รายงาน เร่ือง ชุดอปุ กรณ์แจ้งเตือนการใช้ไฟฟ้า เสนอ อาจาร์ย ดร.ดุสิต ขาวเหลือง จดั ทาโดย นาย ฐานัส สามต้งั สกลุ 63540016 คณะศึกษาศาสตร์ นาย อณาวิล ห้องกระจก 63540003 คณะศึกษาศาสตร์ สาขา เทคโนโลยีอุตสาหกรรม รายงานเล่มนเี้ ป็ นส่วนหนง่ึ ของวิชา ภาคเรียนที่2 ปี การศึกษา 2563 มหาวิทยาลัยบูรพา
คำนำ โครงงำนส่ิงประดิษฐ์ เรื่องกำรแจง้ เตือนกำรใชไ้ ฟฟ้ำ เลม่ น้ี จดั ทำเพ่ือเป็นเอกสำรประกอบในกำรทำ โครงงำนส่ิงประดิษฐ์ คณะผูจ้ ดั ทำหวงั เป็นอยำ่ งยงิ่ วำ่ โครงงำนน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อผทู้ ี่สนใจศึกษำ อีกท้งั เป็น กำรส่งเสริมใหเ้ ยำวชนไทยและผสู้ นใจทวั่ ไปไดร้ ู้จกั กำรประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ
สำรบญั 1 2-3 1รีเลย์ (Relay) 4 2.เบรกเกรอร์ (Circuit Breaker) 3.กลอ่ งกนั น้ำ 5 5.หลอด Led สีขำว หลกั กำรและเหตุผล 6 สอดคลอ้ งกบั ประเด็นยทุ ธศำสตร์มหำวิทยำลยั 7 ปัญหำ อปุ สรรค 8 ข้นั ตอนกำรดำเนินงำน และแผนกำรดำเนินงำนโครงกำร 9 ตำรำงที่ 1.1 แผนกำรดำเนินงำนภำคเรียนที่ 10 ตำรำงท่ี1.2 แสดงรำยกำรงบประมำณ 11 วิธีติดตำมและประเมินผลโครงกำร 12
1 1. รีเลย์ (Relay) รีเลย์ (Relay) เป็นอปุ กรณ์ไฟฟ้ำที่ทำหนำ้ ท่ี ตดั ตอ่ กระแสไฟและช่วยป้องกนั อุปกรณ์ตวั อ่ืนๆไมใ่ หเ้ กิด ควำมเสียหำย เมื่อระบบหรือวงจรมีอำกำรผิดปกติ โดยอำศยั กำรเหน่ียวนำของขดลวด ซ่ึงตวั รีเลยจ์ ะมี ส่วนประกอบหลกั ๆอยู่ 2 ส่วน คือ 1.ขดลวด (Coil) จะทำหนำ้ ที่ เป็นตวั เหนี่ยวนำหรือสร้ำงสนำมแมเ่ หลก็ ไปกระทงุ้ หรือดูดหนำ้ สมั ผสั ใหต้ ่อ กนั 2.หนำ้ สมั ผสั (Contact) จะทำหนำ้ ท่ี ตดั ต่อกระแสไฟ โดยอำอำศยั กำรเหนี่ยวนำของขดลวด ซ่ึงหนำ้ สมั ผสั จะมี 2 ส่วนคือ ตวั เคล่ือนท่ี (จะมีกระแสไฟมำรออย)ู่ และตวั อยกู่ บั ที่ (รับกระแสไฟจำกตวั อยกู่ บั ที่และจำกออก)
2 2.เบรกเกรอร์ (Circuit Breaker) เบรกเกอร์เป็นอปุ กรณ์ทำหนำ้ ที่ในกำรตดั วงจรไฟฟ้ำแบบอตั โนมตั ิเมื่อเกิดควำมผิดปกติในระบบ เพอ่ื เป็นกำรป้องกนั ควำมเสียหำยที่จะเกิดข้ึนกบั สำยไฟ โหลด Load (เช่น มอเตอร์, Generator หรือ อปุ กรณ์ไฟฟ้ำ) 1 เบรกเกอร์สามารถแบ่งตามขนาดเป็ น 3 ประเภท 1.1 MCB : Miniature Circuit Breaker (เบรกเกอร์ลกู ยอ่ ย) มีคำ่ กระแสนอ้ ยกวำ่ หรือเทำ่ กบั 100 A ส่วน ใหญ่ใชภ้ ำยในบำ้ นพกั อำศยั ติดต้งั ภำยในตู้ Consumer หรือ ตู้ Load Center 1.2 MCCB : Moulded Case Circuit Breaker(โมลเคสเซอร์กิตเบรกเกอร์) มีค่ำกระแสนอ้ ยกวำ่ หรือเท่ำกบั 1600 A 1.3 ACB : Air Circuit Breaker(แอร์เซอร์กิตเบรกเกอร์) มีค่ำกระแสนอ้ ยกวำ่ หรือเท่ำกบั 6300 A
3 2 หลกั การทางานของเบรกเกอร์ แบ่งออกเป็ น 2 แบบ Thermomagnetic และ Electronic 2.1.Thermomagnetic เบรกเกอร์แบบ Thermomagnetic ใชห้ ลกั กำรทำงำนทำงควำมร้อน โดยกำรแปลง กระแสไฟฟ้ำเป็นพลงั งำนควำมร้อน 2.2.Electronic เบรกเกอร์แบบ Electronic ใชก้ ำรวดั ค่ำกระแสใชง้ ำนจริงดว้ ย CT และส่งคำ่ ที่วดั ไดไ้ ปทำ กำรคำนวนดว้ ยระบบ Microcontroller 2.2.1 เบรกเกอร์แบบ Electronic มีฟังกชนั่ กำรป้องกนั ใหเ้ ลือกท้งั หมด 4 แบบ a) ฟังกช์ นั L กำรป้องกนั กระแสโลดเกิน Overload b) ฟังกช์ นั S กำรป้องกนั กระแสลดั วงจรแบบหน่วงเวลำ Short circuit with delay time c) ฟังกช์ นั I กำรป้องกนั กระแสลดั วงจรแบบทนั ทีทนั ใด Instantaneous Trip d) ฟังกช์ นั G ground fault
4 3.กล่องกนั นา้ 4.หลอด Led สีแดง ทาหน้าทกี่ ารแจ้งเตือการใช้ไฟฟ้า ในขณะที่ on เบรกเกอร์
5 5.หลอด Led สีขาว ทาหน้าท่จี าลองการใช้ไฟฟ้าภายในห้องเรียน 6. เทอร์มนิ อลบลอ็ ก เทอร์มินอลต่อสำย 15A,25A,เทอร์มินลั ต่อสำยแรงสูง,เทอร์มินลั บลอ็ ก Terminal Box, รำงปี กนก,เทอร์มินลั กรำวดT์ erminal Ground,เต๋ำต่อสำยไฟ,เทอร์มินลั สกรูแคลม้ Terminal
6 หลกั การและเหตุผล เป็นส่วนสำคญั ที่แสดงถึงปัญหำควำมจำเป็นหรือควำมตอ้ งกำรท่ีตอ้ งมีกำรจดั ทำโครงกำรข้นึ เพื่อ แกป้ ัญหำ กำรลืมกำรปิ ดใชไ้ ฟฟ้ำ ขององคก์ ำร ชุมชน หรือทอ้ งถ่ินน้นั ๆ ดงั น้นั จึงสร้ำงเครื่องชุดจำลองกำรแจ้ เตือนกำรใชไ้ ฟฟ้ำเพอ่ื ไมใ่ ห้เกิดกำรลืมหรือปิ ดเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำภำยในหอ้ งและไมเ่ กิดอตั รำยต่อบุคคลและของ สถำนท่ีของน้นั ๆ 7. สอดคล้องกบั นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 7.1 [ ] เร่งผลิตและพฒั นำกำลงั คนท้งั ระดบั กลำง และระดบั สูง ดำ้ นวทิ ยำศำสตร์เทคโนโลยี 7.2 [ ] ส่งเสริมและสนบั สนุน กำรวิจยั และพฒั นำถ่ำยทอดองคค์ วำมรู้และเทคโนโลยี 7.3 [ ] ส่งเสริมสถำบนั กำรศึกษำ จดั บริกำรวชิ ำกำรแก่สังคม ชุมชน 7.4 [ ] กำรศึกษำและวิจยั เพ่อื ทำนุบำรุงศิลปวฒั นธรรม 8. สอดคล้องกบั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนให้นกั ศึกษามีลกั ษณะบัณฑิตที่พงึ ประสงค์ ซ่ึงสอดคล้องกบั ตวั บ่งชี้ ของ สมศ. และตวั ชี้วัด ของ กพร. ในด้าน 8.1 [ ] ดำ้ นวิชำกำร 8.2 [ ] ดำ้ นกีฬำและกำรส่งเสริมสุขภำพ 8.3 [ ] ดำ้ นบำเพญ็ ประโยชน์ และรักษำสิ่งแวดลอ้ ม 8.4 [ ] ดำ้ นคุณธรรมและจริยธรรม 8.5 [ ] ดำ้ นส่งเสริมศิลปวฒั นธรรม
7 9. สอดคล้องกบั ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์มหาวิทยาลยั 9.1 [ ] ประเด็นยทุ ธศำสตร์ดำ้ นผลิตและพฒั นำกำลงั คนท่ีมีคณุ ภำพ 9.2 [ ] ประเดน็ ยทุ ธศำสตร์ดำ้ นพฒั นำศกั ยภำพกำรวิจยั งำนสร้ำงสรรคแ์ ละสร้ำงนวตั กรรมเพื่อชุมชน และสงั คม 9.3 [ ] ประเดน็ ยทุ ธศำสตร์ดำ้ นกำรบริกำรวชิ ำกำร ดำ้ นวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี เพ่ือพฒั นำชุมชน และสังคม 9.4 [ ] ประเด็นยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรสืบสำนและส่งเสริมกำรทำนุบำรุงศิลปวฒั นธรรมและอนุรักษ์ ส่ิงแวดลอ้ ม 9.5 [ ] ประเด็นยุทธศำสตร์ด้ำนกำรพฒั นำขีดควำมสำมำรถให้เป็ นมหำวิทยำลยั ที่มีประสิทธิภำพ ประสิทธิผล มีธรรมำภิบำล 10. สอดคล้องกบั อตั ลกั ษ์ณของมหาวิทยาลยั 10.1 [ ] ผลิตบณั ฑิตนกั ปฏิบตั ิ (Hands on) 10.2 [ ] มุ่งเนน้ กำรเรียน กำรสอน ในสำขำวชิ ำต่ำงๆ โดยใชว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยเี ป็นฐำน (Technology-Based Teaching and Training) 10.3 [ ] มุ่งเนน้ กำรผลิตบุคลำกรมีควำมเช่ียวชำญในงำนอำชีพ หรือมีควำมเป็นมืออำชีพ (Professional-oriented) ซ่ึงประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบ คือ รู้จริง มีทกั ษะควำมชำนำญ และมีจริยธรรมใน วชิ ำชีพ
8 11. ปัญหา อุปสรรค ในปี ทีผ่ ่านมา 11.1 ในหอ้ งผเู้ รียนอำจเจอปัญหำกบั กำรลืมปิ ดอุปกรณ์กำรใชไ้ ฟฟ้ำ 11.2 ในหอ้ งผเู้ รียนอำจเจอปัญหำกบั กำรเปิ ดไฟฟ้ำในห้องตลอดเวลำโดยที่ไม่มีไครอยใู่ นหอ้ ง 12. จดุ ม่งุ หมาย / วัตถปุ ระสงค์ 12.1 จุดมงุ่ หมำยของโครงกำรน้ีเพ่ือใหผ้ เู้ รียนศึกษำเก่ียวกบั กำรใชไ้ ฟฟ้ำและกำรกนั ลืม ปิ ด-เปิ ดกำรใชไ้ ฟฟ้ำ 12.2 วตั ถุประสงคเ์ พื่อสนบั สนุนและส่งเสริมกำรพฒั นำเครื่องกำรแจง้ เตือนกำรใชไ้ ฟฟ้ำ 13.ระยะเวลาปฏบิ ตั งิ าน ใชเ้ วลำ 4 ชวั่ โมง 14 ผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวนท้งั สิ้น 3 คน ประกอบดว้ ย 8.2 อำจำรย์ จำนวน 1 คน 8.4 นกั ศึกษำ จำนวน 8 คน 8.6 อ่ืนๆ (ระบุ)......................................................... จำนวน.............คน
9 15. ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน และแผนการดาเนนิ งานโครงการ 15.1 ข้นั วำงแผน 15.1 วำงแผนกำรจดั กำรจะซ้ืออปุ กรณ์ 15.2วำงแผนคำนวณรำคำซ้ือสิ่งของที่จะมำประกอบของโครงกำร 15.2 ข้นั ดำเนินกำร 15.2.1 คดั เลือกหวั ขอ้ โครงงานที่สนใจ 15.2.2 ศึกษำคน้ ควำ้ จำกเอกสำรและแหลง่ ขอ้ มลู 15.2.3 จดั ทำเคำ้ โครงของโครงงานท่ีจะ 15.2.4 การลงมือทำโครงงาน 15.2.5 การเขยี นรำยงำนและจดั ทำคูม่ ือการใช้ 15.3 ข้นั สรุปและประเมินผล ผลกำรจดั กิจกรรม 15.3.1 กำรวดั ผลดำ้ นกำรดำเนินงำน 15.3.3 กำรวดั ผลจำกผเุ้ ขำ้ ร่วมกิจกกรม 15.3.3 กำรวดั ผลสำเร็จของงำน 15.3.4 กำรวดั ผลจำกทำกิจกรรม
10 ตารางท่ี 1.1 แผนกำรดำเนินงำนภำคเรียนท่ี 2/2563 ลาดับ ข้นั ตอนการ ระยะการดาเนนิ การ ที่ ดาเนินการ ก.พ ก.พ ก.พ ม.ี ค มี.ค 1 นำเสนอโครงกำร 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 2 ศกึ ษำขอ้ มูลเพ่มิ เติม 3 ออกแบบรูปร่ำงโครงกำร 4 สำรวจรำคำวสั ดอุ ุปกรณ์ 5 จดั สร้ำงโครงสร้ำง 6 นำเสนออำจำรยผ์ สู้ อน 7 ปรับปรุงแกไ้ ขรูปแบบ โครงกำร 8 ส่งรูปเล่มโครงกำรบทที่ 1-2 16. ผลท่คี าดว่าจะได้รับ 16.1 ไดค้ วำมรู้เก่ียวกบั เครื่องกำรแจง้ เตือนกำรใชไ้ ฟฟ้ำ 16.2 ไดค้ วำมรู้เพ่ิมข้ึนกบั เคร่ืองกำรแจง้ เตือนกำรใชไ้ ฟฟ้ำและไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้
11 ตารางท1ี่ .2 แสดงรำยกำรงบประมำณ ลำดบั ที่ รำยกำร จำนวน รำคำ รำคำ หมำยเหตุ (ตอ่ หน่วย) (บำท) 1 รีเลย์ 1 ตวั 175 2 175 160 3 เบรคเกอร์ 1ตวั 160 190 4 190 65 5 กล่องกนั น้ำ 1 กล่อง 65 70 6 70 120 7 หลอด Led สีแดง 1หลอด 120 40 40 820 บำท หลอด Led สีขำว 1 หลอด ชุดปล้กั 1 ชุด เทอร์มินอลบลอ็ ก 1บลอ็ ก รวมรำคำท้งั สิ้น (แปดร้อยยสี่ ิบบำทถว้ น) 17. เป้าหมาย / ตัวชี้วัดความสาเร็จ (Key Performance Indicator : KPI) 17.1 ดำ้ นปริมำณ 1................................................................................................................................... 2................................................................................................................................ 17.2 ดำ้ นคณุ ภำพ 1................................................................................................................................... 2......................................................................................................................
12 18. วธิ ีติดตามและประเมนิ ผลโครงการ 18.1 “กำรติดตำม” และ “กำรประเมิน” เป็นกระบวนกำรท่ีแตกต่ำงกนั มีจุดมุง่ หมำยไม่ เหมือนกนั แต่ กระบวนกำรท้งั สองมีควำมเก่ียวขอ้ งสัมพนั ธก์ นั เมื่อน ำแนวคดิ และหลกั กำรติดตำม และประเมินมำ ประสำนใชด้ ว้ ยกนั อยำ่ งเหมำะสม จะช่วยใหท้ ้งั ผบู้ ริหำรและผปู้ ฏิบตั ิสำมำรถก ำกบั ทบทวนและพฒั นำ งำน/โครงกำรไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพและประสิทธิผล ลงชื่อ...........................................................ผูเ้ สนอโครงกำร (...................................................) ตำแหน่ง......................................... ลงชื่อ........................................................... (...................................................) นำยกองคก์ ำรนกั ศึกษำ/อปุ นำยกองคก์ ำรนกั ศึกษำศนู ย์ ลงช่ือ........................................................... (...................................................) อำจำรยท์ ี่ปรึกษำ/หวั หนำ้ งำนกิจกรรม/หวั หนำ้ งำนพฒั นำนกั ศึกษำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: