Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาระน่ารู้ ต้นยางนา

สาระน่ารู้ ต้นยางนา

Published by chonthioha_bum, 2020-08-25 02:04:47

Description: ส่งเสริมการอ่าน เรื่อง ต้นยางนา

Search

Read the Text Version

Yang, Gurjan, Garjan

ลกั ษณะของยางนา ต้นยางนา จดั เป็นพรรณไม้ยนื ตน้ ไมผ่ ลัดใบหรอื ผลดั ใบระยะส้นั ขนาด ใหญ่ มีความสูงของต้นได้ถึง 50 เมตร เรอื นยอดเป็นพุม่ กลมทึบ โคนต้นมัก เปน็ พูพอน ลาต้นมลี กั ษณะเปลาตรง เปลอื กต้นเกลี้ยงเป็นสอี อกเทาออ่ น หลดุ ลอกออกเปน็ ชน้ิ กลม ๆ เนอ้ื ไม้เป็นสนี า้ ตาลแดง เสยี้ นตรง เน้อื หยาบ สว่ นตามกิง่ อ่อนและยอดออ่ นมีขนและมีรอยแผลใบเห็นได้ชัด ขยายพนั ธดุ์ ้วย วิธีการเพาะเมล็ด (เด็ดปกี ออกกอ่ นนาไปเพาะ เมล็ดจะงอกภายในเวลา 12 วนั และภายในเวลา 7 เดือน ตน้ กล้าจะมีความสูงไดป้ ระมาณ 30-35 เซนตเิ มตร และพรอ้ มทจ่ี ะยา้ ยไปปลูกได้)

เปน็ พรรณไมก้ ลางแจง้ ที่เจรญิ เติบโตได้ดใี นสภาพดินแทบทุกชนิด ชอบดนิ ท่ี มอี นิ ทรียวัตถคุ อ่ นขา้ งอดุ มสมบูรณ์ ความชนื้ ปานกลาง และแสงแดดแบบ เต็มวัน (หลงั ตน้ อายุ 1 ป)ี มกั ขึน้ ในป่าดงดิบ ปา่ เบญจพรรณ ปา่ ดิบแลง้ ปา่ ดบิ ชื้น ตามทต่ี ่าช่มุ ชืน้ ใกล้แม่น้าลาธารทัว่ ไป และตามหบุ เขาทว่ั ทุกภาค ของประเทศ ทคี่ วามสงู จากระดบั นา้ ทะเลประมาณ 50-400 เมตร สว่ นใน ตา่ งประเทศพบได้ท่บี ังกลาเทศ พมา่ ลาว กัมพชู า เวียดนามใต้ และ มาเลเซีย

ใบยางนา ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ แกมรูปขอบขนาน ปลายใบสอบทู่ โคนใบกว้าง สว่ นขอบใบเป็นคลื่น เลก็ นอ้ ย ใบมขี นาดกว้างประมาณ 6-14 เซนตเิ มตร และยาวประมาณ 12.5-25 เซนติเมตร เนื้อใบหนาและเหนียว ยน่ เป็นลอน แผน่ ใบมขี นข้นึ ปกคลมุ ดา้ นท้องใบมีขนสนั้ ๆ รูปดาว ใบอ่อนมขี นสเี ทา สว่ นใบแกเ่ กลยี้ ง หรอื เกือบเกลยี้ ง ก้านใบยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร มีขนข้นึ ประปราย และมีหูใบขนาดใหญ่

ดอกยางนา ออกดอกรวมกนั เปน็ ชอ่ สั้น ๆ แบบชอ่ กระจะ ตามงา่ มใบ ตอนปลายกิ่ง ดอกมขี นาดประมาณ 4 เซนติเมตร เปน็ สชี มพูออ่ น มีชอ่ ละ 4-5 ดอก ดอกขนาดใหญเ่ รียงตัวหลวม ๆ เปน็ ชอ่ หอ้ ยลงถึง 12 เซนติเมตร ทีก่ า้ นช่อมขี น กลีบดอกมี 5 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกเปน็ รูป ขอบขนาน ปลายกลีบมนและบิดเวยี น โคนกลีบดอกชดิ กนั ชั้นกลบี เลย้ี งที่ โคนเชื่อมตดิ กันเป็นรูปถว้ ย มคี รบี ตามยาว 5 ครีบ ปลายแยกออกเปน็ 5 แฉก แบ่งเป็นแฉกส้ัน 3 แฉก และแฉกยาว 2 แฉก มขี นสน้ั ๆ สีนา้ ตาล ขนึ้ ปกคลุม ดอกมเี กสรเพศผู้มากกว่า 25 อัน กา้ นชูอบั เรณสู ้ัน ปลายอับ เรณมู รี ยางคล์ กั ษณะเป็นรูปเสน้ ดา้ ย รังไข่มีขน ก้านเกสรเพศเมยี อว้ นและมี รอ่ ง ออกดอกในช่วงประมาณเดอื นมนี าคมถึงเดอื นเมษายน

ผลยางนา ผลเปน็ แผลแห้ง ลกั ษณะของผลเปน็ รูปกระสวย มหี ลอดกลบี เลย้ี งหมุ้ ขนมิด ยาวประมาณ 2-2.5 เซนตเิ มตร มีปกี ขนาดใหญ่ท่พี ัฒนามา จากกลบี เล้ยี ง 2 อนั มสี ีแดงอมชมพู ขนาดกว้างประมาณ 2-2.5 เซนตเิ มตร และยาวประมาณ 11-15 เซนตเิ มตร ผลเมือ่ สกุ จะเปน็ สนี ้าตาล เสน้ ปีกตามยาวมี 3 เสน้ ปักสนั้ 3 ปกี ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร สว่ นกลางผลมีครบี ตามยาว 5 ครบี ผลมีขนาดเส้นผา่ นศูนย์กลางประมาณ 2.2-2.8 เซนตเิ มตร ภายในผลมีเมล็ด 1 เมลด็ เมลด็ มขี นส้นั นุ่ม ที่ปลายมี ตง่ิ แหลม ติดผลในชว่ งประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดอื นกรกฎาคม

นา้ มันยางนา นา้ มันยางเป็นของเหลวขน้ มกี ลิ่นเฉพาะ เปน็ นา้ ยางทีไ่ ด้จากการเจาะโพรงเขา้ ไปในต้นยางนาแล้วเอา ไฟลน น้ายางจะไหลลงมาขงั ในแอ่งทเ่ี จาะไว้ ซึ่งน้ามนั ยางท่ี ไดจ้ ะเรียกวา่ \"Gurjun Balsam\" หรอื \"Gurjun oil\" เมือ่ นาไปกล่นั ดว้ ยไอนา้ จะไดน้ า้ มันระเหยงา่ ยรอ้ ยละ 70 มี องค์ประกอบเป็น alpha-gurjunene และ β-gurjunene

สรรพคณุ ของยางนา 1. ตารายาไทยจะน้าต้มจากเปลอื กเป็นยาบารงุ ร่างกาย ฟอกเลอื ด บารงุ โลหติ แกต้ ับอกั เสบ และใชท้ าถนู วดขณะร้อน ๆ เปน็ ยาแก้ปวดตามขอ้ (เปลือกตน้ ) 2. นา้ มันยางใช้ผสมกับเมล็ดกุยช่าย (Allium tuberosum Rottler ex Spreng.) นามาคั่วใหเ้ กรยี ม บดใหล้ ะเอยี ด ใช้เปน็ ยาอดุ ฟันแก้ฟันผุ (นา้ มนั ยาง) 3. เมล็ดและใบมีรสฝาดร้อน นามาต้มใส่เกลอื ใชอ้ มแก้ปวดฟนั ฟันโยก คลอน (เมล็ด, ใบ) 4. ใชน้ ้ามนั ยาง 1 สว่ น ผสมกบั แอลกอฮอลก์ นิ 2 ส่วน แล้วนามา รับประทานเป็นยาขับปสั สาวะ แกโ้ รคทางเดินปัสสาวะ แก้มตุ กดิ ระดู ขาวของสตรี หรอื ใชจ้ บิ เป็นยาขับเสมหะก็ได้ (นา้ มันยาง)

5. ใบและยางมรี สฝาดขมร้อน ใชร้ บั ประทานกนิ เป็นยาขับเลอื ด ตัดลูก (ทาให้เปน็ หมัน) 6. นา้ มันยางดบิ มีรสรอ้ นเมาขน่ื มีสรรพคุณเป็นยาถ่ายหวั รดิ สีดวงทวาร หนกั ใหฝ้ ่อ (นา้ มนั ยางดิบ) 7. น้ามนั ยางจากตน้ มีรสรอ้ นเมาขน่ื มสี รรพคุณเป็นยาสมานแผล หา้ ม หนอง ใช้เปน็ ยาทาแผลเนา่ เปอ่ื ย แผลมหี นอง แผลโรคเรอ้ื น แก้โรค หนองใน และเปน็ ยากล่อมเสมหะ (นา้ มันยาง)

ประโยชน์ของยางนา 1. น้ามนั ยางจากต้นสามารถนามาใช้โดยตรงเพื่อใชผ้ สมชันไม้อื่นๆ ใช้ยา เคร่ืองจกั สานกันน้าร่วั ยาแนวเรือเพ่อื อดุ รอยร่วั ทาไม้ ใช้ผสมขเี้ ลื่อยจุดไฟ หรอื ใชท้ าไตจ้ ดุ ไฟส่องสว่าง (ของใชส้ าหรับจุดไฟใหส้ วา่ ง หรอื ทาเป็น เชือ้ เพลงิ ทาดว้ ยไมผ้ หุ รอื เปลอื กเสม็ดคลุกกับนา้ มันยาง แลว้ นามาหอ่ ด้วย ใบไมเ้ ปน็ ดนุ้ ยาว ๆ หรอื ใส่กระบอก ใช้เดินเครือ่ งยนตแ์ ทนนา้ มนั ขี้โล้ ใช้ทาน้ามันชักเงา ฯลฯ หรอื นามาใชเ้ ป็นส่วนประกอบของผลติ ภัณฑ์อน่ื ๆ เช่น สที าบา้ น หมึกพมิ พ์

2. น้ามนั ยางเป็นอกี หนึง่ สนิ ค้าส่งออกทสี่ าคญั ของประเทศไทย ซึง่ ปจั จบุ ัน ชาวบ้านกย็ ังมกี ารเกบ็ หากันอยู่ แตก่ ย็ งั ไมพ่ อใช้จนต้องนาเข้ามาจาก ต่างประเทศเพิม่ เติม 3. ใช้ปลูกเป็นไมป้ ระดับตามสองฝง่ั ถนน เพอื่ ความสวยงาม และปลูกเพอื่ ประโยชนท์ างดา้ นนเิ วศ ใหร้ ่มเงา กาบงั ลม ให้ความชมุ่ ชื้น ควบคมุ อุณหภมู ิ ในอากาศ ปอ้ งกนั การพงั ทลายของหน้าดนิ 4. ลาต้นใช้ทาไมฟ้ ืน ถ่านไม้

5. เนอ้ื ไม้ยางนาสามารถนามาใช้ประโยชนใ์ นการกอ่ สร้างอาคารบ้านเรอื นได้ ดี ย่ิงเม่ือนามาอาบน้ายาให้ถูกต้องก็จะชว่ ยทาใหม้ ีความทนทานมากขน้ึ สามารถนาไปใช้กับงานภายนอกไดท้ นทานนบั 10 ปี ดว้ ยเหตุที่ไมย้ างนา เป็นไมข้ นาดใหญ่ เปลาตรง สูง และไมค่ อ่ ยมกี ่ิงกา้ น การตดั ไม้ยางนามาใช้ จงึ ไดเ้ นือ้ ไม้มาก โดยเนือ้ ไมท้ ี่ได้จะมีความแข็งปานกลาง สามารถนามาเล่ือย ไสกบตกแต่งให้เรียบได้ง่าย ด้วยเหตุนจ้ี งึ มีการใชป้ ระโยชนจ์ ากไม้ยางนากัน มาตง้ั แต่อดีต โดยนิยมนามาเลอ่ื ยทาเสาบ้าน โครงหลงั คา ฝ้าเพดาน เครือ่ งเรือนต่าง ๆ ทาร้ัวบ้าน แตใ่ นปจั จบุ นั การใช้ประโยชนจ์ ากเนอ้ื ไม้ยาง นาทสี่ าคญั คือการนาไปทาเปน็ ไมอ้ ดั และแผ่นใยไม้อดั จนไม่เพียงพอตอ่ การ ใช้งาน และตอ้ งนาเขา้ มาจากต่างประเทศบางส่วนด้วย

https://medthai.com/%E0%B8%A2%E0% B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0% B8%B2/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook