Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักฐานทางประวัตศาสตร์

หลักฐานทางประวัตศาสตร์

Published by rteekatat, 2020-05-31 08:09:50

Description: Presentation

Search

Read the Text Version

หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์

หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ สมัยกรงุ ศรอี ยุธยา พระราชพงศาวดารกรุงเกา่ ฉบับหลวงประเสรฐิ เนื้อหาของพงศาวดารว่าดว้ ยเหตกุ ารณเ์ กย่ี วกับกรงุ ศรอี ยุธยา ตัง้ แต่การ สรา้ งพระพุทธรปู เจา้ พแนงเชงี ใน จ.ศ. 686 ตามดว้ ยการสถาปนากรงุ ศรี อยธุ ยาใน จ.ศ. 712 มาจนคา้ งที่รชั กาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชคราว ท่ีทรงยกทพั ไปองั วะใน จ.ศ. 966 ต้นฉบบั มเี นอ้ื หาเทา่ น้ี หลักฐานนเี้ ป็นหลกั ฐานท่เี ป็นลายลักณอ์ ักษรและเป็นหลกั ฐานชน้ั รองเพราะ ไม่ไดถ้ ูกสรา้ งขน้ึ ในนสมยั นน้ั 1

วัดใหญ่ชัยมงคล เดมิ ชื่อ \"วัดปา่ แกว้ \" หรอื \"วดั เจ้าไท\" ตั้งอยทู่ างทศิ ตะวันออกเฉยี งใตข้ องเกาะพระ นคร ปจั จบุ นั อยทู่ ่ี จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา จุดเด่นของวดั ไดแ้ ก่เจดียอ์ งค์ใหญท่ เ่ี ชื่อกนั ว่า ไดร้ บั การปฏิสังขรณข์ ้ึนใหมใ่ นสมยั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลักฐานน้เี ปน็ หลักฐานที่ไม่เปน็ ลายลักณอ์ กั ษรและเป็นหลักฐานชัน้ ต้นเพราะถกู สร้าง ขึน้ ในสมัยน้ัน 2

เศยี รพระพุทธรูปสมัยอูท่ อง เศยี รพระพทุ ธรูปสารดิ ขนาดใหญ่(สมยั อทู่ องได้จากวัดธรรมกิ ราช) ทาด้วยสมั ฤทธิ์มีขนาดใหญ่มากได้มาจากวัดธรรมมิกราช แสดงให้เห็นถึงความเกา่ แก่ ของวดั และฝีมือการหลอ่ วตั ถขุ นาดใหญ่ในสมยั โบราณ หลกั ฐานนเี้ ปน็ หลกั ฐานทีไ่ ม่เป็นลายลกั ษณอ์ ักษรและเป็นหลกั ฐานชน้ั ต้นเพราะถูก สรา้ งขึ้นในสมยั นั้น 3

หลักฐานทางประวัติศาสตร สมัยกรุงธนบุรี วัดอมรินทรารามราชวรวหิ าร เปน็ พระอารามหลวงชัน้ ตรชี นดิ ราชวรวิหารในสมัยกรงุ ธนบรุ ี สมเด็จพระเจา้ ตากสิน มหาราชโปรดฯให้บรู ณะปฏสิ งั ขรณ์ แลว้ สถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง หลกั ฐานนเี้ ปน็ หลักฐานท่ีไมเ่ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษรและเป็นหลักฐานชั้นตน้ เพราะถูก สร้างข้นึ ในสมัยน้ัน 4

พระราชพงศาวดาร ฉบบั พันจนั ทนุมาศ (เจมิ ) เป็นพงศาวดารสยาม เน้อื หาเริ่มตั้งแต่แรกสถาปนากรงุ ศรอี ยุธยาจนสิ้นสุด รชั กาลสมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบุรี ต้นฉบบั เปน็ สมดุ ไทยจานวน 22 เล่ม ในบาง เล่มมีขอ้ ความขาดหายบางสว่ น แต่ปจั จุบนั พบว่าเหลือเพียง 11 เลม่ หลกั ฐานนี้เปน็ หลักฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อกั ษรและเป็นหลกั ฐานชั้นรอง เพราะไม่ได้ถกู สร้างขึ้นในนสมัยนนั้ 5

เคร่ืองเบญจรงค์ ในสมัยนไี้ ดม้ ีการสั่งผลติ เครอื่ งถ้วยเบญจรงคจ์ ากประเทศจนี โดยใช้ ของสมยั อยธุ ยาเปน็ ตน้ แบบ เครอ่ื งถ้วยสมยั ธนบรุ ี จงึ มีชอ่ื เรยี กอีกชอ่ื หนึ่งว่า “เคร่อื งถ้วยเลียนแบบสมัยอยุธยา” แตใ่ นการ ผลติ ไมม่ ชี ่างของไทยไปควบคมุ เนื่องจากบา้ นเมอื ง อยู่ในภาวะสงครามเกือบตลอดเวลา รูปแบบ และลวดลาย จึงดคู ่อนไปทางแบบจนี และการเคลอื บด้านในเปล่ียนจากสเี ขียวเป็นสขี าว หลักฐานน้ีเปน็ หลักฐานทไี่ มเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษรและเปน็ หลกั ฐานชน้ั ตน้ เพราะถกู สร้าง ข้ึนในสมยั นนั้ 6

จัดทาโดย ด.ช.ทีฆทัศน์ ฤกษม์ ณีวรรณ ม.2/1 เลขท1่ี 9


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook