Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 5 รูปแบบองค์กรธุรกิจและการจัดตั้งองค์กรธุรกิจ

หน่วยที่ 5 รูปแบบองค์กรธุรกิจและการจัดตั้งองค์กรธุรกิจ

Published by sawarin sak, 2021-02-14 16:41:53

Description: หน่วยที่ 5 รูปแบบองค์กรธุรกิจและการจัดตั้งองค์กรธุรกิจ

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 89 หนวยท่ี 5 รปู แบบองคกรธุรกิจและการจัดตง้ั องคก รธุรกิจ รูปแบบองคกรธุรกิจและ การจัดต้ังองคก รธุรกิจ 1. กจิ การเจา ของคนเดียว 4. บรษิ ทั มหาชนจํากัด 2. หางหุนสว น 5. ธรุ กจิ แฟรนไซส องคประกอบของการประกอบ 3. บริษทั จํากดั หนวยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธุรกจิ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 90 หนว ยท่ี 5 รูปแบบองคก รธุรกจิ และการจัดตั้งองคก รธรุ กจิ 1. สาระสําคญั การประกอบธุรกิจในประเทศไทยมหี ลายรูปแบบ เชนกิจการเจา ของคนเดียวหางหุนสวน บรษิ ัทจาํ กัด บริษัทมหาชนจํากดั ธรุ กจิ แฟรนไซส เปน ตน ดังน้ันการทผ่ี ูประกอบการจะประกอบ ธุรกิจนั้นจําเปนจะตองศึกษาวิธกี ารและรูปแบบธุรกิจใหตรงกับความตองการและความเหมาะสม สภาพแวดลอม รวมท้งั ศึกษาขอดีและขอ เสียของแตละธรุ กจิ เพราะการประกอบธรุ กิจแตละรปู แบบมี วิธีการจัดตั้งที่แตกตางกนั ตามทีก่ ฎหมายกําหนด ผูประกอบการควรพิจารณาเลอื กรูปแบบธุรกิจท่ี เหมาะสมกบั ตนเองใหมากที่สดุ ดังน้ี 2. สาระการเรยี นรู 1. กจิ การเจา ของคนเดยี ว 2. หางหนุ สว น 3. บรษิ ัทจํากดั 4. บรษิ ัทมหาชนจํากดั 5. ธรุ กิจแฟรนไชส จดุ ประสงคเ ชิงพฤติกรรม เม่ือศกึ ษาหนว ยท่ี 5 จบแลว ผเู รียนสามารถ 1. อธบิ ายลักษณะขอ ดแี ละขอเสยี ของกจิ การเจา ของคนเดยี วได 2. อธิบายลักษณะประเภทการจัดต้ังหา งหุนสว นและขอ แตกตางระหวางหางหุนสว นสามญั ได 3. อธิบายลักษณะ ขอ ดแี ละขอ เสีย การจดั ต้งั ชนิดของหนุ การบริหารงานและการเลิก บริษัทจํากดั ได 4. อธบิ ายลักษณะ การจดั ต้ัง และการดําเนินงานของบรษิ ทั มหาชนจาํ กดั ได 5. อธิบายความหมาย ประเภท สทิ ธิพ้ืนฐาน ขอ ดีและขอ เสียของธุรกิจแฟรนไซสได 6. มีคณุ ธรรม จริยธรรม คา นยิ มและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคอ ยางมเี หตุผล 7. มเี จตคตทิ ดี่ ีและเห็นคณุ คาของรูปแบบองคก รธุรกิจและการจัดตัง้ องคกรธรุ กิจ หนวยที่ 5 : รูปแบบองคกรธุรกิจและการจัดตั้งองคกรธุรกจิ

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปน ผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 91 แบบทดสอบกอนเรยี น หนวยที่ 5 รูปแบบองคก รธุรกจิ และการจัดต้ังองคกรธุรกจิ คาํ ช้ีแจง จงทําเครอ่ื งหมาย (X) ลงหนาขอ ทถี่ กู ตอ งทส่ี ดุ 1. หุนสว นประเภทใดทสี่ ามารถบรหิ ารหา งหนุ สวนจํากดั ได ก. หนุ สวนประเภทวิสามญั ข. หุนสว นประเภทจาํ กัดความรับผดิ ค. หนุ สวนประเภทไมจ าํ กดั ความรับผดิ ง. หนุ สว นประเภทสามญั 2. หางหุนสว นประเภทใดทีไ่ มต อ งจดทะเบยี น ก. หา งหุนสวนจาํ กดั สามัญ ข. หา งหุน สว นสามัญจํากดั ค. หางหนุ สวนสามญั ง. หางหนุ สว นสามญั นติ ิบคุ คล 3. กจิ การเจา ของคนเดยี วมลี กั ษณะอยางไร ก. มผี เู ปนหนุ สว น 2 คนขนึ้ ไป ข. มเี จาของเพยี งคนเดยี ว ค. มีผเู ร่มิ กอ การอยางนอ ย 3 คน ง. มกี ารจา ยเงนิ ปน ผล 4. กจิ การเจาของคนเดียวมขี อ เสยี อยา งไร ก. เจา ของกิจการตอ งรบั ภาระหนัก ข. การบริหารงานขาดความคลอ งตวั ค. การขยายกิจการทาํ ไดง าย ง. มกี ฎหมายขอ บงั คบั นอ ยกวา ธุรกิจอ่ืน 5. บริษัทจํากัดตอ งมผี ูเรม่ิ กอการต้งั แตก ค่ี นข้ึนไป ก. ตั้งแต 2 คนขนึ้ ไป ข. ต้ังแต 3 คนขน้ึ ไป ค. ตั้งแต 7 คนข้นึ ไป ง. ตั้งแต 15 คนข้ึนไป หนวยที่ 5 : รปู แบบองคกรธรุ กิจและการจัดต้ังองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 92 6. ขอ ใดคอื ขน้ั ตอนการจดทะเบียนบรษิ ทั ก. การเสยี ภาษใี หรฐั เต็มเมด็ เต็มหนว ย ข. สรา งประโยชนใ หส งั คมมากทส่ี ดุ ค. ความพึงพอใจของลูกคา ง. เปนเจาของกิจการ 7. ขอ ใดเปนสว นประกอบสาํ คัญของความหมายของผปู ระกอบการ ก. ความเสยี่ ง ข. กาํ ไร ค. การตลาด ง. เปน เจา ของกิจการ 8. ขอใดคอื หนา ทที่ ส่ี าํ คญั ของผปู ระกอบการ ก. เปน ผูน าํ เงินมาลงทนุ ข. เปนผนู ํานวัตกรรมมาใช ค. เปนผูก อ ตงั้ และเปน เจาของกิจการ ง. เปนผจู ดั การ 9. ขอ ใดไมใชค ุณลกั ษณะสําคัญของผูประกอบการทป่ี ระสบความสําเรจ็ ก. ผลติ สินคาที่มคี ุณภาพ ข. มีการสงเสริมการขายทดี่ ี ค. คดิ หาทางทําธุรกจิ ใหม ๆ ง. ตองมฐี านะการเงนิ มัน่ คงอยกู อนแลว 10. ขอใด เปนจรรยาบรรณของผูประกอบการที่รบั ผดิ ชอบแกลูกคา ก. จายคา จา งดวยความเปน ธรรม ข. ไมส รางมลพษิ ดา นสงิ่ แวดลอ ม ค. การตดิ ตามและใหบ รกิ ารหลงั การขาย ง. ใหท นุ วจิ ัยอนรุ ักษส ง่ิ แวดลอม หนว ยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกิจและการจัดต้ังองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 93 1. สาระสาํ คญั การเปนผปู ระกอบการจะตอ งมีการติดตอ ประสานงานและเกีย่ วของกับบุคคลหลายฝายไมว า จะเปนลูกคา คแู ขงขนั ทางการคา พนกั งาน ชมุ ชน สิ่งแวดลอมและคคู า เปนตน การเกีย่ วของกบั บุคคลหลายฝายอาจทําใหกิจการไดรับความเสียหายท่ีกระทบตอการประกอบการได ดังนั้น ผูประกอบการจําเปนตองศึกษากฎหมายที่เก่ียวของใหเขาใจเพื่อกฎหมายจะไดคุมครองใหความ ชวยเหลือและเปนการสรางความม่ันใจ มนั่ คงและความเจริญเติบโตย่ังยืนของธุรกิจ กฎหมายท่ี เก่ียวขอ งกับการประกอบธุรกจิ แบงตามกลุม ดังน้ี 1. กลุมกฎหมายท่ีเก่ียวของกบั การประกอบธุรกจิ ทวั่ ไป 2. กลมุ กฎหมายทีเ่ กีย่ วของกับธุรกิจอตุ สาหกรรม 3. กลมุ กฎหมายที่เก่ียวขอ งกบั ธุรกจิ การคาและบริการ 4. กลุม กฎหมายท่เี กยี่ วขอ งกบั การคุมครองผูบรโิ ภค ในหนวยนี้จะขอกลาวถึงกฎหมายท่ีเก่ียวของกับการเปนผปู ระกอบการโดยตรงเทาน้ัน เพ่ือ เปนแนวทางใหกับผปู ระกอบการทจ่ี ะเริ่มตนธรุ กิจ 2. กิจการเจา ของคนเดยี ว กจิ การเจา ของคนเดียว (Sole proprietorship) หรอื รานคาเอกชน เปน รูปแบบธรุ กจิ ที่ตั้งขึ้น โดยบุคคลธรรมดาเพียงคนเดียว เปนกิจการสวนตัวของผูนั้นโดยเฉพาะแตลําพัง ซ่ึงเปนรูปแบบ ที่เกาแกที่สุดและจัดต้ังไดงายที่สุด มีมาชานานกอ นธุรกิจการคาในรูปแบบใด ๆ ไมยุงยากซับซอน วิธกี ารดาํ เนนิ งานก็งาย โดยดาํ เนนิ การดวยตนเองและบุคคลใกลช ิด ซึง่ สว นใหญเปน บุคคลในครอบครวั มาชวยดําเนินการ ไมมีปญหาในการจัดการควบคุมดูแล ผูเปนเจาของจะตองรับผิดชอบในการ ตัดสินใจแกไขปญหาของกิจการ ธรุ กิจสวนใหญในประเทศไทยเปนแบบเจาของคนเดียว เชน รา นคาปลีก รา นคา สง ธุรกจิ บันเทงิ อซู อ มรถยนต โรงงานขนาดเล็ก เปน ตน 2.1 การจัดต้ัง กิจการเจาของคนเดียวเปนกิจการท่ีมีผูลงทุนคนเดยี ว ผูลงทุนมีอิสระใน การดําเนินธุรกิจจนกวาจะตองเลิกกิจการหรือเสียชีวิต ไมตองมีการจัดต้ังอยางเปนทางการ ไมมี กฎหมายบังคับใหตอ งไปจดทะเบยี น แตอาจตองจดทะเบียนพาณชิ ยและถา กิจการเจาของคนเดียว มรี ายไดกจ็ ะตอ งเสยี ภาษีเงินไดบคุ คลธรรมดา หนวยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กิจ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 94 2.2 ขอ ดแี ละขอ เสียของกิจการเจาของคนเดยี ว ตารางที่ 1 ขอดีและขอ เสียของกิจการเจา ของคนเดียว ขอ ดี ขอเสยี 1. การจดั ตั้งและเลกิ กจิ การทาํ ไดง าย กฎหมาย 1. ขยายกจิ การไดย ากหรือทําธุรกิจขนาดใหญ ๆ ขอ บงั คบั มนี อ ยกวาการประกอบการรปู แบบ ไดย ากเนือ่ งจากมเี งินทุนจํากดั อน่ื ๆ 2. ตองรบั ผดิ ชอบตอหนส้ี นิ หรือความเสยี หาย 2. มีอสิ ระในการบรหิ ารงานและมคี วามคลอ งตัว ไมจาํ กดั จาํ นวน เจา ของกจิ การเปนนายของตนเอง ดังน้ันจึง 3. ความรแู ละความสามารถในการบริหารจัดการ งา ยตอการตดั สนิ ใจดาํ เนินการ จํากัด เพราะประกอบการคนเดยี ว 3. ระเบยี บขอ บังคับมนี อ ย ไมต องทาํ บัญชไี มต อง 4. ขาดความตอเนอ่ื งในกิจการเมือ่ เจาของ สง งบแสดงฐานะการเงิน การเสยี ภาษี เกิดปญหา เชน เจ็บปว ยหรือเสยี ชวี ติ ไมย งุ ยาก 5. พนักงานในกจิ การประเภทนข้ี าดโอกาส 4. สามารถเกบ็ รกั ษาความลับไดด ี เพราะเจา ของ ในการกา วหนา ไปสตู ําแหนง ทสี่ งู ข้ึนหรอื กจิ การดาํ เนินการเองยอ มเก็บความลบั ของ มรี ายไดส งู ขน้ึ ลกู คาไดด ี เลกิ กจิ การไดง ายถาตองการเลกิ กิจการ 2.3 ลักษณะของธรุ กิจท่เี หมาะกบั กจิ การเจาของคนเดียว กิจการเจาของคนเดียวมีขอ ดี และขอเสีย ดังนั้นการเลือกรูปแบบธุรกิจแบบน้ีตองพิจารณาอยางรอบคอบ การประกอบธุรกิจท่ี เหมาะสมกบั ธุรกจิ แบบน้คี วรมีลักษณะดังตอไปน้ี 1) เปน ธุรกิจท่มี ขี อบเขตไมก วา งขวางมากนกั ผปู ระกอบการมีโอกาสพบปะพูดคุยทาํ ความ รูจกั กับลูกคาไดดวยตัวเอง ทําใหลูกคาไดรบั ความพึงพอใจและมแี นวโนมม่ีจะเปนลกู คาประจําหรือ แนะนําลกู คา ใหมม าให นั่นคือควรเปน ธุรกิจทีล่ กู คา ตอ งไดรบั การเอาใจใสเ ปนรายบุคคล 2) เปน ธรุ กิจท่ีมงุ ใหบรกิ ารหรอื ตอบสนองความตองการเฉพาะแกล กู คา ท่ีมีรสนิยมเปน การ สวนตัวกเ็ หมาะท่ีจะดําเนินธรุ กจิ แบบเจาของคนเดยี ว 3) เปนธุรกิจประเภทท่ีมีการแขงขันนอย ธุรกิจท่ีมีการเส่ียงนอยกับขายสินคาประเภท อุปโภคบรโิ ภคทจี่ ําเปน แกก ารดาํ รงชีวติ มตี ลาดกวา งขวาง ฯลฯ หนว ยที่ 5 : รปู แบบองคกรธรุ กจิ และการจัดตั้งองคกรธุรกจิ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 95 3. หางหุน สว น หางหุนสวน (Partnership) คือ ธุรกิจท่ีบุคคลต้งั แต 2 คนขึ้นไป ทําสัญญาตกลงที่จะทํา กิจการรวมกันดวยประสงคจะแบงกําไรอันจะพึงไดจากกิจการที่กระทํานั้น ถามองในแงของการ จัดการหางหุน สวนกค็ ือกลุมบุคคลทร่ี วมทนุ กันเพ่ือประกอบธุรกิจอยา งใดอยา งหน่ึงหรอื หลายอยาง และแบงปนกําไรตามสัดสวนทตี่ กลงกัน การดําเนินการของหางหุนสวนอาจมอบหมายใหหุนสวน คนใดคนหนง่ึ หรือหลาย ๆ คน แตนโยบายของหางหุนสวนเปนสิง่ ท่ีหุน สวนทกุ คนพองตอ งกัน เปน เอกฉันท 3.1 ประเภทของหางหุนสวน ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยแบงประเภทของหาง หุนสว นแบงออกเปน 2 ประเภทใหญ ๆ คือ หา งหนุ สวนสามัญ (General Pertnership) และหาง หุนสว นจาํ กดั (Limited Pertnership) 1. หา งหุนสวนสามญั (General Pertnership) หา งหนุ สว นสามัญ คือ หา งหนุ สว นประเภทซึ่งผเู ปน หนุ สว นทกุ คนตองรบั ผดิ ชอบ รวมกัน เพ่ือหน้ีทงั้ ปวงของหนุ สวนโดยไมจาํ กัดการเขาเปนหุนสวนนัน้ ผูเปนหนุ สวนทุกคนตอ งนําส่ิง หนึ่งส่ิงใดมาลงทุนเขา หนุ ดว ย สงิ่ ทนี่ าํ มาลงทุนจะเปนเงิน ทรัพยส นิ หรือแรงงานอยางหนึง่ อยา งใด หรือหลายอยางกไ็ ด และถามิไดตกลงกันไวในสัญญาจัดต้ังหางหุนสวนใหผูใดเปนหุนสวนผูจัดการ กฎหมายใหถือวา ผเู ปนหุนสวนยอ มจดั การหา งหนุ สว นนัน้ ไดทุกคน 2. หางหุน สว นจาํ กัด (Limited Pertnership หางหุนสวนจํากดั คือ หางหุนสวนที่ตองจดทะเบยี นตามกฎหมายและมีหุนสว น 2 ประเภท ดังน้ี ∆ หุนสวนประเภทจํากัดความรับผดิ เปน หุนสวนที่รับผิดชอบในหนี้สินไมเกิน จํานวนเงนิ ทีต่ นลงหุนในหางหุน สว น ∆ หนุ สวนประเภทไมจ าํ กัดความรับผดิ เปน หนุ สว นท่ีรับผดิ ชอบในหน้สี นิ โดยไม จํากดั จํานวน สําหรับหางหุนสวนสามัญที่ไมจดทะเบียนคงมีสภาพเปนบุคคลธรรมดา และถา ประกอบพาณชิ ยกจิ ซงึ่ ตอ งจดทะเบียนพาณิชยตามกฎหมายวาดวยทะเบยี นพาณชิ ยแลวกจ็ ะยื่นขอ จดทะเบียนภายในกาํ หนด 30 วัน นับแตวันเริ่มประกอบพาณิชยกจิ การใชชอื่ หา งหุนสว นสามัญที่ ไมจ ดทะเบยี นนั้นจะใชชือ่ วา อะไรกไ็ ด เชน ใชชอ่ื วา หา งสมบรู ณ หรอื สมบรู ณ ไมบ งั คับวาจะตอง มีคาํ วาหางหุนสว น หรอื หางหนุ สว นสามัญประกอบช่ือ หนว ยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกิจและการจัดต้ังองคกรธรุ กิจ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 96 ตารางท่ี 2 การเปรียบเทียบหา งหุนสวนสามญั และหางหุน สวนจาํ กดั หางหุนสวนสามญั หา งหนุ สวนจํากดั 1. จดทะเบยี นหรือไมจดทะเบยี นกไ็ ด 1. ตอ งจดทะเบยี นจัดตงั้ หา งหนุ สว น มสี ภาพ ถาจดทะเบยี น จะเปน หา งหุนสว นสามญั เปนนติ บิ คุ คล นติ บิ ุคคล 2. มีผเู ปนหุนสว น 2 ประเภท คือ หุนสว น 2. หนุ สวนประเภทเดยี ว คือ หุนสวนประเภท ประเภทจาํ กดั ความรับผดิ และหุนสวน ไมจาํ กดั ความรบั ผดิ ชอบ ผเู ปน หนุ สว น ประเภทไมจ าํ กดั ความรับผดิ รับผดิ ชอบรว มกันในหนสี้ ินทง้ั ปวงโดย 3. ผูเปน หนุ สว นประเภทจาํ กดั ความรับผดิ ไมจ าํ กดั ลงทนุ ได เฉพาะเงินสดเทา นน้ั และไมม ี 3. ผูเปน หุนสวนทกุ คนจะนําสิ่งใดมาลงทุนก็ได สทิ ธิ์เขา จดั การงานของหางหนุ สวนจาํ กดั ไมวา จะเปนเงนิ สด ทรัพยสิน หรอื แรงงาน และทกุ คนมีสทิ ธ์เิ ขา มาจดั การหา งหุนสวน 4. หนุ สวนประเภทจํากัดความรบั ผดิ จะ สามญั ได ประกอบกิจการแขงขันกบั หางหุนสว นได 4. ผูเปน หนุ สวนประกอบกจิ การแขงขันกับ หา งหุน สวนไมได 5. หนุ สว นประเภทจาํ กดั ความรับผดิ เสยี ชีวติ 5. หากผูเปน หนุ สว นคนใดคนหน่งึ เสยี ชีวิต ไรค วามสามารถ หรอื ลมละลาย หางหุนสว นจาํ กดั ไมต องเลกิ กิจการ ลม ละลาย หรอื ตกเปนผไู รค วามสามารถ หางหนุ สว นจะตอ งเลกิ กิจการ (หากไมม ี ขอตกลงเปนอยางอน่ื ) 3.2 ขอดแี ละขอเสียของการประกอบธรุ กิจแบบหางหนุ สวน ตารางที่ 3 ขอดีและขอ เสยี ของการประกอบธรุ กจิ แบบหา งหนุ สวน ขอ ดี ขอ เสยี 1. สามารถหาเงินทนุ ขยายกจิ การไดมากกวา 1. ทนุ ทเี่ ขาหนุ ถอนไดย าก จนกวาจะเลิก การประกอบการเจา ของคนเดียว กิจการ 2. มเี ครดติ สงู เน่ืองจากมีบคุ คลหลายคนรวม 2. มีปญ หาเรือ่ งความซ่ือสตั ยข องหนุ สว น รบั ผดิ ชอบ บางคนขาดการไววางใจ 3. บริหารกิจการไดม ปี ระสิทธภิ าพมากกวา 3. ความรบั ผดิ ชอบของหนุ สว นไมจ ํากดั กจิ การเจา ของคนเดยี ว เนอื่ งจากมผี หู นุ สวน ทําใหไมกลา เสยี่ งขยายกิจการ เพราะ ดวยกนั หลายคน แบงงานกันตามความรู เม่อื มหี น้ีสินเกดิ ขนึ้ ตองรบั ผดิ ชอบไมจ าํ กดั ความสามารถ ประสบการณ และทักษะ อาจทําใหล มละลายตามภาระหน้ีสนิ ของ หลายดานจากหุน สวนเหลาน้ัน กิจการได หนว ยที่ 5 : รูปแบบองคกรธรุ กจิ และการจัดต้ังองคกรธุรกิจ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 97 ตารางท่ี 3 (ตอ ) 4. อายกุ ารดําเนนิ การหา งหุนสว นไมแนนอน 4. ภาระความเสยี่ งนอ ยกวากิจการเจา ของ หากมีการเปลยี่ นแปลงของผูถ อื หุน เชน คนเดยี ว เพราะเมอ่ื มผี เู ปนหนุ สวนหลายคน ถึงแกกรรมหรือเจ็บปว ยจนถงึ ขั้นทาํ งาน จะชวยเฉลยี่ ภาระความเสย่ี งท่ีเพม่ิ ขึ้น ไมไ ด 3.3 การจดทะเบยี นจัดตง้ั หา งหนุ สว น มวี ิธีปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1. สถานทีจ่ ดทะเบียน กรงุ เทพมหานครย่ืนคําขอจดทะเบยี นหางหนุ สว นทสี่ ํานกั งาน บริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 – 7 และสวนจดทะเบียนธุรกิจกลาง สํานักงานทะเบียนธุรกิจ กรม พัฒนาธุรกิจการคา กระทรวงพาณิชย จังหวัดอ่ืนนอกเขตกรุงเทพมหานคร ใหย่ืนจดทะเบียนที่ สาํ นกั งานพฒั นาธรุ กจิ การคาจงั หวดั 2. การยน่ื คาํ ขอจดทะเบียน การจดทะเบียนจัดต้งั หางหุนสว นตอ งทําเปน ลายลกั ษณ อกั ษร โดยยน่ื ขอจดทะเบียนพาณชิ ยภายใน 30 วนั นับแตวันเริม่ กิจการ คาํ ขอจดทะเบียนตองมี รายการควบถว น ไมขดั ตอกฎหมาย และตองแนบเอกสารตอไปนใี้ หค รบถว น ∆ ชอ่ื หางหุนสว น ∆ วตั ถปุ ระสงคของหางหนุ สว น ∆ ท่ีตง้ั สาํ นักงานใหญและสาขาทั้งปวง ∆ ชื่อหุนสวนผูจัดการท่ีไดรับแตงตั้ง หากมีขอจํากัดอํานาจของหุนสวนผจู ัดการ ประการใดใหล งไวดว ย ∆ ตราซงึ่ ใชป ระทับในเอกสาร ๆ เพื่อแสดงวา หา งหนุ สวนเปน ผูทาํ เอกสารนน้ั ซึง่ ใช ประทับคกู บั ชื่อผเู ปน หนุ สวนหรือผมู ีอํานาจลงนามแทนหางหนุ สว น ∆ รายการอน่ื ๆ ท่ีนอกเหนือจากกฎหมายกาํ หนด ซ่ึงหุนสวนอาจเห็นสมควรให จดรายการอื่นลงไปก็ได เชน ผูเ ปนหุนสวนมหี ุน สวนคนละเทา ไร การแบง ผลกาํ ไรขาดทุนจะแบงกัน อยา งไร ∆ ลงลายมือช่ือผูเปน หุนสวนทุกคนและประทับตราของหา งหุนสวนเม่ือมีการจด ทะเบียนแลวภายหลังตอ งแกไ ขขอ ความท่จี ดทะเบียนไว เชน เปล่ยี นช่อื หา ง เพ่มิ เติมวตั ถุประสงค เปล่ยี นตัวหุนสวนผูจัดการ เปล่ียนท่ีตั้งสํานักงานก็ตองจดทะเบียน ณ ท่ีเดยี วกนั กับการจดทะเบียน จดั ต้ัง ∆ เสยี คา ธรรมเนยี มตามท่ที างราชการกําหนด 3.4 การจัดการหางหนุ สามัญ 1. ผูจัดการหา งหุนสว นอาจมคี นเดยี วหรอื หุนสวนทุกคนเปน ผจู ัดการกไ็ ด 2. ผูจัดการหางหนุ สวนมีอํานาจจัดการงานท้งั หลายตามวัตถปุ ระสงคอันเปนเปนปกติ ธรรมดาในการคาขาย หนวยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธรุ กจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 98 3. หนา ท่ขี องหนุ สว นผจู ัดการ ∆ บรหิ ารจัดการงานของหางหนุ สวนดว ยตนเอง ∆ บรหิ ารจัดการหางหนุ ดวยความระมัดระวังเสมอื นจดั การงานของตนเอง ∆ นาํ สงเงนิ และทรพั ยส ินทที่ าํ ในนามของหางหนุ สวนใหแ กห างหนุ สวน ∆ ไมนาํ เงินหรือทรพั ยส ินของหา งหนุ สวนไปใชส ว นตัว หากนาํ ไปใชต องจา ย ดอกเบย้ี หรอื คา ความเสยี หายน้ันคืนแกห างหุนสวน ∆ เมื่อเกดิ ความเสยี หายเพราะความประมาทเลนิ เลอหรอื กระทํานอกเหนือ ขอบเขตอาํ นาจ ตอ งชดใชคาความเสยี หายน้ันคืนแกหางหุนสว น ∆ แจงผลประกอบการใหห ุนสวนอ่นื ทราบเมื่อเขามคี วามประสงคจะทราบความ เปนไปของหางหนุ สว น 4. ผเู ปนหา งหุน สวนทุกคนมสี ิทธสิ์ อบถาม ตรวจ และคดั สาํ เนาสมุดบญั ชแี ละเอกสาร ตา ง ๆ ลงมติออกเสยี งในปญ หาใด ๆ ของหา งหุน สวน 5. ผเู ปน หนุ สว นทุกคนจะรับผดิ ชอบรว มกนั ตอ ผลกําไรหรือขาดทนุ ทเ่ี กดิ ข้ึน 6. หามมใิ หผ ูเปน หนุ สว นทําการคา ขายแขงกบั หางหนุ สวนในสภาพเดียวกัน 3.5 การจัดการหา งหนุ สวนจํากดั 1. หุนสวนประเภทจํากัดความรับผิดเทานั้นจงึ จะเปน ผจู ดั การได 2. การจดั การหา งหนุ สว นจาํ กดั ใหจัดการเชนเดียวกบั หา งหนุ สว นสามญั 3. หนุ สวนประเภทจาํ กัดความรบั ผดิ มสี ทิ ธ์ิเขาไปดแู ล สอบถาม ใหค ําแนะนําแกห าง หนุ สว นไดเชน เดยี วกบั หา งหุน สวนสามัญ 4. ผเู ปน หนุ สวนประเภทจาํ กดั ความรบั ผิดชอบจะคาขายกับหางหนุ สว นได 5. การแบงเงินปนผลหรอื ดอกเบี้ย หามแบง ใหผ เู ปน หุนสว นประเภทจํากดั ความรับผิด นอกจากผลกําไร 6. เม่ือหางหุนสว นเกดิ ผลขาดทนุ ใหเ ฉลี่ยกันรบั ผดิ แกผูเปนหนุ สวนทกุ คน เวนแตผเู ปน หนุ สว นประเภทจํากัดความรบั ผิดไมเกินจํานวนเงินท่ีตนไดจ ดทะเบยี นลงทุนไว 3.6 การเลกิ กจิ การหา งหนุ สว น หางหนุ สวนจะเลิกกจิ การดวยเหตผุ ลหลายประการ ดงั น้ี 1. เลกิ กจิ การเมอ่ื เกดิ กรณีทกี่ าํ หนดไวในสญั ญาเปน เหตุใหเลกิ 2. เลกิ กิจการเม่อื ครบกําหนดอายุของการดําเนินกจิ การหางหุนสวนนน้ั 3. เลิกกิจการเมื่อผเู ปนหุนสวนคนใดคนหน่ึงบกเลิกลว งหนา ไมนอยกวา 6 เดือนกอน สิน้ รอบปท างบญั ชีการเงินของหางหุน สว นนน้ั 4. เลิกกจิ การเม่อื สญั ญากําหนดไวเ พ่ือทาํ กจิ กรรมหนึ่งเมอ่ื เสรจ็ กิจการน้นั แลวกต็ องเลิก 5. เลิกกจิ การเมอ่ื ผเู ปนหนุ สว นคนใดคนหนึง่ เสยี ชีวติ หรอื ลม ละลาย หรือตกเปน ผูไ ร ความสามารถ หนว ยท่ี 5 : รูปแบบองคกรธรุ กิจและการจัดต้ังองคกรธรุ กิจ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 99 3.7 สทิ ธิป์ ระโยชนข งการจดทะเบียนหา งหนุ สวน การจดทะเบยี นหา งหนุ สวนเพ่อื ใหเปนนิตบิ คุ คลจะตอ งยืน่ ขอจดทะเบียน ณ สํานักงาน จดทะเบยี นหา งหุนสว นและบริษัททอ งท่ซี ง่ึ สํานักงานใหญของหา งหุน สวนตั้งอยู การจดทะเบยี นทาํ ใหเกิดและสิทธหิ ลายประการดังนี้ 1. ทาํ ใหหา งหนุ สว นมสี ภาพเปน นติ บิ ุคคล ซง่ึ มสี ทิ ธิและหนา ท่ีเหมือนบคุ คลธรรมดา เกอื บทุกประการ มีสิทธใ์ิ ชชอื่ ของหา งหนุ สว นในการทาํ นติ ิกรรมตาง ๆ รวมท้ังการฟอ งรอ งคดไี ดด ว ย 2. ไดป ระโยชนในการเสียภาษี หางหุนสวนที่จดทะเบียนแลวสามารถแยกเสียภาษี เงินไดเ ฉพาะสวนของหางหุน สว นเอง โดยคํานวณภาษจี ากกําไรสุทธิของหา งหนุ สว น กําไรมากกเ็ สยี ภาษีมาก กําไรนอยก็เสียภาษีนอย ถาไมมีกําไรหรอื ขาดทุนไมตองเสียภาษีสําหรับปน้ัน สําหรับ กจิ การคาทไ่ี มจ ดทะเบียนเปน นิตบิ ุคคลจะตองเสยี ภาษจี ากยอดรายรับไมวา จะขาดทนุ หรือกําไรก็ตาม 3. มีหลักฐานปรากฏอยูกับทางราชการ ซึ่งรวมทั้งคําขอจะทะเบียนและเอกสาร อื่น ๆ ท่ีทางราชการกําหนด แมเม่ือเลิกกิจการไปแลวก็ยังตองเก็บหลักฐานนี้ไว หุนสวน เจาหนี้ และคนทว่ั ไปมีสทิ ธ์ิขอตรวจสอบหรือใหนายทะเบยี นรบั รองขอ ความตาง ๆ ได 4. ผลประโยชนของหุนสวนในหางหุนสวนที่จดทะเบียนเปนนิติบุคคล มีหลาย ประการดงั น้ี ∆ หุนสวนอาจถือเอาประโยชนจากบุคคลภายนอกในบรรดาสิทธิ์ทั้งหลายที่หาง หนุ สวนน้ันไดมาแลว แมวากิจการน้ันไมปรากฏช่ือของตนก็ตาม ในขณะที่หา งหุนสวนสามัญไมจด ทะเบียนไมอ าจเลือกเอาประโยชนเชน นนั้ ได ∆ ความรับผดิ ชอบเกยี่ วกบั หนีข้ องหา งหุนสว นมีจํากัดเพียง 2 ป นับแตวันออก จากการเปนหุนสว นนั้น แตความรบั ผิดชอบของหุนสวนในหางหุนสวนที่มไิ ดจดทะเบียนอันเก่ยี วกับ หนขี้ องหา งหนุ สว นตอ งถือตามอายคุ วาม 10 ป ∆ ในการเรียกรองใหหุนสวนในหางหุนสวนท่ีมิไดจดทะเบียน เจาหนาที่อาจ เรยี กรองใหหนุ สว นคนใดคนหน่งึ รับผิดชอบได แตหางหุนสวนท่จี ะทะเบยี นนน้ั ถาผูถอื หนุ พิสจู นไดว า ทรัพยสนิ ของหา งหนุ สวนยงั มพี อชาํ ระหนี้ กม็ ีสทิ ธิ์ใหศาลบงั คับเอาทรัพยส นิ ของหางหนุ สวนนนั้ ชําระ หนีก้ อ นได ∆ ตราบใดที่หางหุนสวนจดทะเบยี นยงั มิไดเลกิ กิจการ เจา หนขี้ องหางหนุ สวนจะ ใชส ทิ ธบิ์ งั คบั ไดเฉพาะผลกาํ ไรหรอื เงินซึ่งหา งหุนสว นคางชําระแกผเู ปน หุนสว นตอเม่อื หางเลิกกิจการ แลว เจา หนาทจี่ ึงใชส ทิ ธิ์ไดตลอดจนถึงผูเ ปนหุนสว น 4. บริษัทจาํ กดั บรษิ ทั จาํ กัด (Corporation) คอื องคกรธุรกิจท่ตี งั้ ขึ้นดว ยการแบง ทนุ ออกเปนหนว ยเลก็ ๆ เรียกวา \"หุน\" แตละหุนมีมูลคา เทา ๆ กัน ผูถือหุนตางรับผิดจํากัดเพียงไมเกินจํานวนเงินทีต่ นยัง สง ใชไ มค รบมูลคาของคนทีต่ นถอื หนว ยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กิจ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 100 บริษัทจํากัด (Company Limited) หรือบริษัทที่มีลักษณะการประกอบการท่ีมีผูถือหุน ตง้ั แต 3 คนข้นึ ไป แตไมเกนิ 99 คน แตละคนจะถือหุนมากนอยเทา ใดกไ็ ด แตต อ งไมน อยกวาคนละ 1 หนุ บริษทั เอกชนจาํ กดั จดั ตง้ั โดยไมมวี ัตถุประสงคจะเสนอขายหนุ ตอประชาชน ขอสังเกต ในการกลาวถึงกิจการประเภทบริษัทจํากัดน้ัน โดยทั่วไปหากกลาวถึงบริษัท มกั เปนการกลาวโดยรวม คือ ไมแยกวา จะเปนบรษิ ัทจํากดั หรอื มหาชนจาํ กดั 4.1 ลกั ษณะสาํ คญั ของบริษัทจาํ กัด 1. ผถู ือหุน ไมน อยกวา 3 คน 2. มีมูลคา หุนละเทา ๆ กนั ไมต าํ่ กวา หุนละ 5 บาท 3. มีคําวา “บริษัท” นาํ หนาชอ่ื และตอทา ยดว ยคาํ วา “จํากัด” เสมอ เชน บรษิ ทั ก. จาํ กดั 4. ถือหุน ไมม อี ํานาจในการดําเนินงานของบริษทั เปนหนาทขี่ องกรรมการบรษิ ัท 5. ที่ประชุมใหญผูถือหุนเปนผูกําหนดนโยบายของบริษัท แตงต้ังหรือถอดถอน กรรมการและผสู อบบญั ชีและกําหนดเงินปน ผลใหก ับผูถอื หนุ 6. บริษัทตองออก “ใบหุน ” ใหแกผ ถู อื หุน ยึดถือไว และหนุ ดงั กลา วโอนกันไดโดย ไมตองบอกกลาวใหผูถ ือหนุ อน่ื ๆ ทราบกอ น 4.2 ขอดีและขอเสยี ของการประกอบธรุ กิจแบบบรษิ ัทจาํ กดั ตารางที่ 4 ขอดแี ละขอเสียของการประกอบธรุ กจิ แบบบริษทั จาํ กดั ขอ ดี ขอ เสีย 1. ระดมทนุ ไดม ากโดยขายหุนใหผ สู นใจ 1. การจดั ต้งั ยงุ ยากเพราะมคี วามสลบั ซบั ซอ น 2. ผถู อื หุน รบั ผดิ ชอบจาํ กัดเทากบั มูลคาทยี่ งั สง ใช คาใชจ ายในการจัดตงั้ แพง ไมค รบจํานวน 2. การบรหิ ารงานอาจขาดประสทิ ธภิ าพเพราะ 3. อายุของบริษัทจาํ กัดยาวนานม่ันคงถาวร ตอ งการใหเ กิดประโยชนแกผ เู กี่ยวขอ งและ 4. หุน สามารถเปลย่ี นมือไดโดยการโอนหรอื ประชาชนมากทสี่ ดุ ขายหุน ซงึ่ การระทาํ ไดโดยงาย 3. ภาษสี ูงกวาการประกอบธุรกจิ ประเภทอื่น 5. บรษิ ทั ขยายทุนไดงา ย โดยออกหนุ เพ่ิมหรือ 4. มีขอ จาํ กัดทางกฎหมายมาย เพราะตองการ ขายพันธบตั ร ใหเกิด ประโยชนแกผ เู ก่ยี วขอ งและ 6. การจดั การมีประสทิ ธภิ าพ เพราะตองมอบ ประชาชนมากทีส่ ดุ ใหกรรมการบริษทั จัดผชู ํานาญการมาทําหนาท่ี 5. อาจมีการขดั แยงระหวางผูบรหิ ารงานและ บรหิ ารแทน ผูถอื หนุ เก่ียวกับการดําเนนิ งานของบริษัท หนวยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธุรกิจ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 101 4.3 การจดั ตงั้ บริษัท การขอจัดตง้ั บริษัทจาํ กดั ตองดาํ เนนิ การตามข้นั ตอนของกฎมาย ดังน้ี ขั้นที่ 1 กอ การมผี ูรเิ ริม่ กอ การัดตง้ั บริษัทต้ังแต 3 คนขึน้ ไป เขาชื่อกนั ทําหนงั สอื บรคิ ณห สนธแิ ลวนําไปจดทะเบียนตอนายทะเบยี น หนังสือบริคณหสนธิ คือ หนังสือบันทึกเจตนาของผูเร่ิมกอการที่แสดงรายละเอียด เกีย่ วกับการจดั ตัง้ บรษิ ัท โดยตองลงมายมอื ชือ่ ผูกอการทกุ คนพรอ มใหพยานรบั รองลายมือชอื่ ของผเู รมิ่ กอการ อยางนอย 2 คน แลว นาํ หนงั สอื บริคณหส นธิไปจดทะเบียนโดยจัดทาํ ขนึ้ อยา งนอย 2 ฉบบั ใน หนงั สอื บริคณหส นธิตอ งมรี ายการ ไดแ ก ช่อื บริษทั ประเภทธุรกิจ ท่ีตั้งกิจการ เงินทุนจดทะเบียนเทา ไร แบงออกเปนกี่หุน มูลคาหุนเทาใด แลวนําหนังสือนี้ไปจดทะเบียน เขตกรุงเทพมหานคร นําไปจด ทะเบียนที่สํานักงานบริหารจดทะเบียน 1-7 และสวนจดทะเบียนธุรกิจกลางสํานักทะเบียนธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการคา จังหวัดอ่ืนนอกกรุงเทพมหานครและสวนภูมิภาค ใหย่ืนจดทะเบียนที่ สาํ นกั งานพฒั นาธรุ กิจการคา จงั หวัด ขั้นที่ 2 จดั การใหหนุ ทัง้ หมดของบรษิ ัทนนั้ ไดมีผูลงช่ือจองจนครบ ขั้นท่ี 3 ผูเร่ิมกอการตองนัดหมายใหผูเขาชื่อซ้ือหุนมาประชุมพรอมกัน เปนการ ประชุมใหญโดยไมชกั ชา เรียกวา “การประชุมกอต้งั บรษิ ัท” โดยปกตจิ ะประชมุ เก่ยี วกับการจัดทาํ ขอ บังคับของบรษิ ทั ใหสตั ยาบรรดาสญั ญาตา ง ๆ ท่ผี ูกอ การไดทําไว รวมท้งั อนุมตั ิคาใชจา ยตา ง ๆ ที่ ไดจา ยไปในการจัดตั้งบรษิ ัท กําหนดจํานวนและสิทธิของผูถือหนุ บุริมสิทธิหากจะมีหุนประเภทนี้ใน บริษัท กาํ หนดจํานวนหุนสามัญหรอื หุนบุรมิ สิทธิ เลือกตั้งกรรมการและพนักงานบัญชปี ระจําชุด แรกของบรษิ ัทและระบอุ ํานาจหนาทขี่ องคนเหลานัน้ ขั้นท่ี 4 ผูเริ่มกอการต้ังบริษัทมอบกิจการท้ังปวงใหกรรมการท่ีเลือกตั้งข้ึนมาให ดาํ เนินการตอไปนับวาหมดหนาทข่ี องผูเรมิ่ กอการ ขั้นท่ี 5 เรียกชําระคาหุนใหกรรมการบรษิ ัทเรียกชําระคาหุนจากผูเขาช่ือซื้อหุน ให ชาํ ระคาหุน อยางนอ ยรอ ยละ 25 ของมลู คาหนุ ใหครบทุกหนุ ขน้ั ที่ 6 ขอจดทะเบยี นบริษัทใหกรรมการบริษัทไปภายใน 3 เดือน นับแตวันประชุม กอ ต้ังบริษัท เมอื่ นายทะเบียนตรวจถกู ตอตามกฎหมายแลวจะออกใบสําคญั จดทะเบียนบริษัทไหไ ว เปน หลักฐาน บรษิ ัทก็จะมีสภาพเปนนติ บิ ุคคลนบั ตั้งแตบัดนน้ั เปน ตนไป หมายเหตุ ในการจัดต้ังบริษัทน้ันมีกฎเกณฑยุงยากหลายประการทางท่ีดีควรให นั ก ก ฎ ห ม าย เป น ผู ดํ าเนิ น ก ารใ ห เพ ราะเป น ผู ชํา น า ญ กา รโด ย ต รงจ ะส ะด วก แ ล ะรว ด เร็ ว กว า ผูประกอบการดาํ เนินการเอง 4.4 ชนดิ ของหุน 1) หุนทุน (Stock) คือ ทุนของบริษัทท่ีแบงออกเปนหุน หุนละเทา ๆ กัน ผูถือหุนทุน แสดงวาเปนเจาของบริษัท หุนทุนจะไดรับเงินปนผลเมื่อบริษัทมีกําไร หุนทุนแบงออกเปนหลาย ประเภทที่สําคัญ ไดแก ทุนหุนสามัญและทุนหุนบุริมสิทธิ โดยปกติหุนทุนจะมีสิทธิออกเสียงในที่ ประชุมผถู อื หุน หนวยท่ี 5 : รูปแบบองคกรธุรกิจและการจัดต้ังองคกรธุรกจิ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 102 ∆ หนุ สามัญ (Common Stock) คือ เปน หนุ ทนุ ท่ีขายใหแ กผูส นใจขณะเริ่มกอต้งั บรษิ ัท ผูถอื หนุ ประเทน้ีมสี ว นไดเ สียในกาํ ไรและทรพั ยส นิ ของบรษิ ัทไมแ นน อน แตมีสิทธิ์ในการออก เสียงในการดําเนินงานของบริษัทในปใดบรษิ ัทมีกําไรมากอาจไดรบั สวนแบงมากกวาหุนประเภทอ่ืน ผูถ ือหุนสามญั มสี ทิ ธติ์ า ง ๆ ดังน้ี 1. มีสทิ ธิเ์ ขา ประชมุ และลงคะแนนเสียงในทป่ี ระชุมใหญ 2. มสี ิทธิอ์ อกเสยี งเลอื กตงั้ คณะกรรมการบริหารงานของบริษัทตามจํานวนหุนทถี่ อื อยู 1 หนุ จะมสี ิทธอิ์ อกเสยี งได 1 เสียง 3. มสี ิทธ์ิสอบถามถึงฐานะของบริษทั ตอ คณะกรรมการบรหิ ารงานบรษิ ัท 4. มสี ทิ ธิ์จะขายหนุ โอนหนุ ทางพนิ ยั กรรม หรอื โอนหุน ท่ตี นถอื ใหแ กบ ุคคลอน่ื ได ทกุ โอกาส 5. มสี ิทธ์ิซอื้ หนุ ท่บี รษิ ัทออกใหมกอ นบุคคลภายนอก 6. มสี ทิ ธใ์ิ นเงนิ สดและทรัพยสินตาง ๆ ของบริษทั เมือ่ เลิกกจิ การหลงั จากจายทนุ คืนหนุ ประเภทอืน่ แลว ทรัพยส นิ ทเ่ี หลอื ก็จะตกเปนของผถู อื หนุ สามญั ทั้งหมด 2) หนุ บุริมสทิ ธิ (Preferred Stock) คอื หนุ ที่ผูถือหุนมสี ทิ ธิ์พเิ ศษกวา ผถู ือหุนสามัญ เชน ไดร ับเงินปนผลกอนผถู ือหุนสามัญ ไดรบั สวนแบงทรพั ยสินคนื ในกรณบี ริษัทเลิกกจิ การกอ นหุน ประเภทอ่ืน คือ หุนบุริมสิทธิประเภทผสม ซึ่งผูถือหุนมีสิทธิ์สะสมเงินปนผล และหุนบุริมสทิ ธิ ประเภทไมสะสม จะไมม ีสทิ ธิไ์ ดร บั เงินปน ผลยอนหลัง ผถู อื หุนบุรมิ สิทธมิ ีสทิ ธิต์ า ง ๆ ขอจํากดั สทิ ธิ ของผถู ือหนุ บุริมสิทธิ 1. ไมมีสทิ ธิ์สะสมเงินปนผล หากขอบงั คบั ในการออกใบหุนระบไุ ว 2. ไมม สี ิทธ์อิ อกเสียงเลอื กตงั้ คณะกรรมการบริษัทและผสู อบบญั ชี 3. ไมม ีสทิ ธร์ิ วมรับเงนิ ปน ผล หากขอบงั คับในการออกใบหุนระบุไว 3. หุน กู (Bond) คอื หุนทบ่ี ริษทั ขายใหแ กป ระชาชนโดยสญั ญาวา จะจายดอกเบยี้ ให ตามอัตราที่กําหนดในแตละปและจายทุนคืนใหเมื่อครบกาํ หนดเวลา ผูถือหุนกแู สดงวาเปนเจา หนี้ ของบริษัท หุนกูจะไมมีทรัพยสินใด ๆ เปนประกันนอกเหนือจากชื่อเสียงของบริษัทและหุนกู โดยท่ัวไปไมมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในท่ีประชุมผูถือหุน การออกหุนกูจะทําใหกรณีที่บริษัท ตอ งการขายกจิ การหรอื ตองการเงิน เพอ่ื วตั ถปุ ระสงคอ ่นื ใด บรษิ ัทมหาชนจาํ กดั เทานน้ั ท่ีออกหนุ กไู ด 4.5 การบรหิ ารงานบริษัท โครงสรางบรษิ ัทประกอบดวยผูถือหุน คณะกรรมการบริหาร กรรมการผูจัดการหรือ ผจู ัดการ ผูชวยผูจัดการหรือหัวหนาฝายตาง ๆ โดยปกติผูถือหุนเจาของบริษัทมีสทิ ธ์ิในการเลือก บุคคลที่เหมาะสมเปนกรรมการบริษัท ทําหนาที่ดูแลผลประโยชนคอยติดตามผลการดําเนินงาน รายงานใหแกผูถือหุน คณะกรรมการบริหารมีอาํ นาจตามกฎหมายในการแตงตั้งบุคคลเขาดํารง ตําแหนง ผบู ริหารหรอื ดาํ เนนิ งานของบริษทั สรปุ ไดดังนี้ 1. เลอื กตั้งคณะกรรมการบริหารบริษัท จะมีจํานวนเทาไรก ไ็ ด 2. บริษัทเปน นติ ิบคุ คลฟอ งผูอืน่ หรือถกู ฟองได หนว ยที่ 5 : รูปแบบองคกรธรุ กจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กิจ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปนผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 103 3. เมือ่ มีการประชุมสามญั ครง้ั แรกของทกุ ป ใหกรรมการจับฉลากออกหนงึ่ ในสาม 4. กรรมการมีอํานาจควบคมุ ดแู ลกิจการงานท้ังปวงของบรษิ ทั 5. กรรมการตองดาํ เนินงานตมวัตถุประสงคของบริษทั 6. ตองจดั ใหม กี ารประชุมใหญผ ูถอื หุน ปละ 1 คร้ัง เรียกวา “การประชุมสามัญ” 7. กรรมการตองรับผิดชอบรวมกันในการใชเงินคาหุนน้นั ไดใชไ ปจริง ๆ จัดใหมีและ รักษาไวซ่ึงบรรดาสมดุ บัญชแี ละเอกสารทก่ี ฎหมายกําหนด การจา ยเงินปน ผลหรือดอกเบย้ี ใหเปน ไป ตามกฎหมาย การบังคับใหเปน ไปตามมตทิ ีป่ ระชมุ ใหญ 8. กรรมการเรียกประชุมวสิ ามัญเม่ือใดก็ได ถาบริษัทขาดทุนลงถึงกงึ่ หน่ึงตองเรียก ประชมุ วิสามญั ทันทเี พอ่ื แจง ใหผ ถู อื หนุ ทราบ 9. บรษิ ทั ตอ งทํางบแสดงฐานะการเงนิ งบกําไรขาดทุน และมีผูตรวจสอบบัญชเี สนอ ตอ ท่ีประชุมใหญส ามัญทุกป 10. เงนิ ปนผลจะจายไดโดยมติของทปี่ ระชุมใหญส ามญั โดยจัดเปนทุนสาํ รองไวอ ยา ง นอย 1 ใน 20 สว นของกาํ ไร 4.6 การเลกิ บริษทั บรษิ ทั จาํ กดั ยอ มเลิกกิจการดวยเหตผุ ลตา ง ๆ ดังน้ี 1. ถาในขอบังคับของบริษัทกําหนดใหเลิกในกรณีใดกรณีหนึ่ง เมื่อเกิดกรณีนั้นขึ้น บริษัทตอ ง เลกิ กิจการ 2. ถา กําหนดเวลาไว เมอ่ื ครบกาํ หนดบริษัทตอ งเลิกกจิ การ 3. ถา ตั้งบรษิ ทั ข้ึนทําเปน กจิ การเฉพาะอยาง เมอื่ กจิ การน้นั สาํ เร็จบริษทั ตอ งเลกิ 4. เมื่อมมี ตพิ เิ ศษใหเ ลิก 5. เมือ่ บริษัทลม ละลาย 5. บริษทั มหาชนจํากัด บริษัทมหาชนจํากัด (public Company Limited) คือ บริษัทประเภทหนึ่งซึ่งตั้งขึ้น ดว ยความประสงคจะเสนอขายหุนตอ ประชาชนโดยไดร ะบุความประสงคเ ชนนั้นไวในหนังสอื บรคิ ณห สนธิ โดยมี “ผูเร่ิมจัดต้ังบริษัท” ซึ่งเปนบุคคลธรรมดาตั้งแต 15 คนขึ้นไป และมีคุณสมบัติ ถกู ตอ งตามกฎหมายกําหนดรว มกนั ทาํ หนงั สอื บริคณหสนธิ แลว นาํ ไปจดทะเบียนบริษทั มหาชนจํากัด จัดต้ังขนึ้ โดยมวี ตั ถุประสงคจะเสนอขายหนุ ตอ ประชาชน 5.1 ลกั ษณะสําคัญของบริษทั มหาชนจํากดั 1. ช่ือบริษัทตองมีคําวา “บริษัท” นําหนา และมีคําวา “จํากัด (มหาชน)” ตอทาย เชน บริษทั แกรมม่ีโกลด จาํ กัด (มหาชน) บรษิ ัท บางกอกแลนด จาํ กัด (มหาชน) เปนตน 2. ผูเร่มิ จดั ตัง้ ตัง้ แต 15 คนขนึ้ ไป หนวยที่ 5 : รปู แบบองคกรธรุ กจิ และการจัดต้ังองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 104 3. ผถู ือหุน รบั ผิดชอบไมเ กินจาํ นวนเงินคา หนุ ทีช่ ําระแลว 4. หนุ แตละหนุ มมี ูลคาเทา กัน และมมี ูลคาหนุ ละไมตา่ํ กวา 5 บาท 5. ตองมผี ถู อื หนุ ซง่ึ เปนบุคคลธรรมดาหรอื หนุ รวมกนั ไมน อยกวา รอยละ 50 ของ จํานวนหนุ ท่อี อกจาํ หนายไดท งั้ หมด 5.2 การจดั ต้ังบรษิ ัทมหาชนจาํ กัด วธิ ีการดําเนินดังน้ี ขนั้ ที่ 1 ผเู รมิ่ จดั ต้งั บรษิ ัทจะตองขออนุญาตตอสํานักงานคณะกรรมการกาํ กับหลักทรัพย และตลาดหลักทรัพย (ก.ล.ต.) เมื่อไดร ับอนญุ าตแลวจงึ เสนอขายหนุ ตอ ประชาชนใหไ ดไมตาํ่ กวา 50% ของหนุ ท้งั หมด ขนั้ ที่ 2 เสนอขายหนุ ใหประชนบางสวนโดยทาํ เปน หนงั สอื ชช้ี วนแลว เปดใหจองหนุ ขั้นที่ 3 เปดใหจองหุนโดยผา นบรษิ ทั เงนิ ทุนหลักทรพั ยหรือธนาคาร ข้ันท่ี 4 ประชุมกอตั้งบริษัท โดยผูเริ่มกอการเรียกผูจองหนุ ท้ังหมดมาประชุมเพ่ือ พิจารณาขอบังคับของบริษัท เลอื กต้ังคณะกรรมการบรษิ ัท ใหสัตยาบันในกจิ การท่ีทําไปแลว และ อ่ืน ๆ เสรจ็ แลวคณะผเู ริ่มจัดต้ังบรษิ ทั ตอ งมอบกจิ การทั้งหมดใหแกคณะกรรมการทเี ลอื กตัง้ ข้ึน ข้ันที่ 5 คณะกรรมการบริษัทเรียกใหผูจองหุนท้ังหมดชําระคาหุนเต็มจํานวน ถามี ผไู มช าํ ระ คาหนุ ใหเอาหนุ นน้ั ออกมาขายทอดตลาด ขน้ั ที่ 6 เมื่อไดร ับคา หนุ ครบแลว ใหดาํ เนินการจดทะเบียนบริษัทภายใน 3 เดอื น นับ แตวนั ท่ีประชุมกอตั้งบรษิ ัทเสรจ็ การจดั ต้งั บรษิ ัทมหาชนจํากัดก็เสร็จสมบูรณ 5.3 การดําเนินงานของบริษัทมหาชนจาํ กดั 1. มคี ณะกรรมการดําเนนิ งานบริษัทชดุ หน่ึงไมน อ ยกวา 5 คน ทาํ หนา ที่บริหารบรษิ ทั กรรมการจะไดจ ากการเลือกต้ังในที่ประชุมใหญผูถือหนุ มีวาระ 1 ป มีอํานาจหนาทต่ี ามกฎหมาย กําหนดไวในหนังสอื บริคณหสนธิ กึง่ หน่ึงของคณะกรรมการตองมีถิน่ ที่อยใู นประเทศไทย 2. คณะกรรมการดําเนินงานตองมีการประชุมอยางนอย 3 เดือนตอครั้ง ณ ทองท่ี อนั เปน ทีต่ งั้ ของสํานกั งานใหญห รอื พื้นท่ีใกลเคยี ง 3. ความรับผิดชอบคณะกรรมการดําเนินงานของบริษัท ตอ งปฏิบตั ิหนาทใี่ หเปนไป ตามกฎหมาย วตั ถุประสงค ขอบงั คับของบริษทั หากบริษัทไดรับความเสยี หาย บรษิ ัทมีสิทธ์เิ รียก คา สนิ ไหมทดแทนจากกรรมการผูกอการใหเกดิ ความเสียหายได 4. การประชุมผูถอื หุน ใหมกี ารประชุมผูถือหุนปละคร้ัง เรยี กวา “การประชุมสามัญ ประจําป” ตองดําเนินการประชุมภายใน 4 เดือนนับแตวันส้ินสุดของรอบปบัญชีบริษัท สวนการ ประชมุ วิสามัญเปน คณะกรรมการหรอื ประชมุ เมอ่ื ไหรกไ็ ด 5. ใหจ ดั ทําบญั ชีและเกบ็ รักษาบัญชี การสอบบัญชีตามกฎหมายจดั ทํางบแสดงฐานะ การเงินและงบกาํ ไรขาดทุนอยางนอยปละ 1 ครัง้ และตองเสนอตอ ที่ประชุมผถู อื หุนในการประชุม สามัญประจําปเ พื่อขออนมุ ตั ิ หนว ยท่ี 5 : รูปแบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธุรกิจ

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปน ผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 105 6. การจา ยเงินปน ผล จะตองจา ยเงนิ จากเงินกําไรเทานั้นและตอ งไดรบั ความเห็นชอบ จากมตทิ ี่ประชุมใหญผูถอื หุน และตอ งจัดสรรไวเปน ทุนสํารองของบริษัทอยางนอย 5% ของผลกาํ ไร การจา ยเงินปนผลจะตองประกาศโฆษณาในหนา หนงั สอื พมิ พทอ งถ่ิน 6. ธรุ กจิ แฟรนไชส 6.1 ความหมายของธุรกิจแฟรนไชส ธุรกิจแฟรนไชส (Franchise) เปนการซื้อสิทธิ์ใน การดําเนนิ การที่มีอยูแลว ในตลาด ซึ่งสว นใหญเปน ธุรกิจทป่ี ระสบความสําเรจ็ และเปน ท่ีรูจกั กันใน ตลาดอยแู ลว โดยเจา ของสิทธ์เิ รยี กวา “แฟรนไชสเซอร” (Franchiser) จะขายสทิ ธิก์ ารดําเนินการใน รปู แบบตา ง ๆ เชน การคา ขาย การบรหิ าร การตลาด การควบคมุ สินคา การฝก อบรมพนักงาน ขาย เปนตน ผซู ื้อสิทธิ์เรยี กวา “แฟรนไชชี” (Franchisee) มีโอกาสประสบความสําเรจ็ ไดมากวา การเริ่มตนธรุ กิจดวยตนเอง เพราะไมต อ งลองผดิ ลองถกู ดว ยตนเอง เนื่องจากไดรับการดแู ละปกปอ ง จากผูใหส ิทธิ์ ขณะเดยี วกันกม็ ขี อ เสียคือขาดอิสระในการทํางาน 6.2 ประเภทของแฟรนไชส ธุรกิจแฟรนไชสแบงออกเปน 3 ประเภท ดังน้ี 1. แฟรนไชสผลติ ภณั ฑ (Product and Band Franchising) หมายถงึ ระบบแฟรนไชส ทเี่ จา ของสิทธิอ์ นุญาตใหผ ูซือ้ สิทธ์ิใชช ื่อทางการคา ของตน ซึง่ ผูซ อื้ สิทธิ์จะประกอบกจิ การขายสินคา หรือบริการภายใตชื่อผลิตภัณฑนั้น ๆ มีระบบการบริหารจัดการคุณภาพสินคามาตรฐานเดียวกับ เจา ของสทิ ธิ์ การเริม่ ตน ประกอบธุรกิจประเภทน้ี ผูซ ้ือสิทธิ์จะซอ้ื สทิ ธ์ิจากเจา ของสทิ ธิ์ดว ยเงนิ จํานวนหน่งึ โดยเจา ของสิทธิ์จะอบรมความรูใ หแกผูซื้อสทิ ธแิ์ ละจะเปน พเ่ี ล้ียงชวยในการดําเนินการใหต ้งั แตเร่ือง การจดั วางระบบบญั ชี ระบบการขาย การตลาด การตกแตง รา นคาใหไ ดมาตรฐานเดียวกันกบั เจาของสิทธ์ิ แตอํานาจการบริหารจัดการและผลประโยชนจากการดําเนินธุรกิจเปนของผูซื้อสิทธ์ิเพียงผูเดียว ตวั อยางแฟรนไชสประเภทนี้ ไดแ ก โรงเรียนกรวดวิชาจนิ ตคณิต บะหมเี่ กย๊ี ว กาแฟเขาทะลชุ ุมพร ธุรกจิ รับซ้อื ขยะ เชน ปราบขยะ เปนตน 2. แฟรนไชสแบบการจัดการธุรกิจหรือแฟรนไชสแบบธุรกิจ (Business Format Franchising) เปนธุรกิจแฟนไชสท่ีเจาของธุรกิจใหส ิทธิ์บุคคลอ่ืนดําเนินธุรกิจเพ่ือขายสินคาและ บริการภายใตชื่อหรือเคร่ืองหมายการคาของตนเชนเดียวกับธุรกิจแฟรนไซสผลิตภัณฑ แตมีขอ แตกตา ง คอื แฟรนไชสแบบธรุ กิจ เจาของสิทธิจ์ ะเขามากํากับดแู ลเกือบทุกดา น ตงั้ แตก ารเลือก ทําเลทตี่ งั้ ราน การผลติ การบรรจุภัณฑ การซื้ออุปกรณเ ครอ่ื งมอื การตกแตง สถานท่ี การโฆษณา การสง เสริมการขาย การกําหนดเปา หมาย การขาย รูปแบบการบริการทางธุรกิจเต็มรูปแบบตาม ขอกาํ หนดของเจาของสทิ ธิ์ น่นั คือผูซอื้ สิทธิ์และเจา ของสิทธ์ิมีอาํ นาจในการบริหาร เชน ธรุ กิจราน สะดวกซื้อ ธุรกจิ อาหาร ธรุ กจิ เคร่อื งดื่ม เปนตน หนว ยที่ 5 : รูปแบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 106 3. แฟรนไชสรว มลงทนุ (Conversion Franchising) เปนระบบแฟรนไชสท ีน่ าํ ธุรกิจ ทีม่ อี ยแู ลว ในทอ งถิ่นมารวมกันกับเจา ของสิทธิ์ เพื่อสรางเครอื ขา ยผลิตภณั ฑซงึ่ จะชว ยในการตอรอง และการเปลยี่ นรา นคาอิสระในทอ งถ่นิ ใหเ ขม ในระบบแฟรนไชส ซง่ึ จะใหป ระโยชนรวมกันในดานการ โฆษณาที่ทําใหกจิ การเปนที่รจู ักของผูบริโภคเพิม่ ขึ้น เชน ธุรกิจโรงแรม ธุรกจิ รถเชา บรษิ ัททัวร ธุรกิจอสงั หาริมทรัพย ธรุ กิจบรกิ าร ธุรกิจรับทําบัญชี เปน ตน 6.3 สิทธ์ิพื้นที่ ผูซ้ือสิทธ์ิจะไดรับสิทธิ์พื้นฐานท่ีเปนประโยชนจากการซื้อสิทธ์ิอยางไรนั้น ขึน้ อยกู บั ขอตกลงระหวางผซู ื้อและผูข าย โดยสว นมากจะไดรับประโยชนพ น้ื ฐานที่ตกลงกนั ไว เชน 1. การไดใ ชภาพลกั ษณซงึ่ เปนคา นยิ มของแฟรนไชส 2. การไดร บั เคร่อื งหมายการคา ตราผลิตภณั ฑ และโลโก (Logo) 3. สทิ ธใิ์ นการตกแตงสถานทตี่ ามรปู แบบของผูขายสิทธ์ิ 4. ไดรับการเปด เผยสตู รหรอื เคล็ดลบั ในการผลิต การบรหิ ารตามแบบผูขายสทิ ธ์ิ 5. ไดรับการอบรมเทคนิคการปฏิบัติงาน การถายทอดเทคโนโลยีทั้งในหองเรียนและ ณ จดุ ปฏิบตั งิ านจริง ไดร บั คําปรึกษา ไดรบั การสนับสนุน ชว ยแกปญหาหรอื กจิ การได 6. ไดร บั เอกสารคมู อื การบริหารงานและไดรว มวางแผนการโฆษณา 7. ไดโ ฆษณารวมกันท้ังดา นสิง่ พมิ พ วัสดุสง เสริมการขาย ทาํ ใหเ สยี คา ใชจ า ยถกู กวาจาก การทาํ เอง 6.4 ขอดีของธุรกิจแฟรนไชส 1. สามารถเริม่ ดําเนินการไดทนั ที 2. ไดร บั การดแู ลและปกปอ งจากผใู หส ทิ ธ์ิ ต้งั แตก ารผลติ จนถงึ การจัดจําหนา ยทเ่ี ปน การ จดั การ ท่ไี ดผ านการทดสอบเปน อยา งดแี ละประสบผลสาํ เร็จมาแลว ดงั นน้ั ผูซ ้ือสทิ ธิ์จงึ มคี วามเสยี่ งตาํ่ มากเมอื่ เทยี บกบั ธรุ กิจประเภทอนื่ 3. เปนการสรา งความไดเ ปรยี บทางดา นการดาํ เนินงานโดยอาศยั ภาพลกั ษณข องผูใ หส ิทธิ์ 4. ตนทุนวัตถุดิบหรอื สินคาถูกกวา เนื่องจากผูเปนเจาของสิทธมิ์ ีเครือขายมากทําใหมี อาํ นาจตอ รองราคาไดมากกวา ผูซอื้ รายยอ ยอื่น จงึ ทาํ ใหผ ูซ อ้ื สทิ ธซ์ิ อื้ วัตถุดิบไดร าคาถูก 5. ไดรบั ความรใู นการดําเนินธุรกิจ เนื่องจากเทคนิคและความรูต าง ๆ ไดมีการปฏิบัติ และประสบความสาํ เร็จมาแลว 6. ลดคาใชจ า ยในกาโฆษณาประชาสมั พนั ธ เน่อื งจากช่ือเสยี งและเครอ่ื งหมายการคา 6.5 ขอ เสียของธุรกิจแฟรนไชส 1. ผูรับสิทธ์ิขาดอิสระในการบรหิ าร เนื่องจากบริษทั ผูใหสิทธิจ์ ะเปนผูควบคุมนโยบาย การบริหารอยางเขม งวด 2. ขอตกลงของบริษทั ผใู หส ทิ ธ์มิ ไี วอยางชัดเจน ทําใหบ ริษทั ผรู บั สิทธไ์ิ มม คี วามคิด 3. นโยบายการผลติ และการตลลาดจะถูกกาํ หนดโดยผูใหสทิ ธ์ิ หนว ยที่ 5 : รปู แบบองคกรธรุ กจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 107 4. ไมม หี ลกั ประกนั ความสําเร็จ เนอื่ งจากความเสี่ยงในการดาํ เนนิ ธุรกจิ สามารถเกิดข้นึ ได เปนส่งิ ปกตสิ ําหรับการประกอบธุรกิจ 5. คาใชจายสูง เน่ืองจากตองเสียคาใชจายลวงหนาเพ่ือไดมาซึ่งสิทธิ์ในการประกอบ กจิ การ ขอ คิดของการเลือกรูปแบบธุรกิจนั้น จะตองมีการคิดไตรต รองและศึกษาขอ มลู ในดานตาง ๆ อยา งรอบคอบ มิใชอ ยากจะดาํ เนินธรุ กิจอะไรก็ลงมอื ทันทีเพราะมีทนุ เพียงพออยูแ ลว การประกอบ ธุรกิจนั้นยอมจะลมละเหลวมากวาประสบผลสําเร็จ หากจะจัดตั้งธุรกิจใหมหรือจะเปลี่ยนแปลง รปู แบบธรุ กิจแบบเดิมเปนธรุ กิจแบบใหมห รอื แฟรนไชสใหเปรยี บเทียบขอดีและขอเสยี ของรูปแบบ การดาํ เนินธุรกิจแตล ะรปู แบบ และตองพจิ ารณาขอ คําถามตอไปน้ี 1. การจดั ต้ังธุรกจิ รปู แบบท่ีตอ งการนน้ั ยากหรอื งา ย 2. เจาของธุรกิจจะตองรับผดิ ชอบเพยี งไร 3. จะตอ งใชเงินทนุ เทาไรเพ่ือเร่มิ กิจการ 4. จะหาทนุ เพิ่มระหวา งดาํ เนนิ กิจการนัน้ ไดห รือไม เพยี งไร 5. มกี ฎหมายบงั คับประเภทนนั้ ๆ หรือไม และอยา งไร 6. ธรุ กจิ ประเภทนน้ั อยูในขายบังคบั ของกฎหมายเพียงไร 7. จะมอบโอนอาํ นาจและหนาทใี่ หแกพนักงานชั้นผูนอ ยจะมีแผนดําเนนิ การอยางไร สรปุ สาระสาํ คัญ รูปแบบองคกรธุรกิจมีหลายรูปแบบดังน้ี กิจการเจาของคนเดียว หางหุนสวนสามัญและหาง หุนสวนจํากดั บริษัทจํากัด บริษัทมหาชนจาํ กัด การประกอบการเจา ของคนเดียวและหางหุนสวน สามัญ มีขอดีในดานความคลองตัว ในการบริหารมีโครงสรางแบบงาย ๆ มีกฎหมายใชบังคับนอย สวนหางหนุ สว นจาํ กัด ผเู ปนหนุ สวนประเภทจาํ กดั ความรับผิดจะรับผิดชอบในหนีส้ ินอยางจาํ กดั จํานวน สาํ หรบั บริษทั จํากัดนั้น ผูถือหนุ ตางรบั ผิดชอบเทา กบั จํานวนเงินทย่ี ังสงใชคา หุน ไมค รบเทา น้นั สาํ หรับ ธุรกจิ แฟรนไซส เปนธุรกจิ ทีต่ อ งซอื้ สทิ ธทิ์ างการคา จึงสามารถดําเนนิ ธุรกิจแฟรนไซสไ ด หนว ยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกิจและการจัดตั้งองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา การเปนผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 108 แบบฝก หดั หนว ยท่ี 5 รูปแบบองคก รธุรกิจและการจดั ต้ังองคก รธรุ กจิ คําส่งั จงเติมคาํ หรอื ขอความลงในชอ งวา งใหถ กู ตอ ง 1. จงอธบิ ายลกั ษณะของบริษทั จาํ กดั มาอยางละเอยี ด ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 2. ขัน้ ตอนการจดทะเบยี นนติ บิ คุ คลมกี ี่ข้นั ตอน อะไรบา ง ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 3. หางหนุ สวนจํากัดประกอบดวยหนุ สว นกป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 4. จงอธิบายลักณะของบรษิ ทั มหาชนจํากดั มาอยางละเอยี ด ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 5. ธรุ กจิ แฟรนไซสม ีกปี่ ระเภท อะไรบา ง ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 6. จงบอกช่อื กิจการแฟรนไซสท ่ีมีในประเทศไทยมาอยางนอย 3 กจิ การ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... หนว ยที่ 5 : รูปแบบองคกรธรุ กจิ และการจัดตั้งองคกรธุรกจิ

เอกสารประกอบการเรียน วิชา การเปนผูป ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 109 7. จงบอกถงึ สทิ ธิพ้นื ฐานของผูซ ้ือสทิ ธแ์ิ ฟรนไซสม าอยางละเอยี ด ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 8. จงบอกขอ เสยี ของธุรกจิ แฟรนไซสมาพอสังเขป ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 9. จงบอกขอ ดแี ละขอ เสยี ของการจัดตง้ั บริษทั จํากดั ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... 10. จงบอกขอ ดแี ละขอ เสยี ของการจดทะเบยี นหา งหุน สว นจํากดั ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... หนวยที่ 5 : รปู แบบองคกรธรุ กจิ และการจัดต้ังองคกรธุรกิจ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 110 ใบงาน หนวยที่ 4 กฎหมายท่เี กย่ี วของกบั การเปนผูประกอบการ ควบคมุ คณุ ภาพ ใบงานท่ี 1 ความสาํ คัญของกฎหมายและจรรยาบรรณในการเปน ผูประกอบการ ใหน ักเรยี นชวยกันจดั ทาํ ปายนเิ ทศเพอ่ื สง เสรมิ ความรเู ก่ียวกบั กฏหมายและจรรยาบรรณใน การเปนผปู ระกอบการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ใบงานที่ 2 กฎหมายสําคัญจรงิ หรอื ใหนกั เรยี นศกึ ษาขอ กฎหมายตา งทเ่ี กย่ี วกับการเปน ผปู ระกอการท่ีสามารถนําไปใชเพอื่ กอประโยชนมีกฎหมายอะไรบา ง และมคี วามสําคญั อยา งไร และนาํ เสนอหนา ชน้ั เรียนเพอ่ื ให เพือ่ นทราบ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ใบงานที่ 3 สาเหตทุ ่ีผูประกอบการละเมดิ กฎหมายคมุ ครองผูบรโิ ภค และมีผลตอ ผูป ระกอบการ อยางไรบา ง ใหน ักเรยี นคน ควา หาการตดั สินคดคี วามทเี่ กย่ี วกบั การละเมดิ กฎหมายของผูประกอบการ วา มีสาเหตุจากอะไรพรอมท้งั ผลการตดั สินคดขี องศาล แลนาํ เสนอหนา ชั้นเรียนเพื่อใหเพอื่ นทราบ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ หนว ยที่ 5 : รูปแบบองคกรธรุ กิจและการจัดต้ังองคกรธุรกจิ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปน ผปู ระกอบการ ENTREPRENEURSHIP 111 แบบทดสอบหลงั เรียน หนว ยที่ 5 รูปแบบองคก รธุรกิจและการจดั ต้ังองคกรธรุ กิจ ควบคุมคุณภาพ คําชี้แจง จงทําเครอ่ื งหมาย (X) ลงหนา ขอทถี่ กู ตอ งทสี่ ุด 1. หุนสว นประเภทใดที่สามารถบรหิ ารหา งหนุ สว นจํากดั ได ก. หุนสว นประเภทวิสามัญ ข. หุนสว นประเภทสามญั ค. หุน สว นประเภทจํากัดความรบั ผดิ ง. หุนสว นประเภทไมจาํ กัดความรับผดิ 2. หา งหนุ สวนประเภทใดทไ่ี มตอ งจดทะเบยี น ก. หางหุนสวนสามญั ข. หางหนุ สวนจํากดั สามญั ค. หางหนุ สวนสามัญจาํ กดั ง. หางหนุ สวนสามญั นติ บิ คุ คล 3. กจิ การเจาของคนเดยี วมลี กั ษณะอยางไร ก. มผี เู ปน หนุ สวน 2 คนขึ้นไป ข. มเี จาของเพยี งคนเดยี ว ค. มีผเู ริ่มกอ การอยางนอ ย 3 คน ง. มีการจายเงนิ ปน ผล 4. กจิ การเจาของคนเดียวมีขอ เสยี อยา งไร ก. การบริหารงานขาดความคลองตวั ข. การขยายกจิ การทําไดง า ย ค. มีกฎหมายขอบังคับนอ ยกวาธุรกิจอื่น ง. เจา ของกิจการตอ งรับภาระหนกั 5. บริษัทจํากัดตอ งมผี ูเรม่ิ กอ การต้ังแตก ่ีคนขน้ึ ไป ก. ต้ังแต 2 คนข้นึ ไป ข. ตง้ั แต 3 คนข้นึ ไป ค. ตงั้ แต 7 คนข้นึ ไป ง. ตง้ั แต 15 คนขึน้ ไป หนว ยท่ี 5 : รปู แบบองคกรธุรกจิ และการจัดต้ังองคกรธรุ กจิ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า การเปนผูประกอบการ ENTREPRENEURSHIP 112 6. ขอ ใดคอื ขน้ั ตอนการจดทะเบยี นบรษิ ทั ก. มีผูเรมิ่ กอต้ังบริษัท 3 คนขึน้ ไป ข. สรา งประโยชนใหส งั คมมากทสี่ ดุ ค. ความพึงพอใจของลูกคา ง. เปนเจา ของกจิ การ 7. ขอใดเปนสว นประกอบสาํ คญั ของความหมายของผปู ระกอบการ ก. ความเสยี่ ง ข. กาํ ไร ค. การตลาด ง. เปนเจาของกจิ การ 8. ขอใดคอื หนา ทที่ สี่ าํ คัญของผูป ระกอบการ ก. เปน ผูน ําเงินมาลงทนุ ข. เปนผกู อ ตงั้ และเปน เจาของกิจการ ค. เปน ผจู ัดการ ง. เปนผูนํานวตั กรรมมาใช 9. ขอ ใดไมใชคณุ ลกั ษณะสาํ คญั ของผูประกอบการทป่ี ระสบความสําเรจ็ ก. ผลติ สนิ คา ท่มี คี ณุ ภาพ ข. มีการสงเสริมการขายทด่ี ี ค. คดิ หาทางทําธรุ กจิ ใหม ๆ ง. ตอ งมฐี านะการเงินม่ันคงอยกู อ นแลว 10. ขอใด เปนจรรยาบรรณของผปู ระกอบการทร่ี บั ผดิ ชอบแกล กู คา ก. จายคาจางดวยความเปนธรรม ข. ไมส รางมลพษิ ดานสง่ิ แวดลอ ม ค. การตดิ ตามและใหบริการหลังการขาย ง. ใหท นุ วจิ ัยอนรุ กั ษส ง่ิ แวดลอม หนวยท่ี 5 : รูปแบบองคกรธุรกจิ และการจัดตั้งองคกรธรุ กจิ