1 รายงาน เร่ือง วเิ คราะหก์ ารใชภ้ าษาพาดหวั ขา่ วจากหนงั สือพมิ พร์ ายวนั ไทยรฐั เสนอ คณุ ครูสายฝน โหจันทร์ โดย นางสาวอภิชญา ฉิมไธสง ชั้น ม.๖/๒ เลขท่ี ๑ นางสาวศิริวรรณ ยงเขตรกจิ ชน้ั ม.๖/๒ เลขที่ ๗ นางสาวดาวเดอื น ไชยดำ ชน้ั ม.๖/๒ เลขท่ี ๙ นางสาวมานิตา น่ิมทองคำ ชั้น ม.๖/๒ เลขที่ ๑๐ นางสาวศริ ินภา ปานแย้ม ชน้ั ม.๖/๒ เลขที่ ๑๓ นางสาวนัฐธติ า ปะทิรมั ย์ ชั้น ม.๖/๒ เลขท่ี ๑๙ นางสาวมัชฌมิ า เอกกัลชาญ ช้นั ม.๖/๒ เลขท่ี ๒๖ รายงานน้เี ป็นสว่ นหนึ่งของวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน (ท๓๓๑๐๒) ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ โรงเรยี นมารยี ์อปุ ถมั ภ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม
2 รายงาน เร่ือง วเิ คราะห์การใชภ้ าษาพาดหัวขา่ วจากหนังสือพมิ พร์ ายวันไทยรฐั เสนอ คุณครสู ายฝน โหจนั ทร์ โดย นางสาวอภชิ ญา ฉมิ ไธสง ชั้น ม.๖/๒ เลขท่ี ๑ นางสาวศิรวิ รรณ ยงเขตรกิจ ชนั้ ม.๖/๒ เลขที่ ๗ นางสาวดาวเดอื น ไชยดำ ชั้น ม.๖/๒ เลขที่ ๙ นางสาวมานติ า นิม่ ทองคำ ชน้ั ม.๖/๒ เลขที่ ๑๐ นางสาวศริ ินภา ปานแยม้ ช้ัน ม.๖/๒ เลขท่ี ๑๓ นางสาวนัฐธิตา ปะทิรมั ย์ ชั้น ม.๖/๒ เลขท่ี ๑๙ นางสาวมชั ฌิมา เอกกลั ชาญ ชัน้ ม.๖/๒ เลขท่ี ๒๖ รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนึ่งของวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน (ท๓๓๑๐๒) ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ โรงเรียนมารยี ์อุปถมั ภ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม ศ็
ก คำนำ รายงานเรื่อง วิเคราะห์การใช้ภาษาพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันไทยรัฐ เป็นรายงานส่วนหน่ึง ของวิชาภาษาไทยพื้นฐาน (ท๓๓๑๐๒) ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้ ภาษาไทยในรูปแบบการพาดหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์ที่สามารถพบเห็นได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบั น โดยคณะ ผู้จัดทำได้ศึกษาเชงิ วิเคราะห์การใชภ้ าษาพาดหัวขา่ วของหนังสือพิมพ์รายวนั ไทยรัฐ เปน็ เวลา ๑ สปั ดาห์ ตงั้ แต่ วันที่ ๑๗ ตลุ าคม ๒๕๖๔ จนถึงวนั ที่ ๒๓ ตลุ าคม ๒๕๖๔ เนอ่ื งจากคณะผู้จดั ทำพบว่าภาษาไทยท่ีใช้ในการพาด หัวข่าวมีความพิเศษ คือเป็นการใช้ภาษาไทยเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคข่าวสาร ทำให้ผู้บริโภคข่าวสาร นั้นเกิดภาพจำจากการเลือกใช้คำของสำนักข่าว คณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้า และรวบรวมข้อมูล อาศัย กระบวนการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และเชอื่ มโยง จนสำเร็จเปน็ รายงานเลม่ นี้ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน หรือผู้ที่สนใจ รายงานเล่มนี้ และสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่คาดหวัง หากมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปเพิ่มเติม หรือ แก้ไข คณะผู้จดั ทำขอนอ้ มรบั ข้อเสนอแนะตา่ ง ๆ เพื่อนำไปพัฒนาให้ดีขึ้นตอ่ ไป คณะผู้จดั ทำ ๔ / ๑๑ / ๒๕๖๔
สารบญั ข เรอ่ื ง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข บทนำ ค ๑. ความหมายและประเภทของหนังสอื พิมพ์ ๑ ๑.๑ ความหมายของหนังสอื พมิ พ์ ๑-๔ ๑.๒ ประเภทของหนังสอื พิมพ์ ๕-๖ ๑.๓ ข้อดีและข้อเสยี ของหนงั สือพมิ พ์ ๗ ๒. การพาดหัวขา่ ว ๘-๙ ๒.๑ ความหมายของการพาดหัวข่าว ๙-๑๒ ๒.๒ วตั ถปุ ระสงค์ของการพาดหวั ข่าว ๑๒-๑๖ ๒.๓ ประเภทของการพาดหัวข่าว ๒.๔ ลักษณะการใช้ภาษาพาดหัวข่าว ๑๗-๑๙ ๑๙-๒๐ ๓. บทวิเคราะห์การใชภ้ าษาพาดหัวขา่ วหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ๒๐-๒๑ ๓.๑ การใช้คำศพั ทเ์ ฉพาะ ๒๑ ๓.๒ การใชค้ ำทแี่ ตกตา่ งแต่ความหมายคล้ายกนั ๒๒-๒๓ ๓.๓ การเลอื กใช้คำที่นา่ สนใจในการพาดหัวขา่ ว ๒๓-๒๔ ๓.๔ การใชค้ ำซำ้ เพ่ือยำ้ ความหมาย ๒๕ ๓.๕ การใช้อกั ษรย่อ ๒๖-๒๘ ๓.๖ การใช้คำทบั ศพั ท์ บทสรุป บรรณานกุ รม
ค บทนำ สิ่งพิมพ์ในสังคมไทยมีหลายลักษณะ คือ สิ่งพิมพ์ในวงจำกัดและสิ่งพิมพ์แพร่หลายทั่วไปตามความ ต้องการของสังคมและจุดมุ่งหมายของผู้ผลิต การที่สิ่งพิมพ์มีลักษณะพิเศษหลายประการทำให้สิ่งพิมพ์ยังคง เป็นสื่อที่มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบันแม้จะมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ในอนาคตจะลดน้อยลง และจะหายไปจากบรรณพิภพเนื่องจากสื่ออินเทอร์เน็ตจะเข้ามาแทนที่ อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตข้างต้นยังไม่ เป็นความจริงในเวลานี้ เพราะข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของสังคมไทย (วิชัย พยัคฆโส. ๒๕๔๒ : ๑๗) ยิ่งในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ ประชาชนมีความตอ้ งการทีจ่ ะรบั รู้ข่าวสารท่ีดี ที่ถูกตอ้ ง กวา้ งขวางและมีประสิทธภิ าพ ในปจั จุบันในบรรดาสื่อ ต่าง ๆ ที่นำเสนอข้อมูลในปัจจุบันสื่อสิ่งพิมพ์นับเป็นสื่อที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่ สามารถตอบสนองความต้องการ เหล่านั้นได้ ซึ่งผู้ท่ีนำเสนอข้อมูลข่าวสารตา่ ง ๆ ผ่านสิ่งพมิ พ์ คือสำนักข่าว เป็นองค์กรหนึง่ ที่จัดหาและรายงาน เนื้อหาขา่ วทุกชนิด ตลอดจนการรายงานข่าวผ่านทางวิทยุกระจายเสียง และวิทยโุ ทรทศั น์ “สำนักข่าวไทยรัฐ” เป็นสำนักข่าวหนังสอื พมิ พ์รายวนั ภาษาไทยทีม่ ยี อดจำหน่ายมากท่ีสุดในประเทศไทยจากการสำรวจเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยมีจำนวนพิมพ์ปัจจุบันที่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ฉบับ และจำหน่ายด้วยราคา ๑๐.๐๐ บาท สิ่งสำคัญในการ ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ให้ได้รับความสนใจจากผู้รับสารคือ การพาดหัวข่าว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถดึงดูด ผู้รับสารใหเ้ ขา้ ไปอา่ นข่าว ผู้บริโภคข่าวสารหลายคนคงเลอื กอา่ นข่าวจากการพาดหัวข่าวในประเด็นทีต่ นสนใจ แต่สิ่งสำคัญคือหากข่าวนั้นมีการพาดหัวท่ีดึงดูดใจ ย่อมเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าแม้ผู้อ่านอาจจะไม่ได้สนใจข่าวนั้น แต่ลักษณะของการพาดหัวข่าวที่ดีจะสามารถชักจูงใจผู้อ่านให้สนใจประเด็นข่าวและกดเข้าไปอ่านได้ ใน ปัจจุบันมีการแข่งขันพาดหัวข่าวกันสูง เพื่อให้เป็นจุดสนใจของผู้บริโภคข่าวสาร โดยการสรรหาคำต่าง ๆ ที่ สร้างขึ้นใหม่ การเปรียบเปรย การใช้รูปภาพ การจัดเรียงรูปแบบหนังสือพิมพ์ การใช้สีของตัวอักษร ฯลฯ ใน การพาดหวั ขา่ ว คณะผู้จัดทำเห็นว่าการพาดหัวข่าวเป็นอีกองค์ประกอบหลักในหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีความสำคัญมากใน การสื่อข่าว นอกจากการใช้รูปภาพ การจัดเรียงรูปแบบหนังสือพิมพ์ และการใช้สีของตัวอักษรที่เป็นรูปแบบ ภายนอกของหนังสือพิมพ์ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การใช้ภาษาในการพาดหัวข่าว ซึ่งเป็นหัวข่าวที่จะนำเข้าสู่ เนื้อหาข่าวข้างในหนังสือพิมพ์อีกที ดังนั้นการใช้ภาษาในการพาดหัวข่าวจึงมีความสำคัญมาก ถ้าเลือกใช้คำใน การพาดหัวข่าวที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจผิด และอาจส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้แก่ผู้รับสาร รายงานเลม่ นจี้ ะช่วยใหค้ วามสำคัญกบั การพาดหวั ขา่ วทเี่ หมาะสม รวมไปถงึ การเลอื กใชภ้ าษาได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
๑ ๑. ความหมายและประเภทของหนังสอื พมิ พ์ ๑.๑ ความหมายของหนังสอื พิมพ์ จรญั ญา ดีบุญมี (๒๕๕๐ : ๑๘) อธิบายวา่ หนังสอื พมิ พ์ หมายถงึ วัสดุสง่ิ พมิ พท์ เ่ี ป็นส่ือมวลชนประเภท หนึ่ง มีลักษณะเฉพาะตัว กล่าวคือมีเนื้อหาเน้นหนักในเรื่องการรายงานข่าวและเหตุการณ์สำหรับคนทั่วไป ซึ่ง เป็นเนื้อหาที่หลากหลาย มีความน่าสนใจ ไม่เน้นเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และจะต้องพิมพ์เป็นรายประจำ สม่ำเสมอ อาจเปน็ รายวนั ราย ๓ วัน หรอื รายสปั ดาห์ และพมิ พ์เผยแพร่ส่สู าธารณชน รัญจวน อินทรกำแหง (๒๕๑๕ : ๒๙) ให้ความหมาย หนังสือพิมพ์คือ สิ่งพิมพ์ที่ออกตามระยะเวลาท่ี กำหนดติดต่อกันไป จะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายปักษ์ หรือรายเดือนก็ได้มีลักษณะเป็นกระดาษขนาดใหญ่ จำนวนหลายแผน่ พบั ได้ เสนอขา่ วทุกชนดิ ท่ีเปน็ ข่าวสด และนา่ สนใจ เช่น ขา่ วภายในประเทศ ขา่ วตา่ งประเทศ ข่าวธรุ กจิ การค้า ข่าวกีฬา ขา่ วบนั เทิง ขา่ วสังคม เปน็ ต้น พระราชบัญญัติการพิมพ์ (๒๔๘๔ : ออนไลน์) กล่าวว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่รายงาน ขอ้ เทจ็ จรงิ และเหตุการณ์สำคัญทเี่ กิดขึ้น ในแตล่ ะวัน รวมทง้ั เน้อื หาสาระอ่ืนๆ ท่นี า่ สนใจ ตลอดจนการโฆษณา มีวาระการวางจำหนา่ ยท่ีแน่นอน แต่เดิมนิยมจำหน่ายเป็นรายวัน ปัจจุบันหนังสือพิมพ์รายสามวันก็เปน็ ที่นยิ ม ของผู้อ่านมาก การจัดพิมพ์หนังสือพิมพจ์ ะใช้กระดาษชนดิ เดียวกันตลอดเล่ม ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหนา้ สุดทา้ ย โดยไมม่ ีการเยบ็ เล่ม จากการศึกษาความหมายของหนังสือพิมพ์ สรุปได้ว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่มีการกำหนด ตีพิมพ์เผยแพร่แบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายประจำ ตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ตัว หนังสือพิมพ์จะไม่มีการเย็บเล่ม และไม่มีปก ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่จะมุ่งเสนอข่าวสารต่าง ๆ เช่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อุบัติเหตุ อาชญากรรม การศึกษา กีฬา บันเทิง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่ง สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น ๒ ประเภท คือ หนงั สือพมิ พ์คณุ ภาพ และหนังสือพิมพ์ประชานยิ ม ๑.๒ ประเภทของหนงั สอื พมิ พ์ ดรุณี หิรัญรักษ์ (๒๕๓๗ : ๑) กล่าวว่าหากแบ่งหนังสือพิมพ์ตามลักษณะเนื้อหาของข่าวจะสามารถ แบ่งหนงั สอื พิมพ์ไดเ้ ป็น ๒ ประเภท ประเภทแรก ไดแ้ ก่ หนงั สอื พมิ พ์เชงิ คณุ ภาพ คอื หนังสอื พิมพ์ที่เน้นหนักใน การเสนอความรู้ความเข้าใจและปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม หนังสือพิมพ์ ประเภทนี้อาจจะมีผู้อ่านไม่กว้างขวางนัก และอาจมียอดพิมพ์จําหน่ายไม่สูงมาก ประเภทที่สอง ได้ แก่ หนงั สอื พมิ พ์เชิงปริมาณ คอื หนงั สอื พมิ พ์ท่ีมงุ่ เน้นตลาดทวั่ ไปจะเน้นนาํ เสนอข่าวเบาๆ ได้แก่ ข่าวอาชญากรรม ข่าวศาล ข่าวบนั เทงิ ต่างๆ โดยไม่ได้เน้นถงึ สารประโยชน์หนังสือพมิ พป์ ระเภทนจี้ งึ มจี ํานวนจาํ หนา่ ยสูง มาลี บุญศิริพันธ์ (๒๕๕๖ : ๑๙-๒๑) และเกศราพร ทองพุ่มพฤกษา (๒๕๕๘ : ๑๙-๒๑) สามารถ จำแนกประเภทของหนงั สอื พิมพ์โดยใชห้ ลกั เกณฑ์ ๖ ประเภทในการพิจารณา คอื
๒ ๑. การจำแนกหนังสอื พิมพ์ตามลกั ษณะเน้อื หา แบง่ ออกเป็น ๔ ประเภท คือ ๑.๑ หนังสือพิมพ์ประเภทเน้นข่าวเบา เป็นหนังสือพิมพ์ที่เน้นการนำเสนอข่าวที่มีองค์ประกอบข่าว ด้านปุถุชนวิสัย ทำให้ลีลาภาษาเนื้อข่าวค่อนข้างเร้าอารมณ์ เร้าใจ หรือมีผลกระทบด้านอารมณ์ และเป็นที่ พอใจของผู้อา่ นทกุ ระดบั เนอ่ื งจากภาษาและการนำเสนอง่ายต่อการตีความ เนอื้ หาไม่ซับซ้อนมากเกนิ ไป และมี เอกลักษณ์ทก่ี ารจดั หนา้ ๑ โดยมสี ีสนั พาดหัวขา่ วใหญ่และภาพประกอบ ซง่ึ สง่ ผลต่อการเพิ่มยอดจำหนา่ ย ๑.๒ หนังสือพมิ พ์ประเภทเน้นขา่ วหนัก เป็นหนังสือพมิ พท์ ีเ่ นน้ การนำเสนอขา่ วท่มี อี งคป์ ระกอบข่าว ด้านผลกระทบต่อสังคม มุ่งสะท้อนให้เห็นผลกระทบของเหตุการณ์นั้น ๆ ที่มีต่อสังคม และเน้นการนำเสนอ ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นข่าวประจำวันในคอลัมน์ต่าง ๆ แต่ลีลาภาษาไม่เทียบเท่าหนังสือพิมพ์ที่เน้นข่าว เบา เน่ืองจากกล่มุ ผ้อู า่ นส่วนใหญ่มีการศึกษา มีสถานะทางสังคม ทำให้มีรสนยิ มทแ่ี ตกต่าง รวมท้งั หนังสอื พมิ พ์ กลุ่มนีจ้ ะมกี ล่มุ ผอู้ า่ นเฉพาะเจาะจงมากกวา่ ทำให้ยอดจำหน่ายอาจไมส่ ูงเทา่ หนังสอื พมิ พป์ ระเภทเนน้ ข่าวเบา ๑.๓ หนงั สือพมิ พ์ประเภทกึง่ ข่าวเบากึ่งขา่ วหนกั หนงั สือพมิ พ์ประเภทนจี้ ะนำเสนอข่าวท่ีผสมผสาน กันระหว่างข่าวที่มีสาระหนักและเบาและมีการจัดหน้าและใช้ลีลาภาษาที่ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้ เช่น การพาดหัวข่าวด้วยขนาดตัวอักษรที่ใหญ่ ใช้ภาพประกอบมากพอกับข่าว รวมทั้งยังตอบสนองความต้องการ ของผู้อ่านได้ดีกว่าหนังสือพิมพ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นจุดเด่นของหนังสือพิมพ์ประเภทนี้คือ การเสนอข่าว เน้ือหาสาระหนักในลลี าการจดั หนา้ แบบหนังสือพิมพท์ ีเ่ นน้ ข่าวสาระเบา ๑.๔ หนังสือพิมพป์ ระเภทเน้นเนื้อหาเฉพาะดา้ นเปน็ หนังสือพิมพ์ที่มุ่งเน้นเนื้อหาเฉพาะเจาะจงเพอื่ ตอบสนองความสนใจของผู้อ่านเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างชัดเจน เช่น หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ กฬี า ๒. การจำแนกหนังสอื พิมพ์ตามลักษณะภมู ิศาสตร์ หรอื ตามความครอบคลุมของหนงั สือพมิ พ์ สามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ ๓ ระดับ คอื ๒.๑ หนังสือพิมพ์ระดับนานาชาติ คือหนังสือพิมพ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้อ่านในระดับนานาชาติ มีการ นำเสนอเรื่องราวที่เป็นที่สนใจจากทุกมุมโลก เช่น หนังสือพิมพ์ International Herald Tribune ที่วาง จำหน่ายใน ๑๓๐ ประเทศทั่วโลก หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ที่เน้นการนำเสนอข่าวในเรื่องราว ธุรกจิ และเศรษฐกจิ
๓ ๒.๒ หนังสือพิมพ์ระดับชาติ หนังสือพิมพ์ในกลุ่มนี้จะเน้นนำเสนอข่าวสาร เหตุการณ์แล ะความ เคลื่อนไหวต่างๆ ในสังคมที่น่าสนใจแก่ผู้อ่านทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่หนังสือพิมพ์ประเภทนี้ในประเทศไทย ตีพิมพ์จากส่วนกลางหรือกรุงเทพมหานครเป็นหลักแต่จะวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายกระจายทั่วประเทศ เรือ่ งราวทีน่ ำเสนออาจเกดิ ข้ึนในเมอื งหลวงหรือในภมู ิภาคต่าง ๆ แต่สิ่งสำคญั ตอ้ งเป็นประเด็นข่าวท่ีอย่ใู นความ สนใจของผู้อ่านท่ัวประเทศ ๒.๓ หนังสือพิมพ์ระดับภูมิภาค หนังสือพิมพ์กลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวสาร เหตุการณ์และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคหรือพื้นที่ที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๑ วางจำหน่าย เนอ่ื งจากมกี ลุ่มผูอ้ ่านเป้าหมายคอื ประชาชนในพ้ืนท่ีหรือในจังหวัดนนั้ ๆ ๓. การจำแนกหนังสือพิมพ์ตามช่วงเวลาการจำหน่าย แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ หนังสือพิมพ์เช้า และหนังสือพิมพ์บ่าย โดย มาลี บุญศิริพันธ์ (๒๕๕๖) ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี พฤติกรรมการอ่านการวางจำหน่ายและการขนส่ง รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับบ่ายค่อย ๆ หายไปจากแผงจำหนา่ ยหนงั สือพิมพ์ ๔. การจำแนกหนงั สือพิมพต์ ามระยะเวลาที่ออกจำหนา่ ย สำหรับหนงั สือพิมพ์ท่ีวางจำหนา่ ย ในประเทศไทย หากพิจารณาจากระยะเวลาในการออกจำหน่าย จะแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ ๔.๑ หนงั สือพมิ พ์รายวนั จะวางจำหน่ายทกุ วัน เน่อื งจากต้องการเนน้ ความสดใหม่ของข่าวสารและ เหตกุ ารณท์ ่นี ำเสนอ ซ่งึ มที ัง้ หนังสอื พมิ พร์ ายวนั ภาษาไทยและหนังสือพมิ พร์ ายวันภาษาองั กฤษ ๔.๒ หนังสือพิมพ์ราย ๓ วัน จะมีกำหนดระยะเวลาที่ออกจำหน่ายเป็นราย ๓ วัน และมักเป็น หนังสอื พิมพท์ ่เี นน้ นำเสนอขา่ วธุรกิจและเศรษฐกจิ ในระดับลกึ ทำใหไ้ มต่ ้องเน้นความสดใหม่ ของเหตกุ ารณ์มากเท่ากับหนังสอื พิมพ์รายวัน และจะออกจำหน่ายสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง ๔.๓ หนงั สอื พิมพ์รายสปั ดาห์ จะออกจำหนา่ ยเปน็ รายสปั ดาห์ ๕. การจำแนกหนังสือพมิ พ์ตามขนาดของหนังสือพิมพ์ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คอื ๕.๑ หนังสือพิมพ์ขนาดบรอดชที เปน็ หนังสือพิมพ์ทม่ี ีขนาดใหญ่ มคี วามกวา้ งโดยประมาณ ๑๔ นิ้ว ยาวประมาณ ๒๓ นิ้ว และเป็นขนาดที่นิยมกันทว่ั ไป ๕.๒ หนงั สอื พมิ พ์ขนาดแท็บลอยด์ จะมขี นาดประมาณพบั ครง่ึ ของหนังสอื พิมพบ์ รอดชที คอื มีความ กว้างประมาณ ๑๑.๕ นวิ้ ยาวประมาณ ๑๔.๕ นว้ิ
๔ ๖. การจำแนกหนังสือพิมพ์ตามรูปแบบการจัดจำหน่าย หนงั สอื พิมพใ์ นประเทศไทยในปัจจุบันจำแนก ตามรูปแบบการจัดจำหน่ายได้เปน็ ๒ ประเภท คือ ๖.๑ หนังสือพิมพท์ ี่ผลิตเพื่อจำหน่าย ผู้อ่านจะต้องจ่ายเงินซื้อหนังสือพิมพ์ ซึ่งหมายถึงหนังสือพมิ พ์ ทั่วไปที่วางขายบนแผงหนังสือ โดยราคาจะแตกต่างกันไปหากเป็นหนังสือพิมพ์ในกลุ่มเดียวกันจะมีราคา จำหนา่ ยใกล้เคียงกัน ๖.๒ หนังสือพิมพ์แจกฟรี หนังสือพิมพ์ประเภทนี้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้ออ่าน แต่ผู้ผลิตเป็น ผู้รับผิดชอบการนำเสนอหนังสือพิมพ์ฟรีถึงมือผู้อ่าน โดยปัจจัยเรื่องการเลือกพื้นที่ในการกระจายหนังสือพิมพ์ ให้เข้าถึงผู้อ่านนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของหนังสือพิมพ์ ปัจจุบันหนังสือพิมพ์กลุ่มนี้ได้รับความ นยิ มเป็นอยา่ งมากในกรงุ เทพฯ และปริมณฑล สุรัตน์ นุ่มนนท์ (๒๕๓๙ : ๒๓) ได้กล่าวการจำแนกหนังสือพิมพน์ ั้นสามารถจำแนกไดใ้ นหลายลกั ษณะ อาจจำแนกได้ดงั นี้ ๑. ลักษณะเนื้อหา การแบ่งประเภทของหนังสือพิมพ์ที่ยึดถือกันมาแต่เดิมได้แนวคิดมาจากชาติ ตะวันตก กล่าวคือ ลักษณะของหนังสือพิมพ์ที่มีเนื้อหาหนักแน่น ข่าวสารเจาะลึก และบทความแสดงความ คดิ เห็น ก่อใหเ้ กิดมุมมองหลากหลาย เรยี กวา่ หนงั สือพิมพ์คณุ ภาพ ๒. หนังสือพิมพ์ประเภทข่าวตื่นเต้น มีลักษณะเนื้อหาแบบชาวบ้าน เนื้อหาด้านการเมือง ภายในประเทศและต่างประเทศมีความผิวเผิน เป็นหนังสือพิมพ์ที่มีปริมาณการจำหน่ายสูง เรียกว่า หนังสอื พมิ พ์ประเภทประชานิยม จากการศึกษาประเภทของหนังสือพิมพ์ สรุปได้ว่า หนังสือพิมพ์มีการแบ่งตามความหนักเบาของ เนอ้ื หาออกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ คือ หนังสือพิมพ์คุณภาพ เป็นหนังสือพิมพ์ที่เน้นการเสนอเนื้อหาที่เป็นเรื่องราวจริงจัง มุ่งเสนอสาระ ความรู้ การคิดวิเคราะห์ ความคิดเห็น หรือ ทัศนคติ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การต่างประเทศ โดย เนอ้ื หานจี้ ะมปี ระโยชน์โดยตรงกบั ผูอ้ า่ น หนังสือพิมพ์ประชานิยม เป็นหนังสือพิมพ์ที่สนองความนิยมของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเน้นการเสนอ ข่าวที่มีเนื้อหาเร้าอารมณ์และความรู้สึกตื่นเต้น เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวภัยพิบัติ ข่าวความขัดแย้งระหว่าง บุคคล มีรูปแบบการนำเสนอที่เต็มไปด้วยจินตนาการและมีสีสัน ใช้ภาพประกอบและพาดหัวจำนวนมาก ซ่ึง หนังสือพมิ พ์นั้นมีขอ้ ดแี ละข้อเสยี อยู่หลายประการ
๕ ๑.๓ ข้อดแี ละขอ้ เสียของหนังสอื พิมพ์ ศศวิ รรณ ศรอี ่อนแสง (๒๕๖๔ : ออนไลน)์ หนงั สือพมิ พ์เปน็ ส่ือทมี่ คี วามสำคัญ ไดร้ ับความสนใจและมี อิทธิพลตอ่ ชีวิตประจำวันของผบู้ ริโภคอยา่ งย่งิ โดยแยกประเภทข้อดแี ละข้อเสยี ไดด้ งั นี้ ขอ้ ดีของหนงั สอื พมิ พ์ ๑. เข้าถงึ กลมุ่ เปา้ หมายได้อย่างกวา้ งขวาง ๒. เลือกกลุม่ เป้าหมายทางภมู ิศาสตร์ได้ ๓. ส่งขา่ วสารได้รวดเร็วทันสมัย ทนั เวลา ๔. คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลี่ยตอ่ หวั ถกู กว่าสือ่ ชนดิ อ่ืนๆ (ในประเภทสื่อสง่ิ พมิ พ)์ ๕. เปน็ สื่อทม่ี ีความน่าเช่ือถอื จากคนทั่วไป ข้อเสียของหนังสอื พิมพ์ ๑. ไมส่ ามารถเจาะจงกลุม่ เป้าหมายแบบเฉพาะกล่มุ ได้ ๒. รปู ภาพ สสี นั และคณุ ภาพกระดาษคอ่ นข้างตำ่ ๓. อายุของหนงั สื่อพิมพ์จะสนั้ ทำให้ผ่านตาผบู้ รโิ ภคไดน้ ้อยครง้ั ประภาศรี สวัสดิ์อำไพรักษ์ (๒๕๕๘ : ออนไลน์) หนังสือพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่สามารถเข้าถึง ประชาชนเป็นจำนวนมาก จะมีเนื้อหาทั้งข่าวสาร บันเทิง สารคดี และเรื่องราวต่างๆ ที่เหมาะกับสาธารณชน แต่ละกล่มุ ซึ่งหนังสอื พมิ พม์ ีขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ดังน้ี ข้อดีของหนงั สอื พมิ พ์ ๑. มีความคงทนถาวรเมื่อเปรยี บเทียบกับวิทยุ โทรทัศน์ เมื่อผู้อ่านไมเ่ ข้าใจตอนใดก็สามารถย้อนกลับ มาทบทวนใหม่ได้ และสามารถเกบ็ ไว้เป็นหลกั ฐานอา้ งองิ ได้ ๒. มีราคาถกู สามารถซอื้ หาได้งา่ ย ๓. สามารถเข้าถึงประชาชนได้หลายกลุ่มอาชีพ เพราะหนังสือพิมพ์มีหลายประเภท ประชาชน สามารถซอื้ หาหนงั สือพมิ พป์ ระเภททเี่ หมาะสมกบั ความสนใจได้ ๔. หนังสือพิมพ์สามารถเสนอข่าวหรือรายละเอียดจำนวนมากได้ และการเสนอข่าวทางหนังสือพิมพ์ สามารถทำได้เป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์ได้ ดังนั้นประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้อย่าง สมำ่ เสมอและตอ่ เนอื่ ง ๕. หนังสือพมิ พม์ ภี าพประกอบช่วยดึงดดู ความสนใจได้เมือ่ เปรยี บเทียบกับสอ่ื วิทยุ ข้อเสยี ของหนังสอื พิมพ์ ๑. หนังสือพิมพม์ ีช่วงอายสุ นั้ เช่น หนงั สอื พิมพร์ ายวันกจ็ ะมีขา่ วเปล่ียนทกุ วัน ๒. หนังสอื พมิ พ์ไมส่ ามารถเข้าถงึ ประชาชนทีไ่ ม่รู้หนังสอื หรืออ่านไม่ออก และไม่สามารถเขา้ ถึงในพน้ื ท่ี ท่ีมีการคมนาคมทไ่ี มส่ ะดวก ๓. หนังสือพิมพ์มีลักษณะที่ไม่น่าอ่านเมื่อเปรียบเทียบกับสื่ออื่นๆ เช่น โทรทัศน์ นิตยสาร เป็นต้น ถึงแม้หนังสือพิมพ์จะสามารถใส่ภาพประกอบได้แต่ก็มีลักษณะที่ไม่สวยงามสะดุดตาม เนื่องจากใช้ กระดาษราคาถูกไมม่ ีคุณภาพ
๖ ๔. ผู้อ่านหนังสือพิมพ์จะเลือกอ่านเฉพาะคอลัมภ์ที่ตนสนใจ ดังนั้นอาจไม่ได้รับข่าวสารที่อยู่คอลัมภ์ท่ี ไมไ่ ด้อ่านได้ (๒๕๖๐:ออนไลน์) หนังสือพิมพ์ คือ สิ่งพิมพ์ที่เสนอข่าว การเคลื่อนไหวใหม่ๆ ทั้งภายในและภายนอก ประเทศ โดยส่วนใหญ่จะออกเป็นรายวัน นอกจากนี้แล้วยังมีหนังสือพิมพ์รายสามวัน รายสัปดาห์ รายปักษ์ และรายเดอื น และไดแ้ บง่ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสียของหนังสอื พิมพไ์ ด้ดังนี้ ขอ้ ดีของหนังสอื พิมพ์ ๑. หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่เสนอข่าวที่น่าสนใจสม่ำเสมอ และรวดเร็ว จึงเป็นสื่อที่มวลชน ยอมรับข่าว การเผยแพร่ ๒. มีความคงทนถาวรกว่าสื่อมวลชนประเภทอื่น เพราะเมื่อผู้อ่านไม่เข้าใจตอนใดก็ย้อนกลับ มาอ่าน ทบทวนใหมไ่ ด้ ๓. เสนอเรื่องราวข่าวสารหลายประเภท มีทั้งเรื่องราวข่าวสารที่ประชาชนเฉพาะกลุ่ม และ ประชาชน ท่วั ไปสนใจ จงึ สามารถเขา้ ถงึ ประชาชนได้หลายกล่มุ หลายอาชีพ ๔. เสนอข่าวหรือเรือ่ งราวต่าง ๆ ครั้งละมาก ๆ ได้ รวมทั้งเสนอข่าวประจำวนั ทุกวันเป็น ประจำทำให้ สามารถติดตามขา่ วสารเรือ่ งราวต่าง ๆ ได้ อยา่ งสม่ำเสมอและตอ่ เนื่อง ๕. มีภาพถา่ ยประกอบช่วยดึงดูดความสนใจและเข้าใจข่าวสารได้ย่ิงขึน้ ขอ้ เสยี ของหนงั สือพมิ พ์ ๑. ไมส่ ามารถเขา้ ถึงผูอ้ า่ นทีอ่ ่านหนังสือไม่ออก หรือผูส้ งู อายุทสี่ ายตาไมด่ ี ๒. หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่ไม่มีสีสันสวยงาม ไม่มีสิ่งใดสะดุดตาผู้อ่านนอกจากพาดหัวข่าวซึ่ง ควรเป็น ข้อความที่กะทดั รดั อา่ นเข้าใจง่าย และสัมพนั ธก์ บั เนือ้ เรอ่ื งของขา่ ว ๓. มอี ายสุ ั้น ผู้อ่านอา่ นครง้ั เดยี วแลว้ จะทิ้งไป ประชาชนไมน่ ยิ มเกบ็ หนงั สอื พิมพไ์ วเ้ ป็น เวลานาน ๔. มชี ว่ งอายุทส่ี ัน้ เมอ่ื คนอา่ นเพียงครง้ั เดียวแล้วก็จะผ่านไป เพราะขา่ วต่าง ๆมผี า่ นเข้ามาทกุ วัน ๕. ผอู้ ่านหนงั สอื พมิ พ์จะอ่านเพยี งบางเร่อื งหรือบางคอลัมน์ทเี่ ขาเกย่ี วขอ้ งหรอื สนใจเท่าน้นั จากการศึกษาข้อดีและข้อเสียของหนังสือพิมพ์พบว่า มีการแยกประเภทของข้อดีและข้อเสียของ หนังสือพิมพ์ดังน้ี ข้อดีของหนังสือพิมพค์ อื มีราคาถูกสามารถหาซือ้ ได้ง่าย และเข้าถึงทุกกลุ่มเปา้ หมาย ข้อเสีย ของหนังสือพิมพ์คือ มีรูปภาพ สีสันและคุณภาพต่ำ มีอายุการใช้งานสั้นและไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มประชาชนท่ี สายตาไม่ดีและอ่านหนังสือไม่ออก ลักษณะเด่นของหนังสือพิมพ์แต่ละประเภทจะช่วยจูงใจให้ผู้อ่านสนใจใน การพาดหัวข่าว
๗ ๒. การพาดหัวขา่ ว ๒.๑ ความหมายของการพาดหัวขา่ ว นันทิญา พันธ์โชติ (๒๕๕๗: ๒๔) กล่าวว่าพาดหัวข่าว (Headline) หรือหัวข่าว คือ หัวข้อใหญ่ของ เรื่องราวที่กล่าวถึง ซึง่ มีลกั ษณะเดน่ ท่สี ำคัญคือ ใชต้ วั อกั ษรใหญ่ ตวั หนา และเป็นขอ้ ความสั้น ๆ ท่ีน่าสนใจ ซ่ึง พาดหวั ข่าวถอื เป็นองคป์ ระกอบสาํ คญั อยา่ งหนง่ึ ของหนังสอื พมิ พ์ บุบผา เมฆศรีทองคำ (๒๕๕๖) กล่าวว่าพาดหัวข่าวเป็นข้อความส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว เป็นจุดเด่น หรือสาระสำคัญของเนื้อข่าวทั้งหมด ตามตำราหนังสือพิมพ์ เรียกว่าเป็นส่วนที่รวบยอดทางความคิดหรือ สาระสำคัญของข่าว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของข่าว ก่อนขยายไปสู่รายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ของการเขียนข่าว ต่อไปฉะนั้น การพาดหัวข่าวด้วยสาระสำคัญ ทำให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารได้ทันที ว่าข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร หากตรงตามความสนใจใฝ่รู้ ก็จะตั้งใจอา่ นเนื้อหาข่าวตอ่ ไปได้ สไลด์แชร์ (๒๕๖๐ : ออนไลน)์ การพาดหวั ข่าว (Headline) เปน็ การคดั เลอื กข่าวทส่ี ำคัญและนา่ สนใจ ท่สี ดุ มาเรียบเรียงสรุปเป็นสาระสำคัญสั่น ๆ พมิ พด์ ้วยตวั อักษรขนาดใหญส่ ะดุดตาเพ่ือเรียกร้องความสนใจของ ผู้อ่านและเพื่อประหยัดเวลาให้ผูอ้ ่านสามารถเลือกอ่านข่าวได้ทุกข่าวโดยไม่เสยี เวลามากหนังสอื พิมพ์ส่วนใหญ่ จะพาดหัวข่าวเพียงหนึ่งหรือสองข่าวและมักไม่เกินสามข่าวโดยจัดพิมพ์ตัวอักษรให้มีขนาดลดหลั่นกันลงมา ตามระดับความสำคัญของข่าว อารยะ ศรกี ัลยาบตุ ร (๒๕๔๗:๓๓๑-๓๓๓) กล่าววา่ การพาดหัวขา่ ว (headline) เปน็ ข้อความสำคัญที่ นอกจากจะบ่งชี้ถึงขา่ วเรื่องนั้น ๆ แล้วยังทำหน้าที่เรยี กร้องความสนใจจากผู้พบเห็น ส่วนประกอบนี้มีอยู่ท้ังใน หน้าแรกและหน้าในอื่น ๆ ของหนังสือพิมพ์ หัวข่าวมักจะเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรอื่น ๆ ในหน้า แรกหวั ขา่ วแบง่ เป็น ๒ ประเภท ประเภทแรก เรียกว่าชุดหัวข่าว (bank) ซึ่งหมายถึงหัวข่าวที่เป็นตัวอักษรเรียงกันโดยมีความยาว ๑ แถว ทำใหบ้ างครง้ั กเ็ รยี กวา่ บรรทัด (line) ประเภทที่สอง เรียกว่า ชั้นหัวข่าว (deck) ซึ่งหมายถึง ชุดของหัวข่าวที่เป็นตัวอักษรเรียงกัน โดยมี ความยาวมากกว่า ๑ แถวขึ้นไป จากการศึกษาความหมายของการพาดหัวข่าวพบว่า การพาดหัวข่าว คือส่วนแรกที่อยู่บนสุดของข่าว ทำหน้าที่สรุปสาระสำคัญ ด้วยการใช้ภาษาที่สั้นและกระชับในรูปแบบของประโยควลีหรือข้อความสั้น ๆ โดย ครอบคลุมประเด็นสำคัญของเนื้อหาข่าวทั้งหมด และถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของหนังสือพิมพ์ และมีวัตถปุ ระสงค์ทจี่ ะดึงดูดความสนใจของผอู้ ่านและชว่ ยสรา้ งบคุ ลิกภาพของหนังสอื พิมพ์
๘ ๒.๒ วตั ถุประสงคข์ องการพาดหวั ขา่ ว ฤทยั วรรณ โชคทวีพาณิชย์ (ม.ป.ป.:ออนไลน์) กลา่ ววา่ วตั ถปุ ระสงค์ของการพาดหัวขา่ ว มีดังน้ี ๑. ดงึ ความสนใจของผู้อา่ น ดึงสายตา เปรียบเสมอื นตโู้ ชว์ เมื่อสะดุดตากอ็ ยากอา่ นข่าวตอ่ ๒. ใหส้ าระสำคญั ของข่าว ประหยดั เวลา รู้ประเด็นครา่ วๆในทันที ๓. บอกลำดับความสำคญั ของข่าว โดยใชข้ นาดของตัวพมิ พท์ ่ีแตกตา่ งกนั ๔. ช่วยในการออกแบบจัดหนา้ เกิดความหลากหลาย ไม่เรียบหรอื เกล้ยี งจนเกินไป ๕. ช่วยสร้างบุคลกิ ภาพของหนงั สือพิมพ์ เช่น การใช้ภาษา ขนาดตัวอักษร ลักษณะของตัวอักษร เห็น แลว้ รู้ทนั ทีวา่ เปน็ ฉบบั ไหน สมควร กวียะและมาลี บุญศิริพันธ์ (๒๕๒๖: ๗๕) ได้ให้คำจํากัดความของวัตถุประสงค์ของหัวข่าว ดังนี้คือหัวข่าวเปรียบเสมือนสินค้าตัวอย่างที่จัดแสดงในตู้โชว์เพื่อดึงดูดสายตาสร้างความสนใจให้คนอยากเดิน เข้าร้านอา่ นเน้ือหาแล้วยังเปน็ แหลง่ แรกที่จะบอกผู้ผ่านไปผ่านมาว่าในหนังสอื พิมพ์ฉบบั นั้น ๆ มีข่าวที่น่าสนใจ อะไรบ้างการเขียนพาดหวั ขา่ วจึงตอ้ งคำนงึ ถึงหน้าที่และวตั ถุประสงคส์ ำคัญคอื ๑. ดงึ ดูดความสนใจ ๒. ให้สาระสาํ คญั ของข่าว ๓. ช่วยการจดั หน้า ๔. บอกลำดบั ความสําคัญของข่าว ๕. สร้างบคุ ลิกภาพของหนงั สอื พิมพ์ บุบผา เมฆศรีทองคำ (๒๕๕๖:ออนไลน)์ กลา่ ววา่ จากความหมายและความสําคัญของพาดหวั ข่าวดังท่ี ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าพาดหัวข่าวต้องสั้นกระชับ แต่วัตถุประสงค์ของพาดหัวข่าวได้ถูกกำหนดหรือคาดหวัง ไว้หลายประการทั้งน้ีวตั ถปุ ระสงค์หลักของพาดหวั ข่าวในหนังสือพมิ พ์มี ๖ ประการดังน้ี ๑. เพอื่ ดึงดูดความสนใจจากผ้อู า่ นเน่ืองจากขนาดตวั อกั ษรทใ่ี ชใ้ นการเขยี นพาดหวั ข่าวหนังสือพิมพ์จะ มีการใช้ขนาดตัวอักษรที่ใหญ่กว่าส่วนที่เป็นความนำส่วนเชื่อมและเนื้อข่าวจึงสามารถดึงดูดความสนใจของ ผูอ้ ่านใหห้ นั มาอ่านพาดหวั ข่าวทปี่ รากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ไดเ้ ป็นอย่างดี ๒. เพื่อจัดลำดับความสําคัญของข่าวเนื่องจากในแต่ละวันพบว่าหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับมีการนำเสนอ ขา่ วหลายข่าวหากขา่ วไมม่ คี วามสำคญั มากท่ีสุดหรือเปน็ ข่าวทเี่ ด่นทีส่ ดุ ของวนั นัน้ พาดหัวขา่ วจะมีการพิมพ์ด้วย ตัวอักษรขนาดใหญ่ในขณะที่ข่าวที่มีความสำคัญรองลงมาจะมีขนาดตัวอักษรของพาดหัวข่าวเล็กกว่าลดหล่ัน กนั ไปตามความสำคญั ของขา่ ว ๓. เพื่อให้ข้อเท็จจริงหรือแจ้งข่าวพาดหัวข่าวจะเป็นการสรุปเรื่องราวหรือข้อเท็จจริงที่สำคัญที่ทำให้ ผู้อ่านสามารถเข้าใจเรื่องราวของเหตุการณ์นั้นได้พอสังเขปจึงสามารถบอกเรื่องราวหรือข้อเท็จจริงที่สำคัญได้ อยา่ งน่าสนใจกบั ผู้อา่ นเพื่อท่ผี อู้ า่ นจะสามารถตดิ ตามอ่านเนอ้ื หาข่าวได้ตอ่ ไป ๔. เพื่อช่วยในการขายข่าวหมายถึงพาดหัวข่าวทำหน้าที่ในการดึงดูดความสนใจของผู้อ่านเนื้อข่าว ต่อไปและจูงใจใหผ้ ูอ้ ่านติดตามอา่ นสว่ นท่ีเปน็ เนอ้ื ขา่ วต่อไป
๙ ๕. เพื่อช่วยในการจัดหน้าหนังสือพิมพ์เนื่องจากว่าในแต่ละข่าวมีความสำคัญของเนื้อหาสาระที่ แตกต่างกันดังนั้นพาดหัวข่าวจึงมีการใช้ขนาดของตัวอักษรท่ีแตกตา่ งกันโดยมีความแตกตา่ งดังกล่าวกลายเปน็ องค์ประกอบของการจดั หน้าหนงั สอื พิมพ์ให้มคี วามสวยงามท่ีหลากหลายแตกตา่ งกันไป ๖. เพื่อช่วยในการประหยัดเวลาของผู้อ่านเนื่องจากพาดหัวข่าวเป็นการสรุปประเด็นสำคัญสุดของ เนื้อหาอย่างย่อที่สุดเพื่อบอกเล่าเรื่องราวให้กับผู้อ่านดังนั้นเมื่อผู้อ่านได้อ่านพาดหัวข่าวแล้วจะทำให้ผู้อ่าน เข้าใจเรื่องราวได้ในทันทีว่ามีประเด็นสำคัญอะไรจึงช่วยประหยัดเวลาของผู้อ่านในกรณีที่ผู้อ่านไ ม่มีเวลาที่จะ อ่านรายละเอียดของเน้ือหาข่าวทั้งหมดไดจ้ ากวัตถุประสงค์ของพาดหัวข่าวในหนงั สือพิมพ์ข้างตน้ ย่อมแสดงให้ เห็นว่าพาดหัวข่าวทำหน้าที่สรุปประเด็นสำคัญดึงดูดความสนใจให้ผู้อ่านติดตามรายละเอียดในเนื้อหาข่าวและ สนใจในหนังสือพิมพ์นอกจากนี้ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความสมดุลของการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ ด้วย จากการศึกษาวัตถุประสงค์ของการพาดหัวข่าว คือ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน เพื่อจัดลำดับ ความสำคัญของข่าว เพื่อให้ข้อเท็จจริง เพื่อช่วยในการขายข่าว เพื่อช่วยในการจัดหน้าหนังสือพิมพ์และเพื่อ ช่วยในการประหยัดเวลาของผู้อ่าน วัตถุประสงค์ของการพาดหัวข่าวนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากและ นอกจากวตั ถุประสงคแ์ ล้วยังมปี ระเภทของพาดหัวข่าวที่มีความสำคญั เหมือนกนั ๒.๓ ประเภทของการพาดหัวขา่ ว นนท์ธวัช ไชยวัง (๒๕๖๐ : ๒๒) กล่าวว่า รูปแบบการพาดหัวข่าวหมายถึงการใช้ภาษาถ้อยคำสำนวน สรุปประเด็นสำคัญของข่าวในที่ศึกษาจะเป็นการศึกษาบนเว็บไซต์หนังสือทั่วไปกับทั้งหมด ๑๘ รูปแบบ ดังต่อไปนี้ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ ๑. แบบเพื่อดึงดูดให้ผู้อ่านเข้าไปอ่านรายละเอียดเว็บไซต์ หนงั สือพิมพธ์ ุรกิจดง้ั เดิมประกอบดว้ ยขอ้ ๑-๙ และ ๒. แบบคลกิ ประกอบด้วยขอ้ ที่ ๑๐-๑๘ ๑. การพาดหวั ข่าวทใี่ ช้คำสแลง ๒. การพาดหวั ขา่ วแบบอ้างอิงคำพูด ๓. การพาดหวั ข่าวเรยี กช่ือคนดงั / เรยี กชอื่ จริง-เลน่ / สมญานามแหล่งข่าว ๔. การพาดหัวขา่ วแบบใชอ้ กั ษรย่อคำย่อของช่ือเฉพาะยศตำแหน่ง ๕. การพาดหัวข่าวแบบเรียกอาชพี ตา่ งๆ ๖. การพาดหัวข่าวแบบเรียกชอื่ หน่วยงาน ๗. การพาดหวั ข่าวใช้ทบั ศัพท์ภาษาตา่ งประเทศ ๘. การพาดหวั ขา่ วที่ใช้คำรุนแรง ๙. การพาดหวั ข่าวแบบสรุปความใหข้ ้อมลู ๑๐. การพาดหวั ขา่ วแบบคลมุ เครือเพื่ออยากให้เขา้ อา่ นอยากรู้ ๑๑. การพาดหวั ขา่ วแบบใช้คำเร้าอารมณค์ วามรูส้ ึก ๑๒. การพาดหัวขา่ วแบบใชเ้ ครอื่ งหมายเพอ่ื เรา้ อารมณ์หรือเรยี กความสนใจ ๑๓. การพาดหวั ขา่ วโดยระบุ (ชมคลปิ ) (ชมภาพ) (ภาพชดุ ) ๑๔. การพาดหวั ข่าวโดยระบุคำเรียกเพศ
๑๐ ๑๕. การพาดหัวข่าวแบบใชส้ ภุ าษติ / วลี / สำนวน ๑๖. การพาดหวั ข่าวเนน้ ความขดั แยง้ ๑๗. การพาดหัวข่าวแบบอ้างองิ ตวั เลข ๑๘. การพาดหัวข่าวแบบหวั ขา่ วไม่ตรงกับเนอื้ หาขา่ ว สุทธิดา นาคเจรญิ (ม.ป.ป) ประเภทของหัวข่าว ๑. แบบพาดหัวยักษ์เต็มหน้า (banner) หัวข่าวขนาดใหญ่พาดหัวคร่อมจากซ้ายสุดไปขวาสุดของ หนา้ กระดาษ ความยาว ๑-๒ บรรทดั มักใช้กบั ข่าวใหญท่ ส่ี ำคญั มีคณุ ค่าข่าวสงู ๒. แบบพาดหัวสามบรรทัด บรรทัดกลางสั้นอยู่ตรงกลาง (centered middle line) โดยปกติหัวข่าว บรรทัดที่ ๑ และบรรทัดที่ ๓ จะมีความยาวเท่ากันหรือใกล้เคียงกันตลอดคอลัมน์ บรรทัดตรงกลางจะสั้นกว่า ให้อยตู่ รงกงึ่ กลาง ระหว่างซ้ายและขวา หรือตัวอักษรใหญ่กว่า ๓. แบบหัวข่าวบรรทัดเดียวเต็มคอลัมน์ (cross line/bar line) พาดหัวเต็มคอลัมน์จากขอบคอลัมน์ ดา้ นซ้ายไปสุดขอบดา้ นขวา หากมีความยาวบรรทดั เดยี วเรียกวา่ Single cross line หากความยาวสองบรรทัด เรยี กวา่ Double cross line ๔. แบบหัวข่าวเหลื่อมหลัง (drop line/stepped line) หัวข่าวมีความยาว ๒-๓ บรรทัด แต่ละ บรรทัดความยาวใกล้เคียงกันหรือเท่ากัน บรรทัดแรกเรียงพาดชิดขอบคอลัมน์ซ้ายมือ บรรทัดต่อ ๆ ไปเรียง ลดหลน่ั ขยบั ไปทางขวาเลก็ นอ้ ยตามลำดบั มลี กั ษณะคล้ายข้ันบันได ๕. แบบหัวข่าวเสมอหน้า (๑ush lef!) หัวข่าวประเภทเรียงทุกบรรทัดชิดขอบคอลัมน์ด้านซ้ายมือ เสมอกันหมด ความยาว ๑, ๒ หรือ ๓ บรรทัด แตล่ ะบรรทดั อาจยาวไมเ่ ทา่ กันกไ็ ด้ ๖. แบบหัวข่าวเสมอหลัง (๑ush right) ตรงข้ามกับหัวข่าวเสมอหน้า คือ หัวข่าวทุกบรรทัดจะเรียงให้ ชดิ ขอบขวาของคอลัมน์เสมอกัน โดยความยาวแต่ละบรรทัดอาจไมเ่ ทา่ กนั ๗. แบบพาดหัวบรรทัดนำล้ำหน้า (hanging indention) ข้อความบรรทัดแรกเรียงเต็มคอลัมน์ ส่วน บรรทัดที่ ๒,๓, จะจัดให้ล้ำเข้าค้านขวาเล็กน้อย ให้ส่วนล้ำเข้าเสมอกัน ดังนั้น บรรทัดแรกจะล้ำหน้ากว่า บรรทัดอื่น ๘. แบบปีรามิดหัวกลับ (inverted pyramid) การจัดรูปแบบคล้ายลักษณะรูปปรามิดหัวกลับความ ยาว ๒-๓ บรรทัด บรรทัดลา่ งจะมคี วามยาวส้ันลงตามลำดบั และจัดใหอ้ ยกู่ ง่ึ กลางคอลัมน์ ๙. แบบพาดหัวส่ง (kicker) หัวข่าวที่บรรทัดบนสุดจะเป็นข้อความสั้น ๆ ขนาดเล็กกว่าปกติ โดย ข้อความดังกล่าวอาจระบุชื่อ ตำแหน่งบุคคล หรือชื่อสถานที่ อาจขีดเส้นไต้หรือใช้เครื่องหมาย \": \" ที่ท้าย ข้อความ นยิ มใช้เม่อื ตอ้ งการเน้นความสำคญั ของคำพูด ประหยดั เนือ้ ทแี่ ตไ่ ดใ้ จความ ๑๐. แบบพาดหัวบนสุด (skyline) มักปรากฏบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ อยู่ส่วนบนสุดของ หน้ากระดาษ ขนาดอกั ษรไมใ่ หญน่ ัก มักใช้ ตวั บาง สว่ นมากนิยมใช้เป็นบรรทดั โฆษณา หรอื บอกกล่าวเรอื่ งเด่น ภายในฉบับวนั นน้ั วรินทร ภาคภูม,ิ จุฑารตั น์ จันดก , ปริยากร สบาย (๒๕๕๕ : ๗)
๑๑ ๑. พาดหวั ข่าว /หัวขา่ ว (Headline/Title) เป็นการบอกประเดน็ สำคัญของขา่ ว มักใช้ประโยคท่เี ป็น ข้อความสั้นๆ เพื่อช่วยให้รู้ว่าเป็นข่าวอะไร และมีประเด็นใดน่าสนใจ วิธีการพาดหัวข่าวให้พิจารณา ความสำคัญ ของข่าวนั้นๆ ต้องตอบสนองความสนใจของผู้อ่านว่า ว่า Who (ใคร) What (ทาอะไร) Where (ทไี่ หน) When (เมอื่ ไร) How (อย่างไร) และ Why (ทำไม) จงึ ทำเชน่ นนั้ การนำประเด็นสำคัญของข่าวมาพาด หัว ข่าว เพื่อให้ ผู้อ่านทราบว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กว่าธรรมดา ใช้เพียงข้อความสั้นๆ แต่สามารถเสนอสาระสำคัญให้แก่ผู้อ่านได้พิจารณาเลือกอ่าน รายละเอียด ข่าวที่ตนสนใจได้ ทั้งยังสามารถ บอกภาพลักษณข์ อง ข่าวสาร ฉบบั นน้ั ๆ ด้วย การพาดหวั ขา่ วจะต้องใชท้ ักษะการเลอื กถอ้ ยคำภาษาอย่างมาก เพราะต้องดึงดูดความ สนใจและกระทบต่อความรู้สึกของผู้อ่านไปพร้อมๆ กับการใช้ถ้อยคำที่สั้นที่สุดให้ สามารถอธิบายเนื้อความข่าวได้ มากที่สุด โดยอาจใช้คำที่รุนแรง คำแสลง ภาษาเฉพาะกลุ่ม ใช้สำนวน หรือ เครื่องหมายวรรคตอนต่างๆ เชน่ หรอื เปน็ ต้น ๑.๑ แบบ Who นำ เช่น “นายกรัฐมนตรีประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ” “แฝดสยามเพศหญิง เสียชวี ิตแล้ว” “กกต.ยนื กรานหา้ มจดใหม่ พรรคถูกยุบ” “ธนรตั น์ ฉลยุ นงั่ แทน่ ผอ.กองกิจฯ มข.” ฯลฯ ๑.๒ แบบ What นำ เช่น “เกิดเพลิงไหม้ที่ย่านชุมชนกลางตลาด ” “ ปรับครม ปู ๓ ” “ตื่น ทารก ประหลาด ๓ หวั ๒ ขา” ซึง่ สว่ นใหญ่ความสำคญั ของข่าวอยทู่ ี่ การกระทาและผลกระทบ ๑.๓ แบบ When นำ เชน่ “๓๑ พ.ค.ชช้ี ะตายุบพรรค” ซึ่งขา่ วน้คี วามสำคญั อยู่ที่เง่ือนไขของเวลา ๑.๔ แบบ Where นำ เช่น “เชียงใหม่กลายเป็นเมืองในหมอกจากไฟป่า ” ซึ่งคุณค่าของข่าวอยู่ท่ี สถานที่ ๑.๕ แบบ Why นำ เช่น “เร่งหาสาเหตหุ นมุ่ คลง่ั ยงิ กราด ๓ ศพ กลางตลาดไท ” ความสำคัญของข่าว อยู่ท่กี ารตง้ั ขอ้ สังเกต เพอ่ื เพิ่มความอยากรู้ อยากเห็น ๑.๖ แบบ How นำ เช่น “อยากได้มือถือรุ่นใหม่ วัยรุ่นหาเงินด้วยการขายตัว” ความสำคัญของข่าว อยู่ ทคี่ วามเปน็ เหตุเป็นผล การเขียนพาดหัวข่าวในสื่อสิ่งพิมพ์แต่เดิมยึดหลักการเขียนให้มีองค์ประกอบที่น่า สนใจตามหลักของ องค์ประกอบ 5WS+1H เพระหัวข่าว (headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้ทราบถึง สาระสำคญั ของขา่ วและเป็นส่วนประกอบสำคญั ในการจัดหน้าหนงั สือพมิ พ์ หวั ข่าวอาจมีขนาดแตกตา่ งกนตาม ความสำคญั ของขา่ วที่ไดร้ ับการประเมนิ ค่าแล้วจากบรรณาธิการ และประเภทของการพาดหัว มีดงั ต่อไปนี้ ๑. แบบพาดหัวยักษ์เต็มหนา้ (banner) หัวข่าวขนาคใหญ่พาดหัวคร่อมจากซ้ายสุดไปขวาสุดของหน้า กระคาย ความยาว ๑-๒ บรรทัด มักใชก้ บั ข่าวใหญ่ทีส่ ำคญั มคี ณุ ค่าขา่ วสูง ๒. แบบพาดหัวสามบรรทัด บรรทัดกลางสั้นอยู่ตรงกลาง (centered middle line) โดยปกติหัวข่าว บรรทัดที่ ๑ และบรรทัดที่ ๓ จะมีความยาวเท่ากันหรือใกล้เคียงกันตลอดคอลัมน์ บรรทัดตรงกลางจะสั้นกวา่ ใหอ้ ยูต่ รงกงึ่ กลาง ระหวา่ งซ้ายและขวา หรือตัวอักษรใหญ่กวา่ ๓. แบบหัวข่าวบรรทัดเดียวเต็มคอลัมน์ (cross line/bar line) พาดหัวเต็มคอลัมน์จากขอบคอลัมน์ ดา้ นซา้ ยไปสดุ ขอบดา้ นขวา หากมคี วามยาวบรรทดั เดยี วเรียกวา่ Single cross line หากความยาวสองบรรทัด เรยี กว่า Double cross line
๑๒ ๔. แบบหัวข่าวเหลื่อมหลัง (drop line/stepped line) หัวข่าวมีความยาว ๒-๓ บรรทัด แต่ละ บรรทัดความยาวใกล้เคียงกันหรือเท่ากัน บรรทัดแรกเรียงพาดชิดขอบคอลัมน์ซ้ายมือ บรรทัดต่อ ๆ ไปเรียง ลดหลัน่ ขยบั ไปทางขวาเล็กนอ้ ยตามลำดบั มลี กั ษณะคล้ายข้ันบันได ๕. แบบหวั ข่าวเสมอหนา้ (lush left) หัวข่าวประเภทเรยี งทกุ บรรทัดชดิ ขอบคอลมั น์ดา้ นซ้ายมือเสมอ กนั หมด ความยาว ๑, ๒ หรอื ๓ บรรทดั แต่ละบรรทัดอาจยาวไม่เทา่ กันกไ็ ด้ ๖. แบบหัวข่าวเสมอหลัง (lush right) ตรงข้ามกับหัวข่าวเสมอหน้า คือ หัวข่าวทุกบรรทัดจะเรียงให้ ชิดขอบขวาของคอลัมน์สมอกนั โดยความยาวแตล่ ะบรรทดั อาจไมเ่ ทา่ กัน ๗. แบบพาดหัวบรรทัดนำล้ำหน้า (hanging indention) ข้อความบรรทัดแรกเรียงเต็มคอลัมน์ ส่วน บรรทัดที่ ๒,๓, จะจัดให้ล้ำเข้าด้านขวาเล็กน้อย ให้ส่วนล้ำเข้าเสมอกัน ดังนั้น บรรทัดแรกจะล้ำหน้ากว่า บรรทดั อื่น ๘. แบบปีรามิดหัวกลับ (inverted pyramid) การจัดรูปแบบคล้ายลักษณะรูปปีรามิดหัวกลับความ ยาว ๒-๓ บรรทดั บรรทัดล่างจะมคี วามยาวสน้ั ลงตามลำดับ และจัดใหอ้ ยู่กึ่งกลางคอลมั น์ ๙. แบบพาดหัวส่ง (kicker) หัวข่าวที่บรรทัดบนสุดจะเป็นข้อความสั้น ๆ ขนาดเล็กกว่าปกติ โดย ข้อความดังกล่าวอาจระบุชื่อ ตำแหน่งบุคคล หรือชื่อสถานที่ อาจขีดเส้นใต้หรือใช้เครื่องหมาย \": \" ที่ท้าย ขอ้ ความ นิยมใชเ้ ม่อื ต้องการเนน้ ความสำคัญของคำพูด ประหยดั เน้อื ที่แต่ได้ใจความ ๑๐. แบบพาดหัวบนสุด (skyline) มักปรากฏบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ อยู่ส่วนบนสุดของ หน้ากระดาษ ขนาดอักษรไมใ่ หญน่ ัก มักใช้ตัวบาง ส่วนมากนิยมใช้เป็นบรรทัดโฆษณา หรือบอกกล่าวเรื่องเดน่ ภายในฉบบั วนั นั้น จากการศึกษาประเภทของการพาดหัวข่าว สามารถสรุปได้ว่ามีการพาดแบบหัวยักษ์เต็มหน้า แบบหัว สามบรรทัด แบบหัวข่าวบรรทัดเดียวเต็มคอลัมน์ แบบหัวข่าวเหลื่อมหลัง แบบหัวข่าวเสมอหน้า แบบหัวข่าว เสมอหลัง แบบหวั บรรทัดนำล้ำหนา้ แบบปรี ามิดหวั กลับ แบบพาดหวั สง่ และแบบหวั บนสุด เนื่องจากการพาดหัวข่าวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการดึงดูดผู้อ่าน หากสำนักหนังสือพิมพ์ใดสามารถพาด หัวข่าวได้ดี ผู้อ่านก็สนใจหนังสือพิมพ์ของสำนักนั้นมากขึ้น ดังนั้นการใช้ภาษามีส่วนชว่ ยในการเพิ่มความสนใจ ซ่ึงลกั ษณะของภาษาทใี่ ช้การพาดหัวขา่ วจะมีดงั น้ี เช่น การกรอ่ นคำ การใช้คำแสลง ๒.๔ ลกั ษณะการใชภ้ าษาพาดหัวขา่ ว กิ่งกาญจน์ สมจิตต์ (๒๕๕๙ : ออนไลน์) กล่าวว่า การใช้ภาษาในการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ มีลักษณะดงั นี้ ๑. ใชภ้ าษาแปลกใหมเ่ พอ่ื ใหส้ ะดดุ ตาสะดุดใจและจำงา่ ย โดยเฉพาะส่วนพาดหัวข่าว ตวั อยา่ งเชน่ “ทักษิณ” กก๊ั “อภริ กั ษ”์ ตกี ิน “จบั ๒ โจ๋ มือฆ่าหลวงพ่อดำ” “มหาชนโวย สงั่ ขรก. รบั ” “มงุ้ ทรท. ลนุ้ แม้ว ปรบั ครม. ปลดยี”้
๑๓ ๑.๑ การใช้คำตัดสั้นหรือกร่อนคำ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ คือความกว้างยาวของคอลัมน์ข่าว ทำให้การใช้คำพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ต้องตัดให้สั้นหรือย่นย่อลงเพื่อกระชับคำให้พิมพ์ลงในเนื้อที่ที่จำกัดได้ เช่น หนนุ ใช้แทน สนบั สนนุ ยัน ใช้แทน ยืนยัน มะกนั ใช้แทน สหรัฐอเมรกิ า เปน็ ตน้ ๑.๒ การละประธานของประโยค การพาดหัวข่าวนิยมเขียนประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำกริยา เพ่ือ บอกผู้อ่านว่าเกิดอะไรขึ้น ละประธานของประโยคในฐานะที่เข้าใจได้ โดยเฉพาะเมื่อความสำคัญของเรื่องที่ เป็นขา่ วไมไ่ ด้อยูท่ ป่ี ระธานของประโยค เพอ่ื ใหผ้ อู้ ่านอ่านรายละเอียดในความนำหรือเนื้อเร่อื งของขา่ วตอ่ ไป ๑.๓ การละเว้นคำเชื่อม คำสันธาน หรือส่วนที่ขยายประโยค นอกจากการละประธานของประโยค แล้ว พาดหัวข่าวมักจะใช้ประโยคเดี่ยวมากกว่าประโยคซ้อน การใช้ภาษาจึงหลีกเลี่ยงคำเชื่อม และส่วน ขยายประโยคทไี่ มจ่ ำเปน็ เช่น คำว่า “อีกทงั้ ” “ซึ่ง” “กับ” “ตอ่ ” เป็นตน้ แต่ทง้ั น้สี ่วนที่ละไวต้ ้องไม่ทำให้ ประโยคเหล่านีม้ คี วามหมายผิดเพี้ยนไป ๑.๔ การใช้คำสแลง คำเฉพาะสมัย หรือคำที่สร้างภาพลักษณ์เกินจริง พาดหัวข่าวต้องดึงดูดความ สนใจคนอ่านรว่ มสมยั ดังนั้นภาษาที่ใช้จึงเปน็ คำทีอ่ ยู่ในกระแสความนยิ ม มีสีสนั เกินจริง คำสแลง หรือภาษา เฉพาะสมัยในรูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นภาษาสนทนา หรือคำแสดงภาพพจน์ รวมทั้งสร้างคำใหม่ ๆ ขึ้นมาใช้ เช่น วัยจ๊าบ ซึ่งหมายถึงวัยรุ่น สาวอยากอึ๋ม ซึ่งหมายถึงผู้หญิง ที่ต้องการมีหน้าอกใหญ่ขึ้น วืด หรือ ชวด ซึ่ง หมายถึงพลาดเป้าหมายหรอื ไม่ได้ในส่งิ ทค่ี าดหวังไว้ เปน็ ตน้ ๑.๕ การใช้ฉายาหรือชื่อเล่นของบุคคล เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสีสันให้พาดหัวข่าว เพื่อดึงดูด ความสนใจคนอ่าน ชื่อเล่นของบุคคลหรือฉายาที่ตั้งให้ใหม่นั้นมักสั้นกว่าชื่อจริง ทำให้พาดหัวข่าวกระชับและ สัน้ ลง สามารถพิมพ์ลงในคอลมั น์ที่มคี วามกว้างยาวจำกดั ได้ แตท่ งั้ นี้ มักเปน็ ชือ่ เรยี กหรอื ฉายาท่ีเป็นที่รู้จักกัน โดยทั่วไปเพอ่ื ไม่ใหผ้ ู้อา่ นสับสน กฤษณพร โชตกิ วริ ัตน์ (๒๕๕๙ : ออนไลน์) ๒. มีการใช้ภาษาระดับปากมากทีส่ ดุ ด้วยเหตผุ ลท่ตี อ้ งเสนอข่าวสาร เหตุการณใ์ ห้ผูอ้ ่านรู้สึกใหม่เสมอ ทันข่าว ทันเหตุการณ์ มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้น อีกทั้งเพื่อให้ผู้อ่านทุกระดับเข้าใจทันที ภาษา ปากจึงถูกนำมาใช้มากเพราะเป็นคำพื้น ๆ เข้าใจชัดเจน ภาษาปากได้แก่คำเฉพาะกลุ่ม คำตลาด คำคะนอง สำนวน และคำทับศพั ท์ ตวั อย่างภาษาระดับปาก “อมุ้ ลูกโดดรถไฟทับ” “ฝนถลม่ ทั้งวัน เชยี งใหม่ท่วม” “โผล่ไทยรับบริจาค ลทั ธเิ พี้ยน คล่ังมนษุ ยต์ า่ งดาว”“สนั่นล่ัน ชาวบา้ น ๑๘๕ เสยี ง เชอื ดรตม.ทจุ ริต” ๓. ใช้ถ้อยคำฟุ่มเฟือย เหตุผลที่ต้องใช้ภาษาฟุ่มเฟือยในภาษาหนังสือพิมพ์ เนื่องจากต้องการขยาย รายละเอียดของข่าวหรือเหตุการณ์ให้ชัดเจน และต้องการให้มีความยาว ของข้อความพอเหมาะ กับเนื้อที่ของ กระดาษ ๔. ใช้ถ้อยคำกะทัดรัด ในบางกรณีหากพื้นที่หน้ากระดาษที่จะเสนอข่าวมีจำกัด เช่น ส่วนพาดหัวข่าว ก็จำเป็นต้องใช้ภาษาท่สี ้ัน กระชับ ชดั เจน
๑๔ ตวั อยา่ ง “ปา๋ เหนาะเปิดใจ ทำไมไม่ 'สวน'” “เปน็ ง้นั ไป แหกโผงออกเสยี ง 'ภทั รา' อ้างกดปุ่มผดิ ” “ซที ีx โพลหอการคา้ ท่วั ประเทศ จี้ รบ. แกท้ จุ รติ ” ๕. ใช้เครื่องหมาย ภาษาหนงั สือพิมพ์มกี ารใชเ้ คร่ืองหมายประกอบการเขยี นมาก ท้ังเคร่อื งหมายวรรค ตอนและเครื่องหมายอื่น ๆ ที่คิดขึ้นให้สอดคล้องกับข่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งข้อความ เน้นข้อความ สำคญั แสดงคำเฉพาะ ขึน้ หวั ขอ้ ใหม่ เปน็ ตน้ การใชเ้ ครอื่ งหมายบางครง้ั มิไดเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑม์ ากนัก ๖. มีการใช้ตัวย่อมาก การใช้ตัวย่อในภาษาหนังสือพิมพ์มีค่อนข้างมากกว่าหนังสือทั่วไป เนื่องจาก ความจำเป็นในเรื่องของเวลาที่เร่งรัด และความกำจัดของพื้นที่ข่าวเมื่อผนวกกับคำเต็ม ของตัวย่อบางตัวยาว มาก จงึ เลือกใชต้ ัวยอ่ ประกอบกบั ตวั ยอ่ ทีใ่ ชส้ ามารถสื่อความไดใ้ จเปน็ อยา่ งดี เพราะเคยอ่านและไดย้ ินมาก่อน แล้ว ตัวอย่าง เซยี นบกุ กทม. กว้านซ้อื หมดหวยเมอื งจันท์ ธ.ก.ส. จ้ีลดคา่ ใช้จา่ ยไมจ่ ำเป็น จัดอบรมเกษตรกรทำบญั ชี โผ ครม. โชยจากแดนมังกร ‘ป๋ามวล’ ไมก่ ล้าหัก ทรท. คุก ๕ ปอี ดตี เลขา สช.คดจี ัดวอื้ (ขา่ วสด) สว. นกั วชิ าการแนะทบทวน พรก. (ขา่ วสด) ธีรว์ รา ขะบูรณ์ (๒๕๕๙ : ออนไลน์) การใชภ้ าษา ๑ การใช้คำเรยี กช่อื - การเรียกชื่อจรงิ ตัวอย่าง พงพศั พท.ง้อ'สดุ ารตั น'์ ปชป.ส่งอภริ ักษ์คุมเลอื กตงั้ ผ้วู า่ ฯ - การเรยี กช่ือเล่น ตวั อย่าง 'แดง'เหนอื - อสี านเลกิ คบธิดา - ตู่ - เตน้ ' - การเรยี กชอื่ ยศหรือตำแหนง่ ตวั อย่าง แกง๊ ยานรกเหิม ยงิ ร.ต.ต.เข้าทอ้ งปางตาย - การเรียกชือ่ อาชพี ตัวอยา่ ง 'หมอ' ผูกคอเศร้า พส่ี าวตาย - การเรียกชื่อหน่วยงาน ตวั อยา่ ง นายกปู สบายใจผล ป.ป.ช. ๒. การใช้สมญานาม ตัวอยา่ ง 'คุณชายแขง่ ขายฝัน' ๓. การใช้คำยอ่
๑๕ ตวั อย่าง ปค. สอบ นอก.ไมฟ่ ้อง พ.ต.ท. ๔. การยอ่ คำ ตวั อยา่ ง 'พลๆมอบตวั ผ่าน.ศสาวที่ แทเ้ มยี ตัวเอง อ้างหึงเกินเหต'ุ ๕. การใช้ค่ากาษาตา่ งประเทศ - คำศัพทภ์ าษาองั กฤษ ตัวอยา่ ง พระซง่ิ เบนซช์ นดับ - คำกบั ศพั ทภ์ าษาฝรั่งเศส ตัวอยา่ ง โชเฟอร์สบิ ล้อโดนลวงไปฆ่า - คำศพั ทภ์ าษาจนี ตวั อยา่ ง พงษ์พฒั น์-เบอร์ ๙ สุขุมพนั ธ์ชิวเลข ๖ โลง่ อก - คำทบั ศัพท์ภาษาญปี่ ุ่น ตวั อย่าง 'กระบี่เผยคล่ืนแรง รองจาก สนึ ามิ ปี ๔๗' - คำทบั ศัพท์ภาษาเกาหลี ตัวอย่าง อิทธพิ ลโซนามุใตฝ้ ุน่ หนกั - คำศัพทภ์ าษามลายู ตัวอย่าง รวบ เจะหมะวานมิ อี ระเบดิ ถลม่ ลีการ์เด้น - คำทับศพั ทภ์ าษารสั เชยี ตัวอย่าง เก๋งริว้ ถล่มอาก้าเซียนไซโล - คำกบั ศัพท์ภาษากบั พชู า ตัวอยา่ ง มารค์ โตฮ้ ุนเซนเอ่ียวบ. พลังงาน - คำกบั ศพั ท์ภาษาเบงกาลี ตวั อยา่ ง หนเี ขา้ ไทยอีก! ๑๗๙ ชาวโรฮงิ ญา - คำทับศพั ทภ์ าษาพมา่ ตัวอย่าง ถล่มเก็งยานรกดบั ๓ มเู ซอ ยดึ เงินสด ๑๕ ลา้ น พบว่ามีการใช้คำเรียกช่ือเล่นมากทีส่ ุดสว่ นมากมักจะเป็นชื่อของบุคคลที่มีช่ือเสียงทางการเมืองวงการ บันเทิง รองลงมาคือการเรียกชื่อจริง ต่อมาเป็น การเรียกชื่อตำเหน่งโดยเป็นชื่อตำแหน่งทางราชการทั้งส้ิน สุดท้ายเป็นการเรียกชื่อหน่วยงานโดยส่วนมากมักเป็นหน่วยงานของรัฐบาลตามลำดับ ในส่วนของความหมาย พบว่าความหมายโดยนยั มมี ากท่สี ุดในการพาดหัวข้อ จากการศึกษาขอ้ มูล สรุปได้ว่า การพาดหัวข่าว คือ เก็บความสำคัญของข่าว นํามาตีพิมพ์เป็นหัวเรือ่ ง โดยใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ผิดปรกติเพื่อให้เกิดความสนใจ และภาษาในการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ลักษณะ ดงั นี้ ๑. การใชค้ ำตดั ส้ันหรอื กร่อนคำ ๒. การละประธานของประโยค
๑๖ ๓. การละเว้นคำเชือ่ ม คำสันธาน หรือส่วนท่ขี ยายประโยค ๔. การใช้คำสแลง คำเฉพาะสมัย หรือคำที่สร้างภาพลักษณ์เกินจริง ๕.การใช้ฉายาหรือชื่อเล่นของ บุคคล ๖. การใช้เครอ่ื งหมาย ๗. มีการใชต้ วั ยอ่ มาก จากการศึกษาการใช้ภาษาพาดหัวข่าว สามารถสรุปได้ว่ามีการใช้การใช้คำสั้นหรือการกร่อนคำ การละประธานของประโยค การละเวน้ คำเชื่อม การใช้คำแสลง และการใช้ฉายาหรอื ชอ่ื เล่นบุคคล
๑๗ ๓. บทวเิ คราะห์การใช้ภาษาพาดหัวขา่ วหนงั สอื พิมพ์ไทยรัฐ ๓.๑ การใชค้ ำศัพท์เฉพาะ คำนิยามศัพท์เฉพาะคำที่ไม่คุ้นเคย และเป็นคำสำคัญที่ต้องการจำกัดความหมายให้เฉพาะเจาะจงใน ประเด็นที่เกี่ยว ข้องกับการวิจัย การให้นิยามศัพท์ที่ดีนั้น ควรจะนิยามในรูปคำปฏิบัติการชัดเจน ไม่กำกวม หรอื คลุมกวา้ งเกนิ ไป เพ่อื ใหผ้ ู้วิจยั และผู้อ่านมคี วามเข้าใจตรงกัน วันที่ ๑๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ชน เปน็ ศพั ท์เฉพาะ ใช้แทนการพุง่ เขา้ ไป การพงุ่ หา ทำบอลลูนหัวใจ คือ การรักษาผูป้ ่วยโรคหลอดเลือดหวั ใจตบี ตนั ดว้ ยการใชส้ ายสวนบอลลนู สวนเข้าไปที่บริเวณ ข้อมือ ข้อพับขา และทำการบอลลูนให้พองขึ้นเพื่อดันกลุ่มไขมันที่อุดตันหลอดเลือดให้ชิดกับผนังของหลอด เลือด ส่งผลใหเ้ ลือดสามารถไหลเวียนได้ตามปกติอกี ครั้ง อกี ท้ังยงั ช่วยให้ผ้ปู ่วยลดโอกาสหวั ใจวายเฉยี บพลัน อาลัย คือ การไว้ทุกข์ ใชค้ ำว่าอาลัยแทนเพอ่ื ความเหมาะสมและเปน็ ทางการมากขึน้ วนั ที่ ๑๘ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ศนู ยบ์ ูรณาการ คือ เป็นการผสมผสานทรัพยากรทีม่ ีอยู่ นำมาบรหิ ารจัดการร่วมกันเพื่อใหเ้ กิดการพฒั นา หรือ ทำใหด้ ีข้ึน ใช้คำวา่ ศนู ยบ์ รู ณาการแทนเพือ่ ความกะทดั รัดและสะดวกต่อการใช้งาน โควดิ คือ ชื่อโรคระบาดทีม่ กี ารแพร่ระบาดไปทั่วโลก ผลพษิ คอื ผลทเี่ กดิ ข้ึนเป็นไปในทิศทางลบ แฟนเพลง คือ กลุ่มคนท่ีตดิ ตามผลงานเพลงของศิลปินทต่ี ัวเองชอบ ผีพนันสงิ คือ บุคคลทช่ี อบเลน่ การพนนั จนติดเปน็ นสิ ยั จนทำใหต้ วั เองและผอู้ ่นื เดือดร้อน ชง แปลไดส้ องความหมายคอื ชะงกั , ส่งตอ่ , สง่ ให้ ในทีนแ้ี ปลว่า ชะงัก ซงึ่ เป็นภาษาถิ่น-ใต้ วนั ท่ี ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ วิกฤติ คือ อยูใ่ นขน้ั อนั ตราย, ร้ายแรง, น่าเปน็ หว่ ง ใช้คำวา่ วิกฤติแทนเพราะเปน็ คำท่ีเป็นทางการและกระชับ สู้โควิด คือ การรับมือกับโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลกหรือมีชื่อทางการเรียกว่า โควิด สู้ ณ ที่นี้ใช้แทน การรับมือและฝ่าฟันวิกฤติ ออนไลน์ คือ การติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์โดยตรง และพร้อมใช้งาน ใช้คำว่าออนไลน์แทนเพราะเป็นที่ รู้จักกันโดยส่วนใหญ่ จดทะเบียน คือ ลงบนั ทกึ ขอ้ ความไว้เป็นหลกั ฐานตามท่กี ฎหมายกำหนด ผพี นัน คอื กล่มุ คนท่ตี ิดการพนันหรอื เล่นการพนนั จนทำใหต้ วั เองและผ้อู ่ืนเดอื ดรอ้ น ติดเชื้อ มาจากคำว่า การติดเชื้อ หรือการติดเชื้อโรค ติดเชื้อคือ สิ่งที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดผลต่อสิ่งอื่นทำนอง เดียวกันตามมา
๑๘ ชำระเงิน คือ การส่งมอบเงนิ หรือโอนเงินผา่ นช่องทางต่าง ๆ เพือ่ ซื้อสนิ คา้ และบรกิ าร หรือใชช้ าระหนี้ ใชค้ ำว่า ชำระเงนิ แทนเพราะเป็นคำท่สี รุปมาแล้วจากความหมายโดยนยั และมีความสภุ าพและเขา้ ใจได้งา่ ย อัตโนมัติ คือ การทส่ี ามารถทำหน้าทไ่ี ดใ้ นตนเอง หรืออีกความหมายคือ ความเหน็ สว่ นตวั , ความเห็นโดยลำพัง ตนในที่นี้ คือการชำระเงินกับเครื่องอัตโนมัติ โดยแปลความคือ การส่งมอบเงินกับเครือ่ งที่ทำให้ที่สง่ เงินได้ดว้ ย ตัวเครื่องเองโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปธนาคาร ศัพท์นี้ใช้ตามความทันสมัยของยุคดิจิตอล และเป็นที่เข้าใจ กนั โดยทัว่ ไป กาวใจ คือ ผทู้ ีช่ ว่ ยประสานรอยรา้ ว, ผทู้ ี่ทำใหค้ นอ่นื คืนดกี ัน. ตำรวจไซเบอร์ เป็นหน่วยงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ใน การทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างมืออาชีพ คำว่าไซเบอร์แปลว่าการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะทาง อินเทอร์เน็ต ดงั นนั้ การใชค้ ำว่า ตำรวจไซเบอร์ คือตำรวจทีม่ หี น้าทปี่ ราบปรามอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต วนั ท่ี ๒๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ฮอตไลน์ คือสายด่วน, โทรศัพท์สายตรงที่มีไว้สำหรับเรื่องเร่งด่วน หรือฉุกเฉิน ฮอตไลน์เป็นคำทับศัพท์ใน ภาษาองั กฤษจึงมีการหยบิ ยมื มาใช้ในการตพี มิ พ์ข่าว ทมิฬ คอื ดุร้าย, เห้ียมโหด จงึ สามารถใชค้ ำวา่ ทมฬิ แทนกนั ได้ ทุ่ม คือเอาของหนักทิ้งลง,ทิ้งลง ๆ ให้ทับ หรือถมกัน ในหัวข้อข่าวคือการทุ่มเงิน นั่นหมายความว่าการเอาเงิน จำนวนมากๆไปใช้จ่าย ที่นำคำว่าทุ่มมาใช้เพราะเป็นคำที่คุ้นหู และคำว่าทุ่มมาจากทุ่มเท แปลว่ายอมสละให้ หรอื ทำให้อย่างเต็มกำลังความสามารถ วอร์คอินไฟเซอร์ เป็นคำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศซึ่งเขียนว่า Walk in ในทางธุรกิจงาน จะแปลว่า ลงพื้นท่ี เดินเข้าไปติดต่อด้วยตัวเอง ไฟเซอร์ คือชื่อวัคซีนชนิดหนึ่งที่ต่อต้านเชื้อของโรคระบาดโควิดมีประสิทธิภาพใน การใช้งานสูง โต้ คือ การตอบกลับไป คำว่าโต้ใช้ตีพิมพ์ในหนังพิมพ์เนื่องจากเป็นคำที่กะทัดรัดและนิยมใช้กันในสื่อ อินเทอร์เนต็ ไต่สวน คือ สอบสวนรายละเอียดทีเ่ กิดข้นึ เพื่อหาข้อเท็จจริง และวนิ จิ ฉยั วา่ ถูกต้องหรอื ไม่ คำวา่ ไต่สวนมักจะใช้ บนช้ันศาลหรอื ทางกฎหมาย อยา่ งเปน็ ทางการจงึ มีการหยิบเพราะสนั้ และได้ใจความ วีดีโอคอล คือ เทคโนโลยีโทรคมนาคมสำหรับการรับและส่งสัญญาณเสียงวิดีโอโดยผู้ใช้ที่อยู่ในสถานที่ที่ แตกต่างกนั สำหรับการสอื่ สารระหวา่ งผคู้ นในแบบเรยี ลไทม์ โดยที่ผู้ใช้งานจะเห็นหน้าคู่สนทนา คำว่าวีดีโอ คอลเป็นคำทม่ี าจากภาษาต่างประเทศและไดม้ ีการนำมาทับศัพท์ วนั ที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หยา่ ศึก คอื เลิกสูร้ บกัน ฝนถล่ม คอื ฝนตกหนักมาก พอ่ เล้ียงทมิฬ คือพอ่ เล้ียงดุรา้ ย
๑๙ วนั ท่ี ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ปืนลั่น คือการที่ดินขับของกระสุนในอาวุธปืนเกิดการจุดระเบิดและขับดันหัวกระสุนออกไปโดยที่ผู้ยิงไม่ได้ ตั้งใจ เคอร์ฟิว คือการประกาศห้ามประชาชนออกจากเคหสถานในบริเวณพื้นที่ที่กำหนด ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ อยา่ งชัดเจน คำวา่ เคอร์ฟวิ เปน็ คำทับศัพท์ทีย่ มื มาใช้ นำร่อง คอื การรเิ รมิ่ หรอื ทดลองทำไปกอ่ น ในทีนจ้ี ะหมายถึงการทดลองทำไปกอ่ น เปดิ ศึกนำ้ คอื การเร่ิมตำ่ สกู้ ับภัยพบิ ัตทิ างนำ้ ปนื ไฟฟา้ คอื ปืนทอ่ี าศยั กระแสไฟฟา้ ในการยับย้งั ผกู้ อ่ เหตุร้าย ซฮู ก คือยอมแพ,้ ยอมจำนน จากการศึกษาการใช้คำศัพท์เฉพาะจากพาดหัวข่าวตั้งแต่วันที่ ๑๗-๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ พบคำศพั ท์เฉพาะจำนวน ๓๖ คำ และเป็นคำศพั ท์ทางราชการ ๓.๒ การใชค้ ำทีแ่ ตกตา่ งแต่ความหมายคล้ายกัน เวิร์ดดีกูรูดอทคอม (๒๕๖๔ : ออนไลน์) คำพ้องความหมาย คือคำหรือกลุ่มคำที่มีความหมายซ้ำกัน หรือเหมือนกัน อาจจะเป็นศัพท์หนึ่งคำที่มีความหมายเหมือนกันแต่การเขียนและการออกเสียงแตกต่างกัน เนือ่ งมาจากภาษาไทยเปน็ ภาษาของเสียงดนตรี ภาษาเพลงขับกล่อม ภาษาของบทกลอน ซึ่งเป็นมลี กั ษณะของ การบังคับใช้คำ แถมยังเป็นภาษาที่มีการใช้กับบุคคลแต่ละลำดับชั้นไม่เหมือนกัน เช่น ศัพท์ท่ี ใช้กับ พระมหากษัตรยิ ์ ขุนนางผใู้ หญ่ พระภกิ ษสุ งฆย์ อ่ มแตกตา่ งกับศัพท์หลายคำท่ไี ทยรบั เอาคำในภาษาต่างประเทศ มาใช้ ทำให้คำศัพท์ในภาษาไทยแตกออกไปได้หลายคำ เพื่อให้เหมาะกับกาลเทศะ และบริบทของการใช้งาน คำพ้องความหมายอาจเรียกได้อีกอย่างว่า \"คำไวพจน์\" ซึ่งในการพาดหัวข่าวนั้น ก็มีการใช้คำพ้องความหมาย เช่น ‘องค์พระปฐม’ ท่วมท่าจีนล้นทะลัก (๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔) มีการใช้คำพ้องความหมายคือคำว่า ล้น กับคำว่า ทะลกั หมายถึง อาการของสิ่งทแ่ี ออดั หรือเตม็ พอดเี กนิ ปรมิ าณที่กำหนดจนรองรบั ไม่ไดจ้ นไหลทะลกั ออกมา ร้อยเอ็ดยังไม่พ้นวิกฤติ น้ำทะลักพนังกั้นแตกรูขยายกว้าง หมู่บ้านติดเกาะถูกน้ำล้อมรอบต้องเร่งอพยพ ชาวบ้าน (๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔) มีคำว่า ล้อม กับคำว่า รอบ หมายถึง การโอบเป็นวงโดยรอบ การบรรจบถึง กนั ตำรวจไล่ล่าล็อกกระเทยโหดได้แล้ว หลังใช้คัตเตอร์เชือดคอฆ่าสาวโรงงานหมกหอพักย่านไทรน้อย จ. นนทบรุ ี (๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๔) มคี ำวา่ ไล่ กับคำวา่ ล่า หมายถึง การตามไปอย่างกระชน้ั ชดิ เพอ่ื จบั หรอื กระทำ อย่างใดอยา่ งหน่งึ รร.เหนือยอดจองคึกคักเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มเชื่อมั่นกำชับปชช.เข้มมาตรการ (๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔) มีคำว่า คึก กบั คำว่า คัก หมายถงึ อาการกระปรกี้ ระเปรา่ มชี วี ติ ชีวา รา่ เริง
๒๐ จากการศึกษาการใช้คำที่แตกต่างแต่ความหมายคล้ายกันจากพาดหัวข่าวตั้งแต่วันที่ ๑๗-๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ พบการใช้คำที่แตกต่างแต่ความหมายคล้ายกันจำนวน ๔ คำ และเป็นการใช้คำพ้องความหมาย เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกบั บริบทและการใช้งาน ๓.๓ การเลอื กใชค้ ำท่ีนา่ สนใจในการพาดหวั ขา่ ว นนั ทวัฒน์ เนตรเจริญ (๒๕๖๐:๒๔๕-๒๕๙) ได้กลา่ วว่า จากการวิเคราะหพ์ าดหวั ข่าวพบวา่ มีกลวธิ ีทาง ภาษาทน่ี ่าสนใจในการพาดหัวข่าวเพือ่ ชวนให้อา่ น โดยสามารถจำแนกออกเปน็ ๓ กลวธิ หี ลกั ไดแ้ ก่ กลวิธีการ สรา้ งความสงสยั กลวิธกี ารสรา้ งคุณคา่ และกลวิธกี ารสร้างความมีสว่ นรว่ ม ดงั รายละเอียดตอ่ ไปนี้ ๑. กลวิธกี ารสรา้ งความสงสัย กลวธิ กี ารสร้างความสงสยั คอื การเขียนพาดหวั ขา่ วโดยไม่เปิดเผยสาระสำคญั ของข่าวใหค้ รบถ้วน ทำ ใหผ้ ู้อ่านคา้ งคาใจและจะตอ้ งเขา้ ไปอา่ นเนื้อขา่ วจงึ จะรสู้ าระสำคัญ ตวั อยา่ ง - กะซวกยับ อดีตโบรกเกอร์ตายคาบา้ น ฝมี ือ’คนใน’ จากหัวขอ้ ข่าวพบวา่ มคี ำทีส่ รา้ งความสงสยั ใหแ้ กผ่ อู้ า่ น นั้นก็คอื คำว่า คนใน ซึง่ เป็นการแทนการระบชุ อ่ื ของคนภายในบา้ นน้นั ก็คือ พอ่ แมห่ รือญาติพี่น้อง (๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔) - วอล์กอนิ ไฟเซอร์นร. จากหวั ข้อข่าวจะทำใหผ้ อู้ า่ นร้สู ึกสงสยั ว่าสามารถวอลก์ อินไดท้ ี่ไหน และเดก็ นกั เรยี น เพศอะไร อายุเทา่ ไหร่ จึงทำให้ต้องเขา้ ไปอา่ นเนอื้ หาใหท้ ราบอยา่ งชัดเจน (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔) - เลิกเคอรฟ์ วิ ๑๗ จงั หวดั เปดิ นำร่องรบั ทอ่ งเท่ียว จากหวั ขอ่ ข่าวพบว่าผู้อา่ นเกดิ ความค้างคาใจว่ามจี งั หวัด อะไรบ้างทีย่ กเลิกเคอร์ฟิว (๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔) ๒. กลวิธกี ารสรา้ งคุณค่า ภาคภูมิ หรรนภา (๒๕๕๕:๓๕) กล่าววา่ เรอื่ งราวต่างๆจะมีค่าให้เปน็ ข่าวก็ต่อเมือ่ เรอื่ งราวนัน้ มี องคป์ ระกอบด้านความสดใหม่ มีความนา่ สนใจ และมคี วามสำคญั เป็นการพาดหัวข่าวแบบที่ชวนให้ผอู้ ่าน รูส้ กึ หรือเขา้ ใจว่า ขา่ วดงั กลา่ วเปน็ เรอ่ื งใหม่ น่าสนใจ แมว้ า่ ทจ่ี รงิ ขา่ วนน้ั อาจเป็นเรอื่ งสำคญั หรือไมส่ ำคัญกไ็ ด้ ตัวอย่าง - ‘ผีพนนั ’สิง! นศ.ฉกทอง จากหัวขอ้ ข่าวผ้อู ่านรสู้ กึ ไดว้ ่าสาเหตุที่ทำให้ผพี นันสงิ เป็นเรอื่ งท่ีไมธ่ รรมดาหรอื ไม่ เปน็ เร่ืองจริง ซึง่ เป็นข่าวท่ีค่อนขา้ งนา่ สนใจ (๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔) - เตอื นภัยคนรดู บัตรชำระเงิน! กับเครอื่ งอัตโนมัติ จากหัวขอ้ ขา่ ว ทำใหผ้ อู้ า่ นรสู้ กึ วา่ สาระในขา่ วเป็นขอ้ มูลที่ ใกลต้ ัว จงึ เข้าไปอ่านรายละเอยี ดเพิม่ เตมิ เพื่อรบั รู้ขา่ วสารและระมดั ระวังตวั มากข้ึน (๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔) ๓. กลวิธีการสรา้ งความมสี ่วนร่วม กลวธิ ีการสร้างความมสี ่วนร่วม คอื การเขยี นพาดหวั ข่าวโดยใชถ้ อ้ ยคำหรือส่ือนยั ของการชักจงู การ ขอรอ้ ง การเชญิ ชวน การทา้ ทายหรือสั่งผูอ้ า่ นใหม้ สี ่วนร่วมกับข่าว การพาดหวั ขา่ วลกั ษณะนจ้ี ะทำให้ผ้อู า่ น ร้สู ึกว่ามสี ่วนรว่ มกบั ขา่ ว ผู้อา่ นจึงรสู้ ึกสนใจขา่ วและอยากเข้าไปอ่านรายละเอียดเพม่ิ เตมิ
๒๑ ตัวอย่าง - ‘องค์พระปฐม’ทว่ ม ทา่ จีนลน้ ทะลกั จากหวั ขอ้ ข่าวเปน็ การชักชวนให้ผู้อา่ นสง่ ตอ่ ข่าวให้กบั บุคคลทร่ี ู้จักที่อยู่ ในบรเิ วณดังกลา่ วเพอื่ ป้องกันท่อี ยูอ่ าศยั และเตรยี มตวั รับปญั หาทจี่ ะตามมา (๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔) จากการศึกษาการเลอื กใช้คำทีน่ า่ สนใจในการพาดหัวขา่ วตงั้ แต่วันท่ี ๑๗-๒๓ ตลุ าคม ๒๕๖๔ พบคำที่ น่าสนใจในการพาดหวั ข่าวจำนวน ๖ ประโยค และเปน็ การใชค้ ำพาดหวั ข่าวทน่ี ่าสนใจมีผลทำใหผ้ อู้ ่านเข้ามา อ่านและศกึ ษาขอ้ มลู ๓.๔ การใชค้ ำซ้ำเพอื่ ยำ้ ความหมาย นงคราญ เจริญพงษ์ (๒๕๕๗:ออนไลน์) ได้กล่าวว่าคำซ้ำ คือ การนำคำประเภทเดียวกัน ชนิดเดียวกัน มาซำ้ ๆ กนั มกั จะมีไมย้ มก (ๆ) เป็นเครอ่ื งสังเกต เช่น แดง ๆ ดำ ๆ ดี ๆ คำซำ้ มหี ลายประเภท คอื ๑. ซ้ำคำเพื่อบอกความเป็นพหพู จน์ เชน่ หนมุ่ ๆ สาว ๆ เด็ก ๆ พ่อ ๆ แม่ ๆ ๒. ซำ้ คำเพื่อเนน้ นำ้ หนักให้มากขน้ึ เชน่ ขาว ๆ สวย ๆ ดี ๆ เลว ๆ ๓. ซำ้ คำเพอ่ื บอกความไมแ่ น่ใจ เช่น หลัง ๆ ทา้ ย ๆ น่ังอย่ขู า้ งหลงั ๆ ๔. ซำ้ คำเพอื่ แยกออกเป็นสว่ น ๆ เช่น ตู้ ๆ ชิ้น ๆ เร่อื ง ๆ ๕. ซ้ำคำเพอื่ ให้เกดิ ภาพพจน์ เชน่ หม้อข้าวเดอื ดปดุ ๆ เขาพยักหนา้ หงึก ๆ เธอใจสนั่ ริก เปน็ ต้น ฉะนน้ั คำซำ้ จงึ หมายถึงเกิดจากการสรา้ งคำขึน้ ใหม่ โดยนำคำมลู ซงึ่ สว่ นมากเปน็ คำพยางค์เดยี วมาซ้ำ กัน มีความหมายเปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น เบาลงหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ในการเขียนใช้ไม้ ยมกแทนคำหลังคำสว่ นมากใชเ้ ป็นคำซำ้ ได้ มเี ฉพาะบางคำท่ีเป็นคำซำ้ ไม่ได้ บางคำต้องเปน็ คำซ้ำเทา่ นนั้ ตัวอย่างจากหนังสือพิมพ์ไทยรฐั ฉบบั วนั ที่ ๑๗-๒๓ ตลุ าคม ๒๕๖๔ - สภาพน้ำท่วมขังบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม หลังฝนตกต่อเนื่องยาวนานกว่า ๑๐ ชม. ถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครนครปฐมน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำระบายออกหวั่นฐานองค์ พระไดร้ บั ความเสยี หาย (๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔) คำอธิบาย : ต่าง ๆ ในข้อความนี้คือการซ้ำคำเพื่อบอกความเป็นพหูพจน์ ซึ่งในข้อความนี้หมายถึงถนนหลายๆ สายในจังหวัดนครปฐมเกิดน้ำทว่ มสูง - นายกฯหว่ งการจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ชว่ งส่งทา้ ยปเี ก่าตอ้ นรับปใี หม่ อาจทำใหโ้ ควิดกลบั มาระบาดระลอก ใหม่ แต่ปลื้มยอดติดเชื้อและเสียชีวิตที่ลดต่ำลงเรื่อย ๆ เชื่อมาจากระบบสาธารณสุขเข้มแข็ง (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔) คำอธิบาย: ๑.ต่าง ๆ ในข้อความนี้คือการซ้ำคำเพื่อบอกความเป็นพหูพจน์ ซึ่งในข้อความนี้หมายถึงกิจกรรมหลายๆ กิจกรรมทีจ่ ะเกดิ ขนึ้ ในช่วงส่งท้ายปีเก่าตอ้ นรบั ปใี หม่ ๒. เรื่อย ๆ ในข้อความนี้คือการซ้ำคำเพื่อเน้นน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งในข้อความนี้หมายถึงยอดติดเชื้อและยอด เสยี ชีวติ ลดตำ่ ลงอยู่ตลอด จากการศึกษาการใช้คำซ้ำเพื่อย้ำความหมายจากพาดหัวข่าวตั้งแต่วันท่ี ๑๗-๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๔ พบการใชค้ ำซ้ำเพ่อื ยำ้ ความหมายจำนวน ๓ คำ และเป็นการใช้คำซ้ำเพอ่ื ทำให้เขา้ ใจว่าตอ้ งการจะสอื่ อะไร
๒๒ ๓.๕ การใช้อักษรยอ่ อกั ษรยอ่ เป็นการนำอักษรบางตวั ในคำหนงึ่ ๆ ใชเ้ รียกแทนคำเต็ม โดยมากจะเปน็ พยัญชนะ อาจใส่จุด หรือไม่ใส่หลังอักษรนั้นๆ นิยมนำอักษรต้นพยางค์ แต่บางครั้งก็มีการใช้อักษรท้ายพยางค์ก็มี และบางคร้ัง อักษรย่อกส็ ามารถอ่านไดเ้ ปน็ พยางค์ใหม่ วันที่ ๑๗ ตลุ าคม ๒๕๖๔ พท. คือ พื้นที่ วันท่ี ๑๘ ตลุ าคม ๒๕๖๔ หน.พท. คือ หัวหนา้ พนื้ ที่ ใชย้ ่อเพือ่ ให้กะทัดรัดไม่เปลอื งเนือ้ ทแ่ี ละเขา้ ใจกนั โดยทั่วไป นศ. คอื นักศึกษาในระดบั อุดมศกึ ษา วนั ท่ี ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔ รมต. ย่อมาจาก รฐั มนตรี ซงึ่ อักษรยอ่ นีเ้ ป็นทเ่ี หน็ ชอบและรับรแู้ ล้ววา่ สามารถใช้ย่อคำวา่ รฐั มนตรีได้ พ.ร.ฎ. ย่อมาจาก พระราชกฤษฎีกา หรือรัฐกฤษฎีกา คืออักษรย่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ ทรงตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เพื่อใช้ในการบริหาร ราชการแผ่นดิน คำย่อ พ.ร.ฎ. เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการเพื่อใช้แทนคำว่าพระราชกฤษฎีกา เพื่อย่อให้ คำกระชับมากขน้ึ ไมเ่ ปลืองพ้นื ที่ในการตพี มิ พข์ า่ ว ตร. ย่อมาจาก ตำรวจ ใชค้ ำยอ่ นเี้ พือ่ ใหม้ ีพนื้ ทเ่ี พยี งพอกบั การพาดหัวข่าว วนั ท่ี ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ พท. ยอ่ มาจาก พ้ืนที่ หรอื พันโท ในทน่ี ้ยี ่อมาจากพันโท ผกก. ย่อมาจาก ผูก้ ำกับ ปปช. ย่อมาจากประชาชน ส.ส. ยอ่ มาจาก สภาผู้แทนราษฎร นร. ยอ่ มาจาก นักเรยี น รพ. ย่อมาจาก โณงพยาบาล ดช. ย่อมาจาก เดก็ ชาย ล. ย่อมาจาก ลิตร วนั ท่ี ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ส.ส. ย่อมาจากสภาผแู้ ทนราษฎร พปชร. ยอ่ มาจากพรรคพลงั ประชารฐั นทท. ยอ่ มาจากนกั ท่องเทีย่ ว พ.ย. ย่อมาจากพฤศจกิ ายน รร. ยอ่ มาจากโรงเรยี น ปชช. ยอ่ มาจากประชาชน มม. ย่อมาจากมลิ ลเิ มตร
๒๓ วันท่ี ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ ส.ส. ยอ่ มาจากสภาผูแ้ ทนราษฎร รร. ย่อมาจากโรงเรียน ผกก. ย่อมาจากผู้กำกบั จว. ย่อมาจากจงั หวัด พปชร. ยอ่ มาจากพลงั ประชารัฐ จากการศึกษาการใช้อักษรย่อจากพาดหัวข่าวตั้งแต่วันที่ ๑๗-๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ พบการใช้อักษรย่อ จำนวน ๒๖ คำ และเป็นคำท่ีบคุ คลทว่ั ไปสามารถเขา้ ใจได้ ๓.๖ การใช้คำทับศัพท์ คำทับศัพท์ หมายถึง คำที่มีการสะกดหรือถ่ายถอดรูปอักษรให้ใกล้เคียงกับรูปคำจากภาษาต้นทาง หรือการถ่ายทอดเสยี งจากภาษาต้นทางมายงั ภาษาปลายทาง ตัวอยา่ ง จากหนงั สอื พมิ พไ์ ทยรัฐ พาดหัวข่าว อธิบาย ไม่ลืม'พรศกั ด'์ิ เบริ ์ด' โพสตไ์ วอ้ าลัย โพสต์ คอื ขอ้ ความท่ีเขียนลงในส่ือตา่ งๆ บนอนิ เตอร์เน็ต (๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔) จากในตวั อย่างการพาดหัวข่าวเปน็ การเขียนข้อความไว้ อาลัยบนอินเตอร์เนต็ เพง่ิ ไปทำบอลลูนหัวใจฉดี วัคซีนแค่ ๔ วัน บอลลนู ในท่ีน้ี หมายถึง การขยายหลอดเลอื ดหวั ใจดว้ ย ตายสลด (๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔) บอลลูนเปน็ หตั ถการท่มี ีการรุกล้ำร่างกายเพื่อรักษาโรค หลอดเลอื ดหัวใจตบี กระชวกยบั อดตี โบรกเกอรต์ ายคาบา้ นฝมี ือ 'คนใน' โบรกเกอร์ คือ นายหน้าซ้ือขายหลักทรพั ยห์ รอื ตัวแทน (๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔) ผูท้ ำหนา้ ท่ซี อื้ หรอื ขายหุ้นในตลาดหลักทรพั ยใ์ ห้แกผ่ ู้ลงทนุ โดยได้รบั ค่าธรรมเนียมหรือคา่ นายหนา้ จากผลู้ งทนุ เป็น ผลตอบแทน ขอดเี ซลลิตรละ๒๕ (๒๐ ตลุ าคม ๒๕๖๔) ดเี ซล คือ ช่อื นา้ํ มันที่นำมาใชก้ ับเคร่ืองยนต์ แฉคนไทยรว่ มแกง๊ ดูดปปง.ฮอตไลนอ์ ายดั บัญชี (๒๑ แกง๊ คือ กล่มุ คนทต่ี ัง้ ขึ้นเปน็ พรรคพวก ตลุ าคม ๒๕๖๔) เพือ่ กระทำการบางอย่าง มักใชใ้ นความหมายไม่ดี เลิกเคอรฟ์ ิว ๑๗ จังหวัดเปิดนำรอ่ งรบั ท่องเที่ยว เคอร์ฟิว คอื คำสัง่ ของรฐั บาลให้ประชาชนกลบั เคหสถาน (๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔) ก่อนเวลาท่ีกำหนด ซึง่ เปน็ การกำหนดขนึ้ เพอ่ื รกั ษาความ สงบเรียบรอ้ ย หรอื ให้ความสะดวกต่อการปราบปราม กล่มุ เป้าหมาย
๒๔ จากการศึกษาการใช้คำภาษาต่างประเทศจากพาดหัวข่าวตั้งแต่วันที่ ๑๗-๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๔ พบการใช้ภาษาต่างประเทศจำนวน ๖ คำ และคำทพ่ี บส่วนมากเป็นคำทับศพั ทภ์ าษาองั กฤษ
๒๕ บทสรุป รายงานเร่ือง วิเคราะหก์ ารใชภ้ าษาพาดหัวข่าวจากหนงั สอื พิมพ์รายวันไทยรฐั ฉบับน้ี มุ่งวิเคราะห์การใช้ภาษาพาดหวั ขา่ ว จากหนงั สือพมิ รายวันไทยรัฐ เป็นเวลา ๑ สปั ดาห์ ตั้งแต่วนั ท่ี ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔ จนถงึ วันท่ี ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ รวมท้ังศกึ ษานยิ าม,ประเภท,วตั ถปุ ระสงค์และข้อดขี อ้ เสยี ของหนังสือพิมพ์และการพาดหวั ขา่ ว จากการศึกษาไดพ้ บวา่ พาดหวั ข่าว คือสว่ นแรกทอี่ ยบู่ นสดุ ของขา่ วทำหนา้ ที่สรปุ สาระสำคญั ด้วยการใช้ประโยคหรือวลีสน้ั ๆท่ีกระชับครอบคลมุ เนื้อหาข่าวและมจี ุดประสงค์เพ่อื ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ซง่ึ รายงานฉบับนีไ้ ด้วิเคราะห์การใชภ้ าษาพาดหวั ข่าวหนังสือพมิ พ์ไทยรฐั เป็นเวลา ๑ สัปดาห์ พบวา่ มกี ารใชค้ ำศัพท์เฉพาะจำนวน ๓๖ คำ มีการใชค้ ำท่ีแตกต่างแตค่ วามหมายคลา้ ยกนั จำนวน ๔ คำ มกี ารเลือกใชค้ ำทีน่ า่ สนใจในการพาดหวั ข่าวจำนวน ๖ คำ มกี ารใช้คำซำ้ เพอื่ ย้ำความหมายจำนวน ๓ คำ มีการใชอ้ กั ษรยอ่ จำนวน ๒๖ คำ และมีการใช้คำทับศัพท์จำนวน ๖ คำ ดังนัน้ จึงสรุปได้ว่าการพาดหัวขา่ วของหนังสอื พิมพไ์ ทยรฐั มกี ารใช้ภาษาทีก่ ระชับ ครอบคลุม และดึงดดู ผอู้ ่าน
๒๖ บรรณานกุ รม กฤษณพร โชตกิ วิรัตน.์ (๒๕๕๙). เรียกใช้เมอื่ ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก การใชภ้ าษาในหนังสือพมิ พ์: http://11article11.blogspot.com/2016/03/blog-post.html?m=1 กัลยาณ.ี (๒๕๓๙). เรยี กใชเ้ ม่ือ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก ลกั ษณะและองค์ประกอบของส่ิงพมิ พ์: http://kanlayanee.ac.th กิ่งกาญจน์ สมจติ ต์. (๒๕๕๙). เรียกใชเ้ มือ่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก การใช้ภาษาในการพาดหวั ข่าว หนงั สือพมิ พ์: https://kingkarnk288.wordpress.com/ ครหู ลวง. (ม.ป.ป.). เรียกใชเ้ มือ่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก ขอ้ ดแี ละข้อเสียของหนงั สอื พิมพ์: https://sites.google.com/site/pongnuntipisek/4-khxdi-laea-khx-seiy-khxng-sux-sing- phimph จุฑารตั น์ จนั ดก, ปรยิ ากร สบาย วรนิ ทร ภาคภูม.ิ (๒๕๕๕). เรยี กใชเ้ มอ่ื ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก หลกั การ เขียนขา่ วเพ่ือการประชาสมั พันธ์: https://sac.kku.ac.th/kmsac/news/n2.pdf ชุติมา สาตรร์ า้ ย. (๒๕๕๖). เรียกใช้เม่ือ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก ภาษาข่าวหน้าหนง่ึ ในหนงั สอื พิมพ์แจก M2F: http://www.sure.su.ac.th ทชี เชอร์กูร.ู (๒๕๖๔). เรยี กใชเ้ มือ่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก คำพอ้ งความหมาย: https://www.wordyguru.com/article/ ธรี ์วรา ขะบรู ณ์. (๒๕๕๙). เรียกใชเ้ ม่อื ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก วิเคราะหก์ ารใช้ภาษาพาดหัวขา่ ว หนังสอื พมิ พไ์ ทยรฐั : https://prezi.com/tqrmgqx18ykr/presentation/ นงคราญ เจรญิ พงษ์. (๒๕๕๗). เรียกใช้เมอ่ื ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก คำซำ้ : https://kunkrunongkran.wordpress.com นนท์ธวัช ไชยวัง. (๒๕๖๐). เรียกใชเ้ มอื่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก รปู แบบการพาดหวั ขา่ วในเว็บไซต์ หนงั สือพมิ พ์: http://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Nontawat.Cha.pdf ------------------------------- . เรียกใชเ้ มอื่ ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก รปู แบบการพาดหัวข่าวในเว็บไซต:์ http://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Nontawat.Cha.pdf
๒๗ นันทวัฒน์ เนตรเจริญ. (ม.ป.ป.). เรยี กใช้เมื่อ ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก การใชค้ ำพาดหวั ข่าวทนี่ า่ สนใจ: https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jasu/article/download/185178/130253/ -------------------------------------- . เรยี กใชเ้ ม่อื ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก กลวธิ ที างภาษาในการพาดหัว ข่าว: https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jasu/article/download/185178/130253/ บบุ ผา เมฆศรที องคำ. (๒๕๕๖). เรียกใช้เมอ่ื ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก แนวทางการพฒั นาการเขยี นขา่ ว เพ่ือการประชาสัมพนั ธข์ องมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ :ี http://www.repository.rmutt.ac.th/dspace/bitstream/123456789/3638/1/20201019- research-alongkorn%20r..pdf บบุ ผา เมฆศรที องคำ นันทิญา พนั ธ์โชต.ิ (๒๕๕๗). เรียกใชเ้ ม่ือ ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก แนวทาง พฒั นาการเขยี นข่าวเพอ่ื การประชาสมั พนั ธข์ องมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี: http://www.repository.rmutt.ac.th/dspace/bitstream/123456789/3638/1/20201019- research-alongkorn%20r..pdf ประภาศรี สวัสดอิ์ ำไพรกั ษ.์ (ม.ป.ป.). เรียกใช้เม่อื ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก ขอ้ ดแี ละข้อเสียของ หนังสอื พมิ พ์: https://www.stou.ac.th/stouonline/lom/data/sms/market/Unit8/SUBM2/U821-2.htm พรรณพมิ ล กลบญุ . (๒๕๓๔). เรยี กใช้เมอ่ื ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก การดำเนินงานหอ้ งสมดุ หนังสอื พมิ พ์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย: https://dspace.bru.ac.th มาลี บญุ ศริ พิ นั ธ์ สมควร กวยี ะ. (๒๕๒๖). เรยี กใช้เมอื่ ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก การวเิ คราะหก์ ารนำเสนอ ข่าวเชิงคลกิ เบทของเวบ็ ไซต:์ http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2016/TU_2016_5707010400_4890_3781.pd f ฤทัยวรรณ โชคทวพี าณชิ ย.์ (ม.ป.ป.). เรียกใช้เมื่อ ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก โครงสร้างการเขยี นข่าว: http://elearning.nsru.ac.th/2550/report_beginning วัชรพงษ์ บุญพระ. (๒๕๕๓). เรียกใช้เมอื่ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก หนังสอื พมิ พใ์ นโลกยคุ ปจั จุบัน: https://sites.google.com/site/kikakoi22 สไลดแ์ ชร์. (๒๕๖๐). เรียกใชเ้ มอื่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก สว่ นประกอบหนังสือวารสารและหนังสอื พมิ พ์: https://www.slideshare.net/SupapornKhiewwan/ss-82937394
๒๘ สทุ ธดิ า นาคเจรญิ . (ม.ป.ป.). เรยี กใช้เม่อื ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก การพาดหัวขา่ วในส่ือออนไลน์: https://www.chonburi.spu.ac.th/journal/booksearch/upload/1571-1602_16.pdf อลงกรณ์ พลอยแกว้ . (๒๕๖๔). เรยี กใชเ้ มื่อ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก คำทบั ศพั ท์และคำศพั ทบ์ ัญญตั ิ: https://www.trueplookpanya.com/learning/detail อลงกรณ์ รตั ตะเวทิน. (๒๕๕๐). เรียกใช้เมอ่ื ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก แนวทางการพัฒนาการเขยี นขา่ ว เพื่อการประชาสมั พนั ธ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุร:ี http://www.repository.rmutt.ac.th อารยะ ศรีกลั ยาบตุ ร. (๒๕๔๗). เรยี กใชเ้ มื่อ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก ชวนรู้ ภาษาหนังสือพมิ พ์: http://piyanat2557.blogspot.com/2014/01/2547-331-333-1.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: