Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรม คู่มือครู เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิต

ชุดกิจกรรม คู่มือครู เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิต

Published by Sunma Tanee, 2022-03-08 06:24:08

Description: ชุดกิจกรรม คู่มือครู เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิต

Search

Read the Text Version

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 เซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ 42 ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1 ระดับคุณภาพ 32 1. มคี วามอยากรู้ สนใจ ใฝ่รู้ หาความรู้ สนใจ ใฝ่รู้ หาความรู้ สนใจ ใฝ่รู้ หาความรู้ อยากเห็น เพมิ่ เติมจากเอกสารหรือ เพ่ิมเติมจากเอกสารหรือ เพม่ิ เติมจากเอกสาร 2. ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รยี น 3. มงุ่ มัน่ ในการ แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และ แหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ และ หรอื แหล่งเรียนรตู้ ่าง ทำงาน หาขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ ต่าง หาข้อมลู ข้อเทจ็ จริงต่าง ๆ และหาขอ้ มูล ๆท่เี กยี่ วข้องกับเรื่องที่ ๆทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เร่อื งท่ี ข้อเทจ็ จริงต่าง ๆท่ี ศกึ ษาอย่างต่อเนื่องมสี ว่ น ศึกษาอยา่ งตอ่ เน่ืองมี เก่ยี วข้องกับเรอ่ื งท่ี ร่วมในการทำกิจกรรม สว่ นรว่ มในการทำ ศกึ ษาอย่างต่อเนอื่ งมี การเรียนรไู้ ด้ดีเยี่ยม กิจกรรมการเรียนรไู้ ด้ดี สว่ นร่วมในการทำ กจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้ พอใช้ ตงั้ ใจเรยี นและรับผดิ ชอบ ตั้งใจเรียนและ เอาใจใสต่ อ่ การปฏิบัติ ในการทำงานท่ีได้รบั รบั ผิดชอบในการทำงาน หน้าที่ท่ีได้รับ มอบหมายจนสำเร็จมกี าร ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายจน มอบหมาย ปรบั ปรุง สำเร็จ ตัง้ ใจเรยี นและรบั ผิดชอบ ต้งั ใจเรียนและ เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบตั ิ ในการทำงานท่ีไดร้ บั รบั ผิดชอบในการทำงาน หน้าทีท่ ี่ไดร้ ับ มอบหมายจนสำเรจ็ มีการ ท่ีไดร้ ับมอบหมายจน มอบหมาย ปรับปรงุ สำเรจ็ เกณฑก์ ารประเมนิ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 8-9 ดมี าก 6-7 ดี 4-5 2-3 ค่อนข้างดี 1 พอใช้ ปรับปรุง เกณฑ์การผา่ น ไดร้ ะดบั คุณภาพดีข้ึนไป

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูท้ ่ี 3 เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ 43 แบบประเมินด้านเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ จาการสังเกตพฤติกรรมของผ้เู รยี นในการปฏิบตั ิกิจกรรมการทดลอง โดย ใหร้ ะดบั คะแนนลงในตารางทต่ี รงกับพฤตกิ รรมของผ้เู รียน (ดเู กณฑ์ในหนา้ ต่อไป) เกณฑ์การใหค้ ะแนน : 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ต้องปรับปรงุ รายการประเมนิ สรุปผลการประเมนิ เลขท่ี ชือ่ – สกุล ีมความอยาก ู้รอยากเห็น ผา่ น ไม่ผา่ น ใ ่ฝ ู้รใฝ่เ ีรยน ุ่มง ั่มนในการทำงาน คะแนนที่ไ ้ด ลงชือ่ ................................................... ผูป้ ระเมนิ .............../.............../................

ชดุ กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 3 เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ 44 ใบความรู้ เรอ่ื ง เซลล์พืช เซลลส์ ตั ว์ โครงสรา้ งของเซลล์ เซลล์ทุกชนดิ มโี ครงสร้างพ้ืนฐานทส่ี ำคญั 3 ส่วนที่เหมอื นกันได้แก่ เยือ่ หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาสซมึ และนิวเคลียส

ชุดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 3 เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ 45 ผนงั เซลล์ (Cell wall) เป็นสว่ นท่ีอยู่ชั้นนอกสดุ ของเซลล์ จะพบในเซลลพ์ ืช แต่ไมพ่ บ ในเซลลส์ ัตว์ เปน็ โครงสร้างทกี่ ำหนดขอบเขต และรูปรา่ งของสง่ิ มีชีวติ มีหน้าท่เี พิม่ ความ แข็งแรง ค้ำจุนโครงสร้างของเซลล์ ทำใหเ้ ซลล์คงรูป และป้องกันการสูญเสยี นำ้ ของเซลลพ์ ืช ใน ผนังเซลลป์ ระกอบด้วยเซลลูโลส (Cellulose) และเพกติน (Pectin) เย่อื ห้มุ เซลล์ (Cell membrane) ประกอบด้วยฟอสโฟลพิ ิด (Phospholipid bilayer) และโปรตีนเปน็ ส่วนมาก ทำหนา้ ทห่ี อ่ หุม้ สว่ นทเ่ี ป็นของเหลวและออรแ์ กเนลลภ์ ายใน ทั้งยงั เป็นเยื่อเลอื กผา่ น ควบคุมการเขา้ ออกของสารตา่ ง ๆ จากส่ิงแวดล้อมเขา้ สู่เซลล์ นิวเคลยี ส (Nucleus) มลี กั ษณะคอ่ นข้างกลม ทำหน้าทีค่ วบคมุ การทำงานของเซลล์ และการถ่ายทอดพนั ธุกรรมจากพอ่ แมไ่ ปสู่ลกู หลาน ไซโทพลาซมึ (Cytoplasm) เป็นของเหลวทอี่ ยูภ่ ายในเซลล์ ประกอบด้วยออร์ แกเนลล์ และสารประกอบต่าง ๆ เชน่ น้ำตาล โปรตนี ไขมัน ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic Reticulum) แบ่งออกเปน็ แบบผวิ เรียบและ ผิวขรุขระ แบบผวิ เรียบจะไมม่ ีไรโบโซม ขณะทแ่ี บบผิวขรุขระจะมไี รโบโซมเกาะอยู่ โดยไรโบ โซม(Ribosome) นเ้ี ป็นแหล่งสร้างโปรตีน และทำหน้าที่สง่ โปรตนี ออกไปยงั นอกเซลล์ แวคิวโอล (Vacuole) เป็นถงุ ขนาดใหญ่ที่พบในเซลล์พชื มเี ยอ่ื ห้มุ เพียงช้นั เดยี ว ทำ หนา้ ที่เก็บของเหลว นำ้ สารอินทรยี แ์ ละอนินทรยี ์ เชน่ น้ำตาล กรดอินทรยี ์ แทนนนิ คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) พบเฉพาะในเซลล์พชื มีสีเขยี วเพราะมพี ลาสติดท่ี สะสมรงควัตถุสีเขยี วอยภู่ ายใน นั่นคือคลอโรฟีล (Chloroohyll) ทำหนา้ ท่ีช่วยในการสังเคราะห์ ดว้ ยแสงของพืช ไมโทคอนเดรยี (Mitochondria)มีขนาดใหญ่ มรี ูปร่างยาว กลมรี ทำหนา้ ที่หายใจ ระดับเซลล์ (กระบวนการทน่ี ้ำตาลกลูโคสถูกเปลยี่ นเปน็ ATP ซงึ่ เปน็ พลงั งานทเ่ี ซลลน์ ำไปใช้ใน การทำกิจกรรมตา่ ง ๆ) กอลจิบอดี (Golgi Body) หรอื กอลจแิ อพพาราตสั (Golgi Apparatus) มีลักษณะเป็น ถงุ แบน ๆ วางซอ้ นกัน ทำหน้าทีร่ บั สาร เกบ็ สารตา่ ง ๆ ภายใน ตัดแต่ง ต่อเติมโปรตีนให้ สมบรู ณ์ แล้วเคล่ือนยา้ ยไปสจู่ ุดหมายปลายทางตา่ ง ๆ ทัง้ ภายในเซลล์และภายนอกเซลล์ เซนทริโอล (Centrioles) เป็นออรแ์ กเนลล์ท่ไี มม่ ีเย่อื ห้มุ มลี กั ษณะเป็นแท่งรูป ทรงกระบอก ภายในกลวง ประกอบด้วยหลอดเล็ก ๆ ทเ่ี ชอื่ มต่อกนั เรยี กวา่ ไมโครทิวบูล (microtubule) เซนทริโอลมี DNA และ RNA สามารถจำลองตัวเองและสร้างโปรตนี ข้ึนเองได้ เซนทริโอลมหี นา้ ทีเ่ กย่ี วกบั การแบ่งเซลล์ สว่ นไมโครทูบูลมีหนา้ ทีใ่ นการลำเลียงสารในเซลล์ ให้ ความแข็งแรง และช่วยในการเคลอื่ นที่ของเซลล์

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ี 3 เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์ 46 ใบกจิ กรรมที่ 3.1 เรื่อง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ ขน้ั ตอน 1. ครูแบ่งกลุ่มให้นกั เรียน โดยแบ่งกลุม่ ออกเป็น 5 กลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน (แต่งตง้ั ประธาน เลขา สมาชิก) 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มสืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ เช่น หนงั สอื เรยี น หนังสืออา้ งอิง หนงั สอื อา่ น ประกอบ หนังสือพมิ พ์ วารสารต่าง ๆ หรือทางอินเทอรเ์ น็ตท่มี ีเว็บไซตท์ เ่ี กี่ยวข้องกบั หัวข้อเร่อื ง ต่อไปน้ี 1) โครงสร้างของเซลล์ 2) ออรแ์ กเนลลข์ องเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ ระบสุ ว่ นประกอบออรแ์ กเนลล์ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ 1. ไมโทคอนเดรยี ...................................... 2. นิวเคลยี ................................................. 3. ร่างแหเอนโดพลาสซึม........................... 4. กอลจบิ อดี............................................. 5. ไรโบโซม............................................... 6. ผนงั เซลล์............................................... 7. แวควิ โอล............................................... 8. คลอโรพลาส.......................................... 9. เยอ่ื หุม้ เซลล์........................................... เซลล์............พชื ................... 1. ไรโบโซม……………………………………………….. 2. นวิ เคลีย………………………………………………… 3. ร่างแหเอนโดพลาสซมึ ……………………………. 4. กอลจบิ อดี…………………………………………….. 5. ไมโทคอนเดรยี ………………………………………. 6. เยือ่ หุม้ เซลล์………………………………………….. 7. เซนทรโิ อล................................................... เซลล์............สัตว์..............

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 3 เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 47 ใบกิจกรรมที่ 3.2 รูปร่างและสว่ นประกอบของเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1.น้ำ 2.เข็มเข่ีย 3.ก้านสำลี 4.หลอดหยด 5.กระดาษทิชชู 6.กลอ้ งจุลทรรศน์ 7.ปากคีบปลายแหลม 8.สารละลายไอโอดีน 9.นำ้ เกลือ 10.แผน่ สไลด์และกระจกปดิ สไลด์ 11.หวั หอมแดง 12.สาหร่ายหางกระรอก วธิ ปี ฏบิ ตั ิ ตอนท่ี 1 ศกึ ษาเซลล์พืช ศกึ ษาเซลล์เย่อื หอมแดง 1.ผ่าหวั หอมแดง แล้วใชป้ ากคีบปลายแหลมหรอื เขม็ เขีย่ ลอกเย่ือด้านในหวั หอมแดง จากนั้นตดั เย่อื ที่ ลอกไดเ้ ป็นชิน้ เลก็ ๆ 2.วางเนอื้ เยอื่ หอมแดงลงบนกระจกสไลด์ทม่ี หี ยดน้ำแลว้ หยดสารละลายไอโอดีน 1 หยด บนเย่ือหวั หอมแดง 3.ปิดด้วยกระจกปิดสไลด์ โดยวางกระจกเอียงทำมงุ 45 องศากบั กระจกสไลด์ แล้วค่อย ๆ ปิดไปบน แผ่นสไลด์ 4.ใช้กระดาษทิชชแู ตะขา้ ง ๆ กระจกปิดสไลด์เพื่อซบั นำ้ สว่ นเกินออก แลว้ นำสไลดไ์ ปศึกษาดว้ ยกล้อง จลุ ทรรศน์ โดยใชเ้ ลนสใ์ กลว้ ตั ถุกำลงั ขยายตำ่ และกำลงั ขยายสงู ตามลำดบั สงั เกตและบันทกึ ภาพที่ เหน็ ภายใตก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ ศึกษาเซลล์ใบสาหรา่ ยหางกระรอก 5.ใช้ปากกาคบี ปลายแหลมเด็ดใบสาหร่ายหางกระรอกบริเวณใกลส้ ว่ ยยอด 6.วางบนหยดน้ำบนกระจกสไลด์ และปดิ ด้วยกระจกปดิ สไลด์ 7.นำสไลดไ์ ปศกึ ษาดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ โดยใชเ้ ลนสใ์ กล้วัตถกุ ำลงั ขยายต่ำและกำลงั ขยายสูง ตามลำดับ สงั เกตและบนั ทกึ ภาพท่ีเห็นภายใตก้ ล้องจลุ ทรรศน์

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ี 3 เซลล์พชื และเซลล์สัตว์ 48 ตอนที่ 2 ศกึ ษาเซลล์สตั ว์ 1.ใช้ก้านสำลสี ะอาดขูดเบา ๆ ที่ดา้ นในของกระพงุ้ แก้ม แล้วนำไปแตะลงบนกระจกสไลดท์ ี่มหี ยด น้ำเกลอื 2.หยดสารละลายไอโอดีน 1 หยด ลงบนเซลล์เย่ือบุข้างแก้มบนกระจกสไลด์ แลว้ ปิดด้วยกระจกปิด สไลด์ 3.สไลดไ์ ปศกึ ษาด้วยกล้องจลุ ทรรศน์ โดยใชเ้ ลนสใ์ กล้วตั ถุกำลงั ขยายต่ำและกำลงั ขยายสงู ตามลำดับ สังเกตและบันทกึ ภาพทเี่ หน็ ภายใต้กลอ้ งจุลทรรศน์ บันทกึ ผลการทดลอง เซลลท์ ่ีนำมาศึกษา ลกั ษณะของเซลลพ์ บ กำลังขยายของกล้อง เซลลเ์ ย่อื หอม 10 × 10 = 100 เทา่ เซลล์วา่ นกาบหอย 10 × 10 = 100 เท่า เซลลเ์ ยื่อบุข้างแก้ม 10 × 10 = 100 เท่า

ชุดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 3 เซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์ 49 คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. เซลลเ์ ย่อื หอมและเซลล์ว่านกาบหอยมลี กั ษณะรปู ร่างเป็นอยา่ งไร รูปรา่ งเหลย่ี มเพราะเปน็ เซลลพ์ ชื ....................................................................... .......................................................................................................................... 2. เซลล์เยอื่ บุขา้ งแก้มมีลักษณะรูปร่างเปน็ อย่างไร รูปร่างคอ่ นข้างกลมเพราะเป็นเซลลส์ ตั ว์........................................................... ......................................................................................................................... 1. เซลล์เยื่อหอมและเซลล์ว่านกาบหอยพบมีส่วนประกอบใดบา้ ง ผนังเซลล์ เยือ่ ห้มุ เซลล์ ไซโทพลาซึม นวิ เคลยี ส…………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………. 2. เซลล์เยือ่ บขุ ้างแก้มทพี่ บมีสว่ นประกอบใดบา้ ง เย่อื หุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซึม นิวเคลยี ส……………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… สรุปผลการทดลอง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์มีสว่ นประกอบทเ่ี หมอื นกนั คือ มเี ยอื่ ห้มุ เซลล์ ไซ โทพลาซึม และนวิ เคลียส และส่วนท่ตี า่ งกันคอื เซลล์พืชมรี ปู รา่ งเป็นเหล่ียม มี ผนงั เซลล์ และคลอโรพลาสต์ สว่ นเซลล์สตั ว์คอ่ นข้างกลม ไม่มีคลอโรพลาสตแ์ ละ ผนังเซลล์………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………..

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 4 การแพร่ 50 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 หน่วยของส่ิงมชี ีวติ เวลา 15 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรยู้ ่อยท่ี 12 เร่อื ง การแพร่ รหสั วิชา/ชอ่ื วิชา ว 21101 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 เวลา 3 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวอารยา ตานี โรงเรียนดอนฉมิ พลพี ิทยาคม มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสงิ่ มีชวี ติ หน่วยพนื้ ฐานของสงิ่ มีชวี ติ การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ ความสมั พนั ธ์ ของโครงสรา้ ง และหน้าที่ของ ระบบตา่ ง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ย์ทท่ี ำงานสัมพันธก์ นั ความสัมพนั ธข์ อง โครงสร้าง และหน้าทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสัมพนั ธ์กัน รวมทัง้ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชีว้ ัด ม.1/5 อธบิ ายกระบวนการแพร่และออสโมซสิ จากหลักฐานเชิงประจกั ษแ์ ละยกตัวอยา่ งการแพร่ และ ออสโมซิสในชีวติ ประจำวัน สาระสำคญั เซลลม์ กี ารนำสารเข้าสู่เซลล์ เพ่ือใช้ในกระบวนการตา่ ง ๆ ของเซลล์และมีการขจัดสาร บางอย่างท่เี ซลล์ไม่ตอ้ งการออกนอกเซลลก์ ารนำสารเขา้ และออกจากเซลลม์ ีหลายวิธี เช่น การแพร่ เปน็ การเคลื่อนทขอ่ี งสารจากบริเวณท่มี คี วามเข้มข้นของสารสงู ไปสู่บรเิ วณทีม่ ีความเขม้ ข้นของสารต่ำ ส่วนออสโมซสิ เปน็ การแพร่ของน้ำผา่ นเยอื่ หุ้มเซลล์จากด้านที่มคี วามเขม้ ข้นของสารละลายตำ่ ไปยงั ดา้ นทมี่ คี วามเขม้ ข้นของ สารละลายสูงกวา่ สาระการเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1) การแพร่ ดา้ นทักษะ 1.1) ดา้ นทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1) ทกั ษะการสังเกต 2) ทักษะการจดั กระทำ 3) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมลู 1.2) ดา้ นทกั ษะการใช้อุปกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ 1) ช้อนตักสาร 2) บกี เกอร์ ด้านเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 4 การแพร่ 51 1) มีความอยากรอู้ ยากเห็น 2) ใฝร่ ูใ้ ฝเ่ รียน 3) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.อธบิ ายการลำเลียงสารเขา้ ออกจากเซลลด์ ้วยกระบวนการแพร่ได้ถกู ต้อง (K) 2.สามารถใช้อปุ กรณ์วิทยาศาสตร์ในการทดลองไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 3.ให้ความร่วมมอื ในการทำกิจกรรม (A) ช้ินงานหรือภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 12 เร่อื ง การแพร่ กจิ กรรมการเรียนรู้ (รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ : 5Es) ขัน้ ตอนที่ 1 : ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) 1.1 นักเรยี นและครรู ว่ มกันทบทวนความรเู้ ดิม โดยต้ังคำถามว่า - พืชสามารถดดู นำ้ และแรธ่ าตอุ าหารจากดินดว้ ยอวัยวะใด - การดดู น้ำและแรธ่ าตุของพืชใช้กระบวนการใด 1.3 ครูกระตนุ้ ให้นักเรียนเกดิ ข้อสงสัยและตั้งคำถามเกย่ี วกบั กระบวนการแพร่โดยการตงั้ คำถามวา่ กระบวนการแพร่เกิดขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร ด้วยวธิ ใี ด ขั้นตอนที่ 2 : ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) 2.1 นักเรยี นแบ่งกลุม่ โดยแบง่ กลุ่มออกเป็น 8 กลุ่มๆละ 4-5 คน (แตง่ ต้ังประธาน เลขา สมาชิก) 2.2 ใหต้ วั แทนแต่ละกลุ่มออกมารับอุปกรณ์ในการทำชดุ กิจกรรมท่ี 12 เรื่อง การแพร่ ไดแ้ ก่ น้ำ บกี เกอร์ ดา่ งทับทิม ช้อนตักสาร 2.3 นักเรียนศึกษาวธิ ีทดลองชดุ กจิ กรรม 2.3.1 ใสน่ ำ้ ปริมาณ 30 มิลลิลิตร ลงในบกี เกออร์ 2.3.2 ใสด่ า่ งทับทิม 3-4 เกรด็ ลงในบกี เกอรท์ บี่ รรจุนำ้ สังเกตกุ ารเปล่ยี นแปลงท่เี กิดขึ้นภายใน 5นาที ขนั้ ตอนที่ 3 : ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 3.1 นักเรียนเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากาการทำกิจกรรม 3.2 นกั เรียนทุกคนและคณุ ครูรว่ มกันอภิปรายและสรปุ ผลการทำกจิ กรรม ขัน้ ตอนท่ี 4 : ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 4.1 ครถู ามนักเรียนว่า นอกจากกระบวนการแพร่แล้ว ยังมีกระวนการใดทท่ี ่ชี ว่ ยในการลำเลยี งน้ำ และแร่ธาตอุ กี (กระบวนการออสโมซิส)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ่ี 4 การแพร่ 52 ขนั้ ตอนท่ี 5 : ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 5.1 แบบประเมินใบกจิ กรรม 5.2 แบบสังเกตทักษะการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล 5.3 แบบสังเกตเจตคติรายบุคคล การวดั และประเมนิ ผล ประเด็นการประเมิน วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมอื เกณฑ์ ความรู้ ทำใบกิจกรรม แบบประเมนิ ใบ นักเรยี นได้เกณฑร์ ้อย - การแพร่ ละ 70 ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะ กจิ กรรม 1.1) ทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ - ทักษะการสังเกต สงั เกตพฤติกรรมการ แบบประเมินดา้ น นกั เรียนผ่านเกณฑ์ใน - ทักษะการจดั กระทำและสือ่ ปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล ทกั ษะ/กระบวนการ ระดับดขี ้ึนไป ความหมายข้อมูล - ทักษะการลงความเหน็ จาก สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ เจตคติ นักเรยี นผ่านเกณฑ์ใน ข้อมูล 1.2) ทกั ษะการใช้อุปกรณ์ รายบุคคล ทางวทิ ยาศาสตร์ ระดับดขี ้นึ ไป วทิ ยาศาสตร์ - ชอ้ นตักสาร - บีกเกอร์ เจตติทางวิทยาศาสตร์ - มีความอยากรู้อยากเห็น - ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน - มุ่งมัน่ ในการทำงาน สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ ชดุ กจิ กรรมที่ 12 เร่อื ง การแพร่ แหล่งการเรยี นรู้ ห้องปฏิบตั กิ ารวิทยาศาสตร์

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 4 การแพร่ 53 ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินใบกิจกรรม 1 ระดบั คณุ ภาพ 32 1. ความรู้ สามารถสรุปความรูไ้ ด้ สามารถสรปุ ความรไู้ ด้ครบ สรุปความรไู้ มถ่ ูกต้อง ครบ ตรงประเด็นและ ตรงประเดน็ และมีความ ถกู ต้องทุกหัวขอ้ ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ 2.การเช่ือมโยงความรู้ สามารถเช่ือมโยง สามารรถเชอ่ื มโยงความรู้ สามารถเชอ่ื มโยง ความรู้ไดถ้ ูกต้อง ไดแ้ ละลำดบั ความสำคัญ ความรูไ้ ด้ แต่ไมเ่ ป็นไป ตามลำดบั ความสำคญั ค่อนข้างครบ ตามลำดับ ความสมั พันธ์ 3. ความสะอาด ช้ินงานมีความสะอาด ช้ินงานมีความสะอาด ชิน้ งานไม่สะอาด ขาด เรยี บร้อย เรียบรอ้ ยในรูแบบที่ ถกู ต้องและสวยงาม เรียบรอ้ ยและมี ความเปน็ ระเบียบ ข้อบกพรอ่ งเพยี งเล็กนอ้ ย เรียบรอ้ ย เกณฑ์การประเมิน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 8-9 ดมี าก 6-7 ดี 4-5 ค่อนขา้ งดี 2-3 พอใช้ 1 ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ไดร้ ะดบั คุณภาพดีข้ึนไป

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 4 การแพร่ 54 แบบประเมินใบกิจกรรม คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ จากการทำใบกิจกรรมของผูเ้ รียน โดยใหร้ ะดบั คะแนนลงในตารางทต่ี รง กบั พฤตกิ รรมของผ้เู รียน (ดเู กณฑใ์ นหนา้ ตอ่ ไป) เกณฑ์การให้คะแนน : 3 = ด,ี 2 = พอใช้, 1 = ตอ้ งปรับปรุง เลขท่ี ชอ่ื - สกุล ความรู้ การเชอื่ มโยง ความสะอาด รวม 123 ความรู้ เรียบร้อย 123 123 ลงชอื่ ................................................... ผู้ประเมิน .............../.............../................

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 4 การแพร่ 55 เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ ประเดน็ การประเมิน 3 ระดับคณุ ภาพ 1 2 1. การสังเกต บอกรายละเอยี ดของข้อมลู บอกรายละเอยี ดของ บอกรายละเอียดของ 2. การจดั กระทำ และตอบคำถามจากการ ข้อมลู และตอบคำถาม ขอ้ มลู และตอบ และส่ือความหมาย ขอ้ มูล สงั เกตไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง จาการสังเกตไดอ้ ย่าง คำถามจาการสงั เกต 3. การลงความเห็น ถกู ตอ้ งหรอื ขาดบางสว่ น ไดไ้ ม่ถกู ต้อง จากข้อมูล เลอื กรปู แบบทีจ่ ะใช้ในการ เลอื กรูปแบบทจ่ี ะใช้ใน เลือกรปู แบบทจ่ี ะใช้ เสนอข้อมูลไดเ้ หมาะสม การเสนอข้อมลู ได้ ในการเสนอข้อมลู ได้ ออกแบบการเสนอข้อมลู เหมาะสม ออกแบบการ เหมาะสม ออกแบบ ตามรูปแบบทเี่ ลือกไวไ้ ด้ เสนอข้อมูลตามรปู แบบ การเสนอข้อมูลตาม บรรยายลกั ษณะของสิ่งใด ทีเ่ ลอื กไว้ได้ บรรยาย รูปแบบที่เลอื กไว้ได้ ส่งิ หนึง่ ดว้ ยข้อความที่ ลักษณะของสิง่ ใดส่งิ หน่งึ บรรยายลักษณะของ กะทัดรดั สื่อความหมายให้ ดว้ ยข้อความที่กะทัดรดั ส่ิงใดสิง่ หน่ึงดว้ ย คนอน่ื เขา้ ใจได้ ส่ือความหมายใหค้ นอ่นื ขอ้ ความทกี่ ะทัดรัด เข้าใจได้ไมช่ ดั เจน สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ ข้อมูล โดยไมผ่ า่ น ข้อมูล โดยไม่ผา่ น จากข้อมลู ไดไ้ ม่ กระบวนการคดิ ได้อย่าง กระบวนการคดิ ได้อย่าง ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ต้องเป็นบางส่วน เกณฑ์การประเมนิ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 8-9 ดมี าก 6-7 ดี 4-5 2-3 ค่อนข้างดี 1 พอใช้ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ได้ระดับคุณภาพดขี ึน้ ไป

ชุดกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 4 การแพร่ 56 แบบสงั เกตทกั ษะการปฏบิ ัติงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รยี นในการปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยให้ระดับ คะแนนลงในตารางท่ตี รงกบั พฤติกรรมของผ้เู รียน (ดเู กณฑ์ในหนา้ ตอ่ ไป) เกณฑ์การใหค้ ะแนน : 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ตอ้ งปรบั ปรุง รายการประเมิน เลขที่ การสังเกต รวม ชอื่ - สกลุ การ ัจดกระทำและ ื่สอ ความหมาย ้ขอ ูมล ทักษะการส ้ราง แบบจำลอง ลงชอ่ื ................................................... ผู้ประเมิน .............../.............../...............

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 4 การแพร่ 57 เกณฑก์ ารประเมนิ ทกั ษะการใช้อปุ กรณ์วิทยาศาสตร์ ระดบั คุณภาพ ประเด็นการประเมิน 3 2 1 1.ช้อนตักสาร 1.ตกั สารแต่ละคร้ังต้องปาด 1.ตักสารแต่ละครั้งต้อง 1.ตกั สารแต่ละคร้งั 2.บีกเกอร์ ช้อนเพียงคร้ังเดียว ปาดชอ้ นเพยี งครั้งเดียว ตอ้ งปาดช้อนเพยี ง 2.ไม่กดสารในช้อนกอ่ นปาด 2.ไมก่ ดสารในช้อนกอ่ น คร้งั เดยี ว 3. เม่ือตกั แต่ละครง้ั แลว้ ทำ ปาด ความสะอาดชอ้ น และทำ ใหแ้ หง้ กอ่ นตักสารชนดิ อื่น 1.คำนึงถึงขนาดของบกี - 1.คำนงึ ถึงขนาดของบกี - 1.คำนึงถงึ ขนาด เกอร์ และปรมิ าตรของ เกอร์ และปรมิ าตรของ ของบกี -เกอร์ และ ของเหลวท่ีตอ้ งการวัด 2. ของเหลวทีต่ ้องการวัด ปรมิ าตรของ การอ่านปรมิ าตรสายตาต้อง 2. การอา่ นปรมิ าตร ของเหลวที่ตอ้ งการ ใหอ้ ยใู่ นระดับ เดยี วกับขีด สายตาตอ้ งใหอ้ ย่ใู น วัด ปรมิ าตร และสว่ นโค้งต่ำสุด ระดับ เดยี วกบั ขดี ของ ของเหลวในบกี เกอร์ ปริมาตร และส่วนโค้ง 3.วางบกี เกอร์ในท่ีไม่เส่ียง ต่ำสดุ ของ ตกแตก เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 5-6 ดีมาก 4 ดี 3 2 คอ่ นขา้ งดี 1 พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่าน ไดร้ ะดับคุณภาพดีข้ึนไป

ชุดกิจกรรมการเรียนร้ทู ี่ 4 การแพร่ 58 แบบสงั เกตทักษะการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รียนในการปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยใหร้ ะดับ คะแนนลงในตารางทต่ี รงกับพฤติกรรมของผเู้ รยี น (ดูเกณฑ์ในหนา้ ต่อไป) เกณฑ์การใหค้ ะแนน : 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ตอ้ งปรับปรุง รายการประเมนิ เลขท่ี ชื่อ - สกุล ช้อนตักสาร บีกเกอร์ รวม ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน .............../.............../...............

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ี 4 การแพร่ 59 ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1 ระดับคุณภาพ 32 1. มีความอยากรู้อยาก สนใจ ใฝร่ ู้ หาความรู้ สนใจ ใฝ่รู้ หาความรู้ สนใจ ใฝร่ ู้ หาความรู้ เหน็ เพิ่มเตมิ จากเอกสารหรือ เพ่ิมเตมิ จากเอกสารหรอื เพม่ิ เตมิ จากเอกสาร แหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ และ แหล่งเรียนร้ตู า่ ง ๆ และ หรือแหลง่ เรียนรู้ต่าง 2. ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น หาขอ้ มูลขอ้ เท็จจริงตา่ ง หาข้อมลู ข้อเท็จจรงิ ต่าง ๆ และหาข้อมูล 3. มุ่งม่ันในการทำงาน ๆทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับเร่อื งที่ ๆทเี่ กย่ี วขอ้ งกับเรอ่ื งท่ี ข้อเท็จจริงต่าง ๆที่ ศกึ ษาอยา่ งต่อเนื่องมี ศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื งมี เกีย่ วขอ้ งกับเรือ่ งที่ สว่ นร่วมในการทำ สว่ นร่วมในการทำ ศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ งมี กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ดี กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดด้ ี สว่ นร่วมในการทำ เยย่ี ม กจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้ ตัง้ ใจเรยี นและ พอใช้ ตงั้ ใจเรยี นและ รบั ผดิ ชอบในการทำงาน เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัติ รบั ผดิ ชอบในการทำงาน ทไ่ี ด้รับมอบหมายจน หน้าทีท่ ่ีได้รับ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายจน สำเร็จ มอบหมาย สำเรจ็ มกี ารปรบั ปรงุ ตงั้ ใจเรียนและ ตัง้ ใจเรียนและ รบั ผิดชอบในการทำงาน เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัติ รับผดิ ชอบในการทำงาน ท่ไี ด้รบั มอบหมายจน หน้าที่ท่ไี ดร้ ับ ทีไ่ ด้รับมอบหมายจน สำเร็จ มอบหมาย สำเรจ็ มีการปรับปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 8-9 ดมี าก 6-7 ดี 4-5 2-3 ค่อนข้างดี 1 พอใช้ ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ได้ระดบั คุณภาพดขี ึ้นไป

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 4 การแพร่ 60 แบบประเมนิ ดา้ นเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ จาการสงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี นในการปฏิบตั กิ ิจกรรมการทดลอง โดย ใหร้ ะดบั คะแนนลงในตารางที่ตรงกับพฤตกิ รรมของผ้เู รียน (ดูเกณฑใ์ นหน้าต่อไป) เกณฑ์การให้คะแนน : 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ตอ้ งปรบั ปรุง รายการประเมนิ สรปุ ผลการประเมนิ เลขที่ ชื่อ – สกลุ ีมความอยาก ู้รอยากเห็น ผ่าน ไมผ่ ่าน ใ ่ฝ ู้รใฝ่เ ีรยน คะแนนทไ่ี ด้ ุ่มง ั่มนในการทำงาน ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ .............../.............../................

ชุดกิจกรรมการเรียนร้ทู ี่ 4 การแพร่ 61 ใบความรู้ เร่อื ง การแพร่ การแพร่ เปน็ การเคลอ่ื นที่หรอื การกระจายอนุภาคของสารจากบรเิ วณท่ีมีความ เข้มขน้ ของสารมากไปยังบริเวณทม่ี คี วามเขม้ ข้นของสารน้อย จนกวา่ อนุภาคของสารจะมี ความเข้มข้นเทา่ กันทงั้ สองบริเวณ หรือทเ่ี ราเรียกวา่ สมดลุ ของการแพร่ การแพร่เกิดขนึ้ กบั สารทกุ สถานะ ทั้งของแขง็ ของเหลว และแก๊ส อนุภาคของสารยังมีการเคลื่อนทตี่ ลอดเวลา ไม่หยุดนิง่ เพ่อื รักษาความเข้มขน้ ให้เท่ากันตลอดเวลา การแพร่เกิดข้นึ ได้ทกุ ทิศทาง ไม่ แน่นอน การแพรใ่ นชวี ิตประจำวัน เชน่ การแพร่ของด่างทับทิมในนำ้ การแพร่ของกลน่ิ อาหาร การแพรก่ ระจายของนำ้ หอม การฉดี พ่นยากนั ยุง การฉีดพน่ สารกำจดั ศัตรูพชื การ แช่อมิ่ ผลไม้ การจุดธปู บูชาพระ การแพร่แก๊สออกซิเจนเข้าสู่หลอดเลอื ด การแพร่ของเชื้อ โรคในอากาศ เป็นต้น ปัจจัยที่มผี ลต่อการแพร่ 1. ความเข้มขน้ ของสาร สารทมี่ ีความเขม้ ขน้ สูงจะแพรไ่ ปสสู่ ารท่ีมีความเข้มขน้ ตำ่ 2. อณุ หภูมิ ถ้าอุณหภมู ิสงู การแพรข่ องสารจะเป็นไปอย่างรวดเรว็ กวา่ อุณหภมู ติ ำ่ 3. ขนาดอนุภาคสาร สารที่มีขนาดอนุภาคเล็กและนำ้ หนกั เบาจะแพรไ่ ด้รวดเร็วกวา่ สารท่มี ขี นาดใหญ่และนำ้ หนักมาก 4. ความสามารถในการละลายของสาร สารท่สี ามารถละลายได้ดี การแพรจ่ ะเกดิ ได้ เรว็ กว่า

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 4 การแพร่ 62 ใบกิจกรรมที่ 4 เรอื่ ง การแพร่ จุดประสงค์ของกจิ กรรม อธบิ ายเก่ยี วกับการลำเลยี งสารเข้าออกจากเซลล์ดว้ ยกระบวนการแพร่ วัสดอุ ุปกรณ์ 1.น้ำ 2.บกิ เกอร์ 3.ด่างทบั ทมิ 4.ชอ้ นตกั สาร วิธปี ฏบิ ตั ิ 1. ใส่น้ำปรมิ าณ 30 มิลลิลติ ร ลงในบีกเกออร์ 2. ใสด่ ่างทับทมิ 3-4 เกรด็ ลงในบกี เกอรท์ ีบ่ รรจุน้ำ สงั เกตุการเปลย่ี นแปลงท่เี กดิ ขึ้นภายใน 5นาที ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ผลการทดลอง การทดลอง จะเหน็ เป็นทางสมี ่วง แล้วเกลด็ จมลงก้น 1. ขณะใส่ดา่ งทับทมิ ลงไปในบีกเกอร์ ภาชนะ จากน้นั สีม่วงจะคอ่ ย ๆ กระจายไปจนท่วั 2. หลงั ใดา่ งทบั ทิมลงไปในบกี เกอร์ 5 นาที ภาชนะอยา่ งช้า ๆ คำถามท้ายกิจกรรม 1. การกระจายสีของด่างทบั ทมิ ในน้ำ เรียกวา่ การแพรข่ องสาร ซ่งึ เป็นการกระจาย อนภุ าคจากบรเิ วณ ทมี่ ีความเขม้ ขน้ ของสารมากไปยังบรเิ วณที่มคี วามเข้มขน้ ของสารนอ้ ย 2. ตวั อยา่ งการแพร่ของอนุภาคของสารที่พบในชีวติ ประจำวัน ไดแ้ ก่ 1) การแพร่ของด่างทับทิมในน้ำ 2) การแพรข่ องกล่ินอาหาร หรือกลิ่นตา่ ง ๆ 3) การแพร่ของเช้ือโรคในอากาศ สรุปผลการทดลอง การแพร่ คือ การเคลอ่ื นท่ขี องอนภุ าคของสารจากที่ซ่งึ มีความเข้มขน้ ของอนุภาคของสารมาก ไปสทู่ ี่มคี วามเข้มขน้ ของอนภุ าคของสารน้อย จนกระทั่งอนภุ าคของทั้ง 2 บรเิ วณมคี วามเขม้ ขน้ เท่ากัน เรียกวา่ สภาวะสมดลุ ของการแพร่

ชุดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 5 การออสโมซสิ 63 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 หนว่ ยของส่งิ มีชีวิต เวลา 15 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรยู้ ่อยท่ี 13 เรอ่ื ง การออสโมซสิ รหัสวิชา/ช่อื วิชา ว 21101 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 เวลา 3 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาวอารยา ตานี มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของส่ิงมชี ีวติ หน่วยพนื้ ฐานของส่ิงมีชวี ิต การลำเลียงสารผา่ นเซลล์ ความสมั พนั ธข์ องโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของ ระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสมั พันธ์กัน ความสมั พนั ธ์ของ โครงสร้าง และหน้าท่ีของอวัยวะตา่ ง ๆ ของพชื ทที่ ำงานสมั พันธ์กัน รวมท้งั นำ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตัวชี้วัด ม.1/5 อธบิ ายกระบวนการแพร่และออสโมซิสจากหลักฐานเชิงประจกั ษแ์ ละยกตวั อย่างการ แพร่ และออสโมซสิ ในชีวิตประจำวนั สาระสำคญั เซลลม์ ีการนำสารเขา้ สู่เซลล์ เพือ่ ใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของเซลล์และมกี ารขจดั สาร บางอยา่ งท่เี ซลล์ไม่ตอ้ งการออกนอกเซลลก์ ารนำสารเขา้ และออกจากเซลลม์ ีหลายวิธี เชน่ การแพร่ เป็นการเคล่ือนทขีอ่ งสารจากบริเวณทมี่ คี วามเขม้ ขน้ ของสารสูงไปสบู่ ริเวณท่มี ีความเขม้ ขน้ ของสารต่ำ สว่ นออสโมซสิ เป็นการแพรข่ องนำ้ ผ่านเยอ่ื ห้มุ เซลล์จากด้านทม่ี ีความเข้มขน้ ของสารละลายต่ำไปยงั ดา้ นทมี่ ีความเข้มข้นของ สารละลายสงู กวา่ สาระการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1) การออสโมซิส ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1) ทักษะการสงั เกต 2) ทักษะการทดลอง 3) ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมูล ด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1) มีความอยากรูอ้ ยากเห็น 2) ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน 3) มุง่ มน่ั ในการทำงาน

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 5 การออสโมซิส 64 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.อธิบายการลำเลียงสารเขา้ ออกจากเซลลด์ ว้ ยกระบวนการออสโมซสิ ได้ถกู ตอ้ ง (K) 2.สามารถทำการทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 3.ให้ความรว่ มมือในการทำกิจกรรม (A) ชิ้นงานหรอื ภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 13 เรื่อง การออสโมซิส กจิ กรรมการเรยี นรู้ (รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ : 5Es) ขน้ั ตอนที่ 1 : ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) 1.1 นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาและทบทวนความรู้ โดยการตงั้ คำถามว่า - พชื สามารถดูดนำ้ และแรธ่ าตุอาหารจากดินดว้ ยอวัยวะใด - การดดู นำ้ และแรธ่ าตขุ องพชื ใช้กระบวนการใด 1.2 ครูกระต้นุ ใหน้ กั เรียนเกดิ ข้อสงสยั และตั้งคำถามเก่ียวกับกระบวนการออสโมซสิ โดย การต้งั คำถามวา่ กระบวนการออสโมซสิ เกิดขน้ึ ได้อย่างไร ดว้ ยวธิ ใี ด ข้ันตอนที่ 2 : ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) 2.1 นักเรยี นแบ่งกลุ่ม โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 8 กลุ่มๆละ 4-5 คน (แต่งตง้ั ประธาน เลขา สมาชกิ ) 2.2 ให้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ออกมารับอปุ กรณใ์ นการทำชุดกิจกรรมที่ 13 เรอื่ ง การออสโม ซิส ไดแ้ ก่ น้ำ ยางรดั ขาตง้ั และที่ยึด บกี เกอร์ เซลโลเฟน หลอดแกว้ สารละลายน้ำตาลทราย 2.3 นักเรียนศกึ ษาวธิ ีทดลองชดุ กิจกรรม 2.3.1 นำเซลโลเฟนชบุ น้ำให้เปยี ก บุลงในบกี เกอร์ แล้วนำสารละลายนำ้ ตาวทราย ปรมิ าตร 30 มลิ ลลิ ิตร เทลงนเซลโลเฟน 2.3.2 นำหลอดแก้วจุ่ในสารลายน้ำตาลทรายในเซลโลเฟน รวบปากถงุ แล้วใช้ยางรัด ปากถงุ ติดกับหลอดแก้วให้แนน่ โดยพยายามอย่าให้มีฟองอากาศเกดิ ขึน้ ทัง้ ใน หลอดแกว้ และถุงเซลโลเฟน 2.3.3 ยดึ หลอดแกว้ กับขาต้ังใหต้ ้ังตรง ทำเครื่องหมายระดับของเหลวในหลอด แลว้ ใสน่ ำ้ สีลงในบกี เกอร์ ใหร้ ะดับนำ้ อย่ใู ต้ยางรดั ปากถงุ เลก็ นอ้ ย และสงั เกตการณ์ เปล่ยี นแปลงในเวลา 5 นาที บันทกึ

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ่ี 5 การออสโมซสิ 65 ขั้นตอนท่ี 3 : ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 3.1 นักเรียนเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากาการทำ กจิ กรรม 3.2 นกั เรียนทุกคนและคณุ ครูรว่ มกนั อภปิ รายและสรุปผลการทำกจิ กรรม ข้นั ตอนท่ี 4 : ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 4.1 ครถู ามนักเรียนวา่ การลำเลียงสารเข้าออกจากเซลล์สำคญั ตอ่ สงิ่ มีชวี ติ อย่างไร ขั้นตอนท่ี 5 : ข้ันประเมิน (Evaluation) 5.1 แบบประเมินใบกจิ กรรม 5.2 แบบสงั เกตทกั ษะการปฏิบัติงานรายบคุ คล 5.3 แบบสงั เกตเจตคตริ ายบุคคล การวัดและประเมินผล ประเดน็ การประเมิน วธิ ีการประเมิน เครื่องมอื เกณฑ์ ความรู้ ทำใบกิจกรรม แบบประเมินใบ นกั เรยี นไดเ้ กณฑ์ - การออสโมซิส ร้อยละ 70 ผ่าน กจิ กรรม ทกั ษะ เกณฑ์ แบบประเมนิ ดา้ น - ทักษะการสังเกต สงั เกตพฤตกิ รรมการ ทกั ษะ/กระบวนการ นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ - ทักษะการทดลอง ปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล ในระดับดขี ึ้นไป - ทักษะการลงความเห็นจาก แบบประเมินเจตคติ ทางวิทยาศาสตร์ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ ข้อมูล ในระดับดขี น้ึ ไป เจตติทางวิทยาศาสตร์ - มีความอยากรู้อยากเหน็ สงั เกตพฤตกิ รรม - ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น รายบคุ คล - มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ ชดุ กิจกรรมที่ 13 เรอ่ื ง การออสโมซิส แหล่งการเรียนรู้ หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารวิทยาศาสตร์

ชุดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 5 การออสโมซสิ 66 ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินใบกจิ กรรม 1 ระดับคณุ ภาพ 32 1. ความรู้ สามารถสรุปความรไู้ ด้ สามารถสรปุ ความรู้ได้ครบ สรุปความรู้ไม่ ครบ ตรงประเด็นและ 2.การเช่ือมโยง ถกู ต้องทกุ หัวข้อ ตรงประเดน็ และมีความ ถูกตอ้ ง ความรู้ สามารถเช่ือมโยง ความรู้ไดถ้ ูกต้อง ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่ 3. ความสะอาด ตามลำดบั ความสำคญั เรียบร้อย สามารรถเชอ่ื มโยงความรูไ้ ด้ สามารถเช่ือมโยง ชิ้นงานมคี วามสะอาด เรยี บร้อยในรแู บบท่ี และลำดับความสำคัญ ความรไู้ ด้ แต่ไม่ ถูกต้องและสวยงาม คอ่ นขา้ งครบ เปน็ ไปตามลำดับ ความสัมพนั ธ์ ชิ้นงานมคี วามสะอาด ชิ้นงานไม่สะอาด เรียบรอ้ ยและมีข้อบกพรอ่ ง ขาดความเปน็ เพียงเลก็ นอ้ ย ระเบยี บเรียบร้อย เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 8-9 ดีมาก 6-7 ดี 4-5 คอ่ นขา้ งดี 2-3 พอใช้ 1 ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น ไดร้ ะดับคุณภาพดีขน้ึ ไป

ชุดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 5 การออสโมซิส 67 แบบประเมนิ ใบกิจกรรม คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ จากการทำใบกจิ กรรมของผ้เู รียน โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางทีต่ รง กบั พฤติกรรมของผู้เรียน (ดูเกณฑใ์ นหน้าตอ่ ไป) เกณฑ์การใหค้ ะแนน : 3 = ด,ี 2 = พอใช้, 1 = ตอ้ งปรบั ปรุง เลขท่ี ชอ่ื - สกุล ความรู้ การเชื่อมโยง ความสะอาด รวม 123 ความรู้ เรียบร้อย 123 123 ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมิน .............../.............../................

ชุดกิจกรรมการเรียนรูท้ ่ี 5 การออสโมซสิ 68 ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะ/กระบวนการ 1 ระดับคณุ ภาพ 32 1. การสงั เกต บอกรายละเอียดของ บอกรายละเอียดของขอ้ มูล บอกรายละเอียดของ ข้อมูล และตอบคำถาม และตอบคำถามจาการ ข้อมูล และตอบ 2.ทกั ษะการทดลอง จากการสังเกตไดอ้ ยา่ ง สังเกตได้อย่างถูกตอ้ งหรือ คำถามจาการสังเกต 3. การลงความเหน็ ถกู ตอ้ ง ขาดบางส่วน ไดไ้ มถ่ ูกต้อง จากข้อมลู สามารถออกแบบการ สามารถออกแบบการ สามารถออกแบบการ ทดลองและกำหนดวิธี ทดลองและกำหนดวิธี ทดลองและกำหนดวธิ ี ขั้นตอนได้ถกู ตอ้ ง ข้ันตอนได้ต้องบางส่วน ขนั้ ตอนไดไ้ ม่ถกู ตอ้ ง สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น ข้อมูล โดยไมผ่ า่ น ข้อมลู โดยไม่ผ่าน จากขอ้ มูลได้ไม่ถกู ตอ้ ง กระบวนการคดิ ได้อย่าง กระบวนการคิดไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งเปน็ บางสว่ น เกณฑก์ ารประเมนิ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 8-9 ดีมาก 6-7 ดี 4-5 2-3 คอ่ นขา้ งดี 1 พอใช้ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้ระดบั คุณภาพดีขน้ึ ไป

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 5 การออสโมซสิ 69 แบบสังเกตทกั ษะการปฏิบตั ิงานรายบุคคล คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมินจากการสังเกตพฤตกิ รรมของผูเ้ รยี นในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใหร้ ะดบั คะแนนลงในตารางที่ตรงกบั พฤตกิ รรมของผ้เู รยี น (ดเู กณฑ์ในหน้าต่อไป) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ต้องปรบั ปรงุ รายการประเมิน เลขที่ การ ัสงเกต รวม ชอื่ - สกลุ ทักษะการทดลอง ทักษะการส ้ราง แบบจำลอง ลงชอ่ื ................................................... ผู้ประเมิน .............../.............../...............

ชุดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 5 การออสโมซสิ 70 ประเด็นการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 1 ระดับคุณภาพ 32 1. มคี วามอยากรู้ สนใจ ใฝร่ ู้ หาความรู้ สนใจ ใฝ่รู้ หาความรู้ สนใจ ใฝร่ ู้ หาความรู้ อยากเหน็ เพิม่ เติมจากเอกสารหรอื เพ่ิมเตมิ จากเอกสารหรอื เพ่มิ เติมจากเอกสารหรอื 2. ใฝร่ ้ใู ฝ่เรียน 3. มุง่ ม่นั ในการ แหลง่ เรียนรูต้ ่าง ๆ และ แหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ และ แหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ และ ทำงาน หาขอ้ มูลขอ้ เทจ็ จรงิ ต่าง หาขอ้ มูลข้อเท็จจริงต่าง หาข้อมลู ขอ้ เทจ็ จรงิ ต่าง ๆทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั เรอ่ื งท่ี ๆท่ีเกี่ยวข้องกบั เรอ่ื งที่ ๆทเี่ กีย่ วข้องกับเรือ่ งท่ี ศึกษาอย่างตอ่ เน่ืองมี ศึกษาอย่างต่อเนือ่ งมสี ว่ น ศึกษาอยา่ งต่อเน่อื งมสี ว่ น สว่ นร่วมในการทำ รว่ มในการทำกิจกรรม ร่วมในการทำกจิ กรรม กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ดี การเรยี นรูไ้ ดด้ ี การเรียนรไู้ ดพ้ อใช้ เย่ียม ต้ังใจเรียนและ ต้ังใจเรียนและรบั ผิดชอบ เอาใจใส่ต่อการปฏิบตั ิ รับผดิ ชอบในการทำงาน ในการทำงานท่ีไดร้ บั หน้าทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจน มอบหมายจนสำเรจ็ สำเร็จมีการปรบั ปรุง ตั้งใจเรียนและ ตง้ั ใจเรยี นและรบั ผิดชอบ เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัติ รับผิดชอบในการทำงาน ในการทำงานทไ่ี ดร้ บั หน้าที่ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจน มอบหมายจนสำเรจ็ สำเรจ็ มีการปรับปรงุ เกณฑก์ ารประเมิน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 8-9 ดมี าก 6-7 ดี 4-5 2-3 ค่อนข้างดี 1 พอใช้ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน ไดร้ ะดบั คุณภาพดีข้นึ ไป

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 5 การออสโมซสิ 71 แบบประเมนิ ด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ จาการสังเกตพฤติกรรมของผเู้ รียนในการปฏบิ ัติกจิ กรรมการทดลอง โดย ให้ระดับคะแนนลงในตารางที่ตรงกบั พฤติกรรมของผู้เรียน (ดเู กณฑใ์ นหน้าต่อไป) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : 3 = ดี, 2 = พอใช้, 1 = ต้องปรบั ปรงุ รายการประเมนิ สรปุ ผลการประเมนิ เลขท่ี ชื่อ – สกลุ ีมความอยาก ู้รอยากเห็น ผ่าน ไม่ผา่ น ใฝ่ ู้รใฝ่เ ีรยน ุ่มง ่ัมนในการทำงาน คะแนนที่ไ ้ด ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ .............../.............../................

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 5 การออสโมซิส 72 ใบความรู้ เรื่อง การออสโมซิส การออสโมซสิ เป็นการแพรข่ องนำ้ ผ่านเยอ่ื เลือกผา่ น จากบรเิ วณท่ีมี ความเขม้ ข้นของสารละลายตำ่ ไปสู่บรเิ วณที่มีความเขม้ ขน้ ความเขม้ ข้น ของสารละลายสูง โดย ผา่ นเยือ่ กนั้ บาง ๆ ซ่งึ ทำหนา้ ท่เี ปน็ เยอ่ื เลือกผ่าน ( semi – permeable membrane ) เยื่อเลือกผา่ น คอื เยอ่ื บาง ๆ ทย่ี อมให้สารบางอย่างผ่านได้ แตส่ าร บางอย่างผ่านไม่ได้ ตวั อย่างเช่น เยอ่ื หมุ้ เซลล์ กระดาษเซลโลเฟน กระเพาะปัสสาวะสัตว์ เย่ือชนั้ ในของไข่ เปน็ ต้น การออสโมซิสในชีวติ ประจำวนั เช่น การแชผ่ กั ในนำ้ การปักดอกไมใ้ น แจกนั การดูดน้ำเข้าสู่รากพืช การเหย่ี วของต้นพชื การพองของเย่อื ช้นั ใน ของไข่เมอ่ื แช่ในน้ำ การอาบน้ำทำใหร้ ่างกายสดชืน่ เปน็ ต้น

ชุดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 5 การออสโมซิส 73 ใบกิจกรรมที่ 5 เร่ือง การออสโมซิส จุดประสงค์ของกิจกรรม อธิบายเก่ียวกบั การลำเลยี งสารเข้าออกจากเซลล์ดว้ ยกระบวนการออสโมซสิ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1.นำ้ 2.ยางรัด 3.ขาต้ังและท่ียดึ 5.บีกเกอร์ 6.เซลโลเฟน 7.หลอดแก้ว 8.สารละลายนำ้ ตาลทราย วธิ ีปฏบิ ตั ิ 1. นำเซลโลเฟนชุบนำ้ ให้เปียก บุลงในบกี เกอร์ แล้วนำสารละลายน้ำตาวทราย ปริมาตร 30 มิลลิลิตร เทลงนเซลโลเฟน 2. นำหลอดแก้วจุ่ในสารลายนำ้ ตาลทรายในเซลโลเฟน รวบปากถงุ แลว้ ใชย้ างรัดปากถุงตดิ กบั หลอดแกว้ ใหแ้ นน่ โดยพยายามอย่าให้มฟี องอากาศเกิดขนึ้ ท้งั ในหลอดแก้วและถงุ เซลโลเฟน 3. ยึดหลอดแก้วกับขาต้ังให้ต้งั ตรง ทำเครอ่ื งหมายระดับของเหลวในหลอด แลว้ ใสน่ ้ำสีลงในบีกเกอร์ ให้ระดบั น้ำอยใู่ ต้ยางรัดปากถุงเล็กน้อย และสังเกตการณ์เปล่ยี นแปลงในเวลา 5 นาที บนั ทึกลงใน ตาราง ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ผลการทดลอง การทดลอง ของเหลวในหลอดแก้วเทา่ กับระดบั สาร 1. ขณะทดลอง ละสายน้ำตาล 2. หลงั การทดลอง 5 นาที ของเหลวในหลอดแกว้ เพ่ิมขนึ้ เคลอื่ นที่ ไปตามหลอดแก้ว

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่ 5 การออสโมซสิ 74 คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. จากการทดลองเยอ่ื เซลโลเฟน มีคุณสมบัติอย่างไร เป็นเยอื่ เลอื กผ่าน ควบคุมการเขา้ -ออกของสาร............................................................................ ...................................................................................................................................................... 2. โครงสร้างส่วนใดของเซลลท์ ีม่ คี ุณสมบัติเช่นเดียวกับเยือ่ เซลโลเฟน เย่ือหมุ้ เซลล์................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. หากเปล่ียนนำ้ ในบกี เกอรใ์ หเ้ ปน็ สารละลายทม่ี คี วามเขม้ ขน้ กวา่ สารละลายนำ้ ตาล ระดับ ของเหลวในหลอดแกว้ มกี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งไรเพราะเหตใุ ด ของเหลวในหลอดแกว้ ลดลง เพราะสารในถงุ เซลโลเฟนแพรอ่ อก................................................. ...................................................................................................................................................... สรุป นำ้ สามารถแพรเ่ ข้าสถู่ งุ เซลโลเฟนได้ ทำให้ของเหลวในหลอดแก้วเพม่ื ขน้ึ จึงสรุป ไดว้ ่าเซลโลเฟนมีคุณสมบัตเิ ป็นเย่ือเลอื กผา่ น ทยี่ อมใหอ้ นภุ าคของสารผา่ นได้ แตอ่ นุภาคของ สารนัน้ ต้องมีขนาดเล็กกว่ารขู องเซลโลเฟน จึงจะลอดผ่านไปได้ ............................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง หนว่ ยของส่งิ มชี วี ิต 75 แบบทดสอบหลงั เรยี น คำชแี้ จง 1. แบบทดสอบเปน็ แบบปรนยั เลือกคำตอบ 4 ตัวเลอื ก จำนวน 20 ข้อ 2. ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดยี ว ทำเครือ่ งหมายกากบาท (×) ลงในกระดาษคำตอบ 1. สว่ นประกอบใดของเซลล์พชื ท่ชี ว่ ยใหเ้ ซลล์สามารถรูปสภาพอยไู่ ดอ้ ยา่ งปกติ ก. นิวเคลียส ข. เยื่อหุม้ เซลล์ ค. ผนังเซลล์ ง. ไซโทพลาซึม 2. เซลลจ์ ะเก็บสะสมสารต่าง ๆ ไวใ้ นโครงสรา้ งใด ก. แวคิวโอล ข. กอลจิบอดี ค. ไมโทคอนเดรยี ง. คลอโรพลาสต์ 3. ขอ้ ความใดกลา่ วถกู ตอ้ งทส่ี ดุ ก. เซลล์พชื มรี ปู รา่ งเป็นสเี่ หลยี่ ม เพราะไมม่ ีผนงั เซลล์ ข. ท้งั เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั วม์ ีสิง่ ท่เี หมอื นกัน คือ คลอโรพลาสต์ ค. เซลล์พชื มแี วควิ โอลขนาดใหญ่ ส่วนเซลล์สตั วม์ แี วควิ โอลขนาดเล็ก ง. เซลล์สตั ว์มีลักษณะอ่อนนมุ่ เพราะผนงั เซลล์ประกอบด้วยสารโปรตีน 4. ในเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์มีโครงสร้างใดทีม่ ีขนาดแตกต่างกันอย่างชดั เจน ก. นวิ เคลยี ส ข. แวควิ โอล ค. โครโมโซม ง. เยื่อหุ้มเซลล์ 5. อุปกรณใ์ นขอ้ ใดเม่ือเลิกใชก้ ล้องจลุ ทรรศนแ์ ล้วตอ้ งถอดเกบ็ ก. เลนสใ์ กล้ตา ข. เลนสใ์ กลว้ ตั ถุ ค. กระจกเงารบั แสง ง. ปมุ่ ปรับภาพหยาบ 6. เซลล์ใดมีลกั ษณะเปน็ เสน้ ยาว และมีเส้นใยเป็นกิ่งแขนงมากมายมีทงั้ ยาวและสัน้ ก. เซลลอ์ สุจคิ นและเซลล์เมด็ เลอื ดขาวคน ข. เซลลเ์ ม็ดเลอื ดแดงและเซลลป์ ระสาทคน ค. เซลลเ์ มด็ เลือดแดง ง. เซลลป์ ระสาทคน

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง หน่วยของสงิ่ มีชีวติ 76 7. องคป์ ระกอบใดทพ่ี บเฉพาะเซลลพ์ ืชเทา่ นั้น ก. ผนังเซลล์ ข. เยื่อห้มุ เซลล์ ค. นวิ เคลยี ส ง. ไรโบโซม 8. องคป์ ระกอบใดทพี่ บเฉพาะเซลล์สัตว์เทา่ นั้น ก. กอลจิบอดี ข. เซนทริโอ ค. แวควิ โอล ง. ร่างแหเอนโดพลาสซึม 9. ข้อใดคือความหมายของการแพร่ ก. การแพรข่ องโมเลกุลของสารละลายเจอื จางสู่สารละลายเข้มขน้ ผา่ นเยอ่ื เลือกผ่าน ข. การแพรข่ องโมเลกลุ ของสารละลายเขม้ ข้นสู่สารละลายเจือจาง ผา่ นเยื่อเลอื กผา่ น ค. การแพรข่ องโมเลกุลจากสารละลายเขม้ ข้นสสู่ ารละลายเจอื จางกว่า ง. การแพรข่ องโมเลกลุ จากสารละลายเจอื จางส่สู ารละลายเข้มขน้ กวา่ 10. ในการนำสารเข้าออกเซลล์ของสิ่งมีชีวิตดว้ ยการออสโมซิส ส่ิงใดทำหน้าที่เป็นเยอื่ เลอื กผา่ น ก. ผนงั เซลล์ ข. เย่ือห้มุ เซลล์ ค. แวคิวโอล ง. นวิ เคลียส 11. สารไม่สามารถแพร่ในตวั กลางชนิดใด ก. กา๊ ซออกซเิ จน ข. นำ้ ร้อน ค. แกว้ และเหล็ก ง. วนุ้ ที่ต้มแลว้ ทิ้งไวใ้ ห้เย็น 12. สารจะแพร่ไดด้ ใี นตัวกลางชนิดใด ก. ก๊าซ ข.ของเหลว ค. ของแขง็ ง. ก และ ข 13. ส่วนประกอบใดของกล้องจุลทรรศน์ที่ทำหน้าทขี่ ยายขนาดของวัตถุ ก. จานหมนุ เลนส์รวมแสง ข. เลนสใ์ กลต้ า เลนส์ใกลว้ ตั ถุ ค. ไอริส ไดอะแฟรม เลนสร์ วมแสง ง. ปุ่มปรบั ภาพละเอียด ปมุ่ ปรบั ภาพหยาบ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง หน่วยของสง่ิ มีชีวิต 77 14. หน่วยทเี่ ล็กท่ีสดุ ทีท่ ำหน้าทใ่ี นการดำรงชีวติ อย่างสมบูรณ์ ไดแ้ ก่ขอ้ ใด ข. เซลล์ ข. นิวเคลียส ง. โมเลกลุ ของโปรตีน ง. เมด็ คลอโรพลาสต์ 15. ถา้ ใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์สอ่ งดูวัตถุโดยใช้เลนสใ์ กลว้ ตั ถกุ ำลังขยาย 40X และถา้ เลนสใ์ กล้ ตามกี ำลังขยาย 10X จะขยายวัตถไุ ด้ก่เี ทา่ ก. 30 เท่า ข. 40 เทา่ ค. 50 เท่า ง. 400 เท่า 16. สารพนั ธกุ รรมหรือดีเอน็ เอ มีอยใู่ นสว่ นใดของเซลล์ ก. นิวเคลียส ข. เย่อื ห้มุ เซลล์ ค. ไซโทพลาซมึ ง. คลอโรพลาสต์ 17. พชื สามารถสร้างอาหารเองไดเ้ พราะในไซโทพลาซมึ มสี ารชนดิ ใด ก. ไรโบโซม ข. นวิ เคลยี ส ค. คลอโรพลาสต์ ง. ไมโทคอนเดรยี 18. เพราะเหตใุ ด เซลลส์ ัตว์สว่ นมากจึงมีรปู รา่ งไม่แน่นอน และไมส่ ามารถคงรปู อยไู่ ด้ ก. เพราะมีแวคิวโอล ข. เพราะไมม่ ีผนงั เซลล์ ค. เพราะมเี ยื่อหุ้มเซลล์ ง. เพราะไมม่ คี ลอโรพลาสต์ 19. เหตผุ ลใดที่จัดให้เย่อื หมุ้ เซลล์มีคณุ สมบตั เิ ป็นเยอ่ื เลือกผา่ น ก. ยอมใหโ้ มเลกุลของสารทุกชนดิ ผ่านได้ ข. ยอมให้โมเลกลุ ของสารบางชนดิ เทา่ นน้ั ผ่านได้ ค. ยอมให้โมเลกลุ ของสารผ่านออกมาได้แต่ผ่านเขา้ ไปไมไ่ ด้ ง. ยอมให้โมเลกุลของสารผ่านเขา้ ไปได้แตผ่ ่านออกมาไมไ่ ด้ 20. ขอ้ ใดคือความหมายของการออสโมซิส ก. การแพรข่ องโมเลกลุ ของสารละลายเจอื จางสู่สารละลายเขม้ ขน้ ผ่านเยื่อเลือกผา่ น ข. การแพรข่ องโมเลกุลของสารละลายเข้มข้นสสู่ ารละลายเจือจาง ผา่ นเย่อื เลือกผ่าน ค. การแพรข่ องโมเลกุลจากสารละลายเขม้ ข้นส่สู ารละลายเจอื จางกวา่ ง. การแพร่ของโมเลกุลจากสารละลายเจือจางสูส่ ารละลายเข้มขน้ กวา่

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง หนว่ ยของสง่ิ มีชวี ิต 78 กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรียน ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรอ่ื ง หนว่ ยของสิ่งมีชวี ติ คำสง่ั จงเลือกคำตอบท่ถี กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว แล้วทำเครือ่ งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 11 2 12 3 13 4 14 5 15 6 16 7 17 8 18 9 19 10 20 คะแนนเต็ม 20 คะแนน ได้ .............................. คะแนน เกณฑ์การผา่ น 14 คะแนน ผ่าน ไม่ผา่ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook