยกว่าจำนวนแพทย์ตามเเผนฯ อยู่ 9,145 คน ตอบ ๙,๑๔๕ คน
จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบ ดังนี้ 9,145 คน เป็นคำาตอบทสี่ มเหตุสมผล เพราะ แพทย์ 1 คน ดูแลประชากร 1,800 คน แพทย์ 35,000 คน ดูแลประชากร 35,000 × 1,800 = 63,000,000 คน แพทย์ 40,000 คน ดูแลประชากร 40,000 × 1,800 = 72,000,000 คน จะไดว้ ่า ประชากร 66,188,503 คน ตอ้ งมีแพทย์ดูแลมากกวา่ 35,000 คน แต่น้อยกวา่ 40,000 คน หรอื ประมาณ 40,000 คน และ จำนวนแพทยท์ ม่ี ีอยู่จรงิ ประมาณ 30,000 คน ดังน้ัน จำนวนแพทยท์ ่มี อี ยูจ่ ริงน้อยกวา่ จำนวนแพทยต์ ามแผนฯ ประมาณ 40,000 − 30,000 = 10,000 คน ข้นั สรปุ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับแผนภูมิ แทง่ จะต้องพิจารณาวา่ คำถามคืออะไร แลว้ นำข้อมูลจากแผนภูมิแท่งมาใช้ในการหาคำตอบ 4. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั 3.8 หนา้ 110 เปน็ รายบุคคล สอื่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 สสวท. 3. power point การสอน การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ท่ตี อ้ งการวัด วิธีวดั เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั พอใช้ขึน้ ไป 1. ด้านความรู้ ตรวจความถกู ต้องของ แบบฝึกหัด 3.8 ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป แบบฝกึ หดั 3.8 หนา้ 110 หนา้ 110 ระดับพอใช้ขึ้นไป 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ การเข้าเรียน การทำงาน แบบสงั เกต ทพ่ี งึ ประสงค์ ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย และ พฤตกิ รรม การสง่ งานตรงเวลา
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นสามารถตรวจสอบวธิ กี ารหาคำตอบโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั การอ่านแผนภูมิแทง่ ได้ 2. นกั เรียนสามารถแสดงวิธีหาคำตอบจากแผนภมู ิแทง่ ได้ถกู ตอ้ ง 3. นกั เรยี นตงั้ ใจเรยี นในเนอ้ื หาทีค่ ุณครอู ธิบาย มีความกลา้ แสดงออก ช่วยคุณครตู อบคำถาม เมื่อมีข้อสงสยั นกั เรยี นกลา้ ทจ่ี ะซักถาม เพอ่ื ใหต้ นเองเขา้ ใจ 2. ปญั หา/อุปสรรคท่ีพบและแนวทางแกไ้ ข นกั เรยี นบางส่วนอา่ นโจทย์แล้วยังไมเ่ ขา้ ใจ ว่าโจทยต์ อ้ งการทราบอะไร โจทย์กำหนดอะไรมาให้บา้ ง ทำใหไ้ ม่ สามารถหาคำตอบของโจทย์ปัญหาได้ และนกั เรยี นบางคนคำนวณหาคำตอบยงั ไมถ่ ูกต้อง 3. ข้อเสนอแนะ ครอู ธิบายการแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั แผนภมู ิแทง่ ทีม่ ีการยน่ ระยะจะต้องพิจารณาวา่ คำถาม คือ อะไร แล้ว นำข้อมูลจากแผนภมู ิแทง่ ที่มีการย่นระยะมาใช้ในการหาคำตอบ ครยู กตัวอย่างประกอบเพ่อื อธิบาย และเปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามข้อสงสัย
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 15101 ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 12 ชั่วโมง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การนำเสนอขอ้ มลู สพป.นราธวิ าส เขต 2 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาแผนภมู ิแทง่ เปรยี บเทยี บ ครผู สู้ อน นางสาวณฐั นันท์ พฒุ ยนื โรงเรยี นบา้ นสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการแก้ปญั หา ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.5/2 : เขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมลู ท่ีเป็นจำนวนนับ สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับแผนภูมิแท่งจะต้องพิจารณาว่าคำถามคอื อะไร แล้วนำข้อมูลจากแผนภูมิ แทง่ มาใชใ้ นการหาคำตอบ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ตรวจสอบวิธกี ารหาคำตอบโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับการอ่านแผนภูมแิ ท่งเปรยี บเทยี บได้ (K) 2. แสดงวธิ ีหาคำตอบจากแผนภูมแิ ท่งเปรยี บเทยี บได้ (P) 3. นำความร้เู กยี่ วกับโจทย์ปญั หาแผนภูมิแทง่ เปรียบเทยี บไปใชใ้ นชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทย์ปัญหาแผนภมู ิแท่งเปรยี บเทียบ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชื่อมโยง คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูทบทวนการอ่านแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ โดยขึ้นแผนภูมิแท่งจำนวนนักศึกษาที่เลือก วชิ าชพี ณ ศูนย์ฝกึ อาชพี กรุงเทพมหานคร บนเพาเวอร์พอยด์ ดงั นี้ จำนวนนกั ศกึ ษาที่เลอื กวชิ าชีพ ณ ศูนยฝ์ กึ อาชพี กรุงเทพมหานคร - นักศึกษาชายและหญิงเลือกเรียนวิชาชีพใดมากที่สุด และวิชาชีพใดน้อยที่สุด (เรียน เบเกอรม่ี ากทส่ี ดุ เรยี นแกะสลักผักและผลไม้น้อยทส่ี ดุ ) - วิชาชพี ใดท่นี กั ศึกษาชายเลอื กเรียนมากกวา่ นกั ศกึ ษาหญิง (ซอ่ มโทรศัพท์มอื ถอื ) - ถา้ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี เก็บค่าลงทะเบยี นเรยี นวิชาชีพละ 100 บาท จะไดร้ บั เงินค่าลงทะเบียน เรียนทั้งหมดกบ่ี าท คิดได้อยา่ งไร (143,000 บาท คิดได้จาก นำจำนวนนักเรยี นทงั้ หมด คูณกับ 100 ซึ่งจะได้ 1,430 × 100 = 143,000 บาท) ขั้นสอน 2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ ครูขึ้นแผนภมู ิแท่งแสดง งบประมาณสำหรับการจัดการเรียนการสอนในแต่ละระดับชั้นทั่วประเทศ และแผนภูมิแท่งจำนวนนักเรียน ชั้น ป.1 - ป.6 โรงเรียนบ้านสีเสียดบำรุง ปีการศึกษา 2561 บนเพาเวอร์พอยด์ ให้นักเรียนพิจารณาแผนภูมิ แทง่ นี้ แล้วชว่ ยกันหาคำตอบ ดงั นี้ ในแต่ละปีกระทรวงศึกษาธิการได้จดั สรรงบประมาณสำาหรับการจัดการเรียนการสอนให้กบั โรงเรยี นท่วั ประเทศเปน็ รายบุคคล ดังนี้
งบประมาณสำหรบั การจัดการเรียนการสอนในแตล่ ะระดับชั้น ทว่ั ประเทศ และในปกี ารศึกษา 2561 โรงเรยี นบา้ นสเี สียดบำรุง มีจำนวนนกั เรยี น ดงั นี้ จำนวนนกั เรียน ชัน้ ป.1 - ป.6 โรงเรยี นบ้านสีเสียดบำรงุ ปกี ารศึกษา 2561 ที่มา : กลมุ่ สารสนเทศ สนผ. สพฐ. 2561 ปีการศึกษานี้ โรงเรียนบา้ นสเี สยี ดบำรุงไดร้ ับงบประมาณสำาหรับการจัดการเรียนการสอนชั้น ป.1-ป.6 เทา่ ใด วิธีคิด 1. หาจำนวนนักเรียนชน้ั ป.1-ป.6 ท้งั หมด จากแผนภูมิแท่งเเสดงจำนวนนกั เรียน โดยนำจำนวนนักเรยี นชาย ชัน้ ป.1-ป.6 มารวมกนั จะได้ 9 + 9 + 10 + 7 + 11 + 14 = 60 คน จำนวนนกั เรยี นหญิง ช้ัน ป.1-ป.6 มารวมกนั จะได้ 11 + 9 + 7 + 10 + 10 + 13 = 60 คน รวมจำนวนนกั เรยี นชายและนักเรียนหญิง ช้นั ป.1-ป.6 จะได้ 60 + 60 = 120 คน 2. หางบประมาณสำหรบั การจัดการเรยี นการสอน ระดับช้ันประถมศกึ ษาที่ไดร้ ับ จากแผนภมู แิ ท่งเเสดงงบประมาณ โดยนำจำนวนนักเรยี นทง้ั หมด คูณกบั งบประมาณรายบุคคล ของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษา จะได้ 120 × 1,900 = 228,000 บาท ดังนนั้ โรงเรยี นจะไดร้ บั งบประมาณสำหรบั การจัดการเรียนการสอน 228,000 บาท ตอบ ๒๒๘,๐๐๐ บาท
ข้นั สรปุ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับแผนภูมิ แท่งเปรยี บเทียบ จะตอ้ งพิจารณาว่าคำถามคืออะไร แลว้ นำขอ้ มลู จากแผนภูมแิ ทง่ มาใชใ้ นการหาคำตอบ 4. นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 3.8 หน้า 111 เป็นรายบุคคล สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝกึ หัดรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เลม่ 1 สสวท. 3. power point การสอน การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทตี่ ้องการวดั วิธีวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน ระดับพอใช้ขึน้ ไป 1. ด้านความรู้ ตรวจความถกู ต้องของ แบบฝึกหดั 3.8 ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป แบบฝกึ หัด 3.8 หนา้ 111 หน้า 111 ระดับพอใชข้ ึ้นไป 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ การเขา้ เรียน การทำงาน แบบสังเกต ทพ่ี งึ ประสงค์ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย และ พฤตกิ รรม การส่งงานตรงเวลา
บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 1. ผลการจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถตรวจสอบวิธกี ารหาคำตอบโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั การอ่านแผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบได้ 2. นักเรยี นสามารถแสดงวธิ หี าคำตอบจากแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทียบไดถ้ กู ต้อง 3. นักเรยี นต้งั ใจเรียนในเนื้อหาทค่ี ุณครอู ธิบาย มคี วามกลา้ แสดงออก ช่วยคุณครูตอบคำถาม เมือ่ มีขอ้ สงสัย นกั เรียนกลา้ ทจี่ ะซักถาม เพอื่ ให้ตนเองเขา้ ใจ 2. ปัญหา/อุปสรรคท่ีพบและแนวทางแกไ้ ข นกั เรยี นบางสว่ นอา่ นโจทย์แล้วยงั ไม่เขา้ ใจ ว่าโจทย์ต้องการทราบอะไร โจทย์กำหนดอะไรมาใหบ้ า้ ง ทำใหไ้ ม่ สามารถหาคำตอบของโจทย์ปัญหาได้ และนกั เรยี นบางคนคำนวณหาคำตอบยังไม่ถกู ตอ้ ง 3. ขอ้ เสนอแนะ ครอู ธิบายการแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทียบ จะตอ้ งพจิ ารณาว่าคำถาม คอื อะไร แล้วนำ ขอ้ มูลจากแผนภูมแิ ทง่ เปรยี บเทียบมาใช้ในการหาคำตอบ ครยู กตวั อย่างประกอบเพอ่ื อธบิ าย และเปิดโอกาสให้ นักเรียนซกั ถามขอ้ สงสยั
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101 ปีการศกึ ษา 2565 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 12 ชั่วโมง เวลา 1 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง การนำเสนอขอ้ มลู สพป.นราธิวาส เขต 2 เร่ือง โจทย์ปัญหากราฟเส้น ครผู สู้ อน นางสาวณัฐนนั ท์ พฒุ ยนื โรงเรยี นบ้านสุไหงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความร้ทู างสถติ ิในการแกป้ ัญหา ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.5/1 : ใช้ข้อมลู จากกราฟเส้นในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา สาระสำคญั การแก้โจทย์ปัญหาเกีย่ วกับกราฟเส้นจะต้องพิจารณาว่าคำถามคืออะไร แล้วนำข้อมูลจากกราฟเสน้ มาใชใ้ นการหาคำตอบ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ตรวจสอบวิธีการหาคำตอบโจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั กราฟเสน้ ได้ (K) 2. แสดงวธิ หี าคำตอบจากกราฟเส้นได้ (P) 3. นำความร้เู กี่ยวกบั โจทยป์ ญั หากราฟเส้นไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ โจทย์ปัญหากราฟเส้น ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการส่อื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครทู บทวนการอา่ นกราฟเสน้ โดยข้ึนกราฟเส้นแสดงนำ้ หนักทารกในช่วงอายุครรภ์ 20 – 40 สัปดาห์ บนเพาเวอรพ์ อยด์ ดังนี้ น้ำหนกั ทารกในช่วงอายุครรภ์ 20 – 40 สัปดาห์ - จากกราฟ เส้นเเสดงจำนวนและเส้นเเสดงรายการแสดงข้อมูลอะไร (เส้นเเสดงจำนวน เเสดงน้ำหนกั เปน็ กรมั เสน้ เเสดงรายการ เเสดงอายุครรภ์เป็นสัปดาห์) - ถา้ แมม่ อี ายุครรภ์ 36 สปั ดาห์ น้ำหนกั ของทารกเปน็ เท่าใด (2,622 กรมั ) - เม่ือทารกมีน้ำหนัก 2,622 กรัม แม่มีอายุครรภ์เท่าใด (36 สัปดาห์) - ช่วงที่แมม่ ีอายคุ รรภ์ 32-36 สัปดาห์ นำ้ หนักของทารกเพ่ิมขนึ้ เท่าใด (920 กรมั ) - ช่วงท่ีแมม่ อี ายุครรภ์ 20-40 สปั ดาห์ น้ำหนกั ของทารกเพ่ิมข้ึนเท่าใด (3,162 กรมั ) - อายุครรภ์ของแม่ชว่ งใดที่น้ำหนกั ของทารกมีการเปลยี่ นแปลงมากที่สุด สงั เกตจากอะไร (สัปดาห์ท่ี 32 – สปั ดาห์ท่ี 36 สงั เกตจากความชันของเสน้ กราฟ) - ช่วงที่แม่มีอายุครรภ์ 20-40 สัปดาห์ น้ำหนักเฉลี่ยของทารกมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนกั เทา่ ใด (สปั ดาห์ละ 158.1 กรมั )
ขนั้ สอน 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ ครูขึ้นกราฟเส้นแสดง ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าของครอบครัวหนูดี ในช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 บนเพาเวอร์พอยด์ ใหน้ ักเรียนพิจารณากราฟเสน้ แลว้ ช่วยกันหาคำตอบ ดงั นี้ ไฟฟา้ เป็นระบบสาธารณปู โภคข้นั พน้ื ฐานทีม่ คี วามสำคัญในชวี ติ ประจำาวนั การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ของแต่ละ ครอบครัวจะแตกต่างกันตามขนาดของครอบครัวและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่แต่ละครอบครัวใช้ ถ้าปริมาณการใช้ พลงั งานไฟฟา้ ของครอบครัวหนูดใี นชว่ ง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 เปน็ ดังน้ี ปริมาณการใช้พลงั งานไฟฟา้ ของครอบครวั หนดู ี ในช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 และอัตราคา่ พลงั งานไฟฟ้า ประเภทบ้านอยอู่ าศยั เป็นดังน้ี หนว่ ยที่ ค่าพลงั งานไฟฟา้ 150 หน่วยแรก (หนว่ ยที่ 1 – 150) หนว่ ยละ 3.23 บาท 250 หนว่ ยต่อไป (หน่วยที่ 151 – 400) หน่วยละ 4.22 บาท เกนิ กวา่ 400 หน่วย (หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป) หนว่ ยละ 4.42 บาท ในชว่ ง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 ครอบครวั หนดู ีจ่ายคา่ พลังงานไฟฟ้าสูงทีส่ ุดในเดอื นใดเป็นเงนิ เทา่ ใด วิธีคดิ 1. หาปริมาณการใช้พลงั งานไฟฟา้ สูงสดุ จากกราฟ พบวา่ เดอื นเมษายน ครอบครัวของหนดู ีใชพ้ ลังงานไฟฟา้ สงู สดุ จำนวน 395 หน่วย 2. หาค่าพลงั งานไฟฟ้า จากตารางเเสดงอตั ราค่าพลังงานไฟฟา้ ดงั นี้ 150 หน่วยเเรก หน่วยละ 3.23 บาท จำนวน 150 หนว่ ย
คดิ เปน็ เงนิ 150 × 3.23 = 484.50 บาท 250 หน่วยต่อไป หน่วยละ 4.22 บาท จำนวน 395 − 150 = 245 หน่วย คิดเป็นเงิน 245 × 4.22 = 1,033.90 บาท ดังน้นั ครอบครัวของหนูดจี ่ายค่าพลงั งานไฟฟา้ 484.50 + 1,033.90 = 1,518.40 บาท ตอบ ๑,๕๑๘.๔๐ บาท ข้นั สรุป 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงทไ่ี ด้เรียนรู้ร่วมกนั ดงั น้ี การแก้โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับกราฟเส้น จะต้องพิจารณาวา่ คำถามคอื อะไร แล้วนำข้อมลู จากกราฟเสน้ มาใช้ในการหาคำตอบ 4. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั 3.8 หน้า 112 และ 113 เปน็ รายบคุ คล สือ่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 สสวท. 3. power point การสอน การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ที่ต้องการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ตรวจความถูกต้องของ แบบฝกึ หัด 3.8 ระดับพอใชข้ ึ้นไป แบบฝึกหัด 3.8 หน้า 112 และ 113 2. ด้านทักษะ หน้า 112 และ 113 ระดบั พอใช้ข้นึ ไป กระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ การเข้าเรยี น การทำงาน แบบสงั เกต พฤตกิ รรม ที่พึงประสงค์ ที่ได้รับมอบหมาย และ การส่งงานตรงเวลา
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถตรวจสอบวิธกี ารหาคำตอบโจทย์ปญั หาเกีย่ วกบั กราฟเส้นได้ 2. นกั เรียนสามารถแสดงวิธีหาคำตอบจากกราฟเสน้ ได้ถกู ต้อง 3. นกั เรียนต้งั ใจเรียนในเนอื้ หาที่คุณครูอธิบาย มีความกลา้ แสดงออก ชว่ ยคณุ ครตู อบคำถาม เมอ่ื มีขอ้ สงสยั นักเรยี นกล้าทจี่ ะซักถาม เพือ่ ใหต้ นเองเข้าใจ 2. ปญั หา/อุปสรรคทพ่ี บและแนวทางแกไ้ ข นกั เรียนบางส่วนอ่านโจทย์แล้วยงั ไมเ่ ข้าใจ วา่ โจทยต์ อ้ งการทราบอะไร โจทย์กำหนดอะไรมาให้บ้าง ทำให้ไม่ สามารถหาคำตอบของโจทย์ปัญหาได้ และนักเรยี นบางคนคำนวณหาคำตอบยังไมถ่ ูกตอ้ ง 3. ขอ้ เสนอแนะ ครอู ธิบายการแกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกบั กราฟเสน้ จะตอ้ งพจิ ารณาว่าคำถาม คือ อะไร แลว้ นำขอ้ มูลจากกราฟ เสน้ มาใช้ในการหาคำตอบ ครูยกตวั อยา่ งประกอบเพื่ออธิบาย และเปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101 ปกี ารศึกษา 2565 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 12 ช่ัวโมง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง การนำเสนอข้อมูล สพป.นราธิวาส เขต 2 เรื่อง ทดสอบหลังเรียน ครผู สู้ อน นางสาวณัฐนันท์ พุฒยนื โรงเรยี นบา้ นสไุ หงโก-ลก มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปญั หา ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ป.5/1 : ใชข้ อ้ มลู จากกราฟเสน้ ในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา ค 1.1 ป.5/2 : เขียนแผนภมู ิแท่งจากขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ จำนวนนับ สาระสำคญั การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับแผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่งเปรยี บเทียบ และกราฟเส้น จะต้องพิจารณาวา่ คำถามคืออะไร แล้วนำข้อมลู จากแผนภูมแิ ทง่ แผนภูมิแทง่ เปรยี บเทียบ และกราฟเสน้ มาใชใ้ นการหาคำตอบ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ตรวจสอบวิธีการหาคำตอบโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการอ่านแผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ และกราฟเสน้ ได้ (K) 2. แสดงวิธีหาคำตอบจากแผนภมู ิแทง่ แผนภูมิแทง่ เปรียบเทียบ และกราฟเสน้ ได้ (P) 3. นำความรู้เกีย่ วกบั โจทย์ปัญหาแผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ และกราฟเส้นไปใช้ในชีวิต จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทย์ปญั หาแผนภูมิแทง่ แผนภูมแิ ทง่ เปรยี บเทียบ และกราฟเสน้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสือ่ สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตุผล
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น โดยใช้แบบทดสอบ บทที่ 3 การนำเสนอขอ้ มูล เพอื่ ตรวจสอบ ความร้คู วามเข้าใจของนกั เรยี น สอ่ื การเรียนรู้ แบบทดสอบเรอื่ ง การนำเสนอขอ้ มลู การวดั ผลและประเมินผล สิง่ ทีต่ ้องการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ตรวจแบบทดสอบเรอ่ื ง แบบทดสอบเร่อื ง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การนำเสนอขอ้ มลู การนำเสนอข้อมูล 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต ระดับพอใช้ขน้ึ ไป กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น ทกั ษะกระบวนการ ระดับพอใช้ข้นึ ไป 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ การเขา้ เรยี น การทำงาน แบบสังเกต ทพี่ ึงประสงค์ ทไี่ ด้รับมอบหมาย และ พฤตกิ รรม การส่งงานตรงเวลา
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ท่ี 12 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถทำแบบทดสอบหลังเรียน โดยผา่ นเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล จำนวน 91 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 73.98 และนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล จำนวน 32 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 26.02 2. ปญั หา/อุปสรรคที่พบและแนวทางแกไ้ ข 1. นกั เรยี นทำขอ้ สอบไมท่ ันกับเวลาท่กี ำหนด 2. นักเรียนบางส่วนอ่านขอ้ มูลจากแผนภูมแิ ท่ง แผนภมู แิ ทง่ เปรยี บเทยี บ และกราฟเสน้ ไมไ่ ด้ ทำให้ตอบ คำถามไมถ่ ูกตอ้ ง และนักเรียนบางสว่ นคำนวณหาคำตอบไม่ทัน 3. ขอ้ เสนอแนะ ครสู อนเสริมเพ่มิ เตมิ นกั เรยี นท่ีสอบไม่ผ่าน และให้นักเรยี นสอบปรับคะแนนใหม่
Search