วันลอยกระทง 2563 (Loy Krathong Festival) ประวตั ิ ตานานและความเชอื่ วนั ลอยกระทง สง่ เสรมิ การอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่ือนแกว้ และหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวัดยโสธร
ลอยกระทง เปน็ พธิ ีอยา่ งหน่งึ ทม่ี ักจะทากันในคืนวันเพ็ญ เดอื น 12 หรอื วนั ขึน้ 15 ค่าเดอื น 12 อันเป็นวนั พระจันทร์เตม็ ดวง และ เป็นช่วงท่ีนา้ หลากเต็มตลิง่ โดยจะมีการนาดอกไม้ ธูป เทยี นหรือสิง่ ของ ใส่ลงในสิง่ ประดษิ ฐร์ ูปต่างๆ ท่ีไม่จมน้า เชน่ กระทง เรือ แพ ดอกบัว ฯลฯ แลว้ นาไปลอยตามลานา้ โดยมวี ัตถุประสงค์และความเช่อื ต่างๆ กนั ในปนี ้ี วนั ลอยกระทง ตรงกับ วนั เสารท์ ่ี 31 ตลุ าคม 2563 ส่งเสริมการอ่านโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขือ่ นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวัดยโสธร
ประเพณลี อยกระทง (Loy Krathong Festival) มิไดม้ แี ตใ่ นประเทศไทยเทา่ นนั้ ในประเทศจีน อนิ เดีย เขมร ลาว และ พม่า ก็มกี ารลอยกระทงคล้ายๆ กับบา้ นเรา จะต่างกนั บ้าง ก็คงเปน็ เรื่องรายละเอยี ด พิธกี รรม และความเชอ่ื ในแต่ละทอ้ งถน่ิ แม้แตใ่ นบา้ น เราเอง การลอยกระทง กม็ าจากความเช่อื ที่หลากหลายเชน่ กัน ซ่ึงกลุ่มประชาสัมพันธ์ สานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรม แหง่ ชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้รวบรวมมาบอกเล่า ให้ทราบกันดังต่อไปนี้ ส่งเสริมการอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอื่ นแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวัดยโสธร
ทำไมถงึ ลอยกระทง การลอยกระทง เปน็ ประเพณีท่มี มี าแต่โบราณ แตไ่ ม่ปรากฏ หลักฐานแน่ชดั วา่ ปฏบิ ตั กิ นั มาแตเ่ มือ่ ไร เพยี งแตท่ อ้ งถ่ินแต่ละแหง่ ก็จะมจี ุดประสงคแ์ ละความเชือ่ ในการลอยกระทงแตกตา่ งกันไป เชน่ ในเรอ่ื งเกย่ี วกบั พระพทุ ธศาสนา กจ็ ะเป็นการบชู าพระเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรคช์ น้ั ดาวดึงส,์ เปน็ บูชารอยพระพุทธบาท ณ หาดทรายริมฝั่ง แม่นา้ นมั มทา ซ่ึงปัจจุบันคอื แม่น้าเนรพุททาในอนิ เดีย หรอื ต้อนรับ พระพุทธเจ้า ในวนั เสด็จกลบั จากเทวโลก เมื่อครั้งไปโปรดพระพทุ ธมารดา สง่ เสริมการอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่ือนแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวดั ยโสธร
วตั ถปุ ระสงค์ของวันลอยกระทง นอกจากนี้ ลอยกระทง กย็ งั มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื บูชาพระอุปคุต เถระที่บาเพ็ญบริกรรมคาถาในทอ้ งทะเลลึก หรือสะดอื ทะเล บางแหง่ ก็ ลอยกระทง เพ่ือบชู าเทพเจ้าตามความเช่ือของตน บางแห่งก็เพ่อื แสดง ความขอบคณุ พระแม่คงคา ซึ่งเปน็ แหล่งนา้ ใหม้ นุษย์ได้ใชป้ ระโยชน์ตา่ งๆ รวมท้ังขอขมาที่ได้ทงิ้ สงิ่ ปฏิกลู ลงไป ส่วนบางทอ้ งท่ี ก็จะทาเพือ่ ระลึก ถึงบรรพบรุ ุษท่ลี ว่ งลับ หรอื เพอ่ื สะเดาะเคราะห์ ลอยทกุ ขโ์ ศกโรคภยั ตา่ งๆ และส่วนใหญก่ ็จะอธิษฐาน ขอส่งิ ทต่ี นปรารถนาไปด้วย สง่ เสริมการอา่ นโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอื่ นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวัดยโสธร
พระยาอนมุ านราชธน ได้สันนษิ ฐานวา่ ต้นเหตุแหง่ การลอย กระทง อาจมีมลู ฐานเปน็ ไปไดว้ า่ การลอยกระทงเป็นคตขิ องชนชาตทิ ี่ ประกอบกสกิ รรม ซ่งึ ตอ้ งอาศยั นา้ เป็นสาคญั เม่ือพชื พนั ธุ์ธัญชาตงิ อก งามดี และเปน็ เวลาทีน่ ้าเจงิ่ นองพอดี กท็ ากระทงลอยไปตามกระแสน้า ไหล เพอ่ื ขอบคุณแมค่ งคา หรือเทพเจ้าท่ีประทานนา้ มาให้ความอุดม สมบูรณ์ เหตุน้ี จงึ ได้ลอยกระทงในฤดกู าลนา้ มาก และเมอื่ เสร็จแลว้ จึง เล่นรน่ื เรงิ ดว้ ยความยนิ ดี เท่ากบั เป็นการสมโภชการงานท่ีได้ กระทาวา่ ไดล้ ุลว่ งและรอดมาจนเหน็ ผลแล้ว ส่งเสริมการอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขื่อนแก้วและหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวดั ยโสธร
ทา่ นวา่ การทีช่ าวบ้านบอกว่า การลอยกระทงเปน็ การขอขมา ลาโทษ และขอบคุณต่อแมค่ งคา ก็คงมเี ค้าในทานองเดยี วกับการทชี่ าติ ต่างๆ แต่ดึกดาบรรพไ์ ด้แสดงความยนิ ดี ท่ีพชื ผลเก็บเกี่ยวได้ จึงได้นา ผลผลติ แรกท่ีได้ ไปบชู าเทพเจา้ ที่ตนนบั ถือ เพ่ือขอบคณุ ทบี่ ันดาลใหก้ าร เพาะปลกู ของตนได้ผลดี รวมท้งั เลย้ี งดูผที ี่อดอยาก และการเซ่นสรวง บรรพบรุ ุษท่ลี ว่ งลับ เสรจ็ แลว้ ก็มีการสมโภชเลีย้ งดูกนั เอง ส่งเสริมการอ่านโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่ือนแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวัดยโสธร
ต่อมาเม่ือมนษุ ย์มีความเจริญแล้ว การวิตกทุกข์รอ้ น เรื่อง เพาะปลูกว่าจะไมไ่ ด้ผลก็นอ้ ยลงไป แต่ก็ยังทาการบวงสรวง ตามท่ีเคย ทามาจนเป็นประเพณี เพียงแต่ตา่ งก็แก้ให้เขา้ กับคติลทั ธิทางศาสนาที่ตน นบั ถือ เชน่ มกี ารทาบุญสุนทานเพ่ิมขนึ้ ในทางพุทธศาสนา เป็นต้น แต่ ท่สี ุด ก็คงเหลอื แตก่ ารเล่นสนกุ สนานร่นื เรงิ กนั เปน็ สว่ นใหญ่ อยา่ งไรกด็ ี ด้วยเหตดุ ังกลา่ วข้างต้น การลอยกระทงจงึ มีอยู่ในชาตติ ่างๆท่ัวไป และการทไี่ ปลอยน้า ก็คงเป็นความร้สู กึ ทางจิตวิทยา ทมี่ นุษยโ์ ดยธรรมดา มักจะเอาอะไรท้งิ ไปในน้าให้มันลอยไป ส่งเสรมิ การอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่ือนแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวัดยโสธร
ทำไมกระทงสว่ นใหญ่เป็นรูปดอกบวั ในหนังสอื ตารบั ท้าวศรจี ุฬาลกั ษณ์ หรือตานานนางนพมาศ ซ่งึ เป็นพระสนมเอก ของพระมหาธรรมราชาลไิ ทยหรือพระรว่ ง แห่ง กรุงสโุ ขทยั ไดก้ ล่าวถงึ วันเพ็ญเดอื นสบิ สองวา่ เปน็ เวลาเสด็จประพาส ลาน้า ตามพระราชพธิ ใี นเวลากลางคืน และได้มรี บั ส่งั ใหบ้ รรดาพระ สนมนางในทงั้ หลาย ตกแตง่ กระทงประดับดอกไมธ้ ูปเทยี น นาไปลอย นา้ หนา้ พระท่ีน่ัง ในคราวนัน้ ท้าวศรีจุฬาลกั ษณ์ หรอื นางนพมาศ พระสนมเอก กไ็ ดค้ ดิ ประดิษฐก์ ระทงเปน็ รปู ดอกบัวกมทุ ขนึ้ ดว้ ยเห็นว่าเป็นดอกบวั พเิ ศษ ที่บานในเวลากลางคนื เพยี งปลี ะครั้งในวันดงั กล่าว ส่งเสริมการอา่ นโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอื่ นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จังหวัดยโสธร
สมควรทาเป็นกระทงแตง่ ประทปี ลอยไปถวายสกั การะรอย พระพุทธบาท ซง่ึ เม่ือพระร่วงเจ้าไดท้ อดพระเนตรเหน็ ก็รบั สง่ั ถามถงึ ความหมาย นางก็ไดท้ ูลอธิบายจนเป็นท่พี อพระราชหฤทยั พระองคจ์ งึ มีพระราชดารัสว่า \"แตน่ ้ีสืบไปเบ้ืองหนา้ โดยลาดับ กษตั รยิ ์ในสยาม ประเทศ ถึงกาลกาหนดนักขตั ฤกษ์ วันเพญ็ เดอื น 12 ให้นาโคมลอยเปน็ รปู ดอกบัว อุทศิ สักการบชู าพระพทุ ธบาทนมั มทานที ตราบเท่า กัลปาวสาน\" ด้วยเหตุนี้ เราจงึ เหน็ โคมลอยรูปดอกบัว ปรากฏมาจนปัจจุบนั ส่งเสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอื่ นแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวัดยโสธร
สง่ เสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่อื นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวดั ยโสธร
ตำนำนและควำมเช่อื วนั ลอยกระทง จากที่กล่าวมาขา้ งต้นว่า การลอยกระทง ในแตล่ ะทอ้ งท่กี ม็ า จากความเชอ่ื ความศรัทธาที่แตกต่างกัน บางแห่งก็มตี านานเล่าขานกนั ต่อๆมา ซง่ึ จะยกตวั อยา่ งบางเรือ่ งมาใหท้ ราบ ดงั น้ี ส่งเสรมิ การอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอื่ นแกว้ และหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวัดยโสธร
เรื่องแรก ว่ากนั วา่ การลอยกระทง มีตน้ กาเนดิ มาจากศาสนาพุทธ กล่าวคอื กอ่ นทีพ่ ระพทุ ธองค์จะตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสมั มาสัม พทุ ธเจา้ ไดป้ ระทับอยใู่ ตต้ ้นโพธ์ิ ใกล้แม่นา้ เนรัญชรา กาลวันหนึ่ง นาง สชุ าดาอุบาสิกาได้ใหส้ าวใช้นาขา้ วมธุปายาส (ขา้ วกวนหงุ ด้วยน้าผง้ึ หรือ น้าออ้ ย) ใส่ถาดทองไปถวาย เม่ือพระองคเ์ สวยหมดแล้ว กท็ รงต้งั สัตยาธษิ ฐานวา่ ถา้ หากวันใดจะสาเร็จเป็นพระพุทธเจา้ ก็ขอใหถ้ าด ลอยทวนน้า ดว้ ยแรงสัตยาธิษฐาน และบญุ ญาภินิหาร ถาดกล็ อยทวนน้าไปจนถึงสะดือทะเล แลว้ กจ็ มไปถกู ขนดหางพระยานาคผ้รู กั ษาบาดาล ส่งเสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขื่อนแกว้ และหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จังหวดั ยโสธร
พระยานาคตนื่ ขึน้ พอเหน็ ว่าเป็นอะไร กป็ ระกาศกอ้ งวา่ บดั น้ีไดม้ ีพระสัมมาสมั พุทธเจ้า อบุ ัตขิ ้ึนในโลกอีกองคแ์ ล้ว ครนั้ แลว้ เทพย ดาทัง้ หลายและพระยานาค กพ็ ากันไปเข้าเฝา้ พระพทุ ธเจ้า และพระยา นาคกไ็ ด้ขอให้พระพทุ ธองค์ ประทบั รอยพระบาทไว้บนฝัง่ แม่นา้ เนรญั ชรา เพอื่ พวกเขาจะไดข้ ึ้นมาถวายสักการะได้ พระองค์ก็ทรงทาตาม สว่ นสาวใช้ก็นาความไปบอกนางสชุ าดา ครน้ั ถึงวันน้นั ของทกุ ปี นางสุชาดากจ็ ะนาเคร่ืองหอม และดอกไมใ้ สถ่ าดไปลอยน้า เพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเปน็ ประจาเสมอมา และต่อๆ มาก็ไดก้ ลายเปน็ ประเพณีลอยกระทง ตามที่เหน็ กนั อยู่ในปัจจบุ นั สง่ เสริมการอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่อื นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวัดยโสธร
ในเรื่องการประทับรอยพระบาทน้ี บางแหง่ กว็ ่า พญานาคได้ ทูลอาราธนาพระพุทธเจา้ ไปแสดงธรรมเทศนาในนาคพภิ พ เม่อื จะเสดจ็ กลบั พญานาคไดท้ ูลขออนสุ าวรยี ์จากพระองค์ไวบ้ ูชา พระพทุ ธองค์จงึ ได้ทรงอธษิ ฐาน ประทับรอยพระบาทไว้ทีห่ าดทราย แมน่ า้ นมั มทา และพวกนาคทงั้ หลาย จงึ พากันบูชารอยพระพทุ ธบาท แทนพระองค์ ตอ่ มาชาวพทุ ธได้ทราบเรอื่ งน้ี จึงไดท้ าการบชู ารอยพระ บาทสบื ต่อกนั มา โดยนาเอาเคร่ืองสักการะใสก่ ระทงลอยน้าไป ส่วนทวี่ ่าลอยกระทงในวนั เพญ็ เดือน 1 หรอื วันออกพรรษา สง่ เสริมการอ่านโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขื่อนแกว้ และหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวัดยโสธร
เพือ่ เฉลมิ ฉลองวันคลา้ ยวนั ทพ่ี ระพุทธเจ้า เสด็จกลบั มาสู่โลก มนุษย์ หลงั การจาพรรษา 3 เดือน ณ สวรรคช์ นั้ ดาวดึงส์เพื่อแสดง อภธิ รรมโปรดพทุ ธมารดาน้ัน กด็ ว้ ยวันดงั กล่าว เหลา่ ทวยเทพและ พทุ ธบรษิ ัท พากันมารับเสด็จนบั ไมถ่ ้วน พร้อมดว้ ยเคร่อื งสกั การบชู า และเปน็ วนั ท่ีพระพุทธองค์ไดเ้ ปดใหป้ ระชาชนไดเ้ หน็ สวรรค์ และนรกด้วย ฤทธข์ิ องพระองค์ คนจึงพากันลอยกระทง เพ่ือเฉลิมฉลองรับเสดจ็ พระพทุ ธเจ้า ส่งเสริมการอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขือ่ นแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวัดยโสธร
สาหรับคติทว่ี ่า การลอยกระทงตามประทีป เพ่อื ไปบูชาพระเกศ แกว้ จุฬามณี บนสรวงสรรคช์ น้ั ดาวดึงส์นนั้ กว็ ่าเป็นเพราะตรงกับวันท่ี พระพุทธเจา้ เสดจ็ ออกบรรพชาทรี่ ิมฝงั่ แมน่ ้าอโนมา ทรงใชพ้ ระขรรค์ ตัดพระเกศโมลขี าด ลอยไปในอากาศตามที่ทรงอธษิ ฐาน พระอินทรจ์ ึง นาผอบแกว้ มาบรรจุ แลว้ นาไปประดษิ ฐานไว้ในจุฬามณเี จดยี ์ บน สวรรคช์ ั้นดาวดงึ ส์ (ตามประทีป คือ การจุดประทปี หรือจุดไฟใน ตะเกียง /โคม หรือผาง-ถว้ ยดนิ เผาเล็กๆ) ซงึ่ ทางเหนอื ของเรา มกั จะมกี ารปล่อยโคมลอย หรอื โคมไฟที่เรยี กว่า ว่าวไฟ ขนึ้ ไปในอากาศเพ่ือบูชา พระเกศแกว้ จฬุ ามณดี ว้ ย ส่งเสรมิ การอ่านโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่อื นแก้วและหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวดั ยโสธร
สง่ เสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่อื นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวดั ยโสธร
เรือ่ งสอง ตามตาราพรหมณ์คณาจารยก์ ลา่ ววา่ พิธีลอยประทีปหรอื ตามประทีปนี้ แต่เดิมเป็นพิธที างศาสนา พราหมณ์ ทาขึน้ เพ่ือบชู าเทพเจา้ ท้งั สามคือ พระอศิ วร พระนารายณ์ และพระพรหม เปน็ ประเภทคู่กับลอยกระทง กอ่ นจะลอยกต็ อ้ งมกี าร ตามประทปี ก่อน ซงึ่ ตามคัมภีรโ์ บราณอินเดียเรยี กวา่ “ทปี าวล”ี โดย กาหนดทางโหราศาสตร์วา่ เมอื่ พระอาทิตยถ์ ึงราศพี จิ กิ พระจนั ทรอ์ ยู่ ราศีพฤกษเ์ มอ่ื ใด เม่ือนนั้ เปน็ เวลาตามประทีป และเมื่อบูชาไว้ครบกาหนดวันแล้ว ส่งเสริมการอา่ นโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขือ่ นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวัดยโสธร
เอาโคมไฟน้นั ไปลอยน้าเสยี ต่อมาชาวพุทธเห็นเปน็ เร่อื งดี จึงแปลงเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท และการรับเสดจ็ พระพทุ ธเจา้ ดงั ท่ีกลา่ วมาขา้ งตน้ โดยมกั ถอื เอาเดอื น 12 หรอื เดือนย่ีเป็งเปน็ เกณฑ์ (ยเี่ ป็งคอื เดอื นสอง ตามการนับทางล้านนา ทีน่ ับเดือนทางจันทรคติ เรว็ กว่าภาคกลาง 2 เดือน) สง่ เสริมการอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่ือนแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวัดยโสธร
เร่อื งสาม เปน็ เร่อื งของพม่า เล่าวา่ ครั้งหนง่ึ ในสมัยพระเจา้ อโศกมหาราช ทรงมพี ระ ประสงคจ์ ะสร้างเจดยี ์ใหค้ รบ 84,000 องค์ แตถ่ กู พระยามารคอย ขัดขวางเสมอ พระองค์จงึ ไปขอให้พระอรหันต์องคห์ น่งึ คอื พระอุปคตุ ชว่ ยเหลือ พระอุปคตุ จึงไปขอรอ้ งพระยานาคเมืองบาดาลให้ชว่ ย พระยา นาครับปาก และปราบพระยามารจนสาเรจ็ พระเจา้ อโศกมหาราช จงึ สร้างเจดยี ์ได้สาเรจ็ สมพระประสงค์ ต้ังแตน่ ้นั มา เมือ่ ถงึ วันเพ็ญเดือน 12 คนทงั้ หลายก็จะทาพิธลี อยกระทง เพื่อบชู าคุณพระยานาค เรอ่ื งนี้ บางแห่งก็วา่ พระยานาค กค็ ือพระอปุ คุตทอ่ี ยู่ท่ี สะดือทะเล และมอี ิทธิฤทธมิ์ าก จงึ ปราบมารได้ และพระอปุ คุตน้ี เป็นท่นี ับถอื ของชาวพมา่ และชาวพายัพของไทยมาก ส่งเสริมการอา่ นโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขื่อนแก้วและหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวดั ยโสธร
เรื่องสี่ เกิดจากความเชอื่ แต่ครงั้ โบราณในลา้ นนาว่า เกิดอหวิ าต์ระบาด ทอี่ าณาจกั รหริภุญชัย ทาให้คนล้มตายเปน็ จานวนมาก พวกท่ีไมต่ ายจงึ อพยพไปอยูเ่ มืองสะเทิม และหงสาวดเี ป็น เวลา 6 ปี บางคนกม็ คี รอบครวั อยทู่ ี่นนั่ คร้นั เม่ืออหิวาต์ได้สงบลงแลว้ บางส่วนจงึ อพยพกลับ และเม่อื ถงึ วันครบรอบท่ีไดอ้ พยพไป กไ็ ด้จดั ธปู เทยี นสกั การะ พร้อมเครือ่ งอุปโภคบริโภคดังกล่าวใส่ สะเพา ( อ่านว่า “ สะ - เปา หมายถึง สาเภาหรือกระทง ) ลอ่ งตามลานา้ เพอ่ื ระลึกถงึ ญาติท่มี อี ยใู่ นเมืองหงสาวดี ส่งเสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่อื นแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวดั ยโสธร
ซ่ึงการลอยกระทงดงั กล่าว จะทาในวนั ย่ีเพง คือ เพ็ญเดอื นสิบ สอง เรยี กกนั วา่ การลอยโขมด แต่มิได้ทาทว่ั ไปในล้านนา สว่ นใหญ่ เทศกาลยเี่ พงน้ี ชาวลา้ นนาจะมีพธิ ตี ัง้ ธัมมห์ ลวง หรือการเทศน์คมั ภีร์ ขนาดยาวอยา่ งเทศน์มหาชาติ และมีการจุดประทปี โคมไฟอยา่ ง กว้างขวางมากกวา่ (การลอยกระทง ที่ทางโบราณลา้ นนาเรียกวา่ ลอยโขมดน้ี คาวา่ “ โขมด อา่ นวา่ ขะ-โหมด เปน็ ชอ่ื ผีปา่ ชอบออกหา กนิ กลางคนื และมไี ฟพะเหนียงเหน็ เปน็ ระยะๆ คลา้ ยผีกระสอื ดังน้ัน จงึ เรยี กเอาตามลักษณะกระทง ทจ่ี ดุ เทยี นลอยในน้า เห็นเงาสะทอ้ นวับๆ แวมๆ คล้ายผีโขมดว่า ลอยโขมด ดงั กลา่ ว) สง่ เสริมการอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอ่ื นแกว้ และหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จังหวดั ยโสธร
เร่อื งหา้ กล่าวกันว่าในประเทศจีนสมยั ก่อน ทางตอนเหนือ เมื่อถึงหนา้ น้า น้าจะท่วมเสมอ บางปีนา้ ทว่ ม จนชาวบ้านตายนับเปน็ แสนๆ และหาศพไมไ่ ด้กม็ ี ราษฎรจึงจัดกระทง ใส่อาหารลอยนา้ ไป เพอ่ื เซน่ ไหวผ้ ีเหลา่ นน้ั เปน็ งานประจาปี ส่วนท่ลี อย ในตอนกลางคนื ท่านสันนษิ ฐานว่า อาจจะต้องการความขรมึ และ ขมุกขมวั ให้เห็นขลงั เพราะเปน็ เร่อื งเกี่ยวกับผีๆสางๆ และผกี ไ็ มช่ อบ ปรากฏตัวในตอนกลางวนั การจุดเทียนก็เพราะหนทางไป เมืองผมี นั มดื จงึ ต้องจุดใหแ้ สงสว่าง เพือ่ ให้ผกี ลบั ไปสะดวก ในภาษาจนี เรียกการลอยกระทงว่า ปลอ่ ยโคมนา้ (ปง่ั จุ๊ยเตง็ ) ส่งเสรมิ การอ่านโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขื่อนแก้วและหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จังหวัดยโสธร
ซึ่งตรงกบั ของไทยวา่ ลอยโคม จากเรื่องข้างต้น เราจะเหน็ ไดว้ ่า การลอยกระทง สว่ นใหญ่จะเปน็ การแสดงความกตัญญู ระลึกถึงผมู้ ี พระคณุ ตอ่ มนุษย์ เช่น พระพทุ ธเจา้ เทพเจ้า พระแม่คงคา และบรรพ ชน เปน็ ต้น และแสดงความกตเวที (ตอบแทนคณุ ) ดว้ ยการเคารพบูชา ดว้ ยเครื่องสักการะต่างๆ โดยเฉพาะการบูชาพระพทุ ธเจ้า หรอื รอย พระพุทธบาท ถอื ได้ว่าเปน็ คตธิ รรมอยา่ งหนึง่ ท่บี อกเปน็ นัยให้ พุทธศาสนกิ ชน ไดเ้ จรญิ รอยตามพระบาทของพระพุทธองค์ ซึง่ เปน็ สัญลกั ษณ์แหง่ ความดงี ามทั้งปวงนัน่ เอง) สง่ เสรมิ การอ่านโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่อื นแก้วและหอ้ งสมดุ ประชาชนเฉลมิ ราชกุมารี จงั หวดั ยโสธร
ประเพณีลอยกระทง นอกจากจะเป็นประเพณีที่มคี ณุ คา่ ในเรอื่ ง การแสดงออกถงึ ความกตญั ญูกตเวที ต่อผมู้ พี ระคุณดังทก่ี ลา่ วมาแลว้ ประเพณีนีย้ ังมีคณุ ค่าตอ่ ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และศาสานาดว้ ย เช่น ทาใหส้ มาชิกในครอบครวั ไดใ้ ชเ้ วลาร่วมกนั ทาใหช้ ุมชนไดร้ ว่ มมอื ร่วมใจ กันจดั งาน หรอื ในบางท้องทที่ มี่ ีการทาบุญ กถ็ ือว่ามีสว่ นช่วยสบื ทอด พระศาสนา และในหลายๆ แห่งกถ็ ือเป็นโอกาสดีในการรณรงคอ์ นรุ กั ษ์ ส่งิ แวดล้อมในแม่น้าลาคลองไปด้วย ส่งเสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขอื่ นแกว้ และหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวดั ยโสธร
ขอบคณุ ข้อมูลดๆี จาก อมรรัตน์ เทพกาปนาท สานักงานคณะกรรมการ วฒั นธรรมแห่งชาติ กระทรวงวฒั นธรรม และ www.sanook.com สง่ เสรมิ การอา่ นโดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอคาเขือ่ นแก้วและหอ้ งสมุดประชาชนเฉลมิ ราชกมุ ารี จงั หวัดยโสธร
ตดิ ตามข้อมลู ขา่ วสารไดท้ ี่ facebook กศน. อาเภอคาเข่ือนแกว้ เวบ็ ไซต์ กศน. อาเภอคาเข่อื นแก้ว facebook ห้องสมดุ ประชาชน เวบ็ ไซตห์ อ้ งสมุดประชาชน อาเภอคาเขอื่ นแกว้ อาเภอคาเขือ่ นแก้ว สง่ เสรมิ การอ่านโดยห้องสมดุ ประชาชนอาเภอคาเข่ือนแก้วและห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกมุ ารี จงั หวดั ยโสธร
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: