พระบารมอี งค์ภูมินทร์ ปน่ิ สยาม ๙๙ สำเรจ็ การศกึ ษาแลว้ ไดม้ โี อกาสเขา้ ทำงานในตำแหนง่ นกั วจิ ยั จากวนั นน้ั มาถงึ วนั นี้ เปน็ เวลา ๒๐ กวา่ ปแี ลว้ ทข่ี า้ พเจา้ ของโครงการหลวงตอ่ มาอกี ประมาณ ๓ ปี เงนิ เดอื นเดอื นแรก ได้มีโอกาสเก่ียวข้องกับงานในโครงการหลวง ได้ตระหนัก ในชวี ติ ของขา้ พเจา้ เปน็ เงนิ ทไ่ี ดร้ บั จากโครงการของพระองค์ และเข้าใจถงึ แนวพระราชดำรติ ่างๆ ทีท่ รงรเิ ริ่มไวว้ า่ สามารถ ตลอดเวลา ๓ ปที ข่ี า้ พเจา้ ปฏบิ ตั งิ าน ไดเ้ ดนิ ทางไปหลายพน้ื ที่ ชว่ ยเหลอื พสกนกิ รในพนื้ แผน่ ดนิ นอี้ ยา่ งยง่ั ยนื ตลอดระยะเวลา ไดเ้ กยี่ วขอ้ งกบั งานหลายประเภท ไดร้ บั รถู้ งึ สายพระเนตรทท่ี รง อนั ยาวนานทท่ี รงงานในโครงการตา่ งๆ มากมาย ลว้ นแตช่ ว่ ย เปน็ ห่วงประชาราษฎร์ นบั เป็นประสบการณ์ที่มคี ุณค่าย่งิ แกป้ ญั หาของประชาชน ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ และชว่ ยอนรุ กั ษ์ ในอดตี ทค่ี นไทยยงั ไมร่ จู้ กั พชื เมอื งหนาว ขา้ พเจา้ ยงั สง่ิ แวดลอ้ ม เปน็ พระราชภารกจิ ทแี่ สดงวา่ พระมหากษตั รยิ ไ์ ทย เปน็ นกั ศกึ ษา จำไดว้ า่ มกี ารจดั งานขายผลผลติ ของโครงการหลวง พระองคน์ ที้ รงหว่ งใยพสกนกิ รมาโดยตลอด ทรงเหนด็ เหนอื่ ย คนทมี่ าเทยี่ วงานตนื่ เตน้ ทไี่ ดเ้ หน็ สตรอเบอรร์ ่ี พชื ผกั หลายชนดิ พระวรกายเป็นอย่างยิ่งในการเสด็จพระราชดำเนินไปในที่ ดอกไมเ้ มอื งหนาวและดอกไมแ้ หง้ ทน่ี ำมาจำหนา่ ยในงานนน้ั ทรุ กนั ดารทว่ั ประเทศ เพอื่ ความอยดู่ มี สี ขุ ของปวงประชาราษฎร์ ผคู้ นแยง่ กนั จบั จองเปน็ เจา้ ของ ทกุ คนตน่ื เตน้ กบั ผลผลติ ทมี่ า อย่างแท้จริง จากโครงการหลวง เปน็ สง่ิ ทข่ี า้ พเจา้ ยงั ระลกึ ถงึ ภาพเหลา่ นนั้ ได้ดี จนถึงปัจจุบัน งานต่างๆ จากโครงการของพระองค์ ก็ยังคงได้ช่วยให้หลายชีวิตเติบโต หลายครอบครัวเกิดขึ้น ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พระชนมายยุ ิง่ ยนื นาน เศรษฐกิจท้องถ่ินขยายตัวอย่างยั่งยืน การสร้างงานเกิดขึ้น เปน็ ม่งิ ขวัญแหง่ พสกนิกรชาวไทยตราบนานเทา่ นาน จากงานในโครงการของพระองค์มากมาย อาทิ ผลผลติ ทาง เกษตรและของฝากหลายอยา่ งทจ่ี ำหนา่ ยในจงั หวดั เชยี งใหม่ ข้าพระพทุ ธเจา้ ขอถวายความจงรักภักดี และในภูมิภาคน้ี สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเป็นลูกโซ่ ต้ังแต่ แด่องคพ์ ระภูมนิ ทร์ พอ่ หลวงของปวงชนชาวไทย ยอดดอยลงมาจนถึงพน้ื ทรี่ าบ หากนำมาคิดมลู คา่ แลว้ คง ยากทจ่ี ะประเมินได้ โครงการในพระราชดำรติ า่ งๆ จึงมีส่วน ข้าพระพทุ ธเจา้ ได้เปน็ ข้าราชการ ช่วยเหลือผคู้ นหลายภาคสว่ นอยา่ งแท้จรงิ ทีอ่ ยใู่ ต้รม่ พระบารมขี องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว เมื่อข้าพเจ้าได้มาทำงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และชว่ ยงานเปน็ อาสาสมคั รทำงานวจิ ยั ในมลู นธิ โิ ครงการหลวง มาตราบทุกวนั น้ไี ด้ ดว้ ยพระมหากรณุ าธิคุณ จึงมีโอกาสได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จ เหนอื เกลา้ เหนอื กระหมอ่ มโดยแท้ พระเจ้าอยู่หัวคร้ังหน่ึง ท่ีวังไกลกังวล หัวหิน พระองค์มี ความรู้และประสบการณ์ตา่ งๆ พระราชดำรสั วา่ ที่ได้รับจากการศกึ ษาวจิ ัยในโครงการของพระองค์ ขา้ พระพทุ ธเจ้าได้นำมาปฏิบตั แิ ละถา่ ยทอด “มูลนธิ โิ ครงการหลวง มาจากคำว่า หลวง ใหแ้ กน่ ักศึกษามหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ทห่ี มายถงึ เปน็ โครงการที่ยง่ิ ใหญ ่ จนถึงทกุ วนั นีแ้ ละต่อไป ทต่ี ้องชว่ ยเหลอื คนจำนวนมากได้ มหี ลายหนว่ ยงานทต่ี อ้ งชว่ ยกนั ทำงานนี ้ จงึ จะสำเร็จได”้ โครงการหลวงไม่ได้หมายถึงโครงการของในหลวงอย่างที่ บางคนเขา้ ใจ และยงั ทรงใหก้ ำลงั ใจแกค่ ณะทำงาน ทเ่ี ขา้ เฝา้ ทูลละอองธลุ ีพระบาททุกคนให้ปฏิบัตงิ านอยา่ งสมัครสมาน ร่วมมือกัน สงิ่ ต่างๆ ทเ่ี กิดข้นึ กบั ข้าพเจ้า จากการได้มสี ่วน เกยี่ วขอ้ งกบั การเขา้ ทำงานในมลู นธิ โิ ครงการหลวงตลอดเวลา ที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงประโยชน์ท่ีเกิดผลสืบเนื่องมาจนถึง ปัจจุบนั
๑๐๐ พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ปิน่ สยาม การจัดการหลงั การเก็บเกีย่ ว ผลติ ผลเกษตร ในมลู นธิ โิ ครงการหลวง ดร.ดนัย บณุ ยเกยี รต*ิ “... เรื่องที่จะชว่ ยชาวเขาและโครงการชาวเขานน้ั มีประโยชน์โดยตรงกับชาวเขา เพือ่ ท่จี ะส่งเสรมิ และสนับสนุนให้ชาวเขามีความเปน็ อยดู่ ขี ึ้น สามารถท่ีจะเพาะปลกู ส่งิ ที่เป็นประโยชน์ และเป็นรายไดก้ ับเขาเอง ท่ีมโี ครงการนี้ จดุ ประสงค์อยา่ งหนึ่งคือ มนุษยธรรม หมายถึง ใหผ้ ทู้ อี่ ยใู่ นถนิ่ ทุรกนั ดารสามารถทจี่ ะมีความรู้ และพยงุ ตัวมคี วามเจริญได ้ อีกอยา่ งหน่ึง ก็เปน็ เรื่องช่วยในทางทที่ ุกคนเห็นว่าควรจะชว่ ย เพราะเป็นปญั หาใหญ ่ ก็คือปัญหาเรอ่ื งยาเสพติด ถา้ สามารถชว่ ยชาวเขาปลกู พชื ท่เี ปน็ ประโยชน์บ้าง เขาจะเลกิ ปลูกยาเสพตดิ คือ ฝิ่น ทำให้นโยบายการระงับการปราบปรามการปลกู ฝน่ิ และการคา้ ฝนิ่ ไดผ้ ลดี อนั นี้เป็นผลอย่างหนึ่ง ผลอีกอยา่ งหนึง่ ซึง่ สำคัญมากก็คอื ชาวเขา ตามท่ีรูเ้ ปน็ ผู้ทีท่ ำการเพาะปลูก โดยวธิ ที จ่ี ะทำให้บ้านเมอื งของเราไปสู่หายนะได ้ โดยทถี่ างปา่ และปลูกโดยวิธีท่ไี มถ่ กู ต้อง ถ้าพวกเราทุกคนไปชว่ ยเขา ก็เท่ากบั ชว่ ยบา้ นเมืองให้มีความดี ความอยู่ดีกนิ ดี และปลอดภยั ได้อกี ทัว่ ประเทศ เพราะถ้าสามารถทำโครงการน้ีไดส้ ำเรจ็ ใหช้ าวเขาอยู่เปน็ หลักเปน็ แหล่ง สามารถท่จี ะมีความอยดู่ ีกนิ ดีพอสมควร และสนบั สนุนนโยบายท่ีจะรกั ษาปา่ ไม้ รกั ษาดนิ ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อไป ประโยชน์อนั นี้จะยัง่ ยนื มาก” พระราชดำรสั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช พระราชทานเมอ่ื วนั ท่ี ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๗ ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน * รองศาสตราจารย์ ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
พระบารมีองค์ภมู ินทร์ ป่ินสยาม ๑๐๑ จากพระราชดำรัสที่พระราชทานในโอกาสที่เสด็จ โครงการหลวงตอ้ งยา้ ยอาคารคดั บรรจเุ ดมิ ไปอยยู่ งั พน้ื ทไี่ รน่ า พระราชดำเนนิ มาทรงเยยี่ มคณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สาธิตแม่เหียะของสถาบันวิจัยและพัฒนาพ้ืนท่ีสูง ท่ีตำบล เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๗ แม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นท่ีซึ่งอยู่ คณะเกษตรศาสตร์ได้น้อมรบั และสนับสนนุ งานของมูลนิธิ บรเิ วณเชงิ ดอยคำ ใกลบ้ รเิ วณทจ่ี ดั งานพชื สวนโลกราชพฤกษ์ โครงการหลวงมาโดยตลอด โดยได้ส่งบุคลากรไปเป็นอาสา เฉลิมพระเกียรติ และในวันท่ี ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช สมัครในด้านต่างๆ เช่น การผลิตพืชสวน การผลิตสัตว์ ๒๕๔๖ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรง การอารกั ขาพชื การจดั การหลงั การเกบ็ เกย่ี วผลติ ผลพชื สวน พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรม และการแปรรูปผลติ ผลเกษตร เปน็ ตน้ โอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร เสดจ็ พระราชดำเนนิ แทน งานดา้ นการจดั การหลงั การเกบ็ เกยี่ วผลติ ผลเกษตร พระองค์ไปทรงเปดิ อาคารคดั บรรจุ ในมูลนิธิโครงการหลวง ได้เริ่มดำเนินการพร้อมๆ กับการ หน่วยงานที่ดูแลเร่ืองการจัดการหลังการเก็บเก่ียว ดำเนนิ งานดา้ นการตลาดสนิ ค้าเกษตร ทีผ่ ลติ โดยเกษตรกร ผลิตผลเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวง คืองานคัดบรรจุ ของมูลนิธิโครงการหลวง อยา่ งไรกต็ าม งานด้านการจดั การ ซงึ่ สงั กดั ฝ่ายตลาด หน่วยงานน้มี หี น้าท่หี ลกั ๕ ประการ คอื หลงั การเกบ็ เกย่ี วผลผลติ เกษตรไดด้ ำเนนิ การอยา่ งเปน็ รปู ธรรม ๑. รบั ผลติ ผลและผลติ ภณั ฑข์ องมลู นธิ โิ ครงการหลวง มสี ถานทท่ี ำการถาวร เมอ่ื ประมาณพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๖ พน้ื ท่ี และตรวจสอบปริมาณและคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน รับผิดชอบงานด้านการจัดการหลังการเก็บเก่ียวผลิตผล ทก่ี ำหนด เกษตรน้ัน เป็นพน้ื ทีส่ ่วนหน่งึ ของอาคารโรงงานหลวงอาหาร ๒. คัดแยกและควบคุมคุณภาพสินค้าในกระบวน สำเร็จรูป ซ่ึงตง้ั อยู่ภายในคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัย การผลติ ทกุ ขนั้ ตอน เพอ่ื ใหส้ นิ คา้ มคี ณุ ภาพ และไดม้ าตรฐาน เชยี งใหม่ พื้นท่ีเดิมเปน็ พนื้ ทแี่ คบๆ ในระหว่างนน้ั พระบาท ตามระบบประกนั คุณภาพ GMP (Good Manufacturing สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมายังโรงงาน Practice) และ HACCP (Hazard Analysis and Critical หลวงอาหารสำเรจ็ รูป ๑ คร้ัง โดยมหี มอ่ มเจา้ ภศี เดช รัชนี Control System) หรือหลกั การวิเคราะห์อนั ตรายและจุด ขณะนนั้ เปน็ ผสู้ นองพระบรมราชโองการในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการ วิกฤตทต่ี อ้ งควบคุมในการผลติ อาหาร โครงการหลวง เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคัดบรรจุ ๓. บรรจุหีบหอ่ ในรูปแบบตา่ งๆ ตามความต้องการ วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว มูลนิธิโครงการหลวง เป็นผู้ ของลูกค้า รวมถึงกระจายสินค้า และส่งมอบสินค้าให้กับ กราบบังคมทูลรายงานเก่ียวกับงานด้านการจัดการหลังการ ลกู ค้าอย่างถกู ต้องตามใบส่งั ซอ้ื สนิ คา้ เก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวง ต่อมา ๔. ใหค้ ำแนะนำและวจิ ัยเพอื่ หาขอ้ มลู แก้ไขปัญหา คณะเกษตรศาสตร์ ไดส้ นบั สนนุ งานดา้ นการจดั การหลงั การ ดา้ นวิทยาการหลังการเกบ็ เกยี่ ว เก็บเก่ียวผลิตผลเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวง โดยให้ ๕. ใหบ้ รกิ ารดา้ นงานซอ่ มบำรงุ ระบบ Pre-cooling พืน้ ทส่ี ร้างอาคารคัดบรรจุผลิตผลเกษตร และไดอ้ นุญาตให้ และเครอ่ื งทำความเย็น บุคลากรของคณะเกษตรศาสตร์ไปเป็นอาสาสมัครช่วยให้ ผลติ ผลทกุ ชนดิ ซงึ่ จำหนา่ ยโดยฝา่ ยตลาดของมลู นธิ ิ คำปรกึ ษาและบรหิ ารโรงคดั บรรจุ ในปเี ดียวกันนนั้ สมเด็จ โครงการหลวง จะต้องผ่านการรับและตรวจสอบคุณภาพ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จ โดยเน้นทั้งคุณภาพของผลิตผล และความปลอดภัยของ พระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคารคัดบรรจุ และต้ังแต่นั้น ผู้บริโภค ผลิตผลท่ีผ่านงานคัดบรรจุประกอบด้วยผักสด เป็นต้นมา งานด้านการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ ๑๓๐ ชนิด พืชสมุนไพร ประมาณ ๓๐ ชนิด เกษตรของมูลนิธิโครงการหลวงได้พัฒนามาเป็นลำดับ ผลไม้สด ประมาณ ๗๐ ชนิด ดอกไม้สด ๘๕ ชนิด จนถงึ ปัจจบุ ัน อย่างไรกต็ าม อาคารคดั บรรจซุ ึ่งเดิมตั้งอยู่ ไม้กระถาง ๑๓๐ ชนิด นอกจากน้ัน ยังมีผลิตผลพืชไร่ ในพนื้ ทขี่ องคณะเกษตรศาสตรน์ น้ั ไมส่ ามารถรองรบั ผลติ ผล ประมาณ ๒๕ ชนิด ส่วนหมวดปศุสัตว์มีสินค้าประมาณ เกษตรท่ีผลิตโดยเกษตรกรภายใต้การดูแลของมูลนิธิ ๑๑ รายการ เช่น นมแพะ ไก่เบรส หมูรมควัน ไก่ฟ้า โครงการหลวงได้หมด เนื่องจากมูลนิธิโครงการหลวงได้มี และเนื้อกระต่าย เป็นต้น ในหมวดประมงน้ัน มีสินค้า การพัฒนางานดา้ นการผลติ มีเกษตรกรเพิม่ ขึ้นและผลผลติ สำคญั คอื ปลาเทราต์ ซึง่ จำหนา่ ยในลกั ษณะต่างๆ คือ ต่อพ้นื ท่ีสงู ขน้ึ ทำให้ในท่ีสดุ เม่อื พทุ ธศักราช ๒๕๔๖ มลู นิธิ ปลาเทราตส์ ด ปลาเทราต์ห่นั ฟลิ เล ปลาเทราตร์ มควนั และ
๑๐๒ พระบารมอี งค์ภมู ินทร์ ปนิ่ สยาม ยังมีกุ้งก้าม ซ่ึงเป็นสินค้าชนิดใหม่ จะเห็นได้ว่า มีสินค้า ๒.๑ สอบเทียบตุ้มน้ำหนักทองเหลือง โดย จำนวนมากท่ผี า่ นเข้ามายงั งานคัดบรรจุ เพอื่ กระจายออกสู่ ศูนย์ช่ังตวงวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่) ตลาดให้ถึงผู้บรโิ ภค โดยยงั คงคุณภาพและความปลอดภัย ต่อผบู้ ริโภค ๒.๒ สอบเทยี บเครอื่ งวดั อณุ หภมู ิ โดยสถาบนั ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความใส่ใจกับคุณภาพของ อาหาร (National Food Institute: NFI) อาหารทบี่ รโิ ภคมากขนึ้ วา่ ตอ้ งเปน็ อาหารทมี่ คี ณุ ภาพดี มคี ณุ คา่ ทางอาหาร และที่สำคัญต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภค มูลนิธิ ๓. มีการตรวจสอบความมีประสิทธิภาพการทำ โครงการหลวงโดยงานคดั บรรจเุ ชยี งใหม่ ซง่ึ ไดเ้ รมิ่ ระบบการ ความสะอาด โดยการตรวจสอบบรเิ วณและอปุ กรณเ์ ครอื่ งมอื ประกันคุณภาพเมอื่ ประมาณ ๕ ปีที่ผ่านมา โดยเริม่ จาก และเครอ่ื งจกั รกลทางเชื้อจลุ นิ ทรีย์ (Swab test) เพอ่ื ทวน การจัดทำระบบ GMP ตามมาตรฐาน CODEX และไดร้ บั สอบระบบการทำความสะอาดเดือนละ ๑ ครัง้ และแกไ้ ข การรับรองครั้งแรกจากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตร เม่อื พบปัญหาหรือข้อบกพรอ่ ง และอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๔. มีการควบคุมดูแลเร่ืองการควบคุมแมลง/ พุทธศักราช ๒๕๔๖ ต่อมางานคัดบรรจุได้พิจารณาเห็นว่า สตั วพ์ าหะ โดยว่าจ้างบรษิ ทั ควบคมุ แมลง/สตั วพ์ าหะ มกี าร การได้รบั การรับรองระบบ GMP เพยี งอย่างเดียวนน้ั ยังไม่ ปฏิบัติในลักษณะท่ีใช้สารเคมีตกค้างไม่เกินมาตรฐานท่ี พอเพียงต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงได้นำระบบ ยอมรับโดยสำนกั ควบคุมอาหารและยา เชน่ คา่ สูงสุดของ คณุ ภาพ HACCP มาใชใ้ นการจดั การหลงั การเกบ็ เกยี่ วผกั สด การมีสารฆา่ แมลงตกค้างภายหลังการรมควัน เพ่อื ฆ่าแมลง และได้รับการรับรองระบบคุณภาพ HACCP เมอื่ วนั ท่ี ๑๙ ป้องกันนกและสัตว์ไม่ให้เข้ามาในบริเวณผลิต โดยบริษัท พฤศจิกายน พุทธศกั ราช ๒๕๔๗ ส่วนสลดั ผกั สด-สลัดบาร์ เข้ามาทำการตรวจสอบเดือนละ ๔ คร้ัง บรรจุกล่อง และน้ำสลัด ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ๕. มีการควบคุมการจัดเก็บเอกสารบันทึก และ HACCP เม่ือวนั ท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๙ เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ระบบคณุ ภาพ เพอ่ื เกบ็ รกั ษาไวส้ ำหรบั ทั้งนี้ การรับรองนั้นได้รับการรับรองจากแคมป์เดนและ ประโยชนใ์ นการตรวจสอบขอ้ มลู ยอ้ นกลบั และทบทวนระบบ เชอร์รวี ดู ประเทศองั กฤษ ระยะการรบั รองมีกำหนด ๑ ปี มกี ารดำเนนิ การเรอื่ งคำรอ้ งเรยี นจากลกู คา้ ในกรณอี นั เนอ่ื ง ในกรณีผักสดน้ัน ได้รับการรับรองในพุทธศักราช ๒๕๔๗ มาจากคณุ ภาพและความปลอดภัยของผลติ ผล ท่ผี ลติ จาก และไดร้ บั การรับรองต่อเนือ่ งจนถึงปจั จบุ ัน งานคัดบรรจไุ มเ่ ปน็ ไปตามมาตรฐานท่กี ำหนด ๖. ตรวจตดิ ตามระบบคณุ ภาพ ตามแผนงาน HACCP การดำเนนิ งานดา้ นประกนั คุณภาพ (internal audit) หน่วยประกันคุณภาพของงานคัดบรรจุเชียงใหม่ ๗. ไดร้ บั การตรวจประเมนิ จากบรษิ ทั ลกู คา้ เอกชน ได้ทำการควบคุมการผลิต ตั้งแต่การผลิตข้ันต้น วัตถุดิบ เพอื่ ความมนั่ ใจในมาตรฐานและสนิ คา้ ของมลู นธิ โิ ครงการหลวง จนถึงการขนส่งผลิตผลสุดท้าย โดยใช้ข้อกำหนดและหลัก ดังน้ี การของระบบประกันคุณภาพ GMP ตามมาตรฐานเรื่อง ๗.๑ บรษิ ทั เอก-ชยั ดสิ ทรบิ วิ ชน่ั ซสิ เทม็ จำกดั “หลกั เกณฑท์ วั่ ไปเกยี่ วกบั สขุ ลกั ษณะของอาหารทค่ี วรปฏบิ ตั ”ิ ๗.๒ บรษิ ัท สยามแม็คโคร จำกดั และระบบ HACCP ตามมาตรฐาน CODEX โดยมีการ ๗.๓ บริษัท รเิ วอร์แควอนิ เตอร์เนช่ันแนล ดำเนินงาน ดังต่อไปนี้ อตุ สาหกรรมอาหาร จำกัด ๑. น้ำที่ใช้ในการผลิตต้องมีการควบคุมคุณภาพ ๗.๔ บรษิ ทั ตนั ตราภณั ฑซ์ ปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ จำกดั ให้เป็นไปตามมาตรฐานน้ำบริโภค โดยการควบคุมและ ๗.๕ บรษิ ทั เดอะ มอลล์ กร๊ปุ จำกัด บำบัดน้ำ และนำตัวอย่างน้ำใช้ในโรงงานไปตรวจวิเคราะห์ ๘. มีการตรวจสุขภาพบุคลากรจากคณะแพทย์ คุณภาพน้ำตามมาตรฐานน้ำดื่ม โรงพยาบาลเชยี งใหม่ใกลห้ มอ จงั หวดั เชียงใหม่ และตรวจ ๒. มีการบำรุงรักษาและการสอบเทียบอุปกรณ์ สุขภาพ โดยการตรวจเชื้อโรคในทางเดินอาหารและระบบ เครอ่ื งมอื ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ เพอื่ ใหแ้ นใ่ จวา่ อปุ กรณเ์ ครอื่ งมอื ทางเดินหายใจของพนักงานที่ปฏิบัติงานในการผลิตอาหาร เหล่านนั้ ใชง้ านไดแ้ มน่ ยำและปลอดภยั ต่อการใช้งาน ดงั น ี้ พรอ้ มบริโภค (สลัดผกั สลดั บาร์ และนำ้ สลดั ) ๙. ดำเนนิ การสง่ ผลติ ผลผกั สลดั ผกั สด–สลดั บาร ์ น้ำสลัด และวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิตอาหารพร้อมบริโภค
พระบารมีองค์ภูมินทร์ ปน่ิ สยาม ๑๐๓ ไปตรวจวเิ คราะหห์ าเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ท์ ศ่ี นู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ สำหรบั คนน้นั แม้แต่ทเ่ี พียบพร้อม สถาบนั อาหาร และหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารกลางตรวจสอบผลติ ภณั ฑ์ ด้วยความสามารถก็หาไมย่ าก เกษตรและอาหาร (LCFA) เพอ่ื ความมน่ั ใจในคณุ ภาพสนิ คา้ ทง้ั หมด ๑๕ ตวั อยา่ ง ผลการวเิ คราะหอ์ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน เพราะเหล่านักวทิ ยาศาสตร์ทางเกษตร ที่กำหนด ทงั้ จากมหาวิทยาลัย และสถาบนั ๑๐. มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และพนักงานทุกคน มีความจงรักภักดีจะทำถวาย เก่ียวกับเรื่องระบบประกันคุณภาพของโรงงานทั้งหมด ๑๒ โดยเฉพาะเมือ่ ทำงานไดป้ ลอดโปร่ง ครัง้ /ป ี ไมม่ ีแถบแดงพันแข้งพันขา ๑๑. ไดร้ บั การตรวจรบั รองระบบการวเิ คราะหอ์ นั ตราย เพราะมรี ับสง่ั ใหล้ ดข้นั ตอน และจดุ วกิ ฤตทตี่ อ้ งควบคมุ (HACCP) ในการผลติ สลดั ผกั สด- อนึง่ การทอ่ี าจารย์วิจยั จรงิ ๆ สลดั บารบ์ รรจกุ ลอ่ งและนำ้ สลดั จากแคมปเ์ ดนและเชอรร์ วี ดู ประเทศอังกฤษ กไ็ ด้เรอ่ื งท่ีเกดิ ขึ้นในประเทศเราไปสอน ๑๒. ควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิต ตั้งแต่ แทนทจ่ี ะดูจากในตำราทฝ่ี ร่งั เขียนไว ้ การรบั วตั ถดุ บิ จนกระทงั่ การจดั สง่ สนิ คา้ โดยมกี ระบวนการ ดงั ต่อไปน ้ี สำหรับเรือ่ งเมอื งอื่น” ๑๒.๑ ผลติ ผลทร่ี บั ตอ้ งมผี ลการตรวจสอบการ ปนเปอ้ื นของสารเคมอี ยใู่ นคา่ มาตรฐาน นอกจากนนั้ หม่อมเจา้ ภศี เดช รชั นี ยงั รับส่งั ว่า จะหยุดทำ และมกี ารสมุ่ ตรวจในจดุ ตรวจรบั วตั ถดุ บิ วจิ ยั ไมไ่ ด้ เพราะพชื ใหมแ่ ละวธิ ปี ลกู จะเกดิ ขน้ึ ในโลกอยเู่ สมอ จากฝา่ ยอารกั ขาพชื อีกคร้งั การคน้ ควา้ วจิ ยั จงึ ตอ้ งกระทำตอ่ ไปไมห่ ยดุ ยงั้ และไดร้ บั สง่ั ถงึ ๑๒.๒ ตรวจสอบการปนเปื้อนทางกายภาพใน การจดั การหลงั การเกบ็ เกยี่ วผลติ ผลเกษตรวา่ เรอื่ งสำคญั คอื ผลติ ผล และควบคมุ การทำความสะอาด การขนสง่ คดั บรรจุ เกบ็ รกั ษา และจำหนา่ ย คณะเกษตรศาสตร์ เพอื่ ลดปรมิ าณของเชอื้ จลุ นิ ทรยี ใ์ นผลติ ผล จงึ ไดด้ ำเนนิ การเรอื่ งการวจิ ยั ดา้ นวทิ ยาการหลงั การเกบ็ เกยี่ ว ในหน่วยตัดแต่ง มาโดยตลอด ซ่ึงส่วนใหญจ่ ะไดร้ บั งบประมาณสนบั สนนุ จาก ๑๒.๓ ควบคุมกระบวนการบรรจุหีบห่อและ มลู นธิ ิโครงการหลวง และมีงานวิจัยหลายเรอ่ื ง ทีไ่ ดพ้ ฒั นา พนักงานท่ีปฏิบัติงานให้อยู่ในระบบ ไปสู่แนวปฏบิ ัติในการจดั การหลงั การเกบ็ เกยี่ ว เช่น วธิ กี าร Food Hygiene ขจัดความฝาดของผลพลับโดยวิธีสุญญากาศ ซ่ึงปัจจุบัน ๑๒.๔ ควบคุมอุณหภูมิของผลิตผลในระหว่าง มลู นธิ โิ ครงการหลวงไดใ้ ชว้ ธิ กี ารดงั กลา่ วในการเกบ็ รกั ษาพลบั การจดั การหลงั การเกบ็ เกย่ี ว เชน่ ตดั แตง่ ไวร้ อจำหนา่ ยไดป้ ระมาณ ๒ เดอื น นอกจากนนั้ งานทดลอง บรรจุ การเก็บรักษา และจัดส่งสนิ ค้า ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การยดื อายกุ ารปกั แจกนั ดอกไม้ ไดน้ ำไปสกู่ าร ปฏบิ ัตจิ รงิ การดำเนินงานด้านการวิจยั หน่วยท่ีดำเนินการวจิ ยั ดา้ นหลงั การเก็บเกีย่ ว เพอ่ื หมอ่ มเจา้ ภศี เดช รชั นี ประธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง สนบั สนนุ งานคดั บรรจเุ ชยี งใหม่ มลู นธิ โิ ครงการหลวง มหี วั หนา้ ได้ทรงเลา่ ไว้ในเร่ือง เลา่ เรือ่ งโครงการหลวง วา่ โครงการเป็นบุคลากรของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชยี งใหม่ “ตามกระแสรับสั่ง โครงการหลวง ตอ้ งหาพืชเมืองหนาวมาปลกู บนดอย หน่วยวทิ ยาการหลังการเก็บเกีย่ ว มีภารกิจดังน ้ี ซ่งึ นอกจากฝ่นิ แลว้ ไม่มใี ครทราบวา่ หน้าทีแ่ ละความรบั ผดิ ชอบ มีอะไรที่ปลกู ได้ แปลว่าต้องทำโครงการวิจยั ๑. รับนโยบายจากมูลนิธิโครงการหลวงและ คือทดลองมากมาย ดำเนินงานด้านวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว การวจิ ยั ย่อมต้องใช้คนและเงนิ ๒. ให้คำแนะนำและอบรมด้านวิทยาการหลังการ เกบ็ เกยี่ วกบั เจา้ หนา้ ทแี่ ละเกษตรกรของมลู นธิ โิ ครงการหลวง ๓. ดำเนินการทดลองทางด้านวิทยาการหลังการ เกบ็ เกย่ี ว เพอื่ ใหท้ ราบขอ้ มลู และแนวทางในการแกไ้ ขปญั หา
๑๐๔ พระบารมีองค์ภมู ินทร์ ปิน่ สยาม ๔. รวบรวมและเก็บข้อมูลด้านวิทยาการหลังการ ๖. คุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักปลูกในระบบ เก็บเกยี่ วของงานคัดบรรจเุ ชยี งใหม่ อนิ ทรยี ์ (Postharvest Quality of Vegetables Produced ๕. รว่ มจัดทำช้ันมาตรฐานคุณภาพผลิตผลตา่ ง ๆ by Organic System) ๖. ค้นคว้าหาข้อมูลทางวิชาการตามท่ีงานคัดบรรจุ การปฏิบัติงานอาสาสมัครในมูลนิธิโครงการหลวง เชยี งใหม่ตอ้ งการ บคุ ลากรจากหนว่ ยงานตา่ งๆ ทงั้ ของรฐั และเอกชนนน้ั ประธาน ตวั อย่างหวั ข้องานวิจัยทไ่ี ด้ดำเนินการแลว้ มีดังน ี้ มลู นธิ โิ ครงการหลวงไดร้ บั สงั่ ไวช้ ดั เจนวา่ เปน็ การทำงานถวาย ๑. คุณภาพหลังการเก็บเก่ียวของดอกไม้และใบไม้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกเหนือจากการได้รับใช้ (Postharvest Quality of Cut Flowers and Leaves) ใตเ้ บื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั แล้ว ๒. คุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักปลูกในสภาพ อาสาสมัครของมูลนิธิโครงการหลวงอาจทำงานวิจัยเพื่อ สารละลาย (Postharvest Quality of Hydroponic สนับสนุนและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการผลิตพืชและ Vegetables) สตั วข์ องมลู นธิ โิ ครงการหลวงดงั กลา่ วมาแลว้ ซงึ่ ผลงานวจิ ยั ๓. ผลของสารเคลือบผิวไคโตซานและอุณหภูมิต่ำ นนั้ จะมปี ระโยชนต์ อ่ มลู นธิ โิ ครงการหลวง และบคุ ลากรจาก ตอ่ การเกดิ โรคหลงั เก็บเกย่ี วในผลสตรอเบอร์ร่ี (Effect of คณะเกษตรศาสตรส์ ามารถนำผลงานนน้ั มาใชส้ อนนกั ศกึ ษา Chitosan Coating and Low Temperature on ซึ่งเป็นกรณีศึกษาจริงๆ ไม่ใช่สอนโดยการค้นคว้าจากตำรา Postharvest Diseases of Strawberry Fruit) อยา่ งเดียว นกั ศกึ ษายังมีโอกาสใชม้ ลู นธิ ิโครงการหลวงเปน็ ๔. ผลของสารละลายเคมีที่ปลอดภัยต่อคุณภาพ แหลง่ ศกึ ษาดงู าน ตลอดจนทำปญั หาพเิ ศษ การคน้ ควา้ แบบ ห ลั ง ก า ร เ ก็ บ เ กี่ ย ว ข อ ง ผ ล ส ต ร อ เ บ อ ร์ รี่ พ ร้ อ ม บ ริ โ ภ ค อสิ ระ และวทิ ยานพิ นธไ์ ดด้ ว้ ย การปฏบิ ตั งิ านเปน็ อาสาสมคั ร (Effect of GRAS on Postharvest Quality of Fresh ในมูลนิธิโครงการหลวง จึงเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ Cut Strawberry Fruit) ให้กับตัวอาสาสมัครเอง ได้เผยแพร่ความรู้ให้กับนักศึกษา ๕. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลดอุณหภูมิและ และผสู้ นใจ และทสี่ ำคญั เปน็ การรบั ใชใ้ ตเ้ บอื้ งพระยคุ ลบาท คณุ ภาพของผลสตรอเบอรร์ ่ี (Factors Affecting Precooling แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการช่วยให้เกิดการ and Quality of Strawberry Fruit) พัฒนาการเกษตรบนพื้นที่สูง บรรณานกุ รม กองพฒั นาเกษตรทส่ี งู . (ม.ป.ป.) แนะนำผลผลติ สด ฤดกู าลและชนั้ คณุ ภาพ. กรงุ เทพฯ: กองพฒั นาเกษตรทส่ี งู . ภศี เดช รชั นี, หมอ่ มเจ้า. (๒๕๔๒). เล่าเร่อื งโครงการหลวง. กรุงเทพฯ: อมรนิ ทรพ์ ร้นิ ตง้ิ แอนดพ์ ับลิชช่งิ . มลู นธิ โิ ครงการหลวง. งานคดั บรรจเุ ชยี งใหม.่ (๒๕๔๙). รายงานประจำปี ๒๕๔๙. เชยี งใหม:่ มลู นธิ โิ ครงการหลวง.
พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๑๐๕ ส่วู ิถีชีวิตที่ยัง่ ยนื ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง กฐนิ ศรมี งคล* ขา้ พเจา้ ไดม้ โี อกาสเขา้ ไปชว่ ยงานมลู นธิ โิ ครงการหลวง การดำเนนิ ชวี ติ โดยการปลูกขา้ ว ซึง่ เปน็ นาขา้ วพนั ธุ์ ทศี่ นู ย์พัฒนาโครงการหลวงแกน้อย ตำบลเมืองนะ อำเภอ พน้ื เมืองดั้งเดิม ทง้ั เปน็ ของคนจีนอพยพ มูเซอ และไทใหญ่ เชียงดาว จังหวดั เชยี งใหม่ ในด้านพฒั นาอาชพี ความเปน็ อยู่ ผลผลิตข้าวมีความหอม รสชาติอร่อย เป็นที่ถูกใจของ ฟ้ืนฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนชาวเขา คนภายนอกทไ่ี ด้มีโอกาสล้ิมรส การเจรญิ เติบโตของตน้ ข้าว บนพ้ืนท่ีสูง มีความประทับใจหลายด้าน โดยเฉพาะการ ดีมาก เน่ืองจากเป็นพ้ืนที่เปิด ความลาดชันน้อย อากาศ ดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท ถา่ ยเทสะดวก และรบั แสงแดดไดด้ ี ทางมลู นธิ โิ ครงการหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยทางสายกลาง ประกอบไปด้วย จงึ แนะนำขา้ วพนั ธใุ์ หม่ โดยเฉพาะขา้ วพนั ธ์ุ “ราซอแดง” ซง่ึ มี เหตุผลและภูมิคุ้มกัน น่ันคือการดำเนินชีวิตที่สอดคล้อง เมล็ดสีแดง คุณค่าทางอาหารสูง รสชาติอร่อยไม่แพ้พันธุ์ กับธรรมชาติ โดยเฉพาะการใช้ธรรมชาติอย่างประหยัด พน้ื เมือง ราคาดี ส่งขายทำรายไดใ้ ห้กับชนเผ่าไดม้ าก พอเพียงในการผลิตอาหาร และส่ิงจำเป็นในการดำรงชีวิต ถั่วแดงหลวง เป็นพืชที่ทางมูลนิธิโครงการหลวง สร้างเสริมชีวิต และความยั่งยืนให้กับชุมชนและทรัพยากร แนะนำมาตง้ั แต่เรม่ิ ดำเนนิ การจนถึงปัจจุบัน ชนเผา่ ปลกู กนั สิ่งแวดล้อม มากทส่ี ดุ และสามารถปลกู ไดถ้ งึ ๒ ครงั้ ในรอบปี คอื ตน้ ฝน ชนเผา่ ในพนื้ ทข่ี องศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงแกนอ้ ย และปลายฝน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน เนื่องจาก ประกอบไปดว้ ย จนี อพยพ มเู ซอแดง มเู ซอดำ และ ไทใหญ่ เป็นพืชตระกูลถั่ว สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศสะสม รวมเปน็ ๑๒ หยอ่ มบา้ น ทรี่ ะดบั ความสงู ประมาณ ๑,๐๐๐ เมตร ใหก้ บั ดนิ ได้ และเปน็ พชื ทมี่ คี ณุ คา่ ทางอาหารสงู นำมาประกอบ ประชากร ๓,๗๖๐ คน รวม ๖๕๐ ครัวเรือน การดำเนินชวี ิต อาหารคาวหวานได้ โดยเฉพาะน้ำพริกถ่ัวแดง เป็นน้ำพริก ในระยะแรก มีการปลูกฝ่ินและพืชไร่เป็นหลัก พื้นที่มีการ ทข่ี ึ้นช่ือของศนู ยพ์ ัฒนาโครงการหลวงแกน้อย ถัว่ แดงหลวง ชะล้างพังทลาย ดินเสื่อมความอุดมสมบูรณ์ ขาดรายได้ จงึ กลายเปน็ สญั ลกั ษณข์ องศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงแกนอ้ ย ขาดสขุ อนามยั บุกรกุ พนื้ ท่ปี ่า ก่อใหเ้ กิดมลภาวะ พระบาท ชว่ ยเพมิ่ ความยงั่ ยนื ความมชี วี ติ ใหก้ บั ดนิ และเพม่ิ สขุ อนามยั สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน ใหก้ ับวถิ ชี ีวิตของชนเผ่า โดยการปลูกพืชสร้างรายได้ทดแทนฝิ่น มีอาจารย์จาก พืชที่เพ่ิมพูนรายได้ให้กับชนเผ่าและเสริมสร้าง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ เป็นผูป้ ระสาน ภูมิคุ้มกัน (ปลูกนอกฤดูได้) ได้แก่ พืชผัก เพราะมีลำน้ำ การพฒั นากบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในนามของศนู ยพ์ ฒั นา ไหลผา่ น ๒ สาย และมอี า่ งเกบ็ นำ้ นำนำ้ มาใชท้ ำการเกษตรได้ โครงการหลวงแกนอ้ ย ต้งั แตพ่ ทุ ธศกั ราช ๒๕๒๓ เป็นต้นมา พชื ผกั ทท่ี ำรายไดม้ ากทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ ฟกั ทองญปี่ นุ่ มะเขอื เทศ- วิถีชีวิตชนเผ่าได้เปล่ียนแปลงไปในทางที่ดีข้ึนตามลำดับ เชอร์ร่ี กะหล่ำปลีแดง ผักสลัด ซ่ึงเป็นพืชผักเมืองหนาว โดยเฉพาะการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับธรรมชาติ สามารถปลูกในช่วงเวลาที่ในท้องท่ีอื่นปลูกได้ยาก จึงทำให้ โดยมีขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมพื้นบ้านเป็น ราคาดี ชนเผ่าสามารถนำเงินมาใช้จ่ายซื้อส่ิงของจำเป็นใน องค์ประกอบ วถิ ชี วี ิต และเป็นภมู ิคมุ้ กันในการดำเนินชีวิตท่มี ัน่ คง ยั่งยนื * ผรอู้องำศนาวสยตกราารจศานู รยย์พ์ ภัฒาคนวาชิโคาสรง่งกเสารรมิหแลลวงะแเผกยนแ้อพยรตก่ าำรบเลกเษมตือรงนคะณอะำเกเภษอตเรชศยี างสดตารว์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม ่ จังหวัดเชยี งใหม ่
๑๐๖ พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ปิ่นสยาม หนีหา่ งจากภัยเสพตดิ ต่างๆ เน่อื งจากพ้ืนที่อาศัยอยใู่ กล้เขต พิธีกินวอของชนเผา่ มเู ซอแดง ชายแดน แปลงปลกู ถั่วแดงหลวงของชนเผ่า ป่าชาวบ้าน เป็นโครงการท่ีสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารเี ป็นองค์อุปถัมภ์ ชนเผา่ จะ ปลูกพืชผักในพน้ื ทข่ี องตนเอง และปลกู เปน็ แนวรัว้ ใชเ้ ปน็ ไมฟ้ นื ไม้ใช้สอย นำผลผลติ ขายได้ และปลกู ป้องกนั การ ชะลา้ งการพงั ทลายของดนิ ไดด้ มี าก เปน็ การสรา้ งป่า สรา้ ง สภาพแวดล้อมท่ีดีให้กับชนเผ่า ท่ีสำคัญที่สุด คือชนเผ่า สามารถนำมาทำเป็นค้าง พืชผักไม้ผลท่ีทางศูนย์พัฒนา โครงการหลวงแกน้อยแนะนำ เช่น ทำค้างฟักทองญ่ีปุ่น มะเขอื เทศเชอรร์ ี่ เสาวรส บว๊ ย และพลมั ทำใหล้ ดคา่ ใชจ้ า่ ย ในการลงทุน เป็นการดำเนินชีวิตท่ีสอดคล้องกับธรรมชาติ ได้ดีที่สุด ท่ีสำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิตที่ย่ังยืนของชนเผ่า ไดแ้ ก่ การพบปะกันเป็นประจำทกุ เดอื นของคณะกรรมการ หมบู่ า้ น หยอ่ มบา้ น และหนว่ ยงานในพน้ื ที่ โดยมศี นู ยพ์ ฒั นา โครงการหลวงแกน้อยเป็นผู้ประสานงาน พูดคุยกันในเรื่อง ของการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ที่ผ่านมา และสิ่งที่ จะทำตอ่ ไป เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจรว่ มกนั รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นในพื้นท่ี หรือต่างพ้ืนที่ ท่ีอาจมีผลกระทบในระยะยาวต่อไป จึงเป็นอีกทางหน่ึงที่ สร้างภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตท่ียั่งยืนของชนเผ่า นอกจากน้ี ยังมีอีกหลายส่ิงหลายอย่าง ท่ีการ ดำเนินชีวิตของชนเผ่าในพ้ืนท่ีของศูนย์พัฒนาโครงการหลวง แกนอ้ ย ไดส้ ร้างความประทบั ใจเปน็ อยา่ งมาก ตัวอย่างเชน่ ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงาม ที่สอดคล้องกับธรรมชาติ รูปแบบของบา้ นที่เข้ากบั ธรรมชาติ มเี ตาไฟกลางบา้ น สร้าง ความอบอุ่น รักษาไม้ ถนอมอาหาร ยุงไม่มากล้ำกราย ภายในครอบครัวขยายท่ีอบอุ่น จึงอยากให้เป็นแนวทาง ในการดำเนินชวี ิตของพวกเราชาวพนื้ ราบ ที่จะต้องต่อสกู้ บั อันตรายรูปแบบต่างๆ ทั้งในรูปแบบของอาหารที่ไม่สด ไม่สะอาด มีสารเคมีเจือปน เทคโนโลยีทางด้านวัตถุที่ ก่อมลภาวะทำลายสภาพแวดล้อม จิตใจ และขาดการ ออกกำลังกายท่ีเหมาะสม โดยถือหลักการดำรงชีวิตตาม แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งใหเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ยดึ เหนย่ี ว ทกุ คน จะมีวิถีที่ย่ังยืนควบคู่ไปกับทรัพยากรและสภาพแวดล้อม ตามธรรมชาต ิ
พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ป่ินสยาม ๑๐๗ ประสบการณก์ ารทำงานวจิ ยั เกี่ยวกับพฤกษศาสตรพ์ ื้นบ้าน เพือ่ มลู นธิ ิโครงการหลวง ดร.ชศู รี ไตรสนธ*ิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรด พันธุพ์ ืชท่ีมีการใช้ประโยชนท์ เ่ี ดน่ ๆ มคี ุณคา่ และมีแนวโน้ม เกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหจ้ ดั ตง้ั โครงการหลวงขน้ึ เปน็ โครงการ วา่ จะสามารถนำไปพฒั นาใหใ้ ชป้ ระโยชนไ์ ดก้ วา้ งขวางขนึ้ จนเปน็ สว่ นพระองค์ และเร่มิ จดั ตงั้ สถานีวจิ ัยข้นึ เป็นแหง่ แรก เมื่อ พืชเศรษฐกิจในที่สุด ทั้งน้ี เพื่อเป็นการเพ่ิมรายได้ให้ชุมชน พุทธศักราช ๒๕๑๒ คือสถานเี กษตรหลวงอา่ งขาง ทีด่ อย เหล่านั้น อา่ งขาง อำเภอฝาง จงั หวดั เชยี งใหม่ โดยการนำพชื เศรษฐกจิ การวิจัยในระยะแรกๆ เริ่มสำรวจในหมู่บ้านชาวม้ง จากเมืองหนาวมาปลูก แนะนำแก่เกษตรกรบนที่สูง เพื่อ และกะเหรี่ยงในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจาก ชาวเขาท้ังสอง ทดแทนการปลูกฝิ่น ปัจจุบันมีการบริหารงานเป็นมูลนิธิ กลุ่มน้ันมีประชากรมากที่สุดในบรรดาชนเผ่าท่ีอพยพมาต้ัง โครงการหลวง มีขอบข่ายการดำเนินงานครอบคลมุ พ้ืนที่ ๕ ถิ่นฐานในภาคเหนอื และเปน็ กลมุ่ ท่ีมบี ทบาทเรอ่ื งการปลูก จังหวัดในภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ฝน่ิ ในอดตี ชาวเขาทอี่ ยใู่ นความดแู ลของโครงการหลวงยงั คง ลำพูน พะเยา และแม่ฮ่องสอน มวี ถิ ชี วี ติ ทพ่ี งึ่ พาธรรมชาตแิ ละใชส้ อยพชื ปา่ ทร่ี ายรอบหมบู่ า้ น ข้าพเจ้าได้มีโอกาสอาสาทำงานวิจัยเพ่ือสนอง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การหาผัก ผลไมป้ ่า และสมุนไพร การ พระราชดำริ ตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๓๓ ในฐานะนัก วิจัยทางด้านการสำรวจต้องใช้ความอดทนต่อความยาก พฤกษศาสตร์ และมีความสนใจศึกษาองค์ความรู้ท้องถิ่น ลำบากไมน่ อ้ ย เพราะตอ้ งเดนิ ในพน้ื ทปี่ า่ เขาสงู ชนั เพอื่ ใหไ้ ปถงึ ของชนเผา่ ตา่ งๆ ในการใชค้ วามหลากหลายทางทรพั ยากรพชื ต้นไม้ท่ีชาวเขาพูดถึง ซึ่งจะได้เก็บและนำมาศึกษาหาความ เพื่อการดำรงชีพและถ่ายทอดประเพณี รวมท้ังศิลปะ สำคญั ของพชื นนั้ ๆ แตท่ า่ มกลางความยากลำบาก คณะสำรวจ และวัฒนธรรมของชนเผ่านั้นๆ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ยงั ทำงานดว้ ยความเบกิ บานในบรรยากาศทสี่ ดชน่ื โดยมงุ่ มน่ั เป็นการศึกษาพฤกษศาสตร์พ้ืนบ้านของชนเผ่าต่างๆ โดยมี ท่ีจะทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในอันท่ีจะได้มีส่วนช่วย วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั อนั เปน็ จดุ ยนื ของงานวจิ ยั เพอื่ สบื แสวงหา พัฒนาประเทศ เส้นทางขนึ้ ดอยอา่ งขาง หมู่บ้านขอบดง้ หมู่บา้ นชาวมเู ซอต้งั อย่ทู างทิศตะวันออก คดเค้ยี วไปตามไหล่เขาทส่ี ูงชนั ของสถานเี กษตรหลวงอา่ งขาง * รองศาสตราจารย์ ภาควชิ าชวี วิทยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
๑๐๘ พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม ผลมะไข่ปู๋ มะไข่ปู๋ หรอื ไขป่ ู ไมเ้ ลอื้ ยพนื้ เมอื งบนพน้ื ทส่ี ูง เจ้าแตรวง พืชพ้ืนเมอื งสกุลลิลล่ี อยู่ในสกลุ เดียวกับราสเบอรร์ ร่ี บั ประทานผลสด รสชาตดิ ี พนั ธไุ์ มท้ ส่ี ำคญั ๆ เหลา่ นี้ มักจะนำมาแสดง นิทรรศการในงานดอยคำ เพื่อใหค้ วามรู้ ในเบ้อื งตน้ แก่สาธารณชน และในปจั จบุ ัน พชื บางชนดิ ได้รบั ความสนใจจากนักวิชาการ นำมาศกึ ษา วเิ คราะห์ตอ่ ยอดวิจัย เพอื่ นำไปสผู่ ลิตภณั ฑธ์ รรมชาติในอนาคต ตะไครต้ ้น พชื บนพ้ืนทีส่ งู ท่ีชาวเขาใชผ้ ลเป็นเครอ่ื งเทศ ใช้แทนตะไครแ้ ละใบมะกรูดได้ มีรสชาตคิ ล้ายตะไครร้ วมกบั ใบมะกรดู เจียวกู้หลาน พชื วงศแ์ ตง เรยี กอกี ช่อื หนึ่งว่า ปัญจขนั ธ์ เปน็ สมนุ ไพรมีสรรพคุณบำรุงสุขภาพ นางพญาเสือโคร่ง พืชพนื้ เมอื งของไทย อยูใ่ นสกุลเดียวกับเชอรร์ ี่ หรือ ซากุระ ผลดิ อกสะพร่ังในกลางฤดหู นาว
พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ป่นิ สยาม ๑๐๙ เกินยกหยิบได้หมดหยดกุศล ลำนำ้ สายน้ีไม่มนี ่งิ คือลำนำ้ ปงิ ธารน้ำป่า คดคงุ้ สะดุ้งผา่ นกาลเวลา ไหลเลีย้ งพสธุ าอาณาอดุ ร เหนือลำนำ้ นี้ ณ ทีห่ นึ่ง เหย้าเรือนเกลื่อนตรึงสลับสลอน คือเวียงแห่งปิงพงิ คนคร เนนิ่ นบั ซับซอ้ นถาวรเวียง ขนุ ดอยร้อยทบสงบนิ่ง ชอุม่ ทง้ิ เสน้ สนั อนั ไมเ่ ที่ยง หากสถิตมนั่ ราวปราการเรยี ง โอบเล้ียงลำเนานานเท่านาน เหนือดอยหนึ่งน้ันสวรรคห์ ยาด คอื ทององค์พระธาตศุ กั ด์ิสทิ ธส์ิ ถาน ดั่งเทพสรา้ งเสกขลังอลังการ ระยับยิบทพิ ญาณคุม้ ยา่ นพิงค์ กวา้ งไกลเหลือล้ำตามธรรมชาติ คอื โพยมากาศวาดเว้งิ นิ่ง ขับสวา่ งทองธรรมขบั นำ้ ปงิ ครอบคลุมสรรพสง่ิ ให้พร้ิงตา เฉกทองพระธาตผุ ุดผาดสมัย คือทองพระหทัยอำไพค่า สวนปิงสวนผา่ นกาลเวลา ข้ามพรมภูผามาแจม่ ผจญ มาหล่งั ทองน้ำพระทยั มธุรทิพย์ เกินยกหยิบได้หมดหยดกุศล พระคณุ ครอบแผน่ ฟา้ จบสากล คอื พระคุณพระภูมิพลฯ ล้นเวยี งพงิ ค ์ ด้วยเกล้าด้วยกระหมอ่ ม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า รองศาสตราจารย์สพุ รรณ ทองคลอ้ ย (แรคำ ประโดยคำ) ประพนั ธ์
๑๑๐ พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ปน่ิ สยาม การจดั ตัง้ ศนู ยพ์ ฒั นา โครงการหลวง ดร.วรทัศน์ อินทรคั คมั พร* ผเู้ ขยี นเร่มิ มาทำงานที่มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ เม่ือ อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ชมรมผู้ใช้น้ำ ชมรมอนุรักษ์บนท่ีสูง พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๙ และไดเ้ ปน็ อาสาสมคั รมลู นธิ โิ ครงการหลวง และองค์การบริหารสว่ นตำบลดอยแก้ว ในตอนแรก ผ้เู ขียน เม่ือพุทธศักราช ๒๕๔๒ โดยทำหน้าท่ีอยู่ในฝ่ายพัฒนา คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์เช่นนี้ ท้ังๆ ท่ี เรียกว่า เป็นผู้ประสานงานโครงการจัดตั้งโครงการหลวง โครงการหลวงสามารถช่วยเหลือคนทั้งสองกลุ่มได้ เพราะ หว้ ยสม้ ปอ่ ย ตงั้ อยหู่ มทู่ ่ี ๘ ตำบลดอยแกว้ อำเภอจอมทอง วัตถุประสงค์ท่ีสำคัญของโครงการหลวง คือเพ่ือช่วยเหลือ จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ๙๐ กิโลเมตร ชาวเขา และเพอ่ื ลดการทำลายทรพั ยากรธรรมชาติ อนั ไดแ้ ก่ ใช้เวลาเดนิ ทางโดยรถยนตป์ ระมาณ ๑ ช่ัวโมง ๔๕ นาที ป่าไม้และต้นน้ำลำธารอยู่แล้ว แต่เนื่องจากท้ังสองกลุ่มไม่ สภาพพน้ื ทเี่ ปน็ ภเู ขาสลบั ซบั ซอ้ น เปน็ ปา่ ดบิ สลบั กบั ปา่ เตง็ รงั ยอมรบั ฟงั เหตุผลใดๆ มีการเคลือ่ นไหวตอ่ ต้านในทกุ ๆ ด้าน และมคี วามสูงจากระดบั นำ้ ทะเลปานกลาง ๑,๒๕๐ เมตร หากไดร้ บั ขา่ วสารวา่ จะมหี นว่ ยงานใดไปทำกจิ กรรมในพน้ื ทส่ี งู การทำหนา้ ทเ่ี ปน็ ผปู้ ระสานงานเพอ่ื จดั ตงั้ ศนู ยพ์ ฒั นา ทำอยา่ งไรจงึ จะอธบิ ายเรอ่ื งนใ้ี หเ้ ขาไดเ้ ขา้ ใจ ผเู้ ขยี นคดิ ทบทวน โครงการหลวงห้วยส้มป่อย ซ่ึงเรียกว่าเป็นศูนย์เปิดใหม่ อยู่หลายตลบ จึงไดต้ ง้ั สติ แล้วนำปัญหาตา่ งๆ มาประมวล จงึ เปน็ เรอ่ื งทม่ี คี วามทา้ ทายสงู เนอ่ื งจาก ทกุ อยา่ งตอ้ งเรม่ิ ตน้ เพอ่ื สรปุ เปน็ ประเดน็ ปญั หาและโจทยว์ า่ จะมวี ธิ ใี ดบา้ งในการ ใหมห่ มด และการเรม่ิ ตน้ ไมไ่ ดเ้ รม่ิ จาก ๐ (ศนู ย)์ แตเ่ ปน็ การ แกไ้ ขปญั หา ผเู้ ขียนคิดถงึ การทำงานท่ยี ากลำบากในอดีตที่ เรมิ่ ตน้ จากการนบั ทกี่ ารตดิ ลบ (-) เนอื่ งจาก พน้ื ทนี่ ม้ี ปี ญั หา ผา่ นมา ทโ่ี ครงการชายแดนไทย-ลาว ซงึ่ ตอ้ งใชป้ ระสบการณ์ เรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับการใช้น้ำแม่เต๊ียะและน้ำแม่แตะ ความรู้ และความอดทนเป็นอย่างมากในการต่อสู้ปัญหา ระหว่างคนในพ้ืนที่ราบของอำเภอจอมทองกับชาวเขาบน และอุปสรรคต่างๆ จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว โดยการ พื้นที่สูงดอยอินทนนท์ โดยคนในพ้ืนที่ราบต้องการใช้น้ำท้ัง ทำงานในครงั้ นน้ั ไดย้ ดึ ถอื วา่ การทำงานตอ้ งมอี ปุ สรรคและ สองแหลง่ มากขึ้น เนอ่ื งจาก มีการขยายพนื้ ที่ทำการเกษตร ความยากลำบาก การทำงานทย่ี ากๆ จะเป็นบทพสิ ูจน์ไดว้ า่ โดยเฉพาะไม้ผล (ลำไย) และพืชผัก ทำให้น้ำในฤดูแล้ง ตวั เราเองมคี า่ มากเพยี งใด พลงั ใจทท่ี ำใหง้ านจดั ตงั้ ศนู ยพ์ ฒั นา ไมเ่ พยี งพอ ในขณะทชี่ าวไทยภเู ขาบนพน้ื ทสี่ งู ดอยอนิ ทนนท์ โครงการหลวงห้วยสม้ ปอ่ ยประสบความสำเรจ็ เน่ืองมาจาก ต้องการท่ีทำกินเพิ่มมากขึ้น และมีการแผ้วถางทำลายป่า ไดไ้ ปอา่ นพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ออกไปในบริเวณกว้างรุกล้ำเขตวนอุทยานแห่งชาติ ดังน้ัน ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การจัดต้ังหน่วยงานต่างๆ บนพ้ืนท่ีสูง จึงถูกคัดค้านอย่าง เมอ่ื วนั ที่ ๑๓ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๓ ซง่ึ พระราชทาน รนุ แรงจากคนในพ้ืนที่ราบของอำเภอจอมทอง ได้แกช่ มรม แกบ่ ัณฑิตว่า * รองศาสตราจารย์ ภาควิชาสง่ เสรมิ และเผยแพรก่ ารเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม ่
พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๑๑๑ “ ... ขอใหท้ กุ คนระลกึ วา่ ปญั หาทกุ อยา่ งมที างทจี่ ะแกไ้ ขได ้ ถา้ แกค้ นเดยี วไมไ่ ดก้ ช็ ว่ ยกนั คดิ ชว่ ยกนั แกห้ ลายๆ คน หลายๆ ทาง ดว้ ยความรว่ มมอื ปรองดองกนั ปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ นนั้ จกั ไดไ้ มก่ ลายเปน็ อปุ สรรคขดั ขวางและบน่ั ทอนทำลาย ความเจรญิ และความสำเรจ็ ของงาน ... ” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั ร จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เมอื่ วนั ท่ี ๑๓ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๓ ผเู้ ขยี นในฐานะอาจารยค์ ณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ปญั หาทง้ั สองฝา่ ย และไดร้ บั ความรว่ มมอื เปน็ อยา่ งดจี ากทาง เชียงใหม่ เริ่มการทำงานในพืน้ ท่อี ำเภอจอมทอง โดยเขา้ ไป อำเภอจอมทอง องค์การบริหารสว่ นตำบลดอยแก้ว ดังนั้น พูดคุยอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการกับผู้นำชุมชน การทำประชาพจิ ารณใ์ นเรอ่ื งปญั หาทรพั ยากรนำ้ จงึ ไดด้ ำเนนิ บนพ้ืนที่สูงและพื้นที่ราบ เร่ืองการทำการเกษตรบนที่สูง ข้ึนพร้อมกับการขอมติการจัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวง การใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัย การใช้สารสกัด กับชมุ ชน ๒ กล่มุ น้ี ซง่ึ ไดร้ บั ความเห็นชอบจากท้งั สองฝ่าย ชีวภาพ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยให้ความรู้ ในเร่ืองการแบ่งปัน การดูแลรักษา และมาตรการป้องกัน จดั ฝกึ อบรม และสอดแทรกความรคู้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งมลู นธิ ิ ทรัพยากรน้ำ ป่าไม้ การจัดต้ังโครงการหลวงในเขตพื้นท่ี โครงการหลวงทีละเล็กทลี ะนอ้ ย ทำงานทุกอาทติ ย์ ใชเ้ วลา หมูท่ ่ี ๘ ตำบลดอยแกว้ อำเภอจอมทอง จังหวดั เชยี งใหม่ ในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ โดยคลุกคลีและพักอาศัยใน ทำให้กรณีพิพาทเรอ่ื งต้นน้ำยุตลิ ง และทกุ ฝ่ายมีความพอใจ ชุมชน ท้ังบนท่ีสูงและพื้นท่ีราบสลับกันไป ได้รับความ เวทีชมุ ชนมขี ้อสรุป ดงั นี ้ อนุเคราะห์บ้านพักจากภารโรง ครู อาจารย์ของโรงเรียน ๑. ไมใ่ ห้ชนใด กลุ่มใด มีอภสิ ิทธเิ์ หนือป่า บ้านห้วยส้มป่อย และท่านนายอำเภอจอมทองในขณะนั้น ๒. ยอมรับการอยู่ร่วมกันของคนและป่าอย่าง (คุณกฤษดาพร เสยี มภกั ดี) สันตสิ ขุ โดยไมใ่ ห้คนบนที่สูงขยายเขตการทำลายป่า และ การทำงานเชิงลึกในพ้ืนท่ี ทำให้ทราบข้อมูลต่างๆ ตอ้ งรักษาทรัพยากรธรรมชาติ คือปา่ ไม้ ตน้ นำ้ และสัตวป์ ่า มากมาย ทราบว่า ปัญหาความต้องการของชุมชนบนท่ีสูง อย่างเคร่งครดั ทีแ่ ทจ้ รงิ คืออะไร ชุมชนบนพ้นื ที่ราบตอ้ งการอะไร จนสรปุ ๓. โครงการหลวงจะเข้าไปช่วยเหลือคนบนที่สูงใน ได้ว่า ชาวบ้านห้วยส้มป่อยซึ่งเป็นชาวกะเหร่ียง อยากได้ เรอื่ งอาชพี การใหค้ วามรทู้ างการเกษตรบนทส่ี งู อยา่ งถกู ตอ้ ง แนวทางในการประกอบอาชพี และตอ้ งการใหโ้ ครงการหลวง เหมาะสม และรณรงค์ลด ละ เลิกการใช้สารเคมีและ เข้ามาจัดตั้งเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยส้มป่อย ยาฆา่ แมลงตา่ งๆ ตลอดจนใหค้ วามรใู้ นการอนรุ กั ษท์ รพั ยากร ในหมู่บ้านของตน หากโครงการหลวงเข้ามาจัดต้ังแล้ว ธรรมชาติอย่างถูกวธิ ี ทุกคนในหมู่บ้านสัญญาว่า จะไม่ขึ้นไปบุกรุกแผ้วถางทำกิน ๔. ให้มีการจัดต้ังกลุ่มความร่วมมือเรื่องการใช้น้ำ ในพน้ื ท่สี งู คือ เขตดอยเลีย่ มและมะหินหลวง ซงึ่ อย่ใู นเขต บนทส่ี งู อยา่ งถกู วธิ ี โดยเครอื ขา่ ยทจ่ี ดั ตงั้ ขนึ้ ตอ้ งยดึ กฎระเบยี บ ป่าสงวนอีกต่อไป อันจะเป็นผลดีทำให้พื้นท่ีที่ถูกแผ้วถาง ท่จี ัดทำอย่างเคร่งครดั เหล่านั้นกลับคืนเป็นสภาพป่าดังเดิมในไม่ช้า ส่วนชาวบ้าน จากการทำงานทผี่ า่ นมา ผเู้ ขยี นประทบั ใจชาวกะเหรยี่ ง ในพ้ืนท่ีราบต้องการให้มีการจัดการในเรื่องทรัพยากรน้ำ บา้ นหว้ ยสม้ ปอ่ ยในเรอ่ื งคำมนั่ สญั ญา ความซอ่ื สตั ย์ ประทบั ใจ โดยเฉพาะลำน้ำแม่เต๊ียะและน้ำแม่แตะ ต้องการให้คน ในความช่วยเหลืออย่างจริงใจของคณะครูโรงเรียนบ้านห้วย บนพ้ืนที่สูงอยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่ขยายพ้ืนท่ีทำกินบนที่สูง ส้มป่อย หน่วยงานภาครัฐ คือ กรมอุทยาน เจ้าหน้าที่ ไม่ทำลายปา่ ตลอดจนใหม้ ีการรักษาต้นน้ำ และทรัพยากร อำเภอจอมทอง องค์การบริหารส่วนตำบลดอยแก้ว และ ธรรมชาติบนดอยอินทนนทแ์ ละพน้ื ทสี่ ูง กลมุ่ องคก์ รตา่ งๆ ของอำเภอจอมทอง อยา่ งไรก็ตาม การ เมอื่ ได้ข้อสรุปดงั นี้ ผเู้ ขยี นจงึ นำเรื่องลงมาประสาน ทำงานในชมุ ชนในครงั้ นจ้ี ะไมป่ ระสบความสำเรจ็ เลย หากเรา กบั ทางอำเภอจอมทอง ใหจ้ ดั ทำประชาพิจารณใ์ นการแกไ้ ข ไม่มีความจริงใจ ไม่มุ่งมั่น ไม่เสียสละ ไม่มีความอดทน
๑๑๒ พระบารมอี งค์ภมู นิ ทร์ ปน่ิ สยาม การประชมุ จัดทำเวทีชุมชนบนท่ีสงู สถานทีจ่ ัดต้งั ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหว้ ยสม้ ป่อย หมู่ ๘ ตำบลดอยแกว้ อำเภอจอมทอง จงั หวัดเชียงใหม ่ และขาดการประสานงานกับทุกๆ ฝ่ายในพื้นที่ ชมุ ชนนัน้ ๆ เท่าน้ัน ผหู้ ญิง เยาวชนจะไม่กลา้ ตอบ หรือให้ โครงการจดั ตง้ั ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหว้ ยสม้ ปอ่ ย ความคดิ เหน็ สว่ นของตวั เอง ดงั นน้ั วธิ กี ารแกไ้ ข คอื ตอ้ งแบง่ ประสบผลสำเรจ็ และจดั ตงั้ ขนึ้ เมอ่ื เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช กลุ่มเป็น ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสตรี และกลุ่ม ๒๕๔๔ โดยใชเ้ นอื้ ท่ี ๑๐ ไร่ ทีช่ าวบ้านหว้ ยสม้ ป่อยยกท่ดี นิ เยาวชน และถามปัญหาเดียวกัน ทำให้เข้าใจความคิดเห็น ใหเ้ พอื่ สรา้ งเปน็ ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหว้ ยสม้ ปอ่ ย และได้ ของคนทงั้ สามกลมุ่ สามารถนำไปประมวลหาวธิ ใี นการแกไ้ ข รบั ความอนเุ คราะหช์ ว่ ยเหลอื จากทกุ ฝา่ ย ปจั จบุ นั เจา้ หนา้ ทใี่ น ปญั หาต่างๆ ได้หลากหลายยิ่งขนึ้ ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหว้ ยสม้ ปอ่ ย สามารถประสานงาน การทำงานเปน็ อาสาสมคั รของมลู นธิ โิ ครงการหลวง รว่ มกบั ชาวบา้ น องคก์ รสว่ นทอ้ งถน่ิ และชมุ ชนใกลเ้ คยี งไดเ้ ปน็ เป็นงานท่ีทุกคนทำด้วยความสมัครใจ ด้วยความเสียสละ อย่างดีและราบรื่น จากความสำเร็จในคร้ังนี้ ผู้เขียนได้หวน ความภูมิใจว่า ได้ทำงานรับใช้เบ้ืองพระยุคลบาทพระบาท ระลกึ ถงึ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ดังนั้น ทกุ คนจงึ ต่างระดมสรรพกำลัง ดงั ขา้ งตน้ ทว่ี า่ ปญั หาตา่ งๆ นน้ั เราแกค้ นเดยี วไมไ่ ด้ ตอ้ งมกี าร และความรู้ที่มีอยู่ของตนเองไปทำประโยชน์ให้กับผู้ด้อย รว่ มมอื กบั หลายๆ ฝา่ ย ตอ้ งมคี วามสามคั คปี รองดองกนั และ โอกาสบนพื้นที่สูง โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ทุกคนต่าง หนั หนา้ มาพูดคุยกัน ปัญหาตา่ งๆ กจ็ ะแกไ้ ขไปไดด้ ้วยด ี ระลกึ เสมอวา่ การทเี่ ราก้าวมาอยู่ ณ จุดน้ี เรามโี อกาสท่ดี ี ปจั จบุ นั แมว้ า่ ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหว้ ยสม้ ปอ่ ย กว่าคนอ่ืนๆ อีกมากมาย ดังน้ัน เราจึงสมควรตอบแทน มีเนือ้ ที่เพียง ๑๐ ไร่ แต่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้มีการ โดยนำความรคู้ วามสามารถทมี่ อี ยใู่ นแตล่ ะบคุ คล ตอบแทน ประกอบอาชีพที่เป็นหลักแหล่ง มีรายได้จากการจำหน่าย คืนสู่สังคม โดยเฉพาะในสังคมชนบท ท่ียังต้องการความ ผลผลติ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ไมผ้ ล และพชื สวนครวั ไดเ้ ปน็ จำนวนมาก ช่วยเหลือในด้านต่างๆ อีกมากมาย ผู้เขียนมีความภูมิใจ เฉพาะรายไดจ้ ากการขายลกู พลบั ในพทุ ธศกั ราช ๒๕๔๙ มี มากที่สุดในชีวิต เมื่อผลการดำเนินงานประสบผลสำเร็จ รายไดถ้ งึ ๒ แสนกวา่ บาท ซง่ึ ทางศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวง สามารถก่อตั้งเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยส้มป่อยได้ ห้วยส้มป่อย ใช้วิธีอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่ อย่างสมบูรณใ์ นพุทธศักราช ๒๕๔๔ และสามารถช่วยเหลอื รับผิดชอบ จากน้ันเกษตรกรก็นำความรู้ท่ีได้รับไปขยายผล เกษตรกรใหม้ อี าชพี ทม่ี น่ั คง ปจั จบุ นั น้ี ชาวบา้ นหลายหมบู่ า้ น ในแปลงของตนเอง เมอื่ เกษตรกรมผี ลผลติ กน็ ำมาจำหนา่ ย ในพ้ืนที่รับผิดชอบของโครงการหลวง สามารถลดการใช้ ใหก้ บั โครงการหลวง เพอื่ นำไปสกู่ ระบวนการการตลาดตอ่ ไป สารเคมแี ละยาฆา่ แมลง และหนั มาใชส้ ารสกดั ชวี ภาพทดแทน จากการทำงานที่ผ่านมา ทำให้ได้ข้อคิดว่า การ มีการรวมกลุ่มและมีกลุ่มเครือข่ายการใช้น้ำ ตลอดจน ปฏบิ ตั งิ านหากเรายดึ แตห่ ลกั ทฤษฎอี ยา่ งเดยี ว งานกไ็ มส่ ามารถ สามารถพงึ่ พาตนเองได้ และที่สำคญั ทส่ี ดุ คือ เขามองเห็น ลลุ ว่ งไปได้ การปฏบิ ตั งิ านจงึ จำเปน็ ตอ้ งปรบั ประยกุ ตแ์ ละแกไ้ ข ถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำ และสัตว์ป่า สถานการณต์ า่ งๆ บนพน้ื ฐานของความมเี หตผุ ล ยกตวั อยา่ งเชน่ โดยมีการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบนที่สูง การจดั ทำเวทชี มุ ชน เพอื่ ระดมความคดิ เหน็ และหาความตอ้ งการ มีการดูแลรักษาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหล่าน้ีอย่าง ปญั หาอปุ สรรค แนวทางแกไ้ ข เพือ่ จดั ทำแผนของหมบู่ า้ น ถูกวธิ ี ดว้ ยกล่มุ ที่เขาจดั ตงั้ ขึ้นมาเอง ซง่ึ มีการบรหิ ารจดั การ เวลาไปถามปัญหาต่างๆ ผู้ตอบก็จะเป็นคนที่เป็นผู้นำของ ดว้ ยความสมคั รใจ
พระบารมีองค์ภูมินทร์ ปิ่นสยาม ๑๑๓ ผกั อินทรยี โ์ ครงการหลวง ดร.พทิ ยา สรวมศริ ิ* หมอ่ มเจา้ ภศี เดช รชั นี ประธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง ได้ลงพระนามแต่งตั้งข้าพเจ้าเป็นประธานคณะทำงานผัก อนิ ทรยี ข์ องมลู นธิ โิ ครงการหลวงในเดอื นมนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๕ โดยได้รับส่งั นโยบายเพียงส้ันๆ ว่า “ให้ทดลองปลกู ผกั อินทรีย์ทบ่ี ้านนอแลกอ่ น ถา้ สำเรจ็ จึงขยายผลออกไปยงั ศูนยอ์ ่ืนๆ ต่อไป” นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๖ ปีแล้วที่สถานีวิจัยเกษตรหลวง อา่ งขางมเี กษตรกรสมาชกิ ๑๓๒ ราย สามารถผลติ ผกั อนิ ทรยี ์ จำหน่ายผ่านฝ่ายตลาดของมูลนิธิโครงการหลวง จำนวน ๑๗ ชนิด ในปีแรก ๑๑ ตัน และในปัจจุบัน ๓๒๐ ตัน โดยมอี ตั ราการเพมิ่ ทกุ ปี และไดข้ ยายผลไปสศู่ นู ย/์ สถานขี อง มูลนิธิโครงการหลวงอีก ๑๒ แห่ง รวมพืน้ ทปี่ ลูก ๕๐๘ ไร่ จำนวนเกษตรกรทั้งหมดที่เป็นสมาชิกโครงการ ๒๖๒ ราย ใน ๒๑ หมูบ่ ้าน ๑๑ อำเภอของจงั หวดั เชยี งใหม่ และอีก ๒ หมบู่ า้ น ๑ อำเภอของจงั หวดั เชยี งราย ซงึ่ ถอื ไดว้ า่ ปจั จบุ นั มลู นธิ โิ ครงการหลวงเปน็ ผผู้ ลติ ผกั อนิ ทรยี ร์ ายใหญท่ ส่ี ดุ รายหนง่ึ ของประเทศไทย โดยมีผลผลิตในพุทธศักราช ๒๕๔๙ รวม ๔๕๖ ตนั จากผัก ๑๗ ชนิด และได้นำองค์ความรแู้ ละ เทคโนโลยีเผยแพร่ไปสู่เกษตรกรยากจนในพ้ืนที่ภูเขา จงั หวัดน่านและกาญจนบุรีอีกดว้ ย การทำงานสนับสนุนงานผักอินทรีย์โครงการหลวง ทผี่ า่ นมา เปดิ โอกาสใหข้ า้ พเจา้ ไดป้ ระสบการณม์ ากมาย ในทน่ี ี้ จะขอเลา่ เฉพาะเบอ้ื งหลงั ความสำเรจ็ เทา่ นนั้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การนำพระราชดำรสั และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทำงาน และจะขอมอง ย้อนกลับไปท่ีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในประเด็นการผลิต บัณฑติ ออกไปทำงานรบั ใชช้ มุ ชน * รองศาสตราจารย์ ภาควชิ าพชื สวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม ่
๑๑๔ พระบารมอี งค์ภมู ินทร์ ปิ่นสยาม จากแนวพระราชดำรสั สูแ่ นวปฏิบัต ิ “โครงการหลวงนก้ี เ็ รมิ่ ดว้ ยกจิ กรรมเลก็ ๆ นอ้ ยๆ และไดข้ ยายขน้ึ มา ดว้ ยการสนบั สนนุ ของทางราชการ และทางเอกชนรว่ มกนั ซง่ึ สว่ นมากงานแบบนจ้ี ะทำไดล้ ำบาก เพราะวา่ ถา้ เปน็ สว่ นราชการ กจ็ ะตอ้ งทำตามระเบยี บราชการ ซงึ่ ลา่ ชา้ ไมท่ นั กาล ถา้ เปน็ ภาคเอกชนกอ็ าจไมม่ กี ำลงั พอ การรว่ มกนั จงึ เปน็ วธิ ที ที่ ำใหเ้ กดิ ผล ผลนนั้ กด็ งั ทท่ี า่ นทกุ คนไดเ้ หน็ ประจกั ษแ์ ลว้ ทำใหค้ นในภาคเหนอื น ้ี ทงั้ ผทู้ อ่ี ยบู่ นภเู ขา ทง้ั ทอี่ ยใู่ นทร่ี าบ ไดร้ บั การสนบั สนนุ และสงเคราะหช์ ว่ ยใหพ้ ฒั นาตวั เองขน้ึ มา โดยทำใหส้ ง่ิ ทเ่ี ปน็ ปญั หาลดลงไป สงิ่ ทเี่ ปน็ ปญั หานน้ั กท็ ราบกนั ทวั่ ไปวา่ ในภาคเหนอื น้ี มปี ญั หาเกยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ การผลติ วตั ถดุ บิ ของยาเสพตดิ ซง่ึ โครงการหลวงกส็ ามารถลดจำนวนของยาเสพตดิ นลี้ งไป อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั และนอกจากนี้ กไ็ ดล้ ดภยั ของความเขา้ ใจผดิ ในระหวา่ งประชาชน บนภเู ขาและประชาชนในทรี่ าบทำใหม้ คี วามรว่ มมอื อยา่ งด ี ทง้ั ทำใหค้ วามเปน็ อยขู่ องประชาชนทงั้ หมดนมี้ ฐี านะดขี นึ้ เปน็ ผลใหป้ ระเทศ มคี วามเจรญิ เปน็ สว่ นรวม และมคี วามปลอดภยั มน่ั คงในทสี่ ดุ ” กระแสพระราชดำรสั พระราชทานในโอกาสทป่ี ระธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง นำคณะบคุ คลตา่ งๆ เขา้ เฝา้ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายเงนิ เพอื่ พระราชทานแกโ่ ครงการหลวง ณ พระตำหนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน์ วนั เสารท์ ี่ ๙ มนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๔ กระแสพระราชดำรัสข้างต้นมีประเด็นสำคัญที่เป็น ได้จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนวปฏบิ ตั ิ และเปน็ เปา้ หมายของการปฏบิ ตั อิ ยดู่ ว้ ยกนั อยา่ ง กรมสง่ เสรมิ การเกษตร เป็นต้น พรอ้ มมลู ซึ่งขา้ พเจา้ ไดร้ บั ใสเ่ กล้าใส่กระหมอ่ ม และนำมา ๒. เนน้ พัฒนาเกษตรกรให้มคี วามเขม้ แข็ง โดยการ กำหนดแนวทางพัฒนาผกั อินทรยี ข์ องโครงการหลวง ดงั น ี้ ใหค้ วามรู้ การฝกึ อบรมดา้ นการจดั ทำปยุ๋ หมกั การเพาะกลา้ ๑. ดำเนินงานโดยใช้ความร่วมมือจากหน่วยงาน การจดั การดิน-น้ำ การจัดการศัตรูพืชดว้ ยวิธีธรรมชาติ การ ท่ีเกี่ยวข้องกับผักอินทรีย์ โดยอาศัยการบูรณาการความรู้ เกบ็ เกยี่ วและการจดั การหลงั การเกบ็ เกย่ี วทถี่ กู ตอ้ ง แมก้ ระทงั่ ประสบการณ์ และกจิ กรรมจากหนว่ ยงานภาครฐั เชน่ ความรู้ การจดบันทึกบัญชีฟาร์ม และการสร้างศักยภาพการตลาด ดา้ นการฟนื้ ฟอู นรุ กั ษแ์ ละปรบั ปรงุ คณุ ภาพดนิ รวมทงั้ การปลกู ดว้ ยการประสานงานกบั กรมวชิ าการเกษตร เพอ่ื ตรวจรบั รอง หญ้าแฝกที่ได้จากกรมพัฒนาท่ีดิน ความรู้ด้านอารักขาพืช มาตรฐานเกษตรอินทรยี ข์ องแปลงเกษตรกร เปน็ ต้น
พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ปิน่ สยาม ๑๑๕ ๓. กำหนดผลกระทบท่ีเกิดจากความสำเร็จของ ศตั รพู ชื เข้ามาในพืน้ ทีป่ ลูก เน้นใหเ้ กษตรกร การดำเนนิ งานใหส้ อดคลอ้ งกบั งานโครงการหลวง ซง่ึ ในอดตี ผลิตใช้เองจากเศษพืชในพ้ืนที่จนเป็นที่มา คอื การลดการปลกู ฝนิ่ ในปจั จุบัน คือการลดการใช้สารเคมี ของคำว่า “ปุ๋ยหมก” ท่จี ะได้เลา่ ตอ่ ไป เกษตร เพอื่ รกั ษาสภาพแวดลอ้ มในแหลง่ ตน้ นำ้ ลำธาร ซง่ึ ใน ๔. แนวปฏิบัติตามพระราชดำรัสอีกประการหน่ึงที่ แนวปฏบิ ตั ขิ องโครงการผักอินทรยี ม์ ุง่ เน้น ๒ ประการ ได้แก ่ ถอื วา่ สำคัญมาก และจะขาดไมไ่ ด้ ท่ตี ้องนำมากลา่ วไว้ คอื ๑) ห้ามใช้สารเคมีเกษตร และห้ามใช้พันธุ์พืช การพฒั นาอยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ซงึ่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ได้พระราชทานพระบรมราโชวาท เมอ่ื วันที่ ๑๘ กรกฎาคม GMOs ในการผลิต พุทธศกั ราช ๒๕๑๗ ไว้ดงั น ้ี ๒) ใหล้ ดการนำปยุ๋ อนิ ทรยี แ์ ละสารอนิ ทรยี ค์ วบคมุ “... การพฒั นาประเทศจำเปน็ ตอ้ งทำตามลำดบั ขนั้ ตอ้ งสรา้ งพน้ื ฐานคอื ความพอมพี อกนิ พอใชข้ องประชาชนสว่ นใหญเ่ ปน็ เบอื้ งตน้ กอ่ น ใชว้ ธิ กี ารและอปุ กรณท์ ปี่ ระหยดั แตถ่ กู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ เมอ่ื ไดพ้ น้ื ฐานทมี่ นั่ คงพรอ้ มพอสมควรและปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ลว้ จงึ คอ่ ยสรา้ งคอ่ ยเสรมิ ความเจรญิ และฐานะเศรษฐกจิ ขนั้ ทส่ี งู ขน้ึ โดยลำดบั ตอ่ ไป หากมงุ่ แตจ่ ะทมุ่ เท สรา้ งความเจรญิ ยกเศรษฐกจิ ใหร้ วดเรว็ แตป่ ระการเดยี ว โดยไมใ่ หแ้ ผนปฏบิ ตั กิ ารสมั พนั ธก์ บั สภาวะของประเทศและของประชาชน โดยสอดคลอ้ งดว้ ย กจ็ ะเกดิ ความไมส่ มดลุ ในเรอ่ื งตา่ งๆ ขน้ึ ซงึ่ อาจกลายเปน็ ความยงุ่ ยากลม้ เหลวไดใ้ นทสี่ ดุ ดงั เหน็ ไดท้ อ่ี ารยประเทศ กำลงั ประสบปญั หาทางเศรษฐกจิ อยา่ งรนุ แรงในเวลาน ี้ การชว่ ยเหลอื สนบั สนนุ ประชาชนในการประกอบอาชพี และตง้ั ตวั ใหม้ คี วามพอกนิ พอใชก้ อ่ นอน่ื เปน็ พนื้ ฐานนน้ั เปน็ สง่ิ สำคญั อยา่ งยง่ิ ยวด เพราะผทู้ ม่ี อี าชพี และฐานะเพยี งพอทจี่ ะพงึ่ ตนเอง ยอ่ มสามารถสรา้ ง ความเจรญิ กา้ วหนา้ ระดบั ทส่ี งู ไดต้ อ่ ไปโดยแนน่ อน สว่ นการถอื หลกั ทจ่ี ะสง่ เสรมิ ความเจรญิ ใหค้ อ่ ยเปน็ ไปตามลำดบั ดว้ ยความรอบคอบระมดั ระวงั และประหยดั นนั้ กเ็ พอื่ ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดลม้ เหลว และเพอ่ื ใหบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ ไดแ้ นน่ อนบรบิ รู ณ์ ...” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เมอ่ื วนั ท่ี ๑๘ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๗
๑๑๖ พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ปน่ิ สยาม พระบรมราโชวาทนี้นำไปสู่แนวปฏิบัติในการพัฒนา เร่มิ ต้น ผักอนิ ทรียโ์ ครงการหลวง โดยแบ่งเปน็ “ระยะตา่ งๆ ของ การพัฒนา” เร่ิมจากการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร โดยกระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ ปี ฏบิ ตั จิ รงิ และการศกึ ษาดงู าน ต่อมา ในแหลง่ ทปี่ ระสบความสำเรจ็ แลว้ เมอ่ื เกษตรกรมคี วามมนั่ ใจ และศรทั ธาในการผลติ ดว้ ยระบบทไ่ี มต่ อ้ งใชส้ ารเคมเี กษตรแลว้ ปจั จบุ ัน จึงเริ่มเพาะปลูกเชิงการค้า และเม่ือเกษตรกรเริ่มมีรายได้ พัฒนาการของพนื้ ท่เี พาะปลกู ผกั อนิ ทรยี ์ แล้วจึงพัฒนาไปสู่ระดับมุ่งเน้น “คุณภาพ” เพ่ือการตลาด ซ่ึงต้องการเทคโนโลยีและการลงทุนมากกว่า ท่สี วนอินทรยี ์อ่างขาง กำเนดิ สวนอนิ ทรียท์ ีอ่ า่ งขาง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จ พระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมชาวเขาในพื้นที่สถานีวิจัยเกษตร หลวงอ่างขาง และมีพระราชกระแสรบั สงั่ ให้โครงการหลวง สง่ เสรมิ อาชพี และพฒั นาความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนชาวปะหลอ่ ง ทบี่ า้ นนอแล ซงึ่ เดมิ อาศยั อยใู่ นเขตประเทศพมา่ แตไ่ ดอ้ พยพ หนีภัยสงครามและภัยอาชญากรรมยาเสพติดมาอาศัย พระบรมโพธสิ มภาร โดยต้ังบา้ นเรือนที่บา้ นนอแล มีอาชีพ เกษตรและรบั จ้างเป็นหลัก ประธานมลู นธิ ิโครงการหลวงได้ รบั สัง่ ให้พฒั นาพนื้ ทหี่ ลงั หมูบ่ ้านที่เปน็ ท่ีแล้งดนิ เลว มีความ ลาดชันของพื้นท่ีมาก ซ่ึงแต่เดิมเป็นแปลงส่งเสริมไม้ผล เมอื งหนาว แต่ถกู ทิ้งรา้ งเน่ืองจากดินไมเ่ หมาะสม ขาดน้ำ ในฤดูแล้ง คุณภาพผลผลิตต่ำ โครงการผักอินทรีย์ต้อง ขอบคณุ กรมพฒั นาทดี่ นิ ทชี่ ว่ ยดำเนนิ การบกุ เบกิ พนื้ ท่ี โดยการ ทำเป็นขั้นบันได และรณรงค์ปลูกหญ้าแฝกแบบมีส่วนร่วม ของชุมชนเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำและลดการพังทลายของ ขั้นบันได ได้พื้นท่ีเพาะปลูกรวม ๑๒๐ ไร่ และจัดสรรให้ เกษตรกรชาวปะหลอ่ ง จำนวน ๑๐๐ ครอบครวั เขา้ เพาะปลกู ผักอินทรีย์เพ่ือเป็นอาชีพ ต้ังแต่กลางพุทธศักราช ๒๕๔๕ เปน็ ตน้ มา ในปแี รกๆ เกษตรกรและเจ้าหนา้ ทที่ กุ ฝ่ายต้อง อาศัยความอดทนฟันฝ่าอุปสรรคนานปั การ ทัง้ การปรบั ปรงุ คณุ ภาพดนิ พฒั นาระบบสง่ นำ้ เพอื่ การเพาะปลกู พชื และดว้ ย ความวริ ยิ ะอตุ สาหะ และดว้ ยความสำนกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ตลอดจนความม่งุ มน่ั ทจี่ ะทำงานถวาย จงึ ทำใหป้ ัจจุบันสวน อนิ ทรยี เ์ ปน็ แหลง่ ผลติ ผกั อนิ ทรยี ใ์ หญท่ ส่ี ดุ ของโครงการหลวง และเปน็ แหลง่ เรยี นรหู้ ลกั วชิ าการการผลติ ผกั อนิ ทรยี ท์ เ่ี กษตรกร ทงั้ จากพนื้ ทส่ี งู อนื่ ๆ และจากพนื้ ราบ และแมแ้ ตจ่ ากภาคเอกชน ได้อาศยั เปน็ แหล่งศกึ ษาดูงาน
พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ปน่ิ สยาม ๑๑๗ เทคโนโลยีที่ถูกทา้ ทาย ให้ได้ ๕ กโิ ลกรมั ต่อพืน้ ทปี่ ลกู ๑ ตารางเมตร หรอื ๘ ตนั หลกั การสำคญั ของการปลกู ผกั อนิ ทรยี ์ คอื การหา้ ม ตอ่ ไร่ (ปกตกิ รมพฒั นาท่ดี ินแนะนำให้ใสป่ ุ๋ยหมกั ๑-๓ ตนั ใชส้ ารควบคมุ โรคแมลงและวชั พชื ทเ่ี ปน็ สารเคมี รวมทงั้ หา้ มใช ้ ต่อไร)่ ท้งั น้ี เพอื่ วัตถปุ ระสงค์ ๓ ประการ ไดแ้ ก ่ ปยุ๋ เคมี ขอ้ หา้ มชนดิ แรกยงั เปน็ ทย่ี อมรบั ไดส้ ำหรบั นกั วชิ าการ ๑. ปรับโครงสรา้ งของดินให้ร่วนโปร่ง เหมาะแก่ เกษตร แตน่ ักวจิ ัยทางปฐพีศาสตรบ์ างคนบอกว่า ปลูกพืช การเจริญเติบโตของรากและจลุ นิ ทรียใ์ นดิน โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีทำได้แต่เฉพาะช่วงเวลาสั้นๆเท่าน้ัน ถ้าใช้ ๒. เป็นท้ังแหล่งอาหารของจลุ ินทรยี ์ดิน และชว่ ย พนื้ ทดี่ นิ ซำ้ ทหี่ ลายปผี กั จะไมง่ าม ผลผลติ จะลดลงจนไมค่ มุ้ ทนุ รักษาความชื้นในดิน และ กลา่ วง่ายๆ กค็ ือ ถ้าไม่ใสป่ ุ๋ยเคมี ไมม่ ที างปลูกผกั ไดส้ ำเร็จ ๓. เป็นต้นกำเนิดของธาตุอาหารให้กับพืชเมื่อเกิด น่ันแหละ ในทางทฤษฎี ก็ดูเหมอื นจะเป็นอย่างนน้ั เพราะ การยอ่ ยสลาย ซง่ึ เม่ือมอี นิ ทรียวตั ถเุ พม่ิ ข้ึน จุลินทรียด์ นิ มี พันธ์ุพืชผักสมัยใหม่ถูกคัดเลือกว่าเจริญเติบโตดีภายใต้ อตั ราการเจรญิ เตบิ โตสงู ปรมิ าณธาตอุ าหารในดนิ จะเพม่ิ ขน้ึ เงื่อนไขการให้ปุ๋ยและน้ำอย่างเต็มที่ คือรับประกันว่าโตดี จาก ๒ กระบวนการ คือ ผลผลิตสูง ถ้ามีปุ๋ยมีน้ำอย่างเพียงพอ เมื่อนำมาปลูกใต้ ๑) การปลดปล่อยธาตุอาหารที่สะสมอยู่ใน เงื่อนไขของผักอินทรีย์ท่ีไม่ใส่ปุ๋ยเคมีเลย ก็ไม่น่าจะให้ ผลผลิตได้ แต่ในทางสรีรวทิ ยาของพชื มขี ้อมลู วเิ คราะห์ อินทรียวัตถุ และจากการย่อยสลายซาก องค์ประกอบทางเคมีของผัก พบว่า ร้อยละ ๙๔ ของ ของจุลินทรีย์ที่ตาย และ นำ้ หนกั แห้งเป็นสารทไี่ ดจ้ ากอากาศ (คาร์บอนไดออกไซด์) ๒) จุลินทรีย์เองขณะมีชีวิตก็จะปลดปล่อย และน้ำ ส่วนธาตุอาหารที่เราจะได้จากปุ๋ยเคมี จะมีเพียง กรดอินทรีย์หลายชนิดออกไปทำปฏิกิริยา รอ้ ยละ ๑-๓ ของนำ้ หนกั แหง้ เทา่ นนั้ และในดนิ ตามธรรมชาติ กบั หนิ แรป่ ลดปลอ่ ยธาตอุ าหารใหพ้ ชื อกี ดว้ ย ก็มีธาตุอาหารพืช ที่เกิดจากการสลายตัวของหินแร่ และ ห ลั ก ก า ร น้ี พู ด ง่ า ย แ ต่ ป ฏิ บั ติ ย า ก ม า ก ปลดปล่อยออกมาอยใู่ นดินอยแู่ ลว้ เพยี งแตอ่ ตั ราการยอ่ ย เพราะต้องอาศัยทั้งเทคโนโลยีท่ีจะทำให้ สลายอาจจะช้าจนไม่ทันกับความต้องการของพืชเท่านั้น จุลินทรยี ์มอี ัตราการเจรญิ เติบโตเรว็ และ ถา้ เราเรง่ กระบวนการยอ่ ยสลายหนิ แรต่ ามธรรมชาตใิ หเ้ รว็ พอ ความรู้ทางการจัดการ ทำอย่างไรถึงจะมี และมกี ารเตมิ ใหบ้ า้ งดว้ ยเศษซากพชื มลู สตั ว์ และการจดั การ ปุ๋ยหมัก-ปุ๋ยคอกปริมาณถึง ๘๐๐ ตัน ให้ต้นพืชมีระบบรากดี ดูดซับแร่ธาตุได้มาก ร่วมกับการ ภายใน ๑ ปี (พืน้ ท่ี ๑๐๐ ไรต่ อ้ งการใส่ปุย๋ จัดจังหวะการปลูกพืชให้มีช่วงเวลาพักดินบ้าง ก็จะทำให้ ๘ ตันต่อไร่) ซึ่งจะต้องใช้ซากพืชสด ความจำเป็นใช้ปุ๋ยเคมี (ตามความเช่ือของนักวิชาการดิน) เพ่ือมาทำปุ๋ยหมักจำนวนดังกล่าวถึง ลดลงได้อย่างแน่นอน ๕,๖๐๐-๘,๐๐๐ ตัน เจ้าหน้าท่ีของมูลนิธิ ในปีแรกท่ีทำการทดสอบการเพาะปลูกผักอินทรีย์ โครงการหลวง และกรมพฒั นาทด่ี นิ สา่ ยหนา้ บนขั้นบันไดท่ีกรมพัฒนาท่ีดินจัดระบบอนุรักษ์ให้ใหม่ การ ทันที เมื่อทราบกรอบแนวทางดำเนินงาน ทำงานของเครอ่ื งมอื หนกั ทำใหข้ นั้ บนั ไดเรยี บรอ้ ยและสวยงาม พรอ้ มปฏเิ สธเสยี งแขง็ วา่ ทำไมไ่ ด้ เพราะไมม่ ี ดงั ในภาพ แตค่ วามสวยงามทไี่ ด้ ทำใหห้ นา้ ดนิ ทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ วตั ถดุ บิ มากพอ แตน่ ค่ี อื เงอื่ นไขความสำเรจ็ ถกู ตดั ออกไปหมด เหลอื แตด่ นิ ชนั้ ลา่ งทมี่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์ หรือคือจุดตายท่ีจะทำให้งานล้มเหลว ต่ำมาก ขนาดวัชพืชยังแทบไม่เจริญเติบโต จึงจำเป็นต้อง วิทยายุทธ์แบบมวยวัดจึงถูกนำมาใช้แก้ไข ลงทุนแรงงานและเวลาจำนวนมหาศาล เพ่ือปรับสภาพดิน แตก่ ็ประสบผลสำเร็จในทีส่ ุด คือ ปุ๋ยหมก กนั ใหม่ โดยตงั้ เปา้ หมายใสป่ ยุ๋ หมกั และปยุ๋ คอกในแปลงปลกู อีกนั่นแหละ
๑๑๘ พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปิ่นสยาม ปุ๋ยหมกและน้ำหมกั ใชเ้ องในแปลง ทำใหป้ จั จบุ นั อนิ ทรยี วตั ถใุ นดนิ ของสวนอนิ ทรยี ์ ขอยำ้ วา่ จะกลา่ วถงึ “ปยุ๋ หมก” ไมไ่ ชพ่ มิ พผ์ ดิ แนน่ อน เพ่มิ ขนึ้ จากรอ้ ยละ ๐.๑-๐.๕ เป็นรอ้ ยละ ๕-๘ ภายใน บทก่อนกล่าวถึงความต้องการใช้ปุ๋ยหมักจำนวนมากกว่า เวลา ๓ ปี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุด และส่งผล ๘๐๐ ตนั ในการเพมิ่ อนิ ทรยี วตั ถใุ หก้ บั ดนิ ในแปลงสวนอนิ ทรยี ์ พลอยได้ตอ่ สมดลุ ของธรรมชาตบิ นพืน้ ที่สูงท่ีดี ท้งั ต่อความ ซง่ึ ต้องใช้วตั ถุดิบเศษซากพืชถึง ๕,๖๐๐-๘,๐๐๐ ตนั การขน สะอาดของดินและน้ำทไ่ี หลลงส่พู ืน้ ราบด้วย เศษซากพชื เหลา่ นจี้ ากสถานทไี่ กลๆ เขา้ สแู่ ปลง คงจะสนิ้ เปลอื ง จ่วั หวั ไวว้ ่า “น้ำหมกั ” ซงึ่ เป็นคำสั้นๆ ที่เกษตรกร นำ้ มนั เชอื้ เพลงิ และเวลาจำนวนมหาศาล และในสวนอนิ ทรยี เ์ อง เขา้ ใจวา่ หมายถงึ ของเหลวทไี่ ดจ้ ากกระบวนการหมกั เศษพชื กค็ งไมม่ พี น้ื ทม่ี ากขนาดนน้ั หนทางเดยี วทจ่ี ะทำใหไ้ ดป้ ยุ๋ หมกั ดว้ ยจลุ นิ ทรยี ์ หรอื จากกองปยุ๋ หมกั เศษพชื รว่ มกบั ปยุ๋ มลู สตั ว์ ทงั้ ปรมิ าณและเวลาคอื การระดมสรรพกำลงั เทา่ ทม่ี ดี ำเนนิ การ ซึ่งในทางวิชาการได้มีการยืนยันถึงคุณค่าทางอาหารพืช และใหใ้ ช้วตั ถดุ บิ คอื เศษใบไม้แหง้ และเศษวัชพชื ในป่าใกล้ ในนำ้ หมกั ไวพ้ อสมควร ทงั้ ทพ่ี สิ จู นไ์ ดแ้ ลว้ และยงั อยใู่ นระดบั หมู่บ้าน ด้วยเหตุนโี้ ครงการหลวงจงึ รว่ มกบั กรมพฒั นาทดี่ ิน ความเช่ือ มตี ัวเลขยืนยันว่า ในน้ำหมกั มีองค์ประกอบทเี่ ปน็ จดั กิจกรรมรณรงค์ “การทำปุย๋ หมก” ทีอ่ า่ งขาง ซึง่ เปน็ เร่ือง แร่ธาตุครบทุกชนดิ แม้จะในปรมิ าณท่คี ่อนข้างน้อย แต่ก็ ทท่ี กุ คนรว่ มมอื ทำดว้ ยความสนกุ สนาน เพราะชอื่ การรณรงค์ เชอ่ื วา่ มอี งคป์ ระกอบทเี่ ปน็ สารอนิ ทรยี อ์ น่ื หลายชนดิ ทจี่ ำเปน็ แปลกแต่โดนใจ เกษตรกรทุกครัวเรอื นกระจายตวั เขา้ ไปใน ตอ่ การเจริญเตบิ โตของผกั เชน่ วติ ามนิ ฮอร์โมนพืช และ ป่าไม้รอบๆ ชุมชนพร้อมกับหัวเช้ือ การทำปุ๋ยหมักท่ีได้รับ กรดอะมิโน เป็นต้น “น้ำหมัก” ที่ใช้ในการปลูกผักอินทรีย์ การสนับสนุนจากกรมพัฒนาท่ีดิน และไปทำกองปุ๋ยหมก มีหลายชนิดและหลายวัตถุประสงค์ ถ้าเป็นน้ำหมักจาก ของตนเอง โดยการโกยใบไมส้ มุ ไวเ้ ปน็ กองๆ ขนาดกวา้ งยาว กองปุย๋ หรอื จากการหมักเศษเหลอื ของผัก จะมลี กั ษณะข้น และสูง ๒-๓ เมตร แลว้ โรยหัวเชื้อปุ๋ยหมักก่อนคลุมดว้ ย สีเขม้ ใชล้ ะลายน้ำอตั ราสว่ น ๑ ต่อ ๕๐๐ และตักรดเพ่ิม ใบไม-้ วชั พชื อกี ชน้ั หนง่ึ ปล่อยให้ “หมก” อยู่ในปา่ อยา่ งน้ัน ธาตอุ าหารให้กบั ตน้ พชื ปลูกโดยตรง ประมาณ ๒ เดือน เพอ่ื ใหเ้ วลาจลุ ินทรียท์ ำงานย่อยสลาย น้ำหมักอีกประเภทหน่ึงมีวิธีการผลิตคล้ายน้ำหมัก เศษพืช เกษตรกรกลับไปที่กองปุ๋ยหมกอีกคร้ังพร้อมกับถุง จากเศษผัก แต่ใชพ้ ืชสมุนไพรท่มี ฤี ทธขิ์ บั ไล่ หรือกำจดั โรค ปุ๋ยเปล่า เพื่อขนเศษพืชที่หมักแล้วกลับไปใส่ในแปลงปลูก แมลงเป็นวัตถุดิบแทนผัก นำมาคลุกกับกากน้ำตาล แล้ว ของตนเอง กจิ กรรมดงั กลา่ วไดร้ บั การสนบั สนนุ ใหด้ ำเนนิ การ ใส่ถังหมักพร้อมกับใส่หัวเช้ือจุลินทรีย์ ผลผลิตส่วนที่เป็น อกี หลายครงั้ จนเปน็ กจิ กรรมปกตขิ องกลมุ่ เกษตรกรทช่ี ว่ ยกนั ของเหลวขน้ บางครง้ั เรยี ก “นำ้ หมกั สมนุ ไพร” หรอื “สารธรรมชาติ ปฏบิ ตั แิ ละแบง่ ปนั กนั ใชจ้ นทกุ วนั น้ี ดว้ ยเทคโนโลยี “ปยุ๋ หมก” กำจัดศตั รูพชื ” พชื สมุนไพรท่ียืนยนั ฤทธิ์ ไดแ้ ก่ ตะไคร้หอม ผสมผสานกับปุ๋ยหมักจากเศษผักและเศษใบหญ้าแฝกท่ีตัด ตะไครต้ ้น โกฏจุฬาลมั ภา และหางไหลแดง (หรอื โลต่ ๊ิน)
พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๑๑๙ ดิน น้ำ ปา่ และผกั อินทรีย ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานกระแส พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทเก่ียวกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และการฟื้นฟูดิน น้ำ และป่าไม้บน พ้นื ท่ีสงู ไวม้ ากมาย ความตอนหน่ึงวา่ “... การทจ่ี ะมตี น้ นำ้ ลำธารไปชวั่ กาลนานนนั้ สำคญั อยทู่ กี่ ารรกั ษาปา่ และปลกู ปา่ บรเิ วณตน้ นำ้ ซงึ่ เปน็ ยอดเขาและเนนิ สงู ขน้ึ ตอ้ งมกี ารปลกู ปา่ โดยไมย้ นื ตน้ และปลกู ไมฟ้ นื ซง่ึ ไมฟ้ นื นน้ั ราษฎรสามารถตดั ไปใชไ้ ด้ แตต่ อ้ งมกี ารปลกู ปา่ ทดแทน เปน็ ระยะ สว่ นไมย้ นื ตน้ นน้ั จะชว่ ยใหอ้ ากาศมคี วามชมุ่ ชนื้ เปน็ ขนั้ ตอนหนง่ึ ของระบบการใหฝ้ นตกแบบธรรมชาต ิ ทง้ั ยงั ชว่ ยยดึ ดนิ บนเขาไมใ่ หพ้ งั ทลาย เมอื่ เกดิ ฝนตกอกี ดว้ ย ซงึ่ ถา้ รกั ษาสภาพปา่ ไมไ้ วใ้ หด้ แี ลว้ ทอ้ งถนิ่ กจ็ ะมนี ำ้ ไวใ้ ชช้ ว่ั กาลนาน ...” พระราชดำรสั เมอื่ วนั ที่ ๑๔ เมษายน พทุ ธศกั ราข ๒๕๒๐ ณ พนื้ ทอ่ี ำเภอชยั บาดาล จงั หวดั ลพบรุ ี ความสำเร็จของการพัฒนาผักอินทรีย์ท่ีอ่างขาง ในพนื้ ทปี่ า่ ดงั เดมิ ไมป้ า่ ยงั เจรญิ เตบิ โตไดด้ เี ปน็ ปกติ นอกจากนี้ ได้ส่งผลเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบนพ้ืนท่ีสูงตามที่มีกระแส กระบวนการปฏิบัติงานเหล่านี้ท้ังหมด ยังช่วยอนุรักษ์และ พระราชดำรัสไว้ เช่น ทำใหห้ มดปญั หาขยะจากเศษซากพืช เพม่ิ ปรมิ าณความหลากหลายทางชวี ภาพบนพนื้ ทสี่ งู จำนวนมาก และผลผลิตท่ีตกเกรด เพราะถูกนำไปทำน้ำหมักจนหมด ท้ังพืช สัตว์ แมลง และจุลินทรีย์ ทำให้เกิดความสมดุล และยงั ไมเ่ พยี งพอ เกษตรกรจะหวงแหนเศษพชื และเศษวชั พชื และควบคมุ กนั เองตามธรรมชาติ จนไมม่ คี วามจำเปน็ ตอ้ งใช้ ไมม่ กี ารเผาวชั พชื และตอซงั พชื บนพนื้ ทส่ี งู อกี ตอ่ ไป การเขา้ ไป สารเคมีเกษตรเลย ทั้งสารเคมีควบคุมศัตรูพืชและปุ๋ยเคมี เกบ็ กองเศษใบไมแ้ หง้ ในปา่ ชว่ ยลดปญั หาไฟปา่ โดยทไ่ี มเ่ สยี แสดงว่าการส่งเสริมผักอินทรีย์บนดอยสูง มีผลดีต่อท้ังดิน สมดลุ ของธาตอุ าหารมากนกั เนอ่ื งจาก “กองปยุ๋ หมก” ยงั อยู่ น้ำ และป่าไม้จริงๆ
๑๒๐ พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ป่ินสยาม อุย๊ ฮาวกอ้ ทาอย่าน ิ หัวข้อน้ีพิมพไ์ ม่ผิด เนื่องจากพมิ พต์ ามสำเนยี งของ ชาวเขา ท่ถี กู ต้องในภาษาไทยท่ชี ดั ถอ้ ยชดั คำ คือ “ปยู่ ่าตายายของเรากท็ ำอยา่ งนี”้ เป็นคำตอบจากคำถามท่ีข้าพเจ้าเคยไปถามเกษตรกรใน ระยะเริ่มแรกของโครงการว่า “ปลูกผักอินทรีย์ยากไหม?” ฟังคำตอบแลว้ ก็รำพงึ กับตนเองเปน็ ๒ ทาง ทางหนึ่งก็รู้สึก ว่าคำถามของตนเองนี่ช่างเชยส้ินดี อีกทางหนึ่งก็คิดไปว่า การปลูกผักอินทรีย์น่าจะเป็นปัญหาของนักวิชาการที่ยึดติด ตำราตะวันตกมากกว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหาของชาวเขาเลย เพราะเป็นส่ิงท่ีเขาคุ้นเคยและปฏิบัติกันเป็นปกติตั้งแต่สมัย ดั้งเดิมมาแล้ว เราไปเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกให้กับ เขาเสยี เอง โดยคดิ วา่ วธิ กี ารของเราดกี วา่ อาจจะดกี วา่ จรงิ กไ็ ด้ แต่แพงกว่า และทำให้วัฒนธรรมประเพณีและสิ่งแวดล้อม เสื่อมลง ซ่ึงเราไม่ได้คิดมูลค่าต้นทุนของผลกระทบเชิงลบ เหล่าน้ีไว้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานกระแส พระราชดำรัสเกี่ยวกับการพัฒนาท่ีต้องสอดคล้องกับภูมิ ประเทศ วัฒนธรรมประเพณีท้องถิน่ ความตอนหนึ่งว่า “... การพฒั นาจะตอ้ งเปน็ ไปตามภมู ปิ ระเทศทางภมู ศิ าสตร ์ และภมู ปิ ระเทศทางสงั คมศาสตร์ ในสงั คมวทิ ยา คอื นสิ ยั ใจคอของคน เราจะไปบงั คบั ใหค้ นอนื่ คดิ อยา่ งอน่ื ไมไ่ ด้ เราตอ้ งแนะนำ เราเขา้ ไปชว่ ย โดยทจ่ี ะคดิ ใหเ้ ขาเขา้ กบั เราไมไ่ ด้ แตถ่ า้ เราเขา้ ไปแลว้ เราเขา้ ไปดวู า่ เขาตอ้ งการอะไรจรงิ ๆ แลว้ กอ็ ธบิ ายใหเ้ ขาเขา้ ใจ หลกั การของการพฒั นาน้ี กจ็ ะเกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งยงิ่ ...”
พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่นิ สยาม ๑๒๑ โลกยุคใหม่ต้อง “วนิ -วิน” ดา้ นการประสานงาน การวางแผนงานทสี่ อดคลอ้ งกบั เงอ่ื นไข ผู้ที่เคยบริโภคกะหล่ำปลีอินทรีย์ อาจจะตั้งข้อ จรงิ การตดิ ตามกำกบั งาน และการปรบั แกไ้ ขปญั หางานตาม สังเกตว่า ทำไมหัวกะหล่ำปลีอินทรีย์จึงเบากว่าปกติ ใบก็ สถานการณ์ท่ีพลิกผันวันต่อวัน ดังนั้น การที่จะเป็นผู้ผลิต หอ่ ตวั อยา่ งหลวมๆ นค่ี อื ความเปน็ จรงิ ทจี่ ะตอ้ งศกึ ษาวจิ ยั ตอ่ ไป ผกั อนิ ทรยี ใ์ หส้ ำเรจ็ ได้ จงึ ตอ้ งมคี วามสามารถเชงิ วชิ าการควบคู่ แตจ่ ากขอ้ มลู หลายปที ผี่ า่ นมาพบวา่ ในพน้ื ทเี่ ทา่ ๆ กนั ผลผลติ กบั การมที กั ษะดา้ นการบรหิ ารจดั การ และความอดทนอดกลน้ั ผกั อนิ ทรยี จ์ ะตำ่ กวา่ ผกั ทใี่ ชป้ ยุ๋ เคมปี ระมาณรอ้ ยละ ๔๐-๕๐ ไปพรอ้ มๆ กนั คณุ ลกั ษณะเชน่ น้ี ควรจะตอ้ งมใี นบณั ฑติ ของ เป็นสาเหตุท่ีบอกว่าทำไมผักอินทรีย์จึงต้องแพงกว่าผักใช้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เพราะลกั ษณะงานทเี่ ขาเหลา่ นน้ั จะตอ้ ง สารเคมี เพราะไดน้ ำ้ หนกั ผลผลติ ตอ่ พน้ื ทนี่ อ้ ยกวา่ ทำใหร้ ายได้ ไปพบ คงไมแ่ ตกตา่ งจากงานผกั อนิ ทรยี ม์ ากนกั ไมว่ า่ จะทำงาน เกษตรกรลดลงดว้ ย โครงการหลวงจงึ ตอ้ งตงั้ ราคาผกั อนิ ทรยี ์ บนภเู ขา หรอื ในเมอื งหลวง ทง้ั การสอ่ื สาร การทำงานเปน็ ทมี สูงกวา่ ผกั สง่ เสริมปกตเิ ฉลีย่ รอ้ ยละ ๒๐ เพ่ือชดเชยนำ้ หนัก การแก้ไขปัญหา การมุ่งมั่น ฯลฯ บัณฑิตที่มีคุณลักษณะ ผลผลิตส่วนที่หายไปให้กับเกษตรกร ผู้บริโภคทราบแล้ว ขา้ งตน้ นา่ จะเรยี กวา่ “บณั ฑติ อนิ ทรยี ”์ หรอื “บณั ฑติ บรู ณาการ” โปรดเข้าใจในเหตุผลและความจำเป็นว่า ทำไมต้องซ้ือ กไ็ ด้ แนวทางการเรยี นการสอนอาจตอ้ งเปลยี่ นบา้ ง จากการ ผกั อนิ ทรยี แ์ พงกวา่ ผกั ใชส้ ารเคมี คำถามของผบู้ รโิ ภคนา่ จะ เรยี นดว้ ยการปอ้ นถงึ ปาก (passive learning) เปน็ การเรยี น อยู่ทีว่ า่ ทำไมจงึ เพิ่มราคาเพยี งร้อยละ ๒๐ เท่าน้ัน เพยี งพอ ดว้ ยกระบวนการกลมุ่ (active learning) และการเสรมิ หรอื ไม่ ตอบวา่ พอ เนอ่ื งจากเกษตรกรมตี น้ ทนุ การผลติ ตำ่ ลง ทักษะด้านบริหารจัดการด้วยวิชาเรียนที่เป็นกิจกรรมเสริม เพราะไม่มีต้นทุนค่าสารเคมีเกษตร และยังได้กำไรจากการ หลกั สูตร (ทีอ่ าจจะต้องบังคับและมคี ะแนนใหด้ ว้ ย) ลดคา่ ยาในการรกั ษาการเจบ็ ปว่ ย เนอื่ งจากใชส้ ารเคมเี กษตร มากอีกด้วย ซ่ึงที่จริง ค่ารักษาพยาบาลนี้เป็นต้นทุนแฝงท่ี นักวิชาการและผู้ขายปุ๋ยยาลืมบวกรวมให้เกษตรกรไว้ด้วย บัณฑิตอินทรยี ์ของมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม ่ การทำงานด้านผักอินทรีย์ของโครงการหลวง มี เป้าหมายสูงสุดในการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้และมีชีวิต ความเปน็ อยทู่ ดี่ ขี น้ึ ซงึ่ ตลอด ๖ ปที ผ่ี า่ นมา ไดแ้ สดงใหเ้ หน็ วา่ การทำงานด้านการเกษตร และการพัฒนาสงั คมอย่างยง่ั ยนื ตอ้ งอาศยั ทกั ษะหลายดา้ น ทง้ั ความรเู้ ชงิ ลกึ ในสาขาวชิ า และ ในเชงิ บรู ณาการขา้ มสาขาวชิ า นอกจากน้ี ยงั ตอ้ งอาศยั ทกั ษะ บรรณานุกรม สำนักงานคณะกรรมการพเิ ศษเพอื่ ประสานงานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ. (๒๕๔๙). ฝายชะลอความชุม่ ช้ืน (Check Dam) ในรปู แบบตา่ งๆ. กรงุ เทพฯ: กปร. . (๒๕๔๙). รักษ์น้ำ รักษาชีวติ . กรุงเทพฯ: กปร. . (๒๕๔๙). หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว. กรงุ เทพฯ: กปร.
๑๒๒ พระบารมอี งค์ภมู นิ ทร์ ปิน่ สยาม พชื ถัว่ กบั มูลนิธิโครงการหลวง สุทัศน์ จลุ ศรีไกวลั * ข้าพเจ้าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิโครงการหลวง ปลกู แล้วได้ผลดี ผลผลิตสูง ไดผ้ ลตอบแทนดีกว่าปลกู ฝ่นิ ทำงานเกย่ี วกบั การวจิ ยั และพฒั นาถว่ั ตา่ งๆ บนทส่ี งู แตล่ ะปี ที่เคยปลกู มาเสียอกี เมอื่ ขา้ พเจา้ ไดข้ นึ้ ไปทำงานตามสถานแี ละศนู ยพ์ ฒั นาโครงการ แรงบนั ดาลใจใหเ้ กษตรกรบนทสี่ งู ปลกู ถว่ั ชนดิ ตา่ งๆ หลวงตา่ งๆ บนดอยทส่ี งู ของมลู นธิ โิ ครงการหลวง ชว่ งตน้ และ ในขณะนี้ มหี ลายประการดว้ ยกนั ประการแรก พชื ถว่ั ทกุ ชนดิ ปลายฤดูฝน จะได้เห็นเกษตรกรชาวเขาปลูกถ่ัวชนิดต่างๆ มปี มทรี่ าก มแี บคทเี รยี ชอ่ื ไรโซเบยี ม (Rhizobium) อาศยั อยู่ เชน่ ถ่วั แดงหลวง ถั่วเหลอื ง ถ่ัวขาว ถัว่ ลสิ ง และถวั่ อะซูกิ แบคทีเรียชนิดนี้สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาแปลง เป็นต้น บางดอยเห็นเป็นแปลงเล็กแปลงน้อยอยู่กระจัด เปน็ ปยุ๋ ไนโตรเจนใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตน้ ถว่ั ได้ พชื ถว่ั จงึ จดั เปน็ กระจายเป็นหย่อมๆ แต่บางดอยปลูกเป็นแปลงใหญ่กว้าง พชื บำรงุ ดนิ เมอื่ เกษตรกรปลกู พชื ถวั่ เปน็ ระยะเวลาหลายฤดู ไกลสุดลกู ตา ขา้ พเจ้ามีความประทบั ใจและภมู ใิ จเงยี บๆ วา่ ติดต่อกัน จะช่วยเพ่ิมความอุดมสมบูรณ์ของดินมากข้ึน ในอดีตนั้นพืชถั่วชนิดต่างๆ เหล่าน้ี ไม่เคยเป็นท่ีสนใจของ ประการตอ่ มาเกษตรกรไมต่ อ้ งทำไรเ่ ลอ่ื นลอย และประการ เกษตรกรชาวเขาทจ่ี ะใชป้ ลกู มากอ่ นเลย แตป่ จั จบุ นั นกี้ ลายเปน็ สุดท้ายการปลูกพืชถ่ัวสลบั กบั การปลกู พืชไรห่ รือพืชผักอ่นื ๆ พืชท่นี ยิ มปลูกกันอยา่ งแพรห่ ลาย จะชว่ ยตดั วงจรชวี ติ ของโรคแมลง และศตั รพู ชื ตา่ งๆ เกษตรกร หมอ่ มเจา้ ภศี เดช รชั นี ประธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง มีความปลอดภัย ไมต่ ้องใช้สารเคมอี ันตรายปอ้ งกันศัตรูพืช ไดท้ รงเลา่ ในหลายสถานทแี่ ละหลายโอกาสวา่ พระบาทสมเดจ็ เปน็ การลดตน้ ทนุ การผลติ และทส่ี ำคญั คอื ปลกู ถวั่ แลว้ เปน็ พระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งให้ท่านพยายามหาพืชอะไรก็ได้มาให้ การเพ่มิ รายไดแ้ ละมีชวี ติ ความเปน็ อยู่ทีด่ ขี ้ึน ชาวเขาปลูกแทนฝ่ิน เพื่อทดแทนรายได้ที่ขาดไป ท่านก็ได้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระปรชี าสามารถ เสนอพืชถ่ัวชนิดหนึ่งชอ่ื red kidney bean (ตอ่ มาได้ต้ัง และสายพระเนตรอันยาวไกล การพระราชทานพนั ธถุ์ ั่วแดง ชอื่ ใหมว่ า่ ถวั่ แดงหลวง) และไดส้ งั่ พนั ธมุ์ าจากรฐั แคลฟิ อรเ์ นยี หลวงใหช้ าวเขาไดเ้ พาะปลกู เมอื่ ประมาณ ๔๐ ปี ทผี่ า่ นมานนั้ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เพอื่ ถวายแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดจ้ ดุ ประกายใหห้ นว่ ยงานตา่ งๆ ไดท้ ำงานวจิ ยั และพฒั นาถวั่ ใหพ้ ระราชทานแกช่ าวเขาทบ่ี า้ นแมโ่ ถ อำเภอจอมทอง จงั หวดั ต่างๆ ท่ีเหมาะสมสำหรบั ใหเ้ กษตรกรบนท่ีสูงใช้ปลูกในเวลา เชยี งใหม่ เมื่อปลายฤดูฝน พุทธศักราช ๒๕๑๔ เกษตรกร ตอ่ มา * รองศาสตราจารย์ ภาควชิ าพชื ไร่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
พระบารมีองค์ภมู ินทร์ ป่นิ สยาม ๑๒๓ ดว้ ยพระบารมแี ละพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยแท้ ที่พระองค์ได้พระราชทานพืช ชนิดหนึ่งท่ีมีคุณค่าแก่ราษฎรได้ใช้ปลูกตลอดหลายสิบปี ที่ผ่านมา พืชถั่วเป็นพืชชนิดหนึ่งท่ีมีบทบาทสำคัญต่อการ ดำรงชวี ติ ของเกษตรกรบนทส่ี งู เกษตรกรมรี ายไดแ้ ละมคี วาม เปน็ อยทู่ ่ีดีขึน้ กวา่ เดิม ยนื อยู่ได้ด้วยตนเอง ซ่ึงเปน็ ตวั อย่าง ที่ดีของหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และ ที่สำคัญเกษตรกรชาวเขาทุกคน ล้วนแล้วแต่มีความซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างตั้งใจประกอบอาชีพอยา่ งเตม็ กำลัง ขอพระองค์ทรงพระเจริญย่งิ ยนื นาน
ชาวมรห่มาเกวิทลยา้ าลัย เชียงใหม่
๑๒๖ พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม พระบารมีคุ้มเกล้า ชาวมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ดร.พงษศ์ ักดิ์ อังกสิทธ์ิ* มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรก มาเปน็ เวลามากกวา่ ๔๓ ปี ตามกระแสพระราชดำรัสของ ในสว่ นภมู ภิ าค กอ่ ตงั้ ขน้ึ เมอื่ พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๗ ตามนโยบาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระมหากรุณาธิคุณ ของรฐั และเจตนารมณข์ องประชาชนในภาคเหนอื เปน็ ศนู ยก์ ลาง พระราชทานให้เป็นพระปฐมพระบรมราโชวาท ในพิธีเปิด ทางวชิ าการและวชิ าชพี ชน้ั สงู เพอ่ื อำนวยประโยชนแ์ กท่ อ้ งถนิ่ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมอ่ ยา่ งเปน็ ทางการ เมอื่ วนั ท่ี ๒๔ มกราคม และประเทศชาตโิ ดยสว่ นรวม มหาวทิ ยาลยั แหง่ นไี้ ดด้ ำเนนิ การ พุทธศกั ราช ๒๕๐๘ ความตอนหนงึ่ วา่ “เวลาน้ี เรากำลังต้องการคนดีมีปัญญาและมีความรอบรู้ในด้านต่างๆ มาเป็น กำลงั ทะนบุ ำรงุ บ้านเมอื งเป็นจำนวนมาก และยงั จะตอ้ งการเพิม่ มากขึน้ อีกเปน็ ลำดับ ในวันข้างหน้า เพราะเราจำเป็นต้องทำความเจริญให้แก่ประเทศและประชาชนให้ท่ัวถึง ... ตอ้ งอาศยั สตปิ ัญญา ความสามารถของผู้มีการศึกษาช้นั สูงเปน็ สำคญั ... และเมื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เริ่มต้นดีแล้ว ขอให้พยายามดำเนินกิจการให้ก้าวหน้าต่อไป ใหไ้ ด้ผลสมกบั ความเพยี รพยามยามที่จะกอ่ ตง้ั และสมกบั ความสามารถท่ไี ดต้ งั้ ไว”้ พระบรมราโชวาทนี้สอดคลอ้ งกับปณธิ านของมหาวทิ ยาลัย คือ “มหาวทิ ยาลยั แห่งน้เี ป็นแหล่งสะสม คน้ ควา้ วจิ ยั และถา่ ยทอดความรู้ ตาม หลักแห่งเสรีภาพทางวิชาการ โดยยึดม่ันในสัจธรรมและคุณธรรม เพ่ือความเป็นเลิศ ทางวิชาการ การประยุกต์ เผยแพร่และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม บัณฑิตแห่ง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พึงฝักใฝ่ในการฝึกฝนตน เป็นผู้รู้จริง คิดเป็น ปฏิบัติได้ สามารถครองตน ครองคน ครองงาน ด้วยมโนธรรมและจติ สำนกึ ต่อสงั คม” * ศอาธสิกตารรบาจดามี รหยา์ ภวิทาคยวาิชลายั สเช่งเียสงรใมิหแมล ่ ะเผยแพรก่ ารเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่
พระบารมอี งคภ์ มู ินทร์ ป่ินสยาม ๑๒๗ จากวาระอันเป็นมหามงคลข้างต้นนั้นแล้ว ชาว “ตราสัญลกั ษณ์ช้างชูคบเพลิง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้า ของมหาวทิ ยาลยั นี้ เปรยี บเสมอื นเปน็ ปกกระหม่อมเป็นล้นพ้นอย่างต่อเน่ือง ดังในปีถัดมา เมื่อ ประทีปส่องแสงสว่างประจำทางชวี ิต วันท่ี ๙ กุมภาพันธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๙ เวลา ๑๙.๐๐ น. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรม ให้รงุ่ เรืองตลอดไป” ราชินนี าถ และ สมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟ้าอุบลรัตนราช กญั ญาสริ ิวฒั นาพรรณวดี เสดจ็ ออก ณ มขุ หนา้ พระตำหนัก ภพู งิ คราชนเิ วศน์ พระราชทานพระราชวโรกาสใหศ้ าสตราจารย์ วันอาทิตย์ที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๕ ดร.บวั เรศ คำทอง (รองอธกิ ารบดี ในสมยั นน้ั ) กราบบงั คมทลู เป็นอีกวาระหน่ึงที่ชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับพระมหา เบกิ คณาจารย์ ขา้ ราชการ และนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ กรุณาธิคุณทรงให้เชิญอาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นคร้ังแรก ทรงพระกรุณา เชยี งใหมเ่ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ณ พระตำหนกั ภพู งิ ค โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทานเลยี้ งอาหารคำ่ ทรงดนตรี ราชนเิ วศน์ ซึง่ ในครงั้ น้ี ผเู้ ขียนได้มโี อกาสเฝา้ ทลู ละอองธุลี (เปยี โน) พระราชทาน โดยมีสมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พระบาทด้วย ไดร้ บั ฟังพระบรมราโชวาททป่ี ระทับใจยิง่ คอื อบุ ลรตั นราชกญั ญา สริ วิ ฒั นาพรรณวดี ทรงขบั รอ้ งเพลงหลาย สบิ เพลงเปน็ เวลานานนบั ชวั่ โมง รว่ มกบั วงดนตรสี โมสรนกั ศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (สมช.) บรรเลงและขบั รอ้ งเพลงถวาย “การเข้ามหาวทิ ยาลัย กระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานในคืนนั้น ยัง กเ็ พื่อสะสมความรู้ สรา้ งอนาคตตน ประทับตราตรงึ อยูใ่ นดวงใจของชาว มช. มริ ลู้ มื นักศกึ ษาทว่ั โลกกต็ อ้ งเปน็ เชน่ น้นั ... ข้อสำคญั คอื การฝึกฝนตนเองใหม้ ีความคิด พจิ ารณาใหร้ อบคอบ มใิ หใ้ ครมาชักจูงในทางที่ผดิ “เรารู้สกึ ดีใจมาก ทีไ่ ดม้ โี อกาสตอ้ นรบั ท่ีทำหน้าที่นักศึกษา ถ้าพจิ ารณาไดถ้ กู ต้อง นกั ศกึ ษาและคณะอาจารยข์ องมหาวิทยาลยั เชียงใหม ่ มีความขยันหมัน่ เพียรแลว้ ก็จะเกิด ความเจรญิ แกส่ ่วนรวม ทอ้ งถ่นิ ประชาชน …” ขอขอบใจที่นกั ศกึ ษาและคณะครูไดช้ ว่ ยเหลือเรา ในกจิ การต่างๆ แมม้ หาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้ และ “แตง่ เคร่ืองแบบน้ีมาอวด ต้ังมาเป็นทางการเป็นเวลาปีเศษๆ นี้ ก็ได้ช่วยในกิจการ ให้ทุกคนไดช้ ม ใหน้ กั ศกึ ษาได้ทราบว่า ต้อนรับแขกบ้านแขกเมอื ง และใหก้ ำลังใจมาตลอด” เราไม่ละทงิ้ ประชาชน และไดพ้ ัฒนาไป ... เราเป็นนักศึกษาก็ไมล่ ะทิ้งประชาชน ต้องช่วยเหลอื ประชาชน ...”
๑๒๘ พระบารมอี งคภ์ ูมนิ ทร์ ปิน่ สยาม เมื่อถึงคราวที่นักศึกษาสำเร็จการศึกษา พระมหา ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจัดข้ึน ณ พลับพลาคณะ กรุณาธิคุณก็ปกแผ่มาสู่บัณฑิตทุกคนอย่างถ้วนทั่ว วันพุธที่ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้พระราชทาน ๖ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๙ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระบรมราโชวาทแก่บัณฑิต ความตอนหนึ่งว่า เสดจ็ พระราชดำเนนิ ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั รแกบ่ ณั ฑติ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมเ่ ปน็ ครง้ั แรก (ครงั้ ท่ี ๑) ณ หอประชมุ ราชแพทยาลัยมหาวิทยาลยั แพทยศาสตร์ กรงุ เทพมหานคร “... ท่านทัง้ หลายยงั คงจำไดว้ ่า พระราชทานพระบรมราโชวาทท่ีบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ เมื่อคราวทีม่ าเปิดมหาวิทยาลยั เชยี งใหม ่ ของมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ความตอนหน่งึ ว่า เม่อื สองปีก่อน ข้าพเจา้ ได้พูดถึงความจำเป็น ทจี่ ะต้องเร่งรีบพฒั นาบ้านเมอื ง และถึงความตอ้ งการ คนดมี ีความร้ดู ้านต่างๆ ที่จะมาเป็นผ้นู ำและเปน็ “... ขา้ พเจา้ ขอชมเชยในความอุตสาหะ กำลังในการน้นั ท่านทกุ คนไดส้ ำเรจ็ วิชาช้นั สงู แลว้ พยายามของทา่ น และขอแสดงความยนิ ดดี ้วย ทไี่ ด้รบั ความสำเร็จ ขอใหท้ กุ คนทจี่ ะออกไป นับวา่ เป็นผทู้ ่ชี าตบิ ้านเมืองต้องการ ประกอบการงาน มีหน้าทอี่ นั มีเกยี รตติ อ่ ไป ขอให้ตระหนกั ในข้อนแี้ ละจงต้ังใจ ตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ น้าท่ีใหด้ ที ่ีสดุ และจงยดึ อดุ มคติอนั สงู ทำงานในหนา้ ทีโ่ ดยเต็มความสามารถ ...” แหง่ วิชาชีพของท่าน เปน็ หลักในการทำงาน นบั เนอื่ งจากนนั้ มาเปน็ เวลาอกี หลายสบิ ปที พ่ี ระองค์ ท้ังพยายามขวนขวายศกึ ษาหาความรู้ ความชำนาญ มีพระมหากรณุ าธคิ ุณ เสด็จพระราชดำเนนิ มาพระราชทาน ปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังความปีติ ให้กว้างขวางทนั สมัยอยู่เสมอเปน็ นิตย์ ยินดีเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัย จะไดม้ ีความสำเร็จและความเจริญในชีวติ เชียงใหม่และผู้ปกครองบัณฑิตเป็นอย่างสูงย่ิง กระท่ังคร้ัง และหนา้ ทีก่ ารงาน และเปน็ ประโยชน์แกส่ ว่ นรวม ที่ ๓๓ วันพฤหสั บดที ี่ ๒๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๒ นับเป็นครั้งสดุ ท้าย ซึง่ ครัง้ ต่อมา ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้า ตลอดถงึ ประเทศชาตดิ ว้ ย ...” โปรดกระหมอ่ มให้สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรม ราชกุมารี ปฏิบตั พิ ระราชกรณยี กจิ นแี้ ทนพระองคส์ ืบมา ตอ่ มาในวนั องั คารท่ี ๗ มนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๐ ในชว่ งระยะการดำเนนิ งานของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินในพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครงั้ ที่ ๒ และถอื วา่ เปน็ ครงั้ แรกทมี่ พี ธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั ร
พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปิน่ สยาม ๑๒๙ ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการ ราโชวาทบางองคท์ พี่ ระราชทานไว้เม่อื ๓๐ ปกี ่อน มีเนื้อหา พัฒนาการ งานวิจัย หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ของหน่วยงาน ท่ีเก่ียวเน่ืองกับสภาวการณ์ในปัจจุบันได้อย่างสอดคล้อง ในสังกดั มหาวิทยาลัยเชียงใหมห่ ลายคร้งั ในขณะทผ่ี ูบ้ รหิ าร ตอ้ งกัน เชน่ เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียง ผเู้ ขียนจงึ ขอนำถ้อย คณาจารยจ์ ากภาคสว่ นตา่ งๆ กไ็ ดอ้ าสาสมคั รเขา้ ไปถวายงาน ความประวัตศิ าสตรเ์ หลา่ น้ันมาเรยี นให้ได้รับทราบ เพอื่ เปน็ ตามโครงการพระราชดำริ หรือโครงการส่วนพระองค์ อาทิ สิริมงคลแกผ่ ู้อา่ น และดว้ ยความภาคภูมิใจพรอ้ มไปกบั ชาว โครงการหลวง ซึ่งได้เข้าร่วมปฏิบัติตามเบ้ืองพระยุคลบาท มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ตงั้ แตร่ ะยะเรมิ่ แรกของการกอ่ ตง้ั และทกุ ครง้ั ทเ่ี สดจ็ พระราช วนั ที่ ๑๐ มกราคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๗ พระบาท ดำเนนิ จะมพี ระราชดำรสั หรอื พระบรมราโชวาท พระราชทาน สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ คณะเกษตรศาสตร์ ใหเ้ ป็นข้อคิด หลกั ปฏบิ ตั ิงานท่ีทรงคณุ ค่ายิง่ สมควรแกก่ าร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีพระบรมราโชวาทแก่คณาจารย์ จดจำ ยดึ ถอื ไวเ้ ปน็ แนวทางประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามเสมอ พระบรม ข้าราชการ และนักศึกษา ความว่า “... คราวนเี้ ป็นครงั้ แรกท่ีได้มาเยี่ยมคณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ... ทงั้ อาจารยแ์ ละนกั ศึกษาของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหมน่ ี้ ได้รว่ มมอื ใกลช้ ดิ กบั โครงการช่วยเหลือชาวเขา มาเปน็ เวลาหลายปแี ลว้ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยงิ่ เรอ่ื งทช่ี ่วยชาวเขา และโครงการชาวเขาน้ัน มีประโยชนโ์ ดยตรงกบั ชาวเขา ... จดุ ประสงคอ์ ย่างหน่งึ ก็คอื มนุษยธรรม อยากทจ่ี ะใหผ้ ู้ที่อยูใ่ นทท่ี รุ กันดารสามารถทจ่ี ะมคี วามร้แู ละพยงุ ตัวมคี วามเจรญิ ได ้ อกี อย่างหนงึ่ ก็เปน็ เร่ืองที่ช่วยในทางทท่ี ุกคนเห็นวา่ ควรจะชว่ ย เพราะเปน็ ปญั หาใหญ่ กค็ อื เร่อื งยาเสพติด ถ้าเราสามารถทจ่ี ะชว่ ยชาวเขาใหป้ ลูกพืชผลทเี่ ป็นประโยชนม์ าก เขาจะเลกิ ปลกู ยาเสพตดิ ปลูกฝน่ิ ... ถ้าพวกเราทุกคนไปชว่ ยเขากเ็ ท่ากบั ช่วยบ้านเมืองใหม้ ีความดี ความอยดู่ ีกินดี และปลอดภัยทง้ั ประเทศ ... พฒั นาทางการเกษตรและพฒั นาทางเศรษฐกจิ แบบอยูร่ ว่ มกันด้วยความสามคั คี เหมอื นทเ่ี ราเคยอย่มู าตลอด ในหมูบ่ ้านแตล่ ะหมบู่ า้ นท่ีไปเยี่ยม ส่วนมากเขาอยอู่ ยา่ งกนั เองสามารถท่ีจะพยุงตนเองได้ มผี ู้เปน็ หัวหน้า มผี ปู้ ฏบิ ัติงานอย่างแบง่ งานกันและสามัคคีกัน ถา้ จะเรยี กวา่ การเปน็ อยแู่ บบไทยนี้ กห็ มายความวา่ อย่แู บบประชาธปิ ไตยข้ันประเทศก็ตอ้ งมีรากฐานประชาธปิ ไตยโดยขัน้ หมู่บ้านน้ัน …”
๑๓๐ พระบารมีองค์ภูมนิ ทร์ ปิน่ สยาม ในโอกาสมหามงคลเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ ครบ และในปีมหามงคล พุทธศักราช ๒๕๔๙ ด้วยสำนึกใน ๕๐ ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๙ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ หนว่ ยงาน พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ในสังกัดและองค์กรท่ีเก่ียวข้องได้จัดโครงการและกิจกรรม สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงขอพระราชทานทูลเกล้าทูล เฉลมิ พระเกยี รตอิ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ดว้ ยสำนกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ กระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในสาขาวิชา พระเมตตาคณุ อนั หาประมาณมไิ ด้ ทพ่ี ระองคท์ า่ นพระราชทาน ตา่ งๆ ๑๔ สาขาวชิ า แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั เพ่อื ใหแ้ ก่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เช่น เปน็ การเฉลมิ พระเกียรติคุณ เผยแพร่พระอัจฉริยภาพ และ เฉลมิ ฉลองการเสดจ็ ขน้ึ เถลงิ ถวลั ยสริ ริ าชสมบตั ิ ครบ ๖๐ ปี คอื • โครงการศูนย์ธรรมชาตวิ ทิ ยาดอยสุเทพ ปริญญาแพทยศาสตรดษุ ฎบี ัณฑติ กิตตมิ ศักด ์ิ เฉลิมพระเกียรติ โดย มหาวิทยาลัยเชยี งใหม ่ ปริญญาพยาบาลศาสตรดุษฎบี ัณฑิตกิตตมิ ศกั ด์ิ ปริญญาวทิ ยาศาสตรดุษฎบี ัณฑติ กิตติมศกั ด ์ิ • โครงการจดั สรา้ งอาคารศนู ยก์ ารตลาดโครงการหลวง ปริญญาเภสชั ศาสตรดษุ ฎีบณั ฑิตกติ ติมศักด์ิ และศูนย์บริการวิชาการและเทคโนโลยีเกษตร ปรญิ ญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกติ ติมศักดิ์ โดย คณะเกษตรศาสตร์ ปรญิ ญาสตั วแพทยศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิตกติ ติมศกั ด์ ิ • โครงการกอ่ สรา้ งอาคารสงฆอ์ าพาธ “สจุ ติ โต” โดย ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกติ ติมศกั ดิ ์ คณะแพทยศาสตร์ ปริญญาศลิ ปดษุ ฎีบัณฑติ กิตติมศกั ด์ ิ • โครงการวิ่งเฉลมิ พระเกยี รติ ๕ จังหวัด (จงั หวัด ปริญญาศกึ ษาศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกติ ติมศกั ดิ ์ เชยี งใหม่ เชยี งราย พะเยา ลำปาง และลำพนู ) ปรญิ ญาสถาปตั ยกรรมศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด ิ์ โดยสมาคมนักศึกษาเกา่ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาบริหารธรุ กิจดุษฎบี ัณฑิตกิตตมิ ศกั ดิ ์ โอกาสมหามงคลยง่ิ ของปวงชนชาวไทยอกี วาระหนง่ึ ปรญิ ญาบัญชีดุษฎีบัณฑิตกติ ติมศักด์ิ คอื ทรงครองสริ ิราชสมบัตคิ รบ ๖๐ ปี พุทธศกั ราช ๒๕๔๙ ปริญญานติ ศิ าสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กิตตมิ ศักดิ ์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมไ่ ดจ้ ดั โครงการเฉลมิ พระเกยี รตทิ งั้ ดา้ น ปรญิ ญารฐั ประศาสนศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด ์ิ วชิ าการ และด้านสังคมตลอดทั้งปี เชน่ นบั เปน็ สริ มิ งคลและเกยี รตอิ นั สงู สดุ แกม่ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหมอ่ ย่างหาทสี่ ุดมิได้ • โครงการอุปสมบทพระภิกษุ สามเณร จำนวน พุทธศักราช ๒๕๕๐ นับเป็นปีมหามงคลท่ียิ่งใหญ่ ๖๒ รูป ถวายเปน็ พระราชกศุ ล อีกเช่นกัน คือ เป็นปีเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดกิจกรรมถวายความจงรักภักดี • โครงการจดั งานวนั วชิ าการมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ถวายเป็นพระราชกศุ ลและเฉลมิ พระเกียรติองคพ์ ระประมุข ครง้ั ท่ี ๒ “วิถวี จิ ัย ตามรอยพระยคุ ลบาท” แห่งปวงพสกนกิ รชาวไทยหลายโครงการ เช่น • การจดั นทิ รรศการเฉลมิ พระเกยี รตเิ นอ่ื งในวโรกาส • โครงการอุปสมบทพระภิกษุ-สามเณร จำนวน ทรงครองสิรริ าชสมบัตคิ รบ ๖๐ ป ี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงประกอบพระราช ๘๑ รูป กรณียกิจอเนกนานัปการ บังเกิดผลดีต่อชีวิตความเป็นอยู่ ของเหล่าพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจ • โครงการผ่าตัดแก้ไขความพิการให้แก่นักเรียน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาต่างๆ จนได้รับการทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาว่า “กษัตริย์นักพัฒนา” โรงเรียนศรีสังวาลย์ อำเภอสันทราย จังหวัด กอปรกับทรงเป็นเอตทัคคะในทุกสาขาวิชาการ สถาบัน เชียงใหม่ จำนวน ๓๔ คน การศึกษาและมหาวิทยาลัยต่างๆ ท้ังในและต่างประเทศ จึงได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายปริญญาบัตรกิตติมศักด์ิ • โครงการจัดสร้างหอเฉลิมพระเกียรติพระบาท แด่พระองค์ท่านแทบจะทุกสาขาวิชาที่มีประสาทกันในโลก ดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ณุ เปน็ ลน้ พน้ แกม่ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงรบั การทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ ม ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิอันเป็นปริญญาสูงสุด • โครงการจัดพิมพ์หนังสือเฉลิมพระเกียรติ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๑๒ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว • การจัดงานวันวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครั้งที่ ๓ “วถิ วี ิจัย : สสู่ งั คมรม่ รืน่ และเปน็ สุข”
พระบารมีองคภ์ มู นิ ทร์ ปน่ิ สยาม ๑๓๑ • การจดั นทิ รรศการเฉลมิ พระเกยี รตเิ นอ่ื งในวโรกาส แนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสามารถพฒั นาตนเอง ได้อย่างย่งั ยนื ตลอดไป เฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา จากเหตกุ ารณ์ สถานการณ์ และการดำเนนิ งานของ นับแต่ต้ังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาเป็นระยะเวลา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แห่งน้ี ล้วนยึดแนวทางตามพระปฐม ๔๓ ปี เราชาวมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมไ่ ดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ พระบรมราโชวาท พระราชดำริ และพระราชดำรสั ทพี่ ระราชทาน ล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาท่ีสุดมิได้ ยังผลให้การพัฒนา ใหม้ าโดยตลอด ทำใหม้ หาวทิ ยาลยั สามารถฟนั ฝา่ ปญั หาอปุ สรรค มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดย้ัง ในแต่ละปี ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งดี ยงั ใหเ้ กดิ มรรคผลตอ่ การพฒั นามหาวทิ ยาลยั ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยสามารถผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ ใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ มาตลอดระยะเวลา ๔๓ ปี ดว้ ยมี “พระบารมี อันเป็นการสนองพระปฐมบรมราโชวาท โดยเน้นให้บัณฑิต คมุ้ เกลา้ ชาวมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม”่ เปน็ เชน่ บทเพลงประจำ เป็นคนดี มีความรู้ พัฒนาบุคลิกภาพและอุปนิสัยท่ีดี มหาวิทยาลยั ที่ประพนั ธไ์ ว้ บัณฑิตได้แสดงส่ิงท่ีได้รับการพัฒนา สามารถครองตน ครองคน และครองงานได้ สามารถพัฒนาเป็นผูป้ ฏิบัตงิ าน ในหน้าท่ีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นในภาครัฐ เอกชน “... บารมจี ักรีราชันย์ คุ้มสถาบันเชยี งใหมถ่ ่นิ ขวญั หรือองคก์ รใดๆ มตี ำแหนง่ หนา้ ทีท่ ี่สูง มเี กยี รตอิ ันสงา่ งาม ให้สุขสนั ต์เปรมปรีด์ นักศกึ ษาเราทั่วทกุ คนขอปฏญิ าณ ในสงั คมไทยและนานาประเทศไดเ้ ปน็ อยา่ งดี รวมถงึ ผลงาน ทางวิชาการด้านการวิจัยและพัฒนา สามารถพัฒนาการ ตงั้ ปณธิ านจติ น้อมนำทำในสง่ิ ดี กา้ วหนา้ อยา่ งไมห่ ยดุ ยงั้ ดว้ ยความรว่ มมอื รว่ มใจของบรรดา ศาสน์ กษตั ริย์ ชาติคอื ชวี ี คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา อีกท้ังยังได้มีโอกาส ถวายตนเองในการสนองงานในพระองค์ และงานตามแนว รักปฐพีของไทยแห่งน้ี ด้วยชีวิตของเรา ...” พระราชดำรใิ นเขตภาคเหนอื เม่ือมีพระราชดำริพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจ ในนามชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกหมู่เหล่าล้วน พอเพียงแก่พสกนิกรชาวไทยในการดำรงชีวิตและดำรง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม สังคมไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รับกระแสพระราชดำริ หาที่สุดมิได้ จงึ ขอกราบแทบเบ้ืองพระยคุ ลบาท ในโอกาส ดังกล่าวมาเพื่อพัฒนาความรู้เก่ียวกับปรัชญาเศรษฐกิจ อันเป็นมหามงคลนี้ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส พอเพียง หลกั การ หลกั คิด และหลักปฏิบัติ โดยจัดทำเป็น นอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหมอ่ มถวายพระพรชยั มงคล ขออำนาจแหง่ กระบวนวิชาในการถ่ายทอดแก่นักศึกษา และได้จัดตั้ง คณุ พระศรรี ตั นตรยั พระบรมธาตดุ อยสเุ ทพและสง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ สถาบันเพื่อการวิจัยและส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือ ทง้ั หลายในสากลโลก ไดโ้ ปรดบนั ดาลใหใ้ ตฝ้ า่ ละอองธลุ พี ระบาท ดำเนินงานในการศึกษา วิจัย และนำความรู้ ความคิด ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพาธและภยนั ตรายทง้ั ปวง มาพัฒนาท้ังคณาจารย์ นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจ มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน เป็นร่มเกล้ามิ่งขวัญแห่งปวง ให้สามารถดำรงตนในชวี ิตครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ ขา้ พระพทุ ธเจ้าและเหลา่ พสกนกิ รชาวไทยตลอดกาลนาน ดว้ ยความสนั ตสิ ขุ ตอ่ ไป มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมย่ งั ไดน้ อ้ มนำ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาถ่ายทอดและประยุกต์ ใช้ในการบริหารงานของมหาวิทยาลัย โดยคณะผู้บริหาร ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานทุกระดับให้สามารถ ข้าพระพทุ ธเจ้า ศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ศกั ดิ์ อังกสทิ ธิ ์ ปฏิบัติงานได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ มีเป้าหมาย บรรลุ ประสิทธิผลตามเป้าหมายท่ีกำหนดไว้ มีชีวิตที่ดี และ อธกิ ารบดมี หาวิทยาลยั เชียงใหม ่ มีความสุข สามารถพัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่การเป็น มหาวทิ ยาลยั ชน้ั นำตามมาตรฐานสากล ทม่ี งุ่ เนน้ การวจิ ยั มีการผลิตบัณฑิตที่มีคุณธรรมและคุณภาพ มีการทำนุ บำรงุ ศาสนาศลิ ปวฒั นธรรม มกี ารบรหิ ารจดั การทด่ี ตี าม
๑๓๒ พระบารมีองคภ์ ูมินทร์ ปิน่ สยาม บันทกึ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ วนั อาทติ ยท์ ่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๘ จากนนั้ เสดจ็ พระราชดำเนนิ เยย่ี มชม วนั พธุ ท่ี ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๐๙ หอ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ซง่ึ ขณะนน้ั เปดิ ใหบ้ รกิ าร ณ ตกึ เคมี คณะวทิ ยาศาสตร์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ อบุ ลรตั นราชกญั ญาฯ พระราชทานเลย้ี งอาหารคำ่ และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ แกอ่ าจารย์ ขา้ ราชการ และนกั ศกึ ษา เจา้ ฟา้ วชริ าลงกรณฯ ทรงประกอบพธิ ี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ บรเิ วณเนนิ ผาหมอน เปดิ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมเ่ ปน็ ทางการ พระตำหนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน ์ เสดจ็ พระราชดำเนนิ เยย่ี มชมวทิ ยาลยั ที่ ๑ (อาคารสำนกั บรกิ ารวชิ าการในปจั จบุ นั ) ซง่ึ ขณะนนั้ เปน็ อาคารหอพกั และเปน็ สถานทที่ ำกจิ กรรมของนกั ศกึ ษา เสดจ็ พระราชดำเนนิ เยยี่ มชมกจิ การ ในสว่ นการเรยี นการสอนของ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ณ ตกึ เคมี คณะวทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ เปน็ อาคารเรยี น หลงั แรกของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๕๐๘ – พ.ศ. ๒๕๑๕
พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ปน่ิ สยาม ๑๓๓ วนั พธุ ที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ประกาศนยี บตั ร และอนปุ รญิ ญาบตั ร แกน่ กั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั แพทยศาสตร ์ และมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ครง้ั ท่ี ๑ ณ หอประชมุ ราชแพทยาลยั มหาวทิ ยาลยั แพทยศาสตร์ กรงุ เทพมหานคร วนั องั คารท่ี ๗ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ในวโรกาสน้ี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ไดท้ ลู เกลา้ ในวโรกาสน้ี คณาจารยไ์ ดเ้ ชญิ ปรญิ ญา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ ทลู กระหมอ่ มถวายปรญิ ญาศลิ ปศาสตร วทิ ยาศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ์ สาขารฐั ศาสตร์ สาขาจติ วทิ ยา และหมวกปรญิ ญา เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทาน แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายแด ่ ปรญิ ญาบตั ร ครง้ั ท่ี ๒ ณ พลบั พลา บรเิ วณ ซงึ่ เปน็ การทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวาย สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ปรญิ ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดค์ิ รง้ั แรก ของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ วนั พฤหสั บดที ่ี ๑๔ มกราคม วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๒ วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๙ มกราคม พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ พ.ศ. ๒๕๑๓ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทาน ปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ท่ี ๕ ณ พลบั พลา บรเิ วณมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ วนั องั คารท่ี ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ย สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ วชริ าลงกรณ สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ นิ ธร- พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เทพรตั นสดุ าฯ และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทาน พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี ปรญิ ญาบตั ร ครง้ั ที่ ๓ ณ พลบั พลา สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทาน บรเิ วณมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เสดจ็ พระราชดำเนนิ ทรงประกอบพธิ เี ปดิ ตกึ เลยี้ งอาหารคำ่ แกอ่ าจารย์ ขา้ ราชการ คณะแพทยศาสตรแ์ ละอาคารเจา้ ราชบตุ ร และนกั ศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ณ พระตำหนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน ์ และพระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ที่ ๔ ณ พลบั พลา บรเิ วณมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่
๑๓๔ พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ป่ินสยาม วนั ศกุ รท์ ี่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ วนั องั คารที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ วนั พธุ ที่ ๗ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๑๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทาน ปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ท่ี ๖ และครง้ั ท่ี ๗ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ วนั พฤหสั บดที ่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั วนั พฤหสั บดที ่ี ๑๐ มกราคม เสดจ็ พระราชดำเนนิ ในพระราชพธิ เี ททอง พ.ศ. ๒๕๑๗ หลอ่ พระรปู สมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร- อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ - พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ นิ ธรเทพรตั นสดุ าฯ และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณ- วลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี พระราชทาน ปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ที่ ๘ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ย สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ นิ ธร- เทพรตั นสดุ าฯ ทรงเยย่ี มชมกจิ การของ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ พ.ศ. ๒๕๑๕ – พ.ศ. ๒๕๒๑
พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปิน่ สยาม ๑๓๕ วนั พฤหสั บดที ่ี ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ย สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ นิ ธร- เทพรตั นสดุ าฯ และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ าร ี ในงานอทุ ยานสโมสรและฉลองบณั ฑติ ตามคำกราบบงั คมทลู เชญิ ของคณะกรรมการ บณั ฑติ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ รนุ่ ที่ ๗ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ วนั เสารท์ ี่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ วนั เสารท์ ่ี ๗ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ วนั ศกุ รท์ ่ี ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทาน พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทาน ปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ท่ี ๑๐ แกผ่ สู้ ำเรจ็ ครง้ั ที่ ๑๑ และครง้ั ที่ ๑๒ ณ ศาลาอา่ งแกว้ ปรญิ ญาบตั ร ครง้ั ท่ี ๙ ณ ศาลาอา่ งแกว้ การศกึ ษาในสาขาวชิ าตา่ งๆ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ วนั องั คารท่ี ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๑ วนั ศกุ รท์ ี่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ วนั เสารท์ ่ี ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ เปน็ การสว่ นพระองค์ เสดจ็ พระราชดำเนนิ ทอดพระเนตร เพอื่ ทอดพระเนตรกจิ การโรงงานหลวง กจิ การโรงงานหลวงอาหารสำเรจ็ รปู อาหารสำเรจ็ รปู มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เปน็ การสว่ นพระองค ์ ณ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ณ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ โรงงานหลวงอาหารสำเรจ็ รปู แหง่ น้ี ดำเนนิ งานโดยคณาจารยอ์ าสาสมคั ร จากภาควชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ี การอาหาร (ขณะนน้ั สงั กดั คณะเกษตรศาสตร)์ รว่ มกบั สถาบนั คน้ ควา้ และพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ อาหารสำเรจ็ รปู มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร ์
๑๓๖ พระบารมีองค์ภูมินทร์ ปนิ่ สยาม วนั พธุ ท่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๒ วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๗ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๒๖ วนั ศกุ รท์ ่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๙ วนั อาทติ ยท์ ี่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๓ วนั องั คารที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๗ วนั เสารท์ ี่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๐ วนั เสารท์ ี่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๔ วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๘ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั วนั พฤหสั บดที ่ี ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๕ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ - พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ที่ ๒๐ ครง้ั ท่ี ๑๓ ถงึ ครง้ั ท่ี ๑๖ ณ ศาลาอา่ งแกว้ และครงั้ ที่ ๒๑ แกผ่ สู้ ำเรจ็ การศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ในสาขาวชิ าตา่ งๆ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๐ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ วนั เสารท์ ่ี ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครง้ั ที่ ๒๒ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เชยี งใหม่ ในวโรกาสนม้ี หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายปรญิ ญา ใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ วศิ วกรรมศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด ิ์ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดำเนนิ แทนพระองคใ์ นพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั ร วนั องั คารที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ครงั้ ที่ ๑๗ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ถงึ ครงั้ ท่ี ๑๙ ณ ศาลาอา่ งแกว้ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ครงั้ ท่ี ๒๓ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ในวโรกาสนมี้ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ วนั องั คารที่ ๕ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายปรญิ ญา วทิ ยาศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ สาขาเกษตรศาสตร ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ - พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณ- พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั วลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี ทรงเปดิ เสดจ็ พระราชดำเนนิ เปน็ การสว่ นพระองค์ อาคารสจุ ณิ โฺ ณ ณ คณะแพทยศาสตร์ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ สยามบรมราชกมุ ารี เพอ่ื ทอดพระเนตร กจิ การโรงงานหลวงอาหารสำเรจ็ รปู ณ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ พ.ศ. ๒๕๒๒ – พ.ศ. ๒๕๓๙
พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปน่ิ สยาม ๑๓๗ วนั พธุ ที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓ วนั ศกุ รท์ ี่ ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ วนั พธุ ท่ี ๑๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๓๕ วนั พฤหสั บดที ่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๔ วนั พฤหสั บดที ี่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๖ วนั ศกุ รท์ ่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ เปน็ การสว่ นพระองค์ เพอื่ รบั การรกั ษาพระทนต์ ณ คณะทนั ตแพทยศาสตร ์ วนั พฤหสั บดที ่ี ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๖ วนั จนั ทรท์ ี่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗ วนั องั คารท่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๘ วนั พธุ ท่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๙ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ เปน็ การสว่ นพระองค์ เพอื่ รบั การรกั ษาพระทนต์ ณ คณะทนั ตแพทยศาสตร์ การเสดจ็ ครง้ั น้ี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทาน พระบรมราชวโรกาสใหค้ ณะกรรมการ องคก์ รผบู้ รหิ าร คณะทนั ตแพทยศาสตร ์ แหง่ ประเทศไทยเขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท และขอพระราชทานทนุ “มลู นธิ อิ านนั ทมหดิ ล” แผนกทนั ตแพทยศาสตร์ และโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทานทนุ ตงั้ แต ่ พ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๕ จนถงึ ปจั จบุ นั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ที่ ๒๔ ถงึ ครง้ั ที่ ๒๖ ณ ศาลาอา่ งแกว้ ครงั้ ที่ ๒๗ ถงึ ครง้ั ที่ ๓๐ ณ ศาลาอา่ งแกว้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
๑๓๘ พระบารมีองค์ภมู ินทร์ ปนิ่ สยาม วนั ศกุ รท์ ี่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ และจดั พมิ พห์ นงั สอื ทรี่ ะลกึ เฉลมิ พระเกยี รติ “พระภบู าลปานตะวนั อนั โอภาส พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั กบั มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม”่ นำขนึ้ นอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหมอ่ ม และทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ ม ถวายแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในวโรกาสเสดจ็ พระราชดำเนนิ ทรงเปดิ อาคารหอประชมุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ รองอธกิ ารบดฝี า่ ยวชิ าการทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายซดี รี อมเรอื่ ง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั “ธรรมชาตวิ ทิ ยาดอยสเุ ทพ” ซงึ่ จดั ทำ เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ โดยศนู ยธ์ รรมชาตวิ ทิ ยาดอยสเุ ทพ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เฉลมิ พระเกยี รติ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ทรงเปดิ อาคารหอประชมุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ซง่ึ อาคารแหง่ นี้ จดั สรา้ งขน้ึ เพอ่ื เปน็ อาคารเฉลมิ พระเกยี รต ิ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในวโรกาส ทรงครองสริ ริ าชสมบตั ิ ครบ ๕๐ ป ี ในการนท้ี รงลงพระปรมาภไิ ธยและ พระนามาภไิ ธยในแผน่ ศลิ า คณบดคี ณะวทิ ยาศาสตร์ นอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหมอ่ ม ถวายพระบรมฉายาลกั ษณเ์ ซรามกิ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครง้ั ท่ี ๓๑ แกผ่ สู้ ำเรจ็ การศกึ ษาในสาขาวชิ าตา่ งๆ ในวโรกาสมหามงคลแหง่ ปกี าญจนาภเิ ษก ณ หอประชมุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงครองราชย์ ในวโรกาสนี้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ครบ ๕๐ ปี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายปรญิ ญา ไดจ้ ดั สรา้ งพระพทุ ธพงิ คนราภมิ งคล วศิ วกรรมศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ (จำลอง) ซงึ่ เปน็ พระพทุ ธรปู ประจำ นายกสมาคมนกั ศกึ ษาเกา่ มหาวทิ ยาลยั สาขาวศิ วกรรมสงิ่ แวดลอ้ ม มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เชยี งใหม่ (ดร.พงษศ์ กั ดิ์ องั กสทิ ธ)์ิ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายเงนิ รายได ้ จากการวง่ิ เฉลมิ พระเกยี รตโิ ดยเสดจ็ พระราชกศุ ลตามพระราชอธั ยาศยั พ.ศ. ๒๕๔๐ – พ.ศ. ๒๕๔๙
พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ปิน่ สยาม ๑๓๙ วนั เสารท์ ่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๑ วนั จนั ทรท์ ี่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ตงั้ แตพ่ ุทธศักราช ๒๕๔๓ เปน็ ตน้ มา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรม เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ ราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดำเนนิ แทนพระองค์ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในการพระราชทานปรญิ ญาบัตร ครัง้ ท่ี ๓๔ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครงั้ ท่ี ๓๒ ถงึ ปัจจุบนั แก่ผสู้ ำเร็จการศึกษา แกผ่ สู้ ำเรจ็ การศกึ ษาในสาขาวชิ าตา่ งๆ ในสาขาวชิ าต่างๆ ณ หอประชุม ณ หอประชมุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ดงั น ี้ วันพฤหัสบดที ่ี ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔ วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. วนั ศุกร์ที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒๕๔๒ วนั พธุ ท่ี ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ วันศกุ รท์ ี่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๙ วนั เสารท์ ี่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมท่ ลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ ม โดยการเสด็จพระราชดำเนินในการ ถวายปรญิ ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ์ พระราชทานปรญิ ญาบตั ร คร้งั ท่ี ๓๔ นัน้ ในสาขาวชิ าตา่ งๆ ของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ไดก้ ราบบังคมทูล จำนวน ๑๔ สาขา แดพ่ ระบาทสมเดจ็ ประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ พระเจา้ อยหู่ วั เพอื่ เปน็ การถวายราชสดดุ ี พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ในโอกาสที ่ เฉลมิ พระเกยี รตคิ ณุ ในพระอจั ฉรยิ ภาพและ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมท่ ูลเกล้า พระปรชี าสามารถ ในวโรกาสฉลองสริ ริ าช ทูลกระหมอ่ มถวายปรญิ ญาเศรษฐศาสตร สมบตั คิ รบ ๖๐ ปี เพอ่ื ความเปน็ สริ สิ วสั ด์ิ ดุษฎบี ัณฑติ กิตตมิ ศกั ด ์ิ พพิ ฒั นมงคลแกม่ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหมส่ บื ไป พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานปรญิ ญาบตั ร ครง้ั ที่ ๓๓ แกผ่ สู้ ำเรจ็ การศกึ ษาในสาขาวชิ าตา่ งๆ ณ หอประชมุ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ในวโรกาสนี้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายปรญิ ญา ทนั ตแพทยศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด ิ์
๑๔๐ พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่ินสยาม เยน็ ศริ ะเพราะพระบรบิ าล ๑. ภมู พิ ลมหาราช ๑. พอด ี สามสายเสยี งพณิ ส่อง ซ่งึ ครรลองเลิศวิถ ี สายกลางก่งึ พอดี ไม่เครง่ ตงึ -ขงึ หย่อนยาน ๒. ซือ่ ตรง ถือสตั ยส์ จุ ริต ทางชวี ติ ย่อมสุขศานต ์ ไม่โกงประกอบการ ก่อเกดิ เกยี รตกิ ้าวหน้าไกล ๓. ละโลภ ย่งิ โลภยิ่งหลงทาง เมืองอับปางล่มประลยั ไรโ้ ลภคอื อาศยั คอ่ ยสง่ั สมอุดมธรรม ๔. ไม่เบยี ดเบยี น นบผองสรรพสง่ิ ไปเ่ ป็นปลงิ สบู เลือดปล้ำ ซง่ึ กันและกนั ทำ ประโยชนแ์ ทท้ กุ ท่าน-เรา ๒. เข็มทศิ ชวี ติ ๕. วนิ ัย สำคัญคือวินยั ต้องอาศยั สู้อดทน พากเพยี รมเี หตุผล เพอ่ื ชวี นั อันดงี าม ๖. ไมโ่ ลภ ไมโ่ ลภไมห่ ลงใหล ไม่บอดใบ้ไม่ตะกลาม ไมบ่ ้าปัญญาทราม ไม่คดคิดไม่ปิดบัง ๗. เรียบง่าย ดำเนนิ เผชิญโลก จิตมิโยกยอ่ มมีหวงั เรยี บงา่ ยทรงพลัง กลางวงั คมคนมงั่ มี ๘. เท่าทนั โลกหมนุ ไม่เหมอื นเดมิ โลกหมุนไม่เหมือนเดมิ ใครเห่อเหมิ โลภเหลือท ี่ ไม่เห่อเหิมตามเศรษฐี อยกู่ นิ เกินพอดี พอเพยี งคอื พอด ี ย่อมหลงทางอยา่ งแนน่ อน ชาตนิ ไี้ ซร้ไมห่ ลงทาง ดว้ ยเกลา้ ดว้ ยกระหมอ่ ม ขอเดชะ ขา้ พระพทุ ธเจ้า นายไพฑรู ย์ ดอกบัวแกว้ ประพนั ธ์
เฉลมิ พรารชะสเกดยี ดุ ร ีตคิ ณุ
๑๔๔ พระบารมีองคภ์ มู นิ ทร์ ปิน่ สยาม ราชสดดุ เี ฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช ฉันทลกั ษณค์ ร่าวล้านนา ดร.มณี พยอมยงค*์ ยอประนม บงั คมบาทไท ้ ประณตน้อมไหว้ ด้วยศริ ษา กราบบังคมไท ้ วรนาถา มหาราชา ภูมพิ ลเจา้ เ ป ็น พ ร ะจอมใจ หญิงชายหนมุ่ เถ้า(เฒ่า) พงศเ์ ผา่ ชาวไทยพีน่ อ้ ง แปดสบิ พรรษา เวยี นมาสอดคลอ้ ง พระชนม์เก่ียวขอ้ งจอมธรรม ไทยทกุ เหลา่ ล้วน ทว่ั ถว้ นหนาหนำ มีมโนรัมย์ ชนื่ ช้อยคอยเฝา้ เ ฉ ล มิ พ ระชนม์- มายผุ า่ นเผา้ หื้อมโหฬารครนั่ คร้ืน มหรสพ เนืองนันทว่ั พน้ื สนกุ เตน้ ตื่นเมอื งไทย เหตุองค์ราชะ ทรงอชั ฌาศัย มดี วงพระทยั เมตตาแผก่ ว้าง พ ร ห ม วหิ าร รฐั ศาสตร์สร้าง เปน็ แนวทางสร่างทกุ ข์ นติ ศิ าสตร์แถม องคพ์ ระประมุข นำมาก่อตง้ั เปน็ แนว ปกครองไพรน่ ้อย ทุกถอ้ ยตามแถว นโยบายแนว กฎหมายถูกต้อง ป ร ะ ช า ชน ท่ัวหนแหง่ ห้อง รบั ยตุ ิธรรมพร่ำพร้อม วิทยาศาสตร์ และมนุษย์นอ้ ม ถวายทา่ นเจ้าตามมา ศลิ ปศาสตร ์ แถมหลายสาขา ยสี่ บิ วชิ า รวมมาแตง่ ตัง้ ก ิต ต ิม ศักดิ ์ ปรญิ ญาเอกจ้งั ถวายทรงธรรมเ์ รยี บรอ้ ย แปดสิบพรรษา เข้ามาชิดช้อย ชนมายสุ ร้อยภูธร มช. ข้านอ้ ย ขอชลุ กี ร ถวายพระพร บวรแก่เจ้า ต ิร ัต น า สามดวงผา่ นเผ้า ปกหม่ บังเงาบพิตร ขอสิ่งศักดิส์ ิทธิ ์ จตรุ ทศิ มเหศักด์เิ จา้ เทวา อดตี ราชะ พระกษตั รา ขออัญเชิญมา รกั ษาอยใู่ กล ้ ห ้อื เ จ า้ เหนือหวั องค์คำท่ไี หว้ เหอื ดหายโพยภยั สง่ิ ร้าย สรรพโรคา เขด็ คลายเคลือ่ นยา้ ย อย่าได้เกดิ ใกล้ทรงธรรม อายทุ ฆี ะ ยนื ยาวฉนำ นบั ปีเดอื นยำ รอ้ ยซาวขวบเขา้ ว ร ร ณ ฉ วี ผิวพรรณผา่ นเผ้า หื้อสมงามเงาเลิศแลว้ ทรงพระเกษม ปรดี ิ์เปรมอย่าแคล้ว สุขเท่ยี งหม้นั (มั่น) คนื วัน มีพระพละ มากมายมหนั ต์ ปราบภยนั - ตรายใหญ่หน้อย เส ว ย ไ อศูรย์ ไพบูลยย์ อดสร้อย กับราชนิ นี าถไท ้ องค์สริ กิ ติ ิ์ เจา้ ดวงดอกไม้ สถติ อยหู่ มัน้ ทีฆา ราชโอรส ธดิ านดั ตา วงศาคณา หวงแหนอยู่เฝา้ พ ร ะ ป ารมี ภูมีผ่านเผ้า เอาเป็นโพธไิ์ ทรแมกไม้ ปกหม่ ประชา ชาวไทยน้ีไว ้ สุขช่นื หน้าถาวร ชุลีกร มอื ซอนใสเ่ กล้า บรมบาทเจ้า ทรงพระเจริญ โสตถ์เิ ทอญ * ศาสตราจารยเ์ กียรตคิ ุณ ศิลปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศลิ ป์
พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๑๔๕ พระปฐมบรมราชโองการทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช มพี ระราชดำรสั ทา่ มกลาง พระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี คณะทูต ที่ได้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เม่ือพุทธศักราช ๒๔๙๓ ค ว า ม ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระราชดำรัสนหี้ นักแนน่ ประดุจดงั ขนุ เขา โดยเฉพาะหนักแน่นอยู่ในหวั ใจของพสกนิกร ใหม้ คี วามมน่ั ใจ ในการดำรงชีวิต มีความราบรื่นและผาสุกโดยถ้วนหน้า ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชต้ังแต่น้ันเป็นต้นมา ในการประกอบพระราชภารกิจ ทรงใช้พระสติปัญญา อันชาญฉลาด และพระอัจฉริยภาพอันเป็นเลิศทั้งทางรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในการบริหารบ้านเมือง ประกอบ กับมีพระราชอัธยาศัยท่ีทรงยึดมั่นทศพิธราชธรรม อันเป็นคำสอนทางพระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางประกอบ พ ร ะ ร าชกรณยี กจิ มาโดยตลอด พระราชกรณียกิจในการบริหารบ้านเมือง พระองค์ทรงใช้พระราชอำนาจนิติบัญญัติผ่านรัฐสภา อำนาจ บริหารในระบอบประชาธิปไตยผ่านรัฐบาล และอำนาจนิติบัญญัติผ่านศาล ในขณะเดียวกัน ทรงอยู่ในฐานะ พ ร ะ ป ระมุข และทรงใช้พระราชอำนาจตามราชประเพณี และทรงเป็นศูนย์ท่ีรวมใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พระราชกรณียกจิ ทท่ี รงปฏบิ ตั ิในการปกครองบา้ นเมืองนั้น ไดแ้ ผ่ไพศาลปกคลุมแก่พสกนกิ รทกุ หม่เู หล่า ตามความแตกตา่ งกันทางภมู ิประเทศ สงั คม และวฒั นธรรม ตลอดจนอาชีพตา่ งๆ โดยใช้พระวิจารณญาณแนะนำ แกพ่ สกนิกร และผทู้ ี่ตามเสดจ็ พระราชดำเนิน จึงเป็นท่ีมาของโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำรมิ ากมายหลาย สาขา หลายประเภท มีชื่อเรยี กดังต่อไปน้ี ๑. โครงการตามพระราชประสงค์ ๒. โครงการหลวง ๓. โครงการในพระบรมราชานเุ คราะห ์ ๔. โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนของพระองค์ และมีพระราช ประสงค์ที่จะทรงทราบว่า พระราชภารกจิ ท่ที รงกระทำน้ัน มีผลให้ประชาชนมคี วามสุขและทกุ ขป์ ระการใด จึงได้ เสด็จประพาสหัวเมืองต่างๆ แม้กระทั่งได้เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรมตามภาคต่างๆ เช่น ภาคเหนือ มีพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จงั หวัดสกลนคร ภาคใต้มีพระตำหนักทกั ษิณราชนเิ วศน์ จงั หวัดนราธิวาส เป็นทน่ี ่าสังเกตว่า ทกุ แห่งหนทเี่ สด็จ พระราชดำเนนิ ประชาชนเป็นจำนวนมากได้เข้าเฝ้ารับเสดจ็ อย่างใกลช้ ดิ การมพี ระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่าง ไ ม ่ถ อื พระองค์ ทำใหท้ รงทราบปัญหาและความตอ้ งการของประชาชนได้เปน็ อย่างด ี เพ่ือเป็นการประกาศเกียรติศักด์ิ และเกียรติคุณของประเทศ พระองค์ได้เสด็จประพาสประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป อเมริกา และในทวีปเอเชีย หลายประเทศ ใช้เวลาในการเสด็จประพาสหลายเดือน เพ่ือเชื่อม สมั พนั ธไมตรี เป็นแนวทางทรี่ ัฐบาลไทยไดป้ ระสานสัมพนั ธท์ างการทตู การคา้ ขายกบั ตา่ งประเทศใหเ้ จริญสืบมา จ น บ ดั นี้ จากการทพ่ี ระองคไ์ ดท้ รงศกึ ษาภมู ปิ ระเทศและวถิ ชี วี ติ ของประชาชนเปน็ อยา่ งดนี นั้ พระองคไ์ ดท้ รงทดลอง หลายครง้ั จนมนั่ พระราชหฤทยั จงึ ไดพ้ ระราชทานแนวพระราชดำริ ทสี่ ำคญั ยงิ่ ยวดอนั เกดิ จากพระปญั ญาอนั ชาญฉลาด คอื ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื ให้ประชาชนดำเนนิ ชวี ติ แบบทางสายกลาง คือ พออยพู่ อกนิ ตามอตั ภาพและ ความสามารถของตน พระราชดำริน้ี ได้กลายเป็นแนวทางชีวิตที่พสกนิกรท่ัวประเทศถือปฏิบัติตามแบบอย่าง ผา่ นโครงการพฒั นาตามพระราชดำรทิ ส่ี ำคญั นบั พนั โครงการ ทท่ี รงมงุ่ พฒั นา และบำบดั ทกุ ขบ์ ำรงุ สขุ ใหแ้ กพ่ สกนกิ ร ทัว่ ประเทศ
๑๔๖ พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ป่นิ สยาม โครงการหลวงเปน็ โครงการทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามแนวพระราชดำรขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทว่ี า่ “ใหช้ ว่ ยเขา ชว่ ยเรา ชว่ ยตวั เอง” โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ พฒั นาอาชพี และความเปน็ อยขู่ องประชาชนชาวไทยภเู ขา ทรงสง่ เสรมิ ให้มีการปลูกพืชเมืองหนาวเพ่ือทดแทนฝ่ิน ทรงพัฒนาแหล่งน้ำชลประทาน เช่น การทำฝายเพื่อชะลอการไหล ของน้ำหรือที่เรียกว่าฝายแม้วบริเวณพื้นท่ีต้นน้ำ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝก และพืชเพ่ือการ อนุรักษ์ดินและน้ำ สิ่งเหล่าน้ีได้ช่วยให้สามารถมีน้ำต้นทุนสำหรับฤดูแล้ง นอกจากนี้ ยังทรงหาวิธีให้ประชาชน หยุดการทำลายป่า หยุดการปลูกฝิ่น โดยการหันมาปลูกพืชเกษตรที่มีมูลค่าสูงแทน ท้ังนี้ พระองค์ทรงเร่ิมต้น จากโครงการหลวงดอยอ่างขางเปน็ แหง่ แรก จนถึงในปจั จุบันมอี ยู่ทงั้ สนิ้ ๓๖ โครงการ กระจายอยใู่ น ๕ จงั หวัด ของภาคเหนอื ไดแ้ ก่ เชียงใหม่ เชียงราย แมฮ่ ่องสอน พะเยา และลำพนู โครงการหลวงท่มี พี ัฒนาการทโี่ ดดเด่น และเป็นท่ีศึกษาดูงานของประชาชนท้ังไทยและต่างประเทศ คือ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง (ดอยอ่างขาง) โครงการหลวงอินทนนท์ จงั หวัดเชียงใหม่ โครงการหลวงแม่ปนู หลวง จงั หวัดเชียงราย โครงการหลวงแม่สะเรียง และโครงการหลวงแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โครงการหลวงปังค่า จังหวัดพะเยา และโครงการหลวง พ ร ะ บ าทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน พระปรชี าสามารถและความหว่ งใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ที่ทรงมีต่อพสกนกิ ร ทำใหเ้ กดิ ศนู ย์ ศกึ ษาการพฒั นาอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ๖ ศนู ยท์ ว่ั ประเทศ ซง่ึ เปน็ คณุ ประโยชนอ์ ยา่ งยงิ่ แกก่ ารใชเ้ ปน็ รปู แบบ การดำรงชวี ติ ตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ตามภมู ปิ ระเทศและสังคมของพื้นที่ ซึง่ ศูนยฯ์ แต่ละแห่ง ตา่ งมรี ปู แบบ การพัฒนาทแ่ี ตกตา่ งกันตามสภาพภมู ิศาสตร์ โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอื่ เป็นแหลง่ สรรพวิชาท่ีทกุ คนสามารถไปศึกษา ดงู าน ฝกึ อบรมทงั้ ในดา้ นการเกษตร อตุ สาหกรรมในครวั เรอื น และอนื่ ๆ ซง่ึ ไดแ้ ก่ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาเขาหนิ ซอ้ นฯ จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา เนน้ การอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยทรายฯ จงั หวดั เพชรบรุ ี ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นา อ่าวคุ้งกระเบนฯ จังหวดั จันทบรุ ี เน้นการอนุรักษ์พน้ื ท่ีชายฝง่ั ทะเล ศนู ยศ์ ึกษาการพฒั นาภพู านฯ จงั หวัดสกลนคร เนน้ การพฒั นาปา่ ไมด้ ว้ ยระบบชลประทาน ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไครฯ้ จงั หวดั เชยี งใหม่ เนน้ การพฒั นาดา้ น ชลประทานและจัดการทรัพยากรป่าไม้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จังหวัดนราธิวาส เน้นการพัฒนาดินพรุ เ พ ่ือ ใ ช ้ประโยชน์ในการเกษตรกรรม ดา้ นการพฒั นา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ ทรงคดิ คน้ และทดลองหลายอยา่ ง เชน่ การทำฝนเทยี ม การแกไ้ ขปญั หาแหลง่ นำ้ เนา่ เสยี โดยตดิ ตง้ั กงั หนั ชยั พฒั นาหรอื เครอ่ื งกลเตมิ อากาศทท่ี รงคดิ คน้ ขน้ึ มา โดยอาศยั หลกั การเตมิ ออกซเิ จนลงในนำ้ ควบคกู่ บั การใชธ้ รรมชาตดิ ว้ ยการปลกู ผกั ตบชวาในแหลง่ นำ้ ธรรมชาติ เ ป น็ ต ้น ดา้ นการศกึ ษา ทรงสนพระราชหฤทัยการศึกษาทั้งทางธรรมและทางโลก ในดา้ นพุทธธรรม ทรงพระราช นพิ นธว์ รรณกรรมเรอื่ งพระมหาชนก เพอ่ื เปน็ แบบฉบบั ใหป้ ระชาชนมขี นั ตวิ ริ ยิ ธรรมในทางโลก ทรงสง่ เสรมิ ใหเ้ ยาวชน ไปศกึ ษาตา่ งประเทศ ด้วยการพระราชทานทุนการศกึ ษาเป็นอนั มาก เช่น ทุนมูลนธิ ิอานันทมหดิ ล ถอื เป็นพระราช กรณยี กจิ ทสี่ ำคญั อกี ประการหนงึ่ ทยี่ ำ้ ถงึ การใสพ่ ระราชหฤทยั ในการศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา เพอื่ ผลติ บคุ ลากรในวชิ า แ ข น ง ต่างๆ เขา้ รับใช้ประเทศชาติให้พัฒนา ทดั เทียมกบั นานาประเทศในปัจจบุ นั พระองคย์ งั ทรงเปน็ นกั ศลิ ปะ เชน่ การดนตรี การวาดเขยี น ฯลฯ จนไดร้ บั การถวายราชสมญั ญาวา่ “อคั รศลิ ปนิ ” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช มีพระมหากรุณาธิคุณต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาหลายปี สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ พระองค์ รวมท้ังหมด ๒๐ สาขาวิชา ดังต่อไปนี้
พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่นิ สยาม ๑๔๗ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๒ ปรญิ ญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตตมิ ศกั ด์ิ สาขารัฐศาสตร์ พุทธศกั ราช ๒๕๓๑ ปรญิ ญาวิศวกรรมศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ กติ ตมิ ศักด ์ิ พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๒ ปรญิ ญาวิทยาศาสตรดุษฎีบณั ฑติ กิตติมศกั ดิ์ สาขาเกษตรศาสตร ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๐ ปรญิ ญาวิศวกรรมศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ์ สาขาวิศวกรรมสง่ิ แวดล้อม พทุ ธศักราช ๒๕๔๒ ปรญิ ญาทนั ตแพทยศาสตรดษุ ฎีบณั ฑติ กติ ติมศักด์ิ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๓ ปรญิ ญาเศรษฐศาสตรดุษฎบี ัณฑติ กติ ติมศกั ด ์ิ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๙ อันเป็นปที ่พี ระองคเ์ สด็จขึน้ เถลงิ ถวัลยสิรริ าชสมบตั ิครบ ๖๐ ปี สภามหาวิทยาลัย เชยี งใหม่ไดม้ ีมตเิ ป็นเอกฉันท์ ขอพระราชทานทูลเกลา้ ทลู กระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบณั ฑติ กิตตมิ ศักดใ์ิ นสาขา วิชาตา่ งๆ ของมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ จำนวน ๑๔ สาขา แด่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว เพ่อื เปน็ การถวาย ราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณในพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถให้ปรากฏในวงวิชาการ ตลอดจนร่วม เฉลิมฉลองในโอกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี และเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมส่ บื ไป ดงั น้ ี ปรญิ ญาดษุ ฎบี ัณฑติ กิตติมศักดิ์ กลุ่มสาขาวิชาสงั คมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์และการศกึ ษา ได้แก่ ปริญญาบรหิ ารธรุ กจิ ดุษฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ ์ ปรญิ ญาบญั ชีดษุ ฎบี ณั ฑิตกิตตมิ ศกั ด ิ์ ปรญิ ญานติ ศิ าสตรดุษฎบี ณั ฑิตกติ ติมศักด ์ิ ปรญิ ญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบณั ฑติ กติ ติมศักดิ์ ปรญิ ญาศลิ ปดุษฎบี ณั ฑิตกิตตมิ ศกั ดิ์ ปรญิ ญาศลิ ปศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกิตติมศักดิ์ ปรญิ ญาศึกษาศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกิตติมศกั ด์ิ ปรญิ ญาดุษฎีบณั ฑติ กิตตมิ ศกั ดิ์ กลมุ่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ปริญญาวิทยาศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิตกติ ติมศกั ด์ิ ปรญิ ญาสถาปตั ยกรรมศาสตรดุษฎีบณั ฑติ กติ ติมศักดิ์ ปรญิ ญาดุษฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศักด์ิ กลุ่มสาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ ได้แก ่ ปริญญาพยาบาลศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิตกิตตมิ ศกั ด ์ิ ปริญญาแพทยศาสตรดษุ ฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิ ปรญิ ญาเภสชั ศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกติ ตมิ ศกั ด์ ิ ปริญญาสตั วแพทยศาสตรดุษฎีบณั ฑิตกติ ตมิ ศกั ดิ์ ปรญิ ญาสาธารณสขุ ศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิตกิตตมิ ศักด์ ิ การทูลเกลา้ ทูลกระหมอ่ มถวายปริญญาดุษฎีบณั ฑติ กิตตมิ ศักดิ์ทงั้ ๑๔ สาขาน้ี เป็นเครือ่ งแสดงถงึ ความ กตัญญกู ตเวทิตา ท่ีสภามหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ คณาจารย์ นกั ศกึ ษา และขา้ ราชการของมหาวทิ ยาลัย สำนึกใน พระมหากรณุ าธคิ ณุ ทที่ รงมตี อ่ มหาวทิ ยาลยั และในพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ อนั เปน็ ปมี หามงคลทรงเจรญิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญอานุภาพแห่ง คณุ พระศรรี ัตนตรยั และสิง่ ศกั ดิส์ ทิ ธิท์ ัง้ หลายในสากลโลก บรู พกษตั ริยาธริ าช และพระสยามเทวาธิราช โปรดดล บนั ดาลใหพ้ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช ทรงพระเกษมสำราญ มพี ระชนมพรรษายงิ่ ยนื นาน พระเกียรตคิ ณุ แผ่ไพศาลไปท่ัวทุกทศิ านุทศิ ทรงเป็นร่มโพธทิ์ องของชาวไทยตลอดชว่ั กาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหมอ่ ม ขอเดชะ ขา้ พระพทุ ธเจ้า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มณี พยอมยงค์ ศลิ ปินแหง่ ชาติ สาขาวรรณศลิ ป ์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196