เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิด

ตัวชว้ี ัด ท 2.1 ป.4/3 เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งและ แผนภาพความคดิ เพ่อื ใชพ้ ฒั นางานเขยี น รายวิชาภาษาไทย

 เปรยี บเทยี บวธิ เี ขยี นแผนภาพโครงเรื่อง และแผนภาพความคดิ ได้  นาแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคดิ ไปพฒั นางานเขยี นได้  มคี วามใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี นและรบั ผดิ ชอบ

คือ การเขียนที่แสดงให้เห็น โครงเรื่องโดยรวมของเรื่อง ทาให้ จบั ใจความสาคัญของเรื่องที่อ่านได้ ยิ่งขึ้น ต้องอาศัยการตั้งคาถามและ ตอบคาถามจากเรอื่ ง

01 กาหนดช่ือเร่ือง 03 นาคาหรอื กล่มุ คาท่จี ด หรือความคิดรอบยอด บันทกึ ไว้ มาเรียงลาดบั ความสาคัญ 02 ระดมความคิดถงึ สิ่งที่ 04 เลือกรปู แบบ เกย่ี วข้องกับชือ่ เรื่อง แผนภาพความคดิ จดบันทกึ ไว้เปน็ คา หรอื กลมุ่ คาสน้ั ๆ ใหเ้ หมาะสมกับ การนาไปใช้ประโยชน์



อีกาตวั หนึ่งกาลังหิว มนั จึงบนิ ออกหาอาหาร มนั เหลือบไปเห็นเนอ้ื ชิน้ หนึ่งหลน่ อยู่ มันจงึ ใช้ปากคาบเน้อื ชน้ิ นั้นขนึ้ มา แลว้ บนิ ไปเกาะทต่ี น้ ไม้ตน้ หนง่ึ สนุ ขั จิ้งจอก ตัวหนึ่ง เดนิ ผ่านมาเห็นอกี าคาบเน้ืออยู่ในปาก มันอยาก กนิ เน้ือช้นิ น้นั มันจงึ เอ่ยปากทกั อกี าว่า “สวัสดคี รบั คณุ กา คุณชา่ งสงา่ งามอะไรอย่างนี้ ขนของคณุ ก็ดูสวยงามมาก” อีการ้สู กึ ชอบใจมาก มันมองดู ขนของตัวเองอยา่ งภมู ใิ จ สุนัขจ้งิ จอกจึงพูดตอ่ ไปวา่ “คุณคงมีเสียงทไี่ พเราะมาก คุณคงร้องเพลง เพราะดว้ ยใช่ไหม” อีการีบผงกหวั รับ “ถ้าอยา่ งนนั้ คุณชว่ ยรอ้ งเพลงให้ผมฟังสกั หนอ่ ยเถิดครับ” อีกาจึงอา้ ปากจะรอ้ งเพลง พอมันอา้ ปาก เนือ้ กห็ ลดุ จากปากตกลงท่พี นื้ สุนัขจงิ้ จอกจึงรบี คาบเนื้อ ชิ้นน้นั แล้ววง่ิ หนไี ป

แผนภาพโครงเรื่อง : กากบั สนุ ขั จง้ิ จอกเจา้ เล่ห์ ตวั ละครในเร่ือง : อีกาและสุนัขจ้งิ จอก สถานที่ : ต้นไมต้ ้นหนง่ึ เหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้ึน : อกี าซึ่งกาลงั คาบเนือ้ อยใู่ นปาก หลงเชื่อ คาพูดของสนุ ขั จิ้งจอกท่ีชมว่า อีกามีเสยี ง ไพเราะ จึงอา้ ปากจะรอ้ งเพลงให้สุนขั จิ้งจอกฟัง ผลของเหตกุ ารณ์ : ทาใหช้ ิน้ เนื้อทอ่ี กี าคาบมาหล่นจากปาก สุนขั จิ้งจอกจงึ มาคาบเนื้อ ไปกินแทน ขอ้ คดิ เห็น/ข้อสรปุ : อย่าไวใ้ จทาง อยา่ วางใจคน จะจนใจเอง คือ หากไว้ใจคนอื่นมาก จนเกินไป อาจจะทาให้ ได้รบั เคราะหห์ รอื ผลเสียได้

คือ การถ่ายทอดความคิด หรือ ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ในสมองลงใน กระดาษ โดยผ่านการใช้ภาพ สี เส้น และการโยงใย แทนการจดย่อ แบบเดิมที่เป็นบรรทัดๆ

เขยี นหวั ขอ้ หลกั ใหญ่ เขยี นหวั ข้อย่อยรองลงมา เชือ่ มโยงความคิดโดยใชเ้ ส้น ไว้ตรงกลาง เปน็ ลาดบั จากใหญไ่ ปยอ่ ย ใหเ้ หน็ ความสัมพนั ธ์ เขยี นคาเช่ือมทแ่ี สดงให้เหน็ คาทน่ี ามาเขียนควร ความสมั พันธ์ทางความคดิ เป็นคาสาคญั





คา้ งคาวน้นั ถือว่าตนมีปกี เหมือนนกเเละกม็ ีหู เหมอื นสตั วอ์ นื่ ท่วั ๆ ไป ดงั น้ันเม่อื นกยกพวกไปต่อสกู้ ับ สตั ว์อืน่ ๆ ค้างคาวก็ขอตวั ไม่เข้าขา้ งฝ่ายใดโดยทาตวั เป็น กลาง เเต่เมอ่ื พวกของนกมีท่าทวี ่าจะชนะ ค้างคาวก็ ประกาศตวั ไปเข้ากบั ฝา่ ยนก ต่อมาพวกนกจะพลาดท่าเสยี ทเี เก่สตั วอ์ ่นื ๆ คา้ งคาวก็ผละจากนกไปเข้าพวกกับสตั วอ์ ่ืน ๆ ต่อมานก ตอ่ สู้จนใกล้จะไดช้ ัยชนะ ค้างคาวกก็ ลบั มาอยขู่ ้างฝา่ ยพวก นกอกี เมอ่ื นกสตั ว์อ่นื ๆ ทาสญั ญาสงบศกึ เเละเป็นมติ รต่อ กนั ทงั้ สองตา่ งก็ขับไล่คา้ งคาว ไมย่ อมใหเ้ ขา้ พวกดว้ ย ค้างคาวอบั อายจงึ ไปซ่อนตัวอยใู่ นถา้ จะออกจากถ้าไปหา อาหารในเวลากลางคนื เทา่ น้นั

การวางตัวเป็นกลาง การยดึ ถือคาสัตย์ ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากนิทาน ความละอายแก่ใจ เรอ่ื ง ค้างคาวเลอื กพวก การเลือกคบมิตร ควรเลือกคบคนท่มี คี วามจรงิ ใจ