ทรงพระเจริญ ราชาเป็นสงา่ แหง่ แวน่ แคว้น ภมู แิ ผ่นดินถ่นิ แดนดา� รงสถติ พิสุทธิธรรมธ�ารงมงคลนิมิตร เทดิ อทุ ิศพิทักษ์นามความเปน็ ไทย ศักดก์ิ ษตั ริย์ ศรเี กษตร เขตขอบ ขัณ-ฑสมี าทรงธรรม์ มิ่งขวญั สมยั เจ้าแผน่ ดนิ ยนิ ดี นโ้ี ดยนยั พระทรงชัยราชา แหง่ ปวงชน คือองค์คณุ แหง่ สามคั คีธรรม คอื พลังสร้างน�า สัมฤทธผิ์ ล ในความดี ความงาม ความเปน็ คน อันบนั ดลพลงั ประชาดว้ ยสามัคคี บรมราชาภเิ ษก สมโภชทรง พระสืบสันตติวงศ์ ธา� รงวิถี ถวายใจจงรกั ม่ันภักดี พระเดชาบารมี มงคลคง ทศพธิ ราชธรรม ธ�ารงหล้า ทศธรรมราชา บุญญานิสงส์ ทศทศิ มหทิ ธศิ ักดิ์ จกั รีวงศ์ ขอจงทรงพระเจรญิ ทรงพระเจริญฯ ด้วยเกลา้ ด้วยกระหมอ่ ม ขอเดชะ ขา้ พระพุทธเจ้า เนาวรัตน์ พงษไ์ พบลู ย์ ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศิลป์
พระราชประวตั สิ มเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ฯ รชั กาลท่ี ๑๐ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เปน็ พระราชโอรสพระองคเ์ ดยี ว ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช (รชั กาลท่ี 9) และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ท่ี 3 ของไทย และเมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วนั ท่ี 29 พฤศจกิ ายน 2559 คณะรฐั มนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดประชมุ ร่วมกนั ในวาระพเิ ศษเรอื่ ง การมีพระมหากษตั รยิ ์พระองค์ใหม่ และมีมตแิ จง้ ไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้อัญเชิญองค์พระรัชทายาท (สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกมุ าร) ขึน้ ครองราชสมบตั ิ สืบเปน็ รัชกาลท่ี 10 พระราชประวัติ ในหลวงรัชกาลท่ี 10 สวางควฒั น์ บรมขตั ตยิ ราชกมุ าร” เปน็ พระราชโอรสพระองคเ์ ดยี ว สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช (รชั กาลที่ 9) มีพระนามเม่ือแรกประสูติว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราช วชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศเทเวศรธ�ำรงสุบริบาล สมภพ ณ พระท่ีนั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวนั จนั ทร์ที่ 28 อภคิ ุณปู ระการมหติ ลาดลุ เดช ภมู พิ ลนเรศวรางกรู กติ ตสิ ริ สิ มบรู ณ์ กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น. ชยั สมรภูมิ 3
ซ่ึงพระนาม “วชิราลงกรณ” นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า มหาวิทยาลัยนวิ เซาทเ์ วลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมอ่ื พ.ศ. 2519 กรมหลวงวชริ ญาณ วงศท์ รงตง้ั ถวาย มาจาก “วชริ ญาณ” พระนาม โรงเรยี นเสนาธกิ ารทหารบกรนุ่ ท่ี 46 ฉายาขณะผนวชในพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหามงกฎุ พระจอม นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว (รัชกาลที่ 6) ผนวกกับ ”อลงกรณ์” จากพระนามใน รนุ่ ท่ี 46 เมอื่ ปี พ.ศ. 2520 ทรงเขา้ ศกึ ษาในสาขาวชิ านติ ศิ าสตร์ รนุ่ ที่ 2 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้า มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ. 2525 ทรงส�ำเร็จการ อยูห่ ัว (รัชกาลที่ 5) ศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) และปี พ.ศ. 2533 พ่นี อ้ ง ทรงได้รับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราช มีพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ อาณาจกั ร เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินี พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระ 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟา้ มหาจกั รีสริ นิ ธร ยพุ ราช รฐั สมี าคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกมุ ารี และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เม่อื วนั ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมิ เจา้ ฟ้าจุฬาภรณวลัยลกั ษณ์ อคั รราชกุมารี นทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รชั กาลท่ี 9) ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ระดับอนบุ าล รร.จติ รลดา โปรดกระหม่อมให้ต้ังการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรง สมเดจ็ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ให้ดำ� รงพระอสิ รยิ ยศ ส�ำเร็จการศกึ ษาขนั้ ตน้ ในระดบั อนบุ าล รนุ่ ที่ 2 จากโรงเรยี นจติ รลดา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตาม แลว้ จงึ เสดจ็ ฯ ไปทรงศกึ ษาตอ่ ในระดบั ประถมศกึ ษาทโี่ รงเรยี นคงิ สม์ ดี โบราณขัตตยิ ราชประเพณี เพอ่ื รบั ราชสมบตั ปิ กครองราชอาณาจกั ร แควน้ ซสั เซกส์ และศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาทโ่ี รงเรยี นมลิ ฟลิ ด์ แควน้ สืบสนองพระองค์ โดยมพี ระนามตามจารกึ ในพระสพุ รรณบฏั วา่ ซอมเมอรเ์ ซทประเทศอังกฤษ หลงั จากน้นั ทรงศกึ ษาต่อวิชาทหาร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจา้ ฟา้ มหาวชริ าลงกรณบดนิ ทร ทโี่ รงเรียนคิงส์สกูล ซดิ นีย์ ประเทศออสเตรเลยี เสรจ็ แล้ว ทรงการ เทพยวรางกรู สริ กิ ติ ยิ สมบูรณสวางควัฒน์วรขัตติยราชสันตติวงศ์ ศกึ ษาตอ่ ในระดบั ปรญิ ญาตรสี าขาอกั ษรศาสตร์ (ดา้ นการทหาร) จาก มหติ ลพงศอดลุ ยเดช จกั รนี เรศยพุ ราชวสิ ทุ ธ สยามมกุฎราชกุมาร 4 ชยั สมรภูมิ
พระโอรส-พระธดิ า 2. โรงเรียนมัธยมจุฑาวัชร อ.ลานกระลอื จ.ก�ำแพงเพชร 1. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพชั รกติ ิยาภา (ปัจจบุ นั เปลย่ี นชือ่ เป็น โรงเรยี นมธั ยมพชั รกิตยิ าภา 2) 2. พระเจา้ หลานเธอ พระองคเ์ จา้ สริ วิ ณั ณวรนี ารรี ตั น์ 3. โรงเรยี นมัธยมวชั เรศร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ปัจจบุ ัน 3. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปงั กรรศั มีโชติ เปลี่ยนชอ่ื เปน็ โรงเรยี นมัธยมพัชรกิติยาภา 3) พระราชกรณยี กิจ 4. โรงเรียนมัธยมจักรีวัชร อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา (ปัจจุบัน 1. ดา้ นการบนิ เปล่ียนชอื่ เป็น โรงเรยี นมธั ยมสิรวิ ัณวรี 2) เมือ่ วนั ท่ี 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏิบตั ิหนา้ ทคี่ รกู าร 5. โรงเรยี นมธั ยมวชั รวรี ์ อ.ทา่ ตะเกยี บ จ.ฉะเชงิ เทรา (ปจั จบุ นั บนิ เคร่อื งบนิ ขบั ไล่แบบเอฟ-5 อ/ี เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบตั ิ เปลย่ี นชอ่ื เปน็ โรงเรยี นมัธยมสริ ิวัณวรี 3) หนา้ ทน่ี ักบินท่ี 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 – 400 ในเทยี่ วบนิ สายใยรัก 6. โรงเรียนมัธยมบษุ ยน์ ้�ำเพชร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ปจั จบุ ัน แห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้าน เปล่ยี นช่ือเป็น โรงเรียนมัธยมสริ วิ ณั วรี 1) การแพทย์ สำ� หรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้ (เท่ยี ว สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู บนิ ท่ี ทจี ี 8870 กรงุ เทพมหานครถงึ จงั หวดั เชยี งใหม่ และเทย่ี วบนิ ที่ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยย่ี มเยาวชนในตำ� บลตา่ งๆ ทรงสนบั สนนุ ทจี ี 8871 จงั หวดั เชยี งใหมถ่ งึ กรุงเทพมหานคร) การจดั ตงั้ ศนู ยเ์ ยาวชนตำ� บล รวมทงั้ ไดท้ รงเปน็ ประธานงานวนั เยาวชน 2. ดา้ นการทหาร แห่งชาติ วนั ท่ี 20 กันยายน ของทกุ ปี และทรงเป็นประธานในพธิ ี สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี และสมาชิก เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปเยย่ี มทต่ี ง้ั กองทหารหนว่ ยตา่ งๆ อยเู่ สมอ จาก ผู้ทำ� ประโยชน์ การทไี่ ดท้ รงศกึ ษาดา้ นวชิ าทหารมานาน ทรงมคี วามรเู้ ชย่ี วชาญอยา่ ง ท้ังนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย มาก และได้พระราชทานความรู้เหล่านั้นให้แก่ทหาร 3 เหล่าทัพ วรางกูร ได้อุปการะเด็กก�ำพร้า คือ จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชูศรี ท่ี ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่ นายทหาร เอาพระทัยใส่ ครอบครวั เสยี ชวี ติ จากภเู ขาถลม่ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2554 รวมทง้ั ครอบครัว ในความเป็นอยู่ทุกข์สุขของทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างท่ัวถึง ของบรู ฮาน และบศุ รินทร์ หร่ายมณี ซ่งึ บดิ าถูกลอบสังหารจากเหตุ รวมท้ังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษา ความไมส่ งบในสามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ โดยจะทรงอปุ การะจนกวา่ แก่บุตรของทหาร ส่ิงเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเทิดทูนและความ จะส�ำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือจนกว่าจะมีอาชีพสามารถเลี้ยง จงรกั ภักดีแกเ่ หลา่ ทหารเปน็ อย่างยิ่ง ครอบครัวได้ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันทรงด�ำรงพระยศทางทหารของ 3 เหล่าทัพ ไดแ้ ก่ พลเรอื เอก และพลอากาศเอก ทรงปฏบิ ัติพระราชกรณียกิจ ดา้ นการทหาร และทรงเขา้ รว่ มปฏบิ ตั กิ ารรบในการตอ่ ตา้ นการกอ่ การ ร้ายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย รวมทงั้ การคมุ้ กนั พนื้ ทใ่ี นบรเิ วณรอบคา่ ยผอู้ พยพชาวกมั พชู า ทเ่ี ขาลา้ น จังหวัดตราด อีกด้วย 3. ด้านการศึกษา พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคารของ กรมทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ เปน็ ทตี่ ง้ั ของโรงเรยี น อนุบาลช่ือว่า โรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยใน ระยะแรกไดจ้ ดั การเรยี นการสอนเฉพาะชน้ั อนบุ าล ตอ่ มาโรงเรยี นได้ ยา้ ยไปทีจ่ งั หวดั นนทบรุ ี และไดร้ บั พระราชทานชือ่ ใหม่ว่า “โรงเรียน อนุราชประสิทธ์”ิ นอกจากน้ี ยงั พระราชทานพระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองคส์ มทบ เป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาท่ีตั้งอยู่ในชนบทห่างไกล คมนาคมไม่สะดวก กระทรวงศึกษาธิการได้สนองพระราชประสงค์ ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาจ�ำนวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ไดแ้ ก่ 1.โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมธั ยมพัชรกติ ยิ าภา 1) ชยั สมรภมู ิ 5
4. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ทรงพระกรณุ าโปรดฯ ใหส้ รา้ งโรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชขน้ึ เพอื่ ใหก้ ารรกั ษาพยาบาลผเู้ จบ็ ปว่ ยในถนิ่ ทรุ กนั ดาร พระองคท์ รงเป็นองค์ นายกกติ ตมิ ศกั ดขิ์ องมลู นธิ โิ รงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราช พระองค์ มีพระราชปณิธานให้เอาใจใส่รักษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ ให้ปลอดภัยจากความเจบ็ ไข้โดยท่ัวหนา้ เสมอกัน 5. ดา้ นศาสนา 7. ดา้ นการตา่ งประเทศ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู วนั ที่ 16 มนี าคม พ.ศ. 2554 สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ า ทรงปฏิบัติพระราชกรณยี กจิ แทนพระองค์ ทรงประเคนผ้าไตร ประ ลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า กาศนยี บตั ร และพดั ยศในการตงั้ ภกิ ษุ และสามเณรเปรยี ญ เนอ่ื งใน ศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต น�ำผ้าห่ม การพระราชพธิ ที รงบำ� เพญ็ พระราชกศุ ล วสิ าขบูชา ณ พระอุโบสถ กันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่น วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม ในพระบรม มหาราชวัง พ.ศ. 2551 ดนิ ไหวและคลนื่ สนึ ามใิ นโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ทปี่ ระเทศญป่ี นุ่ โดยมี สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู นายกษติ ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม *หมายเหตุ* การจัดพิมพ์ฉบับพิเศษ “เสวยราชสมบัติกษัตรา” เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 ก่อนเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรง ไดจ้ ดั ทำ� ขนึ้ กอ่ นจะมพี ระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก วนั ที่ 4-6 พฤษาคม 2562 ศึกษาตอ่ ที่ประเทศอังกฤษ การออกพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว และพระบรมวงศ์ นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร จึงยงั คงเปน็ พระนามท่ียังไม่ได้เฉลิมพระปรมาภิไธย และสถาปนาพระ เทพยวรางกูร มีพระราชศรัทธาทรงผนวชในพระพุทธศาสนา โดย ฐานนั ดรศักด์ิพระบรมวงศ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดชโปรดฯ ให้จัดการ พระราชพิธผี นวช ณ พทั ธสีมาวดั พระศรรี ัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2521 โดยมสี มเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระญาณ สังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีร ญาณมนุ ี (ธรี ์ ปณุ ณฺ โก) ถวายอนศุ าสน์ ไดร้ บั ถวายพระสมณนามวา่ “วชิราลงฺกรโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอด จนทรงลาสิกขาในวันท่ี 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู เสด็จพระราชด�ำเนินแทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกิจทางพระ พทุ ธศาสนาอยา่ งสมำ่� เสมอ เชน่ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ แทนพระองค์ ไปทรงเปลย่ี นเครอ่ื งทรงพระพทุ ธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วดั พระ ศรีรัตนศาสดารามตาม ฤดูกาล เสด็จพระราชด�ำเนินแทนพระองค์ ไปทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลในวันส�ำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายผา้ พระกฐินหลวงตามวดั ต่างๆ เป็นต้น 6. ด้านการเกษตร สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราช ดำ� เนนิ ไปทรงทำ� ปยุ๋ หมกั จากผกั ตบชวาและวชั พชื อน่ื ๆ เป็นปฐมฤกษ์ เพอื่ พระราชทานแก่เกษตรกร สำ� หรับน�ำไปใชใ้ นการ เพาะปลูกเป็นการเพ่ิมผลผลติ ทบ่ี า้ นแหลมสะแก ต.เดิมบาง อ.เดมิ บางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมือ่ วนั ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528 6 ชยั สมรภูมิ
สมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ทรงสรงนำ้� มุรธาภเิ ษก และน้�ำศักด์ิสิทธจิ์ ากทว่ั ประเทศ นาทปี ระวัติศาสตรข์ องชาวไทย เม่ือสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงประกอบพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก ในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งในพธิ แี รกส�ำหรับวนั น้ี สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงสรงน้�ำมรุ ธาภเิ ษก และน�้ำศักดส์ิ ิทธ์จิ ากทั่วประเทศ ในชว่ งเชา้ ทีผ่ า่ นมา สมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั พระชนมพรรษา 66 พรรษา ทรงฉลอง เสด็จออกจากหอพระสุราลัยพิมาน พระองค์เศวตพัสตร์ เปน็ ลักษณะเป็นผา้ รปู ส่เี หล่ียมผนื ผ้า 2 ผนื ผนื หนง่ึ ขนาดเลก็ ส�ำหรบั โดยร้ิวขบวนพราหมณ์น�ำไปยังมณฑปพระ ทรงสะพกั เฉยี งพระองั สา อกี ผืนหนงึ่ ขนาดใหญส่ �ำหรบั ทรงแบบจีบหนา้ นางผา้ ทรงสะพกั นำ� กระยาสนาน (นาวาเอก ธรรมรงค์ สวุ รรณกฏู ทองค�ำมารดี เปน็ แผ่นบางๆ แลว้ ตัดเป็นเสน้ ขนาดความกว้างประมาณ 1 เซนตเิ มตร เยบ็ เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลท่ี 1 ติดกับริมขอบผ้าท้ัง 4 ด้านสว่ นผา้ สำ� หรับทรงนำ� แผ่นทองค�ำขนาดเดียวกันกบั ท่ตี ดิ ผา้ ทรง ประดษิ ฐาน ณ บษุ บกทศิ ตะวนั ออก พราหมณ์ สะพักมาเยบ็ ตดิ ขอบชายผา้ เฉพาะด้านลา่ งขนานกัน 2 เส้น เชิญพระพฆิ เนศ ประดิษฐาน ณ บษุ บกทิศ ชัยสมรภมู ิ 7
ตะวนั ตก มหาดเลก็ เชญิ พระแสงดาบคาบคา่ ย) จากสระ 4 สระ แล้วถวายบังคม 3 คร้ัง (ขณะน้ี โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พระสงฆ์เจริญ เสดจ็ ฯ ไปยงั โตะ๊ เครอื่ งสงั เวยกลางหาว ทรง ชยั มงคลคาถา พราหมณเ์ ปา่ สงั ข์ ภษู ามาลาแกวง่ บณั เฑาะว์ ชาวพนกั งานประโคมฆอ้ งชยั สงั ข์ จดุ ธปู เงนิ เทยี นทอง สงั เวยเทวดากลางหาว แตร และดรุ ยิ างค์ ทหารกองเกยี รตยิ ศถวายความเคารพ วงดรุ ยิ างคบ์ รรเลงเพลงสรรเสรญิ เสดจ็ ขนึ้ มณฑปพระกระยาสนาน ประทบั เหนอื พระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงปนื มหาฤกษ์ มหาชยั มหาจักร มหาปราบยคุ กระบอกละ 10 นัด อทุ มุ พรราชอาสน์ แปรพระพกั ตรส์ ทู่ ศิ บรู พา (ทศิ ตะวนั ออก) เพอื่ สรงพระมรุ ธาภเิ ษก ทรง เหยยี บใบออ้ (ใบออ้ เปน็ หญา้ ชนดิ หนงึ่ ลำ� ตน้ แขง็ เปน็ ปลอ้ ง ขา้ งในกลวง ตามตำ� รากลา่ ววา่ อักษร อ เปน็ กาลกิณี คือ ส่ิงช่วั รา้ ย สำ� หรบั ผเู้ กดิ วันจนั ทร์) เวลาพระฤกษ์ 10.09 - 12.00 น. พลอากาศเอก สถติ ยพ์ งษ์ สขุ วมิ ล เลขาธกิ าร พระราชวัง ถวายบงั คม 3 ครง้ั ขึ้นมณฑป พระกระยาสนาน เปิดพระครอบพระมุรธา ภิเษก รัชกาลท่ี 1 ถวายแล้ว ทรงวกั น�้ำพระ พทุ ธมนตอ์ นั เจอื ดว้ ยนำ�้ เบญจสทุ ธคงคาและ นำ้� ศกั ดสิ์ ิทธจ์ิ ากสระ 4 สระ จากพระครอบ พระมุรธาภิเษก รัชกาลท่ี 1 สรงพระนลาฏ พลอากาศเอก สถติ ยพ์ งษ์ สขุ วมิ ล เลขาธกิ ารพระราชวงั กราบบงั คมทลู ขอพระ ราชทานพระราชานุญาตไขสหัสธาราอนั เจอื ด้วยน�้ำเบญจสุทธคงคาและน้�ำศักด์ิสิทธิ์ 8 ชัยสมรภูมิ
(ตามกำ� ลังวนั เสาร์) ท่ีสนามหญา้ หน้าศาลาสหทัยสมาคม ทหารบก และทรงสรงนำ�้ เทพมนตรเ์ หนอื เสน้ พระเจา้ ตอ่ จากนน้ั ทลู เกลา้ ฯ ถวาย ทหารเรอื ทหารอากาศ ยงิ ปนื ใหญเ่ ฉลมิ พระเกยี รตฝิ า่ ยละ 101 นดั ) พระมหาสังขเ์ พชรน้อย ทรงรับและทรงสรงน�้ำเทพมนตร์เหนอื เส้น เมอ่ื สรงสหสั ธาราแลว้ สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระเจา้ ตอ่ มาทลู เกลา้ ฯ ถวายนำ้� เทพมนตรด์ ว้ ยพระมหาสงั ขพ์ ธิ พี ราหมณ์ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก พระอนวุ งศ์ และพราหมณ์ ถวาย ทพี่ ระหตั ถ์ ทรงรบั ใบมะตมู ทรงทดั แลว้ ทลู เกลา้ ฯ ถวายนำ�้ เทพมนตร์ น�ำ้ พระพุทธมนต์ และน�้ำเทพมนตร์ ตามล�ำดับ ด้วยพระมหาสงั ข์ทอง พระมหาสงั ขน์ าก พระมหาสงั ข์เงิน พระมหา สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหา สงั ขง์ า พระมหาสงั ขส์ มั ฤทธ์ิ พระครอบเฟอื ง (สมั ฤทธ)์ิ แลว้ ทลู เกลา้ ฯ สงั ฆปรณิ ายก เสดจ็ ขนึ้ มณฑปพระกระยาสนานทางทศิ ตะวนั ตก ถวาย ถวายแหวนใบกระถนิ ทรงสวมท่ีพระอนามกิ าขวา (นว้ิ นาง) นำ้� พระพทุ ธมนตด์ ว้ ยพระครอบพระกรง่ิ รชั กาลท่ี 4 ทพ่ี ระปฤษฎางค์ หม่อมเจ้าฑฆิ มั พร ยุคล ทูลเกลา้ ฯ ถวายพระเตา้ น�้ำอภิเษก เสดจ็ ลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และเสดจ็ ขนึ้ มณฑปพระกระยา ตา่ ง ๆ รวม 22 พระเตา้ ประกอบดว้ ย พระเต้าทองเกลย้ี ง, พระเต้า สนานทางทศิ ตะวนั ออก ถวายนำ้� พระพทุ ธมนตด์ ว้ ยพระครอบยนั ตเ์ ดมิ มงคลแปด, พระเต้าเบญจคัพย์รอง รัชกาลที่ 1, พระเตา้ ปทุมนิมติ รชั กาลท่ี 4 ที่พระหตั ถ์ เสดจ็ ลงจากมณฑปพระกระยาสนาน ทอง รชั กาลท่ี 1, พระเตา้ ปทุมนิมิตนาก รชั กาลท่ี 1, พระเตา้ ปทมุ พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวตั น์ ทลู เกล้าฯ ถวายน�้ำ นมิ ติ เงนิ รชั กาลที่ 1, พระเตา้ ปทมุ นมิ ติ สมั ฤทธ์ิ รชั กาลที่ 1, พระเตา้ อภเิ ษกทีพ่ ระหตั ถ์ด้วยพระเตา้ เบญจคัพย์ รชั กาลที่ 5 บวั หยกเขยี ว รัชกาลที่ 4, พระเต้ากลบี บวั แดง, พระเต้ากลบี บัวขาว พลตรี หมอ่ มเจา้ จลุ เจมิ ยคุ ล ทลู เกลา้ ฯ ถวายนำ้� เทพมนตรด์ ว้ ย ยอดเกี้ยว รชั กาลที่ 5, พระเตา้ กลีบบัวใหญ่ รัชกาลท่ี 4, พระเตา้ หา้ พระเต้านวเคราะห์ รชั กาลท่ี 4 ทรงวักน�้ำและทรงแตะทพ่ี ระนลาฏ กษัตริย์ทองค�ำ รัชกาลท่ี 4, พระเต้าห้ากษัตริย์นาก รัชกาลท่ี 4, พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ พระเตา้ หา้ กษตั รยิ เ์ งนิ รชั กาลท่ี 4, พระเตา้ หา้ กษตั รยิ ส์ มั ฤทธิ์ รชั กาลท4่ี , ทูลเกล้าฯ ถวายน้�ำเทพมนตร์ที่พระหัตถ์ด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ พระเตา้ หา้ กษตั รยิ ห์ นิ ออ่ น รชั กาลท่ี 4, พระเตา้ โมราดำ� , พระเตา้ นว รัชกาลท่ี 1 จากนัน้ ทูลเกลา้ ฯ ถวายพระมหาสังขเ์ พชรใหญ่ ทรงรบั เคราะห์ รัชกาลที่ 4, พระเตา้ ไกรลาส รชั กาลท่ี 4, พระเตา้ ศิลา จารึกอกั ษร รัชกาลท่ี 4, พระเต้าศิลา 5 ห้อง รชั กาลที่ 4, พระเตา้ เทวบิฐ รชั กาลที่ 4 ทรงรบั พระเต้ารดพระองคท์ พ่ี ระองั สาซา้ ย – ขวา เว้นแต่ พระเตา้ เทวบฐิ รชั กาลท่ี 4 จะทรงรดทพ่ี ระชงฆแ์ ละพระบาท พล อากาศเอก สถติ ยพ์ งษ์ สขุ วมิ ล เลขาธกิ ารพระราชวงั ทลู เกลา้ ฯ ถวาย พระมหาสงั ขท์ กั ษณิ าวฏั ทรงรบั และทรงสรงนำ�้ เทพมนตรเ์ หนอื เสน้ พระเจ้า ครน้ั สรงพระมรุ ธาภเิ ษกเสรจ็ แลว้ มหาดเลก็ สอดฉลองพระบาท ถวาย และถวายฉลองพระองคค์ ลุม เสด็จลงจากมณฑปพระกระยา สนาน เสดจ็ ขน้ึ หอพระสรุ าลัยพมิ าน ชยั สมรภูมิ 9
เสดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตรยิ ์โดยสมบูรณ์ รับถวายเครือ่ งราชกกธุ ภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ วันท่ี ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ หลงั จากสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว ทรงรับนำ้� อภเิ ษกแล้วเสด็จฯ โดยรวิ้ ขบวนไปประทบั เหนือพระทีน่ ่งั ภทั รบฐิ ภายใตพ้ ระนพปฎลมหาเศวตฉตั ร แปรพระพกั ตรส์ ทู่ ศิ บรู พา พระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ กลา่ วเวท สรรเสริญเปดิ ศวิ าลัยไกรลาส จบแลว้ เจ้าพนกั งาน เชญิ เครอื่ งประกอบพระราชอิสริยยศจากพระแท่นมณฑลมพี ระสุพรรณบัฏพระ ปรมาภิไธย เบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ ขตั ตยิ ราชวราภรณ์ และพระแสงราชศัตราวุธ มามอบให้พระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ุทธิคณุ ประธาน พระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว โดยนายจติ รพฒั น์ ไกรฤกษ์ เชิญพระสพุ รรณบฏั จารึกพระปรมาภิไธย จากพระแทน่ พระสงฆเ์ จริญชัยมงคลคาถา พราหมณ์เปา่ มณฑลมอบพระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ ทลู เกลา้ ฯ ถวาย ทรงรบั สงั ขภ์ ษู ามาลาแกวง่ บณั เฑาะว์ ชาวพนกั งาน แลว้ พระราชทาน นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เชิญไปยนื ข้างพระท่นี ่ังเบ้ืองขวาตน้ แถวใน(ขณะ ประโคมฆอ้ งชยั แตร มโหระทกึ และดรุ ยิ างค์ ทีพ่ ระมหาราชครพู ิธีศรวี สิ ุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระสพุ รรณบฏั ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพวง ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปนื ใหญย่ งิ ปนื มหาฤกษ์ มหาชยั มหาจกั ร มหาปราบยุค กระบอกละ ๑๐ นัด ที่สนาม หญา้ ศาลาสหทยั สมาคม ทหารบก ทหารเรอื ทหารอากาศ ยงิ ปนื ใหญ่ เฉลมิ พระเกยี รติ ฝ่ายละ ๑๐๑ นดั พระสงฆใ์ นพระอารามทว่ั ราชอาณาจกั ร ยำ่� ระฆงั ถวายชยั มงคล ๗ ลา) ต่อมาเจ้าพนักงานเชิญเบญจราช กกธุ ภณั ฑ์ ขัตตยิ ราชวราภรณ์ เคร่ืองขตั ตยิ ราชูปโภคและพระแสงจากพระแท่นมณฑล มอบพระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธาน พระครพู ราหมณ์ ทลู เกลา้ ฯ ถวาย ตามลำ� ดบั 10 ชัยสมรภูมิ
• พระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ ถวายพระสงั วาลพราหมณ์ • พัดวาลวชิ นี ทรงรับแลว้ ทรงวาง ธรุ �ำ ทรงรับแลว้ ทรงสวมพระเศยี ร แลว้ ทรงสอดพระหัตถข์ วา ไว้บนโตะ๊ ขา้ งพระทีน่ งั่ เบ้อื งขวา • พระสงั วาลนพรตั นราชวราภรณ์ ทรงรับแลว้ ทรงสวมพระเศียร แล้วทรงสอดพระ • พระธำ� มรงคร์ ตั นวราวธุ ทรงรบั แลว้ หัตถซ์ า้ ย ทรงสวมพระดชั นีพระหัตถ์ขวา • พระสังวาลพระนพ ทรงรับแลว้ ทรงสวมพระเศยี ร แลว้ ทรงสอดพระหัตถ์ซ้าย • พระธ�ำมรงค์วิเชยี รจินดา ทรงรับ • พระมหาพิชัยมงกุฎ ทรงรับแล้วทรงสวม (พราหมณ์เป่าสังข์ภูษามาลาแกว่งบัณ แลว้ ทรงสวมพระดัชนพี ระหตั ถ์ซ้าย เฑาะว์ ชาวพนกั งานประโคมฆ้องชัย แตร มโหระทกึ และดรุ ยิ างค์) • พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ • พระแสงขรรคช์ ัยศรี ทรงรบั แลว้ ทรงวางไวบ้ นโตะ๊ ขา้ งพระทีน่ ่ังเบอื้ งซา้ ย สอดฉลองพระบาทเชงิ งอนถวาย (ขวา-ซา้ ย) • พระแส้จามรี ทรงรบั แล้วทรงวางไว้บนโตะ๊ ขา้ งพระท่ีนั่งเบอ้ื งซ้าย ล�ำดับตอ่ มา • พระแสข้ นหางชา้ งเผือก ทรงรบั แล้วทรงวางไว้บนโตะ๊ ข้างพระท่นี ่งั เบ้อื งซ้าย • พนั เอก เพทาย ชงั เอยี ด เชญิ พาน • ธารพระกรชัยพฤกษ์ ทรงรับแล้วทรงวางไวบ้ นโต๊ะข้างพระท่ีนัง่ เบือ้ งขวา พระขันหมากทองค�ำลงยาองค์ใหญ่เคร่ือง พรอ้ ม และพนั เอกสกล สทิ ธปิ ระภา เชญิ พระ สุพรรณศรีบัวแฉกไปทอดบนโต๊ะเบื้องขวา พระทน่ี ง่ั จากนน้ั ไปยนื ทชี่ นั้ ลด เบอื้ งขวาพระ ราชอาสน์ • พลตรี มานพ ลอยเมฆ เชญิ พระ มณฑปทองคำ� ลงยาพรอ้ มพานรองมพี ระ ชัยสมรภูมิ 11
จอกและพันเอก สญั ญา สารบิ ุตร เชญิ พระเต้าทักษโิ ณทกทองคำ� ลงยาองค์เล็กไปทอดบน โตะ๊ เบอ้ื งซ้ายพระทีน่ ัง่ จากนน้ั ไปยืนทชี่ ัน้ ลด เบื้องขวาพระราชอาสน์ • พลอากาศตรี สุพิชยั สนุ ทรบรุ ะ เชญิ พระแสงดาบฝักทองเกลีย้ ง ไปยืนเชญิ เบอื้ ง ขวาพระทีน่ ัง่ คนท่ี ๒ แถวนอก ลำ� ดับต่อมา • ธารพระกรเทวรปู ทรงรบั แลว้ พระราชทาน พลอากาศตรี ศริ พิ ฒั น์ สขุ เจรญิ ผเู้ ชญิ รับไปยืนเชิญเบ้อื งซ้ายพระทน่ี ง่ั คนท่ี ๒ แถวนอก • พระแสงจกั ร ทรงรบั แล้วพระราชทาน นายพิธาน เห้ยี มโท้ ผู้เชิญรบั ไปยืนเชญิ เบ้อื งขวาพระท่นี ั่งคนท่ี ๓ แถวใน • พระแสงตรศี ลู ทรงรบั แลว้ พระราช ทาน พันโท ไพบลู ย์ ผจญแกล้ว ผ้เู ชิญรบั ไปยืน เชญิ เบื้องซา้ ยพระทน่ี ่ังคนท่ี ๓ แถวใน • พระแสงหอกเพชรรตั น ทรงรบั แลว้ พระราชทาน พนั ตรี เกรยี งไกร ดำ� ดี ผเู้ ชญิ รบั ไป ยนื เชญิ เบอ้ื งขวาพระทน่ี ง่ั คนที่ ๓ แถวนอก • พระแสงดาบเชลย ทรงรับแล้วพระราชทาน พนั โท เอกชยั คกู่ ระสงั ผเู้ ชญิ รบั ไป ยนื เชญิ เบอื้ งซา้ ยพระทน่ี งั่ คนที่ ๓ แถวนอก • พระแสงธนู ทรงรบั แลว้ พระราชทาน พันโท มนตรา ประถมภัฎ ผู้เชิญรับไปยืน เชิญเบอื้ งขวาพระทีน่ ัง่ คนที่ ๔ แถวใน • พระแสงดาบเขน ทรงรบั แลว้ พระราชทาน พลตรี กลั ย์สรรค์ จันทรเสน ผเู้ ชญิ รบั ไปยนื เชิญเบ้ืองซา้ ยพระท่นี ง่ั คนท่ี ๔ แถวใน • พระแสงปนื ขา้ มแมน่ ำ�้ สะโตง ทรงรบั แลว้ พระราชทาน พนั เอก อศั วนิ เจรญิ ชยั วฒั น์ ผูเ้ ชิญรับไปยนื เชญิ เบอ้ื งขวาพระทน่ี ง่ั คนที่ ๔ แถวนอก 12 ชยั สมรภมู ิ
• พระแสงของา้ วแสนพลพา่ ย ทรงรบั แลว้ พระราชทาน พลอากาศตรี สรุ ศกั ด์ิ กนษิ ฐา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร นนท์ ผเู้ ชิญรบั ไปยืนเชญิ เบอ้ื งซ้ายพระทีน่ ง่ั คนที่ ๔ แถวนอก รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ จากนน้ั พระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ ถวายอนษุ ฏภ ศวิ มนตร์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ มี จบ พราหมณ์เป่าสงั ข์ และถวายอนษุ ฏภศวิ มนตร์ จบ พราหมณเ์ ปา่ สงั ข์ พระมหาราชครูพธิ ี พระปฐมบรมราชโองการ พระราชทาน ศรวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ กราบถวายบงั คม ๓ ครงั้ และถวายพระพรชยั มลคล อารกั ขาแกป่ ระชาชนชาวไทย จบแลว้ พระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ กราบถวายบงั คม ๓ ครง้ั “เราจะสบื สาน รกั ษาและต่อยอด และครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ชัยสมรภูมิ 13
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ าลักษณ์อา่ นประกาศ พระบรมราชโองการสถาปนาสมเดจ็ พระ ราชนิ ใี หท้ รงดำ� รงราชฐานนั ดรศกั ดิ์ เปน็ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ แี ลว้ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ เี สดจ็ สหู่ นา้ พระที่นง่ั ภัทรบิฐ สถาปนาพระบรมราชนิ ี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง หล่งั น�้ำพระมหาสงั ข์ พระราชทานใบมะตมู ทรงเจิม และพระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคล นพรัตน์ราชวราภรณ์ และเคร่ืองราชอิสริย ยศราชปู โภค แก่สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินี เสร็จแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี เสดจ็ ฯ ไปประทบั พระราชอาสน์ เบ้ืองซ้ายพระทน่ี ัง่ ภัทรบฐิ หลังจากนนั้ ทรงหลั่งทักษิโณทก (ตง้ั พระราชสัตยาธิษฐาน) ทรงเปล้ืองพระมหา พิชัยมงกุฎ พระราชทาน พันตรี วันนิวัติ ค�ำวิลัย ทรงปลดพระธ�ำมรงค์รัตนวราวุธ พระราชทาน พนั เอก บวงสรวง บนุ นาค และ พระธำ� มรงคว์ เิ ชยี รจนิ ดา พระราชทาน นาวา อากาศตรี กติ พิ งศ์ ชลงั สทุ ธิ์ ผรู้ บั เชญิ ไปเชญิ อยู่ในแถว จากนั้น ทรงโปรยดอกพิกุลทอง พิกลุ เงนิ พระราชทานพราหมณ์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครพู ราหมณ์ ถอดฉลองพระบาท เชงิ งอน (ขวา-ซา้ ย) มอบพนั ตรี กวนิ ปราสาท หนิ พิมาย รบั ไปเชญิ อยใู่ นแถว หลังจากน้ันทรงหล่ังทักษิโณทก (ตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน) ทรงเปลื้องพระ มหาพชิ ยั มงกฎุ พระราชทาน พนั ตรี วนั นวิ ตั ิ คำ� วลิ ยั ทรงปลดพระธำ� มรงคร์ ตั นวราวธุ พระ ราชทาน พันเอก บวงสรวง บุนนาค และ พระธำ� มรงคว์ เิ ชยี รจนิ ดา พระราชทาน นาวา อากาศตรี กิติพงศ์ ชลังสุทธิ์ ผู้รับเชิญไป 14 ชัยสมรภมู ิ
เชิญอยู่ในแถว จากน้ัน ทรงโปรยดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน พระราชทานพราหมณ์ พระมหาราชครูพิธีศรีวสิ ุทธิคณุ ประธานพระครพู ราหมณ์ ถอดฉลองพระบาทเชงิ งอน (ขวา-ซา้ ย) มอบพนั ตรี กวนิ ปราสาทหินพมิ าย รับไปเชิญอยูใ่ นแถว เสดจ็ ลงจากพระทน่ี งั่ ภทั รบฐิ ทรงโปรยดอกพกิ ลุ ทอง พกิ ลุ เงนิ พระราชทานพระบรม วงศานุวงศ์และผู้เข้าเฝา้ ฯ (ประทบั พักพระราชอิริยาบถ ณ พระที่นัง่ จักรพรรดพิ ิมาน) “ดอกพกิ ุลถือว่าเปน็ ต้นไมใ้ นสวนของพระอนิ ทร์ จงึ ถือวา่ เปน็ ดอกไม้จากสวรรคแ์ ละ จดั ท�ำด้วยเงินและทองค�ำให้เสมือนดอกพกิ ลุ จริง สำ� หรบั ใชใ้ นพระราชพธิ สี ำ� คญั คอื พระราช พธิ ีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีโสกันต์เจา้ นาย” ชัยสมรภมู ิ 15
องค์พระมหากษัตริย์จะทรงโปรยดอกพิกุลเงินและทองพระราชทานแก่พระบรม วงศานวุ งศเ์ สมอื นการพระราชทานพรและเป็นดงั่ ของท่ีระลึกเนอื่ งในพระราชพธิ ดี งั กลา่ ว ทรงพระด�ำเนนิ ออกจากพระทีน่ ่งั จักรพรรดิพิมาน เสด็จข้ึนพระที่นั่งไพศาลทกั ษณิ ไปยงั พระทนี่ งั่ อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ทางพระทวารเทวราชมเหศวร ประทบั พระราชอาสน์ สมเด็จพระวันรตั วดั บวรนเิ วศวหิ าร ดับเทียนชัย (พระสงฆส์ วดคาถาดบั เทยี นชัย ชาวพนกั งานประโคมฆอ้ งชยั สังข์ แตร และดุริยางค)์ เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปจั จยั ไทยธรรมแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราชสกลมหาสังฆปรนิ ายก สมเดจ็ พระราชาคณะและพระราชาคณะ ๘๐ รูป ท่ีมา เจริญชัยมงคลคาถาและถวายพรพระ จากน้นั ประทับพระราชอาสน์ท่ีเดิม จากนนั้ ทรงหลง่ั ทกั ษโิ ณทก เสดจ็ ฯ ไปทรงกราบพระพทุ ธรปู ทห่ี นา้ พระทน่ี ง่ั บษุ บกมาลา เสดจ็ ขนึ้ พระทนี่ งั่ ไพศาลทกั ษณิ ทางพระทวารเทวราชมเหศวร แลว้ เสดจ็ ฯ ไปประทบั พัก พระราชอิรยิ าบถท่ีพระทน่ี งั่ จกั รพรรดพิ มิ าน 16 ชัยสมรภูมิ
ประมวลภาพประวตั ิศาสตร์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ฯ เลยี บพระนคร พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสด็จฯ เลยี บพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค สมเด็จพระสงั ฆราช สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ ถวายพระพทุ ธรูป 2 พระองค์ ริ้วขบวนสง่างาม พรอ้ มเพียง สมพระเกยี รติ ตลอดระยะทาง 7 กิโลเมตร ประชาชนเฝ้าฯรบั เสด็จพร้อมใจใสเ่ ส้ือเหลอื งและเปล่งเสยี ง ทรงพระเจรญิ ดังกกึ กอ้ งท้ังแผน่ ดนิ เมอ่ื 16.45 น.วันท่ี 5 พ.ค. 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯเลียบ พระนครโดยร้ิวขบวนพระบรมราชอิสริยยศ โดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เคร่ืองสูงโบราณที่สวยงดงามอย่างสมพระ เกยี รติ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระนางเจา้ สทุ ดิ าฯ และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ิ ยาภาฯ ในฉลองพระองคเ์ ครอื่ งแบบเตม็ ยศ นายทหารพิเศษมหาดเล็กรักษาพระองค์ เคียงพระราชยานพุดตานทองไปยังวัดบวร นิเวศราชวรวิหารวัดราชบพิธสถิตมหาสีมา รามราชวรวิหารและวัดพระเชตุพนวิมล มังคลารามพร้อมกันน้ีภายในร้ิวขบวน พระบรมราชอสิ รยิ ยศมี พล.อ.ประยทุ ธ์ จนั ทร์ โอชา นายกรฐั มนตรี พล.อ.อ.ประจนิ จน่ั ตอง รองนายกรฐั มนตรี พล.อ.ชาญชยั ชา้ งมงคล รมช.กลาโหม คณะรัฐมนตรี คณะผู้บังคับ บญั ชาทหาร-ต�ำรวจ ชัยสมรภมู ิ 17
“ปีติ “สมเด็จพระบรมราชินี - สมเดจ็ เจา้ ฟ้าพัชรกติ ยิ าภาฯ” ทรงรว่ มร้ิวขบวนเสด็จฯ เลยี บพระนคร” 18 ชยั สมรภมู ิ
ประกอบด้วย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.สส. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. และพระราชนยิ ม โดยในการน้ีจดั กำ� ลังเป็น พล.อ.อ.ชยั พฤกษ์ ดษิ ยะศรนิ ผบ.ทอ. พล.ต.อ. จกั รทพิ ย์ ชยั จนิ ดา ผบ.ตร. พล.อ.ณฐั อนิ ทรเจรญิ 3 สว่ น ไดแ้ ก่ ขบวนหนา้ เปน็ ขบวนนำ� ประกอบ ปลัดกลาโหม และ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จติ ตแ์ กว้ แท้ แมท่ พั ภาคที่ 1 ฯลฯ เขา้ รว่ มในตำ� แหน่ง ดว้ ย ตำ� รวจมา้ นำ� วงดรุ ยิ างคว์ งนำ� กองบงั คบั แถวตอนผอู้ ำ� นวยการ สว่ น พล.อ.อภริ ชั ต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในฐานะผบู้ งั คบั หนว่ ยเฉพาะกจิ การผสม และ 1 กองพันทหารเกียรติยศ ทหารมหาดเลก็ รกั ษาพระองค์ 904 เขา้ รว่ มในการนำ� แถวแซงเสดจ็ ฝง่ั ซา้ ยคกู่ บั พระราชยาน น�ำเสด็จพระราชด�ำเนิน ถัดมาคือ ขบวน พดุ ตานทอง พระอสิ ริยยศหรือขบวนกลาง ประกอบด้วย ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศน้ีเป็นริ้วขบวนท่ี 3 ของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2 ส่วน ได้แก่ 1.สว่ นนำ� รวิ้ ได้แก่ ตอนนำ� ริ้ว โดยตงั้ ขบวนดา้ นหนา้ พระที่น่ังอาภรณ์พโิ มกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ประกอบไป ตอนนำ� เคร่ืองโคม ตอนอ�ำนวยการรว้ิ ขบวน ด้วยกำ� ลังพล 1,366 นาย จาก 13 หนว่ ยงาน การจัดริ้วขบวนยืดแบบโบราณราชประเพณี 2. สว่ นพระราชยานตอนเครอ่ื งสงู หนา้ และ ชยั สมรภมู ิ 19
ตอนเครื่องสงู หลงั สำ� หรับขบวนหลัง ประกอบด้วย วงดุริยางค์วงตามและ 1 กองพนั ทหาร จากพระบรมมหาราชวงั โดยไดย้ าตราขบวน เกียรตยิ ศ ออกทางประตูวิเศษไชยศรี เมื่อเสด็จฯ ถึง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯประทับพระราชยานพุดตานทองแล้ว วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ยาตราริ้วขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคออก พระเจ้าอย่หู ัว ทรงนมสั การพระพุทธชนิ สีห์ 20 ชัยสมรภมู ิ
พระประธานในพระอุโบสถ และถวายราช สักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาท สมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 6 และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ จากน้ันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวเสด็จฯ ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมา ราม พระองค์ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมพระ รัศมีทองคําลงยาราชาวดี (ฉัพพรรณรังสี) จากนั้น ทรงอัญเชิญพระรัศมีทองคําลงยา ราชาวดี (ฉัพพรรณรังสี) สวมท่ีพระเศียร พระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสงั ฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก ถวาย พระพทุ ธรปู ทองคำ� ปางหา้ มญาติ พรอ้ มฉตั ร 7 ชน้ั โดยพระพทุ ธรูปทองคำ� ปางห้ามญาติ เปน็ ปางประจำ� วนั จนั ทร์ อันเป็นวนั พระราช สมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระพุทธรูปท่ีทรงประกอบพิธีเททอง หล่อเม่อื วันท่ี 20 เม.ย.ทีผ่ า่ นมา ในเวลาต่อมาพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปยังวัดพระเชตุพนวิมล มงั คลาราม คณะสงฆว์ ดั พระเชตพุ นฯ นำ� โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.9) เจา้ คณะใหญห่ นตะวนั ออกและกรรม การมหาเถรสมาคม เจริญชัยมงคลคาถา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชยั สมรภูมิ 21
เสด็จฯ ไปถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูป เทยี นแพ บูชาพระพุทธเทวปฏมิ ากร พระ ประธานในพระอโุ บสถ ทรงจดุ ธปู เทยี นเครอื่ ง นมัสการบูชาพระพุทธเทวปฏิมากรแล้วทรง จดุ ธปู เทยี นเครอื่ งทองนอ้ ยถวายราชสกั การะ พระบรมสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระ พทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ในการนส้ี มเดจ็ พระพุฒาจารย์ถวายของที่ระลึกพระพุทธ เทวปฏิมากรทองค�ำขนาด 5 นิ้ว จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ทรง พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหย้ าตรารว้ิ ขบวนไป ตามถนนท้ายวังเข้าพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี เทียบพระราชยานพุดตาทองท่ีเกยพระท่ีนั่ง อาภรณ์ภิโมกขป์ ราสาท ส�ำหรับระหว่างการยาตราใช้การ เดินตามจังหวะดนตรีจากวงดุริยางค์ท่ี บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง รัชกาลท่ี 9 รวม 6 เพลง คือ เพลงมาร์ช ราชวลั ลภ ยามเยน็ ใกลร้ งุ่ สรรเสรญิ เสอื ปา่ สรรเสริญพระนารายณ์ และมาร์ชธงไชย เฉลิมพลด้านลักษณะการเดินกึ่งสวนสนาม สง่างาม พร้อมเพียง สมพระเกียรต์ิ โดย ตลอดการเลียบพระนครร่ายล้อมไปด้วย ท่ามกลางพสกนิกรท่ีสวมเส้ือเหลืองร่วม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จตลอด ระยะทาง 7 กิโลเมตร พร้อมกบั เปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ทั่วพระนคร นับเป็นหนึ่ง ประวตั ศิ าสตร์ชาติไทยที่แสดงออกถึงความ จงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบันพระมหากษตั ริย์ สำ� หรบั วัดบวรนเิ วศวหิ าร เปน็ พระ อารามหลวง ชน้ั เอก ชนดิ ราชวรวหิ าร แตเ่ ดมิ เป็นวัดที่สร้างข้ึนใหม่ ต้ังอยู่ใกล้กับวัดรังษี สทุ ธาวาส ตอ่ มา กรมพระราชวงั บวรมหาศกั ดิ 22 ชยั สมรภมู ิ
พลเสพ ในรชั กาลที่ 3 ไดร้ วมวดั ทง้ั 2 เขา้ เปน็ วดั เดยี ว วัดราชบพธิ ฯ เวลา 20.51 น. พระราชยานพดุ ตาน ทองท่ีเกยข้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ฯ ไปทรง ถวายราชสักการะพระบรม ราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นชานพระอุโบสถ บรรพชิตจีนและ ญวน ถวายพระพร เสด็จเข้าพระอุโบสถ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระ สงั ฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระราชา คณะและพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระสหุ รา่ ย ทรงเจิมพระรัศมีทองค�ำลงยาราชาวดี (ฉพั พรรณรงั สี) จากนน้ั ทรงอญั เชญิ พระรศั มที องคำ� ลงยาราชาวดี (ฉัพพรรณรังสี) สวมที่พระ เศยี รพระพทุ ธองั ครี ส ถวายตน้ ไมท้ อง ตน้ ไม้ เงิน ธปู เทียนแพบูชา พระพุทธอังครี ส พระ ประธานในพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทยี นบชู า พระรัตนตรัย แล้วทรงจุดธูปเทียน เคร่ือง ทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราช สรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้า อยู่หัว พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนาง ชัยสมรภมู ิ 23
เจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลท่ี 7 พระบรมราชสรรี างคาร พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหาราช บรมนาถบพติ ร ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองทองน้อย ถวายสักการะพระอัฐิสมเด็จพระอริยวง ศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระ สังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระราช อุปัธยาจารย์ พระสงฆ์ถวายอดิเรก พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ฯ ออกจากพระอโุ บสถ และเวลา 21.47 เสดจ็ ฯ ไปยังเกยข้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระ กรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหย้ าตรารว้ิ ขบวนไปตาม ถนนเฟอ่ื งนคร เลย้ี วขวาไปตามถนนเจรญิ กรงุ เทียบพระราชยานพุดตานทองท่ีเกยหน้าวัด พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม สำ� หรบั วดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม เปน็ พระอารามหลวงชนั้ เอก ชนดิ ราชวรวหิ าร 24 ชัยสมรภูมิ
วัดประจ�ำรัชกาลท่ี 5 และรัชกาลที่ 7 โดยรัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างเพ่ือเป็นวัดประจ�ำ อุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย รัชกาลของพระองค์ เริ่มก่อสร้าง เม่ือปี พ.ศ.2412 วัดราชบพิธฯ สร้างโดยเลียนแบบ แลว้ ทรงจดุ ธปู เทยี นเครอื่ งทองน้อยถวายราช จาก 2 วดั คอื วัดราชประดษิ ฐส์ ถติ มหาสดี าราม ซ่ึงเป็นวัดประจ�ำรชั กาลที่ 4 และวัดพระ สักการะ พระบรมราชสรีรางคารพระบาท ปฐมเจดียบ์ ริเวณวัดน้ีเดมิ เปน็ วังของพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงบดินทร ไพศาลโสภณ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดพระเชตพุ นฯ พระสงฆถ์ วายอดเิ รก เวลา 22.15 พระราชยานพดุ ตานทองทเ่ี กยหนา้ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม เสดจ็ เสดจ็ ออกจากพระอโุ บสถ เวลา 22.52 น. เขา้ พระอโุ บสถ พระราชาคณะและพระ สงฆเ์ จรญิ ชยั มงคลคาถา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว เสด็จฯ ไปยังเกยหน้าวัดพระเชตุพนวิมล ถวายตน้ ไมท้ อง ตน้ ไมเ้ งนิ ธปู เทยี นแพบชู าพระพทุ ธเทวปฏมิ ากร พระประธานในพระอโุ บสถ มงั คลาราม ประทบั พระราชยานพดุ ตานทอง ทรงจดุ ธปู เทยี นบชู าพระรตั นตรยั แลว้ ทรงจดุ ธปู เทยี นเครอ่ื งทองนอ้ ยถวายราชสกั การะพระบรม ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหย้ าตรารว้ิ ขบวน ราชสรรี างคารพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช พระสงฆถ์ วายอดิเรก ไปตามถนนท้ายวัง เล้ียวขวาไปตามถนน เวลา 22.15 พระราชยานพดุ ตานทองทเ่ี กยหนา้ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม เสดจ็ มหาราช เล้ยี วขวาไปตามถนนหน้าพระลาน เขา้ พระอโุ บสถ พระราชาคณะและพระสงฆเ์ จรญิ ชยั มงคลคาถา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว เล้ยี วขวาเข้าพระบรมมหาราชวงั ทางประตู ถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปเทียนแพบูชาพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระ ชัยสมรภูมิ 25
วเิ ศษไชยศรี ประตพู มิ านไชยศรี เทยี บพระราชยานพดุ ตานทองทเ่ี กยพระทน่ี งั่ อาภรณพ์ โิ มกข์ เก่าที่เมืองบางกอกครั้งกรงุ ศรีอยุธยา เป็น ปราสาท เมอื่ เวลา 23.49 น. วัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวังที่ใต้พระ วดั โพธ์ิ หรอื นามทางราชการวา่ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม ราชวรมหาวหิ าร เปน็ แท่นประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากรพระ พระอารามหลวงชั้นเอกและเป็นวัดประจ�ำรัชกาลท่ี 1 แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาท ประธานในพระอโุ บสถ เปน็ ที่บรรจพุ ระบรม สมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ถาปนาวดั โพธารามวัด อัฐขิ องพระองคท์ า่ นไว้ 26 ชยั สมรภูมิ
ในหลวง เสด็จออก ณ สหี บัญชร พสกนิกรแซซ่ อ้ ง “ทรงพระเจรญิ ” ดังกกึ กอ้ ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชร พระท่ีน่ัง สุทไธสวรรย์ปราสาท ให้ประชาชนเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคล วนั น้ี (6 พ.ค.62) พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ พระบรมราชนิ ี เสด็จพระราชดำ� เนิน พร้อมดว้ ย สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวด,ี สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ วิ ณั ณวรนี ารี รตั นราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี งั กรรศั มีโชติ มหาวชิ โรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปยังพระที่น่ังสุทไธสวรรย์ปราสาท ในพระ บรมมหาราชวงั เพอื่ ใหผ้ แู้ ทนคณะบคุ คลทางศาสนา และผแู้ ทนคณะพาณชิ ย์ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ถวายพระพรชยั มงคล จากนนั้ เสดจ็ ออก ณ สหี บญั ชร ชัยสมรภูมิ 27
ใหป้ ระชาชนเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคล ในการน้ี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโบกพระหัตถ์ท่ามกลางประชาชน ท่ีเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปท่ัวบริเวณด้วยความ ปลม้ื ปติ ิ โดยหลังจากนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี ในฐานะประธานคณะอ�ำนวยการจัดงานพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก 28 ชัยสมรภูมิ
กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัย มลคลแทนราษฎรทุกหมู่เหล่า โดย พระบาท สมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวมพี ระราชด�ำรัสตอบ ในการนี้ สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวด,ี สมเดจ็ พระ เจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราช กญั ญา และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี งั กรรศั มโี ชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ วิ บิ ลู ย ราชกมุ าร เสด็จออก ณ สีหบัญชร ทรงโบก พระหัตถ์และแย้มพระสรวล ประทานแก่ ประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เนอ่ื งในโอกาส พระราชพิธบี รมราชาภิเษก 2562 ชยั สมรภูมิ 29
บทสมั ภาษณพ์ เิ ศษ พระมหาราชครพู ราหมณ์ ในพระราชพธิ มี หามงคลประเทศ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ เป็นพระราชพิธีคร้ังส�ำคัญท่ีพสกนิกรปวง ในความเป็นจริงตั้งแต่โบราณกาล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรี ชนชาวไทยทุกคนจะจารึกเอาไว้ในดวงใจ มาแลว้ จะเห็นว่าพุทธกับพราหมณ์มีความ สนิ ทรมหาวชริ าลงกรณฯ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ตลอดไป เกย่ี วขอ้ งสมั พนั ธก์ นั แนบแนน่ ดง่ั เกลยี วเชอื ก รัชกาลท่ี 10 น้นั เตม็ ไปด้วยความเคารพรกั และถือเป็นโอกาสอันดีย่ิงที่ส�ำนัก พระพทุ ธเจา้ ทา่ นเปน็ ชาวอนิ เดยี ทา่ นเคยนบั ถอื ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันอันเป็น ขา่ ว นสพ.ชยั สมรภมู ิ ไดม้ โี อกาสสมั ภาษณพ์ เิ ศษ พราหมณ์ สาวกของพระองคก์ เ็ ปน็ พราหมณ์ ศูนย์รวมใจของคนไทยท้ังชาติและถือเป็น กับผู้ท่ีมีส่วนส�ำคัญในพระราชพิธีอันเป็น เมอื่ มกี ารเผยแพรพ่ ระศาสนามายงั สวุ รรณภมู ิ โชคดีของคนไทยเป็นอย่างย่ิงท่ีในชีวิตหนึ่ง มงคลในประเทศนี้ ซึ่งท่านก็คือพระราชครู แล้วพราหณ์กับพุทธจึงเป็นเสมือนอันหน่ึง จะมีโอกาสได้พบเห็นและร่วมเป็นส่วนหน่ึง พราหมณ์ที่จะมาเปิดเผยถึงความในใจท่ีมี อนั อนั เดยี วกนั เชน่ เมอื่ เราพดู ถงึ พราหมณ์ ในราชประเพณที ลี่ ำ้� คา่ ยง่ิ โดยทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งท่ี โอกาสได้ถวายงานอย่างใกล้ชิดพระบารมี ก็ต้องพดู ถงึ พทุ ธเมอื่ พดู ถงึ พทุ ธกต็ อ้ งพดู ถงึ เกิดข้ึนในพระราชพิธีล้วนแต่เป็นไปอย่าง รวมไปถงึ ยงั ไดใ้ หแ้ นวคดิ ตา่ งๆ ทน่ี า่ สนใจและ พราหมณ์เป็นของคู่กัน เพราะฉะนั้นจะเห็น สวยงามวิจติ รตระการตาล�้ำค่ายงิ่ ท้ังเคร่ือง เปน็ สาระประโยชนต์ อ่ ประเทศชาตบิ า้ นเมอื ง ไดจ้ ากตวั อยา่ งทช่ี ดั เจน เชน่ เมอื่ มกี ารสรา้ ง ราชปู โภค เครอื่ งราชกกุธภณั ฑ์ เครอ่ื งบรม ไดเ้ ปน็ อยา่ งมากเลยทเี ดยี ว ซง่ึ ทมี งานสำ� นกั พุทธศาสนสถานก็จะมีการภาพพระอินทร์ ขตั ตยิ ราชวราภรณ์ เครอื่ งขตั ตยิ ราชปู โภคและ ข่าวก็ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตา พระวิษณุ พระพรหม พระศิวะ และพระ พระแสงราชศสั ตราวธุ รวมไปถงึ พระราชยาน ทพ่ี ระมหาราชครไู ดใ้ หค้ วามอนเุ คราะหม์ า ณ นารายณ์ด้วย ดังน้ันพราหมณ์กับพระพุทธ พุดตานทองและริ้วขบวนพยุหยาตราทาง โอกาสนไี้ ปพร้อมๆ กบั บทสัมภาษณ์พเิ ศษท่ี ศาสนาจึงมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกัน สถลมารคท่ีสมพระเกียรติและถือเป็นราช ขอจารึกเอาไวใ้ นบรรณพิภพตลอดไป มาตลอด ประเพณีที่ท�ำให้ปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณฯ ส�ำหรับในพิธีบรมราชาภิเษกน้ัน บนผืนแผ่นดินนี้ต่างมีความปลาบปลื้มปิติ ชวิน รังสิพราหมณกุล ประธานพระครู ในส่วนของพราหมณ์ก็มีการเตรียมการ ใจในศิลปะวัฒนธรรมของไทยอันเป็นอัต พราหมณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก คอื การเตรยี มเครื่องมอื การเตรียมสถานท่ี ลกั ษณเ์ พียงหน่ึงเดียวบนโลกใบน้ี โดยถือ พุทธศักราช 2562 ในพระราชพิธีที่ผ่านมาเราต้ังโรงพิธีไว้ที่ 30 ชยั สมรภูมิ
ศาลาสหไทยสมาคมก็จะมีพิธีส�ำคัญๆ เช่น เราเปน็ คนสรา้ งกบั มอื ของเรา เราจะสรา้ งให้ คนดี ลกู หลานของพระองคเ์ ปน็ คนดมี าตลอด การเดินสายสิญจน์ การท�ำน�้ำเทพมนตร์ใน ดหี รือสรา้ งให้เสียหายอยู่ท่เี รา เพราะฉะนนั้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พิธีสรงพระมรุ ธาภิเษก เป็นตน้ บรรพบุรุษสร้างไว้ดี เราก็ต้องสร้างให้ดีให้ ทรงหว่ งใยประชาชน พระองคท์ รงมโี ครงการ โดยในวงศ์ตระกูลพราหมณ์ของเรา ตกไปสู่ลูกหลานของเรา ความดีนี้ไม่ได้ พระราชทานจิตอาสาเป็นต้นแบบเพ่ือให้ นน้ั มีโอกาสไดถ้ วายงานรว่ มในพระราชพิธี หมายถงึ อยา่ งอนื่ หมายถงึ ศลี 5 ถา้ เรามศี ลี เยาวชนไดช้ ว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั ตามหลกั บรมราชาภเิ ษกมาตง้ั แตใ่ นชว่ งยคุ รตั นโกสนิ ทร์ ครบบริบูรณ์เราก็ได้ลูกหลานท่ีมีศีล 5 ครบ พระพุทธศาสนากค็ ือเมตตา ดังนัน้ เราตอ้ ง ตอนตน้ ซงึ่ กน็ บั เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ อยา่ ง บริบูรณ์ เมื่อลูกหลานมีศีล 5 ครบบริบูรณ์ มีเมตตาซ่ึงกันและกันเราเป็นเพ่ือนกัน หาทสี่ ดุ มไิ ด้ เพราะฉะน้ันถา้ ถามวา่ มีความ กจ็ ะเปน็ คนดที พ่ี ฒั นาชาตบิ า้ นเมอื งใหม้ คี วาม นค่ี อื สงิ่ ทเี่ ราจะตอ้ งสรา้ งใหช้ าตเิ ราเขม้ แขง็ รู้สึกอย่างไรในการถวายงานก็ขอตอบว่า เจรญิ รงุ่ เรอื งตอ่ ไป แตถ่ า้ คนรนุ่ เราลูกหลาน เพราะฉะนน้ั 1 กตญั ญู 2 ศีล จะต้องมี 2 มีแต่ความจงรักภักดีอย่างไม่มีข้อสงสัย เราไม่มีศีล 5 ความร่�ำรวยก็ไม่มีประโยชน์ อย่างน้ีเราต้องเข้มแข็งประเทศชาติ ใดๆ ในทุกประการ ลูกหลานก็จะแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งพวก บ้านเมืองของเราจะม่ันคงเจริญรุ่งเรือง การมีกตัญญูของคนเราถือเป็นสิ่ง เพราะไม่มีความกตัญญูล้�ำลึก เพราะฉะน้ัน ตอ่ ไป สำ� คญั ยง่ิ บรรพบรุ ษุ ของเราสรา้ งและปกปอ้ ง สง่ิ ทผ่ี มรสู้ กึ กบั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระมหาราชครพู ธิ ีศรวี ิสทุ ธิคณุ ฯ ไม่ให้ใครเอาชาติของเราไปครอบครอง ในทกุ ๆ รชั กาลจงึ ลว้ นมแี ตค่ วามศรทั ธาและ ส�ำนักข่าวหนงั สือพิมพช์ ยั สมรภมู ิ อย่างยากล�ำบาก เพราะฉะน้ันเราจะต้อง กตญั ญูอยา่ งไมม่ ีข้อสงสัยทง้ั สิ้น ขอจารกึ ไวใ้ นความเคารพรกั ตลอดไป มีความกตัญญูสูงสุดคือส่ิงท่ีต้องไม่สงสัย โดยเฉพาะอย่างย่ิงสิ่งท่ีผมรู้เหมือน ศึกษาให้ลึกซึ้ง เราเป็นมนุษย์บางครั้งราย กับคนไทยทุกๆ คนรู้ก็คือพระองค์ท่านเป็น ชัยสมรภูมิ 31 ละเอียดอ่ืนๆ อาจสงสัยใคร่รู้ แต่สิ่งท่ีเป็น หัวใจหลักนั้น เป็นท่ีประจักษ์แก่ปวงชนชาว ไทยมาช้านานคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงท�ำใหเ้ ราเห็นมาโดยตลอดวา่ บา้ นเมอื ง เรายังอยู่มาจนถึงปัจจบุ นั เพราะวา่ พระองค์ ทรงดูแลประชาชนเหมือนกับเป็นลูกหลาน ของพระองค์ท่าน แต่ในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ เราเห็น เรากตัญญู แต่เราไปฟังในส่ิงที่ ไม่ถูกแล้วเช่ือในส่ิงที่ไม่จริง เชื่อในสิ่งที่ เขาโนม้ นา้ ว เชอื่ ในคำ� ชวนเชอ่ื แมเ้ รารวู้ า่ บรรพบุรุษของเราเป็นคนดีมาตลอด แต่ปัจจุบันถกู สง่ิ ทเี่ ปน็ คำ� โฆษณาชวนเชื่อมัน ท�ำให้เราหลงใหลไปตามค�ำพูดของเขา เขาต้องการใหเ้ ราเชือ่ ตามเขา เราควรรจู้ ริง ก่อนว่าสิ่งใดควรเชื่อหรือควรสงสัยหรือไม่ เพราะว่าเราคือบรรพบุรุษในอนาคต เราจะ ทะนุถนอมรักษาบ้านเมืองให้ยืนยาวไปถึง ลกู หลานเราไดอ้ ยา่ งไร กตญั ญใู นทน่ี ค้ี อื ความรู้ ไมใ่ ชห่ ลงใหล บางคนเขาหลอก แตเ่ ราไมไ่ ดเ้ ชอื่ หรอื ไมเ่ ชอื่ เราตอ้ งรจู้ รงิ เปน็ สงิ่ ทสี่ ำ� คญั มาก แทท้ จี่ รงิ แลว้ ความกตญั ญตู อ้ งมอี ยู่ ข้างในและการที่จะกตัญญูได้ต้องเห็นก่อน ว่าประวัติศาสตร์ท่ีผ่านมายืนยาวถึงปัจจุบัน นี้กเ็ พราะบรรพบรุ ษุ ของเราแทๆ้ ส่ิงที่ทำ� ให้ เราได้อยู่ไดม้ คี วามสขุ อย่ใู นวนั น้ี ก็เพราะว่า ในอดีตได้สร้างส่ิงที่ดีๆ เอาไว้แล้ว ปัจจุบัน
CONTENTS พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานท่ปี รกึ ษากติ ตมิ ศกั ด์ิ พลเอก ธรี เดช มเี พยี ร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ท่ปี รกึ ษากติ ตมิ ศกั ด์ิ บดินทรเทพยวรางกูรฯ รัชกาลที่ ๑๐ 3 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสรงน้�ำมุรธาภิเษก พลเอก บญุ เลศิ แกว้ ประสทิ ธ์ิ พลเอก พฑั ฒะนะ พธุ านานนท์ และน�้ำศักดิ์สิทธิ์จากท่ัวประเทศ 7 ดร.สุธี อกั ษรกติ ต์ิ พลเอก สมั พนั ธ์ บญุ ญานนั ต์ พลเอก รุ่งโรจน์ จาํ รสั โรมรนั พลเอก นพดล อนิ ทปญั ญา เสดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ิ เปน็ พระมหากษตั รยิ โ์ ดยสมบรู ณ์ รับถวายเคร่ืองราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ 10 สถาปนาพระบรมราชินี 14 พลเอก ธรี ะฉตั ร คาํ รพวงศ์ พลเอก อาทร โลหติ กลุ ประมวลภาพประวัติศาสตร์ พลเอก สามารถ สมเศรษฐ์ พลเอก สกนธ์ สจั จานติ ย์ พลต�ำรวจตรี ภาณุรตั น์ มเี พยี ร พลเอก กะสณิ ทองโกมล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เลียบพระนคร 17 ในหลวง เสด็จออก ณ สีหบัญชร พสกนิกรแซ่ซ้อง พลเอก อทุ ศิ สุนทร พลเอก สกณุ ชยั ศิรเิ รอื ง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้อง 27 พลเอก ชาญ โกมลหริ ญั พลเอก ธนสร ป้องอาณา บทสัมภาษณ์พิเศษ พระมหาราชครูพราหมณ์ ในพระราชพิธีมหามงคลประเทศ 30 พลตรี สุรศกั ด์ิ แฟงคลา้ ย คุณ วชิ ยั ศรขี วญั พระราชพิธีกษัตราธิราช 37 ดร.ดลพวิ ฒั น์ ปรดี าวภิ าต คณุ รชั ฎาภรณ์ แกว้ สนิท เลขานุการคณะท่ปี รกึ ษากติ ตมิ ศกั ด์ิ ทรงรับข้ึนทรงราชย์ 38 พระปฐมบรมราชโองการ ร.10 สบื สาน รกั ษาและตอ่ ยอด พนั โท หญงิ เกษมณี จลุ ไสย พระราชปณิธาน ร.9 40 แหล่งน้�ำศักด์ิสิทธ์ิ “น�้ำอภิเษก” และ คณะผูจ้ ดั ทาํ “น�้ำสรงมุรธาภิเษก” 42 มหาดไทยเชิญคนโทน�้ำอภิเษก 86 ใบไปยังวัดสุทัศน์ ผูอ้ าํ นวยการ ไมค์ ณ ชมุ พร เตรียมประกอบพิธีเสกน้�ำพระพุทธมนต์ 46 บรรณาธกิ ารบรหิ าร คฑาภณ สนธจิ ติ ร พิธีเสกน้�ำมุรธาภิเษกและน้�ำอภิเษก ผูช้ ่วยบรรณาธกิ ารบรหิ าร ณฤชนก ภกั ดภี ริ มรกั ษ์ ส�ำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 48 พิธีอัญเชิญ “พระสุพรรณบัฏ” 50 บรรณาธกิ ารข่าว หยก อาม่ี สักการะ “สมเด็จพระบรมราชบุพการี” 52 ผูช้ ่วยบรรณาธกิ ารข่าว ฐติ พิ ร จลุ ไสย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับน้�ำอภิเษก 8 ทิศ ราชครูถวายพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร 53 พสิ ูจนอ์ กั ษร ชรนิ ทร จลุ ไสย รัชกาลท่ี 10 ทรงประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราช ฝ่ ายศิลป์ ณพวุฒิ จลุ ไสย, เอกวฒั น์ วษิ ณุนรานนท์ มณเฑียร บรรทมเหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์ 57 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว เสด็จออกมหาสมาคม คอมพวิ เตอรก์ ราฟิ ก ธนญั ธร เจรญิ ลาภ รับการถวายพระพรชยั มงคล 59 ท่ปี รกึ ษาฝ่ ายกฎหมาย นิพธั ป่ินแสง, สถาปนาพระฐานันดรศกั ดิ์ พระบรมวงศ์ 64 ธนะพงษพ์ ฒั น์ ธนะโสภณ, จตรุ งค์ พลนิล ประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก 67 บรรณาธกิ ารผูพ้ มิ พผ์ ูโ้ ฆษณา กฤตพฒั น์ จลุ ไสย “เสด็จเลียบพระนคร” พธิ ีประกาศพระบรมเดชานุภาพ สาํ นกั งาน 135/262 อาคาร 3 โสสุ-นครคอนโด ตาํ บลตลาดขวญั ของกษัตรยิ ์ และแสดงแสนยานภุ าพกองทพั 72 ถนนตวิ านนท์ อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั นนทบรุ ี 11000 ช้างคชลีลา 11 เชือก เดินเทิดไท้องค์ราชัน โทร : 02-881-6363 แฟกซ์ : 02-881-6499 ถวายพระพรชัยมงคล ในหลวงรัชกาลท่ี ๑๐ 74 แยกสี บรษิ ทั 274 มเี ดยี จาํ กดั 0-2882-2121 ในหลวงทรงขอบใจทุกฝ่ายจัดงานพระราชพิธีสง่างาม 76 พมิ พท์ ่ี บรษิ ทั ปรชี าธรอนิ เตอรป์ ร้นิ จาํ กดั 4/5 แยก 8 รามอนิ ทรา ทหารเรือกว่า 3 พันนาย พร้อมใจกัน แขวงคนั นายาว เขตคนั นายาว กรุงเทพฯ 10230 เปล่งเสียงเพลง “สดุดีมหาราชา” 77 32 ชยั สมรภมู ิ
EDITOR’S TALK ยิ่งใหญส่ มพระเกียรติ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ทรงพระเจรญิ กกึ กอ้ งทง้ั แผน่ ดนิ “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูรกิติสิริสมบูรณ อดุลยเดชสยามินทราธเิ บศรราชวโรดมบรมนาถบพิตร พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั ” ขอกราบทลู อนั เชิญพระนามอัน เป็นมหามงคลย่ิงแห่งผองข้าพระพุทธเจ้าพสกนิกรปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่ามาประทับไว้บนหน้ากระดาษแห่งความ ศรทั ธาแผ่นนีส้ บื ชวั่ ลูกช่ัวหลานตลอดไป การเสดจ็ ฯ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั สิ บื ราชสนั ตตวิ งศเ์ ปน็ พระมหากษตั รยิ ์ รชั กาลที่ 10 แหง่ พระมหาจกั รบี รมราชวงศ์ ในปีพุทธศักราช 2562 ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้า เจา้ อยูห่ ัวรชั กาลท่ี 10 ถือได้วา่ เป็นนิมิตรหมายแห่งมหามงคลในจกั รวาลตอ่ ประเทศชาติบ้านเมอื งของเรายิ่ง ตลอด ระยะเวลาที่พระองค์ทรงบ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจ นับครั้งไม่ถ้วนในฐานะสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั มาจนถงึ การดำ� เนนิ พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก การเสด็จฯ เลียบพระนคร และการเสด็จฯ ออกสหี บญั ชรทผ่ี ่านพ้นไปน้ันก็เปน็ ทีป่ ระจักษ์ ไปยงั นานาอารยประเทศวา่ พระองคท์ รงประทบั เปน็ ศนู ยร์ วมทางจติ ใจของปวงชนชาวไทยทง้ั ชาตอิ ยา่ งแทจ้ รงิ พระองคค์ ือ พ่อของแผ่นดินที่พระราชทานรอยยิ้ม ความสุข ความสมัครสมานสามัคคีเป็นน�้ำหน่ึงใจเดียวกัน ยังความปิติเกษม มาสู่ดวงใจไทยทุกดวง ด้วยถ้อยค�ำถวายพระพรชัยมงคล “ทรงพระเจริญ” อันเป็นเสียงกึกก้องดังกังวานก้องไป ท่ัวทั้งแผ่นดินไทย พระองค์ทรงมีพระมหากรณุ าธคิ ณุ คนื ความสขุ ใหค้ นไทยดว้ ยพระวรกาย,ดว้ ยนำ้� พระทยั , ดว้ ยพระ ราชดำ� ร,ิ ดว้ ยพระราชดำ� รสั และดว้ ยทกุ ๆ พระราชกรณยี กจิ ท่ีพระองคท์ รงท�ำเพือ่ ความผาสุกแหง่ อาณาประชาราษฎร์ ตลอดมา ขา้ พระพทุ ธเจา้ ในฐานะประธานคณะผจู้ ดั พมิ พ์ หนงั สอื พมิ พช์ ยั สมรภมู เิ ปน็ วาระพเิ ศษนี้ ไดบ้ นั ทกึ รวบรวมเรอื่ งราว ภาพถ่าย ข้ันตอนต่างๆ ตามราชประเพณีรวมไปถึงยังได้บันทึกถ้อยความรู้สึกของผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องกับพระราชพิธี บรมราชาภเิ ษกอันถอื ไดว้ ่าเป็นมรดกของชาติ ทเ่ี ราทุกคนจะตอ้ งร่วมกนั บ�ำรุงรักษาเอาไว้ใหค้ งอยสู่ ืบไปอีกด้วย ดงั น้นั เพ่ือเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติแห่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในบรมราชจักรีวงศ์ จึงขอจารึก เหตุการณ์อันเป็นประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยพร้อมเผยแพร่พระเกียรติคุณแห่งพระองค์ให้เกริกเกียรติก�ำจรไป ในสากลมงคลพิภพ เพอ่ื ทดแทนพระมหากรณุ าธคิ ณุ อนั ลน้ เกลา้ ลน้ แผน่ ดนิ ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รี สินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชริ เกล้าเจา้ อย่หู ัว รัชกาลที่ 10 และบูรพกษตั รยิ ์ไทยแหง่ บรมราชจักรวี งศ์ทกุ พระองค์ ไดท้ รงพระราชทานแก่ปวงขา้ พระพทุ ธเจ้าพสกนกิ รชาวไทยทุกหมูเ่ หลา่ ตลอดกาลนานมา ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล แทนหัวใจคนไทยทุกดวง ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจรญิ ... ยิง่ ยืนนาน ดว้ ยเกลา้ ดว้ ยกระหมอ่ ม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจา้ นายกฤตพัฒน์ จลุ ไสย และคณะผจู้ ดั พิมพห์ นังสอื พมิ พ์ชัยสมรภูมิ ชยั สมรภมู ิ 33
ส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกับช่วงเวลาที่สุดแสนพิเศษ บันทึกความทรงจ�ำในพระราชพิธีบรมราชภิเษก พุทธศักราช 2562 ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติของ โดย...พลต�ำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ ส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเราได้ระดมก�ำลังพลจากทุกกอง พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ 10 ในบรมราชจกั รวี งศ์ พทุ ธศกั ราช บังคับการมาอยู่ในจุดคัดกรองท้ังหมด อย่างเช่นฝ่ายสืบสวนก็ให้ 2562 อันนับเป็นพระราชพิธีท่ีมีความส�ำคัญย่ิงต่อประวัติศาสตร์ ตรวจสอบตามแหล่งที่มีนักท่องเท่ียวหรือตามแหล่งที่พักค้างแรม ชนชาติไทยน้ัน ถือเป็นภาพแห่งความปลาบปลื้มปิติใจท่ีสามารถ และก็ยังได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ของเราท�ำหน้าที่ล่ามให้ความรู้และ สะท้อนให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติได้เป็น ชี้แจงข้อควรปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการเข้าร่วมพระ อยา่ งดยี งิ่ ซง่ึ การไดถ้ วายงานตอ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ อ์ นั เปน็ ทรี่ กั ราชพิธโี ดยรว่ มกับต�ำรวจทอ่ งเทย่ี วอกี ดว้ ย ยิ่งในพระราชพิธีอันส�ำคัญนี้จึงถือเป็นเรื่องราวแห่งความภาคภูมิใจ ส่ิงท่ีเราได้พบเห็นและตระหนักกันมาโดยตลอดก็คือคนไทย ในชีวิตที่จะนับเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเองและครอบครัวได้อย่าง เรามีความรักความสามัคคีและให้เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หาท่ีสุดมไิ ด้ เปน็ อยา่ งยงิ่ อยา่ งเชน่ ในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกในครง้ั น้ี จะเหน็ ในโอกาสอนั สบื เนอื่ งมาจากหว้ งเวลาอนั เปน็ มหามงคลแกค่ นไทย ได้ว่าทุกคนมาจากทวั่ สารทิศ มาจากทั่วประเทศเพ่อื รอเฝ้ารบั เสดจ็ ฯ ทั้งแผ่นดนิ น้ี ส�ำนกั ขา่ วชัยสมรภมู ไิ ด้รับเกียรตมิ าพดู คยุ กบั ผ้บู ญั ชา และเฝา้ ชน่ื ชมพระบารมขี องพระองคท์ า่ น ซึ่งทกุ คนก็ตา่ งปลาบปลม้ื การสำ� นกั งานตรวจคนเขา้ เมอื งทจี่ ะมาเปดิ เผยถงึ เรอื่ งราวแหง่ ความ มีหน้าตายิ้มแย้มเต็มไปดว้ ยความสุขกนั ทุกคน อย่างน้อยขา้ ราชการ สุขในหัวใจที่มีโอกาสได้ร่วมถวายงานในพระราชพิธีอันเป็นประวัติ ต�ำรวจในส่วนของส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเองก็ได้ถือเป็นความ ศาสตร์ในครั้งน้ีอย่างสุดภาคภูมิและปลาบปลื้มใจกับบทสัมภาษณ์ ภาคภูมิใจที่จะเก็บภาพความประทับใจเหล่านี้ไว้เพ่ือเป็นเกียรติแก่ พิเศษของข้าราชการต�ำรวจไทยท่ีจะยึดม่ันในพระมหากรุณาธิคุณ ตนเองและครบครวั ทไี่ ดม้ โี อกาสมาถวายงานในพระราชพธิ อี นั สำ� คญั อยา่ งไมร่ ู้ลมื เปน็ ประวตั ศิ าสตรช์ าตบิ ้านเมืองในครง้ั น้ี พลตำ� รวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการส�ำนกั งานตรวจคน ส�ำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นท่ีรักและเคารพย่ิงของ เข้าเมอื ง คนไทยทุกคนน้ัน จะเห็นไดว้ า่ ตงั้ แตใ่ นสมัยกอ่ นนั้นสถาบนั พระมหา “ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ กษตั รยิ ท์ รงเป็นผูน้ ำ� ทีย่ ่งิ ใหญ่ แม้มกี ารสู้รบกบั อรริ าชศัตรู พระองค์ มกี ารดแู ลในเรอ่ื งจดุ คดั กรอง เรื่องการถวายความปลอดภัยและการ ท่านก็ยังสามารถทจ่ี ะปกปอ้ งบา้ นเมอื งทำ� ใหป้ ระเทศไทยเรามเี อกราช แสดงความจงรักภักดีซ่ึงในห้วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาท มีอิสรภาพมาจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งยังมีชาวต่างชาติมากมายท่ีได้ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั กเ็ ปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยผา่ นไปดว้ ยดี โดย มาพ่ึงพาอาศัยใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารอยู่ในประเทศไทยก็ยัง ในส่วนของส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติก็ระดมพลทุกหน่วยงานมา เคารพรกั สถาบนั ฯ เปน็ อยา่ งยง่ิ ดงั นน้ั พวกเราคนไทยกบั ความจงรกั ท�ำงานร่วมกันทุกภาคส่วนซ่ึงถือว่าข้าราชการต�ำรวจทุกนายก็ได้มี ภกั ดี ความรกั ความเคารพเทดิ ทนู ทมี่ ตี อ่ พระมหากษตั รยิ จ์ งึ เปน็ เสมอื น โอกาสเขา้ เฝา้ รบั เสดจ็ ฯ พระองคท์ า่ น และพระราชพธิ กี เ็ ปน็ ไปอยา่ ง เอกลักษณ์เป็นเสมือนด่ังอัตลักษณ์หนึ่งที่จะอยู่และสืบทอดไปใน ยง่ิ ใหญส่ มพระเกยี รติ พสกนิกรปวงชนชาวไทยทุกคนก็ไดร้ ว่ มแสดง สายเลอื ดและจิตใจของคนไทยตลอดไปทกุ ยุคทกุ สมัยตลอดไป” ความยนิ ดกี บั พระองคท์ า่ นอยา่ งถว้ นหนา้ โดยถอื เปน็ หว้ งเวลาอนั เปน็ ประวัติศาสตร์ของคนไทยซ่ึงท่ัวโลกต่างก็ให้ความสนใจเน่ืองจาก ด้วยความจงรักภกั ดีตลอดไป เปน็ ราชประเพณที ม่ี คี วามสำ� คญั อยา่ งยง่ิ ทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ เราคนไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญตลอดกาลนาน ทุกคนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันมีพระมหา พลต�ำรวจโท สมพงษ์ ชงิ ดวง กรณุ าธคิ ณุ ตอ่ สงั คมและพวกเราพสกนกิ รปวงชนชาวไทยเปน็ อยา่ งยงิ่ 17 พฤษภาคม 2562 เพราะฉะนั้นเราจึงร่วมกันแสดงความส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะเราเป็นข้าราชการก็จะต้องเป็นข้าราชการท่ีดีมีความ จงรักภักดีตอบแทนคุณสถาบันพระมหากษัตรยิ แ์ ละแผ่นดนิ ของเรา 34 ชัยสมรภมู ิ
เปดิ หวั ใจ พลต�ำรวจตรี ธนายุตม์ วฒุ ิจรสั ธำ� รงค์ กบั ความภาคภมู ใิ จในพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก ขา้ พระพุทธเจ้า จะถวายงาน ด้วยความจงรักภกั ดี จนกวา่ ชวี ติ จะหาไม่ การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็น ของพระองค์ท่าน เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลแขกของพระองค์ท่าน ประวัตศิ าสตร์ของประเทศชาตบิ า้ นเมอื งนนั้ ถือได้ว่าเป็นความทรง ให้ดีที่สุด และสิ่งท่ีส�ำคัญที่สุดก็คือการถวายความปลอดภัยจะต้อง จำ� ทม่ี คี ณุ คา่ ตอ่ ชวี ติ และวงศต์ ระกลู เปน็ อยา่ งมาก ในพระราชพธิ บี รม เป็นการถวายความปลอดภัยขั้นสูงสุด สมพระเกียรติและเป็นไป ราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ มีภาพแห่งความประทับใจเกิดข้ึน ตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามีความ มากมายและหนง่ึ ในผทู้ จี่ ะมาบอกเลา่ บนั ทกึ เรอื่ งราวความประทบั ใจอัน ตระหนักอยา่ งยงิ่ โดยตำ� รวจภูธรภาค ๑ ได้รว่ มกับกรมทหารม้าท่ี ๕ เป็นประวัติศาสตร์ครั้งส�ำคัญก็ถือได้ว่าเป็นข้าราชการในใต้ร่มบรม รักษาพระองค์ ปอศ./บก.น.๔/บก.น.๕/ บก.น.๗/กรมทหารที่ ๒๙ โพธิสมภารที่มีความมุ่งม่ันและมีความศรัทธาอันแรงกล้าต่อสถาบัน /หน่วยบัญชาการพิเศษกองทัพเรือ เป็นหน่วยหลักท่ีดูแลในพื้นที่ พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราพสกนิกรปวงชนชาว ดังกล่าวร่วมกับส่วนราชการอืน่ ๆ ซ่ึงเราได้ จัดเจา้ หน้าทป่ี ระจำ� จุด ไทยทกุ คนเปน็ อย่างยิง่ กบั บทสัมภาษณพ์ ิเศษทต่ี ้องจารึกไว้ของ ดูแลความเรียบร้อยทั้งในเส้นทางที่เสด็จฯ พื้นท่ีจุดพักคอยของ ประชาชน พนื้ ทร่ี บั เสดจ็ ฯ และส่ิงที่สำ� คัญอกี ประการก็คอื จดุ บริการ พล.ต.ต.ธนายตุ ม์ วฒุ จิ รสั ธำ� รงค์ รองผบู้ ญั ชาการตำ� รวจภธู รภาค ๑ ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นบริการทาง การแพทย์พยาบาล โรงอาหาร ดังที่มีงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกซ่ึงเป็นพระราชพิธีอันเป็นมหา โรงครวั พระราชทาน ซง่ึ นบั วา่ เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ทท่ี รงจดั อาหาร มงคลสูงสุดของประวัติศาสตร์ชาติไทยน้ัน กระผมได้รับมอบหมาย พระราชทานเลี้ยงให้แก่พี่น้องประชาชนท่ีมารอรับเสด็จและ จากทา่ น พล.ต.ท.อำ� พล บวั รบั พร ผบู้ ญั ชาการตำ� รวจภธู รภาค ๑ ซงึ่ ข้าราชการต�ำรวจทุกนายที่มาร่วมรับเสด็จถวายงานพระราชพิธีใน ทา่ นเปน็ ผบ.โซน ๑ ในการรบั ผดิ ชอบพน้ื ทีไ่ ข่แดง ซ่งึ พน้ื ท่ไี ข่แดงก็ ครงั้ น้ี คอื พนื้ ทว่ี งในโดยรอบพระบรมมหาราชวงั โดยผมไดร้ บั มอบหมายให้ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ รอง ผบ.โซน ๑ ในการถวายความปลอดภยั ใหก้ บั พระบาท อยา่ งไรก็ตาม ในพนื้ ท่ีตรงน้ี อยา่ งท่ไี ดก้ ลา่ วไปในข้างต้นเราไม่ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และพระบรมวงศานวุ งษท์ กุ พระองค์ ซง่ึ ในพน้ื ที่ ไดท้ ำ� งานเพยี งหนว่ ยเดยี ว เราไดร้ บั การสนบั สนนุ มาจากหลายหนว่ ย ดังกล่าวถือวา่ เปน็ พืน้ ท่ที ม่ี คี วามสำ� คญั เปน็ อย่างมาก เนอ่ื งจากจะมี เชน่ รร.นายรอ้ ยตำ� รวจ หนว่ ยบญั ชาการสงครามพเิ ศษกองทพั เรอื พน่ี อ้ งประชาชนมารว่ มงาน พระราชพธิ ที สี่ ำ� คญั ในครง้ั นมี้ เี ปน็ จำ� นวนมาก กองบังคบั การ รน. กรมทหารราบที่ ๒๙ เปน็ ต้น โดยเราไดม้ กี าร เพราะฉะนั้นแล้ว จะต้องมีการคัดกรองบุคคลท่ีจะเข้ามาในบริเวณ รว่ มกนั หาขอ้ มลู ในเชงิ ลกึ เพอื่ ถวายความปลอดภยั และอำ� นวยความ โดยรอบอย่างเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย สะดวกใหก้ บั พนี่ อ้ งประชาชนทงั้ บก.น.๔/บก.น.๕/ บก.น.๗ คนในพน้ื ที่ และทเ่ี ดนิ ทางมาจากตา่ งจงั หวดั โดยในการปฏบิ ตั นิ น้ั ไดม้ กี ารประสานสว่ นราชการตา่ ง ๆ มาบรู ณา การทค่ี รงั้ หนงึ่ เราไดเ้ ปน็ ขา้ ราชการใน พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั การรว่ มกนั ซงึ่ กจ็ ะมี กองอำ� นวยการรว่ มอยทู่ ก่ี ระทรวงกลาโหมโดยมี ถือเป็นความภูมิใจและเป็นมงคลอันสูงสุดของตัวเองครอบครัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ วงศ์ตระกลู และสิ่งส�ำคัญก็คือเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรท่ีเรา กระทรวงกลาโหม เปน็ ประธานกรรมการฝา่ ยรกั ษาความปลอดภยั และ ได้มีโอกาสถวายงานอยา่ งใกล้ชิด เพราะฉะน้ันแล้ว เราทกุ คนจึงตง้ั การจราจร ซง่ึ ในสว่ นของตำ� รวจภธู รภาค ๑ ไดร้ บั มอบหมายใหด้ แู ล ปณธิ านวา่ เราทำ� ดดี ว้ ยหวั ใจเพอ่ื ในหลวง เพอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ พื้นที่โซน ๑ คือตั้งแต่ประตูวิเศษไชยศรี ถนนหน้าพระลาน ถนน อยหู่ วั อันเปน็ ท่ีเคารพรักและเป็นศนู ย์รวมจิตใจของพวกเราคนไทย ราชดำ� เนนิ สะพานผ่านพิภพลีลา ข้นึ ไปสะพานป่ินเกล้าลงไปแมน่ ้�ำ ทกุ คน โดยเฉพาะกระผมเองนน้ั เปน็ นายตำ� รวจราชองครกั ษเ์ วรใน เจา้ พระยา หมนุ เขา้ มาทท่ี า่ เรอื ทา่ ชา้ ง แลว้ กลบั เขา้ มาทป่ี ระตวู เิ ศษไชย พระองค์ ก็ต้ังปณิธานไว้แล้วว่าจะจงรักภักดีไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ศรอี กี ครง้ั ซง่ึ มมี หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ชมุ ชน ด้วยความส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในฐานะขา้ ราชการ ภายใต้ ทา่ วงั ศาลฎกี า ศาลยตุ ธิ รรม และในพน้ื ทส่ี นามหลวงทงั้ หมด ซงึ่ ลว้ น รม่ พระบารมขี องพระองคท์ า่ นรว่ มกบั พนี่ อ้ งขา้ ราชการและประชาชน แต่เป็นพื้นที่ที่มีความส�ำคัญในการประกอบพระบรมราชพิธีด้วยกัน ชาวไทยทุกคนมีความส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมไิ ด้ ท้งั สนิ้ การไดถ้ วายงานแดอ่ งคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และพระบรมวงศา การไดถ้ วายงานแด่พระองค์ทา่ นถือไดว้ า่ คมุ้ คา่ ทไ่ี ดเ้ กดิ มาชาติ นวุ งศ์ ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งสมพระเกยี รตแิ ละเปน็ ไปตามพระราชประสงค์ หนง่ึ ถอื วา่ เปน็ มงคลสงู สดุ ในชวี ติ เปน็ เกยี รตติ อ่ วงศต์ ระกลู และพ่ี เพอื่ น เราถอื ไดว้ า่ เปน็ ครงั้ หนง่ึ ใน นอ้ ง ขา้ ราชการตำ� รวจทกุ คนทไ่ี ดถ้ วายงานและตา่ งกร็ สู้ กึ ซาบซงึ้ อยา่ ง ชีวติ ทไ่ี มเ่ สียชาตเิ กิด ถือวา่ เป็นมงคลอันประเสรฐิ ในชีวติ ทีจ่ ะ หาทส่ี ดุ มไิ ด้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ทา่ นผบู้ ญั ชาการตำ� รวจแหง่ ชาติ พล.ต.อ. จกั รทพิ ย์ ชยั จนิ ดา ไดก้ ำ� ชบั วา่ เราตอ้ งทำ� ดว้ ยหวั ใจ เพราะประชาชน ชยั สมรภมู ิ 35 ทมี่ าจากทกุ หมเู่ หลา่ มาจากทกุ สารทศิ นบั หมน่ื นบั แสนคนนน้ั กค็ อื แขก
เปน็ ความทรงจำ� เปน็ ประวตั ศิ าสตรค์ รง้ั สำ� คญั และตราบชว่ั ชวี ติ นกี้ ็ การเกิดมาในคร้ังหน่ึงได้มีโอกาสได้ถวายงานแด่พระองค์ท่าน จะไมม่ วี ันลืมว่าเราได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์อันส�ำคัญครั้งหน่ึง นบั เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ อยา่ งหาทส่ี ดุ มไิ ด้ กระผมจะจงรกั ภกั ดตี อ่ ของประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันพระมหากษัตริย์จนกว่า ส�ำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจให้ ชีวิตจะหาไม่ กับพี่น้องประชาชนคนไทยมาอย่างยาวนานและจะยั่งยืนอยู่ในราช ขอพระองคท์ รงพระเจรญิ ย่งิ ยืนนาน อาณาจกั รไทยตลอดไป กข็ อใหพ้ นี่ อ้ งประชาชนคนไทยทกุ คนหลอ่ หลอม ดว้ ยเกลา้ ดว้ ยกระหม่อม ขอเดชะ รวมจติ ใจเปน็ หนงึ่ เดยี วเพอ่ื ขอใหพ้ ระองคท์ รงพระเจรญิ มพี ระชนมายุ ข้าพระพทุ ธเจา้ พลตำ� รวจตรีธนายุตม์ วุฒิจรัสธำ� รงค์ ยิ่งยืนนานเป็นพระมิ่งขวัญให้กับพ่ีน้องประชาชนคนไทยตลอดไป รองผู้บญั ชาการต�ำรวจภูธรภาค ๑ กระผมและครอบครวั และขา้ ราชการตำ� รวจทกุ คนจะถวาย ความจงรกั ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ภกั ดตี อ่ พระองค์ ทา่ น จนกว่าชีวติ จะหาไม่ กรมเจ้าท่า ในพระราชพิธีประวัติศาสตร์ ยืนยัน ทุกอย่างนับเป็นความปลาบปล้ืมปิติใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ในห้วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอันเป็นมหามงคลต่อ โดย กริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ประเทศชาตเิ ปน็ อยา่ งยงิ่ นน้ั กรมเจา้ ทา่ ถอื ไดว้ า่ เปน็ อกี หนงึ่ หนว่ ย และเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าทุกคนต่างก็ทุ่มเทแรงใจแรงกาย งานของภาครัฐท่ีมีบทบาทส�ำคัญเป็นอย่างมากในด้านการอ�ำนวย ปฏิบัติหน้าทกี่ นั อย่างเข้มแขง็ และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิง่ ความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในการสัญจรทางน�้ำต่อพสก โดยในหว้ งพระราชพิธบี รมราชาภิเษก กรมเจ้าท่า กระทรวง นิกรปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่พร้อมใจกันแสดงพลังแห่งความ คมนาคม ไดร้ ว่ มปฏบิ ตั งิ านในกองอำ� นวยการรว่ มพระบรมราชพธิ บี รม จงรกั ภกั ดใี นการเดนิ ทางไปรว่ มชน่ื ชมพระบารมขี อง พระบาทสมเดจ็ ราชาภเิ ษก ในการดแู ลและควบคมุ การจราจรทางนำ้� ทม่ี กี ารจดั เรอื ตรวจ พระเจ้าอย่หู วั รชั กาลท่ี 10 ในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกกนั อยา่ ง การณ์ของกรมเจ้าท่ารวม 12 ล�ำ มีอัตราเจ้าหน้าที่ 56 นาย ขณะ ล้นหลามและแม้ว่าในช่วงวันเวลาดังกล่าวจะมีการควบคุมการ เดยี วกนั กย็ งั ไดร้ ว่ มสนบั สนนุ ในการดแู ลความปลอดภยั ในการสญั จร จราจรในพน้ื ทโี่ ดยรอบการประกอบพระราชพิธี แต่ด้วยการอ�ำนวย ทางน�้ำโดยจัดเจ้าหน้าท่ีรวม 110 นาย ประจ�ำท่าเรือส�ำคัญๆ ทั้ง ความสะดวกของหน่วยงานตา่ งๆ กท็ ำ� ใหค้ วามการเดนิ ทางของพสก ทา่ เรอื ข้ามฟากและเรือโดยสารสาธารณะรวม 29 ทา่ ซง่ึ ทกุ ๆ สว่ น นิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติล้วนแต่เป็นไปอย่างสะดวกสบาย ของกรมเจ้าท่าต่างก็ทุ่มเทและพร้อมใจกันปฏิบัติงานด้วยความ ซึ่งในการใช้การการสัญจรทางน�้ำก็ถือเป็นตัวเลือกในล�ำดับต้นๆ ตง้ั ใจอยา่ งเตม็ กำ� ลงั ความสามารถ และในโอกาสเดยี วกนั นก้ี ย็ งั รวมถงึ ของพี่น้องประชาชนท่ีต้องการเดินทางไปร่วมชมพระราชพิธีและ ในด้านของจิตอาสาท่ีได้อาสาเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลอ�ำนวย รว่ มเฝา้ รบั เสดจ็ ฯ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ดว้ ยความปลาบปลม้ื ปติ ิ ความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางทางน�้ำ ใจอยา่ งมริ ู้ลมื กนั อยา่ งตอ่ เนอ่ื งในหว้ งพระบรมราชพธิ ที ผ่ี า่ นมาอยา่ งสมพระเกยี รติ ในโอกาสนี้ส�ำนกั ข่าวชยั สมรภูมิ ก็ไดร้ บั เกียรตจิ ากผูแ้ ทนของ ส�ำหรบั ผมเองกถ็ ือได้วา่ เป็นความปลาบปลืม้ และภาคภูมิใจ หน่วยงานผู้มีส่วนส�ำคัญในการสัญจรทางน�้ำมาถ่ายทอดความรู้สึก อย่างหาทสี่ ดุ ไม่ไดท้ ี่มโี อกาสได้เป็นส่วนหนงึ่ ในการร่วมอ�ำนวยความ และความภาคภูมิใจท่ีได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอ�ำนวยความ สะดวกในการควบคมุ การจราจรและการรกั ษาความปลอดภยั ทางนำ้� สะดวกและการรักษาความปลอดภัยทางน้�ำของกรมเจ้าท่า ในพระ ให้กับพน่ี ้องประชาชนใน พระบรมราชพธิ ีอนั สำ� คัญนี้ ซงึ่ หากจะให้ ราชพิธีอันเป็นประวตั ิศาสตรค์ รัง้ ส�ำคญั ของชาติจาก นายกริชเพชร บรรยายเปน็ ความรสู้ กึ ที่มนี น้ั ก็คงไม่ต่างจากความรสู้ ึกของคนไทย ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าทา่ ดา้ นมาตรฐานการขนส่งทางนำ้� โดยมี ทกุ คน ทร่ี กั และเทดิ ทนู สถาบนั ฯ อนั เปน็ ศนู ยร์ วมจติ ใจของพสกนกิ ร รายละเอยี ดดงั ต่อไปน.้ี .. ปวงชนชาวไทยทกุ หมเู่ หลา่ กนั อยแู่ ลว้ นบั เปน็ โชคดขี องคนไทยทกุ คน ท่ีมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเสมือนดั่งร่มบรมโพธิสมภาร “สำ� หรบั กรมเจา้ ทา่ เราเปน็ หนว่ ยงานหนง่ึ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในการดแู ล ของประเทศชาตบิ า้ นเมืองตลอดมา” การอำ� นวยความสะดวกและการรกั ษาความปลอดภยั ในการควบคมุ การ จราจรทางน�้ำให้กับพี่น้องประชาชนท่ีมาร่วมในงานพระราชพิธีบรม ราชาภเิ ษก ซ่ึงขา้ ราชการและเจา้ หน้าทข่ี องกรมเจ้าท่าทงั้ ปวงก็ล้วน แตม่ คี วามสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว รัชกาลท่ี 10 เปน็ อย่างยง่ิ ซึ่งในชว่ งวันเวลาดังกล่าวบุคลากร 36 ชยั สมรภูมิ
พระราชพธิ ีกษัตราธิราช “พระราชพธิ กี ษตั ราธริ าช” เปน็ โบราณราชประเพณที ตี่ อ้ งทำ� เพอื่ ความเปน็ พระมหา กษตั รยิ อ์ ยา่ งสมบรู ณ์ ดงั ความใน “จดหมายเหตพุ ระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมเดจ็ พระรามา ธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าวธุ พระมงกฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” วา่ “ตามราชประเพณใี นสยามประเทศน้ี ถอื เปน็ ตำ� ราโบราณวา่ พระมหากษตั รยิ ซ์ ง่ึ เสดจ็ ผา่ นพภิ พ ตอ้ งทำ� พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก กอ่ น จงึ จะเปน็ พระราชาธบิ ดโี ดยสมบรู ณ์ ถา้ ยงั มไิ ดท้ ำ� พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกอยตู่ ราบใด ถงึ จะไดท้ รงรบั รชั ทายเมอื่ เสดจ็ เขา้ ไปประทบั อยใู่ นพระราชวงั หลวง กเ็ สดจ็ อยเู่ พยี ง ณ ทพี่ กั แหง่ หนง่ึ พระนามทขี่ านกค็ งใชพ้ ระนามเดมิ เปน็ แตเ่ พม่ิ คำ� วา่ “ซงึ่ ทรงสำ� เรจ็ ราชการแผน่ ดนิ ” เขา้ ขา้ งทา้ ยพระนาม และค�ำรับสงั่ ก็ไมใ่ ชพ้ ระราชโองการ จนกว่าจะไดส้ รงมุรธาภเิ ษก ทรง รับพระสุพรรณบัฎจารึกพระบรมราชนามาภิธัยกับทั้งเคร่ืองราชกกุธภัณฑ์จากพระมหาราช ครพู ราหมณผ์ ูท้ ำ� พธิ ีราชาภิเษกแลว้ จึงเสด็จข้นึ เฉลิมพระราชมณเฑยี ร ครอบครองสิรริ าช สมบตั สิ มบรู ณด์ ว้ ยพระเกยี รตยิ ศแหง่ พระราชามหากษตั รยแ์ ตน่ น้ั ไป” ในสมยั “รชั กาลท่ี 10” นน้ั พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก เปน็ ไปตามท่ี “พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รี สินทรมหาวชริ าลงกรณมหิศรภมู พิ ลราชวรางกูร กิติสริ สิ มบรู ณอดุลยเดชสยามนิ ทราธิ เบศราชวโรดม บรมนาถบพิตรพระวชริ เกล้าเจ้าอย่หู วั ” โปรดเกลา้ ฯให้ตั้งการพระราชพธิ ี บรมราชาภิเษกข้ึน โดยมีการด�ำเนินการระหว่างวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2562 ถึงวันท่ี 6 พฤษาคม พ.ศ. 2562 แบง่ เปน็ ชว่ งการจดั คอื ราชพธิ เี บอื้ งตน้ พระราชพธิ เี บอ้ื งกลาง และ พระราชพธิ เี บ้อื งปลาย โดยสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีในรชั กาลที่ 9 ทรงเปน็ องคป์ ระธานทป่ี รกึ ษาคณะกรรมการอำ� นวยการจดั งานพธิ บี รมราชาภเิ ษกรชั กาลที่ 10 พ.ศ. 2562 ส�ำหรบั พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษกนั้น สง่ิ ส�ำคัญอย่างหน่ึง คือ “ตราสญั ลักษณ์ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก” ซง่ึ รัชกาลท่ี 10 ทรงปรุงแบบตราสญั ลักษณพ์ ระราชพิธีบรม ราชาภิเษกด้วยพระองค์เองและพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์พร้อมความหมายเพ่ือใช้ ในการเผยแพร่งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบดว้ ย อกั ษรพระปรมาภไิ ธย “วปร” อยตู่ รงกลาง พนื้ อกั ษรสขี าวขอบเดนิ ทอง อนั เปน็ ขลิบทอง จงกลยอดฉัตรประกอบรูปพรหม สขี องวันจนั ทร์ซึ่งเปน็ วันพระบรมราชสมภพภายในอักษรประดับเพชร ตามความหมายแหง่ พกั ตรอ์ นั วเิ ศษสดุ ระบายชนั้ ลา่ งสดุ หอ้ ยอบุ ะ พระนาม มหาวชิราลงกรณ อักษร “วปร” อยู่บนพื้นสีขาว (สีน�้ำเงินเข็ม) อันเป็นสีของ จำ� ปาทอง แสดงถงึ พระบารมีและพระบรม ขัตตยิ กษตั รยิ ์ ภายในกรอบพุ่มข้าวบณิ ฑ์สที องสอดสีเขยี ว อนั เปน็ สซี ่ึงเป็นเดชแหง่ วันพระ เดชานภุ าพทปี่ กแผไ่ ปทว่ั ทศิ านทุ ศิ เบอื้ งลา่ ง บรมราชสมภพ กรอบทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อัญเชญิ มาจากกรอบทป่ี ระดษิ ฐานพระมหาอณุ าโลม กรอบอักษรพระปรมาภิไธยมีแถบแพรพ้ืนสี อันเป็นพระราชลัญจกรประจ�ำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เขียวขอบขลิบทอง มีอักษรสีทองความว่า ปฐมกษตั รยิ แ์ หง่ พระบรมราชจกั รวี งศ์ แวดลอ้ มดว้ ย “เครอ่ื งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ”์ อนั เปน็ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช เคร่ืองประกอบพระบรมราชอิสริยยศพระมหากษัตริย์และเครื่องหมายแห่งความเป็น 2562” ปลายแถบแพรเบ้อื งขาวมีรปู คชสหี ์ สมเดจ็ พระบรมราชาธริ าช ไดแ้ ก่ พระมหาพชิ ยั มงกฎ พรอ้ มอณุ าโลมประกอบเลขมหามงคล กายม่วงอ่อน ประคองฉัตร 7 ชนั้ หมายถึง ประจำ� รัชกาลอยู่เบ้ืองบน พระแสงขรรค์ศรี พระแสจ้ ามรี ทอดไขว้เบือ้ งขวา ธารพระกร ข้าราชการฝ่ายทหาร เบ้ืองซ้ายมีรูปราชสีห์ พัดวาลวิชนีทอดไขว้เบื้องซ้าย ฉลองพระบาทเชงิ งอน อย่เู บอื้ งล่าง “พระมหาพชิ ยั มงกฎ” กายขาว ประครองฉัตร 7 ช้ัน หมายถึง หมายถงึ ทรงรบั พระราชภาระอนั หนกั ยงิ่ ของแผน่ ดนิ เพอื่ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน “พระแสง ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ผู้ปฏิบัติราชการ ขรรค์ชยั ศรี” หมายถงึ ทรงรบั พระราชภาระปกปอ้ งแผน่ ดินใหพ้ ้นภยนั ตราย “ธารพระกร” สนองงานแผ่นดินอยู่ด้วยกัน ข้างคันฉัตร หมายถงึ ทรงดำ� รงราชธรรม เพอ่ื คำ�้ จนุ บา้ นเมอื งใหผ้ าสขุ มน่ั คง “พระแสจ้ ามรกี บั พดั วาล ดา้ นในทงั้ สองขา้ งมดี อกลอยกนกนาค แสดง วิชนี” หมายถึงทรงขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากเดือดร้อนของอาณาประชาราษฎร์ “ฉลอง ถึงปีมะโรงนักกษัตริย์อันเป็นปี พระบรม พระบาทเชงิ งอน” หมายถงึ ทรงทำ� นุบำ� รงุ ปวงประชาทว่ั รัฐสมี าอาณาจกั ร ทั้งนเี้ บอื้ งหลงั ราชสมภพ สที องหมายถงึ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง “พระมหาพชิ ยั มงกุฎ” ในตราสญั ลกั ษณ์ฯ ประดษิ ฐาน “พระมหาเศวตฉัตร” อันมรี ะบาย ย่งิ ของประเทศชาติและประชาชน ชัยสมรภมู ิ 37
ทรงรบั ขึ้นทรงราชย์ วนั พฤหสั บดที ่ี 1 ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช 2559 ปวงชนชาวไทยทง้ั ผองปลาบปลม้ื ปติ ิ ภายหลงั ผา่ นความโศกเศรา้ อาลยั จากการ สรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รชั กาลท่ี 9 38 ชัยสมรภูมิ
พิธีมหามงคลเริ่มขึ้นภายหลังจากเสร็จการพระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศล ปัญญาสมวาร (ครบ 50 วัน) ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลท่ี 9 ณ พระท่ีนงั่ ดุสติ มหาปราสาท ในบรมมหาราชวงั เวลา 19.16 น. สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร เสดจ็ ออก ณ หอ้ ง UPPERMAIN CR.MZ หอ้ ง ว.ป.ร.) พระทน่ี งั่ อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ พระราชทานพระราช วโรกาสให้ พล.อ.เปรม ตณิ สลู านนท์ ผู้ส�ำเร็จราชการแทนพระองค์ นายพรเพชร วิชิดชลชัย ประธานสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ พล.อ.ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี และนายวรี ะพล ตงั้ สวุ รรณ ประธานศาลฏกี า เขา้ เฝา้ ฯ เพอ่ื กราบบงั คมทลู อญั เชญิ องคร์ ชั ทายาทขนึ้ ทรงราชย์ เป็นรัชกาลที่ 10พระองค์มีพระราชด�ำรัสตอบรับการข้ึนทรงราชย์ ความว่า “ตามท่ีประธาน สภานิตบิ ญั ญัตแิ ห่งชาตไิ ดป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีประธานรฐั สภา ได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทย เชญิ ขา้ พเจา้ ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นไปตามบทบญั ญตั ิ ของกฎมณเฑยี รบาลวา่ ดว้ ยการสบื ราชสนั ตติ วงศก์ บั รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับ เพ่ือสนองพระราช ปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชน ชาวไทยทง้ั ปวง” ชัยสมรภูมิ 39
พระปฐมบรมราชโองการ ร.10 ปวงชนชาวไทยประจักษ์ชัดในพระราช สบื สาน รักษา และตอ่ ยอด วิริยอุตสาหะ และพระราชหฤทัย อันมุ่งม่ัน พระราชปณิธาน ร.9 โดยเฉพาะโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจาก พระราชดำ� รทิ เ่ี กดิ ขน้ึ จากพระมหา กรุณาธิคุณ เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผน่ ดินโดยธรรม ของพระองค์ ที่ทรงทราบด้วยพระเนตร เพื่อประโยชน์สุขแหง่ อาณาราษฎรตลอดไป พระกรรณ ถงึ ปญั หาความทกุ ขย์ ากของราษฎร มาตงั้ แต่ยังทรงพระเยาวจ์ ากการตามเสดจ็ จากพระปฐมบรมราชโองการของ “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รี “สมเด็จพระบรมชนกนาถ” และ สนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” เนอื่ งในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก เมอ่ื “สมเดจ็ พระบรมราชชนน”ี ทอี่ อกเยยี่ มเยยี น วันท่ี 4 พฤษภาคม 2562 ผ่านมา ไม่เพียงสะท้อนถึงพระราชปณิธาน และความต้ังใจอัน พสกนิกรทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทรง แนว่ แนใ่ นการทรงงานเพอ่ื จะสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอดโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ พระวิริยะ อุตสาหะเอาพระราชหฤทัยใส่ใน และแนวพระราชดำ� รติ า่ งๆ ของ “พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช การเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท “สมเด็จ มหาราช บรมนาถบพติ ร” พระบรมราชบุพการี” ด้วยทรงตระหนัก ตลอดจนโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริของพระองค์เองในการบ�ำบัด ถึงพระราชภาระอันส�ำคัญที่รอคอยอยู่ใน ทกุ ข์ บำ� รงุ สขุ ใหแ้ กพ่ สกนกิ รของพระองค์ และพฒั นาประเทศใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ มนั่ คง ตลอด ภายภาคหนา้ และดว้ ยนำ้� พระราชหฤทยั อนั ไปดง่ั จะเหน็ ไดจ้ ากการท่ี “พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ เปย่ี มล้นด้วยพระเมตตาต่อประชาชนทุกผู้ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ มาตง้ั แตเ่ มอ่ื ครงั้ ทรงพระเยาว์ ทงั้ การ ทุกนาม และทุกหมู่เหล่าทั้งนั้นจากข้อมูล เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทน“พระบาทสมเด็จพระบรมชน โครงการพฒั นาอันเนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ กาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร” และ “สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ิติ์ ของ “พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดี พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง” ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้า จนเมอื่ เจรญิ พระชนมายุมากขึน้ พระราชกรณยี กจิ ท่ที รงปฏบิ ตั ผิ า่ นมากเ็ พ่ิมมากขึ้น เจ้าอยู่หัว” ที่ “มูลนิธิปิดทองหลังพระ นานัปการ ทั้งท่ีทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และทรงปฏิบัติในส่วนของพระองค์เอง จนท�ำให้ สืบสานแนวพระราชด�ำริ” และ “สถาบัน สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมปดิ ทองหลงั พระ สบื สานแนวพระราชดำ� ร”ิ รวบรวมไวภ้ ายใต้ ชื่อ “บรมราชาภิเษกบรมราชา พระบาท สมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลท่ี 10” ระบุว่า ด้วยพระวิสยั ทัศน์ และสาย พระเนตรทย่ี าวไกล โครงการพฒั นาอนั เนอ่ื ง มาจากพระราชดำ� รจิ งึ ครอบคลมุ ในทกุ ๆ ดา้ น ไดแ้ ก่ หน่ึง โครงการพัฒนาแหล่งน้�ำอัน เนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ สอง โครงการอันเน่ืองมาจากพระ ราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการ สาธารณสขุ สาม โครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชดำ� ริด้านการเกษตรและสง่ เสรมิ อาชพี ส่ี โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราช ดำ� ริดา้ นการศึกษา หา้ โครงการจติ อาสา “เราทำ� ความดี ดว้ ยหวั ใจ” 40 ชัยสมรภูมิ
โดยโครงการพัฒนาอันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริด้านการพัฒนาแหล่งน�ำ้ พระราชด�ำริให้น�ำพระราชทรัพย์ “พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามา ธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกลา้ เจา้ ส่วนพระองค์ และทรัพย์จากผู้บริจาคโดย อยหู่ วั ” ทรงดำ� เนนิ ตามรอยพระยคุ ลบาท “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล เสด็จพระราชกุศลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใน อดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร” ท่ที รงให้ความส�ำคญั กบั การเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ “น้�ำ” ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการด�ำรงชวี ติ และการประกอบอาชพี ของพสกนิกร เยาวชนที่ยากจนให้มีโอกาสศึกษาอย่างต่อ โดยเร่ิมต้นจากการพัฒนาแหล่งน�้ำในหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมตั้งแต่การก่อสร้าง เนอื่ ง จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้ อา่ งเกบ็ นำ�้ ฝาย แกม้ ลงิ บอ่ เกบ็ นำ้� ท่อระบายนำ้� ระบบสง่ นำ�้ “โครงการทนุ การศกึ ษา สมเด็จพระบรมโอร การปรบั ปรงุ อา่ งเกบ็ นำ�้ ฝายอาคารบังคบั น�้ำ ระบบและท่อสง่ น้�ำ ท�ำนบดนิ การจดั หา สาธิราชฯ สยามมกุฎราชกมุ าร” ข้ึนเมอ่ื ปี นำ้� เพอื่ ชว่ ยเหลอื พนื้ ทก่ี ารเกษตรและการอปุ โภคบรโิ ภคของประชาชนในรปู แบบตา่ งๆ รวมถงึ การ 2552 และในเวลาต่อมา จัดตง้ั เป็น “มลู นิธิ พฒั นาพนื้ ทแ่ี บบบรู ณาการมาตงั้ แต่ปี 2534 จนถึงปัจจบุ ัน ครอบคลุมทกุ ภมู ภิ าค จากหมบู่ า้ น ทนุ การศกึ ษาพระราชทาน สมเดจ็ พระบรม ชายขอบบนภเู ขาทางภาคเหนอื จดหมบู่ า้ นในสามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ตัง้ แต่ จ.เชียงใหม,่ โอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร” หรอื ราชบุร,ี จันทบุร,ี อุดรธานี ไปจนถึง จ.นราธิวาส เพื่อช่วยพลิกฟ้นื ชวี ิตราษฎรตามความ “ม.ท.ศ.” ข้นึ เมอ่ื วันท่ี 4 กุมภาพันธ์ 2553 ตอ้ งการของประชาชนและตามความเหมาะสมของสภาพภมู ิประเทศ โดยทรงเปน็ ประธานกรรมการเอง ขณะทโี่ ครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชกรณยี กจิ ดา้ นการแพทย์ และการสาธารณสขุ ท้ังนี้ ในการด�ำเนินงานโครงการ ถือเป็นโครงการที่แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของ “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร พระองค์ได้พระราชทานหลักการให้กระจาย รามาธบิ ดศี รีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” โดยเฉพาะ ผู้ทีไ่ ด้รบั ความ ทุนครบทุกจังหวัด และด�ำเนินการด้วยการ ทกุ ขย์ ากจากการเจบ็ ปว่ ย ยากไรแ้ ละขาดโอกาส ผา่ น “โครงการกาญจนบารม”ี ทพ่ี ระราชทาน แสวงหา คดั เลอื ก คัดสรร และกลั่นกรอง พระราชด�ำริให้ก่อต้ังข้ึน ทั้งยังทรงเป็นประธานจัดสร้างศูนย์บ�ำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง จนได้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ารับพระ ครบวงจรแหง่ แรกในประเทศไทย เพอื่ ถวายเปน็ พระราชกศุ ลแด่ “พระบาทสมเดจ็ พระบรม ราชทานทุน จงั หวัดละ 2 รายตอ่ ปี เป็นชาย ชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร” และหญิงเท่าๆ กันซ่ึงต้ังแต่ปี 2552 จนถึง เน่ืองในมหามงคลวโรกาสเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นปีที่ 50 เพ่ือลดความทุกข์ยาก 2561 มีนักเรียนทุน ม.ท.ศ. 9 รุ่น รวมทงั้ ลำ� บากของผู้ปว่ ยในการเดนิ ทางมารบั การรกั ษาอกี ทง้ั พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ส้ิน 1,059 ราย ใหค้ ณะกรรมการของโครงการกาญจนบารมดี ำ� เนนิ การจดั ตงั้ มลู นธิ กิ าญจนบารมี ขนึ้ ในวนั ที่ โครงการจิตอาสา “เราท�ำความดี 15 กรกฎาคม 2540 เพ่ือช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งท่ียากไร้ และเพ่ือสนับสนุนส่งเสริม ด้วยหัวใจ” เป็นโครงการท่ีทรงพระกรุณา การปอ้ งกนั ควบคมุ โรคมะเรง็ โดยเนน้ การรกั ษาผปู้ ว่ ยทงั้ ทางรา่ งกายและจติ ใจ ใหท้ นุ การศกึ ษา โปรดเกล้าฯ ให้จัดข้ึนเน่ืองในโอกาสเฉลิม และวจิ ยั เกยี่ วกบั โรคมะเรง็ เปน็ กองทนุ สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานกจิ กรรมตา่ งๆ และการพฒั นา พระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2560 ด้วย บุคลากรของโรงพยาบาลมหาวชริ าลงกรณธญั บุรี ซึ่งได้รบั การยกสถานะขน้ึ จากศนู ยบ์ ำ� บดั นำ้� พระราชหฤทยั ทรงหว่ งใย ความอยดู่ มี สี ขุ รกั ษาผปู้ ว่ ยโรคมะเรง็ มหาวชริ าลงกรณธญั บรุ ี รวมถงึ สถาบนั มะเรง็ แหง่ ชาติ และศนู ยป์ อ้ งกนั ของประชาชน และพระราชปณธิ านแนว่ แน่ และควบคมุ โรคมะเรง็ สว่ นภมู ภิ าคทอี่ ยใู่ นความรบั ผดิ ชอบ รวมทง้ั รว่ มมอื กบั องคก์ รการกศุ ล ในการบ�ำบัดทกุ ข์ บำ� รงุ สขุ เพอ่ื ชวี ิต ความ อน่ื ๆ และเพอื่ สาธารณประโยชน์ เปน็ อยทู่ ด่ี ขี น้ึ ของประชาชน สรา้ งความมนั่ คง ปัจจุบันโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี ให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกชนิด และวัฒนาสถาพรให้กบั ประเทศสืบต่อไป ด้วยเคร่ืองมอื ทท่ี นั สมยั มผี ู้ป่วยเข้ารับบรกิ ารเฉลี่ยปีละ 2,000 คน ทัง้ มะเรง็ เตา้ นม, มะเร็ง นับเป็นพระราชปณิธาน และความ ไทรอยด์, มะเร็งปอด, มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ มีการใช้กัมมันตรังสีในการ ตัง้ ใจอันแน่วแนข่ อง “พระบาทสมเดจ็ พระ รกั ษามะเร็งไทรอยด์ ซ่งึ ได้ผลการรกั ษา ท�ำใหม้ ีผปู้ ่วย มีอายเุ กิน 5 ปี ได้ถึงร้อยละ 90 ปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ ขณะที่ “โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ ดา้ นการเกษตรและสง่ เสรมิ อาชพี ” พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” ในการทรงงานเพอื่ โดย “โครงการพฒั นาพนื้ ทบ่ี รเิ วณหนององ่ึ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ อ.เมอื ง จ.ยโสธร” จะสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอด เพอื่ บำ� บดั ทกุ ข์ ซงึ่ เปน็ โครงการทส่ี ามารถแกป้ ญั หาใหก้ บั ราษฎรจำ� นวน 7 หมบู่ า้ นไดอ้ ยา่ งบรู ณาการ ครอบคลมุ บำ� รงุ สขุ ใหแ้ กพ่ สกนกิ รของพระองค์ เฉกเชน่ ต้ังแตก่ ารพฒั นาแหลง่ นำ้� การฟ้ืนฟปู รับปรงุ ดิน การบรรเทาอทุ กภัย การเพมิ่ ผลผลติ และ พระปฐมบรมราชโองการ ในมหามงคลวโรกาส รายได้ การสรา้ งอาชพี ใหม่ รวมทั้งการฟืน้ ฟูอนุรกั ษป์ ่า และทรพั ยากรธรรมชาติ โดยความ เถลงิ ถวัลยราชสมบัติ ร่วมมอื ของราษฎร 7 หม่บู ้านโดยรอบหนององ่ึ “โครงการพัฒนาอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ ดา้ นการศกึ ษา” เกิดจากพระราช ชยั สมรภูมิ 41 ปณธิ านทม่ี งุ่ มนั่ เพอื่ สรา้ งโอกาสใหก้ บั เยาวชนทจ่ี ะเตบิ โตเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ของชาติ โดย “พระบาท สมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั ”
แหล่งน้�ำศกั ดิส์ ทิ ธิ์ “นำ้� อภเิ ษก” และ “น�้ำสรงมุรธาภเิ ษก” การพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู รชั กาลที่ 10 เป็นคร้ังแรกทมี่ ีการใช้น�้ำจากทัว่ ประเทศทั้ง 77 จังหวัด รวม 117 แหลง่ นำ�้ เพอ่ื แสดงถึงการมสี ว่ นรว่ มของ ประชาชนจากทุกจังหวัดทว่ั ประเทศ น้�ำศักดิ์สิทธ์ิที่จะใช้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแบ่ง 3. แมน่ ำ้� เจา้ พระยา ตกั ทตี่ ำ� บลบางแกว้ อำ� เภอเมอื งอา่ งทอง ออกเป็น 2 สว่ น คอื จงั หวัดอา่ งทอง 1. น�้ำสรงมรุ ธาภเิ ษก คอื น�้ำที่สรงตงั้ แตพ่ ระเศียรลงมาทวั่ 4. แมน่ ำ้� ราชบรุ ี ตกั ที่บรเิ วณสามแยกคลองหน้าวัดดาวดงึ ส์ ทง้ั พระวรกาย ตำ� บลบางชา้ ง อำ� เภออัมพวา จงั หวดั สมุทรสงคราม 2. น้�ำอภเิ ษก สรงเฉพาะพระวรกาย 5. แมน่ ำ�้ เพชรบรุ ี ตกั ทบี่ รเิ วณทา่ นำ�้ วดั ไชยศริ ิ ตำ� บลสมอพลอื ซง่ึ นำ�้ ทงั้ 2 สว่ นทจ่ี ะใชใ้ นการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกครงั้ อ�ำเภอบา้ นลาด จงั หวดั เพชรบรุ ี น้ี มแี หลง่ ทม่ี าตา่ งกนั ดงั นี้ น้ำ� อภิเษก น้�ำสรงมรุ ธาภิเษก นำ�้ อภเิ ษกในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกครง้ั นมี้ าจากแหลง่ นำ้� น้ำ� สรงมุรธาภิเษก มาจาก 9 แหลง่ น้ำ� คือ 108 แหล่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย น�้ำจากสระ 4 สระเมอื งสพุ รรณ ซงึ่ เป็นแหลง่ นำ�้ ศักดิส์ ทิ ธท์ิ ี่ จังหวัดที่มีจ�ำนวน 1 แหล่งน้�ำ มีจ�ำนวน 60 จังหวัด 60 ใชม้ าต้งั แตส่ มัยกรุงศรอี ยุธยา ประกอบดว้ ย แหลง่ น้�ำ ดงั นี้ 1. สระเกษ • กรงุ เทพมหานคร ไดแ้ ก่ นำ้� ในหอศาสตราคม ภายในพระบรม 2. สระแก้ว มหาราชวัง 3. สระคา • กระบี่ ไดแ้ ก่ วงั เทวดา อ.เมอื ง, กาญจนบรุ ี ไดแ้ ก่ แมน่ ำ�้ 4. สระยมนา สามประสบ อ.สงั ขละบรุ ี และน�้ำเบญจสุทธคงคา หรือแม่น�้ำบริสุทธ์ิท้ัง 5 สาย • กาฬสินธ์ุ ไดแ้ ก่ กุดน�ำ้ กนิ อ.เมือง ประกอบดว้ ย • กำ� แพงเพชร ไดแ้ ก่ บอ่ สามเสน อ.เมอื ง 1. แม่น้�ำบางปะกง ตักที่ต�ำบลพระอาจารย์ อ�ำเภอองครักษ์ • ขอนแก่น ได้แก่ บ่อน้�ำศักดิ์ (บาราย) วัดกู่ประภาชัย จังหวดั นครนายก อ.น�ำ้ พอง 2. แม่น้�ำป่าสัก ตักท่ีต�ำบลท่าราบ อ�ำเภอเสาไห้ จังหวัด • ฉะเชงิ เทรา ไดแ้ ก่ ปากนำ�้ โจโ้ ล้ หรอื คลองทา่ ลาด อ.บางคลา้ สระบุรี • ชลบรุ ี ไดแ้ ก่ สระเจา้ คุณเฒ่า วดั เขาบางทราย อ.เมือง 42 ชัยสมรภูมิ
• ชัยนาท ไดแ้ ก่ แมน่ ้�ำเจา้ พระยา บรเิ วณหน้าวัดธรรมามลู • แมฮ่ อ่ งสอน ไดแ้ ก่ ถ�้ำปลา อ.เมือง วรวหิ าร อ.เมอื ง • ยโสธร ได้แก่ ท่าคำ� ทอง อ.เมือง • ชมุ พร ได้แก่ บอ่ น้�ำทพิ ยถ์ ำ�้ เขาพลู หรอื บ่อนำ้� ศักด์ิสิทธถิ์ ำ้� • ยะลา ได้แก่ สระแก้ว สระนำ้� ศักดิ์สทิ ธ์ิ อ.เมือง เขาพลู อ.ปะทิว • ร้อยเอ็ด ได้แก่ สระชยั มงคล อ.เมือง • เชยี งราย ได้แก่ บอ่ น้�ำทพิ ย์ อ.แม่สาย • ระนอง ไดแ้ ก่ บอ่ น�ำ้ พรุ อ้ นรักษะวาริน อ.เมอื ง • ตรัง ไดแ้ ก่ แมน่ �ำ้ ตรัง บรเิ วณหน้าทา่ น้ำ� วัดประสิทธิชยั • ระยอง ไดแ้ ก่ วงั สามพญา อ.บา้ นค่าย อ.เมือง • ราชบุรี ได้แก่ สระโกสนิ ารายณ์ อ.บา้ นโป่ง • ตราด ไดแ้ ก่ น้�ำตกธารมะยม อ.เกาะชา้ ง • ลพบรุ ี ไดแ้ ก่ บอ่ นำ�้ ศกั ด์ิสทิ ธิ์ อ.เมือง • ตาก ได้แก่ อา่ งเกบ็ น้ำ� เขอื่ นภูมพิ ล อ.สามเงา • ล�ำปาง ได้แก่ บอ่ น้�ำศักดส์ิ ิทธ์ิ หรือบอ่ น�้ำเล้ียงพระนาง • นครปฐม ได้แก่ สระนำ�้ จนั ทร์ หรือสระบัว อ.เมือง จามเทวี อ.เกาะคา • นครพนม ไดแ้ ก่ สระน�ำ้ มุรธาภเิ ษก หรอื บ่อนำ�้ พระอนิ ทร์ • ล�ำพนู ได้แก่ ดอยขะมอ้ บ่อนำ้� ทิพย์ อ.เมือง, เลย ได้แก่ อ.ธาตุพนม น�้ำจากถำ้� เพยี งดนิ อ.เมอื ง • นครราชสมี า ได้แก่ ต้นน้ำ� ล�ำตะคอง อทุ ยานแหง่ ชาติเขา • ศรีสะเกษ ได้แก่ บอ่ น�้ำศกั ดิส์ ทิ ธปิ์ ราสาทสระกำ� แพงนอ้ ย ใหญ่ อ.ปากชอ่ ง อ.อุทมุ พรพิสัย • นครสวรรค์ ไดแ้ ก่ บงึ บอระเพ็ด อ.เมือง • สกลนคร ได้แก่ บ่อนำ�้ ศกั ดิส์ ทิ ธ์ิภนู ำ�้ ลอด อ.เมอื ง • นนทบรุ ี ไดแ้ ก่ กลางแมน่ ำ้� เจา้ พระยา เบอ้ื งหนา้ พระบรม • สงขลา ไดแ้ ก่ บอ่ นำ�้ ศกั ดส์ิ ทิ ธวิ์ ดั แหลมบอ่ ทอ่ อ.กระแสสนิ ธ์ุ ราชานสุ าวรยี พ์ ระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั วดั เฉลมิ พระเกยี รติ • สตลู ไดแ้ ก่ บ่อน้�ำพุร้อนทุ่งนุย้ อ.ควนกาหลง วรวิหาร อ.เมือง • สมุทรปราการ ไดแ้ ก่ แม่นำ้� เจา้ พระยา บริเวณหนา้ องค์ • นา่ น ไดแ้ ก่ บ่อนำ้� ทิพย์วดั สวนตาล อ.เมอื ง พระสมทุ รเจดยี ์ อ.พระสมุทรเจดยี ์ • บุรรี มั ย์ ไดแ้ ก่ แหลง่ นำ้� ศักดส์ิ ิทธ์วิ ัดกลาง อ.เมอื ง • สมทุ รสงคราม ไดแ้ ก่ แหล่งน�ำ้ ศักดิ์สทิ ธิ์คลองดาวดึงส์ • ปทมุ ธานี ไดแ้ ก่ แมน่ ำ�้ เจา้ พระยา บรเิ วณหนา้ วดั ศาลเจา้ อ.อัมพวา อ.เมอื ง • สมทุ รสาคร ไดแ้ ก่ แหลง่ นำ้� คลองดำ� เนนิ สะดวก อ.บา้ นแพว้ • ประจวบครี ขี ันธ์ ได้แก่ บอ่ น�ำ้ ศกั ดิ์สิทธิ์ หรือบ่อน�ำ้ ทิพย์ • สระแกว้ ไดแ้ ก่ สระแกว้ -สระขวัญ อ.เมอื ง อ.บางสะพาน • สระบุรี ได้แก่ แมน่ �้ำป่าสกั บรเิ วณบ้านท่าราบ อ.เสาไห้ • พระนครศรอี ยธุ ยา ไดแ้ ก่ นำ้� ภายในพระเศยี รหลวงพอ่ ทองสขุ สมั ฤทธ์ิ และบอ่ น้�ำศกั ด์สิ ทิ ธิว์ ดั ตมู อ.พระนครศรีอยธุ ยา • พังงา ได้แก่ บอ่ น้ำ� ศักดส์ิ ิทธถ์ิ ้ำ� นำ้� ผดุ อ.เมือง • พจิ ิตร ได้แก่ แม่น�้ำน่าน บริเวณหนา้ พระอุโบสถวดั ท่า หลวง อ.เมอื ง • พษิ ณโุ ลก ไดแ้ ก่ สระสองหอ้ ง อ.เมอื ง • เพชรบรุ ี ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้� เพชรบรุ ี ทา่ นำ้� วดั ทา่ ไชยศริ ิ อ.บา้ นลาด • ภูเก็ต ไดแ้ ก่ บ่อน้�ำศักดส์ิ ทิ ธิ์ วัดไชยธาราราม อ.เมอื ง • มหาสารคาม ไดแ้ ก่ บอ่ นำ้� ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ หรอื หนองดนู อ.นาดนู • มกุ ดาหาร ไดแ้ ก่ น�ำ้ ตกศักด์สิ ทิ ธิ์ อ.คำ� ชะอี ชยั สมรภมู ิ 43
• สิงหบ์ ุรี ไดแ้ ก่ สระน้�ำศกั ดิ์สทิ ธิ์ วดั โพธ์ิเก้าต้น อ.คา่ ยบางระจัน • สุโขทัย ได้แก่ 1. บอ่ แกว้ อ.ศรสี ัช • สุราษฎร์ธานี ไดแ้ ก่ แหลง่ น้�ำศกั ดส์ิ ทิ ธพ์ิ ระบรมธาตไุ ชยาราชวรวหิ าร อ.ไชยา นาลยั 2. บอ่ ทอง อ.ศรีสัชนาลัย 3. ตระพัง • สุรนิ ทร์ ได้แก่ สระโบราณ อ.เมอื ง ทอง อ.เมือง • หนองคาย ได้แก่ สระมจุ ลินท์ หรอื สระพญานาค อ.เมอื ง จังหวัดที่มีจ�ำนวน 4 แหล่งน้�ำ มี • หนองบัวล�ำภู ไดแ้ ก่ บอ่ นำ้� ศกั ดส์ิ ิทธ์ิ วัดศรีคณู เมอื ง อ.เมือง จำ� นวน 3 จงั หวัด 12 แหล่งนำ้� ดังน้ี • อา่ งทอง ไดแ้ ก่ แมน่ �ำ้ เจา้ พระยา บรเิ วณพระอโุ บสถวัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย • ปตั ตานี ไดแ้ ก่ 1. นำ�้ สระวงั พรายบวั • อ�ำนาจเจรญิ ได้แก่ อ่างเกบ็ นำ้� พทุ ธอทุ ยาน หรอื อา่ งเกบ็ นำ้� หว้ ยปลาแดก อ.เมอื ง อ.หนองจิก 2. บ่อทอง หรือบ่อช่างขุด • อดุ รธานี ไดแ้ ก่ บ่อนำ�้ ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ คำ� ชะโนด อ.บา้ นดงุ อ.หนองจกิ 3. บอ่ ไชย อ.หนองจกิ 4. น้ำ� บ่อ • อุตรดติ ถ์ ได้แก่ บอ่ นำ�้ ทพิ ย์ อ.ลับแล ฤษี อ.หนองจิก • อุบลราชธานี ได้แก่ บอ่ น�้ำโจ้ก อ.วารนิ ช�ำราบ • สุพรรณบุรี ได้แก่ 1. สระแก้ว จังหวัดทมี่ จี �ำนวน 2 แหล่งนำ้� มจี �ำนวน 7 จงั หวดั 14 แหลง่ นำ้� ดังนี้ อ.เมือง 2. สระคา อ.เมือง 3. สระยมนา • ชัยภูมิ ได้แก่ 1. บ่อน�้ำศักด์ิสิทธ์ิวัดไพรีพินาศ อ.เมือง 2. บ่อน�้ำชีผุด แม่น้�ำชี อ.เมอื ง 4. สระเกษ อ.เมือง อ.หนองบวั แดง • แพร่ ได้แก่ 1. บ่อน้�ำศักดิ์สิทธิ์ • นราธวิ าส ได้แก่ 1. นำ�้ แบ่ง อ.สไุ หงปาดี 2. น�ำ้ ตกสิรินธร อ.แวง้ ลำ� นำ้� แมค่ ำ� มี อ.เมอื ง 2. บอ่ นำ้� วดั บา้ นนนั ทา • บงึ กาฬ ได้แก่ 1. พ้นื ท่ชี ุ่มน�ำ้ บงึ โขงหลง อ.บงึ โขงหลง 2. บ่อนำ�้ ศักด์ิสิทธ์ถิ �ำ้ พระ ราม อ.เมือง 3. บ่อน�้ำพระฤาษี อ.วังช้ิน อ.เซกา 4. บอ่ น้�ำศักดิส์ ิทธิ์ วดั พระหลวง อ.สูงเม่น • ปราจีนบุรี ได้แก่ 1. บ่อน�้ำหน้าโบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ อ.ศรีมโหสถ จังหวัดที่มีจ�ำนวน 6 แหล่งน้�ำ มี 2. โบราณสถานสระแก้ว อ.ศรมี โหสถ จำ� นวน 1 จังหวัด 6 แหลง่ น้ำ� ดงั น้ี • พะเยา ได้แก่ 1. ขุนนำ้� แม่ปมื อ.แม่ใจ 2. น�้ำตกคะ หรอื นำ้� คะ อ.ปง • นครศรีธรรมราช ไดแ้ ก่ 1. บอ่ น�้ำ • เพชรบรู ณ์ ไดแ้ ก่ 1. สระแก้ว อ.ศรีเทพ 2. สระขวัญ อ.ศรีเทพ ศักดส์ิ ทิ ธิ์ วดั หน้าพระลาน อ.เมอื ง 2. บอ่ น�้ำ • อทุ ยั ธานี ได้แก่ 1. แมน่ ำ้� สะแกกรัง อ.เมือง 2. สระน�้ำมนตศ์ กั ด์สิ ิทธ์ิ วดั มณีสถติ ศักดิ์สิทธิ์ วัดเสมาเมือง อ.เมือง 3. บ่อน้�ำ กปฏิ ฐาราม อ.เมอื ง ศักด์ิสิทธ์ิ วัดเสมาไชย อ.เมือง 4. บ่อน้�ำ จังหวดั ทม่ี จี �ำนวน 3 แหล่งน้ำ� มีจำ� นวน 5 จงั หวัด 15 แหล่งน้�ำ ดังนี้ ศักด์ิสทิ ธ์ิ วัดประตขู าว อ.เมอื ง 5. แหลง่ น�ำ้ • จนั ทบุรี ไดแ้ ก่ 1. สระแก้ว อ.ท่าใหม่ 2. ธารนารายณ์ อ.เมือง 3. บอ่ นำ�้ ศักดิส์ ทิ ธ์ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธหิ์ ว้ ยเขามหาชยั อ.เมอื ง 6. แหลง่ นำ�้ วดั พลับ อ.เมือง ศกั ดส์ิ ทิ ธ์หิ ้วยปากนาคราช อ.ลานสกา • เชียงใหม่ ได้แก่ 1. บ่อน้�ำศักดิ์สิทธิ์ วัดบุพพาราม อ.เมือง 2. อ่างกาหลวง ข้ันตอนการท�ำน้�ำสรงมุรธา อ.จอมทอง 3. ขนุ นำ�้ แม่ปงิ อ.เชียงดาว ภิเษกและน�้ำอภเิ ษก • นครนายก ไดแ้ ก่ 1. เขื่อนขนุ ด่านปราการชล อ.เมือง 2. บอ่ นำ้� ทพิ ย์เมอื งโบราณ ขั้นตอนการเตรียมท�ำน้�ำสรงมุรธา ดงละคร อ.เมอื ง 3. บึงพระอาจารย์ อ.เมือง ภิเษกและน�้ำอภิเษกจะเร่ิมข้ึนในวันที่ 6 • พทั ลงุ ไดแ้ ก่ 1. สระนำ�้ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ วดั ดอนศาลา อ.ควนขนนุ 2. ถำ้� นำ�้ บนหบุ เขาชยั บรุ ี เมษายน 2562 โดยเรม่ิ จากพธิ พี ลกี รรมตกั นำ�้ อ.เมือง 3. บอ่ น�ำ้ ศกั ด์ิสิทธพ์ิ ระบรมธาตเุ ขยี นบางแกว้ อ.เขาชยั สน พรอ้ มกนั ทวั่ ประเทศ ตามฤกษเ์ วลา 11.52 น. ถึงเวลา 12.38 น. โดยมีผวู้ า่ ราชการจงั หวัด เปน็ ประธานในพธิ ขี องแตล่ ะจงั หวดั ในกรณี จงั หวดั ทมี่ แี หลง่ นำ้� ศกั ดส์ิ ทิ ธมิ์ ากกวา่ 1 แหลง่ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะพิจารณามอบหมาย ใหร้ องผวู้ ่าราชการจังหวดั หรอื หัวหนา้ ส่วน ราชการเป็นประธานตามล�ำดบั จากน้ันวันท่ี 8 เมษายน เวลา 17.00-22.00 น. จะมพี ธิ จี ดั ทำ� นำ้� อภเิ ษกและ น้�ำสรงมุรธาภิเษก ณ พระอารามหลวง ประจำ� จังหวัด 76 จงั หวัด โดยผู้วา่ ราชการ จังหวัดเป็นประธาน ส่วนพิธีจัดท�ำน้�ำสรง 44 ชัยสมรภมู ิ
มรุ ธาภเิ ษกใน 6 จงั หวดั นน้ั กระทรวงมหาด ไทยมอบหมายใหผ้ บู้ รหิ าร คอื ปลดั กระทรวง และรองปลดั กระทรวงเปน็ ประธาน ท้งั น้ี ข้นั ตอนพิธพี ลีกรรมตกั น้ำ� และ พิธีจัดท�ำน้�ำอภิเษกและน�้ำสรงมุรธาภิเษ กน้ันเปิดให้ประชาชนท่ัวไปเข้าร่วมพิธีด้วย โดยประชาชนจะต้องสวมชดุ สุภาพสอี อ่ น สว่ นแหลง่ นำ้� ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ ณ หอศาสตรา คมในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร มกี ำ� หนดการตา่ งจากแหลง่ นำ�้ ในตา่ งจงั หวดั เนื่องจากเป็นน�้ำศักด์ิสิทธิ์ภายในพระบรม มหาราชวงั ซึง่ ผา่ นการทำ� พิธีมาแลว้ จงึ ไม่ ต้องมีพิธีท�ำน�้ำอภิเษกเหมือนต่างจังหวัด โดยกรุงเทพมหานครจะด�ำเนินพิธีพลีกรรม ตกั นำ�้ ในวนั ท่ี 12 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 14.09 น. แล้วแหเ่ ชญิ มายังกระทรวงมหาด ไทยเพ่ือเกบ็ รกั ษาไว้ ก่อนนำ� ไปประกอบพิธี เสกน้ำ� อภเิ ษกรวม วนั พธุ ท่ี 10 เมษายน และวนั พฤหสั บดี ที่ 11 เมษายน ทางจังหวัดจะเชิญคนโทน้�ำ อภิเษกของแต่ละจังหวัดมาเก็บรักษาที่กระ ทรวงมหาดไทย โดยใชร้ ถประจำ� ตำ� แหนง่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ รถเชิญคนโท ดอกไมธ้ ปู เทยี นแพ พรอ้ มดว้ ยผบู้ รหิ ารระดบั สงู กระทรวงมหาดไทย ผเู้ ชญิ พมุ่ ทอง - พมุ่ เงนิ วนั ท่ี 18 เมษายน เวลา 10.00 น. พรอ้ มดว้ ยผวู้ า่ ราชการจงั หวดั รถแหน่ ำ้� อภเิ ษก คณะผบู้ รหิ ารกระทรวงมหาดไทย ผเู้ ชญิ คนโท กระบวนแห่เชิญน้�ำอภิเษกเร่ิมเคลื่อนขบวน ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจกระทรวงมหาดไทย กระบวนดุรยิ างค์กองทพั อากาศ จากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพ เม่อื ริว้ กระบวนไปถึงพระอโุ บสถวดั พระศรีรตั นศาสดารามแลว้ ผเู้ ชิญคนโทน�้ำมรุ ธา วรารามราชวรมหาวิหาร ผู้ทีอ่ ย่ใู นกระบวน ภิเษกและน�้ำอภิเษกส่งมอบคนโทน้�ำให้เจ้าหน้าท่ีส�ำนักพระราชวัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ส�ำนัก แหป่ ระกอบดว้ ย กระบวนดรุ ยิ างคก์ องทพั บก พระราชวังจะเชิญคนโทน�้ำมุรธาภิเษกและน�้ำอภิเษกไปเก็บไว้ในมณฑปในพระอุโบสถวัด กระบวนธงชาติ รถแหน่ ำ�้ อภเิ ษก คณะผบู้ รหิ าร พระศรรี ตั นศาสดาราม จนกวา่ จะถึงการพระราชพธิ ี กระทรวงมหาดไทย ผเู้ ชิญคนโท ข้าราชการ ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่า ราชการทุกจังหวัด รถต�ำรวจน�ำขบวนและ ปดิ ทา้ ยขบวน วนั ที่ 18 เมษายน เวลา 17.19-21.30 น. ท�ำพิธีเสกน�้ำอภิเษกรวม ณ วัดสุทัศนเทพ วราราม โดยมนี ายกรฐั มนตรีเป็นประธาน วนั ศกุ รท์ ่ี 19 เมษายน เวลา 07.30 น. ริ้วกระบวนแห่เชิญคนโทน้�ำอภิเษกจ�ำนวน 86 ใบ จากวัดสุทศั นเทพวรารามไปยงั พระ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยริ้ว ขบวนแห่ประกอบด้วย กระบวนดุริยางค์ กองทัพเรือ กระบวนธงชาติ ผู้เชิญพาน ชัยสมรภูมิ 45
มหาดไทยเชญิ คนโทน�้ำอภเิ ษก 86 ใบไปยังวัดสทุ ศั น์ เตรียมประกอบพิธเี สกนำ�้ พระพทุ ธมนต์ กระทรวงมหาดไทย จัดขบวนเชิญคนโทน�้ำอภิเษก ๘๖ ใบ ไปยังวดั สทุ ัศนเทพวราราม วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๐๖.๐๐ น. กระทรวง ตอ่ มาเวลา ๐๖.๕๖ น. ผ้เู ชิญคนโทน้ำ� อภเิ ษก จากรถเชญิ นำ้� มหาดไทย จดั ขบวนเชญิ คนโทน�ำ้ อภิเษก จำ� นวน ๘๖ ใบ จากศาลา อภิเษกไปยังจุดที่ก�ำหนด ด้านหน้าพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม วา่ การกระทรวงมหาดไทย และเชิญไปเรยี งไว้บนรถเชิญนำ้� อภเิ ษก พล.อ.อนพุ งษ์ เชญิ คนโทนำ้� จากจดุ ทกี่ ำ� หนดเขา้ ไปวางบนโตะ๊ เคยี งใน ซึ่งคอยอยู่บนถนนอษั ฎางค์ หน้ากระทรวงมหาดไทย จากน้นั พล.อ.อนุพงษ์ เผา่ จนิ ดา รฐั มนตรวี า่ การกระทรวง มหาดไทย ประธานในพธิ ี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวาย ราชสกั การะเบ้อื งหน้าพระฉายาลักษณ์สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ในเวลา ๐๖.๒๓ น. พล.อ.อนพุ งษ์ พรอ้ มดว้ ย นายสธุ ี มากบญุ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงมหาดไทย และ นายฉตั รชยั พรหมเลศิ ปลัดกระทรวงมหาดไทย น�ำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง มหาดไทย ผู้วา่ ราชการจังหวัด และขา้ ราชการ พนกั งานรฐั วิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เคลื่อนขบวนจากกระทรวงมหาดไทย ไปตามถนนอัษฎางค์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนบ�ำรุงเมือง ตรงไปยังวัด สทุ ศั นเทพวราราม ซง่ึ ขบวนเดนิ ทางถงึ วดั สทุ ศั นเทพวรารามในเวลา ๐๖.๓๐ น. 46 ชยั สมรภมู ิ
พระวิหาร วัดสุทัศนเทพวราราม รมช.มหาดไทย ปลัดกระทรวง ส�ำหรับเส้นทางการเดินริว้ ขบวนจากกระทรวงมหาด ไทยไป มหาดไทย ขา้ ราชการระดบั สงู ของกระทรวงมหาดไทย ผวู้ า่ ราชการ ยงั วดั สทุ ศั นเทพวราราม มรี ะยะทาง ๗๔๐ เมตร โดยมรี ปู แบบขบวน กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เชิญคนโทน�้ำ ประกอบด้วย รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูง ผู้ว่า อภเิ ษกจากจดุ ทกี่ ำ� หนดเขา้ ไปวางบนโตะ๊ เคยี งในพระวหิ าร วดั สทุ ศั น ราชการจังหวัด ผู้เชิญคนโทน�้ำ ข้าราชการ สมาชิกกองอาสารกั ษา เทพวราราม ตามล�ำดับจนครบแล้ว รมว.มหาด ไทยน�ำคณะเดิน ดินแดนเชิญธงชาติและธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีฯ ๖๘ นาย ออกจากพระวิหารเคล่อื นขบวนกลับกระทรวงมหาดไทย วงดรุ ยิ างคก์ องทพั บก ๕๐ นาย พรอ้ มเจา้ หนา้ ทคี่ วบคมุ วง ๒ นาย รวมจ�ำนวน ๕๒ แถว ชยั สมรภูมิ 47
พิธเี สกนำ�้ มุรธาภิเษกและนำ้� อภิเษก สำ� หรับพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก วนั ท่ี 18 เมษายน 2562 ทว่ี ดั สทุ ศั น เทพวราราม ไดม้ กี ารประกอบพธิ เี สกนำ�้ พระ พทุ ธมนต์ ณ พระวหิ ารหลวง โดยมีสมเด็จ พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ทรงเปน็ ประธานฝา่ ย สงฆ์ และ พล.อ.ประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา นายก รัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยมี การเชิญคนโทน้�ำสรงพระมุรธาภิเษก และ น�้ำอภิเษก ท่ีมาจากแหล่งน�้ำศักด์ิสิทธ์ิใน จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพ มหานคร จ�ำนวนท้ังสิ้น 86 ใบ ที่ได้น�ำไป เก็บรักษาไว้ท่ีกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วม ในพธิ ี แบง่ เป็นน้�ำสรงพระมุรธาภเิ ษก 9 ใบ และน�้ำอภเิ ษก 77 ใบ ซ่งึ จะนำ� ไปใชใ้ นพระ 48 ชัยสมรภมู ิ
ราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 โดยในเวลา 17.19 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทรงจุดเทียนชัย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธาน พระครูพราหมณ์ จุดธูปเทียนบูชาเทพยดา อ่านประกาศชุมนมุ เทวดา พระสงฆ์ 68 รูป เจริญพระพุทธมนต์ นายกรฐั มนตรจี ุดเทยี น ทค่ี รอบสมั ฤทธิ์ แลว้ ถวายสมเดจ็ พระสงั ฆราช จากนัน้ สมเด็จพระสังฆราช ทรงโปรยขา้ ว ตอก ดอกไม้ และทรงประพรมน�้ำพระพทุ ธ มนต์ ทีค่ นโทนำ�้ สรงพระมรุ ธาภเิ ษก และน้�ำ อภเิ ษก จากจงั หวดั ตา่ งๆ ภายในราชวตั ิ พระ มหาราชครพู ธิ ศี รวี ิสุทธคิ ุณ ประธานพระครู พราหมณ์ ถวายคันประทีป สน่ั กระดิง่ และ โปรยข้าวตอก ดอกไม้ ที่คนโทน้�ำสรงพระ มุรธาภิเษก และน�้ำอภิเษกภายในราชวัติ ตอ่ มา นายกรฐั มนตร,ี ประธานสภานติ บิ ญั ญตั ิ แห่งชาติ, ประธานศาลฎีกา ร่วมกันถวาย จตปุ จั จยั ไทยธรรม และยา่ มปกั ตราสญั ลกั ษณ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก นายกรัฐมนตรี กรวดน�้ำพระสงฆ์อนุโมทนา ถวายอดิเรก นายกรัฐมนตรี ไปยังหน้าพระสวดภาณวาร จดุ เทยี นทอง-เงนิ และเครอ่ื งบชู ากระบะมกุ จดุ เทยี นพทุ ธาภเิ ษก ขา้ งตเู้ ทยี นชยั ซา้ ย-ขวา เป็นอันเสร็จพิธี ชัยสมรภูมิ 49
พิธอี ญั เชิญ “พระสพุ รรณบัฏ” วนั ศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2562 ใน ช่วงเช้าน้ัน มีพิธีอัญเชิญ พระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลญั จกร ประจำ� รชั กาล ออกจากพระอุโบสถ วัดพระ ศรีรัตนศาสดาราม มายังพระแท่นมณฑล ภายใน พระทน่ี งั่ ไพศาลทกั ษณิ เพอ่ื ทลู เกลา้ ฯ ถวาย โดยมีการจัดขบวนเป็น 2 ส่วน คือ สว่ นนำ� รวิ้ และสว่ นพระราชยาน ตามโบราณ ราชประเพณีอยา่ งสง่างาม 50 ชยั สมรภมู ิ
Search