สมุนไพรใกล้ตวั รหัสวชิ า พว02021 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ความหมายและประเภทสมนุ ไพร คาวา่ สมุนไพร ตาม พระราชบญั ญัติยา หมายถงึ \"ยาท่ีไดจ้ ากพืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ซ่งึ ยงั ไม่ได้ผสม ปรงุ หรือเปลี่ยนสภาพ เชน่ พชื กย็ ังเปน็ ส่วนของ ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซึง่ ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการแปรรูปใด ๆ แต่ในทางการค้าสมุนไพรมกั จะถูกดัดแปลงในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เช่น ถูกห่ันให้เปน็ ช้นิ เลก็ ลง บดเปน็ ผงละเอยี ด หรอื อดั เปน็ แทง่ อย่างไรกต็ ามในความรสู้ กึ ของคนทัว่ ๆ ไป เมอื่ กลา่ วถึงสมนุ ไพร มักจะนกึ ถงึ เฉพาะ ต้นไมท้ ี่นามาใชเ้ ปน็ ยาเทา่ นั้น ท้งั นี้อาจเปน็ เพราะว่าสัตว์ หรอื แร่ มกี ารนามาใชน้ ้อย และใช้ ในโรคบางชนดิ เทา่ นั้น ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอทุง่ ช้าง
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง ประเภทของสมนุ ไพร พืช สัตว์ แรธ่ าตุ
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอทุ่งชา้ ง ประเภทสมุนไพร สมนุ ไพรจากพืช 1. สมนุ ไพรจากพชื แบ่งออกเปน็ 5 ประเภท คือ 1.1 ประเภทตน้ เช่น ตน้ พิกุล ตน้ ขี้เหลก็ ต้นมะตูม 1.2 ประเภทเถา, เครือ เช่น เถาบอระเพด็ , เถาคนั แดง 1.3 ประเภทหวั ,เหงา้ เชน่ หัวแห้วหมู, เหง้าขา่ , เหงา้ ขิง 1.4 ประเภทผกั เชน่ ผกั บงุ้ ผักหนอก ผักชี ผักกาดนา้ 1.5 ประเภทหญ้า เช่น หญา้ แพรก หญ้าคา หญา้ ใต้ใบ
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอทุ่งชา้ ง ประเภทสมนุ ไพร 2. สมุนไพรจากสัตวแ์ บง่ ออกเปน็ 3 ประเภท คอื 2.1 ประเภทสตั วบ์ ก เช่น ควายเผอื ก หมี งูเหลอื ม 2.2 ประเภทสตั ว์นา้ เชน่ ปลาหมกึ หอยสังข์ เตา่ 2.3 ประเภทสัตวอ์ ากาศ เชน่ นกนางแอน่ ผ้ึง 3. สมุนไพรจากแร่ธาตุ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ 3.1 ประเภทแร่ธาตุที่สลายตัวยาก เชน่ เหลก็ ทองคา เงิน 3.2 ประเภทแร่ธาตุทส่ี ลายตวั เร็ว หรอื สลายตวั อยูแ่ ล้ว เชน่ สารส้ม พมิ เสน เกลอื
ความสาคญั ของพชื สมนุ ไพร ด้านสาธารณสขุ (1) สนับสนุนและพฒั นาวิชาการและเทคโนโลยพี ื้นบา้ นอนั ได้แก่ การแพทยแ์ ผนไทย เภสัช กรรมแผนไทย การนวดไทย (2) สนับสนุนและส่งเสรมิ การดแู ลรกั ษาสุขภาพของตนเอง โดยใช้ สมนุ ไพร การแพทยพ์ ื้นบา้ น การนวดไทย ในระดับบคุ คล ครอบครัว และชมุ ชน ให้เป็นไปอยา่ งถูกต้องเปน็ ระบบ สามารถ ปรับประสานการดแู ลสขุ ภาพแผนปัจจบุ ันได้ อาจกล่าวได้ว่าสมนุ ไพรสาหรับสาธารณสุขมลู ฐาน คอื สมุนไพรทใี่ ช้ในการส่งเสริมสขุ ภาพ และการรกั ษาโรค/อาการเจ็บป่วยเบ้ืองต้น เพื่อใหป้ ระชาชนสามารถพงึ่ ตนเองได้มากข้นึ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอทุง่ ชา้ ง
ความสาคญั ของพชื สมนุ ไพร ดา้ นเศรษฐกจิ ในปัจจบุ นั พชื สมุนไพรจัดเป็นพชื เศรษฐกิจชนดิ หนง่ึ ทตี า่ งประเทศกาลงั หามาลงทนุ และคัดเลอื ก สมนุ ไพรไทยไปสกัดหาตวั ยาเพือ่ รักษาโรคบางโรคและมีหลายประเทศทีน่ าสมุนไพรไทย ไปปลูกและทาการค้าขาย แข่งกับประเทศไทย สมุนไพรหลายชนดิ ท่เี ราสง่ ออกเป็นรูปของวัตถุดิบ คอื กระวาน ขม้ินชัน เร่ว เปลา้ นอ้ ยและ มะขามเปียก เปน็ ตน้ ซงึ่ สมนุ ไพรเหลา่ นี้ตลาดต่างประเทศ ยงั คงมีความตอ้ งการอกี มาก และในปจั จบุ นั กรม วิชาการเกษตร กรมส่งเสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสนใจในการศึกษาเพ่ิมขึ้น และมี โครงการ วจิ ัยบรรจุไว้ในแผนพฒั นาระบบการผลิต การตลาดและการสรา้ งงานในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพอ่ื หาความเป็นไปไดใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพและแหล่งปลกู ฃ สมนุ ไพรเพอ่ื สง่ ออก โดยกาหนดชนิดของสมุนไพรที่มศี ักยภาพ 13 ชนดิ คอื มะขามแขก กานพลู เทียน เกลด็ หอย ดองดงึ เร่ว กระวาน ชะเอมเทศ ขมิน้ จนั ทร์เทศ ใบพลู พรกิ ไทย ดปี ลีและน้าผึ้ง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอทุง่ ชา้ ง
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง 1. น้ามนั หอมระเหย ( Essential oil) พืชสมุนไพรหลายชนดิ สามารถนามาสกดั นา้ มนั หอมระเหย ได้โดยวิธีการกลนั่ ซงึ่ จะไดนา้ มนั หอมระเหยมีกลิ่นหอมแตกตา่ งกันไป ตามชนดิ ของพชื สมุนไพร น้ามนั หอมระเหยนีม้ ีสาระสาคญั ทสี่ กดั ออกมา ซึ่งจะใชป้ ระโยชนไ์ ดต้ รงตามวัตถุ ประสงค์มากกวา่ รวมท้ังการใชใ้ น ปริมาณทน่ี ้อยกว่าเมอื่ เทียบกับการนาพืชสมนุ ไพรมาใชใ้ นรูปอนื่ ตวั อยา่ ง ของพชื สมุนไพรที่นามาสกดั นา้ มนั หอมระเหย เช่น - นา้ มันตะไคร้หอม ใช้ในอุตสาหกรรมผลติ สบู่ แชมพู นา้ หอมหรือใช้ ทาสารไล่แมลง - นา้ มันไพล ใช้ในผลติ ภณั ฑค์ รีมทาภายนอก ลดอาการอกั เสบจากการฟกช้า - นา้ มนั กระวาน ใช้แตง่ กลน่ิ เหล้า เครอื่ งดืม่ ตา่ ง ๆ รวมถงึ อตุ สาหกรรมน้าหอม - นา้ มนั พลู ใช้ในอุตสาหกรรมเครอ่ื งสาอางหรอื ใช้เป็นเจลทาภายนอกแก้คนั ประโยชนข์ องสมนุ ไพร
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง 2.ยารับประทาน ประโยชน์ของสมนุ ไพร พชื สมุนไพรหลายชนดิ สามารถนามาใช้รับประทาน เพอ่ื รกั ษาอาการของโรคได้ อาจใชส้ มนุ ไพรชนิดเดียว หรอื หลายชนิดรวมกนั กไ็ ดท้ ้ังนี้ข้ึนอย่กู ับสารสาคัญ ทีม่ อี ยู่ ในพชื สมุนไพร ชนดิ นน้ั ท่อี อกฤทธ์ิเพ่อื การบาบดั รกั ษาเชน่ -แก้ไข้ = บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร - แก้ทอ้ งอดื = ทอ้ งเฟ้อ กะเพรา ไพล ขงิ - ระงับประสาท = ขเ้ี หล็ก ไมยราพ - ลดไขมัน ในเสน้ เลอื ด = คาฝอย กระเจ๊ียบแดง กระเทียม
3.ยาสาหรบั ใช้ภายนอก ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง เปน็ พชื สมนุ ไพรทส่ี ามารถนามาบาบัดโรคทเ่ี กิดขึ้นตาม ประโยชน์ของสมนุ ไพร ผิวหนัง แผลท่เี กิดขนึ้ ตามรา่ งกาย รวมท้งั แผลในปาก อาจใช้ สมนุ ไพรชนิดเดียว หรอื หลายชนดิ รวมกันก็ได้ ลักษณะของ การนามาใช้มีหลายลกั ษณะมีทัง้ ใช้สด บดเปน็ ผง ครีม ทงั้ น้ี ขึ้นอยู่กบั สาระสาคญั ท่ีมีอยใู่ นพชื สมนุ ไพร และความสะดวก ในการนามาใช้ ตัวอย่างของพืชสมนุ ไพรทนี่ ามาใช้เปน็ ยาสาหรบั ใช้ภายนอก เชน่ - รกั ษาแผลในปาก = บัวบก หวา้ โทงเทง - ระงบั กล่ินปาก = ฝรง่ั กานพลู - แก้แพ้ = ผกั บงุ้ ทะเล ตาลงึ เทา้ ยายม่อม เสลดพังพอน - รกั ษาแผลน้ารอ้ นลวก = บัวบก ยาสูบ ว่านหางจระเข้ - แกง้ ูสวดั = ตาลงึ พดุ ตาน ว่านมหากาฬ เสลดพังพอน
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอท่งุ ชา้ ง 4.ผลติ ภณั ฑ์เสริมอาหารและเครอ่ื งดืม่ พชื สมุนไพรหลายชนิดสามารถนามาทาเปน็ ผลิตภัณฑ์จาก ธรรมชาติ ผูบ้ ริโภคจึงรู้สกึ ปลอดภัยในการนามารบั ประทาน เชน่ - ดดู จบั ไขมนั จากเสน้ เลือด ลดนา้ หนัก = บกุ - เปลีย่ นไขมนั เปน็ พลงั งาน ลดนา้ หนัก = ส้มแขก - เคร่อื งด่มื บารงุ สุขภาพ = หญ้าหนวดแมว คาฝอย หญา้ หวาน ประโยชนข์ องสมนุ ไพร
5.เครือ่ งสาอางค์ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอท่งุ ชา้ ง เปน็ การนาพชื สมนุ ไพรมาใชอ้ ีกลกษั ณะหนง่ึ ประโยชนข์ องสมนุ ไพร การนาพืชสมุนไพรมาใช้เป็นเครื่องสาอางค์มมี านานแล้ว และในปัจจบุ ัน ได้รบั การยอมรับมากขึ้นเนอ่ื งจากปลอดภัย กว่าการใช้สารสงั เคราะห์ทางเคมี ทาใหม้ ผี ลติ ภณั ฑท์ ่ผี ลิตข้นึ โดยมสี ่วนผสมของพชื สมุนไพรเกดิ ขน้ึ มากมาย เชน่ แชมพู ครมี นวดผม สบู่ โลชนั่ ตัวอยา่ งพืชสมนุ ไพรท่นี ามาใช้เป็น เครือ่ งสาอางค์ เช่น อญั ชัน วา่ นหางจระเข้ มะคาดีควาย เห็ดหลนิ จอื เปน็ ตน้
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอท่งุ ชา้ ง 6 ผลติ ภณั ฑ์ป้องกนั กาจดั ศัตรพู ชื เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เบอ่ื เมาหรอื มรี สขม ซง่ึ มคี ุณสมบัตใิ นการปราบหรือควบคมุ ปริมาณการ ระบาดของแมลงศัตรูพืช โดยไมม่ พี ษิ ตกคา้ งใน ผลผลิต ไม่มพี ษิ ต่อผูใ้ ชแ้ ละสภาพแวดลอ้ ม สมุนไพร กาจัดหนอน เช่น เถาบอระเพ็ด ลูก ควนิ ิน เมลด็ มันแกว้ ประโยชน์ของสมนุ ไพร
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง วธิ ีการนาสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ วิธีเตรียมยาสมนุ ไพร ตารบั ยาจากสมุนไพร ซงึ่ เปน็ ยาแผนโบราณมกั มีสว่ น ประกอบหลายชนิด บางตารบั อาจมากถงึ 30-40 ชนิด ซง่ึ ใน จานวนน้ีแบง่ เปน็ ได้ 2 ประเภท คอื 1. ตัวยาสาคัญ หรอื ตัวยาตรง อาจจะมหี ลายชนดิ ซ่งึ แบง่ ประเภท ไดอ้ กี คือ เปน็ ตัวยาหลัก และตัวยาชว่ ย 2. ตวั ยาแตง่ กล่นิ รส หรือตวั ยาชูกลนิ่ ชูรส การปรงุ ยา ตอ้ งมีสูตรตารับท่ีแนน่ อนชัดเจน และจะต้องเขา้ ใจสตู รตารับ
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอทุ่งชา้ ง สตู รตารับยามีลักษณะดังน้ี 1. ชนิดและลักษณะของสมนุ ไพร สมนุ ไพรหลายชนิดมชี ื่อพ้องกัน บางชนดิ มีฤทธ์เิ ปน็ ยา บางชนดิ ไมม่ ีฤทธ์ิ ทางยา และบางชนดิ อาจเปน็ พิษ เช่น โคคลาน เม่อื ทราบชนดิ แล้วตอ้ งทราบวา่ ใช้ ส่วนไหน ของพืชหรือสตั ว์ เช่น สว่ น ราก ใบ ดอก ผล หรือทง้ั ตน้ (ทัง้ หา้ ) เพราะ แตล่ ะสว่ นของพชื อาจมีสารที่เป็นยามากนอ้ ยหรอื ตา่ งชนิดกัน ต่อไปก็ต้องทราบ วา่ ใชส้ ว่ นน้นั สด ๆ หรอื แหง้ สุดทา้ ยตอ้ งทราบว่าก่อนนามาผสมเปน็ ยา ตอ้ งผา่ น วธิ ีการใดๆ กอ่ นหรอื ไม่ เช่น การป้งิ ใบชุมเห็ดเทศกอ่ นเอามาชงน้าดืม่ 2. ขนาดหรอื น้าหนักของสมุนไพร 3. วิธกี ารปรุง
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอท่งุ ชา้ ง สูตรตารบั ยามีลักษณะดงั น้ี 4. น้ากระสายยา ซึง่ เป็นของเหลวทีใ่ ช้ละลายหรอื สกดั ตวั ยาจากสมนุ ไพร หรือใชเ้ พอื่ เสรมิ ตวั ยาหลักให้ออกฤทธแ์ิ รงและเรว็ ย่ิงขึน้ หรอื เพียงใชใ้ นการ เตรียมยาเพ่อื ความสะดวกในการกนิ ตวั อยา่ ง น้ากระสายยา เช่น น้าสะอาด เหลา้ น้าปูนใส นา้ ซาวขา้ ว เปน็ ต้น สว่ นวิธีการปรงุ ยาท่ีกาหนดไว้ในตาราแผน โบราณ และวิธกี ารท่พี ระราชบญั ญัติยากาหนดให้ ปรุงเปน็ ยาแผนโบราณได้ใน ปัจจบุ ันน้มี ี 24 วิธี แต่ทพ่ี บบอ่ ย ๆ และประชาชนสามารถเตรยี มใช้ได้เอง คือ ยาลกู กลอน ยาชง ยาตม้ และยาดอง
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอท่งุ ชา้ ง เทคนิคการเตรยี มยาสมนุ ไพร 1. ยาตม้ วธิ นี ี้เหมาะกบั สมนุ ไพรที่มีสารสาคัญละลายออกมาในนา้ เป็นวิธีที่ เตรียมงา่ ย การดดู ซมึ คอ่ นขา้ งดี แตร่ สชาติไม่คอ่ ยดี ขอ้ ควรระวัง 1. ควรตม้ กินเฉพาะแต่ละวัน ไมค่ วรเก็บคา้ งคนื 2. ภาชนะท่ใี ชต้ ้ม ควรใช้หม้อดิน หมอ้ เคลอื บหรอื หมอ้ สแตนเลส ห้ามใช้ โลหะ เหล็ก หรอื อะลูมเิ นยี ม เพราะกรดหรือสารฝาดในสมนุ ไพร จะทาปฏิกริ ิยากบั โลหะจาพวกนื้ มีผลต่อยาต้มหรอื บางคร้ังโลหะจะละลายออกมา เปน็ พษิ ตอ่ ผ้ใู ช้ ในระยะยาวได้
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอทุ่งชา้ ง เทคนิคการเตรียมยาสมนุ ไพร 2. ยาชง เหมาะสาหรบั สมนุ ไพรท่ีมีสารสาคญั ละลายในน้าได้ดี วิธเี ตรยี มงา่ ยและ สะดวกกว่ายาตม้ มกั มีกล่นิ หอม แต่สกดั สารสาคัญไดน้ อ้ ยกวา่ วิธตี ม้ วิธีการเตรียม การเตรยี มพชื สมุนไพร น าส่วนที่ใชม้ าล้างใหส้ ะอาด หนั่ ใหม้ ขี นาดพอประมาณตาก แดดหรือ อบจนแหง้ เกบ็ ในภาชนะทปี่ ิดสนิท ชงโดยต้มน้าเดือดลงในแก้วทม่ี ผี งยา ปดิ ฝาทงิ้ ไว้ 3 - 5 นาที รนิ เอาสว่ นใสด่มื หา้ มทิง้ ไว้นาน เกนิ กว่า 5 นาที
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง เทคนิคการเตรียมยาสมุนไพร 3. ยาดองเหล้า เหมาะสาหรบั สมุนไพรท่มี ีสารสาคัญท่ีไมล่ ะลายน้า ดงั นนั้ จงึ ไม่อาจ เตรยี ม โดยการตม้ หรือชงได้ ขอ้ ควรระวัง สตรมี คี รรภ์ ผูป้ ่วยความดนั โลหิตสงู ผู้ปว่ ยโรคหวั ใจ ผทู้ ่ีแพ้เหล้า ควรหลีกเล่ียงการใชย้ า เตรยี มวิธนิ ้เี พราะอาจเกิด อนั ตรายได้
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอท่งุ ชา้ ง อาการแพท้ ี่เกดิ จากสมุนไพร ผน่ื ขึ้นตามผิวหนงั ประสาทความรู้สกึ ทางาน ไวเกินปกติ เบอ่ื อาหาร คลืน่ ไส้ อาเจยี น (หรืออยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ) ใจส่นั ใจเตน้ หรอื ร้สู กึ วบู วาบ คลา้ ยหัวใจหยดุ เตน้ หอู ้อื ตามวั ชาทีล่ ้ิน ชาท่ีผิวหนัง ตวั เหลอื ง ตาเหลอื ง ปัสสาวะสเี หลอื ง เขย่าเกิดฟอง สีเหลือง อาการน้แี สดงถงึ อันตรายรา้ ยแรง ต้องรบี ไปพบแพทย์ Finished?
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอทุ่งชา้ ง โรคท่ีไมค่ วรใช้สมนุ ไพรดว้ ยตนเอง เปน็ โรคร้ายแรง โรคเรื้อรัง หรอื โรคทยี่ ังพสิ ูจนไ์ มไ่ ด้ แนช่ ดั ว่ารกั ษาด้วยสมนุ ไพร ไดเ้ ช่น งพู ษิ กัด สนุ ขั บ้ากดั บาดทะยกั กระดกู หกั มะเรง็ วัณโรค กามโรค ความดันโลหิตสงู เบาหวาน โรคเรื้อน ดซี ่าน หลอดลมอกั เสบเรอ้ื รัง ปอดบวม (ปอดอักเสบ) อาการบวม ไทฟอยด์ โรคตาทุกชนิด
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง โรคทไ่ี มค่ วรใช้สมนุ ไพรดว้ ยตนเอง (ตอ่ ) (1) ไขส้ งู (ตัวร้อนจัด) ตาแดง ปวดเมอ่ื ยมาก ซึม บางที่พดู เพ้อ (2) ไขส้ งู และดซี า่ น (ตวั เหลอื ง) ออ่ นเพลียมาก อาจเจบ็ ในแถวชายโครง (3) ปวดแถวสะดอื เวลาเอามอื กดเจ็บปวดมากขนึ้ หน้าทอ้ งแขง็ อาจทอ้ งผูก และมีไขเ้ ลก็ น้อย หรอื มาก (อาจเปน็ โรคไสต้ ่งิ อกั เสบอย่างแรงหรอื ลาไส้สว่ น อื่นอักเสบ) (4) เจบ็ แปลบในท้องคล้ายมอี ะไรฉกี ขาด ปวดทอ้ งรนุ แรงมากทอ้ งแข็งอาจ มีตัวร้อนและคลืน่ ไส้อาเจียนดว้ ย บางทมี ปี ระวัติปวดทอ้ งบ่อย ๆ มากอ่ น
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง โรคท่ไี มค่ วรใช้สมนุ ไพรดว้ ยตนเอง (ต่อ) (5) อาเจยี นหรือไอเปน็ โลหิต (อาจเป็นโรครา้ ยแรงของกระเพาะอาหาร หรือปอด) ต้องให้คนไขน้ อนพกั นง่ิ ๆ กอ่ น ถา้ แพทย์อย่ใู กล้ควรเชิญมา ตรวจท่ีบ้าน ถ้าจาเป็นตอ้ งพาไปหาแพทย์ ควรรอให้เลอื ดหยดุ เสยี กอ่ น และควรพาไปโดยมกี ารกระเทอื นกระแทกนอ้ ยท่สี ดุ (6) ท้องเดนิ อยา่ งแรง อุจจาระเป็นนา้ บางทีมีลักษณะคลา้ ยน้าซา ขา้ ว บางทถี ่ายพุ่ง ถ่ายติดต่อกันอย่างรวดเรว็ คนไขอ้ อ่ นเพลียมาก ตาลกึ หนงั แหง้ (อาจเปน็ อหิวาตกโรค) ต้องพาไปหาแพทย์โดยดว่ น ถ้าไปไมไ่ หว ต้องแจ้งแพทยห์ รืออนามยั ทใี่ กลบ้ ้านทีส่ ดุ โดยเรว็
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอท่งุ ชา้ ง โรคทไี่ มค่ วรใช้สมนุ ไพรดว้ ยตนเอง (ตอ่ ) (7) ถ่ายอุจจาระเป็นมูกและเลอื ด บางทีเกอื บไมม่ เี นอ้ื อจุ จาระเลย ถา่ ย บอ่ ยมาก 8) สาหรับเดก็ โดยเฉพาะอายุภายใน 12 ปี ไขส้ ูง ไอมาก หายใจมเี สียง ผดิ ปกติคล้าย ๆ กบั มี อะไรตดิ อยใู่ นคอบางทีมีอาการหนา้ เขยี ว ตอ้ งรบี พา ไปหา แพทยโ์ ดยดว่ นที่สดุ 9) อาการตกเลือดเป็นเลอื ดสด ๆ จากทางไหนก็ตาม โดยเฉพาะทางชอ่ ง คลอดตอ้ งพาไปหาแพทยโ์ ดยเร็วทส่ี ุด
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอทุ่งชา้ ง คณุ สมบตั ขิ องสมนุ ไพรรอบบา้ น ตะไคร้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์Cymbopogon citratusStapf. วงศ์ GRAMINEAE รปู ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุกท่ีมีอายไุ ด้หลายปี ชอบดนิ ร่วนซยุ ปลกู ได้ ตลอดปี ใบสเี ขยี วยาวแหลม ดอกฟสู ขี าว หวั โตขน้ึ จากดนิ เปน็ กอๆ กล่ินหอมฉุน คอ่ นขา้ งร้อน สรรพคณุ ของตะไคร้ : มีสว่ นช่วยในการขบั เหงอ่ื เปน็ ยาบารงุ ธาตไุ ฟให้ เจริญ (ตน้ ตะไคร)้ มีสรรพคณุ เป็นยาบารงุ ธาตุ ชว่ ยในการเจริญอาหาร ช่วยแกอ้ าการเบ่ืออาหาร (ต้น) สารสกดั จากตะไครม้ สี ว่ นช่วยในการ ป้องกนั โรคมะเร็งลาไส้ใหญ่
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอท่งุ ชา้ ง คณุ สมบัตขิ องสมุนไพรรอบบ้าน ขงิ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Zingiber officinale Roscoe. ช่ือวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะทั่วไป : ไมล้ ้มลุก สูง 0.3-1 เมตร มีเหง้าใต้ดนิ เปลอื กนอกสนี า้ ตาลแกมเหลอื ง เนอื้ ในสนี วลแกมเขยี ว มกี ล่นิ เฉพาะ แตกสาขา คลา้ ยนว้ิ มอื ใบเดีย่ ว เรยี งสลบั รูปขอบ ขนาน แกมใบหอก กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 15-20 ซม. ดอกช่อแทงออกจากเหงา้ กลีบ ดอกสเี หลอื งแกมเขยี ว ใบประดบั สีเขียวอ่อน ผลแหง้ มี 3 พู สรรพคุณ : เหงา้ แกท่ งั้ สดและแหง้ ใชเ้ ป็นยาขบั ลม ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาเจยี น แก้ไอ ขบั เสมหะและขบั เหง่อื ผงขงิ แหง้ มฤี ทธ์ิ ขับน้าดชี ่วยย่อยไขมนั ลดการบีบตัวของลาไส้ บรรเทาอาการปวดท้อง
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอทงุ่ ช้าง คณุ สมบตั ิของสมุนไพรรอบบ้าน กระชาย ชื่อวิทยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda (Linn.) Mansf. ช่อื วงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะท่ัวไป : ไมล้ ม้ ลุก ไม่มีลาต้นบนดนิ มีเหง้า ใตด้ นิ ซง่ึ แตกรากออกไป เป็นกระจกุ จานวนมาก อวบนา้ ตรงกลางพองกว้างกว่าสว่ นหัวและท้าย ใบ เด่ยี ว เรียงสลบั ในระนาบเดียวกัน รปู ขอบขนานแกมรปู ไข่ ตรงกลางด้านใน ของกา้ นใบมีรอ่ งลกึ ดอกชอ่ ออกแทรกอยู่ระหวา่ งกาบใบที่โคนตน้ กลบี ดอก สขี าวหรือชมพูอ่อน ใบประดบั รปู ใบหอก สมี ว่ งแดง ดอกย่อยบานครั้งละ 1 ดอก ผลของกระชายเปน็ ผลแหง้ สรรพคณุ : เหงา้ ใช้แก้โรคในปาก ขบั ปัสสาวะ รักษาโรคบดิ แกป้ วดมวนท้อง ขับระดขู าว
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอทงุ่ ช้าง คุณสมบตั ขิ องสมุนไพรรอบบา้ น กล้วยน้าว้า ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Musa sapientum L. วงศ์ : Musaceae ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก สูง 2-4.5 เมตร มลี าต้นใต้ดิน ลาตน้ เหนอื ดินเกดิ จากกาบใบหมุ้ ซอ้ นกนั ใบเดยี่ วเรยี งสลับซอ้ นกนั รอบต้นท่ีปลายยอด รูปขอบขนาน กวา้ ง25-40 ซม. ยาว 1- 2 เมตร ผวิ ใบเรยี บมัน ทอ้ งใบ สอี ่อนกวา่ ดอกชอ่ เรียกวา่ หวั ปลี ออกท่ปี ลายยอด ใบประดับหมุ้ ชอ่ ดอกสแี ดงหรอื ม่วง กลบี ดอกสีขาว บางผลเป็นผลสด ประโยชน์ทางสมนุ ไพร : ผลดิบ มีสารแทนนนิ รกั ษาอาการทอ้ งเสยี และบดิ โดยกินครัง้ ละคร่งึ หรือหน่ึงผล
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอทงุ่ ช้าง คุณสมบตั ขิ องสมุนไพรรอบบ้าน กระเทียม ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Allium sativum L. วงศ์ : Alliaceae ชื่อสามญั : Common Garlic , Allium ,Garlic , ลักษณะ : ไม่พุม่ สูง 2-4 เมตร กิง่ ออ่ นมหี นาม ใบประกอบชนดิ มีใบย่อย ใบเดียว เรียงสลับ รปู ไข่ รปู วงรีหรอื รูปไข่แกมขอบขนานกว้าง 3-5 ซม. ยาว 4-8 ซม. เน้ือใบมีจดุ นา้ มันกระจาย ก้านใบมคี รบี เล็ก ๆ ดอกเดย่ี วหรอื ช่อ ออกท่ปี ลายกงิ่ และทซ่ี อกใบ กลีบดอกสขี าว กลิ่นหอม ร่วงง่าย ผลเปน็ ผล สด กลมเกล้ียง ฉา่ น้า ประโยชน์ทางสมนุ ไพร : ตารายาไทยใช้น้ามะนาวและ ผลดองแห้งเปน็ ยาขับเสมหะ แก้ไอ แก้โรคเลือดออกตามไรฟนั เพราะมี วิตามนิ ซี นา้ มะนาวเป็นกระสายยาสาหรับสมนุ ไพรที่ใชข้ บั เสมหะ เช่นดีปลี กนิ ร่วมกับยาขับ ลม เชน่ ขงิ
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอทุ่งชา้ ง คุณสมบัตขิ องสมนุ ไพรรอบบ้าน ไพล ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Zingiber purpureum Roscoe วงศ์ : Zingiberaceae ลักษณะ : ไม้ล้มลกุ สูง 0.7-1.5 เมตร มเี หง้าใตด้ นิ เปลอื กนอกสีน้าตาลแกม เหลือง เนอ้ื ในสเี หลอื งแกมเขยี ว มีกลน่ิ เฉพาะ แทงหนอ่ หรือลาต้นเทียมข้นึ เปน็ กอ ประกอบด้วยกาบหรือโคน ใบซอ้ นกัน ใบ เด่ียว เรยี งสลับ รูปขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 3.5-5.5 ซม. ยาว 18-35 ซม. ดอก ชอ่ แทงจากเหงา้ ใตด้ นิ กลบี ดอกสีนวล ใบประดับสีม่วง ผล เปน็ ผลแหง้ รูปกลม ประโยชน์ทางสมุนไพร : ใช้เหง้าเป็นยาขบั ลม ขับประจาเดือน มฤี ทธ์ริ ะบายออ่ น ๆ แก้บิดสมานลาไส้ ยาภายนอกใช้เหง้าสดฝนทาแกเ้ คล็ดยอก ฟกบวม เส้นตึง เม่อื ย ขบ เหน็บชา สมานแผล ในเหงา้ มนี า้ มนั หอมระเหยซึง่ มคี ณุ สมบัตลิ ดอาการอักเสบ และบวม จงึ มกี ารผลติ ยาขผี้ ึ้งผสมนา้ มันไพล แกเ้ คล็ดขดั ยอก น้ามันไพลผสม แอลกอฮอลส์ ามารถทากันยงุ ได้ นอกจากนพ้ี บว่าในเหงา้ มีสาร 4-(4- hydroxy-1- butenyl) veratrole ซึง่ มฤี ทธขิ์ ยายหลอดลม
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอท่งุ ช้าง คุณสมบัตขิ องสมุนไพรรอบบา้ น ฟา้ ทะลายโจร ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Andrographispaniculata (Burm.) Wall. ex Nees วงศ์ : Acanthaceae ลกั ษณะ : ไมล้ ้มลกุ สูง30-60 ซม.ทั้งต้นมีรสขม ลาตน้ เปน็ ส่ีเหลี่ยม แตกกิง่ ออกเปน็ พมุ่ เลก็ ใบเดย่ี ว เรยี งตรงข้าม รปู ไขห่ รอื รปู ใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว4-8ซม. สเี ขยี วเขม้ เปน็ มัน ดอกช่อ ออกทป่ี ลายกง่ิ และซอกใบ ประโยชน์ทางสมุนไพร : ใช้เฉพาะใบหรือทงั้ ต้นบด ซ่ึงเก็บก่อนทจี่ ะมดี อกเป็นยาแก้เจบ็ คอ แกท้ อ้ งเสีย แกไ้ ข้ เปน็ ยาขมเจริญอาหาร หรอื ใชใ้ บแหง้ บดเป็นผงละเอยี ดปนั้ เปน็ ยา ลกู กลอนขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลางประมาณ 0.8 ซม. กนิ ครัง้ ละ 3-6 เม็ด วนั ละ 3-4 ครง้ั กอ่ นอาหารและก่อนนอน สาหรบั ผงฟ้าทะลายทบ่ี รรจุแคปซูล ๆ ละ 500 มลิ ลกิ รัม ให้กิน ครง้ั ละ 2เมด็ วันละ 2 ครงั้ ก่อนอาหารเชา้ และเย็น อาการขา้ งเคียงท่ีอาจพบคือ คลื่นไส้
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอทงุ่ ช้าง คณุ สมบตั ขิ องสมุนไพรรอบบ้าน ผักคาวทองหรือผักพลูคาว ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Houttuynia cordata Thunb. วงศ์ . Saururaceae เปน็ พืชลม้ ลุก อายุหลายปี สงู 15-30 ซม. ลาตน้ กลม สเี ขยี ว รากแตกออกตามข้อ มกี ล่นิ คาวทง้ั ต้น ใบ เป็นใบเด่ียว ออกเรยี งสลับ รูปหัวใจ กวา้ ง 4-6 ซม. ยาว 6-10 ซม. ปลายใบเรยี วแหลม โคนใบเว้ารูปหวั ใจ ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรยี บ สีเขยี ว ดา้ นบน ของใบเปน็ สีเขยี วเขม้ ดา้ นล่างออกสีม่วง ก้านใบยาวและโคนเปน็ กาบหุม้ ลาตน้ ดอก ออกเปน็ ช่อทีป่ ลายยอด มใี บประดบั สีขาว 4 ใบ ทีโ่ คนช่อดอก ปลายมน ดอกเลก็ จานวนมาก สขี าวยออกเหลอื ง ผล เปน็ ผลแห้ง แตกออกได้ เมลด็ รี สรรพคุณ : เป็นสมนุ ไพรทงั้ ต้น เก็บในฤดรู ้อน และฤดูหนาว ถ่อนท้ังตน้ และราก ลา้ งใหส้ ะอาด ตากแห้งเก็บไวใ้ ช้ ช่อดอก ดอกยอ่ ย ช่อดอกแก่ ผล เมล็ด กระจายพนั ธุ์ในอินโดจีน, จนี , ประเทศไทย พบตามที่ชืน้ แฉะรมิ น้าทางภาคเหนือ หรอื ปลกู ไวเ้ ปน็ ยาหรืออาหาร
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอท่งุ ช้าง Thank You ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอทุ่งช้าง
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: