www.safetylifethailand.comReference : NFPA 11 Standard for Low-, Medium-, and High-Expansion Foam อัตราการใช้โฟม [Application Rate อยเู่ ปน็ ชนดิ อตั ราสว่ นผสม 3%-6% z มพี น้ื ทเ่ี พลงิ ไหมร้ วมสทง้ั สน้ิ 10,000( สำหรบั การดบั ไฟประเภท B เทา่ นน้ั )] z สตู รอตั ราการใชโ้ ฟมสำหรบั เชอ้ื เพลงิ ตารางฟตุ อตั ราการใชโ้ ฟม (ขน้ั ตำ่ ) ทจ่ี ะนำเสนอ ไฮโดรคารบ์ อน 0.1 GPM ตอ่ ตารางฟตุ z ปรมิ าณสว่ นผสมโฟม (Foam Solution)ต่อไปนี้ใช้สำหรับการดับไฟน้ำมันจากการหก z มีพืน้ ทีเ่ พลงิ ไหมร้ วมท้ังหมด 2,000 ทต่ี อ้ งการ = 0.1 GPM x 10,000 ตารางฟตุ =รั่วไหลเป็นแอ่งตื้นตามที่ระบุไว้ในมาตรฐาน 1,000 GPMNFPA 11 การเพม่ิ อตั ราการใชโ้ ฟมจากอตั ราขน้ั ตารางฟตุตำ่ จะรน่ เวลาในการดบั ไฟใหส้ น้ั ลง แตห่ ากลด z ปรมิ าณสว่ นผสมโฟม (Foam Solution) z กรณใี ชอ้ ตั ราสว่ นผสม 3% จะตอ้ งใช้อตั ราการใช้โฟมอาจทำใหก้ ารดับเพลิงใชเ้ วลา นำ้ ยาโฟม = 0.03 x 1,000 GPM = 30 GPMยาวนานขึ้นซึ่งในทางปฏิบัติแล้วต้องพยายาม ทต่ี อ้ งการ = 0.1 GPM x 2,000 ตารางฟตุ = หรอื 30 แกลลอนตอ่ นาทีดบั ไฟใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ “การดบั ไฟไดช้ า้ เกนิ ไปอาจ 200 GPMทำใหไ้ มส่ ามารถควบคมุ ไวไ้ ดแ้ ละเกดิ ความ z ตอ้ งใชเ้ ปน็ เวลา 15 นาที ดงั นน้ั ตอ้ งใช้เสยี หายรา้ ยแรงเกนิ คาดคดิ ” z กรณใี ชอ้ ตั ราสว่ นผสม 3% จะตอ้ งใช้ นำ้ ยาโฟม 3% = 30 x 15 = 450 แกลลอน นำ้ ยาโฟม = 0.03 x 200 GPM = 6 GPM หรอื ของเหลวไวไฟแบ่งออกเป็น 2 ชนิด 6 แกลลอนตอ่ นาที สรุป พื้นที่เพลิงไหม้เกิดจากเชื้อเพลิงแตล่ ะชนดิ มอี ตั ราการใชโ้ ฟมแตกตา่ งกนั ดงั น้ี ไฮโดรคารบ์ อน 10,000 ตารางฟตุ ตอ้ งใชน้ ำ้ ยา z ตอ้ งใชเ้ ปน็ เวลา 15 นาที ดงั นน้ั ตอ้ งใช้ โฟม AFFF ชนดิ 3% ปรมิ าณ 450 แกลลอนใน 1. ไฮโดรคารบ์ อน (Hydrocarbons) นำ้ ยาโฟม 3% = 6 x 15 = 90 แกลลอน การระงบั เหตุ ไฮโดรคารบ์ อนคอื ของเหลวไวไฟทล่ี อยเหนือผิวน้ำและไม่ผสมตัวกับน้ำ ตัวอย่างเช่น สรุป พื้นที่เพลิงไหม้เกิดจากเชื้อเพลิง 2. โพลารโ์ ซลเวน้ ท์ (Polar Solvents)น้ำมันเชื้อเพลิง (เบนซิน ดีเซล JP4 ฯลฯ) ไฮโดรคารบ์ อน 2,000 ตารางฟตุ ตอ้ งใชน้ ำ้ ยา โพลารโ์ ซลเวน้ ทค์ อื ของเหลวไฟทล่ี ะลายเกอโรซนี (นำ้ มนั กา๊ ด) เฮปเทน และอน่ื ๆ โฟม AFFF ชนดิ 3% ปรมิ าณ 90 แกลลอนใน ในนำ้ หรอื สามารถผสมกบั นำ้ ได้ อาทเิ ชน่ คโี ตน ในการดบั ไฟเกดิ จากเชอ้ื เพลงิ ไวไฟกลมุ่ การระงบั เหตุ เอสเทอร์ แอลกอฮอล์ เอม็ บที ี อามนี ฯลฯไฮโดรคารบ์ อน มาตรฐาน NFPA กำหนดใหใ้ ช้ การดบั ไฟเกดิ จากเชอ้ื เพลงิ ประเภทนจ้ี ะโฟมชนิดสร้างชั้นฟิล์ม (Film Forming Type ตวั อยา่ งท่ี 2 เพลงิ ไหมน้ ้ำมันเช้อื เพลงิ ต้องใช้โฟมสร้างชั้นฟิล์มที่มีคุณสมบัติต่อต้านFoam) ในอตั รา Foam Solution 0.1 GPM ตอ่ (ดเี ซล) กนิ พน้ื ทร่ี าว 10,000 ตารางฟตุ แอลกอฮอล์ เชน่ AR-AFFF, AR-FFFP เปน็ ตน้พน้ื ทเ่ี พลงิ ไหม้ 1 ตารางฟตุ ระยะเวลาในการใช้โฟมอยา่ งนอ้ ย 15 นาที z สตู รอตั ราการใชโ้ ฟมสำหรบั เชอ้ื เพลงิ ตวั อยา่ งการคำนวณอตั ราการใชโ้ ฟม ไฮโดรคารบ์ อน 0.1 GPM ตอ่ ตารางฟตุ ตวั อยา่ งท่ี 1 เพลงิ ไหมน้ ้ำมนั เชอ้ื เพลงิ(เบนซนิ ) กนิ พน้ื ท่ี 2,000 ตารางฟตุ โฟมทม่ี ี
ในอตั รา Foam Solution 0.2 GPM ตอ่ พน้ื ท่ี 1ตารางฟตุ เวลาในการใชโ้ ฟมอยา่ งนอ้ ย 15 นาที ตวั อยา่ ง พ้นื ทเ่ี พลงิ ไหมเ้ กดิ จากโพลาร์โซลเวน้ ทไ์ มท่ ราบชนดิ 1,000 ตารางฟตุ z สตู รอตั ราการใชโ้ ฟมสำหรบั เชอ้ื เพลงิโพลารโ์ ซลเวน้ ท์ 0.2 GPM ตอ่ ตารางฟตุ z มีพนื้ ทเ่ี พลงิ ไหมร้ วมท้งั หมด 1,000ตารางฟตุ z ปรมิ าณสว่ นผสมโฟม (Foam Solution)ทต่ี อ้ งการ = 0.2 GPM x 1,000 ตารางฟตุ =200 GPM z กรณใี ชอ้ ตั ราสว่ นผสม 6% จะตอ้ งใช้นำ้ ยาโฟม = 0.06 x 200 GPM = 12 GPM หรอื12 แกลลอนตอ่ นาที Air-Aspirated Nozzles Non Air-Aspirated Nozzle z ตอ้ งใชเ้ ปน็ เวลา 15 นาที ดงั นน้ั ตอ้ ง หลงั จากประเมนิ อคั คภี ยั (Size Up) เพอ่ื ในพน้ื ท่ี (Mutual Aid) สามารถทำได้ มปี รมิ าณใชน้ ำ้ ยาโฟม 6% = 12 x 15 = 180 แกลลอน ระบุชนิดเชื้อเพลิงและคำนวณพื้นที่เพลิงไหม้ เทา่ ไหร่ เปน็ การวางแผนกอ่ นเกดิ เหตุ (Pre-fire อยา่ งครา่ วๆ แลว้ เราจะตอ้ งใชส้ ว่ นผสมโฟมใน Plan) เพอ่ื ใหก้ ารระงบั เหตอุ คั คภี ยั จากเชอ้ื เพลงิ สรุป พื้นที่เพลิงไหม้เกิดจากเชื้อเพลิง ปรมิ าณทถ่ี กู ตอ้ งตามสตู รสำหรบั ดบั ไฟเกดิ จาก ประเภทไฮโดรคาร์บอน/โพลาร์โซลเว้นท์เกิดโพลารโ์ ซลเวน้ ท์ 1,000 ตารางฟตุ ตอ้ งใชน้ ำ้ ยา เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนหรือโพลาร์โซลเว้นท์ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุโฟม AR-AFFF ชนดิ 6% ปรมิ าณ 180 แกลลอน เราจะตอ้ งจดั หาทรพั ยากร (อตั ราสว่ นผสมโฟมในการระงบั เหตุ และอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมด) ให้ครบและ เมื่อเรารบั ทราบวา่ หนว่ ยงานของตัวเอง เพยี งพอกอ่ นจะทำการดบั ไฟ นน่ั หมายความวา่ และเครือข่ายมีศักยภาพสูงสุดเท่าไหร่จึงไม่ใช่ หมายเหตุ อัตราการใช้ส่วนผสมโฟม ทรพั ยากรทจ่ี ดั เตรยี มไวต้ อ้ งมมี ากกวา่ อตั ราการ เรื่องยากที่เราจะจัดการภัยพิบัติขนาดเล็กกว่าสำหรบั โพลารโ์ ซลเวน้ มมี ากมายหลายสตู รตาม ใช้ที่คำนวณออกมา ณ ที่เกิดเหตุ เนื่องจากมี ทรัพยากรที่เตรียมรับมือไว้ หากอัคคีภัยใหญ่ชนดิ ของโฟมและชนดิ ของเชอ้ื เพลงิ ทม่ี ลี กั ษณะ ความเปน็ ไปไดท้ เี่ พลิงอาจจะลกุ ลามหรือเพลงิ เกินกวา่ จะรบั มอื ไดก้ ส็ ามารถวางแผนแสวงหาพเิ ศษ อตั ราใชง้ าน 0.2 GPM ตอ่ ตารางฟตุ ตาม ไมด่ บั ลงไปเมอ่ื ใชอ้ ตั ราการใชโ้ ฟมครบตามสตู ร ความชว่ ยเหลอื และสนบั สนนุ จากหนว่ ยงานนอกตวั อยา่ งขา้ งตน้ สว่ นใหญจ่ ะใชด้ ับไฟทเ่ี กดิ จาก ซง่ึ จำเปน็ จะตอ้ งใชโ้ ฟมตอ่ เนอ่ื งไปอกี ระยะหนง่ึ พน้ื ทห่ี รอื จากองคก์ รในระดบั ชน้ั ทส่ี งู ขน้ึ ไปอุบัติเหตุรถขนส่งน้ำมันพลิกคว่ำ หรือเรียกว่า หรอื ใชด้ ับไฟทอ่ี าจลกุ ตดิ ขน้ึ มาใหม่“อตั ราใชง้ านกลางถนน” (Middle of the Road การคำนวณอตั ราการใชโ้ ฟม นอกจากจะRate) การใชโ้ ฟมดบั ไฟในกรณอี น่ื ควรปรกึ ษา ปจั จบุ นั หนว่ ยดบั เพลงิ สว่ นใหญไ่ มร่ อให้ ไดต้ วั เลขปรมิ าณนำ้ ยาโฟม (อตั ราสว่ นผสมโฟมผู้ผลิตหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้โฟมโดยตรง ไฟเกดิ ขน้ึ กอ่ นแลว้ คอ่ ยจดั การทรพั ยากร แตจ่ ะ หรอื เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ฟม) ทจ่ี ะตอ้ งใชเ้ พอ่ื ใหไ้ ดส้ ่วนและเพือ่ ใหโ้ ฟมขยายตวั ในอัตราเหมาะสมและ ใชว้ ธิ คี ำนวณลว่ งหนา้ เพอ่ื ใหท้ ราบวา่ อตั ราการ ผสมโฟม (Foam Solution) ตามสตู รแลว้ ยงั ทำให้มปี ระสทิ ธภิ าพในการดบั ไฟสงู ควรจะใชห้ วั ฉดี ใช้โฟมมากที่สุดซึ่งหน่วยของตัวเองและหน่วย ทราบวา่ ตอ้ งใชน้ ำ้ ในปรมิ าณเทา่ ใดดว้ ย ในบางโฟมชนดิ มรี อู ากาศ (Air-Aspirated Nozzles) อน่ื ๆ ทอ่ี ยใู่ นเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระหวา่ งกนั กรณหี รอื ในบางพน้ื ท่ี น้ำอาจไมใ่ ชท่ รพั ยากรท่ี สามารถใชไ้ ดอ้ ยา่ งไมจ่ ำกดั ปรมิ าณจนทำใหเ้ รา การนำอตั ราการใชโ้ ฟมไปใชด้ บั ไฟ ไมต่ อ้ งสนใจวา่ จะตอ้ งเตรยี มนำ้ สำรองไวห้ รอื ไม่ หรือเตรียมไว้ในปริมาณมากน้อยแค่ไหน วธิ กี ารหาปรมิ าณนำ้ ทจ่ี ะใชใ้ นการสรา้ ง สว่ นผสมโฟม ใหน้ ำปรมิ าณนำ้ ยาโฟม (Foam Concentration) ทค่ี ำนวณออกมาไดห้ กั ออกจาก
ประกาศยตุ สิ ถานการณอ์ ยา่ งสมบรู ณ์ นน่ั คอื จะ ไมม่ ปี ฏบิ ตั กิ ารเกย่ี วกบั การระงบั เหตอุ คั คภี ยั อกี นับแต่นี้ (อาจมีการทำความสะอาดพื้นที่หรือ พิสูจน์หลักฐานของเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย แลว้ แตก่ รณซี ง่ึ ไมเ่ กย่ี วกบั หนว่ ยดบั เพลงิ ) ในกรณีไฟไม่ดับลงไปภายในเวลา 15 นาทตี ามสตู รการใชโ้ ฟม ใหป้ ฏบิ ตั กิ ารระงบั เหตุ ตอ่ ไปโดย ถอื วา่ ภารกจิ ยงั ไมส่ น้ิ สดุ เวลาทำงาน ยดื ออกไปเปน็ ระยะเวลายงั อยใู่ นชว่ งการทำงาน ไมใ่ ชเ่ วลาของการเฝา้ ระวงั หลงั ไฟดบั แตอ่ ยา่ งใด กรณนี ้ี ระยะการเฝ้าระวงั จะเร่ิมนับหลงั จากไฟ ดับลงไปแลว้ แตห่ ากไฟดบั ภายในเวลาไมถ่ งึ 15 นาที ตอ้ งรอใหผ้ า่ น 15 นาที (ตามสตู ร) จงึ จะเรม่ิ ตน้ นบั เวลาของการเฝา้ ระวงั ตวั อยา่ ง ปรมิ าณอตั ราสว่ นผสมโฟมและ เปน็ ชว่ งการเฝา้ ระวงั อนั ตรายทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ จาก น้ำสำหรับใช้ดับไฟซึ่งเกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟทล่ี ุกตดิ ข้นึ มาใหม่ ระยะเวลาชว่ งนไ้ี มม่ ีการ(ดเี ซล) พน้ื ท่ี 10,000 ตารางฟตุ กำหนดว่าจะเป็นเท่าไหร่ อาจเป็นชั่วโมงหรือ รูปแบบการใช้โฟมตามข้อกำหนดใน หลายชว่ั โมงกไ็ ด้ สง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งทำในการเฝา้ ระวงั มาตรฐาน NFPA 11 z สตู รอตั ราการใชโ้ ฟมสำหรบั เชอ้ื เพลงิ ไดแ้ ก่ เดนิ สำรวจบรเิ วณทม่ี กี ารใชส้ ว่ นผสมโฟมไฮโดรคารบ์ อน 0.1 GPM ตอ่ ตารางฟตุ คลมุ ทบั เชอ้ื เพลงิ เพอ่ื ดใู หแ้ นใ่ จวา่ ไฟไดด้ บั สนทิ รูปแบบหรือระบบการใช้โฟม หมายถึง ไปแลว้ หรอื ตรวจตราเพอ่ื ประเมนิ แนวโนม้ จะมี กระบวนการเรม่ิ ตน้ ตง้ั แตก่ ารนำอตั ราสว่ นผสม z มพี น้ื ทเ่ี พลงิ ไหมร้ วมทง้ั หมด 10,000 การลกุ ตดิ ขน้ึ ใหมห่ รอื ไม่ อาจฉดี สว่ นผสมโฟม โฟม (นำ้ ยาโฟม) และนำ้ เขา้ มายงั อปุ กรณผ์ สมตารางฟตุ ทบั ลงไปอกี ชน้ั หนง่ึ กไ็ ด้ หากมสี ง่ิ บอกเหตไุ มน่ า่ โฟมเพอ่ื ใหไ้ ดส้ ว่ นผสมโฟม (Foam Solution) ไวใ้ จ หรอื มเี ปลวไฟแลบขน้ึ มาจากขา้ งลา่ ง ที่ต้องการแล้วส่งออกไปใช้ดับไฟผ่านการฉีด z ปรมิ าณสว่ นผสมโฟม (Foam Solution) (Discharge) ดว้ ยอปุ กรณท์ เ่ี หมาะสมทต่ี อ้ งการ = 0.1 GPM x 10,000 ตารางฟตุ = ระยะเวลาการเฝา้ ระวงั ขน้ึ อยกู่ บั เงอ่ื นไข1,000 GPM ที่อยู่โดยรอบ เช่น สภาพพื้นที่ของจุดเกิดเหตุ ที่กล่าวไปในบทความนี้เป็นการใช้โฟม ปริมาณเชื้อเพลิงที่ถูกเผาไหม้ไปแล้วและที่ยัง ทเ่ี รยี กวา่ “ระบบเคลอ่ื นยา้ ยดว้ ยมอื ” (Portable z กรณใี ชอ้ ตั ราสว่ นผสม 3% จะตอ้ งใช้ เหลอื อยใู่ นบรเิ วณใกลเ้ คยี ง สภาพดนิ ฟา้ อากาศ System) ประกอบดว้ ย อปุ กรณผ์ ลติ สว่ นผสมโฟมนำ้ ยาโฟม = 0.03 x 1,000 GPM = 30 GPM ประสิทธิภาพโฟม ฯลฯ เมื่อเห็นว่าไม่มีความ (Foam-producing Equipment) นำ้ ยาโฟมหรอืหรอื 30 แกลลอนตอ่ นาที เสย่ี งใดๆ อกี แลว้ ขน้ั ตอนลำดบั ตอ่ ไปจะเปน็ การ อตั ราสว่ นผสมโฟม ทอ่ นำ้ สายสบู และอน่ื ๆ ซง่ึ สามารถเคลอ่ื นยา้ ยดว้ ยมอื รวมถงึ สง่ิ สำคญั คอื z ตอ้ งใชเ้ ปน็ เวลา 15 นาที ดงั นน้ั ตอ้ งใช้ หวั ฉดี (Discharge Nozzles)นำ้ ยาโฟม 3% = 30 x 15 = 450 แกลลอน z ปริมาณน้ำจะต้องใช้ในส่วนผสมคิดจากปรมิ าณสว่ นผสมโฟมทง้ั หมดทจ่ี ะใชใ้ นเวลา15 นาที = 1,000 GPM x 15 นาที = 15,000แกลลอน เมอ่ื ใชน้ ำ้ ยาโฟม 450 แกลลอน สว่ นที่เหลือจึงเป็นน้ำ นั่นคือ 15,000-450 =14,550 แกลลอน สรุป พื้นที่เพลิงไหม้เกิดจากเชื้อเพลิงไฮโดรคารบ์ อน 10,000 ตารางฟตุ ตอ้ งใชน้ ำ้ ยาโฟม AFFF ชนดิ 3% ปรมิ าณ 450 แกลลอน และใชน้ ำ้ 14,550 แกลลอน เพอ่ื สรา้ งสว่ นผสมโฟม1,000 GPM ปรมิ าณทง้ั สน้ิ 15,000 แกลลอน การเฝา้ ระวงั หลงั ไฟดบั หลงั จากการใชส้ ว่ นผสมโฟมทำการดบั ไฟในระยะเวลาทก่ี ำหนดไว้ 15 นาที หากไฟดบัลงไปกถ็ อื วา่ ภารกจิ ส้นิ สดุ เวลาหลงั จากนน้ั จะ
นอกจากน้แี ลว้ ยงั มรี ะบบตดิ ตงั้ ประจำท่ี Portable System(Fixed System) ระบบกง่ึ ตดิ ตง้ั ประจำท่ี (Semi-fixed System) และระบบติตดตงั้ ยานพาหนะ(Mobile System) z ระบบตดิ ตง้ั ประจำท่ี (Fixed System)เป็นระบบติดตั้งสมบูรณ์แบบในพื้นที่อันตรายซง่ึ สว่ นผสมโฟมถกู สง่ ผา่ นทอ่ จากสถานโี ฟมและฉดี ออกจากชอ่ งเปดิ ประจำทไ่ี ปยงั จดุ ทต่ี อ้ งการปกปอ้ งดว้ ยเครอ่ื งสบู นำ้ ตดิ ต้งั ถาวร เปน็ ระบบโฟมตดิ ตง้ั ประจำทใ่ี นโรงกลน่ั คลงั นำ้ มนั โรงงานอตุ สาหกรรม ฯลฯ ทเ่ี ราไดย้ นิ กนั บอ่ ยๆ ชอ่ งเปดิประจำทซ่ี ง่ึ เปน็ ตวั ปลอ่ ยโฟมเพอ่ื คลมุ เชอ้ื เพลงิกค็ อื “หวั สปรงิ เคลอร”์ นน่ั เอง แตเ่ ปน็ หวั ฉดีโฟมไม่ใช่หัวฉีดฝอยน้ำ z ระบบกง่ึ ตดิ ตง้ั ประจำท่ี (Semi-fixedSystem) เปน็ ระบบโฟมตดิ ตง้ั ในพน้ื ทอ่ี นั ตรายประกอบดว้ ยหวั ฉดี โฟมประจำทเ่ี ชอ่ื มตอ่ กบั ทอ่ Mobile SystemFixed Systemของตัวจ่ายโฟมที่อยู่ในระยะปลอดภัย อธิบาย ทว่ั ไป ระบบนจ้ี ะเรยี กวา่ “รถ (โฟม) ดบั เพลงิ ” Mobile Systemงา่ ยๆ ระบบน้มี หี วั ฉดี โฟมหรอื หัวสปรงิ เคลอร์ (Fire Truck) แตม่ าตรฐาน NFPA 11 กำหนดให้โฟมตดิ ตัง้ ประจำทแ่ี ตต่ วั ผสมโฟมและจา่ ยโฟม มอี ปุ กรณพ์ เิ ศษตดิ ตง้ั รว่ มดว้ ย อปุ กรณด์ งั กลา่ ว ควรจะมรี ปู แบบการทำงานดว้ ยมอื ตดิ ตง้ั ไวด้ ว้ ยผ่านทอ่ จะเคล่อื นท่ไี ด้ (ไมอ่ ย่ปู ระจำท)่ี ซง่ึ อาจ เป็นได้ทั้งหัวฉีดส่วนผสมโฟมที่ผสมเสร็จแล้ว หากระบบอตั โนมัตขิ ดั ขอ้ งหรือทำงานลม้ เหลวจะเปน็ ถงั สว่ นผสมโฟมตดิ ตง้ั บนรถบรรทกุ หรอื (ฉีดอย่างเดียว) และตัวผลิตและฉีดส่วนผสม ผคู้ วบคมุ สามารถจะเขา้ ไปบงั คบั ใหร้ ะบบทำงานหวั ไฮแดรนทจ์ า่ ยสว่ นผสมโฟมผา่ นสายสบู กไ็ ด้ โฟม (ผสมและฉีดไปในตัว) เมื่อเชื่อมต่อกับ ได้ อกี ทง้ั กฎหมายควบคมุ ระบบปอ้ งกนั อคั คภี ยัและแมว้ า่ จะตดิ ตง้ั หวั สปรงิ เคลอรโ์ ฟมและทอ่ ใน แหลง่ นำ้ สำรอง ทง้ั น้ี ระบบทต่ี ดิ ตง้ั บนรถบรรทกุ สว่ นใหญบ่ งั คบั ใหร้ ะบบสามารถทำงานดว้ ยมอืลกั ษณะเดียวกันหรือคล้ายคลงึ กบั ระบบติดตั้ง จะมีอุปกรณ์ผสมโฟม (Foam Proportioning ทั้งที่เป็นรูปแบบการทำงานหลักและรูปแบบประจำที่ แต่ไม่ถือว่าเป็นระบบติดตั้งประจำที่ Device) เปน็ สว่ นหนง่ึ บนตวั รถหรอื ไมก่ ไ็ ด้ การทำงานเสรมิ จากแบบอตั โนมตั ิตามขอ้ กำหนดในมาตรฐาน NFPA 11 ระบบตา่ งๆ ทก่ี ลา่ วไปขา้ งตน้ อาจทำงาน z ระบบตดิ ตง้ั บนยานพาหนะ (Mobile ดว้ ยมอื (Manual) หรอื อตั โนมตั ิ (Automatic)System) เป็นระบบที่มีตัวผลิตส่วนผสมโฟม ก็ได้ ระบบเคล่อื นยา้ ยดว้ ยมอื ระบบตดิ ตง้ั บน(อปุ กรณผ์ สมโฟม) ตดิ ตง้ั บนลอ้ เลอ่ื นเคลอ่ื นท่ี ยานพาหนะ หรือระบบก่ึงตดิ ต้ังประจำท่ี เปน็ไดด้ ว้ ยตวั เองหรอื ถกู ลากจงู ดว้ ยยานพาหนะอน่ื แบบทำงานดว้ ยมอื ขณะทร่ี ะบบตดิ ตง้ั ประจำท่ีแตย่ งั สามารถเชอ่ื มตอ่ กบั แหลง่ นำ้ สำรองหรอื นำ มีให้เลือกทั้งแบบทำงานด้วยมือและอัตโนมัตินำ้ ยาโฟมกอ่ นผสมนำ้ มาใชไ้ ดต้ ลอดเวลา โดย และแมว้ า่ ระบบจะเปน็ แบบทำงานอตั โนมตั ิ แต่
BOUNCE OFF TECHNIQUE BANK-IN TECHNIQUE⌫ ของฟองโฟมได้ และไมค่ วร เปลย่ี นอตั ราเรง่ การฉดี โฟมเพอ่ื ใหก้ ารฉดี โฟมผสมสำเรจ็ (Finished โดยไมจ่ ำเปน็ เมอ่ื ฉดี โฟมจนFoam) เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ตามวตั ถปุ ระสงค์ กระทง่ั เหน็ วา่ โฟมครอบคลมุนักดับเพลิงควรใช้เทคนิคและวิธีการที่ถูกต้อง เปลวไฟไดพ้ น้ื ทต่ี ามตอ้ งการ RAINDOWN TECHNIQUEเหมาะสมซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี แลว้ หรอื ไฟดบั ลงไปจงึ หยดุดงั ตอ่ ไปน้ี ฉดี จากนน้ั เขา้ ไปตรวจสอบ1. การฉดี ปะทะสง่ิ กดี ขวางเหนอื กองไฟ กอ่ นจะตดั สนิ ใจดำเนนิ การ(Bounce Off Technique) ใดๆ ในขน้ั ตอนตอ่ ไป2. การฉีดโปรยเหนือกองไฟเหมือน การฉีดโปรยเหนือสายฝน (Raindown Technique) กองไฟเหมอื นสายฝน3. การฉีดไล่ฟองโฟมด้านหน้ากองไฟ กรณีคนฉีดโฟมยืน(Bank-in Technique) ห่างจากกองไฟ ให้ฉีดโฟมการฉดี ปะทะสง่ิ กดี ขวางเหนอื กองไฟ ขึ้นข้างบน ปลายสุดของสายฟองโฟมอยูเ่ หนือ ในสภาพเงื่อนไขไม่เอื้ออำนวย เช่น เปลวไฟกรณฉี ดี โฟมเปน็ ลำตรงและมสี ง่ิ กดี ขวาง เปลวไฟ ในลกั ษณะนล้ี ะอองโฟมจะโปรยลงมา ขยายตัวอย่างผิดสังเกต หรือมีพายุลมแรงเหนอื เปลวไฟ ไมว่ ่าจะเปน็ กำแพง ยานพาหนะ ขา้ งลา่ งเหมอื นสายฝนแลว้ ครอบคลุ มกองไฟ แต่ ควรหลกี เลย่ี งการฉดี โฟมดว้ ยวธิ นี ้ีถงั บรรจุ หรอื อน่ื ๆ ควรใชเ้ ทคนคิ น้ี โดยฉดี สว่ น การใชเ้ ทคนคิ นต้ี อ้ งกะระยะและองศาการฉดี ให้ การฉดี ไลฟ่ องโฟมดา้ นหนา้ กองไฟผสมโฟมออกไปปะทะสง่ิ กดี ขวางเบาทส่ี ดุ เทา่ ท่ี สมั พนั ธก์ บั พน้ื ทเ่ี พลงิ ไหมเ้ พอ่ื ใหล้ ะอองโฟมตก ฉดี ฟองโฟมไปทพ่ี น้ื ดนิ หนา้ เปลวไฟแลว้จะทำไดเ้ พ่อื ใหส้ ่วนผสมโฟมไหลลงมาปกคลมุ ลงสเู่ ปา้ หมายอยา่ งแมน่ ยำและทว่ั ถงึ หากผฉู้ ดี ไลใ่ หฟ้ องโฟมคอ่ ยๆ ปกคลมุ เชอ้ื เพลงิ ทลี ะนอ้ ยเปลวไฟอยา่ งชา้ ๆ ควรหลกี เลย่ี งการฉดี กระแทก มคี วามชำนาญและปฏบิ ตั กิ ารคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว เทคนคิ นต้ี อ้ งทำอยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป พยายามรนุ แรงเพราะจะทำใหไ้ มส่ ามารถควบคมุ ทศิ ทาง จะสามารถลม้ เปลวไฟไดร้ วดเรว็ อยา่ งไรกต็ าม ใหฟ้ องโฟมเคลอ่ื นไปขา้ งหนา้ ดว้ ยความเรว็ คงท่ี
NEVER PLUNGEโดยอาจฉดี กวาดไปทางใดทางหนง่ึ ใหฟ้ องโฟมพลกิ กลบผวิ หนา้ นำ้ มนั ทล่ี กุ ตดิ ไฟไดเ้ รว็ ขน้ึ เปน็วธิ เี ลม็ ขอบกองไฟ ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ พลงิ ไหมข้ ยาย ลกั ษณะการคลมุ เชอ้ื เพลงิ ของโฟมไฟเอตวั ออกมาหรอื จำกดั ขอบเขตเพลงิ ไหม้ เมอ่ื สว่ น กองไฟ ให้ใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย โดยฉีดใส่ โฟมไฟเอ (Class A Foam)ทไ่ี หมไ้ มม่ เี ชอ้ื เพลงิ เหลอื อยกู่ จ็ ะไมไ่ หมต้ อ่ เพราะ ตรงใจกลางกองไฟทม่ี เี ชอ้ื เพลงิ ไหลนองอยดู่ า้ น นำ้ ยาโฟมไฟเอเปน็ สว่ นผสมระหวา่ งโฟมเชอ้ื เพลงิ บรเิ วณขอบถกู ฟองโฟมคลมุ ไวห้ มดแลว้ ล่าง เนอ่ื งจากภายใตเ้ งอ่ื นไขทม่ี อี ยทู่ ้งั อปุ กรณ์ กบั สารเปยี ก (Wetting Agent) อยใู่ นรปู ของสาร ใช้งานและคุณภาพของโฟม การฉีดโฟมพุ่งใส่ ทำละลายทไ่ี มไ่ วไฟ (Non-flammable Solvent) หา้ มฉดี โฟมพงุ่ ใสก่ องไฟ (Never Plunge) เปลวไฟใหป้ ระสทิ ธภิ าพการดบั ไฟแค่ 1 ใน 3 ด้วยเหตุนี้ โฟมไฟเอจึงมีคุณสมบัติ “ไม่เป็น การฉดี โฟมพงุ่ ใสห่ รอื กระแทกใสก่ องไฟ หรอื นอ้ ยกวา่ แตห่ ากเปน็ โฟมฃนดิ AFFF อาจให้ อนั ตราย ไมก่ ดั กรอ่ น และไมไ่ วไฟ”โดยตรงจะทำใหน้ ำ้ มนั เชอ้ื เพลงิ แตกกระจายและ ประสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ เลก็ นอ้ ยในบางสถานการณ์ ลักษณะเฉพาะตัวประการหนึ่งของโฟมเปลวไฟจะขยายตวั ใหญ่ขน้ึ หากมีฟองโฟมปก สำหรบั โฟมมคี วามตา้ นทานการลกุ ตดิ ขน้ึ มาใหม่ ไฟเอ ไดแ้ ก่ ใชอ้ ตั ราสว่ นผสมโฟมตำ่ มาก อยใู่ นคลุมผิวเชื้อเพลิงไว้แล้วก็จะทำให้ชั้นฟองโฟม (Reignition) ในระดบั ตำ่ ควรหลกี เลย่ี งการฉดี ชว่ ง 0.1%-1% นน่ั คอื สว่ นผสมโฟม 100 สว่ นเหลา่ น้นั เปดิ ออก แลว้ ไอนำ้ มันท่อี ยขู่ ้างลา่ งจะ ดว้ ยวธิ ีนีใ้ นทุกกรณี ใชน้ ำ้ ยาโฟมไฟเอเพยี ง 0.1-1 สว่ น ทเ่ี หลอื เปน็ลอยขน้ึ มาสมั ผสั ความร้อนหรอื เปลวไฟซง่ึ อาจ นำ้ 99.9-99 สว่ น ตามลำดบั อกี ทง้ั วธิ ผี สมโฟมเกดิ การลกุ ตดิ ขน้ึ มาใหมก่ ลายเปน็ ไฟลามหรอื ขอ้ หา้ มอีกประการหน่งึ คอื การใชน้ ้ำไป ไมย่ งุ่ ยากและไมส่ น้ิ เปลอื งเนอ่ื งจากไมเ่ ครง่ ครดัลูกไฟพุ่งขึ้นมา ในหลายกรณี หากไม่ฉีดโฟม ยบั ยง้ั การคลมุ เชอ้ื เพลงิ ของฟองโฟม แตส่ ามารถ เรื่องความแม่นยำและเที่ยงตรงของส่วนผสมกระแทกลงไปโดยรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ ไฟจะคอ่ ยๆ ใชน้ ำ้ ในการทำความเยน็ (Cooling) บรเิ วณโดย เหมอื นโฟมไฟบี (โฟมดบั ไฟเกดิ จากของเหลวเบาบางหรอื ดบั ลงไปดว้ ยตวั ของมนั เองอยแู่ ลว้ รอบหรอื ฉดี เปน็ ฝอยละเอยี ดโปรยลงมาเพอ่ื ลด ไวไฟ) ความคลาดเคลื่อนของอัตราส่วนผสม หากหวั ฉดี โฟมเปน็ ชนดิ สามารถฉดี แบบ การแผร่ งั สคี วามรอ้ นของเปลวไฟได้ น้ำยาโฟมกบั นำ้ หากไมม่ ากเกนิ ไปจะไมส่ ่งผลฝอยละเอยี ด (Foam Spray) ไดด้ ว้ ย ใหฉ้ ดี เปน็ กระทบตอ่ ประสทิ ธภิ าพการใชง้ านของโฟมไฟเอฝอยอยา่ งนมุ่ นวลทส่ี ดุ เพอ่ื ปอ้ งกนั ฟองโฟมผสม ทง้ั น้ี พงึ ระลกึ ไวต้ ลอดเวลา ตอ้ งไมฉ่ ดี นำ้ กระบวนการดบั ไฟของโฟมไฟเอกบั นำ้ มนั เชอ้ื เพลงิ การฉดี โฟมในลกั ษณะพงุ่ ใส่ ตรงไปยังชั้นฟองโฟมคลุมเชื้อเพลิงทีท่ ำไว้แล้ว โฟมไฟเอดับไฟโดยการแยกเชื้อเพลิง หรอื กำลงั ทำอยโู่ ดยเดด็ ขาด ลดความรอ้ นทต่ี วั เชอ้ื เพลงิ และตดั ขาดการสง่ ออกซเิ จนเขา้ มายงั เพลงิ ไหม้ ซง่ึ แทจ้ รงิ แลว้ กค็ อื การใชน้ ำ้ ทม่ี อี ยใู่ นสว่ นผสม 99%-99.9% ทำ ความเยน็ และดดู ซบั ความรอ้ นอนั เปน็ วธิ สี ามญั ทส่ี ดุ นน่ั เอง นำ้ มอี ยทู่ ว่ั ไป ใชง้ านงา่ ย และดดู ซบั ความรอ้ นในปรมิ าณมากกอ่ นตวั เองกลายเปน็ ไอ
กวา่ นำ้ ธรรมดาถงึ 3 เทา่ ในการใชโ้ ฟมไฟเอเปน็ แนวกน้ั เพลงิ ไหม้ (Fire Barrier) เพอ่ื ปอ้ งกนั ไฟลามมาถงึ เชอ้ื เพลงิ ท่ียงั ไมต่ ิดไฟจะต้องคำนึงถึงอตั ราการขยายตัว ท้งั น้ี การทน่ี ้ำจะดดู ซบั ความรอ้ นไดน้ น้ั z มขี ้นั ตอนการผสมโฟมนอ้ ย สามารถ คณุ สมบตั ลิ ดคววามตงึ ผวิ เมอ่ื เทยี บกบั นำ้ ธรรมดาจำเปน็ อยา่ งยง่ิ ทแ่ี ตล่ ะเมด็ นำ้ ตอ้ งกลน่ั ตวั เปน็ ไอ ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ของฟองโฟมเปน็ สำคญั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ ขอ้ สรปุ สว่ นผสมโฟมไฟเอมขี น้ั ตอนการ z มีประสิทธิภาพในการดับไฟเกิดจาก ในเชงิ ปอ้ งกนั กลา่ วคอื โฟมใชใ้ นวตั ถปุ ระสงคน์ ้ีดบั ไฟโดยสงั เขปดงั ตอ่ ไปน้ี เชื้อเพลิงประเภทเอทุกชนิด ตอ้ งมกี ารขยายตวั สงู โฟมทม่ี ีเน้อื โฟมปรมิ าณ มากเกนิ ไปมกั จะนง่ิ อยทู่ แ่ี ละไมข่ ยายตวั แผอ่ อก z กระจายน้ำไปบนเช้ือเพลงิ ประเภทเอ z สามารถใช้เป็นผนังกันไฟลามได้ใน ไปในบรเิ วณโดยรอบ ลกั ษณะน้ี นำ้ ในสว่ นผสม(ไม้ กระดาษ ยาง เสอ้ื ผา้ ฯลฯ) ช่วงเวลาสั้นๆ โฟมจะถกู ระบายออกอยา่ งรวดเรว็ สง่ ผลใหก้ าร ปอ้ งกนั เปลวไฟได้ผลนอ้ ยหรอื ไม่ได้ผลเลย z คอ่ ยๆ ปลอ่ ยนำ้ ในสว่ นผสมออกมา z อตั ราสว่ นการผสมโฟมและอตั ราการ z ผนกึ โฟมตดิ แนน่ กบั ตวั เชอ้ื เพลงิ ใชง้ านไมย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ นหรอื เปน็ เรอ่ื งตอ้ งกงั วล เนอ่ื งจากเปน็ อตั ราสว่ นโฟมชนดิ เขม้ ขน้ z ทำลายเชื้อเพลิง เหมือนโฟมไฟบี การจะทำใหโ้ ฟมไฟเอมอี ตั ราขยายตวั สงู เพอ่ื ใช้ เป็นแนวป้องกันเปลวไฟที่มีประสิทธิภาพต้อง การใชง้ านโฟมไฟเอ z เพิ่มความชื้นให้กับวัสดุที่กำลังเกิด อาศยั อปุ กรณฉ์ ดี โฟมรปู แบบเฉพาะตวั ทเ่ี รยี กวา่ โฟมไฟเอสามารถใชไ้ ดท้ ง้ั ดบั ไฟโดยตรง เพลงิ ไหมไ้ ดถ้ งึ 50% “ระบบฉดี โฟมอดั อากาศ” (CAFS: Compressed(Firefighting Agent) และเปน็ แนวกน้ั เพลงิ ไหม้ Air Foam System) อากาศแรงดนั สงู เปน็ ตวั แปร(Fire Barrier) z ดูดซับความร้อนได้ในปริมาณที่มาก สำคญั ทำใหโ้ ฟมเนอ้ื ขน้ อยา่ งโฟมไฟเอเกดิ เปน็ ในการดบั ไฟโดยตรง โฟมไฟเอจะไปลด ฟองโฟมในปริมาณเพียงพอต่อความต้องการความตงึ ผวิ (Surface Tension) ของนำ้ ความตงึ เหนอื สง่ิ อน่ื ใด ระบบ CAFS ดงั กลา่ วตอ้ งการนำ้ผวิ ของนำ้ ในระดบั สงู จะทำใหน้ ำ้ ทย่ี งั ไมไ่ ดใ้ ชง้ าน ในผสมโฟมนอ้ ยกวา่ การผสมโฟมตามปกตทิ ว่ั ไปซง่ึ อยดู่ า้ นบนกลายเปน็ กอ้ นกลมกลง้ิ ไปบนผวิ นำ้ ดงั นน้ั จงึ นยิ มใชร้ ะบบนพ้ี น่ โฟมสรา้ งแนวปอ้ งกนัแลว้ ลน้ ลงดา้ นลา่ งโดยไมส่ ามารถเจาะทะลลุ งมา ไฟปา่ อยา่ งแพรห่ ลายทง้ั ในสหรฐั อเมรกิ า ยโุ รปทำลายเชอ้ื เพลงิ หรอื ดดู ซบั ความรอ้ นได้ ปญั หา และออสเตรเลียนี้ต้องแก้ด้วยการเพิ่มปริมาณลงไป แต่เมื่อใช้ส่วนผสมโฟมไฟเอ เนื้อโฟมจะลดความตึงผิว การฉดี โฟมไฟเอคลมุ อาคารบา้ นเรอื นท่ีของน้ำข้างล่างพร้อมกับต้านทานการเกิดก้อน เป็นทางผ่านของแนวไฟป่า โฟมจะทำหน้าที่กลมบนผิวน้ำ ลักษณะน้ีจงึ ทำให้นำ้ และโฟมท่ี ปอ้ งกนั ไมใ่ หโ้ ครงสรา้ งอาคารเกดิ ความรอ้ นจนเรยี กกนั วา่ “สว่ นผสมโฟม” สามารถซมึ ลงไป ถึงจุดลุกไหม้พร้อมกับปกป้องลูกไฟที่ปลิวมาจนถงึ ตวั เชอ้ื เพลงิ เพอ่ื ดดู ซบั ความรอ้ นพรอ้ มกบัทำลายตัวเชื้อเพลิงโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณน้ำโฟมไฟเอคณุ ภาพสงู บางชนดิ จะเจาะทะลถุ งึ แกน่เชอ้ื เพลงิ ทอ่ี ยลู่ กึ ลงไป (Deep Seated Fire) ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ขอ้ ไดเ้ ปรยี บของโฟมไฟเอ z เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการดับไฟของนำ้ z ลดเวลาการดับไฟและการเก็บกวาดหลงั ไฟดบั
ตามกระแสลมไมใ่ หล้ กุ ตดิ ตวั อาคาร ด้วยเหตุที่ระบบฉีดโฟมอัดอากาศหรือCAFS สามารถทำให้โฟมไฟเอขยายตัวได้มากอกี ทง้ั ฟองโฟมยดึ ตดิ แนน่ ในแนวดง่ิ ไดค้ อ่ นขา้ งมั่นคงจึงนิยมนำไปฉีดคลุมต้นไม้หรือพุ่มไม้รวมไปถึงถนนเพื่อทำเป็นแนวต้านทานไฟป่าไม่ให้ลามเข้ามาในชุมชน เนื่องจากฟองโฟมไฟเอมนี ำ้ ผสมอยใู่ นปรมิ าณมากทำใหส้ ามารถยบั ย้งั เปลวไฟไดเ้ ปน็ อยา่ งดี สารดบั เพลงิ ชนดิ เปยี ก (Wetting Agent) ผู้เชี่ยวชาญด้านสารดับเพลิงของหน่วยดับเพลิงจำนวนไม่น้อยไม่ได้ตระหนักถึงความแตกตา่ งระหวา่ ง “โฟม” กบั “สารเปยี ก” หรอืสารเคลอื บเชอ้ื เพลงิ (Emulsifiers) การทำความเขา้ ใจในเรอ่ื งคณุ สมบตั แิ ละขอ้ จำกดั ของสารทง้ัสองชนดิ นจ้ี ะชว่ ยใหเ้ ราสามารถแยกแยะความ FIREFIGHTING FOAMS • HOW THEY WORKแตกตา่ งเพอ่ื นำไปใชง้ านอยา่ งถกู ตอ้ งได้ กระบวนการกายภาพพน้ื ฐานในการดบั จะไม่เปิดโอกาสให้เกิดการลุกไหม้ได้อีกต่อไป “โฟม” ผลติ ขน้ึ มาเพอ่ื วตั ถปุ ระสงคใ์ ชด้ บั ไฟของโฟมคอื แยกเชอ้ื เพลงิ ออกจากออกซเิ จน อยา่ งไรกต็ าม การรวมตวั กบั สารเช้อื เพลงิ เพอ่ื เปน็ การตดั หนง่ึ ในสอ่ี งคป์ ระกอบการเกดิ เพลงิ ลดอณุ หภมู สิ นั ดาปและลดแนวโนม้ การกลน่ั ตวัไฟประเภทบเี ปน็ หลกั ถงึ แมว้ า่ โฟม AFFF จะมี ไหมอ้ อกไป สง่ ผลใหข้ ้นั ตอนการลกุ ไหมถ้ ูกขดั เปน็ ไอทอ่ี ณุ หภมู โิ ดยรอบของสารเชอ้ื เพลงิ จะมีคณุ สมบตั เิ ปน็ สารเปยี กใชด้ บั ไฟประเภทเอไดด้ ี ขวาง และในสถานการณท์ ย่ี ังไมม่ เี ปลวไฟและ เวลาจำกัด ไม่นานนัก สารเปียกและสารเชื้อเยีย่ มด้วยเชน่ กัน ขณะท่ี “สารเปยี ก” ใชด้ บั ไฟ การลกุ ไหม้เกดิ ขน้ึ สามารถใชโ้ ฟมปกคลมุ เชอ้ื เพลงิ จะแยกออกจากกนั นน่ั หมายถงึ การเสอ่ื มประเภทเอและไฟประเภทบีเกิดจากเชื้อเพลิง เพลงิ เพอ่ื ปอ้ งกนั การสนั ดาปได้ สภาพของสารดับเพลิงที่ใช้ซึ่งกรอบเวลาจะขึ้นที่เป็นของเหลวไวไฟไม่มีน้ำผสม อยกู่ บั ปจั จยั หลายประการ เชน่ ชนดิ เชอ้ื เพลงิ NFPA 18 : Standard on Wetting Agent อุณหภูมิเชื้อเพลิง ปริมาณสารเปียกที่ใช้ และ โฟมและสารเปียกจึงไม่ใช่สารดับเพลิง ระบุ สารเปยี กคอื สารผสมทเ่ี ตมิ ลงไปในนำ้ ใน อ่นื ๆ ท้งั น้ี ตามปกตทิ ว่ั ไป อตั ราสว่ นผสมของชนิดเดียวกันตามข้อกำหนดมาตรฐาน NFPA ปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดความตึงผิวของน้ำ สารเปยี กทใ่ี ชด้ บั ไฟเกดิ จากสารไฮโดรคารบ์ อนซึ่งมีการแยกประเภทออกจากกันอย่างชัดเจน เปน็ การเปดิ ทางใหน้ ำ้ แทรกลงไปในเนอ้ื เชอ้ื เพลงิ จะอยทู่ ่ี 6% โดยปรมิ าตรและใชม้ าตรฐานบงั คบั คนละฉบบั ไดด้ ขี น้ึ โดยอาจจะมคี ณุ สมบตั ขิ องโฟมหรอื สาร เคลือบเชอื้ เพลงิ รวมอยูด่ ว้ ย (โปรดตดิ ตามอา่ นตอนตอ่ ไป) NFPA 11 : Standard for Low ExpansionFoam ระบุ โฟมคอื การรวมตวั อยา่ งมน่ั คงของฟอง โดยทว่ั ไป สารเปยี กจะมสี ารเกาะผวิ หรอื Reference : Data & Drawing from “A Firefighter'sขนาดเลก็ ทม่ี คี วามหนาแนน่ นอ้ ยกวา่ นำ้ มนั หรอื เคลอื บผวิ เชอ้ื เพลงิ เปน็ สว่ นผสมสำคญั ซง่ึ ทำให้ Guide to Foam”, National Foam; www.Kidde-Fire.comนำ้ โดยจะยนื หยดั ปกคลมุ พน้ื ผวิ วตั ถใุ นแนวราบ สารเปียกสามารถรวมตัวกับเชื้อเพลิงประเภทช่วั ระยะเวลาหนง่ึ ในสถานะสารดบั เพลงิ โฟม ไฮโดรคารบ์ อน (นำ้ มนั เชอ้ื เพลงิ ) กอ่ นจะเคลอื บจะเคลอ่ื นตวั ไปอยา่ งเสรเี พอ่ื ครอบคลมุ ผวิ หนา้ โมเลกลุ เชอ้ื เพลงิ ไวไ้ มใ่ หเ้ กดิ การสนั ดาปแมอ้ ยู่เพลงิ ไหม้แล้วผนึกแนน่ เปนชัน้ ป้องกนั ไม่ให้ไอ ทา่ มกลางเปลวไฟและไอรอ้ น ลกั ษณะนเ้ี รยี กวา่เชื้อเพลิงระเหยขึ้นมาสัมผัสกับความร้อนและ “การลอ็ คโมเลกลุ เชอ้ื เพลงิ ” (Locking up) ซง่ึออกซเิ จนทอ่ี ยขู่ า้ งบน
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: