Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนะนำตัวเอง ใช้ได้เลย

แนะนำตัวเอง ใช้ได้เลย

Published by makot.insawast, 2021-07-25 03:33:02

Description: แนะนำตัวเอง ใช้ได้เลย

Search

Read the Text Version

Darinee Diary.

จงทำใน \" สิ่งที่ชอบ \" และรับผิดชอบใน \"สิ่งท่ี ทำ\" เพราะ \"อดีต\" กับ \"ปัจจุบัน\" มันห่างกัน แค่ วินาทีเดียว………………………………………………………….

ค่ะ วันน้ีก็มาพบกับการแนะนำตนเองในแบบ ฉบับ ดาริณีไดอาร่ีกันค่า ก่อนอื่นเลยต้องสวัสดี อาจารย์และเพ่ือนๆทเ่ี ข้ามาดูดิฉนั นะคะ ดฉิ นั นางสาว ดาริณี เพิ่มพูน ชื่อเล่นว่าตัวเล็ก ชื่อตัวเล็กนี้มีท่มี าวา่ เม่ือตอนเดก็ ๆ ดฉิ ันเปน็ คนข้ีโรค ผอมโซมากไมโ่ ตสักที คนก็เลยเรยี กตวั เล็ก ๆ มาเรอื่ ย ๆ ค่ะ ดิฉันเกดิ วนั ท่ี 2 พฤศจิกายน 2540 ปจั จุบนั กอ็ ายุได้23ปแี ล้วค่ะ เฮอ้ ออ ไม่อยากบอกอายุเลยจริมๆ………..

1. ถนิ่ กำเนิด บา้ นเกิดของดฉิ นั นะคะ อยทู่ ่ี ต.ทา่ แร้ง อ.บา้ นแหลม จ.เพชรบรุ ี บ้านทา่ แรง้ น้ีนะคะ เรียกได้ว่าเป็นตำนานของมุสลิมใเมืองเพชรบุรี เป็น พื้นท่ีท่ีอุดมด้วยทรัพยากร ธรรมชาติ ที่เป็นตำนาน ของมุสลิมในเมืองเพชรบุรีเลยแหละค่ะ และ หมู่บ้าน น้เี องนะคะ คอื ทีม่ าของมสั ยิดกลางจงั หวดั เพชรบรุ ี ซึ่ง มีช่อื ทางอาหรบั วา่ มสั ยดิ ยามิอลุ อสิ ลามและตรงข้างๆ

มัสยิด จะมีลำน้ำไหลผา่ นกลางหมบู่ ้านซ่งึ ลำคลองแห่ง นี้แยกมาจากแม่น้ำเพชรบุรี ที่มาจากต้นน้ำเขือ่ นแกง่ กระจาน ลำคลองแหง่ นี้ ถูกชาวบา้ นเรยี กวา่ คลองท่า แร้ง ซึ่งคลองแห่งนี้ไหลลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลบางขุน ไทร นั่นเองค่ะ 90 เปอร์เซ็นต์ในหมู่บ้านนี้จะนับถือ ศาสนาอิสลาม หมู่บ้านนี้เป็นเหมือนต้นกำเนิดของ ชุมชนมุสลิม ที่กระจายอยู่หลายๆพื้นที่ของจังหวัด เพชรบุรีเราเลยแหละค่ะ เหตุผลสำคัญประการหนึ่ง เลยทท่ี ำให้ชมุ ชนชาวมุสลมิ ยังคงมีความอบอุ่นและรัก ใคร่กนั อยา่ งพี่น้อง การท่ีพวกเค้ายังคงพยายามรักษา ไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม ที่ชักชวนผู้คนใน ชุมชนให้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นการละหมาด ชาวมุสลิมเพชรบุรีส่วนใหญ่จะอาศัยหนาแน่นอยู่ใน ตำบลท่าแร้ง ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทำนาที่ตก ทอดกันมาจากบรรพบุรุษและคงมีวิถีชีวิตความ เปน็ อยู่ทเ่ี รียบง่าย

มัสยดิ ยามิอุลอิสลาม ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบรุ ี

เทศกาลรื่นเริงของชาวมุสลิมจะมีอยู่2วัน เรียกว่า เทศกาลฮารรี ายอ จะเกิดข้ึนในช่วงพธิ ีออกจากการละ ศีลอด และ การออกละหมาด ทุกๆคน ทุกๆบ้านก็จะ ออกมาร่วมฉลอง และมารว่ มละหมาดด้วยกนั ต่างคน ต่างเอาขนมผลไม้มากินร่วมกันที่มัสยิดและเป็นวัน พบปะเย่ียมญาติมิตร เพอ่ื ขอโทษที่เคยทำอะไรไม่ดีต่อ กัน ทั้งกาย วาจา ใจ แต่ในปัจจุบันเนื่องจาก สถานการณ์โควดิ จึงทำใหไ้ มส่ ามารถจดั งานวนั ฮารีรา ยอได้

และอีก1สิ่งความสวยงามของศาสนาอิสลามที่ดิฉัน อยากให้ชมนั้นคือ การแต่งงานตามหลักศาสนา อิสลาม หรือที่ชาวมุสลิมเรยี กกันว่า การนิกะห์ การนิ ก ะ ห ์ น่ั น ค ื อ ก า ร แ ต ่ ง ง า น ใ น ว ั ฒ น ธ ร ร ม อ ิ ส ล า ม เปรียบเทียบอย่างเช่น คนพุทธจะมีงานเช้าพิธีรด น้ำสังข์ คนคริสต์ก็จะมีแต่งในโบสตต์ ่อหน้าบาทหลวง มุสลิมก็เช่นกัน มีการนิกะห์ ซึ่งคือการแต่งงานตาม หลกั ศาสนานน่ั เอง

2.ครอบครัว นี่คือครอบครวั ของดฉิ นั เอง นา่ รกั ไหมคะ ? คุณพ่อของดิฉันชื่อนายยง เพิ่มพูน บ้านเกิด อย่ทู ่ี อ.พิมาย จ.นครราชสีมาคะ่ ปัจจบุ ันอายุ62ปีแล้ว ประกอบอาชพี ค้าขายอยูก่ ับคณุ แม่คะ่

สว่ นแมข่ องดฉิ ันช่ือนางมาลี เพม่ิ พนู บ้านเกิดอยู่ท่ี ต. ทา่ แร้ง อ.บา้ นแหลม จ.เพชรบุรี และนอ้ งสาวของดฉิ ันชอ่ื นางสาวลนิ ดา เพ่ิมพูน บา้ นเกดิ อยู่ท่ี ต.ท่าแรง้ อ.บา้ นแหลม จ.เพชรบรุ ี อายุ 17 ปี ปัจจบุ นั กำลงั ศึกษาอยชู่ น้ั มัธยม คกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบรุ ี

ครอบครัวดิฉัน ประกอบอาชีพค้าขายอาหารสด เช่น ไก่ ลูกชิ้นปลา ทอดมัน และของทะเล ใน ทุก ๆ ตอน เช้าเวลาตี 4 พ่อกับแม่ก็จะมาขายของในตลาดนี้แห่ง นี้ ร้านคุณแม่ดิฉันตั้งอยู่ในตลาด18เมตร ติดกับห้าง สุรยิ ะ จะเหน็ คณุ แมด่ ฉิ ันโพกผ้าคลุมหวั ตัวเล็กๆนา่ รัก ๆ นั่งขายอยู่ค่ะ ตั้งแต่ดิฉันเกิดมาจำความได้ ดิฉัน แทบจะไม่เคยเห็นแม่ดิฉันหยุดขายของเลยสักวัน นอกจากซะว่าพ่อจะพากลับบ้านเกิดเขา ที่ จ. นครราชสีมาแต่ก็นานคร้ังมาก และสถานการณ์โควดิ

ที่ในช่วงหนึ่งในตลาดถูกสั่งปดิ ไม่ใหข้ ายของเป็นเวลา ถึง2วัน วันนั้นดิฉันพึ่งจะได้เห็นแมก่ ับพ่อของดฉิ ันได้ นอนหลับกันเต็มอิ่มสักที ในสายตาดิฉันแล้วแม่หนู เป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่งมากเลยค่ะ จากช่วงเช้าจะ ขายอยู่ในะตลาดใช่ไหมคะ ก็จะมีบางวันในช่วงบา่ ยก็ จะออกไปขายตามตลาดนัดบา้ ง



ถ้าวนั ไหนดิฉนั ว่างๆดิฉันกจ็ ะไปขายของกบั แม่ ขายใน ตลาดนัดกับในตลาดสดเพชรบุรีมันต่างกันมาก ดิฉัน เคยไปช่วยแม่ขายของทัง้ สองที่น้ี ความยุ่งยากวุ่นวาย มันต่างกนั อยา่ งในตลาดเชา้ จะมคี วามว่นุ วายมากกว่า ค่ะ เพราะสว่ นมากจะเป็นลูกค้าทีม่ าสัง่ ของเยอะๆเพื่อ จะนำไปประกอบอาหารขายอาหารตามสั่ง ก้มหน้า หยิบของทำของให้ลูกค้าหัวหมุนเลยทีเดียว เงยหน้า ข้ึนมาอีกทีทอ้ งฟ้าสว่างแล้ว ส่วนในตลาดนัดช่วงบา่ ย ก็จะมาซื้อของไปทำกับข้าวกันอย่างละนิดละหน่อย บอกเลยว่า ถ้าดิฉันไม่เคยได้ลองตื่นแต่เช้ามืดไปขาย ของกับแม่ ดิฉันก็คงจะไมส่ ามารถรบั รู้ได้ว่าพ่อกับแม่ เหน่ือยและลำบากมากแค่ไหน ที่จะต้องหาเงนิ มาเล้ียง ครอบครวั และสง่ เสียเราเรียนตั้งแต่เรายังเด็ก ด้วยการ ยึดอาชีพค้าขายที่กำไรก็ไม่ได้มากมาย แต่เป็นความ ภูมิใจท่ีเป็นอาชีพทสี่ ุจรติ

3.การศกึ ษา ดิฉันเรียนอนุบาลและประถมศึกษาที่โรงเรียน บา้ นท่าแรง้ ( สหราษฎร์ ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนคงคาราม เรียนใน ระดับชั้นประกาศนียบัตรวชิ าชีพข้นั สงู ที่ วทิ ยาลัยการ อาชีพบ้านลาด ปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับชั้นปริญญาตรี ปี 2 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี คณะวิทยาการ จดั การ สาขาบรหิ ารธุรกจิ แขนงการตลาดดจิ ทิ ัล

ชีวิตในวัย ม.ต้นของดิฉันนะคะ ชีวิตในตอนนั้น บอก เลยว่าซนไดก้ ารเอาเลยทเี ดียว ก่อนหน้าน้ันทีจ่ ะได้เขา้ มาเรียนในเมือง ดิฉันก็เรียนอยู่ที่ท่าแร้งโรงเรยี นแถว บ้านตอนนน้ั บอกเลยว่า เวลาวา่ งจะเขา้ ห้องสมุดชอบ ไปนั่งอ่านหนังสือนิทานอะไรไปเรื่อยเปื่อย สมัยนั้น เน่ยี ก็ยงั ไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่เข้ามาสักเท่าไหร่ แล้วก็ ชอบไปช่วยงานอาจารย์ จัดห้อง จัดแฟ้ม ชอบอยู่กับ อาจารย์ที่ใจดี ทำให้จิตใจเราแจ่มใสมาก แต่พอได้มา เข้าเรียนในเมอื ง อะไรท่ไี มเ่ คยพบเจอกไ็ ดเ้ จอ แล้วมัน ก็ทำให้เราหลงใหลไปกับสิ่งใหม่ๆ จากที่เราไม่คิดจะ แต่งหน้าทาปากไม่คิดอยากจะซอยผมที่ผิดระเบียบ ตัวดิฉันเนี่ยคือชอบแหกกฎของโรงเรียนมากในตอน ม.ต้น ดิฉันก็จะมีกลุ่มเพื่อนที่แบบว่าไม่เอาเรียนกัน เลยและตัวดิฉันก็ไม่สนใจเรียนมากในตอนนั้น การ เรยี นไม่ตอ้ งพูดถงึ ติดศนู ยแ์ ทบทกุ วิชา แต่กย็ ังทำตัวช สบายๆไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ห้องปกครองไม่ต้องพูด

ถึงค่ะ ได้เข้ามันทุกปี โดยเฉพาะเรื่องโดดเรียน ไม่เข้า ชน้ั เรยี น และเร่อื งทำทรงผมผิดระเบยี บ ก็คือซอยผม นั่นเองค่ะ แต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะววิ าทกับใครนะคะ ตลอดเวลาตอนอยู่มอต้นจะโดนเรื่องทรงผมแล้วก็ เรอื่ ง โดดเรยี นอยู่บ่อยๆจนเดือดร้อนผ้ปู กครองตอ้ งมา พบอาจารยอ์ ยู่หลายครั้ง



และในชีวิตช่วงอยู่ตอน ม.ปลาย ตอนที่ดิฉันขึ้น ม. 4 ใหม่ ๆ ดิฉันตั้งใจไว้ว่าจะตั้งใจเรียนจะขยันเรียนให้ มากๆ แต่สดุ ท้ายก็วนเข้าสู่ลูปเดิม ๆ ค่ะ เพราะความ ไมข่ ยันขันแขง็ แล้วกไ็ ม่สู้ไม่อดทน จนทำใหไ้ ม่อยากจะ เรยี น วชิ าไหนทไ่ี มอ่ ยากเรียนก็ไมเ่ รียน ก็โดดเรียนอีก ตามเคย แลว้ บวกกบั ในตอนเรียนในโรงเรียนคงคาน้ัน ดิฉันต้องซ้อมกีฬาไปควบคู่กันด้วยมันก็เลยกลายเปน็ ความคิดที่ว่าทำไม มันปวดหัวจัง เรียนก็ปวดหัวแล้ว แล้วก็ต้องมาซ้อมกีฬา ยอมรับว่าในตอนนั้นดิฉันไม่ เคยคิดที่จะบริหารจัดการเวลาตัวเองให้ดีเลย ทำให้ คะแนนผลการเรยี นไม่เคยจะออกมาดเี ลยสกั ปี ในช่วง ระยะเวลาตอนที่อยู่มัธยม แต่จะว่าไปนั้น ดิฉันชอบ เล่นกีฬา เปน็ ชีวิตจติ ใจ มนั สนุกมนั ไม่เครยี ด จนเรียก ไดว้ า่ เรยี นไมเ่ คยมากีฬาไมเ่ คยขาด.............



และตอนอยู่ในนั้นดิฉันก็ได้เป็นนักกีฬาตะกร้อตัว โรงเรียนแล้วก็เป็นตัวแทนเยาวชนจังหวัดเพชรบุรีไป แข่งขนั ระดับภาคด้วยคะ่ ตอนอยทู่ ี่โรงเรียนคงคาราม ดิฉันไปแข่งขันกีฬาตะกร้อที่ต่างจังหวัดอยู่บ่อยมาก ตั้งแต่อยู่ ม.ต้นจนไปถึง ม.ปลาย ดิฉันได้ไปแข่งมา หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นระดับจังหวัด ระดับตัวแทนเขต อันนี้ก็เป็นอกี สิง่ หนึ่งค่ะ ที่ตอนเรียนอยูท่ ี่นัน่ เราก็ยงั ทำประโยชน์ใหก้ ับโรงเรยี นไดเ้ หมือนกัน

ชวี ติ ทเี่ ปลีย่ นแปลงไป….. และนี่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงดิฉันไป อย่างมาก ก่อนหน้านี้ดิฉันตั้งใจไว้ว่าถ้าเรียนจบมอ ปลายแลว้ จะศึกษาต่อในคณะที่เก่ยี วกับการเล่นกีฬา นั่นก็คือคณะคุรุศาสตร์เอกพละศึกษานั้นเอง แต่ เน่ืองจากว่าดิฉนั ไดล้ งสมัครเรยี นไปช้ามาก ทำให้คณะ น้เี ต็ม จึงไมส่ ามารถสมัครลงเรียนได้ และคิดว่าดิฉันก็ ยงั ไมร่ ตู้ วั เองวา่ ถา้ ไมไ่ ดเ้ รียนคณะน้ีแล้วเราจะไปเรียน

คณะอะไรต่อไปดี ในตอนนั้นน่ะค่ะ มันเหลือกับว่า คณะเอกศิลป์ และเอกครูภาษาไทยทีย่ ังมีลงให้สมคั ร ไว้ได้ แต่ว่ามันไม่ใช่ทางของดิฉันเลย ดิฉันก็ไม่ได้ลง เรียนอนั ไหนไปเลยคะ่ ดฉิ นั กก็ ลวั ว่าจะเสียเวลาไปโดย เปล่าประโยชน์ จนมาปรึกษากับคนที่รูจ้ ักเคา้ แนะนำ ว่าให้ไปเรยี นตอ่ ในระดบั ชน้ั ปวส.นไี้ ปก่อน ดฉิ ันก็เลย ไปขอคำแนะนำจากเพือ่ นๆวา่ ปวส. มีสาขาอะไรบ้าง ปรากฏว่าในตอนนั้นเนี่ยมันมีสาขา การจัดการทั่วไป บัญชี คอมธุรกิจ การท่องเที่ยวและโรงแรม ไฟฟ้า และชา่ งยนต์ ตอนนน้ั ดฉิ ันกเ็ ลยเลือกเรียนการจัดการ เพราะคิดว่ามันคงจะงา่ ยที่สดุ ดิฉันเลยคดิ ว่าเรียนๆไป ก่อนเพื่อไม่ให้เสียเวลาก็เลยมาเรียนต่อ ในระดับ ประกาศนบี ตั รวชิ าชีพขัน้ สงู ทว่ี ิทยาลัยการอาชีพบ้าน ลาดค่ะ



แต่พอเม่อื มาได้เรยี นในสาขานแ้ี ลว้ กร็ สู้ ึกว่าตวั เองเร่ิม มีความสนใจในสาขานี้เหมือนกัน มันเป็นสาขาท่ี ครอบคลุม เกี่ยวกับจัดการทั่วไปเลย ไม่ว่าจะเป็น จัดการตลาด จัดการองค์กร จัดการธุรกิจระหว่าง ประเทศ จดั การโลจิสติกส์ ซัพพลายตา่ งๆ มนั ดูว่ารสู้ ึก มีอะไรที่น่าค้นหามาก จนกระทั่งเรียนจบดิฉันก็หยุด ไว้หนึง่ ปี เพื่อไปทำงานเก็บเงินมาเรยี นต่อในในระดบั ปริญญาตรีในปีหน้าก็คือ ปี 2563 เป็นปีที่ดิฉันได้เข้า มาเรียนเม่ือปีท่ีแล้วนัน่ เอง ในระหว่างนั้นก่อนใกล้จะ เปิดรับสมัครนักศึกษาอีกรอบหนึ่งในปี 2563 ดิฉันก็

ได้ค้นหาข้อมูลมาพอสมควร ดูคณะที่เค้าเปิดรับว่ามี สาขาอะไรบ้างที่จะเกี่ยวพันกับสาขาที่เราเรียนมา แน่นอนมันมีสาขา จัดการทั่วไปเหมือนกัน แต่เม่ือ ดิฉันลองมาคิดอีกทีในความคิดของดิฉันสาขาจัดการ ทั่วไปมันเรียนครอบคลุมทุกอย่างก็จริงแต่ว่าใน ความคดิ ของดิฉนั เหมอื นรู้เยอะแตร่ ู้ไม่ค่อยเจาะลึกสัก เท่าไหร่ ดฉิ ันจงึ มาดสู าขาอกี ทีว่าดฉิ ันอยากจะเจาะลึก เข้าไปในสาขาไหนที่ดิฉันมั่นใจว่าถ้าเรียนแล้วจะเป็น ผลดีกับตัวเองมากที่สุดและตัวเองถนดั มากที่สุด ก็คง ไม่พ้นสาขาการตลาด เพราะดิฉันก็เคยขายของ ออนไลนก์ ระจกุ กระจิกมาบ้างนิดหนอ่ ยแตด่ ฉิ นั ร้ตู ัวว่า คุณสมบัติของตัวเองก็ยังขาดอีกหลายด้าน ที่จะมา เรียนในสาขานี้ โดยเฉพาะเรื่องของการมีความคิด สร้างสรรค์ ดิฉันมั่นใจและหวังไว้เหมือนกันว่าสาขา การตลาดจะนำพาให้ดิฉันเก่งขน้ึ พฒั นาตวั เองขึ้นและ มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากขึ้น ดิฉันจึงลงเลือก

สาขาวิชาน้ี แต่เมื่อมาถึงตอนเปิดเรียนจริง ๆ กลับ ต้องมาเจอกับสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้มีวิถีชีวติ ที่ เปลี่ยนแปลงไป และทำให้ได้รับประสิทธิภาพในการ เรียนได้ไม่เต็มท่ี ในช่วงแรกๆยังต้องเจอกับ การเรียน ในรปู แบบออนไลน์ การประฐมนิเทศแบบออนไลน์ จึง ทำให้ไม่ได้พบปะหรือพบเจอกับเพื่อนๆ ในช่วงแรกๆ ได้เลย จึงทำให้ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนๆใน ช่วงแรกๆ แต่โชคดีท่ีตอนนั้นยังควบคุมการระบาด ของโรคโควิด-19 ทางมหาลยั ในตอนน้ันจงึ มีการเรียน เป็นรูปแบบการเรียนผสมผสาน ก็จะมีการเข้าเรียน ออนไลนบ์ ้าง บางครง้ั ก็จะเขา้ ไปเรยี นในมหาวิทยาลัย บ้าง ทำให้ได้เจอเพื่อนๆและสร้างความสัมพันธ์กับ เพือ่ นๆได้

4.อาชีพทเ่ี คยทำ เปน็ ตัวแทนขายครมี ออนไลน์

ตวั แทนขายอินเทอรเ์ นต็ บา้ นของ บริษทั ทรู คอเปอเรชน่ั

5. ยามวา่ งจากการเรยี น งานอดิเรกทเ่ี คยทำ ก็จะมีขบั Food Delivery จากบริษทั Grab ออก กำลงั กาย ฟังเพลง กอ่ นอื่นที่ดิฉัน อยากทำงานนนี้ ะ คะ เพราะเห็นวา่ งานขับ grab food มันเป็นงานที่ แบบฟรแี ลนซ์ สบายๆ ทำงานเหมอื นไดไ้ ปเท่ยี วค่ะ ได้ ไปสง่ อาหารหลาย ๆ ท่ี แลว้ กไ็ ดพ้ บปะผูค้ นเยอะแยะ มากมาย แต่กเ็ จอปญั หาอปุ สรรคหนา้ งานบ้าง ก็ถอื เป็นความท้าทายในชีวิตเรา อยา่ งเช่นไปสง่ ของให้ ลูกคา้ แล้วก็ไม่พบเจอลูกค้า เจอแดดทีม่ ันรอ้ นมากๆ บา้ ง เจอรา้ นค้าทำอาหารนานบา้ ง รา้ นปิดแตไ่ มป่ ิด ระบบ เรากจ็ ะเสียเวลามารบั ออเดอรฟ์ รีแตก่ ส็ นกุ ดีคะ่ ดิฉันจะทำแค่เฉพาะตอนเวลาท่วี ่างจรงิ ๆ เทา่ น้นั นะ คะ ถา้ เกิดสมมตุ ิว่ามีเรียนมกี ารบา้ นก็จะรบี เคลยี ร์ การบ้านใหเ้ สร็จก่อนแล้วถึงจะออกไปขบั ได้



และอกี หนง่ึ งานอดิเรกของดิฉันก็จะเป็นการออกกำลงั กาย กค็ ือการไปเข้า Fitness

เวลาทด่ี ฉิ นั ปวดสมองกับการเรยี นอยา่ งเชน่ นัง่ ฟงั อาจารย์ที่ สอนวชิ าทเ่ี ราคดิ วา่ มนั ยากแล้วมนั ไมร่ สู้ ึก Relax เลย ดฉิ นั ก็ จะรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก หรือ ไปขับ Grab มาเป็น เวลานาน ๆ เรากจ็ ะรู้สึกปวดหลงั ดิฉนั จะไม่กลับมานอนพกั เพราะเคยลองนอนดูแล้วตื่นขึ้นมามันยิ่งทำให้เรางัวเงีย อ่อนเพลียไม่อยากจะทำอะไร และทำให้อยากนอนต่อไป เรื่อย ๆ ดิฉันจึงแก้ปัญหาโดยการไปออกกำลังกาย เข้าฟิต เนส วิ่งตามสนามกีฬาบ้าง วิ่งแถวบ้านบ้าง ประมาณ 30 – 60 นาที การที่เราได้ออกกำลังกายแล้วมีเหงื่อ มันจะทำให้ เรารู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวย แล้วก็ทำให้สมองเราปลอด โปร่ง คิด จัดระเบียบวางแผนการใช้ชีวติ ในวันต่อไปได้อย่าง ดี และข้อดีของการออกกำลังกายอีกอย่างหนึ่งสำหรับดฉิ ัน นัน้ คือการไดน้ อนหลับอยา่ งสบายน่ันเองคะ่

นี่ก็จะเป็นภาพงานวิ่งที่ดิฉันไปมานะคะ ดิฉันเคยวิ่ง ระยะไกลมาตง้ั แตเ่ ดก็ แล้ว ตอนเด็ก ๆ พ่อก็จะเปน็ คนพาไป วิ่งตามสนามที่เขาจัดรายการแข่งขัน พอโตมาก็ชอบไป สมัครงานวิ่งลงรายการแข่งขันต่าง ๆ บางทีก็ไปแข่งขันได้

รางวัลมาบา้ ง แลว้ กบ็ รรยากาศในงานวิ่งคะ่ ทำให้เราได้พบ เจอผู้คนมากมายแล้วกม็ ิตรภาพที่มีความจรงิ ใจ ไมว่ า่ จะเปน็ รุ่นเดียวกันกับเราหรือว่ารุ่นคุณลุงคุณป้า รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา ในมิตรภาพในวงการว่ิงคือมันเป็นอะไรทีร่ ู้สึกได้ถึงความรัก ความจริงใจอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ ฮั่นแน่ !! สนใจอยากไป วิ่งในงานกันใช่ไหมคะ ? ก็ถ้าได้มีโอกาส ลองไปสมัครดูนะ คะ และจะพบวา่ มติ รภาพทีด่ นี ั้นก็มีอยู่ในงานวง่ิ คะ่ รางวัลที่เคยไดร้ ับในงานวง่ิ



และเป็นอกี หนึ่งเปน็ งานอดิเรก กค็ ือจะไปเลน่ กฬี าตะกรอ้

แลว้ ก็เปน็ งานอดเิ รกอกี งานหนงึ่ กค็ ือจะไปเลน่ กฬี าตะกรอ้ ค่ะ ดิฉนั ว่างๆกจ็ ะไปเล่นกับคณุ พ่อดิฉันนะคะ แต่ช่วงน้ีจะได้ เลน่ น้อยลงมาก เนื่องจากไมค่ อ่ ยมเี วลาไปเล่นค่ะ กฬี า ตะกร้อก็เหมอื นกบั การฝึกสมองอยา่ งหน่ึง และยังมคี วาม สนกุ สนานมาก ดิฉนั ชอบเลน่ กีฬาตระกร้อมาต้งั แตเ่ ด็กแล้ว และกโ็ ชคดีท่พี อ่ ดฉิ นั สอนเล่นมาตง้ั แตเ่ ดก็ ๆ ดฉิ ันจะเลน่ ตะกรอ้ กบั พอ่ อยู่ประจำแตเ่ ด็กถงึ ตอนโตเลยแหละคะ่

6.เกรดทองของชวี ติ 1. การทเี่ ราไดเ้ กิดมามีอวยั วะครบ 32 ถือว่าเป็น เรอื งโชคดีแลว้ แตจ่ ะโชคดกี วา่ นั้นหากเราสามารถรักษามัน ไวไ้ ดต้ ราบจนมันหมดหน้าทข่ี องมนั ไป พร้อมกับลมหายใจ ของเรา ยงั มีคนอกี มากมายทเ่ี กดิ มาไมค่ รบ 32 แต่พวกเขาก็ ยงั ตอ่ ส้กู บั ชวี ติ และมที ัศคตทิ ดี่ ตี ่อโลกใบนี้

2. การมคี รอบครวั ทอี่ ยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่าง มีความสุข สำหรับดิฉันมันเป็นอะไรที่ดีมากๆ อย่างเช่น ครอบครัวดิฉัน ไม่ได้ร่ำรวย แค่พอมีพอกิน แต่ได้อยู่กัน อยา่ งพร้อมหน้าพรอ้ มตา มีเวลากินขา้ วพร้อมกนั 3. การศึกษาเล่าเรียน ถ้าเรามีโอกาสได้เรียนต้อง เรียนให้เต็มท่ี ยังมีคนอีกมากมายที่อยากเรียนหนังสืออีก มากแต่ไม่ไม่มโี อกาสไดเ้ รียน 4. การเข้าใจผู้อื่น อย่างตัวดิฉันเองเคยมี ประสบการณ์ การดูแลคนอืน่ อยา่ งเช่นการดแู ลผูส้ ูงอายุค่ะ ขอยกตัวอย่าง แม่แฟนของดิฉัน ต้องบอกก่อนว่าแฟนของ ดิฉนั ค่ะ คบหากันเปน็ เวลา 5 ปีแล้ว แตย่ ังไม่ไดแ้ ต่งงานหรอื หมั้นกันนะคะ เราผ่านช่วงเวลาการมีความสุข และความ ทุกข์ความลำบากด้วยกันมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะวา่ เรา ทั้งคู่ศีลเสมอกันเลยคบกันได้นาน นั่นก็คือความใจเย็นของ กันและกัน มีอะไรก็จะคอยช่วยเหลือกันมาตลอดค่ะ ครอบครัวของแฟนดิฉันเหลือแค่แม่เขาแค่คนเดียว แฟน ดิฉันก็จะอยูก่ ับแม่ของเขาแค่ 2 คนคะ่ ทุก ๆ เช้าแฟนดฉิ นั ก็

จะต้องไปทำงานดิฉันก็จะเป็นคนทค่ี อยดูแลแกเมือ่ กอ่ น แม่ แฟนดิฉันแกเป็นเหมือนโรคซึมเศร้า แล้วก็ไม่ค่อยแข็งแรง ทำอะไรไม่ค่อยได้ นอนติดเตียงอยู่ตลอดไม่ลุกไปไหน เค้า จะพูดตัดพ้อชีวิตเขาทุกวัน และเค้าก็คิดว่าตัวเองเนี่ยเป็น ภาระคนอืน่ ดฉิ ันก็จะพูดใหก้ ำลังใจเขาเสมอบวกกับการทำ ใหเ้ คา้ เห็นโดยการทด่ี ิฉันจะดูแลเขาบ่อยๆ หาขา้ วหาปลาให้ เค้ากินทุกวัน อย่างเช่นในทุกๆเช้า ดิฉันจะไปหาซื้อข้าวมา ให้เขากิน จะซักผ้าตากผ้าให้เขาในชว่ งที่ตัวเค้าไม่มีแรงที่จะ ทำอะไร อย่างนอ้ ยเคา้ กย็ ังรู้สึกไดว้ า่ ในวนั ทีเ่ ขาไม่เหลือใคร เขาก็ยังมเี ราที่เข้าใจเขาอยู่ขา้ งๆเขาค่ะ แต่ปัจจุบันแมแ่ ฟน ของดฉิ นั อาการดีข้นึ เยอะมากแล้วนะคะ

น่คี อื แม่ของคนทดี่ ิฉันกำลังคบหากนั อยูค่ ่ะ ตอนน้ี ท่านแข็งแรงข้ึนมาก ๆ แลว้ นะคะ

7.ชีวติ ครอบครวั ความสัมพนั ธ์ในครอบครัวของฉัน ครอบครัวของดิฉันรักกันมาก แม่ก็เป็นคนที่น่ารักยิ้มแย้ม แจ่มใสค่ะ ส่วนพ่อก็เป็นคนอารมณ์ดีชอบเล่นกับลูกแต่ อาจจะมีการไมเ่ ข้าใจขึ้นมาบ้างเนือ่ งจากว่าพ่อดิฉันเปน็ คน หัวโบราณหนอ่ ยนึง พ่อกับแม่ดิฉันสอนให้ดฉิ ันประหยัดอด ออมอยู่ตลอด ดิฉันรักครอบครัวนี้มากที่สุดเลยเป็น ครอบครัวท่ีเรียบงา่ ย ทุกวันที่ดฉิ นั ไปเรยี นหรือทำงานเสรจ็ กลับมาบ้านเราก็จะมากนิ ข้าวพร้อมหน้าพรอ้ มตากันทุกวนั ในตอนค่ำ พ่อกับแม่จะรอกินข้าวอยู่ตลอดเลยค่ะ นิสัย ส่วนตัวของคุณพ่อเนี่ยอาจจะขี้บ่นแต่ลึกลึกแล้วคือเค้ารัก และเป็นห่วงดิฉนั มาก อยา่ งเชน่ ถา้ ดฉิ ันทำงานเสร็จกลับเข้า บา้ นมดื เกินบางวันเคา้ กจ็ ะโทรตามแล้วคะ่ แต่..การเปน็ ห่วง ของเขา เขาจะไม่มานั่งบอกว่าเค้าเป็นห่วงค่ะ เค้าไม่ค่อย แสดงออกว่าเค้าเป็นห่วงสักเท่าไหร่เพราะอาจจะแบบเขิน ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย แต่อาจจะแสดงออกมาเป็นการ บ่น ซึ่งดฉิ ันกร็ ู้ดคี ่ะวา่ พ่อเป็นห่วงเรามาก



ความภูมใิ จเลก็ ๆ น้อย ๆ ในชีวิตของดฉิ นั 1.เปน็ ภาพในวยั เด็กที่ดิฉันกำลงั ว่งิ เขา้ เส้นชัยแลว้ กม็ ี ผู้ใหญ่ช่ืนชม ในวันน้นั น่ะดฉิ ันร้สู กึ มีความสขุ มากๆทม่ี ผี ู้ใหญ่ มาเชยี รใ์ หก้ ำลงั ใจเรา

2.ภาพท่ีสองก็จะเป็นภาพท่พี อ่ ดิฉันกำลังผกู เชอื ก รองเทา้ ใหก้ อ่ นลงแขง่ ขันกีฬาตะกรอ้ ค่ะ ดิฉนั ชอบรูปภาพน้ี มาก เพราะมนั แสดงถึงความท่พี ่อเอาใจใสต่ ่อเรา เมอ่ื มกี าร แขง่ ขันกฬี าตระกร้อทกุ ครัง้ ค่ะ พอ่ ดฉิ นั กจ็ ะมาตามดตู ลอด ไมว่ า่ ดิฉนั จะไปแขง่ กฬี าทไี่ หนถ้าไม่เปน็ จังหวดั ท่ีไกลเกนิ ไป พ่อดิฉนั จะตามไปดูข้างๆสนามตลอด ทำให้ดิฉันสมั ผสั ได้ถงึ ความรกั และความเป็นห่วงของเขามนั เป็นความภมู ิใจอยา่ ง หนง่ึ ในชีวิตท่ีมีพอ่ คนนี้ คนทไี่ ม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เชื่อวา่ พอ่ ของดฉิ นั มคี วามรกั และความจริงใจให้ดิฉันอยา่ งมากท่ีสุด

3. เปน็ ภาพทพ่ี ่อกำลงั ฝึกซ้อมตะกร้อใหก้ ับเรา ถา้ ดฉิ นั ไมม่ ี พอ่ คนนี้ แน่นอนคะ่ ดฉิ นั จะไม่ร้จู ักกบั ความอดทนในชวี ิตเลย เพราะว่าในครั้งทซี่ ้อมเนี่ยมนั แลกกับความเหนด็ เหนื่อยมา เป็นอย่างมาก

4. เป็นภาพท่เี กดิ จากการเกดิ อุบตั ิเหตุรถล้มกระดกู ไหปลา รา้ หัก ภาพนี้เป็นความภมู ใิ จในชวี ติ โดยท่ีดฉิ นั ไมค่ ิดจะหยุด ทจ่ี ะฝึกซ้อมในส่งิ ท่ีฉันรกั ถึงแมว้ า่ อาจจะเกดิ อุบตั เิ หตแุ ล้ว ทำให้การใช้ชวี ิตลำบากก็ตาม

สำหรบั ดฉิ นั แล้วในมมุ มองชวี ิตใน4รปู ภาพความภมู ใิ จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตที่ดิฉันได้มานำเสนอลที่ตรงน้ี ดิฉันคิดว่า ใน วัยเด็ก เมื่อเราทำอะไรสำเร็จ อย่างเช่น ตักข้าวกินเองได้ ผู้ใหญ่ก็มัก จะชื่นชมดอี กดใี จ แต่เมื่อเราโตขึ้น คำพูดคำชม จะไม่มีอีกต่อไป มีแต่คำพูดที่อาจจะบั่นทอนจิตใจหรอื เป็น แรงผลักดนั ให้เราใช้ชวี ติ อย่างรอบคอบตอ่ ไปขา้ งหนา้ และ สุดท้ายก็ไม่มีใครรักและห่วงใยเราดไี ปกวา่ ครอบครัวเราอกี แล้ว……….

8.ของฝากจากประสบการณช์ วี ติ เรา ส่ิงแรกทฉ่ี ัน อยากจะพดู ถงึ คือ 1.การทำดกี ับคนทีเ่ รารักใหม้ ากๆ เพราะว่าชวี ิต คนเรานน้ั มันสัน้ นกั เราไมร่ ู้ว่าตัวเราหรือคนทีเ่ รารกั เนี่ยจะมี ชีวิตอยไู่ ดถ้ ึงวนั ไหน 2. การเรียน เมอ่ื ถ้ามโี อกาสไดเ้ รียนกต็ อ้ งเรยี นให้ มันเต็มท่ีเวลาเลน่ กเ็ ลน่ ใหเ้ ต็มท่ี อยา่ ทำให้มนั ขาดทนุ กบั ชีวติ 3. ดแู ลรกั ษาสขุ ภาพตวั เองใหม้ าก ๆ เพอ่ื ทเี่ ราจะได้ อย่ดู ูแลคนทีเ่ รารกั ไปได้ตลอดนาน ๆ 4. อยากทำอะไรให้รีบลงมือทำ เราอาจจะเสียใจ หรือวา่ เสยี เงิน แต่ทัง้ สองอย่างนี้ เราสามารถเอากลับคนื มา ได้ แตห่ ากว่าเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่วา่ ยังไง เรา เอากลบั คืนมาไมไ่ ด้ อยากทำอะไรให้ทำเลย 5. อย่าจมอยู่กับสิ่งๆเดิม ที่ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น คือ การก้าวออกมาจากความเคยชินน่ะค่ะ อาจจะเป็นเร่ืองยาก และทำไม่ให้มั่นใจ แต่ถ้าอยู่แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ก็กัดฟันสู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook