วิทยาศาสตร์_แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน-ไม่มีวิทยฐานะ

หPน้าA11/ส แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตำแหนง่ ครู (ยังไมม่ ีวทิ ยฐานะ) โรงเรียนสงั วาลย์วิท ๕ สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษายะลา เขต 3 ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ระหวา่ งวนั ท่ี 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวนั ที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565 ผจู้ ดั ทำข้อตกลง ชอื่ นายสับรี นามสกลุ มะลี ตำแหน่ง ครู สถานศกึ ษา โรงเรียนสังวาลย์วทิ ๕ สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต 3 รับเงินเดอื นในอนั ดบั คศ. 1 อตั ราเงนิ เดือน ............................. บาท ประเภทห้องเรียนทจี่ ดั การเรียนรู้ (สามารถระบไุ ด้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรยี นตามสภาพการจัดการเรยี นรูจ้ รงิ )  ห้องเรยี นวชิ าสามญั หรอื วิชาพ้นื ฐาน  หอ้ งเรยี นปฐมวัย  หอ้ งเรียนการศึกษาพเิ ศษ  หอ้ งเรยี นสายวิชาชพี  หอ้ งเรยี นการศึกษานอกระบบ / ตามอธั ยาศยั ข้าพเจา้ ขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตำแหนง่ ครู (ยังไม่มวี ทิ ยฐานะ) ซ่งึ เป็นตำแหน่ง ท่ีดำรงอยู่ในปจั จุบนั กับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้ ส่วนท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหน่ง 1. ภาระงาน จะมีภาระงานเปน็ ไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ชัว่ โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน ......... ชั่วโมง/สัปดาห์ ดงั นี้ - วิชา วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ป.1 จำนวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - วชิ า วิทยาศาสตร์ ชนั้ ป.2 จำนวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - วิชา วิทยาศาสตร์ ชั้น ป.3 จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - วชิ า วิทยาศาสตร์ ชั้น ป.4 จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - วชิ า วิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ป.6 จำนวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - วชิ า ทกั ษะชีวิต ชัน้ ป.1 จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - วิชา ทกั ษะชีวิต ชนั้ ป.2 จำนวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ - แนะแนว (ชัน้ ป.4) กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - ชุมนมุ (ช้นั ป.1-6) กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น จำนวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ - กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารี (ชนั้ ป.4-6) กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น จำนวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์

หน้า 2 1.2 งานสง่ เสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จำนวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ 2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหนง่ ครู (ใหร้ ะบรุ ายละเอียดของงานทีจ่ ะปฏบิ ตั ใิ นแตล่ ะดา้ นวา่ จะ ดำเนินการอย่างไร โดยอาจระบรุ ะยะเวลาท่ใี ชใ้ นการดำเนินการด้วยก็ได)้ ลกั ษณะงานที่ปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตัวชว้ี ดั ตามมาตรฐานตำแหนง่ (Indicators) 1. ด้านการจัดการ 1.1 การสร้างและหรอื การพัฒนา 1. ผู้เรียนได้รบั การ 1. รอ้ ยละ 70 ของ เรยี นรู้ ลักษณะงานที่ หลกั สตู ร จดั การเรียนรู้ตาม ผู้เรียน มคี วามรผู้ า่ น เสนอให้ครอบคลุมถึง - จัดทำหลักสตู รและหน่วยการเรียนรู้ หลกั สูตรและมีความรู้ เกณฑ์การประเมนิ การสร้างและหรือการ ที่สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ ตามมาตรฐานและ ตามท่สี ถานศกึ ษา พัฒนาหลกั สตู ร การ และตวั ชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ ตาม ตัวช้ีวัด กำหนด ออกแบบการจดั การ หลกั สตู รเพื่อใหผ้ ู้เรยี นได้พัฒนา 2. ผ้เู รียนไดร้ บั การ 2. รอ้ ยละ 70 ของ เรียนรู้ การจดั กิจกรรม สมรรถนะ และการเรียนรู้เต็มตาม พัฒนาคุณลักษณะอันพึง ผเู้ รียน มีผลสัมฤทธ์ิ การเรยี นรู้ การสรา้ งและ ศกั ยภาพ โดยมีการประยุกตใ์ ห้ ประสงค์ การอ่าน การ สงู ขึ้นเปน็ ไปตามค่า หรอื พฒั นาสื่อ สอดคลอ้ งกบั บริบทของสถานศกึ ษา เขียน คิด วเิ คราะห์ เปา้ หมายที่ นวตั กรรม เทคโนโลยี ผู้เรยี น และชุมชน สมรรถนะสำคัญของ สถานศึกษากำหนด และแหลง่ เรียนรู้ การวดั ผู้เรยี น และประเมนิ ผลการ 1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ 1. ผู้เรยี นมีความรูต้ าม 1. รอ้ ยละ 70 ของ จัดการเรียนรู้ การศึกษา - เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และการ มาตรฐานและตัวชีว้ ัด ผเู้ รยี น มคี วามรผู้ า่ น วเิ คราะห์ สังเคราะหเ์ พ่ือ จัดการเรียนรู้เชงิ รุก (Active ตามธรรมชาติวชิ า เกณฑ์การประเมนิ แกป้ ญั หาหรือพฒั นาการ Learning) เพ่ือให้ผเู้ รยี นมีความรู้ 2. ผู้เรียนได้รบั การ ตามที่สถานศกึ ษา เรียนรู้ การจดั ทักษะ คณุ ลักษณะประจำวชิ า พัฒนาในด้าน กำหนด บรรยากาศที่สง่ เสริมและ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และ คุณลกั ษณะอันพึง 2. ร้อยละ 80 ของ พัฒนาผ้เู รยี น และการ สมรรถนะท่ีสำคัญตามหลักสูตร โดยมี ประสงคแ์ ละสมรรถนะ ผ้เู รยี นมผี ลการ อบรมและพฒั นา การปรับประยุกต์ใหส้ อดคล้องกบั สำคญั ตามหลกั สตู ร ประเมนิ ในด้าน คุณลกั ษณะที่ดีของ บรบิ ทของสถานศึกษา ผู้เรียนและ คุณลักษณะอันพงึ ผเู้ รยี น ชมุ ชน โดย ประสงคแ์ ละ - จัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ท่เี น้น สมรรถนะสำคัญตาม ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ใชแ้ ผนการจัดการ หลักสตู รสูงขนึ้ เรยี นรู้แบบสืบเสาะ (5Es) สาระการ เปน็ ไปตามค่า เรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป้าหมายท่ี (วิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน) ช้นั ป.1-6 ตาม สถานศกึ ษากำหนด เป้าหมายทส่ี ถานศกึ ษากำหนด

หน้า 3 1.3 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ผเู้ รยี นได้รับการ 1. รอ้ ยละ 85 ของ - มีการอำนวยความสะดวกในการ พัฒนาตามศักยภาพ ผู้เรียน มีความพงึ เรียนรู้ และสง่ เสริมผเู้ รียนได้พัฒนา ความแตกต่างของแต่ละ พอใจตอ่ การเรียน เต็มตามศักยภาพ เรยี นร้แู ละทำงาน บุคคล วชิ าวทิ ยาศาสตร์และ ร่วมกัน โดยมีการปรบั ประยุกตใ์ ห้ 2. ผเู้ รยี นมนี ิสยั ใฝเ่ รียนรู้ เทคโนโลยีเปน็ อยา่ ง สอดคล้องกบั ความแตกต่างของผเู้ รยี น มงุ่ ม่ันในการทำงานและ มากและมสี ่วนร่วม ตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา สามารถทำงานรว่ มกับ ในการจดั กจิ กรรม -การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยใี นการ ผู้อ่นื ได้เป็นอย่างดี การเรยี นการสอน จัดการเรียนการสอนตามความ 3. ผู้เรยี นเกดิ ความพึง รูปแบบ Active เหมาะสมของเน้ือหาและวยั ของผเู้ รยี น พอใจตอ่ การเรียนวิชา Learning วิทยาศาสตร์ มากยิ่งข้ึน 2. รอ้ ยละ 85 ของ 1.4 การสรา้ งและพัฒนาสอ่ื และมีสว่ นรว่ มในการจัด ผูเ้ รยี น ร่วมใน นวตั กรรม กิจกรรมการเรยี นการ กิจกรรมการเรียน - มกี ารสรา้ งและหรือพฒั นาสื่อ สอนรูปแบบ Active การสอนแบบ นวตั กรรม เทคโนโลยี และแหลง่ Learning On Line On Hand เรยี นรู้ โดยมกี ารปรับประยุกตใ์ ห้ On Demand ผา่ น สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผู้เรียนได้รับความรู้ แอฟพลเิ คชนั่ ต่างๆ - จัดทำสื่อทส่ี ง่ เสรมิ พฒั นานกั เรยี น จากการใช้ส่ือที่ เปน็ อย่างดี โดยใชเ้ ทคโนโลยี เชน่ การใช้ Canva หลากหลาย สอดคล้อง 1. รอ้ ยละ 70 ของ ,Live worksheets , E-Book, กบั กจิ กรรมการเรียนรู้ ผเู้ รยี น มีความรู้ผา่ น Google form, Google site เป็นตน้ และทนั สมยั เกณฑ์การประเมิน - พฒั นาแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรยี น 2. ผู้เรียนได้รับความรู้ ตามท่สี ถานศกึ ษา โดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐาน จากการใช้แหลง่ เรียนรู้ที่ กำหนด หลากหลายและ 2. ร้อยละ 70 ของ สอดคล้องกบั การเรยี นรู้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิ สงู ขึ้น เปน็ ไปตามค่า เปา้ หมายที่ สถานศึกษากำหนด

หน้า 4 1.5 การวดั และการประเมินผลการ 1. ผูเ้ รยี นได้รบั การ 1. ร้อยละ 70 ของ ผเู้ รียน มีความรผู้ ่าน เรียนรู้ ประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมิน เปน็ ไปตามระเบียบ - มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ อย่างต่อเน่อื ง การวัดผลการ ประเมินของ ดว้ ยวธิ ีการท่หี ลากหลาย เหมาะสม หลากหลาย สถานศกึ ษา 2. รอ้ ยละ 70 ของ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ 2. นำผลการประเมนิ มา ผู้เรียน มีผลสัมฤทธ์ิ สงู ข้นึ เปน็ ไปตามคา่ ให้ผู้เรียนพฒั นาการเรียนรู้อย่าง ใช้ในการส่งเสรมิ หรอื เป้าหมายท่ี สถานศึกษากำหนด ตอ่ เน่อื ง ปรบั ปรงุ แก้ไขการเรยี นรู้ - สรา้ งเครื่องมือวดั และประเมินผลเพือ่ ของผเู้ รียน การพัฒนาผู้เรียนตามสภาพจรงิ และ วัดการวเิ คราะหผ์ ่านการใช้เทคโนโลยี มาประยุกตใ์ นการวัดประเมนิ ผล 1.6 การศึกษา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ 1. นักเรยี นไดร้ บั การ 1. ร้อยละ 70 ของ เพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ แกป้ ญั หาหรือพฒั นาใน ผู้เรียน มีความรผู้ า่ น - มกี ารศึกษา วิเคราะห์ และ ด้านการเรยี นรู้ เกณฑ์การประเมิน สังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหา หรือ 2. นักเรยี นได้รับการ ของสถานศกึ ษา พฒั นาการเรียนรู้ทีส่ ง่ ผลต่อคุณภาพ แกป้ ัญหาหรือพัฒนาด้าน 2. รอ้ ยละ 85 ของ ผ้เู รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึง ผเู้ รยี น มีผลการ - วิเคราะหผ์ ้เู รียนเปน็ รายบคุ คล ประสงค์ ประเมินในด้าน - จัดกลมุ่ นักเรียน 3. นักเรียนไดร้ บั การ คุณลกั ษณะอนั พงึ - วางแผนพฒั นานักเรยี นตามศักยภาพ แกป้ ญั หาหรือพฒั นาด้าน ประสงค์และ และความแตกต่างระหว่างบุคคล สมารรถนะสำคัญผู้เรียน สมรรถนะสำคัญตาม หลักสูตรทส่ี งู ขึน้ เปน็ ไปตามค่า เป้าหมายท่ี สถานศกึ ษากำหนด

หนา้ 5 1.7 การจัดบรรยากาศท่สี ่งเสริมและ 1. ผู้เรยี นได้รับการ 1. ร้อยละ 70 ของ ผเู้ รียนมีผลการ พฒั นาผู้เรยี น พัฒนาในด้านสมรรถนะ ประเมนิ ในด้าน สมรรถนะสำคัญตาม - มีการจดั บรรยากาศทสี่ ่งเสริมและ สำคญั ของผ้เู รียน หลกั สตู รสูงขึน้ เป็นไปตามค่า พฒั นาผ้เู รยี น ให้เกดิ กระบวนการคดิ เป้าหมายท่ี สถานศกึ ษากำหนด ทักษะชีวิต ทกั ษะการทำงาน ทกั ษะ 1. รอ้ ยละ 85 ของ การเรียนรแู้ ละนวตั กรรม ทักษะดา้ น ผเู้ รยี น มผี ลการ ประเมินในด้าน สารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี คณุ ลักษณะนสิ ยั อนั พึงประสงค์ ตาม - จดั บรรยากาศหอ้ งเรยี นให้ได้ หลักสตู รสูงขึ้น เปน็ ไปตามคา่ มาตรฐานหอ้ งเรยี นคณุ ภาพ (Onsite) เปา้ หมายที่ สถานศึกษากำหนด - จดั กระบวนการเรียนรู้ (Online- On-hand On-demand) 1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะท่ดี ี 1. ผเู้ รียนได้รับการ ของผเู้ รียน พฒั นาในดา้ น - มีการอบรมบ่มนสิ ัยใหผ้ ู้เรยี นมี คุณลักษณะนสิ ยั อนั พึง คุณธรรม จริยธรรม คณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงค์ ประสงค์ และค่านิยมความเป็นไทยท่ดี ี งาม - จดั กจิ กรรมท่ีสง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. อบรมคุณธรรม การละหมาดและ ดุอาร์ 2. การจดั กิจกรรมโฮมรูมยามเช้า 3. โรงเรยี นสุจริต

หน้า 6 ลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตวั ช้วี ดั ตามมาตรฐานตำแหน่ง (Indicators) 2. ด้านการส่งเสรมิ และ 2.1 จดั ทำข้อมูลสารสนเทศของ 1. ผ้เู รียนใชข้ ้อมลู 1. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ สนบั สนุน การจัดการ ผู้เรยี นและรายวชิ า สารสนเทศตรวจสอบ 100 ได้ใช้ประโยชน์ เรยี นรลู้ ักษณะงานที่ - มกี ารจัดทำข้อมลู สารสนเทศของ และรายงานผลระบบ จากสารสนเทศใน เสนอให้ครอบคลุมถึง ผ้เู รียนและรายวชิ า เพื่อใช้ในการ ดูแลชว่ ยเหลือผู้เรียนผ่าน ระบบดแู ลชว่ ยเหลือ การจดั ทำข้อมูล ส่งเสรมิ สนับสนนุ การเรียนรู้ และ เอกสารการรายงานต่างๆ ผ้เู รยี นดว้ ยโปรแกรม สารสนเทศของผู้เรียน พฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน โปรแกรมแบบ ปพ.5 แบบ ปพ.5 และรายวชิ าการ - จดั ทำรายงานข้อมูลสารสนเทศ ดำเนินการตามระบบ ผเู้ รยี นรายบุคคลและข้อมลู รายวชิ าท่ี ดแู ลช่วยเหลือผเู้ รียน สอนผา่ นระบบออนไลน์ Line การปฏบิ ัตงิ านวชิ าการ Meetting หรือใชโ้ ปรแกรมแบบ ปพ.5 และงานอืน่ ๆ ของ 2.2 ดำเนินการตามระบบดูแล 1. นกั เรยี นและ 2. ครูผปู้ กครองและ สถานศึกษา และการ ช่วยเหลอื ผู้เรยี น ผปู้ กครองมีสว่ นร่วมกบั ผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ งร้อยละ ประสานความร่วมมือกับ - การออกเยี่ยมบ้าน คัดกรองนักเรียน ครผู ้สู อนในการแก้ไข 100 สามารถรับรู้ ผปู้ กครอง ภาคีเครือขา่ ย รวมไปถงึ ผ้ปู กครองเข้ามามีส่วนร่วมใน ปญั หานักเรยี นในดา้ น ความกา้ วหน้า และหรอื สถาน การให้ความชว่ ยเหลอื ตามระบบดแู ล การเรียนรู้และระบบดแู ล พัฒนาการของ ประกอบการ ช่วยเหลือนักเรียน ช่วยเหลอื นักเรียน ผเู้ รียนและสามารถ - มกี ารใช้ขอ้ มูลสารสนเทศเก่ียวกบั รายบุคคล ชว่ ยเหลือนกั เรยี นได้ ผูเ้ รยี นรายบคุ คล และประสานความ 1. นักเรียนไดร้ บั การ อยา่ งท่ัวถึง ร่วมมือกบั ผู้มีส่วนเก่ียวข้องเพื่อพฒั นา สนับสนุนชว่ ยเหลือดูแล และแกป้ ัญหาผู้เรียน ทงั้ ดา้ นวิชาการ ลักษณะ - จดั ทำชอ่ งทางการเผยแพรผ่ ลการ นิสัยอันพงึ ประสงค์ รว่ ม ประเมินผเู้ รยี นต่อผ้ปู กครองรายบคุ คล ทง้ั สมรรถนะสำคญั เพือ่ การวางแผนพัฒนาผู้เรียนร่วมกนั ผู้เรยี น 2. นกั เรียนไดร้ ับการ แก้ไขหรอื พฒั นาทงั้ ดา้ น วิชาการลักษณะนิสยั อัน พงึ ประสงค์ รวมทั้ง สมรรถนะสำคัญผู้เรียน

หน้า 7 2.3 ปฏิบัติงานวชิ าการ และงานอ่ืนๆ 1. ผูเ้ รยี นมีความรู้ ตาม 1. ร้อยละ 70 ของ ของสถานศึกษา มาตรฐานและตัวช้วี ัด ผู้เรียน มคี วามร้ผู า่ น - ปฏบิ ัตงิ านบรหิ ารวิชาการ 2. ผู้เรยี นไดร้ บั การ เกณฑ์การประเมนิ - ปฏิบัติงานเทคโนโลยีและนวตั กรรม พฒั นาที่ดีขึ้น เปน็ ไปตามระเบียบ ทางการศึกษา การวดั ผลประเมินผล -ปฏิบัติงานพัฒนานักเรียนเรียนรว่ ม 1. นักเรยี นไดร้ ับการ ของสถานศกึ ษา - รว่ มปฏิบัตงิ านทางวิชาการ และงาน สนบั สนุนชว่ ยเหลอื ดแู ล 2. ร้อยละ 70 ของ อื่นๆ ของสถานศกึ ษา เพื่อยกระดบั ทั้งดา้ นวชิ าการ ลักษณะ ผเู้ รียนมีผลสัมฤทธ์ิ คณุ ภาพของการจัดการศกึ ษาของ นิสยั อันพงึ ประสงค์ สูงขึน้ เปน็ ไปตามคา่ สถานศกึ ษา รวมทงั้ สมรรถสำคญั เป้าหมายของ - รว่ มจัดกจิ กรรมการพฒั นาหลกั สูตร ผเู้ รียน สถานศึกษากำหนด สถานศึกษา 2. นักเรยี นไดร้ บั การ - ร่วมกจิ กรรมการจดั ทำแผนการ แกไ้ ขหรอื พัฒนาทั้งดา้ น 1. ร้อยละ 70 ของ ประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) วิชาการ ลกั ษณะนิสัยอนั ผู้เรยี น มีความร้ผู ่าน 2.4 ประสานความรว่ มมือกับ พงึ ประสงค์ รวมท้งั เกณฑ์การประเมนิ ผูป้ กครอง ภาคเี ครอื ข่าย และหรือ สมรรถสำคญั ผูเ้ รียน ของสถานศกึ ษา สถานประกอบการ 2. ร้อยละ 85 ของ - ประสานความรว่ มมือกบั ผูป้ กครอง ผู้เรียน มีผลการ ภาคีเครือขา่ ย และหรือสถาน ประเมินในด้าน ประกอบการ เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึง - ร่วมกจิ กรรมประชุมผู้ปกครอง 1 ประสงค์ตาม ครัง้ /ภาคเรยี น หลักสูตรสูงขึน้ - จัดให้มีชอ่ งทางในการติดต่อส่อื สาร เปน็ ไปตามค่า กับผู้ปกครองและภาคีเครือข่าย เปา้ หมายที่ สถานศกึ ษากำหนด

หน้า 8 ลกั ษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ตวั ช้ีวัด ตามมาตรฐานตำแหน่ง (Indicators) 3. ด้านการพฒั นา 3.1 พัฒนาตนเองอยา่ งเป็นระบบ 1. นกั เรียนได้รบั การ 1. ร้อยละ 70 ของ ตนเองและวิชาชีพ ผเู้ รียน มีความรผู้ ่าน ลักษณะงานที่เสนอให้ และตอ่ เนือ่ ง เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ แก้ปัญหาหรือพฒั นาใน เกณฑ์การประเมิน ครอบคลุมถงึ การพัฒนา ของสถานศึกษา ตนเองอย่างเป็นระบบ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะอย่าง ด้านการเรียนรู้ 2. รอ้ ยละ 85 ของ และต่อเนื่อง การมีส่วน ผู้เรยี น มีผลการ รว่ มในการแลกเปลี่ยน ย่งิ การใช้วทิ ยาศาสตร์และ 2. นกั เรียนได้รบั การ ประเมินในด้าน เรยี นรูท้ างวชิ าชพี เพื่อ คณุ ลกั ษณะอันพงึ พัฒนาการจดั การเรยี นรู้ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร และการ แก้ปญั หาหรือพฒั นาด้าน ประสงค์และ และการนำความรู้ สมรรถนะสำคัญตาม ความสามารถ ทักษะท่ี ใช้เทคโนโลยี เพอ่ื การศกึ ษา สมรรถนะ คุณลักษณะอนั พึง หลักสตู ร เปน็ ไปตาม ไดจ้ ากการพัฒนาตนเอง ค่าเป้าหมายที่ และวิชาชพี มาใช้ในการ วิชาชพี ครแู ละความรอบรใู้ น ประสงค์ สถานศกึ ษากำหนด พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ 1. รอ้ ยละ 85 ของ การพฒั นาคุณภาพ เนือ้ หาวิชาและวธิ กี ารสอน 3. นักเรยี นได้รับการ ผูเ้ รยี น มคี วามร้ผู ่าน ผู้เรยี น และการพัฒนา เกณฑ์การประเมิน นวตั กรรมและการ - พฒั นาทกั ษะการใช้วิทยาศาสตร์ แกป้ ญั หาหรือพฒั นาด้าน ของสถานศกึ ษา จัดการเรียนรู้ 2. ร้อยละ 85 ของ - พฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาองั กฤษ สมรรถนะสำคัญผูเ้ รยี น ผู้เรียน มผี ลการ ประเมนิ ในด้าน (CEFR) คณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงค์และ - พฒั นาการใช้เทคโนโลยีในการ สมรรถนะสำคัญตาม หลักสูตร เปน็ ไปตาม จัดการเรยี นการสอน ค่าเปา้ หมายท่ี สถานศกึ ษากำหนด 3.2 การมสี ่วนรว่ มแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ 1. นกั เรียนได้รับการ ทางวิชาชพี เพ่ือแกป้ ัญหาและ สนับสนนุ ชว่ ยเหลือดแู ล พฒั นาการจัดการเรยี นรู้ ท้งั ดา้ นวชิ าการลักษณะ - เข้ารว่ มกิจกรรมแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ นสิ ยั อนั พงึ ประสงค์ ทงั้ ภายในและระหว่างสถานศึกษา รวมทั้งสมรรถสำคญั ผู้เรียน 2. นกั เรียนได้รบั การ แก้ไขหรือพฒั นาท้ังดา้ น วชิ าการลกั ษณะนสิ ยั อนั พึงประสงค์ รวมทั้ง สมรรถนะสำคัญผเู้ รียน

หนา้ 9 3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะ 1. นำทกั ษะและองค์ 1. ร้อยละ 70 ของ ทไ่ี ด้จากการพฒั นาตนเองและ ความรมู้ าบรู ณาการ ผู้เรยี น มผี ลสมั ฤทธ์ิ วชิ าชพี มาใช้ในการพฒั นาการ สอดแทรกในเน้ือหาสาระ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ จัดการเรยี นรู้ วชิ าในการจัดการเรียนรู้ และเทคโนโลยีใน 1. การเข้าร่วมการอบรม/การประชมุ หรือปรับประยุกต์และ ระดบั คุณภาพ 3 ขน้ึ รูปแบบต่าง ๆ ทัง้ แบบ On Line และ พัฒนานวัตกรรมการ ไป แบบเข้าร่วมอบรม ทสี่ ามารถนำ เรียนรู้ให้สอดคล้องกบั 2. ร้อยละ 85 ของ ความรมู้ าพัฒนาการจดั การศึกษาให้ ความแตกตา่ งระหวา่ ง ผเู้ รียน ได้รบั การ ทนั กับการเปลย่ี นแปลงในสถานการณ์ บคุ คล พัฒนาทักษะการคิด ปัจจบุ ัน 2. ร่วมกิจกรรมชมุ ชน วิเคราะห์จาก 2. การทำกิจกรรมชมุ ชนแห่งการ การเรียนรทู้ างวิชาชพี นวตั กรรมทค่ี รูผสู้ อน เรียนรู้ทางวชิ าชีพกบั กลุ่มสาระอนื่ ๆ แลกเปลยี่ นปญั หาในการ ประยกุ ตใ์ ช้ เช่น เพอ่ื แลกเปลี่ยนเรียนรปู้ ญั หาการ จดั การเรยี นการสอนของ Canva, E-Book เรยี นร้ขู องผเู้ รยี นในแตล่ ะชน้ั ท่ี ผเู้ รียนท่หี ลากหลาย , Google form รบั ผิดชอบ , Google site เปน็ ต้น หมายเหตุ 1. รูปแบบการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตามแบบ PA1 ให้เป็นไปตามบริบทและสภาพการจัดการเรียนรู้ ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเหน็ ชอบรว่ มกนั ระหว่างผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาและขา้ ราชการครผู จู้ ัดทำข้อตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเป็นงานในหนา้ ที่ความรับผิดชอบหลกั ทีส่ ่งผลโดยตรง ตอ่ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และใหน้ ำเสนอรายวชิ าหลักที่ทำการสอน โดยเสนอในภาพรวมของรายวชิ าหลักท่ีทำการ สอนทุกระดบั ชนั้ ในกรณีทีส่ อนหลายรายวิชา สามารถเลอื กรายวิชาใดวชิ าหนึง่ ได้โดยจะตอ้ งแสดงให้เห็นถงึ การปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบการ ประเมนิ PA 2 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcomes) และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ให้ คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพการจัดการเรียนรู้ในบริบทของแต่ละ สถานศกึ ษา และผลลัพธก์ ารเรยี นรขู้ องผเู้ รียนท่ีเกิดจากการพฒั นางานตามข้อตกลงเปน็ สำคญั โดยไม่เนน้ การประเมินจาก เอกสาร

หน้า 10 สว่ นที่ 2 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานทีเ่ ป็นประเดน็ ทา้ ทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรยี นรู้ของผ้เู รียน ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงใหเ้ ห็นถึงระดับการปฏิบัติท่ีคาดหวัง คือ การปรบั ประยุกต์ การจดั การเรยี นรู้และการพัฒนา คุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทาย อาจจะแสดงให้เห็นถงึ ระดับการปฏิบัตทิ ่ีคาดหวังที่สูงกว่าได)้ ประเด็นทา้ ทาย เรอ่ื ง การพัฒนาทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์โดยใช้สอ่ื เทคโนโลยี กับ เทคนคิ การสอนแบบ Active Learning 1. สภาพปญั หาของผูเ้ รียนและการจัดการเรียนรู้ สภาพปัญหาของผู้เรียนด้านวิทยาศาสตร์ ยังพบปัญหาอย่างมากในการคิด วิเคราะห์ และการ แก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากนักเรียนไม่เข้าใจถึงกระบวนการแก้ปัญหาทาง วทิ ยาศาสตร์ ซึง่ แนวทางการจดั การเรียนการสอนแบบเดิมยงั ไมส่ ง่ ผลให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรูเ้ ทา่ ที่ควร เนือ่ งมาจากบริบท ของส่ิงแวดล้อม การเข้าถึงสื่อ/เทคโนโลยีของผู้เรียนค่อนข้างไม่ครอบคลุม จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่ เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการแนวคิดเชิงคำนวณที่ดีขึ้น ครูผู้สอนจึงใช้วิธีการ ประยุกต์จากเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโยงสู่ชีวิตประจำวันของนักเรียน และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการ แก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้นั้นได้นำเว็บไซต์ออนไลน์ ที่กระตุ้นความสนใจของนักเรียน ได้แก่ การใช้ Canva ในการสร้างสรรค์งานและสรุปความรู้ การใช้ Live worksheets ในการทำใบงานออนไลน์ การใช้ Kahoot ในการทบทวนความรู้ผ่านเกม การใช้ Minemeister ในการสร้างแผนผังความคิด การใช้ Google form ในการ ทดสอบท้ายหน่วย การใช้ Google site ในการศึกษาหาความรู้ออนไลน์และเทคโนโลยีอื่นๆในการอำนวยความสะดวกใน การจัดการเรียนการสอน 2. วิธกี ารดำเนนิ การให้บรรลผุ ล การพัฒนาทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์โดยใช้สื่อเทคโนโลยี กับรูปแบบการจัดการ เรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยการให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยการฝึกทักษะ กระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ในรายวิชา วิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนติดตามความก้าวหนา้ จากการแบบฝึกหดั และ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ และนำไปส่กู ารแกป้ ัญหา โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ซง่ึ พิจารณาจากทักษะ การแก้ปัญหากระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ให้ถกู ต้อง และในระหว่างการพัฒนา ครูผู้สอนนำปัญหาที่เกิดข้นึ กบั ผู้เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหาร ครูผู้สอนต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อที่จะหาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้ เปน็ ไปตามที่กำหนดไว้ ตวั อยา่ งเทคโนโลยีที่จะนำมาประยุกตใ์ นการจัดการเรยี นการสอน

หน้า 11 ลักษณะของการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning เปน็ ดังนี้ 1. เป็นการเรียนการสอนทพ่ี ัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคดิ การแกป้ ัญหา และการนำความรู้ ไปประยุกต์ใช้ 2. เป็นการเรยี นการสอนท่ีเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในกระบวนการเรียนรสู้ งู สุด 3. ผ้เู รยี นสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง 4. ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการเรียนการสอนทั้งในดา้ นการสร้างองค์ความรู้ การสรา้ งปฏสิ มั พันธ์รว่ มกัน ร่วมมอื กนั มากกวา่ การแข่งขนั 5. ผเู้ รยี นเรียนรู้ความรบั ผดิ ชอบรว่ มกัน การมวี นิ ัยในการทำงาน และการแบง่ หน้าที่ความรับผดิ ชอบ 6. เปน็ กระบวนการสร้างสถานการณใ์ ห้ผเู้ รยี นอา่ น พูด ฟงั คดิ อย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผจู้ ดั ระบบ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 7. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนท่เี น้นทักษะการคดิ ขั้นสูง 8. เป็นกิจกรรมท่เี ปิดโอกาสให้ผ้เู รยี นบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิด รวบยอด 9. ผสู้ อนจะเปน็ ผู้อำนวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือใหผ้ ้เู รียนเป็นผปู้ ฏิบตั ิดว้ ยตนเอง 10. ความรเู้ กดิ จากประสบการณ์ การสรา้ งองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรยี น 3. ผลลพั ธก์ ารพัฒนาทีค่ าดหวัง 3.1 เชิงปริมาณ ผเู้ รียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1-6 โรงเรียนสังวาลยว์ ทิ ๕ จำนวน 110 คน ร้อยละ 70 ทเี่ รยี นในรายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ มีผลการพฒั นาทกั ษะการเขยี นทถี่ กู ตอ้ งและผลสมั ฤทธิ์เพม่ิ สูงขน้ึ 3.2 เชงิ คณุ ภาพ การปรับประยุกต์/เทคนิค/สื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทาง วิทยาศาสตร์ กับเทคนคิ การสอนแบบ Active Learning รายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้สอ่ื เทคโนโลยี

หน้า 12 ลงชอ่ื ................................................... (นายสับรี มะลี) ตำแหนง่ ครู คศ.1 ผ้จู ดั ทำขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ........../........../.......... ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ( ) เห็นชอบให้เปน็ ข้อตกลงในการพฒั นางาน ( ) ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไข และเสนอเพ่ือ พิจารณาอีกครง้ั ดังน้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ................................................................... (นางสาวคาดียะห์ อามานะกลุ ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนสงั วาลยว์ ทิ ๕ ........../........../...........