กLารOเขียนGโปรOแกรมเบ้ืองตน้ ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการโปรแกรม
ประวตั ิของภาษาซี ➢ C มตี ้นกำเนิดมำจำกภำษำคอมพวิ เตอร์ ยูนิกซ์(UNIX) ➢ นำเอำภำษำเครื่องมำใช้ในกำรพฒั นำโปรแกรมอื่นๆ และ พฒั นำเป็ นระบบปฏิบตั กิ ำร(OS) และได้สร้ำงภำษำบี (B) ขนึ้ มำ เพ่ือช่วยให้กำรเขยี นโปรแกรมทำได้ง่ำยขนึ้ ต่อมำ Dennis Ritchie จำก Bell Lab ได้นำภำษำนีม้ ำ พฒั นำต่อและใช้ชื่อว่ำ C เพรำะเป็ นภำษำต่อจำก B ใน ยคุ น้ันจะทำงำนบนยูนิกซ์เป็ นส่วนมำก
ประวตั ขิ องภำษำซี ภำษำ ภำษำ ภำษำ BCPL B C Basic Combined บนเครื่อง พ.ศ. 2515 Programming PDP-7 โดย เดนนิช ริทช่ี Language (UNIX) พ.ศ. 2513 www.themegallery.com Company Logo
Dennis Ritchie ผู้ให้กำเนิดภำษำ C
ภำษำคอมพวิ เตอร์และกำรโปรแกรม 1. โปรแกรมภำษำ 2. ประเภทของโปรแกรม ภำษำ ซี 3. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม 4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี
1. โปรแกรมภำษำ ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไม่วา่ จะเขียนดว้ ย ภาษาระดบั สูงหรือภาษาระดบั ต่า เราจะตอ้ งแปลงภาษา เหล่าน้นั ใหเ้ ป็นรหสั ภาษาเครื่องที่คอมพิวเตอร์เขา้ ใจ เสียก่อน ชุดคาสงั่ ท่ีเขียนข้ึนเรียกวา่ โปรแกรมตน้ ฉบบั (Source Program) หรือรหสั ตน้ ฉบบั (Source Code) จากน้นั เราจะตอ้ งแปลงใหเ้ ป็นภาษาเคร่ืองท่ีคอมพวิ เตอร์ ทางานไดเ้ รียกวา่ Executable Program
1. โปรแกรมภำษำ ระดบั สูง (Highest level) ระดบั ต่า (Lowest level) C Assembly language Modula-2 Pascal Cobol Fortran Basic
1. โปรแกรมภำษำ ในการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาแอสเซมบลี จะใชต้ วั แปล ภาษาใหเ้ ป็นภาษาเครื่องท่ีเรียกวา่ แอสเซมเบอร์ (Assembler) ข้นั ตอนการแปลสามารถเขียนไดด้ งั รูป
1. โปรแกรมภำษำ สาหรับการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาระดบั สูงจะมีวธิ ีในการ แปลงสองประเภทคือ 1. อนิ เตอร์พรีเตอร์ (Interpreter)การทางานของตวั อิน เทอร์พรีเตอร์น้ีจะแปลความหมายของคาสั่งทีละคาสงั่ ถา้ ไม่พบ ขอ้ ผดิ พลาดเครื่องจะทาคาสง่ั ท่ีแปลได้ แต่ถา้ พบขอ้ ผิดพลาดหยดุ ทางานและแจง้ ขอ้ ผิดพลาดออกมา 2. คอมไพเลอร์ (Compile) จะมองโปรแกรมตน้ ฉบบั ท้งั หมด และแปล ถา้ พบขอ้ ผดิ พลาดกจ็ ะแจง้ ออกมา ทาให้ โปรแกรมทางานไดเ้ ร็ว
1. โปรแกรมภำษำ
ข้อดี ข้อเสีย อนิ เตอร์พรี • หาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมไดง้ ่าย เน่ืองจากทา • ชา้ เน่ืองจากท่ีทางาน เตอร์ การแปลผลทีละบรรทดั ทีละบรรทดั • เนื่องจากทางานทีละบรรทดั ดงั น้นั จึงสงั่ ให้ โปรแกรมทางานตามคาส่ังเฉพาะจุดท่ีตอ้ งการได้ • ไม่เสียเวลารอการแปลโปรแกรมเป็นเวลานาน คอมไพเลอร์ • ทางานไดเ้ ร็ว เนื่องจากทาการแปลผลทีเดียว แลว้ • เม่ือเกิดขอ้ ผดิ พลาด จึงทางานตามคาส่ังของโปรแกรมในภายหลงั ข้ึนกบั โปรแกรมจะ • เมื่อทาการแปลผลแลว้ ในคร้ังต่อไปไม่ ตรวจสอบหา จาเป็นตอ้ งทาการแปลผลใหม่อีก เน่ืองจาก ขอ้ ผดิ พลาดไดย้ าก ภาษาเคร่ืองที่แปลไดจ้ ะถูกเกบ็ ไวท้ ่ีหน่วยความจา เพราะทาการแปลผล สามารถเรียกใชง้ านไดท้ นั ที ทีเดียวท้งั โปรแกรม
2. ประเภทของโปรแกรม โปรแกรมที่ใชส้ ง่ั คอมพิวเตอร์ใหท้ างาน แบ่งได้ 3 ประเภทไดด้ งั น้ี 1. โปรแกรมระบบปฏิบตั ิกำร ( Operating System : OS ) ทาหนา้ ท่ีคอย ดูแลระบบ รวมท้งั ติดต่อกบั ฮาร์ดแวร์ตา่ งๆ โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการท่ีรู้จกั มีดงั น้ี - Windows , - DOS - UNIX 2. โปรแกรมอเนกประสงค์ ( Utility Program ) เป็ นโปรแกรมที่ ช่วยอานวยความสะดวกใหผ้ ใู้ ช้ รวมถึงแกไ้ ขปัญหาหรือวเิ คราะห์ปัญหา เช่น - โปรแกรมตรวจสอบความเร็วเคร่ือง - โปรแกรมตรวจสอบเคร่ือง - โปรแกรมตรวจหาไวรัส - โปรแกรมบีบขอ้ มูล
2. ประเภทของโปรแกรม 3. โปรแกรมประยกุ ต์ หรือซอฟตแ์ วร์สาเร็จรูป เป็น โปรแกรมที่พฒั นาข้ึนมาเพื่อใชง้ านเฉพาะดา้ น เช่น - Microsoft Word - Adobe Photoshop - My SQL
3. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม ในการพฒั นาโปรแกรมมีข้นั ตอนหลกั 5 ข้นั ตอน ซ่ึงไม่ วา่ จะทาการพฒั นาโปรแกรมคร้ังใดจะตอ้ งปฏิบตั ิตามข้นั ตอน เหล่าน้ี 1. กำรกำหนดและกำรวเิ ครำะห์ปัญหำ 2. กำรเขยี นผงั งำนและซูโดโค้ด 3. กำรเขยี นโปรแกรม 4. กำรทดสอบและแก้ไขโปรแกรม 5. ทำเอกสำรและบำรุงรักษำโปรแกรม
3. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม 1. กำรกำหนดและกำรวเิ ครำะห์ปัญหำ เป็นข้นั ตอนแรกที่จะตอ้ งทา เพื่อใหม้ ีแนวทางแกไ้ ขปัญหาท่ีเหมาะสม 1. กำหนดขอบเขตของปัญหำ กค็ ือกาหนดรายละเอียดขอ้ มูลให้ ชดั เจน จะใหค้ อมพวิ เตอร์ทาอะไร 2. กำหนดลกั ษณะของข้อมูลเข้ำ – ออก รู้วา่ ขอ้ มูลน้นั เป็นอยา่ งไร มี อะไรบา้ ง เช่น รับค่าจากคียบ์ อร์ด รับค่าจากเมาส์ เป็นตน้ 3. กำหนดวิธีกำรประมวลผล โดยตอ้ งรู้วา่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทางาน อยา่ งไร
3. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม 2. กำรเขยี นผงั งำนและซูโดโค้ด เป็นการวางแผนอยา่ งเป็นข้นั ตอนน้ี เรียกวา่ อลั กอริทึม (Algorithm) ซ่ึงอลั กอริทึมแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ซูโดโค้ด (Pseudo code) คือ การเขียน อลั กอริทึมโดยใชป้ ระโยคภาษาองั กฤษที่สื่อ ความหมายง่าย ๆ สามารถอ่านแลว้ เขา้ ใจได้ โดยทนั ที โฟลวชำร์ต (Flowchart) คือการเขียนอลั กอริทึม โดยใชส้ ญั ลกั ษณ์รูปภาพเป็นตวั ส่ือความหมาย
3. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม 3. กำรเขยี นโปรแกรม เป็นข้นั ตอนการทางานใหอ้ ยใู่ นรูปรหสั ภาษาคอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรมจะตอ้ งเขียนตามภาษาท่ีคอมพวิ เตอร์เขา้ ใจโดย อาจใชภ้ าษาระดบั สูง หรือระดบั ต่า 4.กำรทดสอบและแก้ไขโปรแกรม ทาการทดสอบความถูกตอ้ งของโปรแกรมที่เขียนข้ึน หาจุด ผดิ พลาดของโปรแกรมวา่ มีหรือไม่ และตรวจสอบจนไม่พบท่ีผิดอีก
3. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม 5.ทำเอกสำรและบำรุงรักษำโปรแกรม จดั ทาเอกสารประกอบโปรแกรมข้ึนมาโดยทว่ั ไปแลว้ แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. คู่มือกำรใช้ ซ่ึงจะอธิบายการใชโ้ ปรแกรม 2. คู่มือโปรแกรมเมอร์ ซ่ึงจะอานวยความสะดวกในการแกไ้ ข โปรแกรม และพฒั นาโปรแกรมในอนาคต ส่วนการบารุงรักษาโปรแกรม ท่ีผเู้ ขียนโปรแกรมจะตอ้ งคอย ตรวจสอบการใชโ้ ปรแกรมจริง เพือ่ แกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดซ่ึงอาจเกิดข้ึน ภายหลงั รวมท้งั พฒั นาโปรแกรมใหท้ นั สมยั อยเู่ สมอเม่ือเวลาผา่ นไป
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี ◼ ข้นั ตอนที่ 1 เขยี นโปรแกรม (source code) ◼ ข้นั ตอนที่ 2 คอมไพล์โปรแกรม (compile) ◼ ข้นั ตอนที่ 3 เชื่อมโยงโปรแกรม (link) ◼ ข้นั ตอนที่ 4 ประมวลผล (run)
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี ข้นั ตอนที่ 1 เขยี นโปรแกรม (source code) ใช้ editor เขียนโปรแกรมภาษาซีและทาการบนั ทึกไฟลใ์ ห้มี นามสกุลเป็น .c เช่น work.c เป็นตน้ editor คือ โปรแกรมที่ใชส้ าหรับการเขียนโปรแกรม โดย ตวั อยา่ งของ editor ที่นิยมนามาใชใ้ นการเขียนโปรแกรมไดแ้ ก่ Notepad,Edit ของ Dos ,TextPad และ EditPlus เป็นตน้ ผเู้ ขียน โปรแกรมสามารถเลือกใชโ้ ปรแกรมใดในการเรียนโปรแกรมกไ็ ด้ แลว้ แต่ความถนดั ของแต่ละบุคคล
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี ข้นั ตอนท่ี 2 คอมไพล์โปรแกรม (compile) นา source code จากข้นั ตอนท่ี 1 มาทาการคอมไพล์ เพือ่ แปล จากภาษาซีที่มนุษยเ์ ขา้ ใจไปเป็นภาษาเครื่องท่ีคอมพวิ เตอร์เขา้ ใจได้ ในข้นั ตอนน้ีคอมไพเลอร์จะทาการตรวจสอบ source code วา่ เกิด ขอ้ ผดิ พลาดหรือไม่ ➢ หากเกิดขอ้ ผดิ พลาด จะแจง้ ใหผ้ เู้ ขียนโปรแกรมทราบ ผเู้ ขียนโปรแกรม จะตอ้ งกลบั ไปแกไ้ ขโปรแกรม และทาการคอมไพลโ์ ปรแกรมใหม่อีกคร้ัง ➢ หากไม่พบขอ้ ผดิ พลาด คอมไพเลอร์จะแปลไฟล์ source code จากภาษาซี ไปเป็นภาษาเคร่ือง (ไฟลน์ ามสกลุ .obj) เช่นถา้ ไฟล์ source code ชื่อ work.c กจ็ ะถูกแปลไปเป็นไฟล์ work.obj ซ่ึงเกบ็ ภาษาเคร่ืองไวเ้ ป็นตน้
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี โดยคอมไพเลอร์ของภาษาซี คือ C Compiler ซ่ึง หลกั การที่คอมไพเลอร์ใช้ เรียกวา่ คอมไพล์ (compile) โดยจะทาการอ่านโปรแกรมภาษาซีท้งั หมดต้งั แต่ตน้ จนจบ แลว้ ทา การแปลผลทเี ดยี ว
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี ข้นั ตอนที่ 3 เชื่อมโยงโปรแกรม (link) การเขียนโปรแกรมภาษาซีน้นั ผเู้ ขียนโปรแกรมไม่จาเป็นตอ้ ง เขียนคาสง่ั ต่าง ๆ ข้ึนใชง้ านเอง สามารถเรียกใชฟ้ ังกช์ นั มาตรฐาน ของภาษาซีมาใชง้ านได้ โดยส่วนการประกาศ ของฟังกช์ นั มาตรฐานต่าง ๆ จะถูกจดั เกบ็ อยใู่ นเฮดเดอร์ไฟลแ์ ต่ละตวั แตกต่าง กนั ไปตามลกั ษณะการใชง้ าน
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี ดว้ ยเหตุน้ีภาษาเครื่องท่ีไดจ้ ากข้นั ตอนที่ 2 จึงยงั ไม่สามารถ นาไปใชง้ านได้ แต่ตอ้ งนามาเช่ือมโยงเขา้ กบั library ก่อน ซ่ึงผลจากการเชื่อมโยงจะทาใหไ้ ด้ executable program (ไฟลน์ ามสกลุ .exe เช่น work.exe) ที่สามารถนาไปใชง้ านได้
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี ข้นั ตอนท่ี 4 ประมวลผล (run) เมื่อนา executable program จากข้นั ตอนที่ 3 มาประมวลผลก็ จะไดผ้ ลลพั ธ์ (output) ของโปรแกรมออกมา (ถา้ มี)
4. ข้นั ตอนกำรพฒั นำโปรแกรมภำษำซี
LOGO
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: