Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Social Media

Social Media

Published by sapa_thjp, 2019-01-25 04:03:24

Description: Social Media

Search

Read the Text Version

เร่อื ง Social Media ทใ่ี ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน จดั ทำโดย นำงสำวสุพรรษำ สภำชยั รหัสนิสติ ๖๑๑๗๐๖๘๐ สำขำหลักสูตรและกำรสอน รำยงำนประกอบกำรศึกษำวชิ ำนวตั กรรมและเทคโนโลยสี ำรสนเทศทำงกำรศึกษำ (Innovation and Information Technology) รหสั รำยวชิ ำ ๑๗๗๗๑๓ ภำคเรียนท่ี ๒ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๑ วทิ ยำลยั กำรศึกษำ มหำวทิ ยำลัยพะเยำ

คานา รำยงำนฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของ วิชำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำรสนเทศทำงกำรศึกษำ (Innovation and Information Technology) เพื่อศึกษำเรื่อง Social Media ท่ีใช้ในกำร จดั กำรเรียนกำรสอน ท้ังน้ี เนอ้ื หำไดร้ วบรวมมำจำกกำรสงั เครำะห์งำนวิจยั และบทควำมทำงวิชำกำร ที่เก่ียวข้อง กับกำรใช้ Social Media ในกำรเรียนกำรสอน มำเป็นข้อมูลเพ่ือเพ่ิมเติมควำมรู้เร่ืองกำรใช้ Social Media ที่เกี่ยวกับกำรศึกษำไว้ด้วย ผู้จัดทำหวังว่ำรำยงำนฉบับน้ีจะให้ควำมรู้และเป็น ประโยชนต์ อ่ ผทู้ ่นี ำไปใชใ้ หเ้ กดิ ผลสมั ฤทธิต์ ำมควำมคำดหวงั นำงสำวสุพรรษำ สภำชัย ๒๔ มกรำคม ๒๕๖๒

สารบญั เรือ่ ง หนา้ บทนำ ๑ ควำมหมำย ๑ ประเภทของ Social Media ๒ ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำง Social Media กับกำรศกึ ษำ ๓ ตำรำงสังเครำะหก์ ำรใช้ Social Media ในกำรเรียนกำรสอน ๔ ตำรำงกำรใช้ Social Media ในกำรเรยี นกำรสอน ๖ ตำรำงสรปุ กำรใช้ Social Media ในกำรเรยี นกำรสอน ๘ บทสรุป ๑๒ บรรณำนุกรม ๑๓

๑ บทนา ๑.ความหมาย รำชบัณฑิตยสถำน (๒๕๕๔) ได้บัญญัติ คำว่ำ “Social Media” ไว้ว่ำ “ส่ือสังคม” หมำยถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสื่อกลำงที่ให้บุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมสร้ำงและแลกเปลี่ยนควำม คิดเห็นต่ำงๆผ่ำน อินเทอร์เน็ตได้ สื่อเหล่ำน้ีเป็นของบริษัทต่ำงๆ ให้บริกำรผ่ำนเว็บไซต์ของตน เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook), ทวติ เตอร์ (Twitter), วกิ พิ ีเดยี (Wikipedia) เปน็ ต้น Williamson (๒๕๕๖) ให้ควำมหมำย สื่อสังคม (Social Media) ว่ำ คือส่วนหนึ่งของ เทคโนโลยที ่ี เรยี กวำ่ เว็บ ๒.๐ (Web ๒.๐) เปน็ เครอ่ื งมอื ออนไลน์ ที่เป็นเทคโนยีใหม่ มีกำรทำงำน บนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ตและเครือข่ำยโทรศัพท์เคลื่อนท่ีท่ีอนุญำตให้แต่ละบุคคลเข้ำถึงกำร แบ่งปัน แลกเปล่ียนสร้ำงเนื้อหำ สอ่ื สำรกับบุคคลอืน่ ๆ และกำรเข้ำรว่ มเครอื ข่ำยออนไลน์ต่ำงๆ ได้ อยำ่ งรวดเรว็ พิชิต วิจิตรบุญยรักษ์ (๒๕๕๔) ส่ือสังคม คือ สื่อท่ีผู้ส่งสำรแบ่งปันสำร ซึ่งอยู่ในรูปแบบ ต่ำงๆ ไปยังผู้รับสำรผ่ำนเครือข่ำยออนไลน์โดยสำมำรถโต้ตอบกันระหว่ำงผู้ส่งสำรและผู้รับสำร หรือผรู้ บั สำรด้วยกันเอง ซ่ึงสำมำรถแบ่งส่ือสังคมออกเป็นประเภทต่ำงๆ ท่ีใช้กันบ่อยๆ คือ บล็อก (Blogging) ทวิตเตอร์และไมโครบล็อก (Twitter and Microblogging) เครือข่ำยสังคมออนไลน์ (Social Networking) และกำรแบ่งปันสื่อทำงออนไลน(์ Media Sharing) จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปว่ำ Social Media หมำยถึง บริกำรท่ีใช้ในกำรนำเสนอ แบง่ ปัน เน้ือหำในรปู แบบของภำพ เสียง ข้อควำม คลิปวิดีโอ และสื่อมัลติมิเดียร่วมกัน ของผู้ใช้ท่ี ทำงำนบนเครือข่ำยอินเทอร์เนต็ ซงึ่ ทม่ี คี วำมสะดวก รวดเรว็ และง่ำยตอ่ กำรเข้ำถงึ ปัจจุบันสื่อสังคมมีอิทธิพลอย่ำงมำก สำหรับด้ำนกำรศึกษำโดยมีอิทธิพลอย่ำงยิ่งต่อกำร รับรู้ข้อมูลข่ำวสำร สังคมไทยในปัจจุบันได้นำส่ือสังคมเข้ำมำมีบทบำท สร้ำงแรงผลักดันต่อกำร อยำกรู้ อยำกเรียน และสำมำรถเรียนรู้ได้ตลอดเวลำ ผเู้ รียนสำมำรถสร้ำงควำมเข้ำใจ สร้ำงแนวคิด เร่อื งทจ่ี ะเรียนรู้ได้อย่ำงชัดเจน กิจกรรมกำรเรยี นร้ทู ีอ่ ำศัยประสบกำรณ์ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงผู้เรียน สิ่งแวดล้อม และผู้สอน ทำให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงถำวรซ่ึงสอดคล้องกับกำรเรียนรู้ใน ศตวรรษท่ี ๒๑ ที่เน้นทักษะกำรคิด กำรแก้ไขปัญหำ ท่ีผู้เรียนสำมำรถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อย่ำงรอบดำ้ นใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ได้

๒ ๒.ประเภทของ Social Media แบ่งไดด้ งั นี้ (แสงเดือน ผอ่ งพุฒ, 2556) ๑. เครอื ขำ่ ยสงั คม (Social networking site) เปน็ เวบ็ ไซต์ที่บคุ คลหรอื หนว่ ยงำนสำมำรถ สรำ้ งขอ้ มูลและเปลีย่ นแปลงขอ้ มลู เผยแพร่ รปู ภำพ ภำพเคลือ่ นไหว โดยทบี่ คุ คลอน่ื สำมำรถ เข้ำมำแสดงควำมเห็น หรือเผยแพร่ สนทนำโต้ตอบได้ ตัวอย่ำงได้แก่ Facebook Badoo Google+ Link din และ Orkut เปน็ ตน้ ๒. ไมโครบล็อก (Micro-blog) เป็นเวบ็ ไซตท์ ใ่ี ชเ้ ผยแพร่ขอ้ มลู หรือขอ้ ควำมสน้ั ในเร่อื ง ท่ีสนใจเฉพำะด้ำน รวมทั้งสำมำรถใช้เคร่ืองหมำย# (Hashtag) เพ่ือเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่มีควำม สนใจในเรอื่ งเดยี วกนั ได้ ตวั อย่ำงไดแ้ ก่ Twitter Blauk Weibo Tout และ Tumble เปน็ ต้น ๓. เว็บไซต์ท่ีให้บริกำรแบ่งปันสื่อออนไลน์ (Video and photo sharing website)เป็น เว็บไซต์ทีใ่ ห้ผ้ใู ชส้ ำมำรถฝำกหรือนำสอ่ื ข้อมูล รูปภำพ วีดิโอขน้ึ เวบ็ ไซตเ์ พอ่ื แบง่ ปันกบั ผู้อน่ื ตัวอย่ำง ไดแ้ ก่ Flicker Vimero YouTube Instagram และ Pinterest เปน็ ตน้ ๔. บลอ็ ก สว่ นบคุ คลและองคก์ ร(Personal and corporate blogs) เป็นเว็บไซต์ที่ผู้เขียน บันทึกเร่ืองรำวต่ำงๆ เสมือนเป็นบันทึก ไดอำรีออนไลน์ สำมำรถเขียนในลักษณะไม่เป็นทำงกำร และแกไ้ ขได้บอ่ ย ตวั อย่ำงไดแ้ ก่ Blogger Wordpress Bloggang และ Exteen เป็นต้น ๕. บล็อกที่มีสื่อสิ่งพิมพ์เป็นเจ้ำของเว็บไซต์ (Blogs hosted by media outlet) เป็น เว็บไซต์ที่ใช้ในกำรนำเสนอข่ำวสำรของสื่อสิ่งพิมพ์มคี วำมเปน็ ทำงกำรนอ้ ยกว่ำสือ่ สงิ่ พิมพ์ แตม่ ีรปู แบบและควำมเป็นทำงกำรมำกกว่ำบล็อก ตัวอย่ำง คือ theguardian.com เจ้ำของคือ หนังสอื พิมพ์ The Gardian ๖. วิกิ และพื้นที่สำธำรณะของกลุ่ม (Wikis and online collaborative space)เป็น เว็บไซตส์ ำำหรบั พ้นื ทส่ี ำธำรณะออนไลน์เพอ่ื รวบรวมข้อมูลและเอกสำร ตัวอย่ำงได้แก่ Wikipedia Wikia เป็นต้น ๗. กลุ่มหรือพื้นท่ีแสดงควำมคิดเห็น (Forums, discussion board and group) เป็น เว็บไซต์หรอื กล่มุ จดหมำยอเิ ล็กทรอนกิ ส์ท่มี ีกำรแสดงควำมคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ มีท้งั ท่ีเป็น กลุ่มส่วนตวั และสำธำรณะ ตัวอยำ่ งไดแ้ ก่ Googlegroups Yahoo groups และ Pantip เป็นตน้ ๘. เกมออนไลน์ที่มีผู้เล่นหลำยคน (Online multiplayer gaming platform) เป็น เวบ็ ไซต์ที่นำเสนอในลักษณะกำรเลน่ เกมออนไลน์ผ่ำนเครือข่ำยอนิ เทอร์เน็ต ซ่ึงสำมำรถเลน่ ท้ังคน เดยี วและเล่นไดเ้ ปน็ กลุ่ม ตวั อย่ำงได้แก่ Second life และ World of Warcraft เป็นตน้

๓ ๙. ข้อควำมส้ัน (Instant messaging) เปน็ กำรส่งข้อควำมสน้ จำกโทรศพั ทเ์ คล่อื นที่ ๑๐. กำรแสดงตนว่ำอยู่ ณ สถำนที่ใด (Geo-spatial tagging) เป็นกำรแสดงตำแหน่งที่อยู่ พร้อมควำมเหน็ และรูปภำพในส่ือสังคมออนไลน์ ตวั อยำ่ งได้แก่ Facebook และ Foursquare เปน็ ต้น ๓.ความสัมพันธร์ ะหว่าง Social Media กบั การศกึ ษา ขน้ึ ชอื่ วำ่ กำรศกึ ษำนน้ั เปน็ กำรพัฒนำคนใหม้ คี วำมรู้ มคี วำมเจรญิ งอกงำมทำงดำ้ นร่ำงกำย สตปิ ญั ญำ อำรมณ์ และสงั คม ซงึ่ รฐั บำลทกุ ยคุ ทุกสมยั มีนโยบำย กำรกระจำยโอกำสทำงกำรศึกษำ มกี ำรสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นใช้เทคโนโลยี เพ่ือพัฒนำตนเองใหม้ ีควำมรูท้ ดั เทียมกับนักเรยี นในประเทศ ตำ่ งๆ ซง่ึ วิธีกำรหนงึ่ ทคี่ รูผสู้ อนสำมำรถนำมำใชไ้ ด้และเป็นวธิ ีกำรที่สรำ้ งควำมใกล้ชดิ กับผเู้ รยี น ได้คอื กำรใช้ Social Media ในกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน สำมำรถใช้ได้ทุกที่ ทกุ เวลำ เมื่อ ผู้เรยี นมขี ้อสงสยั ในกำรทำกำรบ้ำนหรอื สงสัยในประเดน็ อ่ืนๆ ท่ีไดร้ ับมอบหมำยให้ไปศึกษำค้นคว้ำ รำยงำน ผู้เรียนสำมำรถใช้ส่ือสังคมออนไลน์ได้โดยไม่จำเป็นต้องรอพบกับผู้สอนในชั้นเรียน ซึ่ง สำมำรถเห็นได้จำกรำยงำนกำรวิจัยต่ำงๆ ท่ีมีควำมพยำยำมนำ Social Media มำใช้ในกำรเรียน กำรสอนท้งั ในระดับมัธยมศึกษำและอุดมศึกษำ เป็นควำมพยำยำมในกำรจัดกำรศึกษำของไทยให้ มปี ระสทิ ธิภำพและประสิทธิผลดขี ้ึนกวำ่ กำรจดั กำรศึกษำแบบเดิมในทัศนะของผู้เขียนเห็นว่ำ กำร ใช้ Social Media กบั กำรศกึ ษำ เป็นช่องทำงกำรติดต่อสื่อสำรแบบสองทำง ท่ีสำมำรถสื่อสำรกับ ผ้เู รยี นได้ตลอดเวลำ สำมำรถสรำ้ งควำมสนใจและควำมพร้อมสำหรับกำรเรียนรู้ในบทเรียนใหม่ได้ ด้วยกำรศึกษำนอกห้องเรียนเมื่อถึงช่ัวโมงเรียน ผู้สอนใช้วิธีกำรสร้ำงประเด็นปัญหำหรือกำหนด สถำนกำรณ์ให้ผเู้ รียนไดค้ ดิ แก้ไขปัญหำนน้ั โดยเชื่อมโยงใช้ควำมรู้ที่ได้ศึกษำมำก่อนนอกห้องเรียน ในสอ่ื สงั คมออนไลน์ รวมทั้งกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยสำมำรถใช้ประโยชน์ ของ Social Media ในกระบวนกำรเรียนกำรสอนไดเ้ ป็นอย่ำงดี นำมำใช้แทนกำรสื่อสำรแบบเดิม ท่อี ำจจะล้ำสมัย ไม่ทนั กำรเมอื่ ใช้งำน เน่ืองจำกกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่เน้นทักษะกำรคิด กำรแก้ไขปัญหำ ท่ีผู้เรียน สำมำรถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่ำงรอบด้ำนให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ ซ่ึงมีควำมสอดคล้องกับ กำรนำ Social Media มำใช้กำรเรียนกำรสอน จึงได้มีกำรศึกษำค้นค้ำข้อมูลจำกงำนวิจัยและ บทควำมวิชำกำรทีม่ ีนกั วิชำกำรหลำยทำ่ นได้นำ Social Media มำใช้ในกำรเรยี นกำรสอนดงั นี้

๔ ตารางสังเคราะห์การใช้ Social Media ในการเรียนการสอน ท่ี ปี ชอ่ื งานวิจยั /บทความ ผู้วิจยั /ผู้เขียน เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ รูปแบบการเรยี นการสอน ๑ ๒๕๕๕ กำรจัดกำรเรยี นรแู้ บบใช้ กำรพฒั นำรูปแบบกำรใชส้ อ่ื ทำงสังคมออนไลนเ์ พอ่ื ชยั วัฒน์ จวิ พำนชิ ย์ Blog Chat YouTube โครงงำนเปน็ ฐำน ๒ ๒๕๕๖ Project-Based Learning สนบั สนนุ กำรเรยี นร้แู บบโครงกำรด้วยวิธีกำรถอด ปณิตำ วรรณพิรณุ ๓ ๒๕๕๗ กำรเรียนร้แู บบผสมผสำน ๔ ๒๕๖๐ บทเรียน เพ่ือพฒั นำทักษะกำรแก้ปญั หำ ของ (Blended Learning) ๕ ๒๕๖๐ นักศกึ ษำระดบั ปริญญำบัณฑิต แรงจงู ใจในกำรเรยี นรขู อง นักศึกษำ (Student กำรใชบ้ ริกำรสอ่ื สงั คมออนไลนใ์ นฐำนะเคร่ืองมือ นำยภู่มณี ศิริพรไพบลู ย์ Facebook, Twitter, Flickr, Learning Motivation, SLM) วิธีสอนแบบช้ีแนะ ทำงกำรศึกษำรำยวชิ ำภำษำองั กฤษ ผ่ำนสือ่ และ นำยนธิ ิพงศ์ จำรสุ วสั ด์ิ Foursquare, Google+ (Direct Instruction) เทคโนโลยี ของนกั ศึกษำมหำวิทยำลัยเทคโนโลยี Active learning รำชมงคลล้ำนนำวทิ ยำเขตภำคพำยพั เชยี งใหม่ กำรใช้โซเชยี ลมีเดยี กับกำรจัดกำรเรียนกำรสอน: วรรณชร ไชยเดช Facebook เฟสบคุ๊ กับกำรสร้ำงแรงจูงใจในกำร ก้องกำญจน์ วชริ พนงั เรียนรขู้ องนักศึกษำ กำรพัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนและทักษะ กนั ตภณ พำหมุ นั โต YouTube, Google ปฏบิ ัติ เรอ่ื ง กำรใช้โปรแกรมนำเสนอ กลุ่มสำระ ชตุ มิ ำ จนั ทรจติ ร กำรเรียนร้กู ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีของ จุไรศริ ิ ชรู ักษ์ นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 6 โดยใชว้ ิธสี อนแบบ ช้แี นะรว่ มกบั ส่อื สงั คมออนไลน์ กำรพฒั นำรูปแบบกิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนบน เอกนฤน บำงท่ำไม้ (Blog) Wikipedia เครอื ขำยสังคมออนไลน์ ่ เพือ่ สงเสริมกำรใชอ้ ินเทอร์เนต็ เชงิ สร้ำงสรรค์ สำหรบั ผู้เรียนในระดบั อุดมศึกษำ

๕ ตารางสังเคราะห์การใช้ Social Media ในการเรยี นการสอน ท่ี ปี ช่อื งานวิจยั /บทความ ผู้วิจัย/ผู้เขยี น เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ รปู แบบการเรยี นการสอน ๖ ๒๕๖๐ พัฒนำชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้โดยช่อื มัลติมเี ดยี ปสตุ ำ แกว้ มณี สือ่ มัลตมิ เี ดียบูรณำกำร แบบบรู ณำกำร ๗ ๒๕๖๐ บรู ณำกำรรว่ มกับเครอื ขำ่ ยสงั คมออนไลน์เร่อื ง อำฉ๊ะ บลิ หมี ร่วมกบั เครอื ขำ่ ยสงั คม ๘ ๒๕๖๐ นวัตกรรมและเทคโนโลยที ำงกำรศึกษำ ออนไลนF์ acebook, LINE, ๙ ๒๕๖๐ Instagram ๑๐ ๒๕๖๐ กำรศึกษำประสทิ ธภิ ำพหลกั สตู รฝึกอบรมออนไลน์ เอมมิกำ วชริ ะวินท์ Facebook, Skype กำรเรยี นรู้ แบบร่วมมอื เรือ่ งกำรประยุกต์ใช้เวบ็ ๒.๐ในชั้นเรยี นโดยใช้ ฤทธชิ ัย อ่อนมิง่ (Collaboration) ทฤษฎีกำรเรยี นรู้รว่ มกันบนออนไลน์เพื่อสง่ เสริม ลดั ดำวัลย์ เกษมเนตรดวงใจ สมรรถนะไอซที ีของครู สีเขียว กำรพัฒนำกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้แบบหอ้ งเรยี น กรวรรณ สบื สม ชุดกิจกรรมแผนกำรจดั กำร กำรเรยี นรู้แบบห้องเรยี นกลับ กลบั ด้ำน (Flipped classroom) ด้วยกำรบูรณำ นพรัตน์ หมีพลดั เรยี นรแู้ บบหอ้ งเรียนกลบั ดำ้ น ด้ำน (Flipped กำรกำรเรียนกำรสอนรำยวิชำเทคโนโลยมี ลั ติมเี ดีย Google Classroom classroom) ผ่ำน Google Classroom FACEBOOK:กำรจดกำรเรยี นรู้ กลุ ชยั กุลตวนชิ Facebook กำรเรียนรู้แบบผสมผสำน แบบผสมผสำนตำมแนวคดโซเชียลคอนสตรัคต ชุติวัฒนส์ ุวัตถิพงศ์ (Blended Learning) วสิ ต์ นวลลออ ทวชิ ศรี เกษมสันต์ สกุลรัตน์ กำรใชส้ อ่ื สังคมออนไลน์ในกำรจัดกำรศกึ ษำ ปวณี ภทั ร นิธิตันตวิ ัฒน์ Facebook เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ ศูนย์กลำง พยำบำล สรุ ีย์ จนิ เรือง Google (student-center) วิภำศริ ิ นรำพงษ์ YouTube แสวงหำควำมรู้ด้วยตนเอง

๖ การใช้ Social Media ในการเรยี นการสอน ที่ ลกั ษณะการเรยี นการสอน Social Media Facebook Twitter Blog Google Wiki Drop Box YouTube Docs —✔ —— ๑ กำรจดั กำรเรยี นรแู้ บบใช้ —— โครงงำนเป็นฐำน — —✔— — —✔ —— Project-Based Learning —— ๒ กำรเรยี นรแู้ บบผสมผสำน ✔ ✔ — ✔ — (Blended Learning) ๓ แรงจงู ใจในกำรเรียนรูของ นักศกึ ษำ (Student ✔— — — — Learning Motivation, SLM) ๔ วิธสี อนแบบช้แี นะ — — —✔— (Direct Instruction) ๕ Active learning — —✔—✔ ๖ แบบบรู ณำกำร ✔— — — — Integrated Management

๗ ที่ ลกั ษณะการเรียนการสอน การใช้ Social Media ในการเรียนการสอน Wiki Drop Box YouTube — —— ๗ กำรเรียนรู้ แบบรว่ มมือ Social Media (Collaboration) Facebook Twitter Blog Google — —— — —— ๘ กำรเรยี นรแู้ บบหอ้ งเรยี นกลบั Docs ดำ้ น (Flipped ✔— — — — —✔ classroom) — — —✔ ๙ กำรเรียนรู้แบบผสมผสำน (Blended Learning) ✔— — — ๑๐ เนน้ ผู้เรียนเปน็ ศนู ยก์ ลำง ✔— —✔ (student-center)

๘ สรุปการใช้ Social Media ในการเรียนการสอน ท่ี ลกั ษณะการเรยี น Social Media/จานวนเรอ่ื ง รวม Drop YouTube (จานวน/ การสอน Facebook Twitter Blog Google Wiki Box ร้อยละ) Docs —๑ ๒ (๑๑.๗๖) ๑ การจดั การเรียนรู้ —— ๔ แบบใชโ้ ครงงาน ๑ — — — — (๒๓.๕๔) เปน็ ฐานProject- —— ๑ (๕.๘๘) Based Learning ๒ การเรียนรู้แบบ ผสมผสาน ๒ ๑—๑— (Blended Learning) ๓ แรงจูงใจในการ เรยี นรขู องนกั ศกึ ษา ๑ — — — — (Student Learning Motivation, SLM)

๙ สรปุ การใช้ Social Media ในการเรยี นการสอน ที่ ลกั ษณะการเรียน Social Media/จานวนเรื่อง รวม การสอน Facebook Twitter Blog Google Wiki Drop YouTube (จานวน/ Box ร้อยละ) ๔ วธิ ีสอนแบบช้แี นะ — — Docs (Direct —๑ ๒ Instruction) —๑— (๑๑.๗๖) ๕ Active learning — — ๑ — ๑ — — ๒ (๑๑.๗๖) ๖ แบบบูรณาการ Integrated ๑ —————— ๑ Management (๕.๘๘) ๗ การเรยี นรู้ แบบ รว่ มมือ ๑ —————— ๑ (Collaboration) (๕.๘๘)

๑๐ สรปุ การใช้ Social Media ในการเรยี นการสอน ที่ ลกั ษณะการเรียน Social Media/จานวนเร่อื ง รวม Drop YouTube (จานวน/ การสอน Facebook Twitter Blog Google Wiki Box รอ้ ยละ) Docs —— ๑ (๕.๘๘) ๘ การเรยี นรู้แบบ —๑ ๓ หอ้ งเรยี นกลับดา้ น — — — ๑ — (๑๗.๖๖) (Flipped ๐๓ (๐) (๑๗.๖๖) classroom) ๙ เน้นผเู้ รยี นเปน็ ศนู ย์กลาง ๑ —— ๑ — (student-center) รวม ๗ ๑ ๑ ๔ ๑ (จานวน/รอ้ ยละ) (๔๑.๑๙) (๕.๘๘) (๕.๘๘) (๒๓.๕๓) (๕.๘๘)

๑๑ จำกกำรศึกษำเอกสำรและงำนวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับกำรนำ Social Media มำใช้ในกำร จัดกำรเรียนกำรสอน ท้ังในและต่ำงประเทศ จำนวน ๑๐ เรอ่ื ง พบว่ำ กำรนำ Social Media มำใช้ มำกที่สุดในกำรจดั กำรเรียนกำรสอน คือ กำรเรียนรู้แบบผสมผสำน(Blended Learning) คิดเป็น ร้อยละ ๒๓.๕๔ รองลงมำได้แก่ กำรเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลำง (student-center), กำรจัดกำร เรียนรู้แบบใช้โครงงำนเป็นฐำน(Project-Based Learning), วิธีสอนแบบช้ีแนะ (Direct Instruction) และ Active learning คิดเป็นร้อยละ ๑๑.๗๖, ๑๑.๗๖, ๑๑.๗๖ และ ๑๑.๗๖ ตำมลำดบั โดยสอื่ สังคมท่พี บว่ำมกี ำรใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนมำกท่ีสุด คือ Facebook จำนวน ๗ เรื่อง คดิ เป็นร้อยละ ๔๑.๑๙ รองลงมำ คือ Google Docs และ YouTube จำนวน ๓ และ ๒ เร่ือง คดิ เปน็ ร้อยละ ๒๓.๕๓ และ ๑๗.๖๖ ตำมลำดบั ๔.บทสรปุ Social Media กับกำรศึกษำ เป็นเคร่ืองมือหน่ึงที่ทำงำนในเครือข่ำยอินเทอร์เน็ตมี ควำมสำมำรถในกำรติดต่อสื่อสำรระหว่ำงกันได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ และยังมีบทบำทกับ กำรศกึ ษำท้ังทำงด้ำนกำรเรียน กำรสอน และกำรบริหำรจัดกำรสำมำรถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ได้ท้ังกำรศึกษำในระบบ กำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย จำกผลงำนวิจัยของ นักวิชำกำรหลำยท่ำนต่ำงได้สรุปว่ำ กำรนำSocial Media มำใช้ในกำรเรียนกำรสอนน้ันควำม สะดวกต่อกำรเข้ำถึงกำรรับ ส่ง ข้อมูล ต่ำงๆ ระหว่ำงผู้เรียนและผู้ให้ควำมรู้ โดยเฉพำะ Facebook น้ันถูกนำมำใช้ร่วมกับวธิ กี ำรจัดกำรเรียนกำรสอนในแบบต่ำงๆมำกท่ีสดุ ซ่ึงแนวโน้มใน อนำคต Social Media จะช่วยให้ผู้เรียนค้นหำควำมรู้ต่ำงๆ ได้โดยไร้ขีดจำกัดในเรื่องของเวลำ และสถำนท่ี กำรใช้ส่ือ Social Media กับกำรศึกษำน้ัน จำเป็นต้องได้รับกำรพัฒนำ ดำเนินกำร วจิ ัยเพ่ือหำขอ้ สรปุ เรือ่ งรูปแบบกำรเรียนกำรสอนท่ีเหมำะสม

๑๒ บรรณานกุ รม นฤมล บญุ สง่ (๒๕๖๑). ส่อื สังคมกบั กำรเรยี นกำรสอนในศตวรรษท่ี 21 ธนะวฒั น์, วรรณประภำ (๒๕๖๐). สือ่ สังคมออนไลนก์ บั กำรศกึ ษำ ชยั วัฒน์ จิวพำนิชย์, ปณิตำ วรรณพิรุณ (๒๕๕๕). กำรพฒั นำรูปแบบกำรใชส้ ื่อทำงสงั คมออนไลน์เพื่อสนบั สนุน กำรเรียนร้แู บบโครงกำรดว้ ยวิธีกำรถอดบทเรยี น เพ่ือพัฒนำทกั ษะกำรแก้ปัญหำ ของนกั ศกึ ษำ ระดบั ปรญิ ญำบัณฑติ นำยภมู่ ณี ศริ พิ รไพบูลย์, นำยนิธิพงศ์ จำรสุ วสั ดิ์ (๒๕๕๖). กำรใชบ้ ริกำรส่ือสังคม ออนไลน์ในฐำนะเครอ่ื งมอื ทำงกำรศึกษำรำยวชิ ำภำษำองั กฤษผำ่ นสอ่ื และเทคโนโลยี ของนกั ศกึ ษำมหำวทิ ยำลัยเทคโนโลยี รำชมงคลล้ำนนำวิทยำเขตภำคพำยัพ เชยี งใหม่ วรรณชร ไชยเดช, กอ้ งกำญจน์ วชริ พนัง (๒๕๕๖). กำรใช้โซเชียลมเี ดยี กับกำรจดั กำรเรียนกำรสอน:เฟสบคุ๊ กับ กำรสร้ำงแรงจูงใจในกำรเรียนรขู้ องนกั ศกึ ษำ กันตภณ พำหมุ ันโต, ชุตมิ ำ จนั ทรจิตร, จไุ รศริ ิ ชรู ักษ์ (๒๕๖๐). กำรพฒั นำผลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรียนและทกั ษะ ปฏิบตั ิ เร่ือง กำรใช้โปรแกรมนำเสนอ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีของ นักเรยี นชั้นประถมศึกษำปที ่ี 6 โดยใช้วิธสี อนแบบช้ีแนะรว่ มกับสื่อสังคมออนไลน์ เอกนฤน บำงทำ่ ไม้ (๒๕๖๐). กำรพฒั นำรปู แบบกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนบนเครอื ขำยสงั คมออนไลน์เพ่ือ ส่งเสรมิ กำรใช้อินเทอรเ์ น็ตเชิงสร้ำงสรรค์สำหรบั ผู้เรยี นในระดับอดุ มศกึ ษำ ปสุตำ แกว้ มณี, อำฉ๊ะ บิลหมี (๒๕๖๐). พัฒนำชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้โดยชอ่ื มัลติมีเดยี บรู ณำกำรร่วมกับ เครือข่ำยสงั คมออนไลนเ์ รื่อง นวัตกรรมและเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ เอมมกิ ำ วชริ ะวินท์, ฤทธชิ ัย อ่อนมง่ิ ,ลดั ดำวัลย์ เกษมเนตร,ดวงใจ สีเขยี ว (๒๕๖๐). กำรศึกษำประสิทธิภำพ หลกั สตู รฝกึ อบรมออนไลนเ์ รือ่ งกำรประยกุ ตใ์ ช้เวบ็ ๒.๐ในช้ันเรยี นโดยใช้ทฤษฎกี ำรเรยี นร้รู ่วมกัน บนออนไลนเ์ พ่ือส่งเสรมิ สมรรถนะไอซที ีของครู กรวรรณ สืบสม, นพรตั น์ หมพี ลดั (๒๕๖๐). กำรพัฒนำกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้แบบห้องเรยี นกลบั ด้ำน (Flipped classroom) ด้วยกำรบูรณำกำรกำรเรียนกำรสอนรำยวชิ ำเทคโนโลยมี ัลติมเี ดียผำ่ น Google Classroom กุลชยั กุลตวนิช, ชตุ ิวัฒนส์ ุวตั ถิพงศ์, นวลลออ ทวิชศรี, เกษมสันต์ สกลุ รัตน์ (๒๕๖๐). FACEBOOK:กำรจด กำรเรยี นรูแ้ บบผสมผสำนตำมแนวคดโซเชยี ลคอนสตรัคตวิสต์ ปวีณภทั ร นธิ ติ นั ติวฒั น์, สรุ ยี ์ จินเรอื ง, วภิ ำศริ ิ นรำพงษ์ (๒๕๖๐). กำรใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์ในกำรจดั กำรศกึ ษำ พยำบำล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook