ธ.ค.62 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี

คำนำ ปราชญ์ชาวบ้าน หรือนักคดิ ทอ้ งถิน่ หรือครูภูมปิ ัญญาไทยแล้วแต่จะเรียกกัน จะมมี ากมายในหลาย ด้านแล้วแต่งานท่ีท่านปฏิบตั ิจนบังเกิดผล ไม่วา่ จะเรยี กอะไรก็ตามคุณสมบัติของผู้ที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน คอื 1. คนเหล่านี้มธี รรมะอยใู่ นใจทกุ ท่าน เป็นธรรมะของความรกั ความเมตตา ความอยากช่วยคน เป็นธรรมะโดยการปฏิบตั ิ 2. คนเหลา่ นคี้ ิดทาสรุปบทเรยี น แลว้ นามาเปน็ ความรใู้ ห้คนเห็นได้อย่างชัดเจน มีทงั้ วชิ าการและ ภาคปฏิบตั ิใหเ้ ห็น 3. คนเหล่านีม้ ีความรกั ความเป็นปราชญไ์ ม่ได้อยู่ทีค่ วามฉลาดของปญั ญาทเ่ี กดิ จากการกระทา แตเ่ กิดจากความรักท่ีมธี รรมะเปน็ แรงบันดาลใจให้แบ่งปนั แก่ผอู้ น่ื 4. คนเหล่านเ้ี ปน็ รม่ โพธิ์ ร่มไทร การแผ่ภูมิปัญญาที่เกดิ จากการทาจรงิ และความรักแผ่นดนิ ทีม่ ี ลกู หลาน มปี า่ มีชุมชน มีเมือง ดังนั้น สรุปไดว้ ่าปราชญ์ชาวบ้านน้ันเป็นผู้ที่มีวถิ ีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติ มีความคิดเข้าระบบชอบ คน้ หาความจริง ช่างสงั เกตและนาส่ิงที่พบเหน็ มาเรียนรู้โดยการปฏบิ ัติจรงิ สามารถสรุปเป็นบทเรยี นได้ ดังเช่น ปราชญ์ชาวบ้าน ด้านการเกษตร ซึ่งมีอยู่ท่ัวไปในทกุ ภาคของประเทศ ทั้งน้ี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองราชบุรี ได้เล็งเห็นถึง ความสาคัญของผู้ท่ีทาคุณประโยชน์ เสียสละ และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีต่อคนในชุมชนอาเภอเมือง ราชบุรี จงึ ได้จดั ทาทาเนียบภูมิปญั ญาท้องถิ่น ขน้ึ เพ่ือยกยอ่ ง และเผยแพร่ให้ชนรุ่นหลังได้ถือเป็นแบบอย่างท่ีดี ในการดารงชีวติ ตอ่ ไป กศน.ตาบลพงสวาย

สำรบัญ คำนำ หน้ำ สำรบญั 1 กศน.ตำบลพงสวำย 3 - การประดิษฐ์วัสดเุ หลือใช้ 5 - การทาปยุ๋ ชีวภาพ การทาน้ายาเอนกประสงค์ - การสานฝาชจี ากไม้ไผ่

แบบบันทกึ ชดุ ขอ้ มลู คลงั ปญั ญำ-ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ ตำบลพงสวำย อำเภอเมอื งรำชบรุ ี จงั หวดั รำชบรุ ี ชือ่ ภมู ปิ ัญญำ ปราชญด์ ้านการเกษตรผสมผสาน ข้อมูลพนื้ ฐำน รำยบคุ คล เจ้ำของภูมิปัญญำทอ้ งถ่ิน/บุคคลคลงั ปัญญำ ชื่อ นางกาญจนา นามสกลุ เจรญิ ชนม์ วันเดอื นปเี กดิ 1 มกราคม พ.ศ.2505 ท่อี ยูป่ ัจจุบัน (ท่ีสามารถติดต่อได้) บ้านเลขท่ี 9 หมทู่ ่ี 7 ตาบลพงสวาย อาเภอเมืองราชบรุ ี จงั หวดั ราชบรุ ี ไปรษณยี ์ 70000 โทรศพั ท์ - โทรสาร. -. Line ID ควำมเปน็ มำของภูมิปัญญำ เน่ืองจากคุณกาญจนา เจริญชนม์ เป็นผู้มีองค์ความรู้ดา้ นเกษตร การเกษตรแบบผสมผสาน โดยแต่ เดิมไดป้ ระกอบอาชีพค้าขาย โรงสีข้าว จนได้รับผลกระทบคือ เจ็บป่วยบ่อย เน่ืองจากไดร้ ับสารเคมมี าจากปุ๋ย ท่ีฉีดพ่นในนาข้าว ต่อมาได้เข้าร่วมกับกลุ่มศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ได้เร่ิมเรียนรู้รู้การทาการเกษตรแบบ ปลอดภัย โดยใช้หลักการเกษตรอินทรีย์ ที่มีความปลอดภัยกับมนุษย์ ทาให้รู้สึกว่าการทานาแบบเกษตร อินทรีย์นั้น เหมาะสมกับการประกอบอาชีพกับตนเอง และเริ่มเรียนรู้หลักการของปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง นามาปรับใช้ในการเกษตรและการดารงชีวิต และได้ถ่ายทอดความรู้ องค์ความร่ีตนเองมี ให้กับ ประชาชนในชมุ ชนและประชาชนทมี่ ีความสนใจ มาเรยี นรู้ด้านการทาผสมแบบธรรมชาติ จดุ เดน่ ของภูมปิ ัญญำ เป็นผู้มีองค์ความรู้ด้านเกษตร การเกษตรแบบผสมผสาน จนทาให้มีความชานาญต่อมาก็ได้เริ่ม ถ่ายทอดองค์ความรู้ท่ีมีให้กับคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทาการเกษตรแบบธรรมชาติ การนาวัตถุดิบ จากธรรมชาติมาใช้ และนาวัตถุดิบจากในชุชนมาผสมทาให้ต้นทุนการผลิต ทาให้มีรายได้เข้าสู่ชุมชน ท่ีเป็น จุดเด่น การทาเกษตรครบวงจร น้อมนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ความรู้ความเข้าใจโดยแท้จริง นา ข้าวเปลือกมาสีเอง และมูลสัตว์มาทาปุ๋ยอินทรีย์ ใช้หมุนเวียนภายในฟาร์ม ทาน้าส้มควันไม้ใช้ป้องกันกาจัด ศัตรูพืช ทาน้าหมกั หมักชีวภาพโดยใช้จุลินทรีย์ มีการจดบันทกึ บัญชีครัวเรือน เพื่อเปรยี บเทียบการผลิตแต่ละ ปี กาหนดแผนการผลติ ดจู ุดคมุ้ ทนุ

ภำพถ่ำยบุคคล และอปุ กรณ์/เคร่ืองมือ/ส่ิงทปี่ ระดษิ ฐ์ (ชิ้นงำนหรือผลงำน) ปราชญ์ดา้ นการเกษตรผสมผสาน นางกาญจนา เจรญิ ชนม์ ผมู้ ีองค์ความรู้ดา้ นเกษตร การเกษตร แบบผสมผสาน การทานาแบบเกษตรผสมผสาน โดยใชก้ ารเกษตรอนิ ทรีย์ เพ่ือใหม้ คี วามปลอดภัยกบั มนุษย์และธรรมชาติ

แบบบันทกึ ชุดขอ้ มลู คลังปญั ญำ-ภูมิปญั ญำท้องถน่ิ ตำบลพงสวำย อำเภอเมอื งรำชบรุ ี จงั หวัดรำชบุรี ชือ่ ภูมิปัญญำ แหลง่ เรยี นร้กู ารปลกู มะพรา้ วนา้ หอม ขอ้ มูลพน้ื ฐำน รำยบุคคล เจำ้ ของภมู ิปญั ญำทอ้ งถิน่ /บุคคลคลังปญั ญำ ชอ่ื นายภาณุวัฒน์ นามสกุล รอสมงิ วนั เดือนปีเกิด ---- พ.ศ. 2495 ทอ่ี ยู่ปจั จบุ นั (ทส่ี ามารถตดิ ต่อได้) บา้ นเลขท่ี 79 หมทู่ ี่ 7 ตาบลพงสวาย อาเภอเมืองราชบุรี จังหวดั ราชบุรี ไปรษณยี ์ 70000 โทรศพั ท์ - โทรสาร. -. Line ID - ควำมเปน็ มำของภมู ิปญั ญำ เนื่องจากคุณภาณุวฒั น์ รอสมิง เป็นผู้มีองค์ความรู้ด้านเกษตร การเกษตรแบบผสมผสาน โดยแต่ เดิมได้ประกอบอาชีพรับราชการทหาร ต่อมาได้เข้าร่วมกับกลุ่มการปลูกมะพร้าวน้าหอมธรรมชาติ ได้เริ่ม เรียนรู้การทาการเกษตรแบบปลอดภัย โดยใช้หลักการเกษตรอินทรีย์ ที่มีความปลอดภัยกับมนุษย์ ทาให้รู้สึก วา่ การทาการเกษตร แบบเกษตรอินทรียน์ น้ั เหมาะสมกับการประกอบอาชีพกบั ตนเอง และเร่ิมเรียนรหู้ ลักการ ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นามาปรับใช้ในการเกษตรและการดารงชีวิต และได้ถ่ายทอดความรู้ องค์ ความรู้ท่ีตนเองมี ให้กับประชาชนในชุมชนและประชาชนที่มีความสนใจ มาเรียนรู้ด้านการปลูกมะพร้าวแบบ ธรรมชาติ เพราะมองว่าเป็นพชื เศรษฐกิจ อีกท้ังยังพบว่าชาวต่างประเทศหนั มานิยมบริโภคมะพร้าวมากกวา่ คน ไทย มะพร้าวน้าหอมมีลักษณะทรงผลเล็ก แต่มีจานวนผลต่อทะลายมาก ถ้ามาดูเรอ่ื งปริมาณน้าและเนื้อยังมี มากกว่ามะพร้าวแกงหากเทียบทะลายต่อทะลายด้วยกัน ท้ังนี้ ตามธรรมชาติจานวนผลมะพรา้ วต่อทะลายข้ัน ต่ามีจานวน 10 ผล แต่ถ้าต้องปลูกเพื่อส่งออกจะต้องมีจานวน 15-20 ผล ต่อทะลาย เนื่องจากการส่งออกมี การจากัดขนาดผลท่ีมคี วามเหมาะสมพอดี จุดเดน่ ของภมู ปิ ัญญำ เป็นผู้มีองค์ความรู้ด้านเกษตร การเกษตรแบบผสมผสาน จนทาให้มีความชานาญต่อมาก็ได้เร่ิม ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีให้กับคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทาการเกษตรแบบธรรมชาติ การนาวัตถุดิบ จากธรรมชาติมาใช้ และนาวัตถุดิบจากในชุชนมาผสมทาให้ต้นทุนการผลิต ทาให้มีรายได้เข้าสู่ชุมชน ที่เป็น จุดเด่น การทาเกษตรครบวงจร น้อมนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ความรู้ความเข้าใจโดยแท้จริง ใช้ปุ๋ย อินทรีย์ ใช้หมุนเวยี นกนั ไป มูลไก่ มูลวัว การปอ้ งกันกาจดั ศตั รูพืช แบบวิธีธรรมชาติ ทาน้าหมักหมักชีวภาพ โดยใชจ้ ลุ ินทรีย์ มีการจดบนั ทกึ บญั ชีเปรยี บเทยี บแตล่ ะเดือนของรายรับรายจ่าย

ภำพถำ่ ยบุคคล และอปุ กรณ์/เคร่อื งมอื /ส่ิงท่ปี ระดษิ ฐ์ (ช้ินงำนหรอื ผลงำน) การขยายพนั ธุ์ มะพรา้ วน้าหอมเอง เพ่ือลดตน้ ทนุ การผลิต

แบบบนั ทกึ ชดุ ขอ้ มูลคลังปัญญำ-ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ ตำบลพงสวำย อำเภอเมอื งรำชบรุ ี จงั หวัดรำชบุรี ชื่อภูมปิ ัญญำ นวดแผนไทย ข้อมูลพนื้ ฐำน รำยบคุ คล เจ้ำของภูมิปญั ญำท้องถ่นิ /บุคคลคลังปัญญำ ชื่อ นายพลพณ พรมมา วนั เดอื นปเี กิด 18 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ทีอ่ ยปู่ ัจจบุ นั (ท่สี ามารถติดต่อได้) บา้ นเลขท่ี 107 หมู่ท่ี 1 ตาบลพงสวาย อาเภอเมืองราชบรุ ี จังหวัดราชบุรี รหัสไปรษณยี ์ 70000 โทรศัพท์ 081-0191511 โทรสาร ..-.. . Line ID 081-0191511 E-mail address - Facebook พลพณ พรมมา ควำมเปน็ มำของภมู ิปญั ญำ คณุ พลพณ พรมมา มคี วำมรู้เรอื่ งนวดแผนไทย เหน็ ความสาคัญวา่ เป็นศาสตร์และศิลป์อกี แขนงหนึง่ ท่ีสาคัญ ของหลักวชิ าการแพทยแ์ ผนไทย ในการรักษาโรคภัยไขเ้ จ็บตา่ งๆ และเป็นภูมปิ ญั ญาไทย ทไี่ ด้ผ่าน การบรู ณาการ รว่ มกบั องคค์ วามรู้ ของศาสตรก์ ารแพทย์ ในระบบการแพทย์อน่ื ๆ จนพัฒนาเปน็ การนวดไทยท่ี มเี อกลักษณเ์ ฉพาะตัว จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ท้ังในประเทศและในระดบั นานาชาติ คณุ พลพณ พรมมา ได้เขา้ รวมการอบรมกับโรงพยาบาลราชบรุ ี หลกั สูตร 250 ช่ัวโมง เดิมมีพนื้ ฐานเรื่องการนวดแผนไทย มาเป็นเวลา 10 กวา่ ปี เปน็ ผู้ท่ีชอบเรียนรู้ เพิม่ เตมิ ความรู้ของตนเองอยตู่ ลอดเวลา จนสามารถมีความชานาญ ในเร่อื งการนวดแก้อาการ ต่างๆ จนสามารถเป็นวทิ ยากรได้อยา่ งดี มีความเมตตาตอ่ เพ่ือมนุษย์ จุดเดน่ ของภมู ปิ ัญญำ เปน็ ผมู้ ีองค์ความรู้ การนวดแผนไทย การนวดผ่อนคลาย การนวดแก้อาการ เป็นทรี่ ู้จกั ของคนใน ชุมชนเรอื่ งการปวดเมื่อย ไหล่ตดิ ( ซึ่งถือวา่ เปน็ ความเชอ่ื โดยสว่ นตัว)จะได้รบการช่วยเหลือเร่ืองการนวด การ ออกหน่วยใหบ้ รกิ ารกบั ผู้สงู อายเุ ป็นประจาทุกเดือนของเทศบาลตาบลหลกั เมืองเพ่ือเปน็ การฝึกหดั และการ เผยแพรค่ วามร้เู ร่ืองการนวดเพอื่ การผ่อนคลาย เปน็ ผ้ทู ใ่ี ห้ความรู้กับบคุ ลทสี่ นใจเร่ืองการต่อยอดองคค์ วามรู้ จะสอนให้กบั ผู้ทส่ี นใจฟรี

ภำพถำ่ ยบคุ คล และอุปกรณ/์ เคร่ืองมอื /สิง่ ที่ประดษิ ฐ์ (ช้ินงำนหรือผลงำน) มกี ารอบรมเพิ่มความร้เู รือง ภาษาอังกฤษสาหรบั การนวด เป็นวทิ ยากรใหก้ ับ กศน.ตาบลพงสวาย นวดแผนไทย 50 ชั่วโมง

คณะผจู้ ัดทำ ทปี่ รึกษำ ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอเมืองราชบุรี นางศริ เิ พ็ญ สงั ข์บูรณ์ ผ้รู ับผดิ ชอบโครงกำร/กจิ กรรม ครอู าสาสมัคร นางงามตา แสงอุไร ผเู้ รียบเรียงและเขียนรำยงำน/พมิ พ์จัดหน้ำจดั ภำพประกอบ นางบุญเพ็ญ จานแก้ว ครู กศน.ตาบลพงสวาย