Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book หน่วยที่ 1 เรื่ององค์การและการจัดองค์การ

E-book หน่วยที่ 1 เรื่ององค์การและการจัดองค์การ

Published by namwhan_bbb, 2018-03-13 05:31:32

Description: E-book หน่วยที่ 1 เรื่ององค์การและการจัดองค์การ

Search

Read the Text Version

องคก์ ารและการจัดองค์การความหมาย องค์การ คือ หน่วยสังคมที่เกดิ จากการรวมตัวของกล่มุ บุคคล โดยมีเปา้ หมายหรือวตั ถปุ ระสงค์เดียวกัน มีการจัดการอยา่ งเป็นระบบ รว่ มกันทากิจกรรมต่าง ๆ เพือ่ ใหบ้ รรลตุ ามเป้าหมายหรอื วัตถุประสงค์ท่วี างไว้ลักษณะองค์การนักวชิ าการไดศ้ ึกษาวเิ คราะหอ์ งคก์ ารในแงม่ ุมตา่ ง ๆ กนั ในหลายลักษณะ สรุป ได้ดงั นี้ 1. องคก์ ารเป็นโครางสรา้ งของความสมั พนั ธ์ (Organization as a Structure of Relationship) แนวคิดนม้ี ององค์กรในลกั ษณะหนว่ ยงานยอ่ ยตา่ ง ๆท่มี ีความสัมพนั ธก์ ัน มีการกาหนดขอบเขตหนา้ ทีค่ วามรบั ผดิ ชอบของแตล่ ะหนว่ ยงานย่อย 2. องคก์ ารเปน็ กลมุ่ ของบุคคล (Organization as a Group of People) แนว คดิ น้มี ององคก์ ารวา่ เป็นกลุม่ บคุ คลที่มีเป้าหมายร่วมกัน บุคคลจะแสวงหาความรว่ มมือจากบุคคลอืน่ ๆเสมอ ทางานร่วมกบั บคุ คลอนื่ ก็เพ่ือสนองความตอ้ งการของตน 3. องคก์ ารเปน็ สว่ นหน่งึ ของการจดั การ (Organization as a Function of Management) แนวคดิ น้มี ององคก์ ารเป็นหนา้ ทส่ี าคญั อยา่ งหนงึ่ ของผบู้ รหิ ารที่จะต้องทาการ จัดการเพอ่ื นาปัจจัยต่าง ๆขององคก์ ารมาใช้ คอื คน เงิน วสั ดุ และอุปกรณ์ตา่ ง ๆ 4. องคก์ ารเปน็ กระบวนการ (Organization as a Process) แนวคิดน้ีมององค์การเปน็ กระบวนการจัดกลมุ่ งานท่ีมีลกั ษณะคล้ายคลงึ กนั มารวมกนั ไว้ มีการแบ่งงานกันทาตามความถนัดและรว่ มมอื กันทางาน 5. องค์การเป็นระบบอยา่ งหน่ึง (Organization as a System) แนว คดิ นม้ี ององค์การเป็นระบบเปดิ ประกอบดว้ ยระบบย่อย ๆโดยมปี ัจจยั นาเข้า (input) กระบวนการ (process) ผลผลติ (output) ข้อมลู ยอ้ นกลับ (feed-back) และส่ิงแวดลอ้ ม(environment)องคป์ ระกอบขององค์การ มีดงั น้ี 1. กลมุ่ บุคคล 2. มเี ปา้ หมายร่วมกนั 3. การกาหนดหน้าที่ 4. การแบง่ งานความสัมพันธ์ระหวา่ งกนัโครงสรา้ งองค์การ (Organization Structure) หมายถึง ระบบการติดตอ่ สือ่ สาร และอานาจบังคบั บญั ชาทเ่ี ชอ่ื มตอ่คน และกลมุ่ คนเขา้ ด้วยกนั เพอ่ื ทางานร่วมกนั จนบรรลเุ ปา้ หมายขององคก์ ารโครงสร้างขององค์การประกอบด้วยสิง่ ต่าง ๆ ดงั นี้ 1. วตั ถปุ ระสงค์ (Objective) 2. ภาระหนา้ ที่ (Function) 3. การแบง่ งานกนั ทา (Division of Work) 4. การบงั คับบญั ชา (Hierarchy) 5. ชว่ งของการควบคมุ (Span of Control) 6. เอกภาพการบังคบั บัญชา (Unity of Command)

รปู แบบองคก์ าร รปู แบบทีเ่ ป็นทางการ เปน็ องค์การท่ีมกี ารรวมตัวกนั ของกลุม่ อยา่ งมีระบบ แบบแผน ชดั เจน ครอบคลมุ ทกุ ส่วนของการปฏิบัตงิ าน เพอ่ื บรรลวุ ตั ถุประสงค์ รูป แบบทีไ่ มเ่ ปน็ ทางการ เปน็ องค์การท่มี กี ารรวมตัวกันของกล่มุ อย่างไมม่ ีระบบของการบริหารไมก่ ฎเกณฑ์ ไม่ระเบยี บขอ้ บังคบั ของการปฏบิ ตั งิ านประเภทขององค์การ1. แบ่งตามความมุ่งหมายขององคก์ าร แบง่ ได้ 4 ประเภท คือ 1.1 องค์การเพ่อื ประโยชน์ของสมาขิก (Mutual-Benefits) 1.2 องค์การธุรกิจ (Business Concerns) 1.3 องค์การเพอ่ื สาธารณะ (Commonweal Organization) 1.4 องคก์ ารเพื่อบริการ (Service Organization)2. แบง่ ตามการจัดระเบียบภายในองค์การ (Formal Organization) เกดิ จากความสมั พนั ธส์ ว่ นบคุ คลในกลุ่มองค์กร แบบเป็นทางการหรืออาจเกดิ ข้ึนในสังคมใดกไ็ ด้3. แบ่งตามลักษณะความเปน็ เจา้ ของ แบง่ ได้ 2 ประเภท 3.1 องคก์ ารรัฐกิจ 3.2 องคก์ ารธรุ กิจที่เอกชนเป็นเจา้ ของการจดั โครงสร้างขององค์การ 1. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบหน่วยงานหลัก (Line Organization Structure) 2. โครงสร้างองค์การแบบหนว่ ยงานหลกั และหนว่ ยงานทีป่ รึกษา (Line and Staff Organization Structure) 3. โครงสร้างองคก์ ารแบบหนา้ ทกี่ ารวางเฉพาะ (Function of Organization Structure) 4. โครงสรา้ งขององค์การแบบคณะกรรมการ (Committee Organization Structure) 5. โครงสรา้ งองค์การแบบโครงการ (Project Organization Structure) 6. โครงสร้างองค์การแบบแมทริกซ์ (Matrix Organization Structure)แนวโน้มโครงสร้างองคก์ ารสมยั ใหม่ 1. สายการบงั คบั บัญชาสั้นลง (Shorter Chan of Command) 2. ขนาดการควบคมุ กวา้ งขึ้น (Wider Span of Control) 3. ความเปน็ เอกภาพของการบงั คับบญั ชานอ้ ยลง (Less Unity of Command) 4. การมอบหมายงานและการใหค้ นมอี านาจมากขึ้น (More delegation and empowerment) 5. การกระจายอานาจอย่างรวมอานาจ (Decentralization with Centralization 6. โครงสร้างขนาดเล็กอยู่ในโครงสร้างขนาดใหญ่ (Smallness with Bigness) 7. ลดจานวนทป่ี รึกษาใหเ้ หลือน้อยลง (Reduce Staff Component)

หลักการจดั องค์การ การจดั องคก์ ารหมายถึง กระบวนการสรา้ งความสัมพันธ์ระหว่างหนา้ ท่กี ารงานของบุคลากร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานประเภทต่างๆ สายงานการบงั คบั บัญชา อย่างชดั เจนท่ีผบู้ ริหารและผูท้ ี่ไดร้ ับมอบหมายเป็นผกู้ าหนด เพือ่ ใชเ้ ปน็ กรอบ และทศิ ทางให้สมาชกิ ในองคก์ ารได้ปฏิบัติ เพือ่ ให้การปฏบิ ตั ิงานขององคก์ ารดาเนินไดอ้ ย่างชัดเจน มีระเบียบและมีแบบแผนหลกั การจดั องคก์ ารโดยทว่ั ไปประกอบดว้ ย 1. นโยบายทช่ี ัดเจน 2. มีการแบ่งงาน 3. กาหนดลกั ษณะของงานใหช้ ดั 4. มีสายการบงั คับบัญชา 5. มเี อกภาพในการบงั คบั บัญชา หรือมีผูบ้ ังคบั บญั ชาเพียงคน 6. ช่วงของการควบคมุ 7. การประสานงาน 8. การยดื หยุน่ 9. ความต่อเนื่องความสาคญั ของการจัดองคก์ าร 1. เพือ่ แสดงใหเ้ ห็นถงึ กระแสการไหลของงาน 2. ช่วยใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานทราบถงึ ขอบเขตของงาน 3. เป็นกรอบทีเ่ ชือ่ มโยง การทุ่มเทความพยายาม ท่ีจะปฏิบัติตามข้นั ตอนการวางแผน และการควบคุมไปสผู่ ลสาเร็จ 4. จดั วางชอ่ งทางเพอ่ื การตดิ ต่อสอ่ื สาร และการตัดสนิ ใจ 5. ป้องกนั การทางานที่ซา้ ซอ้ น และขจดั ขอ้ ขดั แย้งในหนา้ ทก่ี ารงาน 6. ช่วยให้มองภาพความสัมพันธ์ระหวา่ งงาน ผู้ปฏิบตั ิงาน และเป้าหมายขององคก์ ารประโยชน์ของการจดั องค์การ 1. การตอบสนองความตอ้ งการทางสงั คม 2. การตอบสนองความตอ้ งการทางวัตถุ 2.1. เพ่อื เพิม่ กาลงั ความสามารถ 2.2. เพอ่ื ช่วยใหม้ ีการปฏบิ ตั งิ านทรี่ วดเรว็ และแขง่ กับเวลาการพัฒนาองคก์ าร การพัฒนาองค์การคอื ความพยายามเปล่ียนแปลงอยา่ งมีแผนทัว่ ทง้ั องคก์ ารโดยเร่มิ จากฝ่ายบรหิ ารระดบั สูง เพื่อเพิ่มความมีประสิทธภิ าพและความเจริญเติบโตขององค์การโดยการสอดแทรกส่ิง ทไ่ี ดม้ ีการวางแผนไว้แลว้ เข้าไปในกระบวนการขององคก์ ารดว้ ยการใช้ความรทู้ าง ดา้ นพฤตกิ รรมศาสตร์

ขั้นตอนในการพัฒนาองคก์ าร การพัฒนาองคก์ ารควรดาเนินการเปน็ 3 ขั้นตอนคือ 1. การวิเคราะห์ปัญหาขององคก์ าร 2. การสอดแทรกวธิ กี ารใหม่ๆเขา้ ไปเพอื่ พัฒนาองคก์ าร 3. การบารุงรักษาวิธีการใหมๆ่ นั้นใหค้ งอย่ตู ลอดไปหลกั การพฒั นาองค์การ 1. การพฒั นาทางดา้ นโครงสรา้ ง 2. การพัฒนาทางดา้ นกระบวนการวิธีการพัฒนาองคก์ าร การพฒั นาองค์การมีวธิ ีการหลายแบบทีน่ ามาใช้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงการนาวธิ ีการฝึกอบรมในห้องปฏบิ ัติการมาใช้เปน็ ที่นิยมแพรห่ ลายมานานได้แก่ 1. การฝึกอบรมแบบการฝึกการปะทะสังสรรค์ 2. การประชมุ ปรึกษาหารอื 3. การสร้างทมี งาน 4. การสารวจข้อมูลย้อนกลับ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook