การพฒั นาแบบฝึกคณติ ศาสตร์ เร่อื ง การบวก ลบ เศษสว่ น ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านเขาคา้ งคาว อาเภอทา่ ตะโก จังหวัดนครสวรรค์ development of math exercises Adding and subtracting fractions Grade 6, Ban Khao Khang School, Tha Tako District, Nakhon Sawan Province
จัดทาโดย นางสาวกนกพร ยอดนิล รหสั นักศกึ ษา 6401302079 ห้อง 3 หลกั สตู รประกาศนยี บัตรบณั ฑติ วิชาชีพครู ปีการศกึ ษา 1/2564 คณะ ครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
บทนา คณิตศาสตร์มีบทบาทสาคัญย่ิงต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์และการ ศึกษา หาความรู้ศาสตร์อ่ืนๆ ล้วนจาเป็นต้องใช้คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการ แสวงหา ความรู้ทั้งสิ้น นอกจากน้ันคณิตศาสตร์ยังช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเร่ิม สร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล คิดอย่างเป็นระบบและมีระเบียบแบบแผน รวมทั้ง สามารถ วิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบถี่ถ้วน (กระทรวง ศึกษาธิการ. 2546 : 1) การจัดการศึกษาต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงบรรจุวิชา 83 คณติ ศาสตรไ์ ว้ในหลกั สูตรเพ่อื ให้นักเรยี นได้เรียนรมู้ าโดยตลอด
จุดประสงค์ของการวิจยั 1.เพื่อสร้างและหาคุณภาพการพัฒนาแบบฝึกคณิตศาสตร์เรื่องการบวก ลบ เศษสว่ น 2.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการพัฒนาแบบฝึกคณิตศาสตร์เร่ืองการบวก ลบ เศษสว่ น 3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ที่มีต่อการจัด กจิ กรรมการเรยี นรูด้ ้วยการพฒั นาแบบฝึกคณิตศาสตร์เรื่องการบวก ลบเศษสว่ น
สมมตฐิ านในการวจิ ยั 1. การพัฒนาแบบฝึกคณิตศาสตร์เรื่องการบวก ลบเศษสว่ นมีคุณภาพในระดับ มากโดยจากผเู้ ชย่ี วชาญ 5 ทา่ น 2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ท่ีจัดกิจกรรม การเรียนรู้ด้วยการพัฒนาแบบฝึกคณิตศาสตร์เร่ืองการบวก ลบเศษส่วนหลัง เรยี นสงู กวา่ กอ่ นเรยี นอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิ 3.นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ด้วยชุดการพัฒนาแบบฝึกคณิตศาสตร์เร่ืองการบวกลบเศษส่วนในระดับ มาก
วธิ ีดาเนินการวิจยั 1.ด้านพ้ืนท่ี โรงเรียนบ้านเขาเขาคา้ งคาว อาเภอทา่ ตะโก จงั หวัดนครสวรรค์ 2.ดา้ นประชากร ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อาเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ มีจานวนท้ังส้ิน 15 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การศึกษา จานวน 15 คิดเป็นร้อยละ 100 ของจานวนนักเรยี นทงั้ หมด
3.เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการเก็บรวบรวม เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อนและ หลังการเรียนของการเรยี นและศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียน กลมุ่ ตัวอย่างท่ใี ช้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2/2565 ของโรงเรียนบ้านเขา ค้างคาว อาเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวมรวม ข้อมูล ได้แก่แบบประเมิน แผนการจัดการเรียนรู้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนรู้และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่สถติ พิ นื้ ฐานและคา่ สถติ ิที t-test
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: