Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค

การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค

Published by romrawin.nuty, 2022-08-06 15:16:04

Description: 1การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค

Search

Read the Text Version

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลกและภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาสงั คมศกึ ษา 5 (ภมู ิศาสตร)์ รหสั วชิ า ส33101 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลกและภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรยี นเบต็ ตด้ี เู มน 2 ชอ่ งเมก็ อาเภอสริ นิ ธร จงั หวดั อบุ ลราชธานี องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั อุบลราชธานี

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลกและภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จัดทาขึ้นเพ่ือเป็นส่ือนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน รายวิชาสังคมศึกษา 5 (ภูมิศาสตร์) รหัสวิชา ส33101 เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนและสามารถเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง นาไปใชใ้ นการเรียนการสอน ซ่อมเสริมได้ หรือใชใ้ นการสอนแทนได้เป็นอยา่ งดี เพื่อให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจและพัฒนา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นนวัตกรรมท่ีช่วยลดบทบาทของครูตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนาตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ ซ่ึงสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ท่มี ุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนได้รับการ พัฒนาทั้งด้านความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การ แก้ปัญหา ความสามารถในการส่ือสาร การตัดสินใจ การนาความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาวัน ตลอดจนส่งเสริม ใหผ้ ้เู รียนมจี ติ สงั คมศกึ ษาคณุ ธรรมและคา่ นยิ มท่ถี ูกต้องเหมาะสม ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ทาให้มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองการเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลกและภัยพิบัติทาง ธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึน สามารถใช้เพื่อศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเองเป็นส่ือที่มีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุ วัตถปุ ระสงค์ของหลกั สูตรได้ รมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ ก

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณภี าค สำรบญั เรือ่ ง หนำ้ คำนำ ก สำรบัญ ข คำช้แี จงเกย่ี วกับกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ค แผนภูมิลำดับขั้นตอนกำรใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ง คำชแ้ี จงกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้สำหรับครู จ คำชแ้ี จงกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้สำหรับนกั เรียน ฉ 1 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้สตู่ วั ชว้ี ัด 2 สาระสาคญั 3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 6 บตั รเนอ้ื หา ชุดท่ี 1 เรือ่ ง การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค 30 บตั รกจิ กรรมท่ี 1.1 เร่อื ง ขอ้ มลู ในการศึกษาและแบ่งชั้นโครงสร้างโลก 33 บตั รกิจกรรมท่ี 1.2 เรอื่ ง การเคลื่อนทีข่ องแผ่นเปลอื กโลก 35 บตั รกจิ กรรมที่ 1.3 ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงทางธรณภี าค 36 แบบทดสอบหลังเรียน 39 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 40 บรรณำนกุ รม 42 ภำคผนวก 43 เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 1.1 เรือ่ ง ขอ้ มลู ในการศึกษาและแบ่งช้ันโครงสรา้ งโลก 46 เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 1.2 เรื่อง การเคล่อื นท่ขี องแผ่นเปลอื กโลก 48 เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 1.3 ผงั มโนทศั น์ เร่อื ง การเปล่ยี นแปลงทางธรณภี าค 49 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 50 ประวัติยอ่ ผจู้ ดั ทำ โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ข

ชุดที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค คำชี้แจงเกี่ยวกบั ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของ โลกและภัยพิบัติทางธรรมชาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อใช้ ประกอบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา 5 (ภูมิศาสตร์) รหัสวิชา ส33101 ช้ันมัธยมศึกษา ปที ่ี 6 โดยสอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) กระทรวงศกึ ษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝกึ ทีเ่ หมาะสมกบั ระดับ และวัย เพ่ือให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพ่ือ ส่งเสริมเจตคติที่ดี นักเรียนจะได้พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการ แก้ปัญหา และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ ซง่ึ ประกอบดว้ ยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 8 ชุด ดังน้ี ชดุ ที่ 1 เรือ่ ง การเปล่ยี นแปลงทางธรณภี าค ชุดท่ี 2 เรอื่ ง การเปลีย่ นแปลงทางบรรยากาศภาค ชุดท่ี 3 เรอ่ื ง การเปลยี่ นแปลงทางอทุ กภาค ชุดท่ี 4 เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค ชุดท่ี 5 เรื่อง ภยั พิบตั ิธรรมชาติทางธรณภี าค ชดุ ท่ี 6 เรือ่ ง ภัยพิบตั ิธรรมชาติทางบรรยากาศภาค ชดุ ท่ี 7 เรอ่ื ง ภยั พบิ ตั ิธรรมชาตทิ างอทกภาค ชุดที่ 8 เรอื่ ง ภัยพิบตั ธิ รรมชาติทางชวี ภาค 2. ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ชุดนี้เป็น ชดุ ที่ 1 เร่ือง กำรเปล่ียนแปลงทำงธรณภี ำค ใช้เวลำ 2 ช่วั โมง 3. ผู้ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้ควรศึกษาข้ันตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่าง ละเอยี ดกอ่ นใช้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดน้ี จะมีประโยชน์ต่อนักเรียน และผู้สนใจที่จะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ มากยิ่งข้นึ ตอ่ ไป โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ ค

ชุดที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค แผนภูมลิ ำดับข้นั ตอนกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ อ่านคาชแ้ี จงและคาแนะนาในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ศกึ ษาตวั ช้ีวัดและจุดประสงค์การเรียนรู้ เสรมิ พ้นื ฐำน ทดสอบกอ่ นเรียน ผมู้ ีพ้นื ฐำนตำ่ ศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามข้นั ตอน ประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรูจ้ ากชุดกิจกรรม ไมผ่ ำ่ น ทดสอบหลังเรียน กำรทดสอบ ผ่ำนกำรทดสอบ ศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้เรื่องต่อไป แผนภมู ิลำดับขน้ั ตอนกำรเรียนโดยใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ชุดที่ 1 เรื่อง เร่ือง กำรเปล่ยี นแปลงทำงธรณีภำค โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ง

ชดุ ที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณีภาค คำชแี้ จงกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรสู้ ำหรับครู ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูท้ คี่ รูผูส้ อนไดศ้ ึกษาต่อไปนค้ี อื ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง กำรเปล่ียนแปลงทำง ธรณีภำค ใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม 2 ชว่ั โมง ซึง่ นกั เรียนจะได้สารวจ สังเกตและรวบรวม ข้อมูล มาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลมุ่ เพื่อช่วยให้การดาเนินการ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรรลุจุดประสงค์และมปี ระสิทธิภาพ ครผู ู้สอนควรดาเนินการดงั น้ี 1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเกี่ยวกับคาช้ีแจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สาหรับครู และแผนการจดั การเรยี นรู้ เพื่อท่ีครูผู้สอนสามารถนาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ในการ จดั กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. ครผู ู้สอนเตรยี มสอ่ื การเรียนการสอนใหพ้ รอ้ ม 3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซ่ึงนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด ยกเวน้ สื่อการสอนท่ตี ้องใช้รว่ มกนั 4. ครูต้องชี้แจงใหน้ ักเรียนรู้เก่ียวกับบทบาทของนักเรียนในการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ดังน้ี 4.1 ศึกษาบทบาทของนกั เรียนจากการปฏิบัติกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนการเรียนรู้โดยใช้ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับข้ันตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพื่อจะได้ทราบ วา่ จะปฏบิ ัติกิจกรรมอะไร อย่างไร 4.3 นักเรียนต้องต้ังใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ ช่วยเหลอื ซึง่ กนั และกัน ไมร่ บกวนผอู้ ่ืน และไม่ชกั ชวนเพือ่ นใหอ้ อกนอกลนู่ อกทาง 4.4 หลังจากปฏบิ ัติกจิ กรรมแล้ว นักเรยี นจะตอ้ งจดั เกบ็ อปุ กรณท์ ุกชน้ิ ให้เรียบร้อย 4.5 เม่อื มีการประเมินผลนักเรยี นต้องปฏิบตั ติ นอย่างตง้ั ใจและรอบคอบ 5. ขณะที่นักเรียนทุกกลุ่มปฏิบตั ิกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด เปน็ รายกลมุ่ หรือรายบุคคล ตอ้ งไมร่ บกวนกิจกรรมของนกั เรียนกลมุ่ อืน่ 6. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน ใดหรอื กลุ่มใดมีปัญหาควรเขา้ ไปให้ความช่วยเหลอื จนปญั หาน้ันคลคี่ ลายลง 7. การสรุปผลที่ไดจ้ ากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเปน็ กิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ ตวั แทนของกลุ่มร่วมกัน ครคู วรเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นแสดงออกให้มากทีส่ ดุ 8. ประเมินผลการเรยี นร้ขู องนกั เรียน เพือ่ ตรวจสอบผลการเรียนร้ขู องนักเรียน โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ จ

ชุดที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค คำช้แี จงกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรสู้ ำหรับนกั เรียน ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่นักเรียนได้ศึกษาต่อไปน้ีคือ ชุดที่ 1 เรอ่ื ง กำรเปลี่ยนแปลงทำง ธรณีภำค ซ่ึงนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต และรวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางสังคม ศึกษา กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิด ประโยชน์สงู สดุ นักเรยี นควรปฏิบัติตามคาชีแ้ จง ดังต่อไปน้ี 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษา ชุดท่ี 1 เรื่อง กำรเปลี่ยนแปลงทำงธรณีภำค ใช้เวลำในกำรทำกจิ กรรม 2 ช่วั โมง 2. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ขอ้ 3. นกั เรยี นทากิจกรรมเป็นรายกลมุ่ และศึกษาวิธดี าเนนิ กจิ กรรมให้เขา้ ใจ 4. นกั เรยี นปฏิบัติกิจกรรมในชุดกจิ กรรมการเรียนรู้สังคมศกึ ษา 5. นักเรียนทากิจกรรมในชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ใหค้ รบ 6. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน จานวน 10 ข้อ โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ ฉ

ชดุ ท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สูต่ วั ชวี้ ดั / สาระสาคัญ  ชดุ ท่ี 1  เร่ือง การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค สาระ ภูมศิ าสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้ 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกัน ใช้แผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตาม กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ตลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้วี ดั ม.4 – 6/1 วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซงึ่ ได้รบั อทิ ธิพลจากปจั จยั ทางภมู ิศาสตร์ จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ช้ีวดั 1. อธบิ ายส่วนประกอบหรอื โครงสรา้ งของโลกแตล่ ะชน้ั และเขียนแผนภาพส่วนประกอบ ของโลก (K) 2. อธิบายกระบวนการที่ทาให้เกิดการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี และผลทเ่ี กิดจากกระบวนการ เคลื่อนท่ีของแผ่นเปลือกโลกไดถ้ กู ต้อง (K) 3. อธบิ ายหลักฐานและข้อมลู ทีท่ าใหน้ ักวทิ ยาศาสตรเ์ ชื่อเกย่ี วกับการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี ภาค (K) 4. สืบค้นข้อมูล อธิบายสาเหตุที่ทาให้เกิดการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี และสรุป เกี่ยวกับ กระบวนการเคล่ือนท่ีของแผ่นเปลือกโลก (P) 5. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคในการ รว่ มกิจกรรมการเรียนการสอนและนาความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจาวัน (A) โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 1

ชุดท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค 6. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้หรืออยากรู้อยากเห็น ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับ ความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ ได้ (A) สาระสาคญั โครงสร้างของโลกประกอบด้วยเปลือกโลก(crust) แมนเทิล (mantle) หรือช้ันที่อยู่ถัดจาก เปลือกโลก และแก่นโลก(core) โดยโครงสร้างของแต่ละช้ันจะมีความแตกต่างกัน คือ เปลือกโลก เปน็ ช้ันหนิ บาง แมนเทิลเปน็ ชั้นที่มคี วามร้อนสูง บางสว่ นเปน็ หินหนดื สาหรับแกน่ โลกจะมีความรอ้ น สูงมาก ประกอบด้วยแร่ธาตุและหินหลอมละลาย แต่บริเวณใจกลางโลกที่มีความกดดันมหาศาลจะ เป็นแร่ธาตุที่อยู่ในสภาพท่ีเป็นของแข็ง การศึกษาเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงของโลก จะช่วยให้เรา เข้าใจกระบวนการต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะมี ความสัมพันธ์หรือสง่ ผลต่อการดาเนนิ ชีวิตของเราด้วย นกั วทิ ยาศาสตร์ได้รวบรวมหลักฐานแนวคิด และทฤษฎตี า่ ง ๆ ตั้งแต่ทฤษฎที วปี เลอื่ น ทฤษฎี การแผ่ขยายพื้นมหาสมุทร และแนวคิดการพาวงจรความร้อน มาสรุปเป็นทฤษฎีเรียกว่า ทฤษฎีการ แปรสณั ฐานของแผน่ ธรณี ซงึ่ กล่าวถงึ การเคลือ่ นท่ีและการเปลย่ี นแปลงลักษณะ เช่น ขนาด ตาแหน่ง ของแผ่นธรณี โดยมีวงจรการพาความร้อนภายในโลกเป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนให้แผ่นธรณีมี การเคล่ือนที่ในรูปแบบต่าง ๆ การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีจะส่งผลต่อการเกิดและการเปลยี่ นปลงของ ทวีปและมหาสมุทร รวมทั้งธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณี แผ่นธรณีแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แผ่นทวีป และแผ่นมหาสมุทร แผ่นธรณภี าคเหลา่ นี้มีการเคลอื่ นท่ีอย่ตู ลอดเวลา นักวทิ ยาศาสตร์และ นักธรณวี ิทยาได้ศึกษารอบต่อของแผ่นธรณภี าคอย่างละเอียด และสามารถสรุปลักษณะการเคลอ่ื นท่ี ของแผ่นธรณภี าคไดด้ ังนี้ 1. ขอบแผ่นธรณีภาคแยกออกจากกัน 2. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคลอ่ื นเข้าหากัน 3. ขอบแผ่นธรณีภาคเคลอ่ื นท่ผี า่ นกัน โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 2

ชดุ ท่ี 1 การเปล่ยี นแปลงทางธรณภี าค แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรือ่ ง การเปล่ยี นแปลงทางธรณีภาค กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ฯ รายวิชาสังคมศกึ ษา 5 (ภมู ิศาสตร)์ รหสั วชิ า ส33101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้ จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาทใี่ ช้ 10 นาที 2. จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องทสี่ ดุ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ 1. โครงสรา้ งโลกแบง่ ตามลกั ษณะมวลสารไดช้ น้ั ใหญๆ่ สามชน้ั อะไรบา้ ง ก. ช้นั เปลือกโลก ใตเ้ ปลอื กโลก แกน่ โลก ข. ช้นั เปลือกโลก เนอื้ โลก ธรณีภาค ค. ชัน้ เปลอื กโลก เนือ้ โลก หินหนืด ง. ชนั้ เปลือกโลก เนื้อโลก แก่นโลก 2. เปลอื กโลกแบ่งออกเป็น 2 บรเิ วณคือบริเวณใด ก. เปลือกโลกชน้ั นอกและเปลือกโลกชั้นใน ข. เปลอื กโลกภาคพื้นดินและเปลอื กโลกภาคพื้นนา้ ค. เปลือกโลกภาคพื้นทวีปและเปลือกโลกภาคพืน้ นา้ ง. เปลอื กโลกภาคพื้นทวีปและเปลอื กโลกใต้มหาสมุทร 3. เปลอื กโลกภาคพน้ื ทวีป ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ก. ซิลิคอนและซิลิกา ข. เหล็กและทองแดง ค. ซิลิคอนและอะลูมินา ง. ซลิ ิคอนและแมกนีเซยี ม 4. เปลือกโลกใต้มหาสมุทรประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง ก. ซลิ คิ อนและเหล็ก ข. ซิลคิ อนและซิลกิ า ค. ซลิ ิคอนและอะลูมนิ า ง. ซิลคิ อนและแมกนีเซียม โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 3

ชุดท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค 5. ชั้นเนอ้ื โลกส่วนบนกับชน้ั เปลือกโลกรวมกนั เรยี กว่าอะไร ก. แมนเทิล ข. ธรณภี าค ค. ธรณภี าคพ้นื ทวปี ง. ธรณีภาคพ้นื เปลือกโลก 6. ทฤษฎใี ดนาไปอธบิ ายถงึ การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว มหาสมุทรและซากสิ่งมชี ีวติ ท่ีทับถมในหินบน เปลอื กโลก ก. ทฤษฎีการแปรสณั ฐานแผ่นธรณภี าค ข. ทฤษฎีการเล่ือนไหลของแผ่นทวีป ค. ทฤษฎกี ารขยายตัวของแผ่นทวปี ง. ทฤษฎกี ารหดตัวของแผน่ ทวีป 7. ทฤษฎีท่ีใช้อธิบายถึงกาเนิดของแผ่นดิน มหาสมุทร และส่ิงมีชีวิตท่ตี ายทับถม อยู่ในหินบน เปลอื กโลก คอื ข้อใด ก. ทฤษฎกี ารเลอื่ นไหลของทวปี ข. ทฤษฎกี ารขยายตวั ของพ้นื ทวีป ค. ทฤษฎกี ารแปรสณั ฐานแผ่นธรณภี าค ง. ทฤษฎกี ารขยายตัวของพ้นื มหาสมุทร 8. ผืนแผน่ ดนิ แผน่ เดียวกนั บนโลกตอ่ มาแยกเป็นทวปี ใหญ่ 2 ทวปี คือข้อใด ก. เอเชยี และยโุ รป ข. ยุโรปและอเมริกา ค. ออสเตรเลยี และอัฟรกิ า ง. ลอเรเซียและกอนด์วานา โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 4

ชุดที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณภี าค 9. ปจั จบุ ันแผน่ เปลือกโลกท่ีรองรับทวปี อเมรกิ า ทวีปยุโรป และทวีปแอฟรกิ า มีการเคลอ่ื นที่ อย่างไร ก. เคลอ่ื นทีเ่ ขา้ หากนั ข. เคลื่อนท่ีแยกออกจากกัน ค. เคลื่อนที่ในทิศทแี่ ตกต่างกัน ง. ยงั ไมม่ ีการเคล่ือนท่ีแต่อยา่ งไร 10. เทอื กเขาแอลปใ์ นทวปี ยุโรป เกิดจากแผ่นธรณภี าคใด ก. แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรกบั แผ่นธรณีภาคใตม้ หาสมุทร ข. แผ่นธรณีภาคใตม้ หาสมุทรกับแผ่นธรณีใตม้ หาสมุทร ค. แผน่ ธรณภี าคใตม้ หาสมุทรกับแผน่ ธรณีภาคพนื้ ทวปี ง. แผน่ ธรณีภาคพืน้ ทวปี กับแผ่นธรณีภาคพืน้ ทวปี โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 5

ชุดที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค บัตรเนือ้ หา ชุดท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค ธรณภี าค (Lithosphere) ธรณีภาค หรือ Lithosphere หมายถึง พื้นผิวโลกซ่ึงห่อหุ้มด้วยเปลือกแข็ง โลกเป็นดาว เคราะห์ท่ีมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา (Dynamic Planet) โครงสร้างภายในของโลกมีสถานะ ทง้ั เป็นของแข็งและของเหลว หินหนดื ที่บรรจอุ ยู่ภายในเคลื่อนหมุนวนด้วยการพาความร้อน ทท่ี าให้ แผ่นเปลือกโลกเคลือ่ นตวั ดันกัน ก่อให้เกิดภูเขา ทีร่ าบ และหุบเหว การรไี ซเคลิ ของเปลือกโลกทาให้ เกิดการหมุนเวียนของแร่ ธาตุ และวัฏจักรหิน การผุพังของหินเปลือกโลกเนื่องจากแรงโน้มถ่วง การเปล่ียนแปลงอุณหภูมิและความช้ืน และอิทธิพลของส่ิงแวดล้อมทาให้เกิดดิน ซึ่งเป็นถ่ินที่อยู่ อาศยั ของสิ่งมีชวี ติ ต่อไป ธรณีภาค คือ ส่วนเปลอื กโลกท่ีเปน็ ของแข็ง หุ้มหอ่ อยู่ชัน้ นอกสุดของโลก ช้ันบนเป็นพ้ืนที่ที่ มนุษย์ใช้เป็นที่อยู่อาศัย มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลายที่มนุษย์ใช้ดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งด้าน เศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม และสิง่ แวดลอ้ ม 1.1 โครงสรา้ งของโลก โลกมีลักษณะเกือบกลมหรือกลมรีเล็กน้อย มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เส้นศูนย์สูตรยาว 12,755 กิโลเมตร และเสน้ ผา่ นศูนย์กลางตามแนวซ้ัวโลกยาว 12,711 กิโลเมตร แบง่ เป็น 3 ช้ันหลัก ได้แก่ เปลือกโลก เน้ือโลก และแกน่ โลก การศึกษาโครงสร้างโลกใช้ข้อมูลด้านต่าง ๆ เช่น องค์ประกอบทางเคมีของหินและแร่ องค์ประกอบทางเคมีของอุกกาบาต ข้อมูลคล่ืนไหวสะเทือนท่ีเคลื่อนที่ผ่านโลก ทาให้แบ่งช้ัน โครงสร้างโลกได้ 2 แบบ คือ โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี จะแบ่งได้เป็น 3 ช้ัน ได้แก่ เปลือกโลก เนื้อโลก และแก่นโลก และโครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล จะแบ่งได้เป็น 5 ช้ัน ได้แก่ ธรณีภาค ฐานธรณีภาค มัชฌิมภาค แก่นโลกช้ันนอก และแก่นโลกช้ันใน โดยหากเปรียบเทียบการ แบ่งชั้นโครงสร้างโลกตามเกณฑ์ทั้งสองแบบได้ดังรูปด้านล่าง ส่วนของเปลือกโลกและเน้ือโลกตอน บนสุด คือธรณภี าค เน้ือโลกตอนบน คอื ฐานธรณีภาค เนอ้ื โลกตอนลา่ งคือ มัชฌิมภาค และหาก แบ่ง ตามสมบตั เิ ชิงกลจะแบง่ แก่นโลกออกเป็นแกน่ โลกชัน้ นอก และแกน่ โลกชั้นใน การแบ่งช้ันโครงสร้างโลกโดยใช้ข้อมูลคล่ืนไหวสะเทือนเป็นเกณฑ์ สามารถนามาอธิบาย ช้ัน ต่าง ๆ ของโครงสร้างโลกได้แตกต่างจากการใช้เกณฑ์องค์ประกอบทางเคมี นอกจากทาให้แบ่ง ชั้น โครงสร้างโลกได้ละเอียดขึ้นแล้วยังเปน็ ขอ้ มลู พื้นฐานในการอธิบายเกี่ยวกับการเคลอื่ นท่ีของแผ่น ธรณี และการเกดิ ธรณพี ิบตั ิภัยอกี ดว้ ย โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 6

ชุดท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค รูปท่ี 1.1 กระบวนการกาเนิดโลกทท่ี าใหโ้ ลกเกดิ การแบง่ ชน้ั ทม่ี า : ค่มู อื ครรู ายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หนา้ 21) สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร รูปท่ี 1.2 ชัน้ ต่าง ๆ ของโลกตง้ั แตผ่ วิ โลกถึงใจกลางโลก ท่ีมา : หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ิศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6 บริษทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด (หนา้ 25) โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 7

ชุดที่ 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณีภาค 1) เปลือกโลก (crust) เป็นส่วนชัน้ บนสุดของโลก มีความหนาประมาณ 5 – 60 กิโลเมตร แบ่งเปน็ 2 ชั้น คือ 1.1) เปลือกโลกภาคพ้ืนทวีป (continental crust) เป็นเปลือกโลกที่รองรับส่วนที่เป็น พ้ืนทวีปและไหล่ทวีป มีความหนาประมาณ 35 - 60 กิโลเมตร องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นซิลิดอน และอะลูมินา เรียกว่า ไซอัล (SIAL มาจาก silica กับ alumina) ซ่ึงเป็นองค์ประกอบหลักคล้าย หินแกรนิต 1.2) เปลือกโลกภาคพ้ืนมหาสมุทร (oceanic crust) เป็นเปลือกโลกที่อยู่ใต้บริเวณ มหาสมุทรต่าง ๆ มีความหนา 5 - 10 กิโลเมตร เป็นเปลือกโลกที่เกิดใหม่จากการปะทุและการไหล ของหินใตม้ หาสมุทร องค์ประกอบส่วนมากเป็นซลิ ิคอนกับแมกนเี ซียม เรยี กว่า ไซมา (SIMA มาจาก silica กบั magnesium) ซงึ่ เป็นองคป์ ระกอบหลกั คล้ายหินบะซอลต์ 2) เนื้อโลก (mantle) เป็นชั้นที่อยู่ถัดจากชั้นเปลือกโลก มีความหนาประมาณ 2,900 กิโลเมตร ประกอบด้วยแมกนเี ซียมและเหล็กเป็นสว่ นใหญ่ แบ่งเป็น 3 ชนั้ คือ 2.1) เนื้อโลกส่วนบนสุด (uppermost mantle) มีสถานะเป็นของแข็ง อยู่ช้ันล่างของ ธรณีภาค มีความหนาประมาณ 5 - 75 กิโลเมตร 2.2) เนื้อโลกส่วนบน (upper mantle) หรือฐานธรณีภาค มีความลึกประมาณ 400 กิโลเมตร ประกอบด้วยหินท่ีส่วนใหญ่อยู่ในสภาพหลอมละลาย เรยี กวา่ แมกมา (magma) 2.3) เน้ือโลกส่วนล่าง (lower mante) มีความลึกประมาณ 1,000 - 2,900 กิโลเมตร ประกอบดว้ ยหินหนีดทม่ี คี วามหนีดมากกวา่ เน้อื โลกชนั้ บน 3) แก่นโลก (core) เป็นส่วนชั้นในสุดของโลก มีความหนาประมาณ 3,500 กิโลเมตร มีความหนาแน่นมาก แบง่ เปน็ 2 ชน้ั คอื 3.1) แก่นโลกส่วนนอก (outer core) ประกอบด้วยเหล็กและนิกเกิลท่ีอยู่ในสภาพ หลอมละลาย มีความลกึ ประมาณ 2,900 - 5,100 กิโลเมตร 3.2) แก่นโลกส่วนใน (inner core) เป็นชน้ั ของแขง็ มีความหนาแน่นมาก ประกอบด้วย เหลก็ และนิกเกลิ ทอ่ี ยู่ในสภาพของแข็ง มคี วามลกึ ประมาณ 5,100 - 6,370 กโิ ลเมตร แมกมา (magma) คือ สารเหลวร้อนท่ีเกิดตามธรรมชาติอยู่ใต้ผิวโลก สามารถเคลื่อน ตัวไปมาได้ในวงจากัด อาจมีของแข็ง เชน่ ผลึกเศษหินแข็งและแก๊สรวมอยู่ด้วย หรืออาจไม่มเี ลยก็ได้ เม่ือแมกมาแทรกดันหรือพุพุ่งขึ้นมาสู่ผิวโลก แลว้ ไหลลามออกไปจากปลอ่ งภเู ขาไฟหรือจากรอยแยก ของเปลือกโลกขณะที่ยังรอ้ นและไม่แข็งตัว มีลักษณะเหนียวหนืด เรียกว่า ลาวา (lava) และเมื่อเย็น ตัวลงจนแข็งตวั จะกลายเป็นหนิ อคั นี โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 8

ชุดท่ี 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณภี าค รูปที่ 1.3 การแบง่ ช้ันของโลก ทมี่ า : http://www.chaiyatos.com/geol01.gif โครงสร้างของโลกตามลักษณะมวลสารเป็นชั้นใหญ่ 3 ช้ัน คือ ช้ันเปลือกโลก เน้ือโลก และแก่นโลก 1. ชัน้ เปลือกโลก (crust) เป็นผิวด้านนอกท่ีปกคลุมโลก ส่วนท่ีบางท่ีสุดของชน้ั เปลอื กโลก อยู่ท่ีมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของฟิลิปปนิ ส์ และส่วนที่หนาทส่ี ุดอยู่ทแ่ี นวยอดเขา ช้ันเปลือก โลกแบง่ เปน็ 2 บริเวณ คอื 1) เปลือกโลกภาคพื้นทวีป หมายถึง ส่วนท่ีเป็นแผ่นดินทั้งหมด ประกอบด้วยธาตุ ซิลิคอนร้อยละ 65275 และอะลูมิเนียมร้อยละ 25235 เป็นส่วนใหญ่ มีสีจาง เรียกหินช้ันน้ีว่า หนิ ไซอัล (sial) ได้แก่ หนิ แกรนติ ผวิ นอกสดุ ประกอบด้วยดิน และหนิ ตะกอน 2) เปลือกโลกใต้มหาสมุทร หมายถึง ส่วนของเปลือกโลกท่ีปกคลุมด้วยน้า ประกอบด้วยธาตุซิลิคอนร้อยละ 40250 และแมกนีเซยี มร้อยละ 50260 เป็นส่วนใหญ่ มีสีเข้ม เรียก หนิ ช้ันนี้ว่า หินไซมา (sima) ได้แก่ หินบะซอลต์ติดตอ่ กับช้ันหนิ หนืด มีความลึกตงั้ แต่ 5 กิโลเมตรใน สว่ นทอี่ ยใู่ ต้มหาสมุทรลงไปจนถงึ 70 กโิ ลเมตรในบรเิ วณที่อยู่ใต้เทอื กเขาสงู ใหญ่ โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 9

ชดุ ที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณีภาค 2. ช้ันเนื้อโลก (mantle) อยู่ถัดลงไปจากช้ันเปลือกโลก ส่วนมากเป็นของแข็ง มีความลึก ประมาณ 2,900 กิโลเมตรนับจากฐานล่างสดุ ของเปลือกโลกจนถึงตอนบนของแก่นโลก เป็นหินหนืด ร้อนจัด ประกอบดว้ ยธาตุเหล็ก ซลิ ิคอน และอะลูมิเนยี ม แบ่งเป็น 3 ชั้น คอื 1) ชั้นเนื้อโลกส่วนบน เป็นหินที่เย็นตัวแล้ว บางส่วนมีรอยแตก เนื่องจากความเปราะ ชั้นเนื้อโลก ส่วนบนกับชั้นเปลือกโลกรวมกันเรียกว่า ธรณีภาค (lithosphere) ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก ภาษากรกี ท่ีแปลว่า ชน้ั หิน ชน้ั ธรณีภาคมคี วามหนาประมาณ 100 กโิ ลเมตรนบั จากผวิ โลกลงไป 2) ชั้นฐานธรณีภาค (asthenosphere) มีความลึก 1002350 กิโลเมตร เป็นชั้นที่มีแมก มา ซ่ึงเปน็ หินหนืดหรือหนิ หลอมละลายร้อน หมุนวนอยูภ่ ายในโลกอยา่ งชา้ ๆ 3) ชั้นเนื้อโลกชั้นล่างสุด อยทู่ ่ีความลึก 35022,900 กิโลเมตร เป็นช้นั ที่เป็นของแขง็ ร้อน แต่แนน่ และหนืดกวา่ ตอนบน มีอุณหภูมสิ งู ประมาณ 2,25024,500 องศาเซลเซียส 3. ชน้ั แกน่ โลก (core) แบง่ เปน็ 2 สว่ น คือ 1) แก่นโลกชั้นนอก อยู่ที่ความลึก 2,90025,100 กิโลเมตร เชื่อว่าประกอบด้วยสาร เหลวร้อนของโลหะเหลก็ และนิกเกลิ เป็นส่วนใหญ่ มีความร้อนสูงมาก มคี วามถว่ งจาเพาะ 12 2) แก่นโลกช้ันใน อยู่ที่ความลึก 5,10026,370 กิโลเมตร มีส่วนประกอบเหมือนแก่น โลกช้ันนอก แต่อยู่ในสภาพแข็ง เน่ืองจากมีความดันและอุณหภูมิสูงมาก อาจสูงถึง 6,000 องศา เซลเซียส มีความถ่วงจาเพาะ 17 ชัน้ ตา่ งๆ ของโลกมลี ักษณะและสมบัติแตกต่างกัน ท้งั ดา้ นกายภาพ และส่วนประกอบทางเคมี โครงสร้างและส่วนประกอบภายในของโลกจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทาให้เกิด ปรากฏการณท์ างธรณวี ทิ ยา คอื แผน่ ดินไหว และภเู ขาไฟระเบดิ รปู ที่ 1.4 กระบวนการกาเนดิ โลกทีท่ าใหโ้ ลกเกิดการแบ่งชั้น ท่มี า : สอ่ื ประกอบการสอนการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 10

ชดุ ที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณภี าค การแบง่ ชนั้ โครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี นักธรณีวิทยาแบ่งโครงสร้างภายในของโลก โดยพิจารณาจากองค์ประกอบทางเคมี ออกเปน็ 3 ส่วน 1. เปลือกโลก (Crust) เป็นผิวโลกช้ันนอก มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นซิลิกา ไดออกไซด์ และอะลูมิเนยี มออกไซด์ ประกอบด้วยเปลอื กโลกทวีปและเปลือกโลกมหาสมทุ ร - เปลือกโลกทวีป (Continental crust) ส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิต มีองค์ประกอบส่วน ใหญ่เป็น ซิลิกาและอะลูมิเนียม มีความหนาเฉลี่ย 35 กิโลเมตร ความหนาแน่น 2.7 กรัม/ลูกบาศก์ เซนตเิ มตร - เปลือกโลกมหาสมุทร (Oceanic crust) ส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ มีองค์ประกอบ ส่วนใหญ่เป็น มีเหล็ก แมกนีเซียมและซิลิกาเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ ความหนาเฉลี่ย 5 กิโลเมตร ความหนาแน่น 3 กรัม/ลกู บาศก์เซนติเมตร มากกว่าเปลอื กทวปี ดังน้ันเม่อื เปลือกโลกทงั้ สองชนกัน เปลือกโลกทวีปจะถูกยกตัวข้ึน ส่วนเปลือกโลกมหาสมุทรจะจมลง และหลอมละลายเป็นแมกมา อีกครง้ั 2. เน้ือโลก (Mantle) คอื สว่ นซงึ่ อยู่อยู่ใตเ้ ปลือกโลกลงไปจนถึงระดับความลึก 2,900 กิโลเมตร มีองค์ประกอบหลักเป็นซิลิคอนออกไซด์ แมกนีเซียมออกไซด์ และเหล็กออกไซด์ แบ่ง ออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ - เน้ือโลกตอนบนสุด (Uppermost sphere) มีสถานะเป็นของแข็ง เป็นฐานรองรับ เปลือกโลกทวีป และเปลือกโลกมหาสมุทร อยู่ใต้แนวแบ่งเขตโมโฮวิชิก เรียกโดยรวมว่า ธรณีภาค (Lithosphere) มคี วามหนาโดยรวมประมาณ 30 – 100 กิโลเมตร - เ น้ื อ โ ล ก ต อ น บ น ( Upper mantle) ห รื อ บ า ง ค รั้ ง เ รี ย ก ว่ า ฐ า น ธ ร ณี ภ า ค (Asthenosphere) อยู่ท่ีระดับลึก 100 – 700 กิโลเมตร ึมีลักษณะเป็นของแข็งเนื้ออ่อน อุณหภูมิที่ สูงมากทาให้แร่บางส่วนหลอมละลายเป็นหินหนืด (Magma) เคล่ือนท่ีหมุนวนด้วยการพาความร้อน (Convection) - เน้ือโลกตอนล่าง (Lower mantle) มีสถานะเป็นของแข็งที่ระดับลึก 700 – 2,900 กิโลเมตร มีองค์ประกอบส่วนใหญเ่ ป็นเหล็ก แมกนเี ซียม และซลิ ิเกท 3. แก่นโลก (Core) คือส่วนที่อยู่ใจกลางของโลก มีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็ก แบง่ ออกเป็น 2 ช้นั - แก่นโลกช้ันนอก (Outer core) เป็นเหล็กในสถานะของเหลว เคลื่อนที่หมุนวนด้วย การพาความร้อน (Convection) ท่ีระดับลึก 2,900 – 5150 กิโลเมตร เหล็กร้อนเบ้ืองล่างบริเวณที่ ติดกับแก่นโลกชั้นในลอยตัวสูงข้ึน เมื่อปะทะกับแมนเทิลตอนล่างท่ีอุณหภูมิต่ากว่าก็จะจมตัวลง การเคลอื่ นทหี่ มนุ วนเชน่ น้เี หนย่ี วนาใหเ้ กดิ สนามแม่เหล็กโลก โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 11

ชุดท่ี 1 การเปล่ยี นแปลงทางธรณีภาค - แกน่ โลกชั้นนอก (Inner core) ที่ระดบั ลึก 5,150 กโิ ลเมตร จนถงึ ใจกลางโลกทรี่ ะดับ ลึก 6,370 กิโลเมตร ความดนั มหาศาลกดทับทาใหเ้ หลก็ มีสถานะเปน็ ของแข็ง โลกประกอบด้วยธาตุหลายชนิด โดยประมาณร้อยละ 90 เป็นเหล็ก ออกซิเจน ซิลิกอน และแมกนเี ซยี ม นอกจากน้ียังมธี าตุอ่นื ๆ อกี ดงั รปู รปู ที่ 1.5 องคป์ ระกอบทางเคมีของโลก ทม่ี า : หนังสือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 9) สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 1.2 การเลือ่ นของทวปี การเคลื่อนของทวีปเกิดบริเวณส่วนของแผ่นธรณีภาคซ่ึงเป็นช้ันหินแข็งท่ีลอยอยู่ บนฐานธรณีภาคและแมกมา เป็นหินหนืดท่ีร้อนและหลอมเหลว เมื่อแมกมาเคล่อื นไหวเน่ืองจากการ ถ่ายเทพลงั งานความร้อน สง่ ผลให้แผน่ ธรณภี าคเคล่ือนท่อี ย่างช้า ๆ ตลอดเวลา ทฤษฎีการเลอ่ื นของทวีป อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน เป็นผู้เสนอทฤษฎี การเลื่อนของทวปี (continental drift) ซึง่ เป็นทย่ี อมรบั กนั โดยทว่ั ไป มสี มมติฐานวา่ แผ่นธรณีภาคมี การเลื่อนไหลช้า ๆ ตลอดเวลา นับตั้งแต่โลกเย็นตัวลง มีทั้งการชนกัน การมุดลงใต้แผ่นเปลือกโลก โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 12

ชดุ ท่ี 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณภี าค อ่ืน การแยกออกจากกันหรือการเฉือนกันในแนวระนาบท่ีเกิดข้ึนต้ังแต่มหายุคพรีแคมเบรียน (Precambrian) เวกเนอร์ได้นาเสนอช่วงเวลาทางธรณีวิทยาหลังจากมีหลักฐานของฟอสซลิ ท่ีชัดเจน โดยแบ่งเปน็ 5 ชว่ ง ดงั น้ี เมื่อ 250 ล้านปีมาแล้ว เปลือกโลกเช่ือมต่อกันเป็นผืนแผ่นดินขนาดใหญ่เพียงผืนเดียว ครอบคลุมซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ เรียกว่า แผ่นดินพันเจีย (Pangea/Pangaea) และด้าน ตะวันตก มีมหาสมุทรพันทาลัสซา (Panthalassa Ocean) ด้านตะวันออกมีมหาสมุทรเททิส (Thethys Ocean) รปู ท่ี 1.6 แผ่นเปลือกโลกยคุ เพอร์เมยี น (Permian) ทมี่ า : หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมศิ าสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทศั น์ อจท. จากดั (หน้า 27) เม่ือประมาณ 200 ล้านปีมาแล้ว แผ่นธรณีภาคค่อยแยกออกจากกัน เกิดแผ่นธรณีภาค ขนาดใหญ่ 2 แผ่น คือ แผ่นดินลอเรเซีย (Laurasia) ทางซีกโลกเหนือ และแผ่นดินกอนด์วานา (Gondwanaland) ทางซีกโลกใต้ และยังคงมีมหาสมุทรพันทาลัสซาทางด้านตะวันตก และทะเล เททิส (Tethys Sea) อยู่ทางด้านตะวนั ออก โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 13

ชดุ ท่ี 1 การเปลีย่ นแปลงทางธรณีภาค รูปที่ 1.7 แผ่นเปลอื กโลกยุคไทรแอสซกิ (Triassic) ทมี่ า : หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมศิ าสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด (หน้า 27) เมื่อ 145 ลา้ นปมี าแล้ว แผน่ ดินลอเรเซยี และแผ่นดนิ กอนด์วานาเริ่มแยกจากกัน แผน่ ดินลอ เรเซยี เริ่มแยกออกเป็นแผน่ ทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือส่วนแผ่นดนิ กอนด์วานามีแผ่นดินอเมริกาใต้ และแอฟริกายังติดกันอยู่ แต่แผ่นดินอินเดียเคลอ่ื นขึ้นทิศเหนือ สว่ นแผ่นออสเตรเลียยังตดิ อยู่ข้ัวโลก ใตป้ ลายยคุ เกดิ มหาสมทุ รแปซฟิ กิ รปู ท่ี 1.8 แผ่นเปลอื กโลกยคุ จูแรสซกิ (Jurassic) ทมี่ า : หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภมู ิศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั (หนา้ 28) โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 14

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณภี าค เมื่อ 65 ล้านปีมาแล้ว แผ่นเปลือกโลกแยกออกจากกันมากข้ึน เกิดเป็นแผ่นดินยูเรเชีย กับแผ่นดิน แอฟริกา ส่วนอเมริกาใต้แยกออกจากแอฟริกาอย่างชัดเจน แผ่นดินอินเดียเลื่อนไปทาง เหนอื มากขึ้น แต่ออสเตรเลยี ยังคงอย่ทู ่ีขว้ั โลกใต้ เมอื่ มีการเกิดแผ่นดินใหม่มากข้ึนจงึ เรม่ิ มีมหาสมุทร ใหม่เกิดขน้ึ รูปที่ 1.9 แผ่นเปลอื กโลกยุคครีเทเชียส (Critaceous) ท่ีมา : หนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภมู ศิ าสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั (หนา้ 28) แผน่ ดินยังคงมกี ารเล่อื นไหลอย่างตอ่ เน่อื ง จนเมอื่ ประมาณ 55 : 50 ล้านปที ผ่ี ่านมา แผน่ ดิน อินเดียเริ่มชนกับแผ่นดินยูเรเชีย ซึ่งคือ เอเชียในปัจจุบันทาให้เกิดเทือกเขาหิมาลัยขึ้น จนถึงปัจจุบัน จึงเกิดเป็นแผ่นธรณีภาคหรือแผ่นเปลือกโลกใหญ่ถึง 15 แผ่น ท่ีเป็นลักษณะของแผ่นทวีปและแผ่น มหาสมุทรเช่นในปัจจุบัน และในอนาคตการเลือ่ นไหลของทวีปจะยงั คงเกิดขน้ึ ตอ่ เน่ืองกนั ไป หลักฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีการเลื่อนของทวีป คือ การพบซากดึกดาบรรพ์ของไดโนเสาร์ หลายชนิด โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 15

ชดุ ท่ี 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณภี าค รปู ท่ี 1.10 แผน่ เปลือกโลกยุค 50 ลา้ นปที ่ีผา่ นมาจนถงึ ปัจจุบัน ทีม่ า : หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ิศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทศั น์ อจท. จากดั (หน้า 28) 1.3 การเปลี่ยนแปลงของธรณีภาค โลกมกี ารเปล่ียนแปลงทั้งจากแรงภายในเปลอื กโลกและภายนอกเปลือกโลกมาเป็นเวลานาน และต่อเน่ืองตลอดเวลา เป็นการปรับระดับของเปลือกโลก เช่น การเปล่ียนแปลงภายในโลกทาให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงตาแหนง่ โครงสร้าง และลักษณะของเปลอื กโลกจากการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี ภาคอย่างช้า ๆ ที่เกิดจากการไหลเวียนของพลังงานความร้อนของแมกมาในเปลือกโลกหรือจากการ ไหลหรือปะทุของแมกมาออกมานอกเปลือกโลกท่ีเกิดข้ึนได้อย่างช้า ๆ จนถึงแบบเร็วและรุนแรง มผี ลต่อการเปล่ียนแปลงทางธรณีภาคระดับกว้าง เช่น ทาให้เปลือกโลกยกระดับสูงขึ้นหรือลดระดับ ตา่ ลง การเกิดภเู ขาไฟ การเกดิ เทอื กเขา โครงสร้างทางธรณวี ิทยา การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคที่เกิดข้ึนบนพ้ืนผิวโลก เนื่องจากแรงโน้มถ่วงและตัวกระทา ต่าง ๆ เช่น การผพุ ังอยู่กับที่ของหินและแร่ การเคล่ือนย้ายมวลดินและหินในพืน้ ที่มีความลาดชันสูง เช่น 1) กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก เกิดจากพลังงานความร้อนภายในโลกทาให้เกิด การไหลของมวลแมกมาร้อนและข้นหนืดใต้เปลือกโลก หรือเกิดการปะทุของแมกมาออกมาบน พ้ืนผิวโลก การเปล่ียนแปลงนี้ทาให้เปลือกโลกแตกออกเป็นแผ่นและเคลื่อนท่ีในลักษณะต่าง ๆ รวมทั้งก่อให้เกิดแผ่นดินไหว การปะทุของภูเขาไฟ การบีบอัดทาให้เกิดโดรงสร้างคดโค้ง รอยเล่ือน และการแตกหกั ของหิน โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 16

ชุดท่ี 1 การเปล่ยี นแปลงทางธรณีภาค รปู ที่ 1.11 แผน่ ดินทถ่ี กู ยกตัวขึน้ หลังจากเกิดแผ่นดนิ ไหวขนาด 7.8 ทเี่ กาะไต้ ประเทศนิวซแี ลนด์ เม่ือ พ.ศ. 2559 ทม่ี า : หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมศิ าสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หน้า 29) 1.1) การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีภาค การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีภาคทั้งส่วนที่เป็นเปลือก โลกภาคพื้นทวีป เปลือกโลกภาคพ้ืนมหาสมทุ ร และสว่ นเนื้อโลกชั้นบนสุด มีทั้งขนาดใหญ่และขนาด เล็ก มีการเคล่ือนท่ีแบบเคล่ือนเข้าหากันหรือชนและมดุ เข้าหากัน แยกจากกันหรือเคลื่อนสวนกันใน แนวระนาบตลอดเวลา โดยมอี ตั ราความชา้ เร็วตา่ งกนั ลักษณะการเคลอื่ นที่ของแผน่ ธรณภี าค การเคลื่อนท่ีของแผ่นเปลือกโลก (plate motion) คือลักษณะการเคลื่อนท่ีของแผ่นเปลือก โลก 2 แผ่นท่ีอยู่ติดกัน สามารถจาแนกได้ออกเป็น 3 รูปแบบ ตามลักษณะการเคลื่อนที่สัมพัทธ์กัน ระหว่างแผ่นเปลือกโลกทง้ั สอง ไดด้ ังตอ่ ไปน้ี ①การเคลอ่ื นทข่ี องแผ่นเปลอื กโลกแบบเคลอ่ื นเขา้ หากัน ②การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลอื กโลกแบบเคลือ่ นแยกจากกนั ③การเคลอื่ นทข่ี องแผ่นเปลือกโลกแบบเคลื่อนผา่ นกัน ธรณีภาคเป็นสว่ นของโลกที่เป็นของแขง็ หุ้มห่ออยู่รอบนอกสดุ ของโลก ประกอบดว้ ยหินและ ดนิ ต่างๆ เปลือกโลกมีการเคลื่อนไหวท้ังที่เป็นไปอยา่ งช้าๆ และรวดเร็ว อันเน่อื งมาจากแรงท่ีกระทา โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 17

ชดุ ที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณีภาค ต่อเปลือกโลก โลกแปรสภาพไปจากเดิม และมีผลทาให้สภาพของผิวโลกเปลี่ยนไป หลักฐานที่ สนับสนุนว่าเปลือกโลกมีการเคลื่อนที่ ได้แก่ หลักฐานจากฟอสซิล หลักฐานจากหิน และ สนามแม่เหล็กโลก เปลือกโลกประกอบด้วยแผ่นธรณีภาคหลายแผ่น เมื่อแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่จะ ทาให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด นักธรณีวิทยาศึกษาการ เคลือ่ นท่ีของแผน่ ธรณีภาคจากข้อมูลพ้ืนแผน่ มหาสมุทรและทวปี ① การเคลอื่ นทีข่ องแผ่นธรณภี าคเคลอื่ นหากนั เกดิ ได้เปน็ 3 แบบ รูปท่ี 1.12 การเคล่ือนทขี่ องแผ่นธรณภี าคเคล่ือนหากนั ทีม่ า : หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ิศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6 บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จากัด (หนา้ 30) โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 18

ชดุ ท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนเข้าหากัน เปลือกโลกที่มีความหนาแน่นมากกว่ามุดเข้าไป ใต้เปลือกโลกท่ีมีความหนาแน่นน้อยกว่าและหลอมละลายหากมีความลึกมากจนถึงชั้นแมกมา และมักทาให้เปลอื กโลกอีกด้านหนึ่งถูกอัดและผลักดันให้ค่อย ๆ สูงชันข้ึนจนเป็นเทือกเขา เช่น การ เคล่ือนเข้าหากันระหว่างเปลือกโลกภาคพ้ืนมหาสมุทร ทาให้เกิดหมู่เกาะภูเขาไฟกลาง มหาสมุทร เปน็ แนวโคง้ ② การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีภาคแยกจากกัน เป็นการเปิดแนวรอยต่อให้ แมกมาไหลหรือเกิดภเู ขาไฟปะทุขน้ึ มา ส่วนมากเกดิ ใตม้ หาสมทุ ร รปู ท่ี 1.12 การเคล่อื นที่ของแผน่ ธรณีภาคแยกออกจากกัน ทม่ี า : หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมศิ าสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั (หนา้ 31) 3. การเคลือ่ นทีข่ องแผ่นธรณีภาคตามแนวระดับ เปน็ การเคล่ือนท่ีของเปลือกโลก สองแผ่นสวนทางกันในแนวระนาบ าจทาให้เกดิ การสนั่ สะเทือนหรือแผ่นดนิ ไหวรุนแรง และเกิดรอย เล่ือนตามแนวระดับขนาดใหญ่ เช่น ทาให้เทือกเขาเลื่อนแยกจากกัน ถนนหรือส่ิงก่อสร้างแตก และแยกจากกัน พบมากจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทร แต่ก็พบได้ระหว่าง เปลือกโลกภาคพื้นทวปี เช่น รอยเลื่อนแซนแอนเดรียส (San Andreas) ในทวีปอเมรกิ าเหนอื โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 19

ชุดท่ี 1 การเปลีย่ นแปลงทางธรณีภาค รปู ท่ี 1.13 การเคลอ่ื นท่ขี องแผ่นธรณีภาคเคลอื่ นผ่านกนั ทมี่ า : หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมิศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั (หน้า 31) รปู ที่ 1.14 แผนที่แสดงแผ่นเปลือกโลกสาคญั ท่มี า : หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมศิ าสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด (หน้า 32) จากทฤษฎีทวีปเลื่อนและทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรทาให้ทราบว่าทวีปและพื้นมหาสมุทร มีการเคลื่อนท่ี แต่ทวีปและพื้นมหาสมุทรเป็นส่วนบนของธรณีภาคการเคลื่อนท่ีของทวีปและพ้ืน มหาสมุทรจึงมีความเกี่ยวข้องกับธรณีภาคโดยรอยแยกที่เกิดขึ้นบนพื้นมหาสมุทรเป็นรอยแตกใน โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 20

ชุดท่ี 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณีภาค ธรณีภาคซ่ึงทาให้ธรณีภาคแตกออกเป็นแผ่นย่อย ๆ เรียกว่าแผ่นธรณี (plate หรือ lithospheric plate) แผ่นธรณีแต่ละแผ่นอาจรองรับทั้งพื้นมหาสมุทรและพ้ืนทวีปแผ่นธรณีท่ีสาคัญในปัจจุบัน เช่น แผ่นยูเรเซีย แผ่นแปซิฟิก แผ่นอินเดีย-ออสเตรเลีย แผ่นอเมริกาเหนือ แผ่นอเมริกาใต้ แผ่น แอฟรกิ า แผ่นแอนตารก์ ติกา ดงั รปู 1.15 รูปท่ี 1.15 แผน่ ธรณขี องโลก ท่ีมา : หนังสอื เรยี นรายวชิ าเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หน้า 49) สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร นักวิทยาศาสตร์ได้รวบรวมหลักฐานแนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ ต้ังแต่ทฤษฎีทวีปเลื่อนทฤษฎี การแผ่ขยายพ้ืนมหาสมุทรและแนวคิดวงจรการพาความร้อนมาสรุปเป็นทฤษฎีเรียกว่าทฤษฎีการ แปรสัณฐานของแผ่นธรณี (plate tectonics) ซ่ึงกลา่ วถึงการเคล่อื นท่ีและการเปล่ียนแปลงลักษณะ เช่นขนาดตาแหน่งของแผ่นธรณีโดยมีวงจรการพาความร้อนภายในโลกเป็นกลไก สาคัญในการ ขบั เคลื่อนใหแ้ ผน่ ธรณมี ีการเคล่ือนท่ีในรูปแบบต่าง ๆ การเคลื่อนทีข่ องแผ่นธรณนี อกจากจะสง่ ผลต่อ การเกิดและการเปล่ยี นแปลงของทวีปและมหาสมุทรแล้วยังส่งผลต่อธรณสี ัณฐานและโครงสร้างทาง ธรณี โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 21

ชุดท่ี 1 การเปลีย่ นแปลงทางธรณีภาค ลกั ษณะการเคลอื่ นท่ขี องแผ่นธรณีภาค แผ่นธรณีภาคแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แผ่นทวีป และแผ่นมหาสมุทร แผ่นธรณีภาค เหล่าน้ีมีการเคลื่อนท่ีอยู่ตลอดเวลา นักวิทยาศาสตร์และนักธรณีวิทยาได้ศึกษารอบต่อของแผ่น ธรณีภาคอยา่ งละเอียด และสามารถสรปุ ลกั ษณะการเคล่ือนทข่ี องแผ่นธรณภี าคไดด้ ังนี้ 1. ขอบแผ่นธรณีภาคแยกออกจากกนั 2. ขอบแผ่นธรณภี าคเคล่ือนเข้าหากนั 3. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคล่อื นท่ีผ่านกัน รปู ท่ี 1.16 แสดงการเคลือ่ นท่ีของธรณีภาคแบบตา่ ง ๆ ที่มา http://www.lesaproject.com รปู ที่ 1.17 แสดงการเคลื่อนทช่ี นกนั ของแผ่นธรณภี าคภาคพน้ื ทวปี ท่ีมา http://www.lesaproject.com โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 22

ชุดท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค รปู ที่ 1.18 แสดงการเคล่อื นที่ชนกันของแผ่นธรณีภาคใตม้ หาสมุทรกับแผน่ ธรณภี าคทวปี ท่ีมา http://www.lesaproject.com 1.2) การเกิดแผ่นดินไหว (earthquake) เป็นการส่ันสะเทือนของเปลือกโลกท่ีเกิด จากการปรับตัวให้เกิดดุลเสมอภาคของแผ่นเปลือกโลก เป็นการปลดปล่อยพลังงานความเครียด ท่ีสะสมออกมาอย่างรวดเร็วจากการเคลื่อนท่ีของรอยเลื่อนใต้เปลือกโลก หรือเกิดจากการปะทุของ ภูเขาไฟ รูปท่ี 1.19 แผนทแ่ี สดงการกระจายของขนาดแผ่นดินไหวของโลก ท่มี า : หนงั สือเรยี นรายวิชาเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 (หนา้ 49) สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 23

ชดุ ที่ 1 การเปลีย่ นแปลงทางธรณภี าค ทั่วโลกมีการกระจายของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ๆ โดยเฉพาะบริเวณท่ีเป็นรอยต่อของ แผ่นเปลอื กโลก ระหว่างเปลอื กโลกภาคพื้นมหาสมุทรกับเปลือกโลกภาคพ้ืนทวีป เช่น บริเวณรอบ ๆ แนวรอยต่อของแผ่นแปซฟิ ิกหรอื วงแหวนแห่งไฟ และตะวันออกของแผน่ อนิ โด -ออสเตรเลยี ทมี่ ีการ เกดิ แผน่ ดินไหวบอ่ ยและรนุ แรง นอกจากน้ี แผน่ ดนิ ไหวยังเกิดตามรอยต่อระหวา่ งเปลือกโลกภาคพ้ืน ทวีป และตามจุดร้อน (hotspot) ของเปลือกโลกภาคพ้ืนมหาสมุทรและเปลือกโลกภาคพื้นทวีปอีก ด้วย 1.3) การปะทขุ องภูเขาไฟ (volcanic eruption) เมื่อรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกแยก ออกจากกันหรือเคลื่อนเข้าหากัน หรือเมือ่ บนเปลือกโลกมีจุดร้อน ทาให้แมกมาปะทุหรือไหลออกมา เป็นลาวา ซง่ึ ข้นึ อยู่กบั ชนิดและองคป์ ระกอบของแมกมาและแรงดันทีอ่ ยู่ภายใต้เปลอื กโลกบรเิ วณนั้น หากเป็นแมกมาเหลว ไม่มีไอน้าและแก๊สมาก ลาวาที่ปะทุออกมาจะไหลไปตามความลาดของพ้ืนท่ี หรือปล่องด้านข้างของภูเขาไฟ หากแมกมามีความหนืด มีไอน้า แก๊สและมีแรงดันมากจะเกิดการ ปะทุท่ีรุนแรง ซ่ึงบางครั้งปะทุข้ึนไปสูงหลายกิโลเมตร มีมวลไอน้าแก๊สและเศษหินปะทุสูงข้ึนไปใน บรรยากาศ แก๊สจากการปะทุของภเู ขาไฟเป็นแก๊สพษิ ที่เป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพของสิ่งมีชีวิต เศษหิน ขนาดใหญ่ท่ีลอยข้ึนไปสู่บรรยากาศจะเย็นลงอย่างรวดเร็วและตกลงมาสะสมใกล้ปล่องภูเขาไฟ ส่วนเถ้าละอองฝุ่นขนาดเลก็ ลอยไปไกลจากบริเวณทีป่ ะทุ รูปที่ 1.20 การประทุของภูเขาไฟ ท่ีมา : หนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมศิ าสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด (หน้า 34) โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 24

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค 1.4) โครงสร้างทางธรณวี ิทยา (geologic structure) การเคล่ือนท่ีของเปลือกโลกเข้า หากันทาให้เกิดแรงอัดระหว่างแผ่นเปลือกโลก ก่อให้เกิดโครงสร้างทางธรณีวิทยาและภูมิประเทศ ของหนิ ตะกอนท่ีโผลพ่ ้นผิวดนิ ทห่ี ลากหลาย เชน่ ㆍ โครงสรา้ งรอยเล่ือน เกิดจากการเคล่อื นทขี่ องเปลือกโลกหรอื แผน่ หินในแนวดงิ่ หรือ แนวระนาบ เช่น รอยเล่ือนปกติ เป็นรอยเล่ือนที่หินเพดานเลื่อนลงเมื่อเปรียบเทียบกับหินพื้นรอย เล่ือนย้อน เป็นรอยเลื่อนท่ีหินเพดานเลื่อนข้ึนเม่ือเปรียบเทียบกบั หินพ้นื ถ้ารอยเล่ือนย้อนมีคา่ มุมเท เท่ากับหรือน้อยกว่า 45 องศา เรียกว่า รอยเล่ือนย้อนมุมต่า รอยเลื่อนตามแนวระดับหรือรอยเล่ือน เหล่อื มขา้ ง เปน็ รอยเลือ่ นในหนิ ทส่ี องพากของรอยเล่ือนเคลื่อนตัวในแนวราบ รูปท่ี 1.21 รอบเล่อื นทเี่ กดิ จากการเคลือ่ นทีข่ องแผน่ เปลือกโลก ที่มา : หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ศิ าสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจริญทศั น์ อจท. จากัด (หน้า 35) รูปที่ 1.22 แผนท่แี สดงแผ่นเปลอื กโลกสาคัญ ทีม่ า : หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมิศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หนา้ 34) โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 25

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณภี าค ㆍ โครงสร้างคดโค้ง เป็นการคดโค้งคล้ายลูกฟูก หรือแบบโดม หรือโดมกลับหัวขนาด ของการคดโค้งตา่ งกัน เช่น โครงสร้างหินโคง้ รูปประทนุ ควา่ หินโคง้ รูปประทนุ หงาย ซึ่งอาจมลี ักษณะ เป็นรูปประทุนต่อเน่ืองกันคล้ายแผ่นสังกะสีมุงหลังดา ลักษณะของการคดโค้งอาจเป็นแบบคดโค้ง สมมาตร หรอื คดโค้งไม่สมมาตร หรอื คดโคง้ ตลบทับ หินท่ีมีอายมุ ากกว่า (เกดิ ก่อน) โครงสร้างหินโค้ง รูปประทนุ ควา่ อยู่ชน้ั ล่าง 2) กระบวนการปรับระดับพ้ืนผิวโลก เป็นการปรับระดับผิวแผ่นดิน เพ่ือให้ผิวเปลือก โลกอยู่ในสภาพสมดุล พนื้ ที่ท่ีเป็นที่สูง เชน่ ภูเขา หรือท่สี ูงชนั ถกู กระบวนการทางธรรมชาตทิ าให้ลด ระดบั ตา่ ลง ในขณะทีพ่ ้ืนทท่ี ่ีต่ากว่า เช่น แอง่ หรือพ้ืนท่ีลมุ่ จะมีตะกอนมาดกทับถมให้สูงข้นึ การปรับ ระดับผวิ แผ่นดนิ เปน็ กระบวนการทาให้เกดิ การลดระดับแผน่ ดินให้ต่าลง และการเพ่มิ ระดับแผ่นดนิ ท่ี ทาให้พนื้ ท่ตี า่ กวา่ มีระดับสูงข้นึ ดังนี้ 2.1) การผุพังอยู่กับที่ (weathering) เป็นกระบวนการท่ีทาให้แร่ประกอบหินเกิดการ เปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมี ผุกร่อน แตกหัก ละลาย โดยไม่มีการสึกกร่อนหรือพัดพาแต่ เปน็ การเปลี่ยนสภาพอยู่ ณ ทีเ่ ดมิ ของภูมปิ ระเทศทเ่ี กดิ ขนึ้ อยู่ก่อนแล้ว เกดิ ใน 3 ลักษณะ ดังนี้ ㆍ การผุพังอยู่กับทที่ างกายภาพ เกิดจากแรงกดดันและอุณหภูมิเป็นตังหลัก เช่น หิน อัคนีที่ประกอบด้วยแร่หลายชนิด เมื่อได้รับความร้อนจากแสงแดดจัด เช่น ในทะเลทรายแร่จะ ขยายตัวได้ไม่เท่ากัน ทาให้เกิดการแตกร่วงหลุดออกมา ส่วนในเขตหนาวจัดน้าท่ีแทรกอยู่ในร่องหิน จะแข็งและขยายตวั ทาใหห้ ินแตกออกจากกันเคมี เปน็ การเปล่ยี นแปลงทางเคมขี องหิน รปู ที่ 1.23 การผพุ งั อยู่กบั ที่ทางกายภาพ ทม่ี า : หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมศิ าสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 – 6 บริษทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั (หน้า 36) โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 26

ชุดที่ 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณีภาค ㆍ การผุพังอยู่กับที่ทางเคมี เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของหินและแร่ เช่น การมี โมเลกุลของน้าเข้าไปอยใู่ นหนิ หรือแร่ ทาให้แร่ขยายตัวและยยุ่ งา่ ยข้ึน ออกซิเจนไปทาปฏิกิริยากับแร่ โลหะ เช่น เหล็กจะเกดิ สนิมเหล็ก หินปูนประกอบดว้ ยแคลเซยี มคารบ์ อเนตเมื่อถูกน้าฝนหรือแช่นา้ ที่ มีสภาพเป็นกรดอ่อนจะเกดิ การละลาย ทาให้เกิดโพรง หรือถ้า รปู ที่ 1.24 การผุพงั อยู่กับที่ทางกายภาพ ทมี่ า : หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมิศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 – 6 บริษทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด (หนา้ 36) ㆍ การผุพังอยกู่ ับทท่ี างชีวภาพ เกิดจากกิจกรรมของสิ่งมีชวี ิต เชน่ รากพืชแทรกเข้าไป ขยายรอยแตกของหิน จุลินทรีย์ ย่อยสลายอินทรียวัตถุ ทาให้เกิดกรดที่ทาปฏิกิริยากับแร่ประกอบ หนิ บางชนิด 2.2) การกร่อน (erosion) เป็นกระบวนการท่ีหินและดนิ แตกหักหรือหลุดเป็นก้อนเล็ก จากตวั กระทา เช่น ธารนา้ ไหล 'คลน่ื ลม ธารนา้ แข็ง ดังนี้ ㆍแรงกระแทก เกดิ จากกระแสน้าไหลเช่ียว กระแสลมพัดแรง หรือกระแสลมและน้าท่ี มีฝุ่นหรือมีเศษหินขนาดเล็กพัดไปกระแทกกับหน้าผา และก้อนหิน จนเกิดเป็นโพรง เช่น แกรนด์ แคนยอน โกรกธารในรฐั แอรโิ ซนา สหรฐั อเมริกา โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 27

ชุดที่ 1 การเปลีย่ นแปลงทางธรณภี าค รูปที่ 1.25 แกนแคนยอน รฐั แอรินา สหรฐั อเมริกา ทีม่ า : https://sites.google.com/site/10sthanthitheiywnixmerika/kae-rn-khaen-yxn- grand-canyon ㆍ การครูดถู ธารน้าแข็งที่มีเศษหินติดมาด้วยจะครูดถูไปกับพื้นธารและด้านข้าง ของหุบเขา ทาใหห้ ินแตกหักหลุดติดไปกับธารน้าแข็งได้ ลมพัดทรายครูดถผู นังแนวแกรนด์แคนยอน รฐั แอริโซนา สหรัฐอเมรกิ าหนิ ทราย เช่น เดอะเวฟ (The Wave) รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมรกิ า หรือน้า ในธารพัดเอากรวดทรายมาหมุนวนอยู่ในแอ่งเล็ก ๆ บนหน้าหิน กรวดทรายเป็นตัวการครูดถู ขัดสี ทาให้เกิดเป็นหลมุ บอ่ ถลม่ เรียกวา่ กมุ ภลักษณ์ เช่น สามพนั โบก อ.โพธไ์ิ ทร จ.อบุ ลราชธานี รปู ท่ี 1.26 สามพนั โบก ที่มา : https://travel.mthai.com/region/northeast/71789.html โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 28

ชุดท่ี 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณีภาค ㆍ การละลาย เกิดจากน้าละลายแร่บางชนิดให้หลดุ ลอยหรือละลายไปกับน้าทาให้เกิด ภูมิประเทศคาสต์ ในพ้ืนท่ีหินปูน น้าจะละลายหินออกไปมากจนพ้ืนผิวของหนิ กลายเป็นตะปุ่มตะป่า เตม็ ไปด้วยหลุมบ่อ ถา้ และทางน้าใต้ดินที่จะละลายเอาเนือ้ หินดังกล่าวแทรกซึมหายลงไป พน้ื ทีแ่ บบ นี้จึงมักเป็นที่แห้งแล้ง และมีธารน้าไหลลงที่ต่าในหน้าฝน เช่น วนอุทยานถ้าหลวง - ขุนน้านางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย 2.3) การพัดพาและการทับถม (transportation and deposition) การพัดพาและ การทับถมเป็นกระบวนการที่เกิดคู่กัน คือ เม่ือมีการพัดพาตะกอนออกไปจากที่หน่ึง ทาให้เกิดการ ทับถมในเวลาต่อมาตามลักษณะของตะกอนและสภาพแวดล้อม การพัดพาและการทับถมทาให้เกิด สภาพภูมิประเทศตา่ งกนั ไปตามชนิดของตะกอนและตวั กระทานนั้ ๆ วนอุทยานถ้าหลวง - ขนุ น้านาง นอน อ.แมส่ าย จ.เชียงราย เป็นภูมิประเทศคาสตท์ เ่ี กิดจากการละลายของหินปูนโดยธารนา้ ใตด้ ิน ㆍการพัดพา เป็นกระบวนการพัดพาตะกอนหิน แร่ ดิน อินทรียวัตถุ และสารละลาย ออกไปจากพืน้ ที่ โดยตัวกระทา เชน่ ธารน้าไหล กระแสน้าทะเล ธารน้าแขง็ ลม ซ่ึงจะมีตะกอนท่ีเป็น ก้อนหิน สารแขวนลอยหรือสารละลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของตัวกระทาที่ทาให้ตะกอนถูกพัดพาไปเป็น ระยะทางส้ัน ๆ หรือไกลออกไปจากแหล่งกาเนิดมากได้ เช่น ธารนา้ ไหลพดั พาตะกอนหินขนาดใหญ่ ไปได้ไม่ไกลแต่ตะกอนท่ีเป็นสารละลายจะพัดพาไปไกลมาก ส่วนธารน้าแข็งพัดพาตะกอนหลาย ขนาดไปพร้อมกบั การไหลได้ ㆍ การทับถม เกิดข้ึนเมื่อมีการสูญเสียพลังงานในการพัดพาของตัวกระทา เช่น เม่ือ กระแสน้าลดลงทาให้เกิดการทับถมของตะกอนที่น้าพัดพามาด้วย ตะกอนขนาดใหญ่จะตกทับถม ก่อนตะกอนขนาดเล็ก และสารละลายจะตกตะกอนเม่ือน้าน่ิง ตะกอนท่ีธารน้าแข็งพัดพามาเกิดการ ทับถมเมื่อน้าแข็งละลาย 2.4) การเคลื่อนที่ของมวล (mass wasting) เกิดขึ้นเมื่อก้อนหินหรือมวลดินผสมเศษ หินท่ีอยู่บนพื้นท่ีลาดชันร่วงหล่นไปตามความลาดชัน เน่ืองจากมีน้าหนักมากและจากแรงโน้มถ่วง ของโลก การเคล่ือนที่จะเกิดขึ้นช้าหรอื เร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เชน่ ความลาดชันของพ้ืนท่ี น้า พืช ถ้ามีพืชปกคลุมจะทาให้ดินยึดเกาะกันได้ดี แต่ถ้ามีพืชมากเกินไปก็อาจทาให้ดินต้องรับน้าหนักมาก และปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น การส่ันสะเทือนของแผ่นดินไหว การปะทุของภูเขาไฟ รวมท้ังลักษณะ การเคล่ือนท่ีของมวล เช่น หินพัง การเล่ือนถล่ม การไหล ซึ่งจะทาให้เกิดสภาพภูมิประเทศ เช่น กองหนิ บรเิ วณตนี เขา เนินตะกอนรูปพัด โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 29

ชุดท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค บตั รกจิ กรรมที่ 1.1 เร่ือง ขอ้ มลู การศึกษาและแบ่งชัน้ โครงสรา้ งโลก 1. จงทาเครอ่ื งหมาย  หน้าข้อความท่ีถูกต้อง และทาเครื่องหมาย  หน้าข้อความท่ีผิด คาตอบ ขอ้ ความ 1. การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของช้ันเนื้อโลกส่วนหน่ึงได้ตัวอย่างมาจาก หนิ แปลกปลอมในระดับลกึ ที่ลาวาพาข้ึนมาบนผิวโลก 2. ผลจากการศึกษาอุกกาบาตเหล็กท่ีตกลงมายังโลก เป็นหลักฐานหน่ึงที่ทา ให้ทราบองคป์ ระกอบของแกน่ โลก 3. ถ้าแบ่งโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี แก่นโลกเป็นโครงสร้าง ชน้ั ทม่ี ีความหนามากท่ีสุด 4. เปลือกโลกทวปี ประกอบด้วยหนิ บะซอลต์เปน็ ส่วนมาก 5. เปลือกโลกทวปี มคี วามหนาแน่นเฉลี่ยมากกว่าเปลือกโลกมหาสมุทร 6. แหล่งกาเนิดคล่ืนไหวสะเทือนมีท้ังท่ีมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ และจากการกระทาของมนุษย์ 7. คลื่นปฐมภูมิมีความเร็วเพิ่มข้ึนเม่ือเคล่ือนที่ผ่านธรณีภาคและมัชฌิมภาค และมคี วามเร็วเป็นศูนยเ์ มอ่ื เคลือ่ นที่ผ่านแกน่ โลกช้นั นอก 8. คลื่นทุติยภูมิไม่สามารถเคลื่อนท่ีผ่านโครงสร้างโลกท่ีมีสถานะเป็น ของเหลวได้ 9. คล่ืนปฐมภูมิมีความเร็วน้อยกว่าคลื่นทุติยภูมิ เมื่อคลื่นท้ังสองเคลื่อนที่ ผา่ นช้ันฐานธรณีภาค 10. เขตความเร็วต่า อยู่ในชั้นธรณีภาค และเขตเปลี่ยนแปลง อยู่ในช้ันฐาน ธรณีภาค 2. เพราะเหตุใดผลการศึกษาอกุ กาบาตเหล็กจงึ ใชเ้ ป็นข้อมูลอธบิ ายองค์ประกอบของแก่นโลกได้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….… โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 30

ชดุ ที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค 3. ให้นกั เรียนดภู าพแล้วตอบคาถาม 3.1 จากรูปขา้ งตน้ สนับสนนุ ทฤษฎกี ารเลื่อนของทวีปของอลั เฟรด เวเกเนอร์ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….… 3.2 นกั เรยี นมคี วามเชอ่ื มากน้อยเพียงใดต่อแนวคิดทว่ี ่า “แผ่นดินหรแื ผนธรณภี าคเคยติด และเป็นผ่ืนแผน่ เดียวกนั มาก่อน” เพราะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….… โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 31

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค 4. ให้นักเรียนดูภาพแล้วเติมรูปแบบการเคลื่อนท่ีของแผน่ เปลอื กโลกในแตล่ ะหมายเลข และลกั ษณะ ทางกายภาพที่เป็นผลจากการเคลื่อนที่ โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 32

ชดุ ท่ี 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณภี าค บตั รกจิ กรรมท่ี 1.2 เร่ือง การเคล่อื นที่ของแผน่ เปลอื กโลก  จุดประสงค์ 1. เพ่ือทดลองและอธบิ ายสาเหตุทที่ าให้แผ่นเปลือกโลกเคลอื่ นที่ 2. ศึกษาการเปลีย่ นแปลงของเปลอื กโลก กระบวรการคดโค้งโกง่ งอ การยกตวั และยุบตวั ของเปลือกโลกได้ 3. ทดลองเกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลงของเปลอื กโลก กระบวรการคดโคง้ โกง่ งอ การยกตัว การยุบตวั การผุพังอยู่กบั ท่ี การกร่อน การพัดพาและการทับถมได้ อปุ กรณ์ 1,200 ml 1. น้า 1 ขวด 2. สีผสมอาหารสนี ้าเงิน (ชนิดน้า) 2-3 ชนิ้ 3. เศษกระดาษช้ินเล็ก ๆ ขนาดพ้นื ทีป่ ระมาณ 0.5 cm x 0.5 cm 1 หลอด 4. หลอดหยด 1 ชดุ 5. ตะเกยี งแอลกอฮอล์พร้อมท่ีก้ันลมและตะแกรงลวด 1 ใบ 6. ถาดอะลมู เิ นยี มขนาดประมาณ 22 cm x 32 cm x 5 cm วิธกี ารทดลอง 1. ใสน่ ้าลงในถาดอะลูมิเนียมที่เตรียมมาให้มีความลกึ ประมาณ 2 เซนตเิ มตร 2. นาถาดอะลมู เิ นยี มไปวางบนที่ก้นั ลมและตะแกรงลวด 3. จดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์นาไปลนก้นถาดบริเวณก่งึ กลางถาด เพอื่ ให้ความร้อนแก่น้า 4. ใช้หลอดหยดดูดน้าสีผสมอาหารนาไปหยดลงในน้า 1 หยด โดยหยดลงให้ตรงกับ ตาแหน่ง ไส้ตะเกยี งแอลกอฮอล์ สังเกตและบนั ทกึ ผลการเปลย่ี นแปลงของสผี สมอาหาร 5. ดาเนินการทดลองเช่นเดียวกับขอ้ 4 แล้วค่อย ๆ หยอ่ นเศษกระดาษช้นิ เลก็ ๆ จานวน 2-3 ช้ิน ลงบนผิวนา้ บริเวณเดียวกบั ทห่ี ยดสี ระวังอย่าให้เศษกระดาษซ้อนกนั สังเกตและบนั ทกึ ผลการ เปล่ยี นแปลงของเศษกระดาษ โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 33

ผลการทดลอง ชุดที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค รายการทดลอง การเปลี่ยนแปลงท่ีสงั เกตได้ 1. เมอ่ื หยดสผี สมอาหารลงในน้า 2. เมื่อหย่อนเศษกระดาษลงบนผิวน้า สรปุ ผลการทดลอง ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 34

ชดุ ท่ี 1 การเปลีย่ นแปลงทางธรณภี าค บตั รกิจกรรมท่ี 1.3 แผนผังมโนทัศน์ เร่ือง การเปล่ยี นแปลงทางธรณีภาค คาช้แี จง ให้นักเรยี นสรุปความรู้ทเี่ ก่ียวกับ “การเปลยี่ นแปลงทางธรณภี าค” เปน็ แผนผงั มโนทัศน์ (Concept Mapping) ในกระดาษทีแ่ จกให้แล้วนาเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 35

ชดุ ที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณภี าค แบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง การเปล่ียนแปลงทางธรณภี าค กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ฯ รายวชิ าสังคมศกึ ษา 5 (ภูมศิ าสตร)์ รหัสวิชา ส33101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้ จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลาท่ีใช้ 10 นาที 2. จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสดุ แลว้ เขียนเครือ่ งหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ 1. โครงสรา้ งโลกแบ่งตามลกั ษณะมวลสารได้ช้ันใหญ่ๆ สามช้ันอะไรบ้าง ก. ช้ันเปลือกโลก เนอื้ โลก ธรณีภาค ข. ชน้ั เปลอื กโลก เนือ้ โลก หินหนดื ค. ช้ันเปลอื กโลก เน้ือโลก แก่นโลก ง. ชนั้ เปลอื กโลก ใตเ้ ปลอื กโลก แก่นโลก 2. เปลือกโลกภาคพน้ื ทวีป ประกอบไปด้วยอะไรบา้ ง ก. เหลก็ และทองแดง ข. ซิลิคอนและซิลกิ า ค. ซลิ คิ อนและอะลูมนิ า ง. ซิลิคอนและแมกนีเซียม 3. เปลือกโลกแบ่งออกเปน็ 2 บรเิ วณคือบริเวณใด ก. เปลอื กโลกชน้ั นอกและเปลือกโลกชน้ั ใน ข. เปลอื กโลกภาคพืน้ ดินและเปลือกโลกภาคพนื้ นา้ ค. เปลือกโลกภาคพืน้ ทวปี และเปลอื กโลกภาคพื้นน้า ง. เปลอื กโลกภาคพืน้ ทวีปและเปลอื กโลกใต้มหาสมุทร 4. เปลอื กโลกใต้มหาสมุทรประกอบด้วยธาตอุ ะไรบ้าง ก. ซลิ คิ อนและเหล็ก ข. ซิลคิ อนและซลิ ิกา ค. ซลิ คิ อนและอะลมู นิ า ง. ซลิ ิคอนและแมกนเี ซียม โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 36

ชดุ ท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค 5. ชน้ั เนอื้ โลกสว่ นบนกับช้ันเปลอื กโลกรวมกันเรียกวา่ อะไร ก. แมนเทลิ ข. ธรณีภาค ค. ธรณภี าคพ้ืนทวปี ง. ธรณีภาคพ้ืนเปลอื กโลก 6. ทฤษฎีใดนาไปอธบิ ายถึงการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว มหาสมุทรและซากสิ่งมชี ีวิตที่ทับถมในหินบน เปลือกโลก ก. ทฤษฎีการหดตัวของแผ่นทวปี ข. ทฤษฎีการขยายตวั ของแผ่นทวปี ค. ทฤษฎีการเลื่อนไหลของแผน่ ทวีป ง. ทฤษฎกี ารแปรสณั ฐานแผน่ ธรณีภาค 7. ผนื แผน่ ดนิ แผน่ เดยี วกนั บนโลกตอ่ มาแยกเปน็ ทวีปใหญ่ 2 ทวปี คือข้อใด ก. เอเชยี และยโุ รป ข. ยโุ รปและอเมริกา ค. ออสเตรเลยี และอัฟรกิ า ง. ลอเรเซียและกอนดว์ านา 8. ทฤษฎีท่ีใช้อธิบายถึงกาเนิดของแผ่นดิน มหาสมุทร และสิ่งมีชีวิตที่ตายทับถม อยู่ในหินบน เปลือกโลก คอื ข้อใด ก. ทฤษฎีการเลื่อนไหลของทวปี ข. ทฤษฎกี ารขยายตวั ของพนื้ ทวีป ค. ทฤษฎกี ารแปรสณั ฐานแผน่ ธรณีภาค ง. ทฤษฎกี ารขยายตวั ของพืน้ มหาสมุทร โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 37

ชุดท่ี 1 การเปลย่ี นแปลงทางธรณีภาค 9. เทอื กเขาแอลปใ์ นทวีปยโุ รป เกดิ จากแผ่นธรณภี าคใด ก. แผ่นธรณีภาคพน้ื ทวปี กับแผ่นธรณีภาคพน้ื ทวปี ข. แผ่นธรณภี าคใต้มหาสมุทรกบั แผน่ ธรณภี าคพน้ื ทวีป ค. แผ่นธรณภี าคใตม้ หาสมุทรกบั แผ่นธรณีใตม้ หาสมุทร ง. แผน่ ธรณีภาคใตม้ หาสมุทรกับแผน่ ธรณภี าคใตม้ หาสมุทร 10. ปจั จุบันแผน่ เปลือกโลกทีร่ องรับทวีปอเมรกิ า ทวีปยุโรป และทวปี แอฟริกา มีการเคลื่อนที่ อย่างไร ก. เคลอ่ื นท่ีเขา้ หากัน ข. เคลอ่ื นทแ่ี ยกออกจากกัน ค. เคลือ่ นทใี่ นทิศที่แตกต่างกนั ง. ยังไมม่ ีการเคล่ือนทแ่ี ต่อยา่ งไร โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 38

ชดุ ท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค กระดาษคาตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ชุดที่ 1 ข้อมลู ในการศกึ ษาและแบ่งชัน้ โครงสรา้ งโลก แบบทดสอบก่อนเรยี น ง แบบทดสอบหลงั เรียน ง ขอ้ ก ข ค ขอ้ ก ข ค 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 39

ชดุ ที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค บรรณานุกรม กรมทรัพยากรธรณี. 2544. ธรณวี ิทยาประเทศไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนือ่ งในวโรกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธนั วาคม 2542. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรงุ เทพฯ : กองธรณวี ทิ ยากรมทรพั ยากรธรณี. กรมทรพั ยากรธรณี. 2550. ธรณวี ิทยาประเทศไทย. (พิมพ์คร้ังท่ี 2). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ดอกเบีย้ . คณะกรรมการวชิ าสง่ิ แวดลอ้ ม เทคโนโลยีและชีวติ ศนู ย์วชิ าบรู ณาการ หมวดวิชาศกึ ษาทั่วไป มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2549. ส่งิ แวดล้อมเทคโนโลยีและชีวติ . กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาเกษตรศาสตร์. ภาควชิ าปฐพวี ิทยา มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. 2548. ปฐพีวทิ ยาเบื้องตน้ . กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. ภาควชิ าภมู ิศาสตร์ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง. 2535. ภมู ศิ าสตรเ์ ศรษฐกิจ. กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ชัชพล ทรงสนุ ทรวงศ.์ 2546. มนษุ ย์กับสง่ิ แวดลอ้ ม. กรุงเทพมหานคร : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . ดาภา ไชยพรธรรม. 2537. สึนามแิ ผ่นดินไหวภยั ใกลต้ วั . กรุงเทพมหานคร : ยโู รปา เพรส. เทพพรรณี เสตสุบรรณ. (ม.ป.ป. ). ภัยพบิ ัตจิ ากธรรมชาติในเขตรอ้ น. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. นวิ ตั ิ เรอื งพานิช. 2528. การอนรุ ักษ์ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม. กรุงเทพมหานคร : เฉลมิ ชาญ การพมิ พ์. ประสทิ ธ์ิ ทีฆพฒุ ิ และศภุ ฤกษ์ ตนั ศรีรัตนวงศ.์ 2549. ค่มู ือเตือนภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ. กรงุ เทพมหานคร : ดอกหญ้า กรุ๊ป. ระวิวรรณ ตงั้ ตรงขันติ, พรวมิ ล สวา่ งชม และภาณภุ ทั ร วงศว์ รปญั ญา. 2564. แบบฝึกสมรรถนะ การคิด เนน้ Geo-Literacy ภูมิศาสตร์ ม.4-6. (พิมพ์ครัง้ ท่ี 1) กรุงเทพฯ : ไทยร่มเกลา้ , บริษัทอกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด ราชบณั ฑิตยสถาน. 2558. พจนานุกรมศพั ทธ์ รณวี ิทยา A-M. (พิมพ์ครง้ั ท่ี 2). กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พ์คณะรฐั มนตรีและราชกจิ จานเุ บกษา. ราชบณั ฑติ ยสถาน. 2558. พจนานกุ รมศัพทธ์ รณีวิทยา N-Z. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์คณะรัฐมนตรแี ละราชกจิ จานเุ บกษา. สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2551. หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ดวงดาวและโลกของเรา. (พิมพค์ ร้ังท่ี 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 40

ชดุ ที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าค สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2551. หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 8). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2554. หนงั สอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พมิ พ์คร้ังที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2561. หนังสอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1. (พิมพ์คร้งั ท่ี 1). กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . อภิสทิ ธิ์ เอย่ี มหนอ่ และคณะ. 2564. หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ิศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4-6. (พิมพ์ครงั้ ที่ 8) กรุงเทพฯ : ไทยร่มเกล้า, บริษทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 41

ชดุ ที่ 1 การเปล่ียนแปลงทางธรณีภาค โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 42

ชดุ ที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางธรณีภาค เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 1.1 เรอื่ ง การศึกษาคลน่ื ไหวสะเทอื นที่ผ่านโครงสรา้ งโลก 1. จงทาเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ความท่ีถูกตอ้ ง และทาเครื่องหมาย  หน้าข้อความทผี่ ิด คาตอบ ข้อความ  1. การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของชั้นเนื้อโลกส่วนหนึ่งได้ตัวอย่างมา จากหนิ แปลกปลอมในระดับลกึ ท่ีลาวาพาขึ้นมาบนผิวโลก  2. ผลจากการศึกษาอุกกาบาตเหลก็ ท่ีตกลงมายังโลก เป็นหลกั ฐานหนงึ่ ท่ีทา ใหท้ ราบองค์ประกอบของแก่นโลก  3. ถ้าแบ่งโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี แก่นโลกเป็นโครงสร้าง ช้นั ทม่ี คี วามหนามากท่สี ดุ  4. เปลือกโลกทวีปประกอบด้วยหินบะซอลตเ์ ป็นสว่ นมาก  5. เปลือกโลกทวีปมีความหนาแน่นเฉลี่ยมากกว่าเปลอื กโลกมหาสมุทร  6. แหล่งกาเนิดคล่ืนไหวสะเทือนมีทั้งท่ีมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ และจากการกระทาของมนษุ ย์  7. คล่ืนปฐมภูมิมีความเร็วเพิม่ ขึ้นเมอ่ื เคลื่อนที่ผ่านธรณีภาคและมชั ฌิมภาค และมีความเร็วเป็นศนู ยเ์ มอื่ เคลือ่ นท่ผี า่ นแกน่ โลกช้นั นอก  8. คลื่นทุติยภูมิไม่สามารถเคล่ือนที่ผ่านโครงสร้างโลกที่มีสถานะเป็น ของเหลวได้  9. คล่ืนปฐมภูมิมีความเร็วน้อยกว่าคลื่นทุติยภูมิ เม่ือคล่ืนทั้งสองเคลื่อนท่ี ผ่านชนั้ ฐานธรณภี าค  10. เขตความเร็วต่า อยู่ในชั้นธรณีภาค และเขตเปลี่ยนแปลง อยู่ในช้ันฐาน ธรณภี าค 2. เพราะเหตุใดผลการศึกษาอกุ กาบาตเหล็กจึงใช้เปน็ ข้อมูลอธบิ ายองค์ประกอบ ของแก่นโลกได้ ……แ…นว…ค…า…ต…อบ……………………………………………………………………………………………………………………….... ………………เ…พ…ร…าะ…อ…ุก…ก…าบ…า…ต…เห…ล…็ก…ม…ีอ…งค…์ป…ร…ะ…กอ…บ…ท…า…ง…เค…ม…ีแ…ละ…ก…ร…ะ…บ…วน…ก…า…ร…เก…ิด…ท…่ี แ…ต…ก…ต่…าง…จ…าก….... ……ต…ัวอ…ย…่า…ง…หิ…น…อ…ุก…ก…าบ…า…ต…ห…ิน…แ…ล…ะ…แ…ร่…เห…ล…็ก…ท…่ีพ…บ…ท…่ีผิ…วโ…ล…ก…ซ…ึ่ง…น…ัก…วิท…ย…า…ศ…า…สต…ร…์ …สัน…น…ิษ…ฐ…า…น…ว่…า .... ……อ…ุกก…า…บ…า…ตเ…ห…ล…็ก…น้ี…เก…ิด…ข…้ึน…ใน…ช…่ว…ง…เว…ล…าใ…ก…ล…้เค…ีย…งก…ับ…ก…า…ร…เก…ิด…โล…ก…แ…ล…ะ…ม…ี อ…ง…ค…์ป…ระ…ก…อ…บ…ท…าง…เค…ม…ี .... ……ใก…ล…้เค…ยี …งก…บั …แ…ก…น่ …โล…ก………………………………………………………………………………………………………….... โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook