Azadirachta indica A.Juss.
สมุนไพรสะเดา มชี อ่ื ทอ้ งถิน่ อื่น ๆ ว่า สะเดา สะเดา บ้าน (ภาคกลาง), สะเลยี ม (ภาคเหนอื ), เดา กระเดา กะเดา (ภาคใต้), จะดัง จะตงั (สว่ ย), ผกั สะเลม (ไทลอื้ ), ลาต๋าว (ลว้ั ะ), สะเรยี ม (ขม)ุ , ตะหม่าเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ควนิ นิ (ท่วั ไป), สะเดาอนิ เดยี (กรุงเทพฯ), กาเดา, เดา, ไมเ้ ดา เป็น ต้น โดยสามารถพบขึ้นไดท้ วั่ ไปตามปา่ แล้งในประเทศ อนิ เดยี อินโดนเี ซยี มาเลเซีย พมา่ ปากีสถาน ศรลี งั กา และ ประเทศไทย สาหรบั ในประเทศไทยจะมเี ขตการกระจาย พันธ์อุ ยตู่ ามธรรมชาติ ตามปา่ เบญจพรรณแลง้ และปา่ แดง ทั่วประเทศ
สะเดา สามารถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 ชนดิ 1. สะเดาไทย (สะเดาบา้ น) ลักษณะของใบ ชนิดของ หยกั เปน็ ฟนั เลื่อย ปลายของฟนั เลอ่ื ยทู่ โคนใบ เบย้ี วแต่กวา้ งกวา่ ปลายใบแหลม โดยสะเดา สะเดา ไทยแบ่งออกเปน็ 2 ชนดิ ได้แก่ ชนดิ ขมและ ชนิดมัน โดยจะสงั เกตไดจ้ ากยอดออ่ น หาก เป็นชนิดขมยอดอ่อนจะมสี ีแดง แตถ่ า้ เปน็ ชนดิ มันยอดออ่ นจะมีสขี าว 2. สะเดาอนิ เดีย ลกั ษณะของใบ ขอบใบเปน็ หยักคล้ายฟันเล่ือย ปลายของ ฟนั เล่ือยแหลม ปลายใบมีลักษณะแหลมเรียวแคบมาก ส่วนโคนใบเบี้ยว 3. สะเดาชา้ ง (สะเดาเทียม) (Azadirachta excelsa (Jack) Jacobs) ชนิดน้ี ลักษณะขอบใบจะเรยี บหรอื ปดั ข้ึนลงเล็กนอ้ ย ปลายใบเปน็ ต่งิ แหลม ขนาด ของใบและผลจะใหญก่ วา่ 2 ชนิดแรก
ลกั ษณะของ ตน้ สะเดา เปน็ พนั ธ์ไุ ม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สะเดา มคี วามสูงประมาณ 20-25 เมตร ลักษณะของต้น เป็นทรงเรอื นยอดเป็นพมุ่ หนาทึบตลอดปี มรี าก ท่ีแขง็ แรง กว้างขวาง และหยงั่ ลกึ เปลือกของลา ต้นคอ่ นข้างหนา มสี ีน้าตาลเทาหรอื สีเทาปนดา ผิวเปลือกแตกเปน็ รอ่ งต้ืน ๆ หรือเป็นสะเกด็ ยาว ๆ เยอ้ื งสลับกันไปตาม ความยาวของละต้น ส่วนเปลอื กของก่ิงมลี ักษณะคอ่ นข้างเรยี บ และเน้ือไม้ มสี ีแดงเขม้ ปนสนี า้ ตาล เสี้ยนคอ่ นข้างสับสนเป็นรว้ิ ๆ แคบ เน้อื หยาบ เปน็ มันเล่ือม มีความแข็งแรงทนทาน สว่ นแกนไมม้ สี นี ้าตาลแดง มีความ แข็งแรงและทนทานมาก
ใบสะเดา ใบมีสีเขียวเข้มหนาทึบ เมือ่ ออ่ นมีสแี ดง ใบเป็นใบประกอบแบบ ขนนกปลายคี่ ยาวประมาณ 15-35 เซนติเมตร มใี บยอ่ ยประมาณ 4-7 คู่ ใบ ย่อยตดิ ตรงข้ามหรอื กงิ่ ตรงข้าม ลกั ษณะใบเป็นรูปใบหอกกง่ึ รปู เคียวโคง้ กว้างประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-9 เซนติเมตร โคนใบ เบ้ียวเหน็ ชัดเจน ส่วนปลายใบแหลมหรอื เรียวแหลม ขอบใบเปน็ จักคลา้ ย ฟันเลือ่ ย คอ่ นขา้ งเกลีย้ ง มเี ส้นใบอยูป่ ระมาณ 15 คู่ ก้านใบยอ่ ยยาวประมาณ 1-2 เซนตเิ มตร ใบที่อยปู่ ลายช่อจะใหญส่ ดุ ส่วนก้านใบยาวประมาณ 3-7 เซนตเิ มตร ผวิ กา้ นคอ่ นขา้ งเกลยี้ ง มตี ่อม 1 คทู่ ี่โคนก้านใบในพ้นื ทแี่ ล้งจัด ตน้ จะท้ิงใบเฉพาะส่วนลา่ ง ๆ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดอื นมีนาคม และใบ ใหมจ่ ะผลขิ น้ึ มาในชว่ งเดอื นมนี าคมจนถงึ เดอื นเมษายน ซง่ึ ช่วงนี้ต้นสะเดา จะแทงยอดอ่อนพุ่งขน้ึ มาอย่างรวดเร็ว
ดอกสะเดา ออกดอกเปน็ ช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ตามง่ามใบหรอื ตามมุมทร่ี ่วง หลดุ ไปและท่ีปลายกง่ิ ยาวไดถ้ งึ 30 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเลก็ สีขาวหรือสี เทา ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แกนกลางของชอ่ มีเส้นผ่านศนู ยก์ ลางประมาณ 1.5 มลิ ลเิ มตร ลกั ษณะค่อนขา้ งเกล้ียง แตกกิ่งกางออกเปน็ 2-3 ชัน้ ท่ปี ลายเปน็ ชอ่ กระจกุ อยู่ 1-3 ดอก มีขนคล้ายไหม มีใบประดับและใบประดับยอ่ ยเป็นรปู ใบหอก ยาวประมาณ 0.5-1 มลิ ลิเมตร มขี นน่มุ และสนั้ สว่ นกา้ นดอกย่อยยาว ประมาณ 2 มลิ ลิเมตร มขี นนุม่ สน้ั เชน่ กนั ส่วนกลีบเลีย้ งเปน็ รูปทรงแจกัน ยาวประมาณ 1 มลิ ลิเมตร ปลายเป็นพู 5 พกู ลม พูซอ้ นเหลอ่ื มกนั กลีบดอกมี 5 กลบี แยกออกจากกนั
ผลสะเดา ลกั ษณะของผลจะคล้ายผลอง่นุ ผลมีลักษณะกลมรี ขนาดกว้าง ประมาณ 1 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 1-2 เซนตเิ มตร ผลออ่ นมีสเี ขียว เมอ่ื สุกแลว้ จะเปลี่ยนเป็นสเี หลืองอมเขยี ว มรี สหวานเล็กนอ้ ย ผลจะสกุ ในชว่ ง เดือนมีนาคมถงึ เดอื นมถิ นุ ายนขึ้นอยกู่ ับสภาพพ้ืนที่ เชน่ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือจะสกุ เรว็ กว่าภาคกลาง เปน็ ต้น (ผลมสี ารขมทชี่ ่ือว่า Bakayanin)
สรรพคณุ 1. ชว่ ยบารงุ ธาตใุ นรา่ งกาย (ดอก, ใบ, ผล) ของสะเดา 2. ช่วยบารงุ ธาตไุ ฟ ขับน้ายอ่ ยอาหารทาให้ กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น 3. ชว่ ยบารุงโลหิต 4. น้าตาลท่ีได้จากการหมักนา้ จากลาต้นมแี ร่ ธาตุ ใชเ้ ป็นยาบารงุ ร่างกาย 5. ช่วยบารุงและรกั ษาสายตา โดยพบว่าผู้ทรี่ บั ประทานยอดสะเดาต้ังแต่เด็ก เมอื่ อายุ 90 กวา่ สายตายังดมี าก (ยอดออ่ น) 6. ชว่ ยแกก้ ษยั หรือโรคซูบผอม ผอมแหง้ แรงนอ้ ย 7. ชว่ ยรกั ษาโรคแทรกซอ้ นในผ้ปู ่วยเอดส์ เน่ืองจากการรับประทานใบสะเดา เป็นอาหารจะชว่ ยทาให้เจริญอาหาร ลดอาการเบื่ออาหารหรอื กนิ อาหารได้ น้อยแล้วทาใหซ้ ูบผอมจนทาให้เกิดโรคแทรกซอ้ น
https://medthai.com/%E0%B8%AA%E 0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94 %E0%B8%B2/
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: