วิฑูรย์อ.ทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและ

ทักษะดิจิทัลของนกั บริหารภาครฐั โครงการอบรมหลกั สูตร ผูบ้ รหิ ารการสาธารณสุขระดับกลาง รุ่นท่ี ๓๖

2 นวตั กรรม Innovation นวตั กรรม (Innovation) หมายถงึ ความคิดใหม่ เทคนคิ วธิ กี ารใหม่ หรือ ส่ิงใหม่ ท่สี ามารถนามาใช้ใหเ้ กิดประโยชนไ์ ดน้ วตั กรรมนน้ั เป็นส่งิ ท่สี ร้างความรูส้ กึ ว่าเปน็ ของใหมส่ าหรับกลุ่ม ผมู้ ีศักยภาพในการยอมรบั นวัตกรรม ศาสตราจารย์ ดร.กฤษมนั ต์ วัฒนาณรงค์ ไดเ้ สนอแนวทางการกาหนดว่าอะไรเปน็ นวตั กรรม ดังน้ี 1. เป็นสง่ิ ใหมท่ ่ีไม่เคยมมี ากอ่ น 2. เปน็ สิ่งทม่ี อี ย่แู ล้วแต่ไมไ่ ด้นามาใช้ประโยชน์ ต่อมาได้มกี ารนามาใชป้ ระโยชน์ 3. เปน็ สิง่ ที่มอี ยู่แลว้ และเคยนามาใช้ในชว่ งเวลาหนึ่งแต่ไม่ไดร้ ับความนิยม ตอ่ มานามาใช้ใหมภ่ ายใตส้ ถานการณ์และเงื่อนไขใหม่ทเี่ ปล่ียนไป 4. เป็นส่งิ ทมี่ ีอยแู่ ล้วและใช้ได้ดใี นสังคมอื่น หรือประเทศอนื่ แล้วนามาใชใ้ นอกี สงั คมหนึ่งหรอื อกี ประเทศหนงึ่ 5. เปน็ การพฒั นาปรับปรงุ จากของเดิมทีม่ ีอย่ใู ห้มลี กั ษณะต่างจากตน้ แบบเพอื่ ใหเ้ หมาะสมกับการเปลย่ี นแปลงของสงั คม

เทคโนโลยี Technology

นวัตกรรม & เทคโนโลยี นวตั กรรม นวัตกรรมน้นั จะกลายเป็น เม่ือนวัตกรรม เทคโนโลยี ไดร้ ับการยอมรับนาไปใช้จนเป็นปกตวิ ิสัยแลว้ ไมม่ ีความรูส้ กึ ว่าเปน็ ของใหม่อีกตอ่ ไป ซ่งึ อาจจะอยใู่ นรูปแบบของ อุปกรณ์ (Hardware) วสั ดุ (Software) หรอื เทคนคิ วธิ ี (Techniques)



เทคโนโลยดี ิจิทลั Digital literacy

เป็นกระบวนการใช้เทคโนโลยีในการเปลีย่ นแปลง หรือสรา้ งกระบวนการทางาน หรือกระบวนการบริหารองคก์ ร







แนวโนม้ นวตั กรรมและเทคโนโลยี Innovation and Technology Trends

12 ลกั ษณะของการเผยแพร่และการเรียนรู้นวัตกรรมมีอยู่ 5 ประการ ดงั น้ี Diffusion of Innovation 1. Innovation ความคิดใหม่ เทคนคิ วิธกี ารใหม่ หรอื ส่งิ ใหม่ท่สี ามารถนามาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนไ์ ด้นวัตกรรมน้นั 2. Communication Channels เปน็ สิ่งทสี่ ร้างความรู้สกึ ว่าเปน็ ของใหมส่ าหรบั กล่มุ ผ้มู ีศกั ยภาพในการยอมรบั นวัตกรรม 3. Time ชอ่ งทางของการสือ่ สารทีใ่ ชม้ าก คือ การใช้สอ่ื สารมวลชน แต่การสื่อสารระหว่างบคุ คลแบบปากต่อปาก 4. Social System ยังเป็นทย่ี อมรับและใช้ไดด้ อี ยู่ 5. Adoption เวลาหรือเงื่อนไขของเวลา ในแต่ละข้ันตอนของการเผยแพร่และยอมรับ อาจมีช่วงของระยะเวลาในแตล่ ะขน้ั แตกต่างกัน จาเปน็ ตอ้ งมกี ารศึกษาและคาดการณไ์ ว้สาหรบั งานการเผยแพรน่ วัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นระบบสงั คมที่มีธรรมชาติ วฒั นธรรมของคนในสงั คมท่ีจะนานวัตกรรมและเทคโนโลยไี ปใช้ ฐานะทางเศรษฐกจิ ของคนในสังคมโดยรวม และกลุ่มคนทม่ี ีฐานะทางเศรษฐกจิ สงั คมทแ่ี ตกตา่ งกนั สามารถยอมรบั นวัตกรรมไดแ้ ตกต่างกัน เป็นกระบวนการท่เี ก่ียวขอ้ งกับมนุษยใ์ นการยอมรบั (หรอื ปฏเิ สธ) นวตั กรรมและเทคโนโลยี โดยมีพนื้ ฐานทางด้านจิตวทิ ยา และ สงั คมวทิ ยา เป็นองคค์ วามรู้สาคญั ในการอธบิ ายกระบวนการ ในการยอมรบั (หรอื ไม่ยอมรับ)

ทฤษฎกี ารเผยแพร่นวัตกรรม ความเป็นนวัตกรรม ในเอกตั บคุ คล (The Individual InnovativenessTheory) ทฤษฎีนี้แสดงให้เห็นถึงการกระจายตัวของกลุ่มผู้ยอมรับนวัตกรรม โดยกลุ่ม Innovators จะเป็นกลุ่มท่ีรับนวัตกรรมทันที คนกลุ่มน้ีมี ทฤษฎีนี้จะแสดงให้เห็นถึงบุคคลที่ได้รับการกล่อมเกลา ลักษณะกล้าเส่ียง และมีความเป็นนักนวัตกรสูง จึงมีความพร้อมจะยอมรับ และมีศักยภาพที่จะรับได้อย่างรวดเร็ว ซ่ึงจะมีเพียง 2.5% ให้เป็นนักนวัตกร จะยอมรับนวัตกรรมเร็วกว่าผู้ท่ีไม่ได้รับ ของคนท้ังหมดที่จะใช้นวัตกรรมนนั้ ต่อมาเป็นกลุ่ม Early Adopters กลุ่มน้เี ป็นกลุ่มท่ียงั มีความเชื่องช้าในการรับนวัตกรรมกว่าพวกแรก หรือรับการกล่อมเกลามาน้อย ดังภาพกราฟรูประฆัง แต่เป็นกลุ่มที่ยังไวต่อการรับนวัตกรรมหลังจากทราบว่ามีกลุ่ม Innovators ได้ยอมรับไปแล้ว กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆ ตามมาท่ียอมรับ แสดงการกระจายของความเป็นนวัตกรรมในเอกัตบุคคล นวัตกรรม ซึ่งจะมีประมาณ 13.5% สว่ นกลุ่ม Early Majority และกลุ่ม Late Majority มีกลุ่มละเท่าๆ กัน รวมกันเป็น 68% นนั้ กลุ่มแรก และเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีศักยภาพในการยอมรับนวัตกรรม จะรับนวัตกรรมก่อนกลุ่มหลัง แต่เม่ือรวมกันแล้วเป็นกลุ่มใหญ่ที่จะทาให้เห็นนวัตกรรมได้ถูกนาไปสู่การปฏิบัติในสังคม กลุ่มนี้จะดูที ท่า ต า ม ท ฤ ษ ฎี น้ี แ ย ก ค ว า ม เ ป็ น น วั ต ก ร ร ม ใ น เ อ กั ต บุ ค ค ล และทิศทางก่อน เมื่อเห็นว่าการยอมรับนวัตกรรมจะเกิดประโยชนจ์ ึงตัดสินใจยอมรับนวัตกรรมนั้น และกลุ่มสุดท้าย Laggards มีจานวน ออกเปน็ 5 กล่มุ 16% เป็นกลุ่มทต่ี อ่ ตา้ นนวัตกรรม ถ้าจะยอมรับกย็ อมรบั อย่างเสียมไิ ด้ หรืออาจจะไมย่ อมรับเลยตลอดไป 13

























แนวโน้มการเรยี นรดู้ จิ ิทัล “MAGICS” มาจาก เทคโนโลยที ส่ี าคัญ 6 ประเภท 1. M – Mobile & MOOC คือ การเรยี นรู้ทอ่ี าศัยอุปกรณท์ ่ีสามารถพกพาได้















แนวโน้มการเรยี นรดู้ จิ ทิ ลั “MAGICS” มาจาก เทคโนโลยที ี่สาคญั 6 ประเภท 2. A – Analytics การนาไอทีมาใช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมลู สารสนเทศตา่ ง ๆ

SDU SMART

SDU SMART

แนวโน้มการเรยี นรู้ดิจิทลั “MAGICS” มาจาก เทคโนโลยที ี่สาคัญ 7 ประเภท 3. G – Gamifications หมายถงึ การนาเนอ้ื หาการเรยี นรูไ้ ปออกแบบในส่งิ แวดลอ้ มของเกม



แนวโน้มการเรียนร้ดู ิจิทลั “MAGICS” มาจาก เทคโนโลยที ี่สาคัญ 6 ประเภท 4. I – Internet of (Every) Thing(s) หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆ (ในที่น้ี คือ “things”) มีการฝังสมาร์ทเซนเซอร์ หรือ ชิปไว้เพื่อการเช่ือมต่อระหว่างกัน ผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยท่ีอปุ กรณ์น้ันสามารถสง่ ผ่านข้อมูล/สารสนเทศต่างๆ ระหว่างกันเพอื่ เพ่ิมประโยชน์ และคุณค่าของบริการ โดยแลกเปล่ียนข้อมูลกับผู้ผลิต กับ โอเปอเรเตอร์และ/หรือกับอุปกรณ์อ่ืนๆ ท่ีมีสมาร์ท เซนเซอร์ หรอื ชพิ ฝังตวั อยู่

แนวโน้มการเรียนรูด้ ิจิทลั “MAGICS” มาจาก เทคโนโลยีท่สี าคญั 6 ประเภท 5. C – Cloud For Learning หมายถงึ รปู แบบการใหบ้ รกิ าร ในลักษณะการแบ่งปนั ทรพั ยากร แอพพลิเคชนั่ หรือ ข้อมลู ตา่ งๆ

แนวโนม้ การเรียนรดู้ ิจทิ ลั “MAGICS” มาจาก เทคโนโลยีทสี่ าคญั 6 ประเภท 6. S – Social Media หมายถึง สือ่ สงั คมออนไลน์ ท่อี นญุ าตให้ผูใ้ ช้มีสว่ นรว่ มในการเปน็ ผทู้ ่สี รา้ งเนื้อหา (Content) ดว้ ยข้อความ รูปภาพกราฟิก เสียง หรอื คลิปวดี ีโอในอนาคต

ทกั ษะความเขา้ ใจและใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล Digital Literacy วทิ ยาลัยการสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวดั ตรงั