ถุงหอมสมุนไพรดับกลิ่นอับ

รายงานการศึกษาค้นคว้าดว้ ยตัวเอง เรือ่ ง ถงุ หอมสมนุ ไพรดบั กล่ินอบั โดย นางสาวชนิดาภา เกมแกรแมน เลขท่ี 6 ม.5/1 นางสาวศุภกาญจน์ อ่นิ คำ เลขท่ี 11 ม.5/1 นางสาวศุภรานนั ท์ จติ ตรง เลขท่ี 12 ม.5/1 นางสาวกชพร มหาวนั เลขที่ 16 ม.5/1 ครูท่ีปรึกษา คุณครดู ำรงค์ คันธะเรศน์ สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษานา่ น รางานฉบับนเ้ี ปน็ ส่วนหนึง่ ของรายวิชา การศกึ ษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ( IS 32101 ) โรงเรยี นปวั อำเภอปวั จังหวัดน่าน ปีการศกึ ษา 2565



รายงานการศึกษาค้นคว้าดว้ ยตัวเอง เรือ่ ง ถงุ หอมสมนุ ไพรดบั กล่ินอบั โดย นางสาวชนิดาภา เกมแกรแมน เลขท่ี 6 ม.5/1 นางสาวศุภกาญจน์ อ่นิ คำ เลขท่ี 11 ม.5/1 นางสาวศุภรานนั ท์ จติ ตรง เลขท่ี 12 ม.5/1 นางสาวกชพร มหาวนั เลขที่ 16 ม.5/1 ครูท่ีปรึกษา คุณครดู ำรงค์ คันธะเรศน์ สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษานา่ น รางานฉบับนเ้ี ปน็ ส่วนหนึง่ ของรายวิชา การศกึ ษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ( IS 32101 ) โรงเรยี นปวั อำเภอปวั จังหวัดน่าน ปีการศกึ ษา 2565

ก บทคัดย่อ ช่ือเรือ่ ง ถุงหอมสมุนไพรดับกล่ินอบั คณะผ้ศู ึกษา ชนิดาภา เกมแกรแมน ศภุ รานนั ท์ จติ ตรง และกชพร มหาวัน ครูทปี่ รึกษา คุณครดู ำรงค์ คนั ธะเรศ ปีการศึกษา 2565 ปัจจบุ ันสภาวะส่งิ แวดล้อมเป็นมลพษิ ต่อระบบหายใจ หากเราซ้อื นำ้ ยาดับกล่ินตามทอ้ งตลาดมา ใช้นน้ั ก็จะมีราคาท่แี พง เพราะส่วนใหญ่ผลิตมาจากสารเคมีทำให้เกดิ อนั ตรายต่อสภาพแวดลอ้ มมากขนึ้ ผ้จู ดั ทำจึง ศกึ ษาสมนุ ไพรท่ีหางา่ ยในทอ้ งถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มกี ล่ินหอม เช่น ใบเตย ผิวมะกรดู ตะไคร้ ดอกไมแ้ หง้ มา ทดลองเพ่ือเปรยี บเทยี บปริมาณทเ่ี หมาะสมที่จะสามารถกำจดั กลน่ิ ในสถานท่ีตา่ ง ๆ ภายในบ้านท่มี ีกลน่ิ อบั เช่น มมุ ตเู้ ส้ือผ้า หอ้ งนำ้ เปน็ ตน้ จากการศึกษาพบว่าสมุนไพรท่ีเหมาะสมทส่ี ามารถกำจัดไดด้ ีทีส่ ุดคอื ผิวมะกรูด รองลงมาคอื ใบเตย จึงได้ นำมาทำถุงหอมสมนุ ไพรเพือ่ นำวัตถุดบิ ทเ่ี หลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ เพ่มิ มูลค่าให้กับสมุนไพรท้องถิ่น อกี ทัง้ ยัง สามารถทำให้บ้านมีสขุ ภาวะทีด่ ีอกี ดว้ ย

ข คำนำ เคา้ โครงงานเลม่ น้ีจัดทำข้นึ เพอื่ เปน็ ส่วนหนง่ึ ของวชิ า IS 32101 การศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตวั เอง ในระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/1 เพื่อใหไ้ ด้ศึกษาความร้ใู นเร่ือง ถุงหอมสมุนไพรดบั กลน่ิ อบั และ ไดศ้ กึ ษาอยา่ งเขา้ ใจเพื่อเปน็ ประโยชนส์ ำหรับผู้ท่ีจะนำไปตอ่ ยอด คณะผจู้ ัดทำหวังวา่ เค้าโครงงานจะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้อ่าน ผู้ทศ่ี กึ ษา ที่กำลังหาข้อมูลเรอื่ งอยู่ หากมี ขอ้ แนะนำและขอ้ ผิดพลาดประการใด คณะผ้จู ัดทำขอน้อมรับและขออภยั มา ณ ท่ีนด้ี ้วย คณะผู้จัดทำ วันท่ี 20 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2565

ค กติ ตกิ รรมประกาศ เค้าโครงวิจัยฉบบั นี้สำเร็จลงได้ดว้ ยดี เนือ่ งจากความกรุณาอยา่ งสูงจาก คุณครูดำรงค์ คนั ธะเรศอาจารย์ท่ี คอยให้ความรู้ คำเเนะนำ เเละเเนวทางในการปรบั ปรุงพัฒนาโครงรายงานฉบับน้ใี หม้ ปี ระสิทธภิ าพ คณะผู้จัดทำ ตระหนักถงึ ความตงั้ ใจจรงิ เเละความทุ่มเทของอาจารย์ ขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ ทนี่ ี้ คณะผ้จู ัดทำหวังวา่ เค้าโครงวจิ ยั ฉบบั นจี้ ะมปี ระโยชน์อยูไ่ ม่น้อย เเละขอมอบส่วนดีนเี้ เก่เหล่าคณะครู ผู้มี ความรู้ ที่ได้เเบ่งปนั ขอ้ มูล งานวิจยั ซ่ึงมีประโยชนต์ อ่ การทำโครงฉบับนี้ หากมีขอ้ บกพร่องเกิดขึน้ คณะผจู้ ัดทำขอ อภัยมา ณ ทน่ี ี้

สารบัญ ง บทคดั ย่อ หน้า คำนำ กิตตกิ รรมประกาศ ก สารบญั ข บทที่ 1 บทนำ ค ง 1.1 ท่ีมาและความสำคญั 1 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1 1.3 ขอบเขตการศึกษา 1 1.4 สมมติฐาน 2 1.5 ตัวแปรด้านการศึกษา 2 1.6 นยิ ามศัพท์เฉพาะ 2 1.7 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รบั 2 1.8 แผนการปฏิบตั งิ าน 2 บทที่ 2 เอกสารอา้ งองิ และงานวจิ ัยท่ีเกย่ี วขอ้ ง 3 2.1 ความหมายของถุงหอมสมุนไพร 4 2.2 องคป์ ระกอบของถงุ หอมสมุนไพร 4 2.3 งานวจิ ัยทเี่ กย่ี วข้อง 4 6

สารบญั ( ตอ่ ) จ บทท่ี 3 วิธกี ารดำเนนิ การทดลอง หน้า 3.1 ระเบียบวิธที ใี่ ช้ในการศึกษา 7 3.2 ประชากร/กล่มุ ตวั อย่าง 7 3.3 วิธดี ำเนินการศึกษา 7 3.4 เครื่องมอื ท่ใี ช้ในการศึกษา 7 3.5 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 7 3.6 การวิเคราะห์ขอ้ มูล 8 3.7 สถิติท่ีใช้ในการศกึ ษา 9 9 บทท่ี 4 ผลการทดลอง 10 บทที่ 5 สรุปผล และอภปิ รายผลการทดลอง 11 บรรณานุกรม

1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ทม่ี าและความสำคัญ เนอ่ื งจากประเทศไทยเป็นเมอื งรอ้ นชนื้ การท่ฝี นตกบ่อย ๆ จงึ ทำใหอ้ ากศมีความชน้ื มาก อาจจะส่งผลให้หอ้ งต่าง ๆ ภายในบา้ นมกี ลิ่นอบั ที่ไมพ่ ึงประสงคไ์ ด้ จงึ ได้มีการผลติ ส่ิงตา่ ง ๆ มาระงบั กล่ินอบั ภายในบา้ น เช่น พมิ เสน ลูกเหมน็ เปน็ ต้น ซึง่ ส่งิ เหล่านี้ลว้ นเปน็ สารเคมี หากใชไ้ มถ่ กู วธิ ีก็ อาจจะเกดิ อนั ตรายกับร่างกายได้ ปัจจบุ ันสภาวะสิ่งแวดลอ้ มเปน็ มลพษิ ตอ่ ระบบหายใจ หากเราซอ้ื น้ำยาดับกลิ่นตามทอ้ งตลาดมาใชน้ น้ั ก็จะมรี าคาท่ีแพง เพราะสว่ นใหญผ่ ลิตมาจากสารเคมีทำใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สภาพแวดลอ้ มมากข้นึ ในภมู ปิ ญั ญาไทยในอดตี ได้มีการนำสมนุ ไพรและดอกไม้ทีม่ ีกลิ่นหอมนานาชนิด เชน่ ตะไคร้ มะกรดู กานพลู ดอกพกิ ุล ฯลฯ นำไปตากแห้งกอ่ นจะนำมาบรรจใุ ส่ในถงุ ทที่ ำมาจากผ้า หรอื นำไปใส่ กล่องทที่ ำมาจากไม้หรือกระสา แลว้ จงึ สามารถนำไปใชเ้ พ่ือนดบั กล่ินท่ไี ม่พึ่งประสงคใ์ นสว่ นตา่ ง ๆ ภายในบ้าน กล่มุ ของขา้ พเจ้าเลง็ เหน็ ถึงคณุ ประโยชน์ในการดับกลน่ิ จากถุงหอมสมนุ ไพร ทีส่ ามารถทำเอง ได้บา้ น อกี ทั้งยงั สามารถท่จี ะเพม่ิ มูลค่าใหก้ ับสมนุ ไพรท่หี าได้ง่ายในทอ้ งถ่นิ โดยไม่ก่อผลเสียภายใน รา่ งกายแต่อย่างใด 1.2 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อทำถงุ หอมดับกลิน่ อบั จากดอกไมแ้ ละสมุนไพรพน้ื บ้านที่สามารถหาได้ง่ายตามท้องถ่ิน 2. เพ่ือสำรวจความคดิ เหน็ เก่ียวกับความสามารถในการกำจดั กล่นิ ของดอกไม้และสมนุ ไพร 3. เพอ่ื เปรียบเทยี บความสามารถใน การกำจัดกลิน่ ของดอกไม้และสมุนไพรแต่ละชนิด

2 1.3 ขอบเขตของการศกึ ษา ขอบเขตด้านประชาการ นกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 176 คน ขอบเขตด้านเวลาในการทดลอง วนั ที่ 1 สงิ หาคม 2565 ถึง วันท่ี 31 สิงหาคม 2565 1.4สมมตฐิ าน 1. สามารถทำถุงหอมดอกไมแ้ ละสมุนไพรดบั กลนิ่ อับทใี่ ช้งานไดจ้ รงิ 2. สามารถเปรยี บเทียบความหอมของถงุ หอมทม่ี ีสมุนไพรและดอกไมแ้ ละต่างชนดิ กันได้ 3. ผลสำรวจจากการใชง้ านจริงมแี นวโน้มไปในทางทด่ี แี ละพึงพอใจ 1.5 ตวั แปรทต่ี อ้ งการศกึ ษา ตัวแปรต้น : ประเภทของดอกไม้และสมุนไพรทใ่ี ส่ในถงุ หอม ตัวแปรตาม : กลน่ิ ท่ีไดจ้ ากดอกไมแ้ ละสมนุ ไพรจะสามารถดับกล่ินอบั ภายในห้องได้ ตัวแปรควบคุม : ประเภทของผา้ ทีม่ าเย็บถงุ หอม 1.6 นยิ ามศพั ท์ ในภมู ิปญั ญาไทยในอดตี ได้มกี ารนำสมนุ ไพรและดอกไมท้ ่มี กี ลน่ิ หอมนานาชนดิ เชน่ ตะไคร้ มะกรดู กานพลู ดอกพิกลุ ฯลฯ นำไปตากแห้งกอ่ นจะนำมาบรรจุใสใ่ นถุงทท่ี ำมาจากผา้ หรือนำไปใส่ กลอ่ งที่ทำมาจากไมห้ รอื กระสา เรียกวา่ ถงุ หอมสมุนไพร แล้วจึงสามารถนำไปใช้เพอ่ื นดบั กล่ินทไ่ี ม่พ่ึง ประสงค์ในสว่ นต่าง ๆ ภายในบา้ น 1.7ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั 1. สรา้ งความพงึ พอใจในการใช้ถงุ หอมดบั กลิ่นอบั ได้จากผู้ใชง้ าน 2. สามารถช่วยดบั กลนิ่ อับช้ืนและเพม่ิ ความหอมในห้องไดจ้ ริง โดยไม่มกี ารใช้สารเคมี 3. ช่วยเพิม่ มูลค่าใหก้ ับดอกไม้หรือพชื สมนุ ไพรทอ้ งถิ่นท่ีส่งกล่นิ หอมได้

1.8แผนปฏิบตั งิ าน 3 กิจกรรม กำหนดช่วงเวลาท่ีทำกิจกรรม การศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูลเพิม่ เตมิ 25 ก.ค. 2565 ถึง 31 ก.ค. 2565 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน 1 ส.ค. 2565 ถึง 7 ส.ค. 2565 8 ส.ค. 2565 ถึง 21 ส.ค. 2565 ปฏบิ ัตกิ ารทดลอง 22 ส.ค. 2565 ถึง 25 ส.ค. 2565 การวิเคราะห์ขอ้ มูล 27 ส.ค. 2565 ถึง 31 ส.ค. 2565 การเขียนรายงาน

4 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ความหมายของถงุ หอมสมุนไพร คำว่า สมุนไพร ตามพจนานกุ รมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถงึ พืชท่ีใช้ทำเป็นเครื่องยา สมนุ ไพรกำเนดิ มาจากธรรมชาติและมีความหมายตอ่ ชีวติ มนุษยโ์ ดยเฉพาะ ในทางสขุ ภาพ อันหมายถงึ ท้ังการ สง่ เสรมิ สขุ ภาพและการรกั ษาโรค ความหมายของยาสมุนไพรในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ไดร้ ะบุว่า ยา สมุนไพร หมายความว่า ยาทไ่ี ด้จากพฤกษาชาตสิ ัตวห์ รือแร่ธาตุ ซ่งึ มไิ ดผ้ สมปรุงหรือแปรสภาพ เชน่ พชื กย็ ัง เป็นส่วนของราก ลำต้น ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซึง่ มิได้ผา่ นข้นั ตอนการแปรรูปใด ๆ แตใ่ นทางการคา้ สมุนไพรมกั จะ ถูกดดั แปลงในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ถกู ห่ันใหเ้ ปน็ ช้ินเล็กลง บดเป็นผงละเอียด หรืออดั เป็นแทง่ แตใ่ นความรู้สึก ของคนทั่วไปเมอ่ื กล่าวถงึ สมุนไพร มักนึกถงึ เฉพาะตน้ ไม้ท่ีนำมาใชเ้ ปน็ ยาเทา่ นนั้ ถงุ หอมสมนุ ไพร เป็นถงุ ผา้ ขนาดเลก็ ท่ีมีสมุนไพรบรรจไุ วภ้ ายใน สมนุ ไพรทใ่ี ชบ้ รรจุกจ็ ะเปน็ สมนุ ไพรท่ี มีนำ้ มันหอมระเหย เช่น มะกรูดมะนาว ตะไคร้ และใบเตย ซงึ่ มคี ุณสมบัตลิ ดกลนิ่ อับและกลน่ิ ทีไ่ ม่พึงประสงค์ ใช้แขวนในบริเวณทอ่ี ับ อยา่ งเช่น ในต้เู สอ้ื ผ้า รถยนต์ รองเทา้ ผ้าใบ และในหอ้ งน้ำ องค์ประกอบของถงุ หอมสมุนไพร 2.1 ตะไคร้ (ชอื่ วทิ ยาศาสตร์: Cymbopogon citratus); ชื่อท้องถ่นิ : จะไคร,จก๊ั ไคร (ภาคเหนอื ), หัว ซิงไค (ภาคอีสาน), ไคร (ภาคใต้), คาหอม (แม่ฮอ่ งสอน), เชิดเกรย, เหลอะเกรย (เขมร-สรุ ินทร)์ , ห่อวอตะโป่ (กะเหร่ยี ง-แม่ฮ่องสอน) ) เปน็ พชื ล้มลกุ ในวงศห์ ญ้า (Poaceae) ความสงู ประมาณ 4-6 ฟตุ ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลำตน้ รวมกนั เป็นกอ มกี ลนิ่ หอม เปน็ ชอ่ ยาวมดี อกเลก็ ฝอยเปน็ จำนวนมาก ตะไครเ้ ปน็ พชื ทสี่ ามารถนำสว่ นต้นหวั ไป ประกอบอาหาร และจดั เปน็ พชื สมนุ ไพรดว้ ย ประโยชน์ของตะไคร้ ใช้สว่ นของเหงา้ และลำตน้ แก่ ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารที่สำคัญหลายชนดิ เชน่ ตม้ ยำ และอาหารไทย หลายชนิด ใหก้ ลิ่นหอม มีสรรพคณุ ทางยาเชน่ บำรงุ ธาตุ แก้โรคทางเดินปสั สาวะ ขบั ลมในลำไส้ทำใหเ้ จรญิ อาหาร แกโ้ รคหดื แก้อหวิ าตกโรค บำรงุ สมอง ช่วยให้สมาธิดี ตม้ กับนำ้ ใช้ดม่ื แกอ้ าเจยี น ใช้ตน้ สดโขลกค้นั เอา นำ้ ดื่มแก้อาการเมาในกรณผี ู้ท่เี มามาก ๆ ชว่ ยให้สรา่ งเรว็ สว่ นหวั สามารถใช้แก้โรคเกลอื้ น ทอ้ งอืดท้องเฟอ้ โรค น่วิ มากไปกว่าน้ันยงั สามารถทำเปน็ ยาชว่ ยนอนหลบั ช่วยลดความดันสูง นำ้ มนั ตะไคร้หอมใชท้ ากนั ยงุ ได้ ถา้

5 ปลูกใกล้ผกั อื่น ๆ จะชว่ ยกันแมลงได้และยงั ให้กลิ่นหอม ทด่ี บั กล่ินบางชนดิ ใช้ตะไครเ้ ปน็ สว่ นผสมเพราะมีกลน่ิ ท่หี อม และทกี่ ำจัดยงุ บางชนิดกใ็ ช้ตะไครเ้ ปน็ ส่วนผสมดว้ ยเนอื่ งจากมีกล่ินทแี่ รงจึงช่วยทำให้ไล่ยุงได้ นอกจากนตี้ ะไครย้ งั แก้กล่ินคาวหรอื ดบั กลิ่นคาวของปลา และเนอ้ื สัตว์ได้ดมี าก ๆ สรรพคณุ : ทัง้ ตน้ ใชเ้ ปน็ ยารักษาโรคหืด แกป้ วดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหิวาตกโรค หรอื ทำเปน็ ยาทานวดก็ ได้ และยงั ใชร้ วมกับสมนุ ไพรชนิดอืน่ รกั ษาโรคได้ เชน่ บำรงุ ธาตุ เจรญิ อาหาร และขับเหง่อื และมกี ลน่ิ ฉุน สามารถไล่แมลงได้ หัว เปน็ ยารักษาเกล้อื น แกท้ อ้ งอืดท้องเฟ้อ แก้ปสั สาวะพิการ แก้น่ิว บำรุงไฟธาตุ แก้อาการขัดเบา ถา้ ใช้รวม กบั สมนุ ไพรชนิดอืน่ จะเป็นยาแก้อาเจียน แก้ทราง ยานอนหลบั ลดความดันสูง แกล้ มอัมพาต แกก้ ษัยเสน้ และ แกล้ มใบ ใบสด ๆ จะช่วยลดความดันโลหติ สูง แก้ไข้ ราก ใชเ้ ป็นยาแก้ไขเ้ หนือ ปวดท้องและท้องเสยี ตน้ ใชเ้ ปน็ ยาแก้ขบั ลม แกเ้ บอื่ อาหาร แก้ผมแตก แก้โรคทางเดินปสั สาวะ น่ิว เปน็ ยาบำรุงไฟธาตใุ ห้เจริญ แต่ ถา้ เอาผสมกบั สมุนไพรชนดิ อนื่ จะแกโ้ รคหนองใน และนอกจากน้ียังใช้ดบั กลิ่นคาวไดด้ ้วย 2.2 มะกรูด เป็นพืชในสกุลส้ม (Citrus) มีถิน่ กำเนิดในประเทศลาว อนิ โดนเี ซีย มาเลเซีย และไทย ใน เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ นิยมใชใ้ บมะกรดู และผิวมะกรดู เป็นสว่ นหน่ึงของเครอ่ื งปรงุ อาหารหลายชนิด นอกจากในประเทศไทยและลาวแลว้ ยังมีความนิยมในกัมพูชา เวยี ดนาม มาเลเซยี และอนิ โดนเี ซีย (โดยเฉพาะบาหล)ี ประโยชน์ของมะกรูด เป็นยาบำรุงหวั ใจ ขับลมในลำไส้ แก้แน่นท้องจกุ เสยี ด กระทุ้งพษิ แกฝ้ ภี ายในและแก้เสมหะเปน็ พษิ ช่วยบำรงุ ผมให้เงางามแก้อาการผมรว่ ง 2.3 มะนาว เป็นพชื ชนิดหนงึ่ ผลมรี สเปรี้ยวจัด จัดอยใู่ นสกลุ สม้ (Citrus) ผลสเี ขียว เม่อื สุกจัดจะเป็น สเี หลอื ง เปลอื กบาง ภายในมีเน้ือแบง่ กลีบๆ ชุ่มน้ำมาก นับเป็นผลไมท้ ีม่ ีคุณค่า นิยมใชเ้ ปน็ เครอื่ งปรุงรส นอกจากน้ยี ังถอื วา่ มีคุณคา่ ทางโภชนาการและทางการแพทยด์ ว้ ย ประโยชนข์ องมะนาว

6 มะนาวเป็นผลไมท้ ่ีมีกรดอนิ ทรยี ์หลายชนดิ เช่น กรดซติ รกิ กรดมาลิก วติ ามินซี จากน้ำมะนาว ส่วนนำ้ มันหอม ระเหยจากผิวมะนาว มวี ิตามนิ เอและซี ทง้ั ยงั มีธาตุแคลเซยี มและฟอสฟอรสั สูงกวา่ ในน้ำมะนาวอีกด้วย มะนาวมปี ระโยชนใ์ ชเ้ ป็นยาสมนุ ไพร ขบั เสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟนั เหงือกบวม 2.4 เตยหอม (ช่ือวทิ ยาศาสตร:์ Pandanus amaryllifolius come) เป็นไม้ยนื ต้นพุ่มเล็ก ขน้ึ เปน็ กอ ใบเปน็ ใบเดยี่ ว เรียงสลับเวียนเป็นเกลียวข้นึ ไปจนถึงยอด ใบเปน็ ทางยาว สีเข้ม เปน็ มนั เผือก ขอบใบเรยี บ แต่ ใบบางต้นอาจมีหนาม ในใบมีกลน่ิ หอมจากนำ้ มันหอมระเหย Fragrant Screw Pine สีเขียวจากใบเป็นสขี อง คลอโรฟลิ ล์ ใช้แต่งสขี นมได้ ประโยชน์ของเตยหอม ในบงั กลาเทศเรียกวา่ ketaki ใช้เพมิ่ กลน่ิ หอมของ ขา้ วพิลาฟ หรอื ข้าวปุเลา บริ ยานี และพดุ ดิ้งมะพรา้ ว payesh ในอนิ โดนเี ซยี เรียก pandan wangi พมา่ เรยี ก soon-mhway ในศรีลังกาเรียก rampe ในเวยี ดนาม เรียก lá dứa ใบใช้ไดท้ ั้งใบสดและใบแห้ง และมีขายในรูปใบแช่แข็งในประเทศท่ีปลกู ไมไ่ ด้ ใช้ปรงุ กล่นิ ใน อาหารของหลายประเทศเชน่ อนิ โดนีเซยี สิงคโปร์ ฟลิ ิปปนิ ส์ มาเลเซยี ไทย บงั กลาเทศ เวียดนาม จีน ศรี ลงั กา และพมา่ โดยเฉพาะขา้ วและขนมเตยหอมในอินเดีย การใชม้ ีท้งั นำไปขยำกับกะทิ ใสใ่ นภาชนะหงุ ตม้ ไกใ่ บเตยจะเป็นการนำใบเตยมาห่อไกแ่ ลว้ นำไปทอด ใช้แตง่ กลิ่นเค้กใบเตย และของหวานอน่ื ๆ ในฟิลิปปินสใ์ ช้เตยหอมแต่งกล่นิ ในสลดั ท่ีเรยี ก buko pandan กลนิ่ หอมของใบเตยเกิดจากสารเคมที ่ีเรยี กวา่ 2-acetyl-1-pyrroline ซง่ึ เป็นกล่นิ แบบเดียวกับทีพ่ บ ในขนมปงั ขาว ข้าวหอมมะลิและดอกชมนาด มสี ารสกดั จากใบเตยขาย ซ่ึงมักจะแตง่ สเี ขียว ใบใช้ไล่แมลงสาบ ได้ 3. งานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ดรณั ภทั ร ชัยธานี (2560) ปัจจบุ นั สภาวะแวดลอ้ มมีกล่ินเป็นมลพิษต่อระบบหายใจหากเราซอ้ื น้ำยาดับกล่ิน ตามท้องตลาดมาใชน้ นั้ จะจะมรี าคาแพงซง่ึ ส่วนใหญจ่ ะผลิตจากสารเคมีทำให้เกดิ อนั ตรายต่อสภาพแวดลอ้ ม มากข้ึน ผู้จดั ทำจึงศกึ ษาสมนุ ไพรที่หางา่ ยในท้องถน่ิ และเป็นสมุนไพรทมี่ ีกลิน่ หอม เช่น ใบเตย ผิวมะกดู ตะไครม้ าทดลองกลิน่ หอมของสมุนไพรเพอื่ เปรยี บเทียบปริมาณท่เี หมาะสมและชนดิ ของสมนุ ไพรท่สี ามารถ กำจดั กลิน่ ในสถานทต่ี า่ ง ๆ เชน่ หอ้ งนำ้ สถานท่ีท่ีมกี ลนิ่ อบั จากการศึกษาพบวา่ สมุนไพรท่ีเหมาะสมสามารถ กำจดั กลิ่นได้ดีท่ีสุดคือผวิ ของมะกูด รองลงมาก็คอื ใบเตย

7 ส่วนสุดทา้ ยคือตะไคร้ จงึ ได้นำมาทำถุงหอมสมนุ ไพรเพื่อนำวตั ถุดบิ ทเ่ี หลือใชม้ าทำให้เกดิ ประโยชน์ยงั ทำให้ แขกของโรงแรมทม่ี าใชบ้ ริการห้องน้ำมีสุขภาวะที่ดีและเพ่ือช่วยลดต้นทุนให้กับ ผลจากการทำโครงงานสหกิจศกึ ษาเรือ่ งถุงหอมสมุนไพรกอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์คือสถานประกอบการสามารถนำ ผลติ ภัณฑถ์ ุงหอมสมุนไพรนไี้ ปใช้ดบั กลิ่นไมพ่ งึ ประสงค์ต่าง ๆ เชน่ ห้องนำ้ หอ้ งครวั เป็นตน้ แทนการใช้น้ำยาดับ กลิ่นท่ีซอื้ ตามท้องตลาดซ่ึงมรี าคาค่อนข้างแพงการทำโครงงานนี้ทำให้สามารถชว่ ยลดตน้ ทุนของสถาน ประกอบการได้ ดวงทิพย์ กนั ฐา รุงทิพย์ มาศเมธาทพิ ย์ และ พลฏั ฐ เลยี วกิจสริ (ิ 2561) ประสิทธิภาพในการไล่ยงุ ราํ คาญ Culex quinquefasciatus (Diptera: Culicidae) ของแก้วรูพรุน หรือ foam glass ผลติ มาจากเศษแกว้ เหลอื ทิ้งจากการผลิตกระจกแลว้ ผ่านกระบวนการข้นึ รปู ด้วยความร้อน และไดอ้ ัดน้ํามนั หอมระเหยของสมนุ ไพรทีม่ ี คณุ สมบตั ิในการไล่ยุงลงไป จาํ นวน 5 กล่นิ ไดแ้ ก่ ยคู าลปิ ตสั ใบ กานพลู โหรพา ตะไครห้ อม และสม้ ที่พื้นท่เี ปิดโลงของอาคารเรียนและอาคารกจิ กรรมของ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร วิทยา เขตกาํ แพงแสน จงั หวัดนครปฐม (31.5 + 2o C, 55–57 % RH) โดยทาํ การ ทดสอบในชว่ งเวลา 19.00-22.00 น. ของเดอื นมถิ ุนายน 2558 พบวา่ หนิ ฟองน้ํากล่ินสม้ (citrus sinensis) มรี ะยะเวลาท่ียงุ รําคาญตัวแรกเขา้ มา เกาะบนร่างกาย (Protection time) สูงสดุ คอื 16.5 + 6.5 นาที รองลงมา คอื กลนิ่ ใบกานพลู (clove) คอื 16.0 + 8.0 นาที ส่วนกล่ินยูคาลปิ ตัส (eucalyptus) , โหระพา (sweet basil) และ ตะไครห้ อม (citronella) คือ 12.5 + 5.5 นาที, 8.5 + 0.5 นาที และ 7.5 + 1.5 นาที ตามลําดับ ซึง่ ไมแตกตางกนั อย่างมนี ัยสาํ คญั ทาง สถติ ิ (p > 0.05) สว่ นเปอรเซน็ ต์ในการไล่ยุง (Percent protection, %p) พบว่ากลนิ่ ใบกานพลู โหระพาและ กล่นิ สม้ ให้เปอรเซ็นตใ์ นการไลย่ งุ สงู คือ 63.81, 59.70% และ57.84% ตามลําดับ สวนกลิ่นยคู าลปิ ตัสและกลนิ่ ตะไคร้หอม มเี ปอรเซน็ ตใ์ นการไล่ยุงท่ีต่ํากวา่ คือ 39% และ 41% ตามลําดบั

7 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ การศกึ ษาคน้ คว้า ในการศกึ ษาครัง้ นี้ ผู้ศกึ ษาไดท้ ำการศึกษาถุงหอมดับกลน่ิ อับซง่ึ มวี ิธีการดังนี้ 1. ระเบยี บวธิ ที ี่ใชใ้ นการศกึ ษา ในการศกึ ษาใชร้ ปู แบบการสืบค้นขอ้ มลู จากหนังสือ อนิ เตอร์เน็ต และตอบแบบสอบถาม 2. ประชากร/กลมุ่ ตวั อย่าง 2.1 ประชากร ประชากรที่ใชใ้ นการศึกษาคร้งั นี้ เป็นนักเรยี นระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 โรงเรียนปัว ปีการศกึ ษา 2565 จำนวน 5 ห้องเรยี น เปน็ นักเรียนท้งั สน้ิ 176 คน 2.2 กลมุ่ ตัวอย่าง ประชากรท่ีใชใ้ นการศกึ ษาครัง้ น้ี เปน็ นกั เรยี นระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนปวั ปีการศึกษา 2565 จำนวน 5 หอ้ งเรียน เป็นนักเรียนท้งั สิน้ 176 คน 2.3 ระยะเวลาท่ีใช้ในการศึกษา ระยะเวลาทใี่ ช้ในการศึกษา ต้งั แตว่ ันนที่ 1 สิงหาคม 2565 ถึง 31 สงิ หาคม 2565 3. วธิ ีดำเนินการศกึ ษา ผู้ศกึ ษาไดด้ ำเนนิ การตามข้นั ตอนดงั น้ี 3.1 กำหนดเร่อื งท่จี ะศกึ ษา โดยสมาชิกทง้ั 3 คน ประชมุ ร่วมกัน และรว่ มกันคิดและวางแผน วา่ จะ ศึกษาเรือ่ งใด ( สมาชิกกลุ่มทั้ง 3 คน ได้มาโดยการเลอื กจากสมาชกิ ภายในเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 ) 3.2 สำรวจปัญหาท่ีพบในโรงเรยี น ซ่ึงมที ้ังปญั หาด้านผ้เู รยี น ครูผู้สอน อาคาร สถานที่ สงิ่ แวดลอ้ มใน โรงเรยี น ฯลฯ 3.3 เลอื กเรื่องที่จะศกึ ษา โดยเลอื กเรือ่ งที่สมาชกิ มีความสนใจมากที่สุด เพ่ือเปน็ แรงจงู ใจในการค้นหา คำตอบ 3.4 ศึกษาแนวคิดในการแก้ปญั หา ( ในขอ้ น้ยี ังไม่สามารถดำเนินการไดเ้ น่ืองจาก การเรยี นรายวิชา IS1 เวลามจี ำกดั ผู้ศึกษาจงึ ทำไดเ้ ฉพาะการสำรวจความคดิ เห็นและสร้างเครื่องมือ (แบบสอบถาม) ศึกษาเพยี ง เพื่อให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ เร่อื งกระบวนการวิจยั เท่านนั้ 3.5 ตัง้ ชอ่ื เรือ่ ง 3.6 สมาชิกท้ัง 3 คนของกลุม่ พบครูผสู้ อนเพอ่ื ปรึกษา วางแผนและรบั ฟังความคิดเหน็ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข

8 3.7 เขยี นความสำคัญความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขตการวจิ ัยและ ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั โดยศึกษาขอ้ มูลจากหนงั สือ วิทยานพิ นธ์และสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอรเ์ นต็ และ จดบนั ทึกในโครงรา่ งรายงานเชิงวชิ าการ (ตามใบงาน) 3.8 สรา้ งเคร่ืองมอื ท่ีเปน็ แบบสอบถาม จำนวน 5 ขอ้ 3.9 นำเคร่อื งมือท่ปี รับปรงุ แลว้ ไปใช้กับกลมุ่ ตวั อย่าง 3.10 รวบรวมขอ้ มูล 3.11 วิเคราะหข์ ้อมูล 3.12 สรุปการศึกษา 4. เครือ่ งมือทใี่ ช้ในการศกึ ษา เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการศึกษาคร้งั น้ี คือ แบบสอบถาม ( หรือแบบประเมนิ ความพึงพอใจ) 1 ฉบบั ซึ่งมี รายละเอยี ดดังน้ี 4.1 ออกแบบแบบสอบถาม เรือ่ ง ถุงหอมดับกล่ินอบั โดยขอคำแนะนำจากทีป่ รึกษาหรือผู้สอน โดย เตรียมรา่ งขอ้ คำถาม มีลักษณะเปน็ ขอ้ คำถามจำนวน 5 ข้อ เปน็ แบบมาตราสว่ นประมาณ 5 ระดบั คอื 5 หมายถงึ ชอบมากท่ีสดุ 4 หมายถงึ ชอบมาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง ชอบนอ้ ย 1 หมายถึง ไม่ชอบ การพจิ ารณาค่าเฉลีย่ จะใช้เกณฑ์ดังนี้ คา่ เฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง ชอบมากท่ีสดุ คา่ เฉล่ยี 3.51 – 4.50 หมายถงึ ชอบมาก คา่ เฉล่ยี 2.51 – 3.50 หมายถึง ปานกลาง ค่าเฉลย่ี 1.51 – 2.50 หมายถงึ ชอบน้อย คา่ เฉลย่ี 1.00 – 1.50 หมายถึง ชอบนอ้ ยท่ีสุด 4.2 สร้างแบบสอบถาม เร่ืองถงุ หอมดับกล่นิ อบั โดยขอคำแนะนำ จากครูทป่ี รึกษาหรอื ครูผู้สอน จากน้นั นำมาปรบั ปรุงแก้ไข แล้วนำไปตรวจสอบความเหมาะสม 4.3 นำแบบสอบถามเรอ่ื งถุงหอมดับกลิ่นอบั ท่แี กไ้ ข ปรับปรุงแล้วใหก้ ลุ่มตัวอย่างประเมิน หลงั จากนน้ั นำผลทไ่ี ด้มาหาคา่ เฉลยี่

9 5. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การศึกษาครงั้ นไี้ ดด้ ำเนินการโดยนำแบบสอบถามทีส่ ร้างขึ้นใหน้ ักเรยี นกลุม่ ตัวอยา่ งตอบ จำนวน 32 คน และเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากนกั เรียน ท่เี ปน็ กลุ่มตัวอยา่ ง โดยผูศ้ กึ ษาทงั้ 3 คน ดำเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ด้วยตนเอง 6. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ผศู้ ึกษาได้วเิ คราะหข์ อ้ มูล ดังนี้ 6.1 นำแบบสอบถามทัง้ หมดทตี่ อบโดยนกั เรียนกลมุ่ ตวั อยา่ ง มาหาค่าคะแนนรวม 6.2 นำผลรวมมาคิดค่าร้อยละและการหาคา่ เฉล่ยี 7. สถิตทิ ีใ่ ช้ในการศกึ ษา สถิติท่ีใช้ในการศึกษาครง้ั นี้ คอื รอ้ ยละและการหาคา่ เฉลีย่

10 บทที่ 4 ผลการทดลอง การวเิ คราะหข์ ้อมลู การศกึ ษาโครงงานเรอื่ งถุงหอมสมุนไพร ของนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 โรงเรียนปัว ปกี ารศึกษา 2565 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู การนำผลการวิเคราะห์ข้อมูล และการแปลผลการวิเคราะห์ข้อมูลการศกึ ษางานวจิ ยั ครง้ั น้ี ผู้วจิ ยั ไดใ้ ช้ โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ ำเร็จรปู ในการประมวลผลข้อมลู ผูท้ ำการได้วิเคราะหแ์ ละนำเสนอ ในรูปแบบของตาราง ประกอบคำอธบิ าย ตารางท่ี 4.1 ตารางบันทึกการเปลยี่ นแปลงลกั ษณะของถงุ หอม วันท่ี การเปลย่ี นแปลง ลกั ษณะถุงหอม กลิน่ ของถงุ หอม 8 สงิ หาคม ดสู ะอาด หอมแบบทั่วทัง้ หอม 15 สงิ หาคม เรม่ิ มีรา ฝุน่ ข้นึ กลิน่ หอมยังคงหอมแตน่ ้อยกวา่ วันที่ 8 สงิ หาคม 21 สิงหาคม มีราข้ึนและแมลงหวต่ี อม กลนิ่ เรมิ่ ไม่พงึ ประสงค์ จากตารางท่ี 4.1 พบว่า ในช่วงแรกของนำถุงหอมสมนุ ไพรไปวางไว้ที่มมุ อับต่าง ๆ ภายในบา้ น ถุงหอม สมนุ ไพรยงั คงมีลักษณะของถงุ ทส่ี ะอาด ไม่สกปรก มกี ล่นิ ทหี่ อมสดชน่ื ช่วยลดกลิ่นอบั ในบรเิ วณน้นั ๆ ได้จริง แต่ เมอื่ เวลาผ่านไป สมุนไพรภายในถุงเรม่ิ เหยี่ วลงทำให้มีการสง่ กลนิ่ ที่นอ้ ยลงแตย่ ังสามารถรับกฃนิ่ ได้ รอบ ๆ ถงุ หอม เริ่มมเี ชอ้ื รา ไรฝ่นุ ขึน้ เกาะ และเมอื่ สนิ้ สุดการทดลองจงึ พบวา่ ถงุ หอมสมุนไพรมเี ชอื้ ราขึ้นทัว่ ถุง อกี ท้งั ยงั มกี ลนิ่ ที่ไม่ พึงประสงค์เน่อื งจากสมนุ ไพรภายในไมส่ ามารถระงบั กลานไดจ้ งึ มแี มลงต่าง ๆ เชน่ แมลงหวีม่ าตอมรอบ ๆ ถงุ หอม

11 ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนและร้อยละของกล่มุ ตัวอยา่ งจำแนกตามข้อมลู พื้นฐานของผูต้ อบ แบบสอบถาม ดงั นี้ เพศ จำนวน ( คน ) ร้อยละ ชาย 50 50 หญงิ 50 50 รวม 100 100 จากตาราง 4.2 แสดงให้เหน็ วา่ กล่มุ ตวั อย่างท่ีตอบแบบสอบถามในคร้งั น้ี เปน็ เพศชาย จำนวน 50 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 50 และเป็นเพศหญงิ จำนวน 50 คน คดิ เป็นร้อยละ 50 ตารางที่ 4.3 แสดงแบบสำรวจความพงึ พอใจในการใช้ถุงหอมสมนุ ไพร 5 เรือ่ ง คะแนน ( ชอบมากท่ีสดุ ) 1234 ( ไม่ชอบ ) ( ชอบน้อย ) ( ปานกลาง ) ( ชอบมาก ) ลกั ษณะ กล่นิ จากตาราง 4.3 แสดงให้เหน็ ถึงการใส่คะแนนในความพงึ พอใจต่อถงุ หอมสมนุ ไพร

11 บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ ปจั จบุ ันสภาวะส่ิงแวดลอ้ มเป็นมลพิษตอ่ ระบบหายใจ หากเราซื้อนำ้ ยาดบั กล่นิ ตามทอ้ งตลาดมาใช้นั้น กจ็ ะมีราคาทีแ่ พง เพราะสว่ นใหญ่ผลิตมาจากสารเคมีทำให้เกิดอนั ตรายตอ่ สภาพแวดล้อมมากข้นึ ผู้จดั ทำจงึ ศึกษาสมุฯไพรท่ีหางา่ ยในท้องถน่ิ และเปน็ สมนุ ไพรท่ีมีกล่นิ หอม เชน่ ใบเตย ผิวมะกรดู ตะไคร้ ดอกไม้แหง้ มา ทดลองเพอ่ื เปรยี บเทียบปรมิ าณท่ีเหมาะสมท่ีจะสามารถกำจดั กล่นิ ในสถานท่ีต่าง ๆ ภายในบ้านทม่ี ีกลิ่นอับ เชน่ มมุ ตูเ้ สื้อผา้ หอ้ งน้ำ เปน็ ต้น จากการศึกษาพบว่าสมนุ ไพรท้องถ่ินทีเ่ หมาะสมทีส่ ามารถกำจัดไดด้ ีท่ีสุดคือ ผิวมะกรูด รองลงมาคอื ใบเตย จึงไดน้ ำมาทำถงุ หอมสมนุ ไพรเพื่อนำวตั ถดุ ิบท่ีเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ เพ่มิ มลู ค่าใหก้ ับสมุนไพรทอ้ งถิ่น อกี ทงั้ ยงั สามารถทำใหบ้ ้านมสี ขุ ภาวะที่ดอี ีกดว้ ย ดงั นัน้ คณะผจู้ ัดทำไดท้ ำถุง หอมสมนุ ไพรเมือ่ นำถงุ หอมสมุนไพรไปไว้ในทอ่ี บั เป็นเวลา 14 วัน ในชว่ งแรกพบว่าถุงสมุนไพรให้กล่ินหอม และชว่ ยดบั กล่นิ ไม่พงึ ประสงคใ์ นหอ้ งน้ำได้ดี แตพ่ อเวลาผ่านไปถุงสมุนไพรเรม่ิ ใหก้ ล่ินหอมไดน้ ้อยลงจนไมม่ ี กลนิ่ และมีราข้นึ ทถ่ี ุงสมุนไพรทไี่ ด้รบั ความช้นื มาก ๆ จากการศึกษาดงั กล่าวที่ให้คณะผู้จัดทำได้รับความรู้เก่ียวกบั สมนุ ไพรหลากหลายชนิดและทราบถึง สรรพคณุ ต่างๆของสมุนไพรมากขึน้ ฝึกประสบการณ์ในการทำถงุ หอมสมนุ ไพร ฝึกทกั ษะกระบวนการทำงาน รว่ มกันเปน็ กลุ่ม และไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ เนอื่ งดว้ ยถงุ หอมสมนุ ไพรมีอายกุ ารใชง้ านที่จำกดั คณะผ้จู ัดทำจึงควรจะไปศึกษาขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ เพอ่ื นำมาพัฒนาให้ถงุ หอมสมุนไพรมีอายุการใช้งานทีย่ าวนานขน้ึ และสามารถให้กล่นิ หอมได้นานขึน้ มากกว่าเดมิ

บรรณานุกรม คลงั ทรัพยากรการศกึ ษาแบบเปิด.//(2558).//ถงุ หอมสมุนไพร.//สืบคน้ เม่อื 28 สงิ หาคม 2565./จาก https://oer.learn.in.th/search_detail/result/2369 ฐานข้อมูลงายวิจัยมหาวิทยาลยั สยาม.//(2560).//ถงุ หอมสมุนไพร.//สบื คน้ เมอ่ื 28 สิงหาคม 2565./จาก https://e-research.siam.edu/kb/sachet-with-aromatic-herb/ วิกพิ ีเดีย.//(2525).//สมนุ ไพร.//สบื คน้ เม่อื 28 สิงหาคม 2565./จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84% E0%B8%9E%E0%B8%A3 วิกิพเี ดีย.//(2565).//มะนาว.//สืบคน้ เมื่อ 28 สิงหาคม 2565./จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7?fb clid=IwAR2XnE75fI1Hek0Z7ebnmJBLJ5M42LgirGW4c6Q3e7ypsI9hy_fzEdSm-4c วกิ ิพีเดีย.//(2565).//ตะไคร้.//สบื ค้นเมื่อ 28 สงิ หาคม 2565./จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E 0%B9%89?fbclid=IwAR0NmKA3vTIedB5lyzRD0Pfp-Ys3_2-pua9723A3522ljataao_Xm-PJ2qI วกิ ิพีเดีย.//(2565).//มะกรูด.//สืบค้นเมื่อ 28 สงิ หาคม 2565./จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B9% E0%B8%94?fbclid=IwAR2iPCOgAA7C1EmM-7Poq9oJaqpbk0u69jSevqxbuQiwV8gNCUWUikj8KIk วิกพิ เี ดยี .//(2565).//เตยหอม.//สืบคน้ เม่ือ 28 สิงหาคม 2565./จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%AD% E0%B8%A1?fbclid=IwAR3A-gaHQqjGiFIQqfzcU7pqrBmm0azK9cinUGy6HoZn-xfH-Bf7NmY010I

condonewb.//(2563).//รวม 12 ดอกไม้ท่ีมกี ลิ่นหอม เพม่ิ บรรยากาศใหบ้ ้านสดช่ืน.//สบื ค้นเม่ือ 28 สิงหาคม 2565./จาก https://www.condonewb.com/lifestyle/832/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84 %E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0 %B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8 %A1?fbclid=IwAR1WJ1gle6-togFDs9x9l5Mv2JGqE8UCckfoWwt4Yug-AzKUp6XuPPihZ_M jeban.//(2560).//ถงุ หอมเกไ๋ ก๋.//สบื ค้นเมื่อ 28 สงิ หาคม 2565./จาก https://today.line.me/th/v2/article/b4810f61a3b1e76b201a8afe6dc617453373e953c453ed30b66 1da29d5e748f9