สัตว์ป่ าสงวน1.นกเจ้าฟ้ าหญงิ สิรินธร Pseudochelidon sirintaraeช่ือสามัญ : White-eyed River-Martinช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Pseudochelidon sirintaraeช่ืออนื่ : นกเจา้ ฟ้ าเป็นนกนางแอน่ ชนิดหน่ึง ขนาดวดั จากปลายจงอยปากถึงโคนหางยาวประมาณ 15 ซม. พบคร้ังแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2511 บริเวณบึงบรเพด็ จ.นครสวรรค์ เพยี งแห่งเดียวในโลกและไม่พบท่ีอื่นอีกเลยเป็นนกท่ีอพยพมาในฤดูหนาว ส่วนในฤดูอื่นเชื่อวา่ จะอยบู่ ริเวณตน้ แม่น้าปิ ง ชอบเกาะนอนในพงหญา้ นอนอยรู่ วมกบั ฝงู นกนางแอ่นชนิดอื่น ๆ ตามใบออ้ และใบสนุ่น โฉบจบั แมลงเป็นอาหาร ปัจจุบนั เชื่อวา่ สูญพนั ธุ์ไปแลว้สถานภาพ : นกชนิดน้ีสารวจพบคร้ังแรกในประเทศไทยเม่ือปี พ.ศ.๒๕๑๑ จงั หวดั นครสวรรค์ หลงั จากการคน้ พบคร้ังแรกแลว้ มีรายงานพบอีก ๓ คร้ัง แต่มีเพียง ๖ ตวั เทา่ น้นั นกเจา้ ฟ้ าหญิงสิรินธร เป็นสตั วป์ ่ าสงวนตามพระราชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสัตวป์ ่ า พ.ศ.๒๕๓๕สาเหตุของการใกล้จะสู ญพันธ์ุ: นกเจ้าฟ้ าหญิงสิ ริ นธร เป็ นนกที่สาคัญอย่างย่ิงในด้านการศึกษาความสัมพนั ธ์ของนกนางแอ่น เพราะนกชนิดที่มีความสัมพนั ธ์กบั นกเจา้ ฟ้ าหญิงสิรินธรมากที่สุด คือนกนางแอน่ คองโก ( Pseudochelidon euristomina ) ที่พบตามลาธารในประเทศซาอีร์ ในตอนกลางของแอฟริกาตะวนั ตก แหล่งท่ีพบนกท้ัง ๒ ชนิดน้ีห่างจากกนั ถึง ๑๐,๐๐๐ กิโลเมตร ประชากรในธรรมชาติของนกเจา้ ฟ้ าหญิงสิรินธรเช่ือวา่ มีอยนู่ อ้ ยมาก เพราะเป็ นนกชนิดที่โบราณท่ีหลงเหลืออยใู่ นปัจจุบนั แต่ละปี ในฤดูหนาวจะถูกจบั ไปพร้อมๆกบั นกนางแอ่นชนิดอื่น นอกจากน้ีท่ีพกั นอนในฤดูหนาว คือ ดงออ้ และพืชน้าอ่ืนๆท่ีถูกทาลายไปโดยการทาการประมง การเปล่ียนหนองบึงเป็ นนาขา้ ว และการควบคุมระดบั น้าในบึง
เพอ่ื การพฒั นาหลายรูปแบบ ส่ิงเหล่าน้ีก่อใหเ้ กิดผลเสียต่อการคงอยขู่ องพืชน้า และต่อนกเจา้ ฟ้ าหญิงสิรินธรมา2.แมวลายหินอ่อนช่ือสามัญ : Marbled Catชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Pardofelis marmorata เป็นแมวป่ าขนาดกลาง น้าหนกั ประมาณ 4-5 กก. อยใู่ นป่ าดงดิบและป่ าดิบช้ืน ชอบอยบู่ นตน้ ไม้ หากินในเวลากลางคืน อาหารไดแ้ ก่ แมลง งู นก หนู และสตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนมขนาดเล็ก ปัจจุบนั หายากมาก มีรายงานพบเพยี งไมก่ ี่แห่งเทา่ น้นั เช่น เขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าหว้ ยขาแขง้ อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทบั ลาน ประเทศที่หา้ มล่า - บงั กลาเทศ จีน (เฉพาะยนู นาน) อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า เนปาล ไทย ควบคุมการล่า - ลาว สิงคโปร์ ไมค่ ุม้ ครองนอกเขตอนุรักษ์ - ภฏู าน บรูไนดารุสซาราม
3. กระซู่ชื่อสามัญ : Sumatran Rhinocerosช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Dicermocerus sumatraensisชื่ออน่ื : แรดสุมาตรา เป็นแรดพนั ธุ์เลก็ ท่ีสุดในบรรดาแรด 5 ชนิดของโลก มี 2 นอ ความสูงท่ีระดบั ไหล่ 1.0 - 1.4 เมตร น้าหนกั900-1,000 กก. มีขนปกคลุมท้งั ตวั ปี นเขาเก่ง มีประสาทในการรับกลิ่นดีมาก เม่ือพบส่ิงกีดขวางจะไม่ขา้ มแตม่ กั ใชห้ วั ดนั ใหพ้ น้ ทางเดิน ชอบกินก่ิงไม้ ใบไมแ้ ละผลไม้ ตกลูกคร้ังละ 1 ตวั ต้งั ทอ้ งนานประมาณ 7-8เดือน ปัจจุบนั หายากมาก คาดวา่ จะพบไดใ้ นบริเวณป่ าทึบตามแนวพรมแดนไทย-พม่า และชายแดนไทย-มาเลเซีย รายงานล่าสุดในปี พ.ศ.2539 พบรอยเทา้ ที่เขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าภู-เขียว จงั หวดั ชยั ภูมิ นอกจากน้ียงั มีกระจดั กระจายตามป่ าตา่ ง ๆ แห่งละตวั สองตวั เช่น แก่งกระจาน จงั หวดัเพชรบุรี หว้ ยขาแขง้ จงั หวดั อุทยั ธานี ฮาลา-บาลา จงั หวดั นราธิวาส เขาสก จงั หวดั สุราษฎร์ธานี เรื่องทคี่ วรทราบ ลูกกระซู่ภาษาองั กฤษเรียกวา่ calf Di- มาจาก dis ในภาษากรีก แปลวา่ สอง keras เป็นภาษากรีกแปลวา่ นอหรือเขา rhis เป็น ภาษากรีกแปลวา่ จมกู รูปเจา้ ของเป็น rhinos -ensis เป็นภาษาละติน เป็นปัจจยั ที่เติมเพ่ือ บอกวา่ เป็นของ บนั ทึกนอกระซู่ที่ยาวท่ีสุดที่เคยวดั ไดค้ ือ 80 และ 69 เซนติเมตร
4. เลยี งผาช่ือสามญั : Serowชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Capricornis sumatraensis เป็ นสัตวก์ ีบคู่ มีเขาจาพวกแพะ ความสูงที่ระดบั ไหล่ 85-94 ซ.ม. น้าหนักประมาณ 85-140 กก.อาศยั อยตู่ ามภูเขาท่ีมีหนา้ ผาหรือถ้า สามารถเคลื่อนที่ในที่สูงชนั อยา่ งวอ่ งไวและปราดเปรียวมาก สามารถวา่ ยน้าขา้ มระหวา่ งเกาะกบั แผน่ ดินได้ มีอวยั วะรับสัมผสั ท้งั ตา หู และจมูกดี กินพืชที่ข้ึนอยตู่ ามที่สูง ตกลูกคร้ังละ 1 ตวั ต้งั ทอ้ งนาน 7-8 เดือน ปัจจุบนั ลดจานวนลงไปมากเน่ืองจาก ถูกล่าเพื่อเอาเขาและทาน้ามนัเลียงผาถิ่นกาเนิด มีการกระจายพนั ธุ์ในแควน้ แคชเมียร์และแควน้ อสั สัมในภาคเหนือของอินเดีย, สิกขิม, ภฏู าน, พมา่, จีน,ไทย, ลาว, กมั พชู า, เวยี ดนาม และเกาะสุมาตราในอินโดนีเซียทอ่ี ยู่อาศัย มกั อาศยั และหากินตามลาพงั บนภเู ขาสูงหรือหนา้ ผา ที่มีพมุ่ ไมเ้ ต้ียข้ึนอยู่ กินพืช เช่น ใบไมแ้ ละยอดไมเ้ ป็ นหลกั ปี นหนา้ ผาไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว ออกหากินในเวลาเชา้ ตรู่ และพลบค่า นอนหลบั พกั ผอ่ นในเวลากลางวนั ตามพุ่มไม้ มีนิสัยชอบถ่ายมูลซ้าท่ีเดิม ว่ายน้าเก่ง เคยมีรายงานหลายคร้ังว่า สามารถว่ายน้าขา้ มแม่น้าขนาดใหญ่ เช่น แม่น้าโขง หรือวา่ ยไปมาระหวา่ งเกาะในทะเลไดด้ ว้ ย เมื่อพบศตั รูจะยืนอยนู่ ่ิง ๆ ครู่หน่ึงแลว้ จึงกระโจนหลบหนีไป มีประสาทหูและตาดีเยี่ยมการประกาศเป็ นสัตว์สงวน
เลียงผา เป็นสตั วป์ ่ าสงวนตามพระราชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 สถานภาพปัจจุบนั ใกล้สูญพนั ธุ์แลว้ เนื่องจากถูกล่าไปทาเป็นยาสมุนไพรจีน5. สมนัช่ือสามัญ : Schomburgk’s Deerชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Cervus schomburgkiชื่ออนื่ : เน้ือสมนั เป็นกวางขนาดกลาง ความสูงระดบั ไหล่ 1 เมตร ไดช้ ื่อวา่ มีเขาสวยท่ีสุด การแตกแขนงของเขาเม่ือโตเตม็ วยั จะมีลกั ษณะคลา้ ยสุ่มท่ีหงายข้ึน จึงเรียกวา่ \"กวางเขาสุ่ม\" ชอบกินยอดหญา้ ออ่ น ผลไม้ และใบไม้อยรู่ วมกนั เป็นฝงู เล็ก ๆ อาศยั อยเู่ ฉพาะที่ราบต่าในภาคกลางของประเทศไทยเทา่ น้นั โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ กรุงเทพฯ ปทุมธานี อยธุ ยา สมุทรปราการ สมนั ไดส้ ูญพนั ธุ์ไปโดยสมบูรณ์เมื่อราวปี 2475 แมแ้ ต่สมนั ตวัสุดทา้ ยของโลกกต็ ายดว้ ยมือของมนุษย์อปุ นิสัย : ชอบอยรู่ วมกนั เป็นฝงู เล็กๆ โดยเฉพาะในฤดูผสมพนั ธุ์ หลงั จากหมดฤดูผสมพนั ธุ์ และตวั ผจู้ ะแยกตวั ออกมาอยโู่ ดดเด่ียว สมนั ชอบกินหญา้ โดยเฉพาะหญา้ อ่อน ผลไม้ ยอดไม้ และใบไมห้ ลายชนิดทอ่ี ยู่อาศัย : สมนั จะอาศยั เฉพาะในทุง่ โล่ง ไมอ่ ยตู่ ามป่ ารกทึบ เน่ืองจากเขามีก่ิงกา้ นสาขามาก จะเกี่ยวพนั พนักบั เถาวลั ยไ์ ดง้ ่ายสถานภาพ : สมนั ไดส้ ูญพนั ธุ์ไปจากโลกและจากประเทศไทยเมื่อเกือบ ๖๐ ปี ท่ีแลว้ สมนั ยงั จดั เป็นป่ าสงวนชนิดหน่ึงใน ๑๕ ชนิดของประเทศไทยโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ควบคุมซาก โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เขาของสมนัไมใ่ หม้ ีการส่งออกนอกราชอาณาจกั รสาเหตุของการสูญพนั ธ์ุ : เนื่องจากแหล่งที่อยอู่ าศยั ไดถ้ ูกเปล่ียนเป็นนาขา้ วเกือบท้งั หมด และสมนั ที่เหลืออยู่
ตามท่ีห่างไกลจะถูกล่าอยา่ งหนกั ในฤดูน้าหลากทว่ มทอ้ งทุ่ง ในเวลาน้นั สมนั จะหนีน้าข้ึนไปอยรู่ วมกนั บนที่ดอนทาใหพ้ วกพรานลอ้ มไล่ฆ่าอยา่ งง่ายดาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: