Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง

ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง

Published by Patong. CLC., 2020-05-11 08:18:15

Description: เทศบาลเมืองป่าตอง เป็นเทศบาลที่มีการจัดเก็บรายได้ในแต่ละปีงบประมาณ เกิน 300 ล้านบาท โดยพื้นฐานแล้วเทศบาลเมืองป่าตอง มีพื้นที่ 16.40 ตารางกิโลเมตร และมีคนที่ปรากฎในทะเบียนบ้านอยู่แค่ 2 หมื่นคนเศษ แบ่งเป็น 7 ชุมชน หากอยากทราบว่า 7 ชุมชนของเทศบาลป่าตองนี้ มีชุมชนใดบ้าง คลิ๊กเลย

Search

Read the Text Version

คำนำ แผนชุมชน ได้มีการผลักดันยกระดับเข้าไปเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อเสริมสร้าง กระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนในการพัฒนาขีดความสามารถของชุมชน ในการ พัฒนาและแก้ไขปัญหาท้องถิ่นของตนเองในทุกๆ ด้านของชุมชน โดยใช้กระบวนการจัดทาแผนชุมชน เป็น เครอ่ื งมอื นาไปสชู่ มุ ชนเข้มแข็งพงึ่ ตนเอง และเอาชนะความยากจนได้ ซึ่งจะเป็นการบูรณาการวิธีการทางาน ท่ีชุมชนเป็นศูนย์กลางเอาพ้ืนท่ีเป็นตัวตั้ง เช่ือมโยงความต้องการของชุมชนภายใต้แผนชุมชนกับแผนพัฒนา ของส่วนท้องถิน่ เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ ชุมชนเขม้ แข็งในอนาคต

ขอ้ มลู ทั่วไป แผนทช่ี ุมชน ตาบลปา่ ตอง อาเภอกะทู้ จงั หวดั ภูเกต็

ชุมชนชำยวดั ตำบลปำ่ ตอง อำเภอกะทู้ จงั หวัดภเู กต็

ประวตั ิชุมชน เนื่องด้วย ชมุ ชนชายวดั เปน็ ชุมชนทีอ่ ย่บู ริเวณใกล้วัดสุวรรณคีรีวงก์ มากกว่าชุมชนอ่ืนผู้เล่า จงึ สนั นษิ ฐานวา่ ชาวบ้านได้ใช้คาว่า “ชาย” เปรียบเสมือนชายคาบ้าน จึงได้ใช้คาว่า “ชาย” ต้ังชื่อเป็นชุมชน ชายวดั ผนู้ ำชมุ ชน ประธานคณะกรรมการชุมชนชายวดั ๑. นายสิทธิชยั ชอบดี รองประธานคณะกรรมการชมุ ชนชายวดั ๒. นางเสาวรีย์ เรือนเพ็ชร คณะกรรมการชุมชนชายวัด ๓. นายวินจิ สุทธิปาโล คณะกรรมการชมุ ชนชายวดั ๔. นางศจรี ัตน์ กสิโสภา ๕. นางสรุ ยิ กมล พานทอง คณะกรรมการชมุ ชนชายวดั ๖. นางสาววรมน สงวนนาม คณะกรรมการชมุ ชนชายวดั ๗. นางมณพี ร มณศี รี คณะกรรมการชุมชนชายวดั ๘. นางนา้ ฝน คุรุ คณะกรรมการชมุ ชนชายวดั ๙. นายสุรโิ ย ตามชู คณะกรรมการชุมชนชายวัด ๑๐.นางสภุ าภรณ์ ทองสขุ ๑๑.นายวีระ ชอบดี คณะกรรมการชุมชนชายวดั ๑๒.นายประเสรฐิ กรชิ กาจร ทปี่ รึกษาคณะกรรมการชุมชนชายวัด ท่ีปรึกษาคณะกรรมการชมุ ชนชายวดั จำนวนประชำกร คน - จานวนบ้านทง้ั ส้ิน ๑,๐๒๘ หลงั คาเรอื น ประชากรทง้ั หมด ๒,๔๔๓ คน ชาย ๑,๑๗๖ คน หญิง ๑,๒๖๗ - ประชากรส่วนใหญน่ ับถือศาสนาพุทธ สภำพทวั่ ไป ชมุ ชนชายวดั หา่ งจากตัวเมอื งภเู กต็ ประมาณ ๑๖ กโิ ลเมตร ทิศเหนือ จด ติดต่อกับตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศตะวันออก จด ตดิ ตอ่ กับตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ใต้ จด ติดต่อกบั ชมุ ชนบ้านมอญ ทิศตะวันตก จด ติดต่อกับชมุ ชนบ้านโคกมะขาม - สภาพภูมิประเทศทวั่ ไป สภาพทว่ั ไปมภี ูเขาล้อมลักษณะเปน็ รปู โคง้ (คล้ายอฒั จันทร)์ - สภาพภมู ิอากาศ ร้อนชืน้ มีฝนตกตลอดปี - การคมนาคมและอาณาเขต ๑. ถนนพระบารมี ตงั้ แต่บ้านเลขท่ี ๑ – ๔๙/๓ (เลขค่)ี และบ้านเลขท่ี ๒ – ๙๘ (เลขคู)่ ๒. ซอยพระบารมี ๑ ทั้งซอย ๓. ซอยพระบารมี ๒ ท้งั ซอย ๔. ซอยพระบารมี ๓ หันหนา้ เขา้ หาซอย ดา้ นขวามือ (บา้ นเลขท่ี คู่)

การจราจรตามถนนสายต่างๆ สว่ นใหญ่จะแออดั มากบางชว่ งเวลา คือ ชว่ งเวลา ๐๗.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. และชว่ งเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. เป็นชว่ งเวลาท่ีผู้ทที่ างานในโรงแรม หรอื สถานบริการต่างๆ ผลัดเปล่ยี นเข้าปฏิบตั ิงาน ขอ้ มลู ทำงสังคม กำรเมอื ง กำรปกครอง ชมุ ชนชายวัดประชากรส่วนใหญ่นบั ถอื ศาสนาพุทธ และเปน็ สงั คมทม่ี ีผคู้ นจากหลายพ้ืนท่มี า อาศยั อยู่ เพ่อื ประกอบอาชีพต่างๆ มกี ารสร้างบ้านเรอื น, หอ้ งพกั เพื่อบริการให้ชาวไทยและชาวตา่ งชาติเช่า เพื่ออย่อู าศัย เปน็ ตน้ โดยพนื้ ทช่ี มุ ชนชายวดั อยู่ในความดแู ลของเทศบาลเมอื งปา่ ตอง ข้อมูลทำงเศรษฐกิจ - การประกอบอาชีพสว่ นใหญ่จะประกอบธรุ กิจบ้านเชา่ อาชีพรอง คอื การคา้ ขาย - รายได้ส่วนใหญจ่ ะไดม้ าจากการทาธุรกิจสว่ นตัว - แหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว คือ วดั สุวรรณครี วี งก์ - ปญั หาทางเศรษฐกจิ ในระดบั ครัวเรือน, ระดบั กลุ่ม,ระดับชมุ ชน ไดแ้ ก่ ๑) ปัญหาหน้สี ิน ๒) ปญั หาครอบครัวขาดความอบอุ่น ๓) ปญั หาการขาดความร่วมมอื ในชมุ ชน ข้อมลู กำรวเิ ครำะหศ์ กั ยภำพของชมุ ชน กระบวนกำรวิเครำะห์ชมุ ชน คน้ หำปัญหำของชุมชน ปัญหำรุนแรง ๑. ในชุมชนมีกลมุ่ เด็กวยั รุ่นมว่ั สมุ กันมาก ๒. มีการมวั่ สมุ ยาเสพติด ๓. เดก็ ตดิ เกม,อินเตอร์เนต็ ปัญหำไม่รนุ แรง ๑. ความปลอดภัยทางการจราจรกับเดก็ และประชาชนในชุมชน ๒. การเขา้ ออกระหวา่ งซอยทาใหเ้ กดิ ปัญหารถติด ๓. การปลูกสร้างอาคารทเ่ี พิ่มมากขึ้น ของดีของชมุ ชน (จดุ แขง็ ของชมุ ชน) - จุดแขง็ ชมุ ชน ๑. มคี วามเจรญิ ทางเศรษฐกิจทีด่ ี ๒. คนส่วนใหญใ่ นชมุ ชนมีความสามคั คีกันดี - ความภูมิใจของคนในชุมชน มีวดั สุวรรณคีรีวงก์เป็นสถานทยี่ ึดเหนยี่ วในชุมชน - อดีตที่ผ่านมาเปน็ อย่างไร ปจั จุบันเป็นอยา่ งไร อนาคตตอ่ ไปเปน็ อย่างไร ในอดตี ชุมชนชายวัด เปน็ ชุมชนทเ่ี รยี บงา่ ยมปี ระชากรน้อย เพราะพื้นท่ีส่วนใหญ่จะเป็นภูเขา แต่ในปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่มาก เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างรวดเร็วทาให้ประชากรมีรายได้เพ่ิมข้ึน ส่วนใน อนาคตประชากรคงจะเพมิ่ ขนึ้ และมธี รุ กิจเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

ปัจจยั ภำยนอก/โอกำสของชมุ ชน อปุ สรรคของชุมชน - ปจั จยั ภายนอกทส่ี นับสนนุ ชมุ ชน มีวดั สุวรรณครี วี งก์เปน็ แหล่งทอ่ งเทยี่ วของแขกผู้มาเยอื นชมุ ชนชายวดั - ปญั หาอุปสรรคของชมุ ชน การขาดความร่วมมือของคนในชุมชนในบางครัง้ - โอกาสของชมุ ชน ชมุ ชนชายวัดในปัจจบุ ันเจรญิ เติบโตขึ้นอยา่ งรวดเรว็ ทาให้มนี ักธุรกจิ เขา้ มาลงทุนในการทา ธุรกิจกันมากข้นึ จงึ ทาใหป้ ระชาชนในชุมชนมรี ายไดม้ ากข้นึ วสิ ัยทศั น์ ของชุมชน “รว่ มมอื ดี สามัคคี สร้างคนดีแกช่ มุ ชน”

ชุมชนบ้ำนมอญ ตำบลป่ำตอง อำเภอกะทู้ จงั หวัดภเู กต็

ประวัติชมุ ชน นายพวย เอกา เล่าว่า ไมป่ รากฏวา่ มมี อญมาอาศัยอย่แู ต่อยา่ งใด เดมิ มีคนอาศัยอยนู่ ้อย มาก เพราะห่างไกลทะเล และเปน็ เชงิ เขาท่สี งู กวา่ ทีอ่ ่ืนเดมิ เรียกวา่ ในบ้าน แต่จะเรยี กวา่ บ้านมอญ เม่ือใดไม่ ทราบ ครอบครัวท่อี าศยั อยู่ท่บี า้ นมอญในยคุ แรกๆ คือ ครอบครัวโตะ๊ สมาด และโต๊ส้า เป็นพอ่ ตากับลูกเขย (ต้น ตระกูลนาลักษณ)์ ซง่ึ อพยพมาจากบ้านกมลา และครอบครัวของนายทกั (ตน้ ตระกลู หลักมน่ั ) ซงึ่ ตอ่ มาทัง้ ๒ ครอบครัวนีไ้ ดย้ ้ายไปอยทู่ ี่บ้านโคกมะขาม และบา้ นกะหลมิ แต่ปจั จุบนั ท่ดี นิ ของตระกูลนาลักษณก์ ย็ ังมีอย่ใู น บ้านมอญ สว่ นคาวา่ “บ้านมอญ” สันนิษฐานวา่ นา่ จะมาจากคนทีอ่ าศยั อยู่บริเวณนน้ั เดิมทา่ จะเปน็ คนท่ชี ่ือ มอญ มากกว่า เพราะมีชาวบ้านบริเวณนี้ตระกลู หนงึ่ คือ ตระกูลเชือ้ ญวน กไ็ มไ่ ดห้ มายความวา่ มเี ช้ือสายมา จากคนญวนเวยี ดนามแตอ่ ยา่ งใด แต่เท่าทีผ่ ู้เขยี นไดพ้ ดู คยุ กับตระกลู เชือ้ ญวนเอง กไ็ ด้ความเขา้ ใจว่า บรรพบรุ ุษ เจ้าของนามสกุลเดิมเช้อื ญวน ซง่ึ เป็นคนไทยแท้ ไม่ไดเ้ ก่ยี วพันกบั ญวนแตอ่ ยา่ งใด ผู้เขยี นจงึ เข้าใจว่าคาวา่ บ้าน มอญ น่าจะหมายถงึ บา้ นของคนชือ่ มอญมาอย่กู ่อนก็เปน็ ได้ จึงเช่ือวา่ บ้านมอญซ่ึงไม่เกี่ยวกบั มอญแตอ่ ยา่ งใด ผนู้ ำชุมชน ๑. นายวษิ ณุ หยิดสวั ประธานคณะกรรมการชมุ ชน ๒. นางสาวเสรมิ สวย ประทีป ณ ถลาง รองประธานคณะกรรมการชมุ ชน ๓. นางสมบูรณ์ วนั ยนาพร รองประธานคณะกรรมการชมุ ชน ๔. นายกติ ติศกั ดิ์ สงวนพร คณะกรรมการชมุ ชน ๕. นายวิลาศ เพช็ รเครือ คณะกรรมการชุมชน ๖. นายวฒั ทยา หวานดี คณะกรรมการชุมชน ๗. นางกรกมล โปรไชย คณะกรรมการชมุ ชน ๘. นางสาวยพุ า สมใหญ่ คณะกรรมการชมุ ชน ๙. นางสาวพรรณี ชุมจนั ทร์ คณะกรรมการชมุ ชน ๑๐.นายสมพร ตงเท่ง คณะกรรมการชมุ ชน ๑๑.นายสมนกึ เช้ือชวด คณะกรรมการชุมชน ๑๒.นางสาวสุมิตรา ประทีป ณ ถลาง คณะกรรมการชมุ ชนและเลขานุการ ๑๓.นางณิชาภา พอ่ ค้า คณะกรรมการชุมชนและผชู้ ว่ ยเลขานุการ ๑๔.นายดม แกว้ แจ่ม ท่ปี รกึ ษาคณะกรรมการชมุ ชนบ้านมอญ ๑๕.นายประพนั ธ์ สริ ริ ัตติกาล ทปี่ รึกษาคณะกรรมการชุมชนบา้ นมอญ จำนวนประชำกร - จานวนบา้ น ๑,๕๖๐ หลงั คาเรอื น - จานวนประชากรทั้งหมด ๔,๓๓๔ คน ชาย ๒,๐๕๖ คน หญิง ๒,๒๗๘ คน

ขอ้ มลู ทำงกำยภำพ ชมุ ชนบา้ นมอญ ห่างจากตัวเมอื งภูเกต็ ประมาณ ๑๖ กิโลเมตร ทศิ เหนอื จด ตดิ ตอ่ กับตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ตะวนั ออก จด ตดิ ต่อกบั ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศใต้ จด ติดต่อกับตาบลกะรน อาเภอเมือง ทิศตะวันตก จด ตดิ ต่อกับทะเลอันดามัน - สภาพทั่วไปมภี เู ขาล้อมลักษณะเป็นรปู โค้ง (คล้ายอัฒจันทร)์ - การคมนาคม และอาณาเขต มีถนนสายสาคัญ ๓ สาย คอื (๑) ถนนพิศษิ ฐก์ รณยี ์ ต้ังแตบ่ า้ นเลขท่ี ๑-๑๔๑ (เลขคี)่ และ บ้านเลขท่ี ๒ – ๑๘๘ (เลขคู่) (๒) ถนนหา้ สบิ ปี ตง้ั แตบ่ ้านเลขที่ ๑ – ๓๓ (เลขคี)่ และ บ้านเลขที่ ๒ – ๕๘ (เลขค)ู่ (๓) ถนนราชปาทานุสรณ์ ตั้งแต่บ้านเลขท่ี ๑๖ – ๙๘ (เลขคู่) และ ฝ่ังซ้ายของถนนราชปาทานุสรณ์ ทั้งหมด (เลขค)ี่ การจราจรตามถนนสายต่างๆ ส่วนใหญจ่ ะแออดั บางช่วงเวลา คอื ช่วงเวลา ๐๗.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. และชว่ งเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. เปน็ ช่วงเวลาท่ผี ู้ที่ทางานในโรงแรม หรอื สถานบรกิ ารต่างๆ ผลดั เปลยี่ นเข้าปฏบิ ตั งิ าน ข้อมูลทำงสงั คม กำรเมือง กำรปกครอง ชมุ ชนบ้านมอญ ประชากรส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาพทุ ธ และเปน็ สังคมท่มี ีผู้คนจากหลายพนื้ ที่มาอาศยั อยู่ เพือ่ ประกอบอาชีพต่างๆ มกี ารสร้างบ้านเรอื น, หอ้ งพกั เพ่อื บริการใหช้ าวไทยและชาวต่างชาติ เช่าเพ่ืออยอู่ าศัย เป็นตน้ ขอ้ มลู ทำงเศรษฐกจิ - การประกอบอาชพี อาชพี หลกั ธุรกิจส่วนตวั เชน่ บ้านเชา่ อาชพี รอง คา้ ขาย - ข้อมูลรายได้ รายได้สว่ นใหญจ่ ะได้มาจากการทาธุรกจิ สว่ นตวั และธรุ กิจบ้านเชา่ - แหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว คือ ราชปาทานุสรณ์ - ปญั หาทางเศรษฐกิจ ในระดบั ครัวเรือน, ระดับกลุ่ม,ระดับชุมชน ได้แก่ ๑) ปญั หาหน้ีสิน ๒) ปัญหาครอบครวั ขาดความอบอนุ่ ๓) ปญั หาการขาดความร่วมมือในชมุ ชน ขอ้ มูลกำรวิเครำะหศ์ กั ยภำพของชมุ ชน ปัญหำของชมุ ชน - ปัญหำรนุ แรง ๑. รถตดิ ๒. บุกรกุ พน้ื ทส่ี าธารณะ ๓. ผู้นาบางคนไมใ่ ห้ความร่วมมือเทา่ ท่ีควร ๔. คนนอกพ้นื ทเ่ี ขา้ มาอาศยั เพม่ิ มากขึ้น ๕. ไม่มคี วามรว่ มมอื ของคนในชุมชนในบางโอกาส ๖. ปัญหาคนตา่ งดา้ วมาอยู่อย่างผิดกฎหมาย เช่น พม่า เนปาล ๗. การว่างงานตามฤดกู าล

- ปญั หำไม่รนุ แรง ๑. ขาดการรวมกลมุ่ อาชีพ ๒. มีมลพิษ ๓. การขายของบนพ้นื ถนน (ชว่ งเช้า) ของดีของชุมชน (จดุ แข็งของชมุ ชน) - จุดแข็งชมุ ชน ๑. สภาพพืน้ ท่ีชุมชนยังคงลกั ษณะชนบทไวไ้ ด้บา้ ง ๒. ความร่วมมือของคนในชุมชน - ความภูมิใจของคนในชมุ ชน ๑. มวี ัดสุวรรณครี วี งกเ์ ปน็ สถานท่ียึดเหนยี่ วในชุมชน ๒. มีความเจรญิ ทางเศรษฐกิจทีด่ ี ๓. มีราชปาทานสุ รณ์ เปน็ ที่ภาคภมู ิใจของคนในชมุ ชน - อดีตท่ีผ่านมาเปน็ อยา่ งไร ปจั จบุ ันเป็นอยา่ งไร อนาคตต่อไปเปน็ อยา่ งไร ในอดีตชุมชนบา้ นมอญ เป็นชุมชนท่ีเรียบงา่ ยมีประชากรน้อย เพราะพนื้ ทสี่ ่วนใหญ่จะเป็น ภูเขา แต่ในปจั จุบันมปี ระชากรอาศยั อยูม่ าก เศรษฐกจิ ดีขน้ึ อย่างรวดเรว็ ทาให้ประชากรมีรายได้เพ่ิมข้ึน ส่วน ในอนาคตประชากรคงจะเพิม่ ขน้ึ และมีธรุ กิจเพิม่ ข้นึ อีกมากมาย ปจั จัยภำยนอก/โอกำสของชุมชน อปุ สรรคของชมุ ชน (สรุปข้อมูลจำกเวท)ี - ปัจจัยภายนอกทส่ี นบั สนุนชมุ ชน มงี านราชปาทานสุ รณ์เป็นแหล่งทอ่ งเทย่ี วของแขกผมู้ าเยือนชมุ ชนบ้านมอญทกุ ปี - ปญั หาอุปสรรคของชุมชน ขาดความรว่ มมือของคนในชุมชน - โอกาสของชมุ ชน ชุมชนบ้านมอญ ในปจั จุบันเจริญเตบิ โตขึ้นอย่างรวดเรว็ ทาให้มนี ักธุรกิจเข้ามาลงทุนในการ ทาธุรกิจกนั มากข้นึ จงึ ทาให้ประชาชนในชุมชนมีรายได้มากขน้ึ วสิ ัยทศั นข์ องชุมชน “ชุมชนบ้ำนมอญน่ำอยู่ เล่อื งชื่อรำชปำทำนสุ รณ์ ดินดอนแห่งประวัติศำสตร์”

ชุมชนบ้ำนไสนำเยน็ ตำบลปำ่ ตอง อำเภอกะทู้ จังหวดั ภเู กต็

ประวตั ชิ ุมชน ผ้เู ขียนได้ค้นคว้าปรากฏว่า คาว่า “ไส” เปน็ ภาษาถนิ่ ของภาคใต้ หมายถึง ปา่ ที่เดมิ เปน็ ปา่ ทบึ แตร่ าษฎรได้มกี ารโค่น และถางป่า เพือ่ ใช้ทาไร่ขา้ ว แลว้ ก็ทอดทิ้งไวน้ านจนต้นไมข้ ึน้ กลับเปน็ ปา่ อีก ครั้ง มีต้นไมข้ นาดกลาง และรกมาก คาว่า “ไสน้าเย็น” จึงสันนิษฐานวา่ นา่ จะมาจากปา่ ทม่ี ีน้าเยน็ มาก น้นั เอง ผนู้ ำชุมชน 1. นายนิวัฒน์ เจยี มตวั ประธานคณะกรรมการชมุ ชน 2. นายพินจิ แก่นเหลก็ รองประธานคณะกรรมการชมุ ชน 3. นายจรวย เพชรหงึ รองประธานคณะกรรมการชุมชน 4. นายจกั รี อวยชัย คณะกรรมการชุมชน 5. นายสหัตถ์ ตามชู คณะกรรมการชมุ ชน 6. นายพรเทพ สมนาม คณะกรรมการชุมชน 7. นางขวัญตา เช้อื ญวน คณะกรรมการชมุ ชน 8. นางปองหทยั สบื สอาด คณะกรรมการชมุ ชน 9. นางสาวพวงพรรณ หวานดี คณะกรรมการชมุ ชน 10.นางสาวกรรณิการ์ ชแู กว้ คณะกรรมการชุมชน 11.นายสงั เวียน เชือ้ ญวน คณะกรรมการชุมชน 12.นายวริ ตั น์ เช้อื ญวน คณะกรรมการชุมชน 13.นายวิวฒั น์ นพวงษ์ศริ ิ คณะกรรมการชุมชน 14.นางวราภรณ์ นพวงษ์ศิริ คณะกรรมการชมุ ชน จำนวนประชำกร - จานวนครัวเรอื น ๑,๖๑๙ ครวั เรือน ประชากรทัง้ หมด ๒,๗๒๑ คน ชาย ๑,๓๒๑ คน หญงิ ๑,๔๐๐ คน - ประชากรส่วนใหญ่นับถอื ศาสนาพุทธ ขอ้ มลู ทำงกำยภำพ ชุมชนบำ้ นไสนำเยน็ หา่ งจากตวั เมอื งภูเกต็ ประมาณ ๑๖ กโิ ลเมตร ทิศเหนือ จด ติดต่อกับตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศตะวนั ออก จด ติดต่อกับตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ใต้ จด ติดตอ่ กบั ตาบลกะรน อาเภอเมือง ทศิ ตะวันตก จด ตดิ ต่อกับทะเลอันดามนั

- สภาพภมู ิอากาศ สภาพทวั่ ไปมีภเู ขาลอ้ มหลงั อากาศรอ้ นช้นื มีฝนตกชุก - การคมนาคม มีถนนสายสาคัญ และอาณาเขตดังนี้ ๑. ถนนไสน้าเยน็ ทง้ั ถนนและซอยไสนา้ เยน็ ๑ ท้ังซอย ๒. ถนนพิศิษฐก์ รณยี ์ ต้งั แต่บ้านเลขที่ ๑๔๓ เป็นต้นไป(เลขค่ี) และต้ังแต่บ้านเลขท่ี ๑๙๐ เป็นต้นไป (เลขค่)ู แตย่ กเวน้ บ้านเลขที่ ๒๔๐/๔๑ ๓. ถนนผังเมอื งสาย ก. ตัง้ แตบ่ า้ นเลขท่ี ๑๘๑ – ๑๙๗/... (เลขคี่) และบ้านเลขที่ ๑๘๐-๒๓๖ (เลขคู่) ๔. ถนนราชปาทานุสรณ์ ตงั้ แตบ่ า้ นเลขที่ ๒ – ๑๔/๓๓ ๕. ถนนนาใน ตัง้ แต่บ้านเลขท่ี ๑ – ๔๗/๑ (เลขคี่) และ บ้านเลขท่ี ๒ – ๔๐/๗ (เลขค)ู่ ๖. ถนนราษฎร์อทุ ิศ ๒๐๐ ปี ต้งั แตบ่ า้ นเลขท่ี ๘๙ – ๑๖๙/๑๑๙ (เลขค)ี่ ถนนภายในชุมชนมีลกั ษณะ กวา้ ง ๒ ชอ่ งจราจร ไมม่ ีไหลท่ าง ถนนสายต่างๆ สว่ นใหญจ่ ะแออดั บาง ชว่ งเวลา คอื ชว่ งเวลา ๐๗.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. และชว่ งเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. เปน็ ช่วงเวลาทผ่ี ู้ท่ีทางานใน โรงแรม หรอื สถานบรกิ ารตา่ งๆ ผลดั เปล่ยี นเข้าปฏบิ ัติงาน ข้อมูลทำงสังคม กำรเมอื ง กำรปกครอง ชมุ ชนบ้านไสนา้ เย็นประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และเป็นสังคมที่มีผู้คนจากหลาย พ้ืนที่มาอาศัยอยู่ เพ่ือประกอบอาชีพต่างๆ มีการสร้างบ้านเรือน, ห้องพัก เพ่ือบริการให้ชาวไทยและ ชาวต่างชาตเิ ชา่ เพ่อื อยู่อาศัย เป็นตน้ โดยพื้นทชี่ มุ ชนชายวัดอยใู่ นความดแู ลของเทศบาลเมืองป่าตอง ข้อมลู ทำงเศรษฐกจิ - การประกอบอาชพี ส่วนใหญจ่ ะประกอบธรุ กิจบา้ นเช่า อาชพี รอง คือ การค้าขาย - รายไดส้ ว่ นใหญจ่ ะได้มาจากการทาธรุ กจิ สว่ นตัว การคา้ ขายและการท่องเทย่ี ว - ปญั หาทางเศรษฐกิจ ในระดบั ครวั เรอื น, ระดบั กลุ่ม,ระดบั ชมุ ชน ได้แก่ ๑) ปญั หาหนสี้ ิน ๒) ปญั หาครอบครวั ขาดความอบอุ่น ๓) ปญั หาการขาดความรว่ มมือในชมุ ชน ขอ้ มูลกำรวิเครำะห์ศักยภำพของชุมชน ปัญหำของชุมชน ปญั หำรนุ แรง ๑. ปญั หาชมุ ชนแออดั ขาดพ้นื ทใ่ี นการทากจิ กรรม ๒. ความปลอดภัยในชีวติ และทรพั ย์สิน ๓. ปัญหายาเสพติด ๔. ปญั หาสงิ่ แวดล้อม (ดินสไลด์ นา้ ทว่ มขัง)

ปัญหำไม่รนุ แรง ๑. ปญั หาขาดความสามัคคีในชุมชน ๒. ขาดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหวา่ งคนในชมุ ชน ๓. ชาวบา้ นไมค่ ่อยใหค้ วามรว่ มมอื (มภี ารกจิ ส่วนตวั มากมาย) ๔. เดก็ และเยาวชนประพฤตไิ มเ่ หมาะสมกับวัย ๕. ปญั หาการจราจรในช่วั โมงเรง่ ด่วน ๖. ชาวบา้ นถูกแย่งอาชีพจากคนตา่ งถ่นิ ๗. ขาดกิจกรรมตอ่ เน่อื ง ของดขี องชุมชน (จุดแขง็ ของชมุ ชน) - จดุ แข็งชุมชน ๑. คนในชมุ ชนให้ความร่วมมอื ๒. มีสถานท่ีทาการชมุ ชน - ความภมู ิใจของคนในชมุ ชน ๑. มีศาลาประชาธิปไตย เปน็ สถานท่ีทาการชมุ ชน เพื่อไวใ้ หค้ นในชุมชนได้มาประชุมกนั ๒. มปี ระเพณเี ดอื นสิบซ่งึ เป็นประเพณีทท่ี ากันมาทุกปี ๓. มคี วามเจรญิ ทางเศรษฐกจิ ที่ดี - อดีตท่ผี ่านมาเป็นอย่างไร ปจั จุบนั เปน็ อย่างไร อนาคตตอ่ ไปเปน็ อย่างไร ในอดีตชุมชนบ้านไสน้าเยน็ เป็นชมุ ชนทเ่ี รียบงา่ ยมปี ระชากรนอ้ ย พื้นทีส่ ่วนใหญ่จะเป็น ท่ี ราบตดิ เชิงเขา แต่ในปจั จุบันมีประชากรอาศัยอยู่มาก เศรษฐกิจดขี ้นึ อยา่ งรวดเรว็ ทาใหป้ ระชากรมรี ายได้ เพ่ิมขน้ึ ส่วนในอนาคตประชากรคงจะเพิม่ ข้ึน และมีธรุ กิจเพ่ิมข้ึนอกี มากมาย ปจั จยั ภำยนอก/โอกำสของชมุ ชน อปุ สรรคของชมุ ชน - ปัจจัยภายนอกทสี่ นับสนนุ ชุมชน มปี ระเพณเี ดอื นสบิ เปน็ ประเพณที ี่สืบทอดกันมาตง้ั แตบ่ รรพบุรษุ - ปญั หาอุปสรรคของชมุ ชน ขาดความร่วมมอื ของคนในชุมชน - โอกาสของชุมชน ชุมชนบา้ นไสน้าเยน็ ในปจั จบุ ันเจรญิ เตบิ โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทาใหม้ ีนกั ธุรกจิ เข้ามาลงทุนใน การทาธรุ กิจกันมากขน้ึ จึงทาให้ประชาชนในชมุ ชนมรี ายได้มากขน้ึ วสิ ยั ทัศนข์ องชุมชน “ไสน้าเยน็ สมั พนั ธ์ สบื สานประเพณี รรู้ ักสามคั คี ด้ารงวถิ ีประชาธปิ ไตย”

ชุมชนบ้ำนนำใน ตำบลป่ำตอง อำเภอกะทู้ จงั หวดั ภเู กต็

ประวตั ิชมุ ชน จากการสบื ถามจากผสู้ ูงอายุ ในเขตชมุ ชนบา้ นนาใน พบวา่ ในอดีตบริเวณเปน็ ชมุ ชนทดี่ ินจะ เปน็ ทข่ี องการทานาสว่ นใหญ่ และเป็นชมุ ชนทอ่ี ยู่จะตอ้ งเขา้ ไปเป็นตรอก ซอก ซอย จึงทาให้เรยี กขานกันวา่ บ้านนาใน ผนู้ ำชมุ ชน ประธานคณะกรรมการชมุ ชน รองประธานคณะกรรมการชุมชน 1. นายธวชั ธรรมดี 2. นางณีรนุช กีส่ นิ้ คณะกรรมการชุมชนฝ่ายการคลัง 3. นางณฏั ฐ์พชั ร์ สิตะรโุ ณ คณะกรรมการชมุ ชนฝา่ ยประชาสัมพันธ์ 4. นางธดิ า กาญจนะ คณะกรรมการชุมชนฝ่ายสาธารณสุข 5. นางฤดี เครอื สมบตั ิ 6. นายลือชัย พหลภักดิ์ คณะกรรมการชมุ ชนฝา่ ยไฟฟ้าและเทคนิค 7. นายวิรชั แกน่ เหลก็ คณะกรรมการชมุ ชน 8. นายธนกฤต สอนสมั ฤทธ์ิ 9. นายรักษา วีระกจิ คณะกรรมการชุมชน 10. นางสาวเพียงพริ ุณ มานพ คณะกรรมการชุมชน 11. นางพชั รนิ ทร์ เรอื นเพช็ ร คณะกรรมการชุมชน 12. นางอุษา กจิ ดาเนนิ 13. นายยุทธนา ปกั ขิพันธ์ คณะกรรมการชุมชน 14. นางธาวดี บญุ ญบรุ ี คณะกรรมการชมุ ชน 15. นางจิราพร เถื่อนถ่ิน คณะกรรมการชมุ ชน คณะกรรมการชมุ ชน คณะกรรมการชุมชน จำนวนประชำกร - จานวนครัวเรอื น ๗๘๒ ครัวเรอื น ประชากรทั้งหมด ๓,๙๔๒ คน ชาย ๑,๘๔๕ คน หญิง ๒,๐๙๗ คน - ประชากรส่วนใหญน่ ับถอื ศาสนาพุทธ ขอ้ มลู ทำงกำยภำพ ชุมชนบา้ นนาใน หา่ งจากตวั เมอื งภูเกต็ ประมาณ ๑๖ กโิ ลเมตร ทิศเหนอื จด ติดตอ่ กับตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ตะวันออก จด ติดต่อกับตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ใต้ จด ตดิ ตอ่ กบั ตาบลกะรน อาเภอเมอื ง ทศิ ตะวันตก จด ตดิ ต่อกบั ทะเลอันดามนั

- สภาพภมู ิอากาศ สภาพทั่วไปมภี ูเขาลอ้ มลักษณะเปน็ รูปโค้ง (คล้ายอฒั จนั ทร์) มีอากาศเย็น - การคมนาคมและอาณาเขต มถี นนสาย ๔ สาย คือ (๑) ถนนนาใน ตัง้ แต่บ้านเลขท่ี ๔๙ เปน็ ต้นไป (เลขคี่) และ ต้ังแต่บ้านเลขท่ี ๔๒ เป็นตน้ ไป (เลขค่)ู ซอยนาใน ๑ ทั้งซอย และ ซอยนาใน ๒ ทั้งซอย (๒) ถนนราษฎร์อุทศิ ๒๐๐ ปี ต้ังแต่บ้านเลขที่ ๑๗๑ เปน็ ต้นไป (เลขคี่) และซอยราษฎรอ์ ุทศิ ๒๐๐ ปี ๒ (๓) ถนนผังเมืองสาย ก ตงั้ แตบ่ า้ นเลขท่ี ๑ – ๑๗๙/... (เลขคี่) และ บ้านเลขที่ ๒-๑๗๘/... (เลขค)ู่ (๔) ถนนห้าสิบปี ตงั้ แต่บ้านเลขท่ี ๓๕ เป็นตน้ ไป(เลขค่ี)และต้งั แต่บ้านเลขที่ ๖๐ เป็นตน้ ไป(เลขค่)ู การจราจรตามถนนสายต่างๆ สว่ นใหญ่จะแออัดบางช่วงเวลา คือ ชว่ งเวลา ๐๗.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. และช่วงเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. เปน็ ช่วงเวลาทีผ่ ู้ท่ที างานในโรงแรม หรือสถานบรกิ ารต่างๆ ผลดั เปล่ยี นเข้าปฏิบตั งิ าน ขอ้ มลู ทำงสงั คม กำรเมอื ง กำรปกครอง ชมุ ชนบ้านนาในประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และเป็นสังคมที่มีผู้คนจากหลายพ้ืน ท่มี าอาศยั อยู่ เพื่อประกอบอาชีพต่างๆ มีการสรา้ งบา้ นเรือน, ห้องพกั เพอ่ื บริการให้ชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่าเพื่ออยู่อาศัย เป็นต้น โดยพ้ืนท่ีชุมชนบ้านนาใน อยู่ในเขตความรับผิดชอบความดูแลของเทศบาลเมือง ปา่ ตอง ขอ้ มูลทำงเศรษฐกิจ - การประกอบอาชพี สว่ นใหญจ่ ะประกอบธรุ กจิ บา้ นเชา่ อาชีพรอง คือ การค้าขาย - รายได้สว่ นใหญ่จะไดม้ าจากการทาธรุ กจิ ส่วนตัว และการทอ่ งเท่ียว - แหล่งทอ่ งเทยี่ ว คอื จุดชมวิวถนนห้าสบิ ปี - ปัญหาทางเศรษฐกจิ ในระดบั ครัวเรือน, ระดับกลมุ่ ,ระดบั ชุมชน ไดแ้ ก่ ๑) ปัญหาหนส้ี ิน ๒) ปัญหาครอบครวั ขาดความอบอนุ่ ๓) ปัญหาการขาดความร่วมมอื ในชมุ ชน ปญั หำของชมุ ชน ปญั หำรุนแรง ๑. การขาดความร่วมมอื ในชุมชน ๒. จราจรไมเ่ ปน็ ระเบียบ การจราจรตดิ ขดั ๓. ขาดความสะอาด บนท้องถนน/ขยะลน้ ๔. ยาเสพตดิ ปัญหำไมร่ ุนแรง 1. เสยี งดังเวลากลางคืน 2. คลองนา้ ตัน 3. คนวา่ งงาน

ของดขี องชุมชน (จุดแข็งของชมุ ชน) - จดุ แข็งชุมชน ๑. มพี ้นื ทท่ี าการชมุ ชนกว้างขวาง ๒. การกระจายตวั ของคนในชุมชนไม่แออัดมาก - ความภูมิใจของคนในชมุ ชน ๑. มตี ลาดสดทไี่ ดม้ าตรฐาน ๒. มีความเจริญทางเศรษฐกิจทด่ี ี - อดีตที่ผ่านมาเป็นอยา่ งไร ปจั จบุ นั เป็นอย่างไร อนาคตตอ่ ไปเปน็ อย่างไร ในอดีตชุมชนบ้านนาใน เป็นชุมชนท่เี รียบง่ายมีประชากรนอ้ ย เพราะพ้ืนทีส่ ว่ นใหญ่จะเปน็ ภูเขา แต่ในปจั จุบนั มีประชากรอาศยั อยมู่ าก เศรษฐกิจดีข้ึนอยา่ งรวดเรว็ ทาให้ประชากรมรี ายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ ส่วน ในอนาคตประชากรคงจะเพิม่ ขน้ึ และมธี ุรกจิ เพมิ่ ข้นึ อีกมากมาย ปจั จยั ภำยนอก/โอกำสของชุมชน อุปสรรคของชุมชน - ปัจจัยภายนอกทีส่ นบั สนุนชมุ ชน มตี ลาดสดบ้านซา้ น และตลาดสดแมอ่ ุบล ทไ่ี ด้รบั มาตรฐาน - ปญั หาอุปสรรคของชุมชน ขาดความร่วมมือของคนในชุมชน - โอกาสของชุมชน ชุมชนบา้ นนาใน ในปจั จุบนั เจรญิ เติบโตข้นึ อย่างรวดเร็ว ทาใหม้ ีนกั ธุรกจิ เขา้ มาลงทนุ ในการ ทาธุรกจิ กันมากขนึ้ จึงทาให้ประชาชนในชมุ ชนมีรายได้มากข้นึ วิสัยทศั น์ของชมุ ชน “คดิ ใหม่ ท้าใหม่ เพ่ือชุมชนนาใน”

ชุมชนบ้ำนโคกมะขำม ตำบลปำ่ ตอง อำเภอกะทู้ จงั หวดั ภูเกต็

ประวตั ชิ ุมชน สันนิษฐานว่า เรียกมาจาก ต้นมะขามใหญ่เก่าแก่ต้นหน่ึงในหมู่บ้าน ชาวบ้านเรียกชื่อ มะขามนี้ว่า “มะขามโพรง” มะขามต้นน้ีอายุยาวนานมากแล้ว รอบๆ มะขามต้นน้ีเป็นที่นาของชาวบ้าน มะขามต้นน้ีปลูกอยู่บนที่สูง ชาวบ้านเรียกว่า “โคก” (บนโคก) เป็นภาษาชาวบ้าน คือ ที่ที่ไม่มีน้าเด็กๆ หรือคนในหมู่บ้านจะมาเกบ็ มะขามต้นนี้กิน กนั เปน็ ประจา จึงไดเ้ รยี น ชุมชนน้วี า่ “โคกมะขาม” ผนู้ ำชมุ ชน 1. นายฉัตรชยั สารกิ ขพันธ์ุ ประธานคณะกรรมการชมุ ชน 2. นายบุญเสรมิ พันธท์ ิพย์ รองประธานคณะกรรมการชมุ ชน 3. นายสุระชยั อิสลาม คณะกรรมการชุมชนฝา่ ยกฬี า 4. ว่าที่รอ้ ยตรีธราธปิ พันธท์ พิ ย์ คณะกรรมการชมุ ชน 5. นางพยอมพร สิงฆาฬะ คณะกรรมการชุมชน 6. นางรัตนา ยอดตอ่ คณะกรรมการชุมชน 7. นางรุง่ นภา อสิ ลาม คณะกรรมการชมุ ชน 8. นางกลั ยา สองเมอื ง คณะกรรมการชุมชน 9. นางวณิชชา เป็นมิตร คณะกรรมการชุมชน 10. นางสาวลลนา ขมิ้นทอง คณะกรรมการชุมชน 11. นายสนั ตชิ ยั หนูเชต คณะกรรมการชุมชนและเหรญั ญกิ 12. นายวรี ชาติ ชายสิทธิ์ ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมการชุมชนบ้านโคกมะขาม 13. นายประกอบ ยายี ที่ปรกึ ษาคณะกรรมการชมุ ชนบ้านโคกมะขาม 14. นายอมร ศรที วีกลู ทป่ี รึกษาคณะกรรมการชมุ ชนบ้านโคกมะขาม 15. นางรัตนพรรณ ยอดต่อ ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมการชุมชนบา้ นโคกมะขาม จำนวนประชำกร - จานวนครัวเรอื น ๖๖๖ ครวั เรือน ประชากรทงั้ หมด ๒,๘๔๙ คน ชาย ๑,๓๕๕ คน หญงิ ๑,๔๙๔ คน ประชากรส่วนใหญน่ ับถือศาสนาอสิ ลาม ข้อมูลทำงกำยภำพ ชุมชนบ้านโคกมะขาม ห่างจากตัวเมอื งภูเก็ตประมาณ ๑๖ กิโลเมตร ทิศเหนอื จด ติดต่อกบั ตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ตะวันออก จด ตดิ ต่อกับตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศใต้ จด ติดตอ่ กบั ตาบลกะรน อาเภอเมือง ทิศตะวนั ตก จด ตดิ ตอ่ กบั ทะเลอนั ดามนั

- สภาพภมู อิ ากาศ สภาพท่วั ไปมภี ูเขาล้อมอยู่ ๑ ฝง่ั มอี ากาศรอ้ นชืน้ - การคมนาคม มีถนนและอาณาเขตดงั นี้ (๑) ถนนพระบารมี ตงั้ แตบ่ า้ นเลขท่ี ๕๑ – ๒๒๑ (เลขคี่) บา้ นเลขท่ี ๑๐๐ – ๒๘๐ (เลขค)ู่ ซอยพระบารมี ๓ หันหน้าเขา้ หาซอยด้านฝัง่ ซ้ายมือ (บา้ นเลขค่ี) และซอยพระบารมี ๓/๑ (๒) ถนนราษฎร์อุทศิ ๒๐๐ ปี ตั้งแต่บ้านเลขท่ี ๑ – ๘๗/๑ (เลขค)่ี และ บา้ นเลขท่ี ๒ – ๑๒๐ (เลขค)ู่ (๓) ถนนเฉลิมพระเกียรติ ทัง้ ถนน (๔) ถนนหาดป่าตอง บ้านเลขคี่ (๕) ถนนทววี งศ์ ตั้งแตบ่ ้านเลขท่ี ๑๙๐ เปน็ ต้นไป ยกเวน้ ๒๒๒-๒๒๒/... (๖) ถนนผังเมืองสาย ก. ตั้งแต่บ้านเลขท่ี ๑๙๙ เปน็ ตน้ ไป (เลขค่ี) และบ้านเลขที่ ๒๓๘ เปน็ ตน้ ไป (เลขคู)่ การจราจรตามถนนสายต่างๆ สว่ นใหญจ่ ะแออัดบางชว่ งเวลา คือ ช่วงเวลา ๐๗.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. และชว่ งเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. เปน็ ช่วงเวลาทผ่ี ู้ทท่ี างานในโรงแรม หรอื สถานบรกิ ารต่างๆ ผลดั เปล่ียนเข้าปฏบิ ัติงาน ขอ้ มลู ทำงสังคม กำรเมือง กำรปกครอง ชมุ ชนบา้ นโคกมะขาม ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอสิ ลาม มีมสั ยิดอยู่ ๒ แห่ง และเป็น สังคมทม่ี ีผคู้ นจากหลายพื้นที่มาอาศัยอยู่ เพ่ือประกอบอาชีพตา่ งๆ มีการสร้างบ้านเรือน, หอ้ งพัก เพื่อบริการ ใหช้ าวไทยและชาวตา่ งชาตเิ ชา่ เพ่ืออยูอ่ าศยั เป็นต้น ข้อมลู ทำงเศรษฐกจิ - การประกอบอาชพี สว่ นใหญจ่ ะประกอบธุรกิจบา้ นเชา่ อาชีพรอง คอื การคา้ ขาย - รายไดส้ ว่ นใหญ่จะได้มาจากการทาธรุ กจิ สว่ นตัวและการทอ่ งเท่ียว - แหล่งทอ่ งเท่ยี ว คือ หาดป่าตองและมัสยิด - ปญั หาทางเศรษฐกจิ ในระดบั ครัวเรือน, ระดับกลมุ่ ,ระดับชุมชน ไดแ้ ก่ ๑) ปญั หาหน้สี นิ ๒) ปญั หาครอบครวั ขาดความอบอุ่น ๓) ปญั หาการขาดความรว่ มมอื ในชมุ ชน ข้อมลู กำรวิเครำะหศ์ ักยภำพของชมุ ชน ปัญหำของชุมชน ปัญหำรุนแรง ๑. ไมม่ ีที่ทางานชมุ ชน ๒. ยาเสพตดิ (มวี ัยร่นุ มวั่ สมุ ) ๓. การขดี ขวางการจราจร ๔. ขยะล้นสง่ กล่ินเน่าเหมน็ ปญั หำไมร่ นุ แรง ๑. ว่างงาน ๒. ชุมชนไมม่ นี ้าใช้ ในหนา้ แล้ง

ของดขี องชมุ ชน (จดุ แข็งของชุมชน) - จดุ แขง็ ชุมชน ๑. การให้ความรว่ มมือของคนในชุมชน ๒. ฐานะทางเศรษฐกิจของคนในชมุ ชน - ความภูมิใจของคนในชุมชน ๑. มีมัสยิดเป็นสถานทยี่ ึดเหนีย่ วในชมุ ชน ๒. มีความเจริญทางเศรษฐกจิ ทีด่ ี - อดีตทผ่ี ่านมาเป็นอย่างไร ปัจจบุ นั เปน็ อย่างไร อนาคตตอ่ ไปเป็นอยา่ งไร ในอดตี ชมุ ชนบา้ นโคกมะขาม เปน็ ชุมชนท่ีเรยี บง่ายมปี ระชากรนอ้ ย มีพนื้ ทส่ี ่วนใหญ่เป็นทุ่ง นา และเทือกเขา แต่ในปัจจบุ ันมีประชากรอาศยั อยมู่ าก เศรษฐกจิ ดีข้ึนอย่างรวดเร็วทาให้ประชากรมรี ายได้ เพมิ่ ขึ้น ส่วนในอนาคตประชากรคงจะเพิ่มขึน้ และมธี รุ กจิ เพมิ่ ข้นึ อกี มากมาย ปจั จัยภำยนอก/โอกำสของชุมชน อุปสรรคของชุมชน - ปัจจยั ภายนอกทสี่ นบั สนนุ ชุมชน มมี ัสยดิ เป็นแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วของแขกผู้มาเยอื นชุมชนบา้ นโคกมะขาม และงานตรุษอดี ล้ิ ฟิตรี (งานออกบวช) ทม่ี ีประจาทุกปี - ปญั หาอปุ สรรคของชมุ ชน ขาดความร่วมมือของคนในชมุ ชน - โอกาสของชมุ ชน ชุมชนบา้ นโคกมะขามในปจั จบุ นั เจรญิ เตบิ โตขนึ้ อยา่ งรวดเร็ว ทาใหม้ นี ักธรุ กิจเข้ามาลงทนุ ใน การทาธุรกิจกนั มากขึ้น จึงทาให้ประชาชนในชุมชนมีรายไดม้ ากข้ึน วิสัยทศั นข์ องชมุ ชน “โคกมะขามรวมพลงั สรา้ งชุมชนใหเ้ ขม้ แขง็ ”

ชุมชนบ้ำนกะหลิม ตำบลป่ำตอง อำเภอกะทู้ จงั หวดั ภเู กต็

ประวตั ชิ มุ ชน ชมุ ชนบา้ นกะหลมิ ได้รับการยกระดับเป็นชุมชน ตามประกาศเทศบาลตาบลป่าตอง ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๓๘ เร่ืองการกาหนดเขตชุมชนในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง โดยอาศัยอานาจตามระเบียบ เทศบาลตาบลป่าตอง วา่ ด้วยคณะกรรมการชุมชน พ.ศ. ๒๕๓๘ ข้อ ๔ วรรค ๒ กาหนดเขตชุมชนเทศบาลเป็น ๔ ชุมชนคือ ชมุ ชนบา้ นนาใน ชุมชนบ้านไสน้าเยน็ ชมุ ชนบา้ นกะหลิม และชุมชนบ้านโคกมะขาม ต่อมา ชุมชน ต่างๆไดข้ ยายตัวขนึ้ จนได้มีการเพ่มิ จานวนชมุ ชนขนึ้ เปน็ ๗ ชุมชน ตามประกาศเทศบาลตาบลป่าตอง ลงวันท่ี ๑๙ มถิ ุนายน ๒๕๔๔ เร่อื งการกาหนดเขตชุมชนในเขตเทศบาลตาบลป่าตอง ผนู้ ำชมุ ชน ประธานคณะกรรมการชมุ ชน รองประธานคณะกรรมการชุมชน ๑. นางวชั รยี ์ พนั ธฉ์ ลาด ๒. นายปญั ญา ศรคี ชชา รองประธานคณะกรรมการชมุ ชน ๓. นางแดง อคั รพงศส์ กุล คณะกรรมการชมุ ชน ๔. นางมีนา ยาดี ๕. นางสาวรุง่ ทวิ า สารรี ตั น์ คณะกรรมการชมุ ชน ๖. นางสาวโสภิดา ทรพั ยเ์ จริญ คณะกรรมการชมุ ชน ๗. นายประสทิ ธิ เหมรา คณะกรรมการชุมชน ๘. นายสุชาติ เหมรา ๙. นายสนทิ ยคุ ณุ ธราภิรกั ษ์ คณะกรรมการชุมชน ๑๐.นายนกุ ุล ขมิน้ ทอง คณะกรรมการชุมชน ๑๑.นายอภิชาติ พนั ธฉ์ ลาด ๑๒.นางสาวนุชนาถ เตยี งนอ้ ย คณะกรรมการชมุ ชน ๑๓.นางเสาวดา้ ดมดง คณะกรรมการชุมชน ๑๔.นางสาวสมยั เสน่ห์ คณะกรรมการชมุ ชน ๑๕.นางสาวภาวดี คมุ้ มิตร ๑๖.นางสมยา บ่อหนา คณะกรรมการชมุ ชน ๑๗.นางสาวจรวย เอกา คณะกรรมการชมุ ชนและประชาสัมพนั ธ์ จำนวนประชำกร - จานวนครวั เรือน ๒๓๒ ครวั เรือน คณะกรรมการชมุ ชนและเลขานุการ ประชากรทง้ั หมด ๑,๑๙๘ คน ท่ปี รกึ ษาคณะกรรมการชุมชน ชาย ๖๐๗ คน หญงิ ๕๙๑ คน ที่ปรึกษาคณะกรรมการชุมชน - ประชากรสว่ นใหญ่นับถอื ศาสนาอสิ ลาม ข้อมลู พนื ฐำนของชมุ ชน ขอ้ มูลทางกายภาพ ชุมชนบ้ำนกะหลมิ ห่างจากตวั เมอื งภเู ก็ตประมาณ ๑๖ กโิ ลเมตร ทิศเหนือ จด ติดต่อกบั ตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทศิ ตะวนั ออก จด ตดิ ตอ่ กับตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศใต้ จด ติดต่อกบั ชมุ ชนบา้ นโคกมะขาม ทิศตะวนั ตก จด ติดตอ่ กบั ทะเลอนั ดามนั

- สภาพภมู ิอากาศ สภาพทัว่ ไปเปน็ พนื้ ท่ชี ายหาดป่าตอง ด้านหลงั เป็นภูเขารอบ มอี ากาศร้อน - การคมนาคมและอาณาเขต มีถนนสายสาคัญ ๑ สาย คือ ถนนพระบารมีต่อจากทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๔๐๒๐ สามารถเดินทางต่อไปยงั หาดกมลาได้ การจราจรคอ่ นข้างสะดวกแต่ จะมีปัญหาการจราจรติดขัดบางช่วงเวลา คอื ช่วงเวลา ๐๗.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. และชว่ งเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาท่ีผู้ที่ทางานในโรงแรม หรอื สถานบริการต่างๆ ผลัดเปลีย่ นเข้าปฏิบัติงาน มีอาณาเขตดงั น้ี ถนนพระบารมี ต้งั แตบ่ า้ นเลขท่ี ๒๒๓ เป็นต้นไป(เลขค่ี) และบ้านเลขท่ี ๒๘๒ เป็นต้นไป(เลข ค)ู่ ซอยพระบารมี ๕ ทง้ั ซอย ซอยพระบารมี ๖ ทงั้ ซอย ซอยพระบารมี ๗ ท้ังซอย ซอยพระบารมี ๘ ทงั้ ซอย ซอยพระบารมี ๙ ท้งั ซอย ข้อมูลทำงสงั คม กำรเมอื ง กำรปกครอง ชุมชนบา้ นกะหลมิ เป็นชุมชนที่เล็กท่ีสุด ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และเป็น สงั คมทมี่ ีผ้คู นจากหลายพนื้ ทม่ี าอาศยั อยู่ เพือ่ ประกอบอาชพี ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรม ขนาดต่างๆ เพื่อ บรกิ ารใหช้ าวไทยและชาวตา่ งชาตเิ ช่าเพอ่ื การพกั ผอ่ น เปน็ ตน้ โดยพื้นทช่ี ุมชนบา้ นกะหลิม อยู่ในความดูแลของ เทศบาลเมืองป่าตอง ข้อมูลทำงเศรษฐกิจ - การประกอบอาชพี สว่ นใหญจ่ ะประกอบธรุ กจิ บ้านเช่า อาชพี รอง คือ ธุรกจิ คา้ ขาย และ บางสว่ นประกอบอาชพี ประมงพนื้ บ้าน - รายได้ส่วนใหญ่จะได้มาจากการ ธรุ กจิ โรงแรมและการท่องเทยี่ ว - แหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว คือ หาดกะหลมิ - ปัญหาทางเศรษฐกจิ ในระดบั ครวั เรอื น, ระดบั กลุ่ม,ระดบั ชมุ ชน ได้แก่ ๑) ปญั หาหนี้สนิ ๒) ปัญหาครอบครวั ขาดความอบอุน่ ๓) ปญั หาการขาดความรว่ มมอื ในชมุ ชน ข้อมูลกำรวิเครำะหศ์ ักยภำพของชมุ ชน ปญั หำของชมุ ชน ปัญหำรนุ แรง ๑. ความสะอาด ขยะ ๒. ทท่ี าการชมุ ชน ๓. ยาเสพตดิ ในชุมชน ๔. ขาดแคลนนา้ บริโภค ๕. ขยะ (ทงิ้ ขยะไม่เปน็ ระเบียบ) ๖. คนวา่ งงานในชุมชน

ปญั หำไม่รนุ แรง ๔. ปัญหาด้านอาชีพ ๕. การศกึ ษาของเด็ก ๖. นายทุนบุกรกุ คลองสาธารณะ ๗. ถนนวันเวย์ ทาให้ระยะทางไกลขึ้น ๘. ครู ะบายนา้ อุดตัน ๙. ประชากรแฝง จานวนมาก ๑๐.ขาดความสามัคคี ความร่วมมือในชมุ ชน ของดีของชมุ ชน - จดุ แขง็ ชุมชน ประชาชนในชมุ ชนให้ความร่วมมอื - ความภูมิใจของคนในชมุ ชน ๑. มีหาดกะหลมิ เป็นสถานท่ีทอ่ งเที่ยวในชุมชน ๒. มีความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ ที่ดีมาก - อดีตทผี่ ่านมาเป็นอยา่ งไร ปจั จบุ ันเปน็ อย่างไร อนาคตตอ่ ไปเปน็ อยา่ งไร ในอดีตชุมชนบ้านกะหลิม เป็นชุมชนเล็กๆ ท่ีอยู่ห่างไกลจากชุมชนอีกมาก การคมนาคม ลาบาก ประชาชนส่วนใหญ่ทาอาชีพประมง ส่วนในปัจจบุ ัน มีคนจากถิ่นอื่นเข้ามาทาธุรกิจโรงแรมมากข้ึน ทา ให้เศรษฐกิจดี สาหรับในอนาคตคาดวา่ จะมีประชากรเพ่ิมมากข้ึน และจะทาให้ประชาชนมรี ายได้เพ่ิมขนึ้ ดว้ ย ปัจจยั ภำยนอก/โอกำสของชุมชน อุปสรรคของชุมชน - ปจั จยั ภายนอกทสี่ นับสนุนชุมชน มชี ายหาดกะหลมิ เปน็ แหล่งท่องเที่ยวของแขกผ้มู าเยือน และมีทศั นียภาพท่ีสวยงาม สมาชกิ ในชมุ ชนมรี ายไดท้ แี่ นน่ อน และมั่นคง มีการชว่ ยเหลอื และให้ความรว่ มมอื ที่ดีมาก - ปัญหาอปุ สรรคของชุมชน คนต่างถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยในชุมชนมากข้นึ - โอกาสของชมุ ชน ชุมชนบ้านกะหลมิ ในปัจจุบนั เจรญิ เติบโตขน้ึ อย่างรวดเร็ว ทาใหม้ นี ักธรุ กจิ เข้ามาลงทนุ ในการ ทาธรุ กจิ กนั มากข้นึ จึงทาใหป้ ระชาชนในชุมชนมรี ายได้มากขึน้ วิสยั ทศั นข์ องชมุ ชน “รว่ มกนั คิด รว่ มกันสรา้ ง คอื พลังของกะหลิม ”

ชุมชนหำดปำ่ ตอง ตำบลป่ำตอง อำเภอกะทู้ จงั หวดั ภเู กต็

ประวตั ชิ มุ ชน เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจท่ีเจริญขึ้น ในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง โดยเฉพาะบริเวณหน้า หาดป่าตอง ซึ่งมีการประกอบธุรกิจทางด้านโรงแรม และธุรกิจต่างๆ จึงทาให้มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่น เทศบาลเมืองปา่ ตอง จึงขอเพ่ิมการแบง่ เขตชมุ ชน อีก ๑ ชมุ ชน คอื ชุมชนหาดปา่ ตอง และโดยส่วนใหญ่จะเป็น ประชากรท่มี าจากแตล่ ะจงั หวัดของประเทศไทย เสน่ห์ของเกาะภูเก็ต ที่ทาให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ทั่วทกุ มุมโลกตา่ งก็ตอ้ งการเข้ามาชน่ื ชม และสัมผสั บรรยากาศของหาดแห่งนี้ ชายหาดที่ทอดตัวยาวเกือบ ๒ กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต ถูกโรยด้วยทรายสีขาว เนื้อละเอียด รับกับน้าทะเลสีฟ้าสดใส กลายเป็นชายหาดแห่งแรกของภูเก็ตท่ีเข้าสู่โลกของธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบและกลายเป็น ภาพลักษณข์ องภเู กต็ ทที่ าให้เกาะแห่งนข้ี ึ้นส่รู ะดบั เมอื งทอ่ งเที่ยวยอดนิยม ผนู้ ำชมุ ชน ประธานคณะกรรมการชมุ ชน รองประธานคณะกรรมการชุมชน คนที่ 1 1. นางสาวจงรักษ์ อธิมตุ ติสรรค์ 2. นายราชินทร์ ทองมากกุล รองประธานคณะกรรมการชมุ ชน คนที่ ๒ คณะกรรมการชมุ ชนรฝา่ ยคลงั 3. นายวทิ ยา อิสระมาลัย คณะกรรมการชุมชนฝ่ายสาธารณสุข 4. นางสาวสพุ ัฒรา จารุอรยิ านนท์ 5. นางสาววมิ ลรตั น์ ขอเจรญิ คณะกรรมการชมุ ชนฝ่ายกิจกรรมเดก็ เยาวชน และสตรี คณะกรรมการชมุ ชนฝา่ ยการศกึ ษา 6. แพทย์หญิงเนาวรตั น์ สมนาม 7. นายสมเพชร หมโู่ สภณ คณะกรรมการชมุ ชนฝ่ายสง่ เสริมอาชีพ คณะกรรมการชมุ ชนฝ่ายสวัสดิการสงั คม 8. นายวโิ รจน์ พหลการณ์ คณะกรรมการชมุ ชนฝา่ ยกีฬาและ นันทนาการ 9. นางสาวนภัส ด้วงรตั น์ 10. นายสมพร ทองเรนทร์ คณะกรรมการชมุ ชนฝา่ ยงานส่งิ แวดลอ้ ม คณะกรรมการชุมชน 11. นายวรรณะ นนทามิตร 12. นางปราณี จนั ทฤก คณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการชุมชน 13. นางบุญภา จนั ทนา คณะกรรมการชมุ ชนและเลขานุการ 14. นางสาวภัชรา เชือ้ ญวน 15. นายสมชาย เหนียวแน่น ท่ปี รึกษาคณะกรรมการชมุ ชน 16. นายพรเทพ โปตะการกั ษ์ จำนวนประชำกร - จานวนครัวเรือน ๕๘๘ ครวั เรือน ประชากรทงั้ หมด ๓,๐๑๑ คน ชาย ๑,๕๙๙ คน หญงิ ๑,๔๑๒ คน - ประชากรสว่ นใหญน่ ับถือศาสนาพทุ ธ

ข้อมูลทางกายภาพ (สภาพภูมิศาสตร์ สภาพภูมิอากาศ การคมนาคม) ชมุ ชนหาดป่าตอง ห่างจากตวั เมืองภเู กต็ ประมาณ ๑๖ กโิ ลเมตร ทศิ เหนอื จด ติดตอ่ กบั ตาบลกมลา ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศตะวนั ออก จด ติดต่อกับตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ทิศใต้ จด ติดตอ่ กบั ตาบลกะรน อาเภอเมือง ทิศตะวันตก จด ติดต่อกบั ทะเลอนั ดามนั - สภาพภมู อิ ากาศ สภาพท่ัวไปเป็นพืน้ ท่ีชายหาดป่าตอง มีอากาศร้อนชน้ื - การคมนาคมและอาณาเขต มถี นน ๑๐ สาย คือ (๑) ถนนราษฎร์อุทิศ ๒๐๐ ปี ต้ังแต่บ้านเลขที่ ๑๒๐/๑ เปน็ ต้นไป(เลขค)ู่ และซอยราษฎรอ์ ทุ ิศ ๒๐๐ ปี ๑ (๒) ถนนสิรริ าชย์ ทง้ั ถนน (๓) ถนนสวัสดริ ักษ์ ท้ังถนน (๔) ถนนหาดป่าตอง บา้ นเลขท่ีคู่ (๕) ถนนบางลา ท้งั ถนน (๖) ถนนร่วมใจ ท้ังถนน (๗) ถนนประชานเุ คราะห์ ทงั้ ถนน (๘) ถนนหม่นื เงิน ทัง้ ถนน (๙) ถนนทวีวงค์ ต้งั แตบ่ ้านเลขท่ี ๑ – ๑๘๙ รวมบ้านเลขที่ ๒๒๒-๒๒๒/... (๑๐) ถนนเพชรกูด ทงั้ ถนน การจราจรตามถนนสายต่างๆ ส่วนใหญ่จะแออัดบางช่วงเวลา คือ ช่วงเวลา ๐๗.๐๐–๐๘.๓๐ น. และช่วงเวลา ๑๗.๐๐–๒๐.๐๐ น. เปน็ ช่วงเวลาทผี่ ทู้ ่ที างานในโรงแรม หรือสถานบริการต่างๆ ผลัดเปลี่ยนเข้า ปฏบิ ตั งิ าน ข้อมูลทำงสงั คม กำรเมอื ง กำรปกครอง ชุมชนหาดป่าตอง ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และเป็นสังคมที่มีผู้คนจากหลาย พน้ื ทมี่ าอาศยั อยู่ เพอื่ ประกอบอาชีพต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรม ขนาดต่างๆ เพ่ือบริการให้ชาวไทยและ ชาวต่างชาติเชา่ เพ่อื การพกั ผ่อน เปน็ ต้น โดยพืน้ ที่ชมุ ชน หาดป่าตอง อย่ใู นความดูแลของเทศบาลเมอื งป่าตอง ข้อมลู ทำงเศรษฐกิจ - การประกอบอาชพี ส่วนใหญจ่ ะประกอบธรุ กิจโรงแรม อาชพี รอง คือ ธรุ กจิ ค้าขาย - ขอ้ มูลรายได้ รายได้ส่วนใหญจ่ ะไดม้ าจากการ ธุรกิจโรงแรม - แหล่งทอ่ งเทีย่ ว คอื หาดปา่ ตอง - ปัญหาทางเศรษฐกจิ ในระดับครวั เรือน, ระดับกลุ่ม,ระดับชุมชน ได้แก่ ๑) ปญั หาหน้สี ิน ๒) ปัญหาครอบครวั ขาดความอบอุ่น ๓) ปัญหาการขาดความร่วมมือในชุมชน

ของดีของชุมชน (จดุ แขง็ ของชุมชน) - จุดแข็งชมุ ชน ๑. มีพ้ืนท่ีติดชายหาดป่าตอง ๒. สภาพเศรษฐกจิ การท่องเท่ียว - ความภมู ิใจของคนในชมุ ชน ๑. มหี าดป่าตองเป็นสถานท่ที ่องเที่ยวในชมุ ชน ๒. มีความเจรญิ ทางเศรษฐกิจท่ดี มี าก - อดีตท่ีผ่านมาเป็นอยา่ งไร ปัจจุบันเป็นอยา่ งไร อนาคตตอ่ ไปเป็นอย่างไร ในอดีตชมุ ชนหาดปา่ ตอง เป็นชุมชนท่เี ริ่มจดั หลัง เป็นชุมชนสุดท้าย เพราะการเจริญเติบโต ของตาบลปา่ ตอง ทาให้เทศบาลเมืองปา่ ตองต้องจัดระบบการวางแผนผังชุมชนเพ่ิมขึ้น ปัจจุบันชุมชนหาดป่า ตองมีประชากรอาศัยอยู่มาก และคาดว่าในอนาคตก็จะมีประชากรเพิ่มมากข้ึนอีก และจะทาให้เพ่ิมรายได้ ใหก้ บั ชุมชนด้วย ปัจจยั ภำยนอก/โอกำสของชมุ ชน อปุ สรรคของชมุ ชน - ปัจจยั ภายนอกทส่ี นบั สนนุ ชุมชน มีชายหาดปา่ ตองเป็นแหลง่ ทอ่ งเที่ยวของแขกผู้มาเยือนชุมชนหาดป่าตอง - ปัญหาอปุ สรรคของชมุ ชน ขาดความร่วมมอื ของคนในชมุ ชน - โอกาสของชุมชน ชมุ ชนหาดป่าตองในปัจจุบันเจริญเตบิ โตขึน้ อยา่ งรวดเรว็ ทาใหม้ นี ักธรุ กิจเข้ามาลงทนุ ในการ ทาธรุ กิจกันมากขึน้ จึงทาให้ประชาชนในชุมชนมรี ายไดม้ ากขึน้ วสิ ัยทศั นข์ องชุมชน “ชมุ ชนร่วมใจ หาดทรายขาวนา้ ใส นา้ ทอ่ งเที่ยวก้าวไกล ประทับใจมิรู้ลมื ”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook