บทเรยี นออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) ก วิทยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ เิ ลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) ก สำหรับบทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 2 เล่มนี้ ได้จัดทำข้ึน เพ่ือ เป็นสื่อประกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 เพื่อพัฒนำผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน โรงเรียนวฒั นำนคร สังกดั องคก์ ำรบริหำรสว่ นจังหวดั สระแก้ว บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 มีเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้สอดคล้อง กับหลักสูตรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 และหลักสูตรสถำนศึกษำ ตำม กระทรวงศึกษำธิกำรกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญอย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะถือเป็นพ้ืนฐำน สำคัญของกำรใช้เทคโนโลยีในยุค 4.0 และสอดคล้องกับกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นี้ โดยใช้ร่วมกับ กำรเรียนรู้แบบใช้โครงงำนเป็นฐำน เพ่ือส่งเสริมและพัฒนำกำรเรียนรู้ด้ำนเทคโนโลยีแก่นักเรียน ตลอดจนทักษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ และกำรแก้ปญั หำ เพ่ือกำรนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน ผู้จัดทำมุ่งหวังว่ำ บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 2 จะอำนวย ประโยชน์แกผ่ รู้ กั กำรอำ่ น นักเรยี น และผสู้ นใจ ได้เป็นอย่ำงยงิ่ นำงอรณุ ี สุเมธโสภณ ตำแหนง่ ครู วิทยำฐำนะ ครูชำนำญกำรพเิ ศษ วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ ิเล็กทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) ข บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 2 เล่มน้ี ได้จัดทำข้ึน เพ่ือเป็นสื่อ ประกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 2 เพื่อพัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน โรงเรียนวัฒนำนคร สังกัดองค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดสระแก้ว บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษำปีท่ี 2 มีเน้ือหำสำระกำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 และหลักสูตรสถำนศึกษำ ตำมกระทรวงศึกษำธิกำรกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญอย่ำงยิ่ง สำหรับนักเรียน เพรำะถือเป็นพ้ืนฐำนสำคัญของกำรใช้เทคโนโลยีในยุค 4.0 และสอดคล้องกับกำรเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 น้ี โดยใช้ร่วมกับกำรเรียนรู้แบบใช้โครงงำนเป็นฐำน เพื่อส่งเสริมและพัฒนำ กำรเรียนรู้ด้ำนเทคโนโลยีแก่นักเรียน ตลอดจนทักษะกำรคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ และกำรแก้ปัญหำ เพื่อกำรนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน บทเรยี นออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วชิ ำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 2 จำนวน 6 เลม่ ดังน้ี เล่มท่ี 1 วิทยำกำรเชิงคำนวณ เลม่ ที่ 2 กำรออกแบบอลั กอรทิ มึ ที่ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในกำรแกป้ ัญหำ เลม่ ที่ 3 กำรออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ช่ันในกำรแกป้ ญั หำ เล่มท่ี 4 กำรออกแบบและเขียนโปรแกรมดว้ ยภำษำไพทอน เลม่ ท่ี 5 องคป์ ระกอบและหลักกำรทำงำนของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ำรสนเทศ เล่มท่ี 6 ประยุกต์ใชง้ ำนระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยกี ำรสื่อสำรและกำรแก้ปัญหำ เบอ้ื งต้น บทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วชิ ำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 เลม่ นี้ คอื เลม่ ท่ี 1 วทิ ยำกำรเชงิ คำนวณ ทั้งนี้ บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 2 เป็นแบบ E-Book มีลักษณะเป็นหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ โดยสำมำรถสแกนผ่ำน QR-Code หรือเข้ำผ่ำนลิงค์เว็บ ไซด์ เพ่ือใช้งำนตำมปกติ พร้อมกับรูปเล่มจริง ตำมลิงค์ออนไลน์ที่แนบนี้ https://pubhtml5.com/bookcase/........... QR-Code วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ ิเล็กทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) ค เนื่องจำกบทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำร คำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 2 เล่มนี้ เป็นแบบ E-Book มี ลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสำมำรถสแกนผ่ำน QR-Code หรือเข้ำผ่ำนลิงค์เว็บไซด์ เพื่อใช้งำนตำมปกติ QR-Code พ ร้ อ ม กั บ รู ป เ ล่ ม จ ริ ง ต ำ ม ลิ ง ค์ อ อ น ไ ล น์ ที่ แ น บ นี้ https://pubhtml5.com/bookcase/............. ควรปฏิบัติ ดงั นี้ 1. ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจคู่มือกำรใช้และบทเรียนออนไลนอ์ เิ ลก็ ทรอนิคส์ วชิ ำ วิทยำกำร คำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษำ ปที ี่ 2 เลม่ น้ี ให้เข้ำใจก่อนนำไปใชง้ ำน 2. จดั เตรียมบทเรียนออนไลน์อิเลก็ ทรอนคิ ส์ วชิ ำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระ กำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 สำหรับแจกใหน้ ักเรียน 3. แนะนำกำรใช้งำนบทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 2 4. ให้นักเรยี นลงมอื ทำแบบทดสอบก่อนเรียนประจำบทเรยี นออนไลนอ์ ิเล็กทรอนิคส์ วชิ ำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 2 5. เปิดโอกำรสใหน้ ักเรยี นศกึ ษำเนือ้ หำ หรือบทเรียนในบทเรียนออนไลนอ์ เิ ล็กทรอนิคส์ วิชำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรียนช้ัน มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรยี นรู้แบบใช้โครงงำนเป็นฐำน 6. ใหน้ ักเรียนทบทวนควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจด้วยกำรทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะใหค้ รบถว้ นทุกตอน 7. ให้นักเรยี นลงมือทำแบบทดสอบหลงั เรยี นประจำบทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนิคส์ วิชำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนช้ัน มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 8. นำนกั เรยี นตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบทงั้ หมด เพื่อบันทึกคะแนนท้ำยบทเรียนออนไลน์ อเิ ล็กทรอนิคส์ วชิ ำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 2 หมำยเหตุ : บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนคิ ส์ นี้ นักเรยี นสำมำรถกลับมำเรยี นรแู้ ละทบทวนได้ ภำยหลงั จำกท่เี รยี นเสร็จแล้ว หำกนกั เรยี นไมเ่ ข้ำใจหรอื ต้องกำรทบทวนเน้ือหำนอกเวลำเรยี น สำหรบั กจิ กรรมระหวำ่ งเรยี นอำจมีทั้งแบบเดย่ี วและกลมุ่ วิทยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ เิ ล็กทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) ง เน่ืองจำกบทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำร คำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และ เทคโนโลยี สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 2 เลม่ น้ี เปน็ แบบ E- Book มลี ักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสำมำรถสแกนผ่ำน QR-Code หรอื เข้ำผ่ำนลิงค์เว็บไซด์ เพ่ือใช้งำนตำมปกติ พร้อมกับ QR-Code รู ป เ ล่ ม จ ริ ง ต ำ ม ลิ ง ค์ อ อ น ไ ล น์ ที่ แ น บ น้ี https://pubhtml5.com/bookcase/........... ควรปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจคำชแี้ จง และบทบำทนกั เรยี น เพ่ือกำรใช้บทเรียนออนไลน์ อเิ ล็กทรอนิคส์ วิชำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 2 เลม่ นี้ ใหเ้ ขำ้ ใจก่อนนำไปใช้งำน 2. นกั เรยี นลงมอื ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำบทเรยี นออนไลนอ์ ิเล็กทรอนิคส์ วชิ ำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 3. นกั เรียนศึกษำบทเรยี นออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่ม สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 ดว้ ยตนเอง ตำม กระบวนกำรเรียนรู้ (ดว้ ยกำรเรียนรแู้ บบ SQ4R) 4. นักเรยี นทบทวนควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจด้วยกำรทำกิจกรรมฝึกทักษะใหค้ รบถ้วนทุกตอน 5. นกั เรียนลงมือทำแบบทดสอบหลังเรยี นประจำบทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนคิ ส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี น ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี 2 6. นักเรยี นร่วมตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบท้งั หมด เพ่ือบันทึกคะแนนท้ำยบทเรียน ออนไลน์อิเลก็ ทรอนิคส์ วชิ ำ วทิ ยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และ เทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 2 7. นกั เรียนสำมำรถศึกษำทบทวนเน้ือหำบทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วชิ ำ วิทยำกำร คำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษำ ปีท่ี 2 ไดต้ ลอดเวลำ หลงั เรียนเสรจ็ แลว้ หำกไม่ผำ่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80.00 หมำยเหตุ : บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนคิ ส์ นี้ นกั เรยี นสำมำรถกลับมำเรยี นรแู้ ละทบทวนได้ ภำยหลงั จำกที่เรยี นเสร็จแล้ว หำกนกั เรียนไม่เข้ำใจหรอื ต้องกำรทบทวนเน้ือหำนอกเวลำเรยี น สำหรบั กิจกรรมระหวำ่ งเรียนอำจมที ั้งแบบเดี่ยวและกลมุ่ วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนคิ ส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) จ ข้อควรระวงั และปฏิบตั กิ ่อนการดาเนนิ การสอน 1. ศกึ ษำแผนกำรจัดกำรเรยี นร้อู ย่ำงละเอยี ด 2. เตรียมอปุ กรณ์ สือ่ กำรเรยี นกำรสอนใหเ้ รยี บร้อย 3. ศกึ ษำรำยละเอียดบทเรยี นออนไลน์อิเลก็ ทรอนิคส์ก่อนกำรเรยี นรู้ 4. กำหนดบทบำทสมำชใิ นกลุ่มทรำบถงึ กำรปฏิบตั ติ มบทบำทต่ำงๆ โดยสมำชกิ ทุกคนในกลุ่ม ต้องไดท้ ำทุกบทบำท 5. ครูผ้สู อนช้ีแจงวธิ กี ำรใช้บทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนิคส์และกจิ กรรมทนี่ ักเรียนต้องปฏิบัติ ข้อควรระวังและปฏบิ ตั ิขณะดาเนินการสอน 1. ชีแ้ จงกำรใช้บทเรียนออนไลนอ์ เิ ล็กทรอนิคส์ใหน้ ักเรียนทกุ คนทรำบ 2. ตำเนนิ กจิ กรมตมแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ เพื่อให้สอดคล้องกับจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ เนื้อหำ และเวลำท่กี ำหนด 3. ครผู ู้สอนตอ้ งให้คำแนะนำและคอยดแู ลนกั เรียนอย่ำงใกล้ชิด 4. ให้นักเรยี นเรยี นร้จู ำกบทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนิคส์ตำมช้นั ตอนอย่ำงเครง่ ครดั และมี ควำมซ่อื สตั ย์ต่อตนเอง 5. ตรวจสอบกำรทำงำนของนักเรียนและสรปุ บทเรียนรว่ มกันนกั เรียน ขอ้ ควรระวังและปฏบิ ตั เิ มื่อดาเนินการสอนสน้ิ สุด 1. ครูผู้สอนให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน 2. ตรวจผลงำนจำกกำรทำแบบทดสอบและกิจกรรมระหว่ำงเรียน 3. ถ้ำนักเรียนไม่ผำ่ นเกณฑ์ที่ระบไุ ว้ ครคู วรใหน้ ักเรียนศึกษำและทบทวนเน้ือหำใหม่อกี ครั้ง แลว้ ทำแบบทดสอบหลังเรยี นใหผ้ ่ำนเกณฑท์ ก่ี ำหนดไว้ วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) ฉ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1.0 หน่วยกิต ปีการศกึ ษา 1/2561 เวลา 40 ชัว่ โมง ศกึ ษำกำรออกแบบอัลกอรทิ ึมทใ่ี ชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในกำรแก้ปัญหำ หรือกำรทำงำนที่พบ ในชีวิตจริงกำรออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในกำรแก้ปัญหำ กำรเขียน โปรแกรมโดยใช้ซอฟตแ์ วร์Scratch, python, java และ c อภปิ รำยองคป์ ระกอบและหลักกำรทำงำน ของระบบคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีกำรส่ือสำรเพ่ือประยุกต์ใช้งำนหรือแก้ปัญหำเบื้องต้น ตลอดจน ใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั มีควำมรบั ผดิ ชอบ สรำ้ งและแสดงสทิ ธใิ นกำรเผยแพรผ่ ลงำน โดยอำศยั กระบวนกำรเรียนรู้โดยใช้ปัญหำเป็นฐำน (Problem-based Learning) และกำร เรียนรู้แบบใช้โครงงำนเป็นฐำน (Project-based Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะกำรคิด เผชิญสถำนกำรณ์กำรแก้ปัญหำ วำงแผนกำรเรียนรู้ ตรวจสอบกำรเรียนรู้ และ นำเสนอผ่ำนกำรทำกิจกรรมโครงงำน เพ่ือให้เกิดทักษะ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และทักษะใน กำรวิเครำะห์โจทยป์ ัญหำ จนสำมำรถนำเอำแนวคดิ เชงิ คำนวณมำประยกุ ต์ใชใ้ นกำรสรำ้ งโครงงำนได้ เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ กำรนำข้อมูลปฐมภูมิเข้ำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเครำะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ สำรสนเทศได้ตำมวัตถุประสงค์ ใช้ทักษะกำรคิดเชิงคำนวณในกำร แก้ปัญหำท่ีพบในชีวิตจริง และเขียนโปรแกรมอย่ำงง่ำย เพื่อช่วย ในกำรแก้ปัญหำ ใช้เทค โนโลยี สำรสนเทศและกำรสื่อสำรอย่ำงรู้เท่ำทันและรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนนำควำมรู้ควำมเข้ำใจใน วิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและกำรดำรงชีวิต จนสำมำรถพัฒนำ กระบวนกำรคิดและจินตนำกำร มีควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำและมีทักษะในกำรส่ือสำร มคี วำมสำมำรถในกำรตัดสินใจ และเปน็ ผ้ทู ่ีมจี ติ วทิ ยำศำสตร์ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่ำนิยมในกำร ใชว้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตัวชีว้ ัด คอื ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 รวม 4 ตวั ชี้วดั วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ ิเล็กทรอนิคส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) ช แนวคดิ สาคญั กำรคิด คือ กำรดำเนินกำรที่เกิดขึ้นในสมองเป็นกระบวนกำรตำมธรรมชำติของมนุษย์ที่ บำงครง้ั ก็ไมไ่ ด้เปน็ ไปตำมกำรกระทำ แตถ่ ้ำนกั เรยี นสำมำรถควบคุมควำมคิดให้ดำเนินไปตำมเร่ืองรำว ท่ีรบั ฟงั มำหรือตำมเน้ือเรื่องทอี่ ่ำน จะไดร้ บั ควำมรู้และสำมำรถนำไปปฏิบัติได้ ซ่ึงนอกจำกกำรคิดตำม เนื้อหำที่พบแล้วยังสำมำรถใช้เหตุผลทำงตัวเลือกในกำรแก้ปัญหำกำรวิเครำะห์ข้อมูล กำรจัดลำดับ เหตกุ ำรณ์ เพอื่ แกป้ ัญหำท่ีพบ กำรใชเ้ ครือ่ งมือต่ำงๆ ดงั กล่ำวในกำรแกป้ ัญหำ เรยี กว่ำ แนวคดิ เชิงคำนวณ สาระการเรยี นรู้ วิทยำกำรเชิงคำนวณ 1. กำรแบง่ ปัญหำใหญ่เปน็ ปัญหำย่อย 2. กำรพิจำรณำรปู แบบ 3. กำรคิดเชิงนำมธรรม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจสำมำรถตอบคำถำมเกีย่ วกบั วิทยำกำรเชงิ คำนวณได้ (K) 2. อธิบำยเกย่ี วกบั วทิ ยำกำรเชงิ คำนวณได้ (A) 3. ปฏิบตั ิตำมคำสงั่ ของกำรใชง้ ำนโปรแกรมท่ีกำหนดได้ (P) 4. ออกแบบ กำหนด และทำโครงงำน หรอื ชิ้นงำนตำมท่ีกำหนดได้ (P) 5. ส่ือสำร และใชท้ กั ษะกำรคิด กำรแก้ปัญหำ ทกั ษะชีวิต และกำรใช้เทคโนโลยไี ด้ (P) 6. มีควำมกระตอื รือร้น ใฝเ่ รยี นรู้ และให้ควำมรว่ มมือในกจิ กรรมกลุ่ม (A) สมรรถนะทส่ี าคญั หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน ม่งุ ให้ผเู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสำคัญ 5 ประกำร ดงั น้ี 1. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวิต 5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน มุ่งพัฒนำผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สำมำรถอยรู่ ่วมกับผู้อน่ื ในสงั คมได้อยำ่ งมคี วำมสขุ ในฐำนะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี 1. รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) ซ 2. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อย่อู ยำ่ งพอเพียง 6. ม่งุ ม่ันในกำรทำงำน 7. รกั ควำมเปน็ ไทย 8. มจี ติ สำธำรณะ ภาระงาน/ชนิ้ งาน บทเรยี นออนไลน์อิเลก็ ทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 เล่มที่ 1 วิทยำกำรเชิงคำนวณ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. กิจกรรมระหวำ่ งเรียน 3. แบบทดสอบหลังเรยี น การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน เกณฑก์ ำรประเมินนักเรียนต้องไดค้ ะแนน ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป 2. กจิ กรรมระหวำ่ งเรยี น เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป 3. แบบทดสอบหลงั เรียน เกณฑก์ ำรประเมนิ นักเรียนต้องไดค้ ะแนน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลน์อิเลก็ ทรอนิคส์ วชิ า วทิ ยาการคานวณ (ว22103) ฌ คำนำ หนา้ คำชแ้ี จง ก คำแนะนำสำหรบั ครู ข คำแนะนำสำหรับนักเรยี น ค ขอ้ ควรระวังและปฏบิ ตั ิ ง คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน จ บทเรยี นออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วิชำ วิทยำกำรคำนวณ (ว22103) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ฉ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 2 แบบทดสอบกอ่ นเรียน ช กะดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน 1 ใบควำมรู้ เรื่อง วทิ ยำกำรเชิงคำนวณ 3 4 กิจกรรมท่ี 1 8 กจิ กรรมท่ี 2 9 กิจกรรมท่ี 3 10 กิจกรรมท่ี 4 11 แบบทดสอบหลงั เรยี น 12 กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น 14 ภำคผนวก 15 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น 22 แบบบันทึกคะแนนผลกำรทำกิจกรรม 23 บรรณนุกรม 24 ประวตั ยิ อ่ ผ้จู ัดทำ 25 วิทยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนิคส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง วิทยาการเชงิ คานวณ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียวแลว้ ทำเครื่องหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ 1. ขอ้ ใด คือ แนวคิดเชงิ คำนวณ ก. แนวคดิ ทใ่ี ช้กำรคิดวเิ ครำะห์ขน้ั สูง ข. แนวคดิ ทส่ี งั เครำะห์จำกสมอง ค. แนวคิดในกำรแกป้ ัญหำอย่ำงเปน็ ระบบ ง. แนวคดิ ทซ่ี ับซ้อน 2. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ ก. กำรหำรปู แบบในกำรแก้ปัญหำ ข. กำรแตกปัญหำยอ่ ยออกเป็นปัญหำใหญ่ ค. กำรออกแบบลำดับขัน้ ตอนกำรแกป้ ัญหำ ง. กำรหำแนวคิดรวบยอดของปญั หำ 3. กำรเขียนผงั งำนโฟลวช์ ำร์ตเป็นกระบวนกำรของข้อใดในแนวคดิ เชิงคำนวณ ก. กำรออกแบบลำดบั ขนั้ ตอนกำรแก้ปัญหำ ข. กำรสร้ำงรูปแบบกำรแกป้ ัญหำ ค. กำรหำแนวคดิ รวบยอดของปัญหำ ง. กำรแตกปัญหำออกเป็นลำดบั ข้ันตอน 4. ลำดบั แรกในกำรแกป้ ญั หำ คือ ข้อใด ก. ออกแบบขน้ั ตอนกำรแก้ปัญหำ ข. กำหนดแนวคดิ เชิงนำมธรรม ค. แตกปัญหำใหญ่ออกเปน็ ปัญหำยอ่ ย ง. เขียนโปรแกรมกำรแกป้ ญั หำ 5. ขนั้ ตอนต่อไปหลงั จำกตดั สิ่งทไ่ี ม่จำเป็นสำหรับกำรแก้ปัญหำออกไปแลว้ คือ ข้อใด ก. วิเครำะห์ปัญหำ ข. หำรูปแบบกำรแก้ปญั หำ ค. ออกแบบขั้นตอนวธิ ี ง. คิดรวบยอดปัญหำ วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนคิ ส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) 2 6. บคุ คลใดเมื่อพบปญั หำแล้วแกป้ ญั หำตำมแนวคดิ เชงิ คำนวณ ก. จอยไม่สนใจรำยละเอยี ดที่ไมจ่ ำเปน็ เก่ยี วกับปัญหำ ข. จบ๊ิ ออกแบบขั้นตอนกำรแก้ปัญหำ ค. แจนแตกปัญหำใหญอ่ อกเปน็ ปญั หำย่อย ง. จ๋มุ วเิ ครำะห์ทมี่ ำของปญั หำ 7. ขอ้ ใดสำคัญท่สี ดุ ในกำรจัดเรยี งแถวตำมลำดบั ควำมสงู ของนักเรยี น ก. ควำมสูงของนกั เรยี น ข. เพศของนักเรยี น ค. นำ้ หนักของนักเรียน ง. เกรดเฉล่ียของนักเรยี น 8. “นนุ่ ต้องการจดั เสื้อผา้ ทัง้ หมดในตเู้ ส้ือผา้ ” นุ่นควรทำสิ่งใดเป็นลำดบั แรก ก. แยกเส้อื ผำ้ ตำมประเภท ข. ตั้งวัตถุประสงค์ในกำรค้นหำ ค. จดั เรยี งเสอื้ ผ้ำเขำ้ ตู้เส้ือผ้ำ ง. แบง่ กลุ่มเสอื้ ผำ้ 9. ข้อใดกลำ่ วถงึ แนวคิดเชงิ คำนวณ ไม่ ถูกต้อง ก. เปน็ กำรคดิ เหมือนหุ่นยนต์ ข. มแี นวคดิ เชงิ นำมธรรมเปน็ ทักษะย่อย ค. เปน็ กำรแกป้ ญั หำทม่ี ลี ำดบั ขั้นตอน ง. เปน็ วิธกี ำรแกป้ ญั หำทม่ี นุษยแ์ ละคอมพวิ เตอร์สำมำรถ เข้ำใจรว่ มกันได้ 10. ข้อใด คือ กำรคิดรวบยอดของปัญหำ โดยมงุ่ เน้นเฉพำะส่วนท่ีสำคัญของปญั หำ ก. แนวคิดเชงิ รปู ธรรม ข. แนวคิดแยกย่อย ค. แนวคดิ เชงิ นำมธรรม ง. แนวคดิ เชิงวิเครำะห์ วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อิเล็กทรอนคิ ส์ วชิ า วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 3 กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง วิทยาการเชิงคานวณ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดยี วแล้วทำเครื่องหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวม คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ ..................... คะแนน ผ่าน ไมผ่ ่าน วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 4 เร่อื ง วทิ ยาการเชงิ คานวณ กำรใช้ชีวิตประจำวัน นักเรียนอำจพบสถำนกำรณ์ท่ีซับซ้อนและเป็นปัญหำไม่สำมำรถคิดหำ วิธีกำรแกป้ ญั หำไดโ้ ดยงำ่ ย หำกนักเรียนแบ่งปัญหำท่ีซับซ้อนให้เปน็ ปญั หำยอ่ ยอำจทำ ให้เข้ำใจปัญหำ และสำมำรถออกแบบวิธีกำรแก้ปัญหำได้ง่ำยขึ้น เช่น นักเรียนต้องกำรจัดห้องเรียนที่มีส่ิงของรกและ กระจัดกระจำยอย่เู ป็นจำนวนมำกให้เป็นห้องกิจกรรม และบอกวิธีกำรจัดห้องให้กับเพื่อนช่วยทำงำน ตำ่ ง ๆ ไปพร้อมกันใหส้ ำเร็จอย่ำงรวดเร็ว แนวคิดเชิงคานวณ (computational thinking) เป็น กระบวนกำรวิเครำะห์ปัญหำ เพ่ือให้ได้แนวทำงกำรหำคำตอบอย่ำงเป็น ขั้นตอนทีส่ ำมำรถนำไปปฏิบัติได้ โดยบุคคลหรือคอมพิวเตอร์อย่ำงถูกต้อง และแม่นยำ ซึ่งเรียกว่ำ อัลกอริทึม ทักษะกำรใช้แนวคิดเชิงคำนวณจึง สำคัญต่อกำรแก้ปัญหำ ช่วยให้สำมำรถสื่อสำรแนวคิดกับผู้อ่ืนได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ รวมถึงช่วยพัฒนำพ้ืนฐำนในกำรเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ด้วยแนวคิดเชงิ คำนวณมอี งคป์ ระกอบทส่ี ำคัญ 4 ส่วน ไดแ้ ก่ 1. การแบ่งปัญหาใหญ่เปน็ ปัญหาย่อย (decomposition) เป็นกำรแตกปัญหำที่ซบั ซ้อน ใหเ้ ป็นปัญหำยอ่ ยท่ีมขี นำดเล็กลงและซบั ซ้อนน้อยลง เพ่ือช่วยใหก้ ำรวิเครำะหแ์ ละออกแบบวิธีกำร แก้ปญั หำทำได้ง่ำยข้ึน วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลน์อิเลก็ ทรอนิคส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) 5 2. การพิจารณารูปแบบ (pattern recognition) เป็นกำรวิเครำะห์หำควำมเหมือนหรือ คล้ำยคลึงกันระหว่ำงปัญหำย่อยท่ีแตกออกมำ หรือควำมคล้ำยคลึงกับปัญหำอื่น ๆ ที่มีผู้ออกแบบ วธิ ีกำรแกไ้ ขไวก้ ่อนแล้ว 3. การคิดเชิงนามธรรม (abstraction) เป็นกำรแยกรำยละเอียดที่สำคัญและจำ เป็นต่อ กำรแก้ปัญหำออกจำกรำยละเอียดที่ไม่จำเป็น ซ่ึงรวมไปถึงกำรแทนกลุ่มของปัญหำ ข้ันตอน หรือ กระบวนกำรที่มรี ำยละเอยี ดปลกี ยอ่ ยหลำยขัน้ ตอนด้วยข้นั ตอนใหมเ่ พียงขั้นตอนเดียว กำรแกป้ ญั หำที่มีควำมซับซ้อนทำไดย้ ำก กำรแบง่ ปัญหำใหญ่ให้เป็นปญั หำย่อย ๆ ทำให้ควำม ซับซ้อนของปัญหำลดลง ช่วยให้กำรวิเครำะห์และพิจำรณำรำยละเอียดของปัญหำทำได้อย่ำงถี่ถ้วน ส่งผลใหส้ ำมำรถออกแบบข้ันตอนกำรแก้ปัญหำย่อยแต่ละปัญหำได้ง่ำยย่ิงขึ้นลองพิจำรณำปัญหำวำด ภำพตำมคำ บอก โดยใหเ้ พือ่ นของนักเรียนวำดภำพตำมที่นักเรียนบอก และไม่แสดงภำพให้เพื่อนของ นักเรยี นเห็น ดังตวั อยำ่ งต่อไปน้ี ตวั อยา่ งที่ 1 ภาพวาดหมู่บ้าน นักเรียนวำดภำพหมู่บ้ำนที่คล้ำยกับภำพด้ำนล่ำง โดยไม่ต้องเหมือนรูปในตัวอย่ำง โดย 1 ช่องมีขนำด 20 หน่วย จุดมุมล่ำงซ้ำยของตำรำง คือ พิกัด (0, 0) แล้วบอกให้เพ่ือนของนักเรียนวำด ภำพหมู่บ้ำนให้เหมือนกับภำพที่นักเรียนวำดให้ได้มำกที่สุด โดยไม่แสดงภำพให้เพ่ือนเห็น นักเรียน อำจวำดรปู หมู่บ้ำนได้ดังภำพท่ี 1 กำรอธิบำยรำยละเอียดของภำพเพ่ือให้เพื่อน ของนักเรียนวำดตำมได้น้ันสำมำรถแบ่งออกเป็น ปญั หำย่อยได้ ดังน้ี ❍ ในภำพมบี ำ้ นกีห่ ลงั ❍ ขน้ั ตอนในกำรวำดบ้ำนหลังแรกเป็น อยำ่ งไรและอยูท่ ่ีตำแหนง่ ใด ❍ ขนั้ ตอนในกำรวำดบ้ำนหลงั ทสี่ องเปน็ อย่ำงไร และอยู่ทีต่ ำแหน่งใด ❍ ขน้ั ตอนในกำรวำดบ้ำนหลงั ที่สำมเปน็ อย่ำงไร และอยู่ท่ตี ำแหน่งใด ภำพที่ 1 ภำพตัวอย่ำงหมู่บ้ำน ปัญหำจำกตัวอย่ำงท่ี 1 นนั้ ค่อนข้ำงงำ่ ยและชดั เจนเนื่องจำกมีข้อกำหนดและผลลัพธท์ ี่ แนน่ อนปัญหำในชวี ิตประจำวนั มีหลำกหลำย เช่น ในตอนน้ีนกั เรยี นสำมำรถบวกเลขสองหลัก 2 จำนวนเขำ้ ดว้ ยกันได้งำ่ ยด้วยตนเอง แตน่ ้อง ๆ ระดับอนุบำลอำจบวกเลขได้เพียงหนงึ่ หลกั นกั เรยี น จะมวี ิธีกำรสอนน้องอย่ำงไรให้สำมำรถบวกเลขสองหลกั ได้ วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนิคส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) 6 นักเรยี นจะสำมำรถแบง่ ปัญหำใหญข่ องกำรบวกเลขสองหลักเปน็ ปัญหำย่อยไดด้ ังน้ี ❍ บวกเลขหลกั หนว่ ยเข้ำด้วยกันไดอ้ ย่ำงไร ❍ บวกเลขหลกั สิบเข้ำด้วยกนั ได้อย่ำงไร ปัญหำบำงประเภทสำมำรถแบ่งออกเปน็ ปญั หำย่อยที่อำจจะมรี ปู แบบเดยี วกันหรือคลำ้ ยกนั นักเรียนสำมำรถนำรูปแบบกระบวนกำรแกป้ ญั หำย่อยปญั หำหนึ่งไปประยุกต์ใช้กับกำรแก้ปญั หำยอ่ ย อืน่ ๆ ได้ทำใหล้ ดขน้ั ตอนในกำรออกแบบวิธกี ำรแก้ปัญหำได้ ตวั อย่างที่ 2 รูปแบบในภาพวาดหมู่บา้ น จำกปญั หำภำพวำดในตวั อยำ่ งท่ี 1 นกั เรียนอำจจะอธบิ ำยคำ ตอบของปัญหำย่อยไดด้ งั นี้ ปญั หาย่อยท่ี 1 ในภำพมีบำ้ นก่หี ลงั คาตอบ ในภำพมบี ำ้ น 3 หลัง ปญั หาย่อยที่ 2 ขนั้ ตอนในกำรวำดบ้ำนหลงั แรกเป็นอย่ำงไร และอย่ทู ่ีตำแหนง่ ใด คาตอบ บ้ำนหลงั แรกวำดตวั บ้ำนด้วยส่ีเหล่ียมจัตุรสั สีเหลอื งขนำดด้ำนละ 100 หนว่ ย ตงั้ อยู่ ตำแหนง่ มุมล่ำงซำ้ ยที่พิกดั (0, 0) ด้ำนบนสเ่ี หล่ยี มวำดหลังคำด้วยรปู สำมเหลี่ยมดำ้ นเท่ำสีมว่ งขนำด ดำ้ นละ 100 หนว่ ย ปญั หาย่อยท่ี 3 ข้ันตอนในกำรวำดบ้ำนหลงั ทส่ี องเปน็ อยำ่ งไร และอยทู่ ่ีตำแหน่งใด คาตอบ บ้ำนหลังท่ีสองวำดตัวบ้ำนด้วยสเี่ หลี่ยมจัตุรสั สีแดงขนำดด้ำนละ 50 หน่วย ตงั้ อยู่ ตำแหน่งมมุ ลำ่ งซ้ำยท่ีพิกดั (120, 90) ด้ำนบนสเี่ หลี่ยมวำดหลังคำเป็นรปู สำมเหล่ียมด้ำนเท่ำสีเทำ ขนำดด้ำนละ 50 หนว่ ย ปญั หาย่อยท่ี 4 ขั้นตอนในกำรวำดบ้ำนหลังที่สำมเป็นอย่ำงไร และอยูท่ ีต่ ำแหน่งใด คาตอบ บำ้ นหลังทสี่ ำมวำดตัวบ้ำนดว้ ยสเี่ หลยี่ มจัตรุ ัสสีเขยี ว ขนำดดำ้ นละ 80 หน่วย ต้ังอยู่ตำแหนง่ แม้ว่ำกระบวนกำรข้ำงต้นสำมำรถสื่อควำมได้ครบถ้วน และผู้ที่ นำ ไปปฏิบัติตำมมีแนวโน้มท่ีจะวำดภำพหมู่บ้ำนได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับ แต่เรำสำมำรถทำกระบวนกำรน้ีให้กระชับข้ึนได้ โดยอำศัยกำรพิจำรณำ รูปแบบของบ้ำนทั้งสำมหลังที่มีองค์ประกอบคล้ำยกัน คือ มีตัวบ้ำน หลังคำ ตำแหนง่ มุมล่ำงซำ้ ย และขนำดเปน็ องค์ประกอบหลกั ภำพที่ 2 ภำพองค์ประกอบของบำ้ น วิทยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ เิ ล็กทรอนิคส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) 7 ปญั หำประกอบไปด้วยรำยละเอียดท่หี ลำกหลำย โดยมีท้ังรำย ละเอียดท่ีจำ เปน็ และไม่จำเป็นตอ่ กำรแก้ปัญหำ กำรคิดเชิงนำมธรรมเป็น กำรคดั แยกรำยละเอียดที่ไม่จำ เปน็ ออกจำกปัญหำที่พจิ ำรณำอย่ทู ำให้ สำมำรถเข้ำใจ วเิ ครำะห์ และออกแบบวธิ กี ำรแกป้ ญั หำใน ภำพรวมได้งำ่ ยข้นึ กำรคิดเชิงนำมธรรมยังรวมถงึ กำรซอ่ นรำยละเอียด โดยกำร แทนกลมุ่ ของปัญหำ ขน้ั ตอน และกระบวนกำรที่มีรำยละเอียดปลีกยอ่ ยหลำยขัน้ ตอนให้เป็นขนั้ ตอน เดียว เพ่ือให้สำมำรถอธบิ ำยวธิ ีกำรแกป้ ัญหำไดก้ ระชบั ขนึ้ ดังตัวอยำ่ งต่อไปน้ี ตวั อย่างที่ 3 การซอ่ นรายละเอยี ดในการวาดภาพหมู่บ้าน จำกที่ไดว้ ิเครำะห์รูปแบบของบำ้ นในตวั อยำ่ งที่ 2 บำ้ นแต่ละหลงั มีรปู แบบคล้ำยกนั คอื มตี วั บำ้ นและหลังคำท่ีมีสีแตกต่ำงกันกำรซ่อนรำย ละเอียดสำมำรถนำมำอธิบำยกำรวำดบำ้ นแตล่ ะหลงั ได้ ดงั นี้ การอธิบายปญั หาโดยใช้รายละเอยี ด บำ้ นหลังแรกวำดตัวบ้ำนดว้ ยสเี่ หลย่ี มจัตุรัสสี เหลืองขนำดด้ำนละ 100 หนว่ ย ตงั้ อย่ตู ำแหน่งมุมลำ่ งซำ้ ยท่ีพกิ ัด (0, 0) ด้ำนบน สเ่ี หลี่ยมวำดหลงั คำด้วยรปู สำมเหลี่ยมด้ำนเท่ำสมี ว่ งขนำดด้ำนละ 100 หนว่ ย การอธิบายปญั หาแบบซ่อนรายละเอียด บ้ำนหลงั แรกมีขนาด 100 หน่วย ตวั บ้าน สีเหลอื ง และหลังคาสมี ่วง ตง้ั อยทู่ ี่ตำแหน่ง (0, 0) สังเกตว่ำในกำรซ่อนรำยละเอยี ด นกั เรียนไม่ตอ้ งระบุว่ำตัวบำ้ นเป็นสีเ่ หลย่ี มจัตรุ ัส หลังคำเปน็ สำมเหลี่ยมด้ำนเท่ำ และตำแหน่ง หมำยถึง พกิ ัดมมุ ล่ำงซ้ำย ซ่ึงจัดเป็น ลักษณะทว่ั ไปของบำ้ น นกั เรียนระบุเพียงลักษณะเฉพำะของบ้ำนวำ่ มีขนำดเทำ่ ใด ตวั บำ้ นและหลงั คำมสี ีอะไร และตงั้ อยู่ที่ตำแหนง่ ใด การอธิบายปญั หาโดยใชร้ ายละเอยี ด บำ้ นหลังทีส่ องวำดตัวบ้านด้วยส่ีเหลย่ี มจตั รุ สั สี แดงขนาดดำ้ นละ 50 หนว่ ย ตง้ั อยู่ตาแหนง่ มุมลำ่ งซำ้ ยที่พิกัด (120, 90) ดำ้ นบนของ สเ่ี หลีย่ มวำดหลงั คาเป็นรปู สำมเหลย่ี มดำ้ นเทำ่ สเี ทำขนาดด้ำนละ 50 หน่วย การอธบิ ายปัญหาแบบซ่อนรายละเอียด บำ้ นหลังทีส่ องมขี นาด 50 หน่วย ตวั บา้ น สีแดง หลังคาสเี ทำ ตงั้ อยู่ท่ีตาแหนง่ (120, 90) การอธบิ ายปญั หาโดยใช้รายละเอยี ด บ้ำนหลังทีส่ ำมวำดตัวบา้ นดว้ ยสเี่ หล่ียมจัตุรัสสี เขียวขนาดด้ำนละ 80 หน่วย ตัง้ อยู่ตาแหนง่ มุมล่ำงซำ้ ยที่พิกัด (200, 10) ด้ำนบน สเ่ี หล่ยี มวำดหลังคาเปน็ รูปสำมเหล่ียมด้ำนเท่ำสีฟ้ำขนาดด้ำนละ 80 หนว่ ย การอธบิ ายปญั หาแบบซ่อนรายละเอียด บำ้ นหลังทส่ี ำมมีขนาด 80 หน่วย ตวั บ้าน สเี ขียว หลงั คาสฟี ้ำ ต้ังอยทู่ ่ตี ำแหนง่ (200, 10) วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 8 ให้นักเรยี นตอบคำถำม10ต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง 1. แนวคดิ เชงิ คำนวณ มคี วำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………… 2. แนวคดิ เชิงคำนวณทส่ี ำมำรถนำไปปฏิบตั ิได้ โดยบคุ คลหรอื คอมพิวเตอรท์ ี่ถกู ต้องและแม่นยำ เรียกวำ่ อยำ่ งไร ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………… 3. กำรเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยแนวคดิ เชงิ คำนวณมีองค์ประกอบทสี่ ำคญั อยู่ก่ีส่วนและได้แก่ อะไรบ้ำง ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………… 4. แนวคิดเชิงคำนวณมีประโยชนอ์ ย่ำงไร ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………… 5. กำรคัดเลือกคุณลกั ษณะที่จำเปน็ ตอ่ กำรแกป้ ัญหำ เหมำะกบั รูปแบบข้อมูลเปน็ อย่ำงไร ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………… คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ ..................... คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น ต้ังใจทำกิจกรรม กนั นะคะนักเรียน วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนคิ ส์ วชิ า วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 9 ใหน้ กั เรยี นวเิ ครำะห์ข้อควำมต่อน้ีแล1ว้ 0ทำเครื่องหมำยถูก และเคร่ืองหมำยผิดต่อไปน้ี ……………………. 1. กำรแบง่ ปัญหำใหญ่เป็นปัญหำย่อย คือ กำรแก้ปัญหำทมี่ ีควำมซับซ้อนทำได้ยำก ……………………. 2. กำรพิจำรณำรูปแบบ คือ ปัญหำย่อยท่ีอำจจะมรี ูปแบบเดียวกนั หรือคล้ำยกนั ……………………. 3. กำรคิดเชงิ นำมธรรม คอื รำยละเอยี ดท่ีหลำกหลำยมีท้งั รำยละเอยี ดท่ีจำเป็นและ ไม่จำเป็นต่อกำรแกป้ ญั หำ ……………………. 4. กำร Debugging คือ กำรแก้ไขจดุ บกพรอ่ งในกระบวนกำรคิดเชิงคำนวณ ……………………. 5.แนวคิดเชงิ นำมธรรม เปน็ องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ ……………………. 6. กำรมงุ่ เน้นควำมสำคญั ของปัญหำ โดยไมส่ นใจรำยละเอียดท่ีไมจ่ ำเป็นสอดคล้อง กบั แนวคดิ เชงิ รปู ธรรม ……………………. 7. กำรออกแบบลำดบั ขัน้ ตอนของกำรแก้ปัญหำสอดคล้องกบั แนวคดิ กำรแยกย่อย ……………………. 8. แนวคิดเชงิ รูปธรรมเปน็ ทักษะย่อยของแนวคดิ เชงิ คำนวณ ……………………. 9. แนวคดิ เชิงนำมธรรม หมำยถงึ มุ่งเนน้ ควำมสำคัญของปัญหำ โดยไม่สนใจ รำยละเอียดทไ่ี มจ่ ำเปน็ …………………….10. ประโยชนข์ องกำรคิดเชงิ คำนวณ คือ แกไ้ ขปัญหำต่ำง ๆ ในชวี ิตได้อย่ำงเป็นระบบ และมขี ั้นตอน คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ ..................... คะแนน ผา่ น ไม่ผ่าน วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 10 ใหน้ ักเรียนบอกวิธีกำรแกป้ ญั หำจำกสถำ1น0กำรณ์ทีก่ ำหนดให้ โดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ สถานการณ์ นักเรียนทุกคนยนื หันหลงั ใหผ้ ู้อำ่ น วิธกี ารแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชิงคานวณ 1. แนวคิดการแยกย่อย แตกปญั หาใหญ่ใหเ้ ปน็ ปญั หาย่อย …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… 2. แนวคิดการหารปู แบบทาความเข้าใจรูปแบบของปัญหา …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… 3. แนวคดิ เชงิ นามธรรมเปน็ ความคดิ รวมยอดในการแกป้ ัญหา …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… 4. แนวคดิ การออกแบบขนั้ ตอนวธิ ีเปน็ การออกแบบข้ันตอนในการแกป้ ญั หา …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทีไ่ ด้ ..................... คะแนน ผา่ น ไมผ่ า่ น วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ เิ ล็กทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 11 ให้นกั เรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกล1ุ่ม0ดงั ต่อไปนี้ 1. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุ่มละ 4-5 คน 2. ช่วยกนั สรปุ องค์ควำมรู้ 3. สร้ำงแผนท่ีควำมคิดจำกกำรสรปุ องคค์ วำมรู้ 4. สรปุ องคค์ วำมรูใ้ นสมดุ บนั ทึกส่วนตัว 5. นำเสนอแผนที่ควำมคดิ …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………… ………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………… .…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………….………….……… คะแนนเตม็ 15 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ ..................... คะแนน ผ่าน ไมผ่ ่าน วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อิเลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 12 แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง วทิ ยาการเชงิ คานวณ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดยี วแลว้ ทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ 1. ขอ้ ใด คือ แนวคดิ เชงิ คำนวณ ก. แนวคดิ ท่ซี บั ซ้อน ข. แนวคดิ ทสี่ งั เครำะห์จำกสมอง ค. แนวคดิ ทีใ่ ชก้ ำรคิดวิเครำะห์ขั้นสูง ง. แนวคิดในกำรแก้ปญั หำอย่ำงเปน็ ระบบ 2. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ องค์ประกอบของแนวคดิ เชงิ คำนวณ ก. กำรหำรปู แบบในกำรแก้ปัญหำ ข. กำรหำแนวคดิ รวบยอดของปญั หำ ค. กำรแตกปัญหำย่อยออกเป็นปัญหำใหญ่ ง. กำรออกแบบลำดับข้ันตอนกำรแกป้ ัญหำ 3. กำรเขียนผงั งำนโฟลวช์ ำรต์ เป็นกระบวนกำรของข้อใดในแนวคิดเชิงคำนวณ ก. กำรสรำ้ งรูปแบบกำรแกป้ ัญหำ ข. กำรหำแนวคดิ รวบยอดของปญั หำ ค. กำรแตกปญั หำออกเปน็ ลำดับขั้นตอน ง. กำรออกแบบลำดบั ขั้นตอนกำรแก้ปัญหำ 4. ลำดับแรกในกำรแกป้ ญั หำ คือ ข้อใด ก. เขยี นโปรแกรมกำรแกป้ ัญหำ ข. กำหนดแนวคิดเชงิ นำมธรรม ค. ออกแบบขน้ั ตอนกำรแก้ปัญหำ ง. แตกปญั หำใหญ่ออกเปน็ ปัญหำยอ่ ย 5. ขัน้ ตอนต่อไปหลงั จำกตัดสิ่งท่ไี มจ่ ำเปน็ สำหรบั กำรแก้ปัญหำออกไปแลว้ คอื ข้อใด ก. วิเครำะหป์ ัญหำ ข. ออกแบบขัน้ ตอนวิธี ค. หำรูปแบบกำรแก้ปญั หำ ง. คดิ รวบยอดปัญหำ วิทยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ล็กทรอนิคส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) 13 6. บคุ คลใดเมื่อพบปญั หำแล้วแก้ปัญหำตำมแนวคิดเชงิ คำนวณ ก. แจนแตกปญั หำใหญ่ออกเปน็ ปญั หำยอ่ ย ข. จ๊ิบออกแบบขั้นตอนกำรแก้ปัญหำ ค. จอยไมส่ นใจรำยละเอยี ดที่ไม่จำเปน็ เกีย่ วกบั ปญั หำ ง. จุ๋มวเิ ครำะหท์ มี่ ำของปัญหำ 7. ขอ้ ใดสำคัญทส่ี ุดในกำรจัดเรียงแถวตำมลำดบั ควำมสูงของนักเรียน ก. เพศของนักเรียน ข. ควำมสงู ของนกั เรยี น ค. น้ำหนักของนักเรยี น ง. เกรดเฉล่ียของนักเรียน 8. “นนุ่ ตอ้ งการจัดเสอ้ื ผ้าทัง้ หมดในตเู้ ส้อื ผ้า” น่นุ ควรทำสิง่ ใดเปน็ ลำดบั แรก ก. แยกเส้ือผ้ำตำมประเภท ข. แบ่งกลุม่ เส้ือผำ้ ค. จดั เรียงเสือ้ ผำ้ เข้ำตู้เส้ือผ้ำ ง. ต้งั วตั ถุประสงค์ในกำรค้นหำ 9. ข้อใดกลำ่ วถงึ แนวคดิ เชงิ คำนวณ ไม่ ถูกต้อง ก. เป็นกำรคิดเหมือนห่นุ ยนต์ ข. เป็นกำรแกป้ ญั หำทม่ี ีลำดบั ขน้ั ตอนมี ค. แนวคดิ เชิงนำมธรรมเปน็ ทักษะย่อย ง. เป็นวธิ กี ำรแกป้ ญั หำทีม่ นุษย์และคอมพวิ เตอร์สำมำรถเข้ำใจร่วมกนั ได้ 10. ขอ้ ใด คอื กำรคิดรวบยอดของปัญหำ โดยมงุ่ เน้นเฉพำะสว่ นที่สำคญั ของปญั หำ ก. แนวคิดเชิงรูปธรรม ข. แนวคดิ แยกย่อย ค. แนวคดิ เชิงวิเครำะห์ ง. แนวคิดเชิงนำมธรรม วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อิเลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 14 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง วิทยาการเชงิ คานวณ คาช้แี จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกทส่ี ุดเพียงคำตอบเดยี วแล้วทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวม คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนท่ีได้ ..................... คะแนน ผา่ น ไม่ผา่ น วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ เิ ลก็ ทรอนคิ ส์ วชิ า วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 15 ภาคผนวก วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 16 ใหน้ กั เรียนตอบคำถำม10ต่อไปนี้ให้ถกู ต้อง 1. แนวคิดเชิงคำนวณ มีควำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร ตอบ เปน็ กระบวนกำรวเิ ครำะหป์ ัญหำ เพอื่ ให้ได้แนวทำงกำรหำคำตอบอยำ่ งเป็นขนั้ ตอน 2. แนวคิดเชงิ คำนวณท่ีสำมำรถนำไปปฏิบตั ิได้ โดยบุคคลหรือคอมพิวเตอร์ท่ีถกู ต้องและแม่นยำ เรยี กว่ำอยำ่ งไร ตอบ อลั กอริทมึ 3. กำรเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยแนวคิดเชิงคำนวณมีองคป์ ระกอบท่ีสำคัญอยู่ก่สี ว่ นและได้แก่ อะไรบ้ำง ตอบ มี 4 สว่ น ได้แก่ 1. กำรแบง่ ปัญหำใหญเ่ ป็นปัญหำยอ่ ย 2. กำรพจิ ำรณำรูปแบบ 3. กำรคดิ เชงิ นำมธรรม 4. กำรออกแบบอัลกอรทิ มึ 4. แนวคิดเชงิ คำนวณมีประโยชน์อย่ำงไร ตอบ แกไ้ ขปัญหำต่ำง ๆ ในชวี ติ ได้อยำ่ งเปน็ ระบบและมีข้ันตอน 5. กำรคดั เลอื กคุณลกั ษณะที่จำเปน็ ตอ่ กำรแก้ปัญหำ เหมำะกบั รูปแบบข้อมลู เปน็ อย่ำงไร ตอบ รำยละเอยี ดจำนวนมำกและข้อมูล วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนิคส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) 17 ให้นักเรยี นวิเครำะห์ขอ้ ควำมต่อน้แี ล1ว้ 0ทำเครื่องหมำยถูก และเครอ่ื งหมำยผดิ ต่อไปน้ี ……….………. 1. กำรแบ่งปัญหำใหญ่เป็นปัญหำย่อย คือ กำรแกป้ ัญหำท่มี ีควำมซับซ้อนทำไดย้ ำก ……….………. 2. กำรพจิ ำรณำรูปแบบ คือ ปญั หำย่อยที่อำจจะมรี ปู แบบเดยี วกันหรือคลำ้ ยกนั ……….………. 3. กำรคิดเชิงนำมธรรม คอื รำยละเอยี ดที่หลำกหลำยมที ้งั รำยละเอยี ดท่ีจำเป็นและ ไมจ่ ำเป็นต่อกำรแก้ปญั หำ ……….………. 4. กำร Debugging คือ กำรแก้ไขจุดบกพร่องในกระบวนกำรคดิ เชิงคำนวณ ……….………. 5.แนวคดิ เชงิ นำมธรรม เป็นองค์ประกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณ ……….………. 6. กำรมงุ่ เน้นควำมสำคัญของปัญหำ โดยไมส่ นใจรำยละเอยี ดที่ไม่จำเป็นสอดคล้อง กบั แนวคิดเชิงรูปธรรม ……….………. 7. กำรออกแบบลำดบั ข้ันตอนของกำรแก้ปัญหำสอดคล้องกบั แนวคิดกำรแยกย่อย ……….………. 8. แนวคดิ เชงิ รูปธรรมเป็นทักษะย่อยของแนวคดิ เชงิ คำนวณ ……….………. 9. แนวคิดเชิงนำมธรรม หมำยถึง มุ่งเนน้ ควำมสำคญั ของปญั หำ โดยไมส่ นใจ รำยละเอยี ดท่ีไมจ่ ำเป็น ……….……. 10. ประโยชน์ของกำรคิดเชิงคำนวณ คือ แก้ไขปัญหำตำ่ ง ๆ ในชวี ติ ได้อยำ่ งเป็นระบบ และมขี ั้นตอน วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) 18 ใหน้ กั เรียนบอกวธิ กี ำรแกป้ ญั หำจำกสถำ1น0กำรณ์ท่กี ำหนดให้ โดยใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ สถานการณ์ นักเรยี นทุกคนยืนหันหลงั ให้ผู้อำ่ น วิธกี ารแกป้ ัญหาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คานวณ 1. แนวคดิ การแยกยอ่ ย แตกปญั หาใหญ่ให้เป็นปัญหายอ่ ย 1.1 กำหนดให้นักเรยี นซ้ำยมือสดุ เป็นตำแหน่งหลัก 1.2 แบง่ นักเรียนเป็น 2 กลุ่ม สูงกว่ำตำแหนง่ หลกั ให้อยู่ด้ำนขวำสงู นอ้ ยกว่ำตำแหน่ง หลกั ให้อยดู่ ำ้ นซ้ำย 1.3 ทกุ กลุม่ ทำซำ้ ตำมข้อ 1 และข้อ 2 จนไม่สำมำรถแบ่งกลมุ่ ไดอ้ ีก 2. แนวคดิ การหารปู แบบทาความเข้าใจรูปแบบของปญั หา นกั เรียนท่มี ีควำมสงู น้อยกว่ำนักเรยี นท่เี ป็นตำแหน่งหลกั นักเรยี นที่เปน็ ตำแหน่งหลกั นักเรียนท่ีมีควำมสูงเทำ่ กบั หรือมำกกว่ำนักเรียนท่ีเปน็ ตำแหนง่ หลกั 3. แนวคิดเชงิ นามธรรมเปน็ ความคิดรวมยอดในการแก้ปัญหา 3.1 เรียงลำดับควำมสูง วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรยี นออนไลน์อิเลก็ ทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 19 3.2 นกั เรยี นท่มี ีควำมสูงน้อยกว่ำจะอยู่ดำ้ นซ้ำยของนักเรียนที่สงู มำกกว่ำเสมอ 3.3 ไม่นำส่งิ อน่ื ที่ไมใ่ ช่ควำมสูงมำเป็นเกณฑ์ในกำรกำหนด เช่น เพศ อำยุ น้ำหนกั X X X X ส่วนสูง ชื่ เพศ อายุ นา้ หนัก 4. แนวคิดการออกแบบขั้นตอนวธิ ีเปน็ การออกแบบขน้ั ตอนในการแก้ปัญหา 4.1 กำหนดนกั เรยี นดำ้ นซำ้ ยมอื สดุ ใหเ้ ปน็ ตำแหนง่ หลกั ตำแหนง่ หลกั 4.2 สงู กว่ำตำแหน่งหลักให้ไปตั้งแถวขวำมือสูงนอ้ ยกว่ำตำแหนง่ หลกั ใหไ้ ปตง้ั แถว ซ้ำยมือ ตำแหน่งหลกั กลุ่มท่ี 1 กลมุ่ ที่ 2 วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลน์อิเล็กทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 20 4.3 แตล่ ะกลมุ่ ทำซำ้ ตำมข้อ 1 และขอ้ 2 ตำแหนง่ หลักของกลุ่มที่ 2 ตำแหนง่ หลกั ของกล่มุ ที่ 1 กลมุ่ ท่ี 1 กลุ่มที่ 2 4.4 เมอ่ื ทำซ้ำ ๆ จนไมส่ ำมำรถแบ่งกลุ่มได้อีก จะได้แถวนักเรยี นเรียงลำดบั ควำมสูงจำก น้อยไปมำก วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) 21 ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกล1ุ่ม0ดังต่อไปน้ี 1. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น กลมุ่ ละ 4-5 คน 2. ชว่ ยกันสรุปองคค์ วำมรู้ 3. สร้ำงแผนที่ควำมคิดจำกกำรสรปุ องค์ควำมรู้ 4. สรปุ องค์ควำมร้ใู นสมดุ บนั ทกึ ส่วนตวั 5. นำเสนอแผนที่ควำมคิด เกณฑ์การให้คะแนน คาชีแ้ จง โปรดทำเครอื่ งหมำย ลงในชอ่ งว่ำงตำมระดับคะแนนท่ีเป็นจริง ระดับคะแนน 3 ระดับ ดังน้ี 3 คะแนน หมำยถงึ ดี 2 คะแนน หมำยถึง พอใช้ 1 คะแนน หมำยถงึ ควรปรบั ปรุง รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน หมำยเหตุ 321 1. สรปุ องคป์ ระกอบควำมรูไ้ ด้ชดั เจนและครบถ้วน 2. บอกควำมสำคญั ได้ตรงประเด็น 3. สะอำด เรียบร้อย และสวยงำม 4. ควำมคดิ สร้ำงสรรค์ 5. ควำมกลำ้ แสดงออกในกำรนำเสนองำน รวม เกณฑ์กำรให้คะแนน 12-15 คะแนน หมำยถึง ดี 8-11 คะแนน หมำยถงึ พอใช้ ต่ำกวำ่ 8 คะแนน หมำยถึง ควรปรบั ปรุง ลงชื่อ………………………………………..ผ้บู ันทึก (…………………………………….) วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ ิเล็กทรอนคิ ส์ วชิ า วิทยาการคานวณ (ว22103) 22 เฉลยกระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น เร่ือง วิทยาการเชงิ คานวณ คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดยี วแล้วทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1. × 1. × 2. × 2. × 3. × 3. × 4. × 4. × 5. × 5. × 6. × 6. × 7. × 7. × 8. × 8. × 9. × 9. × 10. × 10. × รวม รวม วทิ ยาการเชิงคานวณ
บทเรียนออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 23 แบบบันทกึ ผลการเรยี นรู้ เร่ือง วทิ ยาการเชงิ คานวณ คาชี้แจง โปรดบันทกึ คะแนนที่ได้ระหวำ่ งเรียนทั้งหมดลงในตำรำง การประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10 คะแนนที่ได้ แบบทดสอบหลงั เรยี น 10 เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น การประเมนิ คะแนนเต็ม กจิ กรรมที่ 1 10 กจิ กรรมท่ี 2 10 กิจกรรมท่ี 3 10 กจิ กรรมท่ี 4 15 45 รวม เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ผ่ำน ไม่ผ่ำน ลงช่ือ………………………………………..ผูบ้ นั ทกึ (…………………………………….) วิทยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลน์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) 24 บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (2551). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ ชุมสหกรณ.์ ______. (2552). แนวทางการจดั การเรยี นรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ : ชมุ นุมสหกรณก์ ำรเกษตรแห่งประเทศไทย. ______. (2552). แนวการวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา ขั้นพ้ืนฐานพทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนมุ สหกรณ์กำรเกษตรแหง่ ประเทศไทย. ______. (2552). มาตรฐานและตวั ช้ีวัด ตามกลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ หลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณก์ ำรเกษตรแหง่ ประเทศไทย. โกสันต์ เทพสิทธิทรำกรณ์. (2562). หนงั สือเรียน รายวิชาวทิ ยาศาสตรฯ์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.2. กรุงเทพฯ : แมค็ เอด็ ดูเคชน่ั ชนนิ ทร เฉลมิ สุข และ อภชิ ำติ คำปลิว. (2562). เทคโนโลย(ี วิทยาการคานวณ) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์อักษรเจริญทศั น.์ สถำบนั ส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลย.ี (2562). เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 : หนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ แห่งจุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลยั . วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรยี นออนไลน์อิเล็กทรอนคิ ส์ วิชา วิทยาการคานวณ (ว22103) 25 ประวัติยอ่ ผจู้ ัดทา ช่อื – สกลุ นำงอรณุ ี สุเมธโสภณ วัน เดือน ปีเกิด 18 มกรำคม พ.ศ.2519 ทอ่ี ยู่ปัจจุบัน 695/11 หม่ทู ี่ 10 ตำบลวัฒนำนคร อำเภอวัฒนำนคร จังหวดั สระแกว้ ตาแหนง่ ครูชำนำญกำรพเิ ศษ สถานที่ทางานปจั จุบนั โรงเรยี นวฒั นำนคร อำเภอวัฒนำนคร จงั หวดั สระแก้ว ประวัติการศกึ ษา พ.ศ. 2524 – 2530 -ช้นั ประถมศึกษำตอนปลำย โรงเรยี นหนองโตง จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2530 – 2536 -ชนั้ มธั ยมศึกษำตอนปลำย โรงเรียนสิรนิ ธร จังหวดั สุรนิ ทร์ พ.ศ. 2541 – 2544 -ครุศำสตรบัณฑติ สำขำวิชำคอมพวิ เตอร์ศึกษำ สถำบนั กำรศึกษำ มหำวทิ ยำลยั รำชภฎั สุรนิ ทร์ จังหวัดสรุ ินทร์ พ.ศ. 2556 – 2557 -ศึกษำศำสตรมหำบัณฑิต สำขำวชิ ำกำรบรหิ ำรกำรศึกษำ สถำบนั กำรศึกษำ มหำวิทยำลยั ปทมุ ธำนี วทิ ยาการเชงิ คานวณ
บทเรียนออนไลนอ์ ิเลก็ ทรอนคิ ส์ วิชา วทิ ยาการคานวณ (ว22103) 26 วิทยาการเชิงคานวณ
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: