ที่ระลกึ พิธเี ปิดหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบรุ ี วันจันทร์ที่ ๔ กนั ยายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ๒ ทร่ี ะลกึ พธิ เี ปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อ�ำ เภอพระพุทธบาท จังหวดั สระบุรี
ห้องสมุด ในทศั นะของข้าพเจา้ ...หอ้ งสมดุ เปน็ สถานทเ่ี กบ็ เอกสารตา่ งๆ อนั เป็นแหล่งความรู้ดังกล่าวแล้ว จึงเรียกได้ว่าเป็นครู เปน็ ผ้ชู นี้ �ำ ให้เรามปี ญั ญา วิเคราะห์ วจิ ารณ์ให้ร้สู ่งิ ท่ี ควรรอู้ ันชอบธรรมดว้ ยเหตผุ ลได้ ขา้ พเจา้ อยากใหเ้ รามหี อ้ งสมดุ ทดี่ ี มหี นงั สอื ครบทุกประเภทสำ�หรับประชาชน หนังสอื ที่ข้าพเจา้ คิดว่าสำ�คัญท่ีสุดอย่างหนึ่งคือ หนังสือสำ�หรับ เด็ก วัยเด็กเป็นวัยเรียนรู้ เด็กๆ ส่วนใหญ่สนใจ ทจี่ ะทราบเรื่องราวตา่ งๆ แปลกๆ ใหม่ๆ อยู่แล้ว ถ้า เรามีหนงั สือทม่ี ีคณุ คา่ ทัง้ เนอ้ื หา รปู ภาพ ให้เขาอา่ น ให้ความรู้ความบันเทิง เด็กๆจะได้เติบโตข้ึนเป็น ผู้ใหญ่ท่ีสมบูรณ์ที่รอบรู้ มีธรรมะประจำ�ใจ มี ความรักบ้านเมือง มีความต้องการปรารถนาจะทำ� แตป่ ระโยชนท์ ีส่ มควร... พระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง ห้องสมดุ ในทรรศนะของขา้ พเจา้
ค�ำ น�ำ หนังสือน้ีจัดทำ�ข้ึนเพ่ือเป็นที่ระลึกเน่ืองในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ�เนินทรงเปิดห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จงั หวัดสระบรุ ี ในวันจันทรท์ ี่ ๔ กันยายน ๒๕๖๐ ซึง่ เป็นการสนอง ตอ่ พระปณธิ านของพระองค์ ทที่ รงสง่ เสรมิ ใหห้ อ้ งสมดุ เปน็ ศนู ยเ์ รยี นรใู้ นการพฒั นาคณุ ภาพ ชีวิตและดำ�รงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกร ชาวจังหวัดสระบุรีเป็นอย่างย่ิง ที่จะสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ทที่ รงคณุ ค่าแห่งนี้ได้ ภายในหนงั สือประกอบดว้ ย พระราชประวัติ พระอัจฉรยิ ภาพ พระราชกรณยี กจิ ของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ความเปน็ มาของหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และเรื่องราวของจังหวัดสระบุรี ในแงม่ มุ ต่าง ๆ เพ่อื ใหผ้ ู้อา่ นไดร้ ับรู้และเขา้ ใจได้สว่ นหนง่ึ ความสำ�เร็จของการก่อต้ังห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอ พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เกิดจากความน้อมสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของบุคคลต่าง ๆ อาทิ พระธรรมปิฎก เจา้ คณะจงั หวดั สระบรุ ี เจา้ อาวาสวดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวหิ าร นายสทุ ธพิ งษ์ จลุ เจรญิ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (อดตี ผ้วู ่าราชการจังหวัดสระบุร)ี นายวเิ ชยี ร พุฒวิ ิญญู (อดีต ผวู้ ่าราชการจังหวดั สระบุรี) ขา้ ราชการ หน่วยงาน องค์กร บรษิ ัท ห้างร้านและประชาชน จงั หวดั สระบรุ ี ทไ่ี ดร้ ว่ มกนั สนบั สนนุ ปจั จยั ในการด�ำ เนนิ การกอ่ สรา้ งและพฒั นาตกแต่ง ให้ มคี วามเรยี บรอ้ ยสมบรู ณเ์ ออื้ อำ�นวยประโยชน์ต่อการใหบ้ รกิ าร จึงขอขอบพระคณุ ทกุ ทา่ น มา ณ โอกาสนี้ สำ�นกั งาน กศน.จังหวดั สระบรุ ี
สารบัญ พระราชประวตั ิ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ๗ การศึกษา ๑๑ พระอจั ฉรยิ ภาพในด้านต่างๆ ๑๕ พระราชกรณียกจิ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมาร ี ๓๓ ในพน้ื ที่จังหวดั สระบุรี โครงการพัฒนาพื้นท่บี รเิ วณวัดมงคลชัยพัฒนา ๓๔ โครงการพัฒนาท่ดี นิ มูลนธิ ชิ ยั พฒั นาบรเิ วณอ่างเก็บน�ำ้ ห้วยหนิ ขาว ๓๕ โครงการแกม้ ลิงทะเลสาบบา้ นหมอ ๓๖ โครงการสาธติ การท�ำนาในทีด่ ินของมูลนิธิชยั พฒั นา ๓๗ ศนู ยพ์ ัฒนาพนั ธ์ุพืชจกั รพนั ธ์เพ็ญศริ ิ ๓๘ ความเป็นมาของห้องสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมาร ี ๓๙ อำ� เภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบรุ ี พ่อแหง่ แผ่นดนิ เยือนถิ่นสระบุรี ๔๖ เล่าขานตำ� นานสระบรุ ี ๔๘ สระบุรี เมอื งพุทธบชู า ๔๙ ผา ถ้ำ� น้ำ� ตก มรดกสระบรุ ี ๕๑ สระบุรปี ระเพณีตระการตา ๕๔ บรรณานุกรม ๕๘ ภาคผนวก ๕๙
ทรี่ ะลกึ พิธเี ปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อ�ำ เภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
พระราชประวตั ิ ๗
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้าจักรีสิรินธร รฐั สมี าคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกมุ ารี เปน็ พระราชธดิ า ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและ สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ เสดจ็ พระราช สมภพ เมอื่ วันเสารท์ ี่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘ ณ พระท่ีนัง่ อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ โดยสมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรม หลวงวชริ ญาณวงศ์ เปน็ ผถู้ วายพระนามว่า “สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าสริ ินธรเทพรัตนสุดา กติ ิวัฒนาดุลโสภาคย์” เมอื่ วนั ที่ ๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ในวโรกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช มีพระบรมราชโองการสถาปนาพระอิสริยศักด์ิ สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ สริ ินธรเทพรตั นสุดา กติ วิ ัฒนา ดุลโสภาคย์ เฉลิมพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฎ ว่า “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ๘ ทรี่ ะลกึ พธิ เี ปดิ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อำ�เภอพระพทุ ธบาท จังหวัดสระบุรี
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราช กมุ าร”ี นบั เปน็ สมเดจ็ เจา้ ฟา้ หญงิ พระองค์ แรก ท่ีทรงดำ�รงฐานันดรศักดิ์ที่ “สยาม บรมราชกมุ าร”ี แหง่ พระบรมราชจกั รวี งศ์ พระองค์มีพระปรีชาสามารถใน หลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ทางด้าน อักษรศาสตร์และดนตรีไทย ซึ่งพระองค์ ได้นำ�มาใช้ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และ ให้การอุปถัมภ์ในด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ จากพระราชกรณียกิจในด้านศิลปวัฒนธรรมน้ี พระองค์ จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาว่า “เอกอัครราชูปถัมภก มรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วศิ ษิ ฎศิลปิน” นอกจากน้ี พระองคย์ งั ทรงประกอบพระราชกรณยี กจิ ในดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ดา้ นการศกึ ษา การพฒั นา สังคม โดยทรงมีโครงการในพระราชดำ�ริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการ ซึ่งโครงการในระยะเร่ิมต้นน้ัน มุ่งเน้นทางด้านการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิ่นทุรกันดาร และพัฒนามาสู่การให้ ความส�ำ คญั ทางดา้ นการศึกษาเพ่ือการพฒั นาราษฎร ๙
พระราชประวัติ ๙ ๑๐ ท่รี ะลกึ พธิ เี ปดิ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จังหวดั สระบรุ ี
การศึกษา ๑๑
เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๐๑ พระองค์ทรงเร่ิมเข้ารับการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียน จิตรลดาซ่ึงต้ังอยู่ภายใน พระตำ�หนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และทรงศึกษาต่อ ในโรงเรยี นจติ รลดาจนถึงระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย และในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ก็ทรงสอบไล่ จบชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย ในแผนกศลิ ปะ ด้วยคะแนนสูงสดุ ของประเทศ หลังจากน้ัน พระองค์ทรงสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ณ คณะ อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั โดยสามารถท�ำ คะแนนสอบเอนทรานซเ์ ปน็ อันดบั ๔ ของประเทศ ซึ่งถือเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรกที่ทรงเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ในประเทศ จนกระทั่ง ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ พระองคท์ รงส�ำ เรจ็ การศกึ ษาปรญิ ญาอกั ษรศาสตร บัณฑติ สาขาประวตั ศิ าสตร์ เกียรตินิยมอนั ดับหนึง่ เหรยี ญทอง ด้วยคะแนนเฉลย่ี ๓.๙๘ พระองค์ทรงเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านจารึกภาษาตะวันออก (ภาษา สันสกฤตและภาษาเขมร) ณ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และสาขาภาษาบาลี และสันสกฤต จากภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระหวา่ งนน้ั มพี ระราชกรณยี กจิ มากจนท�ำ ใหไ้ มส่ ามารถท�ำ วทิ ยานพิ นธใ์ นระดบั ปรญิ ญาโท ไดพ้ รอ้ มกนั ทงั้ ๒ มหาวทิ ยาลยั พระองคจ์ งึ ตดั สนิ พระทยั เลอื กท�ำ วทิ ยานพิ นธเ์ พอื่ ใหส้ �ำ เรจ็ การศึกษาที่คณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปกรก่อน โดยทรงทำ�วิทยานิพนธ์หัวข้อเรื่อง “จารกึ พบทป่ี ราสาทพนมรงุ้ ” ทรงส�ำ เรจ็ การศกึ ษาปรญิ ญาศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ หลงั จาก นัน้ พระองค์ทรงท�ำ วิทยานิพนธ์ หัวข้อเร่ือง “ทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาท” ทรงส�ำ เรจ็ การศกึ ษาปรญิ ญาอกั ษรศาสตรมหาบณั ฑติ จากคณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ๑๒ ท่ีระลกึ พิธีเปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อำ�เภอพระพุทธบาท จงั หวัดสระบรุ ี
พระองคท์ รงเขา้ ศกึ ษาตอ่ ในระดบั ปรญิ ญาเอก ณ คณะ ศึกษาศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และทรงเป็น นิสิตปริญญาการศึกษาดุษฏีบัณฑิต สาขาพัฒนศึกษาศาสตร์ รุ่นที่ ๔ พระองค์ทรงทำ�วิทยานิพนธ์ในหัวข้อเรื่อง “การพัฒนา นวตั กรรมเสรมิ ทกั ษะการเรยี นการสอนภาษาไทยส�ำ หรบั นกั เรยี น ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย” เน่ืองจากพระองค์ทรงตระหนักว่า สภาพการเรียนการสอนภาษาไทยน้ันมปี ญั หา เพราะนักเรยี นไม่ คอ่ ยสนใจเรียนภาษาไทย มคี วามรู้ ความสามารถ ทักษะในการ เขา้ ใจและใชภ้ าษาไมเ่ พยี งพอ พระองคจ์ งึ ทรงน�ำ เสนอวธิ กี ารสอน ภาษาไทยในลกั ษณะนวตั กรรมเสรมิ ทกั ษะการเรยี นการสอน เพอ่ื ส่งเสริมความสนใจในการเรียนภาษาไทยของนักเรียน และเป็น สอ่ื ทจ่ี ะชว่ ยใหค้ รสู อนภาษาไทยไดง้ า่ ยขน้ึ พระองคท์ รงสอบผา่ น วทิ ยานพิ นธอ์ ยา่ งยอดเยย่ี ม สภามหาวทิ ยาลยั อนมุ ตั ใิ หท้ รงส�ำ เรจ็ การศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาเอก เมอื่ วนั ท่ี ๑๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ๑๓
๑๔ ท่ีระลกึ พธิ ีเปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี
พระอจั ฉรยิ ภาพในดา้ นต่างๆ ๑๕
ดพร้าะอนจั กฉราิยภราศพึกษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เม่ือพระองค์ทรงสำ�เร็จการ ศึกษาในระดับอุดมศึกษาแล้ว ทรงเข้ารับราชการเป็นพระอาจารย์ประจำ�กองวิชากฎหมาย และสังคมศาสตร์ ส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตามคำ�กราบบังคม ทูลเชิญของพลตรียุทธศักด์ิ คล่องตรวจโรค ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในขณะนั้น ทรงสอนวิชาประวัติศาสตร์ไทยและสังคมวิทยา พระองค์จึงทรงเป็น “ทลู กระหมอ่ มอาจารย์” ส�ำ หรับนกั เรยี นนายรอ้ ยตงั้ แต่นน้ั ต่อมาเม่ือมีการต้ังกองวิชาประวัติศาสตร์ ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ พระองค์ทรงดำ�รงตำ�แหน่ง เป็นผู้อำ�นวยการกองวิชาประวัติศาสตร์ และทรง ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ ส่วนการศึกษา ประจำ�โรงเรียนนายร้อยพระ จลุ จอมเกลา้ เมอื่ วันที่ ๒ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๒๙ และ เป็นศาสตราจารย์ส่วนการศึกษา ประจำ�โรงเรียน นายรอ้ ยพระจลุ จอมเกลา้ (อตั ราจอมพล) เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ นอกจากน้ี พระองค์ยังได้ทรงรับเชิญเป็น พระอาจารย์สอนในสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ๑๖ ทร่ี ะลกึ พิธเี ปดิ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อำ�เภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบรุ ี
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ เมื่อคร้ังที่พระองค์เสด็จฯ เยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวคร้ังแรกระหว่าง วันท่ี ๑๕-๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาค ทุนทรัพย์โดยเสด็จพระราชกุศลเป็นเงิน ๑๒ ล้านกีบ จึงทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำ�เงินไปก่อสร้างเรือนนอน ให้แก่โรงเรียนวัฒนธรรมเด็กกำ�พร้า (หลัก ๖๗) ซ่ึงอยู่ห่าง จากนครหลวงเวยี งจนั ทนไ์ ปทางทศิ เหนอื ประมาณ ๖๗ กโิ ลเมตร พระราชทานช่อื วา่ “อาคารสริ ินธร” ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ทรงพระราชดำ�ริพระราชทาน ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ร า ช อ า ณ า จั ก ร กั ม พู ช า ใ น ก า ร ก่ อ ตั้ ง วิทยาลัยกำ�ปงเฌอเตียล ณ จังหวัดกำ�ปงธม ราชอาณาจักร กัมพูชา โดยพระราชทานเงินค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคาร สถานท่ีต่าง ๆ และเสด็จฯ ไปทรงเปิดวิทยาลัยเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนแกน่ ักเรยี นเพอื่ ให้มาศึกษาต่อในประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ พระองค์ทรงมแี นวความคิด จัดตั้งโครงการพัฒนานักอักษรศาสตร์รุ่นใหม่ขึ้น โดยความร่วมมือของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้าง นักอักษรศาสตร์ที่มีมุมมองและแนวคิดใหม่เพื่อเป็น กำ�ลังของชาติ มีพระวิสัยทัศน์ก้าวไกลทรงสนับสนุน การชว่ ยเหลอื โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานสุ รณ์ ใหเ้ ปน็ โรงเรยี น ผลติ นกั วิจยั นกั วทิ ยาศาสตร์ สร้าง “องค์ความรู้” ใหแ้ ก่ ประเทศไทย ๑๗
ดพร้าะอนัจกฉราิยภราศพึกษานอกโรงเรียน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงสนพระทัยการอ่านและการพัฒนาห้องสมุดทรง รับสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ ไว้ในพระราชูปถัมภ์ เม่ือวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๙ หลายโอกาสท่ีเสด็จ พระราชดำ�เนินต่างประเทศ ได้เสด็จเย่ียมและทรงดูงาน ห้องสมุดช้ันนำ�หลายแห่ง ซึ่งได้พระราชทานข้อแนะนำ� แก่สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ และบรรณารักษ์ ไทยในการนำ�ความรู้ไปพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนและห้อง สมุดประชาชน รวมท้ังห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี ท่ีเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนในการ พัฒนาการรู้หนังสือ นอกจากน้ียังทรงพระกรุณาเสด็จ พระราชด�ำ เนนิ เปน็ องคป์ ระธานในการประชมุ สามญั ประจ�ำ ปีของสมาคมหอ้ งสมดุ แหง่ ประเทศไทยฯเสมอมา รวมท้งั ได้ เสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ แทนพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นประธานในโอกาสที่ประเทศไทย เปน็ เจา้ ภาพการประชมุ สมาพนั ธส์ มาคมหอ้ งสมดุ นานาชาติ (IFLA) และมีพระราชดำ�รสั เปดิ การประชุม IFLA ครัง้ ท่ี ๖๕ ทีก่ รุงเทพมหานครในปี ค.ศ. ๑๙๙๙ ๑๘ ทีร่ ะลึกพิธเี ปิดหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพทุ ธบาท จังหวัดสระบรุ ี
พระราชดำ�ริที่มีคุณูปการย่ิงต่อการศึกษา และการเสริม สร้างวัฒนธรรมของชาติอีกประการหน่ึงก็คือ การที่พระองค์ทรง แนะนำ�ให้มีการพัฒนาห้องสมุดให้เป็นแหล่งวิทยาการสำ�หรับการ ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ที่หลากหลาย ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของ สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ ทรงเสนอ แนะแนวพระราชดำ�ริ เรื่องการจัดสภาพสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน การส่งเสริมจัดต้ังวงดนตรีพื้นเมือง วงดนตรีไทย เพ่ือให้เยาวชน ได้ใกล้ชิดกับศิลปะด้ังเดิมที่สืบทอดมาจากมรดกภูมิปัญญา ของบรรพบุรุษไทย ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นห้องสมุดท่ีมีคุณค่า เกิดขนึ้ มากมาย เชน่ ห้องสมดุ เฉลมิ พระเกยี รติต่างๆ และหอ้ งสมุด ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” ทม่ี อี ยหู่ ลายจงั หวัดในประเทศไทย นอกจากนี้ การดำ�เนินงานโครงการตามพระราชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการ ศึกษานอกโรงเรยี น ถ้าทอ้ งถ่ินใดยังไมม่ ีสถานศกึ ษาก็จะเข้าไปรวม กลุ่มเด็กในพ้ืนที่ แล้วจัดต้ังเป็นศูนย์การเรียนชุมชน ได้ดำ�เนินการ ในศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” และศูนย์ การเรียนชุมชนชาวไทยมอแกน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในสังกัดสำ�นักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั จำ�นวน ๒๘๐ แหง่ ๑๙
ดพร้าะอนัจภฉราิยภษาพา ๒๐ ที่ระลกึ พิธีเปิดหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” อำ�เภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบุรี
พระองค์ทรงมีความรู้ทางด้านภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร ทรงสามารถ รับส่ังเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาฝร่ังเศส และภาษาจีน ทรงกำ�ลังศึกษาภาษาเยอรมัน และภาษา ลาตนิ อกี ด้วย ขณะทท่ี รงพระเยาวน์ ้นั สมเด็จพระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงสอนภาษา ไทยแก่พระราชโอรสและพระราชธิดา โดยทรงอ่านวรรณคดีเร่ืองต่างๆ พระราชทาน และทรงให้ พระองค์ทรงคดั บทกลอนต่าง ๆ หลายตอน ท�ำ ใหพ้ ระองค์โปรดวชิ าภาษาไทยตัง้ แตน่ ัน้ มา นอกจาก น้ี ยังทรงสนพระทยั ในภาษาอังกฤษและภาษาบาลดี ้วย เมอื่ พระองคท์ รงเขา้ เรยี นทโ่ี รงเรยี นจติ รลดานนั้ ทรงไดร้ บั การถา่ ยทอดความรทู้ างดา้ นภาษา ทงั้ ภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาเขมร ภาษาองั กฤษ และภาษาฝรง่ั เศส โดยภาษาไทยนนั้ พระองคท์ รง เช่ียวชาญทั้งด้านหลักภาษา วรรณคดี และศิลปะไทย เมื่อทรงจบช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น พระองค์ พอรแู้ นว่ า่ อย่างไรกค็ งไม่ได้เรยี นแผนกวิทยาศาสตร์ จงึ พยายามหดั เรียนภาษาบาลี อา่ นเขียนอกั ษร ขอม เนอ่ื งจากในสมัยนน้ั ผูท้ จี่ ะเรยี นภาษาไทยใหก้ ว้างขวาง ลกึ ซึ้ง จะตอ้ งเรียนทง้ั ภาษาบาลี ภาษา สันสกฤต และภาษาเขมร ซงึ่ ภาษาบาลนี น้ั เปน็ ภาษาทพี่ ระองคส์ นพระทยั ตง้ั แตท่ รงพระเยาว์ แตไ่ ดเ้ รมิ่ เรยี น อยา่ งจรงิ จงั ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย และเขา้ พระทยั โครงสรา้ งและลกั ษณะทวั่ ไปของ ภาษาบาลีได้ นอกจากนี้ ยังทรงเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศสแทนการเรียนเปียโน เน่ืองจากมี พระราชประสงคท์ จี่ ะอ่านหนงั สอื ภาษาฝรง่ั เศสท่ีมอี ยใู่ นตู้หนงั สอื มากกวา่ การซ้อมเปยี โน เมอ่ื ทรงเขา้ ศกึ ษา ณ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั นน้ั พระองคท์ รง เลอื กเรยี นสาขาประวตั ศิ าสตรเ์ ปน็ วชิ าเอก และวชิ าภาษาไทย ภาษาบาลี และภาษาสนั สกฤต เป็นวิชาโท ทำ�ให้ทรงศึกษาวิชาภาษาไทยในระดับช้ันสูงและละเอียดลึกซ้ึงยิ่งขึ้น ทั้งด้าน ภาษาและวรรณคดี สว่ นภาษาบาลแี ละภาษาสนั สกฤตนน้ั ทรงศึกษาท้งั วธิ ีการแบบดงั้ เดมิ ของไทยคือ แบบท่ีเรียนกันในพระอารามต่าง ๆ แบบภาษาศาสตรซ์ ่ึงเป็นวธิ กี ารแบบตะวัน ตก และเรยี นตามวธิ กี ารอนิ เดยี โบราณเปน็ พเิ ศษในระดบั ปรญิ ญาโท ซงึ่ รฐั บาลอนิ เดยี ไดส้ ง่ ศาสตราจารย์ ดร. สตั ยพรต ศาสตรี มาถวายพระอกั ษรภาษาสันสกฤต โดยวทิ ยานพิ นธใ์ น ระดบั ปรญิ ญาโทของพระองค์ เรอื่ ง ทศบารมใี นพทุ ธศาสนาเถรวาท นน้ั ยงั ไดร้ บั การยกยอ่ ง จากมหามกุฏราชวิทยาลัยว่า เป็นวิทยานิพนธ์ท่ีแสดงถึงพระปรีชาสามารถ ในภาษาบาลี พุทธวจนะเป็นพเิ ศษ พระปรีชาสามารถทางด้านภาษาของพระองค์น้ันเป็นที่ประจักษ์ จึงได้รับการทูล เกลา้ ถวายปรญิ ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดท์ิ างดา้ นภาษาจากมหาวทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ ทง้ั ในและ ตา่ งประเทศ ๒๑
ดพรา้ ะอนัจพฉรริยภะารพาชนิพนธ์ พระองค์โปรดการอ่านหนังสือและการเขียนมาต้ังแต่ทรงพระเยาว์ และ ด้วยพระปรีชาสามารถทางด้านภาษา ทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ ร้อยแก้วและ รอ้ ยกรอง ดงั นน้ั จงึ ทรงพระราชนพิ นธห์ นงั สอื ประเภทตา่ ง ๆ ออกมามากกวา่ ๑๐๐ เล่ม ซึ่งมีหลายหลากประเภททั้งสารคดีท่องเท่ียวเมื่อเสด็จพระราชดำ�เนินเยือน ตา่ งประเทศ เชน่ เกลด็ หมิ ะในสายหมอก ทศั นะจากอนิ เดยี มนตร์ กั ทะเลใต้ เปน็ ตน้ ประเภทวิชาการและประวัติศาสตร์ เช่น บันทึกเรื่องการปกครองของไทยสมัย อยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์ กษัตริยานุสรณ์ เป็นต้น หนังสือสำ�หรับเยาวชน เช่น แก้วจอมแก่น แก้วจอมซน เป็นต้น หนังสือที่เก่ียวข้องกับพระบรมวงศานุวงศ์ไทย เช่น สมเด็จแม่กับการศึกษา สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนีกับพระราชกรณียกิจ เป็นต้น พระราช จริยาวัตรด้านการศึกษาประเภทพระราชนิพนธ์แปล เช่น หยกใสร่ายคำ� ความคิดคำ�นึง เก็จแก้วประกายกวี เป็นต้น และหนังสือท่ัวไป เช่น นิทานเร่ืองเกาะ (เร่ืองนี้ ไมม่ ีคติ) เรอ่ื งของคนแขนหกั เป็นตน้ และมลี ักษณะการ เขียนที่คล้ายคลึงกับพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กล่าวคือ ในพระราชนิพนธ์ เร่ืองต่าง ๆ นอกจากจะแสดงพระอารมณ์ขันแล้ว ยัง ทรงแสดงการวพิ ากษ์ วจิ ารณใ์ นแงต่ า่ ง ๆ เป็นการแสดง พระมติส่วนพระองค์ ๒๒ ทีร่ ะลึกพิธเี ปดิ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวัดสระบรุ ี
นอกจากพระนาม “สิรินธร” แล้ว พระองค์ยังทรงใช้นามปากกาในการพระราชนิพนธ์หนังสือ อีก ๔ พระนาม ได้แก่ “ก้อนหินก้อนกรวด” เป็นพระนามแฝงที่ทรงหมายถึง พระองค์และพระสหาย สามารถแยกไดเ้ ปน็ กอ้ นหนิ หมายถงึ พระองค์เอง ส่วนก้อนกรวด หมายถงึ กณุ ฑกิ า ไกรฤกษ์ พระองค์ มีรบั ส่ังถึงพระนามแฝงนวี้ า่ “เราตัวโตเลยใชว้ ่า กอ้ นหนิ หวานตวั เล็ก เลยใช้ว่า กอ้ นกรวด รวมกันจึงเป็น ก้อนหิน-ก้อนกรวด” นามปากกานี้ ทรงใช้คร้ังเดียวตอนประพันธ์บทความ “เรื่องจากเมืองอิสราเอล” เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๐ “แวน่ แกว้ ” เปน็ ชอ่ื ทพี่ ระองคท์ รงตง้ั ขนึ้ เอง ซงึ่ พระองคม์ รี บั สง่ั ถงึ พระนามแฝงนวี้ า่ “ชอื่ แวน่ แกว้ นี้ตั้งเอง เพราะตอนเด็ก ๆ ช่ือลูกแก้ว ตัวเองอยากช่ือแก้ว ทำ�ไมถึงเปล่ียนไปไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็ชอบ เพลงน้อยใจยา นางเอกชื่อ แว่นแกว้ ” พระนามแฝง แว่นแก้วน้ี พระองค์เรมิ่ ใชเ้ มอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ เม่อื ทรง พระราชนพิ นธ์และทรงแปลเรือ่ งสำ�หรับเดก็ ไดแ้ ก่ แกว้ จอมซน แกว้ จอมแกน่ และขบวนการนกกางเขน “หนนู อ้ ย” พระองคม์ รี บั สง่ั ถงึ พระนามแฝงนว้ี า่ “เรามชี อ่ื เลน่ ทเี่ รยี กกนั ในครอบครวั วา่ นอ้ ย เลย ใช้นามแฝงว่า หนนู ้อย” โดยพระองค์ทรงใช้เพียงคร้งั เดียวในบทความเรอื่ ง “ปอ๋ งทรี่ กั ” ตีพิมพ์ในหนงั สอื ๒๕ ปี จติ รลดา เม่อื ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ และ “บันดาล” พระองคม์ ีรบั ส่งั ถงึ พระนามแฝงน้ีว่า “ใชว้ ่า บนั ดาล เพราะค�ำ นี้ผดุ ขึ้นมาในสมอง เลยใช้เป็นนามแฝง ไมม่ ีเหตผุ ลอะไรในการใช้ชื่อน้ีเลย” ซ่งึ พระองค์ทรงใชใ้ น งานแปลภาษาองั กฤษเปน็ ภาษาไทยทท่ี รงท�ำ ใหส้ �ำ นกั เลขาธกิ ารคณะกรรมการแหง่ ชาติ วา่ ด้วยการศกึ ษา วทิ ยาศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ นอกจากนี้ ยังทรงพระราชนิพนธ์เพลงเป็นจำ�นวนมาก โดยบทเพลงที่ดังและนำ�มาขับร้อง บ่อยครั้ง ได้แก่ เพลงส้มตำ� รวมท้ัง ยังทรงประพันธ์คำ�ร้องในบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช ได้แก่ เพลงรัก และ เพลงเมนไู ข่ ๒๓
ดพรา้ ะอนัจดฉรนิยภตาพรี พระองค์ทรงเป็นผู้เช่ียวชาญด้านดนตรีไทยผู้หน่ึง โดยทรงเคร่ืองดนตรีไทยได้ทุกชนิด แต่ที่โปรดทรงอยู่ประจำ� คือ ระนาด ซอ และฆ้องวง โดยเฉพาะระนาดเอก พระองค์ ทรงเร่ิมหัดดนตรีไทย ในขณะที่ทรงศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๒ โรงเรียนจิตรลดา ทรงเลือกหัดซอด้วงเป็นเครื่องดนตรี ช้ินแรก และได้ทรงดนตรีไทยในงานปิดภาคเรียนของโรงเรียน รวมทั้งงานวันคืนสู่เหย้าร่วมกับวงดนตรีจิตรลดาของโรงเรียน จิตรลดาดว้ ย ๒๔ ท่รี ะลกึ พธิ เี ปดิ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบุรี
หลงั จากทที่ รงเขา้ ศกึ ษาในระดบั อดุ มศกึ ษา ณ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย พระองค์ทรงเข้าร่วมชมรมดนตรีไทยของสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยและคณะอักษรศาสตร์ โดยทรงเล่นซอด้วงเป็นหลัก และทรงเร่ิมหัดเล่น เครอ่ื งดนตรไี ทยชิ้นอืน่ ๆ ด้วย ในขณะที่ทรงพระเยาว์ เคร่ืองดนตรีที่ทรงสนพระทัยน้ัน ได้แก่ ระนาดเอก และซอสามสาย ซ่ึงพระองค์ทรงเริ่มเรียนระนาดเอกอย่างจริงจังเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๘ หลังจากการเสด็จทรงดนตรีไทย ณ บ้านปลายเนิน ซึ่งเป็นวังของสมเด็จพระเจ้าบรม วงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ จติ รเจรญิ กรมพระยานรศิ รานวุ ดั ตวิ งศ์ โดยมี สริ ชิ ยั ชาญ พกั จ�ำ รญู เปน็ พระอาจารย์ ทรงเร่ิมเรียนต้ังแต่การจับไม้ระนาด การตีระนาดแบบต่างๆ และท่าที่ ประทับขณะทรงระนาด และทรงเร่ิมเรียนการตีระนาดตามแบบแผนโบราณกล่าว คือ เร่ิมต้นด้วยเพลง ตน้ เพลงฉ่ิงสามช้นั แลว้ จึงทรงต่อเพลงอ่ืนๆ ตามมา ทรงทำ�การ บ้านด้วยการไล่ระนาดทุกเช้า หลังจากบรรทมต่ืนภายในห้องพระบรรทม จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๒๙ พระองค์จึงทรงบรรเลงระนาดเอกร่วมกับครูอาวุโสของวงการดนตรี ไทยหลายท่านต่อหน้าสาธารณชนเป็นคร้ังแรกในงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ ๑๗ ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเพลงทที่ รงบรรเลง คือ เพลงนกขมนิ้ (เถา) นอกจากดนตรีไทยแล้ว พระองค์ยังทรงดนตรี สากลดว้ ย โดยทรงเรมิ่ เรยี นเปยี โนตงั้ แตพ่ ระชนมายุ ๑๐ พรรษา แต่ได้ทรงเลิกเรียนหลังจากน้ัน ๒ ปี และทรง ฝึกเครื่องดนตรีสากล ประเภทเคร่ืองเป่า จากพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนสามารถ ทรงทรัมเปตนำ�วงดุริยางค์ในงานคอนเสิร์ตสายใจไทย และทรงระนาดฝรง่ั น�ำ วงดรุ ยิ างคใ์ นงานกาชาดคอนเสริ ต์ ๒๕
ดพรา้ ะอนจั กฉราิยภราอพนรุ กั ษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย พระองค์ทรงสนพระทัยด้านศิลปวัฒนธรรมมา ต้ังแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยเฉพาะทางด้านดนตรีไทย ซ่ึง พระองคท์ รงสนบั สนนุ ในการอนรุ กั ษ์ สบื ทอด เผยแพรค่ วามรู้ ด้านดนตรีไทยอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยทรงเป็นแบบ อย่างในการเสด็จทรงเคร่ืองดนตรีไทยร่วมกับประชาชน ท้ังในและตา่ งประเทศ นอกจากน้ี ยังทรงอนุรักษ์ดนตรีไทยโดยการชำ�ระ โน้ตเพลง บันทึกเพลงเก่า และเผยแพร่งานเหล่านั้นอย่าง ตอ่ เนื่อง และสง่ เสริมใหส้ ถาบนั การศึกษาต่าง ๆ จดั การเผย แพร่งานทางด้านดนตรีไทย ซึ่งจากงานทางด้านการอนุรักษ์ ดนตรไี ทย ครูเสรี หวงั ในธรรม ไดก้ ลา่ วไว้ว่า “ดนตรไี ทยไม่ สนิ้ แลว้ เพราะพระทลู กระหมอ่ มแกว้ เอาใจใส”่ นอกจากดา้ น ดนตรไี ทยแลว้ พระองคย์ งั ประกอบพระราชกรณยี กจิ มากมาย เพอื่ การอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาศลิ ปวฒั นธรรมไทยทง้ั ในดา้ น การ ช่างไทย นาฎศิลป์ไทย งานพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์และ โบราณสถาน ภาษาและวรรณกรรมไทย พระองค์ได้รับการ ทูลเกลา้ ฯ ถวายพระสมญั ญาวา่ “เอกอัครราชปู ถมั ภกมรดก วฒั นธรรมไทย” เม่อื พ.ศ. ๒๕๓๑ และ “วศิ ิษฏศิลปิน” เมือ่ วันท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ เพ่ือเทิดพระเกียรติ ๒๖ ที่ระลกึ พิธีเปดิ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อำ�เภอพระพุทธบาท จงั หวดั สระบรุ ี
ท่ีพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในศิลปะหลายสาขา รวมท้ัง ทรงมคี ุณปู การตอ่ เหลา่ ศิลปนิ และศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ คณะรัฐมนตรีซ่ึงมี ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำ�รงต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรใี นขณะนนั้ ไดม้ มี ตใิ หว้ นั ท่ี ๒ เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์เป็น “วันอนุรักษ์ มรดกของชาติ” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติที่พระองค์ทรงปฏิบัติ พระราชกรณียกิจในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติในสาขาต่าง ๆ เป็นจ�ำ นวนมาก ๒๗
ดพร้าะอนจั เฉทริยคภาโพนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา พระองคท์ รงตระหนกั ในพระราชหฤทยั วา่ การศกึ ษานน้ั คอื การพฒั นาประเทศอยา่ งยงั่ ยนื โครงการ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การศกึ ษาของโรงเรยี นในชนบท (ทสรช.) จงึ เปน็ โครงการตามพระราชด�ำ รทิ เี่ กดิ ขน้ึ ในเวลาใกล้เคียง กับโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยาม บรมราชกุมารี เมื่อปลายปีพุทธศักราช ๒๕๓๘ กระทั่งปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ จำ�นวน ๘๕ แห่ง ต่อมาทรงพระราชทานใหข้ ยายการด�ำ เนินงานไปยงั กลุ่มโรงเรยี นเอกชนสอนศาสนาอสิ ลาม ๑๕ แห่ง ในภาคใต้ และกลุ่มโรงเรียนพระปริยตั ิธรรมใน ๔ จงั หวัดภาคเหนือ พระองค์มีพระราชดำ�ริให้นำ�เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาประเทศหลายประการ โดยมพี ระราชด�ำ รใิ หโ้ ครงการตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นน้ั เปน็ โครงการน�ำ รอ่ งและใชเ้ ปน็ ตวั อยา่ งในการใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ โดยพระราชทานเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ท่ีจำ�เป็นเพื่อจัดต้ังเป็นห้องเรียน ข้ึน และพัฒนามาจนสามารถนำ�เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประกอบการเรียนการสอนในรายวิชา ต่าง ๆ โดยมีโรงเรียนในจังหวัดนครนายกเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเพื่อนำ�แนวทางใหม่ ๆ ไปทดลองใช้กับ โรงเรียนในชนบท และทรงริเริ่มโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือคนพิการ เพื่อให้คนพิการสามารถใช้ คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างความรู้ ความบันเทิง พัฒนาทักษะ และสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต พระองค์ทรงมี คณะท�ำ งานทจ่ี ะศกึ ษาวจิ ยั เพอ่ื หาอปุ กรณท์ างเทคโนโลยแี ละวธิ กี ารชว่ ยเหลอื ผพู้ กิ าร ซง่ึ โครงการนม้ี โี รงเรยี น ศรสี งั วาลยเ์ ปน็ หนว่ ยงานหลกั นอกจากน้ี โครงการเทคโนโลยสี ารสนเทศตามพระราชด�ำ รนิ ี้ ยงั เพมิ่ โอกาสให้ ผู้ต้องขังในทัณฑสถานได้รับการอบรมและฝึกทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ระหว่างการถูกคุมขัง ๒๘ ที่ระลกึ พธิ เี ปดิ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จังหวัดสระบุรี
เพื่อสามารถนำ�ความรู้ที่ได้รับนำ�ไป พัฒนาตนเองและนำ�ไปประกอบอาชีพ ได้ นอกจากน้ี พระองคย์ งั น�ำ เทคโนโลยี สารสนเทศมาใชก้ บั งานทางดา้ นการเผย แพร่วัฒนธรรมของไทย ๗๖ จังหวัด ผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยมีกระทรวง วัฒนธรรมเป็นผ้ดู ูแลโครงการนี้ จากพระราชกรณียกิจทาง ด้านการนำ�เทคโนโลยีสารสนเทศมา ใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ท�ำ ใหว้ ารสารอนิ โฟแชร์ ซง่ึ เปน็ วารสาร ของส�ำ นกั งานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่ือสารของยูเนสโก ได้ตีพิมพ์ บทความเฉลิมพระเกียรติการอุทิศ พระองค์เพ่ือการศึกษาเรียนรู้ด้าน สารสนเทศของเด็กและผู้ด้อยโอกาส ของไทย รวมทั้งยังได้ถวายพระนาม “IT Princess” หรือ “เจ้าหญิง ไอที” แก่พระองค์อีกดว้ ย ๒๙
ดพรา้ ะอนจั กฉราิยภราศพึกษาดูงาน พระองค์ได้เสด็จพระราชดำ�เนินเยือนต่างประเทศเป็นคร้ังแรกเม่ือคราวท่ีพระบาท สมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชและสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ ฯ เยอื นสหรฐั อเมรกิ าและประเทศในยุโรปอย่างเป็นทางการ ระหว่าง ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ ใน ขณะท่ีมีพระชนมายุ ๕ พรรษา หลังจากน้ัน พระองค์ก็เสด็จพระราชดำ�เนินเยือนต่างประเทศ เปน็ จ�ำ นวนหลายครัง้ โดยการเสดจ็ ฯ น้นั พระองคเ์ สดจ็ ฯ ท้งั ในฐานะผแู้ ทนพระองค์ พระราช อาคันตุกะหรืออาคันตุกะของรัฐบาลประเทศต่างๆ อย่างเป็นทางการ รวมทั้งเสด็จฯ เป็นการ ส่วนพระองค์ ซึ่งนอกจากจะทรงงานเพ่ือเช่ือมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศแล้ว พระองค์ ยังเสด็จฯ ทอดพระเนตรสังคม วฒั นธรรม สถานท่ีตา่ งๆ และทรงไดแ้ ลกเปล่ียนความคิดเห็นกับ ผเู้ ชย่ี วชาญในสาขาตา่ งๆ ของประเทศนนั้ ๆ และไดท้ รงน�ำ ความรแู้ ละประสบการณท์ ท่ี รงไดท้ อด พระเนตรและจดบนั ทกึ มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การทรงงานภายในประเทศดว้ ย ซง่ึ การเสดจ็ ฯ ทรงงาน ในต่างประเทศของพระองค์ทำ�ใหห้ นงั สือพมิ พฝ์ รงั่ เศสถวายพระราชสมัญญานามแด่พระองคว์ ่า “เจ้าฟ้านักดูงาน” หรือ “Le Princesse Stagiaire” รวมท้ังพระองค์ยังได้รับการยกย่องจาก สมาคมมติ รภาพวเิ ทศสมั พนั ธแ์ หง่ ประชาชนจนี วา่ ทรงเปน็ “ทตู สนั ถวไมตร”ี ระหวา่ งประเทศไทย และประเทศจนี เมอ่ื วันที่ ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ ๓๐ ที่ระลึกพธิ ีเปดิ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อ�ำ เภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
พระองค์ทรงร่วมมือกับนานาประเทศเพ่ือก่อเกิด ความร่วมมือในด้านการพัฒนาสังคม อาทิเช่น ความร่วมมือ ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน ลาว ซงึ่ พระองคไ์ ดท้ รงมโี ครงการตามพระราชด�ำ รทิ งั้ ในดา้ นการ พัฒนาคุณภาพชีวิต การให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์และ การสาธารณสขุ การพฒั นาทางดา้ นการศกึ ษา เปน็ ตน้ นอกจาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวแล้ว โครงการเพ่ือการ พัฒนาของพระองค์ยังได้ขยายออกไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐสังคมนิยม เวยี ดนามด้วย นอกจากนี้ พระองคย์ งั ทรงรว่ มมอื กบั องคก์ ารระหวา่ ง ประเทศ ไดแ้ ก่ ความรว่ มมอื กบั องคก์ ารสหประชาชาติ พระองค์ ทรงให้ความร่วมมือในโครงการอาหารในโรงเรียน ซึ่งเป็น โครงการของโครงการอาหารโลกแห่งองค์การสหประชาชาติ โดยได้แต่งต้ังให้พระองค์เป็นทูตพิเศษของโครงการด้วย โครงการการศึกษาเพ่ือทุกคน เป็นโครงการด้านการส่งเสริม ศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย ด้วยการศึกษาและอนุรักษ์ มรดกทางวัฒนธรรม ซ่ึงเป็นโครงการขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมฯ รวมทั้ง โครงการการศึกษาหลัง ประถมศึกษาสำ�หรับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น โดยมูลนิธิการศึกษา เพอ่ื ผลู้ ภี้ ยั ส�ำ นกั งานขา้ หลวงใหญเ่ พอ่ื ผลู้ ภี้ ยั แหง่ สหประชาชาติ ๓๑
๓๒ ท่ีระลกึ พธิ ีเปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี
พระราชกรณยี กิจ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในพื้นทีจ่ ังหวดั สระบุรี ๓๓
โครงการพัฒนาพน้ื ที่บรเิ วณวดั มงคลชัยพัฒนา ตำ� บลห้วยบง อ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวัดสระบรุ ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระราชด�ำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดซื้อที่ดินท่ีบริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา จังหวัดสระบุรี เพ่ือจัดท�ำเป็นแปลงสาธิตทางด้านการเกษตร ให้เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้ และน�ำกลับไปท�ำในพ้ืนที่ของตัวเอง โดยมีการจัดซื้อท่ีดิน และมีราษฎร รว่ มนอ้ มเกล้าฯ ถวาย รวมทัง้ ส้นิ ๓๒-๐-๔๗ ไร่ เมื่อวันท่ี ๑๖ ธันวาคม ๒๕๓๑ ได้พระราชทานพระราชด�ำริ กับนายจริย์ ตุลยานนท์ อธิบดีกรมชลประทาน ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา ให้พิจารณาวางโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้�ำห้วยหินขาว ซ่ึงกรมชลประทานได้สนองพระราชด�ำริการก่อสร้างอ่างเก็บน้�ำในพื้นที่ ประมาณ ๒๖๐ ไร่ เก็บกักน้�ำได้ประมาณ ๘๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร แล้วเสร็จเม่ือปี ๒๕๓๖ ต่อมามีการก่อสร้างระบบส่งน้�ำของอ่างเก็บน�้ำ แลว้ เสรจ็ ในปี ๒๕๓๘ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ไดพ้ ระราชทานพระราชด�ำริเพิ่มเตมิ ให้จดั ทำ� โครงการขยายผลการทำ� การ เกษตรตามแนวทฤษฎใี หม่อนั เนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ ไปส่รู าษฎรโดยให้ จัดท�ำโครงการจัดส่งน้�ำไปตามท่อให้ราษฎรได้ใช้น�้ำและมีการขุดบ่อน�้ำใน แปลงทฤษฎีใหมข่ องเกษตรกร เพอ่ื ให้มีนำ�้ ไว้ใช้ประกอบอาชีพเกษตรได้ ๓๔ ทีร่ ะลึกพิธเี ปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบรุ ี
โครงการพฒั นาที่ดินมลู นิธิชัยพฒั นาบริเวณอา่ งเกบ็ นาํ้ ห้วยหินขาว ตำ�บลหว้ ยบง อำ�เภอเฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั สระบรุ ี บรษิ ทั เจรญิ โภคภณั ฑ์ จำ� กดั ไดน้ อ้ มเกลา้ ฯ ถวายทด่ี นิ จำ� นวน ๔๙๕ ไร่ ตงั้ อยทู่ อ่ี ำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั สระบรุ ี เพอ่ื ใชใ้ นการกอ่ สรา้ งอา่ งเกบ็ นำ้� หว้ ยหนิ ขาวอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ ซง่ึ เมอ่ื กอ่ สรา้ งแลว้ เสรจ็ มเี นอ้ื ทด่ี า้ นหนา้ อา่ งเกบ็ นำ�้ เหลอื อยปู่ ระมาณ ๒๐๐ ไรเ่ ศษ ตอ่ มาอำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั สระบรุ ี ขอเช่าท่ีดินด้านหน้าอ่างเก็บน้�ำฯ เพ่ือขอใช้ประโยชน์ในการปลูกดอกทานตะวัน เป็นโครงการร่วมระหว่าง ราชการกบั ราษฎรในเขตพน้ื ทอี่ ำ� เภอเฉลิมพระเกยี รติ โดยลักษณะรูปแบบสญั ญาเชา่ เป็นแบบปตี ่อปี สำ� นกั งานมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา ไดป้ ระสานขอความอนเุ คราะหใ์ ห้ ศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาการเกษตรลพบรุ ี กรมวชิ าการเกษตร ดำ� เนนิ การจัดท�ำโครงการแปลงผลิตพืชไร่ที่สามารถหารายได้จากพ้ืนท่ี ดงั กลา่ ว โดยวางแผนปลกู พชื ไรเ่ ศรษฐกจิ ในพนื้ ทป่ี ระมาณ ๑๓๐ ไร่ ทำ� การปลกู ขา้ วโพดประมาณ ๘๐ ไร่ และงาประมาณ ๕๐ ไร่ ส่วนทเ่ี หลือจะทำ� การปลกู พชื บำ� รุงดิน ๓๕
โครงการแกม้ ลิงทะเลสาบบ้านหมอ อำ�เภอบา้ นหมอ จังหวัดสระบุรี สบื เนอื่ งจากองคก์ ารบริหารสว่ นตำ� บลสร่างโศก อำ� เภอบา้ นหมอ จงั หวดั สระบุรี มหี นังสือแจง้ ความเดอื ดรอ้ นของ ราษฎรตำ� บลสร่างโศก และตำ� บลใกลเ้ คียง ซง่ึ ขาดแคลนนำ�้ อุปโภค บริโภค และน้�ำเพื่อการเกษตร ต่อมาสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ไดม้ ีพระราชกระแสในคราวประชุมคณะกรรมการมลู นธิ ิ ชัยพัฒนา เม่ือวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙ ให้ด�ำเนินการจัดท�ำแผนบริหารจัดการน�้ำในพ้ืนท่ีโครงการแก้มลิงของมูลนิธิ ชัยพัฒนา เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการน้�ำอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุดน้ัน รวมทั้งจัดท�ำแผนงานและ งบประมาณสง่ มายงั สำ� นกั งานมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา เพอ่ื พจิ ารณาดำ� เนนิ การตอ่ ไป โดยทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน พระราชานมุ ตั ใิ หด้ �ำเนินงานโครงการแกม้ ลงิ ทะเลสาบบ้านหมอ ตัง้ อยู่ทต่ี ำ� บลสรา่ งโศก อ�ำเภอบ้านหมอ จงั หวัดสระบุรี ในบริเวณบ่อปูนขาวเดิม ซึ่งบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน) มีความประสงค์ที่จะบริจาคที่ดินบางส่วน คิดเป็น พื้นที่โดยประมาณ ๙๐๐ ไร่ ให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา ทั้งน้ีเม่ือรวมพ้ืนท่ีบ่อน�้ำซ่ึงอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วน ทอ้ งถน่ิ จะท�ำให้มพี ื้นท่ดี �ำเนินงานโครงการแก้มลงิ รวมเป็นจ�ำนวนทง้ั สนิ้ ๓,๑๒๒ ไร่ และมีปรมิ าตรความจุน้�ำรวม ๔ บ่อ โดยประมาณ ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร สำ� นกั งานมลู นธิ ชิ ยั พฒั นาได้มอบหมายใหก้ รมชลประทานด�ำเนนิ การกอ่ สร้างท่อเชือ่ มระหวา่ งบ่อท่ี ๑ กบั บอ่ ท่ี ๓ เพื่อให้น�้ำท้ัง ๔ บ่อ สามารถเช่ือมถึงกันได้หมด เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการน้�ำ และเสริมคันกั้นน�้ำของบ่อ ทั้ง ๔ บ่อ เพื่อป้องกันน้�ำล้นคันก้ันน้�ำและลดการเกิดผลกระทบต่อพื้นท่ีข้างเคียง รวมท้ังจะได้พิจารณาจัดท�ำ แผนการพัฒนาพน้ื ที่โดยรอบบอ่ เพื่อประโยชน์ของราษฎรในพน้ื ทต่ี ่อไป ๓๖ ทร่ี ะลกึ พธิ ีเปิดหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวัดสระบุรี
โครงการสาธิตการทำ�นาในที่ดินของมูลนิธิชยั พฒั นา อำ�เภอหนองแค จงั หวดั สระบุรี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราโชบายในการพัฒนาที่ดิน โดยพิจารณาจากสภาพภูมิสังคม และการประกอบอาชีพของราษฎรเป็นสำ�คัญ สำ�นักงานมูลนิธิ ชยั พฒั นา จึงสนองพระราโชบายโดยนำ�โครงการสาธิตการท�ำ นาแบบชีววิธี มาทดลองใชใ้ นท่ีดนิ ของ มูลนิธิชัยพัฒนาที่มีเกษตรกรเช่าที่ดินทำ�นาอยู่ ดำ�เนินโครงการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ในการ ควบคุมศตั รพู ชื โดยชีววธิ ี ควบคกู่ ับการจดั ท�ำ แปลงเรยี นรู้ จ�ำ นวน ๒ แปลง ไดแ้ ก่ แปลงที่ใชร้ ะบบ ชวี วิธี และแปลงที่ใช้สารเคมใี นการควบคมุ ศตั รูพืช เพอ่ื ให้เกษตรกรไดเ้ ปรียบเทียบผลผลติ ขา้ ว และ เขา้ ใจในหลักการการผลติ ข้าวปลอดภยั ต่อสารพิษ โดยใชว้ ธิ ีควบคุมศตั รพู ืชโดยชีววธิ ีเปน็ หลัก สำ�นกั งานมูลนธิ ชิ ัยพฒั นารว่ มกับกรมส่งเสริมการเกษตร ด�ำ เนินงานโครงการสาธิตการทำ�นา แบบปลอดภยั จากสารพษิ ในทดี่ นิ ของมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา ในพน้ื ทจี่ งั หวดั สระบรุ ี มรี าษฎรสนใจเขา้ เปน็ สมาชกิ จำ�นวน ๒๕ ราย พบว่า เกษตรกรผูเ้ ข้าร่วมโครงการฯ ทีเ่ ข้ารบั การฝกึ อบรม มคี วามเขา้ ใจ ในเนอ้ื หาการอบรมเกยี่ วกับการทำ�เกษตรแบบปลอดสารพิษ และสามารถนำ�ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านพันธุ์ข้าว การขยายพันธุ์ข้าว รวมท้ังการลดการใช้สารเคมี เพ่ือลดอันตรายต่อสุขภาพ และเพื่อลดต้นทุนในการผลิต พร้อมท้ังได้รับความรู้จากการอบรม ที่มีประโยชน์ และสามารถนำ�มาใช้ในการทำ�งานได้จริง โดยเฉพาะอย่างย่ิงเทคโนโลยีใหม่ เช่น การปลูกขา้ วด้วยวธิ ีโยนกล้า เพื่อลดปญั หาวัชพชื ข้าว เปน็ ต้น ๓๗
ศูนยพ์ ัฒนาพนั ธ์พุ ืชจกั รพันธ์เพ็ญศิริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระราชด�ำริ ท่ีจะทรงมีเมล็ดพันธุ์พืชสะสมส�ำรองไว้ในยามที่ประเทศชาติบ้านเมืองประสบ ปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ เพราะในยามที่ประเทศชาติบ้านเมืองเกิดภาวะ วกิ ฤตจิ ากภยั ธรรมชาติ ราษฎรเดือดรอ้ น พ้ืนท่ีท�ำกินเสียหาย ในช่วงเวลาเช่นนนั้ จะเกิดความขาดแคลนขึ้น และหนึ่งในส่ิงที่ทรงพบคือ การขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ พืช ที่จะพระราชทานแก่ราษฎร เพ่ือปลูกในทันทีที่ได้รับการฟื้นฟูพ้ืนที่ จึงทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดตั้งโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช เพือ่ ผลิตเปน็ เมล็ดพันธ์ุสะสมส�ำรองไว้ เพื่อเป็นเมล็ดพนั ธพุ์ ระราชทานแกร่ าษฎร ในพื้นท่ีประสบภัยพิบัติและราษฎรท่ัวไป ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงและพัฒนา พนั ธพ์ุ ชื ใหเ้ กษตรกรไดม้ พี ชื ทม่ี สี ายพนั ธท์ุ ดี่ ี ไดผ้ ลผลติ ดี ทนทานตอ่ โรคและแมลง ตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของเกษตรกร ด้านพนั ธุ์พืช ได้ทรงมีกระแสรบั สั่งกบั นายสเุ มธ ตันตเิ วชกุล เลขาธิการมูลนธิ ชิ ัยพฒั นา ให้มูลนธิ ชิ ัยพฒั นาด�ำเนนิ การผลิต พันธุ์พืชไร่ เพื่อพระราชทานแก่ราษฎรท่ีประสบภัยพิบัติ ส�ำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้จัดต้ัง “ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพนั ธเ์ พ็ญศิริ” แหง่ ที่ ๑ ที่ต�ำบลโป่งผา อำ� เภอแมส่ าย จงั หวดั เชียงราย และไดเ้ สดจ็ พระราชด�ำเนนิ มาทรงเปดิ ศูนยฯ์ แหง่ ที่ ๑ น้ี ในวนั ท่ี ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ตอ่ มาในปี พ.ศ.๒๕๕๔ สำ� นกั งานมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา ไดจ้ ดั ตง้ั “ศนู ยพ์ ฒั นาพนั ธพ์ุ ชื จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ”ิ แหง่ ที่ ๒ จงั หวดั สระบุรี ข้ึนบนท่ีดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ต�ำบลเขาดินพัฒนา อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี มีพื้นท่ีประมาณ ๒๐๐ ไร่ และในปี พ.ศ.๒๕๕๕ ไดจ้ ดั ตั้ง “ศูนยพ์ ฒั นาพันธพุ์ ชื จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ”ิ แหง่ ที่ ๓ จงั หวดั สุรินทร์ มาโดยล�ำดบั จากการทีท่ รงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ใหม้ ูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้ง “ศนู ย์พฒั นาพันธุพ์ ชื จักรพนั ธเ์ พญ็ ศิร”ิ ผลติ เมลด็ พนั ธพ์ุ ชื สะสมสำ� รองไว้ และตอ่ ยอดถงึ การพฒั นาปรบั ปรงุ พนั ธใ์ุ หเ้ กษตรกรไดม้ พี นั ธพ์ุ ชื ทด่ี มี มี ลู คา่ และมคี ณุ ภาพ นบั เปน็ การ เริ่มต้นการเพาะปลูกโดยเช้ือพันธุ์อันเป็นมงคลยิ่ง และเม่ือปลูกเพาะเมล็ดพันธุ์เหล่านี้แล้ว เกษตรกรจะได้ผลผลิต ทคี่ งคุณภาพและคงลกั ษณะเดน่ ไดค้ รบถ้วน แมป้ ลกู ต่อจนเปน็ รุ่นลูกและรนุ่ หลานสืบไป ๓๘ ที่ระลึกพธิ เี ปดิ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อำ�เภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบรุ ี
ความเป็นมา ของหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จงั หวัดสระบรุ ี ๓๙
เน่ืองในม่ิงมงคลสมัยที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๓๖ พรรษา ในปี พุทธศักราช ๒๕๓๔ กระทรวงศึกษาธิการได้ขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตดำ�เนินการจัดตั้งห้องสมุดประชาชน ซึ่งได้ โปรดพระราชทานนามวา่ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี เป็นห้องสมุดประชาชนที่อยู่ในการกำ�กับดูแลของสำ�นักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำ�นักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ จัดสร้างข้ึนตามมติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๓๔ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยาม บรมราชกมุ ารี ในโอกาสทที่ รงมพี ระชนมายุ ๓๖ พรรษา และใหเ้ ปน็ แหลง่ สรรพความรตู้ า่ ง ๆ ทสี่ มบรู ณข์ องประชาชนใน ท้องถ่ิน ท้ังการเป็นศูนย์ข้อมูล ข่าวสารชุมชน ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชน ศูนย์กลางการจัดกิจกรรมของชุมชน และเปน็ แหลง่ พฒั นาเครอื ขา่ ยการเรยี นรใู้ นชมุ ชน โดยหนว่ ยงานภาครฐั และเอกชนพรอ้ มใจกนั นอ้ มเกลา้ ถวายเพอ่ื สนอง พระราชปณธิ านและแนวทางพระราชด�ำ ริในการส่งเสริมการศกึ ษาสำ�หรับประชาชน หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี ไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี เปน็ ล�ำ ดบั ท่ี ๖๔ ของประเทศ เรมิ่ ด�ำ เนินการมาตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยการที่นาย ลกั ษณ์ วรกลุ เสถยี ร คหบดชี าวอ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี ไดแ้ จง้ ความประสงค์ท่จี ะบริจาคเงนิ เพ่อื เปน็ คา่ ใช้จ่ายในการก่อสรา้ งอาคารห้อง สมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี โดย ขอใหท้ างราชการเปน็ ผจู้ ดั หาสถานทท่ี ส่ี มพระเกยี รตแิ ละอยใู่ นแหลง่ ชมุ ชน สำ�หรับดำ�เนินการก่อสร้าง ซ่ึงต่อมานายลักษณ์ วรกุลเสถียร ผู้แจ้งความ ประสงคจ์ ะบรจิ าคเงนิ ไดถ้ งึ แก่กรรมลง จงึ ท�ำ ใหก้ ารดำ�เนินการตา่ งๆ ตอ้ ง หยดุ ชะงกั ลงไป ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ นายสุทธิพงษ์ จลุ เจริญ ผู้วา่ ราชการจังหวัด สระบุรี (ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย) ได้รื้อฟื้น โครงการดงั กลา่ วขน้ึ มาใหม่ มดี �ำ รใิ หด้ �ำ เนนิ การจดั สรา้ งหอ้ งสมดุ ประชาชน ๔๐ ท่รี ะลึกพธิ เี ปดิ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จังหวัดสระบรุ ี
โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ และได้ทำ�หนังสือ ในขณะเดยี วกนั ส�ำ นกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบ กราบนมสั การพระธรรมปฎิ ก เจา้ อาวาสวดั พระพทุ ธบาทราช และการศึกษาตามอัธยาศัย กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำ�เนิน วรมหาวหิ าร เจ้าคณะจังหวัดสระบรุ ี เพอื่ ขออนญุ าตจัดสรา้ ง การประสานงานกับสำ�นักราชเลขาธิการเพ่ือขอพระราชทาน เหรียญพระพุทธลีลารอยพระพุทธบาทให้พุทธศาสนิกชน พระราชวโรกาส นำ�คณะผู้เก่ียวข้องกับการจัดสร้างห้องสมุด ผู้มีจิตศรัทธาเช่าสักการะบูชา และนำ�เงินรายได้มาเป็น ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จังหวัด ทุนทรัพย์สำ�หรับการก่อสร้างอาคารห้องสมุดประชาชน สระบุรี เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทสมเด็จพระเทพรัตน “เฉลิมราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดย ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทูลเกล้าฯถวายแผ่นศิลา ได้มอบหมายให้วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี ดำ�เนินการพัฒนา ฤกษ์ให้ทรงเจิมและทรงพระสุหร่าย สำ�หรับนำ�ไปใช้ประกอบ ปรับปรุงรูปแบบอาคารจากแบบแปลนเดิมของสำ�นักงาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย บรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชวโรกาสใหเ้ ขา้ เฝา้ ฯ ใน (กศน.) แต่ได้ขยายให้มีพ้ืนท่ีใช้สอยเพ่ิมขึ้นกว่าเดิม ในส่วน วนั ท่ี ๑๖ มถิ ุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ศาลาดุสดิ าลัย ของพ้ืนท่ีที่จะใช้ในการก่อสร้างอาคาร ได้ขออนุญาตใช้พ้ืนที่ สวนจติ รลดา ตอ่ จากนน้ั นายภคพงศ์ ทวพิ ฒั น์ รองผวู้ า่ ราชการ ส่วนหน่ึง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโรงเรียนอนุบาล จงั หวดั สระบรุ ี (ปจั จบุ นั ด�ำ รงต�ำ แหนง่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั พงั งา) วัดพระพุทธบาท เนื้อท่ีประมาณ ๑ ไร่ ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ ได้เปน็ ประธานในพิธวี างศิลาฤกษ์ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิม ของวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร โดยพระเดชพระคุณ ราชกุมารี” อำ�เภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เม่ือวันท่ี พระธรรมปิฎก เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ยังความปลาบปลม้ื ใจ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวดำ�เนิน แกป่ ระชาชนชาวจังหวัดสระบรุ เี ป็นอย่างยงิ่ การกอ่ สรา้ ง หลงั จากนน้ั บรษิ ทั นอรธ์ แลนด์ ดเี วลลอปเมนท์ เม่ือการดำ�เนินงานก่อสร้างอาคารห้องสมุดแล้วเสร็จ จำ�กัด จึงได้เร่ิมดำ�เนินการก่อสร้างเม่ือวันท่ี ๒๙ พฤษภาคม สมบูรณ์ จังหวัดสระบุรีได้ดำ�เนินการประชาสัมพันธ์เชิญชวน ๒๕๕๗ เม่ือการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ดำ�เนินการข้ึนทะเบียน ไปยังหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนผู้มี ทร่ี าชพัสดุ ลำ�ดบั ที่ สบ.๓๓๔๑ เมอื่ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ จิตศรัทธาให้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ สิ่งของ วัสดุ ครุภัณฑ์ ขณะท่ีการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ นายสุทธิพงษ์ ต่างๆ ที่จำ�เป็นต่อการดำ�เนินงานของห้องสมุด เพ่ือส่งเสริม จุลเจริญ ได้ย้ายไปดำ�รงตำ�แหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท สนบั สนนุ การศกึ ษาคน้ ควา้ และเปน็ แหลง่ เรยี นรใู้ หแ้ กน่ กั เรยี น และนายวิเชียร พุฒิวิญญู ได้มาดำ�รงตำ�แหน่งผู้ว่าราชการ นักศึกษา ประชาชน จึงได้มีผู้มีจิตศรัทธาและเห็นคุณค่าของ จังหวัดสระบุรีแทน (ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว) จึงได้ การศกึ ษาเรยี นรู้ ได้ร่วมสนบั สนุนทุนทรัพยแ์ ละวสั ดุ ครภุ ัณฑ์ ดำ�เนินการพัฒนาต่อเน่ือง โดยการแต่งต้ังคณะทำ�งานจัดหา ต่างๆ เพอ่ื จัดตกแต่งและพฒั นาส่วนตา่ งๆ ของหอ้ งสมดุ ดังนี้ ทุนทรัพย์เพื่อการพัฒนาตกแต่งบริเวณภายในและภายนอก อาคารห้องสมุด ตลอดจนจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งได้ รับความร่วมมือจากบริษัท ห้างรา้ น หนว่ ยงาน ภาครัฐ ภาค เอกชนต่างๆ และประชาชนให้การสนับสนุนงบประมาณ สำ�หรบั ด�ำ เนนิ การพฒั นาอยา่ งดียิง่ ๔๑
๑. ห้องเฉลิมพระเกียรติ เป็นห้องที่จัดท�ำขึ้นเพ่ือเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ในฐานะทีพ่ ระองคท์ รงเปน็ เจ้าฟ้านักการศกึ ษา พระองคต์ ระหนักถึงความส�ำคัญของ การศึกษา และสนพระทยั ที่จะสง่ เสรมิ และพัฒนาใหพ้ สกนกิ ร ทกุ หมเู่ หลา่ สนใจทจี่ ะแสวงหา ความรอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง แมพ้ ระองคเ์ อง ซ่ึงมีพระปรีชาญานในทุกด้าน แต่ก็ทรงมิได้น่ิงเฉย ต่อการท่จี ะแสวงหาความรเู้ พ่ิมเติมอยา่ งตอ่ เนื่อง สมกับที่ปวงชนชาวไทยไดข้ นานพระนาม พระองค์ท่านว่า “เจ้าฟ้านักการศึกษา” การพัฒนาตกแต่งห้องเฉลิมพระเกียรติ ได้รับ ความอนุเคราะห์จากบริษัท น้�ำตาลสระบุรี จ�ำกัด ร่วมสนับสนุนเงินจ�ำนวน ๕๗๐,๐๐๐ บาท การตกแต่งห้องสรง บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จ�ำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนเงินจ�ำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยช่วงหนึ่งของการสนทนากับ คุณสุรินทร์ อัษฎาธร ประธานกรรมการบริหารบริษัท น้�ำตาลสระบุรี จ�ำกัด ได้กล่าว กับพวกเราว่า “...เรามาอาศัยท�ำมาหากินในเมืองไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ท่ีดีได้ ก็เพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ที่คอยดูแลห่วงใย ทุกข์ สุขของราษฎร ดังนั้น อะไรที่เราจะตอบแทนพระองค์ท่านได้ เราก็ควร ท่ีจะต้องตอบแทน...” นี่คือความประทับใจท่ีคณะของพวกเรา ซึ่งได้ไปน�ำเสนอโครงการ ไดร้ ับฟงั จากปากของผ้ใู หญใ่ จดที ่านน้ี ๒. หอ้ งพระพุทธบาท เป็นห้องท่ีจัดท�ำขึ้นเพ่ือแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์โดยแสดงถึงความเป็นมาของ รอยพระพทุ ธบาท ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ ปชู นยี สถานทสี่ ำ� คญั ทางพทุ ธศาสนาแหง่ หนง่ึ ของประเทศไทย โดยในระหว่างเดือน ๓ และเดือน ๔ ของทุกปีจะมีประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท ซ่ึงพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติท่ีเคารพศรัทธาจะมาร่วม งานเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้จังหวัดสระบุรีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ได้ใช้พ้ืนท่ีในเขตธรณีสงฆ์ของวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารเป็น สถานที่ก่อสร้าง ดังนั้น จึงได้จัดท�ำห้องพระพุทธบาทขึ้น เพื่อร่วมร�ำลึกถึงประวัติความ เป็นมาของรอยพระพุทธบาท ตลอดจนสืบสานและอนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีนมัสการ รอยพระพุทธบาทและประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ซง่ึ นบั เปน็ ประเพณหี นง่ึ เดยี วของประเทศไทย การพฒั นา ตกแต่งได้รับการสนับสนุนเงินจาก ผู้ใหญ่ใจดีของบริษัท ปนู ซเี มนตไ์ ทย (ทา่ หลวง) จำ� กดั จำ� นวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จากคณุ ธนพฒั น์ วชิ ธู ลุ โี ชติ (ชมรมโรงโมห่ นิ หนา้ พระลาน) จ�ำนวน ๑๑๕,๐๐๐ บาท จากบริษัท กัลฟ์ เจเนอเรชั่น จ�ำกัด จ�ำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท และจากคุณวรพงษ์ วรกุลเสถียร จ�ำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท รวมจ�ำนวนเงิน ทั้งส้ิน ๕๑๕,๐๐๐ บาท ๔๒ ทร่ี ะลึกพธิ ีเปดิ ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อ�ำ เภอพระพุทธบาท จงั หวดั สระบรุ ี
๓. ห้องสระบรุ ี เป็นห้องที่จัดท�ำข้ึนเพ่ือแสดงบริบทของจังหวัดสระบุรี ซ่ึงมีความ อุดมสมบูรณ์ ของทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะด้านหินและแร่ธาตุต่างๆ มี แม่น้�ำที่ส�ำคัญเพียงสายเดียว คือ แม่น�้ำป่าสัก ซึ่งนับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ ของจังหวัด โดยอาศัยน�้ำใช้ในการเกษตร และยังเป็นเมืองที่มีความส�ำคัญ ต่อภาคอุตสาหกรรมล�ำดับต้นๆ ของประเทศไทย เป็นที่ตั้งของโรงงาน อุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย เช่น โรงงานปูนซิเมนต์ และนิคมอุตสาหกรรม ภตูม่าิพงๆลอดแุลลยะเทด่ีสช�ำทครัญงพยัรงะเปรา็นชพทื้นานทอี่ทา่ีพชีพระแบละาโทคสรงมกเาดร็จอพันรเนะื่อปงรมมาินจาทกรพมรหะาราชด�ำริต่างๆ เพ่ือช่วยเหลือราษฎรของ พระองค์ท่าน อาทิ เช่น โครงการพัฒนาพ้ืนที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ โดยการน�ำเอา “ทฤษฎีใหม่” มาทดลองใช้ในการพัฒนาการเกษตรในพื้นท่ีจนเป็นที่แพร่หลาย โครงการพัฒนาลุ่มน�้ำป่าสักอันเน่ือง มาจากพระราชด�ำริ หรือท่ีรจู้ ักกนั ดีในชอ่ื “เข่อื นปา่ สกั ชลสทิ ธิ์” ตงั้ อย่ทู ต่ี �ำบลค�ำพราน อ�ำเภอวังมว่ ง จงั หวัดสระบรุ ี เพือ่ ใช้ เปน็ แหล่งน้ำ� ส�ำหรับท�ำการเกษตร การอตุ สาหกรรม การอุปโภคบริโภค และป้องกนั อุทกภัยในเขตภาคกลางตอนลา่ งรวมถงึ กรุงเทพมหานคร นอกจากน้ันพระองค์ท่านได้พระราชทานอาชีพการเล้ียงโคนมให้แก่เกษตรกรให้มีอาชีพท่ีมั่นคง โดยการ พัฒนาตกแต่งภายในห้องสระบุรีและสวนหินภายนอกอาคารนั้น ได้รับการสนับสนุนเงินจากผู้ใหญ่ใจดีของบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จ�ำกดั (มหาชน) จ�ำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท บรษิ ทั ปนู ซเี มนตน์ ครหลวง จ�ำกดั (มหาชน) จ�ำนวน ๔๗๗,๙๐๐ บาท องค์การสง่ เสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จ�ำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท รวมจ�ำนวนเงินทั้งสิ้น ๑,๑๗๗,๙๐๐ บาท ๔. ห้องโถงกลาง เป็นส่วนของโถงกลางเม่ือข้ึนสู่ชั้นที่ ๒ ของอาคาร ซ่ึงจัดท�ำข้ึนเพื่อใช้เป็น จดุ ทพี่ กั คอย กอ่ นและหลงั การเขา้ ชมนทิ รรศการภายในหอ้ งตา่ งๆ โดยจะมกี ารจดั แสดง นทิ รรศการชว่ั คราว ผลดั เปลย่ี นหมนุ เวยี นไปตามเหตกุ ารณส์ ำ� คญั ตา่ งๆในชว่ งเวลานนั้ ๆ ส�ำหรับการพัฒนาตกแต่งห้องโถงกลางน้ัน ได้รับการสนับสนุนเงินจากผู้ใหญ่ใจดีของ กล่มุ บริษทั ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราช สระบุรี จำ� นวน ๔๒๐,๐๐๐ บาท ๔๓
๕. มมุ เดก็ และครอบครัว เปน็ สว่ นทจี่ ดั ทำ� ขน้ึ เพอื่ ใหบ้ รกิ ารกบั กลมุ่ เปา้ หมาย เดก็ พอ่ แม่ และผปู้ กครอง เนอ่ื งจากพจิ ารณา เหน็ วา่ การ ท่ีเด็กๆ จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีนิสัยรักในการอ่าน และการศกึ ษาคน้ ควา้ ไดน้ นั้ จำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งมกี ารกระตนุ้ ส่งเสริมยั่วยุให้เกิดความอยากรู้ อยากเห็น ซ่ึงเป็น ลักษณะนิสัยท่ีติดตัวเด็กๆ ทุกคนมาอยู่แล้ว ดังนั้น หากเด็กๆ ได้รับการพัฒนาและตอบสนองที่ดี จะท�ำให้เกิดเป็นลักษณะนิสัยรักการ ศึกษาค้นคว้า ซึ่งสิ่งหน่ึงท่ีจะช่วยในการพัฒนาและตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น ของเด็กได้ก็คือ หนังสือ ส่ือ และเคร่ืองเล่นต่างๆ นั่นเอง ส�ำหรับการพัฒนาและตกแต่ง มุมเด็กและครอบครัวน้ัน ได้รับการสนับสนุนเงินจากผู้ใหญ่ใจดีของบริษัท ปูนซีเมนต์ เอเชีย จ�ำกัด (มหาชน) จ�ำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ซ่ึงมีประสบการณ์ในการพัฒนาและ จัดทำ� หอ้ งสมดุ ไทยคดิ มาก่อน ๔๔ ทร่ี ะลึกพธิ เี ปิดห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบุรี
๖. มมุ บรกิ ารหนงั สือและสอ่ื ออนไลน์ เปน็ สว่ นทจี่ ดั ทำ� ขน้ึ เพอื่ ใหบ้ รกิ ารแกส่ มาชกิ และผใู้ ชบ้ รกิ ารโดยทว่ั ไป ใหไ้ ดม้ า สบื คน้ ยืม-คืน หนงั สอื และส่อื ต่างๆ รวมถงึ เขา้ ใช้บริการน่ังอา่ น และศกึ ษาคน้ คว้า ตามอัธยาศัยภายใต้กฎระเบียบท่ีก�ำหนดไว้ โดยการจัดวางหนังสือตามหมวดหมู่ ในระบบดิวอ้ี ใหผ้ ูใ้ ชบ้ รกิ ารสามารถเขา้ ถงึ ไดอ้ ย่างสะดวกสบาย ส�ำหรับการพัฒนา และตกแต่งมุมบริการหนังสือและส่ือออนไลน์นั้น ได้รับการสนับสนุนเงินจาก ผู้ใหญ่ใจดขี องบรษิ ัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จ�ำกดั และบริษัทในเครอื จ�ำนวน ๙๙๐,๐๐๐ บาท ซ่ึงเป็นหน่วยงานท่ีมีวิสัยทัศน์ในเรื่องการใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัย จึงต้องการปรับภาพลักษณ์ของห้องสมุดในอดีตจากเดิมที่ใช้ระบบการสืบค้นจากตู้ บัตรรายการ ให้เป็นการน�ำเอาสื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการให้บริการ เพอื่ เพม่ิ ประสิทธภิ าพและความสะดวกสบาย ทั้งผ้ใู หแ้ ละผ้รู ับบรกิ าร ๔๕
ครง้ั ท่ี ๒ ครงั้ ท่ี ๓ ครงั้ ท่ี ๔ พอ่ แห่งแผ่นดนิ เยือนถิน่ สระบรุ ี ครัง้ ที่ ๑ ล�ำดับพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เสดจ็ พระราชดำ� เนินทรงงานในพ้ืนทจ่ี งั หวดั สระบุรี จ�ำนวน ๑๔ ครัง้ ๔๖ ที่ระลึกพิธีเปดิ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ดังน้ี ครงั้ ท่ี ๑ วนั อาทติ ย์ที่ ๙ มนี าคม ๒๔๙๕ เสดจ็ พระราชด�ำเนินไปทรง อ�ำ เภอพระพทุ ธบาท จังหวัดสระบรุ ี ประกอบพระราชพธิ ยี กจลุ มงกฎุ สวมยอดมณฑปพระพทุ ธบาท วดั พระพทุ ธบาท ราชวรมหาวหิ าร ต�ำบลขุนโขลน อ�ำเภอพระพทุ ธบาท จงั หวัดสระบุรี คร้ังที่ ๒ วันจันทรท์ ี่ ๒๗ มกราคม ๒๕๐๑ เสดจ็ พระราชด�ำเนินไปทอด พระเนตรกิจการของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จ�ำกัด ณ โรงงานท่าหลวง ต�ำบล ท่าลาน อ�ำเภอบา้ นหมอ จงั หวดั สระบรุ ี ครั้งท่ี ๓ วนั จันทร์ที่ ๖ มิถนุ ายน ๒๕๐๓ เสดจ็ พระราชด�ำเนินไปทรง ประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสรณ์พระเจ้าทรงธรรมและยกช่อฟ้าอุโบสถ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ต�ำบลขุนโขลน อ�ำเภอพระพุทธบาท จังหวัด สระบุรี ครั้งที่ ๔ วันอังคารที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๕ เสด็จพระราชด�ำเนิน พร้อมสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริคที่ ๙ แห่งประเทศเดนมาร์ค ทรงประกอบพิธี เปดิ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมารค์ ตำ� บลมติ รภาพ อ�ำเภอมวกเหล็ก จังหวดั สระบุรี และเสด็จพระราชด�ำเนินโรงงานปูนซีเมนต์ไทยท่าหลวง ต�ำบลท่าลาน อ�ำเภอ บา้ นหมอ จงั หวัดสระบุรี คร้ังที่ ๕ วันอาทิตย์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๑๑ เสด็จพระราชด�ำเนิน ไปพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรประจ�ำจังหวัดแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด สระบรุ ี ณ ศาลากลางจงั หวดั สระบรุ ี ตำ� บลปากเพรยี ว อำ� เภอเมอื งสระบรุ ี จงั หวดั สระบรุ ี และเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ทรงปลกู ตน้ รงั ณ สวนพฤกษศาสตรพ์ แุ ค ตำ� บล พแุ ค อ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จงั หวัดสระบรุ ี คร้ังท่ี ๖ วนั เสารท์ ี่ ๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๖ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรง บ�ำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดพระพุทธฉาย ต�ำบล หนองปลาไหล อำ� เภอเมอื งสระบรุ ี จงั หวดั สระบรุ ี
ครั้งท่ี ๕ คร้ังท่ี ๖ ครั้งท่ี ๗ คร้ังท่ี ๘ คร้งั ท่ี ๙ ครัง้ ที่ ๗ วนั อาทิตยท์ ่ี ๔ มกราคม ๒๕๑๙ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงประกอบ ครงั้ ท่ี ๑๐ พิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดศรัทธาประชากร (เขารวก) และพระราชทานธงประจ�ำรุ่นลูกเสือ ครั้งที่ ๑๑ ชาวบา้ นประจำ� จงั หวัดสระบรุ ี ต�ำบลหนา้ พระลาน อำ� เภอเฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั สระบุรี คร้ังท่ี ๑๒ ครั้งที่ ๘ วันศุกร์ที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๙ เสด็จพระราชดำ� เนินไปทรงประกอบพิธี ยกช่อฟ้าอุโบสถ วัดหนองเข่ือนช้าง และพระราชทานธงประจ�ำรุ่นลูกเสือชาวบ้านประจ�ำ จงั หวัดสระบุรี ต�ำบลหนองยาว อำ� เภอเมืองสระบุรี จังหวดั สระบรุ ี คร้ังท่ี ๙ วันพฤหัสบดีท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๒๐ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรง ประกอบพิธีผูกพทั ธสมี าอโุ บสถวดั ศรัทธาประชากร (เขารวก) ตำ� บลหนา้ พระลาน อำ� เภอ เฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวัดสระบรุ ี ครั้งที่ ๑๐ วันพฤหัสบดีท่ี ๑๙ เมษายน ๒๕๒๒ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรง ตัดหวายลกู นมิ ติ อโุ บสถ ทรงเททองหลอ่ พระประธานประจ�ำอโุ บสถวดั ไทยงาม ต�ำบลโคก แย้ อ�ำเภอหนองแค จังหวดั สระบุรี ครง้ั ที่ ๑๑ วันจันทรท์ ี่ ๗ เมษายน ๒๕๒๓ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปทรงประกอบ พธิ ยี กชอ่ ฟา้ อโุ บสถ วัดหนองหมใู ต้ ต�ำบลหนองหมู อำ� เภอวิหารแดง จังหวดั สระบุรี คร้งั ท่ี ๑๒ วนั เสาร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๒๔ เสด็จพระราชด�ำเนนิ ไปทรงบำ� เพ็ญพระ ราชกศุ ลถวายผา้ พระกฐนิ สว่ นพระองค์ ณ วดั ศรทั ธาประชากร (เขารวก) ตำ� บลหนา้ พระลาน อ�ำเภอเฉลิมพระเกยี รติ จงั หวดั สระบุรี ครั้งท่ี ๑๓ วันจันทรท์ ่ี ๒๕ มกราคม ๒๕๓๖ เสด็จพระราชดำ� เนนิ ไปทรงบำ� เพญ็ พระราชกุศล ทรงพระราชอุทิศถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทอดพระเนตร โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนาและบริเวณท่ีกรมชลประทานก�ำหนดจะ สรา้ งโครงการอ่างเก็บน้ำ� ห้วยหินขาว ตำ� บลห้วยบง อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั สระบรุ ี คร้ังท่ี ๑๔ วันพฤหัสบดีท่ี ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ เสด็จพระราชด�ำเนิน ไปทรงเปิดเข่ือนป่าสักชลสิทธิ์ ต�ำบลค�ำพราน อ�ำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี (และอ�ำเภอ พฒั นานิคม จังหวัดลพบรุ ี) ครั้งท่ี ๑๓ ครัง้ ที่ ๑๔ ๔๗
เลา่ ขานต�ำ นานสระบรุ ี เมือง “สระบุรี” มีประวัติอันสันนิษฐานว่า ตั้งข้ึนประมาณ พ.ศ. ๒๐๙๒ ในรัชสมัยสมเด็จพระมหา จักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยา สืบเน่ืองมาจากยามมีศึกสงครามประชิดติดพระนคร ไม่สามารถเรียกระดมพล รกั ษาพระนครได้ทัน เพราะหวั เมืองตา่ งๆตามที่มกี ารแบ่งการปกครองอยูห่ า่ งจากกรุงศรีอยุธยามาก จงึ ต้องต้ัง เมืองใหม่ขึ้นเพื่อให้สะดวกรวดเร็วและได้ผลทันต่อเหตุการณ์ยามเกิดศึกสงคราม ส่วนท่ีตั้งเมืองสระบุรีคราว แรกไม่มีการก�ำหนดเขตแดนไว้แน่นอน สันนิษฐานว่า คงจะแบ่งเอาบางส่วนจากทางเมืองลพบุรี แขวงเมือง- นครราชสีมา แขวงเมืองนครนายก ตั้งข้ึนเป็นเมืองสระบุรี ทั้งน้ีเพราะเขตที่ตั้งขึ้นเป็นเมืองสระบุรี เป็นเขตที่ คลมุ บางสว่ นของแมน่ ำ�้ ป่าสกั ซึง่ สะดวกต่อการเดินทางไปทางภาคตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และยังเคย เปน็ เสน้ ทางท่ีพวกขอมสมยั โบราณเคยใชเ้ ดนิ ทางในการติดตอ่ กับราชธานี (นครธม) ส�ำหรับประวัติความเป็นมาของสระบุรีมีปรากฏในหนังสือ เรื่อง “เที่ยวตามทางรถไฟ” พระนิพนธ์ ของสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอกรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพ พอสรุปไดว้ า่ สมยั กรงุ ละโว้ (ลพบุรี) มีเทวสถาน ซง่ึ พวกขอมสร้างเป็นปรางค์หินไว้ท่ี บางโขมด ทางขึ้นพระพุทธบาท แต่ไม่ปรากฏหลักฐานส�ำคัญการสร้างเมือง หลกั ฐานการตงั้ บา้ นเมอื งมาปรากฏครงั้ แรก เมอื่ ไทยไดป้ ระเทศนจี้ ากขอม ชอื่ เมอื งสระบรุ ปี รากฏในพงศาวดาร สมยั รชั กาลสมเดจ็ พระมหินทราธริ าช ในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา ชอ่ื เมอื งสระบรุ ี มาปรากฏอกี ครงั้ กอ่ นเสยี กรงุ ครงั้ ท่ี ๑ พระเจา้ หงสาวดบี เุ รงนอง ยกกองทพั มาลอ้ มพระนครศรอี ยธุ ยา พระไชยเชษฐาเจา้ กรงุ ศรสี ตั นาคนหตุ ยกกองทพั เมอื งเวยี งจนั ทล์ งมาชว่ ย ไทย เดินกองทัพเลียบล�ำน�้ำป่าสักลงมา พระเจ้าหงสาวดีให้พระมหาอุปราชคุมกองทัพไปซุ่มดักทางอยู่ท่ีเมือง สระบรุ ี ตีกองทัพกรงุ ศรสี ัตนาคนหตุ แตกกลบั ไป ดังนัน้ พอสรปุ ความว่า เมอื งสระบุรีตัง้ มากอ่ น พ.ศ.๒๑๑๒ สำ� หรบั ทตี่ ง้ั เมอื งสระบรุ คี รงั้ แรกไมป่ รากฏหลกั ฐานทแี่ นน่ อนคงทราบแตเ่ พยี งวา่ ตงั้ อยทู่ หี่ วั จวนบรเิ วณ บึงหนองโงง้ ใกล้วดั จนั ทบรุ ี ตำ� บลศาลารีลาว ปัจจุบันคอื ต�ำบลเมืองเกา่ อ�ำเภอเสาไห้ มีพระยาสระบรุ ี (เล้ียง) เปน็ เจ้าเมอื ง ปี พ.ศ. ๒๔๓๓ พระยาสระบุรี (เล้ียง) ถึงแก่กรรม จา่ เรงิ เปน็ เจา้ เมอื งแทน ไดย้ ้ายศาลากลางเมอื ง สระบุรีไปอยู่ที่บ้านไผ่ล้อมน้อย อ�ำเภอเสาไห้ (บ้านเรือนที่เจ้าเมืองสร้างอยู่อาศัย คือ ศาลากลางเมือง) จนถึง สมยั ทพี่ ระยาพชิ ยั รณรงคส์ งครามเปน็ เจา้ เมอื งเหน็ วา่ ตวั เมอื งเดมิ ทเี่ สาไหอ้ ยหู่ า่ งไกลจากทางรถไฟมาก (รชั กาล ท่ี ๕ ได้โปรดใหส้ รา้ งทางรถไฟ สายตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ขึน้ มาถงึ เมืองสระบรุ ี เมื่อพ.ศ.๒๔๓๙) ประกอบกบั ภมู ปิ ระเทศไมเ่ หมาะสมกบั สภาพการณใ์ นสมยั นน้ั ยากแกก่ ารขยายเมอื งในอนาคต จงึ ไดส้ รา้ งศาลากลางขน้ึ ใหม่ ณ บรเิ วณต�ำบลปากเพรียว การกอ่ สรา้ งเสร็จในสมยั เจา้ เมืองคนท่ี ๓ คอื พระยาบุรีสราธกิ าร (เปา้ จารุเสถยี ร) ในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ๔๘ ท่ีระลกึ พธิ ีเปิดหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อ�ำ เภอพระพุทธบาท จงั หวดั สระบุรี
สระบรุ ี เมืองพุทธบูชา วดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวหิ าร ตั้งอยู่ที่ ต�ำบลขุนโขลน อ�ำเภอพระพุทธบาท มีปูชนียสถานที่ส�ำคัญคือ รอยพระพทุ ธบาท ทป่ี ระทบั ไวใ้ นแผน่ หนิ เหนอื ไหลเ่ ขาสวุ รรณบรรพตหรอื เขาสจั จพนั ธ คีรี รอยพระพุทธบาทมีลักษณะคล้ายเท้าคนกว้าง ๒๑ นิ้วยาว ๕ ฟตุ ลกึ ๑๑ น้วิ คน้ พบในสมัยพระเจา้ ทรงธรรม พระองค์ทรงเหน็ ว่าเปน็ รอยพระบาทตามลกั ษณะ ๑๐๘ ประการ จึงโปรดใหส้ ร้างมณฑปชวั่ คราวครอบรอยพระบาทไว้ ต่อมาไดม้ ีการกอ่ สรา้ ง ต่อเติมอีกหลายสมัย วดั พระพทุ ธฉาย ตั้งอยู่ที่เชิงเขาปถวี (ปฐวี) ต�ำบลหนองปลาไหล อ�ำเภอเมืองสระบุรี เป็น ที่ประดิษฐานพระพุทธฉายหรือรอยพระพุทธรูปปรากฏอยู่บนแผ่นหินตั้งอยู่บน ชะง่อนผามีการสร้างมณฑปครอบไว้มีบันไดจากบริเวณวัดด้านล่างข้ึนไปยังมณฑป และต่อไปยังหน้าผาซ่ึงอยู่เหนือมณฑปขึ้นไปท่ีบริเวณเชิงผามีภาพเขียนลายเส้นยุค ก่อนประวัติศาสตร์นอกจากนี้ยังพบรอยพระพุทธบาทเบ้ืองขวา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗ กรมศิลปากรได้ท�ำการซ่อมมณฑปบนภูเขาบริเวณวัดพระพุทธฉายและเม่ือร้ือพื้น ซเี มนตพ์ บรอยพระพทุ ธบาทเบอื้ งขวาอยใู่ ตท้ รายปรากฏเหน็ เปน็ รปู รอยประทบั ในหนิ พระพทุ ธนริ โรคนั ตราย (วดั ศาลาแดง) ประดิษฐาน ณ วัดศาลาแดง ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ต�ำบลปากเพรียว อ�ำเภอเมืองสระบุรี ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดสระบุรี พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานแก่ชาวสระบุรี จากน้ัน ช า ว ส ร ะ บุ รี ไ ด ้ ด�ำ เ นิ น ก า ร ก ่ อ ส ร ้ า ง ศ า ล า จ ตุ ร มุ ข แ ล ะ ไ ด ้ อั ญ เ ชิ ญ พ ร ะ พุ ท ธ นิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศข้ึนประดิษฐาน ณ ศาลาจตุรมุขหลังนี้สร้างเสร็จ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ด้วยเงินบริจาคของชาวสระบุรีส�ำหรับ กราบสักการะบชู าเพ่อื ความเปน็ ศิรมิ งคล พระพทุ ธรูปทองค�ำ (วดั พะเยาว์) วดั พะเยาวต์ ง้ั อยบู่ นฝง่ั แมน่ ำ้� ปา่ สกั หมู่ ๑ ต�ำบลศาลารไี ทย อ�ำเภอเสาไห้ เปน็ ทปี่ ระดษิ ฐานพระพทุ ธรปู ทองค�ำสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาพระพทุ ธรปู ทองค�ำเปน็ ปฏมิ ากรรม อันย่งิ ใหญ่ของกรุงศรีอยธุ ยาทต่ี กทอดมาถึงปัจจบุ นั มีพุทธลกั ษณะทง่ี ดงามมาก วดั จนั ทบรุ ี ต้ังอย่ทู ี่ริมแม่น้�ำปา่ สัก ต�ำบลเมืองเกา่ อ�ำเภอเสาไห้ ส่ิงท่ีนา่ ชมคือความงาม ของพระอุโบสถสร้างข้ึนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ มีลักษณะก่ออิฐถือปูนหลังคาจ่ัว ช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันประดับลายปูนปั้นและเคร่ืองถ้วย ภายในพระอุโบสถ มีงานจติ รกรรมฝาผนัง ๔๙
วดั สมหุ ประดษิ ฐาราม เปน็ พระอารามหลวงตง้ั อยเู่ ลขท่ี ๒ ถนนพิชัยรณรงคส์ งคราม หมทู่ ี่ ๗ ต�ำบล สวนดอกไม้ อ�ำเภอเสาไห้ ในอดตี เปน็ สถานท่สี �ำหรบั ประชมุ ขา้ ราชการจังหวดั สระบรุ ี เพอ่ื ท�ำพธิ ถี อื นำ�้ พระพพิ ฒั นส์ ตั ยาในพระอโุ บสถของทกุ ๆ ปี พระประธานในพระอโุ บสถ อญั เชิญมาจากเมืองเก่าสโุ ขทยั เปน็ พระพทุ ธรูปสัมฤทธิป์ ดิ ทองปางมารวิชยั วัดเขาแก้ววรวหิ าร ตงั้ อยทู่ ต่ี �ำบลตน้ ตาล อ�ำเภอเสาไห้ เปน็ วดั เกา่ สรา้ งขนึ้ ในสมยั อยธุ ยาอยบู่ นภเู ขา ลูกเล็กๆรัชกาลที่ ๔ เคยเสด็จมาประทับแรมและตรัสให้บูรณะปฏิสังขรณ์สถาปนา ให้เป็นพระอารามหลวง วดั ปา่ สว่างบญุ (เจดยี ์ ๕๐๐ ยอด) ต้ังอยู่ท่ีอ�ำเภอแก่งคอย เนื้อท่ีกว่า ๔๐๐ ไร่ประชาชนนิยมมาปฏิบัติธรรม ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่ิงที่โดดเด่นของวัดคือมหาเจดีย์นับรวมกันได้ ๕๐๐ ยอด มชี ื่อเต็มว่า “พระมหารัตนโลหะเจดยี ์ศรีศาสนโพธสิ ตั วส์ วา่ งบญุ ” มเี จดยี ์องค์ประธาน เสน้ ผา่ ศูนย์กลาง ๕๐ เมตรมที ั้งหมด ๙ ช้นั มีบริวาร ๕๐๐ องค์ วัดศรบี ุรีรตนาราม ตงั้ อยทู่ ตี่ �ำบลปากเพรยี ว อ�ำเภอเมอื งสระบรุ ี ความส�ำคญั ของ “วดั ศรบี รุ รี ตนา ราม” หรอื ทเี่ รยี กอกี ชอ่ื วา่ “วดั ปากเพรยี ว” นอกจากเปน็ วดั เกา่ แก่ คบู่ า้ นคเู่ มอื งสระบรุ ี ในปัจจุบันแล้ว เม่ืออดีตราวปี พ.ศ.๒๐๙๒ วัดแห่งน้ีได้ถูกสร้างขึ้นเพ่ือท�ำพิธีทาง ศาสนาของกองทัพ ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองในสมัยนั้นเช่นกัน และคร้ังหน่ึงยังเป็นวัด ทอี่ งคพ์ ระแกว้ มรกตเคยมาประดษิ ฐานพกั อยู่ กอ่ นจะอญั เชญิ เขา้ สกู่ รงุ เทพฯ โดยทราบ ไดจ้ ากหนงั สอื พงศาวดารกรงุ ธนบรุ ที บ่ี อกเลา่ วา่ เมอ่ื ครง้ั รชั กาลท่ี ๑ ยงั ด�ำรงต�ำแหนง่ เป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เข้าตีเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว ได้อัญเชิญ องคพ์ ระแกว้ มรกตล่องเรือถึงเมอื งสระบุรี มาพักทวี่ ัดปากเพรยี ว เปน็ เวลา ๑ เดือน วดั สูง จากต�ำนานเลา่ ขานเกยี่ วกบั “เสารอ้ งไห”้ ซงึ่ เปน็ เสาไมต้ ะเคยี นทองขนาดใหญ่ ท่ีศาลเจ้าแม่นางตะเคียน ซึ่งอยู่ภายในวัดสูง ท�ำให้มีผู้คนนิยมไปเคารพบูชากันเป็น จ�ำนวนมาก โดยเชอื่ กนั วา่ เสาไมต้ น้ นเี้ ปน็ ผหู้ ญงิ เรอ่ื งเลา่ ทบ่ี อกตอ่ กนั มาของเสารอ้ งไห้ ย้อนไปเมื่อคร้ังสร้างกรุงเทพฯ เป็นราชธานีได้มีการเกณฑ์เสาจากหัวเมืองต่างๆ เพ่ือ คดั เลอื กเสาทมี่ ลี กั ษณะงดงามมาท�ำเปน็ เสาเอก ทางเมอื งสระบรุ จี งึ ไดจ้ ดั สง่ เสาลกั ษณะ ใหญแ่ ละสวยงามมาก มคี วามยาว ๑๓ เมตร กวา้ ง ๐.๗๕ เมตร ล่องลงมาตามล�ำน�ำ้ ปา่ สกั แตไ่ ปถงึ ชา้ จงึ ไมไ่ ดร้ บั เลอื ก วา่ กนั วา่ เสาตน้ นเี้ กดิ ความเสยี ใจจงึ ลอยทวนนำ�้ กลบั ข้นึ มาจมลง ณ ต�ำบลแหง่ นีอ้ ย่ปู ระมาณ ๑๐๐ กว่าปี จนเมอื่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ไดม้ ีชาว บา้ นท�ำการน�ำเสาขนึ้ จากนำ้� มคี นมารว่ มพธิ เี ปน็ จ�ำนวนมาก ตอ่ มาไดส้ รา้ งศาลถาวรขนึ้ ทห่ี นา้ พระอโุ บสถในวดั สงู และเมอื่ วดั สงู ไดส้ รา้ งศาลาการเปรยี ญหลงั ใหมจ่ งึ ไดด้ ดั แปลง ศาลาการเปรยี ญหลงั เดมิ เปน็ อาคารทรงไทยสวยงามและไดอ้ ญั เชญิ เสาแมน่ างตะเคยี น มาประดษิ ฐานที่ศาลหลงั ใหม่ พอตกกลางคืนชาวบ้านมกั ได้ยนิ เสยี งร้องไห้ จงึ ได้ให้ช่ือ ต�ำบลนีว้ ่า ต�ำบลเสาร้องไห้ และไดก้ ลายเปน็ “อ�ำเภอเสาไห”้ ในปจั จุบนั ๕๐ ท่รี ะลกึ พธิ เี ปิดหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อำ�เภอพระพทุ ธบาท จงั หวัดสระบรุ ี
Search