Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สัตว์เลี้ยงในบ้าน

สัตว์เลี้ยงในบ้าน

Published by Chayut Tinpho, 2021-09-02 02:12:16

Description: สัตว์เลี้ยงในบ้าน (6)

Search

Read the Text Version

สัตในวบ์เล้าียนง โดยด.ช.เชลยขตุ ทมี 7์ ถนิ โพธิ

คาํ นํา ร า ย ง า น เ ล ม น้ี จั ด ข้ึ น เ พ่ื อ ใ ห ทุ ก ค น รู จั ก สั ต ว เ ลี้ ย ง ม า ก ข้ึ น แ ล ะ เ พ่ื อ ใ ช ใ น ก า ร ศึ ก ษ า ต า ง ๆ แ ล ะ เ พ่ื อ ใ ห ทุ ก ค น ไ ด ทาํ ค ว า ม เ ข า ใ จ กั บ สั ต ว เ ลี้ ย ง ม า ก ย่ิ ง ขึ้ น แ ล ะ รู จั ก นิ สั ย ข อ ง สั ต ว เ ล้ี ย ง ม า ก ข้ึ น ผู จั ด ทาํ ค า ด ห วั ง ว า ก า ร จั ด ทาํ ร า ย ง า น เ ล ม น้ี จ ะ มี ข อ มู ล ท่ี มี ป ร ะ โ ย ช น แ ล ะ ผู ที่ ส น ใ จ ศึ ก ษ า เ กี่ ย ว กั บ สั ต ว เ ลี้ ย ง เ ป น อ ย า ง ดี เ ด็ ก ช า ย ช ยุ ต ม ถ่ิ น โ พ ธิ์ ผู จั ด ทํา

สารบญั ประวัติของสัตว์เลียง 1 ต้นกําเนิดของการเลียงสัตว์ 2 ทาํ ความรู้จักกับนิสัย ของสัตว์เลียง ของสายพั นธ์ต่างๆ จุดเริมต้นของการ 3 เลียงแมว 4 จุดเริมต้นของการ เลียงสุนัข

5 จุดเริมต้นของการ เลียงนก จุดเริมจ้นของการ 6 เลียงเต่า 7 ทาํ ไมถึง เลียงปลา ประเภทของมด 8 9 กระต่าย

10 กระรอก แฮมสเตอร์ 11 12 อ้างอิง จากเว็บไซด์ จุดเริมต้นของการ เลียงสุนัข

1 ประวัติของสตั ว์เลยี ง สัตว์เลียง คือ สัตว์ ทีถูกควบคุมโดย จรงิ ๆ แล้วมนุษย์ได้เรมิ ทําการเลียงสัตว์ มนุษย์ ในเรอื งการให้ อาหาร การ เมือประมาณ 2 หมืนปมาแล้ว โดยมีการนํา คุ้มครองดูแล การผสมพันธุ์ ของสัตว์ เอาสุนัขปาตัวเมียมาขุน เพือทีจะได้นําลูก ตามต้องการได้ และสรา้ งความผูกพัน สุนัขไปรบั ประทานและต่อมา ก็ใชส้ ุนัขปาเพือ ต่อกันระหว่างคนกับสัตว์ จึงเรยี กว่า ชว่ ยล่าสัตว์ เชอื ว่าแหล่งทีเรมิ เลียงสุนัข สัตว์เลียง แต่จะไม่นับสัตว์ทีอยู่ใน อยู่ในแถบ ยูเรเซยี และ เอเชยี ตะวันตก สวนสัตว์ สัตว์ทีอยู่ในหอ้ งทดลองว่า เฉียงใต้ ต่อมาเมือประมาณ 1 หมืนปมานี เปนสัตว์เลียงด้วย เหตุเพราะไม่มีส่วน มนุษย์เรมิ เลียงสัตว์เลียงลูกด้วยนมอืนๆ ผูกพันกับชวี ิตและความเปนอยู่ของคน เชน่ โค แพะ แกะ และสุกร เพือเปนแหล่ง โดยตรง สัตว์เลียงคือมิตร คือเพือนผู้ ของอาหารและ เครอื งนุ่งหม่ และหลังจาก ซอื สัตย์และจงรกั ภักดีต่อเจ้าของ นันจึงได้มี การเลียงสัตว์ชนิดอืนๆ เพิมขึน เชน่ สัตว์ปก และแมลงต่างๆ เวลาและ สถานทีทีเรมิ ทําการเลียงสัตว์สาํ คัญบาง ชนิด ห น้ า 1

สัตวเลี้ยงในบา น 2 หนา้ 01 ทกุ อยางที่เกยี่ วกบั นสิ ยั ของสนุ ขั สนุ ขั เปนสตั วท์ ีฉลาด มนั มไี อคิวทีสงู กวา่ สตั วเ์ ลียงอืนๆ เชน่ แมว หมู มา้ ฯลฯ สนุ ขั สามารถแปลสญั ญาณต่างๆ ทังทีมนษุ ย์ หรอื สนุ ขั อืนๆ พยายามสอื ถึงมนั ดว้ ยลักษณะนเี องทําใหส้ นุ ขั เขา้ ใจมนษุ ย์ และพวกเดยี วกันไดอ้ ยา่ งไมย่ ากเยน็ นกั กล่าวบทสรุป สุนัขเปนสัตว์ทีมีทังนิสัยดี-ไม่ดี และเข้า กับคนง่ายและมีIQสูงกว่าสัตว์ชนิดอืนๆ

3 จุดเรมต้นของ \"แมว\" หรอื ชอื ทางวทิ ยาศาสตรว์ า่ \"Felis Catus\" มกี ําเนดิ ขนึ บนโลกมากกวา่ 50 ล้านปมา การเลยี งแมว แล้ว นกัี ชวี วทิ ยาค้นพบวา่ บรรพบุรุษของแมวถือกําเนดิ ขนึ กวา่ 50 ล้านปมาแล้ว เปนสตั วเ์ ลียงลกู ด้วยนมและิกินเนอื เปนอาหาร เรยี กวา่ Miacis และได้ววิ ฒั นาการจนเรมิ มลี ักษณะคล้ายแมวเมอื 10 ล้านปก่อน ขนาดและรูปรา่ งใกล้เคียงกับแมวปาทีมเี ขยี วขนาดใหญเ่ รยี กวา่ Dinistis ในความจรงิ แล้วนนั แมวบา้ นมตี ้นตระกลู ทีแยกออกมาจากเสอื ไซบเี รยี น และแมวพนื เมอื งต่าง ๆ ปจจุบนั สายพนั ธุแ์ มว (รวมทังสงิ โตและเสอื ต่าง ๆ ) มที ังหมดถึง 36 ตระกลู 51 ชนดิ ประเทศไทย เราก็มกี ารเลียงแมวมานานแล้วเหมอื นกันตังแต่ สมยั สโุ ขทัยโนน่ แมวไทยค่แู รกได้ออกสสู่ ายตาชาวโลกเมอื ป พ.ศ. 2427 เปนแมววเิ ชยี รมาศแต้มสคี รงั โดยพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเ้จ้าอยูห่ ัว (ร.5) ทรงพระราชทานให้กับ กงศุลอังกฤษประจํากรุงเทพมหานคร ขณะนนั คือ Mr.Owen Gould และได้นาํ ไปให้แก่น้องสาวทีอังกฤษอีก ทอดหนงึ แต่หลังจากนนั เมอื ปพ.ศ.2428 แมวไทยค่นู แี หละ ได้เขา้ ประกวดทีประเทศอังกฤษ ในงาน The Crystal Palace และได้รบั รางวลั ชนะเลิศในการประกวดอีกด้วยจาก การประกวดครงั นเี องทีเปนจุดเริ มิ ต้นให้ชาวอังกฤษ นยิ มหัน มาเลียงแมวไทยกันมากขนึ จนได้จัดตัง The Siamese Cat Clubs ในป พ.ศ 2443 และ The Siamese Cat Society of the Brithish Empire ในป พ.ศ. 2471 จากเหตกุ ารณค์ รงั นนั ทําให้แมวไทยค่นู มี ชี อื เสยี งเปนทีรูจ้ ักกัน ทัวอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว จึงทรง เห็นวา่ แมวไทยสามารถทําให้ประเทศไทยเปนทีรูจ้ ักแก่ประเทศ อืน ๆ ทัวโลก จึงได้พระราชทานแมวไทยให้กับหลาย ๆ ประเทศ จนแมวไทยและประเทศไทยกลายเปนทีรูจ้ ักมชี อื เสยี งไปทัว โลกนนั เอง

4 จุ ด เ ริ ม ต้ น ข อ ง ก า ร เ ลี ย ง สุ นั ข สุนขั มีตนกําเนดิ มาจากสนุ ขั ปา โดยมนษุ ยแ ถบขวั้ โลกเหนอื นํามาเลีย้ งเม่ือ 12,000 ปม าแลว เชื่อกันวา สนุ ขั ปาตวั แรก เกดิ ขึน้ เม่อื 100 ลาน ปท่ีแลว สมัยแรกเร่ิม ก็ ไมไดมหี นา ตา เหมือนสนุ ัขในปจจบุ นั น้ี กค็ งเหมอื นคนนั่นแหละ ทก่ี วา จะพัฒนามาจน มหี นาตาเหมือนปจ จบุ นั ก็ตอ งใช เวลาระยะหนึ่ง กวา เราจะรูจักสนุ ัขทห่ี นา ตาเหมือน สนุ ัขในปจจุบันนี้ สนุ ขั เปนเพอื นทีดีของคนมาชา้ นานแล้ว สมยั ก่อนมนษุ ย์ เลียงสนุ ขั ไวใ้ ชง้ านเปนสว่ นใหญ่ แต่ ปจจุบนั นี จุดประสงค์ ในการเลียงสนุ ขั ได้เปลียนเปน การเลียงเพอื เปนเพอื นมากกวา่ ทังนเี นอื งจาก อุปนสิ ยั ทีนา่ รกั ของมนั วา่ กันวา่ บรรพบุรุษของ สนุ ขั ถือกําเนดิ ขนึ มาตังแต่ 35 ล้านปก่อน สมยั แรกเรมิ ก็ไมไ่ ด้มหี น้าตาเหมอื นสนุ ขั ในปจจุบนั นี ก็คงเหมอื นคนนนั แหละ ทีกวา่ จะพฒั นา มาจนมหี น้าตาเหมอื นปจจุบนั ก็ต้องใช้ เวลาระยะหนงึ เรารูจ้ ักสนุ ขั ทีหน้าตาเหมอื นสนุ ขั ในปจจุบนั นี จาก รูปภาพ โบราณอายุประมาณ 12,000-14,000 ป ในยุโรป นกั วทิ ยาศาสตรค์ าดวา่ ต้นกําเนดิ ของสนุ ขั นา่ จะมาจากการผสมขา้ มพนั ธุร์ ะหวา่ งสนุ ขั จิงจอก และสนุ ขั ปา และเพราะความเฉลียวฉลาด ความสามารถ รอบตัว และการเปนสตั วส์ งั คมของมนั นเี อง ทีทําให้มนษุ ยน์ าํ มนั มาเลียง จนแพรห่ ลายไปทัวโลก สนุ ัข แบ่งเปนกลมุ่ ใหญ่ ๆ ได้ 6 กลุม่ ดงั นี 1. สุนัขล่าเนือ ( Hounds ) 2. สนุ ัขเพอื เกมสก์ ีฬา ( Sporting Dogs ) 3. สนุ ัขเทอรเ์ รยี ( Terriers ) 4. สุนัขทํางาน ( Working dogs ) 5. สนุ ัขต๊กุ ตา ( Toy ) 6. สุนัข อเนกประสงค์ ( Non Sporting )

5 จุ ด เ ริ ม ต้ น ข อ ง ก า ร เ ลี ย ง น ก ชว่ งนเี ทรนด์การเลียงนกสวยงามไวเ้ ปนเพอื นเล่นในบา้ น กําลังได้รบั ความนยิ มเพมิ ขนึ เรอื ย ๆ ไมต่ ่างจากกระแสฮิต ปลกู ต้นไมข้ องคนหนมุ่ สาวเจนวาย โดยมหี ลากหลายสาย พนั ธุท์ ีเปนนยิ ม อาทิ นกแก้วฟอรพ์ สั , หงสห์ ยก, เลิฟเบริ ด์ , กระตัว, ซนั คอนวั ร์ และค็อกคาเทล นอกจากสสี นั ทีสวยงามดึงดดู ทกุ สายตาแล้ว ก็ยงั มเี หตผุ ลอี กนานปั ประการทีทําให้ผ้คู นเลือกทีจะเลียงนกในบา้ น แทน การเลียงสนุ ขั และแมว 1.มคี วามฉลาดเฉลียว 2.เหมาะเลียงในทีพกั อาศัย 3.เปนสตั วร์ กั สะอาด 4.ชอบคลกุ คลีกับคน 5.ค่าอาหารไมแ่ พง 6.มอี ายุยนื

6 จุ ด เ ริ ม ต้ น ข อ ง ก า ร เ ลี ย ง เ ต่ า เต่านนั ถือเปนสตั วท์ ีมคี วามผกู พนั กับความเชอื มา อยา่ งยาวนาน วา่ เลียงเต่าแล้วจะทําให้อายุยนื เหมอื น เต่า สขุ ภาพแขง็ แรง ปราศจากโรคภัย ราํ รวย เพราะ เต่าเปนสตั วท์ ีอายุยนื เคลือนไหวชา้ ทําให้ชวี ติ ก้าวไป อยา่ งสขุ ุมรอบคอบ รูจ้ ักประเภทของเต่าก่อนทีจะรบั มาเลียง. เต่าทะเล เต่าบก และเต่านาํ จืดคือ อะไร? ชอื มนั ก็ขนึ อยูก่ ับบรเิ วณทีมนั อยูน่ นั แหละ! เต่าทะเล: ในอเมรกิ า เต่าตนกุ ็จัดอยูใ่ นจําพวกเต่าทะเลาด้วย ไมว่ า่ จะมาจาก บกหรอื นาํ ก็ตาม สว่ นในอังกฤษและออสเตรเลีย เต่าทะเลก็คือพวกเต่าทีอยู่ ในนาํ ทะเลเท่านนั สาํ หรบั ในประเทศไทย เต่าตนกุ ็จัดเปนเต่าทะเลเชน่ กัน เต่าบก: ในอเมรกิ าและอังกฤษ หมายถึงเต่าทีมกั จะอยูบ่ นบกเปนสว่ นใหญ่ ขณะทีในออสเตรเลีย (ทีไมม่ เี ต่าอยูบ่ นบก) จะหมายถึงเต่านาํ จืด สาํ หรบั ใน ประเทศไทยนนั หมายถึงเต่าทีอยูบ่ นบก เต่านาํ จืด: ในอังกฤษ หมายถึงเต่าทีอยูก่ ับนาํ จืดเหมอื นประเทศไทย ขณะทีใน อเมรกิ า หมายถึงเต่านาํ หลังเพชร ทีมชี อื วทิ ยาศาสตรว์ า่ Malaclemys terrapin นนั เอง บทความนนี ยิ ามตามสมาคมเต่าแห่งอเมรกิ า

7 ทํา ไ ม ถึ ง เ ลี ย ง ป ล า การเลียงปลา ถือเปนอาชพี ทีสาํ คัญไมแ่ พอ้ าชพี การปลกู ปลกู พชื ต่างๆ โดยเฉพาะเกษตรกรทีอาศัยอยูใ่ กล้แมน่ าํ ลําคลองหรอื พนื ทีทีนาํ ชลประทานเขา้ ถึง รวมถึงพนื ทีนา ต่างๆ ทีมบี อ่ กักเก็บนาํ ตามฤดกู าล ซงึ สามารถสรา้ งรายได้ อยา่ งมากต่อป นอกจากนนั การเลียงปลาถือเปนการสรา้ ง แหล่งอาหารสาํ หรบั การบรโิ ภคในแต่ละวนั ทีนอกเหนอื จาก การนาํ ไปจําหนา่ ย การเลียงปลา หมายถึง การทําให้ปลามกี ารเจรญิ เติบโต และ เพมิ ขนาดนาํ หนกั ให้ได้ตามเปาหมาย ด้วยการให้อาหาร และ การดแู ล นอกเหนอื จากการปล่อยเลียงตามธรรมชาติ การเพาะพนั ธุป์ ลา หมายถึง การขยายพนั ธุ์ และเพมิ จํานวน ของปลาให้มปี รมิ าณมากขนึ ด้วยการจัดการการผสมพนั ธุ์ ของไข่ และการอนบุ าลให้ลกู ปลาสามารถเติบโตได้

8 ประเภทของมด เ ลี ย ง ม ด มด สงิ มชี วี ติ ตัวจิว (บางทีไมจ่ ิวนะ ตัว 2-3 CM ก็ม)ี ทีมอี ยูท่ ัวโลก มพี ฤติกรรมอยูเ่ ปนสงั คมชนชนั มวี รรณนะ หลักๆอยู่ 3 วรรณนะ คือ วรรณนะสบื พนั ธ์ (นางพญา, มดตัวผ้)ู มดทหาร และ มดงาน

9 ก ร ะ ต่ า ย ถึงจะได้ชอื วา่ เปนสตั วอ์ ่อนแอและเปราะบางมาก ๆ จนอาจจะ ตายได้ตลอดเวลา แต่ความนา่ รกั ตาวาว ขนปุกปุยของ กระต่าย ก็ยงั ทําให้ หลาย คนเลียงไวเ้ ปนเพอื นสาํ หรบั หนมุ่ ๆ สาว ๆ ทีเลิ ฟกระต่ายเราขอแนะนาํ วา่ ควรหาพนื ทีนอกบา้ นซงึ มอี ากาศ ถ่ายเทและไม่ รอ้ นให้เค้าอยู่ เพราะกระต่ายได้ชอื วา่ เปนยอดนกั ขุด ฉะนนั หากเลียงไวใ้ นบา้ นต้องทําใจวา่ มนั จะกัดแทะสงิ ของ ทกุ อยา่ งจนเสยี หาย นอกจากนฉี ีและอุนจิของ กระต่ายก็มกี ลิน แรงและอาจจะเปนแหล่งทีเพาะเชอื โรคเปนอยา่ งดีอีกด้วย 1. cottontail rabbit (พนั ธุห์ างฝาย) 2. snowshoe rabbit (รองเท้าหิมะ) 3. jack rabbit (แจ็คแรบ้ บทิ ) 4. domestis rabbit (กระต่ายเลียง)

10 กระรอก นีก็เปนอีกหนึงสัตว์ประเภทฟนแทะทีได้รับ ความนิยมเปน อันดับต้น ๆ เลยหละครับ กระรอก สายพั นธ์ุทีนิยมเลียงมาก ทีสุดคือ กระรอกสวน เนืองจากเลียงง่าย และมีนิสัยดุร้าย น้อยกว่ากระรอกสายพั นธ์ุอืน ๆ สาํ หรับผู้ทีคิดจะเลียงกระรอก ต้องไม่กลัวทีจะถูกกัดหรือถูกเล็บข่วน (หากลืมตัด เล็บให้เค้า) ต้องไม่กลัวเลอะเพราะกระรอกชอบฉียามทีมันไต่ตามตัวคุณ และทีสําคัญก็คือ ไม่กลัวบ้านพั ง เพราะเจ้ากระรอกน้อยมีนิสัย ชอบ แทะ หากคุณไม่มีเวลาดูแลมันรับรองว่า ข้าวของเครือง ใช้ในบ้านต้องถูกแทะจนพั งแน่

11 แ ฮ ม ส เ ต อ ร์ แฮมสเตอร์ สัตว์จาํ พวกฟนแทะ (Rodent) ขนาดเล็กทีได้รับความนิยมเพิ มขึนเรือย ๆ โดย เจ้าหนูแฮมสเตอร์จะตืนขึนมาวิงเล่นวงล้อหรือ กัด แทะสิงต่าง ๆ แล้วส่งเสียงดังนอกจากนี หากคุณไม่ได้อยู่บ้านทีอากาศเย็นสบายถ่ายเท แนะนําว่าไม่ควรเลียงหนูแฮมสเตอร์เพราะเค้า เปน สัตว์ไม่ชอบอากาศร้อนนะครับ

อ า ง อิ ง https://sites.google.com/site/satwleiyngsaenrak262/khwam-hmay-khxng-satw-leiyng https://www.fisheries.go.th/fpo-angthong/know_f_5.htm


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook