สอื่ การเรียนการสอน ทกั ษะการดาเนนิ ชีวติ (มธั ยมปลาย) เรื่อง ระบบต่างๆในร่างกายมนษุ ย์ รหัสวิชา ทช31002 รายวชิ า สุขศกึ ษา โดย กศน.อาเภอคาเขอ่ื นแก้ว สังกัดสานักงาน กศน.จงั หวดั ยโสธร
บทท่ี 2 ระบบหมุนเวยี นเลอื ด และภมู คิ ุ้มกัน เอกสารนี้ใช้สาหรับประกอบการเรยี นการสอนเท่านนั้ หนา้ ท่ี 1
เลือด (Blood) ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนทเ่ี ป็นของเหลว 55 เปอร์เซน็ ต์ ซ่งึ เรียกว่า “น้าเลอื ดหรอื พลาสมา (plasma)”และสว่ นท่ีเป็นของแข็งมี 45 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ได้แก่ เซลลเ์ มด็ เลือด และเกลด็ เลอื ด 1. นา้ เลอื ดหรอื พลาสมา ประกอบดว้ ยน้าประมาณ 91 เปอร์เซน็ ต์ ทาหน้าทลี่ าเลยี ง เอนไซม์ ฮอรโ์ มน แกส๊ แรธ่ าตุ วติ ามนิ และสารอาหารประเภทตา่ งๆท่ีผา่ นการย่อย อาหารมาแลว้ ไปให้เซลลแ์ ละรบั ของเสียจากเซลล์ เช่น ยูเรีย แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ น้า ส่งไปกาจัดออกนอกร่างกาย เซลล์เมด็ เลอื ด เอกสารน้ใี ช้สาหรับประกอบการเรยี นการสอนเท่านนั้ หนา้ ท่ี 2
2. เซลล์เมด็ เลอื ด ประกอบด้วย 2.1 เซลลเ์ ม็ดเลอื ดแดง (red blood cell) มีลกั ษณะคอ่ นขา้ งกลมตรงกลางจะ เวา้ เขา้ หากนั ( คลา้ ยขนมโดนทั ) เนอื่ งจาก ไมม่ นี ิวเคลียส องคป์ ระกอบส่วนใหญ่ เป็น สารประเภทโปรตีนที่เรียกว่า “ ฮีโมโกลบิน ” ซึง่ มสี มบัตใิ นการรวมตัวกบั แกส๊ ต่างๆ ได้ ดี เชน่ แก๊สออกซิเจน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ หน้าทแ่ี ลกเปลี่ยนแกส๊ โดยจะลาเลียงแก สออกซิเจน ไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย และ ลาเลยี งแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากสว่ น ตา่ งๆ ของรา่ งกายกลบั ไปท่ีปอด แหลง่ สร้างเม็ดเลือดแดง คอื ไขกระดกู ผชู้ ายจะมเี ซลล์ เมด็ เลอื ดแดงมากกว่าผู้หญิง เซลล์ เมด็ เลือดแดงมีอายปุ ระมาณ 110-120 วนั หลงั จาก นน้ั จะถูกนาไปทาลายทต่ี บั และม้าม เซลล์เมด็ เลอื ดแดง เอกสารนใ้ี ช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนเท่านนั้ หนา้ ท่ี 3
2.2 เซลลเ์ มด็ เลือดขาว (white blood cell) มลี กั ษณะค่อนขา้ งกลม ไมม่ สี แี ละมี นิวเคลียส เมด็ เลือดขาวในรา่ งกาย มอี ยู่ดว้ ยกันหลายชนดิ หนา้ ท่ี ท าลายเช้อื โรคหรอื สารแปลกปลอมท่เี ข้ามาสู่รา่ งกาย แหลง่ ที่สรา้ งเม็ดเลือดขาว คอื ม้าม ไขกระดกู และ ตอ่ มน้าเหลอื ง มี อายุประมาณ 7-14 วนั เซลลเ์ มด็ เลอื ดขาว เอกสารนี้ใช้สาหรับประกอบการเรยี นการสอนเทา่ นนั้ หน้าท่ี 4
3. เกลด็ เลอื ดหรือแผน่ เลือด (blood pletelet) ไมใ่ ชเ่ ซลล์แต่เปน็ ชนิ้ สว่ นของเซลลซ์ งึ่ มีรปุ ร่างกลมรแี ละแบนเกล็ดเลือดมอี ายุประมาณ 4 วัน หนา้ ที่ช่วยใหเ้ ลอื ดแขง็ ตัวเม่ือมี การไหลของเลอื ดจากหลอดเลอื ดออกสภู่ ายนอก รปู อีเล็กตรอนไมโครก ราฟของเกล็ดเลอื ด รปู ของเกลด็ เลอื ดจากสแกนนิงอเี ล็กตรอน ไมโครกราพเหน็ ไซโตพลาสมกิ โปรเซสชดั เจน เอกสารนใี้ ช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนเท่านนั้ หน้าที่ 5
หวั ใจ (Heart) ทาหนา้ ท่ี สูบฉีดเลอื ดไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย โดยทาให้เกิดความดัน เลอื ดในหลอดเลือดแดงเพ่อื ให้เลอื ดเคลอ่ื นทีไ่ ปยงั อวยั วะสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายได้ ทวั่ ถึง หลอดเลอื ดดาใหญ่ หลอดเลอื ดแดงใหญ่ หวั ใจห้องขวาบน ลนิ้ หัวใจเอออรต์ กิ หวั ใจ หวั ใจดา้ นขวา ลน้ิ หัวใจด้านซา้ ย (ไตรคัสปดิ ) (ไมตรลั ) หวั ใจห้องซา้ ยล่าง กล้ามเน้อื หวั ใจ กล้ามเน้ือหัวใจ ผนงั กั้นหวั ใจ เอกสารนี้ใช้สาหรับประกอบการเรยี นการสอนเทา่ นน้ั หน้าที่ 6
วงจรการไหลเวยี นเลอื ด วงจรการไหลเวยี นเลือด เรม่ิ จากหัวใจห้องบนซ้ายรับเลอื ดทมี่ ีปริมาณ ออกซิเจนสูงจากปอด แล้วบบี ตวั ดนั ผ่านล้นิ หัวใจลงสูห่ ัวใจห้องลา่ งซา้ ยแลว้ บีบ ตวั ดันเลอื ดไปยงั ส่วนตา่ งๆของร่างกายและ เปล่ยี นเป็นเลอื ดท่มี ี คาร์บอนไดออกไซดส์ ูงหรอื เลอื ดดาไหลผ่านหลอดเลอื ดดาหัวใจหอ้ งบนขวาแล้ว บีบตัวดันผ่านล้ินหัวใจลงสู่หอ้ งล่างขวา แลว้ กลบั เขา้ สปู่ อดเพือ่ แลกเปลย่ี นแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซด์ให้ เปน็ แก๊สออกซเิ จน เปน็ วฏั จกั รการหมนุ เวียนเลือดใน ร่างกายเช่นนต้ี ลอดไป เอกสารนี้ใช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนเท่านนั้ หนา้ ที่ 7
เอกสารน้ใี ช้สาหรบั ประกอบการเรยี นการสอนเท่านน้ั หน้าท่ี 8
หลอดเลอื ด หลอดเลือด ทาหนา้ ที่ลาเลียงเลอื ดจากหัวใจไปยงั อวัยวะส่วนต่างๆ ท่วั รา่ งกาย และเป็น เส้นทางให้เลอื ดจากอวัยวะตา่ งๆ ทัว่ รา่ งกายกลับเขา้ สหู่ ัวใจ หลอดเลอื ดในรา่ งกายมี 3 ชนิด ดังตอ่ ไปนี้ 1. หลอดเลือดแดง ( artery) หลอดเลอื ดแดง กล้ามเนอ้ื เรยี บ เป็นหลอดเลอื ดทนี่ าเลือดดจี ากหัวใจไปสเู่ ซลล์ ชั้นนอก ต่างๆ ของ รา่ งกายหลอดเลือดแดงมผี นงั หนา เนอ้ื เยอ้ื เส้นใย แขง็ แรง และไมม่ ลี น้ิ กัน้ ภายใน เลือดทีอ่ ยู่ใน แบบยดื หยนุ่ ได้ หลอดเลือดแดงเป็น เลือดที่มปี รมิ าณแกส๊ ออกซเิ จนสูงหรอื เรียกวา่ “ เลือดแดง ”ยกเวน้ ชน้ั เน้อื เยื้อบางๆ หลอดเลือดแดงท่ีนาเลอื ดออกจาก หวั ใจไปยงั เรยี กว่าเนอื้ เย้ือบโุ พง ปอดภายในเปน็ เลือดทมี่ ีปริมาณแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซดม์ ากหรือเรยี กว่า“เลอื ดดา” เอกสารน้ีใช้สาหรับประกอบการเรยี นการสอนเท่านน้ั หนา้ ท่ี 9
2. หลอดเลือดดา(vein) เป็นหลอดเลอื ดท่ีนาเลอื ดดาจากส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกายเข้าส่หู วั ใจ หลอด เลอื ดมีผนงั บางกวา่ หลอดเลือดแดง มลี ิน้ กั้นภายในเพ่ือปอ้ งกันเลือดไหลยอ้ นกลบั เลือดทีไ่ หล อยภู่ ายในหลอดเลือดจะเป็นเลอื ดทม่ี ีปริมาณแกส๊ ออกซเิ จนต่า ยกเว้น หลอดเลอื ดดาท่ีนาเลือดจาก ปอดเข้าสู่หัวใจ จะเปน็ เลอื ดแดง 3. หลอดเลือดฝอย (capillary) เสน้ เลอื ดฝอย เนื้อเยอื้ บโุ พง เป็นหลอดเลือดท่เี ช่ือมต่อระหว่างหลอดเลือด เนอ้ื ชั้นนอก แดงและหลอด เลอื ดดาสานเป็นรา่ งแหแทรกอยู่ หลอดเลอื ดดา กล้ามเน้ือเรียบ ตามเน้อื เยอ่ื ตา่ งๆ ของรา่ งกาย มขี นาดเล็กและ ลิ้นหัวใจ ละเอยี ดเป็นฝอยและ มผี นงั บางมากเป็นแหล่งที่ เนื้อเย้อื เส้นใย มกี ารแลกเปล่ยี นแกส๊ และสารต่างๆ ระหว่าง แบบยืดหย่นุ ได้ เลือดกับเซลล์ เอกสารน้ีใช้สาหรบั ประกอบการเรยี นการสอนเทา่ นนั้ หนา้ ที่ 10
เอกสารน้ใี ช้สาหรบั ประกอบการเรยี นการสอนเท่านน้ั หน้าท่ี 11
ความดนั เลือด (blood pressure) ความดันเลอื ด ( blood pressure ) หมายถงึ ความดนั ในหลอดเลือดแดง เป็นส่วนใหญเ่ กิดจาก บบี ตัวของหัวใจทด่ี ันเลือดใหไ้ หลไปตามหลอดเลอื ดความดันของ หลอดเลอื ดแดงทอ่ี ยูใ่ กลห้ วั ใจจะมี ความดันสูงกวา่ หลอดเลอื ดแดงทอี่ ยไู่ กลหัวใจ สว่ น ในหลอดเลือดดาจะมคี วามดันต่ากวา่ หลอดเลือด แดงเสมอความดันเลือดมีหน่วยวดั เป็นมิลลเิ มตรปรอท (mmHg) เป็นตวั เลข 2 ค่าคอื เอกสารนใี้ ช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนเท่านนั้ หน้าท่ี 12
คา่ ความดนั เลอื ดขณะหวั ใจบีบตวั และค่าความดนั เลอื ดขณะหวั ใจคลายตัว เชน่ 120/80 มลิ ลิเมตรปรอท คา่ ตวั เลข 120 แสดงค่าความดันเลอื ดขณะหวั ใจบีบตวั ใหเ้ ลอื ดออกจากหัวใจ เรยี กว่า ความดันระยะหวั ใจบีบตวั (Systolic Pressure) 14 ส่วนตัวเลข 80 แสดงความดนั เลือดขณะหัวใจคลายตัว เพือ่ รบั เลือดเขา้ ส่หู ัวใจ เรยี กวา่ ความดันระยะหัวใจคลายตวั (Diastolic Pressure) เครื่องมือวดั ความดันเลอื ดเรยี กวา่ “ มาตรความดนั เลอื ด จะใชค้ ู่กับ สเตตโตสโคป (stetoscope)'' โดยจะวัดความดันทีห่ ลอด เลือดแดง ปกตคิ วามดนั เลือดสูงสุดขณะหวั ใจบบี ตัวใหเ้ ลือดออกจากหวั ใจมคี า่ 100 + อายุ และความดัน เลอื ดขณะหวั ใจรับเลอื ดไม่ควรเกิน 90 มิลลเิ มตรปรอท ถ้าเกนิ จะเปน็ โรคความดันเลอื ดสงู ซึง่ มี สาเหตุหลายประการ เชน่ หลอดเลือดตีบตัน คอเลสเตอรอล ในเลอื ดสงู โกรธงา่ ยหรอื เครยี ดอยเู่ ปน็ ประจา พบมากในผสู้ ูงอายหุ รอื ผู้ท่มี ีจิตใจอยใู่ น สภาวะเครียด นอกจากนย้ี ังเกิดจากอารมณ์โกรธทาให้ รา่ งกายผลติ สารชนิดหนงึ่ ออกมา ซ่ึงสารนจี้ ะมผี ลต่อการบีบตัวของหวั ใจโดยตรง เอกสารนีใ้ ช้สาหรบั ประกอบการเรียนการสอนเทา่ นนั้ หนา้ ท่ี 13
ชพี จร (Pulse) ชพี จร หมายถงึ การหดตวั และการคลายตัวของหลอดเลอื ดแดง ซึ่งตรงกับ จงั หวะการเตน้ ของ หัวใจคนปกติหวั ใจเต้นเฉล่ียประมาณ 72 ครงั้ ต่อนาที การเต้นของ ชีพจรแต่ละคนจะแตกตา่ งกันปกติ อัตราการเตน้ ของชีพจรในเพศชายจะสูงกวา่ เพศ หญิง เอกสารน้ีใช้สาหรบั ประกอบการเรียนการสอนเท่านนั้ หน้าท่ี 14
ปัจจยั ทมี่ ผี ลตอ่ ความดนั เลอื ด 1. อายุ ผสู้ ูงอายุมคี วามดันเลือดสูงกว่าเดก็ 2. เพศ เพศชายมีความดันเลอื ดสงู กว่าเพศหญงิ ยกเว้นเพศหญิงทใ่ี กล้หมดประจาเดอื นจะ มี ความดันเลือด คอ่ นข้างสูง 3. ขนาดของร่างกาย คนทม่ี ีร่างกายขนาดใหญม่ ักมีความดันเลือดสูงกวา่ คนท่ีมีร่างกาย ขนาดเล็ก 4. อารมณ์ ผูท้ ่มี ีอารมณ์เครยี ด วิตกกังวล โกรธหรอื ตกใจงา่ ยทาใหค้ วามดนั เลือดสงู กวา่ คน ที่ อารมณป์ กติ 5. คนทางานหนักและการออกกาลงั กาย ทาให้มคี วามดนั เลือดสูง เอกสารน้ใี ช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนเท่านนั้ หนา้ ที่ 15
ระบบนา้ เหลือง สารต่างๆในเซลล์จะถกู ลาเลยี งกลบั เขา้ สหู่ ลอดเลือดดว้ ยระบบน้าเหลอื งโดย สัมพันธก์ ับการ ไหลของเลอื ดในหลอดเลอื ดฝอย ระบบน้าเหลอื งมสี ่วนประกอบ ดังนี้ 1. อวยั วะน้าเหลือง เป็นศนู ยก์ ลางผลติ เซลลต์ ่อต้านสิ่งแปลกปลอม ไดแ้ ก่ ต่อม น้าเหลอื ง ตอ่ มทอนซลิ มา้ ม และตอ่ มไทมสั มีหน้าทีผ่ ลติ สารตอ่ ตา้ นเชอ้ื โรค และ สง่ิ แปลกปลอมทีเ่ ข้าสรู่ ่างกาย 2. ทอ่ น้าเหลอื ง (lymph vessel) มีหนา้ ท่ีนาน้าเหลอื งเข้าสหู่ ลอดเลือดดาในระบบ หมุนเวียน ของเลอื ด 3. นา้ เหลอื ง (lymph) มลี ักษณะเป็นของเหลวใสอาบอยูร่ อบๆ เซลล์ สามารถซึมผา่ น เขา้ ออกผนังหลอดเลือดฝอยไดม้ ีหน้าท่ีเป็นตัวกลางแลกเปลีย่ นสารระหว่างหลอดเลือด ฝอยกบั เซลลไ์ ด้ เอกสารนี้ใช้สาหรบั ประกอบการเรยี นการสอนเทา่ นนั้ หนา้ ท่ี 16
ระบบภูมิค้มุ กนั รา่ งกายของคนเราทม่ี ีสภาพภูมคิ มุ้ กนั สง่ิ แปลกปลอมท่อี าจก่อใหเ้ กิดโรคได้ รา่ งกายซง่ึ มีกลไกกาจัดสิ่งแปลกปลอมตามธรรมชาติ ดังนี้ 1. เหง่ือเป็นสารทรี่ ่างกายขบั จากต่อมเหงอ่ื ออกมาทีบ่ รเิ วณผิวหนังทั่วร่างกายสามารถป้องกนั การเจริญเตบิ โต ของแบคทเี รยี และปอ้ งกันไม่ให้เชอื้ โรคเขา้ สู่รา่ งกายทางผิวหนงั เอกสารนใ้ี ช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนเท่านน้ั หน้าท่ี 17
4. เซลลเ์ มด็ เลือดขาวทีอ่ ยใู่ นเซลลร์ า่ งกายและท่อน้าเหลือง สร้างสารต่อตา้ นเชอื้ โรคที่เรียกวา่ “แอนตบิ อดี (Antibody)” เพอ่ื ทาลายเช้อื โรคท่เี ขา้ สูร่ ่างกาย ระบบภูมคิ ุม้ กันโรคท่ีร่างกายสร้างข้นึ เพอ่ื ตอ่ ต้านเฉพาะโรค ท่เี ข้าสู่รา่ งกายนั้นสร้างได้ 2 ลกั ษณะ ดังนี้ (1). ภูมิคมุ้ กนั ท่ีรา่ งกายสร้างขน้ึ เอง เป็นวธิ กี ารกระตุน้ ใหร้ า่ งกายสร้างภูมคิ ุ้มกนั จากสง่ิ แปลกปลอมหรือเช้อื โรค เชน่ การฉีดวัคซนี คมุ้ กันโรคอหวิ าตกโรค เปน็ การ กระต้นุ ให้ร่างกายสร้าง แอนติบอดี เพื่อทาลายเช้ือ อหวิ าตกโรค ท่ีจะเขา้ สู่ร่างกาย เปน็ ต้น (2). ภมู คิ มุ้ กนั ทร่ี บั มา เปน็ วธิ กี ารให้แอนติบอดแี ก่ ร่างกายโดยตรง เพ่ือใหเ้ กดิ ภูมคิ ุ้มกันทนั ที เชน่ การฉีด เซรมุ่ แกพ้ ิษงูใช้ฉดี เมื่อถูกงกู ัด จะเกดิ ภมู ิคมุ้ กนั ทันที เอกสารนใี้ ช้สาหรบั ประกอบการเรยี นการสอนเทา่ นนั้ หนา้ ที่ 18
ขอ้ มูลอ้างอิง - www.sites.google.com/บทเรียนออนไลน์วชิ าชีววทิ ยา - www.patreon.com/statedclearly - www.trueplookpanya.com/knowledge/content/65256/-scibio-sci- - การพฒั นาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) โดยสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ข้นั พ้ืนฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธกิ าร - www.ducksters.com/science/biology/chromosomes.php - www.scimath.org/lesson-biology/item/6894-2017-05-14-03-59-30 - www.britannica.com/science/chromosome
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: