หนักบาทหนึ่งเป็นเงิน 6 บาทเรียกว่า เนื้อเจ็ด ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน 8 บาทเรียกว่า เนื้อแปด ทองหนัก บาทหนึง่ เป็นเงนิ 8 บาท 2 สลึง เรยี กว่า ทองเนอื้ แปดสองขา ทองหนกั บาทหนึ่งเป็นเงิน 9 บาท เรียกวา่ นพ คุณเก้าน้ำ คุณสมบัติเด่นเฉพาะของทองบางตะพาน ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น นิราศนรินทร์ “บางสะพานสพาดพื้น ทองปาง แก่แฮ รอยชะแลงชระลุราง ร่อนกลุ้ม ระลึกโฉมแม่แบบบาง บัวมาศ กูเอย ควรแผ่แผ่นทองหุ้ม ห่อไว้หวงั สงวน” ขุนช้างขุนแผน “เอาไม้สรรพยามาทำฝัก ผสมผงลงรักให้ ผิวผ่อง กาบหุ้มตน้ ปลายลายจำลอง ทำดว้ ยทองบาทชาตบิ างตะพาน” 2. แหลง่ ทตี่ งั้ 2.1แหลง่ ที่ต้งั เหมืองทองในอดตี แหล่งแร่ทองคําภาคตะวันตกและภาคใต้ บริเวณภาคตะวันตกของประเทศ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง เน่อื งจากการดนั ตัว ของหนิ แกรนิตเข้ามาในหนิ ยุคต่างๆ อาทิเช่น ยคุ คาร์บอนิเฟอรัส (280-345ล้านปีมาแล้ว) เดโวเนียน (345-355 ล้านปีมาแลว้ ) ไซลเรยี น (345-435 ลา้ นปมี าแลว้ ) การดนั ตวั ของหินแกรนติ เป็นผลทําให้ เกิดแหล่งแร่ดีบุกและวุลแฟรมตลอดแนวเขาทางภาคตะวันตก ในลานแร่ดีบุกและวุลแฟรมมักจะพบทองคํา สะสมตวั อยู่ดว้ ย ซงึ่ เข้าใจว่าแรท่ องคํานม้ี าจากสายแร่ควอรตซ์ ท่เี ป็นผลมาจากการดันตัวของหนิ แกรนติ เมื่อมี การผพุ งั ทลายตวั แรท่ องคาํ กจ็ ะถูกพดั พามาสะสมตวั อยู่บริเวณลานแร่ในที่ราบเชงิ เขา แหลง่ แร่ทองคําป่าร่อน อําเภอบางสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ (ยอร์จ ซี เทเลอร์ จูเนียร์ และชมุ เจษฎี จรลั ชวนะเพท, 2446) แหล่งแร่ทองคําว่าร่อน เป็นแหล่งลานแร่ที่สําคัญ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมานาน และ ดูเหมือนจะเป็น แหล่งลานแร่ที่มีแร่ทองคําอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแหล่งหนึ่ง ที่ตั้งของแหล่งแร่อยู่ทางทิศเหนือค่อนไปทาง ตะวันตกเล็กนอ้ ยของบ้านป่าร่อน อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากบ้านป่าร่อน ประมาณ 250-2,000 เมตร บ้านห้วยจังหัน ซึ่งเกือบอยู่ กลางแหล่งแร่อยู่เหนือระดับนำ้ ทะเล 50 เมตรคลองใหญ่ เป็น ทางนำ้ สายใหญ่ของอาํ เภอและมหี ว้ ยจงั หนั เปน็ ทางนำ้ สาขา ซึง่ จะกลาย เป็นหว้ ยแหง้ ในฤดแู ลง้ ช่ือสถานท่ีและ ตาํ แหนง่ ของสถานทีต่ า่ งๆ ในรายงานน้ี เชน่ คลองใหญ่ ห้วยจงั หนั เนิน เนินพอ เนนิ ซา้ ย เป็นไก่เข่ยี ไม่ปรากฏ พบดงั ที่กลา่ วไว้ในแผนที่มาตราส่วน 150,000 ของกรมแผนทท่ี หาร พ.ศ.2515 2.2 แหล่งท่ีต้งั เหมอื งทองในปจั จบุ นั ตำบลรอ่ นทอง เป็นพนื้ ที่ส่วนหน่งึ ของอำเภอบางสะพาน ซ่ึงเปน็ พน้ื ท่ีทม่ี ีแรท่ องคำเปน็ จำนวนมาก โดยเฉพาะที่ บ้านป่ารอ่ น ไดม้ รี าษฎรจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้งชาวตา่ งชาติไดอ้ พยพเข้ามาในพ้ืนทีข่ ุดหาแรท่ องคำ มกี ารจดั ตั้ง บ้านเรอื นกนั เปน็ กลมุ่ ๆ เชน่ ทก่ี ลุม่ ตลาดห้วยจงั หนั กลุม่ ท่าตลาด ฯลฯ สภาพพืน้ ที่โดยทวั่ ไปเปน็ ทหี่ ุบเขาสลับ กับพื้นที่ราบ โดยมีหุบเขาทางทิศตะวันตกแลเป็นพื้นที่ราบลงมาทางทิศตะวันออก มีป่าไม้และ ทรพั ยากรธรรมชาติค่อนขา้ งสมบรู ณ์ ดนิ มีความอุดมสมบรู ณ์ อากาศชมุ่ ชืน้ มีลำคลองสายส้นั ๆ ไหลลงสู่พ้ืนที่
ราบ เขตพน้ื ท่ีทิศเหนอื ติดกับ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบครี ีขันธ์ ทิศใต้ ติดกับ ต.ทองมงคล อ.บาง สะพานน้อย จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ ทิศตะวันออก ตดิ กับ ต.กำเนดิ นพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบครี ขี ันธ์ ทิศ ตะวันตก ติดกับ สาธารณรัฐสังคมนิยมแหง่ สหภาพเมียนม่าร์ ซงึ่ ในปัจจุบันการประกอบอาชีพการทำเหมืองแร่ ได้ปิดกิจการแล้ว แต่คนในชุมชมได้ทำการอนุรักษ์และฟื้นฟูการร่อนทองด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยไม่ใช้ เคร่ืองจกั รในการหาทอง และไดเ้ ปิดเป็นศนู ย์ศึกษาการเรียนร้กู ารรอ่ นทอง 3.ประวตั กิ ารรอ่ นทอง แร่ทองคําได้สะสมกันเป็นลานแร่ อยู่ในเขตหมู่บ้านป่าร่อนบริเวณห้วยจังหัน และสองฝั่งคลองทอง นา่ จะมกี ารขดุ ร่อนกันมาไมต่ ่ำกว่า 200 ปีมา แลว้ หรอื กว่านัน้ มาก ดงั หลกั ฐานต่าง ๆ ท่ียกมาอ้างแล้ว หลุมแร่ เก่าแก่เป็นเครอ่ื งยืนยนั ให้เห็นเป็นจำนวนมากตลอดสองฟากฝงั่ คลอง การทาํ แรท่ องคําต้งั แตค่ รัง้ บรรพบุรุษน้ัน ใช้แบบเหมืองขุด เหมืองหาบขนาดเล็ก ๆ และใช้วิธีควักร่อนง่าย ๆ แบบชาวบ้าน การแยกแร่ แรก ๆ ใช้การ สาดดินปนแร่ลงบนกระสอบแล้วค่อย ๆ เก็บทองทีต่ ิดบนกระสอบ นั้น อีกวิธีหนึ่งก็คือการแยกแร่ด้วยเลยี งไม้ หรือทเี่ รียกวา่ การร่อนทองนั่นเอง วิวฒั นาการของการร่อนทอง อดีตการรอ่ นทองเป็นแบบเหมืองขุด เหมืองหาบขนาดเลก็ ๆ และใช้วิธคี วกั ร่อนง่าย ๆ แบบชาวบ้าน การแยกแร่ แรก ๆ ใช้การสาดดินปนแร่ลงบนกระสอบแล้วค่อย ๆ เก็บทองที่ติดบนกระสอบ นั้น อีกวิธีหนึ่งก็ คือการแยกแรด่ ว้ ยเลียงไม้ หรอื ท่เี รยี กวา่ การร่อนทอง การรอ่ นด้วยเสยี งนน้ั จะเริ่ม ตน้ จากการนําเอาดินปนแร่ มาขย่าบกี้ บั นำ้ ใหเ้ ป็นโคลนในเล่ียงเสียก่อนแลว้ ค่อย ๆ เอยี งเล้ียงหมนุ ใหน้ ้ำจาก ลําคลองพดั โคลนในเลี้ยงหมุน วน ดิน โคลน ทราย และอื่น ๆ ที่เบากว่าทองจะถูกน้ำพัดลอยออกไป ส่วน ทองและแร่อื่น ๆ ที่หนักกว่าจะ รวมตัวกันอยูก่ นั เสียง แร่อื่น ๆ จะมีสีดํา แร่ทองจะมีสเี หลืองแวววาว จะมอง เห็นได้อย่างชัดเจน การแยกแร่ ด้วยวธิ ดี งั กลา่ วข้างต้นน้ี เชื่อวา่ การหายหกตกหลน่ ย่อมจะมีมาก ทองค่าทก่ี ู้ ได้สว่ นใหญ่จะเป็นเม็ดเป็นแท่งโต ทเี่ ปน็ เกลด็ เล็ก ๆ หรอื เป็นผงละเอียดคล้ายแปง้ จะถูกเทคนื ไปปะปนกบั โคลน ดิน ทราย กลายเปน็ ทรพั ย์ในดนิ สิ้นในน้ำใหล้ ูกหลานนักนิยมทองขุดค้นกันต่อไปดินในบ่อแรท่ องคําก็มชี ื่อเรียกแต่ละชั้นแตกต่างกันไป ดินช้ัน บนเรียกว่า\"ดินเมือง” จากดนิ เมืองต่อลงไป เป็น “ดินกรงั ” ดินชนั้ นี้อาจแบ่งเรยี กเป็น “ดินหลังสะ” และ “ดิน กระสะ” ลงไปอีกเรยี กว่า “ดินใช้” ดนิ ใช้ คอื ดนิ ที่มีแร่ทองคาํ ปนอยู่ ตำ่ ลงไปเป็นดนิ แขง็ เรียกว่า “ดนิ โกด” คือ ดานหรอื หนิ ดานนั่นเอง การรอ่ นแร่ก็ คอื การน่า ดนิ ใชม้ าแยกหาเนอ้ื แร่ทองคํา การขุดแร่ต้องขุดให้ถึงช้ันดาน ดานลึกด่นื อย่างไร ความลกึ ตน้ื ของบ่อกเ็ ป็นเชน่ นัน้ ด้วย
4.คณุ สมบัติ และแร่ธาตุ สว่ นประกอบจากการรอ่ นทอง ทองคำ (อังกฤษ: gold) คือธาตุเคมีที่มีหมายเลขอะตอม 79 และสัญลักษณ์คือ Au (มาจากภาษา ละตินว่า aurum) จัดอยู่ในกลุม่ ธาตุโลหะมีสกุลชนดิ หนึง่ ทองคำเป็นธาตุโลหะทรานซชิ ันสีเหลอื งทองมันวาว เนื้ออ่อนนุ่ม สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ ทองคำไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีส่วนใหญ่ ทองคำใช้เป็นทุนสำรอง ทางการเงนิ ของหลายประเทศ ใช้ประโยชน์เปน็ เครอื่ งประดับ งานทันตกรรม และอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ มีความแวววาวอยู่เสมอ ทองคำไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนดังนั้น เมื่อสัมผัสถูกอากาศสีของทองจะไม่หมอง และไมเ่ กดิ สนิม มีความออ่ นตัว ทองคำเปน็ โลหะทม่ี ีความอ่อนตัวมากทสี่ ุด ด้วยทองเพียงประมาณ 2 บาท เรา สามารถยืดออกเป็นเส้นลวดได้ยาวถึง 8 กิโลเมตร หรืออาจตีเป็นแผ่นบางได้ถึง 100 ตารางฟุต ทองคำเป็น โลหะชนดิ หนึง่ ที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดี สะท้อนความร้อนได้ดี ทองคำสามารถสะท้อนความรอ้ นได้ดี ได้มีการนำ ทองคำไปฉาบไวท้ ห่ี น้ากากหมวกของนกั บนิ อวกาศ เพือ่ ป้องกันรังสีอนิ ฟราเรด มนุษย์รู้จักทองคำมาตั้งแต่ประมาณ 5,000 ปี เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่ง จุดหลอมเหลว 1064 องศาเซลเซียส และจุดเดือด 2970 องศาเซลเซียส เป็นโลหะที่มีค่าที่มีความเหนียว (Ductility) และ ความสามารถในการขึ้นรปู (Malleability) คือจะยืดขยาย (Extend) เมื่อถูกตีหรือรีดในทุกทิศทาง โดยไม่เกดิ การปริแตกได้สูงสุด ทองคำบรสิ ทุ ธ์ิหนกั 1 ออนซส์ ามารถดึงเปน็ เส้นลวดยาวได้ถงึ 80 กโิ ลเมตร ถ้าตเี ปน็ แผ่นก็ จะได้บางเกินกว่า 1/300,000 นิ้ว ส่วนความกว้างจะได้ถึง 9 ตารางเมตร ทองคำบริสุทธิ์ไม่ว่องไวต่อการ เกิดปฏิกิริยาเคมี จึงทนต่อการผุกร่อนและไม่เกิดสนิมกับอากาศ แต่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีบางชนิด เช่น คลอรนี ฟลูออรีน นำ้ ประสานทอง คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำให้ทองคำเป็นที่หมายปองของ มนุษย์มาเป็นเวลานบั พันปี โดยนำมาตมี ลู คา่ สำหรบั การแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและใช้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ สำหรบั วงการเคร่ืองประดับทองคำได้รับความนิยมอยา่ งสงู สุดในวงการเครื่องประดับทองคำ เพราะเป็นโลหะมี คา่ ชนิดเดียวท่ีมีคุณสมบตั ิพ้ืนฐาน 4 ประการซึง่ ทำให้ทองคำโดดเด่น และเปน็ ท่ตี อ้ งการเหนอื บรรดาโลหะมีค่า ทกุ ชนดิ ในโลก คือ 1.งดงามมันวาว (lustre) สีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวก่อให้เกิดความงามอัน เป็นอมตะ ทองคำสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอื่นๆ ช่วยเพิ่มความงดงาม ใหแ้ กท่ องคำไดอ้ กี ทางหน่งึ 2.คงทน (durable) ทองคำไม่ขึ้นสนิม ไม่หมอง และไม่ผุกร่อน แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไป 3000 ปีก็ ตาม 3.หายาก (rarity) ทองเป็นแร่ทห่ี ายาก กวา่ จะไดท้ องคำมาหนึ่งออนซ์ (31.167 gram) ต้องถลุงก้อนแร่ ทีม่ ที องคำอยู่เปน็ จำนวนหลายตนั และต้องขดุ เหมอื งลึกลงไปหลายสิบเมตร จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายท่ีสูง เป็นเหตุ ให้ทองคำมีราคาแพงตามตน้ ทุนในการผลติ 4.นำกลับไปใชไ้ ด้ (reuseable) ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพราะมีความ เหนียวและอ่อนนิ่มสามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่โดยการทำให้บริสุทธิ์ (purified) ดว้ ยการหลอมไดอ้ ีกโดยนับครั้งไม่ถว้ น
ทองบางสะพานหรือเรยี กอีกอยา่ งว่า ทองเนื้อเกา้ เป็นทองคำบริสุทธิ์ เปน็ “ทองธรรมชาติ” หรือบาง ที่เรียกว่า “ทองชมพูนุช” เป็นทองที่มีสีเหลืองเข้มออกแดง นอกจากนี้ยังมีชือ่ เรียกแตกตา่ งกันอีกหลายชื่อ เช่น “ทองเนื้อแท้” “ทองคำเลียง” ซึ่งหมายถึงทองบริสุทธิ์ปราศจากธาตุอื่นเจือปน ซึ่งตรงกับคำใน ภาษาล้านนาว่า “คำขา” นอกจากนี้ยงั มีชอ่ื เรียกทองคุณภาพตา่ ง ๆ อกี หลายชือ่ เช่น “ทองปะทาสี” ซ่งึ เปน็ ทองคำเปลวเน้ือบริสุทธิ์ชนดิ หนา “ทองดอกบวบ” เป็นทองที่มเี น้อื ทองสเี หลอื งออ่ นคล้ายดอกบวบ การรอ่ นทองเปน็ การการนำเอาแรธ่ าตทุ ่ีมีค่า โดยใชว้ ิธีการตา่ ง ๆ เชน่ การขุด การเจาะ การอ่ นโดยใช้เลียงใน การรอ่ นแล้วนำเอาแร่ธาตทุ ่ีต้องการสกัดออกมาจากดินหรือหินอีกที มที ้งั ทเ่ี ปน็ แร่โลหะและแร่อโลหะแร่โลหะ แรท่ องแดง แรท่ องคำ แร่ตะกัว่ แรเ่ งนิ แร่ไททาเนยี ม แร่สังกะสี สว่ นแรอ่ โลหะ พลอย เพชร ถ่านหนิ หยก รวม ไปถงึ วสั ดุอ่ืน ๆ ที่ไม่จดั อยใู่ นแรธ่ าตุ ไดแ้ ก่ ดิน หิน ทราย กา๊ ซธรรมชาติ น้ำมนั เชือ้ เพลิง เปน็ ตน้ การทำเหมือง แร่ก่อให้เกิดประโยชนอ์ ยา่ งมหาศาลต่อประเทศชาติ เพราะสามารถลดตน้ ทนุ การนำเข้าแร่ธาตจุ ากตา่ งประเทศ รวมถงึ สามารถส่งออกไปจำหนา่ ยเพมิ่ รายได้เขา้ ประเทศได้อีกดว้ ย
ใบงานหนว่ ยที่ 1 เรอ่ื ง ความรพู้ นื้ ฐานของการรอ่ นทอง 1.ให้ผ้เู รียนสรปุ ความคดิ รอบยอดในเรอื่ ง “ตำนานทองเนือ้ เก้า” มาพอสงั เขป .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.จงบอกแหล่งทเี่ หมาะสมในการร่อนทอง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
3.ให้ผูเ้ รยี นอธิบายประวตั กิ ารร่อนทองมาพอสงั เขป .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4.ให้ผู้เรยี นยกตัวอยา่ งแร่ธาตุทีไ่ ดจ้ ากกระบวนการรอ่ นทอง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 5.ใหผ้ เู้ รยี นบอกคณุ สมบัติของทองคำ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 2 เรอ่ื งเรยี นรทู้ องเนอื้ เกา้ ทองคำ (อังกฤษ: gold) คือธาตุเคมีที่มีหมายเลขอะตอม 79 และสัญลักษณ์คือ Au (มาจากภาษา ละตินว่า aurum) จัดอยู่ในกลุ่มธาตุโลหะมีสกุลชนิดหนึ่ง ทองคำเป็นธาตุโลหะทรานซชิ ันสีเหลืองทองมันวาว เนื้ออ่อนนุ่ม สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ ทองคำไม่ทำปฏิกริ ยิ ากับสารเคมสี ่วนใหญ่ ทองคำใช้เป็นทุนสำรอง ทางการเงินของหลายประเทศ ใช้ประโยชน์เปน็ เคร่อื งประดับ งานทันตกรรม และอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ ทองเนื้อเก้า หมายถึงอะไร เป็นทองคำบริสุทธิ์ เรียกว่า “ทองธรรมชาติ” หรือบางที่เรียกว่า “ทอง ชมพนู ุช” เป็นทองทีม่ สี ีเหลืองเข้มออกแดง นอกจากน้ยี ังมชี อื่ เรยี กแตกต่างกนั อกี หลายชอ่ื เชน่ “ทองเน้ือแท้” “ทองคำเลียง” ซึ่งหมายถึงทองบริสุทธิ์ปราศจากธาตุอื่นเจือปน ซึ่งตรงกับคำในภาษาล้านนาว่า “คำขา” นอกจากนย้ี ังมชี ื่อเรียกทองคณุ ภาพตา่ ง ๆ อีกหลายชอื่ เช่น “ทองปะทาสี” ซ่ึงเปน็ ทองคำเปลวเนอื้ บริสุทธช์ิ นิด หนา “ทองดอกบวบ” เปน็ ทองทม่ี เี นอื้ ทองสีเหลอื งอ่อนคล้ายดอกบวบ เอกลักษณแ์ ละลกั ษณะของทองบางสะพาน คือ สขี องทองคำสกุ เหลอื งอร่าม อ่อนตัว เป็นก้อนชิน้ เลก็ ช้นิ นอ้ ย แยกตัวออกจากแร่ชนดิ อน่ื โดยไม่ต้องนำไปบด หรอื ทบุ ให้แรท่ องคำบริสทุ ธ์ิหลดุ ออกมา เมื่อนำทองท่ี ขดุ ไดม้ ารวมกนั ใช้ไฟลนให้ออ่ นตัวเป็นแท่งได้ง่าย จงึ ไม่ตอ้ งใช้เตาถลุง เพราะไมม่ ีเศษส่ิงอน่ื ใดเจอื ปน ในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีความหมายประมาณวา่ ทองคำที่มี น้ำหนัก 1 บาทซึ่งมีเนื้อบริสุทธิ์ใกล้เคียงกับทองคำบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นทองที่มีสีเหลืองเข้มออกแดง ราคาในสมัยนั้นคือ 9 บาท ซึ่งในอดีตก็มีคำเรียกทองประเภทนี้กนั หลากหลายนอกเหนือจากคำว่า \"ทองเนื้อ เก้า\" เชน่ บางทีกเ็ รียกวา่ \"ทองนพคุณ\" หรือ \"ทองชมพนู ุช\" ดว้ ยความบรสิ ุทธิ์ และเป็นทองเนื้อดี ในสมยั ก่อนนั้น การกำหนดคุณภาพทองคำของไทย (ปรากฎหลักฐานตามประกาศของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) จะตั้งพิกัดราคาทองคำตามประมาณของเนื้อทองคำบริสุทธิ์ใน ทองรูปพรรณ เนือ้ ทองคำดงั กลา่ วอาจผสมด้วยแร่เงนิ หรือทองแดงมากนอ้ ยตามคุณภาพของทองคำ ส่วนการ เรียกทองคณุ ภาพต่าง ๆ นนั้ ใชว้ ิธีการเรียกราคาของทองคำตอ่ น้ำหนกั ทอง 1 บาทเปน็ มาตรฐานในการเรยี กช่ือ ทองคำ โดยเริ่มตั้งแต่ \"ทองเนื้อสี่\" ขึ้นไปจนถึง \"ทองเนื้อเก้า\" ซึ่งทองเนื้อสี่จะเป็นทองที่คุณภาพด้อยที่สุด กลา่ วคอื ทองคำน้ำหนัก 1 บาททองคำ จะมีมลู ค่าการซอ้ื ขายเพียงส่บี าท โดยในสมยั กอ่ น มีการจำแนกประเภท ทองคำ และราคาเป็นดังนี้ ทองเนื้อสี่ หมายถงึ ทองคำหนักหนง่ึ บาท ราคา 4 บาท ทองเนื้อห้า หมายถึง ทองคำหนักหน่ึงบาท ราคา 5 บาท ทองเนือ้ หก หมายถงึ ทองคำหนักหนง่ึ บาท ราคา 6 บาท
ทองเน้อื เจ็ด หมายถงึ ทองคำหนักหนึง่ บาท ราคา 7 บาท ทองเนื้อแปด หมายถึง ทองคำหนกั หนึ่งบาท ราคา 8 บาท ทองเนื้อเก้า หมายถึง ทองคำหนักหนงึ่ บาท ราคา 9 บาท การกำหนดคณุ ภาพและราคาทองคำในปจั จบุ นั การกำหนดคณุ ภาพของทองคำในระบบสากลปัจจุบัน ยังคงใชค้ วามบริสุทธ์ิของทองคำในการบ่งบอก คุณภาพของทองคำ โดยการคิดเน้ือทองเป็น \"กะรัต\" แทน ปัจจุบันนี้ ทองคำบริสุทธ์ิ หมายถึง ทองคำที่มีเนือ้ ทอง 99.99 เปอรเ์ ซ็นตห์ รอื มากกวา่ น้ัน หรือเรยี กกันวา่ ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเรียกกนั ในระบบสากลว่า ทอง 24 กะรัต ทองคำซึ่งมีเกณฑ์การบ่งบอกคุณภาพของเนื้อทองโดยบ่งบอกความบริสุทธิ์เป็นกะรัตมีชื่อเรียกว่า \"ทองเค\" โดยถ้าเป็นทองคำบริสุทธิท์ ี่ไม่มีโลหะ หรือสารอื่นเจอื ปนอยู่ จะเรียกเปน็ ทอง 24 กะรัต หากมีความ บริสทุ ธ์ิของทองคำลดต่ำลงมา กแ็ สดงว่ามโี ลหะอน่ื เจือปนมากขึ้นตามส่วน เช่น ทอง 14 กะรตั หมายถึง ทองท่ี มีเนอื้ ทองบริสทุ ธิ์ 14 ส่วน และมโี ลหะอืน่ เจือปน 10 สว่ น เปน็ ตน้ ซงึ่ ทองประเภทน้ี บางทกี เ็ รยี กว่า \"ทองนอก\" ซ ึ่ง ส่ว น มาก น ิยมน ำมาทำเป็น เคร ื่อ ง ปร ะ ดับเพ ชร พ ลอ ยต่าง ๆ ใน อุ ตสาหก ร ร มอ ัญ มณี https://www.checkraka.com/econ/gold/1016/ 2. คณุ สมบัตขิ องทองเนอื้ เกา้ คณุ สมบตั ขิ องทองคำ มีความแวววาวอยู่เสมอ ทองคำไมท่ ำปฏกิ ริ ยิ ากับออกซิเจนดงั นน้ั เมือ่ สัมผัสถูก อากาศสีของทองจะไม่หมองและไมเ่ กิดสนิม มีความอ่อนตัว ทองคำเป็นโลหะที่มีความอ่อนตัวมากที่สุด ด้วย ทองเพยี งประมาณ 2 บาท เราสามารถยดื ออกเปน็ เสน้ ลวดไดย้ าวถึง 8 กโิ ลเมตร หรอื อาจตีเป็นแผ่นบางได้ถึง 100 ตารางฟตุ ทองคำเปน็ โลหะชนดิ หนง่ึ ท่สี ามารถนำไฟฟา้ ได้ดี สะทอ้ นความรอ้ นได้ดี ทองคำสามารถสะท้อน ความรอ้ นไดด้ ี ไดม้ กี ารนำทองคำไปฉาบไว้ที่หนา้ กากหมวกของนกั บนิ อวกาศ เพอ่ื ป้องกันรงั สอี นิ ฟราเรด มนุษย์รู้จักทองคำมาตั้งแต่ประมาณ 5,000 ปี เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่ง จุดหลอมเหลว 1064 องศาเซลเซียส และจุดเดือด 2970 องศาเซลเซียส เป็นโลหะที่มีค่าที่มีความเหนียว (Ductility) และ ความสามารถในการขึ้นรปู (Malleability) คือจะยืดขยาย (Extend) เมื่อถูกตีหรือรีดในทุกทิศทาง โดยไม่เกิด การปรแิ ตกได้สูงสดุ ทองคำบริสุทธหิ์ นัก 1 ออนซส์ ามารถดึงเปน็ เสน้ ลวดยาวได้ถงึ 80 กิโลเมตร ถา้ ตีเป็นแผ่นก็ จะไดบ้ างเกินกวา่ 1/300,000 นิว้ ส่วนความกว้างจะได้ถงึ 9 ตารางเมตร ทองคำบริสุทธ์ิไม่วอ่ งไวต่อการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี จึงทนต่อการผุกร่อนและไมเ่ กิดสนิมกับอากาศ แต่ทำ ปฏกิ ริ ยิ ากบั สารเคมีบางชนดิ เชน่ คลอรนี ฟลอู อรนี น้ำประสานทอง
คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำให้ทองคำเป็นที่หมายปองของ มนุษย์มาเป็นเวลานบั พันปี โดยนำมาตีมลู คา่ สำหรับการแลกเปล่ียนระหว่างประเทศและใช้เปน็ วัตถุดิบที่สำคัญ สำหรับวงการเครอ่ื งประดบั ทองคำได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในวงการเครื่องประดับทองคำ เพราะเป็นโลหะมีค่าชนิดเดียวที่มี คุณสมบัติพื้นฐาน 4 ประการซึ่งทำให้ทองคำโดดเด่น และเป็นทีต่ ้องการเหนือบรรดาโลหะมีค่าทุกชนิดในโลก คอื งดงามมันวาว (lustre) สีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวก่อให้เกดิ ความงามอันเปน็ อมตะ ทองคำสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอนื่ ๆ ชว่ ยเพ่ิมความงดงามให้แก่ ทองคำไดอ้ กี ทางหน่ึง คงทน (durable) ทองคำไม่ขน้ึ สนมิ ไมห่ มอง และไมผ่ ุกร่อน แม้วา่ กาลเวลาจะผ่านไป 3000 ปกี ต็ าม หายาก (rarity) ทองเปน็ แรท่ ี่หายาก กวา่ จะไดท้ องคำมาหน่ึงออนซ์ (31.167 gram) ตอ้ งถลงุ ก้อนแรท่ ่ี มที องคำอย่เู ป็นจำนวนหลายตนั และตอ้ งขุดเหมืองลึกลงไปหลายสบิ เมตร จงึ ทำใหม้ ีคา่ ใช้จ่ายที่สูง เป็นเหตุให้ ทองคำมีราคาแพงตามต้นทนุ ในการผลิต นำกลับไปใช้ได้ (reuseable) ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพราะมีความ เหนียวและอ่อนนิ่มสามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่โดยการทำให้บริสุทธ์ิ (purified) ด้วยการหลอมไดอ้ ีกโดยนบั ครั้งไม่ถ้วน กรมทรพั ยากรธรณี ไดม้ กี ารแบง่ การเกดิ ของแรท่ องคำออกเปน็ 2 แบบ ตามลกั ษณะทพี่ บในธรรมชาติ ไดด้ งั น้ี • แบบปฐมภมู ิ คือกระบวนการทางธรณวี ทิ ยา มกี ารผสมทางธรรมชาติจากนำ้ แรร่ อ้ น ผสมผสานกบั สารละลายพวกซลิ ิกา้ ทำให้เกดิ การสะสมตวั ของแรท่ องคำในหนิ ต่างๆ เช่น หนิ อัคนี หนิ ชัน้ และหนิ แปร มกี ารพบการฝงั ตวั ของแรท่ องคำในหิน หรือสายแรท่ แี่ ทรกอยู่ในหิน ซ่งึ ส่วนใหญจ่ ะมองไม่เห็นด้วย ตาเปลา่ • แบบทุตยิ ภมู หิ รอื ลานแร่ คือการทหี่ นิ ทมี่ ีแร่ทองคำแบบปฐมภูมไิ ด้มีการสกึ กรอ่ น และถูกน้ำพัดพาไป สะสมตัวในทีแ่ ห่งใหม่ เช่น ตามเชงิ เขา ลำหว้ ย หรอื ในตะกอนกรวดทรายในลำนำ้ แหลง่ แรท่ องคำปฐมภมู ใิ นไทย • แหลง่ โต๊ะโมะ จ.นราธิวาส • แหลง่ เขาสามสิบ จ.สระแก้ว • แหล่งชาตรี (เขาโป่ง) จ.พจิ ติ ร - จ.เพชรบูรณ์ • แหลง่ ดอยตุง (บา้ นผาฮ้ี) จ.เชียงราย • แหลง่ เขาพนมพา จ.พจิ ติ ร
แหลง่ แรท่ องคำทุตยิ ภมู ใิ นไทย • แหลง่ บา้ นปา่ ร่อน จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ • แหล่งบ้านนาล้อม จ.ปราจนี บุรี • แหลง่ บา้ นทงุ่ ฮัว้ จ.ลำปาง • แหล่งในแม่น้ำโขง จ.เลย - จ.หนองคาย • แหล่งบา้ นผาช้างมบู จ.พะเยา https://th.wikipedia.org/wiki/ทองคำ คุณสมบัติของทองบางสะพาน มีชื่อเสียงและรู้จักกันดีจนมีผู้กล่าวกันว่า “เป็นทองคำเนื้อดีที่สุดของ เมอื งไทยและในโลก” ทองท่พี บเปน็ ทองธรรมชาติ เหน็ เป็น Nuggest (ทองทข่ี ุดได้โดยไม่ต้องถลงุ ) อย่างชัดเจน เหลอื งอรา่ ม สกุ ปลงั่ และเนอ้ื อ่อน ทองรอ้ ยเปอร์เซน็ ต์ เป็นทองเนื้อเกา้ เรยี กวา่ “นพคุณเนื้อเกา้ ” คณุ สมบตั ขิ องทองเนอื้ เกา้ 1.เป็นทองคำบริสุทธิ์แท้ที่วัดค่าความบริสุทธิ์ได้สูง 97.00-99.50+% เป็นทองธรรมชาติจากการเกิด แบบลานแร่หรือทุติยภูมิ ไมต่ ้องถลุง 2.มีประวตั ยิ าวนาน 200 กวา่ ปตี ัง้ แต่กรงุ ศรีอยธุ ยา นำไปทำเปน็ เคร่อื งราง พระพุทธรปู เครือ่ งประดับ ของมงคลตา่ งๆ เชอ่ื วา่ เปน็ เลิศในบรรดาโลหะธาตมุ งคลและปอ้ งกนั ภยั มพี ุทธคุณในตัว เสรมิ ศิริมงคลต่อเจ้าของ 3.เปน็ ทองคำท่ีมีเสน่ห์เฉพาะตวั คือกว่าจะไดต้ ้องร่อนด้วยเลยี งหรือหลงั น้ำท่วม สืบทอดท้ังวัฒนธรรม พนื้ บ้าน หายากราคาสูงซ้อื ขายกนั แบบพระเครื่อง 4.สีทองสุกผ่องเนื้อสวยเป็นเอกลักษณ์ เป็นเกล็ดเป็นก้อน แต่ละก้อนมีชิ้นเดียวในโลกเวลานำมาทำ เครือ่ งประดบั 5.บทประพันธ์ตา่ งกลา่ วถงึ เชน่ นริ าศนรนิ ทร์ , นริ าศถลาง, ขุนชา้ งขุนแผน, สังข์ทอง, เรือนมยุรา, บท กลอนประตวู ัด เป็นต้น 6.แสดงถึงความมั่นคงมั่งคั่งของคหบดีหรือข้าราชการมาแต่สมัยโบราณ และนิยมเป็นของฝากของ ของขวญั ของกำนัล เลื่อนขัน้ การงาน งานมงคลต่างๆ ใช่รองก้นหลมุ เรอื นปลูกใหมว่ า่ งา่ ยๆคือ อกี หนึ่งส่ิงแสดง ยศศกั ด์ิ ความรำ่ รวย มีหนา้ ตาทางสงั คม 7. หากให้คนรกั แสดงถึงมติ รไมตรีอนั บรสิ ุทธ์ิ ความรักมนั่ คงไม่เส่ือมคลาย 8.เป็นทองคำที่มชี ื่อเรยี กเป็นคำไวพจน์นับสิบคำ เช่น ทองบางตะพาน ทองเนอ้ื เกา้ ทองนพคุณเก้าน้ำ ทองชมพูนทุ ทองคำเลียง ทองธรรมชาติ คำขา ทองเมด็ ทองนพคุณ หมายความว่าเปน็ ทองซง่ึ ดีที่สุดในสยาม 9.เปรียบเทียบว่าเปน็ “ทองเนื้อเก้า” คือแพงกวา่ ทองทกุ ๆท่ีท้ังราคาและคุณค่า แม้จักอยู่หรือเกิดใน หว้ ยหนองคลองโคลนตมกย็ ังเปน็ ทองผดุ ผ่องใสไมม่ ีราคีหายากดที ้ังความหมายไดท้ ั้งความมงคล
http://plodlock.com/2017/08/03/thongnoppagao/ ทองเนอ้ื เกา้ ทองบางสะพาน ตำบลรอ่ นทอง อำเภอบางสะพาน
ใบงาน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง เรยี นรทู้ องเนอื้ เก้า 1. ทองเนอื้ เกา้ หมายถงึ อะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.เอกลกั ษณท์ องบางสะพานเปน็ อยา่ งไร จงอธบิ าย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. คณุ สมบตั ขิ องทองเนอ้ื เกา้ มา 5 ขอ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 3 เรอื่ ง การสำรวจพน้ื ทเี่ หมาะสมในการรอ่ นทอง คำขวัญจงั หวัด เมอื งทองเน้อื เก้า มะพรา้ ว สับปะรด สวยสด หาด เขา ถำ้ งามลำ้ น้ำใจ คำขวัญอำเภอ พระธาตุเจดีย์สูงเสียดฟ้า มากคุณค่าทองเนื้อเก้า เด่นเรื่องราวการท่องเที่ยว หนึ่งเดียว อตุ สาหกรรมเหล็ก ชมุ ชนใหญเ่ ล็กรกั สามัคคี ไหวพ้ ระดปี อู่ ินทร์ – ป่ทู ว้ ม อำเภอบางสะพาน จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ อำเภอบางสะพานเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเนื้อที่ประมาณ 868 ตารางกิโลเมตร เป็นที่มาของทองบางสะพานที่ขึ้นชื่อ ซึ่งทองนี้ได้ร่อนที่ตำบลร่อนทอง อำเภอนี้มีประชากร ค่อนขา้ งมาก มีแหล่งทอ่ งเที่ยวมากมาย เช่น ชายทะเล บา้ นกรดู และเกาะทะลุ อำเภอบางสะพานจงึ เปน็ ท่ีรู้จัก มากขึ้น อำเภอบางสะพานมีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า เมืองกำเนิดนพคุณ และสุดท้ายได้ เปล่ยี นเปน็ อำเภอบางสะพาน เมือ่ ปี พ.ศ.2460 จนถงึ ปจั จบุ ัน สภาพภมู ิอากาศ มีสภาพอากาศร้อนชน้ื ทีต่ งั้ และอาณาเขตอำเภอบางสะพาน ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกบั อำเภอทบั สะแก จังหวดั ประจวบคีรขี ันธ์ ทศิ ตะวนั ออก จรดอา่ วไทย ทิศใต้ ตดิ ต่อกบั อำเภอบางสะพานนอ้ ย จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กบั เขตตะนาวศรี (ประเทศพมา่ ) การปกครองสว่ นภมู ิภาคอำเภอบางสะพานแบง่ พนื้ ทกี่ ารปกครองออกเป็น 7 ตำบล ไดแ้ ก่ 1.กำเนิดนพคุณ (Kamnoet Nopphakhun) 8 หมูบ่ า้ น 2.พงศป์ ระศาสน์ (Phong Prasat) 10 หมู่บา้ น 3.ร่อนทอง (Ron Thong) 12 หมู่บา้ น 4.ธงชยั (Thong Chai) 11 หม่บู ้าน 5.ชัยเกษม (Chai Kasem) 12 หมบู่ า้ น 6.ทองมงคล (Thong Mongkhon) 10 หมบู่ ้าน 7.แมร่ ำพงึ (Mae Ramphueng) 8 หมู่บา้ น
การปกครองสว่ นท้องถิ่นทอ้ งทอี่ ำเภอบางสะพานประกอบด้วยองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ 10 แหง่ ไดแ้ ก่ เทศบาลตำบลกำเนิดนพคณุ ครอบคลุมพ้นื ทบ่ี างสว่ นของตำบลกำเนดิ นพคณุ เทศบาลตำบลบ้านกรูด ครอบคลมุ พื้นท่บี างสว่ นของตำบลธงชัย เทศบาลตำบลร่อนทอง ครอบคลมุ พนื้ ทีบ่ างสว่ นของตำบลรอ่ นทอง องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลกำเนดิ นพคุณ ครอบคลมุ พืน้ ที่ตำบลกำเนดิ นพคุณ (นอกเขตเทศบาลตำบลกำเนดิ นพคณุ ) องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลพงศ์ประศาสน์ ครอบคลมุ พ้ืนท่ีตำบลพงศ์ประศาสนท์ ้งั ตำบล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลร่อนทอง ครอบคลมุ พื้นทตี่ ำบลรอ่ นทอง (นอกเขตเทศบาลตำบลร่อนทอง) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลธงชยั ครอบคลมุ พืน้ ทตี่ ำบลธงชยั (นอกเขตเทศบาลตำบลบ้านกรดู ) องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลชยั เกษม ครอบคลุมพื้นทต่ี ำบลชยั เกษมทั้งตำบล องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลทองมงคล ครอบคลุมพน้ื ทต่ี ำบลทองมงคลท้ังตำบล องคก์ ารบริหารส่วนตำบลแมร่ ำพงึ ครอบคลุมพ้นื ทีต่ ำบลแม่รำพงึ ทั้งตำบล ประวัติความเปน็ มา ตำบลรอ่ นทอง อำเภอบางสะพาน จงั หวดั ประจวบครี ีขันธ์ ตำบลร่อนทอง เล่ากันต่อมาว่าเดิมเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมอื งกำเนิดนพคุณ และเป็นพื้นที่ที่มีแร่ทองคำเปน็ จำนวนมาก โดยเฉพาะท่บี ้านปา่ ร่อน ไดม้ รี าษฎรจากแหล่งต่าง ๆ รวมทง้ั ชาวต่างชาตไิ ด้อพยพเขา้ มาในพ้นื ที่ขุด หาแร่ทองคำ มีการจัดตั้งบ้านเรือนกันเป็นกลุ่ม ๆ เช่น ที่กลุ่มตลาดห้วยจังหัน กลุ่มท่าตลาด ฯลฯ เมื่อมีการ ปฏิรูปการปกครองใหม่ เมืองกำเนิดนพคุณ ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอำเภอบางสะพาน ก็ได้มีการจัดต้ัง ตำบลต่าง ๆ ข้ึน เชน่ ตำบลกำเนิดนพคุณ ตำบลธงชยั ตำบลพงศ์ประศาสน์ ตำบลบางสะพานน้อย และตำบล ป่าร่อน (ตำบลร่อนทองในปจั จุบัน) และต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อตำบลให้มคี วามหมายกว้างข้ึนกว่าเดมิ โดยเปล่ยี นจากตำบลปา่ ร่อนเป็น \"ตำบลรอ่ นทอง\" พื้นที่ สภาพพ้นื ที่โดยทั่วไปเปน็ ที่หบุ เขาสลับกับพืน้ ที่ราบ โดยมหี บุ เขาทางทิศตะวนั ตกแลเป็นพื้นท่ีราบลงมาทางทิศ ตะวันออก มีป่าไม้และทรพั ยากรธรรมชาติคอ่ นข้างสมบรู ณ์ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ อากาศชุ่มชื้น มีลำคลอง สายส้ัน ๆ ไหลลงสู่พ้นื ท่รี าบ เขตพื้นที่ ทิศเหนือ ติดกบั ต.ชยั เกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบครี ขี ันธ์ ทศิ ใต้ ตดิ กบั ต.ทองมงคล อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรขี ันธ์ ทศิ ตะวนั ออก ติดกับ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบครี ขี ันธ์ ทศิ ตะวันตก ตดิ กับ สาธารณรฐั สังคมนิยมแห่งสหภาพเมยี นม่าร์
ที่มาของ “ทอง” บางสะพาน แหล่งแร่ทองคำที่มีชื่อเสียง และรู้จักกันดีในประเทศไทย มีด้วยกัน ๓ แหล่ง ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส และอำเภอ บางสะพาน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานเดมิ ชื่อ เมืองกำเนิดนพคุณ ตัวเมืองตั้งอยู่ที่ท่ามะนาว ฝั่งขวาของลำน้ำแม่ รำพึง ต่อมาตั้งทที่ ่ากะหลอ ปจั จบุ นั เรยี กว่า บ้านหลกั เมือง อยู่ริมฝ่งั ขวาลำนำ้ บางสะพาน ซงึ่ ยังมีหลักฐาน เสา หินหลักเมืองปรากฏอยู่ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๗ มีการจัดการปกครองท้องที่เป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล เมือง กำเนดิ นพคณุ ถกู ยบุ เป็นอำเภอเมืองนพคุณ ข้นึ ตอ่ เมืองชุมพร เมอื่ ถงึ พ.ศ. ๒๔๔๙ ตั้งเมอื งประจวบครี ีขนั ธ์และ ยกอำเภอเมอื งนพคณุ ขน้ึ ตอ่ เมืองประจวบคีรขี ันธ์ และยา้ ยมาตั้งริมทางรถไฟ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ และเปล่ียนชื่อ เป็นอำเภอบางสะพานใน พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นต้นมา ปัจจุบันอำเภอบางสะพาน มี ๗ ตำบล ได้แก่ ตำบลกำเนิด นพคุณ ตำบลร่อนทอง ตำบลพงศ์ประศาสน์ ตำบลทองมงคล ตำบลชัยเกษม ตำบลแม่รำพึง และตำบลธงชัย (หรือบา้ นกรดู นัน่ เอง) ทองทม่ี ีชือ่ เสยี งน้ัน อยใู่ นเขตหมู่บ้านป่าร่อน ตำบลร่อนทอง และบริเวณที่มีการขุดทอง มากที่สุดอยู่ที่บริเวณห้วยจังหัน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๗๕๐–๒,๐๐๐ เมตร ปัจจุบันปรมิ าณทองลด น้อยลงมาก แต่ก็ยังมีชาวบ้านมารอ่ นทอง เพื่อเป็นอาชีพรองอยูเ่ สมอ ในอดีต บางสะพานเปน็ เมืองที่มีการขดุ และร่อนทองเป็นครั้งแรก สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ในปี พ.ศ. ๒๒๘๙ เจ้าเมืองกุยได้ส่งทองร่อน หนัก ๓ ตำลึง นำถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองคจ์ ึงเกณฑ์ไพร่จำนวน ๒,๐๐๐ คน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็น เวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก ๙๐ ชั่งเศษ เป็นน้ำหนัก ๕๔ กิโลกรัม หรือ ๓,๖๐๐ บาท และได้นำทองทั้งหมดไป หุ้มยอดมณฑป รอยพระพุทธบาทสระบุรี แต่ยอดมณฑปนี้ถูกโจรจนี เผาหลอมทองเอาไปทั้งหมด เมื่อครั้งเสยี กรุงศรีอยุธยาครั้งท่ี ๒ (พ.ศ.๒๓๑๐) อาชีพร่อนทอง อาชีพร่อนทอง เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงเนื่องจากจะต้อง ขุดดินเปน็ หลุมลึก บางคร้ังกต็ ้ืน มีโอกาสพบทองหรือไม่ ไม่สามารถจะบอกล่วงหน้าได้ จากเอกสารท่ีมีผู้สนใจ ไดศ้ กึ ษาค้นควา้ และคำบอกเล่าของชาวบ้าน ผ้เู ฒา่ ผู้แกท่ ีเ่ คยยึดอาชีพขุดทอง พอจะนำมาเรียบเรียงถึงความ เชื่อในการประกอบอาชีพรอ่ นทองของชาวบางสะพาน ได้ดังนี้ ความเชื่อ ก่อนที่จะขุดทองต้องมีการบวงสรวง เจา้ ทเ่ี จา้ ทาง ซึง่ มหี ลายรปู แบบ ตามความเชื่อของแตล่ ะท้องถ่ิน อาทิ -ห้ามสวมรองเท้าเขา้ ไปในบริเวณหลุมท่ขี ุดทอง -หา้ มผู้หญงิ ท่มี ีรอบเดอื นเข้าไปในบริเวณหลมุ ทขี่ ดุ ทอง -เมื่อพบทองแล้วห้ามเรียกคนอืน่ ให้มาขุดทีเ่ ดียวกัน เพราะจะไมพ่ บทองอีกเลย -ห้ามใส่เคร่ืองประดบั ที่ทำด้วยทองคำไปขดุ เพราะจะไม่พบทองคำเลย -ใชข้ วดยานัตถ์ผุ ูกสะเอวเพ่อื ใส่ทองทรี่ ่อนได้ เน่อื งจากมีขนาดเลก็ และพกตติ ัวไดส้ ะดวก คุณสมบัติของทองบางสะพาน “ทองบางสะพาน” หรือ “ทองบางตะพาน” มีช่อื เสยี งและรูจ้ กั กนั ดีจนมีผู้กล่าว กันว่า “เป็นทองคำเนื้อดีที่สุดของเมืองไทยและในโลก” ทองที่พบเป็นทองธรรมชาติ เห็นเป็น Nuggest (ทองที่ขุดได้โดยไม่ต้องถลุง) อย่างชัดเจน เหลืองอร่าม สุกปลั่งและเนื้ออ่อน ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นทองเนื้อเก้า เรียกว่า “นพคุณเนื้อเก้า” เชื่อกันว่าป้องกันภยันตรายและภูตผีปีศาจได้ดี ทองบางสะพาน หรือทองบางตะพาน หรอื ทองนพคณุ น้ีในหนงั สือประชุมประกาศรัชกาลท่ี ๔ อธบิ ายไว้ว่า ทองคำที่ซ้ือขายกัน นั้น เรียกตามเน้อื และตามราคา เช่น ทองหนักบาทหนง่ึ เปน็ เงนิ ๔ บาท เรียกว่า เนอื้ ส่ี ทองหนักบาทหน่ึงเปน็
เงิน ๕ บาท เรียกวา่ เนื้อห้า ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๖ บาท เรียกว่า เนื้อหก ทองหนักบาทหนึ่งเปน็ เงิน ๗ บาทเรียกว่า เน้ือเจด็ ทองหนกั บาทหนึ่งเปน็ เงนิ ๘ บาทเรยี กวา่ เนอื้ แปด ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๘ บาท ๒ สลงึ เรยี กว่า ทองเน้ือแปดสองขา ทองหนกั บาทหนึง่ เปน็ เงิน ๙ บาท เรียกว่า นพคุณเกา้ น้ำ คุณสมบัติเด่นเฉพาะของทองบางตะพาน ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยหลายเรือ่ ง ยกตัวอย่างเชน่ นิราศนรินทร์ “บางสะพานพาดพ้นื ทองปาง แกแ่ ฮ รอยชะแลงชระลรุ าง รอ่ นกลุ้ม ระลกึ โฉมแม่แบบบาง บัวมาศ กเู อย ควร แผ่แผ่นทองหุ้ม ห่อไว้หวังสงวน” ขุนช้างขุนแผน “เอาไม้สรรพยามาทำฝัก ผสมผงลงรักให้ผิวผ่อง กาบหุ้มตน้ ปลายลายจำลอง ทำดว้ ยทองบาทชาติบางตะพาน” การเปรยี บเทยี บและสงั เกตลักษณะดิน สภาพพ้นื ดินโดยทัว่ ไป มีลกั ษณะเป็นดินรว่ นปนทราย เน่อื งจากพื้นทข่ี องจังหวัดมีอาณาเขตติดต่อกับ ชายทะเลโดยตลอด พื้นที่ทางตอนเหนือ และตอนใต้ของจังหวัดมีความแตกต่างกันมาก พื้นที่ตอนใต้ นับจากอำเภอเมือง ฯ ลงไป มีความอุดมสมบรู ณ์มากกว่าพืน้ ท่ีทางตอนเหนอื ของอำเภอเมือง จึงมีคำกล่าววา่ เหนือทำไร่ ใต้ทำสวน แหล่งน้ำตามธรรมชาติท่ีสำคัญได้แก่ แม่น้ำปราณบุรี อยู่ในเขตอำเภอปราณบุรี แมน่ ้ำกุยบุรี อยใู่ นเขตอำเภอกุยบุรี แมน่ ำ้ บางสะพาน อยู่ในเขตอำเภอบางสะพาน คลองบางนางรม อยู่ในเขต อำเภอเมือง ฯ และคลองกรูด อยู่ในเขตอำเภอบางสะพาน ปัจจุบันแหล่งน้ำดังกล่าวนี้อยู่ในสภาพตื้นเขิ น มนี ้ำเฉพาะในฤดฝู น ในฤดแู ล้งนำ้ จะแหง้ เปน็ ส่วนใหญ่ ดินร่วนปนทราย หรือดินทรายที่เฉลี่ยแล้วมีมากกว่าดินปกตินั้น เหมาะกับการปลูกพืชชนิดใด คำถามนี้เหมือนเป็นปัญหาที่เกษตรกรผู้มีที่ดินและอยากเพิ่มมูลค่าพื้นที่ดินของตนเอง เช่น ปลูกกล้วย มะม่วงสน ยางนา หรือไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ ทั้งสัก ยูคาลิปตัส ฯลฯ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเป็นพื้นที่ ๆ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากนัก และไม่ต้องเน้นในการดูแลปรับปรุงรักษามากนัก เพราะไม้จำพวกนี้ มีการดูแลไม่นานก็สามารถเติบโตเองได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม แต่หากต้องมีในเรื่องของผลผลิตตาม มาเป็นปัจจยั ในการตัดสินใจแล้วล่ะกต็ ้องมาพจิ ารณาหลายกรณดี ้วยกัน การเกดิ แรท่ องคำ แร่ทองคำ หรือ ธาตุทองคำ หรือ สารทองคำ ที่มีตามธรรมชาติ พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดลอ้ มรอบตัวเรา แต่มีปริมาณน้อยมาก จากข้อมูลที่สืบค้นจากข้อมูลอ้างอิงต่างๆ มีทองคำในเปลือกโลก ( Earth's crust) ประมาณ 0.003 กรัมต่อหิน (ดิน) หนัก 1 ตัน หรือ ppm และมีในน้ำทะเลประมาณ 0.00003-5 ppm ทั้งน้ี ตัวเลขที่สืบค้นพบจะไม่ค่อยตรงกันนัก โดยในเปลือกโลกมักจะใกล้เคียงกัน แต่ในน้ำทะเลจะแตกต่างกันมาก น่าจะมสี าเหตุจากการเก็บตวั อย่างและการวิเคราะห์ทางเคมี ท่มี ีความผิดพลาดสงู เนอ่ื งจากสารที่วิเคราะห์น้ัน มีปริมาณน้อยมากๆ รวมถงึ การที่มผี ทู้ ำวจิ ยั ดา้ นนี้จรงิ ๆ ไม่กี่คน และทำมานานมากแลว้ ในด้านธรณวี ิทยา แร่ทองคำนับไดว้ ่าเป็นแรท่ ีพ่ บเหน็ มาก และอาจจะมากกวา่ แร่ชนดิ อื่นๆ ที่รูจัก จำนวนของ เหมืองแร่ทองคำก็อาจจะมากที่สุดด้วยเช่นกัน ทั้งนี้น่าจะมีสาเหตุจากธรรมชาติของทองคำที่มีทั่วไปใน ส่ิงแวดล้อม เป็นโลหะท่มี สี ีสันสวยงาม สดใส ตลอดเวลา มีความออ่ นน่ิม คงทน นำมารดี /ดดั และทำเป็นรปู รา่ ง
ต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะการทำเปน็ เคร่ืองประดับซึ่งเปน็ ทีน่ ิยมตลอดกาล แต่เนอื่ งจากแร่ทองคำมีปริมาณหรือ สดั สว่ นทนี่ อ้ ยมากในธรรมชาติ มคี วามต้องการสงู จึงทำใหท้ องคำมรี าคาสงู และมผี ูค้ ้นหาและขุดขึ้นมาขายเป็น จำนวนมาก รวมทัง้ มีการศกึ ษาเกยี่ วกบั การเกิด การสะสมตัว การทำเหมืองและการสกัดแร่ทองคำเป็นจำนวน มาก รายละเอียดต่างๆ เพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับทองคำสามารถดูได้จากเว็บของสมาคมค้าทองคำ ซ่ึงมี ข้อมูลเก่ียวกับ โลหะทองคำ อธบิ ายไวอ้ ยา่ งดี เอกสารเผยแพร่ของกรมทรัพยากรธรณีหลายชิ้น ที่กล่าวถึงการเกิดของแร่ทองคำ โดยแบ่งเป็นแบบปฐม ภูมิ (primary deposit) และแบบทุติยภูมิ (secondary deposit) โดยแบบปฐมภูมิหมายถึงพบทองคำในเนอ้ื หนิ ส่วนแบบทุตยิ ภมู ิเป็นทองคำทผี่ ุพังมาจากแบบปฐมภูมิ เปน็ แรท่ องคำอยู่ในชน้ั ดินหรือตะกอนกรวดทรายใน ลำน้ำตามรูปที่ 1 รูปท่ี 1. การเกดิ แร่ทองคา แบบงา่ ย ลักษณะการเกิดดังกล่าวเป็นการอธิบายการเกิดแร่ทองคำแบบง่ายเพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าใจ โดยแบ่งตาม ลักษณะ/ตำแหน่ง ของแร่ทองคำที่พบในธรรมชาติ แต่ไม่มีรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับหินหรือสายแร่ที่มี ทองคำปะปนอยู่ หรือรายละเอยี ดเก่ยี วกบั ลักษณะของแหลง่ ทมี่ กี ารสะสมตัวแบบทุตยิ ภมู ิ ตัวอย่างที่เห็นของการเกิดตามลักษณะดังกล่าว ได้แก่ แหล่งแร่ทองคำเขาพนมพา อำเภอวังทรายพุน จังหวัดพิจิตร (แต่ไม่มีส่วนของแร่ทองคำในลำน้ำ) ซึ่งมีการค้นพบและปรากฏเป็นข่าวเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2542 และมกี ารขุดแร่ทองคำกนั เรื่อยมา บางคร้ังมนี ักแสวงโชคจากท่ัวทุกสารทิศ เขา้ ไปขดุ พร้อมกันหลายพัน
คน โดยทองคำทพี่ บเปน็ แร่ทองคำท่ีฝังประในเน้ือหนิ /แรค่ วอตซ์ (quartz) ซงึ่ เปน็ แบบปฐมภูมิ และแรท่ องคำที่ ผุพังมาจากหนิ ควอตซ์และปะปนอยู่ในช้ันเปลือกดิน รูปท่ี 2 เปน็ สายแร่ควอตซท์ ีม่ แี ร่ทองคำฝงั ประปนอยู่ ตอนบนเป็นสายควอตซ์ท่ีผุพงั ไปแล้ว และมีช้ันเปลือก ดินซ่ึงเป็นดนิ ปนเศษหินปิดทบั อยู่ รูปท่ี 3 เป็นช้นั เปลือกดินทมี่ องเหน็ ชัดเจนขึ้น และปดิ ทับบนหนิ ดานซึง่ เป็นหนิ อคั นชี นดิ ไดออไรต์ (diorite) รูปท่ี 2 สายควอตซท์ ี่มีแร่ทองคาฝงั ประในเนื้อหิน, เขาพนมพา อาเภอวงั ทรายพนู จงั หวดั พจิ ติ ร รูปท่ี 3 ช้นั เปลือกดนิ ทมี่ แี ร่ทองคาปะปน วางปิดทบั หินดานซ่ึงเป็นหินไดออไรท์, เขาพนมพา อาเภอวงั ทรายพูน จงั หวดั พจิ ติ ร
แรท่ องคำจะขดุ พบในชั้นเปลือกดนิ ก่อน โดยนำเอาดินปนเศษหนิ ไปล้างและร่อนเพ่ือแยกแรท่ องคำออกมา ทองคำทไี่ ด้จะเป็นกอ้ นเลก็ ๆ ตามภาพที่ปรากฏในรูปท่ี 4 รปู รา่ งของทองคำมักกลมไมม่ เี หลี่ยม แต่หากนำสาย ควอตซท์ ี่มที องคำฝังประอยู่ ตามตัวอย่างในรูปที่ 5 จะตอ้ งนำเอาหินไปบดให้ละเอียดกอ่ นเพอ่ื แยกแร่ทองคำ ออกจากกอ้ นหิน แล้วจงึ นำไปลา้ งและรอ่ น อกี ครัง้ หนึ่ง ซงึ่ จะไดท้ องคำท่ีมีรปู รา่ งแตกต่างออกไป ตามรปู ท่ี 6 ซึง่ มกั เป็นเหลี่ยมและผิวเรยี บ รูปที่ 4 แร่ทองคาทีร่ ่อนไดจ้ ากช้ันเปลือกดิน มกั กลมไม่มีเหลย่ี ม, เขาพนมพา อาเภอวงั ทรายพนู จงั หวดั พจิ ิตร รูปท่ี 5 แร่ทองคาฝงั ประในเน้ือหินควอตซ์, เขาพนมพา อาเภอวงั ทรายพูน จงั หวดั พจิ ิตร
รูปท่ี 6 แร่ทองคาท่ไี ดจ้ ากการบดหินแลว้ นามาร่อน มกั เป็นเหลยี่ ม ผิวเรียบ, เขาพนมพา อาเภอวงั ทรายพูน จงั หวดั พิจติ ร แหลง่ แรท่ องคำ ในพ้ืนท่ีอำเภอบางสะพาน แหล่งแร่ทองคำภาคตะวันตกและภาคใต้ บริเวณตะวันตกของประเทศ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็น ภเู ขาสูง เนอ่ื งจากการดนั ตัวของหินแกรนิต เขา้ มาในหนิ ยุคตา่ ง ๆ อาทิ เช่น ยคุ คารบ์ อนเิ ฟอรสั (280-345 ล้าน ปีมาแล้ว) เดโวเนียน (345-395 ล้านปีมาแล้ว) ไซลูเรียน (395-435 ล้านปีมาแล้ว) การดันตัวของหินแกรนติ เป็นผลทำให้เกิดแหล่งแร่ดีบุกและวุลแฟรมตลอดแนว เขาทางภาคตะวันตก ในลานแร่ดีบุก และวุลแฟรม มกั จะพบทองคำสะสมตวั อยู่ด้วย ซง่ึ เขา้ ใจวา่ แรท่ องคำน้ีมาจากสายแร่ควอร์ดซ์ ทีเ่ ป็นผลมาจากการดันตัวของ หินแกรนิตเม่ือมีการผพุ ังทำลายตัว แรท่ องคำกจ็ ะถกู พดั พามาสะสมตวั อยู่บรเิ วณแร่ในราบเชงิ เขา แหลง่ แร่ทองคำปา่ รอ่ น อำเภอบางสะพาน จังหวดั ประจวบครี ขี ันธ์ แหลง่ แรท่ องคำป่าร่อน เป็นแหล่งลานแร่ที่สำคญั และมีชื่อเสียงเป็นท่รี ู้จกั กนั มานาน และดูเหมือนจะ เป็นแหล่งลานแร่ที่มีแรท่ องคำอุดมสมบูรณ์มากที่สุด แหล่งแร่จะอยู่ทางทิศเหนอื ค่อนไปทางตะวันตกเล็กน้อย ของบ้านปา่ ร่อน อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากบ้านปา่ ร่อน ประมาณ 750-2,000 เมตร บ้านห้วยจังหัน ซึง่ เกอื บอยกู่ ลางแหล่งแร่อย่เู หนือระดบั น้ำทะเล 50 เมตร คลองใหญ่ เปน็ ทางน้ำสายใหญ่ของ อำเภอและมีห้วยจังหันเป็นทางน้ำสาขา ซึ่งจะกลายเป็นห้วยแห้งในฤดูแล้ง ธรณีวิทยา บริเวณอำเภอบาง สะพาน ประกอบดว้ ยหินชนวนสเี ทาเขยี วและเทานำ้ เงนิ สลบั กับหนิ ทราย (quartzitic sandstone) สเี ทา และ เทาเหลอื ง คาดว่าเปน็ หินยคุ แคมเบรยี น (500-600 ล้านปมี าแล้ว) ของชดุ ภูเก็ต ช้นั หินเหลา่ นี้โผล่ให้เห็นตาม คลองใหญแ่ ละห้วยจงั หนั และตามท่รี าบบางแหง่ บรเิ วณเนนิ มเี นินพ่อ และเนนิ ซ้าย หินส่วนใหญ่เป็นหินชนวน ส่วนบรเิ วณเนนิ ไกเ่ ขีย่ โดยทวั่ ไปเปน็ หินทราย ชน้ั หินมีแนวทาง E-N 55 E เอยี งเทเปน็ มมุ 15-75 ไปทางเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนอื สายควอรต์ ซเ์ ล็ก ๆ แทรกผ่านท่ัวไปในหนิ เป็นแหง่ ๆ
ธรณวี ทิ ยาแหลง่ แร่ แหล่งแร่ทองคำเป็นลานแรไ่ หลเ่ ขา (eluvial) ช้นั บาง ๆ ปกคลมุ ชั้นหนิ ช้ันลานแรห่ นาตัง้ แต่ 1-5 เมตร ประกอบด้วย ดิน ทรายแป้ง ทราย และกรวดหินผุ รวมท้ังกรวดเหลย่ี มของหนิ จากช้นั หนิ ดาน บรเิ วณเนินไก่เขี่ย โดยทั่วไปชนั้ ลานแร่มคี วามหนาต้งั แต่ 2-5 เมตร และส่วนใหญ่จะพบแร่ทองคำ ในช้นั กรวดทีอ่ ยู่ถัดขนั้ มาจากชนั้ หินดาน มีความหนาประมาณ 50 เซนตเิ มตร ช้นั ลานแร่บริเวณเนินมี โดยท่วั ไปมคี วามหนานอ้ ยกว่า 2 เมตร ทองคำพบเป็นเกล็ดใหญ่ ๆ ใน บริเวณหนิ ชนวนผุ มคี วามหนาประมาณ 25-35 เซนติเมตร ลานแรบ่ ริเวณเนินซ้ายเปน็ ช้ินบาง และไมต่ อ่ เนือ่ งกัน ความหนาโดยทว่ั ไปนอ้ ยกวา่ 1.5 เมตร ทองพบในชั้นหนิ ชนวนผุ ซ่งึ หนาประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร ห่างจากบา้ นหว้ ยจงั หันไปทาง W-NW ประมาณ 250 เมตร มีปลอ่ งลกึ ประมาณ 8 เมตร ซึ่งเจาะโดยบริษัทเหมอื งแร่ของฝร่ังเศส เม่อื ก่อนสงครามโลกคร้งั ที่ 1 กล่าวกันว่า ปล่องน้เี จาะผา่ นลานแรไ่ หล่เขา หินชนวนสเี ขียว เขา้ สู่หินชนวนสเี ทานำ้ เงนิ ซึง่ เป็นชน้ั หินท่ีให้ ทองคำ ในบริเวณเนนิ พอ่ ลานแร่มคี วามหนาประมาณ 1-3 เมตร ช่วงท่มี ีแรท่ องคำประกอบด้วยกรวดหนิ ของหนิ ชนวนผุ หินทราย และควอตซ์ หนาประมาณ 25-35 เซนติเมตร บริเวณท่ีพลทองคำอยหู่ ่างจากบ้าน หว้ ยจังหนั ประมาณ 600 เมตร ทางทิศตะวันออกเฉยี งเหนอื หรืออยทู่ างตอนเหนือของห้วยจังหัน ซงึ่ มตี ล่ิงแคบ ๆ แผ่กว้าง 1-5 เมตร ยาว 75 เมตร สงู 3.5 เมตร ตอนบนของตลิง่ ซ่ึงหนาประมาณ 1.5 เมตร เปน็ พวกทราย แปง้ (sandy silt) สนี ำ้ ตาลแดง มีทองคำขนาดผงฝนุ่ ส่วนลา่ งลงไป 2 เมตร เป็นกรวดเหลี่ยมของควอตซแ์ ละ หินชนวน มที รายเล็กนอ้ ย จากปากคำของชาวบ้านแถวนั้น ทองคำทพี่ บในช่วงลา่ งของช้นั กรวดนี้ เป็นเกลด็ มี ขนาดใหญก่ ว่าทพ่ี บในช่วงบนของช้ันกรวด ทองคำที่พบในแหลง่ แร่ทองคำปา่ รอ่ นมขี นาดตงั้ แตเ่ ป็นผงฝุน่ เปน็ เกล็ด จนถึงเปน็ ก้อนใหญ่หนัก 50 กรมั และจากคำบอกเล่าของนายกอบ พ่อค้าทอง ในอำเภอบางสะพาน ทองคำในแหล่งนี้มคี วามบรสิ ทุ ธิถ์ ึง 100 เปอร์เซ็นต์
ใบงานหนว่ ยที่ 3 เรอื่ ง การสำรวจพนื้ ทเ่ี หมาะสมในการรอ่ นทอง ชือ่ -สกุล ...........................................................ระดับ .................................... รหัสประจำตัว ............................ 1. ใหผ้ ู้เรยี น อธบิ ายลกั ษะภูมปิ ระเทศของอำเภอบางสะพาน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ใหผ้ ู้เรียน อธบิ ายลักษณะดินรว่ นปนทราย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ให้ผเู้ รยี น เขียนชือ่ ตำบลในอำเภอบางสะพาน มีก่ีตำบล อะไรบ้าง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ให้ผเู้ รียน อธิบายความหมายของคำว่า “แร่ทองคำ” .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 5. ให้ผู้เรยี น วาดภาพการเกิดแรท่ องคำแบบง่าย
ใบความรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง อุปกรณใ์ นการรอ่ นทอง 1.จอบ เป็นเคร่อื งมือทางการเกษตรสำหรบั ขดุ ดินและพรวนดิน และถากหญ้า ทำดว้ ยเหลก็ หนา้ แบนกวา้ ง มี ด้ามยาว จอบแบง่ ออกได้เป็น 2 ชนิดคอื จอบขดุ จอบถาก ใชส้ ำหรบั ขดุ ดินในแมน่ ้ำหรือบรเิ วณรมิ ตลงิ่ แล้ว นำมาใส่เลียงร่อน 1.1 จอบขดุ ลักษณะตวั จอบเป็นแผน่ แบน หน้าจอบโค้งเว้า มุมจอบแหลม คม มีน้ำหนกั มากกวา่ จอบถาก 1.2.จอบถาก ลักษณะตัวจอบเป็นแผ่นแบนบาง หนา้ จอบเรยี บเสมอกนั น้ำหนกั เบากวา่ จอบขุด 2.เสยี ม เป็นเคร่อื งมือสำหรบั ขดุ แซะ และพรวนดนิ ทำด้วยเหล็ก มีด้ามยาวใชส้ ำหรับขดุ ดนิ ในแม่นำ้ หรอื บรเิ วณรมิ ตล่ิงแลว้ นำมาใส่เลยี งรอ่ น 3.พลว่ั เปน็ เครื่องมอื สำหรับแทงดนิ รปู แบนๆ มีดา้ มสำหรับถือ ใช้สำหรับขดุ ดินในแมน่ ้ำหรือบรเิ วณรมิ ตลงิ่ แล้วนำมาใส่เลียงรอ่ น
4.ถงั ภาชนะกน้ ลกึ ใช้ตักน้ำ หรือตวงส่ิงของ ใชส้ ำหรับใสด่ นิ ท่ีขดุ ขึ้นมาก่อนนำไปรอ่ นในเลยี ง 5.บงุ้ กี๋ เปน็ เครอื่ งมอื สานลกั ษณะคล้ายเปลือกหอย ใช้สำหรับโกยดิน
6.ตะกรา้ ภาชนะสานโปร่งสาํ หรับใส่ส่ิงของ มรี ูปแบบต่าง ๆ บางชนิดมีหูห้ิว บางชนิดไมม่ ี 7.เลยี ง รปู รา่ งคลา้ ยกระทะ ใชใ้ นการร่อนหาทองคำ ทำมาจากไม้ทม่ี ชี อื่ เป็นมงคล เชน่ ไม้ไยดา้ ย ไมข้ นนุ ไม้ ทองหลาง ขนาดเส้นผา่ ศนู ย์กลางประมาณ 24 น้ิว หนา 6 น้วิ มคี วามลาดชนั ประมาณ 45 องศา 8.ขวดแกว้ ใส ใชส้ ำหรับใส่เกล็ดทองทร่ี อ่ นได้ 9.สารปรอท ใช้ในการจับแร่ทอง แยกทองออกจากเศษหินเศษทรายต่างๆ
ใบงานหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง อปุ กรณใ์ นการรอ่ นทอง 1.จงบอกชอ่ื อปุ กรณ์ทใ่ี ชใ้ นการร่อนทอง มา 5 ชนิด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.จงอธิบายลกั ษณะของจอบดังต่อไปนี้วา่ มลี ักษณะอยา่ งไร จอบขุด มีลกั ษณะ…………………………..…………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. จอบถาก มีลกั ษณะ……………….………..…………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3.จงบอกช่ืออปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการขุดดินและอธิบายลกั ษณะมา 3 ชนิด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4.จงอธบิ ายลกั ษณะของเลียงร่อนทอง มาโดยละเอียด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 5.ให้นักเรียนอธิบายขนั้ ตอนของการร่อนทองมาโดยละเอียด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ใบความรทู้ ี่ 5 เรอื่ ง วธิ กี ารรอ่ นทอง 1.ใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายลกั ษณะของทองบางสะพาน ทองบางสะพานเป็นทองคำแท้ไม่มสี งิ่ อื่นใดเจือปน แต่การซือ้ ขายทองนพคณุ หรือทองบางสะพานนั้น พิเศษกวา่ ทองคำชนิดอน่ื ๆ เพราะเนือ้ ทองดีใกลเ้ คียงทองร้อยเปอรเ์ ซน็ ตม์ าก ซงึ่ ความจรงิ น้ันดูจะสุกกวา่ รอ้ ยเปอร์เซน็ ต์ 2.ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาขอ้ มลู วธิ กี ารรอ่ นทองและสรปุ เปน็ รายงาน 1.ขุดดนิ ทรายที่คิดวา่ มีสะกิดทอง เอามาใส่ในภาชนะเก็บดนิ ทราย 2.นำดนิ ทรายในภาชนะมาแชน่ ้ำเอากรวดหินออกกอ่ น จะไดด้ นิ ทรายที่ละเอียด 3.นำดินทรายละเอียดที่ได้มาร่อนที่แม่น้ำด้วยอุปกรณ์ร่อนทราย เอาทรายออกที่ละนิด ขั้นตอนนี้เราจะเริ่ม มองเหน็ สะกดิ ทอง 4.พยายามเอาทรายออกให้ได้มากท่ีสุด ขั้นตอนนี้จะใชเ้ วลานานและจะทำขน้ั 1 ถึง 4 เวียนไปเรอื่ ยๆ จะได้ดิน ทรายท่สี ะกิดทองให้มากทส่ี ุด 5.ข้นั ตอนสำคัญท่สี ดุ “การจบั ทอง” คือ การใสน่ ้ำและสารปรอทเข้าไปในดินทรายท่มี ีสะกิดทอง แลว้ ตะแคงให้ ปรอทกลง้ิ ไปทั่วๆเพ่อื ให้เศษทองเข้าไปในปรอท เมอ่ื ทวั่ แล้วกต็ ักสารปรอทนน้ั ลงในผา้ ไนลอ่ นขาว แล้วกบ็ ดิ หรอื บีบให้เป็นก้อนเศษทองและสารปรอท 6.นำก้อนเศษทองและสารปรอทไปเผา ก็จะได้ ทองคำ 80% ออกมา
ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง วธิ กี ารรอ่ นทอง ช่อื – สกุล.................................................... รหสั นักศกึ ษา.................................. ชื่อกล่มุ ................................ 1. ใหผ้ ูเ้ รียนอธบิ ายลกั ษณะของทองบางสะพาน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาขอ้ มูลวธิ ีการรอ่ นทองและสรปุ เปน็ รายงาน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
ใบความรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง วธิ กี ารรกั ษาทอง 1.ใหผ้ ู้เรยี นอธิบายวิธกี ารเกบ็ รักษาทองที่ ได้จากการร่อนทอง การจดั เก็บรกั ษาทองจากการร่อนทอง ในพ้ืนท่ีตำบลรอ่ นทอง โดยวธิ กี ารเกบ็ รกั ษาในขวดใสมีฝาปิด ใส่นำ้ ถงึ คอขวด เพื่อเป็นการรกั ษาสภาพทองคำที่เปน็ เนือ้ ทองคำบริสทุ ธ์ิ 2.ให้ผเู้ รยี นอธิบายทองบางสะพาน นิยมไปใช้ในรูปแบบใด ทองบางสะพาน ทองเนอื้ เก้า สรปุ 9 ขอ้ 1. เป็นทองคำบริสุทธ์ิแท้ท่ีวัดคา่ ความบริสุทธ์ิไดส้ ูง 97.00-99.50+% เป็นทองธรรมชาติจากการเกิดแบบลาน แรห่ รือทุตยิ ภูมิ ไม่ตอ้ งถลุง 2.มีประวัติยาวนาน 200 กว่าปีตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา นำไปทำเป็นเครื่องราง พระพุทธรูป เครื่องประดับของ มงคลตา่ งๆ เช่อื วา่ เป็นเลศิ ในบรรดาโลหะธาตุมงคลและปอ้ งกนั ภยั มีพุทธคุณในตัว เสรมิ ศริ มิ งคลตอ่ เจ้าของ 3.เป็นทองคำทีม่ ีเสนห่ ์เฉพาะตัวคือกว่าจะได้ต้องร่อนดว้ ยเลียงหรือหลังนำ้ ท่วม สืบทอดทั้งวัฒนธรรมพื้นบา้ น หายากราคาสงู ซื้อขายกันแบบพระเครอ่ื ง
ใบงานท่ี 6 เรอื่ ง วธิ กี ารรกั ษาทอง ชอ่ื – สกุล.................................................... รหัสนักศึกษา.................................. ช่ือกลุ่ม................................ 1.ใหผ้ เู้ รยี นอธิบายวิธีการเก็บรกั ษาทองท่ี ไดจ้ ากการรอ่ นทอง ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2.ใหผ้ เู้ รยี นทองบางสะพาน โดยทว่ั ไปนยิ มไปใชใ้ นรูปแบบใด อธบิ าย ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
ภาคผนวก ข
ตารางกำหนดนำ้ หนกั ราชวชิ า อช 23736 เมอื งทองเนอ้ื เกา้ 2 จำนวน 2 หนว่ ยกติ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานท่ี 3.1 มีความรคู้ วามเข้าใจ และเจตคตทิ ่ีดใี นงานอาชพี มองเห็นชอ่ งทางและตดั สินใจประ กอบอาชีพได้ตามความต้องการ และศกั ยภาพของตนเอง 3.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะในอาชีพทตี่ ัดสนิ ใจเลือก 3.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชพี อย่างมีคณุ ธรรม 3.4 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการพัฒนาอาชพี ใหม้ ีความม่นั คง ตารางวเิ คราะหแ์ บบขอ้ สอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความรพู้ นื้ ฐาน จำนวน 10 ขอ้ จดุ ประสงค์ จำนวน ระดบั พทุ ธพิ สิ ยั การเรยี นรู้ (ขอ้ ท)่ี เนอ้ื หาตาม ตวั ชว้ี ดั /ผล ขอ้ หลกั สตู ร การ การ การ การ การเรยี นรทู้ ่ี ความ ความ นำไปใช้ วเิ คราะ สงั เคราะห์ ประเมนิ คาดหวงั จำ เขา้ ใจ ห์ คา่ 1 1k 1. ตำนานทองเนอื้ 1. ผเู้ รียนมี 10 2 1 2 เก้า ความรู้ ความ 31 2. แหลง่ ทตี่ ้ังเหมอื ง เข้าใจใน 21 ทอง วธิ ีการ 3. ประวัติการ รอ่ นทอง รอ่ นทอง 2. ผเู้ รียนเกิด 4. คณุ สมบตั ิ และ ความตระหนกั แร่ธาตุ และเหน็ สว่ นประกอบจาก คณุ ค่าภูมิ การรอ่ นทอง ปัญญาทอ้ งถิน่ ในชมุ ชน บาง สะพาน รวม 10 4 2
แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ 1ี่ เรอ่ื ง ความรพู้ น้ื ฐานของการรอ่ นทอง ใหเ้ ลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1.อำเภอบางสะพาน เดิมมีชื่อเรยี กว่า ก.เมอื งธงชัย ข.เมอื งชัยเกษม ค.เมืองทับสะแก ง.เมอื งกำเนดิ นพคุณ 2.แหลง่ แรท่ องคำท่มี ีช่อื เสยี งในอำเภอบางสะพานตั้งอยู่หม่บู า้ นใด ก. หมู่บา้ นปา่ ร่อน ข. หมบู่ ้านวังนำ้ เขยี ว ค. หมู่บ้านคลองลอย ง. หมบู่ ้านท่งุ สะเดาะหวาน 3.ในประกาศรชั กาลที่ 4 ไดอ้ ธบิ ายวา่ ทองคำทีซ่ ื้อขายกนั เรียกตามเนอ้ื และตามราคาทองหนักบาทหนึ่งเปน็ เงนิ 9 บาท จะเรียกวา่ อยา่ งไร ก.นพคณุ สีน่ ำ้ ข.นพคณุ ห้านำ้ ค.นพคณุ เจ็ดน้ำ ง.นพคณุ เกา้ น้ำ 4.แหลง่ แร่ทองคำอยู่ในบริเวณในหมบู่ า้ นปา่ ร่อน ก.หว้ ยจังหัน ข.หว้ ยหมูหัน ค.หว้ ยกังหัน ง.ห้วยแห้งจัง 5.ในลานแรช่ นิดใดท่ีจะพบทองคำปนอยู่มากท่ีสดุ ก.แรด่ บี ุก และพลอย ข.แร่ดีบกุ และแร่วุลแฟรม ค.แร่ตะกัว่ และแรส่ งั กะสี
ง.แร่ทองแดง และแรด่ บี ุก ค.คลองใหญ่ ง.คลองเลก็ 6.ในอดตี ใช้สิง่ ใดในการร่อนทองเป็นคร้ังแรก ก.เลียง ข.กระสอบ ค.กระป๋อง ง.กะละมงั 7.ในปจั จบุ นั ใช้ส่งิ ใดในการร่อนทอง ก.เลียง ข.กระสอบ ค.กระปอ๋ ง ง.กะละมงั 8. การขดุ แร่ตอ้ งขุดให้ถึงใชใ้ ด ก.ชนั้ ดิน ข.ชัน้ ดาน ค.ช้ันกลาง ง.ช้นั หลังสะ 9.ทองคำ มชี ือ่ ภาษาอังกฤษอย่างไร ก.Gold ข.Cold ค.Dold ง.Pold 10.ข้อใดคอื สญั ลักษณ์ทางเคมขี องทองคำ ก.Au ข.Ae ค.Ag ง.Ap
ตารางวเิ คราะหแ์ บบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง เรยี นรทู้ องเนอ้ื เกา้ จำนวน 10 ข้อ จดุ ประสงค์ จำนวน ระดบั พทุ ธพิ สิ ยั การเรยี นรู้ เนอ้ื หาตาม ตวั ชวี้ ดั /ผลการ ขอ้ (ขอ้ ท)ี่ หลกั สตู ร เรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั ความ ความ การ การ การ การ จำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประ เมนิ คา่ 1k 1. ทองเนือ้ 1. ผเู้ รียนมคี วามรู้ 5 2 2 1 เก้า หมายถึง อะไร ความเขา้ ใจใน 2. คุณสมบัติ ของทองเนื้อ วิธีการร่อนทอง เก้า 2. ผู้เรียนเกดิ ความตระหนกั และเห็นคุณคา่ ภูมิ 5 2 2 1 ปญั ญาท้องถ่ินใน ชุมชน บาง สะพาน รวม 10 4 4 2
แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ งเรยี นรเู้ รอ่ื งทองเนอื้ เกา้ จงเลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1.ขอ้ ใดคอื ความหมายของทองเน้อื เกา้ ก. ทองคำแทง่ ข. ทองคำหนักหนง่ึ บาท ค. ทองคำทม่ี สี ีคล้ายกบั ดอกดาวเรอื ง ง. ทองคำบรสิ ทุ ธิ์ปราศจากธาตุอื่นเจือปน 2.ข้อใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของทองเน้ือเก้า ก. มลี ักษณะอ่อนตัว ข. แยกตวั ออกจากแรช่ นดิ อนื่ ค. สีของทองคำสุกเหลืองอรา่ ม ง. เปน็ กอ้ นช้ินใหญ่ตอ้ งนำมาเข้าเตาถลงุ 3. ทองเน้ือเก้ามกี ก่ี ะรัต ข. 23 กะรัต ก. 22 กะรตั ง. 25 กะรัต ค. 24 กะรัต 4.ข้อใดคอื ลักษณะของการเกดิ ของแรท่ องคำทีพ่ บในธรรมชาติ ก. แบบปฐมภมู ิ ข. แบบทุตยิ ภมู ิ ค. แบบลานแร่ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 5. เพราะเหตุทองคำจงึ ไดร้ ับความนยิ มอยา่ งสูงสุดในวงการเครอ่ื งประดบั ก. ทำการหลอมได้คร้งั เดยี ว ข. มีราคาสูงทีส่ ดุ ในวงการเครอื่ งประดับ ค. ไม่ทนตอ่ การผุกร่อนและเกิดสนมิ กบั อากาศ ง. มคี วามงดงามมันวาวคงทนมคี วามเหนียวและออ่ นนม่ิ สามารถนำมาทำข้นึ รูปไดง้ า่ ย
6. ขอ้ ใดคือ คุณสมบัติของทองเนอื้ เก้า ก. มสี ารอนื่ เจอื ปนอยู่ ข. มีราคาตำ่ กว่าทองรปู พรรณและทองแท่ง ค. เป็นทองท่ีมีช่อื เรยี กเพียงชื่อเดียว ทองเนือ้ เกา้ ง. เป็นทองคำทีม่ เี นอ้ื ทอง 99.99 เปอร์เซน็ ตห์ รอื มากกวา่ นน้ั 7. บทประพันธ์ท่ไี มไ่ ดก้ ล่าวถงึ ทองเนื้อเก้า คือเร่ืองใด ก. อเิ หนา ข. นริ าศนรนิ ทร์ ค. ขุนช้างขุนแผน ง. สังข์ทอง 8. ขอ้ ใดไม่ใช่ชอ่ื เรียก ทองเนือ้ เกา้ ก.ทองคำชั่ง ข. ทองชมพูนุท ค. ทองธรรมชาติ ง. ทองนพคุณเก้านำ้ 9. อำเภอบางสะพาน ต้ังอยทู่ างตอนใดของจงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์ ก. ตอนใต้ ข. ตอนบน ค. ตอนล่าง ง. ไมม่ ขี ้อใดถูก 10. ในสมัยรัชกาลใดทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯให้เปล่ยี นนามอำเภอกำเนิดนพคุณเปน็ ตำบลกำเนิดนพคณุ ใน ปจั จุบนั ก. รชั กาลท่ี 5 ข. รัชกาลที่ 6 ค. รัชกาลท่ี 7 ง. รัชกาลที่ 8
ตารางวเิ คราะหแ์ บบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การสำรวจพน้ื ทเ่ี หมาะสมในการรอ่ นทอง จำนวน 10 ขอ้ จดุ ประสงค์ เนอ้ื หาตาม ตวั ชวี้ ดั /ผล จำนวน ระดบั พทุ ธพิ สิ ยั การเรยี นรู้ หลกั สตู ร การเรยี นรทู้ ่ี คาดหวงั ขอ้ (ขอ้ ท)่ี ความ ความ การ การ การ การ จำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ 1k 1. ลกั ษณะภูมิ 1. ผูเ้ รยี นมี 5 31 1 ประเทศของ ความรู้ ความ อำเภอบาง เขา้ ใจใน สะพาน วิธีการ 2. การ ร่อนทอง 5 22 1 เปรยี บเทียบ 2. ผู้เรียนเกิด และสงั เกต ความตระหนัก ลกั ษณะดนิ และเหน็ คุณค่าภมู ิ ปัญญาทอ้ งถ่ิน ในชุมชน บางสะพาน รวม 10 5 3 2
แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื งการสำรวจพนื้ ทเ่ี หมาะสมในการรอ่ นทอง จงเลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. อำเภอบางสะพาน ต้งั อยู่ทางตอนใดของจงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์ ก. ตอนบน ข. ตอนลา่ ง ค. ตอนใต้ ง. ไม่มขี ้อใดถูก 2. อำเภอบางสะพาน มีเนอื้ ทีท่ ง้ั หมดกีต่ ารางกโิ ลเมตร ก. 850 ตารางกโิ ลเมตร ข. 868 ตารางกโิ ลเมตร ค. 960 ตารางกโิ ลเมตร ง. 921 ตารางกิโลเมตร 3. ช่ือเดมิ ของอำเภอบางสะพาน คือ ก. บางตะพาน ข. เมืองกำเนดิ นพคณุ ค. บางพาน ง. เมอื งนพคุณ 4. สภาพภูมิอากาศ ของอำเภอบางสะพาน เปน็ อยา่ งไร ก. อากาศรอ้ น ข. อากาศเยน็ ค. อากาศหนาว ง. อากาศรอ้ นชน้ื 5. อำเภอบางสะพาน มีกต่ี ำบล ก. 7 ตำบล ข. 9 ตำบล ค. 5 ตำบล ง. 11 ตำบล 6. อำเภอบางสะพาน มลี ักษณะดิน เป็นอยา่ งไร ก. มีสภาพดินเปน็ ดนิ ร่วนปนทราย ข. มีสภาพดนิ เปน็ ดนิ เหนียว ข. มสี ภาพดนิ เปน็ ดนิ ดาน ง. มีสภาพดนิ เปน็ ดินกรัง 7. ลกั ษณะของดินแบบใด ท่ีคาดว่านา่ จะมแี รท่ องคำ ก. ดนิ รว่ นปนทราย ข. ดินเหนียว ค. ดินกรัง ง. ดินดาน 8. ดนิ รว่ นปนทราย เหมาะกบั การปลูกพืชชนดิ ใด ก. ต้นกล้วย ข. ต้นมะม่วง ค. ตน้ ยางนา ง. ถูกทกุ ขอ้ 9. การขุดหาแรท่ องคำ จะขุดพบบรเิ วณชัน้ ดนิ ใด ก. ชน้ั เปลอื กดิน สายควอตซ์ ข. ชั้นเปลอื กดนิ หนิ ดาน ค. ชน้ั เนื้อหิน/แร่ควอตซ์ ง. ชนั้ หินควอตซ์ 10. ลกั ษณะรปู รา่ งของทองทีข่ ดุ พบ จะมีลักษณะใด ก. มลี กั ษณะกลม ข. มีลกั ษณะเหล่ยี ม ค. มีลักษณะเป็นก้อนเลก็ ๆ ง. มีผิวเรียบ
ตารางวเิ คราะหแ์ บบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 จำนวน 10 ข้อ จุดประสงค์ ตวั ชว้ี ดั /ผลการ จำนวน ระดบั พทุ ธพิ สิ ยั เรยี นรทู้ ี่ การเรยี นรู้ เนอื้ หาตาม คาดหวงั ขอ้ (ขอ้ ท)ี่ หลกั สตู ร ความ ความ การ การ การ การ จำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ 1k 1. อปุ กรณ์ 1. ผเู้ รยี นมี 10 4 4 2 ท่ีใช้ในการ ความรู้ ความ ร่อนทอง เข้าใจในวิธีการ รอ่ นทอง 2. ผูเ้ รยี นมี ทักษะและ สามารถปฏิบตั ิ ตามขัน้ ตอนของ การร่อนทองได้ 3. ผเู้ รียนเกดิ ความตระหนกั และเห็นคุณค่า ภูมปิ ัญญา ท้องถน่ิ ในชุมชน บางสะพาน รวม 10 4 4 2
แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง อปุ กรณใ์ นการรอ่ นทอง จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1.จอบ มที งั้ หมดก่ีชนดิ ก. 2 ชนิด ข. 3 ชนิด ค. 4 ชนดิ ง. 5 ชนิด 2.ขอ้ ใดไมใ่ ช่ส่วนประกอบของเสยี ม ก.คม ข.ด้ามจับ ค.ยางกันคม ง.ใบเสยี ม 3.ถา้ นักเรยี นต้องการตกั ดินในคลองมารอ่ นหาทองควรใชอ้ ปุ กรณ์ขอ้ ใด ก.เสยี ม ข.จอบ ค.พลั่ว ง.ถังนำ้ 4.ขอ้ ใดเปน็ อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการรอ่ นทองทั้งหมด ก.พล่วั เสียม คราด ข.กะละมงั เลียง บงุ้ กี๋ ค.ชะแลง เลยี ง ถัง ง.เลยี ง พลั่ว ขวดแก้ว 5.เมือ่ ทำการร่อนทองแล้วพบเกล็ดทองหรือแร่ทองคำควรเกบ็ ไวใ้ นภาชนะใด ก.ถงั ข.ขวดแก้วใส ค.ขวดแกว้ ขุน่ ง.กลอ่ งพลาสตกิ 6.เลียง ทใ่ี ชใ้ นการรอ่ นทอง ส่วนใหญ่ทำมาจากอะไร ก.เหลก็ ข.อลมู เิ นยี ม ค.ทองคำ ง.ไมม้ งคล 7.ขอ้ ใดคอื ขนาดของเลียงร่อนทองทใี่ ช้กันโดยท่วั ไป ก.เสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 20 นิว้ หนา 4 นวิ้ ข.เสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 24 นวิ้ หนา 6 น้วิ ค.เสน้ ผา่ ศูนย์กลาง 26 นวิ้ หนา 4 นว้ิ ง.เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 24 น้ิว หนา 4 นิ้ว 8.ขนาดความลาดชนั ของเลียงรอ่ นทอง ควรใหม้ ีความลาดชนั กีอ่ งศา จงึ จะมีประสิทธิภาพสงู สดุ ในการร่อนทอง ก.45 องศา ข.50 องศา ค.55 องศา ง.60 องศา
9.ถา้ ไม่สามารถหาเลยี งรอ่ นทองได้ ควรใชอ้ ปุ กรณใ์ ดรอ่ นทองจงึ จะเหมาะสมที่สุด ก.กะละมงั ข.ถาด ค.กระทะ ง.บ้งุ กี๋ 10.สารชนิดใดท่ใี ช้ในการดกั จับแรท่ องคำ เพ่อื แยกออกจากเศษดนิ เศษทราย ก.สารกมั มนั ตรงั สี ข.สารตะก่ัว ค.ดเี กลอื ง.สารปรอท
ตารางวเิ คราะห์แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 จำนวน 10 ข้อ จดุ ประสงค์ จำนวน ระดบั พทุ ธพิ สิ ยั การเรยี นรู้ เนอ้ื หาตาม ตวั ชว้ี ดั /ผลการ ขอ้ (ขอ้ ท)่ี หลกั สตู ร เรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั ความ ความ การ การ การ การ จำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ 1k 1. รวู้ ิธีการ 1. ผเู้ รยี นมีความรู้ 5 1 2 2 และเทคนคิ ความเข้าใจใน การร่อนทอง วิธีการร่อนทอง 2. ขัน้ ตอน 2. ผู้เรียนมีทักษะ 5 1 1 3 การรอ่ นทอง และสามารถปฏิบตั ิ ตามขัน้ ตอนของ การร่อนทองได้ 3. ผู้เรยี นเกดิ ความ 5 2 2 1 ตระหนักและเห็น คุณค่าภมู ปิ ัญญา ท้องถ่นิ ในชมุ ชน บางสะพาน รวม 15
แบบทดสอบหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอื่ งวธิ กี ารรอ่ นทอง จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. ข้อใด อธิบายลกั ษณะของทองบางสะพานได้ถกู ต้อง ก. เนื้อมีความแข็งแรงทน ข. เน้อื มีความสวยงามแข็งแรง ค. เน้อื มี ความออ่ นตัวสูง ง. ถูกทกุ ขอ้ 2. ปัจจยั การดูสภาพดินที่ใช้ในการรอ่ นทอง ควรมีลกั ษณะอย่างไร ก. ดนิ มีสภาพอุดมสมบรู ณ์พ้ืนแข็ง ข. ดนิ มสี ภาพเป็นดินเหนียว ค. ดินมีสภาพเป็นทรายปนดนิ ง. ขอ้ ก และ ค ถูกตอ้ ง 3. ขอ้ ใดอธิบาย”การจับทอง”ได้ถกู ต้อง ก. การใสน่ ้ำและสารปรอทเข้าไปในดนิ ทรายทีม่ สี ะกิดทอง ข. การหยิบทองใสใ่ นขวดแกว้ ใส ค. การได้ทองมาด้วยวธิ กี ารหยิบ ง. ถกู ทกุ ข้อ 4. วัสดทุ ี่ใชใ้ นการรอ่ นทองเรยี กวา่ อะไร ก. กระทะ ข. เลยี ง ค. ถาด ง. ข้อ ก และข้อ ข ถกู ต้อง 5. อำเภอบางสะพาน มีลักษณะดิน เป็นอยา่ งไร ก. มีสภาพดินเป็นดนิ ดาน ข. มีสภาพดนิ เปน็ ดนิ กรงั ค. มสี ภาพดนิ เป็นดินเหนียว ง. มสี ภาพดินเปน็ ดนิ ร่วนปนทราย
6. การขดุ หาแรท่ องคำ จะขดุ พบบริเวณชน้ั ดินใด ก. ชัน้ หินควอตซ์ ข. ชนั้ เปลือกดินหนิ ดาน ค. ชน้ั เนือ้ หินแรค่ วอตซ์ ง. ชั้นเปลือกดนิ สายควอตซ์ 7. บริเวณทม่ี ีดินรว่ นปนทราย เหมาะกับการปลกู พชื ชนิดใด ก. ตน้ สน ข. มะพรา้ ว ค. ต้นยางนา ง. ต้นยูคาลปิ ติส 8. ลักษณะรปู ร่างของทองทขี่ ุดพบ จะมลี กั ษณะใด ก. มีผิวเรียบ ข. มีลกั ษณะกลม ค. มีลกั ษณะเหลย่ี ม ง. มีลกั ษณะเป็นกอ้ นเลก็ ๆ 9. เมอื่ ทำการร่อนทองแล้วพบเกล็ดทองหรอื แร่ ทองคำควรเกบ็ ไวใ้ นภาชนะใด ก. ถงั ข. แก้ว ค. ขวดสีขุ่น ง. ขวดแกว้ ใส 10.ข้อใดเป็นอปุ กรณ์ที่ใช้ในการรอ่ นทองท้งั หมด 32. ก. พลว่ั เสยี ม คราด 32. ข. ชะแลง เลียง ถงั 32. ค. กะละมงั เลียง บ้งุ กี๋ 32. ง. เลยี ง กระทะกน้ ลึก กระสอบ
11. วัสดุอุปกรณใ์ ดท่เี หมาะสำหรบั การนำไปเป็น 30. อปุ กรณใ์ นการรอ่ นทอง ก. เงิน ข. เหลก็ ค. ไม้มงคล ง. แผ่นสงั กะสี 12. จอบ มีทงั้ หมดกีช่ นิด 33. ก. 2 ชนดิ 33. ข. 3 ชนิด 33. ค. 4 ชนดิ 33. ง. 5 ชนดิ 13. ถา้ ไม่สามารถหาเลียงรอ่ นทองได้ ควรใช้ 33. อปุ กรณใ์ ดรอ่ นทองจงึ จะเหมาะสมที่สดุ 33. ก. ถาด 33. ข. บงุ้ กี๋ 33. ค. กระทะ 33. ง. กะละมัง 14. ขนาดความลาดชนั ของเลียงร่อนทอง ควรให้มี 35. ความลาดชันก่อี งศา จึงจะมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุด 36. ในการร่อนทอง 36. ก. 45 องศา 36. ข. 50 องศา 36. ค. 55 องศา 36. ง. 60 องศา 15.ลักษณะของดินแบบใด ทีม่ กั พบแรท่ องคำ ก. ดนิ กรงั ข. ดินรว่ น ค. ดนิ ช้ันดาน ง. ดินร่วนปนทราย
ตารางวเิ คราะห์แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 จำนวน 10 ขอ้ จุดประสงค์ จำนวน ระดบั พทุ ธพิ สิ ยั การเรยี นรู้ เนอ้ื หาตาม ตวั ชวี้ ดั /ผลการ ขอ้ (ขอ้ ท)่ี หลกั สตู ร เรยี นรทู้ ่คี าดหวงั ความ ความ การ การ การ การ จำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ 1k 1. รู้จัก 1. ผู้เรียนมีความรู้ 5 1 1 เครื่องมอื ใน ความเขา้ ใจใน การจดั เกบ็ วิธกี ารร่อนทอง 12 ทอง 2. ผู้เรียนมที กั ษะ 2. วธิ ีการ และสามารถปฏิบตั ิ จดั เก็บและ ตามขน้ั ตอนของ รกั ษาทอง - วิธีการจดั เก็บทอง - การนำไป การนำไปแปรรูป แปรรปู รวม 5
แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. ทองบางสะพานไดจ้ ากการรอ่ นทองนิยมนำไปใชท้ ำอะไร ก. ทำเปน็ เคร่อื งราง ข. ทำเปน็ วัตถุมงคล ค. ทำเป็นพระพทุ ธรปู ง. ถกู ทกุ ขอ้ 2. สารชนิดใดท่ีใชใ้ นการดกั จับแรท่ องคำ เพอ่ื แยกออกจากเศษดนิ เศษทราย ก. ดีเกลอื ข. สารปรอท ค. สารตะก่ัว ง. สารกมั มันตรังสี 3. ข้อใดไม่ใช่สว่ นประกอบของเสยี ม 37. ก. คม ข. ใบเสียม ค. ยางกนั คม ง. ดา้ มทมี่ อื จับ 4. ทองบางสะพานได้จากการร่อนทองนยิ ม นำไปใชท้ ำอะไร ก. ทำเป็นเครือ่ งราง ข. ทำเปน็ ทางการบินอวกาศ ค. ทำเป็นส่วนผสมในเคร่อื งสำอาง ง. ทำเป็นส่วนต่างๆของการทันตกรรม 5. ขอ้ ใดคือลักษณะของทองโบราณ ก. มีลวดลายทีอ่ ่อนช้อย ข. ใชเ้ คร่อื งจกั รในการผลติ ค. ออกแบบดว้ ยระบบดิจทิ ลั ง. มลี วดลายใหเ้ ลอื กหลากหลาย
Search