ปลดปล่อยเป็นพลังจริงเพ่ิมขึ้นเร่ือยๆ ด้วยเครื่องมือ 9 ข้อ 5 ช่องและยัง ไดอ้ ีกอย่ำงไมม่ ีที่สน้ิ สุด เมื่อกระจก 4 บำน ทำใหท้ ่ำนรู้วำ่ ท่ำนมีพลงั แฝง และช่วยปลดปลอ่ ยพลังแฝงของท่ำนออกมำได้แล้ว ท่ำนก็จะพบวำ่ รอบๆ ตวั ท่ำน ทเ่ี รำเรียกวำ่ \"จุดแข็งของบ้ำนนอก\" ก็มีพลงั แฝงอยูม่ หำศำล ใน รูปของทนุ ทำเองขอ้ 7 และทุนรว่ มมอื ภำคีขอ้ 8 เม่อื ท่ำนปลดปล่อยควำมคดิ ที่เคยเปน็ พลังแฝงออกมำเป็นพลังจรงิ พลงั จรงิ ของท่ำนก็ไป ปลดปล่อยพลังแฝงของจดุ แข็งบ้ำนนอกออกมำ เป็นของกนิ ของใช้ สนิ ค้ำและบริกำร ปลดปล่อยพลงั แฝงของมือถอื ท่ี เคยใชแ้ ต่ ดูหนังเล่นเกมส์ มำเป็นกำรช่วยค้นคว้ำ มำช่วยค้ำขำย แทน ปลดปล่อยโครงกำรของรัฐที่เคยถูกเรียกเปรยี บเปรยว่ำ\"เป็นเหมอื น อนุสำวรียใ์ นหมู่บ้ำน\" ใชง้ บประมำณแบบ ท้ิงๆ ขว้ำงๆ ไม่ถูกเรอื่ ง ไม่ถูก ท่ี ไม่ถกู เวลำ ก็จะถกู นำมำใช้อยำ่ ง ถูกเรอ่ื ง ถกู ที่ ให้ถกู เวลำ ตำม cbmc ขอ้ ที่ 8 ก็เป็นกำรนำอนสุ ำวรยี ก์ ำรพฒั นำ ฟนื้ กลบั มำใช้ ประโยชน์ใหเ้ กดิ มรรคเกิดผลได้ อย่ำงจรงิ จงั เปน็ ต้น สรุป cbmc 9 ข้อ 5 ช่อง ปลดปล่อยพลังแฝงเรำให้เรำไป ปลดปล่อยพลงั แฝงรอบตวั มำเปน็ พลงั จริงทีส่ รำ้ งสรรคน์ ่ันเอง แล้วทำไม พลังแฝงขณะเปน็ มวยวัดจงึ ไมแ่ สดงออกมำได้มำกเทำ่ ตอนเร่มิ เปน็ มวย อำชีพวันน้ี เหตุเกิดจำกกำร \"ถูกกดทับทำงสังคม\" ทำให้เรำคดิ ว่ำ \"เรำ ไม่เกง่ เรำทำไมไ่ ด้ เรำไม่มโี อกำสเหมือนเขำไมม่ ีบญุ วำสนำ เรำเรียน นอ้ ยฯลฯ\" (อ่ำนเพ่ิมเติมในขอ้ ตดิ ชวนคุย (1)) เรำจึง \"ยอมจำนน\" กลัว กำรเปลี่ยนแปลง ท้อแท้ ผลัดวันประกันพรงุ่ ขเ้ี กียจ ขำดควำมมั่นใจท่จี ะ ทำส่งิ ที่ 'ไมค่ ุ้นเคย' เรยี กว่ำ หลบอยใู่ น comfort zone จะทำเฉพำะท่ี คนุ้ เคยมนั่ ใจ แสดงว่ำ พลงั ถูกแสดงออกมำแค่เทำ่ ท่ี \"ม่นั ใจ\" แตย่ ังมี พลังแฝงอกี มำกมำยที่ทำ่ นทำไดแ้ ตไ่ ม่รูว้ ่ำตนทำได้ จึงยังไม่ไดท้ ำ =ยังมี พลังแฝงหรอื ศกั ยภำพในตัวท่ำนและรอบๆตวั ทำ่ นอีกมำกมำยท่ยี ังไม่ถูก ปลดปลอ่ ยนำมำใช้นั่นเอง ยักษ์ในตะเกยี งวิเศษช่วยทำ่ นปลดปลอ่ ยพลัง แฝงเหล่ำน้นั ได้ cbmc มงุ่ ปลดปล่อยพลงั แฝงของคนจิตสำธำรณะ เพือ่ มุง่ ใหค้ นจิตสำธำรณะ ปลดปลอ่ ย
1. พลงั แฝงคนจิตสำธำรณะรอบตัว 2. ปลดปล่อยพลังแฝงของจุดแข็งควำมเป็นบ้ำนนอก ให้ออกมำเป็น พลงั งำนทส่ี รำ้ งสรรค์เพ่ือควำมผำสกุ รว่ มกันถึงรุ่นลูกรนุ่ หลำน กำรบำ้ นขอ้ ที่ 1 พเี่ ลี้ยงมบี ทบำทตอ่ ควำมสำเร็จในกำรเรยี นของทำ่ น 6 วนั 25 ก.พ.- 2 ม.ี ค. 2565 ที่ผ่ำนมำอย่ำงไร ตอบ ชว่ ยส่งเสรมิ ในดำ้ นต่ำงๆไม่ว่ำจะเป็นควำมรคู้ วำมเข้ำใจ เปิด มุมมองในตวั สินค้ำเสนอแนะแนวทำงทคี่ วรมหี รือควรทำเพิม่ เติม เสริมแรงเมื่อมีกำรสง่ กำรบ้ำนของผ้เู ข้ำร่วมอบรม กระตุน้ ให้มกี ำรแสดง ควำมคดิ เหน็ ในห้องเรียน กำกับติดตำมผู้เข้ำรว่ มอบรม สร้ำงควำมเปน็ กันเอง ด้วยบทบำทในลักษณะนจ้ี ึงมีส่วนทำให้ผเู้ รียนเขำ้ ใจและ สำมำรถทำแผนธรุ กจิ เพื่อชุมชนได้ กำรบำ้ นขอ้ ที่ (2) \"โครงกำรเชงิ พฒั นำจำนวนไมน่ อ้ ย ชำวบำ้ นทำตำมที่ โครงกำรบอกให้ทำอะไรกท็ ำจบโครงกำรชำวบำ้ นกเ็ ลกิ ทำ หลังจำกนั้นชำวบ้ำนก็หนั ไปปฏบิ ัตติ ำมรูปแบบเดมิ ท่ตี นคุ้นเคย เหมอื น ไม่เคยมีอะไรเกิดข้ึน เทำ่ กับวำ่ โครงกำรนั้นไม่ได้ก่อผลเชิงพัฒนำอย่ำง จริงจัง\" เคยมีเหตุกำรณ์แบบนใี้ นหม่บู ้ำน หรือเคยพบในชุมชนของทำ่ น หรือไม่? แลว้ ท่ำนรูส้ ึกอยำ่ งไร? จะเรียกว่ำ เป็นกำรพฒั นำท่ีไม่ยั่งยนื ได้หรือไม่ อย่ำงไร ตอบ เคยพบเหตกุ ำรณ์ในลักษณะนี้ จำกกำรลงพน้ื ท่ีในกำรทำกิจกรรม ต่ำงๆ ของหน่วยงำนซง่ึ รูปแบบของกิจกรรมภำยในโครงกำรไดถ้ กู เขียน ข้ึนจำกหน่วยงำนหรอื องคก์ รท่ีเกีย่ วข้อง บำงโครงกำรเปน็ โครงกำรทดี่ ี หำกพิจำรณำจำกเป้ำหมำย และผลท่ีจะเกดิ ขึน้ ในทำงทฤษฎี ทั้งน้กี ำร ดำเนนิ โครงกำรไดเ้ กิดข้ึนจริงมกี ำรวัดผลประเมินโครงกำรและบรรลุ เป้ำหมำยในขณะนั้น แตโ่ ครงกำรเหล่ำนน้ั ไม่ได้ถกู ดำเนินกจิ กรรมตอ่ ในชุมชนแตจ่ ะส้ินสุดเมื่อผู้ดำเนินกจิ กรรมจำกหน่วยงำนต่ำงๆไดอ้ อก จำกพ้นื ที่ ทำใหร้ ู้สึกเสียดำยหำกกจิ กรรมตำ่ งๆเหลำ่ นน้ั ไดถ้ ูกดำเนนิ ไป ด้วยกลไกของชุมชน จะยังผลใหเ้ กิดควำมย่งั ยืนได้ ไมค่ ุ้มค่ำกบั
งบประมำณที่เสียไป ดงั นนั้ ในกรณีนีช้ ำวบ้ำนในชุมชนไมเ่ ปลยี่ นแปลง พฤติกรรมเมือ่ ได้ร่วมโครงกำรจงึ ถอื ได้ว่ำเปน็ กำรพฒั นำท่ีไม่ยั่งยืน กำรบำ้ นขอ้ ที่ (3) หวั ใจของงำนพฒั นำให้ชุมชนเข้มแข็งคือ กำร ปรบั เปล่ียนควำมคิดหรอื กระบวนทศั น์ของคน (mindset) นำไปสู่กำรเปลย่ี นพฤติกรรมอย่ำงยงั่ ยืน \"แคเ่ ปล่ยี นควำมคดิ ชวี ิตก็ เปลยี่ น\" \"คนเปลี่ยนเร่อื งรำวกเ็ ปล่ยี น\" ดังนัน้ คนจงึ เป็นศนู ยก์ ลำงของกำรพัฒนำ กำรพัฒนำควำมคิด (mindset) ให้เปดิ กว้ำงพร้อมรบั กับกำรเปลยี่ นแปลงที่ใช้จดุ แข็งของ บ้ำนนอกเป็นหลัก มีกำรผสำนชว่ ยดว้ ยปญั ญำสำกลเช่น งำนวจิ ัย เทค โนโลย่ี 5 g ฯลฯ เพ่ิมทักษะ(skill set)ในกำรทำมำหำกนิ มเี ครื่องมือที่ เหมำะสมให้ใช้อย่ำงพอดกี บั มือ (toolset) เชน่ 9 ข้อ 5 ช่อง cbmc ให้ เป็นไปตำมบริบทของแต่ละพื้นท่ี และอย่ำงสอดคล้องกับตำมจริตของแต่ ละคน ที่เรียกวำ่ \"กำรพัฒนำท่คี นเปน็ ศูนย์กลำง พ้นื ท่เี ป็นตวั ตั้ง\" ท่ำนคิดวำ่ ข้อควำมขำ้ งต้น มีควำมคลอ้ งจองกับที่ท่ำนได้เรียนมำ 6 วัน หรอื ไมอ่ ย่ำงไร? และเป็นหวั ใจของกำรพฒั นำสู่ควำมยั่งยืนหรอื ไม่ อยำ่ งไร? ตอบ มี เนื่องจำกกำรเรียน 6 วันทผ่ี ่ำนมำ จะเห็นได้วำ่ ในกำรดำเนิน กจิ กรรมจะเนน้ ใหเ้ กิดแนวคดิ จำกตวั ผู้เขำ้ ร่วมอบรมเอง โดยอำศัยกำร มองหำศักยภำพของส่งิ ทอ่ี ย่รู อบตัว จุดเด่นจดุ ด้อย นำมำปรบั ให้เกิดเป็น สินคำ้ และบริกำรที่มเี สน่ห์เฉพำะตัวไม่เหมือนใคร ทั้งน้ีในกิจกรรมกำร อบรมจะมีกระบวนกำรใหผ้ ู้เขำ้ รว่ มอบรมเปิดใจ เปดิ โอกำสในกำรรับฟงั ขอ้ เสนอแนะ แนวทำงจำกหลำยส่วน เพ่อื กำรปรับเปล่ยี นควำมคดิ ท่ีจะ นำไปสู่กำรพัฒนำสนิ ค้ำและบรกิ ำรท่เี หมำะกับบรบิ ทของแต่ละบุคคล และพืน้ ท่ี ซ่งึ จะเปน็ หวั ใจของกำรพฒั นำสู่ควำมย่ังยืนได้ เพรำะองค์ ควำมรทู้ ่ีได้รบั และแนวปฏบิ ัตทิ น่ี ำมำใชเ้ กดิ กำรคดิ วิเครำะห์ และ สังเครำะหจ์ ำกตัวของผ้รู ว่ มอบรมเอง
บรรยำย 2 บทควำมประกอบกำรบ้ำน ข้อท่ี (4) กระบวนกำรพัฒนำที่มุ่งสู่ควำมยั่งยืน เน้นที่พัฒนำคนให้สำมำรถ จัดกำรตนเองและชุมชนได้ เรียกว่ำ 'คนเป็นศูนย์กลำงพ้ืนที่เป็นตัวตั้ง '(Buttom up ) ปี พ.ศ. 2510 ดร. ป๋วย อึ้งภำกรณ์ ได้ร่วมกับเพื่อนนัก ธุรกิจ นักกำรเงิน นักกำรเมือง และเชื้อพระวงศ์ร่วมก่อตั้ง มูลนิธิบูรณะ ชนบทแห่งประเทศไทย ซ่ึงถือว่ำ เป็นโครงกำรพัฒนำชนบทแห่งแรก ขององค์กรพัฒนำเอกชน โดยได้แนวคิดจำก ดร. วำย เยน ที่มีแนวคิด ว่ำ “กำรพัฒนำชนบทและกำรพัฒนำคุณภำพของคน จะเป็นรำกฐำน สำคัญของกำรพัฒนำประเทศ โดยกำรส่งเสริม กำรพ่ึงตนเอง กำร ร่วมมอื กันของชำวบำ้ น กำรศกึ ษำ กำรอนำมัย กำรอำชีพ” แนวทำงของมูลนิธิบูรณะชนบทฯ ในกำรทำงำนกับชำวบ้ำน คอื \"ไปหำชำวบ้ำน อย่กู ับเขำ เรียนรู้จำกเขำ วำงแผนกับเขำ ทำงำนกับ เขำ เร่ิมจำกสิ่งที่เขำรู้ สร้ำงจำกสิ่งท่ีเขำมี สอนโดยช้ีให้เห็น เรียนจำก กำรทำ ไม่ใช่เพ่ืออวด แต่เพื่อเป็นแบบแผน ไม่ใช่ส่ิงละอันพันละน้อย แต่เป็นระบบไม่ใช่ทำทีละอย่ำง แต่ใช้หลักผสมผสำน ไม่ใช่ตำมใจ แต่ ช่วยใหเ้ ปลีย่ นแปลง ไมใ่ ช่โอบอมุ้ แต่ชว่ ยสร้ำงพลัง” อ.ไพบูลย์ วัฒนศิรธิ รรม อดีตรองนำยกรมต.ได้รว่ มก่อต้งั มลู นิธิ บรู ณชนบทในสมยั นั้น และไดส้ บื สำนต่อมำ จนถึงปี 2543 ไดน้ ำ แนวทำงดงั กลำ่ วมำจัดต้งั สถำบนั พฒั นำองค์กรชุมชนองค์กำรมหำชน (พอช) และ พอช. ก็ได้สำนต่อแนวทำงนี้เรอื่ ยมำ กำรบำ้ นข้อท่ี (4) \"ไปหำชำวบำ้ น อยู่กบั เขำ เรียนรจู้ ำกเขำ วำงแผนกบั เขำ ทำงำนกับเขำ เรม่ิ จำกสิ่งทเี่ ขำรู้ สรำ้ งจำกสิง่ ท่เี ขำมี สอนโดยชใี้ ห้เหน็ เรียนจำกกำรทำ ไม่ใช่เพ่ืออวด แต่เพือ่ เป็นแบบแผน ไมใ่ ช่สง่ิ ละอันพนั ละนอ้ ย แตเ่ ป็นระบบ ไม่ใชท่ ำทีละอย่ำง แต่ใชห้ ลกั ผสมผสำน ไมใ่ ชต่ ำมใจ แต่ช่วยให้ เปลี่ยนแปลง ไมใ่ ช่โอบอมุ้ แต่ช่วยสรำ้ งพลงั ”
ท่ำนคิดว่ำ ข้อควำมขำ้ งต้น เก่ยี วข้องกบั กำรเปน็ พี่เล้ยี ง cbmc ท่ที ำ่ น สมั ผัส จำก 6 วันท่ีผ่ำนมำ อย่ำงไรบ้ำง? และเป็นแนวทำงกำรสรำ้ งกำรพัฒนำท่ีย่งั ยนื ไดห้ รือไม่อย่ำงไร ตอบ เกย่ี วข้อง เพรำะกำรเป็นพ่เี ลี้ยง cbmc จะต้องเข้ำใจถงึ ควำม แตกต่ำงของพืน้ ที่ เขำ้ ใจวิถีชำวบำ้ น รู้ควำมเปน็ ตัวเองของเขำ สำมำรถ กระตนุ้ ใหเ้ ขำเกิดแนวคิดทจี่ ะเปล่ียนแปลงปรับปรุงเพอ่ื พัฒนำสิง่ ที่มีอยู่ โดยไมช่ ักนำแตเ่ สนอแนะ ให้เขำสำมำรถวำงแผนกำรทำงำนของ ตนเองได้ อย่ำงเปน็ ระบบ โดยใช้ตน้ ทุนนอ้ ย และพ่งึ พำตนเองได้ ซ่งึ ลักษณะดงั กล่ำวเป็นแนวทำงในกำรสร้ำงกำรพัฒนำท่ียั่งยนื ได้ เพรำะ เขำจะสำมำรถคดิ วิเครำะห์ สงั เครำะห์ ขอ้ มลู ปจั จยั ตำ่ งๆ ใน สถำนกำรณท์ ี่เปลีย่ นแปลงไป แม้ว่ำจะไมม่ พี ่ีเลย้ี งอยูด่ ว้ ยก็ตำม กำรบำ้ นข้อท่ี (5) อำ่ นบรรยำย (1) ประกอบ พิจำรณำว่ำ ขอ้ ควำมต่อไปนี้ เกย่ี วข้องกบั กำรเปน็ พี่เล้ียง cbmc ท่ีทำ่ น สมั ผัส 6 วันที่ผ่ำนมำ อยำ่ งไร? 1.ปลดปล่อยไม่ใช่ครอบงำ ตอบ เกีย่ วข้อง กำรเป็นพ่เี ลี้ยง cbmc ต้องกระตุ้นใหผ้ เู้ ข้ำร่วมอบรม แสดงแนวคิด และวิเครำะหศ์ กั ยภำพของตนเอง จนนำไปสกู่ ำรสรำ้ ง สนิ คำ้ และบริกำรเอง จำกจดุ แขง็ ท่มี ี ซึ่งเป็นรปู แบบกำรปลดปล่อยสิง่ ที่มี อยใู่ นตวั ผู้อบรม 2.คำตอบอยู่กบั เขำ เปำ้ หมำยอยู่กบั เรำ ตอบ เก่ยี วข้อง เปำ้ หมำยอย่กู บั เรำ คอื พีเ่ ล้ยี ง cbmc มคี วำมต้องกำรที่ จะให้ผเู้ ข้ำร่วมอบรมสำมำรถเขียนแผนธรุ กจิ เพ่ือชุมชนได้ และสำมำรถ นำไปปรบั ประยกุ ต์ใชจ้ รงิ ในกำรพัฒนำกำรคำ้ และบริกำร คำตอบอยู่ กับเขำ คอื ผทู้ ่ีเข้ำร่วมอบรมมกี ำรนำแผนท่เี ขียนมำนั้นไปใชจ้ รงิ ในกำร พฒั นำกำรค้ำและบรกิ ำร ซง่ึ เปน็ ผลหรอื คำตอบทพ่ี ่ีเลี้ยงตั้งไว้ พเ่ี ลี้ยง เปน็ เหมือนป้ำยบอกทำง 3.มุ่งชวนคิดชวนคุย ไม่ใชบ่ รรยำย
ตอบ เกีย่ วข้องกับกำรเปน็ พีเ่ ลย้ี ง cbmc เพรำะในกำรอบรมคร้งั นี้ไม่มี กำรบรรยำย แต่เน้นชวนคยุ และกระตุ้นใหค้ ิด เพอ่ื ใหไ้ ด้มำซึ่งควำมรู้ 4.ฟงั ให้เป็นส่ือให้ถูก ตอบ เกย่ี วข้องกับกำรเป็นพีเ่ ลย้ี ง cbmc กำรฟังให้เปน็ ในกำรเรียนท่ี ผ่ำนมำต้องพ่ีเล้ียงต้องฟงั ทุกคนท่ีพูดคยุ กนั ในห้องเรียนนำมำสรปุ เปน็ ประเด็นสำคัญ และสำมำรถสื่อสำรสงิ่ ที่ฟงั มำให้ถูกต้องตำมควำมหมำย และเจตนำของผู้พูด 5.ทำเรื่องยำกใหเ้ ป็นเรื่องง่ำย ตอบ เกี่ยวข้องกับกำรเปน็ พ่ีเลี้ยง cbmc เพรำะกำรเป็นพ่ีเล้ียงตอ้ งมี กระบวนกำร หรอื เทคนิคในกำรอธิบำยในสง่ิ ท่ีผเู้ รียนไม่เข้ำใจ และมอง ว่ำยำกใหง้ ำ่ ยขึน้ โดยนึกถงึ บริบทของผูเ้ ข้ำร่วมอบรม 6.ทำตัวใหเ้ ล็กทำใจให้ใหญ่ ตอบ เก่ียวข้องกับกำรเป็นพ่ีเลี้ยง cbmc พเ่ี ลีย้ งเป็นผู้ที่มจี ิตอำสำ มำช่วย ชีแ้ นะอยู่เบอื้ งหลังควำมสำเร็จของผเู้ ขำ้ รว่ มอบรม เปิดใจให้กว้ำง ลด ควำมเป็นตวั ตน ยอมเปิดรับควำมคดิ เห็นของผอู้ ื่น 7.อยำ่ ลำ้ หนำ้ อยำ่ ล้ำหลงั เดนิ ไปพรอ้ มกบั เขำ นำหนำ้ เขำกำ้ วหนึง่ ตอบ เกย่ี วข้องกับกำรเปน็ พี่เล้ยี ง cbmc ในกำรดูแลผรู้ ว่ มอบรมต้องช่วย ใหเ้ กดิ กระบวนกำรคดิ ไปพรอ้ มกัน ไม่ปลอ่ ยท้งิ เมอื่ ผู้อบรมเกดิ ควำมไม่ เขำ้ ใจ ช้ีแนะช่องทำงเพ่ือให้เขำวำงแผนท่ีจะดำเนินกำรตอ่ ตอ้ งมองให้ เหน็ ข้อบกพร่องเพ่ือเติมให้เตม็ โดยกระต้นุ ให้ผ้อู บรมคดิ ไปพรอ้ มกัน
ภำคผนวก (ใหแ้ นบรูปสนิ คำ้ รูปกจิ กรรมกำรผลิตสินคำ้ รูปสถำนทผ่ี ลติ /บรกิ ำร รปู กิจกรรมกำรแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ในกลมุ่ ไลน์ และเอกสำรที่เกย่ี วข้องกับ กำรเรียน เช่น กระดำษตัวร่ำงกำรบ้ำน หรอื กระดำษที่เขียนกำรบำ้ น(ถำ้ มี) ตำมท่เี หน็ ว่ำจะเปน็ ประโยชนส์ ำหรบั เจ้ำของe-book) ยำหม่องฟ้ำทะลทำยโจร/เสลดพงั พอน U2T ต.ทำงชำ้ ง อ.บำงบำล จ.พระนครศรอี ยธุ ยำ
ประวตั ผิ ูเ้ ขียน ชอ่ื ดำรำนยั นำมสกุล รบเมอื ง ที่อยู่ 60 ม. 3 ต.หันตรำ อ. พระนครศรีอยธธุ ยำ จ.พระนครศรอี ยธุ ยำ 13000 โทร 084-1037869
Search