๔๖ เป็นอย่างไรบ้างคะน้อง ๆ เข้าใจแล้วใช่ไหมคะ ว่าทำไมเราถึงเรยี กว่า “หลกั ส่ี” วันนี้พี่มีใบงานมาให้น้อง ๆ ลองทำกันด้วยนะคะ พี่จะให้น้อง ๆ อ่านเรื่องที่พวกพี่สองคนอธิบายข้างต้น แล้วให้นอ้ ง ๆ ลองดูว่าข้อมูลไหนเปน็ ขอ้ เทจ็ จริงและข้อมูล ไหนเป็นขอ้ คดิ เหน็ (อย่างละ ๒ ข้อ) ถา้ ทราบแลว้ ให้นอ้ ง ๆ นำขอ้ มูลไปเขียนลงในกรอบดา้ นลา่ งได้เลยค่ะ ขอ้ เท็จจริง ขอ้ คิดเห็น
๔๗ ใบงานที่ ๖ แมน่ าค คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านออกเสยี งเร่ือง “แมน่ าค” แลว้ ตอบคำถาม แมน่ าค ยายนาหญิงชราอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง ที่เขตสะพานสูง ยายนามีหลานชายหนึ่งคน ชื่อว่า “ต้า” เขาเป็นเด็กช่างสงสัย ต้าชอบฟังตำนานและเรื่องเล่าในสมัยก่อนมาก ต้าจะให้คุณยายเล่า เรื่องเหล่านี้ให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง เขาฟังอย่างตั้งใจและมักจะจดลงใส่ สมุดเลม่ โปรดอยเู่ สมอ วันหนึ่งต้าก็นึกอยากรู้เกี่ยวกับตำนานในชุมชนของตัวเอง จงึ บอกกับยายนาวา่ “คุณยายครับ ผมอยากรู้ตำนานในชุมชนของเราครับ คุณยาย ช่วยเลา่ ใหฟ้ ังสักหนง่ึ ตำนานไดไ้ หมครับ” ยายนาตอบว่า “ไดส้ หิ ลานรัก เดี๋ยวยายเลา่ ตำนานแมน่ าคให้ฟังนะ” “ในสมัยก่อนคนในชุมชนนั่งเรือไปพระโขนง ผ่านวัดมหาบุตร คนก็จะไปขอหวยกัน คนสมัยก่อนเล่าต่อกันมาว่า ย่านาคหรือที่เรา เรียกกันว่าแม่นาค เขาเสียชีวิตในขณะที่กำลังคลอดลูก หรือที่เขา เรียกกันว่า “ตายทั้งกลม” ส่วนศพก็นําไปฝังไว้ที่ต้นตะเคียน ๒ ต้น จึงทำใหเฮี้ยนมาก ในช่วงดึก ๆ แม่นาคก็จะออกมารอสามีที่ชื่อ “มาก” ที่ท่าน้ำเป็นประจำ แล้วเวิ้งแถวนั้นเป็นเวิ้งเขตพระโขนง เขาจึงเรียกแม่นาคว่า “แมน่ าคพระโขนง” ยงั ไงล่ะ” คำศพั ทน์ ่ารู้ ตายทั้งกลม หมายถงึ ตายทง้ั หมด, ตายท้ังแมท่ งั้ ลูก, เรยี กหญิงทีต่ ายพรอ้ มกับลกู ที่ อยใู่ นทอ้ ง ว่า “หญงิ ตายท้ังกลม”
๔๘ “ออ๋ ครบั ตำนานนีน้ า่ กลัวจังเลยนะครบั คุณยาย” ต้าตอบพรอ้ ม กบั มีสหี นา้ ท่หี วาดกลัว “ไม่ต้องกลัวนะลูก ตำนานเป็นสิ่งที่คนเขาเล่ากันมา สิ่งเหล่าน้ี ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคนนะ ถ้าไม่เชื่อเราก็ไม่ควรหลบหลู่ ไวว้ ันไหนว่าง ๆ ยายจะพาหลานไปดูศาลแม่นาคกนั นะ อยู่ไม่ไกลจาก บา้ นเราเลย” ยายนาตอบ “โอ้โฮ มีศาลแม่นาคด้วยเหรอครับยาย ผมอยากไปดูให้เห็นกับ ตาครับ เผื่อจะได้ถามเรื่องแม่นาคแถวนัน้ ด้วย วันไหนว่าง ๆ ยายพา ผมไปนะครบั ” ต้าตอบยายดว้ ยแววตาทตี่ ื่นเตน้ มากเป็นพิเศษ “ไดเ้ ลย ไว้ยายจะพาไปนะจ๊ะ” ยายตอบและย้ิมให้กับตา้ (ณัฐพร : ดดั แปลงจากการสัมภาษณ์นางใบด๊ะ หวังเจรญิ , รองประธานชุมชนบ้านมา้ เกาะล่าง, ๒๕๖๓)
๔๙ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ เขียนด้วยตวั บรรจงครึง่ บรรทดั ๑. จากเรื่อง “แมน่ าค” มใี ครบ้าง ๒. “ตา้ ” เปน็ เดก็ ที่มนี ิสยั อย่างไร ๓. แมน่ าคเสียชีวิตเพราะอะไร และนำศพไปฝังไว้ทไ่ี หน
๕๐ ๔. ทำไมแมน่ าคจงึ ไดช้ ่อื ว่า “แม่นาคพระโขนง” ๕. นักเรยี นเชอื่ เรอ่ื งตำนานแม่นาคหรือไม่ เพราะเหตุใด ๖. นกั เรียนรู้จกั ตำนานเร่อื งใดบา้ งและเชอ่ื ตำนานน้นั หรอื ไม่ เพราะเหตุใด (๑ ตำนาน)
๕๑ แบบฝึกหดั ที่ ๗ ดอนเมืองทีฉ่ ันรู้จกั คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขียนบรรยายเรือ่ งราวเกี่ยวกับเขตดอนเมือง ตามจนิ ตนาการ อยา่ งนอ้ ย ๑๐ บรรทัด พรอ้ มต้งั ช่ือเร่ือง
๕๒
๕๓ แบบฝกึ หดั ที่ 8 คำไหนถูก คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนทำเคร่อื งหมาย ✓ ในชอ่ งวา่ งหน้าคำท่เี ขยี นถูกต้อง ตวั อย่าง ✓ โบราณ โบราน ๑. แมน่ าค แมน่ าก ๒. ศาน ศาล ๓. ผลติ ภณั ฑ์ ผลดิ พันธ์ ๔. สูนเสีย สญู เสีย ๕. สกั สทิ ธิ์ ศักดสิ์ ิทธิ์ ๖. ต้นโพธิ์ ต้นโพธ์ ๗. ตัสรู้ ตรัสรู้ ๘. บันพบรุ ุษ บรรพบุรุษ ๙. พระภูมิ พระพมู ๑๐. อันเชญิ อญั เชญิ
๕๔ แบบฝึกหดั ท่ี ๙ คลองตาเลง่ คำชี้แจง ให้นักเรยี นอ่านเรือ่ ง “คลองตาเล่ง” แล้วตอบคำถาม คลองตาเล่ง ยายแก้วกำลังเตรียมอาหารเพื่อจะเอาไปทำบุญที่วัด จึงเรียก หลานสาวให้มาช่วยเตรียม “ใบตอง มาช่วยยายเตรียมอาหารหน่อย จ้ะหลาน” เม่อื ใบตองเดนิ มาถงึ ก็ไดน้ ่งั ลงขา้ ง ๆ คณุ ยาย “ยายจะให้ใบตองทำอะไรหรือคะ” ใบตองกล่าว “วันนี้ยาย จะทำน้ำพรกิ เอาพริกในตะกรา้ มาตำ” ยายแก้วบอกหลานสาว ในระหวา่ งท่ใี บตองตำพริกอยูน่ ัน้ ใบตองถามยายแกว้ วา่ “ยายจ๋า หนเู คยได้ยินวา่ คลองทีอ่ ยูต่ ิดบา้ นเรานเ้ี คยมีตำนาน จรงิ ไหมจะ๊ ยาย” “จริงแล้วหลานรัก อยากรู้ไหมว่าตำนานเล่าว่าอย่างไร” ยายแกว้ กล่าว “อยากจะ๊ ยาย” ใบตองตอบยาย “ในอดีตมีชายคนหนึ่ง ชื่อว่า “เล่ง” อาศัยอยู่บริเวณนี้ ตาเล่ง มีภรรยาและรักภรรยามาก แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วันหนึ่งตาเล่งอยาก จะไปหาภรรยา แต่ด้วยการเดนิ ทางเป็นไปอย่างยากลำบาก จึงทำให้ ตาเล่งไปหาไม่ได้ ด้วยความรักและคิดถึง ตาเล่งจึงขุดคลองเพื่อใช้ ในการเดินทางไปหาภรรยาที่วัดสามขาหรือวัดไตรรัตนาราม ปัจจุบัน ชาวบา้ นแถวน้จี งึ เรียกคลองนี้ว่า “คลองตาเลง่ ” คุณยายแกว้ เล่า เมื่อคุณยายแก้วเลา่ จบ ใบตองก็ตำน้ำพริกเสร็จพอดี ยายหลาน จึงพากันไปทำบุญที่วดั (ธนวัฒน์ : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณน์ างสงกรานต์ สุวรรณหงส์, ชาวบ้านเขตบางเขน, 2563)
๕๕ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี ๑. ใครคือผู้ขุดคลองตาเล่ง ๒. สาเหตขุ องการขดุ คลองตาเล่งคืออะไร และขุดคลองเพอื่ อะไร ๓. เมื่อนกั เรียนไดอ้ ่านเรื่อง “คลองตาเลง่ ” แลว้ ร้สู ึกอย่างไร ๔. จากเร่อื ง “คลองตาเลง่ ” นักเรียนไดข้ อ้ คิดอยา่ งไรบ้าง
ชดุ กจิ กรรมที่ ๔ รูจักคิด รจู ักเขยี น
๕๘ ใบความรู เรอ่ื ง การเขยี นเลาเรอ่ื ง การเขยี นเลา เร่อื ง การเขียนเลาเรื่อง อาจเปนการเขียนเกี่ยวกับประสบการณสวนตัวหรือ เรอื่ งท่ีนาสนใจ การเขียนประเภทนี้สวนมากใชการเขียนแบบบรรยาย และมีการเขียน แบบอธิบายประกอบ การเขียนเลาเรื่องที่เกิดขึ้นจริง อาจกำหนดโครงเรื่องอยางงาย ๆ เริ่มตน จากคำนำ หัวขอเรื่องหรือลำดับเหตุการณ จนถึงบทสรุปขอสำคัญอยูที่วาจะ เขยี นอยา งไรจึงจะสามารถเลาสง่ิ ทตี่ อ งการใหไ ดดีทสี่ ุดเทา น้ัน จดุ ประสงคใ นการเขยี นเลาเร่อื ง ๑. เพื่อใหเกิดความเพลิดเพลิน ๒. เพอื่ ถายทอดความรู ประสบการณ และขอคิดใหผูอ ื่นทราบ ๓. เพ่อื ถายทอดอารมณและความรสู ึก ๔. เพ่อื เปน คำสอนและแนวทางในการดำเนนิ ชีวิต
๕๙ ใบงานท่ี ๗ ฝก คดิ ฝกเขยี น คำช้แี จง ใหนักเรียนนำคำที่กำหนดให เขียนแผนภาพโครงเรื่อง และเขียนเปนเรื่องราวใหสมบูรณไมเกิน ๗ บรรทัด พรอมต้ังชื่อเรื่องใหสอดคลอง ทุงนา ขา ว บางเขน วิถชี วี ติ ชาวบา น 1.ตวั ละคร 2. สถานที่ 3. เหตกุ ารณ 4. ผลของเหตกุ ารณ 5. ขอ คิด
๖๐ ภาพ : ทุง นาบางเขน เลียบถนนกาญจนาภเิ ษก แขวงทา แรง ท่มี า : https://www2.mcot.net/view/kBex1ThT
๖๑ ใบงานที่ ๘ วชิ ายน ระยะทางและการลอ งหน คำชแ้ี จง ใหนักเรียนอานเรื่อง “วิชายนระยะทางและการลองหน” แลว ต้ังคำถามและตอบคำถาม ๕ ขอ “วิชายนระยะทางและการลอ งหน” นานมาแลวมีพระรูปหนึ่งชื่อวา “หลวงปูทอง” ทานเปนพระที่มีวิชา ยน ระยะทางและการลองหน ทำใหเปนท่ีศรทั ธาของชาวบา นในหมูบ าน วันหนึ่งหลวงปูทอง ทานไดออกเดินทางไปธุดงคในปาและมีลูกศิษย ตามไปดวย ทานใหลูกศิษยออกเดินไปกอนทาน แตเมื่อลูกศิษยเดินทาง ไปถึงปรากฏวาหลวงปูทองถึงที่หมายแลว ลูกศิษยจึงเกิดความสงสัย และ ถามทา นวา “ทำไมหลวงปูมาถึงกอ น ทัง้ ๆ ที่หลวงปูต ามมาทีหลังครบั ” หลวงปูตอบกลับวา “ก็เพราะวา อาตมา (อาด-ตะ-มา) ใชว ิชายนระยะทาง และการลองหนนะสิ จึงทำใหอาตมา (อาด-ตะ-มา) มาถึงกอนโยมไง” “หลวงปูมีวิชาแบบนี้ดวยเหรอครับ ผมอยากมีวิชานี้บาง ฝกวิชา ใหผมไดไ หมครับหลวงปู” ลูกศษิ ยต อบ หลวงปูตอบกลับวา “ถาอยากมีวิชาติดตัวเหมือนกับอาตมา ก็ตอง เปนคนดี มีศีลธรรม และตองถือศีลดวยนะ ถาโยมทำไดเดี๋ยวอาตมาจะ ฝก วิชาใหนะ” หลวงปตู อบกลับพรอ มยิม้ ใหก บั ลกู ศษิ ย (ณฐั พร : ดัดแปลงจากการสมั ภาษณพ ระครโู สภณ ขนั ติกุล, ผูชว ยเจา อาวาสวัดลาดบวั ขาว, ๒๕๖๓)
๖๒ คำชแ้ี จง ใหนักเรียนต้งั คำถามและตอบคำถามจากเรื่อง “วชิ ายน ระยะทางและการลองหน” จำนวน ๕ ขอ ตัวอยาง หลวงปทู องคอื ใคร ตอบ คอื พระที่มวี ชิ ายนระยะทางและการลองหน ๑. ตอบ ๒. ตอบ ๓. ตอบ
๖๓ ๔. ตอบ ๕. ตอบ
๖๔ แบบฝกหัดที่ ๑๐ ปริศนาหาศพั ท คำชีแ้ จง ใหนักเรียนหาคำปรศิ นาในตารางตอ ไปน้ี รอยไถ สะพานสูง ดอนเมอื ง สายไหม บางเขน กวนขา วทพิ ย สนามบนิ วดั สีกนั กลอ มเดก็ หัวโขน ยอ รอย ไ ถดยลวถาภ หั เ ส จ ฟ อ บ น ะ บ ต ร วั ว ะ ค ต น ส า ย ไ ห ม กดโ าแเ ะสงาลก ล ห สี ข ำ มื พ น ย เ ช ด อ อ ฟ กั น อ า า ส พ ข เ ม โ ร ขน ง นม โ ทณน เ ป นี ะ ห อ สู บิ ร ง ฝ ก ด็ ป ย อ ช ก ง น ท ใ ธ ต ก ผ โ ก ว น ข า ว ทิ พ ย
๖๕ จากตารางขางตน ใหนักเรียนเลือกคำจากตาราง ๕ คำ แลวแตง เร่อื งสัน้ ๆ ความยาว ๕-๗ บรรทัด พรอมขีดเสน ใตคำทีเ่ ลือก ชือ่ เร่อื ง
๖๖ แบบฝกหัดที่ ๑๑ ประเพณแี หน างแมว คำชแี้ จง ใหน ักเรยี นอา นเร่อื ง “ประเพณแี หนางแมว” แลวตอบคำถาม ประเพณแี หน างแมว นอง ๆ รูหรือไมวาประเพณีแหนางแมวจัดขึ้นเพื่ออะไร หากยัง ไมรู วันนี้จะพานอ ง ๆ ไปรจู ักกบั “ประเพณแี หนางแมว” กนั “ประเพณีแหนางแมว” เปนประเพณีที่ชาวบานจัดขึ้นเมื่อฝน ไมตกตามฤดูกาล หรือเกิดความแหงแลงก็จะจัดประเพณีนี้ข้ึน เพื่อขอฝน โดยชาวบานจะนำแมวสีดำตัวเมียมาขังในกรง แลวนำไม สอดเขาไปในกรงเพื่อใชหาม และจะแหแมวไปรอบ ๆ หมูบานดวย การตีกลองใหเกิดจังหวะพรอมกับรองคำเซิ้งแหนางแมวไปดวย เมื่อผานไปหนาบานใคร เจาของบานจะเอาน้ำสาดหรือรดแมว ทำใหแมวรอ ง รวมทั้งสาดน้ำใสค นทไ่ี ปรว มขบวนดวย เหตุผลที่เอาน้ำสาดแมวเพราะชาวบานเชื่อกันวา แมวเปนสัตว ที่เกลียดน้ำเมื่อฝนตกครั้งใดแมวจะรองทันที ชาวบานจึงนำความเชื่อนี้ มาเปนประเพณีท่ีสืบทอดตอกนั มาจนถงึ ปจจุบนั (ธนวฒั น : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณ ร.อ.ประมวล ตรหี ิรญั , ประธานชุมชนโซน 4 เขตสายไหม, 2563)
๖๗ คำชแ้ี จง ใหนกั เรียนตอบคำถามตอไปนี้ เขยี นดว ยตัวบรรจงครึ่งบรรทดั ๑. “ประเพณแี หนางแมว” จดั ข้ึนเพื่ออะไร ๒. ชาวบานมคี วามเช่อื เก่ยี วกับการเอานำ้ สาดแมวอยา งไร ๓. จากการอา นเรื่อง “ประเพณแี หนางแมว” นกั เรียนไดรับความรูอะไร
๖๘ แบบฝก หัดท่ี ๑๒ ทองถ่นิ ของฉัน คำช้แี จง ใหนกั เรยี นเขียนเลา เร่อื งราวสภาพแวดลอมในชมุ ชนของตนเอง วามีเรอ่ื งโดดเดนอยางไร และนกั เรยี นมคี วามประทับใจอยางไร ความยาวไมเ กิน ๑5 บรรทัด ชือ่ ชุมชน
๖๙ ภาพ : เกษตรกรดำนา ทม่ี า : http://wow.in.th/hfRA
ชดุ กจิ กรรมที่ ๕ จดุ ประกายนกั คดิ
๗๒ ใบความรู้ เรื่อง แผนภาพโครงเร่ือง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง เป็นการเขียนที่มีความสัมพันธ์ระหว่าง ชื่อเรื่องกับเนื้อเรื่องแสดงให้เห็นโครงเรื่องโดยรวมทั้งหมด ทำให้จับใจความสำคัญ ของเรือ่ งทีอ่ า่ นไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ ซงึ่ ต้องอาศัยการตั้งคำถามและตอบคำถามจากเรือ่ งท่ี อ่านว่าตัวละครในเรื่องมีใครบ้าง สถานที่เกิดเหตุการณ์คือที่ไหน มีเหตุการณ์ อะไรเกิดขนึ้ และผลของเหตกุ ารณ์น้ันคอื อะไร รปู แบบการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๑. ตวั ละครในเรื่อง ๒. สถานที่ ๓. เหตกุ ารณ์ที่เกิดข้ึน ๔. ผลของเหตกุ ารณ์ ๕. ข้อคิดจากเร่อื ง
๗๓ ตัวอยา่ งการเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง ความสำเร็จ “เฟิร์ส” เป็นเด็กเกเร ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ชอบอ่านหนังสือ และไม่ชอบทำ การบ้านทำให้สอบตกทุกครั้ง คุณพ่อของเฟิร์สรู้เรื่องที่เฟิร์สสอบตกก็โกรธ เฟิร์สมาก เฟิร์สรู้สึกผิดที่ทำให้คุณพ่อเสียใจ จึงเข้าไปขอโทษ และบอกว่า จะเปลีย่ นแปลงตวั เองให้ขยนั มากขึ้น หลังจากนั้นมาเฟิรส์ ก็ต้ังใจเรียน ทุกเช้าเฟิร์สจะต่ืนเช้าใส่บาตรท่ีหน้าบ้านกบั ครอบครัวก่อนไปโรงเรียน เมื่อมีเวลาว่างจะนั่งสมาธิและอ่านหนังสือ การเปลี่ยนตัวเองครั้งนี้ทำให้เฟิร์สเรียนเก่งและสอบได้ที่หนึ่ง คุณพ่อภูมิใจ ในตวั เฟิร์สมากและพดู กบั เฟริ ส์ ว่า “ลูกรู้ไหมว่านอกจากการทำบุญที่ทำให้เรามีจิตใจที่สงบ มีสมาธิ มีสติ และ มีปัญญา สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ประสบผลสำเร็จ คือ “ความพยายาม” ของลูก จำคำพ่อไวน้ ะว่าไม่มีสิง่ ไหนท่ลี กู ทำไม่ได้ถ้าลกู มคี วามพยายาม” (ทิพรัตน์) ตวั ละคร เฟิร์ส และคุณพอ่ สถานท่ี บา้ น เหตกุ ารณ์ทีเ่ กดิ ข้ึน เฟิร์สเป็นเดก็ เกเร แตก่ ลบั ตวั กลับใจจึงตัง้ ใจเรยี นมากข้ึน ผลของเหตกุ ารณ์ เฟิร์สเรยี นเกง่ ข้นึ ทำให้สอบได้ทีห่ นึง่ ขอ้ คิด ความพยายามอยู่ท่ไี หนความสำเร็จอยูท่ ีน่ ่ัน
๗๔ ใบงานที่ ๙ ลงแขกเก่ียวขา้ ว คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นเรื่อง “ลงแขกเกยี่ วข้าว” แล้วตอบคำถาม ลงแขกเกีย่ วข้าว ประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวของเขตบางเขน เป็นประเพณีที่สะท้อน วิถีชีวิตของคนสมัยก่อน ซึ่งมีอาชีพหลักคือการเป็นเกษตรกร เนื่องจาก สมัยก่อนนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย การทำการเกษตรจึงต้องใช้แรง ของคน เช่น การทำนา เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ชาวนาส่วนใหญ่จะใช้วิธีการ ลงแขก หมายถึง อาศัยแรงจากญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านมาช่วยกัน เกี่ยวข้าว แสดงให้เห็นถึงความมนี ำ้ ใจช่วยเหลอื ซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังช่วย สรา้ งความสามัคคีในหมบู่ ้านได้อีกด้วย การลงแขกเกี่ยวข้าว เจ้าของนาจะบอกเพื่อนบ้านให้รู้ว่าจะเกี่ยวข้าว เมอื่ ใด และเมือ่ ถึงวันทก่ี ำหนด เจ้าของนาก็จะต้องปักธงในท่ีนาของตนเพ่ือให้ เพื่อนบ้านรู้และมาช่วยเกี่ยวได้ถูกต้อง ทั้งนี้ เจ้าของนาจะต้องจัดเตรียม อาหารคาวหวานและน้ำดื่ม ไว้ให้คนที่มาช่วยงานด้วย เมื่อลงแขกในนา ของตนเสรจ็ ก็เปลี่ยนไปลงแขกในนาของคนอืน่ ๆ ต่อไป ถือเป็นการตอบแทน ซึ่งกันและกัน ในขณะเกี่ยวข้าวจะมีการร้องเพลงเกี่ยวข้าวระหว่างหนุ่มสาว อย่างสนุกสนาน เพื่อคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานประเพณีลงแขก เกี่ยวข้าวเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวนาไทย ซึ่งนับวันจะหาดูได้ยาก เพราะเมื่อความเจริญต่าง ๆ เข้ามา มีการใช้เทคโนโลยีในการทำเกษตรแทน การใช้แรงงานคน จึงทำให้ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวของเขตบางเขนได้ สูญหายไปพรอ้ มกับยคุ สมยั ทเ่ี ปลย่ี นแปลง (นำ้ ผ้ึง : ดดั แปลงจากการสมั ภาษณค์ ุณวิรตั น์ วงษ์ใหญ,่ ชาวบ้านเขตบางเขน, ๒๕๖๓) คำศัพทน์ ่ารู้ ลงแขก หมายถงึ ร่วมแรงเพ่ือนบ้านมาช่วยกันทำงาน เช่น ดำนา เกีย่ วขา้ ว ใหล้ ลุ ว่ งเรว็ ข้ึน โดยไมร่ บั ค่าจ้าง และผลัดเปลย่ี นช่วยกันไปตามความจำเปน็ ของแต่ละบา้ น
๗๕ คำชี้แจง จากเรื่อง “ลงแขกเกี่ยวข้าว” ให้นักเรียนแยกข้อเท็จจริง และขอ้ คิดเห็น มาอยา่ งละ ๒ ขอ้ ขอ้ เท็จจรงิ ๑. ๒. ข้อคิดเหน็ ๑. ๒. ภาพ : ประเพณลี งแขกเกย่ี วข้าว ทีม่ า : https://www.pimthai.co.th/17337
๗๖ ใบงานที่ ๑๐ ลกู อมวเิ ศษ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านเร่ือง “ลูกอมวิเศษ” แล้วนำมาเขียน แผนภาพโครงเร่อื ง “ลูกอมวิเศษ” นานมาแล้ว มีเดก็ ชายคนหนง่ึ ช่ือ “จ้อย” จอ้ ยเปน็ เด็กกำพร้าต้ังแต่เกิด เขาอาศัยอยู่ที่วัดกับ “หลวงปู่ทอง” หลวงปู่ทองรักและเอ็นดูจ้อยมาก เพราะจ้อยเปน็ เด็กดเี ช่อื ฟังคำสอนของหลวงปู่ทอง วันหนึ่งจ้อยกำลังกวาดลานวัดอยู่ มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเข้ามาในวัด วัยรุ่น กลุ่มนี้มักจะมาหาเรื่องและรังแกจ้อยอยู่เป็นประจำ เขาใช้ก้อนหิน ขว้างใส่จ้อย แต่จ้อยกลับไม่ตอบโต้กับสิ่งที่วัยรุ่นเหล่านั้นกระทำกับเขา จ้อยวางไม้กวาดอย่างใจเย็น แล้วเดินไปหาหลวงปู่ทองในกุฏิ จ้อยพูดกับ หลวงปทู่ องวา่ “หลวงปู่ครับทำไมผมต้องโดนวัยรุ่นกลุ่มนั้นรังแกทุกวัน วันนี้พวกเขา ก็ขวา้ งกอ้ นหนิ ใส่ผม จนผมเจบ็ ไปทัง้ ตัวเลยครบั ” หลวงปู่ทองตอบไปว่า “เจ้าเด็กพวกนั้นมีนิสัยเกเรชอบรังแกคนอื่น เอาอย่างน้กี ็แล้วกัน หลวงปเู่ ห็นวา่ เจ้าเปน็ เด็กดีเดีย๋ วหลวงปจู่ ะให้ลูกอมวิเศษ ไวพ้ กติดตวั เวลาท่ีเจา้ เดก็ พวกน้ันจะมารงั แกเจา้ นะ” จ้อยเลยถามกลับไปวา่ “แล้วลกู อมวิเศษน้จี ะช่วยผมได้อยา่ งไรเหรอครับ”
๗๗ “ลูกอมวิเศษ จะทำให้เจ้าไม่รู้สึกเจ็บเวลาเด็กพวกนั้นมารังแกไงล่ะ ต่อให้โดนขว้างก้อนหนิ ก้อนใหญ่ใส่ ก็จะไม่รู้สึกว่าเจบ็ อกี ต่อไป เอาติดตวั ไว้ ตลอดนะจ้อย” หลวงปูต่ อบ “ว้าว! วิเศษมากครับหลวงปู่ ขอบพระคุณหลวงปู่มาก ๆ นะครับผม จะเกบ็ ติดตัวไว้อยา่ งดีเลยครบั ” “ดีแล้วละ่ เจา้ เปน็ เดก็ ดกี ต็ ้องได้รบั ส่งิ ดี ๆ กลบั ไป เจ้าเชือ่ หลวงป่เู ถอะ ว่าความดีชนะทุกอย่าง ให้เราเป็นคนดี คิดดี ทำดี ถึงใครที่คิดไม่ดีกับเรา วนั หนงึ่ ส่ิงไม่ดกี ็จะย้อนกลับไปทำร้ายตวั ของพวกเขาเอง” หลวงปู่ตอบ “ครับหลวงปู่ ผมจะเป็นเด็กดีนะครับ” จ้อยตอบด้วยรอยยิ้มท่ี แสนมคี วามสุข (ณัฐพร : ดัดแปลงจากการสัมภาษณ์พระครูโสภณ ขนั ติกลุ , ผู้ชว่ ยเจ้าอาวาสวดั ลาดบัวขาว, ๒๕๖๓)
๗๘ เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งจากนิทาน “ลูกอมวิเศษ” ตวั ละคร สถานท่ี เหตกุ ารณ์ ผลของเหตกุ ารณ์ ขอ้ คิด
๗๙ แบบฝกึ หดั ที่ ๑๓ ตารางอกั ษร คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเติมตัวอักษรลงในชอ่ งว่างให้ตรงกับความหมาย และเขยี นคำอ่านใหถ้ ูกต้อง ตวั อย่าง ยานพาหนะ ๒ ล้อใชบ้ รรทุกของเวลาเดนิ ทาง โดยใช้วัว ี เ กวยน อ่านวา่ เกวฺ ียน ก ๑. กฎเกณฑ์ทที่ ุกคนตอ้ งปฏิบตั ิตามอยา่ งเครง่ ครัด ฎ าย อ่านว่า ก
๘๐ ๒. เครือ่ งเยบ็ ผา้ ท่ีใช้งานด้วยไฟฟา้ หรือการหมุน ็้ จ ร ยบ า อา่ นวา่ กก ๓. ผดู้ แู ลผ้ปู ่วย า ล พ อ่านวา่ กก ๔. แสงทีเ่ กิดวาบข้นึ บนท้องฟา้ เมอื่ มีพายุฝนฟา้ คะนอง ้ าบ อา่ นวา่ กก
๘๑ ๕. เทพธดิ าประจำข้าว ่ แ พพ อ่านว่า กก ๖. เตาอบที่ทำให้เกิดความร้อน ทำให้อาหารสกุ ฟ ไ คร กก อ่านว่า ๗. แรห่ รอื หนิ ทเ่ี จยี ระไนเพอ่ื ใช้เปน็ เครอื่ งประดบั เช่น เพชร ทับทมิ ี อญ ณ อ่านวา่ กก
๘๒ ๘. เครอ่ื งจกั รกลใชส้ ำหรับทำงานแทนคน รปู ร่างคลา้ ยคน ์ หน น อ่านว่า กก ๙. ปรากฎการณ์ท่ีเกดิ ข้ึนอย่างแปลกประหลาด กก ์ ศรย อา่ นวา่ ๑๐. เครอื่ งมอื สื่อสารท่พี กพาเคลื่อนที่ได้ ์ื โ ศ ทมอ อ อา่ นว่า กก
๘๓ แบบฝึกหดั ที่ ๑๔ จะทำอยา่ งไร คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ๑. ปัญหา “ขยะในแม่น้ำลำคลอง” ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น นักเรียนมีวิธีการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาขยะในแม่น้ำลำคลอง ใหม้ ีปริมาณลดลงไดอ้ ย่างไร ภาพ : ขยะในแมน่ ้ำลำคลอง ทม่ี า : http://wow.in.th/UkNc
๘๔ 2. ปญั หา “ฝุ่นควนั ในอากาศ” ที่มีอยู่ในปัจจุบัน นักเรยี นมีวิธกี าร ปอ้ งกันตัวเองจากฝุ่นควนั อยา่ งไร ภาพ : ฝุน่ ควันในอากาศ ท่ีมา : http://wow.in.th/2hXp
๘๕ 3. นักเรียนจะมีวิธีการใช้เทคโนโลยีให้ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ต่อการดำเนินชวี ติ ไดอ้ ยา่ งไร ภาพ : หอ้ งเรียนแหง่ อนาคต ที่มา : http://wow.in.th/t10P
๘๖ แบบฝกึ หัดที่ ๑๕ มจี รงิ หรอื คำชี้แจง ให้นักเรียนอา่ นเร่อื ง “มีจรงิ หรอื ” แล้วตอบคำถาม มีจรงิ หรือ หรัง่ เด็กชายวยั ๙ ขวบ อาศยั อยู่กบั แมส่ องคน หรัง่ ชอบป่ันจักรยาน ไม่ระมัดระวังเวลาเข้าเขตชุมชน และไม่ค่อยเชื่อฟังผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเรื่อง ล้ีลับปา่ สะแก เขตหลกั สี่ ที่เลา่ ตอ่ ๆ กนั มา คืนวันหนึ่งหรั่งปั่นจักรยานไปถึงป่าสะแก และได้ยินเสียงคนร้องหวีด ขึน้ มา หรั่งหยุดปนั่ แลว้ ขานตอบรบั วา่ “ใคร ใครทอี่ ยูห่ ลังตน้ ไม้ ออกมานะ” “เอ๊ะ! ปกติต้นใหญ่มันมีต้นเดียวหนิ ทำไมมีสามต้นล่ะวันนี้” หรั่งคิดในใจ แล้วก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “ทำไมสองต้นนี้ถึงเปื้อนเลือด” หรั่งเริ่มรู้สึก หวาดกลัวขึน้ มา และคิดในทางที่ดีว่า “สงสัยจะมีใครเอาสีมาทาแกล้งให้คน กลัวแน่ ๆ” พอหรั่งหันหน้ากลับมาที่ต้นสะแก สิ่งที่หรั่งเห็นอยู่ตรงหน้าน้ัน เป็นใบหน้าคน ดวงตาโต หรั่งรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่คนแน่นอน หรั่งร้องเสียงดัง สดุ ขีดแล้วรบี ปัน่ จกั รยานกลับบา้ นไปเลา่ เหตกุ ารณท์ ีเ่ กดิ ข้นึ ใหแ้ มฟ่ งั เช้าวันรุ่งขึ้นแม่พาหรั่งไปยังป่าสะแก หร่ังจึงรู้ว่าสิง่ ทีเ่ ห็นเมื่อคืนนี้ คอื ป้ายโฆษณาภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีเสาสีแดง ไม่ใช่ผีหลอกอย่างที่คิด แมบ่ อกกบั หรัง่ วา่ “สิง่ ที่ทกุ คนเตอื นหรอื เล่าตอ่ ๆ กนั มาน้นั กเ็ พื่อให้เรารู้จัก ระมัดระวังตัวเอง ที่สำคัญสิ่งท่ีน่ากลัวกว่าผีก็คนเรา โดยเฉพาะคนที่คิดไม่ดี ต่อผู้อนื่ (นายราศี : ดดั แปลงจากการสัมภาษณ์นางหรัง่ บญุ พระ, ชาวบา้ นเขตหลกั สี่, 2563)
๘๗ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ๑. จากเร่อื ง “มจี ริงหรอื ” ให้นกั เรยี นจบั ใจความดังนี้ 1.1 ใคร 1.2 ทำอะไร 1.3 ท่ีไหน 1.4 เมอื่ ใด 1.5 อยา่ งไร
๘๘ 1.6 เพราะอะไร 2. จากเรื่อง “มจี รงิ หรือ” นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดอะไรบา้ ง 3. นกั เรียนจะนำข้อคิดไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวันอยา่ งไร
๘๙ แบบทดสอบหลังเรียน คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเขียนเคร่ืองหมายกากบาท X ทบั ตัวเลอื กที่ถกู ตอ้ ง เพยี งคำตอบเดียว ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขอ้ เทจ็ จริง ก. ตำรบั ยาเกา่ แกจ่ ัดเกบ็ ไว้ทีพ่ ิพิธภณั ฑ์ ข. วัตถมุ งคลชว่ ยใหแ้ คล้วคลาดปลอดภยั ค. ทุง่ บางเขนสมัยกอ่ นเปน็ ทุ่งนากวา้ งขวาง ง. ถนนพหลโยธินมชี ือ่ เดิมวา่ “ถนนประชาธปิ ัตย์” ๒. ขอ้ ใดเปน็ การแสดงความคิดเห็น ก. ๑ สปั ดาห์มี ๗ วัน ข. ต้นไม้ชว่ ยฟอกอากาศ ค. ประเทศลาวเป็นหน่ึงในสมาชิกอาเซียน ง. โลกเกิดโรคระบาดเพราะคนทำความดีนอ้ ยลง ๓. ขอ้ ใดไม่ใช่รปู แบบการเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ก. ขอ้ คดิ ข. บทพดู ค. ผลของเหตกุ ารณ์ ง. เหตกุ ารณท์ เี่ กิดขน้ึ
๙๐ ๔. ขอ้ ใดเป็นคำถามเชงิ เหตุผล ก. ประเทศไทยมที ั้งหมดกี่จงั หวดั ข. นายกรฐั มนตรคี นปัจจุบันคอื ใคร ค. ใครเป็นผ้นู ำชุมชนวดั ลาดบวั ขาว ง. นักเรียนมวี ิธปี ้องกันการตดิ เชอ้ื ไวรสั Covid-19 อย่างไร ๕. อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การลงแขกเกี่ยวข้าว เจ้าของนาจะบอกเพื่อนบ้านให้รู้ว่า จะเกี่ยวข้าวเมื่อใด และเมื่อถึงวันที่กำหนดเจ้าของนาก็จะต้อง ปักธงในที่นาของตน เพื่อให้เพื่อนบ้านรู้และมาช่วยเกี่ยวได้ ถูกต้อง ทั้งนี้ เจ้าของนาจะต้องจัดเตรียมอาหารคาวหวานและ น้ำดื่ม ไว้ให้คนที่มาช่วยงานด้วย เมื่อลงแขกในนาของตนเสร็จก็ เปลยี่ นไปลงแขกในนาของคนอื่น ๆ ตอ่ ไป จากขอ้ ความขา้ งต้น แสดงให้เห็นถงึ ส่ิงใด ก. ความสนทิ สนม ข. ความขยันขนั แข็ง ค. การพ่ึงพาอาศัยกนั ง. การบอกกลา่ วปากต่อปาก ๖. การเขยี นในขอ้ ใดท่สี ง่ เสริมความคิดสร้างสรรค์ ก. เขยี นจดหมาย ข. เขียนประวตั ิสว่ นตัว ค. เขยี นเร่อื งวัฒนธรรมไทย ง. เขียนเร่ืองจากจินตนาการ
๙๑ ๗. ขอ้ ใดไม่ใช่ตำนานในเขตสะพานสงู ก. ตำนานเสอื ลงิ ลม ข. ตำนานเจ้าพอ่ สมบญุ ค. ตำนานกระบอื ในกะลา ง. ตำนานแม่นาคพระโขนง ๘. ข้อใดจับค่เู ขตกบั ทมี่ าไมถ่ กู ต้อง ก. เขตดอนเมือง-พน้ื ท่ตี ำ่ น้ำท่วมง่าย ข. เขตหลกั ส่ี-ชุมชนตัง้ อยู่หลักบอกระยะทางท่ี ๔ ค. เขตบางเขน-เกิดจากการเพี้ยนเสยี งของคำว่า “ทองเข็น” ง. เขตสะพานสงู -สะพานทรงสงู เรอื ทกุ ประเภทสามารถผ่านได้ ๙. การเขียนไมใ่ ช้ทกั ษะในข้อใด ก. ทักษะการคิด ข. ทกั ษะการอ่าน ค. ทกั ษะการสงั เกต ง. ทักษะการใชภ้ าษา ๑๐. “กระบวนการคดิ ” หมายถงึ ข้อใด ก. การใชภ้ าษาถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิด ความรแู้ ละข้อมูลตา่ ง ๆ ข. กระบวนการทางสมองที่รับรู้ได้ เมื่อมีสิ่งมากระตุ้นให้เรา ตอ้ งคิดทบทวน ค. ความสามารถในการจับประเด็นสำคัญของเรื่องและสามารถ นำความรู้ไปใช้ได้ ง. การพิจารณาอย่างละเอียด และแยกแยะได้ว่าอะไรคือ ข้อเท็จจรงิ อะไรคอื ข้อคดิ เห็น
บรรณานุกรม จิราภรณ์ ศิริทวี. (๒๕๕๐). เอกสารประกอบการบรรยาย เรื่อง เทคนิคการจัดกิจกรรมให้นักเรียนสร้างองค์ ความรู้. กรุงเทพฯ : โรงเรยี นสาธิตแห่งมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. เปรมจติ ศรีสงคราม. (๒๕๕๒). การเขยี นทว่ั ไป. กรงุ เทพฯ : วทิ ยาลยั ครูจนั ทรเกษม. สนทิ ตั้งทว.ี (๒๕๕๐). ความรู้และทกั ษะทางภาษา. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พรน้ิ ตงิ้ เฮา้ ส.์ สวุ ิทย์ มูลคำ. (๒๕๕๐). การเขียนการจัดการเรยี นร้ทู ี่เนน้ การคดิ . กรงุ เทพฯ : พมิ พล์ ักษณ.์ โสภณ สาทรสมั ฤทธ์ผิ ล. (๒๕๕๕). ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสาร. กรุงเทพฯ : ทรปิ เพิ้ล เอ็ดดูเคชั่น จำกัด. ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน. การตั้งคำถามและการตอบคำถาม. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก https://www. youtube.com/watch?v=f2xFMMZfpy4. (สบื คน้ เมื่อวันท่ี ๕ เมษายน ๒๕๖๓). ทรูปลูกปัญญา. (๒๕52). การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง. (ออนไลน)์ . เข้าถึงไดจ้ าก https://www.trueplook panya.com/learning/detail/1355 (สบื คน้ เม่อื วันที่ 5 เมษายน ๒๕๖๓). มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม. (๒๕๖๒). การตั้งคำถามเชิงเหตุผล. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก https://dltv.ac.th/teachplan/episode/1443. (สบื คน้ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๓).
๗๑ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ “การอา่ น การเขียน และการคิดวเิ คราะห์” ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 กจิ กรรมยกระดบั คณุ ภาพการเรยี นร้ดู ้านการอา่ น การเขียน และการคดิ วิเคราะห์ ของนักเรียนในระดบั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานในเขตพ้ืนทกี่ รงุ เทพมหานคร คณะผจู้ ดั ทำ รองศาสตราจารยศ์ ุภวรรณ์ เลก็ วไิ ล อาจารยป์ รัชญา ใจภักดี อาจารยก์ ัญจณ์ปภัสส์ สวุ รรณวิหค นายฐติ ิศักดิ์ ทองสขุ แก้ง นางสาวชลธิชา บุญชู นางสาวทิพรตั น์ เสือเอ๋ง นางสาวน้ำผึ้ง สงิ ห์แก้ว นายธญั ธร เวทย์วีระพงศ์ นายธนวฒั น์ รวมธรรม นายกฤษฎา สายทอง นางสาวสุภาพร มงคลกลุ นางสาวณัฐพร ฮวดทวี ออกแบบปกและรูปเล่ม นายอรญิ ชย์ สงวนวงษ์
Search