ในเมืองมิถิลา มีเศรษฐีผหู้ น่ึงมีนามวา่ สิริวฒั กะภรรยาช่ือ นางสุมนาเทวี นางสุมนาเทวมี ีบุตรชายคนหน่ึง ซ่ึงเม่ือคลอด ออกมาน้นั มีแท่งโอสถอยใู่ นมือเศรษฐีสิริวฒั กะเคยเป็นโรคปวดศีรษะมานาน จึงเอาแท่งยาน้นั ฝนที่หินบดยาแลว้ นามา ทาหนา้ ผาก อาการปวดศีรษะกห็ ายขาด
คร้ันผอู้ ื่นที่มีโรคภยั ไขเ้ จบ็ มาขอปันยาน้นั ไปรักษาบา้ ง กพ็ ากนั หายจากโรค เป็นที่เลื่องลือไปทว่ัเศรษฐีจึงต้งั ชื่อบุตรวา่ \"มโหสถ\" เพราะทารกน้นั มีแท่งยาวเิ ศษเกิดมากบั ตวั เมื่อมโหสถเติบโตข้ึนปรากฏวา่ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด กวา่ เดก็ ในวยัเดียวกนั
คร้ังหน่ึงมโหสถเห็นวา่ ในเวลาฝนตกตนและเพอื่ นเล่นท้งั หลายตอ้ งหลบฝนลาบากลาบนเล่นไม่สนุก จึงขอใหเ้ พ่ือนเล่นทุก คนนาเงินมารวมกนั เพื่อสร้างสถานที่เล่น มโหสถจดั การออกแบบอาคารน้นั อยา่ งวจิ ิตรพิสดาร นอกจาก ท่ีเล่นที่กินและท่ีพกั สาหรับคนท่ีผา่ นไปมาแลว้ ยงั จดั สร้างหอ้ งวนิ ิจฉยั คดีดว้ ย เพราะความท่ีมโหสถเป็นเดก็ ฉลาดเฉลียวเกินวยั จึงมกั มีผคู้ นมาขอใหต้ ดั สินปัญหาขอ้ พิพาท หรือแกใ้ ขปัญหาขดั ขอ้ ง ต่างๆ อยู่ เสมอ ช่ือเสียงของมโหสถเล่ืองลือไปไกลทว่ั มิถิลานคร
ในขณะน้นั กษตั ริยเ์ มืองมิถิลา ทรงพระนามวา่ พระเจา้ วเิ ทหราช ทรงมีนกั ปราชญร์ าชบณั ฑิตประจา ราชสานกั 4 คน คือ เสนกะ ปุตกสุ ะ กามินท์ และ เทวนิทะ บณั ฑิตท้งั 4 เคยกราบทูลวา่ จะมีบณั ฑิตคนที่หา้ มาสู่ราชสานกั พระเจา้ วเิ ทหราช พระองคจ์ ึงโปรดให้เสนาออกสืบข่าววา่ มีบณั ฑิตผมู้ ีสติปัญญาปราดเปร่ืองอยทู่ ี่ใดบา้ ง เสนาเดินทางมาถึงบริเวณบา้ นของสิริวฒั กะเศรษฐีเห็นอาคารงดงามจดั แต่งอยา่ งประณีตบรรจง จึงถามผคู้ นวา่ ใครเป็นผอู้ อกแบบ คนกต็ อบวา่ ผอู้ อกแบบคือมโหสถบณั ฑิตบุตรชายวยั 7 ขวบของสิริวฒั กะเศรษฐี
เสนาจึงนาความไปกราบทูลพระเจา้ วิเทหราชพระองคต์ รัสเรียก บณั ฑิตท้งั 4 มา ปรึกษาวา่ ควรจะไปรับมโหสถมาสู่ราชสานกั หรือไม่ บณั ฑิตท้งั 4เกรงวา่ มโหสถจะไดด้ ีเกินหนา้ ตนจึงทูลวา่ ลาพงั การออก แบบตกแต่งอาคารไม่นบั วา่ ผนู้ ้นั จะมีสติปัญญาสูงถึงข้นั บณั ฑิต ขอใหร้ อดูต่อไปวา่ มโหสถจะมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดจริงหรือไม่ฝ่ ายมโหสถน้นั มีชาวบา้ นนาคดีความต่างๆ มาให้ตดั สินอยเู่ ป็นนิตย์ เป็นตน้ วา่ ชายเล้ียงโคนอนหลบั ไปมีขโมยเขา้ มาลกั โค เมื่อตามไปพบ ขโมยกอ็ า้ งวา่ ตนเป็นเจา้ ของโค ต่างฝ่ ายต่างถกเถียงอา้ งสิทธ์ิ ไม่มีใครตดั สินไดว้ า่ โคน้นั เป็นของใคร
จึงพากนั ไปหามโหสถ มโหสถถามชาย เจา้ ของโควา่เรื่องราวเป็นอยา่ งไร ชายน้นั กเ็ ล่าใหฟ้ ัง มโหสถจึงถามขโมยวา่\"ท่ านให้ โคของท่ านกินอาหารอะไรบ้ าง\"ขโมยตอบวา่\"ข้าพเจ้าให้กินงา กินแป้ง ถวั่ และยาคู\"มโหสถถามชายเจา้ ของโค ชายน้นั กต็ อบวา่\"ข้าพเจ้าให้โคกิน หญ้าตามธรรมดา\"โคมกโส็หาสรถอจกึงเอใหาห้ เอญาา้ ใอบอไกมมม้ าาจตึงาเใปห็นโ้ อคนักทินรแาลบว้ วใา่หใก้คินรเนป้า็นเจา้ ของโคที่แทจ้ ริง พระเจา้ วเิ ทหราชไดท้ ราบเรื่องการตดั สินความของมโหสถกป็ รารถนาจะเชิญมโหสถาสู่ราชสานกั แต่บณั ฑิตท้งั ส่ีกค็ อยทูล ทดั ทานไวเ้ รื่อยๆ
ทพุกระคเรจ้ังา้ ทวเิ่ีมทโหหรสาถชแทสรดงทงสดตลิปองัญสญตาิปใัญนญกาารมตโดัหสสินถคดดว้ ียทเสมทขกจาา่โ้วุ่อกา้ รงหนวนคไติเสรทไทห้งั้ังมถาปหนงกเน้ัญชรเปช็ป้นัา่นห็้ีไชนลแาดเทาขรลยวต้ื่ราอ้ วล้า่่างงงหงอโตททๆคยย้งัา่อกนนอค่งนป็ไ้นาามไถหรลเมโพาานงมหก้รใทวเฏสานป่ีเา่ะกวถน็นนขา่ลก้าโ้าาา้มใ็ คทหงไชโไนดานว้หหงเท้ิธกัรสโนีีผายเคถบงเกบู นปแไาเเ็ชหกหนกสืวอป้นขนมา่กัญา้อเกัไปงกกกมห็ปนนัจ็ล้าลปมไาาพงลดลยราง้ ะยมนพนาขากตออวกังจมบจนโาณัใกหนฑนสท้ีิตมถี่สทโกุดห้งับั พสสบรี่ ถอิดะยีการงัมตาแชา่อกเาขไป้กปา้ ัไ็ญเฝมจห้าึง่อพาโาเปรจร้อ่ือทรมดงนตกใรห่าบัองร้ใตๆาหาชอมน้ บีกคาุรเมาปุษทา้็นไดั ปอทนั าอสั ดรมาถวายดว้ ย
มโหสถทราบดีวา่ คร้ังน้ี เป็นการทดลองสาคญั จึงนดัหมายการอยา่ งหน่ึงกบั บิดาและในวนั ที่ไปเฝ้าพระราชา มโหสถใหค้ นนาลามาดว้ ยหน่ึงตวั เม่ือเขา้ไปถึงท่ีประทบั พระราชาโปรดใหส้ ิริวฒั กะเศรษฐีนง่ับนท่ีอนั สมควรแก่เกียรติยศ คร้ันเม่ือมโหสถเขา้ ไปสิริวฒั กะกล็ ุกข้ึนเรียกบุตรชายวา่\"พ่อมโหสถ มานั่งตรงนีเ้ ถิด\" แลว้ กล็ ุกข้ึนจากที่นง่ั มโหสถกต็ รงไปนง่ั แทนที่บิดาผคู้ นกพ็ ากนั มองดูอยา่ งตาหนิ ที่มโหสถทาเสมือนไม่เคารพบิดา มโหสถจึง ถามพระราชาวา่\"พระองค์ไม่พอพระทัยที่ข้าพเจ้านั่งแทนท่ีบิดาใช่หรื อไม่ \"
พระราชาทรงรับคา มโหสถจึงถามวา่\" ข้าพเจ้าขอทูลถามว่าธรรมดาบิดาย่อมดีกว่าบตุ รสาคัญกว่ าบุตรเสมอไปหรื อ\"พระราชา ตรัสวา่\"ย่อมเป็นอย่างน้ัน บิดาย่อมสาคัญกว่าบตุ ร\"มโหสถทูลต่อวา่\"เม่ือข้าพเจ้ามาเฝ้า พระองค์มพี ระกระแส รับสั่งว่าให้ข้าพเจ้านาม้าอัสดรมาถวายด้วย ใช่ไหมพระเจ้าค่ะ\"พระราชาทรงรับคา มโหสถจึงใหค้ นนาลาท่ีเตรียมเขา้มา ต่อพระพกั ตร์ แลว้ ทูลวา่\"เมื่อพระองค์ตรัสว่าบิดาย่อมสาคัญกว่าบุตร ลาตวั นี้เป็นพ่อของม้าอัสดร หากพระองค์ทรงเห็นเช่นนั้นจริงโปรดทรงรับลานีไ้ ปแทนม้าอัสดรเถิดพระเจ้าค่ะ
เพราะม้าอัสดรเกิดจากลานี้ แต่ถ้าทรงเห็นว่า บตุ รอาจดกี ว่าบิดา กท็ รงรับเอาม้าอัสดรไปตามที่ทรงมพี ระราชประสงค์ ถ้าหากพระองค์เห็นว่าบิดาย่อมประเสริฐกว่าบตุ รกท็ รงโปรด รับเอาบิดาของข้าพเจ้าไว้ แต่หากทรงเห็นว่าบุตรอาจประเสริฐกว่าบิดาก็ขอให้ ทรงรั บข้าพเจ้ าไว้ \"การท่ีมโหสถกราบทูลเช่นน้นั มิใช่จะลบหลดู่ ูหม่ินบิดา แต่เพราะ ประสงคจ์ ะใหผ้ คู้ นท้งั หลายตระหนกัใน ความเป็นจริงของโลก และเพอ่ื แกไ้ ขปัญหาท่ีมีผู้จงใจผกู ข้ึน คือบณั ฑิตท้งั สี่น้นั เอง
ตพรรัสะแรกา่ชสาิรทิวรฒั งพกะอเพศรระษทฐยีัวใา่ นปัญญาของมโหสถจึง\"ท่านเศรษฐี เราขอมโหสถไว้ เป็นราชบตุ รจะขดั ข้องหรื อไม่ \"เ\"เอศขรา้าไษแวตฐ้ใ่ีทพหูลร้โะตตออเปงบ็คนว์ ผา่ม้ใูโหหญส่กถ่อยงันเดนก่็าจนะกั ดอกี าวย่าุพเพริ่งะเ7จ้าขคว่ะบ\"พระราชาตรัสตอบวา่\"มทโ่าหนสอถยเ่าปว็นิตผก้มู ในี ปขัญ้อญทา่ีวเ่าฉมียโบหแสหถลยมงั ยอิ่งากยวุ น่า้ผอู้ใยหเลญย่เจราานทว่านนมอายก่ากเรังาวจละเไลปยี้ เงลมยโ\"หสถในฐานะราชบตุ รของ
มโหสถจึงไดเ้ ร่ิมรับราชการกบั พระเจา้ วิเทหราชนบั ต้งั แต่น้นั มา ตลอดเวลาท่ีอยใู่ นราชสานกั มโหสถไดแ้ สดงสติปัญญา และความสุขมุ ลึกซ้ึงในการพจิ ารณาแกไ้ ขปัญหาขอ้ ขดั ขอ้ งท้งั ปวง ไม่วา่ จะเป็นปัญหาที่พระราชาทรงผกู ข้ึนลองปัญญา มโหสถ หรือท่ีบณั ฑิตท้งั สี่พยายาม สร้างข้ึนเพ่อื ใหม้ โหสถอบั จนปัญญา แต่มโหสถกแ็ กป้ ัญหาเหล่าน้นั ไดท้ ุกคร้ังไป มิหนาซ้าในบางคร้ัง มโหสถยงั ไดช้ ่วยใหบ้ ณั ฑิตท้งัส่ีน้นั รอดพน้ ความอบั จน แต่บณั ฑิตเหล่าน้นั มิได้กตญั ญูรู้คุณ ท่ีมโหสถกระทาแก่ตน กลบั พยายามทาใหพ้ ระราชาเขา้ พระทยั วา่ มโหสถดอ้ ยปัญญา พยายามหาหนทางใหพ้ ระราชา ทรงรังเกียจมโหสถ เพอ่ื ท่ีตนจะไดร้ ุ่งเรืองในราชสานกั เหมือนสมยั ก่อน
มโหสถรุ่งเรืองอยใู่ นราชสานกั ของพระเจา้ วิเทหราชไดร้ ับการสรรเสริญจากผคู้ นท้งั หลายจนมีอายไุ ด้ 16ปี พระมเหสีของ พระราชาผทู้ รงรักใคร่มโหสถเหมือนเป็นนอ้ งชาย ทรงประสงคจ์ ะหาคูค่ รองให้แต่มโหสถขอพระราชทานอนุญาตเดินทาง ไปเสาะหาคูค่ รองท่ีตนพอใจดว้ ยตนเองพระมเหสีกท็ รงอนุญาตมโหสถเดินทางไปถึงหมู่บา้ นแห่งหน่ึง ไดพ้ บหญิงสาวคนหน่ึง เป็นลูกสาวเศรษฐีเก่าแก่ แต่ไดย้ ากจนลงหญิงสาวน้นั ชื่อวา่ อมร มโหสถปลอมตวั เป็นช่างชุนผา้ ไปอาศยั อยกู่ บั บิดามารดาของนาง และไดท้ ดลองสติปัญญาของนางดว้ ยประการต่างๆเป็นตน้ วา่ ในคร้ังแรกท่ีพบกนั น้นั
มโหสถถามนางวา่\"เธอช่ืออะไร\"นางตอบวา่\"ส่ิงที่ดิฉันไม่มอี ย่ทู ั้งในอดีต ปัจจุบนั และอนาคต นั่นแหล่ะ เป็นช่ือ ของดิฉัน\"มโหสถ พิจารณาอยคู่ รู่หน่ึงกต็ อบวา่\"ความไม่ตายเป็นส่ิง ไม่มอี ย่ใู นโลก เธอช่ือ อมร ( ไม่ตาย ) ใช่ไหม \"หญิงสาวตอบวา่ \"ใช่\" มโหสถถามต่อวา่ นางจะนาขา้ วไปใหใ้ คร นางตอบวา่ นาไป ใหบ้ ุรพเทวดา มโหสถก็ ตีปริศนาออกวา่ บุรพเทวดาคือเทวดา ท่ีมีก่อนองคอ์ ื่นๆ ไดแ้ ก่ บิดามารดา
เมื่อมโหสถไดท้ ดลองสติปัญญาและความประพฤติต่างๆของ นางอมรจนเป็นที่พอใจแลว้ จึงขอนางจากบิดา มารดา พากลบั ไปกรุงมิถิลาเมื่อไปถึงยงั เมืองกย็ งั ไดท้ ดลองใจนางอีกโดยมโหสถแสร้งล่วงหนา้ ไปก่อน แลว้ แต่งกายงดงามรออยใู่ นบา้ น ใหค้ นพานางมาพบ กล่าวเก้ียวพาราสีนางนางกไ็ ม่ยนิ ดีดว้ ย มโหสถจึงพอใจนาง จึงพาไปเฝ้าพระราชาและพระมเหสี พระราชากโ็ ปรดใหม้ โหสถแต่งงานอยกู่ ินกบั นางอมรต่อมาบณั ฑิตท้งั สี่ยงั พยายามท่ีจะกลน่ั แกลง้ มโหสถดว้ ยประการ ต่างๆ แต่กไ็ ม่เป็นผล แมถ้ ึงขนาดพระราชาหลงเขา้ พระทยั ผดิ ขบั ไล่มโหสถออกจากวงั มโหสถกม็ ิไดข้ นุ่ เคือง แต่ยงั จงรักภกั ดี ต่อพระราชา พระราชาจึงตรัสถามมโหสถวา่
\"เจ้าเป็นผ้มู สี ติปัญญา หลกั แหลมยิ่ง หากจะหวงั ช่วงชิงราชสมบตั ิจากเรากย็ ่อมได้ เหตใุ ดจึงไม่คิดการร้ายต่อเรา\"มโหสถทูลตอบวา่\"บัณฑิตย่อม ไม่ทาช่ัว เพื่อให้ได้ความสุข สาหรับตนแม้จะถกู ทับถมให้เสื่อมจาก ลาภยศ กไ็ ม่คิดสละธรรมะด้วยความหลงในลาภยศ หรือด้วย ความรักความชัง บคุ คลนั่งนอนอย่ใู ต้ร่มไม้ ย่อมไม่ควรหัก ก่ิงต้นไม้นั้น เพราะจะได้ชื่อว่าทาร้ายมิตร บุคคลท่ีได้รับการ เกือ้ หนนุ อุปการะจากผ้ใู ด ย่อมไม่ทาให้ไมตรีน้ันเสียไปด้วย ความโง่เขลา หรือความ หลงในยศอานาจบคุ คลผ้คู รองเรือน หากเกยี จคร้าน กไ็ ม่งาม นักบวชไม่สารวม กไ็ ม่งาม พระราชา ขาดความพินิจพิจารณากไ็ ม่งาม บัณฑิตโกรธง่าย กไ็ ม่งาม\"
คหแเหมไเไสมดทอโนรมตมเืห้ยอนต่าว้ตอสไทสา่ราดคืมบบีี่ยพถกวว้ ่มณขักรจิยาุณ่าก็ามฑสแวราชาวาลิตรณตว่ัมา่ปะท่อารายจ้อ้งเั้าบรรงัะสงยื่ถอณจัมก่ีจเดงดัอีนบฑัะรว้ผากาพ้าิตยคตู้นวลครนวัทนเ่ัะแวมรไ้งันแากอือปสมกไค้ดงี่อเชขลสรใไยว่ัดปงใ้ดมตู่ รนมัญท้อมา้าโมุกมยดาหหโเคาา้าแมสจนรตนตือม้ถังต่า่กองตอง่าแตลกๆีงเยลม่าบจัๆา่ งะมือางใๆมใกใโงหหดมิไหจเค้ พดะพ้ิถสวทตอ่ื้ิลรถาอา้อามยบมงัหสคดชมื่รมาัตมีพนอยาจรุงภยส์ ะะเจามาไรพะบือดาลาชงร้จวนาวึงองอแบทเุตงอลรรรคาว้วงปกห์เคมอัญษนิดพาตัจ่ึสงรการุะรทาลิยานรรร์เปกจคง้อบือัรพรยะยไปเรอสาวะุโพด็ใ้งนรนพคิษหาจก์รมิตใะะาวหชมทนา่่ือก้ือาคจษสเรุลกตังมนวคราฏัีพิยรกพาเ์รรหมหระลแาทมห่าผาทนเ่มดต้ันั ณ์
มโหสถ ไดท้ ราบความลบั จากนกแกว้ ที่ส่งออกไปสืบข่าว จึงหาทางช่วยชีวิตกษตั ริยท์ ้งั ร้อยเอด็ ไวไ้ ด้ โดยที่กษตั ริยเ์ หล่าน้นั หารู้ตวั ไม่ พระเจา้ จุลนีทรงเห็นวา่ มิถิลา เป็นเมืองเดียวท่ีไม่ยอมทาสตั ยส์ าบาน จึงยกทพัใหญ่มุ่งไปโจมตีมิถิลา มีเกวฏั พราหมณ์ เป็นท่ีปรึกษาใหญ่ แต่ไม่วา่ จะโจมตีดว้ ยวิธีใด มโหสถ กร็ ู้ทนัสามารถตอบโตแ้ ละแกไ้ ขได้ ทุกคร้ังไปในที่สุดพระเจา้ จุลนีทรงส่งเกวฏั พราหมณ์มาประลองปัญญาทาสงครามธรรมกบั มโหสถ มโหสถออกไปพบเกวฏั พราหมณ์ โดยนาเอาแกว้ มณีค่าควรเมืองไปดว้ ยแสร้งบอกวา่ จะยกใหพ้ ราหมณ์ แต่เม่ือจะส่งใหก้ ็วางใหท้ ี่ปลายมือพราหมณ์เกวฏั เกรงวา่ แกว้ มณีจะตกจึงกม้ ลงรับแต่กไ็ ม่ทนั
แกว้ มณีตกลงไปกบั พ้ืนเกวฏั กม้ ลงเกบ็ ดว้ ยความโลภมโหสถจึงกดคอเกวฏั ไว้ ผลกั ใหก้ ระเดน็ ไป แลว้ ให้ทหารร้องประกาศวา่ เกวฏั ปราหมณ์กม้ ลงไหวม้ โหสถ แลว้ ถูกผลกั ไปดว้ ยความรังเกียจ บรรดาทหารของพระเจา้ จุลนีมองเห็นแต่ภาพเกวฏั พราหมณ์กม้ ลงแทบเทา้ แต่ไม่ทราบวา่ กม้ ลงดว้ ยเหตุใด กเ็ ชื่อตามท่ี ทหารของมโหสถป่ าวประกาศ พากนั กลวัอานาจมโหสถ ถอยหนีไปไม่เป็นกระบวน กองทพัพระเจา้ จุลนีกแ็ ตกพา่ ยไป
เกวฏั พราหมณ์คิดพยาบาทมโหสถอยไู่ ม่รู้หาย จึงวางอุบายให้ พระเจา้ จุลนีส่งทูตไปทูลพระเจา้ วิเทหราชวา่จะขอทาสญั ญาไมตรี และขอถวายพระราชธิดาให้เป็นชายา พระเจา้ วเิ ทหราชทรงมีความยนิ ดี จึงทรงตอบรับเป็นไมตรี พระเจา้ จุลนีกข็ อใหพ้ ระเจา้ วิเทหราชเสดจ็ มาอุตรปัญจาล มโหสถพยายามทูลคดั คา้ นพระราชากม็ ิไดฟ้ ังคามโหสถกเ็ สียใจวา่ พระราชาลุ่มหลงในสตรี แต่กระน้นั กย็ งั คงจงรักภกั ดี จึงคิดจะแกอ้ ุบายของพระเจา้จุลนี มโหสถจึงทูลขออนุญาตไปจดั เตรียมที่ประทบัใหพ้ ระราชอาคนั ตุกะในเมืองอุตรปัญจาล กไ็ ดร้ ับอนุญาต
มโหสถจึงให้ ผคู้ นไปจดั สร้างวงั อนั งดงาม และท่ีสาคญั คือจดั สร้างอุโมงคใ์ ตด้ ิน เป็นทางเดินภายในอุโมงคป์ ระกอบดว้ ยกลไกและประตูลบั ต่างๆซบั ซอ้ นมากมาย เม่ือเสร็จแลว้ มโหสถจึงทูลเชิญ ให้พระเจา้ วเิ ทหราชเสดจ็ ไปยงั อุตรปัญจาล ขณะท่ีพระเจา้ วิเทหราชประทบั อยใู่ นวงั รอท่ีจะอภิเษกกบัพระธิดาพระเจา้ จุลนี พระเจา้ จุลนีทรงยกกองทหารมาลอ้ มวงั ไว้ มโหสถซ่ึงเตรียมการไวแ้ ลว้ กล็ อบลงไปทางอุโมงคเ์ ขา้ ไปในปราสาทพระเจา้ จุลนี ทาอุบายหลอกเอาพระชนนีพระมเหสี พระราชบุตร และราชธิดาพระเจา้ จุลนีมากกั ไวใ้ ตว้ งั ท่ีสร้างข้ึน น้นั แลว้ จึงกลงั ไปเฝ้าพระเจา้ วิเทหราช พระเจา้ วิเทหราชตกพระทยั วา่ กองทหารมาลอ้ มวงั ตรัสปรึกษามโหสถ มโหสถจึงทูลเตือนพระราชาวา่
\"ข้าพระองค์ได้กราบทูล ห้ามมิให้ทรงประมาท แต่ก็มิได้ทรงเช่ือ พระราชบิดา พระเจ้าจุลนีนั้นประดจุเหย่ือท่ีนามาตกปลา การทาไมตรีกบั ผ้ไู ม่มศี ีลธรรมย่อมนาความทุกข์มาให้ ธรรมดาบุคคลผ้มู ี ปัญญา ไม่พึงทา ไมตรีสมาคมกับบคุ คลผ้ไู ม่มศี ลี ซึ่งเปรียบเสมือนงู ไว้วางใจมิได้ ย่อมนาความเดือดร้อนมาสู่ไมตรีนั้น ไม่มที างสาเร็จผลได้\"พระเจา้ วเิ ทหราชทรงเสียพระทยั ท่ีไม่ทรงเชื่อคาทดั ทานของมโหสถแต่แรก มโหสถจดั การนาพระเจา้ วเิ ทหราช ไปพบพระชนนี พระมเหสี และพระโอรสธิดาของพระเจา้ จุลนีที่ตนนามาไวใ้ นอุโมงคใ์ ตด้ ิน แลว้จดั การใหก้ องทพั ที่เตรียมไว้ นาเสด็จกษตั ริยท์ ้งั หลายกลบั ไปมิถิลา ส่วนตวั มโหสถเองอยู่ เผชิญหนา้ กบัพระเจา้ จุลนี
เม่ือพระเจา้ จุลนีเสดจ็ มา ประกาศวา่ จะจบั พระเจา้ วิเทหราช มโหสถจึงบอกใหท้ รงทราบวา่ พระเจา้ วเิ ทหราชเสดจ็ กลบั มิถิลาแลว้ พร้อมดว้ ย พระราชวงศ์ ของพระเจา้ จุลนี พระราชากท็ รงตกพระทยั เกรงวา่ พระญาติวงศจ์ ะเป็นอนั ตราย มโหสถจึงทูลวา่ ไม่มีผใู้ ดจะทาอนั ตราย แลว้ จึงทูลเชิญพระเจา้ จุลนีทอดพระเนตรวงั และ อุโมงคท์ ี่จดั เตรียมไวอ้ ยา่ งวิจิตรงดงาม ขณะท่ีพระเจา้ จุลนีกาลงั ทรงเพลิดเพลิน มโหสถก็ปิ ดประตูกลท้งั ปวงและหยบิ ดาบท่ีซ่อนไว้ ทาทีวา่ จะตดั พระเศียรพระราชา พระราชาตกพระทยั กลวัมโหสถจึงทูลวา่\"ข้าพระองค์จะไม่ทาร้ายพระราชา แต่หากจะฆ่า ข้าพระองค์เพราะแค้นพระทัย ข้าพระองค์กจ็ ะถวายดาบนีใ้ ห้\"
พระราชาเห็นมโหสถส่งดาบถวายกท็ รงไดส้ ติ เห็นวา่ มโหสถนอกจากจะประกอบดว้ ยความสติปัญญาประเสริฐแลว้ ยงั เป็น ผไู้ ม่มีจิตใจมุ่งร้ายพยาบาทผใู้ ดพระเจา้ จุลนีจึงตรัสขออภยั ท่ีไดเ้ คยคิดร้ายต่อเมืองมิถิลาต่อพระเจา้ วิเทหราช และต่อมโหสถ มโหสถจึงทูลลากลบั ไปมิถิลา จดั ใหก้ องทหารนาเสดจ็ พระชนนี พระมเหสี และ พระราชบุตร ของพระเจา้ จุลนีกลบั มายงั อุตรปัญจาล ส่วนราชธิดาน้นั คงประทบั อยมู่ ิถิลา ในฐานะพระชายาพระเจา้ วเิ ทหราชต่อไป พระเจา้ จุลนีทรงตรัสขอใหม้ โหสถมาอยกู่ บัพระองค์ มโหสถ ทูลวา่\"ข้ าพระองค์ รั บราชการร่ ุงเรื องในราชสานักของพระเจ้าวิเทหราช ผ้เู ป็นเจ้านายของข้าพระองค์แต่เดิม ไม่อาจจะไปอย่ทู ี่ อ่ืนได้ หากเม่ือใด พระเจ้าวิเทหราชสวรรคต ข้าพระองค์จะไปอย่เู มืองอุตรปัญจกาลรับราชการอย่ใู นราชสานักของพระองค์\"
เม่ือพระเจา้ วิเทหราชสิ้นพระชนม์ มโหสถกท็ าตามที่ลนั่ วาจาไว้ คือไปรับราชการอยกู่ บั พระเจา้ จุลนี และยงั ถูก กลนั่ แกลง้ จากเกวฏั พราหมณ์คู่ปรับเก่าแต่มโหสถกเ็ อาตวั รอดไดท้ ุกคร้ัง มโหสถนอกจากจะมีสติปัญญา เฉลียวฉลาดแลว้ ยงัประกอบดว้ ยคุณธรรมอนั ประเสริฐ มีความสุขมุรอบคอบ มิไดห้ ลงใหล ในลาภยศสรรเสริญ ดงัน้นั มโหสถจึงไดร้ ับยกยอ่ งสรรเสริญวา่ เป็น บณั ฑิตผู้มี ความรู้อนั ลึกซ้ึง มีสติ ปัญญาน้นั ประกอบดว้ ยคุณธรรมอนั ประเสริฐ ท่ีกากบั ใหผ้ มู้ ีสติปัญญาประพฤติปฏิบตั ิในทางท่ีถูกท่ีควร
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: