ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลกและภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ าสงั คมศกึ ษา 5 (ภมู ิศาสตร)์ รหสั วชิ า ส33101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 เรอ่ื ง การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลกและภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรยี นเบต็ ตด้ี เู มน 2 ชอ่ งเมก็ อาเภอสริ นิ ธร จงั หวดั อุบลราชธานี องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั อุบลราชธานี
ชดุ ท่ี 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกและภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 จัดทาข้ึนเพื่อเป็นสื่อนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน รายวิชาสังคมศึกษา 5 (ภูมิศาสตร์) รหัสวิชา ส33101 เพื่อให้ผู้เรียนใช้ ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนและสามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเอง นาไปใช้ในการเรียนการสอน ซอ่ มเสริมได้ หรือใช้ในการสอนแทนไดเ้ ป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจและพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นนวัตกรรมท่ีช่วยลดบทบาทของครูตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทาเป็น คิดเป็น แก้ปัญหาได้ สามารถพัฒนาตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ ซ่ึงสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ที่มุ่งเนน้ ให้ผเู้ รียนได้รบั การ พัฒนาทั้งด้านความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การ แก้ปัญหา ความสามารถในการส่อื สาร การตัดสินใจ การนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ตลอดจนสง่ เสริม ให้ผูเ้ รียนมีจติ สงั คมศกึ ษาคณุ ธรรมและค่านยิ มที่ถูกต้องเหมาะสม ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ทาให้มีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกและภัยพิบัติทาง ธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สามารถใช้เพ่ือศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเองเป็นส่ือท่ีมีประสิทธิภาพ สามารถอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้บรรลุ วัตถุประสงคข์ องหลักสตู รได้ รมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ก
ชุดที่ 4 การเปลีย่ นแปลงทางชีวภาค สำรบญั เร่อื ง หนำ้ คำนำ ก สำรบัญ ข คำชแ้ี จงเกยี่ วกบั กำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ค แผนภมู ลิ ำดับขั้นตอนกำรใชช้ ุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ง คำชีแ้ จงกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้สำหรบั ครู จ คำชี้แจงกำรใชช้ ดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้สำหรับนกั เรียน ฉ 1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ช้วี ัด 2 สาระสาคัญ 3 แบบทดสอบก่อนเรยี น 7 บตั รเนอื้ หา ชุดท่ี 4 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค 25 บัตรกิจกรรมที่ 4.1 เรอื่ ง ระบบชีวนิเวศ 28 บัตรกจิ กรรมท่ี 4.2 เรอ่ื ง การเปล่ียนแปลงทางชวี ภาค 30 บัตรกจิ กรรมที่ 4.3 ผังมโนทัศน์ เรื่อง การเปลีย่ นแปลงทางชีวภาค 31 แบบทดสอบหลังเรยี น 35 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 36 บรรณำนกุ รม 38 ภำคผนวก 39 เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 4.1 เร่ือง ระบบชีวนเิ วศ 40 เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 4.2 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค 44 เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 4.3 ผงั มโนทศั น์ เรื่อง การเปลย่ี นแปลงทางชวี ภาค 45 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน 46 ประวัติยอ่ ผ้จู ดั ทำ โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ ข
ชุดที่ 4 การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค คำชแ้ี จงเกยี่ วกับชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของ โลกและภัยพิบัติทางธรรมชาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อใช้ ประกอบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา 5 (ภูมิศาสตร์) รหัสวิชา ส33101 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยสอดคล้องตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) กระทรวงศึกษาธิการ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ ยึดแนวทางการฝึกทเ่ี หมาะสมกบั ระดับ และวัย เพ่ือให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีความสุขในการทากิจกรรมการเรียนรู้ และเพื่อ ส่งเสริมเจตคติที่ดี นักเรียนจะได้พัฒนากระบวนการคิด กระบวนการตัดสินใจ กระบวนการ แก้ปัญหา และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ ซึง่ ประกอบด้วยชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน 8 ชุด ดังนี้ ชุดที่ 1 เรื่อง การเปลย่ี นแปลงทางธรณภี าค ชดุ ท่ี 2 เรื่อง การเปลีย่ นแปลงทางบรรยากาศภาค ชดุ ท่ี 3 เรอื่ ง การเปลย่ี นแปลงทางอุทกภาค ชุดท่ี 4 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงทางชวี ภาค ชดุ ท่ี 5 เร่ือง ภัยพิบัตธิ รรมชาติทางธรณภี าค ชุดท่ี 6 เรอ่ื ง ภยั พบิ ัติธรรมชาติทางบรรยากาศภาค ชุดท่ี 7 เรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาตทิ างอทกภาค ชุดที่ 8 เรือ่ ง ภยั พบิ ัตธิ รรมชาตทิ างชวี ภาค 2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดนี้เป็น ชุดท่ี 4 เรื่อง กำรเปล่ียนแปลงทำงชีวภำค ใช้เวลำ 2 ชว่ั โมง 3. ผู้ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้ควรศึกษาข้ันตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่าง ละเอยี ดกอ่ นใช้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้ จะมีประโยชน์ต่อนักเรียนและ ผู้สนใจท่ีจะนาไปใช้สอนและฝึกเด็กในปกครองในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้มีคุณภาพมาก ยง่ิ ขึ้นตอ่ ไป โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ ค
ชุดที่ 4 การเปลีย่ นแปลงทางชวี ภาค แผนภมู ลิ ำดับขัน้ ตอนกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ อา่ นคาช้แี จงและคาแนะนาในการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ศึกษาตัวชี้วดั และจุดประสงค์การเรียนรู้ เสริมพ้นื ฐำน ทดสอบก่อนเรียน ผู้มพี ืน้ ฐำนตำ่ ศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามขั้นตอน ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากชุดกิจกรรม ไม่ผำ่ น ทดสอบหลังเรยี น กำรทดสอบ ผำ่ นกำรทดสอบ ศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้เรือ่ งตอ่ ไป แผนภูมิลำดบั ขนั้ ตอนกำรเรยี นโดยใชช้ ดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ชดุ ท่ี 4 เรอื่ ง เรอ่ื ง กำรเปลี่ยนแปลงทำงชีวภำค โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ง
ชุดที่ 4 การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค คำชี้แจงกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรสู้ ำหรบั ครู ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ทู ่ีครผู สู้ อนไดศ้ ึกษาต่อไปนี้คอื ชดุ ที่ 4 เร่อื ง กำรเปล่ียนแปลงทำง ชีวภำค ใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม 2 ชั่วโมง ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกตและรวบรวม ข้อมูล มาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุม่ เพื่อช่วยใหก้ ารดาเนินการ จดั กิจกรรมการเรยี นรบู้ รรลจุ ดุ ประสงค์และมีประสิทธิภาพ ครูผสู้ อนควรดาเนินการดังนี้ 1. ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเข้าใจเก่ียวกับคาชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สาหรับครู และแผนการจดั การเรียนรู้ เพื่อที่ครูผู้สอนสามารถนาชุดกิจกรรมการเรยี นร้ไู ปใช้ในการ จัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2. ครูผสู้ อนเตรยี มสื่อการเรียนการสอนให้พร้อม 3. ก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครูต้องเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ บนโต๊ะประจากลุ่มให้เรียบร้อยและเพียงพอกับนักเรียนในกลุ่มซึ่งนักเรียนจะได้รับคนละ 1 ชุด ยกเว้นสื่อการสอนที่ต้องใช้รว่ มกนั 4. ครูต้องชี้แจงใหน้ ักเรียนรู้เก่ียวกับบทบาทของนักเรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี 4.1 ศึกษาบทบาทของนกั เรียนจากการปฏิบัติกจิ กรรมให้เข้าใจก่อนการเรียนรู้โดยใช้ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามลาดับขั้นตอน อ่านคาชี้แจงจากใบกิจกรรม เพ่ือจะได้ทราบ วา่ จะปฏิบัตกิ จิ กรรมอะไร อย่างไร 4.3 นักเรียนต้องต้ังใจปฏิบัติกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ต้องให้ความร่วมมือ ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั ไมร่ บกวนผู้อ่ืน และไม่ชกั ชวนเพ่ือนใหอ้ อกนอกลู่นอกทาง 4.4 หลงั จากปฏิบัตกิ ิจกรรมแล้ว นกั เรียนจะต้องจดั เกบ็ อปุ กรณ์ทุกชน้ิ ใหเ้ รียบร้อย 4.5 เม่ือมกี ารประเมนิ ผลนักเรยี นต้องปฏบิ ัติตนอย่างตั้งใจและรอบคอบ 5. ขณะที่นกั เรียนทุกกล่มุ ปฏิบตั ิกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดัง หากมีอะไรจะพูดต้องพูด เป็นรายกล่มุ หรอื รายบคุ คล ตอ้ งไมร่ บกวนกจิ กรรมของนกั เรยี นกลมุ่ อน่ื 6. ครูผู้สอนต้องเดินดูการทางานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนคน ใดหรือกล่มุ ใดมีปัญหาควรเข้าไปให้ความช่วยเหลือจนปญั หาน้ันคลี่คลายลง 7. การสรุปผลท่ีไดจ้ ากกิจกรรมการเรียนรู้ควรเปน็ กิจกรรมร่วมของนักเรียนทุกกลุ่มหรือ ตวั แทนของกลุ่มรว่ มกนั ครูควรเปดิ โอกาสให้นักเรียนแสดงออกให้มากท่ีสุด 8. ประเมนิ ผลการเรียนรู้ของนักเรียน เพือ่ ตรวจสอบผลการเรียนรขู้ องนกั เรียน โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ จ
ชดุ ท่ี 4 การเปลย่ี นแปลงทางชวี ภาค คำช้ีแจงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรสู้ ำหรับนักเรียน ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ที่นักเรียนได้ศึกษาต่อไปน้ีคือ ชุดท่ี 4 เรือ่ ง กำรเปล่ียนแปลงทำง ชีวภำค ซึ่งนักเรียนจะได้สารวจ สังเกต และรวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยใช้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม ทักษะกระบวนการทางสังคม ศึกษา กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแก้ปัญหา ผ่านทางกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุด นักเรยี นควรปฏบิ ัติตามคาชีแ้ จง ดังต่อไปนี้ 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษา ชุดท่ี 4 เรื่อง กำรเปล่ียนแปลงทำงชีวภำค ใชเ้ วลำในกำรทำกิจกรรม 2 ชัว่ โมง 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จานวน 10 ข้อ 3. นักเรียนทากจิ กรรมเปน็ รายกลมุ่ และศกึ ษาวิธีดาเนนิ กจิ กรรมให้เขา้ ใจ 4. นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้สังคมศึกษา 5. นกั เรยี นทากิจกรรมในชุดกิจกรรมการเรียนรใู้ หค้ รบ 6. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน 10 ขอ้ โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ ฉ
ชดุ ที่ 4 การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้สูต่ วั ชี้วัด / สาระสาคญั ชดุ ท่ี 4 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค สาระ ภมู ิศาสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้ 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายรูปของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตาม กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิรปู ตวั ช้ีวดั ม.4 – 6/1 วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายรูปในประเทศไทยและภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก ซ่งึ ได้รบั อิทธพิ ลจากปจั จัยทางภูมิศาสตร์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้สตู่ วั ช้ีวัด 1. สืบค้นข้อมูลเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงทางชีวภาค โดยใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ได้ ถูกตอ้ ง (K) 2. อธิบายถึงผลกระทบการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค ต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมได้ถูกต้อง (K) 3. อภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย รวมท้ัง ตระหนกั ถงึ ผลกระทบจากการสูญเสยี ความหลากหลายทางชีวภาพ (K) 4. วิเคราะห์ อภิปรายและสรุปได้ว่าการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตสัมพันธ์กับความหลากหลาย ของสงิ่ มีชวี ิต สืบคน้ ข้อมูล อภิปรายเพ่ือศึกษาสถานการณ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ในประเทศไทย (P) โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 1
ชุดที่ 4 การเปล่ยี นแปลงทางชวี ภาค 5. ประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเก่ยี วกบั การเปลี่ยนแปลงทางอุทกภาคในการ รว่ มกจิ กรรมการเรียนการสอนและนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั (A) 6. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้หรืออยากรู้อยากเห็น ทางานร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับ ความคดิ เห็นของผอู้ ่ืนได้ (A) สาระสาคัญ โลกเปน็ ดาวเคราะห์ดวงเดยี วทห่ี ้อห้มุ ด้วยสงิ่ มชี วี ิต พื้นดินปกคลุมด้วยพืชพรรณ พ้ืนผิว มหาสมุทรปกคลุมด้วยแพลงตอน การที่โลกอุดมไปด้วยส่ิงมีชีวิตเนื่องจากโลกได้รับพลังงานจากดวง อาทิตย์ในระดับท่ีเหมาะสม ภาวะเรือนกระจกทาให้โลกอบอุ่นจนสามารถมีน้าได้ทั้งสามสถานะ น้า และบรรยากาศทาให้เกิดการถ่ายเทพลังงาน ธรณีแปรสัณฐานทาให้พื้นดินอุดมด้วยธาตุอาหาร ส่ิงมีชวี ติ ก่อตัวขน้ึ จากสง่ิ แวดลอ้ ม และกจ็ ะมีอิทธพิ ลในการปรับเปลย่ี นส่งิ แวดล้อมด้วย ความหลากหลายทางชีวภาพระหว่างสายพันธุ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ ความแตกต่าง ระหว่างพันธุพ์ ืชและสตั ว์ต่าง ๆ ทใ่ี ช้ในการเกษตร ความแตกต่างหลากหลายระหว่างสายพันธ์ุ ทาให้ สามารถเลือกบริโภคข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียว ตามท่ีต้องการได้ หากไม่มีความหลากหลายของสาย พันธุ์ต่างๆ แล้ว อาจจะต้องรับประทานส้มตาปูเค็มกับข้าวจ้าวก็เป็นได้ ความแตกต่างที่มีอยู่ในสาย พันธ์ุต่าง ๆ ยงั ชว่ ยให้เกษตรกรสามารถเลือกสายพนั ธุ์ปศสุ ัตว์ เพือ่ ใหเ้ หมาะสมตามความต้องการของ ตลาดได้ เชน่ ไก่พนั ธ์เุ น้อื ไกพ่ นั ธไ์ุ ขด่ ก ววั พันธน์ุ ม วัวพันธเุ์ น้อื เปน็ ต้น โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 2
ชดุ ที่ 4 การเปลีย่ นแปลงทางชีวภาค แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรือ่ ง การเปลีย่ นแปลงทางชวี ภาค กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ฯ รายวิชาสงั คมศึกษา 5 (ภูมศิ าสตร์) รหัสวชิ า ส33101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 คาช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับน้ี จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาทใ่ี ช้ 10 นาที 2. จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องที่สดุ แล้วเขียนเครอ่ื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ 1. “คูรลิ แบงส์” พบไดใ้ นบริเวณใด ก. ทางตะวนั ตกของประเทศญี่ปุ่น ข. ทางตะวันออกของประเทศญีป่ ุ่น ค. มหาสมทุ รอินเดยี ง. กลางมหาสมุทรแปซิฟกิ 2. ปา่ ที่ขึ้นไดด้ ีในสภาพแวดล้อมทเ่ี ป็นดนิ เลนและน้ากรอ่ ยมีพนั ธ์ุไมแ้ ละสตั วน์ ้าเจริญเตบิ โตได้ ดีคือป่าชนิดใดมคี วามสาคัญอย่างไร ก. ปา่ สน : แหล่งประมง ข. ปา่ แดง : แหล่งท่องเทย่ี ว ค. ป่าดงดิบ : แหล่งเกบ็ ปะการังชายฝั่ง ง. ป่าชายเลน : แหลง่ รกั ษาสมดลุ ของระบบนเิ วศชายฝั่ง 3. ปัจจัยทางกายภาพข้อใดมีอิทธิพลตอ่ การเปลี่ยนแปลงระบบชวี นิเวศของโลกมากทส่ี ุด ก. ดนิ ข. ไฟป่า ค. อณุ หภมู ิ ง. ความชนื้ 4. ระบบนิเวศในบรเิ วณใดทีม่ คี วามหลากหลายของส่งิ มีชีวติ มากท่ีสดุ ก. ป่าฝนเขตรอ้ นในแถบศนู ย์สตู ร ข. ทุ่งหญ้าสะวนั นาในทวปี แอฟริกา ค. ปา่ เขตอบอ่นุ ในทวปี ออสเตรเลยี ง. ปา่ สนหรอื ไทกาในไซบีเรียประเทศรัสเซยี โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 3
ชดุ ท่ี 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค 5. เมอ่ื เกิดการเปลย่ี นแปลงแทนท่แี บบปฐมภมู บิ ริเวณภเู ขาไฟที่ปะทุใหม่ ๆ สง่ิ มชี ีวติ ท่จี ะเข้า มาอยู่ในพื้นท่ไี ดเ้ ป็นกลุ่มแรกคอื ข้อใด ก. ไม้ล้มลกุ ข. หญ้าและวัชพืช ค. มอสส์และไลเคน ง. เห็ดราและสาหรา่ ย 6. ข้อใดที่ไม่ใช่พืชท่ีเจริญเตบิ โตได้ในนา้ เค็ม ก. ข. ค. ง. โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 4
ชดุ ท่ี 4 การเปล่ยี นแปลงทางชีวภาค 7. สัตว์ในรูปอาศัยอยู่ในเขตใด ก. เขตขั้วโลก ข. ข. เขตทุ่งหญ้า ค. เขตมหาสมุทร ง. เขตธารนา้ แข็ง 8. สัตว์ชนิดใดอาศัยอยู่ในเขตทุ่งหญ้า ก. ค. ง. โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 5
ชดุ ที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชวี ภาค 9. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องท่ีสดุ เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย ก. ประเทศไทยมีสิ่งมชี ีวิตมากกวา่ 5 ลา้ นสปชี ีส์ ค. ประเทศไทยมีถิน่ ท่ีอยู่อาศัยหรอื ระบบนิเวศที่หลากหลาย ข. ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพทอี่ ุดมสมบูรณแ์ ห่งหนง่ึ ของโลก ง. สภาพภมู ิอากาศที่เหมาะสมตอ่ การอยรู่ อด การเจริญเติบโตและการแพรพ่ ันธ์ของ สิง่ มีชีวติ หลายชนิด 10. สถานการณเ์ กี่ยวกับความหลากหลายทางชวี ภิ าพของประเทศไทยในปจั จุบันเป็นอยา่ งไร ก. การศึกษาจะเปน็ เฉพาะสิ่งมีชีวิตบางชนิดทเี่ สยี่ งตอ่ การสญู พนั ธุ์ ข. ทรัพยากรธรรมชาตมิ ีปริมาณลดนอ้ ยลงเร่ือยๆ ส่งผลให้ความหลากหลายทางชีวภาพ มีการลดจานวนลงอยา่ งรวดเร็ว ค. สถานการณ์ความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศไทยขณะน้ี นา่ เป็นห่วงอยา่ งยิง่ เพราะยังคงมีการเติบโตของจานวนประชากร ทาให้ความต้องการมีมากขนึ้ ง. การศึกษาทางดา้ นความหลากหลายยังมีอยนู่ ้อยหรืออยู่ในวงจากัด เฉพาะนักวิชาการ เทา่ นน้ั โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 6
ชุดที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค บัตรเนื้อหา ชุดที่ 2 การเปล่ียนแปลงทางชวี ภาค ชีวภาค (biosphere) 4.1 ระบบชีวนิเวศ ระบบนิเวศบนโลกมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศของแต่ ละท้องถิ่นซ่ึงมีผลต่อส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ๆ ระบบนิเวศของส่ิงมีชีวิตในแต่ละพื้นท่ี เรยี กวา่ ชีวนิเวศ หรือไบโอม (biomes) รูปที่ 4.1 cแผนท่แี สดงเขตชีวนเิ วศของโลก ท่มี า : หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมศิ าสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หน้า 60) โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 7
ชดุ ท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค จากแผนท่ีแสดงเขตชีวนิเวศแบ่งเป็น 9 กลมุ่ ใหญ่ ๆ ซ่ึงความแตกต่างของสภาพอากาศ และลักษณะพื้นท่ีในแต่ละภูมิภาคของโลก ทาให้เกิดระบบนิเวศหรือถิ่นที่อยู่อาศัยของส่ิงมีชีวิตท่ี แตกต่างกัน สิ่งมีชีวิตแต่ละพื้นท่ีได้ผ่านการคัดสรรตามธรรมชาติในกระบวนการวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต เช่น เขตร้อนชื้นแถบศูนย์สูตรหรือเขตร้อนซ่ึงเป็นเขตท่ีมีความสาคัญอย่างยิ่งในเรื่องความ หลากหลายทางชีวภาค เช่น ป่าแอมะซอน ประเทศบราซิล เป็นพื้นที่ท่ีมีความหลากหลายของพันธ์ุ พืชและสตั ว์สงู มาก ระบบนเิ วศของแตล่ ะพ้ืนทีม่ ีลกั ษณะสาคญั ดังนี้ 1) ป่าฝนเขตร้อน หรือป่าดิบชื้นเป็นป่าไม่ผลัดใบ เขียวชอุ่มตลอดปี ปริมาณฝนและ ความช้ืนสูง อุณหภูมิเฉล่ีย 20-25 องศาเซลเซียส มีฝนตกชุกเฉลี่ย 2,400 มม./ปี พบมากในเขตร้อน ใกล้เส้นศูนย์สูตร เช่น ป่าในเกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และภาคใต้ของประเทศ ไทย ป่าเซลวาส (selvas) บริเวณลุ่มแม่น้าแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ และบริเวณลุ่มแม่น้าคองโก ในทวีปแอฟริกาป่ามีความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตสูง ท้ังพันธ์ุพืชป่าฝนเขตร้อนเป็นพื้นที่ท่ีมีความ อุดมสมบูรณแ์ ละมีความสัตว์ปา่ นก และแมลง รปู ที่ 4.2 ปา่ ฝนเขตรอ้ น ทีม่ า : หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภมู ศิ าสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หน้า 61) 2) ป่าไม้ผลัดใบ บริเวณป่าไม้ผลัดใบเขตร้อนจะผลัดใบในฤดูแล้งและผลิใบใหม่ในฤดู ฝน ส่วนบริเวณเขตอบอุ่นจะผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วงและผลิใบใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ มีปริมาณฝนเฉล่ีย 760 - 1,500 มม./ปี อณุ หภมู เิ ฉล่ยี 15 - 30 องศาเซลเซยี ส ในเขตร้อนพบปา่ เบญจพรรณหรอื ป่าเต็ง รงั ซ่ึงเปน็ ป่าโปร่งท่ีมนี ไม้ขึ้นกระจัดกระจายหลายชนิด ในเขตอบอุ่นพบมากในทวปี ยุโรปออสเตรเลีย และประเทศญป่ี ุ่น พนั ธุ์ไม้ท่ีพบ เช่น โอก๊ เชสตน์ ตั สตั ว์ทพ่ี บ เชน่ สนุ ขั จิง้ จอก กวาง โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 8
ชดุ ท่ี 4 การเปล่ยี นแปลงทางชีวภาค 3) ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น เป็นบริเวณที่มีทุ่งหญ้าปกคลุมท่ัวไปในเขตละติจูด 10 – 30 องศาเหนือและใต้ ฝนตกเฉลี่ย 250 - 760 มม./ปี ฤดูร้อนอากาศร้อนมาก พบต้นไม้น้อยชนิดส่วน ใหญ่เป็นพืชตระกูลหญ้า สูงต้ังแต่ 0 - 200 ซม. ในทวีปอเมริกาเหนือ เรียกว่า ทุ่งหญ้าแพรรี ทวีป อเมริกาใต้ เรียกว่า ทุ่งหญ้าปัมปัส และทวีปเอเชียบริเวณแมนจูเรีย ตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศ รสั เซีย เรยี กว่า ท่งุ หญ้าสเตปป์ มธี ญั พืชตา่ ง ๆ และมที ุ่งหญา้ ทสี่ มบูรณ์ 4) ทุ่งหญ้าเขตร้อน มฝี นตกเฉลย่ี 700 - 1,500 มม./ปี อุณหภมู เิ ฉลยี่ 20 – 30 องศา เซลเซียส มีฤดูแล้งยาวนาน พบเป็นบริเวณกว้างในทวีปแอฟริกา อเมริกาใต้ และทางเหนือของ ประเทศออสเตรเลีย มีต้นหญ้ายาวและมีไม้ต้น ไม้พุ่ม กระจัดกระจายหรือเป็นกลุ่ม ๆ บางแห่งมี ลักษณะเป็นทุ่งหญ้าปนป่าโปร่ง ในทวีปแอฟริกา เรียกว่า ทุ่งหญ้าสะวันนา สัตว์ที่พบ เช่น สิงโต ม้าลาย ควายปา่ รูปท่ี 4.3 ทุ่งหญา้ เขตร้อนหรือทุ่งหญา้ สะวนั นาในทวีปแอฟริกา ที่มา : หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐานสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ศิ าสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 – 6 บริษทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด (หน้า 61) 5) เมดิเตอร์เรเนียน มีไม้พุ่มเต้ียท่ีทนอากาศแห้งแล้งในฤดูร้อนได้ ในฤดูหนาวมีอากาศ อบอุ่น และไดร้ ับความชื้นจากทะเล ปรมิ าณฝนเฉล่ีย 650 มม./ปี พบโดยรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก เรียกว่า ป่า ชาปาร์รัล พบไม้พุ่มเปลือกหนา ใบเล็ก ผิวมัน เขียวชอุ่มตลอดปี เช่น โอ๊ก มะกอก ซีดาร์ สัตว์ที่พบ เช่น แพะป่า แกะป่า อาศัยอยู่ในป่าใกล้เชิงเขา นอกจากน้ี ยังพบสัตว์เล้ือยคลานหลายชนิด เช่น งู เตา่ เพราะมแี หลง่ อาหารจาพวกแม่ลงมากในบริเวณน้ี โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 9
ชดุ ท่ี 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค รปู ที่ 4.4 ป่าแบบเมดิเตอรเ์ รเนียน พบไมพ้ ุ่ม เปลือกหนา ใบเล็ก ทม่ี า : https://www.google.com 6) เทือกเขาสูง มีพ้ืนท่ีสูงกว่า 3,000 เมตร อุณหภูมิลดลงตามความสูงของพื้นที่ มีอากาศ เบาบางแต่มีลมแรง บางครั้งมีหิมะปกคลุม เทือกเขาท่ีสาคัญของโลก เช่น เทือกเขาหิมาลัยในทวีป เอเชีย เทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป เทือกเขาร็อกในทวีปอเมริกาเหนือ เทือกเขาแอนดีสในทวีป อเมริกาใต้ สัตว์ที่พบ ได้แก่ สัตว์เท้าก่ีบสายพันธ์ุต่าง ๆ เช่น แพะภูเขา จามรี พบพืชระดับล่างเป็น สว่ นใหญ่ เพราะทนกับสภาพอากาศหนาวเย็นได้ และพบไม้พมุ่ ขนาดเลก็ 7) ทะเลทราย มีปริมาณฝนน้อยมาก เฉล่ียน้อยกว่า 250 มม./ปี กลางวันมีอุณหภูมิเฉลี่ย สูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ส่วนกลางคืนมีอากาศหนาวเย็น ทะเลทรายท่ีสาคัญ เช่น ทะเล ทรายสะ ฮาราในทปแอฟริกา ทะเลทรายอาหรับในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลทรายโกบีบริเวณประเทศจีน และมองโกเลีย พืชพรรณท่ีพบ เช่น พืชใบเล็ก รากแตกกระจาย ขึ้นห่าง ๆ กัน สัตว์ที่พบต้องทน ความแห้งแล้งได้ เช่น อูฐ จง้ิ จอกทะเลทราย บางบริเวณเป็นพนื้ ที่โอเอซิส ท่ีมีน้าใต้ดินอยู่ต้นื จึงมีน้า เพียงพอต่อการปลกู พืชบางชนดิ เช่น ปาลม์ อินทผลมั 8) ปา่ สน หรือไทกา เปน็ ปา่ ในแถบซกี โลกเหนือที่มสี ภาพอากาศหนาวเย็น อณุ หภมู ิเย็นจัด ถึง -40 องศาเซลเซียส ปริมาณฝนเฉล่ีย 1,000 มม./ปี มีฤดูหนาวยาวนานและอากาศอบอุ่นใน ช่วงเวลาสั้น ๆ พบมากในทวีปเอเชียบริเวณที่ราบไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ทวีปยุโรปตอนเหนือทวีป อเมริกาเหนือในประเทศแคนาดา พบพืชตระกูลสน สตั ว์ท่พี บมีขนหรือช้นั ไขมันหนา เพ่ืออยูใ่ นสภาพ อากาศเยน็ เช่น กวางมสู กวางเรนเดียร์ โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 10
ชุดท่ี 4 การเปล่ยี นแปลงทางชีวภาค 9) ทุนดรา เป็นทุ่งหิมะอยู่เหนือเส้นละติจูดที่ 60 องศาเหนือ ไปจนถึงบริเวณขั้วโลกมี อากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉล่ีย -5 ถึง -40 องศาเซลเซียส ปริมาณฝนเฉล่ีย 250 มม./ปี พื้นท่ีส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้าแข็ง ช่วงฤดูร้อนฝนตกน้อย ในฤดูหนาวมีช่วงเวลากลางคืนท่ียาวนาน พบสง่ิ มชี ีวติ ไม่ก่ีชนดิ เชน่ แมวนา้ ลายพณิ หมีข้ัวโลก หมาปา่ หมิ ะ นกฮูกหิมะ กวางเรนเดียร์ กวางคา รบิ ู พชื ท่ีพบ เชน่ ไลเคน มอสส์ หญ้าเซดจ์ ชวี ภาค (Biophere) โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวท่ีห้อหุ้มด้วยสิ่งมีชีวิต พื้นดินปกคลุมด้วยพืชพรรณ พื้นผิว มหาสมุทรปกคลุมด้วยแพลงตอน การท่ีโลกอุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตเนื่องจากโลกได้รับพลังงานจากดวง อาทิตย์ในระดับที่เหมาะสม ภาวะเรือนกระจกทาให้โลกอบอุ่นจนสามารถมีน้าได้ทั้งสามสถานะ น้า และบรรยากาศทาให้เกิดการถ่ายเทพลังงาน ธรณีแปรสัณฐานทาให้พื้นดินอุดมด้วยธาตุอาหาร สงิ่ มชี วี ิตก่อตวั ขึน้ จากสิ่งแวดล้อม และกจ็ ะมอี ิทธิพลในการปรับเปลีย่ นสง่ิ แวดล้อมดว้ ย นิยามสิ่งมีชีวิต โดยทั่วไปบนโลกนี้ เราสามารถจาแนกสิ่งมีชีวิตออกจากสิ่งไม่มีชีวิตได้โดยไม่ยาก อยา่ งไรก็ตามการจาแนกสง่ิ ท่มี ีขนาดเล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและมกี ารเปลี่ยนแปลง ชา้ ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่น้ัน ไม่ใช่เร่ืองง่าย อาจต้องใช้เคร่ืองมือในการทดสอบหรือเฝ้าติดตามดูการ เปลี่ยนแปลงเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นในการพิสจู น์สิ่งมีชวี ิตท่ีอาศัยอยู่บนดาวดวงอื่นจึงเป็นเรื่องท่ี ยากมาก เพราะปัจจัยและสภาพแวดล้อมไม่เหมือนบนโลกและอาจอยู่นอกเหนือจินตนาการของ มนุษย์ นักวิทยาศาสตร์จึงกาหนดสมบัติของสิ่งมีชีวิตอย่างที่เรารู้จักกันบนโลก ( Earth's life forms) ดงั น้ี 1. มอี งคป์ ระกอบเปน็ คาร์บอน 2. มีเนือ้ เยอ่ื หรอื ผนัง ไวส้ รา้ งสภาพแวดล้อมภายใน 3. ต้องใชพ้ ลงั งานเพ่อื ทีจ่ ะรกั ษาสถานภาพของระบบภายใน 4. ต้องการน้าในสถานะของเหลว 5. มคี วามสามารถในการสกัดพลังงานจากสง่ิ แวดล้อม 6. กระบวนการเผาผลาญภายใน (Metabolic) นามาซ่ึงการแลกเปล่ียนสสารท้ังใน สถานะแกส๊ ของเหลว และของแขง็ (เชน่ ตอ้ งการนาเขา้ วตั ถุดบิ และปลดปล่อยของเสยี ) 7. มีการเจริญเติบโต การแบ่งเซลล์ การสืบพันธ์ (Reproduction) หรือการจาลอง แบบตวั เอง (Replication) 8. มกี ารวิวฒั นาการปรบั ตวั เข้ากบั ส่ิงแวดลอ้ ม โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 11
ชุดที่ 4 การเปลยี่ นแปลงทางชวี ภาค ในสมบัติแปดข้อน้ี ส่ิงท่ีโดดเด่นซ่ึงช่วยให้เราสามารถจาแนกส่ิงมีชีวิตออกจากสิ่งท่ีไม่มีชีวิต ได้อย่างชัดเจนท่ีสุดก็คือ การสืบพันธ์ุและความเบี่ยงเบนทางพันธุกรรม หรืออาจกล่าวอีกอย่างหน่ึง ว่า ส่ิงมีชีวิตมีความสามารถในการปรับตัวเองโดยกระบวนการคัดเลือกของธรรมชาติ (Natural selection) ตามที่ ชาร์ล ดาวิน (Charles Dawin) นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษในคริสต์ศตวรรษ ท่ี 19 ได้บนั ทกึ ไว้ ได้นาสมบัติแปดประการขา้ งต้นมาสรุปว่า สิ่งมีชวี ติ ประกอบด้วยปจั จัย 3 ประการ คือ 1) สสาร (Matter) สิ่งมีชีวิตต้องการวัตถุดิบจากภายนอกมาใช้สร้างร่างกาย และสรา้ งพลงั งานเพื่อขบั เคล่อื นรา่ งกาย และขับถา่ ยของเสียกลบั คนื สูส่ ิง่ แวดลอ้ ม 2) พลังงาน (Energy) ส่ิงมีชีวิตเปล่ียนวัตถุดิบ (อาหาร) ให้เป็นพลังงานหล่อ เลี้ยงระบบร่างกาย และถ่ายเทพลังงานกลับคืนสู่ส่ิงแวดล้อม ชีวิตไม่สามารถดารงอยู่ได้โดยไร้ พลังงาน 3) ข้อมูลข่าวสาร (Information) เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชีวิตจาเป็นต้องมี ข้อมูลข่าวสาร หากปราศจากข้อมูลข่าวสารแล้วเซลล์จะทางานไม่ได้ ข่าวสารท่ีว่าน้ีซ่อนอยู่ในรหัส พันธุกรรมในรูปขององค์ประกอบทางเคมี ซ่ึงจะระบุหน้าท่ีของแต่ละเซลล์ ให้ทางานร่วมกันไป ตามแต่ละฟังก์ชั่น แม้ว่าสิ่งมีชีวิตจะตายจากไปแล้ว แต่ข่าวสารยังจะต้องดารงอยู่และถ่ายทอดไป ตามพันธุกรรม หากปราศจากข่าวสารแลว้ ชวี ติ ไม่สามารถดารงอยู่ไดเ้ ลย 4.2 ความหลากหลายทางชวี ภาพ (biological diversity) ความหลากหลายทางชีวภาค คือ การมีชนิดพันธ์ุของส่ิงมีชีวิตหลากหลายชนิดมาอยู่ ร่วมกัน ณ สถานที่หน่ึง หรือระบบนิเวศใดนิเวศหน่ึง ซ่ึงมีมากมายและแตกต่างกันทั่วโลก ความ หลากหลายทางชีวภาพเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยการเปล่ียนแปลงและวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิตนี้เป็นกระบวนการท่ีเกิดข้ึนอย่างช้า ๆ อาศัย ระยะเวลาท่ียาวนานจงึ เห็นผลของการเปลีย่ นแปลงทีช่ ัดเจนได้ 1) ความหลากหลายในชนิดของส่ิงมีชีวิต ชนิดของส่ิงมีชีวิต (species) คือ กลุ่มของ ส่ิงมีชีวิตท่ีมีลักษณะของโครโมโซมใกล้เคยี งกัน สามารถผสมพันธ์ุกันแล้วให้กาเนดิ ลูกได้ แตส่ ่ิงมชี ีวิต ต่างสปีชีส์กันไม่สามารถผสมพันธุ์และให้กาเนิดลูกได้ หรือถ้าให้กาเนิดลูกได้ก็จะเป็นหมัน ระบบ นิเวศในธรรมชาติแต่ละแห่งประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มากมายอาศัยอยู่ร่วมกัน และมี ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยสามารถพิจารณาความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศได้ 2 ลักษณะ คือ 1.1) จานวนชนิดของส่ิงมีชีวิตในพืน้ ที่ หมายถึง จานวนชนิดของส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่ต่อ หน่วยพืน้ ท่ี สง่ิ มีชีวติ แตล่ ะชนดิ อาจมีจานวนทีแ่ ตกตา่ งกันได้ โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 12
ชุดท่ี 4 การเปลย่ี นแปลงทางชวี ภาค 1.2) สัดส่วนของสิ่งมีชีวิตในพ้ืนที่ หมายถึง สัดส่วนของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดที่พบ และเป็นตัวแทนในระบบนิเวศ เป็นดัชนีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศบ่งบอกถึง คุณภาพของสภาพแวดล้อมท่ีมีความแตกต่างกันไปตามกลไกของการเกิดระบบนิเวศ ในบางระบบ นเิ วศมีสัดส่วนของส่ิงมีชีวิตทีไ่ ม่สมดุลและมีความแตกต่างกันมาก เช่น ในป่ามีสัตวน์ ักล่าจานวนมาก สง่ ผลกระทบตอ่ สิ่งมีชีวิตที่ถูกล่าและเมื่อส่ิงมีชีวิตท่ีถกู ล่ามีจานวนนอ้ ยลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อจานวน ส่ิงมีชีวติ ท่ีเปน็ ผลู้ ่า ผลท่เี กิดขน้ึ ในช่วงเวลาทม่ี ีความไม่สมดุลของสิ่งมชี ีวิตนี้ เรียกว่า สัดส่วนไม่สมดุล ของส่ิงมีชวี ิต ระบบนิเวศท่ีมีสดั ส่วนไม่สมดุลมีความพร้อมหรอื ความไวที่จะเกิดการเปล่ียนแปลงเพื่อ เข้าสู่ระบบนิเวศสมดุลหรอื ระบบนิเวศท่มี คี วามย่งั ยนื ต่อไปได้ การเพมิ่ ขึ้นหรอื ลดลงของจานวนและชนดิ ของส่ิงมชี ีวิตข้ึนอยู่กบั การแก่งแย่งแขง่ ขันกัน ในการใช้ทรัพยากรชนิดเดียวกัน เช่น อาหาร ท่ีอยู่อาศัย หรือคู่สืบพันธุ์ ซ่ึงผลของการแก่งแย่งกัน อาจทาใหส้ ิ่งมชี วี ติ ทอ่ี อ่ นแอกว่าตอ้ งตายหรอื ตอ้ งอพยพย้ายถ่ินออกไปจากระบบนเิ วศนน้ั 2) ความหลากหลายทางชวี นิเวศวทิ ยา โลกประกอบด้วยระบบนิเวศแบบต่าง ๆ มากมาย กล่มุ ส่งิ มีชีวิตและสภาพแวดล้อมมีความสมั พนั ธ์และมีอิทธิพลต่อกัน ทาให้ ส่งิ มีชีวิตต้องมีการปรบั ตัวท้ังทางกายภาพและทางชีวภาพ เพื่อให้สามารถดารงชีวิตอยูใ่ นระบบนิเวศ น้ันได้อยา่ งเหมาะสม ลักษณะความหลากหลายทางชีวนเิ วศวิทยาสามารถจาแนกได้ ดงั น้ี 2.1) ความหลากหลายของถ่ินท่ีอยู่ คือ ความแตกต่างของถิ่นกาเนิดที่เกิดข้ึนเอง ตามธรรมชาติ เช่น ในพ้ืนทีภ่ าคใต้ของไทย มีทง้ั ทิวเขา ที่ราบชายฝ่ังทะเล เกาะแก่งตา่ ง ๆ ทาให้เกิด ถ่ินกาเนิดตามธรรมชาติหลายรูปแบบ เช่น ลาธาร ป่าชายเลน แนวปะการัง ถ้า ซ่ึงในถ่ินกาเนิด ลักษณะต่าง ๆ มีสิ่งมีชีวิตท่ีแตกต่างกันไป เช่น ปลา สัตว์สะเทินน้าสะเทินบกในลาธาร ปลา ลิง ใน ปา่ ชายเลน ก้งุ หอย ปู ปลา ตามแนวปะการัง หรือคา้ งคาวในถ้าลึก พื้นท่ีใดมีความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้าและอาหารมาก ย่อมเป็นพ้ืนท่ีที่มีความ หลากหลายของส่งิ มีชีวติ มากกวา่ พืน้ ทท่ี ่ีไม่มแี หล่งน้าและอาหาร เช่น ในป่าดิบช้ืน เป็นป่าในเขตรอ้ น มีพืชขึ้นหลายชนิดและมีความชุ่มชื้นสูง พบความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากกว่าป่าสน ซ่ึงเป็นป่า ในเขตหนาวทม่ี คี วามชนื้ ตา่ และมีพชื หลัก คือ ตน้ สน เทา่ น้ัน ถ่ินกาเนิดลักษณะต่าง ๆ มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่แตกต่างกันไปและจะปรับตัวให้เข้ากับ ลกั ษณะทางกายภาพของพ้ืนท่ี เพอื่ ให้สามารถดารงชวี ติ อย่ไู ด้ เช่น ปลาตีน อาศัยอยู่บริเวณป่าชายเลน ซ่ึงเป็นบริเวณที่มีน้าข้ึนน้าลง ปลาตีนจึงมี การปรับตัวให้อาศัยอยู่ได้ท่ีเวลาน้าขึ้นและน้าลง โดยมีผิวหนังและเหงือกเพื่อเก็บความชุ่มชื้น และมีกล้ามเนื้อบริเวณครีบที่แข็งแรงเพ่ือใช้ในการเคลื่อนท่ีบนพ้ืนโคลนคล้ายลักษณะการเดิน เพอ่ื หากนิ ในช่วงเวลาน้าลด โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 13
ชดุ ท่ี 4 การเปลยี่ นแปลงทางชีวภาค อุฐ อาศัยอยู่ตามภูมิประเทศแบบทะเลทราย จึงมีขนตายาวและเปลือกตาปิด สนิทเม่ือหลับตาเพ่ือป้องกันทราย โหนกของอูฐเป็นที่เก็บไขมันเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานและระบาย ความร้อน อูฐสามารถทนทานต่อการสูญเสียน้าในร่างกายได้ดี เนื่องจากมีไตท่ียาวกว่าสัตว์ชนิดอื่น นอกจากนี้ ปากอรู ยู ังมคี วามหนา จงึ สามารถกนิ ตันกระบองเพชรได้ รูปที่ 4.5 ปลาตีนเป็นปลาขนาดเล็ก อาศยั อยตู่ ามดนิ โดลนแถบป่าชายเลน ท่ีมา : หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภมู ศิ าสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั (หนา้ 64) รูปที่ 4.6 อฐู เป็นสตั ว์ที่อาศัยอย่ใู นพ้นื ทแี่ หง้ แลง้ แบบทะเลทรายสามารถอดอาหาร และน้าไดน้ านถงึ 10 - 20 วัน ทมี่ า : หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภมู ศิ าสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 บริษทั อักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด (หนา้ 64) โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 14
ชุดที่ 4 การเปลยี่ นแปลงทางชีวภาค แพะภูเขา อาศัยอยู่ตามเทือกเขาสูง มีกับเท้าที่ใหญ่และกล้ามเน้ือท่ีแข็งแรงทาให้ สามารถยึดเกาะกบั หน้าผาท่สี งู และชนั มากได้เปน็ อยา่ งดี รูปท่ี 4.7 แพะภูเขา ท่มี า : หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 – 6 บริษทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั (หนา้ 65) นอกจากนี้ ภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะตัวสูง เช่น หมู่เกาะ มีขนาดเล็กกว่าทาให้มีความ หลากหลายทางชีวภาพน้อยกว่าแผ่นดินใหญ่ แต่มีแนวโน้มท่ีจะพบสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นมากกว่า เช่น มังกรโคโมโด ในประเทศอินโดนเี ซียอิกวั นาทะเล บนหมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์ นกกีวี ในประเทศนิวซแี ลนด์ ตนุ่ ปากเป็ด ในทวปี ออสเตรเลีย 2.2) ความหลากหลายของการแทนท่ี คือ การเปลี่ยนแปลงทางความหลากหลายท่ีเกิดจาก ระบบนิเวศเดิมถกู ทาลายลงดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เชน่ การเกดิ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ไฟป่า นา้ ท่วม แผ่นดินไหว หรอื การบุกรุกโดยมนุษย์เพ่ือแผว้ ถางปา่ ทาเกษตรกรรม เมื่อระบบนิเวศหน่ึงถูกทาลาย จะทาให้เกิดเป็นพ้ืนท่ีว่างและหากปล่อยพ้ืนท่ีว่างน้ีท้ิงไว้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแทนท่ีโดยส่ิงมีชีวิต ชนิดต่าง ๆ ทาให้เกิดเป็นระบบนิเวศใหม่ ซ่ึงส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ก็มกี ารเปลี่ยนแปลงไป จนกลายเป็นระบบนิเวศท่ีสมดุลเช่นเดิมได้ หรือเมื่อมีการเปล่ียนแปลงทางกายภาพบริเวณชายฝ่ัง เช่น เกิดสึนามิซัดชายฝั่งทะเล พ้ืนที่ป่าชายเลนเสียหายบางส่วน ทาให้ความหลากหลายของถิ่น กาเนดิ เดิมถูกทาลายลง โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 15
ชดุ ที่ 4 การเปลีย่ นแปลงทางชีวภาค รูปท่ี 4.8 ทม่ี า : หนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมิศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 – 6 บริษัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั (หน้า 65) ความหลากหลายทางชวี ภาพ หลักฐานของส่ิงมชี ีวติ ท่ีเกา่ แก่ที่สุดเป็นฟอสซิลของจลุ นิ ทรยี โ์ บราณ อายุ 3.5 พันล้านปี ในทวีปออสเตรเลีย มรี ูปร่างคลา้ ยแบคทีเรียสีฟ้าเขียวในปัจจบุ ันซ่ึงมีความสามารถในการสงั เคราะห์ ด้วยแสง เปล่ียนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอาหารและคายแก๊สออกซิเจนออกมา จุลินทรีย์ โบราณน้ีเป็นส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียวคือ เซลล์โพรคาริโอตเป็นเซลล์ไม่มีนิวเคลียสและอวัยวะพิเศษ อ่นื ใด ตัวอยา่ งของเซลลโ์ พรคารโิ อตไดแ้ ก่ แบคทเี รยี ชนดิ ต่างๆ หน่ึงพันล้านปีต่อมา เซลล์โพรคาริโอตบางชนิดได้วิวัฒนาการให้มีความม่ันคงในการ ดารงชีวิต โดยเสริมสร้างสิ่งป้องกันตัวและระบบจัดหาพลังงานที่ดีกว่าจนกลายเป็นเซลล์ยูคาริโอต ซงึ่ มีขนาดใหญ่และมีความสลับซับซ้อนมากกว่า ในเวลาต่อมาเซลลย์ ูคาริโอตได้กลายเป็นบรรพบุรุษ ของ พืช เห็ดรา และสัตว์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ที่อุบัติข้ึนประมาณหนึ่งพันห้าร้อยล้านปีที่ แล้ว ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ส่ิงมีชีวิตท้ังหมดบนโลกน้ีมีจานวนประมาณ 2 - 30 ล้านสปี ชสี ์ โดยทบี่ นั ทกึ อยา่ งเป็นทางการแล้ว 1.4 ลา้ นสปชี ีส์ ออกเป็นกลมุ่ ใหญ่ๆ 5 อาณาจักรดังนี้ อาณาจักรโมเนอรา (Kingdom Monera) เป็นอาณาจักรของโพรคาริโอตเซลล์เด่ียวไม่มี นิวเคลียส ได้แก่ แบคทีเรียชนิดต่างๆ มีสมาชิกประมาณ 6,000 สปีชีส์ ซึ่งแบ่งตาม กระบวนการชีวภาพเคมีได้ 3 จาพวกคือ โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 16
ชดุ ที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค ออโตทรอฟ (Autotroph): พวกที่สร้างอาหารได้ด้วยตนเอง โดยการเปล่ียนสารอนิ นทรยี ์เป็นสารอินทรยี ์ เช่น การสงั เคราะหด์ ้วยแสง เฮเทโรทรอฟ (Heterotroph): พวกท่ีบริโภคสารอนิ ทรียท์ ส่ี ร้างข้นึ จากส่งิ มีชีวิตอนื่ มิโซทรอฟ (Mixotroph): พวกที่บรโิ ภคท้ังสารอนิ ทรยี แ์ ละสารอนนิ ทรยี ์ อาณาจักรโพรติสตา (Kingdom Protista) เป็นอาณาจักรของยูคาริโอตเซลเด่ียว มี สมาชิกประมาณ 60,000 สปีชีส์ เซลล์ถูกพัฒนาให้มีนิวเคลียสห่อหุ้มโครโมโซม และสร้าง อวัยวะซึ่งทาหน้าท่ีเฉพาะทางได้แก่ คลอโรพลาสต์มีหน้าท่ีสังเคราะห์อาหารด้วยแสง โดยการเปล่ียนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอาหารและคายแก๊สออกซิเจนออกมา ไมโทคอนเดรียนมีหน้าท่ีนาแก๊สออกซิเจนมาเผาผลาญอาหารให้เกิดพลังงานและคายแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ซึ่งวิวัฒนาการในยุคต่อมาได้แยกเป็น พืช เห็ดรา และ สัตว์ สิ่งมชี ีวติ ในอาณาจักรโพรตสิ ตาได้แก่ สาหรา่ ย โปรตวั ซวั แพลงตอน อาณาจักรพชื (Kingdom Plantae) มสี มาชิกประมาณ 250,000 สปีชสี ์ ซง่ึ มีเปน็ ส่ิงมชี ีวติ จาพวกออโตทรอฟ ซึ่งใช้คลอโรฟิลล์สีเขียวเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอาหาร และคายแก๊สออกซิเจน พืชมีบทบาทสาคญั ต่อวัฎจักรน้าและเปล่ียนแปลงองค์ประกอบทาง เคมีของบรรยากาศ นอกจากนั้นยังมีบทบาทท่ีสาคัญในการเปล่ียนแปลงองค์ประกอบทาง เคมีของดินด้วยการดูดซับธาตุอาหาร อันได้แก่ คาร์บอน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ กามะถนั พชื จึงเปน็ แหล่งอาหารทส่ี าคัญของสิ่งมีชีวิตบนโลก อาณาจักรเห็ดรา (Kingdom Fungi) มีสมาชิกประมาณ 70,000 สปีชีส์ มีลักษณะคล้าย พชื แต่เปน็ ส่ิงมีชีวิตจาพวกเฮโรทรอฟซ่ึงบริโภคสารอินทรีย์ท่ีสิง่ มีชีวิตอื่นสร้างไว้ เราจะเห็น ได้ว่า เหด็ มักขึน้ อยู่ตามซากตน้ ไม้ ราและยสี ต์มักข้ึนอยูต่ ามอาหาร เห็ดราบางชนิดสามารถ ดูดกลืนสารอินทรีย์จากพื้นดินได้โดยตรง ไลเคนสามารถอาศัยอยู่บนพ้ืนหินแข็ง พวกมันมี อิทธิพลในการเปล่ียนแปลงพื้นผิวของป่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสามารถในการ ดูดกลืนน้าและการทาปฏกิ ริ ยิ าทางเคมี อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia) มีสมาชิกประมาณ 1,000,000 สปีชีส์ จัดเป็น ส่ิงมีชีวิตจาพวกออโตทรอฟ ซึ่งมีการบริโภคเป็นระบบห่วงลูกโซ่อาหารเป็นช้ันๆ เช่น กวาง กินหญ้า เสือกินกวาง นกแร้งกินเสือ เป็นต้น สัตว์ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ชีวภาพ เป็นต้นว่า กระดูกและกระดองสร้างจากแคลเซียมคาร์บอเนต การหายใจของสัตว์ คว บคุมปริมาณแก๊สออกซิเจนในบรรยากาศไม่ให้มากเกินไป สายพันธุ์ของ มนุษย์ (Homo) เพิ่งแยกออกมาจากสายพันธ์ุของลิงเม่ือ 3 ล้านปีก่อน สปีชีส์โฮโมเซ เปียนส์ (Homo sapiens) ของมนุษย์ในปัจจุบัน เพิ่งอุบัติขึ้นเมื่อประมาณ 2 แสนปีก่อนนี้ เอง โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 17
ชดุ ที่ 4 การเปล่ยี นแปลงทางชวี ภาค รูปท่ี 4.9 วิวัฒนาการของอาณาจกั รท้ังหา้ ทีม่ า : https://www.onep.go.th การจัดจาแนกกลุ่มของสิ่งมีชีวติ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตในโลกนี้มีมากมายหลายล้านสปีชสี ์ นักวิทยาศาสตร์จึงใช้วิธีการจัดกลุ่มเป็น ระบบซับเซ็ทเรียงลาดับเป็นระดับ 7 ชั้น จากกลุ่มใหญ่ไปยังกลุ่มย่อย จากรายละเอียดน้อยไป รายละเอียดมากเรียกว่า แทกซาโนมี (Taxanomy) ดังท่ีแสดงในภาพท่ี 2 โดยมี อาณาจักร (Kingdom) เปน็ ระดบั ท่ีใหญ่ที่สุด และ สปชี ีส์ (Species) เป็นระดับท่ีเล็กท่ีสดุ โดยที่สมาชิกของสปี ชีส์หน่ึงจะผสมพันธ์ุได้เฉพาะกับสมาชิกอื่นๆ ท่ีอยู่ในสปีชีส์เดียวกันเท่านั้น การผสมพันธุ์ข้ามสปีชีส์ ทาไม่ได้เนื่องจากโครโมโซมไม่เหมอื นกนั อยา่ งไรก็ตามอาจมีการผสมพันธ์ขุ า้ มสปีชีส์ในบางกรณี เช่น ล่อ เกิดจากมา้ ผสมพนั ธ์ุกบั ลา แตท่ ายาททเ่ี กิดมากจ็ ะไมส่ ามารถสบื พันธุไ์ ด้ต่อไป โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 18
ชุดที่ 4 การเปลย่ี นแปลงทางชวี ภาค รปู ท่ี 4.10 การจดั จาแนกกลมุ่ ของสิ่งมีชีวิต ท่ีมา : https://www.onep.go.th ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) คือ คาจากัดความของการมีส่ิงมีชีวิตนานา ชนิดบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดารงอยู่ของพืช สัตว์ แบคทีเรีย เช้ือรา หรือมนุษย์ ต่างล้วนอาศัย อยู่ในถิ่นฐานเฉพาะของตนตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ดาเนินชีวิตอยู่ภายในระบบนิเวศที่มีสภาพภูมิ ประเทศ ภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมท่ีหลากหลาย จากการสะสม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ตลอด จนถึงการวิวัฒนาการ เพื่อความอยู่รอดตลอดระยะเวลาหลายล้านปีที่ผ่านมา ทาให้การคงอยู่ของ ความแตกต่างในส่ิงมีชีวิตแต่ละสายพันธ์ุและความหลากหลายภายในชนิดพันธุ์ของส่ิงมีชีวติ เหล่าน้ัน กลายเป็นองค์ประกอบและพืน้ ฐานสาคัญของธรรมชาตแิ ละระบบนิเวศของโลก รูปท่ี 4.11 ทม่ี า : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 19
ชดุ ท่ี 4 การเปล่ยี นแปลงทางชวี ภาค ความหลากหลายทางชวี ภาพ สามารถจาแนกออกเปน็ 3 ระดับ คือ ความหลากหลายทางพันธุกรรม (Genetic Diversity) หมายถึง ความแปรผันทาง พนั ธุกรรมท่ีเกิดข้ึนภายในประชากรของส่ิงมีชีวิตชนิดเดียวกัน เป็นความแตกต่างของสารพันธุกรรม ภายในสิ่งมีชีวิตแต่ละชีวิตที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษผ่านทางหน่วยพันธุกรรมหรือ “ยีน” (Gene) ซ่ึงส่งผลให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะเด่น หรือความแตกต่างข้ึนภายในประชากร ของส่ิงมีชีวิตชนิดนั้น ๆ เช่น การมีสีสันและลวดลายท่ีหลากหลายของหอยทาก “โกลฟว์ สเนล” (Grove Snail) รวมถึงการมีสีของเส้นผม สีของผิวหนัง และสีของนัยน์ตาแตกต่างกันออกไปใน ประชากรของมนษุ ย์ รปู ท่ี 4.12 ทีม่ า : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ แม้จะเป็นหอยทากชนิดเดียวกัน แต่มีสีสันท่ีแตกต่างกัน เน่ืองจากมีพันธุกรรมที่เป็น เอกลักษณเ์ ฉพาะตัว ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ (Species Diversity) หมายถึง ความแปรผันทางชนิด พันธุ์ (Species) ท่ีเกิดข้ึนในระดับกลุ่มของสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความหลากหลายทาง พันธุกรรมท่ีผ่านการสะสมและการวิวัฒนาการมาอยา่ งยาวนาน ซง่ึ ความหลากหลายทางชนดิ พันธ์ุถือ เป็นผลจากกระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (Natural Selection) ท่ีทาให้เกดิ ท้ังการสญู พันธุ์และ การก่อกาเนิดของส่ิงมีชีวิตสายพันธ์ุใหม่ เป็นการเปล่ียนแปลงเพ่ือความอยู่รอดท่ามกลาง สภาพแวดลอ้ มทีเ่ ปลย่ี นไปของโลก โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 20
ชดุ ท่ี 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค รปู ท่ี 4.12 ทม่ี า : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ ความหลากหลายทางระบบนิเวศ (Ecological Diversity) หมายถึง การดารงอยู่ของ ระบบนิเวศแต่ละประเภทบนโลก ไม่ว่าจะเป็นระบบนิเวศบนบก (Terrestrial Ecosystems) และระบบนิเวศในน้า (Aquatic Ecosystems) เช่น ป่าดงดิบ ทุ่งหญ้า ป่าชายเลน ทะเลสาบ หรือ ชายหาดและแนวปะการัง ตลอดจนระบบนิเวศเมือง (Urban Ecosystems) ท่ีมนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งความหลากหลายทางระบบนิเวศนั้น เป็นผลจากความแตกต่างทางสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นท่ีของโลก อีกทั้ง ยังนับเป็นตัวแปรสาคัญที่ทาให้เกิดเอกลักษณ์และ ลักษณะเด่นของสิ่งมีชวี ิตแต่ละชนิด ซ่งึ ภายในระบบนิเวศแต่ละประเภท ล้วนมีส่ิงมีชวี ิตท่ีแตกต่างกัน ออกไปอาศัยอยู่ โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 21
ชุดที่ 4 การเปลยี่ นแปลงทางชวี ภาค รปู ท่ี 4.13 ท่ีมา : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ รูปท่ี 4.14 ทีม่ า : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 22
ชดุ ท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค รูปที่ 4.15 ทีม่ า : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ โลก จึงประกอบข้ึนจากระบบนิเวศอันหลากหลายกระจายตัวอยู่ตามพ้ืนท่ีต่าง ๆ ทั่วโลก ความหลากหลายทางพันธุกรรม ความหลากหลายทางชนิดพันธ์ุและความหลากหลายทางระบบ นิเวศ จงึ เป็นองค์ประกอบสาคญั ของความหลากหลายทางชีวภาพท่ีก่อใหเ้ กิดสมดลุ ของโลก ความสาคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและสถานการณป์ จั จบุ ัน ความหลากหลายทางชีวภาพจึงเป็นปัจจัยสาคัญที่ทาให้ส่ิงมีชีวิตสามารถดารงอยู่ได้ภายใต้ ความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโลกในทุกยุคทุกสมัย ถึงแม้โลกจะเผชิญกับความแห้งแล้ง ความหนาวเย็น หรือโรคระบาด ความหลากหลายทางชีวภาพถือเป็นเคร่ืองการันตีความอยู่รอดของ ทุกชีวิต อีกทั้งยังเป็นรากฐานสาคัญของระบบนิเวศที่ให้กาเนิด “นิเวศบริการ” (Ecological Services) ซึง่ สรา้ งทรัพยากรและคณุ ประโยชนม์ ากมายตอ่ ทกุ ชีวิต แต่ในปัจจุบันนี้ ทุกๆ ปี มีสิ่งมีชีวิตสูญพันธ์ุราว 10,000 ชนิดทั่วโลก ซึ่งถือเป็นอัตราท่ี รวดเร็วเกิดกว่าการสูญพันธ์ุในยุคก่อนที่มนุษย์ถือกาเนิดขึ้นหลายร้อยเท่า แม้ว่าการสูญพันธ์ุจะเป็น หน่ึงในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ แต่การอัตราการสูญเสียที่เกิดข้ึน ณ ขณะนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ท่ีไม่ สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของ ประชากรและการพัฒนาของสังคมเมืองท่ีนาไปสู่การทาลายถ่ินฐานที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของ โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 23
ชดุ ที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ การรุกรานเพื่อแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึงปลดปล่อยของ เสยี และมลพษิ ซงึ่ นาไปสูก่ ารเปลยี่ นแปลงสภาพแวดลอ้ มโลกครงั้ ยิ่งใหญ่ รูปท่ี 4.15 ที่มา : https://ngthai.com/science/30380/biodivers/ นอกเหนือจากการสูญพันธ์ุไปของส่ิงมีชีวิตบางชนิด การเส่ือมโทรมลงของระบบนิเวศเป็น ผลกระทบท่ีไม่อาจลีกเล่ียงเช่นเดียวกัน ซึ่งหากสถานการณ์ในปัจจุบันยังคงดาเนินต่อไปโดย ปราศจากการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ส่ิงมชี วี ิตกว่าร้อยละ 20 ชนดิ ทวั่ โลกอาจจะสญู เสียพนั ธ์ไุ ปอยา่ งถาวร ภายในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งมีความสาคัญทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Hotspot) ท่ีมีชนิดพันธ์ุของสิ่งมีชีวิตซ่ึงเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ( Endangered Species) และมี “สิ่งมีชีวิตเฉพาะถ่ิน” (Endemic Species) อาศัยอยู่อยา่ งหนาแน่น ถงึ แม้พ้ืนที่ซ่ึง มคี วามสาคัญทางดา้ นความหลากหลายทางชีวภาพเหล่านี้ จะคดิ เป็นเพียงรอ้ ยละ 2.3 ของพ้ืนผิวโลก ท้ังหมด แต่กว่าร้อยละ 44 ของพืชพรรณในโลกล้วนดารงอยู่ในพื้นที่เฉพาะเหล่าน้ี ซ่ึงในอีก ความหมายหนึ่ง คือพืชเหล่าน้ีเป็นชนิดพันธ์ุที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในพื้นท่ีอื่นๆ ของโลก เช่น สิ่งมีชีวิตบนเกาะนิวซีแลนด์ ซ่ึงเป็นพื้นท่ีซ่ึงมีความสาคัญทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของ โลก โดยกว่าร้อยละ 90 ของชนิดพันธ์ุแมลงและกว่าร้อยละ 80 ของชนิดพันธ์ุพืชท่ีมีท่อลาเลียง (Vascular Plants) ล้วนเป็นส่ิงมีชีวิตเฉพาะถ่ินทไ่ี ม่ปรากฏบนส่วนไหนของโลกใบนี้อีกแลว้ และการ สญู เสียส่ิงมีชีวติ บนเกาะแห่งน้ี หมายถึงการสูญพันธุ์จากโลกไปอยา่ งถาวร โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 24
ชุดท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค บตั รกิจกรรมท่ี 4.1 เรือ่ ง ระบบชีวนิเวศ คาชแี้ จง : ให้นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลระบบนิเวศของแตล่ ะพื้นที่ แล้ววิเคราะห์ตามประเดน็ ท่กี าหนด โดยใชค้ วามสามารถทางภมู ศิ าสตร์ 1. ลักษณะระบบนเิ วศ……………………..………………………………………………………………………………………… บรเิ วณทพ่ี บ……………………..………………..………………………………………………………………………………… สง่ิ มีชวี ติ ที่พบ……………………..……………..………………………………………………………………………………… 2. ลักษณะระบบนิเวศ……………………..………………………………………………………………………………………… บรเิ วณทีพ่ บ……………………..………………..………………………………………………………………………………… ส่ิงมชี วี ิตทีพ่ บ……………………..……………..………………………………………………………………………………… โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 25
ชุดที่ 4 การเปลีย่ นแปลงทางชีวภาค 3. ลักษณะระบบนเิ วศ……………………..………………………………………………………………………………………… บริเวณทพ่ี บ……………………..………………..………………………………………………………………………………… สิ่งมชี ีวิตท่พี บ……………………..……………..………………………………………………………………………………… 4. ลักษณะระบบนิเวศ……………………..………………………………………………………………………………………… บรเิ วณท่ีพบ……………………..………………..………………………………………………………………………………… สิ่งมีชีวติ ท่ีพบ……………………..……………..………………………………………………………………………………… โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 26
ชุดท่ี 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค 5. ลักษณะระบบนเิ วศ……………………..………………………………………………………………………………………… บริเวณทีพ่ บ……………………..………………..………………………………………………………………………………… สิง่ มชี วี ิตทพี่ บ……………………..……………..………………………………………………………………………………… โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 27
ชดุ ท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค บัตรกิจกรรมท่ี 4.2 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงทางชวี ภาค คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกต้องทีส่ ดุ 1. การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. สาเหตุสาคัญท่ีทาใหส้ ญู เสยี ความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศสว่ นใหญเ่ กิดจากอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 28
ชดุ ที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค 3. หลักการพฒั นาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งย่ังยนื มอี ะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นกั เรียนคดิ วา่ เหตุใดจงึ ต้องมกี ารรณรงคใ์ ห้ทกุ คนในสงั คมรว่ มมือกนั จดั การปัญหาสิ่งแวดล้อม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. ใหน้ กั เรยี นบอกแนวทางการนาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาปรบั ใช้กบั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 29
ชดุ ที่ 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค บัตรกิจกรรมที่ 4.3 แผนผงั มโนทศั น์ เรื่อง การเปล่ยี นแปลงทางชวี ภาค คาช้ีแจง ให้นักเรียนสรุปความรู้ท่ีเก่ียวกับ “การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค” เป็นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) ในกระดาษที่แจกใหแ้ ลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 30
ชุดที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชวี ภาค แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ฯ รายวชิ าสงั คมศึกษา 5 (ภูมศิ าสตร)์ รหสั วิชา ส33101 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้ จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลาทใ่ี ช้ 10 นาที 2. จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุด แลว้ เขียนเครือ่ งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ 1. “คูริลแบงส์” พบไดใ้ นบริเวณใด ก. มหาสมทุ รอินเดยี ข. กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ค. ทางตะวันตกของประเทศญปี่ นุ่ ง. ทางตะวันออกของประเทศญีป่ นุ่ 2. ปจั จัยทางกายภาพข้อใดมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบชวี นิเวศของโลกมากทสี่ ุด ก. ดนิ ข. ไฟป่า ค. อณุ หภูมิ ง. ความช้นื 3. ระบบนเิ วศในบริเวณใดท่มี ีความหลากหลายของสง่ิ มีชีวติ มากท่ีสุด ก. ปา่ ฝนเขตรอ้ นในแถบศนู ย์สตู ร ข. ทุ่งหญ้าสะวนั นาในทวีปแอฟริกา ค. ป่าเขตอบอุน่ ในทวีปออสเตรเลยี ง. ปา่ สนหรอื ไทกาในไซบเี รียประเทศรสั เซีย 4. ปา่ ที่ข้นึ ไดด้ ีในสภาพแวดลอ้ มท่เี ป็นดินเลนและน้ากร่อยมีพนั ธไุ์ มแ้ ละสตั ว์นา้ เจริญเติบโตได้ ดคี อื ปา่ ชนิดใดมีความสาคญั อย่างไร ก. ปา่ สน : แหลง่ ประมง ข. ปา่ แดง : แหลง่ ท่องเทีย่ ว ค. ปา่ ดงดบิ : แหลง่ เก็บปะการงั ชายฝงั่ ง. ป่าชายเลน : แหลง่ รกั ษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝง่ั โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 31
5. สัตว์ชนิดใดอาศัยอยู่ในเขตทุ่งหญ้า ชุดที่ 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค ก. ข. ค. ง. 6. ข้อใดที่ไม่ใช่พืชที่เจริญเติบโตไดใ้ นนา้ เค็ม ก. ข. ค. ง. โดย นายรมยร์ วินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 32
ชดุ ที่ 4 การเปลยี่ นแปลงทางชีวภาค 7. สัตว์ในรูปอาศัยอยู่ในเขตใด ก. เขตข้ัวโลก ข. เขตทุ่งหญ้า ค. เขตมหาสมุทร ง. เขตธารน้าแข็ง 8. เมื่อเกิดการเปลีย่ นแปลงแทนท่ีแบบปฐมภูมบิ รเิ วณภูเขาไฟทป่ี ะทใุ หม่ ๆ ส่งิ มีชีวิตท่ีจะเข้า มาอยใู่ นพน้ื ทีไ่ ด้เป็นกล่มุ แรกคือข้อใด ก. ไม้ลม้ ลุก ข. หญ้าและวัชพืช ค. มอสสแ์ ละไลเคน ง. เห็ดราและสาหรา่ ย 9. สถานการณเ์ ก่ียวกับความหลากหลายทางชีวิภาพของประเทศไทยในปจั จุบันเป็นอยา่ งไร ก. การศกึ ษาจะเป็นเฉพาะสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่เสี่ยงตอ่ การสูญพนั ธุ์ ข. ทรพั ยากรธรรมชาตมิ ปี ริมาณลดนอ้ ยลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ความหลากหลายทางชวี ภาพ มกี ารลดจานวนลงอย่างรวดเร็ว ค. สถานการณค์ วามหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทยขณะนี้ นา่ เป็นหว่ งอยา่ งยงิ่ เพราะยังคงมีการเติบโตของจานวนประชากร ทาให้ความต้องการมีมากขึ้น ง. การศกึ ษาทางด้านความหลากหลายยังมีอยู่น้อยหรืออยู่ในวงจากดั เฉพาะนักวิชาการ เท่าน้ัน โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 33
ชดุ ที่ 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค 10. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งท่ีสุดเกย่ี วกับความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย ก. ประเทศไทยมีสง่ิ มชี วี ติ มากกวา่ 5 ล้านสปีชสี ์ ค. ประเทศไทยมีถ่นิ ท่ีอยูอ่ าศัยหรอื ระบบนิเวศท่ีหลากหลาย ข. ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชวี ภาพทอี่ ดุ มสมบูรณ์แหง่ หน่งึ ของโลก ง. สภาพภูมิอากาศทเ่ี หมาะสมต่อการอย่รู อด การเจริญเติบโตและการแพร่พันธ์ของ สิ่งมีชีวติ หลายชนดิ โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 34
ชดุ ท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค กระดาษคาตอบ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น ชุดท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ง แบบทดสอบหลงั เรยี น ง ข้อ ก ข ค ขอ้ ก ข ค 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ ...................คะแนน ได้ ...................คะแนน โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 35
ชุดที่ 4 การเปล่ียนแปลงทางชีวภาค บรรณานกุ รม กรมทรัพยากรธรณี. 2544. ธรณีวิทยาประเทศไทยเฉลิมพระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั เน่ืองในวโรกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธนั วาคม 2542. (พิมพ์ครงั้ ท่ี 1). กรุงเทพฯ : กองธรณวี ิทยากรมทรพั ยากรธรณี. กรมทรัพยากรธรณี. 2550. ธรณีวทิ ยาประเทศไทย. (พิมพ์ครั้งท่ี 2). กรุงเทพฯ : โรงพิมพด์ อกเบีย้ . คณะกรรมการวชิ าส่ิงแวดล้อม เทคโนโลยีและชีวิต ศนู ยว์ ิชาบูรณาการ หมวดวิชาศึกษาท่วั ไป มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2549. สงิ่ แวดล้อมเทคโนโลยแี ละชีวิต. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาเกษตรศาสตร์. ภาควิชาปฐพีวทิ ยา มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. 2548. ปฐพีวทิ ยาเบือ้ งต้น. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. ภาควชิ าภูมิศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง. 2535. ภูมศิ าสตร์เศรษฐกจิ . กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ชชั พล ทรงสนุ ทรวงศ.์ 2546. มนุษย์กับสงิ่ แวดล้อม. กรุงเทพมหานคร : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ดาภา ไชยพรธรรม. 2537. สึนามิแผน่ ดินไหวภยั ใกลต้ วั . กรงุ เทพมหานคร : ยโู รปา เพรส. เทพพรรณี เสตสบุ รรณ. (ม.ป.ป. ). ภัยพบิ ตั ิจากธรรมชาติในเขตร้อน. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. นวิ ตั ิ เรืองพานิช. 2528. การอนรุ กั ษท์ รัพยากรและสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพมหานคร : เฉลมิ ชาญ การพมิ พ์. ประสทิ ธิ์ ทีฆพุฒแิ ละศุภฤกษ์ ตันศรรี ัตนวงศ.์ 2549. ค่มู อื เตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ. กรุงเทพมหานคร : ดอกหญ้า กร๊ปุ . ระวิวรรณ ตั้งตรงขนั ต,ิ พรวิมล สว่างชม และภาณุภัทร วงศว์ รปัญญา. 2564. แบบฝึกสมรรถนะ การคิด เน้น Geo-Literacy ภมู ิศาสตร์ ม.4-6. (พมิ พค์ รั้งท่ี 1) กรงุ เทพฯ : ไทยร่มเกล้า, บรษิ ัทอกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด ราชบณั ฑิตยสถาน. 2558. พจนานุกรมศพั ท์ธรณีวทิ ยา A-M. (พิมพ์ครงั้ ที่ 2). กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์คณะรัฐมนตรแี ละราชกิจจานุเบกษา. ราชบณั ฑิตยสถาน. 2558. พจนานุกรมศพั ท์ธรณวี ทิ ยา N-Z. (พมิ พค์ ร้ังที่ 2). กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพค์ ณะรฐั มนตรีและราชกจิ จานเุ บกษา. สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. 2551. หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ดวงดาวและโลกของเรา. (พิมพ์คร้งั ท่ี 1). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 36
ชุดที่ 4 การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาค สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. 2551. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 8). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2554. หนังสอื เรียนรายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ. (พิมพค์ รั้งท่ี 1). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2561. หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1. (พิมพค์ ร้งั ท่ี 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. อภสิ ิทธิ์ เอ่ยี มหนอ่ และคณะ. 2564. หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภมู ิศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6. (พมิ พ์ครัง้ ที่ 8) กรุงเทพฯ : ไทยร่มเกลา้ , บรษิ ัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 37
ชุดที่ 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค โดย นายรมยร์ วนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 38
ชุดที่ 4 การเปลี่ยนแปลงทางชวี ภาค เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 4.1 เร่ือง ระบบชวี นิเวศ คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นสบื ค้นขอ้ มูลระบบนเิ วศของแต่ละพ้ืนท่ี แลว้ วิเคราะห์ตามประเด็นท่ีกาหนด โดยใชค้ วามสามารถทางภูมิศาสตร์ (ตวั อยา่ งคาตอบ) 1. ลักษณะระบบนเิ วศ…ป…า่ …ฝ…น…เข…ต…ร้อ…น..………………………………………………………………………………………… บรเิ วณที่พบ……………เ…ขต…ร…อ้ .น.…ใก…ล…้เส…น้ …ศ…ูน..ย…์ส…ูต…ร …เช…่น…ป…า่ …ใน…ป…ร…ะเ…ท…ศ…อนิ…โ…ด…นเี…ซ…ีย…ป…า่ …ใน…ล…่มุ …น้า…แ…อ…มะ…ซ…อ…น.. ………………………………ท…วปี…อ…เ…มร…ิก…า…ใต…้ ………………………………………………………………………………………. ส่งิ มีชวี ิตที่พบ……………พัน…ธ…์พุ …ชื ..…สัต…ว…์ป…่า…น.ก.…แ…ม…ล…ง………………………………………………………………………… 2. ลักษณะระบบนเิ วศ…ป…า่ ส…น…ห…ร…อื …ไท…ก..า………………………………………………………………………………………… บรเิ วณทพ่ี บ……………แถ…บ…ซ…ีก.โ.…ลก…เ…หน…ือ…ท…ี่ม..อี …า…กา…ศ…ห…น…าว…เ…ย็น……เช…น่ …ท…่รี …าบ…ไ…ซ…บีเ…ร…ีย…ท…วปี…ย…ุโ…รป…ต…อ…น…เห…น…อื … สง่ิ มชี ีวิตที่พบ…………พ…นั …ธพ์ุ…ชื…ต..ร…ะ…ก…ลู ส…น…ก..…วา…ง…มสู……กว…า…งเ…รน…เ…ด…ียร…์ ………………………………………………… โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 39
ชุดท่ี 4 การเปลยี่ นแปลงทางชีวภาค 3. ลักษณะระบบนิเวศ…ท…ะ…เล…ท…ร…าย……..………………………………………………………………………………………… บรเิ วณที่พบ……………ท…ว…ีปแ…อ..ฟ…ร…กิ …า…ภ…ูม…ภิ .า.…คเ…อ…เช…ีย…ตะ…ว…ัน…ต…กเ…ฉ…ยี ง…ใต…้ …บ…าง…พ…ื้น…ท…่ีขอ…ง…จ…ีนแ…ล…ะ…ม…อง…โ…กเ…ล…ยี … สิ่งมีชวี ติ ที่พบ…………พ…นั …ธ…พ์ุ …ืช.ต.…ระ…ก…ลู …ป…าล..์ม……อนิ…ท…ผ…ล…ัม…อ…ูฐ…จ…ิง้ จ…อ…ก…ท…ะเ…ล…ท…รา…ย…………………………………… 4. ลกั ษณะระบบนเิ วศ…ท…นุ …ด…รา……หร…ือ…ท.ุง่.…ห…ิม…ะ ………………………………………………………………………………… บริเวณทีพ่ บ……………ข…้ัว…โล…ก.ท.…มี่ …ีอ…าก…า…ศห…น..…าว…เย…็น…ต…ล…อด…ท…้ัง…ป…ี ……………………………………………………… สิ่งมีชวี ติ ทีพ่ บ…………ไ…ล…เค…น..…มอ…ส…ส…์ ห…ญ..…า้ เ…ซด…จ…์ แ…ม…ว…น…า้ ล…า…ย…พิณ……ห…ม…ีข…าว…ข…้วั โ…ล…ก…ห…ม…าป…า่ …ห…มิ …ะ…………… โดย นายรมย์รวนิ ท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ 40
ชดุ ท่ี 4 การเปลย่ี นแปลงทางชีวภาค 5. ลักษณะระบบนเิ วศ…ท…งุ่ …ห…ญ…า้ เ…ขต…ร…้อ.น.………………………………………………………………………………………… บรเิ วณที่พบ……………ท…ว…ปี แ…อ..ฟ…ร…ิก…า…ท…ว…ีปอ..…เม…รกิ…า…ใต…้ …ท…าง…เห…น…อื …ข…อง…ป…ร…ะเ…ท…ศ…ออ…ส…เต…ร…เล…ีย…………………… สิง่ มีชวี ติ ท่พี บ…………พ…นั …ธ…พ์ุ …ชื .ท.…ม่ี …ลี ัก…ษ…ณ…ะ..เ…ป…น็ ต…้น…ห…ญ…า้ …ย…าว…ไ…ม…้พ…ุ่ม…ส…งิ โ…ต…ม…า้ …ลา…ย…ค…ว…าย…ป…่า………………… โดย นายรมย์รวินท์ เชดิ ชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ 41
ชุดที่ 4 การเปล่ยี นแปลงทางชวี ภาค เฉลยบตั รกจิ กรรมท่ี 4.2 เรื่อง การเปล่ยี นแปลงทางชีวภาค คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ งทสี่ ดุ 1. การสญู เสียความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศไทย …แ…น…วค…า…ต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………. ………………กา…ร…สญู……เส…ยี …คว…า…ม…ห…ลา…ก…ห…ล…าย…ท…า…งช…ีว…ภ…าพ…ใ…น…ขณ……ะน…้ีเ…ป็น…ป…ัญ…ห…า…ส…าค…ัญ…ท…ี่เ…กิด…ข…ึ้น…ท…ั่ว…โล…ก…แ…ต…่ค…น. …ส…ว่ น…ใ…ห…ญ…่ยงั…ข…า…ดค…ว…า…มต…ร…ะ…หน…ัก……ไม…่ใส…่ใ…จ…ป…ัญ…ห…าจ…ึง…ข…ยา…ย…ว…งก…ว…้าง…อ…อ…กไ…ป…เร…ื่อ…ยๆ……รว…ม…ท…ั้งป…ร…ะ…เท…ศ…ไท…ย…ซ…ึ่ง. …อ…ยู่…ใน…เ…ขต…ร…้อ…น…ช…ื้น…ท…่ีมี…สภ…า…พ…อ…า…ก…าศ…เ…ป…ลี่…ยน…แ…ป…ล…ง…ไป…ต…า…ม…ต…าม…ฤ…ด…ูก…า…ลท…ี่แ…ต…ก…ต…่า…งก…ัน……มี…สภ…า…พ…ท…า…ง. …ภ…ูม…ิศา…ส…ต…ร์ท…่ีห…ล…า…กห…ล…า…ย…จึง…ม…ีระ…บ…บ…น…ิเว…ศ…ห…ลา…ย…ร…ูปแ…บ…บ…ท…่เี อ…้ือ…ต…่อ…กา…ร…อ…ยอู่…า…ศ…ัยแ…ล…ะ…ก…าร…เจ…ร…ญิ …เต…บิ …โต…ข…อ…ง. …ส…ิ่งม…ีช…ีว…ิต…จ…ึงท…า…ให…้ม…ีส…่ิง…มีช…ีว…ิต…ห…ลา…ย…ช…น…ิดแ…ต…ก…ต…่าง…ก…ัน…ด้ว…ย…โ…ด…ย…เฉ…พ…าะ…ร…ะ…บบ…น…เิ …วศ…ข…อ…งป…า่ …ไม…้เ…ข…ตร…อ้ …น…ช…้ืน. …ห…รือ…ป…่า…ด…ิบ…ชื้น…ท…่ีเ…ป…็นแ…ห…ล…่ง…ท…ี่มีค…ว…า…ม…หล…า…ก…ห…ลา…ย…ท…า…งช…ีว…ภ…าพ…ม…า…ก…กว…่า…ป…่าใ…น…เข…ต…อ…่ืน…ๆ…ข…อ…งโ…ล…ก…เพ…ร…า…ะ. …ก…าร…เพ…่ิม…ข…้ึน…ข…อ…งป…ร…ะ…ชา…ก…ร…มน…ุษ…ย…์ ท…า…ใ…ห้…มีก…า…ร…บุก…ร…ุก…ท…า…ล…าย……ป่า…ไ…ม…้ต่า…ง…ๆ…แ…ม…้กร…ะ…ท…่ังป…่า…ช…า…ยเ…ล…นอ…ย…่า…ง. …ม…าก…ม…า…ย…จ…น…เ…กิด…ผ…ล…ก…ร…ะท…บ…ต…่า…งๆ……อ…ย…่าง…ท…ี่ไม…่เ…ค…ย…เก…ิด…ม…าก…่อ…น……เช…่น…ค…ว…า…ม…แห…้ง…แ…ล…้งใ…น…ฤ…ด…ูร้อ…น……ดิ…น. …เส…ื่อ…ม…ส…ภ…าพ……น…้าป…่า…ไ…หล…ห…ล…า…ก…เม…่ือ…ฝ…น…ตก…ห…น…ัก…ต…ิด…ต่อ…ก…ัน……น้า…ท…่ว…ม…ขัง…ใ…น…ฤด…ูฝ…น…ด…ิน…ถ…ล…่ม…ช…า…ย…ฝั่ง…ถ…ูก…ก…ัด. …เซ…า…ะ…จา…ก…ค…ล…ื่น…แล…ะ…ล…ม…จ…น…พั…งท…ล…า…ย…ก…า…รเ…ก…ิดค…ล…่ืน…ย…ัก…ษ…์ส…ึนา…ม…ิ …ป…รา…ก…ฏ…ก…าร…ณ…์เ…รือ…น…ก…ร…ะจ…ก…ต…า…ม…เม…ือ…ง. …ให…ญ…ๆ่……เป…็น…ต…น้ ………………………………………………………………………………………………………………………. 2. สาเหตุสาคญั ท่ีทาใหส้ ญู เสียความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศส่วนใหญ่เกดิ จากอะไร …แ…น…วค…า…ต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………. ………………สา…เ…หต…ุส…า…ค…ัญ…ท…ี่ท…าใ…ห…้ส…ูญ…เส…ีย…ค…วา…ม…ห…ล…าก…ห…ล…า…ยท…า…ง…ชี…วภ…า…พ…ใน…ป…ร…ะ…เท…ศ…ส…่วน…ใ…ห…ญ…่เก…ิด…จ…า…ก …. …ก…าร…ก…ระ…ท…า…ข…อง…ค…น…จ…ะ…ดว้…ย…ค…วา…ม…ย…าก…จ…น…ค…ว…า…มโ…ล…ภ…ค…ว…าม…เห…็น…แ…ก…ต่ …ัว…ม…ักง…่า…ย…ห…ร…ือไ…ม…่ม…ีระ…เบ…ีย…บ…ว…นิ …ัย…. …ใน…ต…น…เอ…ง…ซ…ึ่ง…ท…าใ…ห…้อ…าก…า…ศแ…ล…ะ…ภ…ูม…ิปร…ะ…เท…ศ…เ…ปล…่ีย…น…แ…ป…ลง…ส…่ง…ผ…ล…ให…้ส…ิ่งม…ชี …ีว…ิต…ต่า…ง…ๆ…ต…้อ…งส…ูญ…เ…สีย…แ…ห…ล…่ง…. …ท…ี่อ…ยู่…ห…ร…ืออ…พ…ย…พ…ห…น…ี ห…ร…ือ…เส…ีย…ช…ีวิ…ตจ…น…บ…า…งช…น…ิด…ส…ูญ…พ…ัน…ธ…์ุไป……เช…่น…ก…า…รล…่า…ส…ัต…ว์ท…า…ใ…ห้…สัต…ว…์เฉ…พ…า…ะ…ถิ่…น…. …ห…ล…าย…ช…น…ดิ ส…ญู …พ…ัน…ธ…์ุ ไ…ด…้แก…่ …สม…ัน……ซึ่ง…เป…น็…ก…ว…าง…ช…น…ดิ ห…น…่ึง…โ…ด…ยเ…ฉ…พา…ะ…ต…ัวผ…้จู …ะ…ม…ีเข…าส…ว…ย…งา…ม…แ…ต…ก…ก่ิง…อ…อ…ก…. …ค…ล…้าย…ก…ิ่ง…ไม…้ …อ…าศ…ัย…อ…ย…ู่ใน…ป…่า…ด…ง…ดิบ…แ…ถ…บ…ล…ุ่ม…แ…ม…่น…้าเ…จ…้าพ…ร…ะ…ย…า…เ…มื่อ…ส…ัต…ว…์เฉ…พ…า…ะ…ถิ่…นส…ูญ……พั…นธ…ุ์ …ย…่อม……. …ห…ม…าย…ถ…งึ …ส…ัตว…ช์ …น…ดิ …น…้ีได…ส้ …ญู …พ…ัน…ธ์ุไ…ป…จา…ก…โล…ก…ด…้วย……………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดย นายรมยร์ วินท์ เชดิ ชู ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ 42
ชดุ ท่ี 4 การเปลยี่ นแปลงทางชวี ภาค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. หลักการพฒั นาส่งิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งยง่ั ยนื มอี ะไรบา้ ง …แ…น…วค…า…ต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………. ………………กา…ร…พ…ฒั …น…าส…ิ่ง…แ…วด…ล…้อ…มแ…ล…ะ…ท…รพั…ย…า…ก…รธ…ร…รม…ช…า…ติอ…ย…่า…งย…่ัง…ย…ืนม…ี …2…ห…ล…ัก…กา…ร…ค…ือ…ก…า…รป…อู…ง…ก…ัน…. …ร…กั ษ…า…แ…ล…ะก…า…รจ…ัด…ก…าร……ซ่ึง…ส…าม…า…ร…ถท…า…ไ…ดห้…ล…า…ย…แน…ว…ท…าง……เช…น่ …ก…า…รฟ…้ืน…ฟ…ูแ…ล…ะป…ร…ับ…ป…รุง…ค…ณุ …ภ…า…พ…ก…าร…ใ…ช้…. …ให…้เ…กดิ…ป…ร…ะ…โย…ช…น…ส์ ูง…ส…ดุ …กา…ร…ใช…ซ้ …้า…ล…ดก…า…ร…ใช…้ ก…า…รน…า…ก…ล…ับ…มา…ใ…ชใ้…ห…ม…่ ก…าร…ห…า…สิง่…อ…ื่น…ม…าท…ด…แ…ท…น………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นักเรียนคดิ ว่าเหตใุ ดจงึ ต้องมีการรณรงคใ์ ห้ทกุ คนในสงั คมรว่ มมอื กันจัดการปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม …แ…น…วค…า…ต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………. …………เ…พ…รา…ะ…เร…า…ท…ุกค…น…ใ…ช…้ท…รัพ…ย…า…ก…รธ…ร…ร…มช…า…ต…ิร…่วม…ก…ัน……เม…่ือ…ท…รัพ…ย…า…ก…รธ…ร…ร…ม…ชา…ต…ิห…น…ึ่ง…ถูก…ร…บ…ก…วน……. …ก…็จ…ะส…่ง…ผ…ล…ก…ระ…ท…บ…ต…่อ…ส…ิ่งอ…ื่น…ๆ……ด้ว…ย…เ…ห…ตุน…้ีก…า…ร…ด…ูแล…ร…ัก…ษ…า…ท…รัพ…ย…า…ก…ร…ธร…ร…ม…ช…าต…ิท…ุก…ป…ร…ะ…เภ…ท…จ…ึง…มี…. …ค…วา…ม…ส…าค…ัญ……แล…ะ…เป…็น…ห…น…้า…ท่ีข…อ…ง…ทุก…ค…น………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. ใหน้ ักเรียนบอกแนวทางการนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาปรับใชก้ บั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติ …แ…น…วค…า…ต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………. …………ก…า…รพ…ัฒ…น…า…ส…ิ่งแ…ว…ด…ล…้อ…มแ…ล…ะ…ท…รัพ…ย…า…ก…รธ…ร…ร…มช…า…ต…ิอ…ย่า…ง…ย…ั่งย…ืน…ม…ี 2……ห…ลัก…ก…า…ร…ค…ือ…ก…า…รป…ูอ…ง…กั…น…. …ร…ักษ…า…แ…ล…ะก…า…รจ…ัด…ก…าร……ซึ่ง…ส…าม…า…ร…ถท…า…ไ…ดห้…ล…า…ย…แน…ว…ท…าง……เช…่น…ก…า…รฟ…้ืน…ฟ…ูแ…ล…ะป…ร…ับ…ป…รงุ…ค…ุณ…ภ…า…พ…ก…าร…ใ…ช้…. …ให…เ้ …กดิ…ป…ร…ะ…โย…ช…น…์สูง…ส…ุด…ก…าร…ใ…ช้ซ…า้ …ล…ด…ก…าร…ใ…ช้…ก…าร…น…า…ก…ล…บั …มา…ใ…ชใ้…ห…ม…่ ก…าร…ห…า…ส่ิง…อ…่ืน…ม…าท…ด…แ…ท…น…เพ…ร…า…ะ…. …เร…า…ท…กุ ค…น…ใช…้ท…ร…ัพ…ย…าก…ร…ธร…ร…ม…ชา…ต…ิร่ว…ม…ก…นั …เ…ม่อื…ท…ร…ัพ…ยา…ก…ร…ธร…ร…มช…า…ต…หิ …น…่งึ ถ…ูก…รบ…ก…ว…น…ก…็จ…ะส…ง่ …ผ…ลก…ร…ะ…ท…บ…. …ต…่อ…ส่ิง…อ…ื่น…ๆ…ด…้ว…ย…เห…ต…ุน…้ีก…าร…ด…ูแ…ลร…ัก…ษ…า…ท…รัพ…ย…า…ก…รธ…ร…ร…มช…า…ต…ิท…ุก…ปร…ะ…เภ…ท…จ…ึง…ม…ีคว…า…ม…ส…าค…ัญ……แ…ละ…เ…ป…็น…. …ห…น…้าท…่ีข…อ…ง…ท…ุก…คน……ก…าร…ใ…ช้…ทร…ัพ…ย…า…ก…รธ…ร…ร…มช…า…ต…ิโด…ย…ย…ึด…ห…ล…ัก…ปร…ัช…ญ…า…ข…อ…งเ…ศ…รษ…ฐ…ก…ิจ…พ…อ…เพ…ีย…ง…ต…้อ…ง…. …ค…าน…ึง…ถ…ึง…พ…อ…ป…ระ…ม…า…ณ…แ…ล…ะ…ค…วา…ม…ม…ีเห…ต…ุม…ีผ…ลใ…น…ก…าร…ใ…ช้…ทร…ัพ…ย…า…กร……โด…ย…ม…ีค…วา…ม…ร…ู้แ…ละ…ค…ุณ…ธ…ร…รม…เ…ป็…น…. …เค…ร…ื่อ…งก…า…ก…ับ…เ…พื่…อใ…ห…้ส…าม…า…ร…ถเ…ล…ือ…กใ…ช…้ท…รัพ…ย…า…ก…รต…า…ม…ค…วา…ม…จ…าเ…ป…็น…ไ…ม…่ฟ…ุ่มเ…ฟ…ือ…ย…แ…ล…ะใ…ช…้ท…รัพ…ย…า…ก…ร…. …อ…ย่า…ง…ค…ุ้มค…า่ …ห…ร…อื …ไม…่ก…อ่ …ให…เ้ ก…ิด…โท…ษ…จ…า…ก…กา…ร…ใช…้ท…รัพ…ย…า…ก…รม…า…ก…จน…เ…ก…นิ ไ…ป……………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดย นายรมย์รวินท์ เชิดชู ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ 43
Search