Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบงานการนิเทศแนวใหม่ดาราพร

ใบงานการนิเทศแนวใหม่ดาราพร

Published by Daraporn Fainaikit, 2021-08-02 06:13:16

Description: ใบงานการนิเทศแนวใหม่ดาราพร

Search

Read the Text Version

o ใบงาน การนิเทศการสอนแนวใหม่ ❖ ให้นกั ศกึ ษาตอบคำถามดังต่อไปน้ี ✓ การนเิ ทศแนวใหมป่ ระกอบด้วย Coaching , Mentoring , Supporting ✓ กิจกรรมการพฒั นาด้านเทคนิคแนวใหมป่ ระกอบด้วย 1. การสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อให้เข้าใจจุดมุ่งหมายแนวทางการ ดำเนินงานและพร้อมให้ความร่วมมือ 2. การพัฒนาการศึกษานิเทศก์ให้มีคุณลักษณะและความพร้อมสร้างแรงจูงใจในการทำงานเพ่ือ พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา 3. สรา้ งเครอื ขา่ ยการทำงานรว่ มกันในทกุ ระดบั 4. สนับสนนุ ใหศ้ กึ ษานเิ ทศกด์ ำเนินงานอยา่ งเปน็ ระบบ การนเิ ทศแนวใหม่ ได้แก่ 1. การนิเทศแบบชี้แนะสะท้อนคิด (Reflective Coaching) คือ กระบวนการให้คำแนะนำ ให้ คำปรึกษาหรือกระตุน้ ให้เกิดความคดิ ไตรต่ รองทบทวน Reflective Thinging นิจวิเคราะห์และพิจารณาสิง่ ต่าง ๆ อย่างรอบคอบโดยใช้สติและสมาธิซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้บุคคลได้ทบทวนและสะท้อนการกระทำของตน (Reflective Practice) ช่วยให้เกิดความเข้าใจและเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์นำไปสู่การพัฒนาปรับปรุง ตนเองปรบั ปรงุ งาน 2.การนิเทศแบบเป็นพี่เลี้ยงและสนับสนุน( Mentoring and Supporting) คือการนิเทศแบบพี่เลี้ยง (Mentoring)ผู้ให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในเรื่องการพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาและคุณภาพผู้เรยี นเพ่อื ใหม้ ีศกั ยภาพการทำงานสงู ขึน้ 3.การนิเทศแนวใหม่บนพื้นฐานการวิจัย( Research Bosed Supervision: (RBS) มีกระบวนการ ดังน้กี ารวเิ คราะหป์ ัญหาการศกึ ษาหลักการทฤษฎนี วัตกรรมท่ีเปน็ ไปไดใ้ นการแก้ปญั หาเลือกนวตั กรรมท่ีเหมาะสม ที่สุดสร้างต้นแบบนวัตกรรมทดลองใช้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องทดสองภาคสนามการประเมินการทดลองใช้ สรุปผล รปู แบบการนิเทศ แฮรสิ แบง่ เป็น 2 แบบ คือ 1. การนิเทศแบบเน้นการให้คำแนะนำ( Tractive Supervision) แบบน้ผี ู้นเิ ทศจะได้คำแนะนำให้ผู้ได้รับการ นิเทศไปปรบั ปรงุ แกไ้ ข 2. การนิเทศแบบเน้นความเป็นพลวัติ (Dynamic Supervision) คือ แบบนี้ผู้นิเทศจะจุดประกายทางด้าน ความคิดเพื่อส่งเสริมให้ผู้ได้รับการนิเทศนำไปปฏิบัติผู้ได้รับการนิเทศสามารถใช้ความรู้ความสามารถ ตลอดจนประสบการณ์ท่ตี นเองมมี าปรบั ปรงุ การสอนตามความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจรงิ ดิ เทนเนอร์ และ แอลเทนเนอร์ 4 แบบ 1. การนเิ ทศแบบตรวจตรา (Inspection Supervision) คือ การนเิ ทศแบบนีเ้ ปน็ แบบเก่าแก่ทใ่ี ช้มานานผู้ นิเทศจะตรวจการทำงานของสถานศกึ ษาให้เปน็ ไปตามกฎระเบียบของหลักสตู รที่กำหนดไว้

2. การนิเทศแบบเน้นผลงาน (Supervision as Production) การนเิ ทศแบบนี้จะดูผลงานของสถานศึกษาว่า สามารถผลิตผู้เรียนออกสู่สงั คมอย่างมีประสิทธภิ าพมากหรือไม่มากน้อยเพยี งใดบางคนเรียกการนเิ ทศ แบบวิทยาศาสตรเ์ พราะมกี ารวางแผนการทำงานอย่างมรี ะบบระเบียบตรวจสอบย้อนกลับไดอ้ ยา่ งมี ข้ันตอนท่ีชดั เจน 3. การนิเทศแบบคลินกิ (Clinical Supervision) คือ การนิเทศแบบนีเ้ น้นการปรบั ปรุงกระบวนการเรยี น การสอนในลักษณะท่ีพจิ ารณาและแกไ้ ขตามความเหมาะสมของผไู้ ดร้ บั การนเิ ทศแตล่ ะแหง่ จึงคล้ายกับ การรกั ษาอาการเจ็บปว่ ยของคนใชใ้ หม้ ีการฟ้ืนฟูสภาพได้ดีข้นึ แต่การนิเทศการศกึ ษาจะมุ่งใหผ้ ู้ได้รับการ นิเทศเปล่ียนแปลงพฤติกรรมการเรยี นการสอนใหม้ ีความเหมาะสมโดยผนู้ เิ ทศและผู้ไดร้ ับการนิเทศจะได้ พบปะเผชญิ หนา้ กับและนนั่ คือไปปรบั ใชต้ ามความเหมาะสมและความจำเป็นเพ่ือประโยชน์ของการใช้ งาน 4. การนิเทศแบบเน้นการพัฒนา (Developmentat Supervision) การนิเทศแบบน้ีเน้นพัฒนาผู้ไดร้ ับการ นิเทศ ใหม้ ีความรูค้ วามสามารถในดารแก้ไขปญั หาของตนเอง การนิเทศการสอนแบบกลั ยาณมติ ร เน้นประเดน็ สำคัญ 4 ประการ 1. การสรา้ งศรทั ธา หมายความว่า ผูน้ เิ ทศจะต้องสร้างศรัทธาเพ่ือให้เพื่อนครูยอมรับและเกิดความสนใจทจี่ ะ ใฝร่ ้ใู ฝป่ รับปรู งการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 2. การสาธติ รปู แบบการสอน หมายความวา่ ผ้ใู ห้นิเทศจะต้องเสดงให้เป็นที่ประจักษ์ชดั วา่ การสอนท่ีเน้น ผู้เรียนเปน็ สำคญั น้นั สามารถปฏบิ ัตแิ ละทำได้จรงิ ๆแลว้ เพื่อนครูสามารถนำรปู แบบไปประยกุ ตใ์ นชน้ั เรียน ได้ 3. การรว่ มคิดแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ หมายความว่า ผู้นเิ ทศและผูร้ ับการนิเทศจะต้องมีการพบปะกนั อย่าง สมำ่ เสมอมีการรว่ มคิดแกป้ ัญหาและแลกเปลย่ี นเรียนรู้ในการจัดกระบวนการเรียนรซู้ ่ึงกันเละกนั 4. การติดตามประเมนิ ผลตลอดกระบวนการ หมายความวา่ ผู้นเิ ทศจะต้องบันทกึ การนเิ ทศอยา่ งสม่ำเสมอ สังเกตและรับฟงั ขอ้ มูลปอ้ นกลบั จากเพื่อนครูผรู้ ับการนิเทศศกึ ษาปัญหาและแนวทางแกไ้ ขเพ่ือสร้างสังค ย่างเป็นระบบและต่อเน่อื งสบื ไป • การนิเทศแบบร่วมพัฒนา ( Cooperative Development Supervition ) เปน็ ปฏิสัมพันธท์ างการ นเิ ทศก์ ระหว่างก่ฝี ่าย ใครบ้าง o ตอบ เป็นปฏสิ ัมพันธท์ างการนเิ ทศ ระหว่าง 3 ฝา่ ย ได้แก่ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ศึกษานิเทศก์ และครผู ู้สอน • การนเิ ทศแบบสอนงาน ( Cooching ) หมายถึง การให้คำปรึกษาแนะนำเป็นการพบระหวา่ งผ้นู ิเทศกบั ผ้รู บั การนเิ ทศ เปน็ วธิ ีการพฒั นาบุคลากรให้สามารถปกิบตั ิงานไดอ้ ย่างมีประสทิ ิภาพ โดยการแนะนำหรือ เรยี นรู้จากผ้ชู ำนาญ ( Cooch ) ในลัษณะท่ีได้รับคำแนะนำหรือเรียนร้ไู ปพร้อม ๆ กับการปฏบิ ตั ิ มี ขัน้ ตอนแบบโคช้ ช่ิง มี 4 ขั้นตอน CQCD

- C ย่อมาจากคำวา่ Compliment หมายถงึ หมายถึงการสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี รี ะหวา่ งผทู้ ่ีทำ หน้าทเ่ี ป็น Coach และผู้ให้คำแนะนำซึ่งเปน็ สัมพันธภาพท่ีสร้างความไว้วางใจความสบายใจ ยนิ ดีร่วมในทางของ Coaching Techniques นับเปน็ บทบาทสำคัญของ Coach ที่จะต้อง ดำเนนิ การดังนั้นควรดำเนนิ การดังนี้ 1. ศึกษาข้อมลู ของผู้ทีไ่ ด้รับการแนะนำเช่นจดุ เด่นผลงานเดน่ ความชอบอธั ยาศยั จดุ อ่อนจดุ ท่ี ต้องปรบั ปรุงขอ้ มูลตา่ ง ๆ ควรบันทึกไว้อยา่ งเป็นระบบมีความเหมาะสม 2. นำข้อมลู มาเป็นแนวทางในการสรา้ งสมั พันธภาพ ได้แก่ การชมเชยหรอื การสรา้ ง บรรยากาศเพ่อื การเชอื่ มโยงไปสขู่ ั้นต่อไป - Q ยอ่ มาจากคำวา่ Question หมายถึงการถามเน้นการถามในเชงิ ขอความคิดเหน็ ไม่ให้ผตู้ อบจน มุมหรอื เกิดความไมส่ บายใจท่ีจะตอบคำถามซ่งึ ผูเ้ ปน็ Coach อาจจะใชค้ วามเหมาะสมของผรู้ บั คำแนะนำและสภาพปัญหาเช่นคุณคิดวา่ ผมจะทำอะไรได้บ้าง-คณุ คดิ วา่ มวี ธิ กี ารอะไรบ้าง แกป้ ัญหานีค้ ุณคดิ ว่าถา้ ใช้วธิ กี ารน้แี ล้วจะเกิดอะไรขนึ้ - C – ย่อมาจากคำว่า Correct หมายถึงการเสนอแนะแนวทางแก้ไขในขน้ั ตอนนผ้ี ูเ้ ป็น Coach ควรใหค้ วามสำคัญในข้นั ตอนที่สืบเนื่องจากขั้น Question นำคำตอบของผูร้ ับคำแนะนำมา วเิ คราะหแ์ ละนำเสนอในสว่ นทีย่ ังบกพร่องและสังเคราะห์เป็นแนวการปฏิบตั หิ รือการพัฒนางาน ในลักษณะแลกเปลี่ยนเรยี นรู้รว่ มกนั และในข้ันตอนนค้ี วรกำหนดบทบาทในการปฏบิ ัติแต่ละเร่ือง ชดั เจน - D – ย่อมาจากคำว่า Demonstrate หมายถงึ การนำข้อเสนอหรือแนวทางทตี่ กลงกนั ไวใ้ น ขัน้ ตอนของการนิเทศ C-Correct หรอื แผนการใช้นวตั กรรมซึ่งผรู้ บั คำแนะแนวทางเปน็ ผู้ปฏบิ ตั ิ สว่ นผู้ทเ่ี ปน็ Coach เป็นผแู้ นะนำอย่างใกล้ชิดบางคร้ัง Coach จะต้องสาธติ ให้นักศึกษาสวัด โอกาสนิทสนนโหมแล้วสรุปองความรสู้ ่งอาจารย์ ชอ่ื นางสาวดาราพร ใฝใ่ นกจิ รหสั 6110540231028 ชั้นปีที่ 4 สาขา การสอนภาษาอังกฤษ คณะ ศกึ ษาศาสตร์ มมร. วทิ ยาเขตล้านนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook