เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 62 หนวยที่ 4 กฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ งกับการเปนผปู ระกอบการ กฎหมายท่ีเกย่ี วขอ งกบั การเปนผูประกอบการ 1. กฎหมายทะเบียนพาณชิ ย 5. กฎหมายคุมครองผบู ริโภค 2. ภาษเี งินไดบคุ คลธรรมดา 6. กฎหมายแรงงาน องคป ระกอบของการประกอบ 3. ภาษเี งนิ ไดนติ บิ ุคคล 7. กฎหมายลขิ สทิ ธ์ิ สิทธบิ ตั ร และเคร่ืองหมายการคา 4. ภาษีมลู คา เพม่ิ 8. ภาษปี าย ภาษโี รงเรอื น และทีด่ ิน หนว ยที่ 4 : กฎหมายท่เี กย่ี วขอ งกบั การเปนผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 63 หนว ยที่ 4 กฎหมายท่ีเกี่ยวของกับการเปน ผูประกอบการ 1. สาระสาํ คัญ การเปนผูประกอบการท่ีประสบความสําเร็จน้ัน นอกจากจะตองศึกษาถึงวิธีการเปน ผูประกอบการแลวผูประกอบการจําเปนตองศึกษาถึงกฎหมายที่เกี่ยวของกับธุรกิจของตนเองและ กฎหมายท่ีสําคัญหลัก ๆ เพื่อเปนการปองกันขอผิดพลาดในการทํานิติกรรมสัญญาตาง ๆ เพราะ อาจจะมีโอกาสเสียเปรียบบุคคลอ่ืนได นอกจากกฎหมายท่ีเก่ียวกับการทํานิติกรรมแลว ผปู ระกอบการตองศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานและกฎหมายอ่ืน ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ งทุกประเภทดวย การตัดสินใจดําเนินธุรกจิ ของผูประกอบการทกุ เร่ืองจะเก่ียวของกบั กฎหมายท้ังส้นิ 2. สาระการเรยี นรู 1. กฎหมายทะเบยี นพาณชิ ย 2. ภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา 3. ภาษเี งินไดน ติ ิบคุ คล 4. ภาษมี ลู คาเพม่ิ 5. กฎหมายคุมครองผบู ริโภค 6. กฎหมายแรงงาน 7. กฎหมายลขิ สทิ ธ์ิสทิ ธิบตั รและเครื่องหมายการคา 8. ภาษปี า ยภาษโี รงเรือนและทดี่ นิ จุดประสงคเชิงพฤตกิ รรม เมอื่ ศกึ ษาหนว ยที่ 4 จบแลวผเู รยี นสามารถ 1. เพอ่ื ใหม คี วามรูเก่ียวกบั กฎหมายทะเบยี นพาณชิ ย 2. เพอ่ื ใหม คี วามรเู ก่ียวกับภาษเี งินไดบ ุคคลธรรมดา 3. เพอ่ื ใหม คี วามรเู กย่ี วกบั ภาษเี งนิ ไดน ิตบิ คุ คล 4. เพื่อใหม ีความรเู กี่ยวกับภาษมี ลู คา เพิม่ หนว ยท่ี 4 : กฎหมายท่เี กี่ยวขอ งกับการเปน ผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 64 5. เพอ่ื ใหม คี วามรเู กีย่ วกบั กฎหมายคมุ ครองผูบ รโิ ภค 6. เพือ่ ใหม ีความรเู กย่ี วกบั กฎหมายแรงงาน 7. เพอ่ื ใหม คี วามรเู ก่ียวกับกฎหมายลขิ สิทธส์ิ ิทธบิ ตั รและเครื่องหมายการคา 8. เพอ่ื ใหม ีความรเู กี่ยวกับภาษปี า ยภาษีโรงเรือนและทดี่ ิน 9. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา นิยมและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคอยา งมเี หตุผล 10. มีเจตคติทดี่ แี ละเหน็ คุณคา ของกฎหมายทเี่ ก่ียวขอ งกับการเปน ผูประกอบการ หนว ยที่ 4 : กฎหมายท่ีเกยี่ วของกับการเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 65 แบบทดสอบกอ นเรียน หนว ยที่ 4 กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ งกับการเปน ผปู ระกอบการ คาํ ช้แี จง จงทาํ เครอื่ งหมาย (X) ลงหนาขอ ทถี่ กู ตอ งทส่ี ุด 1. ขอ ใดไมเ ปน สัญญาตางตอบแทน ก. ลูกจางทาํ งานใหน ายจา งดวยสมอง ข. นายจา งจา ยคาจางใหล ูกจาง ค. ลูกจางทาํ งานใหนายจา งดวยแรงงาน ง. หากเปนคนดลี กู จะไดรบั มรดก 2. สัญญาซอื้ ขายท่ียังไมไ ดโอนกรรมสทิ ธิ์เรยี กวา สญั ญาอะไร ก. จะซื้อจะขาย ข. ยอมความ ค. คําม่ันวา จะซื้อหรือจะขาย ง. ซือ้ ขายเสรจ็ เดด็ ขาด 3. ขอใดไมใชเหตแุ หงการระงบั สัญญาจางแรงงาน ก. ครบเวลาจา งตามทตี่ กลงกันไว ข. สิน้ สดุ สัญญาจา ง ค. งานทีจ่ างไดส าํ เร็จลลุ วงลง ง. จางทาํ ลว งเวลาตอ 4. กจิ การทีม่ ีรายไดต อ ปเกินเทา ไหรจ ึงตองเสยี ภาษมี ลู คาเพม่ิ ในอัตรารอ ยละ 7 ก. 2,200,000 ข. 2,000,000 ค. 1,800,000 ง. 1,600,000 5. กจิ การใดทีต่ อ งจดทะเบียนพาณชิ ย ก. สหกรณ ข. มูลนิธิ ค. การคาเร ง. การคา แผงลอย หนว ยท่ี 4 : กฎหมายทเ่ี กยี่ วของกับการเปนผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 66 6. สง่ิ สาํ คัญท่ีสดุ ในการวัดความสําเร็จของผปู ระกอบการคือ ก. การเสยี ภาษใี หรัฐเตม็ เมด็ เต็มหนว ย ข. สรางประโยชนใ หส งั คมมากทส่ี ดุ ค. ความพึงพอใจของลกู คา ง. เปน เจาของกจิ การ 7. เงนิ ไดพงึ ประเมนิ ประเภทใดทีต่ อ งเสยี ภาษคี รง่ึ ป ก. เงินไดพงึ ประเมินประเภทที่ 1, 2, 3 ข. เงินไดพ งึ ประเมินประเภทที่ 4, 5, 6 ค. เงนิ ไดพ งึ ประเมินประเภทท่ี 7, 8 ง. ถกู ทกุ ขอ 8. ขอใดคอื อัตราภาษโี รงเรอื นและทด่ี นิ ก. อัตรารอ ยละ 3 ตอ ป ข. อตั รารอยละ 3.5 ตอ ป ค. อตั รารอยละ 10 ตอ ป ง. อตั รารอยละ 12.5 ตอป 9. ขอ ใดตอ ไปนก้ี ฎหมายไมใ หก ารคุม ครองลขิ สทิ ธิ์ ก. งานหนังสือ ข. ขาว ค. เพลง ง. การแสดง 10. เคร่ืองหมายการคามีอายกุ ารคุมครองกป่ี ก. 3 ป ข. 5 ป ค. 10 ป ง. 20 ป หนวยท่ี 4 : กฎหมายที่เก่ยี วขอ งกบั การเปน ผูป ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 67 1. สาระสาํ คญั การเปน ผปู ระกอบการจะตองมกี ารติดตอ ประสานงานและเกยี่ วของกบั บคุ คลหลายฝายไมวา จะเปน ลูกคา คแู ขง ขนั ทางการคา พนักงาน ชุมชน สิง่ แวดลอมและคคู า เปนตน การเกย่ี วของกบั บุคคลหลายฝายอาจทําใหกิจการไดรับความเสียหายที่กระทบตอการประกอบการได ดังน้ัน ผูประกอบการจําเปนตองศึกษากฎหมายที่เกี่ยวของใหเขาใจเพื่อกฎหมายจะไดคุมครองใหความ ชวยเหลือและเปนการสรางความมั่นใจ มน่ั คงและความเจริญเติบโตยั่งยืนของธุรกิจ กฎหมายท่ี เกี่ยวของกบั การประกอบธรุ กิจแบงตามกลมุ ดงั น้ี 1. กลุมกฎหมายท่เี กี่ยวของกบั การประกอบธรุ กิจท่ัวไป 2. กลุม กฎหมายที่เกีย่ วของกับธุรกิจอตุ สาหกรรม 3. กลุมกฎหมายทีเ่ ก่ยี วของกบั ธรุ กิจการคาและบริการ 4. กลมุ กฎหมายท่ีเกีย่ วของกบั การคุมครองผบู ริโภค ในหนวยนีจ้ ะขอกลาวถงึ กฎหมายที่เก่ียวของกับการเปนผูป ระกอบการโดยตรงเทา นั้น เพื่อ เปน แนวทางใหกับผปู ระกอบการทจี่ ะเริ่มตนธรุ กิจ 2. กฎหมายทะเบยี นพาณชิ ย ผูป ระกอบการทีเ่ กย่ี วของกับธุรกิจพาณชิ ย เรยี กวา “ผปู ระกอบพาณชิ ยกิจ” ไมวา จะเปน บุคคลธรรมดา นติ ิบคุ คล ซึ่งประกอบพาณชิ ยกจิ เปนอาชีพปกตใิ หป ฏบิ ตั ิตาม พ.ร.บ.ทะเบยี น พาณิชย สรปุ ไดด งั น้ี 1.1 กจิ การพาณิชยกจิ 1. กิจการพาณชิ ยกจิ ทตี่ อ งจดทะเบยี นพาณิชยต าม พ.ร.บ.ทะเบยี นพาณิชย ตามมาตรา 6 กําหนดใหธ รุ กจิ พาณชิ ยต อ ไปนตี้ อ งจดทะเบยี น ตอ ไปน้ี ∆ การซื้อ การขาย การขายทอดตลาด การแลกเปลย่ี น ∆ การใหเชา การใหเ ชาซ้อื ∆ การเปนนายหนาหรือตัวแทนคาตา ง ๆ ∆ การขนสง ∆ การหตั ถกรรม การอุตสาหกรรม ∆ การรับจางทาํ ของ ∆ การใหกยู มื เงิน การรับจาํ นาํ การรับจํานอง ∆ การคลงั สนิ คา ∆ การรบั แลกเปลย่ี นหรอื ซื้อขายเงินตราตา งประเทศ การซือ้ หรือขายตวั๋ เงนิ การธนาคาร การเครดติ ฟองซิเอร การโพยกว น ∆ การรับประกันภยั ∆ กิจการอื่นซึ่งกาํ หนดโดยพระราชกฤษฎกี า หนวยที่ 4 : กฎหมายที่เกี่ยวของกบั การเปน ผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 68 2. กจิ การพาณิชยกจิ ทไี่ มต อ งจดทะเบยี นพาณชิ ย ตามมาตรา 7 ไดแ ก ∆ การคา เร การคา แผงลอย ∆ พาณชิ ยกจิ เพอื่ การบํารงุ ศาสนาหรือเพ่อื การกุศล ∆ พาณิชยกิจของนติ บิ คุ คลซงึ่ ไดม ีพระราชบญั ญตั หิ รอื พระราชกฤษฎีกาจดั ตง้ั ขน้ึ ∆ พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม ∆ พาณิชยกจิ ของมลู นิธิ สมาคม สหกรณ ∆ พาณชิ ยกจิ ซ่งึ รฐั มนตรไี ดประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา 2.2 การจดทะเบยี นพาณิชย 1. การยื่นคําขอจดทะเบียน ผูประกอบการพาณิชยจะตองยื่นคําขอจดทะเบียน พาณชิ ย ภายใน 30 วัน นับตั้งแตเ รมิ่ ประกอบการ 2. สถานท่ีย่ืนคําขอจดทะเบียน การจดทะเบียนน้ันผปู ระกอบการพาณิชยกิจต้ัง สาํ นักงานใหญในทองที่ใดใหจ ดทะเบยี น ณ สํานกั งานทะเบียนพาณชิ ยใ นทองที่นนั้ กรณสี ํานักงาน ใหญต้ังอยทู ี่ตางประเทศและมาประกอบกจิ การในประเทศไทย สํานกั งานสาขาใหญต ั้งในเขตทองท่ี ใดใหจดทะเบียนพาณิชย ณ สํานักงานทะเบียนพาณิชยในทองท่ีนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการคา กระทรวงพาณิชยเ ปนสํานักงานทะเบียนกลางในกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองคการบริหาร สวนจงั หวดั เปนสํานักงานทะเบียนพาณชิ ย เพือ่ จดทะเบยี นพาณิชยในทองทีข่ องตน 3. การปฏบิ ัตเิ มื่อไดร บั ทะเบียนพาณชิ ย เม่อื นายทะเบยี นพาณชิ ยรับจดทะเบียนและ ออกใบทะเบยี นแลว ใหผปู ระกอบการแสดงใบทะเบยี นพาณิชยหรือใบแทนใบทะเบยี นพาณิชยไ ว ณ สํานักงานในท่ีเปดเผยเห็นไดงาย ถาใบทะเบียนพาณิชยสญู หายผูประกอบการณยื่นคําขอรับใบแทน ใบทะเบยี นพาณิชยภ ายใน 30 วนั นบั ต้งั แตวนั ที่สูนหาย 4. ปายชื่อกิจการ เมอ่ื จดทะเบยี นพาณิชยแ ลวใหผปู ระกอบการจดั ใหมีปา ยชื่อกจิ การ ทใ่ี ชใ นการประกอบการโดยตดิ ไวห นา สํานักงานใหญแ ละสํานกั งานสาขาภายใน 30 วัน นับแตวนั ท่ีจด ทะเบียน ปายชื่อน้ีใหเขียนเปนอักษรไทยอานไดงายและชัดเจนและจะมีอักษรตางประเทศดวยก็ได ปา ยชอ่ื กจิ การหรอื เอกสารใดๆ กต็ ามตอ งใชใ หตรงกบั ชอ่ื จดทะเบียนและถา เปนสํานกั งานสาขาตอ งมี สาขาดวย 2.3 บทลงโทษ ผูประกอบการพาณิชยใดที่ไมจดทะเบียน แสดงรายการเท็จหรือไมมาใหนายทะเบียน สอบสวน ไมยอมใหถ อยคาํ หรือไมยอมใหนายทะเบียนตรวจสอบ มคี วามผดิ ระวางโทษปรับไมเ กิน 2,000 บาท และในกรณีไมจดทะเบียนอันเปนความผิดตอเนื่อง ใหปรับอีกวันละไมเกิน 100 บาท จนกวาจะปฏบิ ตั ติ ามพระราชบัญญตั นิ ้ี 3. ภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา ภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดา คอื ภาษที รี่ ัฐบาลจดั เกบ็ จากบคุ คลทว่ั ไปซงึ่ มีรายไดต ามเกณฑท ่ี กฎหมายกําหนดหรอื จากหนว ยงานทม่ี ลี กั ษณะพิเศษตามทก่ี ฎหมายกําหนด หนวยท่ี 4 : กฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ งกับการเปน ผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 69 3.1 ผูมหี นาท่ีเสียภาษเี งินไดบ ุคคลธรรมดา ไดแก ผูทีม่ ีเงินไดเกิดขนึ้ ระหวางปท่ีผา นมา โดยมีสถานะอยา งหนึ่งอยา งใด ดังน้ี 1. บคุ คลธรรมดา หมายถงึ ผบู รรลนุ ิตภิ าวะ ผูเ ยาว คนไรความสามารถ หรือคนเสมือน ไรค วามสามารถ 2. หางหุน สว นสามัญหรอื คณะบุคคลทม่ี ใิ ชนติ ิบุคคล 3. ผถู ึงแกค วามตายระหวางปภ าษี 4. กองมรดกทยี่ ังไมไดแ บง 3.2 เงินไดพ ึงประเมนิ หมายถงึ เงนิ ไดท่ีเขาลกั ษณะตอ งนํามาเสยี ภาษรี วมถงึ ทรพั ยสินอ่ืน หรือประโยชนอ น่ื ทไ่ี ดรับท่อี าจคาํ นวณเปน เงินได เงนิ คาภาษีท่ีผจู ายเงินหรือผูอนื่ ออกแทนให และ เครดติ ภาษีทกี่ ฎหมายกําหนดดวย เงินไดพงึ ประเมนิ แบง เปน 8 ประเภท ดังนี้ 1. เงินไดพึงประเมนิ ประเภทท่ี 1 ไดแก เงินไดเนื่องจากการจางงาน ไมวา จะเปน เงินเดือน คาจาง เบ้ียเล้ยี ง โบนสั เบย้ี หวดั บําเหน็จ และบํานาญ 2. เงินไดพ ึงประเมนิ ประเภทที่ 2 ไดแก เงนิ ไดเน่ืองจากหนาที่หรือหนา ทต่ี ําแหนง งานท่ที าํ หรือการรบั ทาํ งานใหไ มวาจะเปน คาธรรมเนยี ม คา นายหนา คา สวนลด เงนิ อดุ หนุนในงานทท่ี ํา เบ้ียประชมุ บําเหน็จ โบนัส และเงนิ คา เชา บานท่ีไดรับจากหนาท่หี รือตาํ แหนง งานทท่ี าํ 3. เงินไดพ งึ ประเมนิ ประเภทที่ 3 ไดแ ก เงินจากคากดู วลิ ล คาแหง ลขิ สิทธิห์ รอื สทิ ธิ อยา งอืน่ เงินปห รือเงินไดเ นอ่ื งจากพินัยกรรม นติ กิ รรมอยา งอ่นื หรอื คาํ พพิ ากษาของศาล 4. เงินไดพึงประเมนิ ประเภทที่ 4 เปนเงนิ ไดจากการลงทุน ไดแก ดอกเบ้ียพันธบัตร ดอกเบ้ียเงินฝาก ดอกเบ้ียหนุ กู ดอกเบี้ยตว๋ั เงิน ดอกเบี้ยเงนิ กยู มื เงนิ ปน ผล สวนแบงผลกําไรหรอื ผลประโยชนอน่ื เงนิ โบนัสท่จี า ยใหแ กผ ถู อื หนุ หรอื ผเู ปน หุนสวนนิติบุคคล เปนตน 5. เงินไดพ งึ ประเมินประเภทท่ี 5 ไดแก เงินหรอื ประโยชนอื่นที่ไดเ นอ่ื งจากการใหเชา ทรัพยสิน การผิดสัญญาเชาซ้ือทรัพยส ิน การผิดสัญญาซ้ือขายเงินผอนที่ผูขายไดรบั คืนทรัพยส ินที่ซื้อ ขายโดยไมตองคืนเงิน หรอื ประโยชนท่ไี ดร บั ไวแ ลว 6. เงินไดพึงประเมนิ ประเภทท่ี 6 เงินไดจากวิชาชพี อิสระ ไดแ ก กฎหมาย การ ประกอบโรคศิลปะ วศิ วกรรม สถาปตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวชิ าชพี อ่ืนที่ไดมี พระราชกฤษฎีกากาํ หนดไว 7. เงินไดพ ึงประเมินประเภทที่ 7 เงินไดจากการรับเหมาท่ีผูรับเหมาตองมาลงทุน โดยการจัดหาสมั ภาระในสว นสําคญั นอกจากเครื่องมอื 8. เงินไดพ ึงประเมินประเภทท่ี 8 ไดแ ก การประกอบธรุ กิจการพาณชิ ย การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนสง การขายอสงั หาริมทรพั ย หรือการอืน่ นอกจากท่รี ะบุไวใ นประเภทท่ี 1 ถึงประเภทท่ี 7 แลว หนว ยท่ี 4 : กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ งกบั การเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 70 3.3 การย่นื แบบแสดงรายการภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดาและการชาํ ระภาษี 1. การย่ืนแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดาและการชาํ ระภาษี ช่ือแบบ เง่อื นไขการย่นื แบบ กําหนดเวลายนื่ ภ.ง.ด. 90 กรณมี เี งินไดพงึ ประเมินหลายประเภทหรอื มกราคม – มีนาคมของปภาษีถัดไป ประเภทอ่นื อยางเดยี ว ภ.ง.ด. 91 กรณที ่ีมีเงินไดพึงประเมินประเภทที่ 1 มกราคม – มีนาคมของปภ าษถี ัดไป ประเภทเดยี ว ภ.ง.ด. 93 กอ นถึงกําหนดเวลาย่นื แบบตามปกติ ภ.ง.ด. 94 มีเงินไดข อชาํ ระภาษลี วงหนา กรกฎาคม – กนั ยายนของปภ าษีน้นั ยื่นครึ่งปส าํ หรับผมู เี งนิ ไดพ งึ ประเมินเฉพาะ ประเภทที่ 5, 6, 7 และ 8 2. สถานทยี่ น่ื แบบแสดงรายการ ∆ เขตกรุงเทพมหานคร ใหย ื่นแบบแสดงรายการภาษีไดท ีส่ ํานักงานสรรพากรพืน้ ท่ี สาขาในทอ งท่ที ่สี าํ นกั งานใหญต ้งั อยู ∆ เขตจงั หวัดอื่นใหย ื่นแบบแสดงรายการภาษี ณ สรรพากรเขตพ้นื ทสี่ ํานกั งานต้งั อยู ∆ ยนื่ แบบแสดงรายการภาษผี า นอนิ เตอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซตก รมสรรพากร www.rd.go.th 4. ภาษีเงนิ ไดน ิตบิ คุ คล ภาษีเงินไดน ิตบิ ุคคล เปน ภาษอี ากรประเภทหนึ่งทบี่ ญั ญัติไวใ นประมวลรษั ฎากร จัดเก็บจาก เงินไดข องบริษทั หรือหางหุนสวนนิติบุคคลทจ่ี ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชยและ หมายความรวมถงึ นิตบิ คุ คลอนื่ ๆ ท่ไี มไ ดจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชยด วย 4.1 ผมู หี นาทเี่ สียภาษีเงินไดน ติ บิ ุคคล มีดงั น้ี 1. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่ต้ังข้ึนตามกฎหมายไทย ไดแก บริษัทจํากัด บริษัท มหาชนจํากัด หางหุน สวนจาํ กัด และหางหุนสว นสามัญจดทะเบยี น 2. บรษิ ัทหรอื หางหนุ สวนนิติบุคคลที่ตง้ั ขึน้ ตามกฎหมายตางประเทศ ซ่งึ มหี นา ท่ีเสีย ภาษีเงินไดน ติ ิบุคคลในประเทศไทย 3. กิจการซึ่งดําเนินการเปนทางคาหรือหากําไรโดยรัฐบาลตางประเทศ องคการของรัฐบาล ตา งประเทศ หรือนิติบุคคลอืน่ ท่ีตั้งข้นึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ 4. กจิ การรวมคา (Joint Venture) ไดแก กิจการทดี่ ําเนินการรว มกนั เปน ทางการคาหรอื หากาํ ไรระหวา งบุคคล เชน บริษัทกับบรษิ ัท บริษัทกับหางหุนสวนนิติบุคคล หางหุนสวนนิติบุคคล หนวยที่ 4 : กฎหมายทเ่ี ก่ยี วของกบั การเปน ผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 71 กับหา งหนุ สว นนติ ิบคุ คล บรษิ ทั และหรือหางหนุ สว นนติ บิ คุ คลกับบุคคลธรรมดา บรษิ ัทและหรอื หาง หนุ สวนนิตบิ ุคคลกบั คณะบคุ คลท่ีมิใชนติ บิ คุ คล เปนตน 5. มูลนิธิหรือสมาคมท่ีประกอบกิจการซึ่งมีรายไดแตไมรวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมท่ี รัฐมนตรปี ระกาศกาํ หนดใหเปนองคก ารหรือสถานสาธารณกศุ ล 6. นิตบิ ุคคลทอ่ี ธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานเุ บกษาใหเปน บริษัทหรอื หา งหุนสวนนิตบิ ุคคลตามประมวลรัษฎากร 4.2 ฐานภาษใี นการคาํ นวณภาษีเงนิ ไดนติ บิ คุ คล ภาษเี งินไดน ิตบิ ุคคลคาํ นวณจากเงินไดท่ี ใชเ ปนหลักฐานในการคํานวณภาษคี ูณดวยอัตราภาษีที่กําหนด (อัตราภาษีจากกําไรสุทธิของบริษัท หรือหา งหุนสวนนิติบุคคลรอยละ 30) เพื่อความเปนธรรมและอุดชองวางในการจัดเก็บภาษีเงินได จึงไดม กี ารบญั ญัตกิ ารจดั เก็บภาษีเงนิ ไดนิตบิ คุ คลจากเงินไดหรือฐานภาษีท่แี ตกตา งกนั ดงั นี้ ∆ กาํ ไรสุทธิ ∆ ยอดรวมรายไดกอ นหักรายจาย ∆ เงินไดท จี่ ายจากหรือในประเทศ ∆ การจาํ หนา ยเงินกําไรออกไปจากประเทศไทย 4.3 การย่นื แบบแสดงรายการภาษีเงินไดน ิติบุคคลและการชําระภาษี 1. แบบแสดงรายการ ภาษีภ.ง.ด. 50, ภ.ง.ด. 51, ภ.ง.ด. 53, และ ภ.ง.ด. 54 2. สถานทยี่ ื่นแบบแสดงรายการ ∆ เขตกรุงเทพมหานคร ใหย ่ืนแบบแสดงรายการภาษีไดท ่สี ํานักงานสรรพากรพื้นท่ี สาขาในทองท่ีทส่ี ํานักงานใหญต งั้ อยู ∆ เขตจงั หวดั อน่ื ใหย นื่ แบบแสดงรายการภาษี ณ สรรพากรเขตพนื้ ทีท่ ส่ี ํานกั งานใหญ ตง้ั อยู ∆ ยนื่ แบบแสดงรายการภาษีผานอนิ เตอรเน็ต ทางเวบ็ ไซตกรมสรรพากร www.rd.go.th 5. ภาษีมลู คา เพม่ิ ภาษีมูลคาเพ่ิม เปนภาษีที่เรียกเก็บจากผูขายสินคาและบริการในประเทศ และการนําเขา สนิ คา ผูป ระกอบการท่ีขายสินคาหรือใหบริการทางธรุ กิจหรือวชิ าชีพท่ีเปน ปกติธรุ ะไมวาจะประกอบ กจิ การในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบคุ คล หรือหา งหนุ สวนสามัญที่มิใชน ิตบิ ุคคลหรอื นิตบิ ุคคลใด ๆ หากมีรายรับจากการขายสนิ คาหรือใหบ ริการเกนิ กวา 1.8 ลา นบาทตอป มหี นา ที่ตอ งย่ืนคําขอ จดทะเบยี นภาษมี ูลคาเพมิ่ เพอื่ เปน ผูประกอบการจดทะเบียน หนว ยที่ 4 : กฎหมายทเ่ี ก่ยี วของกบั การเปน ผูป ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 72 5.1 ความหมายของภาษีมลู คา เพม่ิ (Value Added Tax : VAT) หมายถงึ ภาษที ีเ่ รียก เกบ็ จากมลู คา ของสนิ คา หรอื บรกิ ารในสว นท่เี พิม่ ข้ึนแตละขน้ั ตอนของการผลิตและการจาํ หนายสนิ คา หรือบริการชนิดตา งๆ ภาษีมลู คาเพิม่ = ภาษีขาย – ภาษซี อื้ ภาษีขาย (Sales Tax) คือ ภาษีมูลคาเพ่ิมท่ีผูประกอบการจดทะเบียนไดเรียกเก็บจาก ผซู ้ือสนิ คาหรอื บรกิ ารเมอื่ ไดข ายสนิ คาหรือบริการ หากภาษขี ายเกดิ ขนึ้ ในเดือนใดก็เปน ภาษขี ายของเดือน น้นั โดยไมคาํ นงึ วาสินคา ที่ขายหรอื บริการจะซอ้ื มาหรือเปนผลมาจากการผลติ ในเดอื นใดกต็ าม ภาษีซ้ือ (Purchase Tax) คือ ภาษีมูลคาเพ่ิมท่ีผูประกอบการจดทะเบียนไดจายใหกับ ผขู ายสินคาหรือผูใหบรกิ ารท่ีเปนผูประกอบการจดทะเบียนอ่นื เมื่อซอ้ื สินคาหรอื รับบรกิ ารเพอ่ื ใชใ น กจิ การของตนทง้ั ทเี่ ปนวตั ถดุ ิบหรอื สนิ คาประเภทเครอ่ื งจักร เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ เปน ตน หาก ภาษีซ้ือเกิดข้นึ ในเดือนใดก็เปนภาษซี ้ือเดอื นนั้น โดยไมคํานงึ วาสนิ คาทซ่ี ื้อน้นั จะขายหรอื นาํ ไปใชใ น การผลิตเดอื นใดกต็ าม ถาภาษขี าย “มากกวา” ภาษีซอื้ กิจการตอ งชําระภาษมี ลู คา เพ่มิ ถา ภาษีขาย “นอ ยกวา” ภาษีซือ้ กจิ การขอคืนภาษีได 5.2 ผูมหี นาท่ีเสียภาษีมูลคาเพ่ิม ผูประกอบการท่ีอยใู นรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคล นิติบุคคล สวนราชการ หรือองคกรของรัฐบาลท่ีมีรายไดเกินกวา 1,800,000 บาทตอ ป และ ประกอบธรุ กิจตอ ไปนี้ 1. ผปู ระกอบการ ไดแ ก ผูผลิต ผูใหบริการ ผขู ายปลีก ผสู องออก ซง่ึ ขายสินคา หรอื ใหบ ริการในทางธุรกจิ หรอื วชิ าชีพ และประกอบกจิ การในราชอาณาจักร 2. ผูนําเขา ไดแก ผปู ระกอบการหรือบุคคลอน่ื ซ่ึงนาํ สินคาเขามาในราชอาณาจกั รและ ยังรวมถึงการนําสินคาทตี่ อ งเสียอากรขาเขา หรือสินคาท่ีไดรับการยกเวนอากรขาเขาตามกฎหมายวา ดวยศลุ กากรออกจากเขตอุตสาหกรรมสงออก โดยมิใชเพือ่ การสงออกดว ย 3. ผูท่ีกฎหมายกําหนดเปนพิเศษใหเ ปน ผูทมี่ หี นาที่เสียภาษมี ูลคา เพ่ิมเพ่ือประโยชนใน การจัดเก็บภาษี เชน ตัวแทนของผูประกอบการท่ีอยูนอกราชอาณาจักร และขายสินคาหรือ ใหบริการในราชอาณาจักรเปนปกติ หรือในกรณีที่ผูรับโอนสินคาจากการนําเขาท่ีไดรับการยกเวน ภาษมี ูลคา เพ่มิ ในอตั รารอยละ 0 เปนตน 5.3 การจดทะเบียนภาษีมูลคาเพ่ิม การจดทะเบียนภาษีมูลคา เพิ่มของผูประกอบการให ยื่นคําขอ จดทะเบียนภาษีมูลคาเพ่ิมตามแบบ ภ.พ. 01 เม่ือเจาพนักงานไดรับคําขอจดทะเบียน ภาษีมูลคาเพิ่มตามแบบ ภ.พ. 01 พรอมเอกสารที่เก่ียวของครบถวนแลวจะออกใบทะเบียน ภาษมี ลู คาเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 20) ใหผูประกอบการซึ่งจะมีผลใหผูประกอบการเปนผปู ระกอบการจด ทะเบียนตามกฎหมาย นบั ตง้ั แตวนั ที่ระบุไวใ นใบทะเบียนภาษมี ลู คาเพ่ิมเปนตน ไป หนว ยท่ี 4 : กฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ งกบั การเปนผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 73 เม่ือกรมสรรพากรออกใบทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม (ภ.พ .20) ใหแกสถานประกอบการ ผูประกอบการจดทะเบยี นจะตองนําใบทะเบยี นดงั กลาวไปแสดงไว ณ สถานประกอบการแตละแหง ในสถานทีท่ เี่ หน็ ไดง ายและเปดเผย กรณีที่ใบทะเบยี นภาษมี ูลคาเพ่ิมสูญหาย ถกู ทําลาย หรอื ชํารุดในสาระสาํ คัญ ผปู ระกอบการจด ทะเบียนจะตองยนื่ คาํ ขอรับใบแทนใบทะเบยี นภาษีมลู คา เพ่ิม ณ สถานที่ที่ไดจดทะเบียนภาษีมลู คาเพม่ิ ไวภ ายใน 15 วัน นับวันแตว ันทท่ี ราบถงึ การสูญหาย ถูกทําลาย หรือชาํ รดุ ซ่งึ ใบแทนดังกลาวถอื เปน ใบทะเบียนภาษมี ลู คาเพม่ิ 5.4 การยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลคา เพิ่มและการชาํ ระภาษี การยื่นแบบแสดงรายการ ภาษแี ละชําระภาษีโดยยนื่ “แบบ ภ.พ. 30” ณ ท่ีวาการอาํ เอทอ งที่ทสี่ ถานประกอบการต้งั อยูภายในวนั ท่ี 15 ของเดอื นถดั ไป ไมว า จะมกี ารขายสินคาหรอื ใหบ รกิ ารในเดอื นภาษนี ัน้ หรือไมกต็ าม 5.5 หนาที่ของผูประกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา เพิ่ม 1. เรยี กเกบ็ ภาษมี ลู คา เพ่ิมจากผซู ื้อสนิ คา หรอื ผูร บั บรกิ าร และออกใบกาํ กบั ภาษีเพ่อื เปน หลักฐานในการเรียกเกบ็ ภาษมี ลู คา เพิม่ 2. จัดทาํ รายงานตามทีก่ ฎหมายกําหนด ซ่งึ ไดแก ∆ รายงานภาษีซ้ือ ∆ รายงานภาษขี าย ∆ รายงานสินคา และวตั ถดุ บิ 3. ย่ืนแบบแสดงรายการเพ่ือเสยี ภาษีตามแบบ ภ.พ.30 6. กฎหมายคุม ครองผบู ริโภค กฎหมายคุมครองผูบริโภค เปน กฎหมายที่เกยี่ วกับการดํารงชีวติ ของคนในสงั คม โดยท่วั ไปจะ เกย่ี วของกบั การบรโิ ภคสินคาและการใชบริการ สืบเน่ืองจากระบบเศรษฐกิจเสรซี ึ่งเปน ระบบท่ีเปด โอกาสใหเอกชนแขงขันในทางการคา รฐั บาลในฐานะผคู มุ ครองดูแลประชาชนหากพบวา ประชาชน ไดรับความเดือดรอนจากการบริโภคสินคา และบรกิ ารจะตองรีบเขา ไปแกไขเยยี วยาและชดเชยความ เสียหายใหกับประชาชน โดยมีคณะกรรมการการคุมครองผูบรโิ ภค หรือ สคบ. มีหนาที่ในการรับ เรือ่ งรองเรียนจากผูบรโิ ภคหรือหนวยงานอื่นท่ีเกี่ยวของ รวมถึงมีหนาทีใ่ นการตรวจการโฆษณาสนิ คา และฉลากสนิ คาตา ง ๆ ดว ยเหตนุ ี้รัฐบาลจงึ คมุ ครองสทิ ธิของผูบ ริโภคไวดวยการตรากฎหมายขึน้ เพ่อื คุมครองสิทธิของ ผูบริโภค และเขาไปดําเนินคดีเม่ือผูบริโภคถูกละเมิดสิทธิ์ ผูประกอบการจึงตองศึกษากฎระเบียบ ขอ บงั คับท่ีเปน ขอ หา มหรือขอควรปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายคมุ ครองผบู ริโภค กฎหมายคมุ ครองผบู รโิ ภคใน สว นท่ีเกยี่ วขอ งกบั การคมุ ครองผบู รโิ ภคมี 3 สว น ดงั น้ี หนว ยท่ี 4 : กฎหมายทีเ่ ก่ยี วของกับการเปน ผูป ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 74 6.1 การคุมครองผบู ริโภคดานโฆษณา โฆษณา หมายความถงึ การกระทําไมวาโดยวิธีใด ๆ ใหประชาชนเห็นทราบขอ ความเพื่อ ประโยชนท างการคา (ตามมาตรา 3 แหงพระราชบญั ญัตคิ มุ ครองผบู ริโภค พ.ศ. 2522) การใชง าน โฆษณาในบางคร้ังไดฝ า ฝนขอหา มหรือไมป ฏบิ ัติตามกฎหมาย รัฐบาลมหี นาทต่ี องรบั ผดิ ชอบอยางใด อยางหนงึ่ กฎหมายกาํ หนดการคุม ครองผบู ริโภคดา นการโฆษณาไวด ังน้ี 1. การโฆษณาจะตองไมใชขอความท่ีเปนการไมเปนธรรมตอผูบริโภค หรอื ใชขอความท่ี อาจกอ ใหเกดิ ผลเสียตอ สงั คมเปนสวนรวม ท้ังนี้ไมวาขอความดังกลาวน้ันจะเปนขอความท่ีเก่ียวกับ แหลงกําเนิด สภาพคณุ ภาพหรือลักษณะของสนิ คาหรือบรกิ าร ตลอดจนการสงมอบ การจดั หา หรือ การใชสินคาหรือบริการ ขอความท่ีถือวาเปนขอความท่ีเปนการไมเปนธรรมตอผูบริโภค หรือเปน ขอความท่ีอาจกอใหเกดิ ผลเสียหายตอสังคมเปนสว นรวม มลี ักษณะดงั ตอ ไปนี้ 1.1 ขอความที่เปนเทจ็ หรอื เกินความจริง 1.2 ขอความทจี่ ะกอใหเกดิ ความเขาใจผิดในสาระสําคัญเกย่ี วกบั สนิ คา หรอื บริการ ไมว า จะกระทาํ โดยใชหรืออา งอิงรายงานทางวิชาการ สถติ ิ หรอื ส่งิ ใด 1.3 ขอ ความท่ีเปน การสนบั สนุนโดยตรงหรือโดยออม ใหม กี ารกระทาํ ผดิ กฎหมาย หรอื ศลี ธรรมหรือนาํ ไปสคู วามเสอื่ มเสียในวฒั นธรรมของชวี ติ 1.4 ขอความท่ีจะทําใหเกิดความแตกแยกหรือเส่ือมเสียความสามัคคีในหมู ประชาชน 1.5 ขอ ความอยางอื่นตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง *** ขอความทีใ่ นการโฆษณาท่ีบุคคลท่ัวไปสามารถรูไดวาเปนขอความท่ีไมอาจเปนจริงโดยแนแท ไมเปนขอความทีต่ อ งหามในการโฆษณาตามขอ 1. 2. การโฆษณาจะตองไมกระทาํ ดวยวธิ กี ารอันอาจเปนอันตรายตอ สุขภาพ รา งกายหรอื จิตใจ หรืออนั กอ ใหเกดิ ความราํ คาญแกผบู รโิ ภค ทงั้ น้ตี ามทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง 6.2 การคุมครองผบู รโิ ภคดานฉลาก ฉลาก คอื รูปรอยประดษิ ฐก ระดาษหรอื ส่ิงอนื่ ใดท่ีทาํ ใหป รากฏขอความเก่ยี วกับสินคา ฉลากสินคา (Labeling) คือ รายละเอียดของขอมูลบนบรรจุภัณฑ ปจ จุบนั กฎหมายกําหนดให ผลติ ภณั ฑทุกชนิดมบี รรจภุ ัณฑตอ งปรากฏขอ มลู ตอไปนบ้ี นบรรจุภัณฑดว ยทกุ ชนิด 1. สนิ คาท่ีควบคุมฉลาก กฎหมายกําหนดประเภทสินคาที่ควบคุมฉลากมี 3 ประเภท ดังน้ี ประเภทท่ี 1 กฎหมายกําหนดใหสินคาที่ผลิตเพอ่ื ขายโดยโรงงานตามกฎหมายวา ดว ยโรงงานและสินคา ท่สี ัง่ หรอื นําเขา มาในราชอาณาจกั รเพือ่ ขายเปน สนิ คาทค่ี วบคมุ ฉลาก หนว ยท่ี 4 : กฎหมายท่เี กี่ยวของกบั การเปนผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 75 ประเภทที่ 2 สินคาท่ีอาจกอใหเ กิดอนั ตรายแกสขุ ภาพรางกายหรอื จติ ใจ เนือ่ งในการใช สินคาหรอื โดยสภาพของสนิ คานั้นหรือเปนสนิ คาท่ีประชาชนทว่ั ไปใชเปนประจํา 2. ลกั ษณะฉลากทคี่ วบคมุ ตองมลี ักษณะดงั นี้ ∆ ตองตรงตามเปนจริง ไมกอใหเกิดความเขาใจผิดเกี่ยวกับสาระสําคัญของ สนิ คา น้ัน ∆ ตองเปนภาษาไทยหรือภาษาไทยกํากับภาษาตางประเทศ สามารถเห็นและ อา นไดชัดเจน โดยฉลากของสนิ คา ท่ีควบคุมฉลากจะตอ งระบขุ อ ความตอไปนี้ 1. ชอื่ ประเภทหรอื ชนดิ ของสนิ คา 2. ช่ือหรือเครือ่ งหมายการคาของผผู ลิตหรอื ของผูนาํ เขาแลว แตกรณี 3. สถานทผี่ ลติ หรอื สถานทป่ี ระกอบธรุ กิจนําเขา แลว แตก รณี (ทีอ่ ยู–สถานทตี่ งั้ ทส่ี ามารถติดตอ ไดจริง) 4. ระบขุ อ ความที่แสดงใหเขาใจวา สินคา น้นั เปน อะไร ในกรณนี ําเขาใหร ะบุ ประเทศผูผลติ ดว ย 5. ตองระบขุ อความอนั จําเปน ไดแก ราคา ปริมาณ ขนาด มิติ ปรมิ าตร นํ้าหนกั หรือจํานวนบรรจุ วิธีใช ขอแนะนําในการใชหรือหามใช คําเตือน (ถามี) วันเดือนปที่ผลิตหรือ หมดอายุ หรือทคี่ วรใชกอ น 3. การแสดงฉลากสนิ คา ตอ งแสดงไวทตี่ วั สนิ คา ภาชนะบรรจหุ รอื หบี หอ สอดแทรก หรอื รวมไวก ับสินคา เอกสารหรือคูม อื ปายที่ตดิ ไวกบั สนิ คา หรอื เอกสารทส่ี ินคา หรอื ภาชนะทบ่ี รรจุ 6.3 การคมุ ครองผูบริโภคดานสัญญา การทําสัญญา คือ การที่บุคคลสองคนหรือสองฝายขึ้นไปมาตกลงกระทําการอยางใด อยางหน่งึ ขึน้ เพ่ือใหมีผลผกู พันกันในทางกฎหมาย เชน การทําสัญญาซื้อขาย ทาํ สัญญาเชาทรัพยสิน ทําสญั ญากยู ืมเงิน ขายฝาก จาํ นอง เปน ตน การทําสัญญาซ้ือขายเปนเรือ่ งท่ีมีความสาํ คัญที่สุด เพราะผซู ้ือจะตองลงช่ือผูกพันใน หนังสือสัญญากับผูข าย การเอารัดเอาเปรียบของผูขายหรือความเสียเปรียบของผูขาย หรอื ความ เสียเปรียบของผูซ้ือ อาจเกิดข้ึนไดหรือไมอยางไรอยูท่ีหนังสือสัญญา ดังน้ันเพื่อความปลอดภัย ไมประมาทและปอ งกันปญ หาทจี่ ะตามภายหลงั จึงตอ งคํานงึ ถงึ หลกั เกณฑในการทาํ สัญญาเอาไวด วย เชน การกูยืมเงนิ การนําทรัพยส นิ ไปจาํ นองหรือขายฝาก เปนตน 1. สญั ญาซ้ือขายหรอื สัญญาใหบ ริการ การประกอบธุรกจิ ขายสินคาหรอื บริการใด ถา สัญญาซ้ือขายหรือสัญญาใหบริการน้ันมีกฎหมายกําหนดใหตองทําเปนหนังสือหรือที่ตามปกติ ประเพณีทําเปนหนังสือ ในการประกอบธุรกิจที่ควบคุมสัญญา สัญญาท่ีผูประกอบธุรกิจทํากับ ผูบรโิ ภคจะตองมีลักษณะดงั นี้ หนวยท่ี 4 : กฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ งกบั การเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 76 ∆ ใชข อ สญั ญาที่จาํ เปน ซ่งึ หากมไิ ดใชข อ สัญญาเชน นัน้ จะทําใหผ บู ริโภคเสียเปรียบ ผปู ระกอบธรุ กจิ เกินสมควร ∆ หามใชข อ สญั ญาท่ไี มเ ปนธรรมตอ ผบู รโิ ภค 2. หลักฐานการรบั เงนิ การประกอบธุรกจิ ขายสินคาหรอื ใหบริการอยา งใดอยา งหนึ่งและ เปนธุรกิจท่ีควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินได ในการประกอบธุรกิจท่ีควบคุมรายการใน หลักฐานการรบั เงิน หลกั ฐานการรับเงินจะตองมีลักษณะดังนี้ ∆ มีรายการและใชขอความท่ีจําเปน ซึ่งหากมิไดมายการหรือมิไดใชขอความ เชนนน้ั จะทาํ ใหผ บู ริโภคเสียเปรยี บผูประกอบธุรกิจเกินสมควร ∆ หามใชข อความทีไ่ มเ ปน ธรรมตอ ผบู ริโภค 6.4 สิทธิของผูบริโภค ผูบริโภคจะไดรับการคุมครองตาม พ.ร.บ. การคุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522 ซงึ่ มีอยู 5 ประการ ดงั น้ี 1. สิทธิทีจ่ ะไดรบั ขาวสาร รวมท้ังคาํ พรรณนาคุณภาพทีถ่ กู ตอ งและเพยี งพอเกยี่ วกับ สนิ คาหรือบรกิ าร ไดแ ก สิทธทิ จ่ี ะรบั การโฆษณาหรอื การแสดงฉลากตามความเปน จริงและปราศจากพิษ ภัยแกผ ูบริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะไดรับทราบขอมูลเก่ียวกับสินคาหรือบรกิ ารอยา งถกู ตองและ เพียงพอที่จะไมห ลงผดิ ในการซือ้ สินคา หรอื บริการโดยไมเ ปน ธรรม 2. สิทธิทีจ่ ะมีอสิ ระในการเลอื กหาสนิ คาหรือบริการ ไดแก สทิ ธิที่จะไดร ับสนิ คา หรอื บรกิ ารโดยความสมคั รใจของผูบริโภค และปราศจากการชักจงู ใจอนั ไมเปนธรรม 3. สิทธิที่จะไดรับความปลอดภัยจากการใชสินคาหรือบริการ ไดแก สทิ ธิท่ีจะไดรับ สินคาหรือบริการท่ีปลอดภัย มีคุณภาพและคุณภาพไดมาตรฐานเหมาะสมแกการใช ไมกอใหเกิด อนั ตรายตอชวี ติ รางกาย หรือทรพั ยส ิน ในกรณใี ชต ามคาํ แนะนําหรอื ระมัดระวังตามสภาพของสินคา หรือบรกิ ารนัน้ แลว 4. สิทธทิ ี่จะไดร ับความเปนธรรมในการทําสัญญา ไดแก สิทธทิ ่ีจะไดรบั ขอ สัญญาโดย ไมเ อารดั เอาเปรียบจากผูประกอบธุรกิจ 5. สทิ ธิที่จะไดรับการพจิ ารณาและชดเชยความเสยี หาย ไดแก สทิ ธิท่ีจะไดร ับการ คมุ ครองและชดใชค า เสยี หายเมือ่ มีการละเมดิ สทิ ธขิ องผูบ ริโภคตามขอ 1–4 ดังกลาวแลว 7. กฎหมายแรงงาน กฎหมายแรงงาน เปนกฎหมายคุมครองแรงงานที่บัญญัติถึงสิทธิและหนาท่ีของนายจาง ลกู จาง องคกรของนายจา ง และองคกรของลกู จาง รวมท้ังมาตรการท่ีกําหนดใหนายจาง ลกู จาง และองคกรปฏิบัติตอกัน ท้ังน้ีเพ่ือใหการจางงานและการใชงาน การประกอบกิจการและ ความสัมพันธระหวางลูกจางและนายจางและรัฐเปนไปดวยความเหมาะสม กฎหมายแรงงานท่ี ผูประกอบการใหมจาํ เปน ตอ งทราบมดี ังตอ ไปนี้ หนว ยที่ 4 : กฎหมายท่ีเกี่ยวของกับการเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 77 7.1 การคุมครองกําหนดเวลาทํางาน เจาของธรุ กิจจะตองเปนผูกาํ หนดเวลาทํางานปกติ ลูกจางไมใ หเ กนิ ขอบเขตทก่ี ฎหมายกาํ หนด ซ่งึ มีหลักเกณฑก ารแบงไดด งั ตอไปน้ี 1. งานอตุ สาหกรรม เวลาทาํ งานไมเ กนิ สัปดาหล ะ 48 ชัว่ โมง 2. งานขนสง เวลาทํางานไมเกนิ วันละ 8 ช่ัวโมง 3. งานท่ีอาจเปนอันตรายตอ สขุ ภาพรา งกาย ตามที่กระทรวงมหาดไทยไดก าํ หนดไว เวลาทาํ งานตองไมเกินสปั ดาหละ 42 ชั่วโมง 4. งานพาณิชยกรรมหรืองานอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากส่ิงที่กลาวมาขางตนถูก กาํ หนดเวลาทํางานไวไ มเกิน 54 ช่วั โมงตอสปั ดาห 7.2 สิทธิของลูกจางพักผอนระหวางการทํางาน ในวันทํางานนายจางตองกําหนดให ลกู จางมีเวลาพกั ผอนอยา งนอย 1 ชวั่ โมงภายหลังจากที่เริ่มทาํ งานไปแลวไมเกิน 5 ช่ัวโมง หรอื มี ขอตกลงกนั วา ใหลกู จางพักระหวางวนั แตละคร้งั ตองไมนอ ยไปกวา 20 นาที และเม่ือนาํ มานับรวมกัน แลวตอ งไมตํา่ กวา 1 ชว่ั โมง ภายใน 1 วนั ก็ได 7.3 สทิ ธิลูกจา งในการมีวนั หยดุ วนั หยุดทาํ งานมี 3 ประเภทดังน้ี 1. วันหยุดประจําสัปดาห ลูกจางมีสิทธิ์อยางนอยสัปดาหละ 1 วัน โดยท่ีวันหยุด ประจาํ สปั ดาหต องมรี ะยะหา งกนั ไมเกนิ 6 วนั 2. วันหยุดตามประเพณี ในหนึ่งปผ ูเปนนายจางตองทําการประกาศวันหยุดใหลูกจาง ทราบไมน อยกวา 13 วันตอป ซึ่งถาวันหยุดตามประเพณีในวันใดตรงกบั วันหยดุ ประจาํ สัปดาหก ใ็ ห เล่ือนจากวนั หยุดตามประเพณไี ปหยุดในวนั ทาํ งานถัดไป คือวันหยดุ ชดเชยนน่ั เอง 3. วันหยุดพักผอนประจําป ถาลกู จางทํางานครบ 1 ป ลูกจางจะหยุดพักผอน ประจาํ ปไดอยางนอย 6 วันทํางาน หรือสามารถทีจ่ ะตกลงใหลูกจา งเล่อื นวนั หยุดประจําปส ะสมใน ปห นา กไ็ ด 7.4 สิทธิในการไดรับคาจางในวันหยุด ในกรณีนายจางประสงคใหลูกจางมาทํางานใน วันหยุด นายจา งตอ งจายคา จางดงั นี้ 1. จา ยคา จางไมน อยกวา 2 เทา ของคา จา งปกตใิ นวนั ทํางานใหแกลูกจา งชั่วคราว 2. จา ยคาจาง 1 เทา ของคาจา งวนั ปกตแิ กลกู จา งประจํา 7.5 สทิ ธิในการลาของลกู จา ง 1. ลกู จางมสี ทิ ธลิ าปวยไดไมเกิน 30 วัน โดยไดค า จางปกติ 2. สทิ ธ์ิในการลาเพอื่ เขารับราชการทหาร โดยไดร บั คาจา งตลอดแตตอ งไมเ กนิ 60 วนั 3. ลูกจา งท่เี ปนสตรีและกําลังมคี รรภ สามารถลาคลอดไดท้ังกอ นและหลังจากคลอด แตต อ งไมเกิน 90 วนั และไดร ับคา จางตามปกติ 4. ในกรณีลูกจางมสี ถานภาพเปนผนู ําสหภาพแรงงานตา ง ๆ ก็มีสิทธิล์ าเพื่อไปดาํ เนิน กิจกรรมตา ง ๆ ของทางสหภาพไดดวย หนวยที่ 4 : กฎหมายที่เกี่ยวขอ งกบั การเปน ผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปน ผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 78 7.6 สิทธใิ นการไดรับการคุม ครองแรงงาน 1. อัตราคาจางข้ันต่ํา ซ่ึงอัตราคาจางข้ันตํ่าในแตละจังหวัด แตละพื้นท่ีจะมีความ แตกตางกันออกไป ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับคาแรงขั้นต่ําของแตละจังหวัดสามารถดูไดท่ี เวบ็ ไซตหลักของกระทรวงแรงงาน www.mol.go.th นายจางจะตอ งจายเงนิ คาจา งตามอตั ราคา จา ง ขั้นต่ําเทานั้น ยกเวนลูกจางคนใดอยูในชวงของการทดลองงาน โดยนายจางตองทําหนังสือเปน ลายลักษณอกั ษรแจงใหล ูกจา ง คนดังกลา วทราบตงั้ แตต น โดยมรี ะยะทดลองปฏิบตั ิงานไมเ กิน 60 วนั 2. คา ลว งเวลา กรณนี ายจา งใหลกู จางทาํ งานเกินเวลามากกวาปกติทีก่ าํ หนด ตอ งจา ยคา ลว งเวลาไมนอยกวา 1 เทา ครึ่งของอัตราคาจางตอ ชวั่ โมงในเวลางานปกติ สาํ หรับในสว นของเวลาที่ ไดท ําเพ่ิมข้ึนมา หรือถา นายจางใหล ูกจา งทํางานลว งเวลาในวนั หยุด ตองจายคาจา งถึง 3 เทาของ คา จา งปกตใิ นวนั ทาํ งาน สาํ หรับจาํ นวนช่ัวโมงที่เกนิ มาจากปกติ 3. หา มจา งแรงงานเดก็ ตา่ํ กวา 15 ป ถา จา งแรงงานเดก็ อายตุ า่ํ กวา 15 ป ตอ งแจงตอ พนักงานตรวจแรงงาน 4. หา มนายจางเรียกเกบ็ เงนิ ประกันการจางงาน 7.7 สิทธิไดรับเงินทดแทน เม่ือลูกจางไดรับอุบัติเหตุหรอื เจ็บปวย หรือถึงแกความตาย ในขณะทาํ งาน ลกู จางมสี ทิ ธิและสามารถไดเ งินทดแทนจากนายจา งโดยจําแนกตามประเภทดังตอไปน้ี 1. คารักษาพยาบาล ลูกจางมีสิทธิ์ไดรับเงินคารักษาพยาบาลจากนายจางไมเกิน 30,000 บาท 2. คา ทดแทน เมอ่ื ลูกจางประสบอุบัติเหตุหรือลม ปวยจนถึงแกค วามตาย นายจาง ตองจา ยเงนิ คาทดแทนเปน รายเดอื น เชน จา ยเงนิ ทดแทนรายเดือนรอยละ 60 ของเงนิ เดือน ใน กรณีที่ลูกจางมีการสูญเสียอวัยวะบางสวนจายตามประเภทอวัยวะที่สญู เสีย และตามระยะเวลาท่ี กระทรวงมหาดไทยจะกาํ หนดดวยแตร ะยะเวลาตอ งไมเกนิ 10 ป 7.8 ลกั ษณะการเลิกจา ง การเลกิ จา งมักเกิดจากคูสญั ญาฝา ยหนงึ่ ฝายใดเกิดการกระทาํ ผดิ ขึ้น โดยไมวาจะเปน ในกรณใี ดกรณหี น่งึ ดงั ตอไปน้ี คูสัญญาอกี ฝายหนึ่งสามารถบอกเลิกสัญญาไดใ นทันที เชน 1. การทํางานของลูกจางตกเปน พนวิสยั โดยลกู จาง 2. ลูกจางไรฝ ม อื 3. นายจางโอนสทิ ธิหรอื ลูกจางโอนหนา ทใ่ี หบ คุ คลภายนอก โดยคสู ญั ญาอกี ฝายหนึ่ง ไมย นิ ยอม 4. ลูกจางกระทําความผิดโดยเขาลักษณะอันรายแรง เชน จงใจขัดคําส่ังของนายจาง หรือทําการละเลยไมทําตามคําสั่งที่ไดรับมา ทิ้งหนาที่และงานที่รับผิดชอบ กระทําผดิ ความผิด รายแรง หรอื ทํางานอื่นโดยไมสนใจหนาทที่ ไี่ ดร ับมอบหมายจากนายจาง หมายเหตุ : กฎหมายแรงงานทีใ่ ชบ งั คบั อยใู นปจ จุบนั มีหลายฉบบั และท่ีสําคญั ไดแก 1. ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย บรรพ 3 เอกเทศสัญญา ลกั ษณะ 6 จางแรงงาน หนว ยท่ี 4 : กฎหมายท่ีเกี่ยวขอ งกับการเปนผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 79 2. พระราชบัญญัตคิ ุมครองแรงงาน พ.ศ. 2541 3. พระราชบัญญัตแิ รงงานสมั พันธ พ.ศ. 2518 4. พระราชบญั ญัติประกนั สังคม พ.ศ. 2533 5. พระราชบญั ญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 6. พระราชบัญญัติจดั หางานและคมุ ครองคนหางาน พ.ศ. 2528 ทงั้ นีก้ ฎหมายลาํ ดบั ที่ 1 - 3 และลําดับที่ 5 อยูในความรับผิดชอบของกรมสวัสดิการและ คุมครองแรงงาน (http://www.labour.go.th) กฎหมายลําดับที่ 4 อยูในความรับผิดชอบของ สํานักงานประกันสังคม (http://www.sso.mol.sw.go.th) และกฎหมายลําดับที่ 6 อยูในความ รับผิดชอบของกรมการจัดหางาน (http://www.doe.go.th) 8. กฎหมายลิขสิทธิ์ สทิ ธบิ ตั ร และเครื่องหมายการคา 8.1 กฎหมายลขิ สทิ ธิ์ (Copyright) คือ สิทธแิ ตเพียงผูเดียวทจี่ ะกระทําการใด ๆ ในการทําซ้ํา หรอื ดดั แปลง เผยแพร ใหเ ชา ใหประโยชน อนุญาตใหผูอ นื่ ใชส ทิ ธิ์เกี่ยวกบั งานทผี่ ูสรา งสรรคไ ดทาํ ขึน้ ดังน้ันลิขสิทธ์ิเปนสิทธทิ ่ีเจาของสิทธิกันไมใหผูอ่ืนนํางานนั้นไปใชโดยไมไดรับอนุญาต โดยเปนสทิ ธ์ทิ ี่กฎหมายมีใหแกผูสรา งสรรคผลงานหรอื ผเู ปน เจาของงานอนั มลี ขิ สทิ ธ์ิ 1. งานที่ใหกฎหมายสทิ ธิ์ใหความคมุ ครองแกงานสรางสรรค 9 ประเภท ไดแ ก ∆ งานวรรณกรรม ไดแ ก งานนพิ นธท กุ ชนิด เชน หนังสอื จลุ สาร ส่ิงเขียน สิง่ พิมพ ชุดเอกสาร และโปรแกรมคอมพวิ เตอร กฎหมายใหความคุมครองตลอดชวี ติ ของผสู รา งสรรคแ ละ นบั ตอไปอีก 50 ป นับแตผ สู รางสรรคตาย ∆ งานนาฏกรรม ไดแ ก การราํ การเตน หรอื การแสดง คมุ ครองตลอดชีวิตของ ผสู รา งสรรค และอีก 50 ป นับแตผ ูสรา งสรรคต าย ∆ งานศลิ ปกรรม ไดแก งานจติ รกรรม ประตมิ ากรรม ภาพพมิ พ สถาปตยกรรม ภายถา ย ภาพประกอบ งานศลิ ปะประยุกต คมุ ครองตลอดชวี ติ และอีก 50 ป นับแตผูสรา งสรรคตาย ยกเวน งานศลิ ปะประยกุ ตคุม ครอง 25 ป ∆ งานดนตรีกรรม ไดแ ก เพลง หนังสอื เพลง โนต เพลง คมุ ครองตลอดชวี ิตของ ผสู รางสรรคแ ละอกี 50 ป นบั แตผสู รา งสรรคต าย ∆ งานโสตทัศนวสั ดุ ไดแก งานบันทกึ ภาพลงในวัสดุนาํ มาเลนซาํ้ ไดอกี เชน VDO, DVD, Laser Disc คมุ ครอง 50 ป นับแตไ ดสรา งสรรคง านขึน้ ∆ งานภาพยนตร ไดแก ภาพยนตรท ุกชนดิ คุมครอง 50 ป นบั แตไ ดส รา งสรรคงานขน้ึ ∆ ส่งิ บันทึกเสียง ไดแ ก เทปบนั ทกึ เสียง ซีดี บนั ทกึ เพลง คมุ ครอง 50 ป นบั แตไ ดสรา งสรรคง านขน้ึ ∆ งานแพรเสยี งแพรภาพ ไดแ ก วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน เคเบลิ ทีวี คุมครอง 50 ป นับแตไ ดส รา งสรรคงานขน้ึ หนวยที่ 4 : กฎหมายทเี่ กี่ยวของกบั การเปนผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 80 2. งานทก่ี ฎหมายไมค มุ ครองลขิ สทิ ธิ์ ไดแ ก ∆ ขา วและขอ เทจ็ จริง ∆ รัฐธรรมนญู และกฎหมาย ∆ ระเบยี บ ขอบงั คบั และประกาศของกระทรวง ทบวง กรม หรือหนว ยงานใด ของรัฐ ∆ คําพิพากษา คําส่ัง คําวินิจฉยั ∆ คําแปลและการรวบรวมของรฐั เหตผุ ลท่ีงานดงั กลา วไมถ อื วาเปน งานอันมีลิขสทิ ธนิ์ ้ัน เพราะเปน งานที่ราชการทําขนึ้ และ เปน เรือ่ งท่ีตองสง เสรมิ และเผยแพรใหประชาชนท่ัวไปทราบ เวน แตผ สู รา งสรรคงานนั้นขน้ึ มาใหมดว ยความ วริ ิยะอุตสาหะ เชน หากเอกชนนาํ พระราชบัญญัตติ าง ๆ มารวบรวมเปนรูปเลม เอกชนซ่ึงเปนผูสรางสรรค กจ็ ะกลายเปนผูมีสทิ ธิ์ในงานนนั้ เมอ่ื เปน งานอันมีลิขสทิ ธิ์แลว 3. การคุมครองสทิ ธิ์ เจา ของลขิ สทิ ธม์ิ สี ิทธ์แิ ตเพียงผเู ดยี วในการกระทําตอ ไปน้ี 1. ทําซาํ้ หรอื ดัดแปลง 2. เผยแพรต อ สาธารณชน 3. ใหเ ชาตน ฉบบั หรือสาํ เนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร โสตทศั นวัสดุ ภาพยนตร และ ส่งิ บนั ทกึ เสียง หรือสาํ เนางาน 4. ใหประโยชนโ ดยยกเลิกลิขสิทธใิ์ หผ อู ืน่ 5. อนุญาตใหผ อู ่นื ใชสทิ ธ์ติ าม ขอ 1 ขอ 2 หรือขอ 3 โดยกาํ หนดเงื่อนไขอยางใดอยาง หนง่ึ หรอื ไมก ็ได 4. การไดมาซ่ึงลิขสิทธ์ิ เม่ือผูใดสรางสรรคงานขึ้น จะไดลิขสิทธิ์ทันทีโดยไมตองไปข้ึน ทะเบยี น หรอื จะไปแจง จดทะเบียนไวกไ็ ด กฎหมายบัญญัตใิ หค วามคุม ครองงานอนั มลี ขิ สิทธโิ์ ดยอัตโนมัติ (Automatic protection) ไมมแี บบพิธี (Non-Formability) ไมตองนาํ งานไปขอจดทะเบยี น แตก ารไมแ จง ขอ มลู กไ็ มม ีผลทาํ ใหงานน้ันไมไ ดร บั ความคุมครองแตอยา งใด หากเจาของผลงานตองการไดรับความคุมครองตามกฎหมายตอ งนํางานอันมี “ลิขสิทธิ์” ไปขอ จดทะเบียนเพื่อไดรับความคุมครองตามกฎหมาย ทง้ั นก้ี รมทรพั ยสินทางปญ ญาไดจ ัดใหมรี ะบบการ แจงงานอันมลี ิขสทิ ธต์ิ อกรทรัพยส นิ ทางปญ ญา เพอ่ื เปนหลักฐานวาไดม ีการสรางสรรคงานในวนั ที่มีการจด แจงตอกรมทรัพยสินทางปญญา ซ่ึงเปนประโยชนตอผูสรางสรรคงานเพราะมีหลักฐานชัดเจนของทาง ราชการวาผูสรางสรรคไดแจงตอ ทางราชการซ่ึงแสดงใหเห็นวาผูสรางสรรคไดสรางสรรคงานต้ังแตวัน ดงั กลาวซึง่ งา ยตอ การพิสจู นห ากมีขอพพิ าทในศาล 5. การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์และบทลงโทษ การละเมิดลิขสิทธ์ิ หมายถึง การทําซ้ําหรือดัดแปลง หรือเผยแพรตอสาธารณชน ผลงานของผูอืน่ ทีม่ ีลิขสิทธิ์โดยไมไดรับอนุญาตจากเจาของลิขสิทธิ์ และการกระทําการนัน้ เปน การกระทํา เพ่อื แสวงหากําไร หนวยที่ 4 : กฎหมายทเี่ ก่ยี วของกับการเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 81 บทลงโทษ ∆ ผูละเมดิ ลขิ สิทธ์จิ ะถูกลงโทษปรบั ต้งั แต 10,000 บาท – 400,000 บาท ∆ ถาการกระทําท่ีเปนการละเมิดลิขสิทธ์ิเปนการกระทําเพื่อการคาผูกระทําตอง ระวางโทษจําคุกตง้ั แต 2 เดอื นถงึ 2 ป หรอื ปรับตงั้ แต 50,000–400,000 บาท หรอื ทัง้ จําท้ังปรบั a. กฎหมายสิทธบิ ัตร สทิ ธบิ ตั ร หมายถงึ หนงั สอื สาํ คญั ทีร่ ัฐออกใหเพ่ือคุมครองการประดษิ ฐ (Invention) การ ออกแบบ ผลติ ภณั ฑ (Product Design) หรอื ผลติ ภัณฑอรรถประโยชน (Utility Model) ทมี่ ีลกั ษณะตามท่ีกฎหมาย กําหนด หนงั สือสาํ คญั ทีอ่ อกใหเ พ่ือคุมครองการประดษิ ฐห รอื การออกแบบผลิตภัณฑที่เปน การประดิษฐข ึ้น ใหมม อี ายุ 20 ป การประดิษฐ (Invention) คอื ความคิดสรา งสรรคเกี่ยวกบั ลักษณะ องคป ระกอบโครงสราง หรอื กลไกของผลิตภัณฑ รวมทง้ั กรรมวธิ ใี นการผลติ การรักษา หรือปรับปรงุ คุณภาพของผลิตภัณฑ การออกแบบผลิตภัณฑ (Product Design) คือ การคิดสรางสรรคเก่ียวกับการทําให รูปรา งลกั ษณะภายนอกของผลติ ภัณฑเ กดิ ความสวยงามและแตกตางกันไปจากเดิม ผลิตภัณฑอรรถประโยชน (Utility Model) หรือท่ีเรียกอีกอยางหนึ่งวา “อนุสิทธิบัตร” (Petty Patent) จะมีลักษณะคลายกับการประดิษฐ แตเปนความคิดสรา งสรรคที่มีระดบั เทคโนโลยีไมสูง มาก หรอื เปน การประดิษฐค ดิ คน เพยี งเลก็ นอย แบบผังภมู ขิ องวงจรรวม หมายถงึ แผนผงั หรอื แบบท่ที ําขน้ึ เพอ่ื แสดงถงึ การจัดวางแผนและการ เชือ่ มตอวงจรตอ วงจรไฟฟา เชน ตวั นําพาไฟฟาหรือตา นทาน 1. คุณสมบัติของการประดิษฐที่ไดรับความคุมครอง การประดิษฐท่ีขอรับสิทธิบัตรได กฎหมายกาํ หนดวาจะตอ งมคี ณุ สมบตั ิครบทั้ง 3 อยา ง ดังตอ ไปน้ี ∆ เปนส่ิงประดษิ ฐใ หม คือ ยงั ไมเ คยมีจําหนา ยหรือขายมากอน หรือยังไมเคย เปด เผยรายละเอยี ดของสงิ่ ประดษิ ฐในเอกสารสิ่งพิมพ โทรทัศน หรือวิทยุมากอน เวน แตก ารตีพิมพ เผยแพรของเอกสารน้ันจะเปนสวนหนึ่งของการเผยแพรเพ่ือสาธารณประโยชนในการสรางสรรคงาน ประดษิ ฐท่จี ัดขึ้นโดยรฐั ฯ ∆ มขี น้ั การประดิษฐทีส่ ูงขึ้น คือ ไมเ ปน ขนั้ ตอนการประดษิ ฐทส่ี ามารถทาํ ไดง ายโดยผู พบเหน็ ทั่วไป หรืออาจพดู ไดว ามีการแกไ ขปญหาทางเทคนิคของส่งิ ประดิษฐท มี่ มี ากอน ∆ สามารถนําไปใชประโยชนในการผลิต ทั้งทางอุตสาหกรรม หัตถกรรม เกษตรกรรม และพาณชิ กรรมได 2. การยนื่ คาํ ขอสทิ ธบิ ัตร การมาซึง่ สิทธบิ ัตรตองยื่นคําขอจดทะเบยี นสิทธิบัตรตอกรมทรพั ยส ิน ทางปญญา ผูไดร บั สทิ ธิบตั รมีดังนี้ ∆ มสี ทิ ธใิ์ นการผลิต ใช ขาย มีไวเ พือ่ ขายหรอื นาํ เขามาในราชอาณาจกั ร ∆ มีสทิ ธใ์ิ ชค าํ วา “สทิ ธิบตั รไทย” ปรากฏที่ผลติ ภณั ฑ ∆ อนญุ าตใหผ อู น่ื ใชสิทธิ์ของตน หนวยท่ี 4 : กฎหมายที่เกย่ี วของกบั การเปน ผูป ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 82 3. บทลงโทษ ผูละเมิดสิทธิบัตร ตองโทษจําคุกสูงสุดไมเกิน 2 ป หรือปรับไมเกิน 400,000 บาท หรอื ทั้งจําทัง้ ปรับ โทษทางแพงจะถกู ฟอ งรียกคาเสียหาย 8.3 ความหมายเครอื่ งหมายการคา 1. ความหมายและประเภท เครื่องหมาย หมายถึง ภาพถาย ภาพวาด ภาพประดิษฐ ตรา ชื่อ คํา ขอความ ตัวหนังสือ ตัวเลข ลายมอื ช่ือ กลุมของสี รปู รางหรือรูปทรงวตั ถุ หรือสิ่งเหลาน้ีอยางใดอยางหน่ึงหรือ หลายอยา งรวมกนั โดยมกี ฎหมายคมุ ครอง คือพระราชบญั ญตั เิ ครอื่ งหมายการคา โดยกฎหมายเครอ่ื งหมาย การคาหรือไดความคุมครองเครื่องหมาย 4 ประเภท ดงั นี้ ∆ เคร่ืองหมายการคา (Trademark) หมายถึง เครื่องหมายท่ีใชเปนท่ีหมายหรือ เกี่ยวของกบั บรกิ าร เพื่อแสดงวาการบรกิ ารที่ใชเครื่องหมายการคาที่ใชเคร่ืองหมายการคาของบุคคลอื่น เครอื่ งหมายการคา มีอายุ 10 ป เชน กระทงิ แดง คาลเท็กซ โคก เปนตน ∆ เคร่ืองหมายบริการ (Service Mark) คือ เคร่ืองหมายท่ีใชเปนท่ีหมายหรือ เก่ยี วขอ งกับบรกิ าร เพ่ือแสดงวา การบริการที่ใชเครอื่ งหมายการคานน้ั แตกตางกับบรกิ ารท่ีใชเครื่องหมาย การคา ของบุคคลอนื่ เชน เครื่องหมายของสายการบนิ ธนาคาร โรงแรม เปนตน ∆ เคร่ืองหมายรว ม (Collective Mark) คือ เครอื่ งหมายการคาหรือเครื่องหมาย บรกิ ารท่ใี ชโดยบรษิ ทั หรือรฐั วสิ าหกิจในกลมุ เดยี วกัน หรอื โดยสมาชิกของสมาคม กลุมบคุ คล หรอื องคกร อนื่ ใดของรฐั หรอื เอกชน เชน กลุม 7-Eleven กลมุ บริษัท ปตท. กลุมปูนซีเมนตไ ทย จํากดั เปนตน 2. การจดทะเบียนเครอ่ื งหมายการคา ∆ ลกั ษณะของเครอื่ งหมายการคาทีข่ อจดทะเบียนได ตองมีลกั ษณะดงั นี้ 1. มีลกั ษณะบง เฉพาะ อาจเปนชือ่ คํา ขอความ ภาพ ลายมอื หรือสี 2. ไมมีลกั ษณะตอ งหา ม เชน คลายตราแผนดนิ พระปรมาภิไธย ภาพลามก เปนตน 3. ไมค ลา ยกับเคร่ืองหมายของผูอืน่ ทจี่ ดทะเบยี นไวแ ลว ∆ การย่ืนคําขอจดทะเบียน ผูขอเคร่ืองหมายการคาตองยืนยันจดทะเบียนขอ เครอื่ งหมายการคา ตอกรมทรัพยสนิ ทางปญญาและขอตอ อายทุ กุ 10 ป 3. บทลงโทษ ผลู ะเมิดลอกเลียนหรอื ปลอมเครอื่ งหมายการคา มีความผดิ ทางอาญาโทษ สงู สดุ จําคุกไมเกิน 4 ป หรือปรับไมเ กิน 400,000 บาท หรือทงั้ จาํ ท้งั ปรบั โทษทางแพงจะถูกฟองเรียก คา เสยี หาย 9. ภาษีปาย ภาษีโรงเรือนและท่ีดิน 9.1 ภาษีปาย หมายถึง ปายแสดงชื่อ ยี่หอ หรือเครือ่ งหมายทีใ่ ชในการประกอบการคา หรือกิจการอ่นื เพอ่ื หารายได หรอื โฆษณาการคาหรอื กจิ การอ่ืน เพอ่ื หารายได หนวยท่ี 4 : กฎหมายที่เก่ยี วขอ งกบั การเปนผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 83 ภาษปี ายเปนภาษีที่จัดเกบ็ จากปาย ปายชื่อราน ชอ่ื บรษิ ทั ปายโฆษณา ตอ งเสียภาษีทงั้ สิ้น การเสียภาษีปาย เจาของปายตองยื่นตอองคกรปกครองสวนทองถิ่น เชน อบต. เทศบาล กรุงเทพมหานคร เปน ตน การเสียภาษีเปน รายปมขี ั้นตอนดังนี้ 1. ผูมหี นาที่เสยี ภาษี เจาของ ปา ยมหี นา ท่เี สยี ภาษีเปนรายป โดยย่นื แบบ ภ.ป.1 ภายใน วันท่ี 31 มีนาคมของทุกป กรณตี ดิ ตง้ั ปายใหมจ ะตอ งยนื่ ภ.ป. 1 ภายใน 15 วนั นับแตว ันท่ตี ิดตงั้ ปา ยใหม 2. ฐานภาษีและอตั ราภาษี คือ เน้ือที่ของปา ยและประเภทของปายรวมกัน ถาเปนปา ยท่ีมี ขอบเขตกาํ หนดได 3. การคาํ นวณพื้นท่ีปา ย ใหเ อาสว นกวางท่ีสดุ คูณดวยสวนยาวที่สดุ เปนขอบเขตของปา ย ถาเปนปายที่ไมมีขอบเขตกําหนดไดใหถือเอาตัวอักษร ภาพ หรือเคร่ืองหมายที่อยูริมสุดที่เปน ขอบเขตสาํ หรบั กําหนดสว นท่กี วา งทสี่ ุดและยาวท่ีสุด โดยคาํ นวณเปนตารางเซนตเิ มตรเศษของ 500 ตารางเซนตเิ มตร ถาเกินครึ่งใหนบั เปน 500 ตารางเซนติเมตร ถา ต่ํากวา ใหป ด ท้งิ 4. อัตราภาษปี าย มดี งั น้ี ประเภทท่ี 1 ปา ยอักษรที่มไี ทยลวน คดิ อัตรา 3 บาทตอ 500 ตารางเซนติเมตร ประเภทที่ 2 ปายท่ีมีอักษรไทยปนกับอักษรตางประเทศ หรือปนกับภาพหรือ เครอ่ื งหมายอน่ื ใหคดิ อัตรา 20 บาทตอ 500 ตารางเซนตเิ มตร ประเภทที่ 3 ปา ยที่ไมมีอักษร ปา ยท่ีไมม อี ักษรไทย ปา ยท่ีมอี ักษรไทยบางสวนหรือ ทั้งหมด ปา ยท่ีเปลย่ี นแปลงแกไ ขพน้ื ทป่ี า ย ขอความ ภาพ หรือเครื่องหมายบางสวน ในปา ยใตห รือ ตํา่ กวา อักษรตา งประเทศใหค ิดอตั รา 40 บาทตอ 500 ตารางเซนติเมตร หมายเหตุ : การคาํ นวณพ้ืนที่ปายทุกประเภท เม่ือคํานวณพ้ืนที่ของปายแลว ถามี อัตราท่ีตอ งเสียภาษีต่าํ กวาปา ยละ 200 บาท ใหเสียภาษปี า ยละ 200 บาท 5. บทลงโทษ ผูฝาฝน ไมเ สียภาษปี าย ตอ งระวางโทษปรบั อยางสงู ไมเกิน 50,000 บาท 6. ปายท่ีไมต องเสียภาษี กฎหมายภาษีปายไดยกเวน ปายท่ีไมตองเสียภาษไี ว 13 กรณี เชน ปา ยท่แี สดงไว ณ โรงมหรสพ ปา ยของทางราชการ ปายโรงเรยี น วดั สมาคม มูลนิธิ เปน ตน 9.2 ภาษีโรงเรือนและที่ดิน เปนภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนกบท่ีดินซึ่งใชตอเนื่องกับ โรงเรือนนนั้ ๆ และสงิ่ ปลูกสรา งอืน่ ๆ กบั ทดี่ ินซ่ึงใชต อเนื่องกบั ส่งิ ปลูกสรา งนน้ั โรงเรอื น หมายถึง บา น ตึกแถว รา นคา สํานักงาน ธนาคาร โรงแรม ซงึ่ มลี ักษณะการ กอสรางตดิ กับท่ีดินเปน การถาวร ท่ีดินซึ่งใชต อ เนือ่ งกับโรงเรอื นหรือสง่ิ ปลกู สรา งอยา งอ่ืน ๆ และส่ิงปลูกสรา งอ่ืน ๆ หมายถึง ที่ดนิ ซ่ึงปลกู โรงเรอื นหรอื สงิ่ ปลกู สรา งอยางอื่นและบรเิ วณตอ เน่อื งกนั ปกติใชไ ปดว ยกนั กับโรงเรอื น หรือสงิ่ ปลกู สรางนัน้ 1. ผมู หี นา ท่เี สียภาษี หมายถงึ ผูเปนเจา ของสินทรพั ย 2. การชําระภาษีโรงเรือนและที่ดิน ผูรับประเมิน (เจาของสินทรัพย) จะตองย่ืนแบบ ภ.ร.ด. 2 ณ สวนการคลงั งานจดั เกบ็ รายไดข ององคก ารบริหารสว นตาํ บล ภายในเดอื นกมุ ภาพันธของ หนว ยที่ 4 : กฎหมายท่เี ก่ียวของกับการเปนผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 84 ทุกป เมื่อผูรบั ประเมินไดรับแจงการประเมินคาภาษี แบบ ภ.ร.ด.8 จะตอ งชําระคาภาษีภายใน 30 วัน นบั จากวนั ทไ่ี ดรับแจง คาภาษี 3. การยน่ื อุทธรณ เมื่อผูรับการประเมนิ ไดรับใบแจง การประเมินคาภาษีแลว ไมพอใจ ในการ ประเมินคาภาษี ใหยื่นคํารองขอใหพิจารณาการประเมินคาภาษีใหมภายใน 15 วัน นับต้ังแตวนั ท่ี ไดรบั แจง การประเมินภาษีแบบ ภ.ร.ด.8 4. อตั ราคา ภาษีโรงเรือนและทด่ี ิน ผูรับการประเมนิ จะตองเสียภาษี คาภาษใี นอตั รารอย ละ 12.5 ของคารายป (คาเชา) 5. โทษของการไมชําระภาษีโรงเรอื นและทีด่ นิ ภายในกําหนดเวลา กรณีไมย ่ืนแบบแสดง รายการเพือ่ ชําระภาษภี ายในกําหนด ตองเสยี คา ปรับไมเ กนิ 200 บาท กรณผี รู บั การประเมินไมชาํ ระ ภาษภี ายใน 30 วนั นับถดั จากวนั ท่ีไดรับแจง การประเมินคา เสียภาษี จะตองเสยี เงนิ เพิม่ อีกดังนี้ ∆ คางชําระไมเกนิ 1 เดอื นนบั แตว ันพนกาํ หนด จะตอ งเสยี เงนิ เพม่ิ รอยละ 2.5 ของคา ภาษี ∆ คางชาํ ระเกิน 1 เดอื นแตไมเ กิน 2 เดือน จะตอ งเสยี เงินเพิ่มรอยละ 5 ของคา ภาษี ∆ คางชําระเกนิ 2 เดอื นแตไ มเกนิ 3 เดอื น จะตอ งเสยี เงนิ เพิ่มรอยละ 7.5 ของคาภาษี ∆ คา งชาํ ระเกนิ 3 เดอื นแตไ มเ กนิ 4 เดอื น จะตองเสียเงินเพิ่มรอ ยละ 10 ของคาภาษี สรุปสาระสาํ คญั เปาหมายสูงสุดของการประกอบธุรกิจ คือ กําไร แตในการประกอบธุรกิจผูประกอบการ ควรระวังในการปฏิบัติใหถูกตอ งตามกฎหมายท่ีเกี่ยวของดวยซึ่งจะมีทั้งทางแพงพาณิชยและอาญา ผูท่ีการละเมิดแกผูท่ีเก่ียวของ เชน ผูบริโภค หุนสวน คูสัญญา ลูกจาง หากมีการฟองรองเรียก คา เสียหายจะอาจถกู ดาํ เนินคดไี ด กรณที ่ีมรี ายไดก็ตองถกู หักบางสวนเปน ภาษีเงินไดส ง ใหแกร ัฐบาล โดยผปู ระกอบการไมส งไมไดแ ละจะอางวา ไมทราบกฎหมายไมไ ด หนวยท่ี 4 : กฎหมายท่ีเกย่ี วของกบั การเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปน ผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 85 แบบฝกหัดหนว ยท่ี 4 กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ งกับการเปน ผูประกอบการ คาํ สง่ั จงเตมิ คาํ หรือขอ ความลงในชอ งวางใหถ กู ตอ ง 1. ผูป ระกอบการตองจายเงินคาทดแทนใหกบั ลูกจางในกรณใี ดบา ง ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 2. จงอธบิ ายลักษณะของสญั ญาจะซอ้ื จะขาย มาพอเขาใจ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 3. จงอธบิ ายถึงสทิ ธิบตั รและลขิ สทิ ธ์ิ เหมอื นกันหรอื แตกตางกันอยา งไร ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 4. จงอธิบายถงึ หลักใหญ ๆ ของนติ กิ รรมวามอี ะไรบา ง ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 5. ภาษมี ลู คาเพ่ิมมอี ตั รารอยละ............................. จายอยา งไรใหอ ธิบายพอเขา ใจ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 6. สญั ญาซ้อื ขายเปน สัญญาตางตอบแทน หมายความวา อยา งไร ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... หนวยท่ี 4 : กฎหมายท่ีเกย่ี วขอ งกับการเปน ผูประกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 86 7. จงอธบิ ายเกย่ี วกับการกระทําผดิ กฎหมายคมุ ครองเคร่อื งหมายการคามาพอสงั เขป ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 8. จงอธบิ ายถึงสทิ ธขิ องเจา ของเครอ่ื งหมายการคา วา มีอะไรบาง ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 9. จงอธบิ ายถงึ ความแตกตางของกฎหมายกบั จรรยาบรรณมาพอเขาใจ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 10. ผปู ระกอบกิจการหากไมจ ดทะเบยี นและไมแ สดงใบจดทะเบยี นตอ งระวางโทษอยางไร ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... หนวยท่ี 4 : กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ งกบั การเปน ผปู ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 87 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว ยที่ 4 กฎหมายท่เี กี่ยวขอ งกบั การเปนผูประกอบการ ควบคุมคณุ ภาพ คาํ ชี้แจง จงทาํ เครอ่ื งหมาย (X) ลงหนา ขอทถี่ กู ตอ งทสี่ ดุ 1. ขอใดไมเ ปนสญั ญาตา งตอบแทน ก. หากเปนคนดลี กู จะไดร บั มรดก ข. ลกู จางทาํ งานใหนายจา งดว ยสมอง ค. นายจา งจา ยคาจา งใหล ูกจา ง ง. ลกู จา งทาํ งานใหน ายจา งดวยแรงงาน 2. สญั ญาซอ้ื ขายทย่ี ังไมไ ดโ อนกรรมสทิ ธิเ์ รยี กวาสญั ญาอะไร ก. จะซือ้ จะขาย ข. ยอมความ ค. คํามั่นวาจะซ้ือหรือจะขาย ง. ซื้อขายเสรจ็ เดด็ ขาด 3. ขอ ใดไมใชเหตแุ หง การระงบั สัญญาจางแรงงาน ก. ครบเวลาจางตามที่ตกลงกนั ไว ข. จางทาํ ลว งเวลาตอ ค. สิน้ สดุ สญั ญาจา ง ง. งานท่จี า งไดส ําเรจ็ ลลุ วงลง 4. กจิ การท่มี ีรายไดต อ ปเ กนิ เทา ไหรจ ึงตองเสยี ภาษมี ลู คา เพมิ่ ในอตั รารอ ยละ 7 ก. 1,800,000 ข. 2,200,000 ค. 2,000,000 ง. 1,600,000 5. กจิ การใดทต่ี อ งจดทะเบยี นพาณชิ ย ก. สหกรณ ข. มูลนิธิ ค. การคา เร ง. การคา แผงลอย หนวยที่ 4 : กฎหมายท่ีเกี่ยวขอ งกับการเปนผูป ระกอบการ
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 88 6. สิง่ สําคญั ท่สี ุดในการวดั ความสาํ เรจ็ ของผปู ระกอบการคอื ก. ความพงึ พอใจของลูกคา ข. การเสยี ภาษีใหร ฐั เต็มเมด็ เตม็ หนว ย ค. สรางประโยชนใหส งั คมมากทส่ี ดุ ง. เปน เจา ของกิจการ 7. เงนิ ไดพงึ ประเมินประเภทใดท่ีตอ งเสยี ภาษคี รงึ่ ป ก. เงนิ ไดพงึ ประเมินประเภทที่ 1, 2, 3 ข. เงินไดพ ึงประเมินประเภทที่ 4, 5, 6 ค. เงนิ ไดพึงประเมนิ ประเภทที่ 7, 8 ง. ถูกทกุ ขอ 8. ขอใดคอื อตั ราภาษโี รงเรอื นและที่ดนิ ก. อัตรารอ ยละ 10 ตอ ป ข. อัตรารอยละ 12.5 ตอ ป ค. อัตรารอ ยละ 3 ตอ ป ง. อตั รารอ ยละ 3.5 ตอ ป 9. ขอ ใดตอ ไปนกี้ ฎหมายไมใ หก ารคมุ ครองลขิ สทิ ธ์ิ ก. งานหนงั สือ ข. ขา ว ค. เพลง ง. การแสดง 10. เครอื่ งหมายการคามอี ายกุ ารคุมครองกปี่ ก. 3 ป ข. 5 ป ค. 10 ป ง. 12.5 ป หนวยที่ 4 : กฎหมายท่เี ก่ียวขอ งกบั การเปนผปู ระกอบการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: