Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานคอม ISM54

โครงงานคอม ISM54

Published by 21125, 2020-11-05 13:34:04

Description: โครงงานคอม ISM54

Search

Read the Text Version

โครงงาน เร่อื ง…เชื้อเพลงิ อดั แทง่ จากกาบมะพร้าว ผจู้ ดั ทา นางสาว วชิ ญาพร พลจร เลขท่5ี นางสาว จารุวรรณ สารฝ้นั เลขท1ี่ 3 นางสาว ปณิดา ไชยศิลป์ เลขท่1ี 9 นางสาว วัลภา ยศเลิศ เลขที่26 นาย ปวรศิ สมมตุ ิ เลขที่34 ครทู ่ปี รึกษาโครงงาน คณุ ครู พัชรินทร์ สมบตั ิ โรงเรียนปวั สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษานา่ นเขต37

กิตติกรรมประกาศ ในการทาโครงงานเรอ่ื งเช้ือเพลิงอดั แท่งจากกาบมะพรา้ ว ได้ ความร่วมมือและความช่วยเหลือจากชุมชนในหม่บู า้ นซ่ึงเปน็ ผลให้ โครงงานประสบความสาเรจ็ โดยความรว่ มมือของคณะผู้จัดทาสาคัญที่ ช่วยเหลือแนะนารวมทั้งขดั เกลาโครงงานเรยี บรอ้ ยย่ิงขึน้ คอื คณุ ครู พชั รนิ ทร์ สมบัติ ทไี่ ดใ้ หค้ วามชว่ ยเหลอื อยา่ งเตม็ ทท่ี งั้ ด้านวัสดอุ ปุ กรณ์และขอบคุณ คุณ คาวิน ยศเลศิ ท่ไี ดแ้ นะนาวธิ กี ารอดั เชอ้ื เพลงิ จากกาบมะพรา้ วทาใหก้ ารทาโครงงานครง้ั น้สี าเร็จลลุ ว่ งดว้ ยดี คณะผจู้ ดั ทา

บทคัดยอ่ การทาโครงงานเรื่องเชื้อเพลิงอัดแท่งจากกาบมะพรา้ ว มีวัตถุประสงค์ เพอ่ื ทดสอบคุณภาพกาบมะพรา้ วโดยทางคณะผ้จู ัดทา ตอนท่ี 1 ประดิษฐแ์ ท่งอดั จากกาบมะพร้าว ตอนท่ี 2 ทดลองศึกษาชนิดของแป้งท่ีสามารถใชป้ ระสมกับกาบมะพรา้ ว ได้ ตอนท่ี 3 ทดลองศึกษาปรมิ าณท่ีเหมาะสมของกาบมะพรา้ วป่นต่อแปง้ มนั สาประหลงั ตอนที่ 4 ทดลองศึกษาเปรยี บเทียบค่าความร้อนและระยะเวลาของการ ไหมข้ องแทง่ อดั จากกาบมะพรา้ ว ตอนที่ 5 ทดลองศึกษาลกั ษณะของแท่งอดั จากกาบมะพร้าวเมื่อติดไฟกับ ถา่ นชนดิ อ่นื ๆ ผลการทดลองท่ีได้ดงั น้ี เครื่องอัดแทง่ ถ่านที่สามารถประดิษฐ์ใชง้ าน อุตสาหกรรมในครัวเรอื นซึ่งเม่ืออัดแท่งกาบมะพรา้ วแลว้ จะได้แทง่ ท่มี ี ลกั ษณะทรงกระบอกเส้นผ่านศนู ย์กลางประมาณ 1.75 นว้ิ และ แกนกลางของแท่งกลวงเพื่อสะดวกต่อการเผาไหม้ได้และแปง้ มนั สาปะหลงั สามารถใช้เป็นตวั ประสมไดดีทีส่ ุด โดยกาบมะพร้าวกับแปง้ มนั สาปะหลงั มีระยะเวลาในการให้พลังงานนานกวา่ ถ่านปกตถิ ึงสามเท่า ใหพ้ ลังงานสงู กวา่ ถ่านปกติและแทง่ อัดจากกาบมะพรา้ วเม่อื ตดิ ไฟจะไม่ มีควนั ไม่มีเปลวไฟ ไมม่ ปี ระกายไฟปะทุจึงไมเ่ ป็น อันตรายต่อการนามา หุงต้มอาหาร ไมก่ ่อใหเ้ กิดสารพษิ จากการเผาไหม้

สารบัญ หนา้ ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข บทคดั ย่อ ค สารบัญ บทท1่ี บทนา 1 ท่มี าและความสาคัญ 2 วัตถุประสงค์ 3 ประโยชน์ที่ไดร้ บั 4 ขอบเขตการศกึ ษา 5 สมมติฐาน 6-7 แนวคดิ ทฤษฎที เี่ กี่ยวขอ้ ง บทท2ี่ เอกสารทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 8 ชนิดของเชอื้ เพลิง 9 ประเภทของเชอ้ื เพลิง บทท3ี่ วสั ดุอปุ กรณแ์ ละการดาเนนิ งาน 10 วธิ กี ารดาเนินงาน บทท4ี่ ผลการดาเนินงาน 11 องคป์ ระกอบ บทท5ี่ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน 12 ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั แผนการกาหนดเวลากาหนดการ 13 เอกสารอ้างอิง

บทท1ี่ บทนา ทม่ี าและความสาคัญ ในปจั จุบันเช้อื เพลิงท่ใี ชต้ ามบ้านเรือนหรือในสถานประกอบการตา่ งๆ 80% ใชเ้ ช้อื เพลงิ จากธรรมชาตหิ รือจากก๊าซหุงต้มในการประกอบ อาหาร แตก่ า๊ ซธรรมชาตินัน้ ไม่เพยี งพอต่อความต้องการของมนษุ ย์ใน อนาคตอกี ทั้งก๊าซธรรมชาติน้ัน ยังมันราคาสงู ขนึ้ มากในปัจจบุ ันทาให้ หลายคน หลายหน่วยงาน ต้องหันมามองหาแหล่งเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซ ธรรมชาตเิ พ่ือรองรับความต้องการของมนษุ ย์ ซึ่งกาบมะพร้าวสามารถ เปน็ แหลง่ เช้ือเพลิงสารองได้ แต่กาบมะพรา้ วนั้นมนั มาจากลูกของ มะพร้าว ทาให้ขาดความสมดลุ ของสง่ิ แวดลอมทาให้ เกดิ ปัญหาสงิ่ แวด ลอมได้ จงึ ทาให้ กลุม่ ของ ข้าพเจ้าได ้ คดิ ค้นและพฒั นากาบมะพรา้ วให้ เป็นเชอ้ื เพลิง ซงึ่ ไดแ้ นวคดิ มาจากการสังเกตตอนที่กาบมะพร้าวทไี่ มไ่ ด้ นามาทาอะไรจงึ นามันอดั เป็นเเท่งเพอื่ นาไปใชใ้ ห้งา่ ยยง่ิ ข้ึนและลกู มะพร้าวยงั เปน็ พืช เศรษฐกจิ ทีป่ ลกได้ทกุ ภาคของประเทศไทย กลมุ่ ของข้าพเจา้ ได้ทาโครงงานนี้ข้ันมาจากการสงั เกตข้างต้นนี้ จึงได้ แท่งอักเช้ือเพลิงมาเพอ่ื ลดปรมิ าณการใชก่ า๊ ซธรรมชาตเิ พอ่ื ชว่ ยสร้าง เศรษฐกจิ ใหช้ มุ ชนและลดปัญหาทางสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือประดษิ ฐ์กาบมะพรา้ วให้เป็นแทง่ 2. เพ่ือศึกษาชนดิ ของแปง้ มนั สาปะหลังที่สามารถใช้ผสมกบั กาบ มะพรา้ วได้ 3. เพื่อศึกษาปริมาณที่เหมาะสมของกาบมะพร้าวป่นต่อแป้งมันสาปะหลัง 4. เพื่อศกึ ษาเปรยี บเทียบความร้อนและระยะเวลาของการไหม้ 5. เพื่อศกึ ษาเปรียบเทยี บลักษณะของกาบมะพร้าวเมอื่ ตดิ ไฟกับถ่าน ชนิดอน่ื ๆ ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ 1. ได้แทง่ อัดจากกาบมะพรา้ วมาใชง้ าน 2. ชว่ ยประหยัดค่าใชจ้ ่ายในการซ่ือถ่านมาใช้ 3. สามารถเพมิ่ รายไดจ้ ากการผลติ เป็นผลติ ภณั ฑ์จาหน่าย 4. ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ 5. เปน็ การฝกึ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์ 6. เปน็ การฝกึ การทางานเปน็ กลมุ่ 7.เชอ้ื เพลงิ จากกาบมะพร้าวอัดแท่งมกี ารไหม้และระยะเวลานานกวา่ ถ่าน

ขอ้ ดีของเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเมด็ 1. สะดวกและประหยดั ค่าขนสง่ เพราะมคี วามหนาแน่นสงู (bulk density) ประมาณ 650-700 กก. 2. สามารถควบคุมปริมาณการใชง้ าน เพราะมีน้าหนกั และขนาดที่ แนน่ อน ทาให้การเผาไหมส้ ม่าเสมอและสมบรู ณ์ ซงึ่ เปน็ ประโยชน์อย่าง มากต่อภาคอุตสาหกรรม 3. ปริมาณเถา้ นอ้ ย คอื ประมาณรอ้ ยละ 3 ลดต้นทุนคา่ ใชจ้ ่ายการกาจดั ท้งิ 4. ให้พลงั งานความรอ้ นสงู กวา่ ชีวมวลประเภทอ่ืน (High Heating Value) โดยมีคา่ Net Calorific Value มากกว่า 16.5 MJ/kg 5. ค่าความชื้นตา่ คือ น้อยกว่าร้อยละ 10 ซ่ึงจากผลวจิ ัยพบว่าคา่ ความช้ืนของเชื้อเพลิงมอี ัตราแปรผกผนั กบั คา่ พลังงาน 6. ลดการปลอ่ ย CO2 ซง่ึ เปน็ ก๊าซเรอื นกระจก (green house gas) ซึง่ เป็น สาเหตุของภาวะโลกรอ้ น (global warming) เนอื่ งจาก CO2 ที่เกิดจาก การเผาชีวมวลจะถูกหมนุ เวียนกลบั ไปใช้โดยพชื เพื่อสังเคราะหแ์ สง (carbon offset) 7. ค่าใชจ้ ่ายน้อยกวา่ เช้ือเพลงิ พลังงานฟอสซิล (fossil fuel) เช่น น้ามันดิบ (fuel oil) กา๊ ซธรรมชาติ (NGV) ก๊าซหุงต้ม (LPG) เชือ้ เพลงิ ชวี มวลอัดเมด็ (wood pellet) 2-3 กิโลกรัม = นา้ มันเตา (fuel oil) 1 ลิตร

ขอบเขตของการศกึ ษาค้นคว้า 1. ศึกษาเฉพาะตวั ประสม 4 ชนิด คือแป้งขาวเหนยี วแป้งขา้ วโพด แป้งมันสาปะหลงั และแป้งขา้ วเจา้ 2. ศกึ ษาเฉพาะกาบมะพร้าวที่ตากแหง้ แล้วและไมม่ ีเศษวัสดอุ น่ื ๆเจือปน สมมตฐิ านของการศกึ ษาค้นควา้ 1. ถ้าชนิดของตัวประสมมีผลต่อการประสมดังนั้นถา้ ใช้ตัวประสมต่าง ชนดิ กันผลการประสมท่ไี ดย้ ่อมแตกต่างกัน 2. ถ้าปริมาณแปง้ มีผลตอ่ การประสมเนื้อแท่งอดั จากกาบมะพรา้ ว ดงั นนั้ ถ้าใชแ้ ป้งปรมิ าณที่แตกต่างกนั ผลการประสมทไ่ี ด้ย่อมแตกต่างกนั 3. ถา้ ชนดิ ของแท่งอดั จากกาบมะพรา้ วมผี ลต่อค่าพลังงานและระยะเวลา ในการใหพ้ ลงั งานดงั น้นั ถา้ ใชแ้ ทง่ อัดจากกาบมะพร้าวต่างชนดิ กันคา่ พลงั งานและระยะเวลาในการให้พลงั งานที่ไดย้ ่อมแตกต่างกัน 4.ถ้าชนดิ ของแท่งอดั กาบมะพร้าวมีลักษณะเม่ือติดไฟ ดังนัน้ ถ้าใชก้ าบ มะพรา้ วตา่ งชนิดกันลักษณะเมื่อติดไฟทไี่ ดย่อมแตกตา่ งกัน

แนวคดิ ทฤษฎที เี่ ก่ยี วข้อง ตัวแปรทศี่ กึ ษา ตอนท่ี1เปน็ การประดษิ ฐ์เครื่องอดั แทง่ ถ่าน ตอนท่2ี เพื่อศึกษาชนดิ ของแป้งสามารถใช้ประสมเนือ้ ถา่ นไดด้ ี ตัวแปรตน้ - ชนิดของแปง้ -ชนดิ กาบมะพรา้ ว ตัวแปรตาม - คณุ ภาพการประสม ตัวแปรควบคุม - ปริมาณของแป้งชนิดตา่ งๆ (แป้งมันสาปะหลงั , แป้งขาว เหนยี ว, แป้งขาวเจ้า, แป้งขาวโพด ) -ปรมิ าณกาบมะพร้าว - ปรมิ าณนา้ - ปริมาณผงถ่าน - ชนิดผงถ่าน - รปู ทรงของบล็อกส่วนตัว ตอนท่3ี เพ่อื ศึกษาปริมาณเหมาะสมของกาบมะพรา้ วป่นตอ่ แป้ง ตวั แปรต้น - อัตราสว่ นของแป้งต่อขุยของมะพร้าว ตัวแปรตาม - คณุ ภาพถา่ น ตัวแปรควบคุม - ปริมาณผงถา่ น - ชนิดผงถา่ น - ชนิดแป้ง - ปริมาณน้า – อุณหภูมิน้า - ขนาดผงถา่ น

ตอนท4่ี เพือ่ ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณเถ้า (Ash) ของกาบมะพร้าวต่อ ถ่านชนดิ อืน่ ๆ ตวั แปรตัว - ชนิดของถ่าน ตวั แปรตาม - ปรมิ าณเถ้า ตวั แปรควบคุม - ปริมาณของถา่ นชนิดตา่ งๆ - ภาชนะทเ่ี ผา - สถานที่ ตอนที่5เพอื่ ศึกษาเปรยี บเทียบค่าความร้อนและระยะเวลาของการให้ พลังงานของถ่านกาบมะพร้าวต่อถ่านชนดิ อนื่ ๆ ตวั แปรต้น - ชนิดของถา่ น ตัวแปรตาม - คา่ พลังงาน , ระยะเวลาการให้พลงั งาน ตัวแปรควบคุม - ปริมาณของถา่ นชนิดต่างๆ ตอนที6่ เพือ่ ศึกษาเปรยี บเทียบลกั ษณะของกาบมะพร้าวเม่ือติดไฟกบั ถ่านชนิดอืน่ ๆ ตัวแปรต้น - ชนดิ ของถา่ น ตัวแปรตาม - ลักษณะเมืั่อติดไฟ ตัวแปรควบคุม - ระยะเวลาของการทดลอง

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เชื้อเพลิง คือ ส่ิงที่ทาใหไ้ ฟติดไดง้ า่ ย, ส่งิ ที่ทาให้เกิดการเผาไหม้, สาร ทีท่ าปฏิกริ ิยากับออกซเิ จนเกิดการลกุ ไหม้ได้งา่ ยในบรรยากาศ และให้ ความร้อนท่นี าไปใช้ประโยชนไ์ ด้ เช้อื เพลิงมีทัง้ 3 สถานะ กลา่ วคือ ก๊าซ ของเหลว และของแข็ง ชนดิ ของเช้ือเพลิง 1. แก๊สของมนุษย์ท่ีผลิต ใชห้ ลกั การของกระบวนการแก๊ซซฟิ เิ คชนั่ หรือจากัดอากาศใหเ้ หมาะสมกบั เชื้อเพลิงโดยกระบวนการนจ้ี ะเป็น กระบวนการท่ีเปล่ียนเชื้อเพลงิ แข็งทม่ี ีคาร์บอนเปน็ องคป์ ระกอบ เช่น ไม้ ถ่านไม้ ถ่านหนิ แกลบ ขเ้ี ลื่อยและวัสดุทเ่ี หลือใช้ทางการเกษตรที่ สามารถติดไฟได้ให้กลายเปน็ แกส๊ ที่สามารถเผาไหม้ได้ โดยการเผา ไหม้เชื้อเพลงิ ในที่ๆมีออกซเิ จนอยอู่ ยา่ งจากัด ซ่ึงแก๊สท่ีได้มี สว่ นประกอบหลักคือ แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์(CO) ไฮโดรเจน (H2) แกส๊ มีเทน (CH4) และพวกสารระเหยต่างๆ ซ้ึงแกส๊ เช้ือเพลิงที่ผลิตไดน้ ้ี เรยี กวา่ โปรดวิ เซอรแ์ ก๊ส (Producer gas) 2.แก๊สทีเ่ กดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ จะไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่มีพษิ ซง่ึ เราสามารถนาก๊าซธรรมชาตมิ าใช้แทนน้ามนั เช้ือเพลิงไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติจะเผาไหม้ค่อนข้างสมบรู ณ์ ไมค่ อ่ ยมกี ๊าซพิษออกมานักจึงถือวา่ เป็นเชือ้ เพลิงที่ค่อนข้างสะอาด นอกจากนี้ก๊าซธรรมชาติยังเบากวา่ อากาศ (ความถว่ งจาเพาะ 0.5-0.8 เท่าของอากาศ) เมื่อเกิดการร่ัวขึ้นก็จะลอยข้นึ สเู่ บ้อื งบนโดยมีช่วงของ การตดิ ไฟท่ี 5-15% ของปริมาตรในอากาศ และอุณหภูมทิ ่ีสามารถตดิ ไฟไดเ้ อง คอื 537-540 องศาเซลเซียสซึ่งสูงกว่านา้ มนั และก๊าซ ปิโตรเลยี มเหลว (LPG)

ประเภทของเชอ้ื เพลิง เชื้อเพลิงท่ีนามาใช้กันอยู่ท่วั ไปทัง้ เพื่อการคมนาคม การอุตสาหกรรม และการนามาใช้ในกจิ กรรมอ่ืน ๆ สามารถแยกตามลกั ษณะได้ 3 ชนิด คือ ของแขง็ ของเหลว และกา๊ ซ เชอื้ เพลิงที่เป็นของแข็ง (Solid Fuel) เช้อื เพลงิ ท่ีเปน็ ของแข็งสามารถแบ่งออกได้ดังน้ี 1. ถา่ นไม้ (Charcoal) 2. ถ่านหนิ (Coal) ขุยมะพร้าว คือ เปลือกมะพร้าวที่ป่ันเอาใยออก หรือ ปน่ั ใหใ้ ยละเอียด เปน็ ขุยๆละเอียดประมาณเมด็ ทราย แห้งสนิท (ไม่ไชเ่ ปลือกสับ) เปน็ เศษ เหลือของโรงงานทาเส้นใยมะพร้าวซ่ึงไดท้ บุ กาบมะพรา้ วเพอ่ื นาเส้นไป ทาเบาะนง่ั เศษเหลือเหลา่ นเ้ี ป็นผงๆมคี ุณสมบัติเบา อุ้มนา้ ได้ดี และเก็บ ความชนื้ ไว้ได้นาน เม่ือจะใช้ตอ้ งพรมนา้ ให้ขุยมะพร้าวมีความชน้ื พอเหมาะไมแ่ ฉะและไมแ่ หง้ เกนิ ไป เหมาะสาหรับการควั่นตอนกงิ่ ไม้ เพ่ือเพาะชาตน้ ไม้และยังสามารถเปน็ เชอื้ เพลิงใหแ้ ก่โรงงานไฟฟา้ ชวี มวล ถา่ น คอื ไม้ทน่ี าผา่ นกระบวนการใหค้ วามร้อนโดยอาศยั ความร้อนจาก เปลวไพ ในสภาวะทป่ี ราศจากก๊าซ ออกซิเจนท่เี ปน็ ตวั ทาใหเ้ กดิ การเผา ไหม้ การลกุ ตดิ ไฟ ไม้ท่ีได้รับความร้อนจนความชนื้ สาระสาคญั ตา่ ง ๆ เช่น เซลลโู ลส เฮมิเซลลูโลส สารเฉพาะตวั ตา่ ง ๆ เกดิ การละเหยและ สลายตัวออกไปจากเนื้อไม้ ซึ่งจะเหลือแต่ส่วนทีเ่ ปน็ คาร์บอน ไมจ้ ึงเปลี่ยนเป็นสดี า

นอกจากถา่ นก้อนสีดาๆ ที่เราเห็นจะเป็นเชือ้ เพลงิ สาหรับการหงุ ต้ม ให้ ความรอ้ นแล้ว เจา้ กอ้ นสีดาๆ นยี้ ังมีประโยชน์อีกหลายประการ สามารถ นาไปทาประโยชน์ไดก้ ็คือ 1.ลดความชน้ื ในห้อง ห้องพักท่ีเราอยู่บางคร้ังเราอาจไม่คอ่ ยได้เปิด ประตู หน้าต่างให้ลม แสงแดดผา่ นเข้ามา ดงั น้นั จงึ เกิดความชน้ื หรือ บางครัง้ มีกลิ่นอับ การนากอ้ นถา่ นไปวางไวใ้ ตเ้ ตียงนอน จะชว่ ยฟอก อากาศ ดูดกลนิ่ และลดความช้นื ไดเ้ ป็นอย่างดีโดยไม่จาเป็นตอ้ งใช้ สเปรย์ดับกลิน่ 2.ดดู และหกั เหคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ในบา้ นไม่ว่าจะเปน็ ทวี ี คอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ ล้วนมีคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ท่แี ผ่กระจาย ออกมา ดงั น้นั การนาถา่ นไปวางไวใ้ นจุดทตี่ ัง้ เครื่องใชไ้ ฟฟา้ เหลา่ น้ีจะ ดูดและหักเหคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟา้ ได้ 3.ปรับสภาพดิน ดินทีเ่ รานามาปลกู ต้นไม้สว่ นใหญ่ไม่ค่อยมคี วามสมดุล อาจมคี วามเป็นกรดสงู การใช้ถา่ นผสมดินจะช่วยทาให้สภาพดนิ มคี วาม สมดุลทง้ั ยงั ชว่ ยเพิ่มแร่ธาตใุ ห้กับดินอีกด้วย 4.เพ่ิมออกซิเจนในน้า ใครที่เลย้ี งปลาหรอื สัตวน์ า้ คงเข้าใจดวี า่ ออกซเิ จนในนา้ นน้ั มคี วามจาเปน็ การใส่ถ่านลงไปในตู้ อ่าง หรือบ่อ เล้ียงปลาถือเป็นการเพ่มิ แรธ่ าตุจาเปน็ ให้กับนา้ และยังทาใหน้ ้าใส สะอาดด้วย 5.ดูดกลิ่น อาหารสดในตเู้ ย็นถา้ เปน็ ประเภทหมู เปด็ ไก่ อาจทาให้ตูเ้ ยน็ มกี ล่ินคาว เพียงใส่ถา่ นไมก้ อ้ นเลก็ ๆ ไว้ภายในตเู้ ย็น กจ็ ะชว่ ยดดู กล่ิน เหลา่ นั้นได้ แถมยงั ทาใหผ้ ักสดต่างๆ ท่อี ยูใ่ นตู้เย็นสดนานยงิ่ ข้นึ ด้วย 6.ดดู ความชืน้ ในถังข้าวสาร

บทท่ี 3 วธิ ีดาเนนิ การโครงงาน วสั ดุอุปกรณ์ วสั ดุ 1.ส่วนผสมหลักขุยมะพรา้ ว 2.สว่ นผสมรอง ข้ีเลอ่ื ย 3.แป้งมันสาปะหลัง 4.นา้ อปุ กรณ์ 1.เครอื่ งอัดกาบมะพร้าวอัตโนมัติ วิธีการดาเนนิ งาน แบง่ ออกเป็น 4 ขน้ั ตอน เริ่มจากขัน้ ตอนท่ี 1 การนากาบมะพร้าวไปสับยอ่ ยจนละเอียด ข้ันตอนที่ 2 การนากาบมะพร้าวที่สับย่อยจนละเอยี ดไปตากแห้ง กลางแจง้ ด้วยแสงแดดเพื่อลดความช้ืนลงให้เหลือประมาณร้อยละ 15 เพื่อป้องกนั เชือ้ รา ข้ันตอนท่ี 3 นามะพรา้ วที่ตากแหง้ ไปบด แล้วเก็บไวใ้ นที่มีอากาศถา่ ยเท ได้สะดวก ขั้นตอนท่ี 4 การข้ึนรปู อัดแทง่ เชื้อเพลิง โดยใชช้ วี มวลท่ีเตรียมไวใ้ น ข้ันตอนท่ี 3 มาป้อนต่อเนื่องและความคุมอัตราการปอ้ นใหส้ ม่าเสมอ เพื่อให้แทง่ เช้ือเพลิงมคี วามหนาแนน่ ใกลเ้ คียงกนั

บทท่ี 4 องค์ประกอบ ถา่ น คอื ไม้ทีไ่ ด้จากการเผาไหม้ภายในบรเิ วณท่ีมอี ากาศอยเู่ บาบาง หรอื อาจกลา่ วในทางเทคนิคก็คือ กระบวนการแยกสารอินทรีย์ภายใน ไม้ในสภาวะที่มี อากาศอยู่น้อยมาก เม่ือมกี ารใหค้ วามร้อนระหวา่ ง กระบวนการ จะชว่ ยกาจัดนั้ามัน และ สารประกอบอนื่ ๆ ออกจากไมซ้ งึ่ ผลผลติ ท่ีได้จาก กระบวนการ คอื สารตา่ งๆ ประกอบดว้ ย สารประกอบ หลักคอื คารบ์ อน (80 เปอรเ์ ซน็ ต์) นอกจากนนั้ จะเป็น สารประกอบ ไฮโดรคาร์บอน (10-20 เปอร์เซน็ ต์) เถา้ (0.5-10 เปอร์เซน็ ต์) และแร่ธาตุตา่ งๆ โดยปกติในเน้อื ไม้ทมี่ าใชเ้ ผาถา่ น 1 ตนั จะมนี ้าดิน (TAR)ซ่งึ เป็นสารก่อ มะเร็งเปน็ ส่วนประกอบอยู่ 2 สว่ น คอื น้ามันดินท่ีละลายน้า (SOLUBLETARS)190 กรมั และนา้ มันดินทีไ่ ม่ละลายน้า 50 กรัม ซงึ่ หาก เปน็ ถ่านทไี่ ม่ได้เผาดว้ ยอุณหภมู ิสงู จะมีน้ามันดินปนอยู่ เม่ือนาถา่ นนน้ั ไปทาการปงิ้ ยา่ งนา้ มนั ดนิ ก็จะระเหยออกจากถา่ นเมอ่ื โดนความร้อนและ จะเกาะตดิ กบั ไขมนั ของเนื้อสัตว์

บทที่ 5 สรปุ ผลและอภปิ รายผลการดาเนนิ การจดั ทาโครงงาน จากผลการทดสอบสรปุ ไดว้ ่าถ่านอดั แท่งจากกากมะพร้าวผสม กะลามะพรา้ วกับถา่ นอดั แทง่ จากากมะพรา้ วผสมขี้เล่ือยมีสมบัติใกล้เคยี ง กันทั้ง คา่ ความรอ้ น ปรมิ าณ ความช้ืน และระยะเวลาในการมอดดบั ซ่งึ มคี ุณสมบัตใิ นการทจ่ี ะเปน็ เชื้อเพลงิ ได้ โดยถ่านอดั แทง่ จากกาบ มะพรา้ วผสมขุยมะพรา้ วมคี ุณสมบตั ิดีกว่าถา่ นอัดพบว่า ผลที่คาดวา่ จะได้รับ 1. ได้รับความร้เู กยี่ วกับเรอื่ งทน่ี ามาเป็นเนอ้ื หาในการทาโครงงาน 2. ผู้เรียนสามารถจัดทาสื่อนาเสนอไดด้ ้วยตนเองและประยุกต์ใช้ให้เข้า กบั การเรยี นรขู้ องตนเองมากยิง่ ขนึ้ 3. ไดน้ าเอาหลกั การวทิ ยาศาสตร์มาประยกุ ต์ใช้อยา่ งมคี ุณค่าและ สรา้ งสรรค์ 4. ได้รจู้ กั การทางานเปน็ ทีม การออกแบบการทางานรว่ มกนั แผนการกาหนดเวลากาหนดการ 1. 17 สงิ หาคม 2563 ////ข้ันตอนการคัดเลือกหวั ขอ้ โครงงาน 2. 20 สิงหาคม 2563 /////ขน้ั ตอนการศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและ แหล่งข้อมลู 3. 30 สงิ หาคม 2563 /////ข้ันตอนการจัดทาขอ้ เสนอโครงงาน 4. 8 กนั ยายน 2563 /////ข้นั ตอนการลงมอื ทาโครงงาน 5.14 กันยายน 2563/////ข้นั ตอนการเขยี นรายงานและขั้นตอนการนาเสนอ งาน 6.15 กนั ยายน 2563/////การแสดงผลงานของโครงงาน

เอกสารอ้างองิ http://www.dms.eng.su.ac.th/filebox/FileData/MPM0 40.pdf


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook