The CUISINE More recipes and cooking tips for you EASY & YUMMY meals for anyone from everywhere
Table Page Thai Food........................................ 1 Tom Yum Kung 2 Roasted Chicken 3 Thai Basil Pork 4 Papaya Salad 5 Fried Rice 6 International Food..................... 7 Spaghett 8 Egg Benedict 9 Steak 10 Wonton Soup 11 Korean Fried Chicken 12 Bakery......................................... 13 Strawberry Shortcake 14 Soft Cookies 15 Cheese Pie 16 Fruit Tart 17 Blondie 18
All About Thai Food 1
2 Tom Yum Kung ต้มยำกุ้ง อาหารไทยภาคกลางประเภทต้มยำ ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานไปทุกภาคในประเทศไทย เป็นอาหารที่รับประทานกับข้าว มีรสเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลักผสมเค็มและหวานเล็กน้อย ส่วนผสม วิธีทำ กุ้งกุลาดำตัวใหญ่ หรือกุ้งแม่น้ำ 1.แกะเปลือกกุ้งผ่าเอาเส้นดำออกล้างให้สะอาด หั่น เห็ดฟางผ่าครึ่ง เครื่องต้มยำ พริก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและเห็ด พริกขี้หนู ให้พร้อม ใบมะกรูดฉีกเอาก้านออก ข่าหั่นแว่น 2.นำน้ำซุปไปตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องต้มยำลงไปให้ ตะไคร้ทุบแล้วหั่นท่อน หมด พอเดือดอีกครั้งก็ใสกุ้งที่เตรียมไว้ลงไปเลย ผักชี โรยหน้า น้ำพริกเผา 1 ช้อนชา 3.หลังจากใส่กุ้งลงไปแล้ว ให้ใส่ น้ำตาล น้ำปลา พริก มะนาว 1 ลูก ขี้หนู พริกเผา ใครชอบรสแบบไหนใส่ลงไปตามชอบ กะทิหรือนมข้นจืด 1/2 ถ้วย ตามด้วยเห็ดฟาง น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 4. ปิดเตาแล้วค่อยปรุงด้วยมะนาว(เคล็ดลับการบีบน้ำ เกลือ 1 หยิบมือ มะนาว ไม่ควรใส่มะนาวในน้ำที่กำลังเดือด เพราะจะ น้ำซุป ทำให้มะนาวและน้ำซุปมีรสชม) โรยเกลือนิดหน่อย เพื่อดึงรสเปรี้ยวหวานเค้มให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น 5.จัดชามเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยผักชี เพิ่มความหอม
3 Panaeng พะแนงไก่ อาหารไทยประเภทแกงข้นที่เน้นรสชาติ วิธีทำ เค็มและหวาน โดยมีส่วนผสมหลักของ เครื่องแกง คือ พริก ข่า ตะไคร้ ราก 1.เตรียมส่วนผสมทั้งหมดให้พร้อม ผักชี เมล็ดผักชี เมล็ดยี่หร่า กระเทียม 2.ตั้งกระทะเปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน อบเชย และเกลือ ใส่เนื้อสัตว์ได้ทั้งเนื้อ แบ่งกะทิใส่ลงไปเล็กน้อยแล้วใส่พริกแกง วัว เนื้อหมู เนื้อไก่ และอื่น ๆ พะแนงลงไป 3.ผัดไปเรื่อยๆค่อยๆเติมกะทิลงไปทีละน้อยๆ ส่วนผสม เพื่อดึงความมันของกระทิออกมา ผัดจนแตกมันส่งกลิ่นหอม สีสวย อกไก่หั่นชิ้นบาง 300 กรัม 4.ใส่อกไก่ลงไป เติมน้ำตาล และตามด้วยน้ำปลา พริกแกงพะแนง 50 กรัม ผัดคลุกเคล้าจนเนื้อไก่สุกดี กะทิสด 270 กรัม 5. เบาไฟ เคี่ยวต่อไปอีกเล็กน้อย น้ำตาลโตนด 1.5 ช้อนชา 6.โรยด้วยพริกแดงและใบมะกรูด น้ำปลา 1 ช้อนชา ใบมะกรูดซอย พริกแดงซอย
4 Roasted Chicken ไก่ย่าง ไก่ย่าง เป็นอาหารของภาคอีสานและเป็น อาหารยอดนิยมของคนไทย ซึ่งในแต่ละ พื้นที่จะมีสูตรเฉพาะแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่มักจะนิยมทำให้หนังกรอบ เนื้อนุ่ม และมีความหอมจากเครื่องเทศ ส่วนผสม วิธีทำ สะโพกไก่ 3 ชิ้น (หรือไก่ส่วนอื่น ๆ ตามชอบ) 1. โขลกกระเทียม พริกไทยดำ และ กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ รากผักชีเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ อ่างผสม ร ากผักชีสับหยาบ 2 ราก 2. ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอส ซ อสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ พริก น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอกลงใน ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมที่โขลกไว้ คนผสมให้เข้ากัน ซ อสพริก 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นใส่สะโพกไก่ลงไปคลุกเคล้าให้ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ทั่ว หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ ชั่วโมง 3. นำไก่ไปย่างบนตะแกรง หรือใน กระทะด้วยไฟอ่อน จนไก่สุกทั่วทั้ง สองด้าน หรือนำไปอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ จากนั้นนำมา จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
5 Thai Basil Pork กะเพราหมูสับ เมนูอาหารสิ้นคิดที่ฮิตติดลมบนอย่าง “ผัดกะเพราหมูสับไข่ดาว” ที่ไม่มีร้านตามสั่งไหนไม่มีเมนูนี้! ถ้าอยากรู้สูตรผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวเด็ด ๆ แล้วก็ตามมาเลย! ส่วนผสม หมูสับ 300 กรัม ใบกะเพรา 50 กรัม พริกแดงจินดา 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำมัน (สำหรับผัดกะเพรา) 1 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำมัน (สำหรับทอดไข่ดาว) ½ ถ้วยตวง วิธีทำ 1.ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้พอร้อน แล้วใส่กระเทียม และพริกแดงจินดาลงไปผัดจนส่งกลิ่นหอม จาก นั้นใส่หมูสับลงไปผัด 2.เมื่อหมูเริ่มสุกให้ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม น้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดจนทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้สลดลงเล็กน้อย
6 Papaya Salad ส้มตำ ส้มตำมาจากการนำคำสองคำมาผสมกัน คำว่า “ส้ม” มาจากภาษาท้องถิ่นหมายความว่า รส เปรี้ยว ส่วน “ตำ” มีความหมายว่าการใช้สากหรือ สิ่งของอื่น ๆ บุบหรือกระแทกลงไป ส่วนผสม 1.มะละกอดิบสับ 1 – 2 ถ้วย 2.มะเขือสีดาฝานเป็นซีกๆ 2-3 ลูก 3.พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 4.กระเทียมอย่างละ 2-3 เม็ด 5.ถั่วฝักยาว 1 ฝัก 6.ถั่วลิสงคั่ว ตามชอบ 7.กุ้งแห้ง ตามชอบ 8.น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ 9.น้ำตาลปี๊ บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ 10.น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ใส่กระเทียม พริกขี้หนูใส่ลงมาบุบพอแตก 2.ใส่มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ตามด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ เคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 3.ใส่มะละกอลงมาเคล้าให้เข้ากันอีกครั้งเบาๆ ตักใส่จาน โรยด้วยถั่วลิสงตามชอบ
7 Fried Rice ข้าวผัดไก่ ข้าวผัด เป็นอาหารจานเดียวแบบพื้นฐานของเอเชีย เป็นการนำข้าวสวยลงไปผัดคลุกกับซอส หรือเครื่องปรุงรสต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติ เช่น ซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก, ซีอิ๊วดำ หรือซอสถั่ว เหลือง และมีการใส่เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ลงไป เช่น หมู, ไก่, ปลาหมึก, ปู และกุ้ง ส่วนผสม วิธีทำ ไก่ 200 กรัม 1. หั่นไก่ ให้เป็นชิ้นพอดีคำ และ ปลอกแล้วหั่นหอมใหญ่ ข้าวแช่เย็น1 ถ้วย เป็นลูกเต๋าเล็กๆ และ ซอยผักชี ต้นหอม เป็นชิ้นเล็กๆ หอมใหญ่ 1 ลูก เพื่อโรย ต้นหอม 3 ต้น 2. ซอยกระเทียม แล้วสับให้ได้กลิ่น ผักชี 2 ต้น 3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อน ใส่กระเทียม ให้เหลือง พริกขี้หนู 4 เม็ด จากนั้นใส่ไก่ลงไป ผัดจนสุก ตามด้วยซอสหอยนางรม มะนาว 1 ลูก 4. ใส่หอมใหญ่ และ ใส่ซอสหอยนางรม ผัดหอมให้ใส น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ จากนั้น ใส่ไข่ รอสักครู่จึงคนให้ทั่ว น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ 5. ใส่ข้าว แล้วผัดต่อ กระเทียม 4 กลีบ 6. ทำการปรุงรส ใส่น้ำปลา น้ำตาล ทำการชิมตามชอบ ซอสน้ำมันหอย2 ช้อนโต๊ะ 7. ใส่ผักที่เตรียมไว้ทั้งหมด แล้วปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ ไข่ 2 ฟอง 8. ทำน้ำปลาพริก โดย ซอยพริกขี้หนู ใส่ในน้ำปลา เสิร์ฟ พร้อม มะนาวฝานซีก
8 International Cuisine
Spaghetti 9 สปาเก็ตตี้ สปาเกตตี คือเส้นพาสตาที่ยาว บาง แข็ง และเป็นทรงกระบอก สปาเกตตีเป็นอาหารหลักในอาหาร อิตาลีแบบดั้งเดิม ส่วนผสม วิธีทำ 1. เส้นสปาเก็ตตี้ 1.ต้มเส้นสปาเก็ตตี้ ในน้ำเดือดที่ผสม 2.หัวหอม 1 ลูก น้ำมันพืชและเกลือ ประมาณ 15-20 3.มะเขือเทศ 1 ลูก นาที จากนั้นนำเส้นสปาเก็ตตี้ที่ผ่านการ 4. เนยจืด ต้มแล้ว ไปผ่านในน้ำเย็นจัด ยกขึ้นพักไว้ 5.หมูสับ 1 ถ้วย ในกระชอน คลุกเคล้าด้วยน้ำมันพืชเล็ก 6.มะเขือเทศ 1/2 ถ้วย น้อย 7. ซอสปรุงรส 8. พริกไทย 2.หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำไป 9.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ปั่ นด้วยเครื่องปั่ นจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำ 10. น้ำมันพืช ขึ้นพักไว้ 3.ตั้งกระทะบนเตา เมื่อร้อนแล้วจึงเติม น้ำมัน แบ่งหอมหัวใหญ่บดละเอียดมา 1/4 ส่วน ผัดกับน้ำมันจนหอม 4.เติมหมูสับลงไป ผัดจนสุก จากนั้นตาม ด้วยเนื้อมะเขือเทศปั่ น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หอมหัวใหญ่บดละเอียด (3/4 ส่วน) และเกลือป่นเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ เข้ากัน 5.เคี่ยวส่วนผสมจนเริ่มงวด หรือเริ่มหนืด สักเล็กน้อย ชิมรสชาติ ซึ่งอาจปรุงเพิ่ม ได้ตามความชอบ 6.ยกลงจากเตา จัดจาน เพิ่มกลิ่นหอมๆ ให้ กับจานนี้ด้วยการเหยาะออริกาโนสักเล็ก น้อย
10 Egg Benedict “ไข่เบเนดิกต์” เป็นอาหารฝรั่งที่ทำได้ไม่ยาก อย่างที่คิดแถมวัตถุดิบที่ใช้ก็ไม่ได้หายาก สามารถหาซื้อได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ส่วนผสม ไข่ไก่ 1-2 ฟอง น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ อิงลิชมัฟฟิน เบคอน 4 ชิ้น ซอสฮอลแลนเดซ ไข่แดง 3 ฟอง เนย 40 กรัม น้ำมะนาวเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ พริกไทย วิธีทำ 1.เริ่มจากการทำซอส โดยการทำไข่ให้สุกแบบใช้ไอน้ำ ตั้งหม้อน้ำ และวางชามไข่แดงลง ไปด้านบน โดยก้นของชามต้องไม่โดนน้ำ ใช้ตะกร้อมือตีไข่วนไปเรื่อยๆ อย่าให้ไข่จับตัว เป็นก้อน 2.ใส่มะนาวลงไปในชาม แล้วคนต่อไปเรื่อยๆ ตามด้วยเนยและคนต่อไปเรื่อยๆ จนเริ่ม เป็นเนื้อครีม จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย เสร็จแล้วพักไว้ 3.ทอดเบคอนให้กรอบไม่เหลือมัน จากนั้นวางพักไว้ 4.ต่อมาคือการทำไข่ลวก เริ่มจากการตั้งน้ำให้ร้อน แล้วเทน้ำส้มสายชูลงไป คนให้น้ำวน แล้วตอกไข่ลงไป คนน้ำต่อ ให้ไข่ขาวหุ้มไข่แดง เมื่อได้ที่แล้วให้นำออกมาพักไว้ 5.หั่นครึ่งอิงลิชมัฟฟิน จากนั้นวางเบคอน ตามด้วยไข่ลวก และปิดท้ายด้วย ซอสฮอลแลนเดซ
Steak 11 สเต็กเนื้อ เนื้อริบอายหมักกับกระเทียม เกลือ พริก ไทยดำ และน้ำมันมะกอก นำไปย่าง รับ ประทานกับซอสชีมีชูรี ซึ่งเป็นซอสสีเขียวที่ โดดเด่นด้วยกลิ่นใบพาร์สลีย์ ผักชี และมีกลิ่น รสเบาๆ ของพริกขี้หนู ส่วนผสม เนื้อวัวส่วนริบอายน้ำหนัก 300 กรัม 1 ชิ้น เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบเล็กน้อย น้ำมันมะกอกเล็กน้อย กระเทียมอบสำหรับเสิร์ฟ ส่วนผสมซอสชีมีชูรี ใบผักชี 1/2 ถ้วย ใบพาร์สลีย์ 1/2 ถ้วย น้ำมันมะกอก 3/4 ถ้วย กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1/4 ช้อนชา พริกขี้หนูเขียว (กรีดเมล็ดออกสับหยาบ) 1 ช้อนชา พริกหวานสีเขียวสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ หอมหัวใหญ่สีแดงสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ทำซอสโดยปั่ นผักชี พาร์สลีย์ น้ำมันมะกอก กระเทียม และเกลือเข้าด้วย กันให้พอละเอียด ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด คนให้เข้ากัน ชิมรส พักไว้ 2.ปรุงรสเนื้อวัวด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก ย่างในกระทะสำหรับ ย่างจนสุกตามชอบ เสิร์ฟพร้อมซอสชีมีชูรีและกระเทียมอบ
12 ถ้าเบื่อกินก๋วยเตี๋ยว อาหารจานเดียว Wonton Soup ลองมาทำเกี๊ยวน้ำกินเองบ้างดีไหม เกี๊ยวน้ำ วิธีทำหมูหมักน้ำมันงา สำหรับน้ำซุป ใส่ผงปรุงรสเพื่อความง่ายใครจะ วิธีทำ แปลงร่างเป็นเกี๊ยวน้ำกุ้งหรือเกี๊ยว น้ำไก่ก็ตามสะดวก ส่วนผสม 1.หมูสับ 250 กรัม 1.ใส่หมูสับ ตามด้วยกระเทียม น้ำตาลทราย ผักชี พริกไทย 2.กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ ป่น น้ำมันงา น้ำมันหอย ซอสปรุงรส และแป้งข้าวโพด 3.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน หมักไว้ในตู้เย็น 10 นาที 4.ผักชีสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ 5.พริกไทยป่น 1/3 ช้อนชา 2. ตัดแผ่นเกี๊ยวเป็นทรงกลม ตักส่วนผสมหมูสับวางตรง 6.ซอสปรุงรส 1+1/2 ช้อนโต๊ะ กลางแผ่นเกี๊ยว เอานิ้วแตะน้ำลูบขอบแผ่นเกี๊ยวแล้วพับ 7.น้ำมันงา 1 ช้อนชา จนขอบปิดสนิท พับขอบขึ้นมาเล็กน้อยพอสวย ทำจน 8.น้ำมันหอย 1 ช้อนชา แผ่นเกี๊ยวหมด 9.แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนโต๊ะ 10. แผ่นเกี๊ยว 3.ใส่เกี๊ยวลงไปต้มในน้ำเดือด ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ และ 11. ผักตามชอบ เอาผักไปลวกตามชอบ เสร็จแล้วเอามาราดน้ำเย็นเพื่อให้ 12. ผงก๋วยเตี๋ยวเรือสำเร็จรูป สีสวย 13. กระเทียมเจียว 4.ทำน้ำซุปโดยตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใส่ผงก๋วยเตี๋ยวเรือ สำเร็จรูป ใส่หมูสับปรุงรสที่เหลือลงไป ช้อนฟองออก ตักน้ำซุปใส่ถ้วย ตามด้วยผักลวก และเกี๊ยว ปรุงรสตาม ชอบ โรยกระเทียมเจียว
13 ไก่ทอดเกาหลี (Yangnyeom- Tongdak) หรือที่คนทั่วไปรู้จักว่า ไก่ทอด บอนชอน อาหารเกาหลีเมนูไก่ทอดคลุก ซอสรสจัดจ้านที่ฮอตฮิตกันไปทั่วบ้านทั่ว เมือง Korean Fried Chicken ไก่ทอดเกาหลี ส่วนผสม วิธีทำ 1.น่องไก่และปีกไก่ 1.5 กิโลกรัม 1. ล้างทำความสะอาดไก่ทั้งหมดด้วยน้ำ 2. เกลือป่น เย็น สะเด็ดน้ำ ใส่อ่างผสม 3. พริกไทยป่น 4. ผงกระเทียมป่น 2. ใส่เกลือป่น พริกไทยป่น และผงกระ 5.ไข่ไก่ 1 ฟอง เทียมป่น ลงไปคลุกให้เข้าเนื้อไก่ หมัก 6.แป้งชุบทอด 1/2 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 7.แป้งมัน 1/2 ถ้วย 8.ผงฟู 1 ช้อนชา 3.ระหว่างรอหมักไก่มาทำซอส โดยสับ 9.น้ำมันพืช (1 ลิตร) 1 ขวด กระเทียมให้ละเอียด แล้วนำไปเจียวกับ 10.กระเทียม 3-4 กลีบ น้ำมันในกระทะ ใช้ไฟอ่อน ๆ 11. ซอสมะเขือเทศ 1/3 ถ้วย 12.โคชูจัง 1/4 ถ้วย 4.เติมซอสมะเขือเทศ น้ำผึ้ง โคชูจัง และ 13.น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย น้ำส้มสายชู ลงไปผัดผสมให้เข้ากัน ปิด 14.น้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 ช้อนโต๊ะ ไฟ เตรียมไว้ 15. งาขาว 5. ผสมแป้งทอดกรอบกับแป้งมันและ ผงฟูให้เข้ากัน 6.นำไก่ลงไปคลุกกับส่วนผสมแป้งให้ทั่วทั้งชิ้น ให้แป้งเคลือบไก่จนขาว 7. นำไก่ลงทอดในหม้อ ใช้ไฟปานกลาง ทอดนานประมาณ 10 นาที แล้ว ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นวางพักทิ้งไว้อีก 10 นาที 8. นำไก่ลงทอดอีกครั้งโดยใช้ไฟแรงสุด ทอดจนไก่กรอบและมีสีสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน 9. นำส่วนผสมซอสที่เตรียมไว้ขึ้นตั้งไฟ จากนั้นนำไก่ที่ทอดไว้ลงไปคลุก ให้ซอสเคลือบไก่จนทั่วทั้งชิ้น สุดท้ายโรยงาขาวคั่วลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
14 B a k e r y T i m e
15 Strawberry Shortcake เค้กเนื้อละมุนเพิ่มความสดชื่นด้วยสต รอเบอร์รี่สดผลโต ตัดกับรสชาตินุ่มๆ ของครีมสดแท้ 100% แล้วราดด้วย ซอสสตรอเบอร์รี่ชุ่มฉ่ำ ส่วนผสม วิธีทำ ไข่ไก่ 2 ฟอง ที่อุณหภูมิห้อง 1.ตีไข่กับนํ้าตาล และวนิลาประมาณครึ่งนาที ค่อย ๆ นํ้าตาล 60 กรัม ใส่นํ้าตาลลงไป จากนั้นนำไปตีต่อบน double แป้งเค้กร่อน 60 กรัม boiler จนส่วนผสมอุ่นขึ้น วัดอุณหภูมิได้ 40 นมสด 20 กรัม ที่อุณหภูมิห้อง องศา จากนั้นยกลงแล้วตีต่อไปเรื่อยๆ จนส่วน วานิลลา 2-3 หยด ผสมฟูเบา นํ้ามันงาขาว 10 กรัม สำหรับนํ้าเชื่อม 2.เติมนมและนํ้ามันงาขาว ผสมพอเข้ากัน ใส่แป้ง นํ้าตาล 2 ช้อนโต๊ะ เค้ก ตะล่อมให้เข้ากัน นํ้าร้อน 3 ช้อนโต๊ะ เหล้า kirsch 1 ช้อนโต๊ะ 3.ทาเนยที่พิมพ์แล้วปูกระดาษไข เทส่วนผสมลงไป ตกแต่ง เคาะพิมพ์แรงๆ กันเค้กยุบตัว อบที่ 170 องศา สตรอว์เบอร์รี่ 400 กรัม เซลเซียสจนสุก ใช้เวลาประมาณ 23 นาที 4.เอาเค้กออกจากเตา ควํ่าพิมพ์บนตะแกรง 5. ตีเฮฟวี่ครีมที่เย็นจัดกับนํ้าตาลจนตั้งยอดอ่อน 6. ละลายนํ้าตาลในนํ้าร้อน แล้วเติมเหล้าลงไปค่ะ 7.แบ่งเค้กเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน ใช้แปรงทานํ้าเชื่อม ให้ทั่ว 8.ตักครีมใส่เค้ก ปาดให้เรียบพอประมาณ วางสต รอว์เบอร์รี่ลงไป แล้วโปะครีมอีกรอบ 9.วางเค้กลงไป โปะครีม ตกแต่งหน้าเค้กตามชอบ แช่เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง
16 Soft Cookies ซอฟต์คุกกี้ หากถึงงานเทศกาล หรือวัน พิเศษเมื่อไร ของขวัญของฝาก อันดับต้นๆ ที่นึกถึงอย่างแรก คือคุกกี้ สิ่งที่ทำให้คุกกี้นิ่ม แตกต่างจากคุกกี้กรอบทั่วไป คือ \"เนื้อสัมผัส ความฉ่ำเนย และความเข้มข้นปนหวานของ ช็อคโกแลตชิพ\" ส่วนผสม แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/4 ถ้วย ผงฟู 1/2 ช้อนชา เนยสด 125 กรัม น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย ไข่ไก่ 1 ฟอง กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา แมคคาเดเมียสับหยาบ 50 กรัม ช็อกโกแลตชิพ 50 กรัม วิธีทำ 1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175-180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ 2. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงฟูเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ 3. ตีเนยด้วยเครื่องตีแป้งจนขึ้นฟู เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป ตามด้วยไข่ไก่ ตีให้พอเข้ากัน (ไม่ต้องตีนาน) 4. ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลา ตีผสมจนเข้ากันดี จากนั้นใส่แมคคาเดเมียและ ช็อกโกแลตชิพลงไป คนผสมให้เข้ากันด้วยไม้พาย 5. บีบส่วนผสมคุกกี้ลงในถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ นำเข้าอบประมาณ 15 นาที จนคุกกี้สุกเหลือง พร้อมเสิร์ฟ
17 Cheese Pie ชีสพาย เมนูสุดคุ้นเคยที่ได้ยินกันเป็นประจำ ด้วรสชาติหวานหอมอร่อย อมเปรี้ยวจาก สตรอว์เบอร์รีนิดๆ บอกเลยโดนใจทุกวัย จะทำกินเล่นเองที่บ้านก็ง่ายแสนง่าย หรือ จะทำเป็นของขวัญแทนใจ หรือจะทำขายก็ปัง! ไม่ต้องมีเตาอบก็ทำได้ ส่วนผสม วิธีทำ บิสกิตหรือแครกเกอร์ 140 กรัม 1.บดตัวบิสกิตให้ละเอียด แล้วตามด้วยเนยละลาย เนยเค็ม 70 กรัม กับน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน น้ำตาลทรายครีม 1 ช้อนโต๊ะ ครีมชีส 220 กรัม 2.นำบิสกิตที่คลุกเคล้าเข้ากันดีแล้ว มาใส่ในพิมพ์ วิปครีม(แบบเป็นน้ำ) 130 กรัม ซึ่งจะใช้ถ้วย แก้ว หรืออะไรก็ได้ที่สะดวก แล้วกด น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม ตัวบิสกิตให้แน่นๆ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 110 กรัม 3.ตีครีมชีสแล้วตามด้วยน้ำตาลไอซิ่ง แล้วใส่โย เกิร์ตตามลงไป ตีให้เข้ากัน 4.ตีวิปครีมให้ตั้งยอด จากนั้นนำส่วนผสมในข้อ3ใส่ ลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน 5.นำตัวฐานบิสกิตที่แช่เย็นไว้ออกมา แล้วเทตัวครีม ที่ผสมเสร็จแล้วลงไป แช่ตู้เย็นทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง 6. ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอรี่สดและซอสสตรอว์เบอรี
Fruit Tart 18 ทาร์ตผลไม้ ส่วนผสม วิธีทำ แป้งทาร์ต 1.วอร์มเตาอบไฟ บน - ล่าง อุณหภูมิ 200 แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับไฟเป็น เกลือป่น ⅛ ช้อนชา 180 องศาเซลเซียส น้ำตาลทราย 50 กรัม 2.ร่อนแป้งอเนกประสงค์กับเกลือ เข้าด้วยกัน เนยจืด 120 กรัม 3.ใส่น้ำตาลทราย เนยจืด ไข่ไก่ และกลิ่นวานิล ไข่ไก่ 1 ฟอง ลา จากนั้นนวดให้เข้ากัน จากนั้นห่อด้วยฟิล์ม กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา ถนอมอาหาร และนำไปแช่เย็น 30 นาที ครีมคัสตาร์ด ไข่แดง 4 ฟอง 4.หยิบแป้งมาประมาณลูกปิงปอง ปั้ นเป็นลูก นมสด 500 มิลลิลิตร กลม ๆ และทำให้แบนประมาณ 1 มิลลิเมตร น้ำตาลทราย 150 กรัม เกลือป่น ½ ช้อนชา 5.นำไปใส่พิมพ์ทาร์ต และใช้ส้อมจิ้มแป้งทาร์ต เวลาอบแป้งจะไม่ให้แป้งพองขึ้นมา จากนั้น นำไปอบ 10 นาที แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ 6.ตีไข่แดง และน้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา เนยจืด 30 กรัม 7.ใส่แป้งข้าวโพด นมสด กลิ่นวานิลลา ตีเข้า หน้าทาร์ต ด้วยกัน จากนั้นนำไปตั้งบนหม้อที่มีน้ำเดือด สตรอว์เบอร์รี ตามชอบ 8.ตีเรื่อย ๆ จนหนืด จากนั้นใส่เนยจืดลงไป คน ให้เข้ากัน และยกออกจากเตา บลูเบอร์รี ตามชอบ 9. บีบคัสตาร์ดลงในแป้งทาร์ตที่อบเตรียมไว้ กีวี ตามชอบ ตกแต่งด้วยผลไม้ ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี ราสป์เบอร์รี ตามชอบ บลูเบอร์รี กีวี ราสป์เบอร์รี
19 Blondie บลอนดี้ Blondie (บลอนดี) หรือ blonde brownie เป็น ขนมทำเป็นรูป bar หรือก้อนสี่เหลี่ยม สีเหลือง ทอง เนื้อเค้กแน่นหนึบหนับ แต่ฉ่ำ รสชาติเหมือน คาราเมลหรือ butterscotch หน้าตาละม้าย คล้ายคลึงบราวนี ความแตกต่างคือ blondie ไม่มีส่วนผสมของช็อคโกแลตหรือโกโก้ ถ้าให้พูด สั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คือ บราวนีเวอร์ชั่นไม่ใส่ chocolate นั่นเอง ส่วนผสม วิธีทำ 226 กรัม เนยจืดละลาย (อุณหภูมิห้อง) 1.อุ่นเตาที่ 175 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์ 250 กรัม น้ำตาลทรายแดง สี่เหลี่ยมขนาด 8″ x 8″ ทาเนย ปูกระดาษไข 70 กรัม น้ำตาลทราย และทาเนยทับอีกรอบ 3 ฟอง ไข่ไก่ 2.ผสมเนยสดละลาย กับ น้ำตาลทราย และ 285 กรัม แป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน 4 กรัม แป้งข้าวโพด 3. ใส่ไข่ไก่และวนิลา 1/2 ชช ผงฟู 4.ผสมแป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพด ผงฟู 1/2 ชช เกลือ เกลือ 1 ชช วนิลา 5. ใส่ส่วนผสมของแห้งลงไปในส่วนผสม 115 กรัม ไวท์ช็อคโกแลตชิพ ของเหลว คนแค่พอเข้ากัน 130 กรัม ถั่วอัลมอนด์ 6.ใส่ไวท์ช็อคชิพและถั่วอัลมอนด์ คนเบา ๆ 7.เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยหน้าให้เรียบ 8.อบที่ 175 C ประมาณ 25-30 นาที บุ๊งใช้ เวลาอบ 28 นาที 9.พักบนตะแกรงจนเย็น ใช้มีดแซะขอบ เอา ออกจากพิมพ์ 10. ตัดเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: