Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานกับการค้นพบ

โครงงานกับการค้นพบ

Published by Patong. CLC., 2020-04-10 06:03:10

Description: โครงงาน โครงการ จะเรียกว่าอะไร แต่ในภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Project โครงงานเป็นการเรียนรู้ด้วยการการลงมือทำเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ หรือเกิด ผลงาน (output) และเพื่อให้ผลงานนั้นนำไปสู่การใช้งานพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ใช้งานได้จริง หรือนำไปสู่เชิงพาณิชย์ได้

การเรียนรู้แบบโครงงาน ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ ของการศึกษานอกระบบ (กศน.) ขอให้ผู้เรียนทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งเพราะจะเป็นพื้นฐานในการเรียนต่อระดับปริญญาตรี โท เอก ต่อไป

Search

Read the Text Version

โครงงานกับการค้นพบ กัลยา หอมดี/นิธินาถ มาตระกูล/เพ็ญพร นนท์ราช ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลาปาง

หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กาหนดเร่อื งการจัดการเรยี นการสอน แบบโครงงานไวอ้ ย่างไร ?? วิชาเลือกแตล่ ะระดบั ต้องใหเ้ รยี นรแู้ บบโครงงาน อยา่ งน้อย 3 หนว่ ยกติ เป็นรูปแบบหนง่ึ ของวิธีการจัดการเรียนรู้ เปน็ หลักฐานหนงึ่ ของการเรยี นรู้ ผู้เรยี นนาเสนอความก้าวหนา้ ในการทาโครงงานทุกคร้งั ท่ีพบกลุ่มจนสน้ิ สุดภาคเรียน

เคยสอนนักศกึ ษา กศน.ทาโครงงานหรือไม่??? การทาโครงงานของ กศน.มปี ัญหาอะไรบา้ ง??

ปญั หาการสอนโครงงานของ กศน. นาผลงานมาส่งเลย เช่น การทาอาหาร/เคร่อื งดื่มสมุนไพร การประดษิ ฐข์ อง ใช้จากวัสดเุ หลอื ใช้ สิง่ ประดษิ ฐ์ เครื่องดนตรี/อุปกรณต์ า่ งๆ ไมม่ ีรายงานผลการศกึ ษา/ถา้ มกี ็ไมถ่ กู ตอ้ งตามรูปแบบ ไม่ไดล้ งมือทาโครงงานจริงๆ ครูผู้สอน ไมเ่ ขา้ ใจการสอนแบบโครงงานดพี อ พบ : สิง่ ทไ่ี ม่ใช่โครงงาน (ข้นั ตอนการทา) พบ : โครงงานทซ่ี า้ กบั ทค่ี นอนื่ ทามาแลว้ เยอะมาก (ลอกมาส่ง)

โครงงานเป็นอยา่ งไร ???

ผึ้งใช้การเตน้ บอกแหล่งอาหาร เต้นแบบวงกลม เต้นแบบสา่ ยท้อง อาหารอยไู่ ม่เกิน 100 เมตร อาหารอยไู่ กลเกนิ 100 เมตร เตน้ รุนแรง อาหารอุดมสมบรู ณ์ เต้นช้าอาหารมนี ้อย



อุปกรณ์ เคร่ืองมอื เหล่านี้ ไดม้ าอย่างไร ?? การประกอบอาหาร การถนอมอาหาร การแพทย์

การตดิ ต่อส่อื สาร การเกษตร การศกึ ษา

นกั วทิ ยาศาสตร์ นักวิจยั ทางานวิจยั ระดับสูง นกั เรยี น นักศกึ ษา ทางานวิจยั (โครงงาน)ระดับโรงเรยี น มหาวิทยาลัย ประชาชนทางานวจิ ยั (โครงงาน) ระดบั ชมุ ชน

แสดงว่าโครงงาน คือ.....งานวิจยั ?? ถ้าโครงงานคืองานวิจยั ทายากมย้ั ?? ทาอย่างไร?? ตอ้ งทาแบบงานวิจัยเลยหรอื โครงงาน คือ.....การค้นพบ

โครงงาน คอื การคน้ พบ...พบอะไร?? พบความรู้ใหม่ๆ ทางานเร็วขนึ ้ พบวิธีการใหมๆ่ ใช้ งานง่ ายขนึ ้ คุ้มค่า พบสง่ิ ประดษิ ฐใ์ หมๆ่ ดกี ว่าเดิม เพ่มิ ความสะดวก สบาย พบคาตอบทีต่ อ้ งการ ผลผลติ มีคุณภาพ พบวิธีการแก้ปัญหา มีประโยชน์ ส่งผลกระทบน้อย ทาให้ โลกน่ าอย่ ูขนึ ้ แง่มุมใหม่ๆ

อดีต ปจั จบุ นั อนาคต ?? การเดนิ ทาง





รูจ้ กั โครงงาน อา่ นโครงงานตา่ งๆใหเ้ ยอะๆ หาโครงงานทงั้ ดี/ไม่ดี ดูเป็นตัวอย่าง ต้ังคาถามเยอะๆ ทดลองหาคาตอบง่ายๆ จากเร่ืองใกลต้ ัว วจิ ารณ์โครงงาน สงั เกตส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั (พืช คน สตั ว์ สิ่งของ ฯลฯ)

กจิ กรรม ลองทาดูเพ่อื รู้จรงิ







ผู้เรยี นสองกลมุ่ ทดลองกรองนา้ ดว้ ยภาชนะชนดิ เดียวกัน โดยกลมุ่ ที่หนึ่งกรอง ด้วยทรายละเอียด กลุม่ สองกรองด้วยทรายหยาบ แล้วสงั เกตความใสของนา้ ทกี่ รองได้ในบีกเกอร์ ชนิดของทรายมีผลตอ่ ความใสของน้าอย่างไร สมมติฐาน........................................................................................................ ตัวแปรตน้ ...................................................................................................... ตัวแปรตาม ..................................................................................................... ตวั แปรควบคมุ ................................................................................................

ผูเ้ รียนคนหนง่ึ ตอ้ งการทดสอบวา่ นมเปรยี้ วตา่ งชนิดกันมคี วาม เป็นกรดต่างกันหรือไม่ สมมตฐิ าน................................................................................................ ตวั แปรตน้ ............................................................................................. ตัวแปรตาม ............................................................................................. ตัวแปรควบคุม ........................................................................................

ตวั อยา่ งการเขยี นวตั ถุประสงค์ โครงงานเรอื่ ง การดองไขเ่ คม็ เพอื่ ศึกษาปรมิ าณเกลอื ทเ่ี หมาะสมในการดองไขเ่ คม็ เพอ่ื ทราบขน้ั ตอนการดองทีถ่ กู ตอ้ ง เพ่อื ถนอมอาหาร เพื่อเกบ็ ไขไ่ ว้กนิ นานๆ เพื่อเปรียบเทยี บชนิดของนา้ ท่ีใช้ดองไข่เคม็

รูจ้ กั โครงงาน อา่ นโครงงานตา่ งๆใหเ้ ยอะๆ หาโครงงานทงั้ ดี/ไม่ดี ดูเป็นตัวอย่าง ต้ังคาถามเยอะๆ ทดลองหาคาตอบง่ายๆ จากเร่ืองใกลต้ ัว วจิ ารณ์โครงงาน สงั เกตส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั (พืช คน สตั ว์ สิ่งของ ฯลฯ)

กิจกรรมวจิ ารณ์โครงงาน (เด็กไทยนักประดษิ ฐ์) ให้วิเคราะหว์ ่าทาไม โครงงานอปุ กรณแ์ กะเปลือกกงุ้ จึงได้รางวัลชนะเลศิ โครงงานเครอ่ื งบากลูกชิ้นจงึ ไดร้ างวัลที่ 2 โครงงานอปุ กรณร์ ดี น้าจากร่มจึงไดร้ างวลั ท่ี 3

กจิ กรรมวจิ ารณโ์ ครงงาน (โอเอซสิ จากขเ้ี ลือ่ ย) ทา่ นคิดวา่ โครงงานเรื่องโอเอซิสจากขเ้ี ล่อื ยเปน็ โครงงานทดี่ แี ล้วหรอื ไม่ ?? ดีแลว้ ใหอ้ ธิบายวา่ ดอี ยา่ งไร?? ยังไม่ดี มขี ้อบกพร่องอะไร?? ควรปรบั ปรงุ อย่างไร ??

ปญั หา/สง่ิ ท่ีอยากรู้ : ไมไ่ ด้บอกไว้ วตั ถปุ ระสงค์ : ไมไ่ ด้บอกไว้ สมมตฐิ าน : โอเอซิสจากขีเ้ ลื่อยสามารถอุ้มนา้ และรักษาความสดของดอกไม้ไดด้ ีกว่าโอเอซสี จากโฟม ตวั แปรต้น : โอเอซสี จากโฟม และ โอเอซสิ จากขเ้ี ลอ่ื ย ตัวแปรตาม : การอมุ้ นา้ ความสดของดอกไม้ ตวั แปรควบคมุ : ขนาดของโอเอซิส ชนิดของดอกไม้ สถานท่ที ดลอง บนั ทกึ ผลการทดลอง : ไมม่ ขี ้อมูล ผลการศึกษา : ไมม่ ีข้อมูล

สมมตฐิ าน 1 : โอเอซิสจากขี้เล่อื ยสามารถอมุ้ นา้ ได้ดกี วา่ โอเอซีสจากโฟม ตวั แปรต้น : โอเอซสี จากโฟม และ โอเอซสิ จากขี้เลอ่ื ย ตวั แปรตาม : ความสามารถในการอมุ้ น้า ตัวแปรควบคุม : ขนาดของโอเอซสิ ระยะเวลาตากแดด สถานทท่ี ดลอง โฟมทนี่ ามาหุ้ม ชนิด/ปริมาณนา้ ท่ีใชแ้ ช่ ระยะเวลาทแ่ี ชน่ ้า อปุ กรณว์ ัดปริมาณน้าทเ่ี หลือ สมมติฐาน : โอเอซิสจากข้เี ล่อื ยสามารถรักษาความสด ของดอกไมไ้ ด้ดีกวา่ โอเอซีสจากโฟม ตัวแปรตน้ : โอเอซีสจากโฟม และ โอเอซิสจากข้ีเล่ือย ตวั แปรตาม : ความสดของดอกไม้ ตัวแปรควบคมุ : ขนาดของโอเอซสิ ระยะเวลาตากแดด สถานที่ ทดลอง โฟมท่ีนามาหมุ้ ชนดิ /ปริมาณน้าที่ใช้รด ชนดิ /ความสดของดอกไม้

ทาโครงงานอะไรดี 7 คาถามกอ่ นเลอื ก 1. รคู้ าตอบหรอื ยัง เรื่องทาโครงงาน 2. คมุ้ คา่ หรอื เปลา่ 3. มีประโยชนแ์ ค่ไหน 4.แกป้ ัญหาไดจ้ ริงหรือไม่ 5.ส่งผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อมหรือไม่ 6. เป็นเร่ืองใหม่/ทา้ ทายใหห้ าคาตอบ ?? 7. ดีกว่าเดมิ อยา่ งไร

โครงงาน คอื ........ “การศกึ ษาเร่ืองใดเรื่องหน่ึง เพือ่ หาคาตอบท่ีนักเรียนสนใจ สงสยั อยากรู้ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์” ลักษณะเดน่ ของโครงงาน ยดึ ความสนใจของผเู้ รยี นเป็นหลกั วธิ ีการหาคาตอบ เปน็ ระบบน่าเช่ือถอื พิสจู น์ได้ มอี งคค์ วามรใู้ หม่ วิธีการใหม่ สิ่งประดิษฐใ์ หม่ (ดกี ว่าเดมิ )

ประโยชน์/ความสาคัญของโครงงาน ได้เรียนตามความสนใจของตนเอง/ของกลุ่ม ฝึกให้ผเู้ รียนรจู้ กั การวางแผนและการแกป้ ัญหา ฝกึ การคน้ คว้าหาข้อมลู ฝกึ ทางานเป็นระบบ ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เรียนร้โู ดยการปฏิบัติจรงิ (ลงมอื ทาจาไดน้ าน) นาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตจรงิ ได้ เปน็ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ของผู้เรยี น/ครูและสถานศกึ ษา



สารวจสงิ่ ทม่ี ีอยแู่ ลว้ จัดหมวดหมู่ เป็นระบบ สารวจและรวบรวมขอ้ มลู ทาการทดลอง ประเภท เสนอทฤษฎหี รือคาอธิบายตา่ งๆ เพอื่ พิสจู น์สิ่งท่ีสงสยั โครงงาน การสร้างทฤษฎี คน้ คว้า ทดลอง สง่ิ ประดิษฐ์ ประดิษฐ์อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ เครือ่ งใช้ เพ่ือประโยชนใ์ ช้สอยหรอื แกป้ ญั หาบางอยา่ ง

ศึกษาผลกระทบของการเผาตอซังข้าว ปัจจยั ทีม่ ีผลต่อการเปล่ยี นสขี องดอกพดุ ตาน เตาคณุ คา่ แหง่ สายน้า

การทากระเจี๊ยบผง อาหารเพ่มิ นา้ หนักจ้งิ หรดี

บา้ นจากฟางขา้ วผสมดนิ

เตาหงุ ตม้ ประสทิ ธิภาพสูง ตอู้ บไข่ อุปกรณ์ปอกทเุ รียน

1.ใช้วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ในการหาคาตอบ 2.ไดอ้ งค์ความรู้ใหม่ ชิน้ งานใหม่ 1.หาคาตอบจากส่งิ ทีม่ ีอยแู่ ล้ว 3.เรยี นร้จู ากการปฏบิ ตั จิ ริง 2.ใช้วธิ ีการหลากหลาย สงั เกต สมั ภาษณ์ คน้ ควา้ 4.มกี ารจัดกระทาขอ้ มลู โครงงานสารวจ อย่างเปน็ ระบบ น่าเชือ่ ถือ โครงงาน โครงงาน ทดลอง ส่ิงประดิษฐ์ 1.เก็บข้อมลู จากการทดลองหลายๆคร้ัง 2.ศกึ ษาตัวแปรอย่างน้อย 2 ตวั ควบคุมตัวอื่นๆท่ีไมเ่ กย่ี วขอ้ ง

7 ข้ันตอนทาโครงงานใหส้ นุก 1.เลอื กเร่ือง 2.คน้ ควา้ ข้อมลู 3.ตงั้ สมมติฐาน ทส่ี นใจ 5.ปฏิบตั กิ ารทา 6.เขยี นรายงาน 4.ออกแบบ โครงงาน ผลการศกึ ษา วิธีการหา คาตอบ 7.นาเสนอผล การศกึ ษา

การเขียนรายงานผลการศึกษา NOW HOW WOW 1. ชื่อเรอื่ ง (ต้งั ภายหลงั ) NOW : ปญั หาทีส่ งสยั /คาถาม/ส่งิ ท่อี ยากรู้ 2. บทคดั ย่อ (เขียนหลังสดุ ) สมมติฐาน/ตัวแปรตน้ /ตัวแปรตาม/ตวั แปร 3. ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน ควบคุม วัตถุประสงค์ = ขอ้ 3-6 4. วตั ถปุ ระสงค์ 5. สมมตฐิ าน (ถ้าม)ี HOW : วิธีการหาคาตอบ 6. ตัวแปร (ถ้าม)ี (ตอ้ งสอดคล้องกบั สมมตฐิ าน ตวั แปร 7. วิธดี าเนินการ/วธิ ีการทดลอง และวัตถุประสงค์) = ขอ้ 7 8. ผลการศกึ ษา 9. การอภิปรายผล WOW : คาตอบที่ต้องการ 10.ขอ้ เสนอแนะ (ต้องตรงกบั วัตถปุ ระสงค์) = ขอ้ 8-10

การจดั การเรียนรู้แบบโครงงาน เหมาะกับนกั ศึกษา กศน.หรอื ไม?่ ? เหมาะมาก เพราะ.....?? ไมเ่ หมาะ เพราะ.....??

จดุ เดน่ ของผูเ้ รยี น กศน.กับการเรยี นรู้แบบโครงงาน มีความรเู้ ชงิ ภูมิปญั ญา สมนุ ไพร การจบั สัตว์ การถนอมอาหาร การปลกู พืช การเลี้ยงสตั ว์ ประกอบอาชพี หลากหลาย เกษตรกร รบั จ้าง ประมง จกั สาน คา้ ขาย ทาอาหาร ตดั เย็บเส้อื ผา้ (รปู้ ัญหาการประกอบอาชพี ) มที ักษะทางช่าง ชา่ งไม้ ช่างปนู ช่างไฟฟา้ ชา่ งซอ่ ม มีอายุแตกตา่ งกัน (คดิ ตา่ ง หลากหลายมมุ มอง) นาจุดเดน่ ร้ปู ญั หาชมุ ชนเปน็ อย่างดี ของผ้เู รียน มีอาชพี มรี ายได้ มาใช้ให้เกิด ประโยชน์

ความสาเร็จของการสอนโครงงาน ครูเป็นทปี่ รึกษาทดี่ ี แนะนาอย่างใกล้ชิด ตดิ ตามการทางานของ ผูเ้ รยี นอย่างต่อเนือ่ ง ตัง้ แต่เริ่มคิดเรอ่ื งทจ่ี ะทาจนถึงการเขียน รายงาน และ การนาเสนอผลงาน

“ในโลกใบน้ี ยังมีส่ิงทีน่ า่ สนใจอกี มากมาย ใหค้ ิด ค้นคว้าและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม”

ศนู ย์วทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศกึ ษาลาปาง สานกั งาน.กศน.