Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานพระพุทธศาสนาในประเทศและต่างประเทศ

รายงานพระพุทธศาสนาในประเทศและต่างประเทศ

Description: รายงานพระพุทธศาสนาในประเทศและต่างประเทศ

Search

Read the Text Version

รายงาน พระพุทธศาสนา ในประเทศและต่างประเทศ จัดทำโดย วรโชติ ภูลายยาว รหัสนักศึกษา 6410830432077 นักศกึ ษาช้นั ปท� ่ี 1 เสนอ นายเตชทตั ปก� สังขาเนย์ นธ.เอก , ป.ธ. ๓ , ศน.บ , ศน.ม อาจารยป์ ระจำวชิ า ประวัตพิ ระพทุ ธศาสนา รายงานเลม่ นเี้ ป�นสว่ นหนง่ึ ของวิชา ประวตั พิ ระพทุ ธศาสนา ประจำภาคเรยี นท่ี 1 ปก� ารศึกษาที่ 2564 มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตศรีลา้ นช้าง

คำนำ รายงานเลม่ นเี้ ปน� สว่ นหนึง่ ของรายวชิ า ประวตั พิ ระพทุ ธศาสนา (BU5001) ประจำภาคเรยี นท่ี 1 ป�การศึกษาที่ 2564 เพอ่ื ศึกษาความรเู้ กีย่ ว พทุ ธศาสนาในประเทศและตา่ งประเทศ ซึ่งรายงานนี้มี เนื้อหาความรเู้ กยี่ วกบั พทุ ธศาสนาในประเทศไทย พทุ ธศาสนาในตา่ งประเทศ พทุ ธศาสนานิกายเถร วาท พทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน ผู้จดั ทำหวังเป�นอย่างยิง่ วา่ รายงานเลม่ นีจ้ ะเป�นประโยชนก์ บั ผูอ้ า่ น นักเรยี น นักศกึ ษา ทก่ี ำลงั หาขอ้ มูลเรื่องนอี้ ยู่ และไม่ได้มีเจตนา ลบหลู่ หรอื ทำให้เกดิ ความเสอ่ื มตอ่ ศาสนาแตอ่ ยา่ งใด หากมี ขอ้ แนะนำหรือขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ัดทำขอนอ้ มรบั ไว้และขออภยั มา ณ ที่นีด้ ว้ ย วรโชติ ภลู ายยาว รหัสนักศึกษา 6410830432077 นกั ศึษาชน้ั ปท� ี่ 1/2564 ผ้จู ัดทำ

สารบัญ หนา้ 1 เรือ่ ง 2 พุทธศาสนา คอื อะไร ? 3 พทุ ธศาสนาในประเทศไทย 3 4 สมัยทวาราวดี 4 สมยั อาณาจักรอา้ ยลาว 5 สมยั อาณาจกั รศรีวชิ ยั (พุทธศตวรรษท่ี 13) 6 สมัยลพบุรี (พทุ ธศตวรรษที่ 15) 6 สมัยเถรวาทแบบพกุ าม 7 สมัยกรุงสโุ ขทัย 8 สมยั ลา้ นนา 9 สมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา 13 สมัยกรุงธนบุรี 15 สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ 15 การเรียกรอ้ งใหบ้ ัญญัตพิ ทุ ธศาสนาเปน� ศาสนาประจำชาตใิ นรฐั ธรรมนญู 16 พทุ ธศาสนาในตา่ งประเทศ 20 นกิ าย คอื อะไร ? 25 พุทธศาสนานกิ ายเถรวาท 26 พทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน สรุป บรรณานกุ รม

พุทธศาสนา คอื อะไร ? พระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาพุทธ (บาลี: พทุ ฺธสาสนา, สนั สกฤต: बु�शासना พทุ ฺธศาสนา) เปน� ศาสนาที่มพี ระพทุ ธเจ้าเป�นศาสดา มีพระธรรมท่พี ระองค์ตรสั รู้ชอบดว้ ยพระองคเ์ อง และตรสั สอน ไวเ้ ปน� หลกั คำสอนสำคญั มีพระสงฆ์ (ภกิ ษุ ภิกษุณ)ี สาวกผตู้ ัดสนิ ใจออกบวชเพื่อศึกษาปฏบิ ตั ิตนตาม คำส่งั สอน ธรรม-วนิ ัย ของพระบรมศาสดา เพอ่ื บรรลสุ ูจ่ ุดหมายคอื พระนิพพาน และสรา้ งสังฆะ เป�น ชุมชนเพอื่ สบื ทอดคำสอนของพระบรมศาสดา รวมเรียกวา่ พระรตั นตรยั 1 นอกจากนี้ใน พระพุทธศาสนา ยงั ประกอบคำสอนสำหรบั การดำรงชีวติ ทดี่ งี าม สำหรับผู้ทยี่ งั ไม่ออกบวช (คฤหสั ถ์ - อบุ าสก และอุบาสิกา) ซึง่ หากรวมประเภทบุคคลทท่ี ่นี ับถือและศึกษาปฏบิ ตั ติ นตามคำสั่งสอนของพระ บรมศาสดา แลว้ จะจำแนกได้เป�น 4 ประเภท คอื ภกิ ษุ ภกิ ษุณี อบุ าสก อุบาสกิ า หรอื ที่เรยี กวา่ พุทธ บริษทั 4 ศาสนาพุทธเป�นศาสนาอเทวนยิ ม ปฏเิ สธการมอี ยู่ของพระเปน� เจา้ หรอื พระผสู้ รา้ ง และเช่อื ใน ศกั ยภาพของมนษุ ย์ วา่ ทุกคนสามารถพัฒนาจติ ใจ ไปสู่ความเป�นมนุษย์ทสี่ มบูรณไ์ ด้ ดว้ ยความเพยี ร ของตน กล่าวคอื ศาสนาพุทธ สอนให้มนษุ ยบ์ นั ดาลชีวิตของตนเอง ด้วยผลแหง่ การกระทำของตน ตาม กฎแห่งกรรม มไิ ดม้ าจากการออ้ นวอนขอจากพระเป�นเจา้ และสงิ่ ศกั ดิส์ ิทธ์นิ อกกาย คอื ให้ พงึ่ ตนเอง เพื่อพาตัวเองออกจากกอง ทกุ ข์ มีจดุ มงุ่ หมายคอื การสอนให้มนษุ ยห์ ลุดพน้ จากความทกุ ข์ท้งั ปวงในโลกดว้ ยวิธีการสรา้ ง ปญ� ญา ในการอยกู่ บั ความทกุ ขอ์ ย่างรเู้ ท่าทนั ตามความเป�นจริง วตั ถปุ ระสงคส์ ูงสดุ ของศาสนาคอื การหลดุ พ้นจากความทุกขท์ ้ังปวงและวฏั จักรการเวยี นวา่ ยตายเกดิ เช่นเดียวกบั ทีพ่ ระศาสดาทรงหลดุ พน้ ไดด้ ว้ ยกำลงั สตปิ ญ� ญาและความเพียรของพระองค์เอง ในฐานะที่ พระองคก์ ็ทรงเปน� มนษุ ย์ มิใชเ่ ทพเจ้าหรือทูตของพระเจ้าองคใ์ ด พระพุทธเจา้ พระองคป์ จ� จบุ ันคอื พระโคตมพทุ ธเจ้า มพี ระนามเดิมวา่ เจ้าชายสิทธตั ถะ ไดท้ รง เรม่ิ ออกเผยแผค่ ำสอนในชมพทู วีป ตั้งแต่สมยั พทุ ธกาล แต่หลงั ปรนิ พิ พานของพระพุทธเจ้า พระธรรม วนิ ยั ทพี่ ระองคท์ รงสงั่ สอน ไดถ้ ูกรวบรวมเป�นหมวดหมู่ด้วยการสงั คายนาพระธรรมวินยั ครัง้ แรก จนมี การรวบรวมขน้ึ เป�นพระไตรป�ฎก ซง่ึ เปน� หลักการสำคัญทีไ่ มม่ กี ารเปลยี่ นแปลงมาตลอดของฝ่าย เถร วาท ทยี่ ดึ หลกั ไมย่ อมเปล่ียนแปลงคำสง่ั สอนของพระพุทธเจา้ แต่ในการสงั คายนาพระธรรมวินยั คร้งั ท่ี สอง ได้เกดิ แนวคดิ ทเ่ี หน็ ต่างออกไป วา่ ธรรมวนิ ยั สามารถปรบั ปรุงเปลีย่ นแปลงไดต้ ามเวลาและ สถานการณเ์ พอื่ ความอยูร่ อดแห่งศาสนาพทุ ธ แนวคดิ ดังกลา่ วจงึ ได้เรม่ิ กอ่ ตวั และแตกสายออกเปน� นิกายใหมใ่ นชื่อของ มหายาน ทั้งสองนกิ ายไดแ้ ตกนกิ ายยอ่ ยไปอกี และเผยแพรอ่ อกไปท่ัวดนิ แดน 1

เอเชียและใกล้เคียง บา้ งกจ็ ดั ว่า วัชรยาน เป�นอกี นิกายหนงึ่ แต่บ้างว่าเปน� สว่ นหนึง่ ของนิกายมหายาน แตก่ ารจดั มากกว่าน้ันกม็ ี หลักพ้นื ฐานสำคญั ของปฏจิ สมปุ บาท เป�นเพยี งหลกั เดียวทเ่ี ป�นคำสอน รว่ มกนั ของคตพิ ุทธ ป�จจบุ นั ศาสนาพุทธได้เผยแผไ่ ปทั่วโลก โดยมจี ำนวนผู้นบั ถอื สว่ นใหญอ่ ยใู่ นทวีปเอเชยี ท้ังใน เอเชยี กลาง เอเชียตะวนั ออก และเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ปจ� จุบันศาสนาพทุ ธ ได้มผี นู้ ับถือกระจายไป ทว่ั โลก ประมาณ 700 ล้านคนด้วยมผี ู้นบั ถือในหลายประเทศ ศาสนาพทุ ธจึงเปน� ศาสนาสากล พุทธศาสนาในประเทศไทย พระพทุ ธศาสนาเขา้ มาสู่ดนิ แดนทเ่ี ปน� ประเทศไทยในป�จจบุ ัน เมอ่ื ประมาณ พ.ศ. 236 สมยั เดยี วกันกบั ประเทศศรลี ังกา ด้วยการส่งพระสมณทตู ไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศต่างๆ 9 สาย โดยการอปุ ถมั ภ์ของพระเจ้าอโศกมหาราช กษตั ริย์อนิ เดยี ในขณะนั้นประเทศไทยรวมอยู่ในดนิ แดนท่ี เรียกวา่ สุวรรณภูมิ ซงึ่ มขี อบเขตกวา้ งขวาง มีประเทศรวมกนั อยู่ในดนิ แดนสว่ นนีท้ งั้ 7 ประเทศใน ป�จจบุ ัน ได้แก่ ไทย พมา่ ศรลี งั กา ญวน กมั พูชา ลาว มาเลเซีย ซึ่งสันนิษฐานว่ามใี จกลางอยทู่ ีจ่ งั หวดั นครปฐมของไทย เนอื่ งจากไดพ้ บโบราณวตั ถทุ สี่ ำคญั เช่นพระปฐมเจดยี ์ และรูปธรรมจกั รกวางหมอบ เป�นหลกั ฐานสำคญั แตพ่ ม่าก็สันนษิ ฐานว่ามีใจกลางอยทู่ เ่ี มอื งสะเทมิ ภาคใต้ของพมา่ พระพทุ ธศาสนา เข้ามาสสู่ วุ รรณภมู ใิ นยคุ น้ี นำโดยพระโสณะและพระอุตตระ พระเถระชาวอินเดยี เดนิ ทางมาเผยแผ่ พทุ ธศาสนาในแถบนี้ จนเจริญรุ่งเรอื งมาตามลำดับ ตามยุคสมยั ตอ่ ไปนี้ 2

สมัยทวาราวดี พระโสณะ และพระอตุ ตระไดเ้ ดินทางจากแควน้ มคธ เขา้ มาประดิษฐานพระพทุ ธศาสนา ณ ดินแดนสวุ รรณภูมิ โดยมีขอ้ สนั นิษฐานว่า นา่ จะมศี นู ย์กลางอยู่บรเิ วณตอนกลางของไทยใน ป�จจบุ นั โดยพิจารณาจากโบราณสถานและโบราณวตั ถตุ ่าง ๆ เช่น พระปฐมเจดยี ์ ศลิ ารูปพระธรรมจักร เปน� ตน้ พระพทุ ธศาสนาที่เขา้ มาในสมยั น้ี เปน� นกิ ายเถรวาทดง้ั เดมิ โดย พุทธศาสนิกชนมีความศรัทธาเลอ่ื มใสบวชเปน� พระภิกษจุ ำนวน มาก และได้สรา้ งสถูปเจดยี ไ์ ว้สักการบูชา เรยี กวา่ สถูปรปู ฟองนำ้ เหมอื นสถูปสาญจใี นประเทศอนิ เดยี ทพ่ี ระเจ้าอโศกมหาราชทรง สร้างขึน้ โดยศลิ ปะในยคุ นี้ เรยี กวา่ ศลิ ปะทวารวดี สมัยอาณาจกั รอ้ายลาว สมยั อาณาจักรอา้ ยลาว ซ่งึ เป�นอาณาจกั รของบรรพบุรุษชาวไทยทีอ่ าศยั อยู่บรเิ วณลมุ่ นำ้ แยงซี เกยี ง ซงึ่ ป�จจบุ ันอยู่ภายใต้การยดึ ครองของชาวจีนฮนั่ พระพทุ ธศาสนาในยุคน้คี าดวา่ เปน� แบบมหายาน ในสมยั ขนุ หลวงมา้ ว กษัตรยิ ์ท่ที รงครองราชยอ์ ยใู่ นอาณาจกั รอ้ายลาว กอ่ นทจี่ ะอพยพเข้ามาสู่ดนิ แดน ประเทศไทยในปจ� จุบนั ไดร้ บั เอาพระพทุ ธศาสนามหายาน โดยการนำของพระสมณทูตชาวอนิ เดยี มา เผยแผ่ ในคราวทพี่ ระเจา้ กนิษกะมหาราชทรงอปุ ถมั ภ์การสงั คายนาครง้ั ที่ 4 ของฝา่ ยมหายาน ณ เมืองชลนั ธร พระสมณทตู ไดเ้ ข้ามาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในเอเชยี กลาง ทำให้หัวเมอื งไทยทงั้ 77 มี ราษฎร 51,890 ครอบครัว เปลยี่ นมานบั ถอื พระพทุ ธศาสนาแบบมหายานแทนเถรวาท 3

สมัยอาณาจกั รศรวี ชิ ยั (พทุ ธศตวรรษที่ 13) อาณาจกั รศรีวิชยั ในเกาะสมุ าตราเจรญิ รงุ่ เรืองในชว่ งพทุ ธศตวรรษท่ี 12-13 กษัตรยิ ศ์ รวี ชิ ัยมี พระราชศรทั ธาในพทุ ธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น ดังหลกั ฐานทปี่ รากฏ ไดแ้ ก่ เจดยี พ์ ระบรมธาตไุ ชยา เจดียป์ โุ รพทุ โธ รูปหล่อพระโพธสิ ัตวอ์ วโลกิเตศวร รวมถึงหลกั ฐานทางโบราณคดีอนื่ ๆอกี เปน� จำนวน มากซง่ึ พบกระจายอยู่ทว่ั ไปในดนิ แดนสวุ รรณภมู ิ สมัยลพบรุ ี (พุทธศตวรรษที่ 15) ในสมยั กษตั รยิ ก์ มั พชู าราชวงศ์สรุ ยิ วรมนั เรอื งอำนาจน้ัน ไดแ้ ผอ่ าณาเขตขยายออกมาทว่ั ภาค ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคกลางของประเทศไทย ในราว พ.ศ. 1540 และได้ต้งั ราชธานีเป�นที่ อำนวยการปกครองเมอื งต่าง ๆ ในดนิ แดนดังกลา่ วข้นึ หลายแห่ง เมอื งตา่ ง ๆ ท่ีต้ังข้นึ นี้เมอื งลพบรุ ีหรอื ละโว้ ถอื วา่ เป�นเมืองสำคญั ทสี่ ุด กษัตรยิ ์กมั พูชาราชวงศส์ ุรยิ วรมัน ทรงนับถอื พระพทุ ธศาสนาฝ่าย มหายาน ซงึ่ มสี ายสมั พนั ธเ์ ชือ่ มตอ่ มาจากอาณาจกั รศรีวชิ ยั แตฝ่ า่ ยมหายานในสมยั นผ้ี สมกับศาสนา พราหมณม์ าก ประชาชนในอาณาเขตต่าง ๆ ดงั กล่าว จึงได้รับพระพทุ ธศาสนาทง้ั แบบเถรวาทท่สี บื มา แตเ่ ดมิ กบั แบบมหายานและศาสนาพราหมณท์ เี่ ขา้ มาใหม่ด้วย ทำใหม้ ผี ู้นบั ถอื พระพทุ ธศาสนาทัง้ 2 แบบ และมพี ระสงฆ์ท้ังสองฝา่ ย คือ ฝ่ายเถรวาท และฝา่ ยมหายาน สำหรับศาสนสถานท่ีเป�นที่ ประจักษ์พยานให้ไดศ้ กึ ษาถึงความเป�นมาแหง่ พระพทุ ธศาสนาในประเทศไทยคร้ังนั้น ได้แก่พระปรางค์ สามยอดท่ีจังหวัดลพบรุ ี ปราสาทหินพมิ าย ทจ่ี ังหวัดนครราชสมี า และปราสาทหนิ เขาพนมรงุ้ ที่จังหวัด บรุ รี ัมย์ เปน� ตน้ สว่ นพระพทุ ธรปู ทีส่ ร้างในสมยั นนั้ ถือเป�นศลิ ปะอยู่ในกลมุ่ ศลิ ปสมยั ลพบุรี 4

สมยั เถรวาทแบบพุกาม ในสมัยทพ่ี ระเจา้ อนรุ ทุ ธมหาราช กษตั รยิ พ์ กุ ามเรอื งอำนาจ ทรงรวบรวมเอาพมา่ กบั มอญเขา้ เปน� อาณาจกั รเดยี วกัน แล้วแผอ่ าณาเขตเขา้ มาถึงอาณาจักรล้านนา อาณาจกั รล้านช้าง ละโว้ และ ทวารวดี พระเจ้าอนรุ ทุ ธทรงนบั ถือพระพทุ ธศาสนาฝา่ ยเถรวาท ทรงส่งเสรมิ ทำนบุ ำรุงพระพุทธศาสนา อย่างจรงิ จงั สว่ นชนชาติไท หลังจากอาณาจักรอา้ ยลาวถกู จนี ทำลายจนพินาศ ก็ไดม้ าตงั้ อาณาจักร นา่ นเจา้ ถึงประมาณ พ.ศ. 1299 ขุนทา้ วกวาโอรสขนุ บรมแหง่ อาณาจกั รนา่ นเจา้ ไดส้ ถาปนาแควน้ โยนกเชียงแสนข้ึน ตอ่ มาอาณาจักรน่านเจ้าไดถ้ กู จนี แทรกซมึ เขา้ ทำลายจนพนิ าศอกี คร้งั ซงึ่ ในคราวน้ี ผู้ปกครองของจีนได้ใชว้ ธิ ีแบ่งชาวไทออกเป�นกล่มุ เล็กกลมุ่ นอ้ ยแล้วผลกั ดนั ออกไปคนละทศิ ละทาง และนบั แต่นน้ั เปน� ตน้ มาชาวไทก็ได้แตกสานซา่ นเซ็นจนรวมกนั ไมต่ ดิ อยู่จนถงึ วนั นี้ คือ ทางตะวนั ตกได้ ถกู จีนผลักดันจนแตกกระจัดพลัดพรายไปถงึ อสั สัม(อยทู่ างภาคตะวนั ออกของอินเดยี ในปจ� จบุ ัน)ส่วน ทางตะวนั ออกกก็ ระจดั กระจายไปถึงกวางสี หหู นาน เกาะไหหลำ รวมถึงตอนเหนอื ของประเทศ เวยี ดนามในปจ� จบุ นั ส่วนทางใต้นน้ั กไ็ ดแ้ ก่ประชากรในประเทศตา่ งๆทางเอเชียอาคเนย์ปจ� จุบนั โดยเฉพาะในประเทศลาวและไทย เมอ่ื กษตั รยิ ข์ อม(กัมพชู า)เรอื งอำนาจ คนไทยทอี่ ย่ใู นเขตอำนาจของขอม กไ็ ดร้ บั ทง้ั ศาสนาและ วฒั นธรรมของเขมรไวด้ ว้ ย ส่วนทางลา้ นนากไ็ ดร้ ับอทิ ธพิ ลจากพม่าเช่นเดียวกัน คือ เมอื่ อาณาจักร พุกามของกษัตรยิ พ์ มา่ เข้ามาครอบครองดินแดนแถบน้ี ดังเหน็ วา่ มปี ชู นียสถานแบบพม่าหลายแห่ง และเจดยี ท์ ี่มีฉตั รอย่บู นยอด และฉัตรท่ี 4 มมุ ของเจดยี ์ ก็ไดร้ บั อทิ ธิพลมาจากศลิ ปะพุกามแบบพม่า 5

สมยั กรุงสุโขทัย หลังจากอาณาจกั รพุกามและเขมรเสื่อมอำนาจลง คนไทยจึงได้ต้งั ตวั เปน� อสิ ระ ไดก้ อ่ ตงั้ อาณาจกั รขึน้ เอง 2 อาณาจกั ร ไดแ้ ก่ อาณาจักรล้านนาทางภาคเหนอื ของไทย ซ่งึ มีศนู ยก์ ลางอยูท่ ่ี จังหวัดเชียงใหม่และอาณาจักรสโุ ขทัยซึง่ มีศนู ยก์ ลางอยทู่ ่จี ังหวดั สโุ ขทยั ในปจ� จุบัน เมอ่ื พอ่ ขุน รามคำแหงมหาราชเสดจ็ ข้ึนครองราชย์ ทรงสดบั กิตติศพั ท์ของพระสงฆล์ งั กา จงึ ทรงอาราธนาพระมหา เถระสังฆราช ซึ่งเป�นพระเถระชาวลังกาทม่ี าเผยแผ่อยทู่ น่ี ครศรธี รรมราช มาเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาใน กรงุ สุโขทยั พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศไ์ ดเ้ ขา้ มาเผยแผ่ในประเทศไทย ถงึ 2 ครัง้ คอื ครัง้ ที่ 1 ใน สมัยพอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช และครั้งท่ี 2 ในสมัยพระยาลิไท พระพทุ ธศาสนาเจรญิ รุ่งเรืองมาก ศลิ ปะสมัยสโุ ขทัยไดร้ บั การกล่าวขานวา่ งดงามมาก โดยเฉพาะพระพทุ ธรูปสมยั สุโขทัย มีลักษณะ งดงาม ไม่มศี ลิ ปะสมยั ใดเหมอื น สมยั ล้านนา ในป� พ.ศ. 1839 พญามงั ราย ทรงสร้างราชธานขี น้ึ ชอื่ ว่า \"นพบรุ ศี รนี ครพงิ ค์เชยี งใหม\"่ ไดต้ ง้ั ถน่ิ ฐาน ณ ลุ่มแม่น้ำป�ง ไดส้ รา้ งเมอื ง สรา้ งวัง และวัดขึ้น ทรงทำนบุ ำรุงพระพทุ ธศาสนา ไดส้ รา้ งวดั ต่าง ๆ มากมาย ท้งั ท่เี ป�นฝา่ ยคามวาสี และอรัญญวาสี จนพทุ ธศาสนาเจรญิ รุง่ เรอื ง เมอื งต่าง ๆ ในอาณาจักร ลา้ นนา เชน่ เชียงราย ลำพนู ลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา ตา่ งก็มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื ง โดยเฉพาะอยา่ ง ยง่ิ ด้านพระพทุ ธศาสนา พิธีกรรมและความเชอ่ื ทางศาสนามีอทิ ธพิ ลตอ่ ชาวลา้ นนาอยา่ งมาก ในรัชสมัย ของพระเจา้ ติโลกราชแหง่ เชยี งใหม่ ได้ทำการสงั คายนาพระไตรปฎ� กคร้ังแรกในดนิ แดนประเทศไทย ปจ� จุบันขนึ้ ณ วัดมหาโพธาราม (วัดเจ็ดยอด) เมื่อ ป� พ.ศ. 2020 ในสมยั ลา้ นนา ไดเ้ กิดมพี ระเถระ นกั ปราชญ์ชาวล้านนาหลายรปู ท่านเหลา่ นัน้ ไดร้ จนาคัมภรี ์สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนาไวเ้ ปน� จำนวน มาก ไดแ้ ก่ พระสริ มิ งั คลาจารย์ พญาณกติ ตเิ ถระ พระรตั นปญ� ญาเถระ พระโพธริ งั ษี พระนนั ทาจารย์ และพระสุวรรณรงั สี 6

สมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา พระพุทธศาสนาในสมยั อยุธยานัน้ มคี วามเป�นฮนิ ดปู นอยูค่ อ่ นขา้ งมาก พธิ กี รรมตา่ ง ๆ ไดป้ ะปน พิธขี องพราหมณม์ ากกวา่ ท่ใี ดๆ ราษฎรอยุธยามงุ่ ในเรื่องการบญุ การกศุ ล สรา้ งวดั วาอาราม สรา้ งปู ชนยี วตั ถุ บำรุงศาสนาเปน� ส่วนมาก ในสมยั อยธุ ยาตอ้ งประสบกับภาวะสงครามกบั พมา่ จนเกดิ ภาวะ วิกฤตทางศาสนาหลายครงั้ ประวัตศิ าสตร์อยุธยาแบง่ เปน� 4 ชว่ ง ได้แก่ สมยั อยธุ ยาชว่ งแรก (พ.ศ. 1991 - 2031) ในสมัยสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ ทรงปกครองบ้านเมืองดว้ ยความสงบร่มเย็น ทรง ทำนุบำรงุ พระพทุ ธศาสนา ผนวชเป�นเวลา 8 เดือน เมอื่ พ.ศ. 1998 และทรงใหพ้ ระราชโอรส กบั พระราชนดั ดาผนวชเป�นสามเณรดว้ ย สันนษิ ฐานวา่ เป�นการเรมิ่ ต้นของประเพณีการบวช เรียนของเจ้านายและขา้ ราชการ ในรัชสมยั ของพระองค์ ไดม้ กี ารรจนาหนงั สอื มหาชาตคิ ำหลวง ใน พ.ศ. 2025 สมัยอยธุ ยาชว่ งที่สอง ( พ.ศ. 2031 - 2173) สมัยนไี้ ด้มคี วามนยิ มในการสรา้ งวดั ข้ึน ท้งั กษัตริยแ์ ละประชาชนทวั่ ไป นิยมสรา้ งวัด ประจำตระกูล ในสมัยพระเจา้ ทรงธรรมไดพ้ บพระพทุ ธบาท สระบุรี ทรงใหส้ ร้างมณฑปครอบ พระพทุ ธบาทไว้ และโปรดใหช้ มุ ชนราชบณั ฑติ แตง่ กาพยม์ หาชาติ เมื่อ พ.ศ. 2170 และโปรดให้ สรา้ งพระไตรป�ฎกดว้ ย สมัยอยุธยาชว่ งทสี่ าม (พ.ศ. 2173 - 2275) พระมหากษัตริยท์ มี่ พี ระนามยิ่งใหญ่ทส่ี ุดในศตวรรษน้ี ได้แกส่ มเดจ็ พระนารายณ์มหาราช พระองคท์ รงมีบทบาทอยา่ งมากทง้ั ตอ่ ฝา่ ยอาณาจกั รและศาสนจกั ร ทรงส่งเสรมิ พระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า สมัยนฝี้ ร่งั เศสไดเ้ ขา้ มาตดิ ต่อกับไทย และไดพ้ ยายามเผยแผ่ ครสิ ตศ์ าสนา และอาจทูลขอให้พระนารายณ์เขา้ รตี แต่พระองค์ทรงมน่ั คงในพระพุทธศาสนา มิ ชชันนารฝ่ี ร่ังเศสจึงตอ้ งผิดหวังไป สมยั อยธุ ยาช่วงที่ส่ี (พ.ศ. 2275 - 2310) พระมหากษัตรยิ ์ทท่ี รงมบี ทบาทมากในยคุ นี้ ได้แก่ สมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั บรมโกศ เสวย ราช เมอื่ พ.ศ. 2275 การบวชเรยี นกลายเปน� ประเพณีท่ีปฏบิ ัตสิ ืบต่อกนั มาถงึ ยคุ หลัง ถึงกบั กำหนดใหผ้ ้ทู ่จี ะเปน� ขนุ นาง มียศถาบรรดาศักดิต์ ้องเปน� ผทู้ ่ีผา่ นการบวชเรียนมาเท่านั้น จงึ จะ ทรงแต่งต้ังตำแหน่งหน้าทีใ่ ห้ ในสมยั นไ้ี ดส้ ง่ พระภิกษเุ ถระชาวไทยไปฟน� ฟูพุทธศาสนาใน 7

ประเทศลงั กาตามคำทูลขอของกษัตรยิ ล์ งั กา เมอื่ พ.ศ. 2296 จนทำใหพ้ ุทธศาสนากลับ เจรญิ รุ่งเรอื งในลงั กาอีกครงั้ จนถึงปจ� จบุ นั และเกิดนกิ ายของคณะสงฆไ์ ทยขนึ้ ในลงั กา ช่อื ว่า นิกายสยามวงศ์ นกิ ายนยี้ งั คงมอี ยู่ถงึ ป�จจบุ นั สมัยกรุงธนบรุ ี ในยุคนนี้ ับเป�นยุคแหง่ ความเสอ่ื มของพทุ ธศาสนาอกี สมยั หนง่ึ คอื นบั แต่พระยาตาก (สิน)ไดช้ กั นำคนไทยเชื้อสายจีนหนฝี ่าทพั พมา่ ออกจากกำแพงพระนครศรีอยุธยาจนกรงุ ศรอี ยุธยาถกู พมา่ ตีแตก ในป� พ.ศ. 2310แลว้ พมา่ ไดท้ ำลายบ้านเมอื งจนเสยี หายยอ่ ยยับ ล้างผลาญชีวติ คน ขม่ ขนื ผู้หญงิ ไทย ปลน้ เอาทรพั ย์สนิ มีคา่ ทงั้ หมด กวาดตอ้ นประชาชนแมก้ ระทงั่ พระสงฆ์ไปเป�นเชลยเป�นจำนวนมาก วดั วาอารามถูกเผาทำลาย คร้ันตอ่ มาพระยาตาก (สนิ ) ได้สถาปนาข้ึนเปน� กษตั รยิ ์และต้งั ราชธานีใหม่ คอื กรุงธนบรุ แี ล้ว ได้ทำนุบำรงุ พระศาสนา และไดช้ ำระวงการศาสนาใหม่ ลงโทษสมณะที่กระทำความช่ัว อนั ไมส่ มกบั ความเป�นสมณะ ด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เม่ือเปลย่ี นแปลงราชวงศ์ ในป�พ.ศ. 2322 เจา้ พระยา จักรี (ทองด้วง) กไ็ ดอ้ ัญเชญิ พระแก้วมรกตจากเวียงจันทน์มาไว้ยังประเทศไทยด้วยเชน่ กัน 8

สมัยกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2325 - 2352) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช เสดจ็ ขึ้นครองราชยเ์ ม่ือป� พ.ศ. 2325 ต่อจากพระเจา้ ตากสิน ไดท้ รงยา้ ยราชธานีจากกรงุ ธนบุรี มาต้ังราชธานีใหม่ เรยี กช่ือว่า กรุงเทพมหานคร อมรรตั รโกสินทร์ มหนิ ทรายธุ ยา มหาดลิ กภพ นพรัตนราชธานีบูรรี มย์ อดุ ม ราชนิเวศนม์ หาสถาน อมรพิมานอวตารสถติ สกั กะทตั ตยิ วษิ ณกุ รรมประสทิ ธ์ิ ทรงสรา้ งและปฏสิ งั ขรณว์ ัดต่างๆ เช่น การสรา้ ง วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม วัดสุทศั น์ เทพวราราม วัดสระเกศ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เปน� ต้น โปรดให้มีการสงั คายนา พระไตรปฎ� กคร้ังท่ี 9 และถือเปน� ครั้งที่ 2 ในดนิ แดนประเทศไทยป�จจุบนั ณ วดั มหาธาตุทรง ตรากฎหมายคณะสงฆข์ นึ้ เพ่ือจัดระเบยี บการปกครองของสงฆ์ใหเ้ รียบรอ้ ย ทรงจัดให้มีการ สอบพระปรยิ ัตธิ รรม ทรงสถาปนาสมเดจ็ พระสงั ฆราชองค์แรกของกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ โดย สถาปนาพระสงั ฆราช (ศรี) เปน� สมเด็จพระสังฆราช เมอื่ ป� พ.ศ. 2352 รัชกาลท่ี 2 (พ.ศ. 2352 - 2367) พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัย เสดจ็ ขนึ้ ครองราชย์เมอ่ื พ.ศ. 2352 เปน� ทรง ทำนบุ ำรงุ ส่งเสรมิ พระพทุ ธศาสนาเหมอื นอยา่ งพระมหากษัตรยิ ์ไทยแตโ่ บราณในรชั สมัยของ พระองคไ์ ด้ทรงสถาปนาสมเดจ็ พระสังฆราชถึง 3 พระองค์ คอื สมเด็จพระสงั ฆราช (ม)ี , สมเดจ็ พระสังฆราช (สกุ ) และสมเด็จพระสงั ฆราช (ดอ่ น) ในป� พ.ศ. 2357 ทรงจัดส่งสมณทตู 8 รปู ไปฟน� ฟพู ระพทุ ธศาสนาในประเทศลงั กา ได้ จัดให้มกี ารจดั งานวนั วสิ าขบชู าขึ้นเป�นครัง้ แรกในสมยั กรุงรัตนโกสนิ ทร์ เมือ่ พ.ศ. 2360 ซึ่งแต่ เดมิ ก็เคยปฏิบตั ถิ ือกันมาเม่ือคร้ังกรงุ สุโขทยั แตไ่ ด้ขาดตอนไปตง้ั แต่เสยี กรงุ ศรีอยธุ ยาแกพ่ มา่ จงึ ไดม้ ีการฟ�นฟวู ันวิสาขบชู าใหม่ ไดโ้ ปรดใหม้ กี ารเปล่ยี นแปลงแกไ้ ขวธิ กี ารสอบไลป่ ริยตั ิธรรม ขนึ้ ใหม่ ได้ขยายหลกั สตู ร 3 ช้นั คอื เปรยี ญตรี -โท - เอก เป�น 9 ชัน้ คอื ชนั้ ประโยค 1 - 9 รชั กาลที่ 3 (พ.ศ. 2367 - 2394) พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกล้าเจา้ อย่หู วั โปรดใหม้ กี ารสรา้ งพระไตรปฎ� กฉบบั หลวงเพิ่ม จำนวนข้ึนไวอ้ ีกหลายฉบับครบถ้วนกว่ารชั กาลกอ่ น ๆ โปรดใหแ้ ปลพระไตรปฎ� กเปน� ภาษาไทย ทรงบูรณปฏสิ ังขรณ์วัดวาอารามหลายแหง่ และสรา้ งวัดใหม่ คือ วดั เทพธดิ าราม วัดราชนดั ดา ราม และวัดเฉลมิ พระเกยี รติ ไดต้ ้งั โรงเรยี นหลวงขึน้ เปน� คร้ังแรก เพื่อสอนหนังสอื ไทยแก่เดก็ ใน 9

สมยั นไ้ี ด้เกิดนกิ ายธรรมยตุ ิขน้ึ โดยสมเดจ็ พระเจา้ น้องยาเธอ เจา้ ฟ้ามกฎุ สมมตวิ งศ์ พระวชิ รญาณมหาเถร ขณะทผ่ี นวชอยไู่ ดท้ รงศรทั ธาเลอื่ มใสในจริยาวตั รของพระมอญ ชือ่ ซาย ฉายา พทุ ฺธวโํ ส จึงได้ทรงอุปสมบทใหม่ เมอ่ื พ.ศ. 2372 ได้ตงั้ คณะธรรมยุตขิ นึ้ ในป� พ.ศ. 2376 แลว้ เสดจ็ มาประทับท่ีวัดบวรนิเวศวิหาร และตัง้ เป�นศูนย์กลางของคณะธรรมยตุ ิ รชั กาลที่ 4 (พ.ศ. 2394 -2411) พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั รชั กาลที่ 4 เมื่อทรงเปน� เจ้าฟา้ มงกฎุ ได้ผนวช 27 พรรษาแลว้ ได้ลาสกิ ขาขน้ึ ครองราชยเ์ มอื่ พระชนมายุ 57 พรรษา ใน พ.ศ. 2394 ดา้ นการ พระศาสนา ทรงพระราชศรทั ธาสรา้ งวดั ใหม่ขึ้นหลายวัด เช่น วัดปทุมวนาราม วัดโสมนัสวิหาร วัดมกฏุ กษัตรยิ าราม วดั ราชประดิษฐสถิตมหาสมี าราม และวดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม เปน� ต้น ตลอดจนบูรณะวัดตา่ ง ๆ อีกมาก โปรดให้มีพระราชพธิ ี \"มาฆบูชา\" ขนึ้ เป�นครัง้ แรก ใน พ.ศ. 2394 ณ ทว่ี ดั พระศรรี ัตนศาสดาราม จนไดถ้ ือปฏิบตั ิสบื มาจนถงึ ทกุ วนั นี้ รชั กาลท่ี 5 (พ.ศ. 2411 - 2453) พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั เสดจ็ ข้นึ ครองราชย์ เมอื่ พ.ศ. 2411 ทรง สรา้ งวดั ใหมข่ ้นึ คอื วัดราชบพิธ วดั เทพศริ ินทราวาส วัดเบญจมบพิตร วัดอษั ฎางนมิ ิตร วดั จฑุ า ทิศธรรมสภารามวรวหิ าร และวดั นเิ วศนธ์ รรมประวตั ิ ทรงบูรณะวัดมหาธาตุ และวดั อนื่ ๆ อีก ทรงนิพนธว์ รรณกรรมทางพทุ ธศาสนาจำนวนมาก โปรดให้มกี ารเรม่ิ ต้นการศึกษาแบบสมยั ใหม่ ในประเทศไทย โดยใหพ้ ระสงฆร์ ับภาระช่วยการศึกษาของชาติ  พ.ศ. 2427 ไดจ้ ัดต้งั โรงเรยี นสำหรบั ราษฎรข้นึ เปน� แหง่ แรก ณ วัดมหรรณพาราม  พ.ศ. 2414 โปรดให้จดั การศกึ ษาแก่ประชาชนในหวั เมอื ง โดยจดั ต้ังโรงเรียนในหัว เมอื งขน้ึ  พ.ศ. 2435 มพี ระบรมราชโองการประกาศต้ังกรมธรรมการเป�นกระทรวงธรรมการ (กระทรวงศกึ ษาธกิ ารปจ� จุบัน) โปรดให้มกี ารพมิ พพ์ ระไตรป�ฎกดว้ ยอกั ษรไทย จบ ละ 39 เลม่ จำนวน 1,000 จบ  พ.ศ. 2432 โปรดให้ยา้ ยที่ราชบัณฑติ บอกพระปรยิ ัตธิ รรมแกพ่ ระภิกษุสามเณร จาก ในวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ออกมาเปน� บาลีวทิ ยาลยั ชือ่ มหาธาตวุ ทิ ยาลยั ที่วดั มหาธาตุ  พ.ศ. 2439 ได้ประกาศเปลยี่ นนามมหาธาตวุ ทิ ยาลยั เปน� มหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย เปน� ทศ่ี ึกษาพระปริยตั ิธรรมและวชิ าการชนั้ สงู ของพระภกิ ษสุ ามเณร 10

 พ.ศ. 2436 สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ทรงจดั ตง้ั \"มหาม กุฏราชวทิ ยาลัย\" ขึน้ เพอื่ เป�นแหล่งศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาแกพ่ ระภกิ ษสุ ามเณรฝ่าย ธรรมยตุ นิ กิ าย พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเปด� ในปเ� ดยี วกนั รชั กาลที่ 6 (พ.ศ. 2453 -2468) พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกลา้ เจ้าอยหู่ วั เสดจ็ ขนึ้ ครองราชย์ ทรงพระปรีชาปราดเปรื่อง ในความรทู้ างพระศาสนามาก ทรงนพิ นธห์ นงั สอื แสดงคำสอนในพระพทุ ธศาสนาหลายเร่อื ง เชน่ เทศนาเสือป่า พระพุทธเจา้ ตรสั รอู้ ะไร เปน� ต้น ถงึ กบั ทรงอบรมสั่งสอนอบรมขา้ ราชการ ด้วยพระองคเ์ อง โปรดใหใ้ ช้ พทุ ธศักราช (พ.ศ.) แทน รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) เม่อื พ.ศ. 2456 ให้เปล่ยี นกระทรวงธรรมการเป�นกระทรวงศกึ ษาธกิ าร  พ.ศ. 2454 สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเปลี่ยน วธิ กี ารสอบบาลสี นามหลวงจากปากเปลา่ มาเปน� ขอ้ เขยี น เปน� คร้ังแรก  พ.ศ. 2469 ทรงเร่มิ การศึกษาพระปรยิ ัติธรรมใหม่ขึ้นอีกหลกั สตู รหนง่ึ เรียกวา่ \"นักธรรม\" โดยมกี ารสอบครั้งแรกเมอื่ เดอื นตุลาคม พ.ศ. 2454 ตอนแรกเรียกว่า \"องค์ของสามเณรรูธ้ รรม\"  พ.ศ. 2462 ถึง พ.ศ. 2463 โปรดให้พมิ พค์ มั ภรี อ์ รรถกถาแห่งพระไตรปฎ� กและ อรรถกถาชาดก และคมั ภรี ์อนื่ ๆ เช่น วิสทุ ธมิ รรค คัมภรี ม์ ลิ นิ ทป�ญหา เปน� ตน้ รชั กาลที่ 7 (พ.ศ. 2468 - 2477) พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดใหม้ ีการทำสงั คายนาพระไตรป�ฎกขึ้น ตง้ั แต่ พ.ศ. 2468 - 2473 เพือ่ ถวายเป�นพระราชกศุ ลแดพ่ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว รชั กาลที่ 6 เป�นการสงั คายนาครง้ั ที่ 3 ในเมอื งไทย แลว้ ทรงจดั ให้พมิ พ์พระไตรป�ฎกฉบบั สยามรฐั ชุดละ 45 เลม่ จำนวน 1,500 ชดุ และพระราชทานแก่ประเทศตา่ ง ๆ ประมาณ 500 ชุด โปรดให้ย้ายกรม ธรรมการกลับเข้ามารวมกับกระทรวงศึกษาธกิ าร และเปลยี่ นชื่อกระทรวงศึกษาธิการเปน� กระทรวงธรรมการอย่างเดมิ โดยมพี ระราชดำรวิ ่า \"การศกึ ษาไมค่ วรแยกออกจากวัด\" ตอ่ มาป� พ.ศ. 2471 กระทรวงธรรมการประกาศเพม่ิ หลกั สตู รทางจรยิ ศกึ ษาสำหรับนกั เรียน ได้เป�ดให้ ฆราวาสเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกธรรม โดยจดั หลักสูตรใหม่ เรียกว่า \"ธรรมศึกษา\" ในรัชสมัย รัชกาลที่ 7 ไดม้ ีการเปลย่ี นแปลงการปกครองครั้งย่งิ ใหญ่ของไทย เม่ือคณะราษฎรได้ทำการ ปฏวิ ัติ เปล่ียนแปลงการปกครองจากระบอบสมบรู ณาญาสิทธริ าชย์ เป�นระบอบประชาธิปไตย 11

เมื่อวันที่ 24 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2475 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยูห่ วั ทรงสละราช สมบัติเม่อื พ.ศ. 2477 รัชกาลที่ 8 (พ.ศ. 2477 - 2489) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั อานันทมหิดล เสด็จข้ึนครองราชย์เป�นรชั กาลท่ี 8 ในขณะ พระพระชนมายุ เพยี ง 9 พรรษาเทา่ นั้น และยงั กำลังทรงศึกษาอยใู่ นตา่ งประเทศ จงึ มผี สู้ ำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ในด้านการศาสนาไดม้ กี ารแปลพระไตรปฎ� กเป�นภาษาไทย แบ่งเป�น 2 ประเภท คือ พระไตรปฎ� ก แปลโดยอรรถ พมิ พเ์ ปน� เล่มสมุด 80 เลม่ เรยี กวา่ พระไตรปฎ� ก ภาษาไทย แต่ไมเ่ สร็จสมบรู ณ์ และไดท้ ำต่อจนเสรจ็ เมอื่ งานฉลอง 25 พทุ ธศตวรรษ เมื่อป� พ.ศ. 2500 และ พระไตรป�ฎก แปลโดยสำนวนเทศนา พมิ พใ์ บลาน แบง่ เป�น 1250 กัณฑ์ เรยี กวา่ พระไตรปฎ� กฉบับหลวง เสรจ็ เมอื่ พ.ศ. 2492 พ.ศ. 2484 ไดเ้ ปลี่ยนชื่อกระทรวงธรรมการเปน� กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และกรมธรรมการ เปล่ียนเปน� กรมการศาสนา และในปเ� ดียวกัน รฐั บาลได้ออก พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 เมอ่ื วนั ท่ี 14 ตุลาคม เพื่อให้การปกครองคณะสงฆม์ ีความสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั การปกครองแบบ ใหม่ พ.ศ. 2488 มหามกุฏราชวทิ ยาลยั ซึ่งต้งั ขึ้นเมอ่ื พ.ศ. 2436 ไดป้ ระกาศต้งั เป�น มหาวิทยาลยั สงฆ์ ชือ่ \"สภาการศึกษามหามกฏุ ราชวิทยาลยั \" เมอื่ วันที่ 10 ธันวาคม รชั กาลที่ 9 (พ.ศ. 2489 - 2559) พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ไดเ้ สด็จขึ้นครองราชย์เปน� รชั กาลท่ี 9 สืบตอ่ มา มพี ระราชศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนา และทรงเป�นศาสนูปถมั ภก ทรงให้การอุปถัมภ์ แกท่ กุ ศาสนา ทรงสรา้ งวัดแห่งหนงึ่ ท่จี งั หวดั ชลบุรี และทรงปกครองบ้านเมอื งโดยสงบรม่ เยน็ ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน� ประมขุ ในรัชสมัยรชั กาลท่ี 9 ไดม้ กี าร ส่งเสรมิ พทุ ธศาสนาดา้ นตา่ ง ๆ มากมาย ในป� พ.ศ. 2500 ซ่งึ เป�นป�ครบรอบ 2,500 ปท� ีพ่ ระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ดับขนั ธปรนิ ิพพาน วันท่ี 12-18 พฤษภาคม 2500 รฐั บาลไดจ้ ัดงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษขึน้ อยา่ งยิง่ ใหญ่ ซง่ึ อนิ เดีย และลังกาเรยี กว่า \"พุทธชยนั ตี\" โดยกำหนดใหว้ ันท่ี 12-14 พฤษภาคมเปน� วนั หยุดราชการ ศาลาพิธตี ้งั อยู่กลางท้องสนามหลวง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวไดเ้ สดจ็ ฯ เป�นองค์ประธาน เปด� งาน มผี แู้ ทนจาก 13 ประเทศเขา้ ร่วม พระสงฆ์ 2,500 รูป เจริญพระพทุ ธมนตพ์ ร้อมกันดัง 12

กังวานก้องไปท่วั ทกุ ทศิ และมีการเชิญชวนพทุ ธศาสนกิ ชนรกั ษาศลี หา้ หรอื ศลี แปด ตลอด 7 วัน 7 คนื ในป� พ.ศ. 2500 น้ี รัฐบาลไดก้ ำหนดพิธเี ฉลิมฉลองท่วั ประเทศ มกี ารจัดสร้างพทุ ธมณฑล ขึ้น ณ ท่ดี นิ 2,500 ไร่ ระหวา่ งกรุงเทพ-นครปฐม แล้วสรา้ งพระมหาพทุ ธปฏมิ าปางประทบั ยืน ลลี าสูง 2500 นวิ้ ภาย ในบริเวณรอบองคพ์ ระมภี าพจำลองพระพทุ ธประวัติ และมพี พิ ิธภณั ฑ์ ทางพระพทุ ธศาสนา ไดป้ ลูกตน้ ไมท้ ี่มชี ่ือในพระพุทธศาสนา เช่น ต้นโพธ์ิ ตน้ ไทร เปน� ต้น สรา้ ง พระพิมพ์ปางลลี าเปน� เนือ้ ชนิ และเนอื้ ผงจำนวน 4,842,500 องค์ พมิ พพ์ ระไตรปฎ� กแปลจาก ภาษาบาลเี ปน� ภาษาไทยออกเผยแพร่ และบูรณะปชู นียสถานวัด วาอารามทัว่ พระ ราชอาณาจักร อุปสมบทพระภกิ ษุจำนวน 2,500 รูป และนิรโทษกรรมแก่นกั โทษ ประกวด วรรณกรรม ศลิ ปะทางพระพทุ ธศาสนา โดยเชญิ ผูแ้ ทนพทุ ธศาสนิกชนทว่ั โลกมาร่วมอนโุ มทนา ในป�จจบุ ันนม้ี ีประชากรไทยนับถอื พทุ ธศาสนามากกวา่ รอ้ ยละ 94 และมพี ุทธศาสนกิ ชน มากเป�นอันดับ 4 ของโลก (รองจากประเทศจีน ญ่ปี นุ่ และเวยี ดนาม ตามลำดบั ) การเรียกร้องใหบ้ ญั ญตั ิพทุ ธศาสนาเปน� ศาสนาประจำชาตใิ นรฐั ธรรมนญู ชายนิรนามปน� ข้ึนไปบนพานรฐั ธรรมนญู อนสุ าวรยี ์ประชาธปิ ไตย เรยี กร้องใหบ้ รรจุ ศาสนาพทุ ธ เป�นศาสนาประจำชาติ กระแสเรยี กร้องให้บญั ญัตพิ ทุ ธศาสนาเป�นศาสนาประจำ ชาตใิ นรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยไดเ้ กดิ ขน้ึ อกี ครั้งเมอื่ ตน้ ป�พทุ ธศกั ราช 2550 ชาวพทุ ธ ๗ องคห์ ลัก กลา่ วคอื มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั , มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั , องคก์ ารพทุ ธ ศาสนกิ สมั พนั ธแ์ ห่งโลก, ยวุ พทุ ธกิ สมาคมแห่งประเทศไทย, คณะสงฆ์อนมั นิกาย, คณะสงฆจ์ นี นกิ าย, และพุทธสมาคมแหง่ ประเทศไทย ไดเ้ รม่ิ ตน้ เรียกรอ้ ง ตอ่ มา กลมุ่ ชาวพทุ ธได้ขยายเพิม่ เป�นไม่น้อยกวา่ 300 องค์กรท่วั ประเทศและได้ผนึกกำลังกันเรียกร้องขึ้นมา โดยก่อนหน้านัน้ เมื่อพ.ศ. 2546 สมยั รัฐบาลของพนั ตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป�น นายกรัฐมนตรี นักวิชาการชาวไทยพทุ ธได้เขยี นตำราเรยี นวิชาพระพุทธศาสนาในหลกั สตู รของ กระทรวงศึกษาธกิ ารและกล่าวไวว้ า่ ‘พระพุทธศาสนาเป�นศาสนาประจำชาติ’ แตถ่ กู นายวนิ ัย สะมะอนุ ชาวมสุ ลมิ ทว้ งตงิ วา่ กล่าวเชน่ นั้นไมไ่ ด้ เพราะไมม่ ีในรัฐธรรมนูญและอาจขัดกับ กฎหมายรัฐธรรมนญู ดว้ ย ทำใหก้ รมวชิ าการตอ้ งสั่งใหต้ ัดประโยคดงั กลา่ วออกไปจากหนงั สอื ซึ่ง เป�นหลกั สูตรของกระทรวงศึกษาธกิ าร ทกุ เล่ม ซงึ่ หมายความวา่ ถ้าจะบอกว่าพระพทุ ธศาสนา เปน� ศาสนาประจำชาตขิ องไทย กจ็ ะกลา่ วได้แต่เฉพาะในกรณีทไ่ี มเ่ ป�นทางการเทา่ น้ัน 13

ในการเรยี กร้องครัง้ น้ี มแี กนนำพระสงฆ์หลายรปู ท่อี อกมาสนับสนนุ อาทิ พระพรหมมัง คลาจารย์ (ปน� ปทมุ ุตตฺ โร)หรอื ปญ� ญานันทภิกข,ุ พระธรรมกติ ตเิ มธี (จำนงค์ ธมมฺ จารี), พระ ธรรมโกศาจารย์ (ประยรู ธมฺมจิตฺโต), พระเทพวิสทุ ธกิ วี (เกษม ส�ญฺ โต), พระศรญี าณโสภณ (สุ วทิ ย์ ปย� วิชฺโช), พระมหาโช ทสสฺ นีโย ฯลฯ นักวชิ าการและชาวพุทธที่เขยี นบทความ หรือให้ สมั ภาษณส์ นบั สนนุ ได้แก่ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก ซึง่ เขียนบทความหลายชิน้ ลงหนงั สือพิมพข์ ่าว สดและมติชนเพื่อสนับสนุน, ดร.ปฐมพงษ์ โพธป์ิ ระสทิ ธนิ นั ท์ ซึ่งเปด� เวปไซตส์ ว่ นตวั ชแ้ี จงเหตผุ ล , นายวรเดช อมรวรพพิ ฒั น์ กรรมาธกิ ารฯ ประจำรฐั สภา, นาย บรรหาร ศิลปอาชา, พลเอก ธงชยั เกื้อสกลุ , พลตรี ทองขาว พ่วงรอดพันธ,ุ์ เปลว สีเงนิ คอลัมนิสตช์ ือ่ ดงั , นายพิเชยี ร อำนาจวรประเสริฐ, นายสมเกยี รติ ศรลมั พ์ เปน� ตน้ กลุ่มชนทีไ่ มเ่ ห็นดว้ ยไดแ้ ก่ พระมโน เมตตฺ านนโฺ ทหรือเมตตานนั โทภิกขุ, พระไพศาล วิ สาโล, ดร.เจิมศักด์ิ ป�นทอง, ดร.นิธิ เอยี วศรวี งศ,์ ภิกษุณีธัมมนนั ทา, น.ต. ประสงค์ สุ่นศริ ,ิ นาย ธงทอง จันทรางศุ สมยั รัชกาลท่ี 10 (พ.ศ. 2559 - ปจ� จุบนั ) สภานติ บิ ัญญัตแิ หง่ ชาตไิ ด้ออกพระราชบญั ญัตคิ ณะสงฆ์ 2 ฉบบั ไดแ้ แก่ พระราชบญั ญตั ิ คณะสงฆ์ ฉบับท่ี 3 และ ฉบับที่ 4 โดยตามกฎหมายใหม่ พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระราชอำนาจในการแต่งตั้งสมเด็จพระสงั ฆราช และ กรรมการมหาเถรสมาคม ได้ทัง้ หมด โดยไม่จำเปน� ต้องเลือกพระสงฆ์ทม่ี สี มณศักด์ิเทา่ น้นั 14

พุทธศาสนาในตา่ งประเทศ พทุ ธศาสนาในต่างประเทศหลักๆ จะนับถือกนั 2 นิกาย คอื นกิ ายเถรวาท และ นิกายมหายาน ซึ่งอินเดียแผน่ ดินเกดิ ของศาสนาพทุ ธเอง ก็นบั ถือนกิ ายเถรวาท สว่ นไทยของเรานน้ั นบั ถือ นกิ าย มหายานเปน� ส่วนใหญ่ และยังมอี ีกหลายประเทศทีน่ บั ถอื ศาสนาพทุ ธ นกิ าย คืออะไร? นิกาย คือ หมู่ หรือพวกคณะนกั บวชในศาสนาเดยี วกนั ท่แี ยกออกไปเป�นพวก ๆ ในศาสนาพทุ ธ แบง่ ออกเป�นนกิ ายใหญไ่ ด้ 2 นิกายคือ เถรวาทและมหายาน นอกจากน้ีแลว้ ยงั มกี ารแบ่งทีแ่ ตกตา่ ง ออกไปแบ่งเปน� 3 นกิ าย เน่ืองจากวชั รยานถอื วา่ ตนเปน� ยานพเิ ศษโดยเฉพาะ ต่างจากมหายาน  เถรวาท หรือ หีนยาน (แปลวา่ ยานเลก็ ) หมายถงึ คำส่งั สอนของพระพทุ ธเจ้า ซง่ึ คำสั่ง สอนและหลักปฏิบัติจะเปน� ไปตามพระไตรปฎ� ก นับถือเปน� ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ ไทย, ศรีลังกา, พมา่ , ลาว และกัมพชู า สว่ นที่นบั ถอื เปน� ส่วนนอ้ ยพบทางตอนใตข้ อง ประเทศเวียดนาม , บังกลาเทศ และทางตอนบนของมาเลเซยี  มหายาน (แปลว่า ยานใหญ)่ หรือ อาจารยิ วาท แพร่หลายในสาธารณรฐั ประชาชนจีน, ญ่ีปนุ่ , ไต้หวนั , เกาหลเี หนือ, เกาหลีใต้, เวยี ดนามและสิงคโปร์ พบเปน� ประชาชนสว่ นน้อย ในประเทศเนปาล ท้ังยงั พบในประเทศอินโดนเี ซีย, มาเลเซยี , บรไู น และฟล� ิปปน� ส์ ซึ่งส่วน ใหญ่มีเชือ้ สายจนี  วัชรยาน หรอื มหายานพเิ ศษ พบมากในเขตปกครองตนเองทเิ บตของจีน, ประเทศภฏู าน , มองโกเลีย และดินแดนในการปกครองรสั เซยี เชน่ สาธารณรฐั ตวู าและคลั มืยคยี า นอกจากนีเ้ ป�นประชากรส่วนน้อยในดนิ แดนลาดกั รัฐชัมมูและกัษมรี ์ ประเทศอินเดยี , เนปาล, ปากีสถาน 15

พทุ ธศาสนานิกายเถรวาท พุทธศาสนาในอนิ เดยี พระพทุ ธศาสนาเรม่ิ เสอ่ื มอิทธพิ ลในประเทศอนิ เดยี ในช่วงศตวรรษที่ 7 และหายไปหลงั จาก การลม่ สลายของจักรวรรดิปาละในชว่ งศตวรรษที่ 12 ยกเว้นทางตอนเหนือของหิมาลยั ที่ยังคงมกี าร นับถอื พระพทุ ธศาสนาอยู่ ในชว่ งปลายศัตวรรษท่ี 19 พระพุทธศาสนาในประเทศอนิ เดยี ไดร้ ับการ ฟ�นฟขู ึน้ อกี ครง้ั เมอ่ื ผนู้ ำพุทธศาสนาชาวศรีลังกา นามวา่ อนาคาริก ธรรมปาละ ผู้กอ่ ตงั้ สมาคมมหา โพธิ์ ดว้ ยความชว่ ยเหลอื จากบนั ฑิตชาวสหราชอาณาจกั ร จดุ ประสงคห์ ลักของพวกเขาคอื การฟ�นฟู สถานที่แสวงบญุ ทางพทุ ธศานาในอินเดีย และพวกเขากป็ ระสบความสำเร็จในการสร้างวัดตามพทุ ธ สถานต่าง ๆ ซ่ึงลว้ นแลว้ แตม่ ีพระสงฆพ์ ำนกั อยทู่ ัง้ ส้ิน ในทศวรรษ 1950 เอ็มเบด็ การ์ไดเ้ ริ่มขบวนการพทุ ธใหม่ (neo-Buddhist movement) ใน กลมุ่ วรรณะทจี่ ับตอ้ งไมไ่ ด้ ทำใหผ้ ู้คนหลายร้อยพันคนหันมานบั ถอื ศาสนาพทุ ธ เพอื่ หลีกเล่ยี งปญ� หา ด้านชนช้ันวรรณะ ในช่วงสิบป�ที่ผา่ นมา พุทธศาสนาไดร้ ับความสนใจมากขนึ้ ในหมูช่ นช้ันกลางใน สังคมเมอื ง ในป�จจบุ นั ประชากรอินเดยี ท้งั หมดนับถือพระพทุ ธศาสนาประมาณ 2% พทุ ธศาสนาในศรลี งั กา ประเทศศรลี ังกาเปน� ศุนย์กลางการเรยี นพุทธศาสนาตั้งแต่ยคุ ศตวรรษที่ 3 ของยคุ ก่อนสากล สมยั เมอื่ พระมหนิ ทเถระ พระโอรสในพระเจ้าอโศกมหาราช นำพระพทุ ธศาสนาเขา้ มาเผยแพรใ่ น ประเทศ ประเทศศรลี งั กามีประวัตคิ วามเป�นมาของพทุ ธศาสนาทย่ี าวนานท่ีสุด มีการเสอื่ มคลาย เปน� เวลานานในชว่ งสงครามและตั้งแตศ่ ตตวรรษที่ 16 เป�นตน้ ไป เมื่อเกาะศรลี ังกาตกเปน� อาณานคิ ม และมิชชนั นารชี าวยโุ รปชักนำให้ประชาชนเข้ารตี เปน� คริสตศ์ าสนกิ ชน พระพทุ ธศานาได้รับการฟ�นฟคู รัง้ ใหญ่ในชว่ งปศ� ตวรรษท่ี 19 ด้วยความช่วยเหลอื จาก นักวิชาการและนักเทวปรชั ญาชาวสหราชอาณาจักร ดงั นัน้ ในบางคร้งั พุทธศาสนาในศรลี ังกาจึงไดร้ ับ การกล่าวว่าเปน� “ศาสนาพุทธแบบโปรเตสแตนท์” โดยเนน้ เรอ่ื งการศกึ ษาพระธรรมและกจิ กรรม อภบิ าลของสงฆ์และการฝก� สมาธสิ ำหรบั อบุ าสก อบุ าสิกา ประเทศศรลี ังกาได้รบั เอกราชในป� 1948 และตั้งแต่นั้นมาพระพทุ ธศาสนาและวฒั นธรรมชาวพุทธกไ็ ดร้ ับการฟน� ฟูและใส่ใจมากขึ้นเรอื่ ย ๆ ในป�จจบุ นั 70% ของประชากรศรลี งั กานบั ถอื ศาสนาพุทธ โดยสว่ นใหญ่ปฏิบัติตามธรรมเนียม ของนกิ ายเถรวาท หลงั จากสงครามกลางเมืองที่ยาวนานเปน� ระยะเวลา 30 ป� ศรลี งั กามคี วามเป�น 16

ชาตินิยมทางพทุ ธศาสนามากข้นึ โดยมีองคก์ รอย่าง Bodu Bala Sena (กองกำลงั ชาวพทุ ธ) จดั การ ประทว้ งตอ่ ตา้ นชาวมสุ ลิมและโจมตผี นู้ ำทางศาสนาพทุ ธที่ปานกลาง พทุ ธศาสนาในเมียนมาร์ (พมา่ ) จากการคน้ ควา้ ทางประวัติศาสตรเ์ ผยวา่ พระพทุ ธศาสนาในประเทศพมา่ น้นั มีประวตั ิความ เป�นมายาวนานกวา่ 2,000 ป�แล้ว โดยมี 85% ของประชากรในป�จจุบนั นบั ถือศาสนาพทุ ธ การปฏิบัติ ในหมสู่ งฆน์ น้ั ใหค้ วามสำคัญกบั การนั่งสมาธิและการศกึ ษาพระธรรมอยา่ งสมดลุ สว่ นอบุ าสก อบุ าสกิ า กม็ ีศรทั ธาอันแรงกล้าในพทุ ธศานาเสมอมา ชาวพม่าท่ีมีชือ่ เสียงมากทสี่ ุดคนหน่ึงคอื อาจารยส์ ัตยา นารายัน โกเอ็นก้า ผสู้ อนวธิ กี ารปฏบิ ัตวิ ิปส� สนา เม่อื พม่าไดร้ บั เอกราชจากสหราชอาณาจักรในป� 1948 ท้งั รัฐบาลประชาชนและทหารไดท้ ำ การสนับสนนุ พทุ ธศาสนานิกายเถรวาท ภายใตก้ ารปกครองของทหาร พทุ ธศาสนาไดร้ บั การควบคมุ อยา่ งเครง่ ครัด และสถานปฏิบตั ธิ รรมทมี่ คี วามเหน็ ตา่ งจากรฐั บาลมกั โดนทำลายอยู่เปน� นิจ เหลา่ พระสงฆน์ ำขบวนประทว้ งการปกครองของทหารอยู่หลายครง้ั เช่น การกอ่ การกำเรบิ 8888 และการ ปฏวิ ตั ิผ้ากาสาวพสั ตร์ในป� 2007 ในชว่ งสิบป�ท่ผี า่ นมา มกี ลุ่มชาตินิยมหลายกลมุ่ เกิดขนึ้ และพวกเขาพยายามฟน� ฟู พระพทุ ธศาสนาเพอ่ื ต่อต้านศาสนาอสิ ลาม อะชีน วรี ะตู ผ้นู ำพระสงฆข์ องกลมุ่ 969 ตง้ั ฉายาให้ตวั เอง ว่า “บินลาเด็นแห่งพม่า” และเสนอการต่อต้านร้านค้าของชาวมสุ ลมิ การกล่าวอา้ งถึง “การปกป้อง พระพทุ ธศาสนา” นำไปสู่เหตกุ ารณ์รนุ แรงกบั มัสยดิ และบา้ นของชาวมสุ ลมิ ซง่ึ ชาวมสุ ลิมก็ตอบโต้ ทำ ใหเ้ กิดการปะทะกนั ทรี่ นุ แรงย่ิงข้ึน พทุ ธศาสนาในบังกลาเทศ ประเทศบังกลาเทศเป�นศนู ย์กลางความศรัทธาจนกระทั่งชว่ งศตวรรษที่ 11 ในปจ� จุบนั มี ประชากรน้อยกวา่ 1% ทนี่ บั ถอื ศาสนาพุทธ และกระจุกอยู่ในบรเิ วณเนนิ เขาจติ ตะกอง ใกลก้ ับ ประเทศพมา่ มีวดั ทางพทุ ธอยู่สแ่ี หง่ ในเมืองธากา ซึง่ เปน� เมืองหลวงของประเทศ และมีวัดอีกหลายแหง่ ใน หมบู่ า้ นทางตะวนั ออก ขาดการติดต่อกับพมา่ อย่างไรกต็ ามการปฏบิ ตั แิ ละความเขา้ ใจใน พระพทุ ธศาสนาของประเทศนน้ั ค่อนขา้ งต่ำ 17

พทุ ธศาสนาในลาว พระพทุ ธศาสนาเดนิ ทางมาถงึ ลาวครั้งแรกในศตวรรษที่ 7 ของยุคสากลสมยั และในป�จจบุ นั 90% ของประชากรนับถือศาสนาพทุ ธ พรอ้ มกบั ความเชอ่ื เรื่องผสี างเทวดา ในช่วงการปกครองแบบ คอมมิวนสิ ต์ ทางการไมไ่ ด้ระงับสิทธิการนับถอื ศาสนา แตใ่ ช้ความเชอ่ื ทางสงฆเ์ ป�นเครือ่ งมอื ในการต่อ ยอดทางการเมอื งของตน เมอื่ เวลาผา่ นไปพระพุทธศาสนาก็ถกู ปราบปรามเปน� อยา่ งมาก ต้งั แต่ชว่ ง ทศวรรษ 1990 พระพุทธศาสนาไดร้ บั การบูรณะฟน� ฟเู ปน� อยา่ งมาก ทำให้ตอนนีช้ าวลาวมจี ติ ศรทั ธาใน พุทธศาสนาอยา่ งแรงกล้า และผชู้ ายสว่ นใหญจ่ ะเขา้ รบั การบวช ถึงแม้จะเป�นระยะเวลาสั้น ๆ กต็ าม ครอบครัวสว่ นใหญต่ กั บาตรและไปวัดในวนั เดอื นเพ็ญอยเู่ สมอ พทุ ธศาสนาในกัมพชู า พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป�นศาสนาประจำชาติมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยมปี ระชากร 95% เป�นพทุ ธศาสนิกชนในปจ� จุบัน ในช่วงทศวรรษท่ี 1970 กลมุ่ เขมรแดงพยายามทำลายพทุ ธ ศาสนาและกเ็ กอื บทำไดส้ ำเรจ็ พอถงึ ป� 1979 พระสงฆเ์ กอื บทกุ รปู โดนฆ่าตาย หรอื โดนขบั ไลอ่ อกจาก ประเทศ สว่ นวัดวาอารามและหอสมดุ ทกุ แห่งกโ็ ดนทำลายเชน่ กนั หลงั จากการคืนอำนาจใหเ้ จา้ ชายสีหนไุ ดข้ นึ้ เป�นกษตั ริย์ ขอ้ จำกดั ตา่ ง ๆ กค็ อ่ ย ๆ ผ่อนปรนลง และความสนใจในพระพทุ ธศาสนากฟ็ �นตวั ขึ้น นอกจากนี้ชาวกมั พูชายังมคี วามเชื่อเรอื่ งการพยากรณ์ โชคชะตา โหราศาสตร์ และโลกแห่งวิญญาณเปน� อยา่ งมาก ซึ่งพระสงฆม์ กั ทำหนา้ ทีเ่ ป�นผรู้ ักษาโรค และเขา้ ร่วมพิธหี ลากหลายรปู แบบ ต้ังแต่การตง้ั ช่ือให้เด็ก ไปจนถึงงานแตง่ งานและงานศพ พทุ ธศาสนาในเวยี ดนาม พระพทุ ธศาสนาได้เผยแพรเ่ ข้ามาในเวียดนามเมอื่ 2,000 ป�กอ่ น ตอนแรกมาจากประเทศอินเดีย และ จากนัน้ กม็ าจากประเทศจีนเปน� สว่ นใหญ่ อยา่ งไรก็ตามพระพุทธศาสนาเริม่ ไม่เปน� ทีน่ ยิ มในหมชู่ นช้นั ปกครองในศตวรรษท่ี 15 พทุ ธศาสนาได้รับการฟน� ฟูอีกคร้ังในต้นศตวรรษท่ี 20 แตใ่ นช่วงการ ปกครองแบบสาธารณรฐั นโยบายสนบั สนุนนิกายแคทธอลคิ ก็เปน� ปรปก� ษ์ต่อพทุ ธศาสนิกชน ใน ป�จจุบนั มีประชากรเพียง 16% ท่นี ับถือศาสนาพทุ ธ แต่ศาสนาพทุ ธกย็ งั คงถอื เป�นศาสนาทีใ่ หญ่ที่สดุ ในประเทศอยดู่ ี 18

ตอนน้รี ัฐบาลมกี ารผอ่ นคลายเกยี่ วกับศาสนาพทุ ธมากขึ้น แตก่ ็ยังไม่อนุญาตใหว้ ัดทำงานเปน� เอกเทศ จากรฐั พุทธศาสนาในอินโดนีเซยี และมาเลเซยี พระพุทธศาสนาเผยแพรม่ าถงึ บรเิ วณดงั กล่าวประมาณชว่ งศตวรรษท่ี 2 ของยุคสากลสมยั โดย มาทางเส้นทางการซอ้ื ขายกบั ชาวอินเดีย ตามประวัติความเป�นมาส่วนใหญ่ พระพุทธศาสนาไดร้ บั การ ปฏิบัตเิ คียงคู่ไปกบั ศาสนาฮินดูจนถงึ ศัตวรรษท่ี 15 เม่ืออาณาจกั รพทุ ธ-ฮินดูสุดทา้ ยนามวา่ มชั ปาหติ ล่มสลาย พอถงึ ตน้ ป�ศตวรรษท่ี 17 ศาสนาอสิ ลามก็เข้าแทนทศี่ าสนาทั้งสองนอี้ ยา่ งสมบรู ณ์ จากนโยบายปญ� ศลี ของรฐั บาลอนิ โดนีเซีย ศาสนาทีเ่ ป�นทางการจำเป�นต้องแสดงความเชื่อใน พระเจา้ ศาสนาพุทธไมไ่ ดม้ คี วามเช่อื ในพระเจา้ องคใ์ ดองค์หนง่ึ แตก่ ็ไดร้ บั การยอมรบั ว่าเปน� ศาสนา ทางการ เพราะความเชอื่ ใน Adibuddha หรอื “พระพุทธเจา้ องค์แรก” ตามท่มี กี ารกลา่ วถึงใน กาลจกั รตนั ตระ ซง่ึ เฟอ� งฟูในประเทศอินเดยี เมอ่ื พันปก� อ่ น Adibuddha เป�นผู้รแู้ จ้งทีส่ รา้ งทกุ สรรพ สง่ิ อยเู่ หนือกาลเวลาและข้อจำกัดใด ๆ ถึงแมว้ ่าผ้นู ้จี ะถูกกลา่ วถงึ ในฐานะบคุ คลเชิงสญั ลกั ษณ์ แตก่ ็ ไมใ่ ช่สิ่งมีชีวติ ทด่ี ำรงอยู่ Adibuddha สามารถพบได้ทกุ สรรพส่ิงในฐานะแสงสวา่ งแห่งธรรมชาติของ จิตใจ ในปจ� จุบนั ศาสนาพทุ ธไดร้ บั การยอมรับใหอ้ ยทู่ า่ มกลางศาสนาอน่ื ๆ อยา่ งศาสนาอิสลาม ฮินดู ลทั ธขิ งจอ๊ื และศาสนาคริสตน์ กิ ายแคทอลคิ และโปรเตสแตนท์ พระสงฆ์ชาวศรีลังกาได้พยายามฟน� ฟพู ระพทุ ธศาสนานกิ ายเถรวาทในบาหลีและส่วนอื่น ๆ ของ อนิ โดนเี ซีย แต่ก็กระทำได้ในวงท่แี คบมาก ผทู้ ใ่ี หค้ วามสนใจกบั ศาสนาพุทธในบาหลีเปน� ผปู้ ฏิบตั ติ าม หลกั บาหลีดง้ั เดมิ ผสมกับศาสนาฮนิ ดู ศาสนาพทุ ธ และการนับถอื ผสี างเทวดาแบบพืน้ บา้ น สว่ น บริเวณอื่นของอนิ โดนีเซยี พุทธศาสนิกชนนบั เป�น 5% ของประชากร ซง่ึ มกั เป�นชาวอนิ โดนเี ซยี ที่อยูใ่ น ชุมชนชาวจนี นอกจากนี้ยงั มีชาวอินโดนเี ซียกลมุ่ เลก็ มากท่นี ับถือพุทธศาสนานกิ ายผสมผสานหลัก ปฏบิ ัติของพทุ ธแบบเถรวาท จีน และทเิ บต 20% ของประชากรมาเลเซียนับถือพุทธศาสนา ซงึ่ กลมุ่ นี้ มกั ประกอบไปด้วยชมุ ชนเชื้อสายจีน เม่ือครึง่ ศตวรรษท่ีแลว้ ความสนใจในพระพทุ ธศาสนาเรมิ่ เสอื่ ม คลายลง ในป� 1961 จึงมีการกอ่ ตง้ั Buddhist Missionary Society ข้นึ โดยมีจดุ ประสงค์เพอ่ื การ เผยแพรพ่ ุทธศาสนา ในชว่ งสิบป�ท่ีผา่ นมามีการนำหลักของพุทธศาสนาไปปฏิบตั ิมากขนึ้ รวมถงึ ใน กลมุ่ เยาวชนดว้ ย ตอนน้ีมีศูนยน์ ิกายเถรวาท มหายาน และวชริ ยานมากมายหลายแหง่ ซึง่ ได้รบั ทุน และการสนบั สนนุ เป�นอย่างดี 19

พทุ ธศาสนานิกายมหายาน พุทธศาสนาในสาธารณรฐั ประชาชนจีน พระพทุ ธศาสนามบี ทบาทสำคญั ในประวตั ศิ าสตรจ์ ีนมานานกว่า 2,000 ป� และพทุ ธศาสนาแบบ จนี กม็ ีบทบาทในการเผยแพรพ่ ุทธศาสนาในทวปี เอเชยี ตะวนั ออกอยา่ งต่อเนอ่ื งเช่นกัน ราชวงศ์ถัง ตอนต้น (618–907 ของสากลสมัย) ถือเปน� ยคุ ทองแห่งพระพุทธศาสนา รวมท้งั มคี วามเฟอ� งฟทู างดา้ น ศิลปะและวรรณกรรม ในช่วงการปฏิวัตวิ ัฒนธรรมยคุ ทศวรรษที่ 1960 และ 70 วัดวาอารามของพระสงฆจ์ ีนส่วนใหญ่ ถกู ทำลาย พระ แมช่ ี และอาจารยส์ อนศาสนาที่ได้รบั การฝ�กฝนมาอย่างดถี กู ประหารชวี ิต หรือไม่ก็ ถกู คมุ ขัง ในทเิ บตและมองโกเลยี ด้านในมกี ารกดข่ีทางพทุ ธศาสนาหนกั กวา่ นี้เสียอีก เมือ่ จนี ได้รับ การปฏิรูปและเปด� ประเทศมากข้ึน ความสนใจในศาสนาแบบดั้งเดิมก็กลับมาใหมอ่ ีกคร้ัง มกี ารสรา้ ง วดั ใหม่และบูรณะวดั เกา่ ผคู้ นสว่ นใหญ่ที่เขา้ รว่ มกบั วดั วาอารามเหลา่ นมี้ ักมาจากครอบครัวยากจน และมีการศกึ ษาตำ่ ซึ่งอาศยั อยตู่ ามชนบท วดั หลายแห่งมไี ว้เพ่ือการทอ่ งเท่ยี วเท่านั้น โดยมีพระทำ หนา้ ที่เปน� ผเู้ ก็บตว๋ั และดแู ลวัด ในปจ� จบุ ันมชี าวจีนจำนวนมากหนั มาสนใจพระพทุ ธศาสนามากข้ึนอยา่ งเห็นได้ชัด โดยเนน้ พทุ ธ ศาสนาแบบทิเบต จำนวนพทุ ธศาสนิกชนในป�จจบุ ันอย่ทู ป่ี ระมาณ 20% และวดั สว่ นใหญใ่ นจนี กม็ ีผู้ เข้าเยย่ี มชมอยา่ งไมข่ าดสาย เม่ือหลายคนเรม่ิ มฐี านะและชีวิตทยี่ ่งุ เหยิงมากขึน้ พวกเขากย็ ่อมหาทาง ออกด้วยการหันเขา้ หาพุทธศาสนาแบบจีนและทเิ บต พทุ ธศาสนาแบบทเิ บตนนั้ เปน� ทส่ี นใจสำหรบั ชาวจีนฮน่ั เปน� พเิ ศษ ซึ่งเห็นไดจ้ ากจำนวนลามะทส่ี อนเปน� ภาษาจนี ที่เพมิ่ ข้นึ เรือ่ ย ๆ พุทธศาสนาในไต้หวนั ฮอ่ งกง และชุมชนชาวจนี ในตา่ งประเทศ ในประเทศไต้หวันและฮอ่ งกงสามารถเหน็ ประเพณีของศาสนาพทุ ธนิกายมหายานแบบจนี ได้ ชดั เจนทสี่ ุดในทวีปเอเชียตะวันออก ไต้หวนั มีชมุ ชนคณะสงฆ์และแมช่ ีทแี่ น่นแฟ้น ซ่ึงไดร้ ับการ สนบั สนนุ เป�นอยา่ งดีจากผ้มู จี ิตศรทั ธาท่วั ไป นอกจากนี้ยงั มมี หาวทิ ยาลยั สำหรบั พุทธศาสนาและ โปรแกรมทางพทุ ธศาสนาสำหรบั สงั คมสงเคราะห์ด้วย ฮอ่ งกงก็มชี ุมชมคณะสงฆ์ทเี่ ฟอ� งฟเู ชน่ กนั สำหรบั ชุมชนพุทธศาสนกิ ชนชาวจีนในตา่ งประเทศอยา่ งในมาเลเซีย สงิ ค์โปร์ อนิ โดนีเซยี ไทย และ ฟล� ปิ ปน� สน์ ัน้ จะเนน้ เรอื่ งประเพณไี หว้บรรพบรุ ษุ และประเพณีเพือ่ ความเป�นสิรมิ งคลทางการเงนิ และ สุขภาพของผไู้ หว้ นอกจากน้ียังมีร่างทรงทสี่ ามารถสอ่ื สารขณะอยูใ่ นภวงั ค์ ซ่ึงมีกลมุ่ ผูม้ จี ิตศรทั ธาไป ปรกึ ษาปญ� หาด้านสุขภาพและจติ ใจของตนด้วย นกั ธรุ กจิ ยักษใ์ หญข่ องจนี ท่เี ป�นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกจิ 20

“สี่เสอื แห่งเอเชยี ” มักบริจาคเงินจำนวนมากใหพ้ ระสงฆ์ทำพธิ เี สริมความสำเรจ็ ใหก้ ับงานด้านการเงนิ ของตน ในไตห้ วัน ฮอ่ งกง สิงคโ์ ปร์ และมาเลเชยี กม็ ีชาวพทุ ธแบบทเิ บตเพ่มิ ขน้ึ ดว้ ยเช่นกัน พุทธศาสนาในเกาหลีใต้ พระพุทธศาสนามาถึงคาบสมุทรเกาหลจี ากประเทศจีนในปศ� ตวรรษท่ี 3 สากลสมยั ตอนนพ้ี ุทธศาสนา ในเกาหลยี ังถอื วา่ คอ่ นขา้ งแขง็ แรง ถึงแมว้ ่าจะถกู โจมตีจากองค์กรครสิ ตท์ ่ีเขม้ งวดมากขึ้นกต็ าม ในช่วง สิบปท� ผี่ ่านมามวี ัดทางพทุ ธมากมายถกู ทำลาย หรอื เสยี หายจากการเผาไหม้โดยกลมุ่ ดงั กล่าว ปจ� จุบัน มีประชากร 23% เปน� ชาวพทุ ธ พทุ ธศาสนาในญี่ปนุ่ พระพทุ ธศาสนาเผยแพรม่ าถงึ ญ่ีปนุ่ จากเกาหลใี นชว่ งศตวรรษที่ 5 และมบี ทบาทสำคัญอยา่ ง มากในสังคมและวัฒนธรรมของญ่ีป่นุ ตั้งแตป่ ศ� ตวรรษที่ 13 มีธรรมเนยี มทพ่ี ระญ่ีปนุ่ สามารถแตง่ งาน และดมื่ แอลกอฮอลล์ได้ พระเหล่านค้ี ่อย ๆ เขา้ มาแทนทวี่ า่ พระสงฆ์จะตอ้ งปฏบิ ตั ิพรหมจรรย์ ตาม ประวตั ศิ าสตร์แลว้ มีประเพณีแบบพทุ ธบางอยา่ งที่เป�นเชงิ ชาตนิ ยิ มสุดขวั้ โดยเชอื่ วา่ ญ่ปี นุ่ ถือเป�นสรวง สวรรค์ของพระพทุ ธศาสนา ในยุคป�จจบุ นั มลี ทั ธิท่เี ช่อื เรอื่ งวนั โลกาพนิ าศบางกลุม่ เรียกตัวเองว่าเปน� ชาวพุทธ ถึงแมว้ า่ จะแทบไม่มอี ะไรเกยี่ วขอ้ งกบั คำสอนพระศากยมนุ พี ทุ ธเจ้าเลย ประชากรประมาณ 40% เป�นพทุ ธศาสนิกชน และชาวญป่ี ุน่ ส่วนใหญม่ ีความเชอื่ ผสมผสาน ระหวา่ งพระพุทธศาสนากบั ชนิ โต ซง่ึ เปน� ศาสนาดงั้ เดิมของญีป่ ุ่น พิธีการเกิดและแต่งงานจะไดร้ ับการ เฉลมิ ฉลองตามประเพณีของชินโต ในขณะทพี่ ธิ งี านศพจะเปน� หนา้ ทข่ี องพระสงฆ์ วัดวาอารามในญ่ีปุน่ ไดร้ บั การเก็บรกั ษาไวเ้ ป�นอย่างดีท้ังสำหรบั นกั ท่องเทย่ี วและผู้มาเยือน ถงึ แม้ว่าวดั บางแหง่ จะเป�นเชิงพาณชิ ยม์ ากกต็ าม โดยรวมแลว้ การศึกษาและปฏบิ ตั ทิ างพุทธศาสนาน้ัน มีนอ้ ยลงไปอยา่ งมาก ที่ญีป่ ่นุ มีองคก์ รพทุ ธศาสนาที่ใหญท่ สี่ ดุ ในโลกแห่งหนึง่ ชอ่ื วา่ โซคา กักไก พุทธศาสนาในทเิ บต พุทธศาสนาเดนิ ทางมาถงึ ทิเบตต้ังแตศ่ ตวรรษที่ 7 ของยกุ สากลสมยั การอุปถัมป์ของราชวงศ์ และการสนับสนุนของขนุ นางเป�นเวลาหลายศตวรรษทำใหพ้ ระพุทธศาสนาซบึ ซบั อยใู่ นมมุ มองการใช้ ชีวิตหลายอยา่ งของชาวทเิ บต 21

หลังจากการยดึ ครองของสาธารณรฐั ประชาชนจีน พระพทุ ธศาสนาในทิเบตกโ็ ดนกดข่เี ปน� อยา่ งมาก มี เพียงวัดและสำนกั ชีเพยี งแค่ 150 แห่ง จาก 6,500 แห่งท่รี อดพน้ จากการทำลาย พระและครสู อน ศาสนาสว่ นใหญโ่ ดนประหารชวี ิต หรอื ไมก่ ็เสยี ชีวติ ในคา่ ยกกั กัน หลังจากการปฏิวตั ิวฒั นธรรม ก็มีการ บูรณะวัดขน้ึ โดยความพยายามของผูท้ ี่เคยเป�นพระสงฆ์ คนในพนื้ ที่ และชาวทิเบตที่ถูกเนรเทศออกไป โดยรัฐบาลชว่ ยสรา้ งเพยี งแคส่ อง หรอื สามแหง่ เทา่ นัน้ รัฐบาลคอมมิวนสิ ตจ์ ีนไมเ่ ชอื่ ในศาสนา แตย่ อมให้ผูค้ นนับถอื “ศาสนาทีไ่ ดร้ ับการยอมรบั ” หา้ อย่าง ซ่งึ หนึ่งในนัน้ กค็ อื ศาสนาพทุ ธ ถึงแมพ้ วกเขาจะอา้ งวา่ จะไมข่ อ้ งเกีย่ วกบั เรื่องทางศาสนา หลังจากที่องคด์ าไลลามะประกาศว่าเด็กชายทเิ บตผู้หนึง่ เป�นปน� เชนลามะท่กี ลบั ชาติมาเกดิ นน้ั เดก็ คน นีแ้ ละครอบครวั ของเขาก็หายตัวไปทนั ที หลงั จากน้ันรฐั บาลจีนจงึ ออกตามเดก็ ลกู คร่ึงจีน-ทเิ บต ต้ังแต่น้ันมาตัวเลอื กของดาไลลามะก็ยงั ไมเ่ คยเห็น ในป�จจบุ นั วัดวาอารามและสำนกั ชีมีทมี งานของรฐั บาลประจำอยู่ มีตำรวจนอกเครอื่ งแบบท้ัง ชายและหญิงที่ “ชว่ ยเหลือแบ่งเบา” งานตา่ ง ๆ พูดง่าย ๆ กค็ อื คนกลมุ่ นค้ี อยจบั ตาดแู ละรายงาน เกย่ี วกับคณะสงฆ์น้เี สมอ บางคร้งั ทมี งานทว่ี ่านมี้ ีจำนวนมากเทา่ กับพระและแม่ชที พ่ี ำนักอยู่ ณ ทน่ี น้ั เลยทเี ดียว นอกจากการแทรกแซงของรฐั บาลแลว้ ป�ญหาอกี ประการของชาวพุทธในทเิ บตคือ การ ขาดอาจารย์ทมี่ ีคณุ สมบตั ิ พระสงฆ์ แมช่ ี และผมู้ จี ติ ศรทั ธาตา่ งกก็ ระตือรอื รน้ อยากเรยี นร้เู พิม่ เตมิ แต่อาจารย์สว่ นใหญ่นั้นมีความรแู้ ละประสบการณท์ จ่ี ำกัด ในชว่ งสบิ ป�ทีผ่ า่ นมา รฐั บาลเปด� “มหาวิทยาลยั ” สำหรบั พทุ ธศาสนา ใกล้ ๆ เมอื งลาซา ทำหน้าทีเ่ ป�นโรงเรียนสำหรับตลุ กุ (tulku) วัย เยาว์ ซงึ่ สอนภาษาทเิ บต อกั ษรวจิ ติ ร การแพทย์ การฝง� เขม็ และปรัชญาของพทุ ธศาสนาบางอย่าง ยุคดจิ ิตอลไดน้ ำพาหนุม่ สาวชาวทเิ บตให้ใกล้ชิดกบั พุทธศาสนามากขน้ึ หลายคนเป�นสมาชิกกลมุ่ ใน แอป WeChat และ Weibo ทีแ่ บง่ ป�นการสอนและเร่ืองราวทางพทุ ธศาสนา ตอนน้กี ารเรยี นรพู้ ทุ ธ ศาสนาถือเปน� วธิ กี ารเสริมอตั ลักษณค์ วามเปน� “ชาวทิเบตอยา่ งแท้จริง” วิธีหนึ่ง พทุ ธศาสนาในสาธารณรฐั เตอร์กสิ ถานตะวนั ออก วดั วาอารามสว่ นใหญข่ องคามิยคยาในสาธารณรฐั เตอรก์ ิสถานตะวนั ออก (ซินเจียง) ถกู ทำลาย ในช่วงการปฏิวตั ิวัฒนธรรม ตอนนี้วดั หลายแห่งไดร้ บั การสรา้ งใหมแ่ ลว้ แต่ยงั ขาดอาจารยส์ อนอยู่ มากกวา่ ในทเิ บตเสียอีก พระสงฆ์รนุ่ ใหม่ทอ้ ใจจากการขาดส่งิ อำนวยความสะดวกทางการศกึ ษาและ หลายคนกล็ าสิกขาออกไป 22

พทุ ธศาสนาในมองโกเลยี ในมองโกเลยี เคยมีวัดวาอารามอย่หู ลายพนั แหง่ แต่ทั้งหมดถูกทำลายจนหมดสิ้น หรือเสียหาย บางสว่ นในป� 1937 ภายใตค้ ำสงั่ ของสตาลิน ในป� 1946 มวี ัดแห่งหน่ึงเปด� ขึ้นอกี คร้ังทีอ่ ลู านบาตาร์ เพอ่ื เปน� สญั ลักษณเ์ ท่านน้ั และในทศวรรษท่ี 1970 ก็มีวทิ ยาลยั หา้ ปส� ำหรบั พระเกิดขึ้น หลักสตู รการ เรียนนนั้ ยอ่ มากและเนน้ การศกึ ษาเกีย่ วกับลัทธิมาร์กซิสเป�นอยา่ งมาก โดยพระสงฆไ์ ด้รบั อนญุ าตให้ ทำพิธสี ำหรบั สังคมไดอ้ ยา่ งจำกัด หลังการล่มสลายของคอมมิวนสิ ตใ์ นป� 1990 มกี ารฟน� ฟู พระพทุ ธศาสนาครง้ั ใหญ่ โดยไดร้ ับความชว่ ยเหลือจากชาวทเิ บตทีถ่ กู เนรเทศ พระใหมห่ ลายองค์ถกู ส่งไปฝ�กทอี่ ินเดยี และวดั กวา่ 200 แหง่ ไดร้ บั การสรา้ งขน้ึ ใหมใ่ นระดับปานกลาง หนึง่ ในปญ� หาใหญ่สำหรบั พระพทุ ธศาสนาในมองโกเลียหลังจาก 1990 คือ การมาเยือนของ เหลา่ มอร์มอน แอดเวนทิสต์ และมิชชนั นารีชาวครสิ ตห์ ัวรุนแรง ซง่ึ เขา้ มาในลกั ษณะครสู อน ภาษาอังกฤษ พวกเขาเสนอเงนิ และความชว่ ยเหลอื ให้เดก็ ๆ ในหมบู่ า้ นได้ไปเรียนทอี่ เมริกา หากพวก เขายอมเปลยี่ นศาสนา ทง้ั ยังให้หนงั สอื สวยงามเก่ยี วกับพระเยซู ซึง่ เขียนเปน� ภาษามองโกลอยา่ ง สละสลวยฟรดี ้วย เมอื่ เดก็ และคนหนุม่ สาวหนั ไปสนใจศาสนาครสิ ตก์ นั มากขึน้ องค์กรศาสนาพทุ ธก็ เร่มิ แจกจ่ายขอ้ มูลเกย่ี วกับพุทธศาสนาในภาษาท้องถ่ิน ผา่ นทางสอ่ื สิ่งพมิ พ์ รายการโทรทศั นแ์ ละวทิ ยุ บา้ ง ตอนนก้ี ารบังคับให้คนเปลี่ยนศาสนาเพอ่ื เข้ารตี ถือเปน� ส่งิ ต้องห้ามในมองโกเลยี ในป� 2010 ประชากร 53% เปน� ชาวพุทธ และ 2.1% เปน� ชาวคริสต์ พทุ ธศาสนาในชาวทิเบตพลัดถ่ิน การปฏบิ ตั ติ ามธรรมเนยี มพทุ ธของทเิ บตนนั้ เห็นไดช้ ัดสุดในชมุ ชนผูอ้ พยพชาวทเิ บต ซ่งึ อาศยั อยู่ ใกล้เคยี งกับองค์ดาไลลามะผู้พลัดถิ่นไปอยทู่ ่ีอนิ เดยี ต้งั แต่ป� 1959 ซ่งึ เปน� การต่อต้านการยึดครองจาก กองทัพจีน พวกเขาไดเ้ ริ่มวัดวาอารามและสำนกั ชีใหญ่ ๆ ของทเิ บตข้นึ อีกครง้ั และเปด� โปรแกรมการ สอนแบบดงั้ เดิมเต็มรปู แบบสำหรับนักศกึ ษาสงฆ์ พระวปิ ป�สนาจารย์ และอาจารย์ มสี ่ิงอำนวยความ สะดวกทางด้านการศกึ ษา วจิ ัย และการตพี มิ พต์ ่าง ๆ เพอื่ รกั ษารูปแบบสำหนักพุทธศาสนาแบบทิเบต แตล่ ะสำนักเอาไวท้ ั้งหมด ชาวทเิ บตพลดั ถ่นิ ได้ช่วยฟ�นฟพู ระพทุ ธศาสนาในเขตหมิ าลัยของอินเดีย เนปาล และภฏู าน รวมถงึ ในลาดักห์และสกิ ขมิ ด้วย โดยการส่งอาจารย์และกระจายการสบื ทอดต่าง ๆ พระและแม่ชใี น พน้ื ทีเ่ หลา่ นไี้ ด้รับการศกึ ษาและการฝ�กปฏบิ ัติในวดั และสำนักชขี องผอู้ พยพชาวทิเบต 23

พทุ ธศาสนาในเนปาล ถงึ แม้วา่ ชาวเนปาลสว่ นใหญ่จะนับถือศาสนาฮนิ ดู เนปาลซึง่ เปน� สถานทีป่ ระสูตขิ องพระพทุ ธเจา้ กไ็ ดร้ ับอทิ ธิพลจากศาสนาพุทธอยา่ งมากเชน่ กนั กลุ่มชาตพิ ันธุอ์ ย่างเนวาร กรู ุง และตามางยงั คง ปฏบิ ัติตามหลักพทุ ธศาสนาแบบเนปาลอยู่ ป�จจบุ นั พทุ ธศาสนกิ ชนถอื เปน� 9% ของประชากรท้ังหมด เนื่องจากการผสมสานระหว่างศาสนาพุทธและฮินดู เนปาลเปน� ประเทศเดียวทีม่ กี ารแบ่งชนชนั้ วรรณะในสังคมสงฆ์ ในช่วงเวลากว่า 500 ปท� ่ีผา่ นมามีพระสงฆท์ ี่แต่งงานในชนชัน้ สบื ทอด ซ่งึ กลายเปน� ผู้ดูแลรักษาวดั และผูน้ ำทางพิธกี รรมต่าง ๆ พทุ ธศาสนาในรัสเซยี บเู รียตยี า ตวู า และคลั มเิ กียเป�นสามเขตของรสั เซยี ทเี่ คยนบั ถอื ศาสนาพุทธแบบทเิ บต วดั วา อารามท้ังหมดในเขตเหล่านีถ้ กู ทำลายจนหมดสนิ้ โดยสตาลนิ ในป�ทศวรรษ 1930 เหลือไวแ้ ต่วดั สาม แห่งที่ได้รับความเสยี หาย ในป�ทศวรรษที่ 1940 สตาลินเป�ดวดั สองแหง่ ข้ึนอกี ครง้ั ในบเู รยี ตยี า ภายใต้ การควบคมุ อยา่ งเครง่ ครดั ของ KGB พระสงฆไ์ ด้แต่สวมจีวรเปน� เครอ่ื งแบบในช่วงกลางวนั เพ่ือทำพธิ ี ต่าง ๆ หลงั การล่มสลายของพรรคคอมมวิ นสิ ต์ พระพทุ ธศาสนาในทง้ั สามเขตจงึ ได้รบั การฟน� ฟขู ้นึ เปน� อย่างมาก ชาวทิเบตพลดั ถ่ินส่งอาจารย์มาท่ีน่ี ส่วนพระสงฆ์รุ่นใหม่กไ็ ดร้ บั การส่งไปศึกษาใน ประเทศอินเดยี ปจ� จุบันมกี ารบรู ณะวัดมากกวา่ 20 แห่งในบูเรยี จยี า ตวู า และคลั มเิ กีย 24

สรุป พทุ ธศาสนาไมว่ า่ จะเปน� ท้ังในประเทศหรือตา่ งประเทศ ไมว่ า่ จะเป�นนิกายเถรวาท มหายาน หรอื วชั รยาน ก็ลว้ นแลว้ แต่มีการมุ่งเน้นถงึ เรอ่ื งการพน้ ทุกข์ และสอนใหร้ จู้ ักทกุ ข์และวิธีการดบั ทุกข์ ใหพ้ ้นจากความไม่รคู้ วามจรงิ ในธรรมชาติ อนั เป�นเหตุใหเ้ กิดทกุ ข์จากกเิ ลสท้ังปวงคอื ความโลภ ความ โกรธ ความหลง รวมทั้งเนน้ การศกึ ษาทำความเขา้ ใจ การโยนโิ สมนสกิ ารด้วยป�ญญา และพสิ ูจนท์ ราบ ข้อเทจ็ จรงิ เห็นเหตุผลวา่ สิง่ นมี้ สี ่งิ นี้จึงมี จนเห็นตามความเปน� จริงวา่ สรรพสง่ิ ในธรรมชาตเิ ปน� ไปตาม กฎพระไตรลกั ษณ์ และสัตวโ์ ลกทเี่ ปน� ไปตามกฎแห่งกรรม แลว้ เลอื กใช้หลกั ธรรมในพุทธศาสนาท่ี เหมาะกบั ผลท่จี ะไดส้ ่งิ ทปี่ รารถนาอยา่ งถูกตอ้ ง ดว้ ยความไม่ประมาทในชีวิตใหม้ คี วามสุขในทงั้ ชาติน้ี และชาติตอ่ ๆ ไป ตลอดจนปรารถนาในพระนพิ พานของผมู้ ปี ญ� ญา แต่สิ่งทีแ่ ตกตา่ งกนั คอื ขนบและวธิ ี ปฏบิ ตั ิทแี่ ตกต่างกันตามแล้วแตล่ ะภมู ภิ าค เพยี งเทา่ นนั้ เอง 25

บรรณานุกรม ศาสนาพุทธ จากวิกพิ ีเดยี สารานุกรมเสรี https://th.wikipedia.org/wiki/ศาสนาพทุ ธ ศาสนาพุทธในประเทศไทย จากวกิ พิ เี ดยี สารานกุ รมเสรี https://th.wikipedia.org/wiki/ศาสนาพทุ ธในประเทศไทย พระพุทธศาสนาในโลกป�จจุบัน จาก studybuddhism https://studybuddhism.com/th/phuthth-sasna-ni-thibet/keiyw-kab-phuthth- sasna/phuthth-sasna-ni-lok/phra-phuthth-sasna-ni-lok-paccuban นกิ าย จากวกิ พิ เี ดยี สารานุกรมเสรี https://th.wikipedia.org/wiki/นกิ าย 26

27